ง30101 การดำรงชีวิตและครอบครัว 1
นางสาวสุพิชญา พลชัย
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 /2 เลขที่ 42
เสนอ
คุณครูวธัญญู ทองเหลือ
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคใต้
1
โครงการสอน
รหัส ง30101 รายวชิ า การดำรงชีวติ และครอบครัว1
จำนวน 0.5 หนวยการเรยี น เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห
ชัน้ มัธยมศึกษาปที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปการศกึ ษา 2564
กลุมสาระการการเรียนรกู ารงานอาชพี
โรงเรยี นเตรียมอดุ มศึกษาภาคใต
………………………………………………………………………………………………………………………………
คำอธบิ ายรายวิชา
ศึกษาวิธีการทำงานตามแนวทฤษฎีใหม การปลกู พืชและการเลี้ยงสัตวมีความสำคญั ตอ การดำรงชีวติ ฝกทักษะ
การทำงาน สรา งจิตสำนกึ ในการอนุรักษพลังงานและสิ่งแวดลอ ม โดยนำเครือ่ ง มอื เคร่อื งใชไฟฟา อปุ กรณอำนวยความ
สะดวกที่ใชในชีวิตประจำวัน ตองรูจักการใช การติดตั้ง บำรุงรักษาและซอมแซม ตลอดการดำเนินงานทางธุรกิจได
หลากหลายตามความเหมาะสม โดยมีจดุ ประสงคใ นการทำงานรว มกัน เพ่อื ใหบ รรลจุ ุดมุงหมายท่ีไดต ้งั ไว
โดยใชทกั ษะกระบวนการทำงานทักษะการจัดการทักษะกระบวนการแกปญหา ทักษะการทำงานรวมกันทักษะ
การแสวงหาความรูอ ธิบายวิธีการทำงานเกษตร งานชา ง และงานธรุ กจิ อยางมีความคดิ สรา งสรรคในการทำงานมีทักษะ
ในใชเ ทคโนโลยใี นอาชพี ทถ่ี นดั และสนใจ
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค มคี วามคิดสรางสรรค มีคณุ ธรรม และลักษณะนสิ ัยในการทำงาน มีจิตสำนกึ ในการ
ใชพลังงาน ทรัพยากร และสิ่งแวดลอมอยางคุมคาและยั่งยืนมีความคิดสรางสรรคมีคุณธรรมและลกั ษณะนิสัยในการ
ทำงานมีเจตคติที่ดีตออาชีพใชเทคโนโลยีอยางเหมาะสมกับอาชีพมีคุณลักษณะที่ดีตออาชีพและสมรรถนะสำคัญของ
ผูเรียนมีความสามารถในการคิดความสามารถในการแกปญหาความสามารถในการใชทักษะชีวิตความสามารถในการ
สอ่ื สารและความสามารถในการใชเทคโนโลยี
ตวั ชี้วัด
ง1.1 ม.4/1 , ม.4/3 , ม.4/5 , ม.4/7
รวมท้ังสน้ิ 4 ชวี้ ัด
ง30101 การดำรงชวี ติ ฯ 1 ม.4
2
โครงการสอน
ง30101 การดำรงชวี ติ และครอบครวั 1 เวลา 20 คาบ 0.5 หนว ยกิต
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ 4
ภาคเรยี นท่ี 2 ปก ารศกึ ษา 2564 อัตราสว นคะแนน 80:20
นำ้ หนักคะแนน
มาตรฐาน การวดั /
การเรยี นรู ประเมินผล
สัปดา หที่
ห นวยท่ี
จำนวนคาบ
ราย ุจด
กลางภาค
ปลายภาค
รวม
ชื่อหนวย สาระการเรียนรู
1 1 ทฤษฎใี หม ง1.1 1. พนื้ ที่ทฤษฎใี หมโ รงเรยี น 5 17 12 - 29 -สงั เกต
- ม.4/1 อธิบาย เตรียมอุดมศกึ ษาภาคใต -รายงานตนเอง
5 วธิ ีการทำงานเพอ่ื 30 : 30 : 30 : 10 -ปฏิบตั ิจรงิ
การดำรงชีวิต 2. หญาแฝก -สอบถามเพื่อน
6 2 ธุรกิจยุกต -แบบบนั ทึก
- ปจจบุ นั 3. ถา นไบโอชาร
8 4. จลุ ินทรยี สงั เคราะหแ สง 3 13 8 - 21 -สังเกต
5. Ling - แอปเพ่ือการ
9 เกษตรดิจิทลั -สัมภาษณ
10 3 อาชีพ ง1.1 6. ประเภทธรุ กจิ -ปฏบิ ัตจิ ริง
- การเกษตร 4/5 มที ักษะใน 7. ระบบธุรกิจ -แบบบันทึก
16 การแสวงหาความรู 8. ธุรกิจออนไลน
เพื่อการดำรงชีวิต 8 30 20 - 50
สอบกลางภาค 8 22 - 15 37 -สังเกต
ง1.1 9. การปลกู พชื -รายงานตนเอง
4/3 มีทกั ษะการ 10. การปฏิบัตดิ แู ลรกั ษาพชื -สัมภาษณ
จดั การในการ 11. การขยายพันธพุ ืช -ปฏิบตั ิจรงิ
ทำงาน 12. การจัดการผลผลติ -สอบถามเพอื่ น
-แบบบนั ทกึ
13. การเล้ียงสัตว
14. ประเภทของสตั วเลยี้ ง
15. อาชีพการเลี้ยงสตั ว
16. สัตวอนรุ กั ษ
ง30101 การดำรงชวี ิตฯ 1 ม.4
3
น้ำหนักคะแนน
มาตรฐาน การวัด/
การเรียนรู ประเมินผล
สัปดา หท่ีช่อื หนวย
ห นวย ่ที
จำนวนคาบ
ราย ุจด
กลางภาค
ปลายภาค
รวม
สาระการเรยี นรู
17 4 งานชา ง ง 1.1 17. เคร่ืองมอื ชาง 2 8 - 5 13 -สงั เกต
- พ้นื ฐาน 4/7 ใชพ ลังงาน 18. การติดตงั้ อุปกรณ -ปฏิบัตจิ ริง
19 ทรัพยากร ในการ -สอบถามเพือ่ น
ทำงานอยา งคุมคา -แบบบันทกึ
20 และย่ังยนื เพ่อื การ -ตรวจขอสอบ
อนรุ ักษสงิ่ แวดลอ ม
10 30 - 20 50
สอบปลายภาค
20 60 20 20 100
รวมตลอดภาคเรียน
ภาระงาน ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปการศกึ ษา 2564
ลำดบั ภาระงาน ส่งั สง
ท่ี
1. สง สมดุ Recycle งานเกษตร ครั้งที่ 1 1-5 พ.ย.64 15-19 พ.ย.64
2. ทฤษฎใี หม 8-12 พ.ย.64 15-19 พ.ย.64
3. หญา แฝก 22-26 พ.ย.64 29 พ.ย.-2 ธ.ค.64
4. ถานไบโอชาร 6-10 ธ.ค.64 13-17 ธ.ค.64
5. จลุ ินทรียสังเคราะหแสง 13-17 ธ.ค.64 20-24 ธ.ค.64
6. วดั พ้ืนท่ีดวยโปรแกรม ลิง 20-24 ธ.ค.64 27-31 ธ.ค.64
7. ออกแบบสินคาออนไลน 3-7 ม.ค.65 10-14 ม.ค.65
8. ปก ชำควบแนน 10-14 ม.ค.65 17-21 ม.ค.65
9. รายงานสตั วหนา เดียว 24-28 ม.ค.65 31 ม.ค.-4 ก.พ.65
10. ทำความสะอาดอุปกรณ/ไฟฟา/เครอ่ื งเรือน 31 ม.ค.-4 ก.พ.65 7 ก.พ.-11 ก.พ.65
11. สง สมดุ Recycle งานเกษตร คร้งั ที่ 2 หลังสอบปลายภาค
ง30101 การดำรงชีวิตฯ 1 ม.4
4
มาตรการแกไขคุณลักษณะ ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ี่ 4
ลำดับที่ ผดิ สญั ญา บทลงโทษ
1. เขา หองเรยี นสาย/พูดคยุ ขณะครูสอน/เลน โทรศพั ท ด่มื น้ำบอระเพด็ /บอระเพ็ดเกล็ดหิมะ
2. สง งานชา 1 วัน กวาดหอ งเกษตร
3. สง งานชา 2 วนั กวาดและถูหองเกษตร
4. สงงานชา 3 วัน กวาดและถหู องเกษตรช้ันบนชั้นลาง
5. สง งานชา 4 วัน กวาดและถูหอ งเกษตรช้นั บนชน้ั ลางและบริเวรตวั อาคาร
6. สงงานชา 5 วัน ตดิ ร.
