The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sasana12.2020, 2022-05-10 11:37:11

แผนม3 น 1

แผนม3 น 1

สาสสานสนะะ บบาาเหเหมม
ตตำำแแหหนน่ง่ง ครู

รหสั วชิ า ว๒๓๑๐๑ วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบนเิ วศ
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑/๒๕๖๔

โรงเรยี นนาทวีวทิ ยาคม วเิ คราะหห์ ลกั สูตร รหสั วิชา ว๒๓๑๐๑ เอกสารลำดับที่
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา ชือ่ วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ เลขท่ี NT-CG-SCI- /๒๕๖๔

สงขลา สตลู ปีการศกึ ษาท่ี ๑/๒๕๖๔ สำเนาเล่มที่ ๑ จาก ๑

จัดทำโดย นางสาวสาสนะบาเหม

น.ท./ว 006 - 008

แผนการจดั การเรยี นรู้โรงเรียนนาทววี ิทยาคม

รหสั วิชา ว23101 วชิ า วทิ ยาศาสตร์ เรื่อง ระบบนิเวศ
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี 1/256๔

นางสาวสาสนะ บาเหม
ตำแหน่ง ครู

โรงเรยี นนาทวีวิทยาคม อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา
สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษามัธยมศกึ ษาสงขลา สตูล กระทรวงศึกษาธกิ าร

บันทกึ ขอ้ ความ น

สว่ นราชการ โรงเรียนนาทวีวทิ ยาคม อำเภอนาทวี จังหวดั สงขลา
ที่ วนั ท่ี
เร่อื ง ขออนุมตั กิ ารใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 256๔

เรียน ผู้อำนวยการโรงเรยี นนาทวีวิทยาคม

เร่ืองเดมิ
ด้วยข้าพเจ้า นางสาวสาสนะ บาเหม ตำแหน่ง ครู กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ได้รับมอบหมายให้จัดการเรียนการสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
โดยได้วิเคราะห์หลักสูตรและจัดทำแผนการจดั การเรียนรู้ ภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 256๔ ข้าพเจ้า
ได้ดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้โดยยึดหลักสูตร การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 (ฉบับ
ปรับปรุง พ.ศ. 2560) และได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สอดแทรกคุณธรรม
จริยธรรมให้กบั นักเรยี นและเน้นการประเมินผลตามสภาพจริง

ข้อเทจ็ จริง
บัดนี้ ข้าพเจ้าได้ดำเนินการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23101
ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ประจำปกี ารศึกษา 256๔ เสรจ็ สิน้ แลว้ ตามที่แนบมาด้วย

ขอ้ เสนอเพ่ือพจิ ารณา

ในการนี้ ข้าพเจ้าจึงขอความอนุเคราะห์มายังทา่ น ได้พจิ ารณาลงนาม ในเอกสารที่แนบมาพร้อมน้ี

จึงเรียนมาเพือ่ ทราบ และโปรดพิจารณาตอ่ ไป

ลงชื่อ.............................................................................
(นางสาวสาสนะ บาเหม)
ตำแหน่ง ครู

ความคดิ เห็นหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ..........................................................
(นายยซู ฟุ อบิ ู)

ตำแหนง่ หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ความคิดเหน็ หวั หนา้ ฝา่ ยบริหารงานวชิ าการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ..........................................................
(นางวาสนา แกว้ ยวน)

ตำแหนง่ หวั หน้าฝา่ ยบริหารงานวชิ าการ

ความคิดเห็นรองผู้อำนวยการฝ่ายบรหิ ารงานวชิ าการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ..........................................................
(นายศรายุธ หมาดหล)ี

ตำแหนง่ รองผอู้ ำนวยการฝา่ ยบริหารงานวชิ าการ

ความคดิ เห็นผู้อำนวยการโรงเรยี นนาทวีวิทยาคม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ..........................................................
(นายมานพ จุลวิ รรณลีย)์

ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนนาทวีวทิ ยาคม



คำนำ

แผนการจัดการเรยี นรูช้ ั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 256๔ จดั ทำข้ึนเพื่อ กำหนด
หรือวางแผนเรื่องที่จะสอนอย่างเป็นระบบ ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดของ กลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ ออกแบบกจิ กรรมการเรียนรู้โดยเน้นผเู้ รียนเป็นสำคัญใหผ้ เู้ รียนได้เป็น ผู้คิดและปฏบิ ตั ดิ ้วยตนเอง
ตามสภาพแวดล้อมและบริบทของโรงเรียน คิด ออกแบบ จัดหา จัดซื้อ ส่อื อปุ กรณ์ที่เหมาะกบั สาระการเรียนรู้
วัดและประเมินผลด้วยวธิ กี ารที่หลากหลาย เหมาะสมกบั จดุ ประสงคใ์ นการเรียนรู้และวัยของผเู้ รยี น

แผนการจัดการเรียนรู้ให้ประโยชน์หลายประการ นอกจากจะช่วยทำให้ผู้สอนเกิดความมั่นใจในการ
สอนและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ยังมีส่วนช่วยในการวางแผน การจัดการเรียนการ
สอนใหม้ ปี ระสิทธิภาพ ซึ่งการสอนทีม่ ปี ระสิทธภิ าพ จะสะท้อนให้เหน็ ถึงคุณภาพ ของผ้เู รียน เมอ่ื พบข้อบกพร่อง
และปัญหาในการจัดการเรยี นการสอนจากการเขียนบนั ทกึ หลงั การสอน ผ้สู อนได้นำประเด็นปญั หาที่พบเจอมา
ปรับปรุงแก้ไขให้ถกู ต้องเหมาะสมกับผู้เรียนและสภาพหอ้ งเรียนที่ จัดการเรียนรู้ ซึ่งช่วยให้การจัดการเรียนร้มู ี
ประสิทธิภาพมากขน้ึ อันจะสง่ ผลไปถงึ ศกั ยภาพการเรยี นรูข้ องผเู้ รยี นให้มีคุณภาพตามเป้าหมายทางการเรยี นรู้

ผสู้ อนขอขอบพระคณุ ผู้มสี ่วนเกีย่ วข้องทุกทา่ นที่ให้คำแนะนำ และเป็นทป่ี รกึ ษาในการจัดทำ แผนการ
จัดการเรียนรู้ที่มีประโยชน์และมีคุณค่าต่อการจัดการเรียนการสอน อันจะเป็นประโยชน์สูงสุด
ต่อตัวผเู้ รยี นไว้ ณ โอกาสนี้

นางสาวสาสนะ บาเหม
ตำแหนง่ ครู

สารบัญ ข

เร่อื ง หนา้

คำนำ ก
สารบญั ข
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 ปฐมนเิ ทศ 1
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 องคป์ ระกอบของระบบนเิ วศ 5
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 ความสัมพนั ธร์ ะหว่างส่งิ มีชวี ติ ในระบบนิเวศ 12
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 โซอ่ าหารและสายใยอาหาร 19
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 5 สมดุลระบบนเิ วศ 26
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 ความหลากหลายทางชีวภาพ 32
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๗ โครโมโซม ดีเอน็ เอ ยนี 3๙
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๘ การศึกษาพนั ธศุ าสตรข์ องเมนเดล ๔๕
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๙ การถา่ ยทอดยนี บนโครโมโซม ๕๑
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๐ การแบง่ เซลล์ของสงิ่ มชี ีวติ ๕๗
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑๑ ความผิดปกติทางพนั ธุกรรม ๖๓
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑๒ สง่ิ มีชีวติ ดัดแปรพันธุกรรม ๖๙
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑๓ พอลิเมอร์ ๗๕
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑๔ 32
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑๕ 32
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๖ 32
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑๗ 32
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑๘ 32
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑๙ 32
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒๐ 32
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒๑ 32



น.ท1./ว 006

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 1

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ - เรือ่ ง ปฐมนเิ ทศ จำนวน 1 คาบ
รายวิชา วทิ ยาศาสตร์
ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 รหสั วชิ า ว23101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ภาคเรียนท่ี 1 ครผู สู้ อน นางสาวสาสนะ บาเหม

1. มาตรฐาน -

2. ผลการเรียนรู้ -

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (ผเู้ รียนร้อู ะไร/ทำอะไรได้)

1. ทำความร้จู ักและสร้างความคุ้นเคยระหวา่ งครูกบั นกั เรยี น
2. ทำความเข้าใจกับนักเรียนเกี่ยวกบั คำอธบิ ายรายวิชา เนอ้ื หาทเี่ รียน เกณฑ์คะแนน เวลาเรียน และ
กติกาในการเรยี น
3. เพ่ือรว่ มกันสรา้ งขอ้ ตกลงในการเรียนการสอนระหวา่ งครูกบั นักเรยี น
4. เพอื่ ทดสอบความรพู้ น้ื ฐานก่อนเรยี นวิชาวิทยาศาสตรช์ วี ภาพของนกั เรียน
4. สาระสำคัญ

การปฐมนิเทศ เป็นการสร้างความเข้าใจระหว่างครูผู้สอนกับนักเรียนเกี่ยวกับคำอธิบายรายวิชา

เนื้อหาที่เรียน เกณฑ์คะแนน เวลาเรียน และกติกาในการเรียน รวมถึงกิจกรรมทำความรู้จักนักเรียนเป็น

รายบุคคล ซ่ึงสิ่งเหล่านี้จะทำให้นักเรียนบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ และช่วยให้กิจกรรมการเรียนการสอนมี

ประสิทธิภาพ

การเรียนรู้ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ (ว23101) เป็นกิจกรรมที่นักเรียนจะได้ใช้กระบวนการทาง

วิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ ฝึกแก้ไขปัญหาและควบคู่ไปกับการพัฒนาจิตวิทยาศาสตร์ เพื่อให้

นักเรียนบรรลุมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2551

(ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560) และสามารถนำความรทู้ ่ไี ด้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวติ ประจำวนั ได้

5. สาระการเรยี นรู้
5.1 ความรู้ -
5.2 กระบวนการ -
5.3 คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

6.1 ความสามารถในการส่ือสาร
6.2 ความสามารถในการคิด

7. ช้ินงาน/ภาระงาน
7.1 แบบรู้จักนักเรยี นเปน็ รายบุคคล รายวิชาชีววิทยา ชน้ั ม.3

2

8. การวดั ผลและการประเมินผล

วิธกี ารวัด เครื่องมือ เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ
-
ดา้ นความรู้-ความเข้าใจ (K) -
-
ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) - ผ่านเกณฑ์คณุ ภาพระดับดี

ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึง
ประสงค์

9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้

ขนั้ นำ
ครูกล่าวทักทายนักเรียน และแนะนำตัวเองพร้อมทั้งเขียนบนกระดาน (นางสาวสาสนะ บาเหม)

จากนั้นสุม่ ถามนักเรยี นว่าชว่ งปิดภาคเรียนท่ีผ่านมา ไปทำอะไรบ้าง และให้นักเรียนนัง่ สมาธิ (3 นาที) จากน้ัน
นำเข้าส่กู ารปฐมนเิ ทศ

ขนั้ สอน
1. ครูแจ้งคำอธิบายรายวิชา เนื้อหาที่เรียน เกณฑ์คะแนน และเวลาเรียน พร้อมกับแจ้งตัวชี้วัดและ

อภปิ รายถงึ เนื้อหาทจี่ ะเรยี นร่วมกันกบั นักเรยี น เปดิ โอกาสให้นักเรยี นได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิชาได้ตาม
ความเหมาะสม

2. ครูและนักเรียนร่วมกันกำหนดกตกิ าในการเรยี น โดยครูนำเสนอกฎส่วนหน่ึงและให้นักเรียนมีส่วน
ร่วมในการเสนอกตกิ าทีเ่ ห็นวา่ เหมาะสมและเป็นไปไดร้ ว่ มกนั

3. ครูชี้แจงการเข้ากลุ่มทาง Facebook รวมถึงช่องทางการติดต่อสื่อสารกับครู และบอกห้องพักครู
โตะ๊ ทค่ี รนู ่งั เพือ่ ให้นักเรียนท่ีมีข้อสงสัยหรือต้องการรับ-ส่งแบบฝึกหัดสามารถติดต่อได้ถูกต้อง (ห้องกลุ่มสาระ
การเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (221) ชน้ั 2 อาคาร 2)

4. ครแู จกแบบรจู้ ักนักเรยี นเป็นรายบุคคล วิชาวิทยาศาสตร์ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 ใหน้ กั เรียนได้กรอก
ขอ้ มลู เพ่ือแนะนำตนเองใหค้ รรู ูจ้ กั และสามารถตกแตง่ ให้สวยงาม โดยให้เปน็ การบ้านส่งในสปั ดาหถ์ ดั ไป
ข้ันสรุป

ครูทบทวนนักเรยี นเกี่ยวกับกติกาในการเรียน ห้องพักครู และถามนักเรียนวา่ มีข้อสงสัยอีกหรือไม่ ถ้า
ไม่มีให้เตรียมตวั เรียนในคาบถดั ไป
10. ส่ือและแหล่งเรยี นรู้

10.1 โปรแกรมนำเสนอ power point เร่อื ง ปฐมนเิ ทศ วชิ าวทิ ยาศาสตร์ (ว23101)

10.2 แบบรู้จกั นกั เรียนเปน็ รายบุคคล วชิ าวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

10.3 หนังสือเรียนรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ม.3 ของอักษรเจรญิ ทศั น์

3

ลงชื่อ ..................................................... ครูผู้สอน
(นางสาวสาสนะ บาเหม)

วันท่ี ............. เดือน ............................... พ.ศ. .................

ลงช่ือ ....................................................ผู้นเิ ทศ
(.....................................................)

วนั ท่ี ............. เดอื น ............................... พ.ศ. .................

ลงชอื่ .................................................หวั หน้ากลุ่มสาระฯ
(นายยซู ุฟ อบิ ู)

วันท่ี ............. เดือน ............................... พ.ศ. .................

4

11. บันทึกผลการจัดการเรยี นรู้
ผลการจัดการเรยี นรู้ (ระบุรายช่ือนักเรียนทไี่ มบ่ รรลุผล/ตัวชีว้ ดั )

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
อปุ สรรค/ปญั หา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
การแก้ไขปรบั ปรงุ

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ผลการแก้ไขปรับปรุง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื ..................................................... ครผู ู้สอน
(นางสาวสาสนะ บาเหม)

วนั ท่ี ............. เดือน ............................... พ.ศ. ................

