The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by bellebk16058, 2021-06-02 04:36:52

ต้นไม้02062564

ต้นไม้02062564

ลลี าวดีใบลูกศร

ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Plumeria pudica Jacq.

ช่อื วงศ์ : APOCYNACEAE

ช่อื สามัญ : Bridal Bouquet/ Fiddle leaf Plumeria

ชอ่ื พ้นื เมอื ง : ล่นั ทมใบศร (กลาง)

ลักษณะท่วั ไป :

ลาต้น : ไมพ้ ุม่ สูง 2-4 ม. ทุกสว่ นมีนายางขาว

ใบ : ใบเด่ียว เรียงสลับ รูปขอบขนาน ปลายโค้งป้านออกเป็นสามเหลีย่ มคลา้ ยหัวลูกศร
แผ่นใบหนา เป็นมัน โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ

ดอก : ดอกออกเป็นช่อท่ีปลายก่ิง มีกล่ินหอมอ่อน กลีบดอก 5 กลีบ สีขาว เช่ือมติดกัน
เปน็ หลอด

ผล : เปน็ ฝกั คู่ ผวิ เรยี บ ปลายแหลม โคนมน พอแห้งแตกออกได้

เมลด็ : มขี นสขี าวติดอยู่ท่ีปลายเมลด็ สามารถปลิวไปตามลมได้

การใช้ประโยชน์ :

- นยิ มปลกู เป็นไม้ประดบั

แหลง่ อ้างองิ : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/4955

มะม่วงหาวมะนาวโห่

ชือ่ วิทยาศาสตร์ : Carissa carandas Linn.

ชอ่ื วงศ์ : APOCYNACEAE

ชอ่ื สามญั : Karanda, Carunda, Christ ' s Thom

ลักษณะทวั่ ไป :

ตน้ : เป็นไม้พุ่มทรงพุ่มกลม แตกก่ิงจานวนมากทุกส่วนมียางสีขาวเหมือนนานม ลาต้น
และกงิ่ ก้านมีหนามแหลมยาวสีแดง

ใบ : เป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามรูปไข่กลับ ปลายใบมนหรือเว้าเข้าเล็กน้อย โคนใบกลม
ผิวใบสเี ขยี วเขม้ เปน็ มนั

ดอก : เป็นดอกช่อสันๆ ทปี่ ลายกงิ่ กลบี ดอกสขี าว ดอกมกี ลน่ิ หอมอ่อน ๆ ออกดอกทังปี

ผล : เป็นผลเด่ียวออกรวมกันเป็นช่อ ผลรูปกลมรี ผลอ่อนมีสีขาวอมชมพู ผลจะค่อยๆ
เป็นสแี ดง กระท่ังสกุ จงึ กลายเป็นสดี า

เมลด็ : มี 1 เมลด็ ตดิ อยทู่ ่สี ว่ นปลายรปู ไต สนี าตาลอมเทา มเี ปลอื กแข็งหุ้ม

การใช้ประโยชน์ :

- ผล ฆ่าเชอื ขบั ปัสสาวะ พอกดับพิษ แกโ้ รคลักปดิ ลกั เปิด

- เปลอื ก แกบ้ ิด ขับนาเหลอื งเสีย แก้ทอ้ งเสยี ทายาอมรกั ษาแผลในปาก

แหลง่ อา้ งอิง : http://www.natres.psu.ac.th/FNR/vfsouthern/index.php/2013-10-26-10-11-55/
9-uncategorised/149-2014-01-25-07-05-58

ลน้ิ นาคราช

ช่อื วิทยาศาสตร์ : Sansevieria trifasciata Prain

ช่ือวงศ์ : ASPARAGACEAE

ช่อื สามัญ : Bowstring hemp

ชื่อพน้ื เมอื ง : ลินมงั กร(กทม.,กลาง) / วา่ นจะเข้(เชียงใหม)่ / วา่ นประหลาด(แพร)่

ลกั ษณะทว่ั ไป :

ลาต้น : ไม้ล้มลุก ลาต้นเป็นเหง้าใต้ดิน เหง้าเจริญทางด้านข้าง รูปร่างอวบสันหรือป้อม สี
แดงอมเหลือง

ใบ : ใบเดี่ยว เกิดจากตาเหง้า มี 2-6 ใบ เรียงแบบเวียนรอบเหง้า ผิวใบเกลียงสีเขียว
อ่อน มลี ายสีเขียวเขม้ หยกั

ดอก : ออกเป็นช่อเชิงหล่ันจากเหง้า ก้านและแกนช่อดอกกลม ยาว สีเขียว ดอกย่อย
ออกเป็นกระจกุ กระจายรอบแกนช่อดอก มสี ขี าวหรอื สขี าวอมเขยี ว

ผล : ผลเป็นประเภทมีเนอื กลม ภายในมเี มลด็ 1-2 เมล็ด เมื่อสกุ สีส้ม

เมล็ด : เมล็ดเกือบกลม เมอ่ื แกส่ ีนาตาลอมขาวหมน่

การใช้ประโยชน์ :

- ใบ พอกแผลแก้พิษแมลงสัตวก์ ัดตอ่ ย แกเ้ จ็บคอ หอบหืด บารงุ ปอด รกั ษาโรคที่
ติดเชือในระบบทางเดินหายใจ

แหลง่ อ้างอิง : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/5324

กาบหอยแครง

ชือ่ วิทยาศาสตร์ : Dionaea muscipula J.Ellis

ชอื่ วงศ์ : DROSERACEAE

ชื่อสามญั : Venus Flytrap

ลกั ษณะทวั่ ไป :

ลาตน้ : สูงถึง 15 ซม.

ใบ : ใบพัฒนาเป็นลักษณะคล้ายกับกับดักแมลง รูปร่างคล้ายกาบหอย ใบแบ่งเป็น 2
ส่วน เปิดปิดได้ ปลายเป็นซ่ีฟันยาว ทังสองด้านมีสีที่ต่างกันไป สามารถผลิต
นาหวานได้

ดอก : ดอกออกเป็นช่อ กา้ นดอกยาวประมาณ 30 ซม. ดอกบานขนาด 2.5 ซม. มีหลายสี
เช่น ขาว แดง ส้ม กลบี ดอก 5 กลีบ

ผล : กลม ผลแบบแหง้ แตก

เมลด็ : มีจานวนมาก ขนาดเล็ก สีดา

การใชป้ ระโยชน์ :

- พชื ประดับ

แหลง่ อา้ งอิง : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/2004

ทับทมิ

ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Punica granatum L. var. granatum

ช่ือวงศ์ : LYTHRACEAE

ชื่อสามญั : Pomegranate

ชอ่ื พนื้ เมอื ง : พลิ า (หนองคาย) / พิลาขาว มะกอ่ งแกว้ (น่าน) / มะเก๊าะ (เหนือ)