7. การแก ร. ปฏบิ ัติขอ ที่ 2-5 ครบทุกขอ
8. สอบไมผา นกลางภาคและปลายภาค กำจดั วชั พืชในบอน้ำคะแนนละ 1 เมตร 2 เมตร ปลายภาค
เปาหมายการพัฒนาการเรยี นรขู องนกั เรยี น
ง30101 รายวิชา การดำรงชวี ติ และครอบครัว1
กลุม สาระการเรยี นรูก ารงานอาชีพ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 4
รหสั วิชา/รายวิชา เปา หมายดา นความรู รอ ยละ
1. มผี ลสัมฤทธผ์ิ านเกณฑข ั้นตำ่ (1) ไมนอยกวา 100
ง30101 2. มีผลสัมฤทธิ์ในรับดี (เกรด 3 ขึ้นไป) ไมนอยกวา 92
การดำรงชีวติ และ 3. เรยี นมีผลสัมฤทธคิ์ วรปรับปรงุ (0,ร,ม,.ส) ไมเ กิน 0
รอยละ
ครอบครัว1 เปาหมายดานการอา น คดิ วเิ คราะห อา น-เขยี น 95
1. ผูเรยี นผา นการประเมินการอาน คดิ วิเคราะห และเขยี นในระดับดี(ระดับ 2 และ3 )ไมต ำ่ กวา รอ ยละ
95
เปาหมายดานคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค
1. ผูเรยี นผานการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค ในระดับด(ี ระดับ 2 และ 3 ) ไมต่ำกวา
หมายเหตุ Prin หรอื จดบันทึกลงในสมุด Recycle เกษตรตัง้ แตห่ นา้ แรกให้พอดีกบั หน้าสมุด หา้ มพับอยา่ งเด็ดขาด
ลงช่อื ....................................................
(นายวธัญู ทองเหลือ)
ง30101 การดำรงชวี ติ ฯ 1 ม.4
พ้ืนท่ีทฤษฎีใหม่
การทาเกษตรยคุ ปัจจบุ นั มหี ลากหลายรูปแบบ หน่ึงในการทาเกษตรที่ยงั่ ยนื และไดผ้ ลดี สามารถใชไ้ ดก้ บั ทุกพ้นื ทค่ี ือ
การทา เกษตรผสมผสาน ตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ มกี ารแบ่งพ้นื ท่ีเพอื่ ใชใ้ ห้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเร่ิมจาก
จดั การดินและน้าให้เพียงพอ ปลกู พืช ไมย้ ืนตน้ เล้ยี งสตั ว์ เพ่ือสร้างระบบนิเวศทดี่ ี ปลูกป่ าไวใ้ ชเ้ ป็นพลงั งาน อนุรกั ษ์
พนั ธุกรรมพชื เพือ่ สร้างความหลากหลาย ทาให้เกิดความมนั่ คงทางอาหาร เกษตรกรสามารถเล้ียงตวั เองได้ มกี ิน มีอยู่
มีใชใ้ นพ้ืนทข่ี องตวั เอง
เม่ือบริหารพ้ืนทไี่ ดส้ มดลุ ก็สามารถสร้างผลผลติ ท่ีดี และขยบั ขยายไปสู่การทาธุรกิจเกษตรอยา่ งยงั่ ยืน โดยอาจจะ
รวมกลุ่มร่วมกบั เครือข่ายเกษตรกรทด่ี าเนินแนวทางเดียวกนั เพื่อแลกเปลีย่ นความรู้ เทคโนโลยี เคร่ืองมอื เกษตรตา่ งๆ
ตลอดจนตลาดผบู้ ริโภคของตนเอง เป็นตน้
การจดั สรรพ้นื ท่ีอยอู่ าศยั และที่ทากิน
ใหแ้ บง่ พ้ืนที่ ออกเป็น 4 ส่วน ตามอตั ราส่วน 30:30:30:10 ซ่ึงหมายถึงพ้ืนท่ีส่วนที่หน่ึง ประมาณ 30% ให้ขุดสระเก็บ
กกั น้า เพอ่ื ใชเ้ กบ็ กกั น้าฝนในฤดูฝนและ ใชเ้ สริมการปลกู พืชในฤดแู ลง้ ตลอดจนการเล้ยี งสัตวน์ ้าและพชื น้าตา่ ง ๆ
พ้นื ทส่ี ่วนที่สอง ประมาณ 30% ให้ปลกู ขา้ วในฤดฝู น เพ่อื ใชเ้ ป็นอาหารประจาวนั สาหรบั ครอบครวั ให้เพียงพอ
ตลอดปี เพือ่ ตดั ค่าใชจ้ ่ายและสามารถพ่งึ ตนเองได้ พ้ืนท่สี ่วนท่ีสาม ประมาณ 30% ใหป้ ลูกไมผ้ ล ไมย้ นื ตน้ พืชผกั
พชื ไร่ พืชสมุนไพร ฯลฯ เพอ่ื ใชเ้ ป็นอาหารประจาวนั หากเหลอื บริโภคกน็ าไปจาหน่าย พ้นื ที่ส่วนที่ส่ี ประมาณ 10%
เป็นทอ่ี ยอู่ าศยั เล้ียงสัตวแ์ ละโรงเรือนอ่นื ๆ
หลกั การและแนวทางสาคญั
1. เป็นระบบการผลิตแบบพอเพียง ที่เกษตรกรสามารถเล้ยี งตวั เองไดใ้ นระดบั ที่ประหยดั กอ่ น ท้งั น้ีชุมชนตอ้ งมคี วาม
สามคั คี ร่วมมือร่วมใจในการช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั ทานองเดียวกบั การ "ลงแขก" แบบด้งั เดิม เพื่อลดคา่ ใชจ้ า่ ย
2. เน่ืองจากขา้ วเป็นปัจจยั หลกั ท่ที กุ ครัวเรือนจะตอ้ งบริโภค ดงั น้นั จึงประมาณวา่ ครอบครัวหน่ึงทานา 5 ไร่ จะทาให้
มขี า้ วพอกินตลอดปี โดยไมต่ อ้ งซ้ือหาในราคาแพง เพื่อยึดหลกั พ่ึงตนเองไดอ้ ยา่ งมอี สิ รภาพ
3. ตอ้ งมีน้าเพอ่ื การเพาะปลูกสารองไวใ้ ชใ้ นฤดูแลง้ หรือระยะฝนทง้ิ ช่วงไดอ้ ยา่ งพอเพียง ดงั น้นั จึงจาเป็นตอ้ งกนั
ที่ดินส่วนหน่ึงไวข้ ดุ สระน้า โดยมีหลกั ว่าตอ้ งมีน้าเพียงพอท่ีจะทาการเพาะปลูกไดต้ ลอดปี ท้งั น้ีไดพ้ ระราชทาน
พระราชดาริเป็นแนวทางวา่ ตอ้ งมีน้า 1,000 ลกู บาศก์เมตร ตอ่ การเพาะปลกู 1 ไร่ โดยประมาณ ฉะน้นั เม่อื ทานา 5 ไร่
ทาพชื ไร่หรือไมผ้ ลอีก 5 ไร่ (รวมเป็น 10 ไร่) จะตอ้ งมีน้า 10,000 ลูกบาศกเ์ มตรต่อปี
ดงั น้นั หากมีพ้ืนที่ 15 ไร่ จึงมสี ูตรคร่าว ๆ วา่ แต่ละแปลงประกอบดว้ ย
- นา 5 ไร่
- พชื ไร่พชื สวน 5 ไร่
- สระน้า 3 ไร่ ลึก 4 เมตร จปุ ระมาณ 19,000 ลูกบาศก์เมตร ซ่ึงเป็น ปริมาณน้าที่เพยี งพอท่ีจะสารองไวใ้ ชย้ ามฤดูแลง้
- ท่อี ยอู่ าศยั และอน่ื ๆ 2 ไร่
รวมท้งั หมด 15 ไร่
4. การจดั แบ่งแปลงทด่ี ินเพอ่ื ใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุดน้ี พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวทรงคานวณและคานึงจากอตั รา
ถอื ครองทีด่ ินถวั เฉลย่ี ครวั เรือนละ 15 ไร่ อยา่ งไรกต็ าม หากเกษตรกรมีพ้ืนที่ถอื ครองนอ้ ยกว่าหรือมากกวา่ น้ี ก็
สามารถใชอ้ ตั ราส่วน 30:30:30:10 ไปเป็นเกณฑป์ รับใชไ้ ด้ กลา่ วคอื
30% ส่วนแรก ขุดสระน้า (สามารถเล้ยี งปลา ปลกู พืชน้า เช่น ผกั บุง้ ผกั กะเฉด ฯลฯ ไดด้ ว้ ย)
30% ส่วนท่ีสอง ทานา
30% ส่วนท่สี าม ปลูกพืชไร่ พชื สวน (ไมผ้ ล ไมย้ นื ตน้ ไมใ้ ชส้ อย ไมส้ ร้างบา้ น พืชไร่ พชื ผกั สมุนไพร เป็นตน้ )