ความเหน็ /ขอ้ เสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื .................................................หัวหน้ากลุม่ สาระฯ
(นายยูซุฟ อบิ )ู

วันที่ ............. เดือน ............................... พ.ศ. .................

น.ท5./ว 006

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ เรื่อง องคป์ ระกอบของระบบนิเวศ จำนวน 4 คาบ

รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว23101 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 ครูผู้สอน นางสาวสาสนะ บาเหม

1. มาตรฐาน
มาตรฐาน ว.1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนเิ วศ ความสัมพันธ์ระหวา่ งสิ่งไมม่ ีชีวติ กับสิ่งมีชีวิต

และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การเปลี่ยนแปลง
แทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมรวมท้ังนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์

2. ตวั ชี้วดั
ว.1.1 ม.3/1 อธิบายปฏสิ มั พันธ์ขององค์ประกอบของระบบนิเวศท่ีไดจ้ ากการสำรวจ

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (ผู้เรยี นรอู้ ะไร/ทำอะไรได้)

3.1 อธบิ ายปฏสิ ัมพันธข์ ององค์ประกอบของระบบนเิ วศทีไ่ ด้จากการสำรวจได้ (K)
3.2 จำแนกองค์ประกอบของระบบนิเวศท่ีไดจ้ ากการสำรวจได้ (P)
3.3 มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน (A)

4. สาระสำคัญ
ระบบนิเวศประกอบด้วยองค์ประกอบที่ไม่มีชีวิต (abiotic component) และองค์ประกอบที่มีชีวิต

(biotic component) ซ่งึ มีปฏสิ มั พันธก์ นั อย่างเปน็ ระบบ ตัวอย่างปฏิสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบที่มีชีวิตกับ
องค์ประกอบที่ไม่มีชีวิต เช่น ต้นไม้ต้องการน้ำ แสง แร่ธาตุ และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ตัวอย่างปฏิสัมพันธ์
ระหว่างองค์ประกอบที่มีชีวิตกับองค์ประกอบที่มีชีวิต เช่น กวางกินหญ้า เสือกินกวาง แร้งกินซากเสือที่ตาย
แล้ว และจลุ ินทรียจ์ ะยอ่ ยสลายซากเสือใหก้ ลายเป็นสารอินทรยี ก์ ลบั คนื สู่ธรรมชาติ

5. สาระการเรียนรู้
5.1 องค์ประกอบของระบบนิเวศ

6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
6.1 ความสามารถในการส่ือสาร
6.2 ความสามารถในการคิด

7. ชิน้ งาน/ภาระงาน
7.1 ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง สำรวจระบบนเิ วศในท้องถนิ่
7.2 สมดุ ประจำตัวและแบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1

6

8. การวดั ผลและการประเมินผล

วธิ ีการวัด เครื่องมือ เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ
ด้านความรู้-ความเขา้ ใจ (K) - ประเมินตามสภาพจริง
- อธิบายปฏิสัมพันธข์ ององคป์ ระกอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการ - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ของระบบนเิ วศท่ีได้จากการสำรวจได้ เรยี นรูท้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง สำรวจระบบนเิ วศ - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ด้านทักษะกระบวนการ (P) ในท้องถน่ิ
- จำแนกองคป์ ระกอบของระบบนิเวศ - สมดุ ประจำตัว หรอื แบบฝกึ หดั - ระดบั คุณภาพดี ขึ้นไป
ทไี่ ด้จากการสำรวจได้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 - ระดับคณุ ภาพดี ข้นึ ไป
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) - แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการ
- มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ ม่งุ มนั่ ในการทำงาน เรยี นรทู้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ

- แบบประเมินการนำเสนอผลงาน

- แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึง
ประสงค์

9. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
คาบที่ 1-2

ขั้นที่ 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engage)

1. นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ
2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ร่วมกันพิจารณาภาพสิ่งมีชีวิตในสิ่งแวดล้อม (ครูอาจใช้

ภาพท่ีแนบมาทา้ ยแผนการจัดการเรียนรู)้

∆ ตวั อยา่ งภาพส่งิ มชี ีวติ ในส่งิ แวดลอ้ ม

7

3. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั อภปิ รายถึงความสัมพนั ธ์ระหว่างสิง่ มีชวี ิตกับส่งิ มีชีวติ และสง่ิ มีชีวิต
กบั ส่ิงแวดล้อมในแตล่ ะภาพ โดยครูอาจใชค้ ำถามนำสกู่ ารอภิปราย เชน่
- จากภาพส่ิงแวดลอ้ มพบสิ่งมชี วี ติ อะไรบา้ ง และสง่ิ มชี ีวติ เหล่านัน้ มคี วามสัมพันธ์กันหรือไม่
อย่างไร
(แนวตอบ: พจิ ารณาจากคำตอบของนักเรียน โดยข้นึ อยกู่ บั ภาพท่นี กั เรยี นศกึ ษา เชน่ ภาพ
ผ้งึ กบั ดอกไม้ โดยผึง้ ดดู น้ำหวานจากเกสรดอกไม้ ส่วนดอกไม้ได้ผ้ึงช่วยถ่ายเรณู)
- จากภาพสิ่งแวดล้อมพบสิ่งไม่มีชีวิตอะไรบ้าง และสิ่งไม่มีชีวิตเหล่านั้นมีความสัมพันธ์กับ
สิง่ มชี วี ติ หรือไม่ อยา่ งไร
(แนวตอบ: พิจารณาจากคำตอบของนกั เรียน โดยข้นึ อยกู่ ับภาพทน่ี ักเรียนศึกษา เชน่ ภาพ
ช้างและมา้ ลายในทุ่งหญา้ พบสง่ิ ที่ไม่มชี ีวิต ได้แก่ นำ้ แสง และอากาศ ซึ่งช้างและม้าลาย
ใชน้ ำ้ ดื่มกินและใชอ้ ากาศหายใจ ส่วนพชื ใชแ้ สงและน้ำในกระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง)
- สิ่งแวดลอ้ มแตล่ ะบริเวณมลี กั ษณะและองค์ประกอบเหมือนกนั หรอื ไม่ อยา่ งไร
(แนวตอบ: พิจารณาจากคำตอบของนักเรียน เช่น ภาพช้างและม้าลายในทุ่งหญ้ามีแหล่ง
น้ำเป็นองค์ประกอบของสิ่งแวดล้อม แต่ภาพอูฐในทะเลทรายไม่มีแหล่งน้ำเป็น
องค์ประกอบของสงิ่ แวดล้อมนน้ั )
- ในท้องถิ่นของนักเรียนพบสงิ่ แวดล้อมลักษณะใดบ้าง
(แนวตอบ: คำตอบขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน ซึ่งพิจารณาตามสภาพท้องถิ่นที่
นกั เรยี นอาศัยอยู่)

4. ครูนำอภิปรายเพื่อให้นักเรียนเข้าใจว่าบริเวณต่าง ๆ ที่นักเรียนพิจารณานั่นคือ ระบบนิเวศ
ซงึ่ เป็นกลุ่มสิ่งมีชวี ติ ทีอ่ าศัยอยู่ร่วมกนั ในบริเวณใดบรเิ วณหนง่ึ โดยสิ่งมชี วี ิตมคี วามสมั พันธ์กัน
อยา่ งเปน็ ระบบและยงั มคี วามสมั พนั ธ์กบั สง่ิ ไม่มีชีวติ ในบริเวณนนั้ ๆ ด้วย

ขั้นท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore)

1. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ วางแผนศึกษาและสำรวจระบบนิเวศตามกจิ กรรม เร่อื ง สำรวจระบบนเิ วศ
ในท้องถิ่น จากสื่อการเรียนรู้ สัมฤทธิ์มาตรฐาน วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 เพื่ออธิบาย
ปฏิสมั พันธข์ ององค์ประกอบของระบบนิเวศท่ีได้จากการสำรวจ โดยกำหนดให้นกั เรียนศึกษา
รายละเอียดและนำเสนอข้อมูลในประเดน็ ตา่ ง ๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี
- สง่ิ ไมม่ ีชีวิต โดยวดั และบันทกึ คา่ อณุ หภมู ิ ความเปน็ กรด-เบส (pH) และความเข้มแสง
- สิ่งมีชีวิต โดยสังเกตและบันทึกชอื่ ส่ิงมีชีวติ รปู รา่ ง ลกั ษณะจำนวน แหล่งที่พบ พฤตกิ รรม
ของสิ่งมชี วี ติ

2. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลการจากสำรวจระบบนิเวศในท้องถน่ิ
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มแบ่งหน้าที่กนั ศึกษา เรื่อง องค์ประกอบของระบบนิเวศ ในประเด็นต่าง ๆ

ดงั น้ี
- องค์ประกอบที่ไม่มีชีวิต แบ่งออกเป็นสารอนินทรีย์ (น้ำ แร่ธาตุ แก๊ส) สารอินทรีย์ (สาร

ชีวโมเลกุล) และสภาพแวดล้อมทางกายภาพ (แสง อุณหภูมิ ดิน ความเป็นกรด-เบสของ
ดินและน้ำ)
- องคป์ ระกอบท่มี ชี ีวติ แบง่ ออกเป็นผผู้ ลิต ผู้บริโภค และผู้ย่อยสลายสารอนิ ทรยี ์

8

โดยศึกษาข้อมูลจากสื่อการเรียนรู้ สัมฤทธิ์มาตรฐาน วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 หรือแหล่ง
เรียนรู้อื่น ๆ เช่น สื่อออนไลน์ ห้องสมุด แล้วร่วมกันสรุปความรู้ลงในสมุดประจำตัวของ
นักเรียน

คาบท่ี 3-4

ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain)

4. ครูตั้งคำถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและตอบคำถามจากที่ได้ทำกิจกรรมสำรวจระบบ
นิเวศในทอ้ งถน่ิ และจากการศึกษาเรอ่ื ง องค์ประกอบของระบบนิเวศ เช่น
- ชนิดและปริมาณของสิ่งมีชีวิตที่พบในแต่ละบริเวณที่สำรวจเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
เพราะเหตใุ ดจึงเปน็ เช่นนนั้
(แนวตอบ: ขึ้นอยู่กับบริเวณที่นักเรียนสำรวจ เช่น บริเวณที่มีสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน
จะพบชนดิ และปรมิ าณของสิง่ มีชีวติ แตกต่างกัน และถึงแมว้ ่าบริเวณทส่ี ำรวจจะมีลักษณะ
คล้ายกันก็อาจพบสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน แต่มีปริมาณแตกต่างกันได้เพราะชนิดและ
ปริมาณของสิ่งมีชีวิตขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อการดำรงชีวิต
ของสง่ิ มชี วี ิตนน้ั ๆ)

- นกั เรียนคดิ ว่าปจั จยั ใดบา้ งทที่ ำใหส้ งิ่ มีชีวติ สามารถดำรงชีวติ อยูใ่ นบรเิ วณต่าง ๆ ได้

(แนวตอบ: แสง ความชื้น อุณหภูมิ เช่น หากความเข้มแสงเหมาะสมจะทำให้พืช
เจริญเติบโตดี แต่ถ้าความเข้มของแสงเปลี่ยนแปลงไปจะมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช
ทำให้พืชเจรญิ เติบโตชา้ หรอื ไมเ่ จรญิ เตบิ โต)

- สิ่งมีชีวิตตา่ ง ๆ ท่ีพบในบริเวณท่สี ำรวจมคี วามสัมพนั ธ์กันหรือไม่ อยา่ งไร

(แนวตอบ: ส่งิ มชี วี ติ ท่พี บในบรเิ วณท่ีสำรวจมีความสัมพันธ์กนั เช่น ส่ิงมีชีวิตชนิดหนึ่งเป็น
อาหารของสิ่งมีชีวิตอกี ชนิดหน่ึง)
- สิ่งมีชีวิตที่พบในบริเวณที่สำรวจมีความสัมพันธ์กับสิ่งไม่มีชีวิต เช่น ดิน น้ำ แสงสว่าง
อย่างไร
(แนวตอบ: สิ่งมีชีวิตทีพ่ บในบริเวณที่สำรวจมีความสัมพันธ์กับสิ่งไม่มีชวี ิต เช่น พืชใช้แสง
แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ และน้ำในการสังเคราะห์ดว้ ยแสงเพื่อสร้างอาหาร และใช้แร่ธาตุ
ในดินเป็นองค์ประกอบในการสร้างสารต่าง ๆ ส่วนสัตว์ใช้น้ำในการบริโภคและใช้แก๊ส
ออกซิเจนในการหายใจ)
5. ใหน้ กั เรยี นทำ Exercise 1.1 จากสื่อการเรยี นรู้ สัมฤทธ์มิ าตรฐาน วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม
1

9

ขั้นท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate)

1. ครูตั้งประเด็นใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายว่า เชน่

- หากองค์ประกอบที่ไม่มชี ีวติ ในระบบนิเวศมีการเปล่ียนแปลงไป จะส่งผลต่อองค์ประกอบ
ทม่ี ีชวี ิตหรอื ไม่ อยา่ งไร

(แนวตอบ: ส่งผล เนื่องจากองค์ประกอบที่ไม่มีชีวิตมีปฎิสัมพันธ์กับองค์ประกอบที่มีชีวิต
หากมีการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบที่ไม่มีชีวิตย่อมส่งผลต่อองค์ประกอบที่มีชีวิตใน
ระบบนเิ วศ เชน่ อณุ หภมู ิ ในปัจจุบนั อณุ หภมู ขิ องโลกที่เพ่ิมสูงขนึ้ อยา่ งมากทำให้เกดิ ภาวะ
โลกร้อนซึ่งสง่ ผลตอ่ สง่ิ มชี ีวิตต่าง ๆ ในระบบนเิ วศ เช่น สิง่ มีชวี ติ ที่อาศัยบริเวณขั้วโลก (หมี
ขั้วโลก นกเพนกวิน) ขาดแคลนแหล่งทอี่ ยู่อาศัยและแหล่งอาหารเนื่องจากการละลายของ
นำ้ แข็งขัว้ โลก)