ลกั ษณะทั่วไป :

ลาต้น : ไมพ้ ุ่มหรอื ไมต้ น้ ขนาดเล็ก กง่ิ มกั แตกแขนง และมหี นามบริเวณซอกใบ

ใบ : ใบเดยี่ ว รปู ใบหอก โคนใบแหลม ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลมหรือมน

ดอก : ดอกออกท่ีปลายก่ิง สีเหลืองอ่อน ปลายเรียวแหลม ฐานรองดอกสีแดง กลีบเลียง
ปลายแยกเป็นแฉก ปลายม้วนออก กลีบดอกสีแดงรูปไข่กลับ ปลายมน เรณูสี
เหลือง

ผล : รปู ร่างคอ่ นขา้ งกลม

การใชป้ ระโยชน์ :

- ราก ฆ่าพยาธติ ัวตดื

- เปลือกผล แก้ท้องเสีย รักษาแผลเน่าเปื่อยเรือรัง แก้โรคผิวหนัง นาคันเยื่อหุ้ม
เมล็ดแก้เลือดออกตามไรฟนั

- ผลสกุ สามารถรบั ประทานสด หรอื นาไปแปรรปู เปน็ นาทบั ทมิ แก้กระหาย ชุ่มคอ

แหลง่ อา้ งอิง : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/5094

พุดพิชญา

ช่ือวิทยาศาสตร์ : Wrightia antidysenterica (L.) R.Br.

ชอ่ื วงศ์ : APOCYNACEAE

ชอ่ื สามญั : Coral swirl

ลักษณะทวั่ ไป :

ลาต้น : ไมพ้ มุ่ ขนาดเล็ก กิ่งกา้ นสนี าตาลแดง

ใบ : ใบเดี่ยว รูปใบหอกแกมรูปรี ปลายใบเรียวแหลมสันหรือเป็นติ่ง โคนใบแหลมถึง
กลม หลังใบสีเขียว ท้องใบสีเขียวอ่อน เส้นใบนูนเด่นชัด ด้านท้องใบมีขนท่ีขอบ
กา้ น

ดอก : ออกเป็นช่อแบบท่ีปลายกิ่ง ดอกย่อย 1-7 ดอก กลีบเลียงสีเขียวอ่อนปนเหลือง
โคนเช่อื มติดกันเป็นถ้วยสันๆ ปลายแยกเป็น 5 แฉก โคนกลีบดอกเชอื่ มติดกันเป็น
หลอดแคบยาว สีขาวมีรยางค์เป็นแผน่ แคบ แข็ง คล้ายขีผึง ปลายแยกเป็นริว 2-5
รวิ

การใชป้ ระโยชน์ :

- ปลกู เปน็ ไม้ประดับในท่ีแสงแดดจัด

แหล่งอา้ งองิ : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/5940

เดหลใี บมัน

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Spathiphyllum sp.

ชือ่ วงศ์ : ARACEAE

ลกั ษณะท่วั ไป :

ต้น : ไม้ลม้ ลกุ อายหุ ลายปี ลาต้นเหง้าใตด้ นิ เจรญิ เปน็ กอ ทกุ ส่วนมนี ายางใส

ใบ : ใบเดี่ยว เรยี งเวียนสลบั รปู รแี กมรูปขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบ
เป็นคล่นื เล็กนอ้ ย สีเขยี วเขม้ เป็นมันและมีรอ่ งตามแนวเสน้ ใบชดั เจน กา้ นใบยาว

ดอก : เป็นชอ่ เชิงลด ออกทีป่ ลายกงิ่ มีจานรองดอกสขี าวรปู ไข่ โคง้ งอเล็กน้อย ปลายเรยี ว
แหลมด้านหลงั อาจมีสีเขียวปนบ้าง มีกลนิ่ หอมออ่ นๆ

ผล : ผลสดมเี นอื มเี มลด็ จานวนมาก

การใชป้ ระโยชน์ :

- พืชประดับ

แหลง่ อา้ งอิง : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/5428

แป๊ะตาปงึ / จกั รนารายณ์

ชือ่ วิทยาศาสตร์ : Gynura divaricata (L.) DC.

ช่ือวงศ์ : ASTERACEAE

ลักษณะทว่ั ไป :

ต้น : ไม้พุ่มหรือกึ่งไม้พุ่ม อายุหลายปี บางครังลาต้นอวบนา ลาต้นเกลยี ง หรือมีขนสาก
และมีสแี ดงนาตาล

ใบ : ใบเด่ียว ออกสลับ ใบคล้ายรูปไข่มน ปลายใบแหลม ขอบใบหยกั เป็นซ่ี แผ่นใบหนา
คล้ายกามะหยี่ ใบมสี ีเขียว กา้ นใบสัน มีสเี ขียว หรือสเี ขยี วปนแดง

ดอก : ออกเป็นช่อ บริเวณยอดลาต้น กลีบดอกมสี ีเหลืองสด หรือส้ม มเี กสรเพศผู้ 5 อัน
เกสรเพศเมียยดื ออกมาภายนอก

ผล : ผลตดิ อย่ใู นดอก เม่อื สุกแลว้ มสี นี าตาลแก่

การใชป้ ระโยชน์ :

- ช่วยขับสารพิษต่างๆ รักษาเริม งูสวัด ลดความดันโลหิต บรรเทาอาการภูมิแพ้
บาบัดโรครดิ สดี วงทวาร

แหลง่ อ้างอิง : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/2625

เฟินข้าหลวงหลังลาย

ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ : Asplenium nidus L.

ชอื่ วงศ์ : ASPLENIACEAE

ช่อื สามญั : Bird’s Nest Fern

ลักษณะทัว่ ไป :

ลาตน้ : สงู 1.0-1.2 ม. มีเหงา้ ลาต้นตังตรง มีกาบเป็นแผ่นดาถึงสีม่วง รูปสามเหลี่ยมแคบ
ถึงรูปลิ่มแคบแกมรปู แถบ ขอบมขี นครุย

ใบ : ใบรวมกันเป็นกระจุก ก้านใบเปน็ สีนาตาล แข็ง ยาวได้ถงึ 5 ซม. แผบ่ ใบรูปใบหอก
กว้าง 9-15 ซม. ยาว 90-120 ซม. โคนใบรูปล่ิม ปลายใบเรยี วแหลม ขอบใบเรียบ
เห็นเส้นกลางใบชัด สีเทาถึงสีนาตาลอ่อน ใบคล้ายกระดาษหรือคล้ายหนัง หนา
เกลยี ง มอี ับสปอรเ์ ปน็ แถบยาว 3-5 ซม. สว่ นมากเป็นหมนั เรยี บ ติดทนนาน