10% สุดทา้ ย เป็นที่อยอู่ าศยั และอ่นื ๆ (ถนน คนั ดิน กองฟาง ลานตาก กองป๋ ยุ หมกั โรงเรือน โรงเพาะเห็ด คอกสัตว์
ไมด้ อกไมป้ ระดบั พืชผกั สวนครัวหลงั บา้ น เป็นตน้ )
อ้างองิ
1.แนวทางทาเกษตรผสมผสาน แบ่งพ้ืนทปี่ ลกู พืช เล้ยี งสัตว์ และแหล่งน้า [ออนไลน]์ .2021.แหล่งท่ีมา :
shorturl.asia/WchkF [1 ม.ิ ย. 2021]
2.เกษตรตามแนว “ทฤษฎีใหม่”[ออนไลน]์ .2564.cs]แหล่งท่ีมา : shorturl.asia/jak7y [13 พฤศจิกายน 2564]
หญ้าแฝก
หญา้ แฝกมอี ยใู่ นโลกประมาณ 11-12 ชนิด แตใ่ นประเทศไทยพบวา่ มีอยเู่ พียง 2 ชนิด คอื หญา้ แฝกหอมหรือ
หญา้ แฝกล่มุ (Chrysopogon zizanioides (L.) Roberty) และหญา้ แฝกดอน (ช่ือวิทยาศาสตร์ Chrysopogon
nemoralis (Balansa) Holttum (ช่ือพอ้ งวทิ ยาศาสตร์ Vetiveria nemoralis (Balansa) A.Camus)) ในธรรมชาติ
เราจะพบหญา้ แฝกท้งั สองชนิดน้ีไดท้ วั่ ไป เพราะข้นึ ไดด้ ีในสภาพพ้ืนที่ท้งั ทีล่ มุ่ และทด่ี อน ในดินสภาพต่าง
ๆ จากความสูงใกลก้ บั ระดบั น้าทะเลไปจนถงึ ระดบั ประมาณ 800 เมตร และถ่นิ กาเนิดด้งั เดิมของพืชชนิดน้ี
สนั นิษฐานวา่ อยใู่ นประเทศอินเดีย
ความแตกต่างระหว่างหญ้าแฝกหอมและหญ้าแฝกดอน
หญา้ แฝกท้งั สองชนิดจะมลี กั ษณะภายนอกของใบท่มี ีความแตกต่างกนั อยา่ งชดั เจน โดยสามารถจาแนกได้
ดงั น้ี
หญา้ แฝกหอม ใบมีความกวา้ งประมาณ 0-6-1.2 เซนตเิ มตรและยาวประมาณ 45-100 เซนติเมตร ใบเป็นสี
เขียวเขม้ หลงั ใบโคง้ ปลายแบน เน้ือใบคอ่ นขา้ งเนียน มีไขเคลอื บทาให้ดูมนั ส่วนทอ้ งใบจะออกเป็นสีขาว
ซีดกว่าหลงั ใบ
ใบมีความกวา้ งประมาณ 0.4-0.8 เซนติเมตรและยาวประมาณ 35-80 เซนตเิ มตร ใบเป็นสีเขยี วซีด หลงั ใบพบั
เป็นสันสามเหลี่ยม เน้ือใบหยาบสากมือ มไี ขเคลอื บนอ้ ยทาให้ดกู ร้าน ส่วนทอ้ งใบจะเป็นสีเดียวกบั หลงั ใบ
แต่จะมีสีซีดกวา่
สาหรบั ลกั ษณะโครงสร้างภายนอกเมือ่ ทาการเปรียบเทียบจะพบวา่ ใบหญา้ แฝกหอมจะมีเน้ือใบหนากวา่
และขนาดของช่องอากาศก็มีขนาดใหญก่ ว่าหญา้ แฝกดอนดว้ ย
ส่วนความแตกต่างของลกั ษณะภายในรากท่เี ห็นไดช้ ดั เจน คือ รากหญา้ แฝกหอมจะมโี พรงอากาศในบริเวณ
คอร์เทกซ์ และมีขนาดทีใ่ หญก่ ว่าหญา้ แฝกดอน
ประโยชน์ของหญ้าแฝก
หญา้ แฝกหอมเป็นพชื ท่ีสะสมน้ามนั หอมไวใ้ นส่วนของราก คนไทยสมยั กอ่ นจึงใชร้ ากของหญา้ แฝกเป็น
เคร่ืองหอมสาหรับอบเส้ือผา้ แกก้ ลิ่นอบั ในตเู้ ส้ือผา้ ใชข้ บั ไลแ่ มลง ดว้ ยการใชร้ ากแห้งนามาแขวนในตู้
เส้ือผา้ และยงั ใชผ้ สมกบั น้ามนั ให้เกิดกลิ่นหอม หรือนาไปผลิตเป็นเคร่ืองสาอางต่อไป
คุณสมบตั ิของหญา้ แฝก เนื่องจากภายในของรากหญา้ แฝกมลี กั ษณะเหมอื นกบั รากของพืชน้า มนั จึงสามารถ
ทนตอ่ น้าทว่ มขงั ไดเ้ ป็นอยา่ งดี จึงนามาใชป้ ลูกเพ่ือการอนุรกั ษด์ ินและน้า ส่ิงแวดลอ้ มและระบบนิเวศน์เพอ่ื
ช่วยแกป้ ัญหาและป้องกนั การพงั ทลายของดิน เพอ่ื ป้องกนั ความเสียหายของช้นั บนั ไดดินหรือคนั คคู ลองรับ
น้ารอบเขา เพือ่ ป้องกนั รกั ษาการกดั เซาะของน้าจากแม่น้าบริเวณคอสะพาน เพอื่ ป้องกนั ตะกอนดนิ ลงสู่ทาง
น้า ปลูกเพอ่ื แกป้ ัญหาดินดาน ฟ้ื นฟดู ิน เพอ่ื ควบคุมมลพิษ รักษาสภาพแวดลอ้ ม หรือใชป้ ลกู เป็นแถวตาม
แนวระดบั ขวางความลาดเท เป็นตน้
ส่วนประโยชน์ของหญา้ แฝกหอมอนื่ ๆ เช่น การนามาเยบ็ เป็นตบั เพ่ือใชม้ ุงหลงั คา ใชใ้ นคอกสัตว์ รองนอน
ใหเ้ ลา้ สัตวเ์ ล้ียง ใบใช้เป็นอาหารเล้ียงสตั ว์ ใชเ้ พาะเห็ด ทาเป็นป๋ ุยหมกั และพืชคลมุ ดิน หรือใชร้ ากนามาทา
พดั สาหรบั พดั ให้ความเยน็ และให้กล่นิ หอมเยน็ และใชใ้ นงานหตั ถกรรมต่าง ๆ ทาเชือก หมวก ตะกร้า
เครื่องประดบั เคร่ืองตกแต่งบา้ น ของใชส้ านกั งาน ไมอ้ ดั งานประดิษฐ์ งานจกั สาร ฯลฯ
อ้างอิง
เวบ็ ไซตเ์ มดไทย(MedThai). พนั ธุห์ ญา้ แฝก[ออนไลน]์ . 2560.
แหล่งทีม่ า : http://charoensinhos.go.th/2017/04 [17 พฤศจิกายน 2564]
นางสาวสุพชิ ญา พลชยั เลขที่ 42 4/2
ถ่านไบโอชาร์
คือ วสั ดทุ อ่ี ุดมดว้ ยคาร์บอน ผลิตจากชีวมวล หรือสารอนิ ทรียท์ ่ียอ่ ยสลายไดจ้ ากธรรมชาติ หรือวสั ดเุ หลอื ใชจ้ าก
การเกษตร เช่น ใบไม้ ก่ิงไม้ หญา้ ฟางขา้ ว เหงา้ มนั สาํ ปะหลงั ซงั และตน้ ขา้ วโพด มูลสตั ว์ กากตะกอนของเสีย เป็น
ตน้ แมก้ ระทง่ั มูลสตั วน์ าํ มาผา่ นกระบวนการเผาไหมท้ ่ีมีการควบคมุ อณุ หภมู แิ ละอากาศหรือจาํ กดั อากาศให้เขา้ ไป
เผาไหมน้ อ้ ยที่สุดซ่ึงกระบวนการเผาไหมน้ ้ี เรียกว่า “การแยกสลายดว้ ยความร้อนหรือกระบวนการไพโรไลซิส” ใน
สภาวะทไ่ี ม่มอี อกซิเจนหรือมีออกซิเจนนอ้ ยมาก มงี านวิจยั ทไ่ี ดศ้ กึ ษาการใชป้ ระโยชน์ของถา่ นชีวภาพมีหลายดา้ น
เช่น การปรบั ปรุงดิน และช่วยเพม่ิ ปริมาณและคณุ ภาพของผลผลติ ทางการเกษตร รวมถงึ ลดระยะเวลาการปลูกไดอ้ ีก
ดว้ ย แลว้ แต่ชนิดของพชื ทป่ี ลูก มงี านวิจยั ท่ีนาํ ถ่านชีวภาพไปใชก้ บั พืชทางการเกษตร ใชเ้ ป็นวสั ดุปลูกร่วมกบั วสั ดุ
อนื่ เพอื่ ผลติ ผลผลติ ทางการเกษตร การลดการดดู ซบั สารเคมที ่ีใชก้ าํ จดั วชั พืชและศตั รูพชื และโลหะหนกั ทีอ่ ยใู่ นดิน
และน้าํ ของพืชที่ปลูก โดยถา่ นชีวภาพจะตรึงสารเคมกี ลุม่ น้ีไว้ ทาํ ใหล้ ดผลกระทบตอ่ พชื ท่ปี ลูกจากสารเคมแี ละ
โลหะหนกั ทป่ี นเป้ื อน ใชด้ ดู ซบั น้าํ มนั ปิ โตรเลยี ม ใช้เป็นตวั เร่ง ในปฏกิ ริยาในกระบวนการผลิตไบโอดีเซละและไบ