- หากสิ่งมีชีวิตบางชนิดในระบบนิเวศมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนไปอย่างมากจะส่งผลต่อ
สงิ่ มีชวี ิตอ่นื หรอื ไม่ อยา่ งไร

(แนวตอบ: ส่งผล เนื่องจากสิ่งมีชีวติ บางชนิดเปน็ เหยื่อหรือเปน็ ผู้ลา่ ที่จำเพาะต่อสิ่งมีชีวติ
อื่น ๆ ซึ่งหากสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ลดจำนวนลงอย่างมากหรือสูญพันธ์จะส่งผลกระทบต่อ
สิ่งมีชีวิตที่เป็นเหยื่อเนื่องจากขาดผู้ล่าในการควบคุมจำนวนประชากร หรือส่งผลกระทบ
ต่อสง่ิ มชี วี ิตที่เป็นผูล้ ่าเนอื่ งจากขาดแคลนอาหาร)

2. ให้นักเรยี นทำใบงานที่ 1.1.1 เร่อื ง ปฏสิ ัมพนั ธข์ ององคป์ ระกอบของระบบนิเวศ

ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)

1. นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบของระบบนิเวศ โดยมีแนวการสรุป ดังนี้
“ระบบนิเวศประกอบไปด้วยองค์ประกอบที่ไม่มีชีวิต แบ่งออกเป็นสารอนินทรีย์ (น้ำ แร่ธาตุ
แก๊ส) สารอินทรีย์ (คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ลิพิด วิตามิน กรดนิวคลีอิก) และสภาพแวดล้อม
ทางกายภาพ (แสง อุณหภูมิ ดิน ความเป็นกรด-เบสของดินและน้ำ) และประกอบด้วย
องค์ประกอบที่มีชีวิต ได้แก่ ผู้ผลิตเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถสร้างอาหารเองได้ ผู้บริโภคเป็น
สิ่งมีชีวติ ที่ไม่สามารถสรา้ งอาหารเองได้ แต่ดำรงชีวิตโดยบรโิ ภคสิ่งมชี วี ติ อื่นเป็นอาหาร และ
ผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถสร้างอาหารเองได้ แต่ดำรงชีวิตโดยสร้าง
เอนไซม์ออกมาย่อยสลายซากส่งิ มีชวี ติ แลว้ ดูดซึมเขา้ สเู่ ซลล์ ซึ่งองคป์ ระกอบต่าง ๆ ของระบบ
นเิ วศต้องมปี ฏิสัมพันธ์กันอยา่ งเหมาะสมเพือ่ ทำใหร้ ะบบนเิ วศสามารถดำรงอยไู่ ด้

2. ครตู รวจสอบผลการทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ระบบนิเวศ
3. ครตู รวจสอบผลการปฏบิ ัติกจิ กรรม สำรวจระบบนเิ วศในท้องถ่ิน
4. ครตู รวจสอบผลการทำใบงานที่ 1.1.1 เรือ่ ง ปฏิสมั พันธ์ขององค์ประกอบของระบบนิเวศ
5. ครตู รวจ Exercise 1.1 จากสอ่ื การเรียนรู้ สมั ฤทธ์มิ าตรฐาน วิทยาศาสตร์ ม.3 เลม่ 1
6. ครูประเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการนำเสนอผลงาน

พฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล พฤติกรรมการทำงานกล่มุ

10

10. ส่ือและแหล่งเรียนรู้
10.1 หนงั สือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1
10.2 แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 ระบบนิเวศ
10.3 ใบงานที่ 1.1 เร่ือง สำรวจระบบนเิ วศในท้องถ่นิ
10.4 วัสดุอุปกรณ์ท่ใี ช้ในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม สำรวจระบบนเิ วศในทอ้ งถนิ่
10.5 PowerPoint เร่อื ง องค์ประกอบของระบบนเิ วศ
10.6 QR Code เรื่อง บทบาทของสง่ิ มีชีวิตในระบบนเิ วศ
10.7 สมดุ ประจำตัวนกั เรียน
10.8 สมาร์ทโฟนและอินเทอรเ์ นต็

ลงชือ่ ..................................................... ครผู สู้ อน
(นางสาวสาสนะ บาเหม)

วันท่ี ............. เดือน ............................... พ.ศ. .................

ลงชือ่ ....................................................ผนู้ ิเทศ
(.....................................................)

วันท่ี ............. เดอื น ............................... พ.ศ. .................

ลงชื่อ .................................................หัวหนา้ กลุ่มสาระฯ
(นายยูซุฟ อิบู)

วันที่ ............. เดอื น ............................... พ.ศ. .................

11

11. บันทึกผลการจดั การเรยี นรู้
ผลการจดั การเรยี นรู้ (ระบุรายช่อื นกั เรียนท่ไี ม่บรรลผุ ล/ตัวชวี้ ัด)

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
อปุ สรรค/ปญั หา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
การแก้ไขปรบั ปรงุ

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ผลการแก้ไขปรับปรงุ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ ..................................................... ครผู สู้ อน
(.....................................................)

วนั ท่ี ............. เดอื น ............................... พ.ศ. ................

ความเห็น/ขอ้ เสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื .................................................หวั หน้ากลุม่ สาระฯ
(.....................................................)

วนั ที่ ............. เดอื น ............................... พ.ศ. .................

12

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 ระบบนิเวศ เรอ่ื ง ความสัมพันธ์ระหวา่ งสิ่งมชี ีวติ ในระบบนเิ วศ จำนวน 4 คาบ

รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว23101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ครผู ู้สอน นางสาวสาสนะ บาเหม

1. มาตรฐาน
มาตรฐาน ว.1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนเิ วศ ความสมั พันธ์ระหวา่ งส่งิ ไม่มีชวี ิตกับส่ิงมีชีวิต

และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การเปลี่ยนแปลง
แทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดลอ้ ม แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมรวมทั้งนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์

2. ตวั ชี้วดั
ว.1.1 ม.3/2 อธิบายรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตรูปแบบต่าง ๆ ในแหล่งที่อยู่

เดียวกนั ทีไ่ ด้จากการสำรวจ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 อธิบายนยิ ามของกลมุ่ ส่งิ มชี วี ิตและประชากร (K)
3.2 อธิบายรูปแบบความสัมพันธส์ ิ่งมีชีวิตกบั สง่ิ มีชวี ิตรปู แบบต่าง ๆ (K)
3.3 จำแนกรปู แบบความสัมพันธร์ ะหว่างสิ่งมีชีวติ กับสง่ิ มชี ีวติ (P)
3.4 มีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มัน่ ในการทำงาน (A)

4. สาระสำคญั
สิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศมีอยู่หลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดต่างก็มีรูปแบบความสัมพันธ์ที่แตกต่างกัน

ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศอาจทำให้สิ่งมีชีวิตบางชนิดได้รับประโยชน์หรือเสียประโยชน์
หรือไมม่ ีผลต่อการดำรงชวี ติ ของสิ่งมชี ีวิตนัน้ เลย

5. สาระการเรยี นรู้
5.1 รูปแบบความสมั พนั ธ์ระหว่างสง่ิ มีชีวติ กับสงิ่ มชี วี ติ ในระบบนเิ วศ

6. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
6.1 ความสามารถในการสื่อสาร
6.2 ความสามารถในการคิด

7. ชิ้นงาน/ภาระงาน
7.1 ใบงานที่ 1.2 เรือ่ ง ความสมั พนั ธ์ระหว่างสง่ิ มีชวี ิตในระบบนเิ วศ
7.2 สมดุ ประจำตวั และแบบฝึกหัดวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1

13

8. การวัดผลและการประเมินผล

วิธกี ารวัด เคร่ืองมอื เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ
- ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ดา้ นความรู้-ความเขา้ ใจ (K) - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- อธิบายนิยามของกลุ่มส่งิ มีชวี ติ และ - ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง ความสัมพันธ์
- ระดบั คุณภาพดี ขึน้ ไป
ประชากร ระหว่างส่ิงมีชีวติ ในระบบนเิ วศ - ระดับคณุ ภาพดี ข้นึ ไป
- ระดับคณุ ภาพดี ขึน้ ไป
- อธิบายรูปแบบความสัมพนั ธส์ ิง่ มชี ีวิต - สมดุ ประจำตวั หรอื แบบฝึกหดั

กับสิ่งมชี ีวิตรูปแบบตา่ ง ๆ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1

- แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการ

เรยี นรู้ท่ี 1 ระบบนเิ วศ

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) - แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
- จำแนกรูปแบบความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง
สงิ่ มชี วี ติ กบั สงิ่ มชี ีวติ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม
- กระบวนการกลุ่ม - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ
ประสงค์
ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
- มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ ม่ันในการทำงาน

9. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี 1-2

ขนั้ ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)

1. นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเองก่อนเข้าสู่กิจกรรมการเรียนการสอน จากกรอบ
Check for Understanding ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3
เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ โดยบันทกึ ลงในสมุดประจำตัวนักเรียน

2. นักเรียนทำกิจกรรม Engaging Activity โดยพิจารณาภาพรังต่อบนต้นไม้ และกาฝากบนต้นไม้
จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
ระบบนเิ วศ จากน้นั ครูต้ังประเด็นคำถามกระตุ้นความคิดนักเรียนว่า “เพราะเหตใุ ดตน้ ไมท้ ้ัง 2 ต้น
จงึ มลี กั ษณะแตกต่างกัน”
(แนวตอบ : เพราะสิ่งที่มาอาศัยอยู่ในต้นไม้ภาพที่ 1 และภาพที่ 2 แตกต่างกันคือ ภาพที่ 1
ตัวต่อมาอาศัยและทำรังอยู่บนต้นไม้ โดยตัวต่อไม่ได้ทำลายหรือสร้างความเสียหายให้กับต้นไม้
ต้นไม้ในภาพที่ 1 จึงมีความอุดมสมบูรณ์ปกติ แต่ในภาพที่ 2 กาฝากซึ่งเป็นปรสติ ของพืชมาอาศยั
อยู่กับต้นไม้ในภาพที่ 2 โดยกาฝากจะใช้รากแทงทะลุเข้าไปยังท่อลำเลียงน้ำและธาตุอาหาร
คอยแยง่ นำ้ และอาหาร ทำให้ต้นไม้ในภาพท่ี 2 ไม่เจริญเติบโตและตายในทีส่ ุด)

ขัน้ ท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Explore)
1. ครูถามคำถาม Key Question จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 ระบบนิเวศ เพื่อทบทวนความรู้เดมิ ของนักเรียนวา่ “เพราะเหตุ
ใดเหาฉลามจึงอยู่ร่วมกบั ปลาฉลามได้”
(แนวตอบ : เหาฉลามไม่ได้สร้างความเดือดร้อนใหก้ ับปลาฉลามและยังได้รบั เศษอาหารท่ีเหลือ
จากการกินของปลาฉลาม ในขณะท่ีปลาฉลามกไ็ มไ่ ดแ้ ละไม่เสยี ประโยชนจ์ งึ สามารถอย่รู ่วมกันได้)

14

1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน จากนั้นครูแจ้งจุดประสงค์ของกิจกรรม สำรวจรูปแบบ
ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตภายในโรงเรียน ให้นักเรียนทราบเพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติ
กจิ กรรมทถี่ กู ต้อง

2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษากิจกรรม สำรวจรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตภายใน
โรงเรียน จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วย
การเรยี นรู้ท่ี 1 ระบบนเิ วศ โดยครูใช้รูปแบบการเรยี นรูแ้ บบรว่ มมือมาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดย
กำหนดให้สมาชิกแต่ละคนภายในกลมุ่ มีบทบาทหน้าท่ขี องตนเองและลงมือปฏิบัตกิ จิ กรรม ดังนี้
• สมาชิกคนที่ 1-2 ทำหน้าที่เตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติกิจกรรมสำรวจรูปแบบ
ความสมั พันธ์ระหว่างสิง่ มีชวี ติ ภายในโรงเรียน
• สมาชิกคนท่ี 3 ทำหน้าทอ่ี ่านวิธปี ฏบิ ตั กิ ิจกรรม และนำมาอธบิ ายให้สมาชิกในกลมุ่ ฟัง
• สมาชิกคนที่ 4 ทำหน้าที่ศึกษาและสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต
ภายในโรงเรยี น
• สมาชิกคนที่ 5-6 ทำหน้าที่สำรวจสิง่ มีชวี ิตภายในโรงเรียนให้ได้มากท่ีสุด และบันทึกผลลงใน
สมดุ ประจำตัวนกั เรยี น

3. เมื่อสมาชิกในกลุ่มทำหน้าที่ของตนเองแล้ว ให้สมาชิกคนที่ 4 อธิบายทฤษฎี หรือรูปแบบ
ความสมั พันธ์ของส่งิ มชี ีวติ ให้สมาชิกภายในกลมุ่ เขา้ ใจ

4. นักเรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันกำหนดปัญหาและตั้งสมมติฐาน จากนัน้ ร่วมกันวิเคราะห์ส่ิงมีชีวิตที่ได้
จากการสำรวจ และระบรุ ูปแบบความสมั พนั ธ์ของส่งิ มชี วี ติ

5. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมหน้าช้ันเรียน ในระหว่างที่นักเรียน
นำเสนอ ครูคอยใหข้ อ้ เสนอแนะเพ่มิ เติม เพอ่ื ใหน้ กั เรียนมคี วามเขา้ ใจที่ถูกต้อง
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมนิ นกั เรียน โดยใชแ้ บบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)

6. ครูถามคำถามท้ายกิจกรรม โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภปิ รายแสดงความคิดเห็นเพื่อหา
คำตอบ ดังนี้
• ในบรเิ วณท่ีสำรวจ ส่ิงมชี วี ิตคใู่ ดบ้างทมี่ คี วามสัมพนั ธก์ ัน
(แนวตอบ : ข้นึ อยู่กบั ผลกจิ กรรม ตัวอยา่ งคำตอบเช่น พืชกบั มนุษย์)
• สิ่งมีชีวิตชนิดใดได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ หรือไม่ได้และไม่เสียประโยชน์จากการอยู่
ร่วมกนั
(แนวตอบ : ขึ้นอยู่กับผลกิจกรรม ตัวอย่างคำตอบเช่น ดอกไม้กับผีเสื้อ นกทำรังบนต้นไม้
แมวกับหนู)

7. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลการปฏิบัติกิจกรรม สำรวจรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่าง
สิ่งมีชีวิตภายในโรงเรียน เพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า “สิ่งมีชีวิตไม่สามารถอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้
จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตอื่นเพื่อประโยชน์ในการดำรงชีวิต ซึ่งความสัมพันธ์ของ
ระหว่างส่ิงมีหลายรูปแบบ”

คาบที่ 3-4
8. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ ออกเปน็ 4 กลมุ่ กล่มุ ละเทา่ ๆ กนั และสง่ ตัวแทนกลมุ่ ออกมาจับสลากหมายเลข
1-4 โดยแตล่ ะหมายเลขมขี อ้ ความลกั ษณะความสัมพันธ์ของสง่ิ มชี วี ิต ดังนี้
• หมายเลข 1 สง่ิ มีชีวติ ต้องดำรงชวี ิตอยูด่ ว้ ยกนั ตลอดเวลา ไม่สามารถแยกจากกนั ได้

15

• หมายเลข 2 สิ่งมีชีวิตดำรงชีวิตอยู่ได้อยา่ งอิสระ ถ้ามาอยู่ร่วมกนั ต่างฝ่ายจะให้ประโยชนซ์ ึ่งกนั
และกนั

• หมายเลข 3 สิ่งมีชีวิตต้องอาศัยสิ่งมีชีวิตอื่นเพื่อการดำรงชีวิต โดยสิ่งมีชีวิตที่มาอาศัยจะ
ก่อให้เกิดโรค

• หมายเลข 4 ส่ิงมชี วี ิตดำรงชวี ิตอยู่ได้ด้วยการลา่ ส่งิ มีชีวติ อนื่ เป็นอาหาร
9. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกันสืบค้นขอ้ มูลเกี่ยวกับรูปแบบความสมั พันธ์ของสิง่ มีชีวิตที่กลุ่มตนเองจับ

สลากได้ จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
ระบบนิเวศ หรือแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต ห้องสมุด พร้อมยกตัวอย่างสิ่งมีชีวิต
ท่มี รี ูปแบบความสมั พันธน์ ้ันมาอยา่ งน้อย 5 คู่
10. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายเรื่องที่ได้ศึกษา จากนั้นส่งตัวแทนกลุ่มออกมาเสนอข้อมูล
หนา้ ช้ันเรยี น จากนัน้ ให้นักเรยี นรว่ มกันสรุปความรูท้ ี่ได้ลงในสมดุ ประจำตวั นกั เรยี น
(หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ และรายบคุ คล)
11. นักเรียนแบ่งกลุ่มเดิมทำกิจกรรม ความสัมพันธร์ ะหว่างสิ่งมชี ีวิต จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ โดยครูใช้รูปแบบ
การเรียนรู้แบบร่วมมือมาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดให้สมาชิกแต่ละคนภายในกลุ่ม
มีบทบาทหน้าท่ขี องตนเอง ดังนี้

•สมาชิกคนที่ 1-2 ทำหน้าที่เตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติกิจกรรมความสัมพันธ์
ระหวา่ งสง่ิ มีชวี ิต

• สมาชกิ คนที่ 3-4 ทำหน้าทอี่ ่านวธิ ีปฏิบัตกิ ิจกรรม และนำมาอธิบายให้สมาชกิ ในกลมุ่ ฟัง
• สมาชิกคนที่ 5-6 ทำหน้าทบี่ ันทึกผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมลงในสมุดประจำตวั นกั เรียน
12. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันกำหนดปัญหาและตั้งสมมติฐาน จากนั้นร่วมกันปฏิบัติกิจกรรมตาม
ขน้ั ตอน จากหนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 หนว่ ยการเรียนรู้
ท่ี 1 ระบบนเิ วศ
ข้นั ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain)
1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้และวิเคราะห์ผลการปฏิบัติกิจกรรม แล้วอภิปราย
ผลรว่ มกัน
2. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมหน้าชั้นเรียน ในระหว่างที่นักเรียน
นำเสนอ ครูคอยใหข้ ้อเสนอแนะเพิม่ เติม เพือ่ ให้นักเรยี นมคี วามเข้าใจท่ีถกู ต้อง
3. (หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)
4. ครูถามคำถามท้ายกิจกรรม โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นเพื่อหา
คำตอบ ดังน้ี
5. เมื่อเวลาผา่ นไปคา่ pH ท่ีวดั ไดจ้ ากชดุ ทดลองทัง้ 4 ชุด เปน็ อยา่ งไร
6. (แนวตอบ : ค่า pH ของชุดการทดลองท่ี 1 และ 3 มีคา่ ต่ำลง สว่ นค่า pH ของชดุ การทดลองที่ 2
และ 4 มีคา่ เทา่ เดิมหรือไมล่ ดลงไปจากเดิม)
7. ความสมั พันธ์ระหวา่ งปลากับสาหร่ายเปน็ ความสมั พนั ธร์ ปู แบบใด (แนวตอบ : ภาวะพ่งึ พากนั )
8. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลการปฏิบัติกิจกรรม ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต เพื่อให้ได้
ข้อสรุปร่วมกันว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับ
สิ่งแวดล้อมล้วนมีความสัมพันธ์กัน จากการทดลองปลาต้องอาศัยน้ำและสาหร่ายในการดำรงชีวิต

16

รูปแบบความสัมพนั ธ์ระหว่างปลากับสาหร่ายจงึ ตอ้ งเป็นแบบภาวะพึง่ พากัน แต่ในธรรมชาติปลา
ตอ้ งอาศัยอยู่ร่วมกับสิ่งมชี วี ิตอนื่ มากมาย ไมเ่ พียงแคส่ าหร่าย ดังนัน้ รปู แบบความสัมพันธ์ระหว่าง
ปลากับสาหรา่ ยจึงเป็นแบบภาวะการไดป้ ระโยชนร์ ว่ มกนั ”
9. ครูเตรียมสลากชื่อสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ ได้แก่ รา นกเอี้ยง เหาฉลาม ฉลาม กาฝาก ควาย ต้นไม้
มนุษย์ สาหร่าย และนก จากนน้ั ให้นกั เรยี นแตล่ ะคนจบั สลากช่ือส่ิงมีชีวิต ซ่งึ นักเรียนท่ีจับสลากได้
ช่ือสง่ิ มีชีวติ เดียวกนั ให้มารวมกลุ่มกัน
10. ครูอธบิ ายเพ่ิมเติมใหน้ กั เรียนเข้าใจเกี่ยวกับประชากร และกลมุ่ ส่ิงมีชวี ิตวา่ “นักเรียนแตล่ ะคนท่ถี อื
11. สลากช่อื สิง่ มชี ีวิตล้วนเป็นส่ิงมีชีวิต ในความเป็นจริงส่ิงมีชีวิตไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ในระบบนิเวศได้
โดยลำพัง เมื่อนักเรียนที่จับสลากได้ชื่อสิง่ มีชีวิตชนิดเดียวกันมารวมกลุ่มกันในแหลง่ ที่อยู่เดียวกนั
และเวลาเดียวกัน เรียกว่า ประชากร (population) ดังนั้น ในห้องเรียนนี้จึงประกอบด้วย
ประชากรของสิ่งมีชีวิตหลายชนดิ มาอยรู่ วมกนั เรียกว่า กลุ่มสิ่งมีชวี ิต (community)”
12. ให้นักเรียนแต่ละคนที่ถือสลากชื่อสิ่งมีชีวิตเลือกจับคู่กับเพื่อนที่ถือสลากชื่อสิ่งมีชีวิตอีกคนหน่ึง
แล้วระบคุ วามสมั พันธ์ของสงิ่ มชี วี ิต
13. ครสู ุ่มนกั เรยี น 5-10 คู่ ระบุและอธิบายความสมั พันธ์ของสงิ่ มีชีวิต
14. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจว่า “ความสัมพันธ์ของสิ่งชีวิตที่นอกเหนือจากภาวะอิงอาศัย
ภาวะพึ่งพากัน ภาวะปรสิต และการล่าเหยื่อ เช่น ภาวะการได้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งสิ่งมีชีวิต
ทง้ั สองฝ่าย สามารถแยกกนั อยไู่ ด้ รวมทัง้ ภาวะการแก่งแยง่ แขง่ ขันกนั เปน็ ความสมั พันธท์ ส่ี ิง่ มีชีวิต
ทัง้ สองฝา่ ยตา่ งเสยี ประโยชน์ทั้งคู่ เนอื่ งจากมีการแก่งแย่งแขง่ ขันกนั ระหว่างสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน
และต่างชนิดกนั ”
15. ครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นซักถามเนื้อหาเกี่ยวกับ เรอ่ื ง ความสมั พนั ธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ
และให้ความรู้เพิ่มเติม โดยครูอาจใช้ PowerPoint เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตใน
ระบบนเิ วศ
16. ให้นักเรียนทำ Topic Questions เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ จากหนังสือ
เรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ
ลงในสมุดประจำตวั นักเรียน
17. ให้นักเรียนแต่ละคนทำแบบฝึกหัด เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ จาก
แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ เป็น
การบ้านสง่ ในชั่วโมงถัดไป
ข้นั ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate)
1. ครูกำหนดปัญหาเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกในปัจจุบันที่มักแพร่ระบาดในช่วงฤดูฝน โดยให้นักเรยี น
ออกแบบสิ่งมีชีวิตในบ่อน้ำเพื่อแก้ปัญหา บ่อน้ำขังกลางแจ้งที่ถูกปล่อยทิ้งร้างลงในใบงานที่ 1.2
เร่ือง ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสง่ิ มชี ีวติ พร้อมอธิบายรปู แบบความสัมพันธ์ของสิง่ มชี วี ติ
2. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกีย่ วกับความสัมพนั ธร์ ะหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบนเิ วศ ซึ่งควรได้ข้อสรุป
ร่วมกันว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศล้วนมีความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตท้ัง
ทางตรงและทางอ้อม ซึ่งสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศมีอยู่หลายชนิดแต่ละชนิดต่างมีรูปแบบ
ความสัมพันธ์ที่แตกต่างกัน เช่น ภาวะอิงอาศัย ภาวะพึ่งพากัน ภาวะปรสิต ภาวะการล่าเหยื่อ
ภาวะการแก่งแยง่ แข่งขัน และภาวะการไดป้ ระโยชนร์ ว่ มกัน”

17

ขัน้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนก่อนเข้าสู่กิจกรรมการเรียนการสอน จากกรอบ
Check for Understanding ในสมุดประจำตัวนักเรยี น
2. ครตู รวจสอบผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม สำรวจรูปแบบความสัมพนั ธ์ระหว่างสิ่งมีชวี ติ ภายในโรงเรียน
3. ครตู รวจสอบผลการปฏิบตั ิกจิ กรรม ความสมั พันธ์ระหวา่ งสงิ่ มีชวี ิต
4. ครตู รวจสอบผลการทำใบงานที่ 1.2 เรอื่ ง ความสมั พนั ธ์ระหว่างส่ิงมีชีวติ
5. ครูตรวจ Topic Questions เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ในสมุดประจำตัว
นักเรยี น
6. ครูตรวจแบบฝึกหดั เร่อื ง ความสมั พันธร์ ะหวา่ งสิง่ มชี วี ิตในระบบนเิ วศ จากแบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 ระบบนิเวศ
7. ครูประเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
พฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม และจากการนำเสนอผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมหนา้ ช้นั เรยี น

10. ส่ือและแหล่งเรียนรู้
10.1 หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1

ระบบนิเวศ
10.2 แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ
10.3 ใบงานที่ 1.2 เร่อื ง ความสมั พันธ์ระหว่างส่งิ มชี วี ิต
10.4 วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติกิจกรรม สำรวจรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชวี ิตภายใน

โรงเรยี น
10.5 วัสดอุ ุปกรณท์ ใี่ ชใ้ นการปฏิบัติกิจกรรม ความสมั พนั ธ์ระหว่างสิง่ มชี ีวิต
10.6 PowerPoint เรือ่ ง ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมชี ีวิตในระบบนเิ วศ
10.7 สลากช่ือสง่ิ มชี วี ิตชนดิ ตา่ ง ๆ
10.8 สมุดประจำตวั นักเรียน

ลงช่ือ ..................................................... ครผู ู้สอน
(นางสาวสาสนะ บาเหม)

วนั ที่ ............. เดอื น ............................... พ.ศ. .................

ลงชื่อ ....................................................ผู้นิเทศ
(.....................................................)

วันท่ี ............. เดือน ............................... พ.ศ. .................

ลงช่อื .................................................หัวหน้ากลุ่มสาระฯ
(นายยซู ุฟ อบิ ู)

วนั ท่ี ............. เดอื น ............................... พ.ศ. .................

18

11. บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้
ผลการจัดการเรยี นรู้ (ระบรุ ายชอื่ นกั เรียนท่ีไม่บรรลผุ ล/ตัวชวี้ ดั )

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
อุปสรรค/ปัญหา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
การแก้ไขปรับปรงุ

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ผลการแกไ้ ขปรบั ปรงุ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื ..................................................... ครผู ู้สอน
(นางสาวสาสนะ บาเหม)

วันที่ ............. เดือน ............................... พ.ศ. ................

ความเห็น/ข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ .................................................หวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ
(นายยูซุฟ อิบ)ู

วันที่ ............. เดอื น ............................... พ.ศ. .................