การใช้ประโยชน์ :

- พืชประดบั

แหล่งอ้างอิง : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/6221

ดีปลี

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Piper retrofractum Vahl

ชอ่ื วงศ์ : PIPERACEAE

ชื่อสามัญ : Java long pepper/ Indian long pepper/ Javanese long pepper

ชือ่ พืน้ เมอื ง : ดปี ลี (ทั่วไป) / ดปี ลเี ชอื ก (ใต้) / ประดงขอ้ ปานนุ ฟนั พญาไฟ บฮี วด พษิ พญาไฟ

ลกั ษณะทว่ั ไป :

ตน้ : ไม้เลือยอายหุ ลายปี ยาวได้ถึง 10 ม. ไม้เนอื อ่อน ขึนเลอื ยพนั เกาะเกีย่ วไปยังต้นไม้
อนื่ ลาตน้ คอ่ นข้างกลมเรียบเปราะหักงา่ ย บริเวณข้อมีรากสาหรับยดึ เกาะ

ใบ : ใบเด่ียวออกเรียวสลบั ตามข้อใบค่อนข้างห่างกัน ก้านใบยาว 0.5-3.0 ซม. ใบรูปไข่
แกมขอบขนาน กว้าง 3-1 ซม. ยาว 7-20 ซม. ปลายใบเรียวแคบหรือเรียวแหลม
โคนใบอาจสอบแคบแบบรูปล่มิ หรือปา้ นมนถึงเวน้ เลก็ นอ้ ย ใบทังสองขา้ งไม่เท่ากัน
หรือเหลื่อมกันเล็กน้อย ขอบใบเรียบ ผิวด้านหลังใบเป็นมัน ท้องใบมีขนปกคลุม
เล็กน้อย เนือใบค่อนข้างหนาคล้ายหนัง มีเส้นใบออกจากโคนใบ 3-5 เส้น ปลาย
เส้นแยกแขนงคล้ายขนนก ใบยอดกง่ิ ไมม่ ีก้าน ใบและเถามรี สเผด็ รอ้ น

ผล : ผลสดอัดกันแน่นบนแกนช่อ ยาว 2.5-5ซม. ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซม. โคน
กว้าง ปลายมน ผวิ ผลเรยี บ ผลย่อยขนาดเล็กจะติดกันเป็นแท่งหลอมรวมกัน แยก
จากกันไมไ่ ด้ ผลมรี สเผด็ ร้อน มีสเี ขียวเม่ือสุกสนี าตาลแกมแดง

การใชป้ ระโยชน์ :

- ใบ ใช้เป็นยาขบั ลม แก้อาการออ่ นเพลยี แก้ปวดเมือ่ ยตามรา่ งกาย
- เถา รสเผ็ดรอ้ น แกป้ วดท้อง จกุ เสียด ทาสยี อ้ มผา้ จะไดส้ นี าตาลออ่ น

แหล่งอา้ งอิง : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/4918

เฟนิ ใบมะขาม

ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ : Nephrolepis hirsutula (G. Forst.) C. Presl

ชื่อวงศ์ : LOMARIOPSIDACEAE

ลกั ษณะท่วั ไป :

ลาตน้ : พืชบนดนิ หรอื พืชอิงอาศยั มเี หง้า สีนาตาลเหลืองออ่ น มไี หล

ใบ : ใบประกอบแบบขนนกกว้าง 3-6 ซม. ยาว 25-75 ซม. มีใบย่อยรูปใบหอก กว้าง
0.6- 1.2 ซม. ยาว 1.5-2.5 ซม. 40-120 คู่ ก้านใบยาว 5-15 ซม. แผ่นใบเป็นรูป
เส้นตรงแกมรูปใบหอกหรือรูปใบหอกแคบ โคนใบเบียว ปลายใบเรียวแหลม ขอบ
ใบเป็นจกั ฟันเลอื่ ยหรือหยักมน

ดอก : มกี ลุ่มอับสปอร์ หนาแนน่ หรือเบาบาง เป็นวงกลมหรือรูปไต มีเย่อื คลุมอับสปอร์สี
นาตาล

การใชป้ ระโยชน์ :

- พชื ประดับ

แหล่งอา้ งองิ : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/6218

ทองอุไร

ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Tecoma stans (L.) Juss. ex Kunth

ชอ่ื วงศ์ : BIGNONIACEAE

ชอื่ สามัญ : Yellow bell / Yellow elder / Trumpet vine

ชือ่ พื้นเมอื ง : ดอกละคร (เชียงใหม)่ / พวงอไุ ร สรอ้ ยทอง (กทม.)

ลกั ษณะทวั่ ไป :

ลาต้น : สงู 2-5 ม.

ใบ : ใบประกอบแบบขนนกปลายค่ี เรียงตรงข้าม ใบย่อยมี 2-5 คู่ รูปรีแกมรูปไข่ โคน
ใบและปลายใบแหลม ขอบใบจักเปน็ ฟนั เลอ่ื ย

ดอก : ชอ่ ดอกแบบชอ่ กระจะ ออกตามปลายกิง่ กลีบเลียง 5 กลบี เชอ่ื มติดกันเป็นหลอด
กลบี ดอก 5 กลีบ สีเหลือง เช่ือมติดกัน เป็นรปู ระฆัง

ผล : ผลเปน็ ฝัก รปู ทรงกระบอกแตกเป็นสองซีก กวา้ ง 0.7-0.8 ซม. ยาว 12-16 ซม.

เมลด็ : มจี านวนมาก

การใช้ประโยชน์ :

- พืชประดบั

แหล่งอ้างองิ : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/5583

ส้มจ๊ดี

ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Citrus japonica Thunb.

ชอ่ื วงศ์ : RUTACEAE

ชอ่ื สามญั : Round Kumquat

ชื่อพน้ื เมอื ง : กากดั๊ (จนี )

ลักษณะท่ัวไป :

ลาต้น : ไม้พ่มุ หรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีหนามสีเขียวอยู่ตามลาต้นและก่ิงก้าน สงู ประมาณ
3-4 ม.