โอแกส๊ ใชเ้ ป็นวสั ดุเพ่ือผลติ ชิ้นส่วนอิเล็กโทรนิกส์ ผลิตกราฟี น เป็นตน้
ถา่ นชีวภาพถูกนาํ มาใชม้ าเป็นเวลาหลายพนั ปี มาแลว้ โดยชุมชนพ้ืนเมอื งในแถบลมุ่ น้าํ อะเมซอนของทวีปอเมริกาใต้
ไดใ้ ชเ้ ศษพืชจากพ้ืนที่เพาะปลูกและมลู สัตว์ เผาให้กลายเป็นถา่ นชีวภาพ ซ่ึงเรียกชื่อตามภาษาทอ้ งถิ่นว่า Terra Preta
มคี วามหมายวา่ โลกดาํ (black earth) หมายถึง สีของดินบริเวณน้นั มีสีคล้าํ จนเกือบดาํ เน่ืองจากดนิ ดงั กลา่ วมปี ริมาณ
ธาตุอาหารหรืออินทรียวตั ถใุ นดินสูงกวา่ พ้นื ที่ที่ไมใ่ ส่ถ่านชีวภาพ ปัจจบุ นั พบว่าพ้นื ท่ีที่เคยมีการใชถ้ า่ นชีวภาพใน
พ้ืนทเี่ กษตรกรรม ในหลายพ้นื ทีข่ องอเมริกา ยโุ รปและ เอเชีย เช่น เอกวาดอร์และเปรูในอเมริกาใต้ เบนิน และ
ไลบีเรียในแอฟริกาตะวนั ตกและทุง่ หญา้ สะวนั นาในแอฟริกาใต้ จีนและออสเตรเรีย เป็นตน้ อกี ท้งั มงี านวจิ ยั จาํ นวน
มากท่เี ก่ียวกบั การผลิตและการประยกุ ตใ์ ชง้ มีงานวิจยั ทีไ่ ดศ้ กึ ษาการใชป้ ระโยชนข์ องถ่านชีวภาพมีหลายดา้ น เช่น
มีงานวิจยั ที่ไดศ้ กึ ษาการใชป้ ระโยชน์ของถ่านชีวภาพมหี ลายดา้ น เช่น
• นาํ ไปปรับปรุงดินเพือ่ ปลกู พชื
- การปรับปรุงดิน และช่วยเพม่ิ ปริมาณและคณุ ภาพของผลผลิตทางการเกษตร รวมถงึ ลดระยะเวลาการ
ปลูกไดอ้ ีกดว้ ย แลว้ แต่ชนิดของพืชที่ปลูก มีงานวจิ ยั ท่ีนาํ ถา่ นชีวภาพไปใชก้ บั พืชทางการเกษตร เช่น
พชื ไร่เช่น ปลูกขา้ ว ขา้ วโพด ถว่ั เหลอื ง ไมด้ อกไมป้ ระดบั รวมถงึ พชื สวน ผกั สวนครัว และกาแฟ เป็น
ตน้
- ใชเ้ ป็นวสั ดุปลูกร่วมกบั วสั ดุอ่นื เพ่อื ผลิตผลผลิตทางการเกษตร
- วสั ดเุ พาะตน้ กลา้ ช่วยทาํ ให้เติบโตไดด้ ี เช่น ไบโอชาร์เปลอื กกาแฟใชเ้ พาะตน้ กลว้ ย ไบโอชาร์แกลบใช้
เพาะผกั ผกั สลดั เป็นตน้
- ดินปลูกผสมไบโอชาร์ ช่วยลดเวลาผลผลติ เช่น กระเจี๊ยบ ดอกแค เป็นตน้
- ช่วยลดตน้ ทุนการทาํ เกษตร โดยใชเ้ พยี งดินปลูกผสมไบโอชาร์ตามสูตรแม่โจ้ สามารถใชผ้ ลิตผลผลิต
เกษตร เช่น ผกั สลดั ผกั ส่วนครัว โดยท่ีไมต่ อ้ งเตมิ ป๋ ุยเพิ่มเตมิ ทาํ ให้ช่วยลดตน้ ทนุ การผลิตสาํ หรบั
เกษตรกรานถา่ นชีวภาพ
• การดูดซบั แก๊สและลดกลน่ิ
- ลดกลิ่นและแกส๊ เรือนกระจกของการหมกั ป๋ ยุ และช่วยตรึงไนโตรเจน ทาํ ให้ป๋ ุยหมกั มีปริมาณ
ไนโตรเจนเพิ่มข้นึ และลดระยะเวลาการหมกั
- ดดู ซบั กลิ่นและแก๊สจากมูลสัตวใ์ นฟาร์ม รวมถงึ ระบบบาํ บดั น้าํ เสียในฟาร์ม
• การดดู ซบั แร่ธาตุท่ีปนเป้ื อนไปในแหล่งน้าํ
- ฟอสเฟต
- ไนเตรท
• การดูดซบั สารเคมีและโลหะหนกั
- การลดการดดู ซบั สารเคมีทใ่ี ชก้ าํ จดั วชั พืชและศตั รูพชื และลดการดดู ซบั โลหะหนกั ทีอ่ ยใู่ นดินและน้าํ
ของพชื ท่ีปลูก โดยถา่ นชีวภาพจะตรึงสารเคมแี ละโลหะหนกั กลมุ่ น้ีไว้ ทาํ ให้ลดผลกระทบต่อพชื ที่ปลูก
จากสารเคมีและโลหะหนกั ทป่ี นเป้ื อน โดยเฉพาะพชื ผกั สวนครวั และพชื สมนุ ไพร
- การบาํ บดั น้าํ เสียหรือแหล่งน้าํ ท่ีมกี ารปนเป้ื อนโลหะหนกั และสารเคมี
- ใชด้ ดู ซบั น้าํ มนั ปิ โตรเลยี ม
• ตวั เร่งปฏิกิริยา
- การผลติ ไบโอดีเซล
- การผลิตไบโอแก๊สจากน้าํ เสีย บาํ บดั น้าํ เสีย
• ลดน้าํ หนกั ของวสั ดุ
- ใชเ้ ป็นส่วนผสมอิฐและปูนซีเมนตเ์ พือ่ ช่วยลดน้าํ หนกั
• อิเล็กทรอนิกส์
- ใชเ้ ป็นวสั ดุเพอื่ ผลิตชิ้นส่วนอิเลก็ โทรนิกส์
- ผลติ กราฟีน
อ้างองิ
เวบ็ ไซตม์ หาวิทยาลยั แม่โจ(้ Maejo university).การผลิตถา่ นชีวภาพและแนวทางการใชป้ ระโยชน์[ออนไลน]์ .2562.
แหล่งทม่ี า : https://erp.mju.ac.th/acticleDetail.aspx?qid=1072 [24 พฤศจิกายน 2564]
นางสาวสุพชิ ญา พลชยั เลขที่ 42 4/2
ปักชำแบบควบแน่น
วิธีทำ
1. เลอื กก่ิงพนั ธุ์ทีเ่ รำตอ้ งกำร เช่น มะนำว เลม่อน ส้มจ้ีด กหุ ลำบ มะเขือ มะม่วง และ อน่ื ๆ
เลอื กกิ่งท่มี ีลกั ษณะไมอ่ ่อน หรือแกจ่ นเกินไป ใชก้ รรไกรคม ตดั ปลำยแนวเฉียงใหก้ ่ิงมขี นำด 12-18 ซม.
ริดใบออก ให้เหลือเอำไว้ 2-3 ใบ แลว้ ตดั ใบออกคร่ึงใบ เพ่อื ลดกำรคำยน้ำ เอำตำบนกิ่ง และหนำมออก
2. ปักก่ิงรอไวใ้ นน้ำท่ีผสมน้ำยำเร่งรำกทนั ที ทิ้งไว้ 30 นำทีข้ึนไป (หำกไมม่ สี ำมำรถละลำยกะปิ เลก็ นอ้ ยลง
ไปแทนได)้
3. เตรียมดิน ผสมน้ำและคลุกเคลำ้ ให้มีควำมช้ืนประมำณ 60%
เมอ่ื จบั ดดู ินจะมลี กั ษณะร่วน ช้ืนแตไ่ มแ่ ฉะ เมื่อบีบ ดินจะสำมำรถจบั ตวั เป็นกอ้ นได้ เหตุท่ีไม่ใชด้ ินท่แี ฉะ
เป็นเพรำะ หำกดินมีควำมช้ืนมำกเกินไป ระหว่ำงกำรรอให้รำกงอกจะเกิดเช้ือรำกอ่ นได้ และหำ้ มผสมป๋ ุย
อะไรลงไปในดินในข้นั ตอนน้ี เพรำะเหมือนเอำอำหำรผใู้ หญใ่ ห้ทำรกกิน จะเกิดโทษมำกกว่ำประโยชน์
สำมำรถใชด้ ินถุงเปล่ำ ๆ ไดเ้ ลย
4. ตดั ขวดออกคร่ึงหน่ึง ใส่ดินลงไปในทอ่ นล่ำงของขวด หรือแกว้ น้ำ
ค่อย ๆ กดให้ดินแน่นข้ึนใหพ้ อที่ดินจะนำบกบั กิ่งท่ีเรำจะปักชำ แตไ่ ม่ตอ้ งอดั จนแน่นขนำดทีร่ ำกจะเดิน
ไมไ่ ดเ้ ลย
5. ใชไ้ มน้ ำร่อง แลว้ ปักกิ่งชำลงไป กดดนิ ให้แนบกบั ก่ิงทเี่ รำปัก
หำกไม่ใชไ้ มน้ ำร่องกอ่ น ปลำยกิ่งจะช้ำเสียหำย อำจทำใหร้ ำกไมง่ อกได้
6. นำส่วนดำ้ นบนของขวด หรือใชถ้ งุ พลำสติกมำครอบดำ้ นบน
7. ใชห้ นงั ยำง หรือเทปกำวพนั ปิ ดไมใ่ หอ้ ำกำศเขำ้ ได้
8. ต้งั ทง้ิ ไวใ้ นที่ร่ม หรือแดดรำไร มำตรวจสอบเมื่อผำ่ นไป 20 วนั (บำงชนิด เช่น โรสแมรี่ 2 อำทิตยก์ ็รำกต