19

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนเิ วศ เรื่อง โซ่อาหารและสายใยอาหาร จำนวน 4 คาบ

รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว23101 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนที่ 1 ครูผสู้ อน นางสาวสาสนะ บาเหม

1. มาตรฐาน
มาตรฐาน ว.1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหวา่ งส่ิงไม่มีชวี ิตกับสิ่งมีชีวิต

และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การเปลี่ยนแปลง
แทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบท่ีมีต่อทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดลอ้ ม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละการแก้ไขปญั หาส่ิงแวดล้อมรวมทั้งนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์

2. ตัวชี้วดั

ว.1.1 ม.3/3 สรา้ งแบบจำลองในการอธบิ ายการถา่ ยทอดพลังงานในสายใยอาหาร
ว.1.1 ม.3/4 อธบิ ายความสัมพันธ์ของผู้ผลิต ผบู้ รโิ ภค และผยู้ อ่ ยสลายสารอินทรยี ์ในระบบนิเวศ
ว.1.1 ม.3/5 อธิบายการสะสมสารพิษในโซอ่ าหาร

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 อธบิ ายการถ่ายทอดพลังงานจากผู้ผลติ ไปยงั ผ้บู รโิ ภคลำดับตา่ ง ๆ (K)
3.2 อธิบายความสมั พันธข์ องผผู้ ลติ ผบู้ ริโภค และผูย้ อ่ ยสารอนิ ทรยี ใ์ นระบบนเิ วศ (K)

3.3 อธบิ ายการสะสมสารพิษในโซอ่ าหาร (K)
3.4 สรา้ งแบบจำลองการถ่ายทอดพลังงานในสายใยอาหาร (P)
3.5 มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน (A)

4. สาระสำคัญ

สิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน โดยสิ่งมีชีวิตในบริเวณเดียวกันจะมีการถ่ายทอด
พลังงานผ่านการกินต่อกันเป็นทอด ๆ โดยเริ่มจากสิ่งมีชีวิตทีเ่ ปน็ ผู้ผลิตถ่ายพลังงานไปยังผูบ้ ริโภคลำดับต่อไป
เรื่อย ๆ เรียกว่า โซ่อาหาร ในธรรมชาติสิ่งมีชีวิตไม่ได้กินสิ่งมีชีวิตอื่นเพียงชนิดเดียว แต่มีการกินมากกว่า
1 ชนิด จงึ ทำให้มกี ารถ่ายทอดพลังงานทีซ่ ับซ้อนมากกวา่ เรยี กวา่ สายใยอาหาร

5. สาระการเรียนรู้
5.1 การถ่ายทอดพลงั งานในสายใยอาหาร
5.2 การสะสมสารพิษในสิ่งมชี ีวิตในโซอ่ าหาร

20

6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
6.1 ความสามารถในการแก้ปัญหา
6.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
6.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. ช้ินงาน/ภาระงาน

7.1 สมุดประจำตวั หรือแบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1
7.2 แบบจำลองการถ่ายทอดพลังงานในสายใยอาหาร

8. การวัดผลและการประเมินผล

วธิ ีการวัด เคร่ืองมือ เกณฑผ์ ่านการประเมิน

ด้านความรู้-ความเข้าใจ (K) - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

- อธิบายการถ่ายทอดพลังงานจาก - ใบงานที่ 1.2 เรือ่ ง ความสมั พันธ์ - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

ผู้ผลติ ไปยังผบู้ ริโภคลำดบั ต่าง ๆ ระหว่างส่งิ มีชีวติ ในระบบนเิ วศ - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

- อธิบายความสมั พนั ธข์ องผผู้ ลิต - สมดุ ประจำตัว หรอื แบบฝึกหดั - ระดับคณุ ภาพดี ข้ึนไป
- ระดับคณุ ภาพดี ข้นึ ไป
ผ้บู รโิ ภค และผู้ย่อยสารอนิ ทรีย์ใน วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 - ระดับคุณภาพดี ขนึ้ ไป
ระบบนเิ วศ - ระดับคุณภาพดี ข้นึ ไป
- แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการ
- อธบิ ายการสะสมสารพิษในโซ่อาหาร เรยี นรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ

ด้านทักษะกระบวนการ (P) - แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
- สรา้ งแบบจำลองการถ่ายทอด - แบบประเมนิ ชน้ิ งาน
พลังงานในสายใยอาหาร - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ
- กระบวนการกลุ่ม
- แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึง
ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) ประสงค์
- มีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ ม่ันในการทำงาน

9. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1-2
ข้ันท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engage)

1. นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเองก่อนเข้าสู่กิจกรรมการเรียนการสอน จากกรอบ
Check for Understanding ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3
เลม่ 1 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนเิ วศ โดยบันทกึ ลงในสมุดประจำตัวนักเรียน

2. นักเรียนทำกิจกรรม Engaging Activity โดยพิจารณาภาพทั้งหมด 9 ภาพ จากหนังสือเรียน
รายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 ระบบนิเวศ จากนั้น
นำหมายเลขที่อยู่ใต้ภาพมาเรียงลำดับการกินตามความคิดของนักเรียน แล้วให้นักเรียนเขียน
สัญลกั ษณล์ ูกศรแทนการกนิ โดยให้หัวลูกศรชไี้ ปทางหมายเลขของผ้บู ริโภค

3. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คน ออกมาเขียนคำตอบของตนเองหน้าชั้นเรียน โดยให้เพ่ือนในชั้นเรียน
ร่วมกันพิจารณาและเสนอความคิดว่าคำตอบถูกต้องหรือไม่ และควรเป็นอย่างไร จากนั้น

21

นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายจากการทำกิจกรรม Engaging Activity ว่า “สิ่งมีชีวิตมี
ความสัมพันธ์แบบกินกันเป็นอาหาร โดยในธรรมชาติสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งสามารถบริโภคสิ่งมีชีวิต
อน่ื ได้มากกว่า 1 ชนิด กลายเป็นความสัมพันธ์ของส่ิงมชี ีวติ ทีม่ คี วามซับซอ้ น”
ข้ันท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore)
1. ครูถามคำถาม Key Question จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ เพื่อทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนว่า “พลังงานที่
มนษุ ยใ์ ชท้ ำกจิ กรรมมาจากแหลง่ ใด และถ่ายทอดมาสู่มนุษยไ์ ดอ้ ย่างไร”
(แนวตอบ : พลังงานที่มนุษย์ใช้ทำกิจกรรมมาจากการบริโภคอาหาร โดยเริ่มต้นจากพืชเปลี่ยน
พลังงานแสงจากดวงอาทิตย์ใหเ้ ปน็ พลังงานเคมีแล้วถ่ายทอดมาสู่ผู้บรโิ ภคพชื ไปสู่มนษุ ย์ ตามลำดับ โดยมนุษย์
สามารถไดร้ ับพลังงานจากพืชโดยการบรโิ ภคพืชหรอื บรโิ ภคสตั วท์ บี่ ริโภคพชื กไ็ ด้)
2. ครูตัง้ ประเด็นคำถามกระตุ้นความคิดนักเรยี นว่า “ถ้าสงิ่ มชี วี ติ ไม่มีการกินกันเปน็ ทอด ๆ จะส่งผล
กระทบกับสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศอย่างไร” โดยให้นักเรียนแต่ละคนร่วมกันอภิปรายแสดงความ
คดิ เห็นอยา่ งอสิ ระโดยไม่มกี ารเฉลยวา่ ถกู หรอื ผดิ
(แนวตอบ : สิ่งมีชีวิตชีวิตนั้นจะมีโอกาสสูญพันธุม์ ากกว่าสิ่งมชี ีวิตท่ีกินสิ่งมีชีวิตอืน่ ได้หลากหลายกวา่
นอกจากนใี้ นระบบนิเวศน้นั จะไมเ่ กดิ การถ่ายทอดพลงั งาน)
3. นกั เรยี นแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กล่มุ ตามความสมัครใจ จากนัน้ ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษา
ค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง โซ่อาหารและการเขียนแผนภาพโซ่อาหาร จากหนังสือเรียนรายวิชา
พื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 ระบบนิเวศ หรือแหล่งการ
เรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต ห้องสมุด เมื่อสมาชิกคนใดเข้าใจแล้ว อธิบายให้เพื่อนสมาชิกใน
กล่มุ เขา้ ใจเพ่ือความรวดเร็วในการศึกษาเน้ือหา
4. ครูกำหนดและเขยี นชอ่ื สิง่ มชี วี ติ บนกระดานให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม ดังนี้

• กลุ่มที่ 1 : มนุษย์ แซลม่อน แพลงกต์ อนสตั ว์ ฉลาม แพลงก์ตอนพชื

• กลมุ่ ที่ 2 : กะหล่ำปลี เหยี่ยว หนอน งู นกกระจอก

• กลุ่มท่ี 3 : แมว สิงโต หนู ขา้ วโพด สุนขั จิ้งจอก
5. นักเรียนแต่ละกลุ่มวิเคราะห์สิ่งมีชีวิตที่ครูกำหนดให้ และร่วมกันเขียนแผนภาพโซ่อาหารลงใน

กระดาษ A4 วาดภาพระบายสีส่งิ มีชวี ิต พร้อมตกแตง่ ใหส้ วยงาม
คาบท่ี 3-4
ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain)

1. ให้ตัวแทนกลุ่มของแต่ละกลุ่มนำเสนอโซ่อาหารของตนเอง โดยนำผลงานของตนเองไปติดไว้บน
กระดานดว้ ยสกอตเทป และนำเสนอผลงาน เมือ่ ตวั แทนกลุ่มนำเสนอจบแลว้ นักเรียนคนใดมีข้อ
สงสัย หรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ให้ยกมือแล้วลุกขึ้นถามคำถามหรือแสดงความคิดเห็นให้กับ
ผลงานของเพื่อนกลุ่มอื่น ในระหว่างนี้ ครูจะประเมินความถูกต้องของโซ่อาหารและอธิบาย
เพ่ิมเตมิ ให้นักเรียนเกิดความเขา้ ใจท่ีตรงกัน

2. เมื่อตัวแทนทั้ง 3 กลุ่มนำเสนอครบทั้ง 3 กลุ่มแล้ว ครูสุ่มเรียกนักเรียน 1-2 คน อธิบายเกี่ยวกบั
“สายใยอาหาร”

3. ครอู ธิบายเพิม่ เติมให้นักเรยี นเข้าใจวา่ “ในธรรมชาตสิ ่งิ มีชวี ติ ไม่ได้กินส่งิ มีชีวติ เพียงชนิดเดียว แต่
สามารถกินสิ่งมีชีวิตอื่นได้มากกว่า 1 ชนิด ทำให้เกิดการกินที่ซับซ้อน หรือมีโซ่อาหารมากกว่า
หลายโซ่ เรยี กว่า สายใยอาหาร”

22

4. ครูตั้งประเด็นกระตุ้นความคิดของนักเรียนว่า หากสิ่งมีชีวิตที่ครูกำหนดให้กับแต่ละกลุ่มข้างต้น
อยู่ในระบบนิเวศเดียวกันจะเกิดการกินที่ซับซ้อน ให้นักเรียนเขียนแผนภาพสายใยอาหารของ
ระบบนเิ วศน้ี

5. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันอภิปรายสายใยอาหารเพ่ือให้ได้ข้อสรุปว่า สายใยอาหารของระบบนิเวศนี้
สามารถเขียนได้จากการนำโซ่อาหารของแต่ละกลุม่ มาเช่ือมโยงกนั เป็นสายใย ดงั น้ี
• โซอ่ าหารกล่มุ ที่ 1 : แพงก์ตอนพืช → แพลงก์ตอนสัตว์ → แซลมอ่ น → ฉลาม → มนษุ ย์
• โซอ่ าหารกลุ่มท่ี 2 : กะหลำ่ ปลี → หนอน → นกกระจอก → งู → เหย่ยี ว
• โซ่อาหารกลุ่มท่ี 3 : ข้าวโพด → หนู → แมว → สนุ ขั จ้งิ จอก → สงิ โต

6. ครูตั้งประเด็นถามคำถามให้นักเรียนคิดต่อไปว่า ปริมาณพลังงานที่ถ่ายทอดจากผู้ผลิตไปยัง
ผูบ้ ริโภคจะมากขน้ึ หรือนอ้ ยลง ซงึ่ นกั เรียนจะไดท้ ราบหลังทำกิจกรรมต่อไปนี้

7. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน ตามความสมัครใจ แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษา
กิจกรรม จำลองการถ่ายทอดพลังงานในสายใยอาหารจากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ จากนั้นให้สมาชิก
ภายในกลุ่มผลัดกันอธิบายแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันก่อนเริ่มปฏิบัติ
กิจกรรม

8. ครูใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือมาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดให้สมาชิกแต่ละคน
ภายในกล่มุ มีบทบาทหนา้ ท่ขี องตนเอง ดงั น้ี
• สมาชิกคนที่ 1-2 ทำหน้าท่ีเตรียมวสั ดอุ ปุ กรณ์ทใ่ี ชใ้ นการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมจำลองการถ่ายทอด
พลังงานในสายใยอาหาร
• สมาชกิ คนที่ 3-4 ทำหน้าทอี่ า่ นวิธปี ฏบิ ัตกิ จิ กรรม และนำมาอธบิ ายให้สมาชิกในกลุม่ ฟงั
• สมาชกิ คนท่ี 5-6 ทำหน้าทบี่ นั ทึกผลการปฏิบัตกิ จิ กรรมลงในสมดุ ประจำตัวนกั เรียน

9. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันปฏิบัติกิจกรรมตามขั้นตอนเพื่อสร้างแบบจำลอง จากหนังสือเรียน
รายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ระบบนิเวศ

10. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอแบบจำลองหน้าชั้นเรียน ในระหว่างที่นักเรียนนำเสนอ ครู
คอยให้ข้อเสนอแนะเพม่ิ เติม เพ่อื ใหน้ กั เรยี นมีความเขา้ ใจที่ถกู ต้อง
(หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบประเมินการนำเสนอผลงาน)

23

11. ครูถามคำถามท้ายกิจกรรม โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภปิ รายแสดงความคิดเห็นเพื่อหา
คำตอบ ดังนี้
สิง่ มีชีวติ เริม่ ต้นของสายใยอาหารเปน็ ส่ิงมชี ีวิตชนดิ ใด
(แนวตอบ : พืช)
ผูบ้ ริโภคลำดับท่ี 1 มักเป็นสงิ่ มชี ีวิตประเภทใด
(แนวตอบ : ผบู้ รโิ ภคพชื )
ระดบั พลงั งานในสายใยอาหารท่ีถูกถ่ายทอดไปตามลำดบั ขน้ั เป็นอยา่ งไร
(แนวตอบ : ลดลงตามลำดบั ของผู้บริโภคที่สงู ขน้ึ )

12. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลการปฏิบัติกิจกรรม จำลองการถ่ายทอดพลังงานในสายใย
อาหาร เพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า “ปริมาณพลังงานจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคลำดับต่าง ๆ จะ
ลดลงไปทีละข้ันตามลำดับของผู้บริโภคที่สูงขึ้น เนื่องจากสิง่ มีชีวิตไมไ่ ด้กินสิง่ มชี ีวิตอื่นทั้งหมด มี
บางส่วนที่ไม่สามารถย่อยสลายหรือดูดซึมไปใช้ได้ รวมทั้งในการดำรงชีวิตประจำวัน พลังงาน
ความร้อนบางส่วนจะถูกถ่ายโอนสู่สิ่งแวดล้อม ดังนั้น แบบจำลองที่สร้างควรมีลักษณะคล้ายกบั
พีระมิดฐานสามเหลย่ี ม”

13. ครูถามนักเรียนว่า แล้วปริมาณสารพิษที่ปนเปื้อนในโซ่อาหารจะเป็นอย่างไร เหมือนกับการ
ถ่ายทอดปริมาณพลังงานหรือไม่ อย่างไร ให้นักเรียนเสนอความคิดอย่างอิสระ แล้วครูจึงค่อย
เฉลยคำตอบท่ถี ูกตอ้ ง
(แนวตอบ : ไมเ่ หมือนกัน ปรมิ าณสารพิษทปี่ นเปน้ื ในโซ่อาหารจะเพมิ่ ข้ึน ตามลำดบั โดยเริ่มจาก
ผ้ผู ลติ ไปยงั ผูบ้ ริโภค ซงึ่ ผ้บู รโิ ภคลำดับสดุ ท้ายจะได้รับปรมิ าณสารพิษมากทสี่ ดุ )

14. อธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจว่า “สารพิษที่ปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม จะปนเปื้อนไปตามโซ่
อาหารเชน่ กนั โดยเร่ิมจากผู้ผลิตไปยังผู้บรโิ ภคลำดบั ที่สงู ขึน้ ปรมิ าณสารพิษจะเพ่ิมขึ้นตามลำดับ
ของผูบ้ รโิ ภค ดังนน้ั ผบู้ ริโภคลำดบั สุดทา้ ยจะไดร้ ับปรมิ าณสารพิษมากท่สี ุด”

15. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามเนื้อหาเกี่ยวกับ เรื่อง โซ่อาหารและสายใยอาหาร และให้ความรู้
เพิ่มเติมจากคำถามของนักเรียน โดยครูใช้ PowerPoint เรื่อง โซ่อาหารและสายใยอาหาร
ในการอธบิ ายเพิ่มเติม

16. นักเรยี นแตล่ ะคนศึกษาคน้ คว้าข้อมูลเพมิ่ เติมเกย่ี วกบั สายใยอาหาร จาก QR Code เร่ือง สายใย
อาหาร

17. ให้นักเรียนทำ Topic Questions เรื่อง โซ่อาหารและสายใยอาหาร จากหนังสือเรียนรายวิชา
พื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ ลงในสมุด
ประจำตวั นักเรยี น

18. ใหน้ กั เรียนแต่ละคนทำแบบฝกึ หัด เรื่อง โซ่อาหารและสายใยอาหาร จากแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ เปน็ การบ้านส่งในชัว่ โมงถัดไป

ขั้นท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate)
1. ให้นักเรียนวิเคราะห์สายใยอาหารจากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เล่ม 1 หน้า 26 แล้วเขียนโซ่อาหารทั้งหมดลงในกระดาษ A4 พร้อมกับสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม
เพื่อระบุประเภทของโซ่อาหารแต่ละโซ่อาหาร ตกแต่งชิ้นงานให้สวยงาม แล้วนำมาส่งครูในวัน
ถดั ไป

24

2. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับโซ่อาหารและสายใยอาหาร ซึ่งควรได้ข้อสรุปร่วมกันว่า
“การถา่ ยทอดพลงั งานในระบบนเิ วศเป็นรปู แบบความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสิ่งมีชีวิตท่ีสำคัญอย่างหน่ึง
ในระบบนิเวศ ซง่ึ โซอ่ าหารมีความสัมพนั ธ์กับส่ิงมชี วี ิตในบริเวณเดียวกันท่ีมีการถ่ายทอดพลังงาน
ผ่านการกินต่อกันเป็นทอด ๆ เริ่มจากสิ่งมีชีวิตที่เป็นผู้ผลิต และสายใยอาหารเป็นการถ่ายทอด
พลังงานผา่ นการกนิ ทีซ่ ับซอ้ นมากขนึ้ ”

ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครตู รวจแบบฝึกหัด เรอ่ื ง โซอ่ าหารและสายใยอาหาร จากแบบฝึกหัดวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ม.3 เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 ระบบนิเวศ
2. ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนก่อนเข้าสู่กิจกรรมการเรียนการสอนจากกรอบ Check for
Understanding ในสมุดประจำตวั นักเรียน
3. ครูตรวจสอบผลการปฏิบตั ิกจิ กรรม จำลองการถา่ ยทอดพลังงานในสายใยอาหาร
4. ครูประเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม และจากการนำเสนอผลการปฏิบตั กิ ิจกรรมหนา้ ช้ันเรียน

10. ส่ือและแหล่งเรียนรู้
10.1 หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1

ระบบนเิ วศ
10.2 แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ
10.3 วสั ดอุ ุปกรณ์ทีใ่ ช้ในการปฏิบตั ิกจิ กรรมจำลองการถา่ ยทอดพลังงานในสายใยอาหาร
10.4 PowerPoint เรื่อง ความสัมพนั ธ์ระหว่างส่ิงมีชวี ติ ในระบบนเิ วศ
10.5 สมดุ ประจำตวั นักเรียน

ลงชอื่ ..................................................... ครูผูส้ อน
(นางสาวสาสนะ บาเหม)

วันท่ี ............. เดือน ............................... พ.ศ. .................

ลงชื่อ ....................................................ผู้นเิ ทศ
(.....................................................)

วนั ท่ี ............. เดือน ............................... พ.ศ. .................

ลงชอื่ .................................................หวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ
(นายยซู ุฟ อบิ ู)

วนั ท่ี ............. เดือน ............................... พ.ศ. .................

25

11. บนั ทกึ ผลการจัดการเรียนรู้
ผลการจดั การเรยี นรู้ (ระบุรายชือ่ นักเรยี นท่ีไมบ่ รรลผุ ล/ตัวช้วี ดั )

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
อุปสรรค/ปญั หา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
การแก้ไขปรับปรงุ

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ผลการแกไ้ ขปรบั ปรุง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื ..................................................... ครูผู้สอน
(นางสาวสาสนะ บาเหม)

วนั ที่ ............. เดือน ............................... พ.ศ. ................

ความเหน็ /ข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื .................................................หวั หน้ากล่มุ สาระฯ
(นายยซู ฟุ อิบ)ู

วนั ท่ี ............. เดอื น ............................... พ.ศ. .................

26

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 5

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ระบบนเิ วศ เรอื่ ง สมดลุ ระบบนิเวศ จำนวน 3 คาบ

รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว23101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ครผู สู้ อน นางสาวสาสนะ บาเหม

1. มาตรฐาน
มาตรฐาน ว.1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนเิ วศ ความสมั พันธ์ระหวา่ งสง่ิ ไมม่ ชี วี ิตกบั สิ่งมีชีวิต

และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การเปลี่ยนแปลง
แทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดลอ้ ม แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมรวมทั้งนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์

2. ตวั ช้ีวัด

ว.1.1 ม.3/6 ตระหนักถึงความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศโดยไม่ทำลาย
สมดลุ ของระบบนเิ วศ

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1 อธิบายแนวทางการรักษาสมดุลของระบบนเิ วศ (K)
3.2 ออกแบบและเสนอวิธีการรกั ษาสมดุลของระบบนเิ วศ (P)
3.3 ตระหนกั ถึงความสมั พนั ธ์ของสง่ิ มชี วี ิตและส่ิงแวดล้อมในระบบนเิ วศ (A)

3.4 มวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ มน่ั ในการทำงาน (A)

4. สาระสำคัญ
ในระบบนิเวศต้องมีกระบวนการถ่ายทอดพลังงานท่ีเกิดข้ึนพร้อมกับการหมนุ เวียนสาร และในระบบ

นเิ วศหนึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบที่ไม่มชี ีวติ และองคป์ ระกอบที่มชี วี ิต ซงึ่ มีความสัมพันธก์ นั อย่างเหมาะสม
ระบบนเิ วศจงึ จะอยู่ในสภาวะสมดลุ

5. สาระการเรียนรู้
5.1 ความสัมพนั ธ์ของสงิ่ มชี วี ิตและสิง่ แวดล้อมในระบบนิเวศทีไ่ มท่ ำลายสมดลุ ของระบบนิเวศ

6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
6.1 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
6.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
6.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

27

7. ช้นิ งาน/ภาระงาน
7.1 สมุดประจำตวั หรือแบบฝึกหัดวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1
7.2 แผนผังมโนทศั น์ เรื่อง ระบบนิเวศ

8. การวัดผลและการประเมินผล

วิธกี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑ์ผ่านการประเมิน

ด้านความรู้-ความเขา้ ใจ (K) - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- อธิบายแนวทางการรักษาสมดุลของ - แผนผังมโนทศั น์ เรือ่ ง ระบบนิเวศ
- ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ระบบนิเวศ - สมุดประจำตัว หรือแบบฝกึ หัด
- ระดบั คุณภาพดี ขึ้นไป
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 - ระดับคณุ ภาพดี ขึน้ ไป
- ระดบั คุณภาพดี ขึน้ ไป
- แบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการ - ระดับคุณภาพดี ข้นึ ไป

เรียนรทู้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ

ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) - แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
- ออกแบบและเสนอวธิ ีการรักษา - แบบประเมนิ แผนผังมโนทัศน์
สมดลุ ของระบบนิเวศ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ
- กระบวนการกลุ่ม
- แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ
ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) ประสงค์
- มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมนั่ ในการทำงาน

9. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1-2
ขั้นที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)

1. ครูเปิดข่าวเกี่ยวกับไฟป่าที่เกิดขึ้นกับประเทศออสเตรเลียที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2562
แลว้ ร่วมกันอภิปรายความเสียหายและผลกระทบที่เกิดขึน้

2. ครูให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระว่า เหตุการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในประเทศออสเตรเลีย
จะสง่ ผลกระทบตอ่ สมดุลของระบบนเิ วศอยา่ งไรบา้ ง

3. ครูเกรนิ่ นำวา่ นอกเหนอื จากไฟป่าแล้ว ยงั มีสาเหตุอ่นื ทีท่ ำให้ระบบนิเวศเสียสมดุล โดยครูเตรียม
บตั รภาพ จำนวน 5 ภาพ ไดแ้ ก่ การสรา้ งเขื่อน คนลา่ สัตว์ ควันจากโรงงานอุตสาหกรรม น้ำเสีย
ทีถ่ กู ปลอ่ ยจากโรงงานอุตสาหกรรม และน้ำมันร่วั ไหลกลางทะเล มานกั เรยี นศกึ ษา

ขัน้ ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore)
1. ให้นกั เรียนแบง่ กลุม่ ออกเปน็ 5 กลุ่ม ตามความสมคั รใจของนักเรยี น
2. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมารับบัตรภาพ โดยกลุ่มที่ 1 2 3 4 และ 5 รับบัตรภาพที่ 1 2
3 4 และ 5 ตามลำดบั
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มสำรวจบัตรภาพ พร้อมทั้งอธิบายว่า การกระทำที่เกิดขึ้นทำให้ระบบนิเวศเสีย
สมดลุ อยา่ งไร

28

4. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาค้นคว้าข้อมูล จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ หรือแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น
อินเทอร์เน็ต และออกแบบกจิ กรรมทีช่ ่วยรกั ษาสมดลุ ของระบบนเิ วศจากบัตรภาพ

5. สมาชิกภายในกลุ่มร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็น จากนั้นให้แต่ละกลุ่มรวบรวมข้อมูลที่ได้
จากการอภิปรายแสดงความคดิ เหน็ ลงในกระดาษ A4
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม)

ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain)
1. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลกระทบที่มีต่อระบบนิเวศ และแนวทางการอนุรักษ์ระบบ
นิเวศให้สมดุลหนา้ ชั้นเรียน ในระหว่างทีน่ ักเรียนนำเสนอ ครูคอยให้ข้อเสนอแนะเพิม่ เติมเพ่ือให้
นกั เรยี นมคี วามเข้าใจทถี่ กู ต้อง
(หมายเหตุ : ครเู รมิ่ ประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบประเมินการนำเสนอผลงาน)

คาบที่ 3
ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain)

2. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลจากการนำเสนอผลกระทบที่มีต่อระบบนิเวศ และแนวทาง
การอนรุ ักษ์ระบบนิเวศให้สมดลุ เพ่ือให้ได้ขอ้ สรุปรว่ มกัน ดงั นี้
• “ภาพที่ 1 การสร้างเขื่อน เป็นการใช้พื้นที่ป่าไม้เป็นจำนวนมากเพื่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาด
ใหญ่ ทำให้สูญเสียต้นไม้เป็นจำนวนมาก ทำให้สัตว์ป่าไม่มีที่อยู่อาศัย และไม่มีแหล่งอาหาร
ดงั นัน้

หากวาดภาพสายใยอาหารจะพบว่า การสรา้ งเขือ่ นจะสง่ ผลกระทบต่อผู้บรโิ ภคพชื เปน็ ลำดบั แรก และ
ส่งผลกระทบทางอ้อมตอ่ ผบู้ รโิ ภคประเภทอ่ืนตามมาเป็นลำดบั เน่ืองจากสง่ิ มีชีวิตมีการกินกันเป็นทอด ๆ แนว
ทางการอนุรกั ษ์อาจจะเริม่ จากการปลูกปา่ ทดแทนพ้ืนที่ท่สี ูญเสยี ไป