ใบ : ใบประกอบชนิดแบบลดรูปที่มีใบย่อยใบเดียว ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ ปลายใบ
แหลม โคนใบแหลมแผน่ ใบหนาเนียน ผวิ ใบเป็นมนั สเี ขียว

ดอก : ดอกเดี่ยว แต่มักออกรวมกันเป็นกลุ่ม ดอกเป็นสขี าวมีกลิ่นหอมแรง ออกตามซอก
ใบและปลายกงิ่ กลบี เลียงเป็นรปู ถ้วย ปลายแยกเปน็ 5 แฉก กลบี ดอกมี 5 กลีบ

ผล : ผลมีลกั ษณะเหมือนผลส้มท่ัวไป แต่จะมขี นาดเล็ก ส้มชนิดนีเป็นส้มที่กินเปลือกผล
ผลมีขนาดเล็กมีทังกลมและรี ผิวผลบางเป็นสีเขียวและมีกล่ินหอม เมื่อสุกจะ
เปล่ียนเปน็ สสี ้ม เนอื ในผลมีรสเปรียวจัด

การใชป้ ระโยชน์ :

- นิยมปลกู เปน็ พชื ไม้ประดบั สวน
- สามารถรับประทานผลสดของสม้ จ๊ีดได้ สรรพคณุ ทางสมนุ ไพรเป็นยาระบาย

แหล่งอ้างอิง : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/2485

ชวนชม

ช่อื วทิ ยาศาสตร์ : Adenium obesum (Forssk.) Roem. & Schult.

ชื่อวงศ์ : APOCYNACEAE

ชื่อสามญั : Mock azalea / Deseert rose / Impala lily / Pink bignonia

ชื่อพนื้ เมอื ง : ลนั่ ทมแดง(กทม.,กลาง) / ล่ันทมยะวา(กทม.)

ลักษณะทั่วไป :

ต้น : สูงได้ 2-4 ม. ทุกส่วนมีนายางขาว โคนต้นมักอวบอ้วน ส่วนท่ีอยู่เหนือดินมีสีเทา
อ่อน สเี ขียวถงึ สนี าตาล

ใบ : ใบเดี่ยว เรียงสลับ ออกเป็นกลุ่มที่ยอด รูปหอกกลับ แผ่นใบหนาเป็นมัน โคนใบ
สอบ ปลายใบมนมีต่งิ สัน ขอบใบเรยี บ

ดอก : ดอกออกเปน็ ช่อสันที่ปลายกิ่ง กลีบดอก 5 กลีบ สีแดง ชมพู ขาวอมชมพู ม่วง หรือ
ขาว เช่อื มติดกันเป็นหลอด รปู แตร บางพนั ธ์ุมีดอกซอ้ น

ผล : ผลเป็นฝักคู่ รูปกระสวย แตกตะเขบ็ ดา้ นเดียว เมล็ดแบน มีกระจกุ ขนสขี าว

การใช้ประโยชน์ :

- พืชประดบั

แหล่งอ้างอิง : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/46

คอนโดนางฟา้ , ปราสาทนางฟ้า

ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Acanthocereus tetragonus cv. Fairytale castle

ชื่อวงศ์ : CACTACEAE

ชอื่ สามัญ : Green finger

ลักษณะท่วั ไป :

ต้น : ไม้อวบนา อายุหลายปี กลุ่มกระบองเพชร เป็นไมล้ าขนาดใหญ่ ตังตรง สเี ขียว

ใบ : ใบลดรูปเป็นหนามสัน เปราะหักง่าย สีขาว มีหนามจานวนมากต่อหน่ึงตุ่มเนิน
หนาม

ดอก : ดอกเดยี่ ว ออกตามต่มุ เนินหนาม ดอกสีขาว มีกลบี จานวนมาก

ผล : ทรงกลม สเี ขยี ว เมือ่ แก่จะเปลยี่ นเป็นสแี ดง เมล็ดสดี า

การใชป้ ระโยชน์ :

- ปลกู ประดับเปน็ ไมก้ ระถาง ปลูกในอาคาร

แหล่งอ้างองิ : https://data.addrun.org/plant/archives/00953-acanthocereus-tetragonus-cv-fairytale-
castle#:~:text=%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%3A%2

พวงทองเถา พวงทองเล้อื ย

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Stigmaphyllon ellipticum (Kunth) A.Juss.

ชอื่ วงศ์ : MALPIGHIACEAE

ชอ่ื สามัญ : Golden Vine

ลกั ษณะท่วั ไป :

ต้น : ไม้เลือยขนาดกลาง อายุหลายปี ยอดเลือยพาดไปได้ไกล 2-5 ม. ก่ิงก้านมีขนปก
คลมุ

ใบ : ใบเดี่ยว รูปรี กว้าง 2.0-3.5 ซม. ยาว 5-8 ซม. ปลายและโคนแหลม ขอบเรียบ
แผน่ ใบสีเขียวเข้ม ผวิ ใบเกลียง

ดอก : ออกเปน็ ชอ่ กระจกุ ตามซอกใบใกล้ปลายยอด มี 5-12 ดอก ดอกทรงกลม กลบี เลียง
สเี ขียวอ่อน 5 กลีบ กลีบดอกสีเหลืองสด 5 กลีบ โคนสอบแคบ ก้านสัน ขอบกลีบ
หยกั เปน็ รวิ ตืน เส้นผา่ นศูนยก์ ลางดอก 2-3 ซม. ออกดอกตลอดปี

ผล : เปน็ ผลแห้ง สนี าตาลเข้ม มีปีกตามยาว 1 ปีก

การใชป้ ระโยชน์ :

- พชื ประดบั ปลกู เป็นซุ้มไม้เลอื ยใหร้ ม่ เงา

แหลง่ อ้างองิ : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/5469

กลว้ ยไม้สกุลหวาย

ชือ่ วิทยาศาสตร์ : Dendrobium ‘sonia'

ชือ่ วงศ์ : ORCHIDACEAE

ลกั ษณะทั่วไป :

พืชใบเลยี งเดี่ยว มลี กั ษณะการเจรญิ เติบโตแบบซิมโพเดยี ล คือ เปน็ กลว้ ยไม้ท่ีมลี าลูกกล้วยเม่ือลาต้น
เจรญิ เติบโตเตม็ ทีแ่ ล้ว จะแตกหนอ่ เปน็ ลาตน้ ใหม่และเปน็ กอ

ใบ : ใบเรยี งสลับกนั หรือเรยี งซ้อนทบั กนั ใบเดีย่ ว แบนแขง็ หนา สีเขียว เสน้ ใบขนาน
กันไปตามความยาวของใบ

ดอก : ดอกชอ่ ออกตามซอกใบ ดอกเรียงสลับ 6-8 คู่ ปลายคี่ กลบี เลียง3 กลบี สี
เดียวกบั กลีบดอก แตส่ ีเขม้ กว่าเลก็ น้อย กลีบดอก 5 กลบี มกั มี 3 สีภายใน 1 ดอก
มกี ลบี ดอก 1 กลบี เปลย่ี นรูปร่างไปเนื่องจากมเี กสรเพศผู้ และยอดเกสรเพศเมียลด
รปู มารวมอยดู่ ้วยกนั มลี ักษณะเปน็ ปาก (labellum) มีสีเข้มเด่นชดั กว่ากลบี อนื่ ๆ

ผล : ผลเป็นฝกั สีเขียว เมื่อแกจ่ ะเปล่ียนเป็นสีนาตาล ภายในมีเมล็ดจานวนมาก

การใช้ประโยชน์ :

- พืชประดบั

แหลง่ อา้ งอิง : https://il.mahidol.ac.th/e-media/plants/webcontent3/interactive_key/key/describ/orchid.htm

หมากหอม

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Areca triandra Roxb. ex Buch.-Ham.