รึมแลว้ )
การเพาะจลุ นิ ทรีย์สังเคราะห์แสง
ในการขยายเช้ือจุลินทรียส์ งั เคราะห์แสง ส่ิงท่ตี อ้ งเตรียม ประกอบไปดว้ ย
1.ขวดน้าพลาสตกิ ขนาด 600 cc
2.น้าเปล่า (สามารถใชน้ ้าฝน น้าบ่อ หรือน้าประปาทีพ่ กั คา้ งคืนไว)้
3.ไข่ (ไข่ไก่ หรือไข่เป็ดกไ็ ด้ ไข่เน่าแลว้ ก็ยงั ได้ จลุ นิ ทรียย์ ง่ิ ชอบ)
4.น้าปลา หรือกะปิ
5.ผงชูรส
6.ถว้ ย ชอ้ น สอ้ ม
7.หัวเช้ือจลุ นิ ทรีย์ (ถา้ ม)ี
ข้นั ตอนการทาจุลินทรียส์ งั เคราะหแ์ สง
1.ลอกพลาสติกท่ีปิ ดขวดออกก่อน และกรอกน้าลงไปในขวดใหไ้ ด้ 70% ของขวด
2.ตอกไขใ่ ส่ถว้ ย ตไี ข่ขาวและไข่แดงใหเ้ ป็นเน้ือเดียวกนั ใส่น้าปลา และผงชูรสตามไป ตจี นเขา้ กนั เหมือน
กาลงั ทาไขเ่ จียว อตั ราส่วน ไข่ 1 ฟอง : น้าปลา 1 ชอ้ นโตะ๊ : ผงชูรส 1 ชอ้ นโต๊ะ จาง่ายๆ คอื 1:1:1)
3.จะใส่หรือไมใ่ ส่เปลอื กไข่กไ็ ด้ ถา้ ใส่ก็ช่วยเสริมแคลเซียม ใหต้ าหรือบดให้ละเอยี ดแลว้ ใส่ลงในไข่ทผี่ สม
เป็ นเน้ือเดียวกนั
4.ตกั ไขท่ ่ีผสมแลว้ ใส่ลงในขวดน้าทเี่ ตรียมไว้ ขวด 600 cc ใส่คร่ึงชอ้ นโตะ๊
5.เขยา่ ส่วนผสมให้เขา้ กบั น้า แลว้ เตมิ หวั เช้ือจุลินทรียส์ ังเคราะแสงลงไปให้เหลือพ้ืนท่ีวางในขวดเลก็ นอ้ ย
ปิ ดฝาขวดใหแ้ น่น
6.นาขวดไปวางในท่ที ี่มแี สงแดดส่องตลอดวนั
การดูแลให้เกิดสีแดง เขยา่ ขวดบา้ ง หากมีแก๊สในขวดมากก็เปิ ดฝาระบายออกได้ รอจนกวา่ จะเป็นสีแดง
เขม้ ท้งั ขวดจึงจะนาไปใชไ้ ด้ (ถา้ ใส่หัวเช้ือใช้เวลา 2 อาทิตยจ์ ึงแดงดี ถา้ ไม่มหี วั เช้ือใชเ้ วลาประมาณ 1 เดือน)
วดั ระยะทาง จากบ้านของฉันมาโรงเรียนเตรียมอดุ มศึกษาภาคใต้
บ้านของฉัน บ้านเลขท่ี 1776/10 ถ.ท่าโพธ์ิ ต.ท่าวงั อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
อธิบายข้นั การใช้งานแอพพลิเคช่ัน Ling
1.ติดต้งั แอพพลิเคชนั่ Ling
2.กดเขา้ ไปในแอพพลิเคชน่ั หาตวั เลือก วดั ท่ี
3. กดคน้ หาตาแหน่งเพ่ือหาจุดเร่ิมตน้ ในการวดั ระยะทาง
4.กรอกชื่อสถานท่จี ดุ เริ่มตน้ ที่เราตอ้ งการ
5. กดตวั เลือกตามรูปทว่ี งไวใ้ ห้
6.กดตวั เลือกตามรูปที่วงไวใ้ ห้
7.หากมเี สน้ ทางเล้ียวให้กดเครื่องหมายบวกเพ่อื ล็อคเสน้ ทางทต่ี อ้ งการวดั ตามในรูป
8.ทาไปเรื่อยๆจนถงึ บา้ นตวั เอง
9.ระยะทางท้งั หมดจากจุดเริ่มตน้ จนถงึ บา้ นจะปรากฏให้เห็นตามท่วี งให้ในรูป
รวมเส้นทางจากบา้ นไปถึงโรงเรียนเตรียมอดุ มศกึ ษาภาคใต้ วดั ระยะทางได้ 1413.34 เมตร
นางสาวสุพชิ ญา พลชยั เลขท่ี 42 ม.4/2
ประเภทของธุรกจิ
ประเภทของธุรกิจสามารถแบ่งไดห้ ลกั ๆ คอื แบบบคุ คลธรรมดา ไดแ้ ก่ กิจการเจา้ ของคนเดียว ห้างหุน้ ส่วน
สามญั และ แบบนิตบิ ุคคล เช่น หา้ งหุ้นส่วนจากดั บริษทั จากดั
1. ประเภทของธุรกจิ แบบบคุ คลธรรมดา
1.1 กิจการเจา้ ของคนเดียว
ธุรกิจทมี่ ีเจา้ ของคนเดียว มูลคา่ ของกิจการไม่สูงมาก มกี ารจดทะเบยี นการคา้ แบบบคุ คลธรรมดา การ
ตดั สินใจต่างๆ รวมท้งั เร่ืองกาไรหรือขาดทนุ กม็ ผี ลตอ่ เจา้ ของกิจการเพียงคนเดียว ตวั อยา่ งเช่น เจา้ ของร้าน
ชาที่เราเห็นไดท้ ว่ั ๆ ไป
1.2 หา้ งหุ้นส่วนสามญั
ลกั ษณะธุรกิจคลา้ ยกบั กิจการเจา้ ของคนเดียว เพียงแตม่ ีผูร้ ่วมธุรกิจต้งั แต่ 2 คนข้นึ ไป มสี ิทธ์ิในการตดั สินใจ
ผลจากกาไร และการขาดทนุ เทา่ ๆ กนั ซ่ึงหา้ งหุน้ ส่วนสามญั จะตา่ งกบั ห้างหุ้นส่วนสามญั นิติบุคคลตรงที่
ไม่ไดจ้ ดทะเบยี น ทาใหม้ สี ถานะเป็นคณะบคุ คลนนั่ เอง
2. ประเภทของธุรกจิ แบบนติ บิ ุคคล
2.1 ห้างหุ้นส่วนสามญั ทีจ่ ดทะเบยี นและหา้ งหุ้นส่วนจากดั
ลกั ษณะธุรกิจคลา้ ยกบั ห้างหุน้ ส่วนสามญั คอื มีผรู้ ่วมธุรกิจต้งั แต่ 2 คนข้นึ ไป เพยี งแต่มีการจดทะเบยี นเป็น
นิติบคุ คล ความแตกต่างคอื หุน้ ส่วนมคี วามรับผดิ ชอบแตกต่างกนั คอื แบบรบั ผดิ ชอบในหน้ีสินแบบจากดั
โดยรับผดิ ชอบไม่เกินเงนิ ที่ไดล้ งทนุ แต่ไม่มกี ารสิทธิการตดั สินใจในกิจการ ส่วนแบบรบั ผิดชอบในหน้ีสิน
ไมจ่ ากดั โดยรบั ผดิ ชอบในหน้ีสินไมจ่ ากดั จานวน แตม่ สี ิทธิในการตดั สินใจต่างๆ
2.2 บริษทั จากดั
ธุรกิจท่ีมผี รู้ ่วมดาเนินงานต้งั แต่ 3 คนข้นึ ไป ถือหุน้ ในจานวนเทา่ ๆ กนั ซ่ึงเรียกว่า “ผถู้ อื หุน้ ” ซ่ึงรับผดิ ชอบ
หน้ีสินร่วมกนั ไม่เกินจานวนเงนิ ทล่ี งทนุ บริษทั จากดั ตอ้ งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ธุรกิจประเภทน้ีเหมาะ
กบั กิจการทีม่ รี ายไดห้ รือมูลคา่ สูง มคี วามเป็นสากลเพราะมกี ารจดั ต้งั คณะกรรมการบริษทั ข้ึนมาบริหารและ
ตดั สินใจการดาเนินงานต่างๆ
2.3 บริษทั มหาชนจากดั
บริษทั จากดั ทนี่ าหุ้นออกจาหน่ายใหบ้ ุคคลทวั่ ไปซ้ือ และร่วมเป็นหุ้นส่วนของบริษทั ไดต้ ามสดั ส่วนทซ่ี ้ือ ซ่ึง
หุน้ ดงั กลา่ วสามารถขายต่อให้ผอู้ ่ืนไดต้ ามราคาหุน้ ในตลาดหลกั ทรพั ย์ แตเ่ ดิมบริษทั มหาชนจากดั ตอ้ งมผี ถู้ ือ
หุ้นอยา่ งนอ้ ย 100 คน แต่ปัจจบุ นั ตอ้ งมผี ถู้ ือหุน้ ไมน่ อ้ ยกว่า 15 คน
2.4 องคก์ รธุรกิจจดั ต้งั หรือจดทะเบียนภายใตก้ ฎหมายเฉพาะ
องคก์ รธุรกิจจดั ต้งั มีผูถ้ ือหุ้นต้งั แต่ 15 คนข้นึ ไป หุน้ แต่ละหุ้นมมี ูลคา่ เท่ากนั การชาระคา่ หุน้ คอื ชาระคร้ัง
เดียวเตม็ จานวน และกรรมการของบริษทั ไมน่ อ้ ยกวา่ 5 คน โดยลกั ษณะของธุรกิจมีดงั น้ี ธุรกิจการเกษตร คอื