• ภาพที่ 2 คนล่าสัตว์ เป็นการฆ่าสัตว์เพื่อนำอวัยวะต่าง ๆ ของสัตว์ไปขาย หรือล่าสัตว์เพ่ือ
นำมาบริโภค ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภคสิ่งมีชีวิตชนิดนั้นโดยตรง และส่งผล
กระทบโดยอ้อมต่อสิ่งมีชีวิตอื่นที่มีความเก่ียวข้องกับสิ่งมีชีวิตที่บริโภคสัตว์ชนิดนั้น ทำให้
จำนวนสง่ิ มชี วี ิตในโซอ่ าหารไม่สมดุล และส่งผลกระทบต่อสายใยอาหารในระบบนิเวศ และทำ
ใหร้ ะบบนิเวศเสยี สมดุลในท่สี ดุ แนวทางการอนุรักษ์อาจเริ่มจากการรณรงค์ไม่ให้มีการล่าสัตว์
และรว่ มกนั อนุรักษ์ไม่ใหส้ ัตวป์ า่ สญู พนั ธุ์โดยเฉพาพนั ธุ์สตั วป์ ่าทห่ี ายาก

• ภาพที่ 3 ควันจากโรงงานอุตสาหกรรม เป็นมลพิษทางอากาศอย่างหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อ
สิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น โรงงานถ่านหินที่มักปล่อยแก๊สที่มีส่วนประกอบของกำมะถัน เม่ือ
แกส๊ เหลา่ นี้ลอยไปสะสมกบั น้ำในบรรยากาศ ส่งผลให้นำ้ ฝนทตี่ กลงมามีฤทธ์ิเป็นกรด จะส่งผล
กระทบต่อพืชซึ่งเป็นผูผ้ ลิตซึ่งเป็นสิง่ มีชวี ิตเร่ิมต้นในโซ่อาหารหรือสายใยอาหาร หากพืชได้รบั
ความเสียหายจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคตามมา แนวทางการอนุรักษ์อาจรณรงค์ให้โรงงาน
อุตสาหกรรมมีการตรวจสอบและกำจัดมลพิษที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต เพื่อลดปัญหา
มลพษิ ร่วั ไหลสู่ส่งิ แวดลอ้ มให้ได้มากทส่ี ุด

• ภาพท่ี 4 นำ้ เสยี ทถี่ กู ปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรม เปน็ การปลอ่ ยสารเคมลี งสู่แม่น้ำ ทำให้
สัตว์น้ำตายเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดน้ำเน่าเสีย นอกจากนี้น้ำเสียที่ปล่อยออกจากโรงงาน
อตุ สาหกรรม ยงั ส่งผลใหม้ กี ารสะสมสารเคมใี นโซ่อาหาร ซ่ึงปริมาณสารเคมีท่ีสะสมจากผู้ผลิต

29

ไปยังผู้บริโภค จะเพิ่มขึ้นตามลำดับของผู้บริโภคที่สูงขึ้น โดยผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด
คือ ผู้บริโภคลำดับสุดท้าย ซึ่งส่วนใหญ่คือ มนุษย์ แนวทางการอนุรักษ์ คือ รณรงค์ให้โรงงาน
อุตสาหกรรมมีการตรวจสอบและกำจัดมลพิษที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต เพื่อลดปัญหา
มลพิษร่วั ไหลสู่ส่งิ แวดล้อม
• ภาพที่ 5 น้ำมันรั่วไหลกลางทะเล เป็นการปล่อยสารเคมีลงสู่น้ำทะเลโดยตรง ส่งผลให้สัตว์
ทะเลบางชนิดตายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากนำ้ มนั ที่รั่วไหลปิดกั้นการละลายของออกซเิ จนใน
อากาศ ทำให้สัตว์ทะเลขาดออกซิเจนและตายในที่สุด นอกจากนี้สารเคมีที่ปนเปื้อนอยู่ใน
น้ำมนั อาจทำปฏิกริ ิยากับออกซิเจนในน้ำ ทำให้ปรมิ าณออกซิเจนในนำ้ ลดลง และยังทำให้เกิด
การสะสมสารพิษในโซ่อาหาร ดังนั้น แนวทางการอนุรักษ์ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์น้ำมัน
รั่วไหลของน้ำมัน เพิ่มความปลอดภัย ตรวจเช็คสภาพเรือและถังน้ำมันให้อยู่ในสภาพดีก่อน
ขนส่ง”
3. ครูเปดิ โอกาสให้นกั เรียนซกั ถามเนอื้ หาเก่ยี วกับ เรอื่ ง สมดุลระบบนิเวศ และใหค้ วามรู้เพิ่มเตมิ
4. คำถามของนักเรียน โดยครูใช้ PowerPoint เรอ่ื ง สมดลุ ระบบนิเวศ ในการอธิบายเพมิ่ เติม
5. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของปะการังว่า “ปะการังเป็น
ทรพั ยากรธรรมชาติท่ีสำคัญต่อบรเิ วณชายฝ่งั ทะเล เป็นทอ่ี ย่อู าศัย แหล่งอาหาร แหล่งเพาะพันธ์ุ
ของสตั วท์ ะเล ซ่ึงมีสว่ นช่วยรกั ษาสมดลุ ธรรมชาติ”
6. นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเองจากกรอบ Self Check เรื่อง ระบบนิเวศ จากหนังสือ
เรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ
โดยบนั ทึกลงในสมุดประจำตวั นกั เรียน
7. ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นทำ Unit Questions เรอื่ ง ระบบนเิ วศ จากหนังสือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน
วทิ ยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 ระบบนิเวศ โดยทำลงในสมดุ ประจำตัวนกั เรยี น
8. นักเรียนแต่ละคนทำแบบฝึกหัด เรื่อง สมดุลระบบนิเวศ จากแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ระบบนิเวศ เป็นการบ้านสง่ ในช่ัวโมงถดั ไป
9. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ เพื่อเป็นการวดั ความรู้หลัง
เรียนของนกั เรยี น
10. นักเรียนแต่ละคนนำความรู้ท่ีไดจ้ ากการเรยี นของหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบนิเวศ มาเขียนสรปุ
เปน็ แผนผงั มโนทัศน์ ลงในกระดาษ A4 พรอ้ มตกแตง่ ใหส้ วยงาม
ข้นั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate)
1. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 5-6 คน ตามความสมัครใจ โดยให้แตล่ ะกลุ่มทำกจิ กรรม Application
Activity เพื่อระดมความคิดออกแบบกิจกรรมฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางทะเล และนำเสนอแน
ทางการดูแลรักษาระบบนิเวศตามแนวชายฝัง่ ทะเล โดยอาจจัดทำเป็นโครงการ หรือทำเป็นแผน่
พับ แล้วร่วมกันรณรงค์ให้คนในชุมชนไม่ทำลายสิ่งแล้วเพื่อปลูกจิตสำนึก และตระหนักถึงสมดุล
ของระบบนเิ วศ
2. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับสมดุลระบบนิเวศ ซึ่งควรได้ข้อสรุปร่วมกันว่า “สิ่งมีชีวิตใน
ระบบนิเวศล้วนมีกลไกในการปรับสภาวะตัวเอง เนื่องจากสิ่งมีชีวิตต่างก็มีบทบาทและหน้าที่ท่ี
แตกต่างกัน กล่าวคือ สิ่งมีชีวิตบางชนิดทำหน้าที่เป็นผู้ผลิต หรือผู้บริโภค หรือผู้ย่อยสลาย
สารอินทรีย์ ซึ่งทำให้เกิดการหมุนเวียนสารเป็นวัฏจักรและเกิดขึ้นไปพร้อมกับการถ่ายทอด
พลังงาน ทำให้ระบบนิเวศเกดิ ความสมดุล”

30

ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูตรวจสอบแบบฝกึ หัด เรื่อง สมดุลระบบนเิ วศ จากแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เลม่ 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ระบบนิเวศ
2. ครูตรวจสอบผลการตรวจสอบความเข้าใจของตนเองจากกรอบ Self Check เรื่อง
ระบบนิเวศในสมดุ ประจำตวั นกั เรยี น
3. ครตู รวจแบบฝึกหัด Unit Questions เรือ่ ง ระบบนิเวศ ในสมุดประจำตวั นกั เรยี น
4. ครูวดั และประเมินผลจากชิน้ งาน/ผลงาน แผนผงั มโนทัศน์ เรือ่ ง ระบบนิเวศ
5. ครตู รวจสอบผลการทำแบบทดสอบหลังเรยี นหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 ระบบนิเวศ เพื่อตรวจสอบ
ความเข้าใจหลงั เรียนของนักเรียน
6. ครูประเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
พฤติกรรมการทำงานกลุม่ และจากการนำเสนอผลการปฏิบัตกิ ิจกรรมหน้าชั้นเรียน

10. ส่ือและแหล่งเรยี นรู้
10.1 หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1

ระบบนิเวศ
10.2 แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 ระบบนเิ วศ
10.3 PowerPoint เร่อื ง สมดลุ ระบบนิเวศ
10.4 บตั รภาพ
10.5 สมุดประจำตวั นักเรยี น

ลงช่อื ..................................................... ครผู สู้ อน
(นางสาวสาสนะ บาเหม)

วนั ท่ี ............. เดือน ............................... พ.ศ. .................

ลงชอ่ื ....................................................ผูน้ ิเทศ
(.....................................................)

วนั ที่ ............. เดือน ............................... พ.ศ. .................

ลงชอ่ื .................................................หัวหน้ากล่มุ สาระฯ
(นายยซู ฟุ อบิ ู)

วนั ที่ ............. เดือน ............................... พ.ศ. .................

31

11. บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้
ผลการจัดการเรยี นรู้ (ระบรุ ายชอื่ นกั เรียนท่ีไม่บรรลผุ ล/ตัวชวี้ ัด)

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
อุปสรรค/ปัญหา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
การแก้ไขปรับปรงุ

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ผลการแกไ้ ขปรบั ปรงุ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื ..................................................... ครูผสู้ อน
(นางสาวสาสนะ บาเหม)

วันที่ ............. เดอื น ............................... พ.ศ. ................

ความเห็น/ข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ .................................................หัวหนา้ กลุ่มสาระฯ
(นายยซู ุฟ อิบ)ู

วันที่ ............. เดือน ............................... พ.ศ. .................

32

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 6

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 ระบบนเิ วศ เรือ่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ จำนวน 3 คาบ

รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว23101 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ครูผู้สอน นางสาวสาสนะ บาเหม

1. มาตรฐาน

มาตรฐาน ว.1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร
พนั ธุกรรม การเปล่ียนแปลงทางพันธกุ รรมท่ีมผี ลต่อสิง่ มชี ีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและววิ ฒั นาการของ
สิง่ มีชวี ิต รวมท้ังนำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์

2. ตัวช้ีวดั

ว.1.3 ม.3/9 เปรียบเทียบความหลากหลายทางชีวภาพในระดับชนดิ สงิ่ มชี ีวิตในระบบนเิ วศตา่ งๆ
ว.1.3 ม.3/10 อธิบายความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพที่มีต่อการรักษาสมดุลของ
ระบบนิเวศและตม่ นุษย์
ว.1.3 ม.3/11 แสดงความตระหนักในคณุ ค่าและความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมี
ส่วนร่วมในการดูแลรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

3.1 อธิบายความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพที่มีต่อการรักษาสมดุลของระบบนิเวศและ
ตอ่ มนษุ ย์ (K)

3.2 เปรียบเทยี บความหลากหลายทางชวี ภาพระดับชนดิ ของส่งิ มีชีวิตในระบบนิเวศต่าง ๆ (P)
3.3 ตระหนกั ถึงคณุ ค่าและความสำคัญของความหลากหลายทางชวี ภาพ (A)

3.4 มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ มุง่ ม่ันในการทำงาน

4. สาระสำคัญ

ความหลากหลายทางชีวภาพแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ความหลากหลายทางระบบนิเวศ
ความหลากหลายของชนิดสิ่งมีชีวิต และความหลากหลายทางพันธุกรรม ซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพ
ในระบบนิเวศในแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกัน บางระบบนิเวศมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง
บางระบบนิเวศมีความหลากหลายทางชีวภาพต่ำ ซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพมีความสำคัญต่อการรักษา
สมดุลของระบบนิเวศ และมีความสำคัญต่อมนุษย์ ดังนั้น จึงควรร่วมกันดูแลรักษาความหลากหลาย
ทางชวี ภาพโดยการรว่ มกนั อนรุ กั ษพ์ นั ธสุ์ ตั ว์ ใช้ทรพั ยากรอย่างประหยัดและรูค้ ณุ ค่า

5. สาระการเรียนรู้
5.1 ความหลากหลายทางชีวภาพในระดับสง่ิ มชี ีวิตในระบบนเิ วศต่างๆ
5.2 ความสำคัญของความหลากหลายทางชวี ภาพท่ีมตี ่อการรักษาสมดุลของระบบนเิ วศ
5.3 การมสี ่วนร่วมในการดูแลรกั ษาความหลากหลายทางชวี ภาพ

33

6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
6.1 ความสามารถในการแก้ปัญหา
6.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

7. ชิ้นงาน/ภาระงาน
7.1 สมดุ ประจำตัว หรอื แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1
7.2 แผนผังมโนทัศน์ เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ

8. การวัดผลและการประเมินผล

วิธกี ารวัด เครอ่ื งมอื เกณฑผ์ า่ นการประเมิน
- ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ด้านความรู้-ความเขา้ ใจ (K) - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- อ ธ ิ บ า ย ค ว า ม สำ ค ัญ ข อ ง คว าม - แผนผงั มโนทัศน์ เรื่อง ความ
- ระดับคุณภาพดี ขน้ึ ไป
หลากหลายทางชีวภาพที่มีต่อการ หลากหลายทางชวี ภาพ - ระดบั คุณภาพดี ขึ้นไป
- ระดับคณุ ภาพดี ขน้ึ ไป
รักษาสมดุลของระบบนิเวศและต่อ - สมดุ ประจำตวั หรอื แบบฝกึ หัด - ระดบั คณุ ภาพดี ขึน้ ไป

มนุษย์ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1

- แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการ

เรยี นรู้ท่ี 1 ระบบนิเวศ

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)

- เปรียบเทียบความหลากหลายทาง - แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน

ชีวภาพระดับชนิดของสิ่งมีชีวิตใน - แบบประเมินแผนผงั มโนทัศน์

ระบบนิเวศต่าง ๆ - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม

- กระบวนการกลุ่ม

ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) - แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ

- มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน ประสงค์

9. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1
ข้ันท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage)

1. ให้นักเรียนทำกิจกรรม Engaging Activity ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 เปรียบเทียบความหลากหลายของชนิดของสิ่งมีชีวิตระหว่างภาพที่ 1 กับ
ภาพที่ 2

2. นักเรยี นและครูรว่ มกันอภิปรายผลที่ไดจ้ ากการทำกจิ กรรม เพอ่ื ให้ได้ข้อสรุปวา่ “ภาพที่ 2 มีความ
หลากหลายของชนิดของสิ่งมีชีวิตมากกว่าภาพที่ 1 เนื่องจากมีปัจจัยแวดล้อมทางกายภาพที่
สมบูรณ์และมีความเหมาะสมในการดำรงชีวิตและการกระจายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตมากกว่า ทำให้
ระบบนเิ วศในภาพท่ี 2 มีการรกั ษาสมดลุ ไดด้ ีกว่าภาพท่ี 1 ดว้ ย”

3. ครถู ามกระตุ้นความคิดของนักเรยี นว่า ทำไมสง่ิ มชี ีวติ หลายชนิดในบรเิ วณหน่ึงจึงทำให้ระบบนิเวศ
ไมส่ ูญเสียสมดลุ

34

(แนวตอบ : เพราะสงิ่ มชี วี ิตบางชนิดสามารถเลือกกนิ สิ่งมชี วี ติ อ่ืนได้ ทำให้สามารถควบคุมส่ิงมีชีวิต
บางชนิดไม่ให้มีมากเกินไป จนทำให้อาหารในระบบนิเวศไม่เพียงพอ จนมีผลต่อสิ่งมีชีวิตอื่นที่กิน
อาหารแบบเดยี วกันได้ สง่ ผลใหร้ ะบบนเิ วศไม่เสยี สมดุล)
ขน้ั ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Explore)
1. ให้นักเรียนตรวจสอบความรู้ของตนเองจากกรอบ Check for Understanding ในหนังสือเรียน
รายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ 2 พนั ธกุ รรม เรอื่ ง ความ
หลากหลายทางชวี ภาพ
2. ให้นักเรียนตอบคำถาม Key Question จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 วา่ “ระบบนิเวศทมี่ ีความหลากหลายทางชวี ภาพสูงเปน็ อย่างไร” ลงในสมุด
ประจำตัวนกั เรียน โดยครยู ังไม่เฉลยคำตอบทถ่ี กู ตอ้ ง
3. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับระบบนิเวศในประเทศไทยตามภูมิภาค
ต่าง ๆ เช่น ป่าไม้ อ่าวไทย ทะเล ป่าชายเลน ทะเลสาบ โดยเลือกข้อมลู ท่ีจะศึกษามาอย่างน้อย 2
ระบบนเิ วศ
4. ให้แต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับชนิดและสายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตของระบบนิเวศที่นักเรียนเลือก
นำมาศกึ ษา รวบรวมข้อมูล และให้นกั เรียนแตล่ ะคนสรุปขอ้ มูลลงในกระดาษ A4
5. ให้นักเรยี นรวมกล่มุ ใหม่ โดยมสี มาชกิ ทม่ี าจากกลุ่มอน่ื โดยไมใ่ ช่สมาชกิ ภายในกลมุ่ เดมิ แลกเปลี่ยน
ข้อมูลเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทยที่นักเรียนสืบค้นได้ แล้วสรุปข้อมูล
ลงในสมดุ ประจำตวั นักเรยี น
คาบที่ 2-3
ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)
1. ครสู มุ่ เรียกตัวแทนกลุม่ ออกมานำเสนอหนา้ ช้นั เรยี น
2. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั อภิปราย เพอ่ื ใหไ้ ด้ข้อสรปุ ว่า “ประเทศไทยตั้งอยู่ในโซนร้อนเหนือเส้นศูนย์
สูตร จงึ มีลกั ษณะภมู ิประเทศและลักษณะอากาศท่ีเหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของส่ิงมชี ีวิตและการ
กระจายพันธุ์ โดยแต่ละภูมิภาคของประเทศไทยต่างก็มีลักษณะภูมิประเทศที่แตกต่างกันทำให้
ระบบนิเวศในแต่ละพื้นท่ีแตกต่างกนั ด้วย พืน้ ทีใ่ ดมีสิ่งมชี วี ติ หลายชนิด ยอ่ มทำให้สิ่งมีชีวิตชนิดนั้น
มคี วามหลากหลายทางสายพันธุ์”
3. ครูถามคำถามเพอื่ ทดสอบความเข้าใจของนักเรียน ดังน้ี
4. ความหลากหลายทางชวี ภาพมีก่รี ะดบั อะไรบา้ ง
(แนวตอบ : 3 ระดบั ไดแ้ ก่ ความหลากหลายของระบบนเิ วศ ความหลากหลายของชนดิ สงิ่ มีชวี ิต
ความหลากหลายทางพนั ธกุ รรม)
5. จงเปรียบเทียบความหลากหลายของระบบนิเวศในประเทศไทยกบั ประเทศอียิปส์
(แนวตอบ : ประเทศไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพมากกว่า เนื่องจากประเทศไทยตั้งอยู่ใกล้
บรเิ วณเสน้ ศูนยส์ ตู รและเป็นประเทศท่ีอยู่ใกล้กับมหาสมทุ รแปซิฟิก และทะเลอันดามัน จึงทำให้มี
มีความหลากหลายของระบบนิเวศ และประเทศไทยมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการแพร่พันธุ์
และการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิต ดังนั้น ประเทศไทยจึงมีความหลากหลายทางชีวภาพมากกว่า
ประเทศอียิปส์ซึ่งเป็นประเทศที่มีอากาศค่อนข้างร้อน พื้นที่ส่วนมากเป็นทะเลทราย จึงไม่เหมาะ
แก่การเจรญิ เติบโตของสิ่งมชี วี ติ )

35

6. ให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 5-6 คน ทำกจิ กรรม สำรวจชนดิ พชื ภายในโรงเรียน จากหนังสือเรียน
รายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1 แล้วให้นกั เรียนแบ่งภาระหน้าท่ีรับผิดชอบ
ภายในกลมุ่

7. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั อภปิ รายผลทไี่ ดจ้ ากการทำกิจกรรม เพ่ือใหไ้ ดข้ ้อสรุปว่า “ภายในโรงเรียนมี
ระบบนิเวศหลายระบบนิเวศ เช่น สระน้ำ สวนพฤกษาสตร์ จึงพบพืชหลายชนิด แต่ละชนิดอาจมี
หลายสายพันธุ์ ซ่ึงพชื บางชนิดนำมาใช้ประกอบอาหาร เช่น ผักชี ตำลงึ ผกั กาด นอกจากนี้พืชบาง
ชนิดสามารถนำทอเป็นเครื่องนุ่งห่ม เช่น ฝ้าย หรือใช้ทำยาสมุนไพรเพื่อรักษาโรค เช่น ว่านหาง
จระเข้ หรือบางชนิดนำส่วนประกอบของพืชมาสร้างเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย เช่น ใบจาก ลำต้นไผ่
ดงั นัน้ จะเห็นว่า ความหลากหลายชนดิ ของพชื มคี วามสำคญั ต่อการดำรงชวี ิตของมนุษย์

8. ครูถามคำถามท้ายกิจกรรม
9. จากการสำรวจ ชนิดของพชื ทร่ี วบรวมไดม้ กี ชี่ นดิ อะไรบ้าง

(แนวตอบ : ขึน้ อยกู่ ับผลการสำรวจของนักเรียน)
10. พชื ทส่ี ำรวจไดม้ ีประโยชนอ์ ยา่ งไร

(แนวตอบ : ใชเ้ ปน็ อาหาร นำไปสร้างแหล่งทอ่ี ยอู่ าศัย ใชท้ ำเคร่อื งนุ่งห่ม และยารกั ษาโรค)
11. ครูอธิบายตอ่ ไปว่า “ขณะท่ีมนษุ ยเ์ ป็นส่งิ มชี วี ิตท่ีใชป้ ระโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพมาก

ท่ี สุด การกระทำของมนุษย์จงึ เป็นภัยคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพเชน่ กนั ดังน้ัน เราจึง
ตระหนักและนึกถึงคุณค่า ร่วมกันอนุรักษ์พันธุ์สิ่งมีชีวิตไม่ให้สูญพันธุ์ ช่วยกันปลูกป่าทดแทน
รณรงค์ไม่ให้ตัดไม้ทำลายป่า รวมทั้งตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากมลพิษปนเปื้อนสู่สิ่งแวดลอ้ ม
จงึ ควรรว่ มมือกนั แก้ไข ควบคมุ ไม่ให้มลพิษหรอื สารเคมีปนเปื้อนสูส่ ิ่งแวดล้อม”
12. ให้นกั เรียนทำแบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1
13. ให้นักเรียนตรวจสอบการตอบคำถาม Key Question ในสมุดประจำตัวนักเรียนให้ถูกต้อง
แล้วนำมาส่งครูภายหลงั
14. ใหน้ ักเรยี นตรวจสอบความเขา้ ใจ โดยตอบคำถาม Topic Questions ลงในสมุดประจำตวั นกั เรียน
ขนั้ ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate)
6. ให้นักเรียนสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพภายในชุมชนของนักเรียน แล้วรวบรวมข้อมูลที่ได้
จากการสำรวจมาวิเคราะห์ว่า บริเวณใดรักษาสมดุลทางระบบนิเวศได้ดีที่สุด พร้อมนำเสนอแนว
ทางการดูแลรกั ษาความหลากหลายทางชีวภาพภายในชุมชนใหย้ ง่ั ยนื ลงในสมุดประจำตวั นักเรยี น
7. นักเรียนและครูร่วมกันสรุป เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ โดยจัดทำเป็นผังมโนทัศน์ ลงใน
กระดาษ A4 พรอ้ มนำเสนอในรูปแบบทนี่ ่าสนใจ
ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครตู รวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ระบบนเิ วศ
2. ครตู รวจแบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1
3. ครูตรวจสอบการตอบคำถาม Key Question ในสมดุ ประจำตวั นกั เรียน
4. ครตู รวจคำตอบ Topic Questions ในสมุดประจำตัวนักเรียน เพอ่ื ประเมนิ ความรู้ความเข้าใจของ
นกั เรยี น
5. ครูตรวจผงั มโนทศั น์ เรอื่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ
6. ประเมินทักษะและกระบวนการโดยสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบัติการจากการทำกิจกรรม สำรวจพืช
ภายในโรงเรียน

36

7. ประเมินทกั ษะและกระบวนการโดยสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายกลุม่ การทำงานรายบคุ คล
8. ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยสังเกตความมีวินัย รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่ัน

ในการทำงาน

10. ส่ือและแหล่งเรยี นรู้
10.1 หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2

พันธกุ รรม
10.2 แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 พนั ธกุ รรม
10.3 อุปกรณท์ ใ่ี ชท้ ำกิจกรรมสำรวจพืชภายในโรงเรยี น
10.4 PowerPoint เรอื่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ
10.5 สมุดประจำตัวนกั เรียน

ลงชอื่ ..................................................... ครูผ้สู อน
(นางสาวสาสนะ บาเหม)

วันท่ี ............. เดอื น ............................... พ.ศ. .................

ลงชือ่ ....................................................ผูน้ ิเทศ
(.....................................................)

วันที่ ............. เดือน ............................... พ.ศ. .................

ลงชือ่ .................................................หัวหนา้ กลมุ่ สาระฯ
(นายยูซุฟ อิบู)

วนั ท่ี ............. เดอื น ............................... พ.ศ. .................

37

11. บันทกึ ผลการจดั การเรียนรู้
ผลการจัดการเรยี นรู้ (ระบุรายชื่อนกั เรียนท่ไี ม่บรรลุผล/ตัวช้ีวดั )

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
อปุ สรรค/ปญั หา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
การแกไ้ ขปรบั ปรงุ

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ผลการแกไ้ ขปรบั ปรุง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ ..................................................... ครูผสู้ อน
(นางสาวสาสนะ บาเหม)

วันท่ี ............. เดอื น ............................... พ.ศ. ................

ความเหน็ /ข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชื่อ .................................................หวั หนา้ กลุ่มสาระฯ
(นายยูซฟุ อิบ)ู

วันท่ี ............. เดอื น ............................... พ.ศ. .................

38

แบบบันทึกการประเมนิ ผลการใช้หน่วยการเรียนรู้

รายวิชา ……………………………………………………………… รหสั วิชา …………………………… ชนั้ …………………………
หนว่ ยท่ี ……………. ชอื่ หนว่ ย ………………………………………………………. จำนวน ………………….. แผนการเรยี นรู้
ห้องทสี่ อน ......................... จำนวนนักเรยี นท้งั หมด ............... คน ประเมนิ วนั ท่ี ……………………..……………….
คะแนนประจำหนว่ ย (ระหว่างเรยี น) ……………….. เกณฑ์ผ่าน …………..……..

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ----------------

1. เอกสารใบงาน/ใบความรู้/ใบกิจกรรมประจำหนว่ ย
1.1. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….
1.2. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….
1.3. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….
1.4. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. เครอ่ื งมือประเมินก่อนเรยี น – หลังเรยี น …………………………………………………………………………………………….
3. เครอื่ งมือประเมินเก็บคะแนนระหว่างเรียน …………………………………………………………………………………………
4. ผลการประเมนิ ก่อนเรยี น – หลังเรยี น

คะแนนเต็ม ก่อนเรยี น หลังเรียน ขอ้ คน้ พบ

เฉล่ีย (̅X) เฉลยี่ (X̅) S.D. C.V.

5. อภปิ รายผล
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
6. ข้อค้นพบ/ข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชือ่ ..................................................... ครูผูส้ อน
(นางสาวสาสนะ บาเหม)

ลงชอ่ื .................................................หวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ
(นายยซู ฟุ อิบ)ู

หมายเหตุ แนบเอกสารตามขอ้ ที่ 1 2 3 และผา่ นการเรียนรปู้ ระจำหน่วยสง่ ตามท่ีกำหนด หรอื เมอ่ื สอนครบทั้ง
หน่วยการเรียนรู้


Click to View FlipBook Version