ชอ่ื วงศ์ : ARECACEAE

ชอ่ื สามญั : Triandra Palm

ชื่อพ้ืนเมอื ง : กรือดอ (มาเล-นราธวิ าส)/ หมากเขียว (นราธวิ าส)/ หมากชะแวก หมากลิง
(จันทบุรี)/ หมากนางลิง (ตราด)/ หมากหน่อ หมากเอียก (เหนอื )

ลักษณะทั่วไป :

ตน้ : เปน็ ปาลม์ แตกกอ ลาต้นมเี ส้นผา่ ศนู ย์กลาง 5-8 ซม. สูงได้ถึง 7 ม. บางครงั มีราก
เขย่งหรือรากคา คอสเี ขียว

ใบ : ใบประกอบแบบขนนก 7 ทาง ทางใบยาว 1.5 ม. กาบใบยาว 60 ซม. เห็นคอต้น
ชดั เจน ก้านใบยาว 30-50 ซม. มีใบย่อยขา้ งละ 13-20 ใบ เรยี งเป็นระเบียบ ใบ
ย่อยคปู่ ลายมีปลายตัดและหยกั ไมส่ ม่าเสมอ

ดอก : ชอ่ ดอกแยกเพศอยรู่ ่วมต้น ออกใต้คอ 2-4 ช่อ ช่อแผ่กระจาย ชอ่ ดอกรวมยาว 30
ซม. กา้ นช่อดอกยาว 2-3 ซม. แตกก่ิงยอ่ ยจานวนมาก ดอกสีขาวนวล มกี ล่ินหอม

ผล : กลมรี ยาว 2.0-2.5 ซม. เม่อื สกุ สีแดง

การใชป้ ระโยชน์ :

- พืชประดับ

แหลง่ อ้างองิ : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/528

โกสน

ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Codiaeum variegatum (L.) Rumph. ex A.Juss.

ชือ่ วงศ์ : EUPHORBIACEAE

ชื่อสามญั : Garden Croton/ Variegated Croton

ชอ่ื พ้ืนเมอื ง : กรกี ะสม/ กรีสาเก/ โกรตน๋ (กลาง)

ลกั ษณะทั่วไป :

ลาต้น : ไม้พมุ่ ขนาดกลาง สงู ไดถ้ ึง 2-3 ม. ทรงพมุ่ รปู ไข่ แนน่ ทบึ

ใบ : ใบเดย่ี ว เรยี งสลับ ใบมหี ลายแบบและขนาดแปรไปตามพันธุ์ เชน่ รูปกลม แคบยาว
บิดเป็นเกลียว ปลายใบแหลมหรือมน มีต่ิง โคนใบสอบ ขอบใบเรียบหรือหยักเว้า
บางพันธ์เุ ว้าลึกถงึ เส้นกลางใบ และเวน้ ห่างเปน็ สองตอน แผ่นใบมีสีต่างๆ เชน่ ขาว
เหลอื ง ส้ม ชมพู แดง มว่ งดา ก้านใบยาว

ดอก : ออกเป็นช่อกระจะตามซอกใบและปลายกิ่ง สีขาว แยกเพศอยู่รว่ มต้น ช่อดอกเพศ
ผูโ้ คง้ ลง ก้านยาว ดอกกลม 30-60 ดอก กลบี เลยี งขนาดเล็ก มี 3-6 กลบี กลบี ดอก
5-6 กลบี ขนาดดอก 3 มม. ช่อดอกเพศเมียตงั ตรง ก้านช่อยาว มี 10-20 ดอก ไม่มี
กลบี ดอกมแี ตก่ ลบี เลยี ง

ผล : แห้ง ทรงค่อนข้างกลม เมอ่ื แก่แตกเปน็ 2 ซกี มเี มลด็ สนี าตาล

การใช้ประโยชน์ :

- พืชประดบั

แหล่งอ้างอิง : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/1316

สังกรณี

ช่ือวิทยาศาสตร์ : Crossandra nilotica Oliv.

ช่ือวงศ์ : ACANTHACEAE

ลกั ษณะทว่ั ไป :

ต้น : ไม้พุ่ม อายุหลายปี สูง 60-120 ซม.

ใบ : ใบเด่ียว เรียงตรงข้ามกัน รูปรี ยาวประมาณ 7.5 ซม. ปลายใบแหลม มีขนสันปก
คลุม

ดอก : เป็นช่อเชิงลดที่ปลายกิ่ง กลีบดอก 5 กลีบ โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอด ดอกสี
เหลอื งเข้ม

การใช้ประโยชน์ :

- พชื ประดบั ปลูกประดบั สถานที่ ปลกู เปน็ ไม้กระถาง

แหลง่ อา้ งองิ : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/648

เข็มชมพพู ิษณุโลก

ชอื่ วิทยาศาสตร์ : Ixora sp. 'Hybrid'

ช่ือวงศ์ : RUBIACEAE

ลักษณะทัว่ ไป :

ลาต้น : แตกกง่ิ ก้านจานวนมาก

ใบ : เดีย่ ว เรียงตรงข้ามสลับตังฉาก ใบรูปหอกกลบั กว้าง 1-2 ซม. ปลายใบและโคนใบ
มน ขอบใบบิดเลก็ น้อย แผน่ ใบสีเขียวอมเหลอื ง

ดอก : ออกเป็นช่อ ที่ปลายกิ่ง กลีบเลียงสีเขียว 5 กลีบ ดอกสีขาวหรือสีชมพู โคนกลีบ
เช่ือมติดกนั เปน็ หลอด ปลายแยกเป็น 4 แฉก

การใช้ประโยชน์ :

- พืชประดับ

แหลง่ อา้ งอิง : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/3266

ปกั ษาสวรรค์, เบริ ด์ ออฟพาราไดซ์

ช่อื วทิ ยาศาสตร์ : Strelitzia reginae Banks

ชื่อวงศ์ : STRELITZIACEAE

ชอื่ สามญั : Bird of paradise / Cape / Crane flower

ลกั ษณะทัว่ ไป :

ต้น : เปน็ พชื ที่มลี าต้นอยู่ใต้ดิน (rhizome) หรือท่เี รยี กว่ามีเหง้าอยู่ใต้ดิน ส่งใบขนึ มาพ้น
ผิวดินทาให้เห็นเหมือนลาต้นเป็นกอ ลักษณะลาต้นเป็น pseudostem สูง
ประมาณ 0.6-4.5 ม. ถา้ รับประทานเข้าไปจะเปน็ พิษ

ใบ : ลักษณะใบเป็นใบเด่ียวแต่ละใบจะชูออกในทิศทางตรงกันข้ามสลับกันไปมา ทาให้
มองเห็นรูปทรง ต้นแบนแผอ่ อกคลา้ ยพัดลักษณะใบรูปหอกคล้ายใบกลว้ ย หรอื ใบ
พุทธรักษายาวประมาณ 30-100 ซม.