การทาไร่ ทาสวน ปศุสตั ว์ ธุรกิจอตุ สาหกรรม ท้งั ในครวั เรือน และอุตสาหกรรมโรงงาน ธุรกิจเหมอื งแร่
ธุรกิจการพาณิชย์ ธุรกิจการกอ่ สร้าง ธุรกิจการเงิน ธุรกิจการใหบ้ ริการ ธุรกิจอาหาร ธุรกิจอื่นๆ เช่น ผู้
ประกอบอาชีพอสิ ระ อยา่ งแพทย์ วศิ วกร สถาปนิก เป็นตน้
จรรยาบรรณทางธุรกิจ
ส่วนท่ี 1 สารจากประธานกรรมการ
จริยธรรมธุรกิจฉบบั น้ีจดั ทาข้ึนเพอ่ื เป็นค่มู อื สาหรบั กรรมการ ผบู้ ริหาร และพนกั งานทุกคนเพื่อใหเ้ ขา้ ใจถึง
มาตรฐานดา้ นจริยธรรมที่บริษทั ใชใ้ นการดาเนินธุรกิจ และนาไปยึดถือปฏิบตั ใิ นการทางานเน่ืองจาก บริษทั
เชื่อว่าจริยธรรมเป็นเครื่องมอื สาคญั ในการเสริมสร้างความโปร่งใสในการดาเนินงานของบริษทั ซ่ึงจะ
กอ่ ใหเ้ กิดความเชื่อมนั่ ของผูล้ งทนุ หรือผูท้ เ่ี กี่ยวขอ้ งทุกฝ่ ายตอ่ บริษทั ตลอดจนจะส่งผลให้การปฏิบตั งิ าน
ของกรรมการ ผูบ้ ริหาร และพนกั งานของบริษทั ดีข้ึน
ส่วนท่ี 2 การรักษาจริยธรรม
2.1 บุคคลทมี่ หี นา้ ที่ตอ้ งปฏิบตั ติ ามคูม่ อื จริยธรรมธุรกิจ
พนกั งานมหี นา้ ที่ตอ้ งปฏิบตั ติ ามจริยธรรมธุรกิจน้ีดว้ ยความเขา้ ใจ ยอมรบั และศรัทธา ระมดั ระวงั และ
หลกี เลย่ี งมใิ หม้ ีการประพฤตผิ ิดจริยธรรม โดยพนกั งานตอ้ งประพฤตติ นเป็นแบบอยา่ งท่ีดีและตอ้ งปฏิบตั ิ
ตามคมู่ อื จริยธรรมธุรกิจน้ีอยา่ งเคร่งครดั
การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏบิ ตั ติ ามจะถกู พิจารณาโทษทางวนิ ยั ตามที่กาหนดไวใ้ น “ระเบียบขอ้ บงั คบั การทางาน
ของบริษทั ”
2.2 บุคคลท่มี ีหนา้ ทีด่ ูแลและส่งเสริมให้มกี ารปฏบิ ตั ติ ามจริยธรรมธุรกิจ
2.2.1 คณะกรรมการบริษทั
มีหนา้ ท่รี บั ผิดชอบในการจดั ทาคู่มอื จริยธรรมธุรกิจ และมกี ารทบทวนเป็นประจาอยา่ งนอ้ ยทกุ 2 ปี เพือ่ ให้มี
ความเหมาะสมกบั ภาวการณ์ และสภาพแวดลอ้ มทางธุรกิจทีอ่ าจเปล่ยี นแปลงไป รวมท้งั จดั ใหม้ กี ารประเมิน
การปฏิบตั ิตามจริยธรรมอยา่ งเหมาะสม
2.2.2 ผบู้ ริหารทกุ ระดบั
มีหนา้ ที่ส่งเสริมใหม้ กี ารปฏบิ ตั ติ ามจริยธรรมธุรกิจและปฏิบตั ติ นเป็นแบบอยา่ งที่ดี
ถ่ายทอดนโยบายวิธีปฏบิ ตั ิ รวมถงึ รบั ฟังความเห็นอยา่ งเปิ ดกวา้ งเก่ียวกบั การปฏิบตั ิตามจริยธรรมธุรกิจ
ฝึกอบรมพนกั งานใหม้ คี วามรับผดิ ชอบและจดั ใหม้ รี ะบบจดั การทสี่ อดคลอ้ งกบั ขอ้ กาหนดทางกฎหมายและ
กฎระเบียบของบริษทั
กากบั ดูแลใหก้ ารปฏบิ ตั งิ านของหน่วยงานเป็นไปตามกฎระเบียบทเี่ กี่ยวขอ้ ง
2.2.3 ฝ่ายทรพั ยากรบุคคล หรือหน่วยงานท่ดี ูแลทรพั ยากรบคุ คล มหี นา้ ที่รับผดิ ชอบช้ีแจง้ พนกั งานให้ทราบ
ถงึ หนา้ ท่ใี นการปฏิบตั ติ ามจริยธรรมธุรกิจฉบบั น้ี
2.2.4 สานกั พฒั นาระบบและตรวจสอบภายใน มีหนา้ ท่สี อบทานขอ้ มูลเบ้อื งตน้ ในกรณีมเี หตเุ ชื่อถอื ไดว้ า่ จะ
เกิดการฝ่าฝืนกฎระเบียบและจริยธรรมธุรกิจเพอ่ื รายงานฝ่ายบริหาร
ส่วนท่ี 3 จริยธรรมธุรกิจและแนวปฏิบตั ิ
3.1 การปฏิบตั แิ ละความรบั ผดิ ชอบทมี่ ีตอ่ ผถู้ อื หุน้
บริษทั ตระหนกั ดีวา่ ผูถ้ อื หุ้นคอื เจา้ ของกิจการและบริษทั มหี นา้ ทส่ี ร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผูถ้ อื หุน้ ในระยะยาวจึง
กาหนดใหพ้ นกั งาน ตอ้ งปฏิบตั ติ ามแนวทางตอ่ ไปน้ี
3.1.1 ปฏิบตั ิหนา้ ทด่ี ว้ ยความซื่อสัตยส์ ุจริต ตลอดจนตดั สินใจดาเนินการใดๆ ดว้ ยความระมดั ระวงั รอบคอบ
และเป็นธรรมต่อผถู้ ือหุ้นทุกราย เพอ่ื ประโยชนข์ องผถู้ ือหุ้นโดยรวม
3.1.2 กากบั ดแู ลการดาเนินการ เพื่อให้มนั่ ใจว่าบริษทั มีสถานะทางการเงนิ และผลการดาเนินงานท่ีดีและมี
การนาเสนอรายงานสถานภาพของบริษทั ผลประกอบการ ฐานะขอ้ มลู ทางการเงนิ การบญั ชีและรายงาน
อื่นๆ โดยสม่าเสมอและครบถว้ นตามความเป็นจริง
3.1.3 รายงานใหผ้ ถู้ ือหุ้นทราบอยา่ งเท่าเทียมกนั ถงึ แนวโนม้ ในอนาคตของบริษทั ท้งั ในดา้ นบวกและดา้ นลบ
ซ่ึงต้งั อยบู่ นพ้นื ฐานของความเป็นไปได้ มขี อ้ มูลสนบั สนุนและมเี หตมุ ีผลอยา่ งเพียงพอ
3.1.4 ไมแ่ สวงหาผลประโยชน์ใหต้ นเองและผอู้ ่นื โดยใชข้ อ้ มูลใดๆ ของบริษทั ซ่ึงยงั ไม่ไดเ้ ปิ ดเผยต่อ
สาธารณะหรือ ดาเนินการใดๆ ในลกั ษณะท่ีอาจก่อใหเ้ กิดความขดั แยง้ ทางผลประโยชน์กบั องคก์ ร
3.1.5 บริษทั ตอ้ งปฏิบตั ติ ่อผถู้ ือหุ้นทกุ รายอยา่ งเทา่ เทยี มกนั ในการประชุมผถู้ อื หุ้น
3.2 การปฏบิ ตั ิและความรบั ผิดชอบท่ีมตี อ่ ภาครัฐ
ในการดาเนินธุรกิจบริษทั ใหค้ วามสาคญั ในการปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ท้งั ในส่วนงานของ
ภาครัฐ โดยเฉพาะในการกระทาธุรกรรม บริษทั หลกี เลี่ยงการกระทาที่อาจจูงใจให้รฐั หรือพนกั งานของรัฐ
ดาเนินการที่ไมถ่ ูกตอ้ งเหมาะสม แต่จะเนน้ สร้างความสัมพนั ธอ์ นั ดีระหว่างกนั ในขอบเขตท่ีเหมาะสม
สามารถทาได้ เช่น การพบปะพดู คยุ ในที่สาธารณะตา่ งๆ การไปแสดงความยินดีในวาระโอกาส เทศกาล
หรือตามประเพณีปฏบิ ตั ิ เป็นตน้ โดยมหี ลกั ปฏิบตั ิดงั ต่อไปน้ี
3.2.1 ดาเนินการอยา่ งถกู ตอ้ ง เมอื่ ตอ้ งมกี ารตดิ ต่อกบั เจา้ หนา้ ท่ี หรือหน่วยงานของรฐั
3.2.2 ตระหนกั อยเู่ สมอว่ากฎหมาย กฎเกณฑ์ หรือขอ้ บงั คบั ในหน่วยงานภาครฐั ต่างๆ อาจมีเง่อื นไข ข้นั ตอน
หรือวธิ ีปฏบิ ตั ทิ แี่ ตกต่างกนั และบริษทั พึงรบั รู้และปฏบิ ตั ิตามอยา่ งเคร่งครัด
3.3 การปฏบิ ตั ิและความรบั ผดิ ชอบที่มีตอ่ พนกั งาน
บริษทั ตระหนกั อยเู่ สมอวา่ พนกั งานทุกคนเป็นทรพั ยากรทีท่ รงคณุ คา่ ท่สี ุดของบริษทั เป็นปัจจยั แห่ง
ความสาเร็จของการบรรลุเป้าหมายของบริษทั บริษทั จึงกาหนดนโยบายให้มกี ารปฏบิ ตั ิที่เป็นธรรมท้งั ใน
ดา้ นโอกาส ผลตอบแทน การแต่งต้งั โยกยา้ ย ตลอดจนการพฒั นาศกั ยภาพ โดยไดย้ ึดหลกั ปฏิบตั ิดงั ตอ่ ไปน้ี
3.3.1 ปฏิบตั ิตอ่ พนกั งานดว้ ยความเคารพในเกียรติ ศกั ด์ิศรี และสิทธิส่วนบุคคล
3.3.2 ดูแลรกั ษาสภาพแวดลอ้ มในการทางานให้มีความปลอดภยั ตอ่ ชีวติ และทรพั ยส์ ินของพนกั งานอยเู่ สมอ
3.3.3 การแตง่ ต้งั และโยกยา้ ย รวมถึงการให้รางวลั และการลงโทษพนกั งาน กระทาดว้ ยความสุจริตใจ และ
ต้งั อยบู่ นพ้นื ฐานของความรู้ความสามารถและความเหมาะสมของพนกั งานน้นั
3.3.4 ให้ความสาคญั ตอ่ การพฒั นาความรู้ ความสามารถของพนกั งาน โดยมีการพฒั นาอยา่ งสม่าเสมอ อาทิ
การจดั อบรมสมั มนา การฝึกอบรม และให้โอกาสอยา่ งทว่ั ถงึ กบั พนกั งานทกุ คน
3.3.5 กาหนดค่าตอบแทนแกพ่ นกั งานอยา่ งเป็นธรรม ตามสภาพตลาด การแขง่ ขนั ทางธุรกิจ ลกั ษณะของ
งาน ผลการปฏบิ ตั ิงาน และความสามารถของบริษทั ในการจ่ายค่าตอบแทนดงั กลา่ ว
3.3.6 หลกี เลีย่ งการกระทาใดๆ ท่ีไมเ่ ป็นธรรม ซ่ึงอาจมผี ลกระทบตอ่ ความมนั่ คงในหนา้ ท่กี ารงานของ
พนกั งาน
3.3.7 เปิ ดโอกาสให้พนกั งานเสนอแนะหรือร้องทกุ ขเ์ ก่ียวกบั การทางาน และกาหนดวิธีการแกไ้ ข เพือ่ ให้เกิด
ประโยชนแ์ กท่ ุกฝ่าย และสร้างความสัมพนั ธ์อนั ดีในการทางานร่วมกนั
3.4 การปฏิบตั ิและความรับผิดชอบทม่ี ีต่อลกู คา้
บริษทั มงุ่ ดาเนินธุรกิจพฒั นาอสังหาริมทรัพย์ โดยประสงคท์ จี่ ะให้มกี ารสร้างสรรค์ นาเสนอ และบริหาร
จดั การผลิตภณั ฑแ์ ละการบริการของบริษทั แก่ลกู คา้ อยา่ งมีมาตรฐานและมีจริยธรรมภายใตห้ ลกั การ
ดาเนินงานดงั น้ี
3.4.1 ม่งุ มน่ั ที่จะจดั หา พฒั นาผลิตภณั ฑแ์ ละการบริการ เพือ่ ตอบสนองความตอ้ งการของลกู คา้
3.4.2 ส่งมอบผลติ ภณั ฑแ์ ละการบริการทมี่ คี ณุ ภาพ ภายใตเ้ งอื่ นไขทีเ่ ป็นธรรม
3.4.3 ใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ผลติ ภณั ฑแ์ ละการบริการทถ่ี ูกตอ้ ง เพยี งพอ เพือ่ ให้ลกู คา้ มขี อ้ มลู เพียงพอในการ
ตดั สินใจ โดยไมม่ กี ารกลา่ วเกินความเป็นจริงท้งั ในการโฆษณาหรือในการสื่อสารช่องทางอ่นื ๆ กบั ลกู คา้
อนั เป็นเหตุใหล้ กู คา้ เกิดความเขา้ ใจผิดเกี่ยวกบั คณุ ภาพ ปริมาณ หรือเง่ือนไขใดๆ ของสินคา้ หรือบริการ
3.4.4 จดั ให้มกี ระบวนการทีส่ ามารถใหล้ กู คา้ แจง้ ถงึ ปัญหาหรือการใหบ้ ริการทไี่ มเ่ หมาะสม เพ่ือท่ีบริษทั จะ
ไดป้ ้องกนั แกไ้ ขปัญหาให้กบั ลกู คา้ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็วและนาขอ้ มูลดงั กล่าวไปปรบั ปรุงหรือพฒั นาผลติ ภณั ฑ์
และการให้บริการดงั กล่าวต่อไป
3.4.5 รักษาขอ้ มูลและความลบั ของลูกคา้ โดยไม่นาไปเปิ ดเผยหรือใชป้ ระโยชน์ในทางมชิ อบ
3.5 การปฏิบตั ิและความรบั ผิดชอบท่ีมตี อ่ คูค่ า้ และคู่สญั ญา
บริษทั มีนโยบายปฏบิ ตั ติ ่อคู่คา้ และคสู่ ัญญาซ่ึงถอื เป็นหุน้ ส่วนและปัจจยั แห่งความสาเร็จทางธุรกิจทีส่ าคญั
ประการหน่ึงดว้ ยความเสมอภาค และคานึงถึงผลประโยชน์ร่วมกนั โดยบริษทั มแี นวทางปฏบิ ตั ดิ งั ต่อไปน้ี
3.5.1 บริษทั ประสงคท์ ่ีจะให้การจดั หาสินคา้ และบริการเป็นไปอยา่ งมปี ระสิทธิภาพภายใตห้ ลกั การ
ดงั ต่อไปน้ี
มีการแข่งขนั บนขอ้ มลู ท่เี ทา่ เทียมกนั
มหี ลกั เกณฑใ์ นการประเมนิ และคดั เลอื กคคู่ า้ และค่สู ญั ญา
จดั ทารูปแบบสญั ญาทเี่ หมาะสม และเป็นธรรมแกท่ ้งั 2 ฝ่ าย
จดั ใหม้ ีระบบการจดั การและติดตามเพ่อื ให้มน่ั ใจว่า มีการปฏิบตั ิตามเงือ่ นไขของสัญญาอยา่ งครบถว้ น และ
ป้องกนั การทุจริตประพฤติมิชอบในทุกข้นั ตอนของกระบวนการจดั หา
จา่ ยเงนิ ให้คคู่ า้ และคสู่ ัญญาตรงเวลา ตามเง่อื นไขการชาระเงินทีต่ กลงกนั
3.5.2 บริษทั มุ่งหมายที่จะพฒั นาและรกั ษาสมั พนั ธภาพทยี่ งั่ ยนื กบั คู่คา้ และคู่สญั ญาที่มีวตั ถุประสงคช์ ดั เจน
ในเร่ืองคณุ ภาพของสินคา้ และบริการท่คี มุ้ คา่ กบั มูลคา่ เงนิ และมีความเช่ือถอื ซ่ึงกนั และกัน
3.5.3 ห้ามผบู้ ริหารและพนกั งานทกุ คนรับผลประโยชนใ์ ดๆ เป็นส่วนตวั จากคคู่ า้ และคูส่ ัญญาไมว่ า่ โดย
ทางตรงหรือทางออ้ ม
3.5.4 ไม่ใชข้ อ้ มลู ท่ไี ดท้ ราบอนั เน่ืองมาจากการจดั ซ้ือ จดั หาเพ่ือประโยชนส์ ่วนตวั หรือผอู้ ่ืน
3.6 การปฏบิ ตั ิและความรับผดิ ชอบทีม่ ตี อ่ เจา้ หน้ี
บริษทั ยึดมนั่ ในการดาเนินธุรกิจอยา่ งมหี ลกั การและวินยั เพื่อสร้างความเชื่อถอื ให้กบั เจา้ หน้ี โดยบริษทั ได้
ยึดหลกั ปฏบิ ตั ิ ดงั ต่อไปน้ี
3.6.1 ปฏบิ ตั ติ ามเง่ือนไขตา่ งๆ ตามสญั ญาหรือทไี่ ดต้ กลงกนั ไวอ้ ยา่ งเคร่งครัด
3.6.2 หากเกิดกรณีท่ีไมส่ ามารถปฏบิ ตั ิตามเงือ่ นไขที่ตกลงกนั ไวไ้ ด้ บริษทั จะแจง้ ให้เจา้ หน้ีทราบลว่ งหนา้
เพื่อร่วมกนั พิจารณาหาแนวทางแกไ้ ขปัญหา
3.7 การปฏิบตั ิและความรบั ผดิ ชอบทมี่ ีตอ่ คู่แขง่ ทางการคา้
บริษทั มุ่งดาเนินธุรกิจ โดยประสงคท์ ี่จะประสบความสาเร็จอยา่ งยง่ั ยนื และเป็นบริษทั ช้นั นาในธุรกิจภายใต้