ดอก : ลกั ษณะดอกเปน็ ดอกช่อแบบ spike คือ มีหลายดอกในช่อเดยี วกันโดยแตล่ ะดอก
จะติดกับก้านชอ่ ดอกไม่มีก้านดอกของต้นเอง

ผล : ลักษณะผลและเมล็ด เป็นผลเดี่ยวแบบ capsule เมล็ดแข็งสีดาเป็นมัน มีพู่สีส้ม
ประทเี่ มลด็ เปน็ พวก hardy seed เช่นเดียวกบั เมลด็ พทุ ธรกั ษา

การใช้ประโยชน์ :

- พืชประดับ

แหล่งอา้ งองิ : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/5473

มะนาว

ช่ือวิทยาศาสตร์ : Citrus × aurantifolia (Christm.) Swingle

ชือ่ วงศ์ : RUTACEAE

ชอื่ สามญั : Common lime/ Lime

ลักษณะทว่ั ไป :

ลาตน้ : เปน็ ไม้พุ่มยืนตน้ ทม่ี ีขนาดเล็ก แตกก่ิงก้านไม่เป็นระเบยี บ เปลือกของลาต้นมหี นาม
แหลมแข็ง มักเกดิ ตามบริเวณซอกใบ

ใบ : ใบเด่ียว มีลักษณะคล้ายรูปไข่หรือค่อนข้างยาว ปลายใบแหลม ขอบใบหยักแผ่นใบ
กวา้ งประมาณ 3-6 ชม. ยาวประมาณ 6-12 ซม. ก้านใบสัน ใบออ่ นมีสีเขยี วอ่อน

ดอก : ดอกเดยี่ วหรอื ดอกชอ่ เกิดบรเิ วณซอกใบ กลบี ดอกดา้ นบนมีสีขาว ดา้ นล่างมีสมี ว่ ง

ผล : มีลักษณะเป็นรูปไข่หรือกลม มีขนาดต่างกันแล้วแต่ความอุดมทสมบูรณ์ของพืนที่
ปลูกและชนิดพันธ์ุ ผิวของผลมที ังเรยี บและขรขุ ระเล็กน้อย มีสีเขยี ว แตเ่ มื่อสกุ แล้ว
จะมีสีค่อนข้างเหลือง มีต่อมนามันที่ผิวในผล 1 ผล มี 8-10 กลีบ เนือของผล
ประกอบด้วยถงุ เล็กๆ รูปไข่มากมาย มีนาและกรดจานวนมากมะนาวจงึ มีรสเปรยี ว

เมล็ด : ลักษณะเมล็ดคล้ายรูปไข่ ส่วนหัวและท้ายแหลม มีเนือเย่ือสะสมอาหารเป็นสีขาว
เมล็ด 1 เมล็ด สามารถเพาะได้หลายตน้

การใช้ประโยชน์ :

- เปลือกผลมรี สขม ขับลมแก้จุกเสยี ดแนน่ ทอ้ ง ขบั เสมหะ บารุงกระเพาะอาหาร

- นามะนาว มีรสเปรยี วจัด ชว่ ยแกอ้ าการเลือดออกตามไรฟัน ชว่ ยขบั เสมหะ

แหลง่ อา้ งอิง : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/1222

กระโดน

ช่อื วิทยาศาสตร์ : Careya arborea Roxb.

ชือ่ วงศ์ : LECYTHIDACEAE

ชอ่ื สามญั : Wild guava

ลักษณะท่ัวไป :

ลาต้น : ไมย้ นื ตน้ ขนาดกลางสูง 10-20 ม. เปลือกลาต้นมีสีนาตาลเทาหรอื ดา ทรงพุ่มรูปไข่

ใบ : ผลัดใบก่อนออกดอก ใบเด่ียวเรียวเวียนท่ีปลายกิ่ง ใบรูปไข่ รูปขอบขนาน ใบมี
ความกว้าง 5-10 ซม. ขอบใบหยัก ปลายใบมนหรอื แหลมเลก็ น้อย โคนใบแหลม

ดอก : ดอกออกเป็นช่อดอกแบบกระจุก ดอกย่อยแต่ละดอกมีขนาดใหญ่ เป็นดอก
สมบรู ณเ์ พศ บานเวลาเช้าตรถู่ งึ เทยี่ งวนั โคนกลบี เลยี งสีเขียว 4 อันเชื่อมติดกันเป็น
รูประฆงั ปลายกลีบแยก กลีบแขง็ ผิวเรียบไมม่ ีขน กลีบเลยี งยาว 2 ซม. กลีบดอกสี
เขียวออ่ น กว้าง 1-2 ซม. ยาว 2-4 ซม. เกสรเพศผู้จานวนมาก ก้านชูอับเรณุสขี าว
สแี ดง หรือสมี ว่ ง เรียงเป็น 3 ชนั ทงั สามเช่อื มติดกนั มเี กสรเพศเมยี 1 อัน

ผล : ผลสดรูปทรงกลม หรือรูปรี เส้นผ่าศูนยก์ ลาง 5-7 ซม. มีกลบี เลียงตดิ อยู่ทผ่ี ล

เมล็ด : รูปรา่ งแบน สีนาตาลออ่ น รปู ขอบขนาน ยาวประมาณ 1.2 ซม.

การใช้ประโยชน์ :

- เนือไม้ ใชส้ ร้างบา้ น ทาเคร่ืองเรอื น

- ใบ ใช้รกั ษาแผลสด ยอดใบรบั ประทานเป็นผักสด

แหลง่ อา้ งอิง : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/1083

ชะพลู

ช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Piper sarmentosum Roxb

ชอ่ื วงศ์ : PIPERACEAE

ช่อื พื้นเมอื ง : นมวา, ผกั ปูนา, ผกั พลนู ก, ผกั พลลู งิ

ลักษณะทว่ั ไป :

ชะพลูเป็นไม้ล้มลุกแผ่ไปกับพืนปกคลุมดิน ใบเป็นใบเดี่ยว รูปหัวใจ เรียงตัวแบบ
สลับ สีเขียวเป็นมัน มีเส้นแขนงชัดเจน ช่อดอกสีขาวตรงข้ามใบปลายยอด ผล
ขนาดเล็กสีเขียว เจรญิ ได้ดีในบริเวณทชี่ ืน ร่ม หรือใตโ้ คนต้นไมใ้ หญ่

การใช้ประโยชน์ :

- ใช้ประกอบอาหารหรอื ทานเปน็ ผัก เช่น เมี่ยงคา แกงขนุน แกงหน่อ เปน็ ตน้

- มีสรรพคุณทางสมุนไพร โดยใช้ส่วนทังต้นขับเสมหะ ใบใช้เป็นยาขับลม เจริญ
อาหาร ขับเสมหะ รากใชบ้ ารงุ ธาตุ

แหล่งอ้างองิ : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/6272

รางจดื

ช่ือวิทยาศาสตร์ : Thunbergia laurifolia Lindl.

ช่ือวงศ์ : ACANTHACEAE

ชื่อสามัญ : Laurel Clockvine/ Blue Trumphet Vine

ลกั ษณะทั่วไป :

ลาต้น : ไม้เถาพนั ต้นไม้อืน่ เถากลม สีเขียว เป็นขอ้ ปลอ้ ง

ใบ : เป็นใบเดี่ยว ใบออกแบบตรงข้ามเปน็ คู่ ใบมีลักษณะรยี าว โคนใบเว้า ปลายใบเรียว
แหลม ขอบใบหยกั เป็นหนามเล็กๆ หา่ งกัน แผ่นใบเรยี บสีเขียวเปน็ มัน เนอื ใบบาง

ดอก : ออกเป็นช่อตามซอกใบ มีดอกย่อย 3-4 ดอก มีใบประดับสีเขียวประแดง ดอกสี
ม่วงอมฟ้า กลีบรองดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย กลีบดอกมี 5 แฉก โคนเช่ือม
ติดกันเป็นหลอดใหญส่ ันๆ ปลายมน

ผล : เป็นรูปทรงกลม ปลายเป็นจงอยแหลม ผลอ่อนสเี ขยี ว เม่ือแก่จะเป็นสีนาตาลเกือบ
ดา แตกออกเปน็ 2 ซกี จากจงอย

การใชป้ ระโยชน์ :

- ปลูกให้เลอื ยพันตน้ ไม้อน่ื เพอ่ื ประดับสถานที่

- เถาและใบ รับประทานแก้ร้อนในกระหายนา แก้พษิ รอ้ นต่างๆ

- ราก แก้เมาค้าง แก้อาการปวดหัวมึนหัวอันเนื่องมาจากพิษสุรา พิษตกค้างใน
ร่างกาย ใช้รากเขา้ ยารักษาโรคอักเสบและปอดบวม

แหล่งอา้ งอิง : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/5615

เหงือกปลาหมอ

ช่ือวิทยาศาสตร์ : Acanthus ebracteatus Vahl

ช่ือวงศ์ : ACANTHACEAE

ชื่อสามญั : Holly-leaved mangrove/ Sea holly

ลักษณะท่ัวไป :

ต้น : ไม้พมุ่ ล้มลกุ ขนาดเล็ก สูง 0.5-1 ม. ลาต้นกลม กลวง ตังตรง สขี าวอมเขียว มหี นาม
ตามขอ้ ข้อละ 4 หนาม และท่ีปลายใบ ลาตน้ มีเส้นผ่านศูนยก์ ลาง 1.5 ซม.

ใบ : ใบเป็นใบเด่ียว ออกเรียงตรงข้ามเปน็ คู่ ใบรูปหอกยาว ขอบจักเว้ากวา้ งๆ ปลายจัก
แหลมคล้ายหนาม กว้าง 3-7 ซม. ยาว 10-20 ซม. แผ่นใบสีเขียวเข้ม เสน้ ใบสีขาว
มีเหลือบสีขาวเป็นแนวก้างปลา มีหนามรอบใบ แผ่นใบเรียบเป็นมันลื่น เนือใบ
เหนียว ก้านใบสัน

ดอก : ดอกออกเป็นช่อตังสีขาว บริเวณปลายยอด ยาวประมาณ 4-6 นิว ใบประกอบห่อ
เป็นช่อตัง แต่ละดอกมีใบประดับรูปเรียว 2 อัน รองรับที่โคนดอก และติดอยู่จน
ดอกบาน กลีบดอกเป็นท่อปลายบานโตสีขาว ยาว 2-4 ซม. แบ่งเป็น 2 ปาก ปาก
ล่างมีขนาดใหญ่กว่า ปากลา่ งสีม่วงอ่อนหรือฟ้าอ่อน มีแถบสีเหลืองตรงกลางกลีบ
ปากบนหดสนั กลีบเลยี ง มี 5 กลีบ

ผล : เปน็ ฝกั กลมรี รูปไข่ ยาว 2-3 ซม. เปลอื กสนี าตาล ปลายฝกั ปา้ น ผวิ เปลอื กสีนาตาล
ข้างในมีเมล็ดขนาดเล็ก 4 เมลด็

การใชป้ ระโยชน์ :

- ราก ใช้รากสด นามาตม้ เอานากินเป็นยาแก้โรคงูสวัด

แหล่งอา้ งอิง : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/24

เสลดพังพอนตวั เมยี

ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Clinacanthus nutans (Burm.f.) Lindau

ชอ่ื วงศ์ : ACANTHACEAE

ชอื่ สามญั : Snake Plant

ลกั ษณะทั่วไป :

จัดเปน็ พรรณไม้พมุ่ แกมเถา มกั เลือยพาดไปตามต้นไม้อน่ื ๆ มีความสูงได้ประมาณ
1-3 เมตร ลาต้นมีลักษณะเกลยี ง ต้นอ่อนเป็นสีเขยี ว ลาต้นมีลักษณะกลม ผิวเรียบ
เป็นปล้องสีเขียว ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการปักชาหรือแยกเหง้าแขนงไปปลูก
เจริญเติบโตได้ดีในดินทุกชนิด ชอบดินร่วน ระบายนาดี มีแสงแดดจัด มีเขตการ
กระจายพนั ธใ์ุ นจีน เวียดนาม อินโดนีเซยี มาเลเซยี และไทย ในประเทศไทยมกั พบ
ขนึ ตามป่าเบญจพรรณท่ัวทกุ ภาคของประเทศ หรือพบปลูกกันตามบา้ นท่ัวไป

หมายเหตุ : เสลดพังพอน เป็นชื่อพ้องของพรรณไม้ 2 ชนิด คือ เสลดพังพอนตัวผู้ และ
เสลดพังพอนตัวเมยี ซงึ่ จะแตกตา่ งกันตรงท่ีเสลดพงั พอนตัวผู้ลาต้นจะมีหนามและ
มีดอกเป็นสเี หลือง ส่วนเสลดพังพอนตวั เมยี ลาตน้ จะไม่มีหนามและมดี อกเปน็ สีแดง
ส้ม เพื่อไม่ให้เป็นการสับสน หลาย ๆ ตาราจึงนิยมเรียกเสลดพังพอนตัวเมียว่า
"พญายอ" หรือ "พญาปล้องทอง" โดยเสลดพังพอนตัวผู้นันจะมีสรรพคุณทางยา
อ่อนกว่าเสลดพังพอนตวั เมีย และตารายาไทยนิยมนามาใชท้ ายากนั มาก

การใช้ประโยชน์ :

- ทังต้นและใบใชก้ นิ เปน็ ยาถอนพิษไข้ ดับพิษร้อน เปน็ ยาลดไข้ ด้วยการใชใ้ บสด 1
กามอื ตาให้ละเอยี ด ผสมกบั นาซาวข้าว ใชพ้ อกบนศีรษะคนไข้ประมาณ 30 นาที

แหล่งอ้างองิ : https://medthai.com

ทองพันชั่ง

ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Rhinacanthus nasutus (L.) Kurz

ชื่อวงศ์ : ACANTHACEAE

ชอื่ สามัญ : Snake jasmine

ชือ่ พนื้ เมอื ง : ทองคนั ชัง่ หญ้ามันไก่ (ภาคกลาง)

ลักษณะทว่ั ไป :

ตน้ : ไม้พุ่ม สูงถึง 120 ซม. ก่ิงอ่อนและลาต้น มักเป็นสันส่เี หลย่ี ม สว่ นทยี่ งั ออ่ นมกั มีขน
ปกคลุม โคนลาตน้ เนือเป็นแกนแขง็

ใบ : ใบเดี่ยว ออกตรงขา้ ม รปู ไข่ รูปไข่หรอื รูปวงรี โคนใบและปลายใบแหลม กว้าง 2-
3 ซม. ยาว 4-6 ซม.

ดอก : ออกเป็นช่อสันที่ซอกใบ กลีบเลยี ง มี 5 กลีบ กลีบดอก สีขาว ส่วนโคนเชอื่ มติดกัน
เปน็ หลอด ยาวประมาณ 2 ซม. สว่ นปลายแยกเปน็ 2 แฉก

ผล : เป็นฝกั เรยี วยาว ภายในมเี มลด็ 4 เมล็ด

การใช้ประโยชน์ :

- ใบ และราก รักษากลาก เกลือน ผื่นคัน โดยใช้ใบสดและรากโขลกให้ละเอียด
แชเ่ หล้าโรง 1 สปั ดาห์ เอานาเหล้าทาบริเวณที่มอี าการ วันละ 2-3 ครัง

- ใบ รสเบื่อเย็น ดับพษิ ไข้ แก้ไข้ตัวร้อน แก้พยาธิผิวหนัง นาใบสดหรือค่ัวแหง้ มา
ชงในนาด่มื เป็นยาขบั ปสั สาวะ ยาระบาย

- ราก รสเบือ่ เมา แก้กลากเกลอื น ผืน่ คัน และโรคผวิ หนงั ท่เี ปน็ นาเหลืองบางชนิด

แหล่งทีม่ า : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/5137

หญา้ ปักก่ิง หญา้ กระลน่ื เขา

ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Murdannia loriformis (Hassk.) Rao Rolla & Kammathy

ชือ่ วงศ์ : COMMELINACEAE

ชือ่ สามัญ : Severalflower dewflower

ช่อื พน้ื เมอื ง : หญา้ เทวดา (ทวั่ ไป)/ ต้นอายุยืน (คนเมอื ง)/ เลง่ จือเลา่ (จนี )/ งูแ้ อะเช่า
หนิวเอ้อเฉ่า (จนี กลาง)

ลกั ษณะท่ัวไป :

ลาตน้ : เป็นไมล้ ้มลุกขนาดเล็ก มีความสูงประมาณ 10 ซม. ลาต้นกลม สีเขยี ว

ใบ : เป็นใบเดีย่ ว ใบออกแบบเรียงสลบั ใบท่ีโคนต้นรูปขอบขนาน ปลายใบแหลม ขอบ
ใบเรียบ มีสีเขียว ก้านใบเป็นกาบหุ้มลาต้น มีความกว้างประมาณ 1.5 ซม. ยาว
ประมณ 10 ซม. ส่วนใบท่ปี ลายยอดมีขนาดเล็กกว่าและสันกวา่

ดอก : ออกเป็นชอ่ ท่ีปลายยอด มีใบประดับย่อยคอ่ นข้างกลม สีเขียวอ่อน ดอกมีสฟี ้าหรือ
สีม่วงออ่ น กลบี ดอกบางมี 4 กลบี โคนกลีบเรียว

ผล : เปน็ ผลแหง้ แตกออกได้

การใช้ประโยชน์ :

- ต้น รักษาอาการเจ็บคอและมะเร็ง ในประเทศไทยใช้รักษาโรคมะเร็งหลายชนิด
โดยนาหญ้าปักก่ิง 6 ตน้ ล้างนาใหส้ ะอาด ตาใหล้ ะเอียด เติมนา 4 ชอ้ นโต๊ะ คนั เอา
แต่นาแบง่ ครึ่งดมื่ 2 ครัง ก่อนอาหารเชา้ ครึ่งช่ัวโมงและก่อนนอน

แหลง่ ทีม่ า : https://rpplant.royalparkrajapruek.org/Display/Details_fn/3697

โลบเี วีย

ช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Lobivia sp.

ชือ่ วงศ์ : CACTACEAE

ลกั ษณะทว่ั ไป :

ตน้ : ไม้อวบนา อายหุ ลายปี กลุม่ กระบองเพชร ลาต้นทรงกลม สีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม
มพี ู (ribs ) 13-16 พู แตกหน่อจากตุ่มเนินหนามได้

ใบ : ใบลดรูปเป็นหนาม สนั และอ่อนนุม่ สเี หลอื งออ่ น มี 6-8 อันตอ่ หนง่ึ ต่มุ เนนิ
หนาม

ดอก : ดอกเดี่ยว ออกตามตุม่ เนนิ หนาม มหี ลายสี เชน่ สีขาว สีชมพู สเี หลือง ดอกขนาด
ใหญ่ กลบี ดอกหลายชัน

การใชป้ ระโยชน์ :

- ปลกู ประดบั เปน็ ไมก้ ระถาง ปลูกในอาคาร

แหลง่ อา้ งองิ : https://data.addrun.org/plant/archives/957-lobivia-sp


Click to View FlipBook Version