การแข่งขนั ในอุตสาหกรรมอยา่ งมีคุณธรรมและจริยธรรม โดยมีหลกั การปฏิบตั ิต่อคู่แข่งทางการคา้ ดงั น้ี
3.7.1 ประพฤตปิ ฏบิ ตั ิภายใตก้ รอบกตกิ าของการแข่งขนั ทดี่ ี
3.7.2 ไม่แสวงหาขอ้ มลู ทีเ่ ป็นความลบั ของค่แู ข่งทางการคา้ ดว้ ยวธิ ีการทไ่ี มส่ ุจริตหรือไมเ่ หมาะสม เพอ่ื
ผลประโยชน์ในการดาเนินธุรกิจของบริษทั
3.7.3 ไมก่ ล่าวหาในทางร้าย หรือมุ่งทาลายช่ือเสียงแก่คแู่ ข่งทางการคา้
3.7.4 ไมก่ ระทาการใดๆ ทีเ่ ป็นการละเมิดทรัพยส์ ินทางปัญญาของผอู้ ื่นหรือคแู่ ขง่ ทางการคา้
3.8 การปฏบิ ตั ิและความรบั ผิดชอบทมี่ ตี อ่ สงั คมส่วนรวม
บริษทั ให้ความสาคญั กบั ชุมชนและสงั คมโดยรอบ ดว้ ยตระหนักดีว่าเราเปรียบเสมอื นส่วนหน่ึงของสงั คมท่ี
จะร่วมกา้ วเดินไปสู่การพฒั นาสงั คมและสิ่งแวดลอ้ มเพือ่ ความยงั่ ยนื สืบไป บริษทั จึงไดด้ าเนินกิจกรรมเพื่อ
ชุมชนและสังคมอยา่ งตอ่ เนื่อง ควบคู่ไปกบั การดาเนินธุรกิจ ภายใตค้ วามรบั ผิดชอบต่อชุมชนและสังคม
โดยรวม ดงั น้ี
3.8.1 มีนโยบายในการประกอบธุรกิจโดยคานึงถงึ สภาพส่ิงแวดลอ้ มเป็นสาคญั และปฏิบตั ติ ามกฎหมายและ
ขอ้ บงั คบั เก่ียวกบั ส่ิงแวดลอ้ มท่บี งั คบั ใชอ้ ยอู่ ยา่ งเคร่งครดั
3.8.2 มีนโยบายการดาเนินงานดา้ นความรับผิดชอบต่อสงั คม (CSR) อยา่ งชดั เจน และยดึ ถอื ปฏิบตั กิ นั ภายใน
องคก์ ร
3.8.3 ส่งเสริมให้พนกั งานของบริษทั มีจิตสานึกและความรบั ผดิ ชอบตอ่ สิ่งแวดลอ้ มและสังคม
3.8.4 เคารพตอ่ ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวฒั นธรรมของแต่ละทอ้ งถนิ่ ท่บี ริษทั เขา้ ไปดาเนินธรุ กิจ
3.8.5 ดาเนินกิจกรรมเพอื่ ร่วมสร้างสรรคส์ ังคม ชุมชน และสิ่งแวดลอ้ มอยา่ งสม่าเสมอ เพื่อให้ชุมชนท่ีบริษทั
ต้งั อยมู่ คี ณุ ภาพชีวิตทีด่ ีข้นึ ท้งั ที่ดาเนินการเองและร่วมมือกบั หน่วยงานของภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน
3.8.6 ให้ความร่วมมือในกิจกรรมต่างๆ กบั ชุมชนโดยรอบในพ้นื ที่ ทบ่ี ริษทั เขา้ ไปดาเนินธุรกิจอยตู่ ามควรแก่
กรณี
3.8.7 ตอบสนองอยา่ งรวดเร็วและมปี ระสิทธิภาพตอ่ เหตกุ ารณท์ ี่มีผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม ชุมชน ชีวิตและ
ทรัพยส์ ิน อนั เนื่องมาจากการดาเนินงานของบริษทั โดยใหค้ วามร่วมมอื อยา่ งเตม็ ทีก่ บั เจา้ หนา้ ทภ่ี าครฐั และ
หน่วยงานทเี่ กี่ยวขอ้ ง
อ้างองิ
1.ประเภทของธุรกิจ (Business) [ออนไลน์].2021.แหล่งที่มา : https://shorturl.asia/efq1U [23 ธนั วาคม
2564]
2.จรรยาบรรณทางธุรกิจ [ออนไลน]์ .2021.แหลง่ ท่ีมา : https://shorturl.asia/VojS2 [23 ธนั วาคม 2564]
ออกแบบโฆษณาออนไลน์
ผลงานจุลนิ ทรีย์สังเคระห์แสง
ผลงานปักชา
ธาตุอาหารพชื
ธาตอุ าหารหลกั หรือ ธาตุป๋ ุย ไดแ้ ก่ ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรสั (P) โพแทสเซียม (K) เนื่องจากสามธาตุน้ีพืช
ตอ้ งการใชใ้ นปริมาณมาก แตม่ กั จะไดร้ บั จากดินไม่คอ่ ยเพยี งพอกบั ความตอ้ งการ ตอ้ งช่วยเหลือโดยใส่ป๋ ุย
อยเู่ สมอ
ไนโตรเจน มหี นา้ ที่เป็นส่วนประกอบของโปรตีน ช่วยให้พืชมสี ีเขยี ว เร่งการ
เจริญเติบโตทางใบ หากพชื ขาดธาตุน้ีจะแสดงอาการใบเหลอื ง ใบมขี นาดเลก็ ลง
ลาตน้ แคระแกร็นและใหผ้ ลผลติ ต่า
ฟอสฟอรสั มหี นา้ ท่ชี ่วยเร่งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของราก
ควบคมุ การออกดอก ออกผล และการสร้างเมล็ด ถา้ พืชขาดธาตนุ ้ีระบบรากจะ
ไม่เจริญเตบิ โต ใบแกจ่ ะเปลีย่ นจากสีเขียวเป็นสีมว่ งแลว้ กลายเป็นสีน้าตาลและ
หลดุ ร่วง ลาตน้ แกร็นไม่ผลิดอกออกผล
โพแทสเซียม เป็นธาตุท่ีช่วยในการสังเคราะหน์ ้าตาล แป้ง และโปรตีน ส่งเสริม
การเคล่อื นยา้ ยน้าตาลจากใบไปสู่ผล ช่วยใหผ้ ลเติบโตเร็วและมีคณุ ภาพดี ช่วย
ให้พชื แขง็ แรง ตา้ นทานตอ่ โรคและแมลงบางชนิด ถา้ ขาดธาตุน้ีพชื จะไม่
แขง็ แรง ลาตน้ อ่อนแอ ผลผลิตไมเ่ ติบโต มคี ุณภาพต่า สีไม่สวย รสชาตไิ มด่ ี
ธาตุอาหารรอง ไดแ้ ก่ แคลเซียม (Ca) แมกนีเซียม (Mg) และกามะถนั (S) เป็นกลุม่ ท่ีพชื ตอ้ งการใชใ้ น
ปริมาณที่นอ้ ยกวา่ และไมค่ อ่ ยมปี ัญหาขาดแคลนในดินทว่ั ๆ ไปเหมอื นสามธาตุแรก
แคลเซียม เป็นองคป์ ระกอบท่ีช่วยในการแบ่งเซลล์ การผสมเกสร การงอกของ
เมล็ด พชื ขาดธาตุน้ีใบทีเ่ จริญใหม่จะหงกิ งอ ตายอดไมเ่ จริญ อาจมีจดุ ดาทเี่ สน้ ใบ
รากส้ัน ผลแตก และมคี ณุ ภาพไมด่ ี
แมกนีเซียม เป็นองคป์ ระกอบสาคญั ของคลอโรฟิลล์ ช่วยสังเคราะหก์ รดอะมิโน
วติ ามนิ ไขมนั และน้าตาล ทาใหส้ ภาพกรดดา่ งในเซลลพ์ อเหมาะและช่วยในการ
งอกของเมล็ด ถา้ ขาดธาตุน้ีใบแกจ่ ะเหลอื ง ยกเวน้ เส้นใบ และใบจะร่วงหล่นเร็ว
กามะถนั เป็นองคป์ ระกอบสาคญั ของกรดอะมิโน โปรตนี และวติ ามนิ ถา้ ขาดธาตุ
น้ีท้งั ใบบนและใบล่างจะมสี ีเหลอื งซีด และตน้ ออ่ นแอ
ธาตุอาหารเสริม มีอยู่ 7 ธาตุ ไดแ้ ก่ เหลก็ (Fe) แมงกานีส (Mn) โบรอน (B) โมลิบดินมั (Mo) ทองแดง (Cu)
สงั กะสี (Zn) และคลอรีน (Cl) เพราะความจริงแลว้ ธาตทุ ุกธาตุมีความสาคญั ต่อการดารงชีพของพชื เทา่ ๆ กนั
จะตา่ งกนั แต่เพียงปริมาณทพี่ ืชตอ้ งการเท่าน้นั ดงั น้นั พืชจึงขาดธาตใุ ดธาตุหน่ึงไมไ่ ด้ หากพืชขาดธาตอุ าหาร
แมแ้ ต่เพียงธาตุเดียว พืชจะหยดุ การเจริญเตบิ โต แคระแกร็น ไม่ใหผ้ ลผลติ และตายในท่สี ุด
เหล็ก ช่วยในการสังเคราะหค์ ลอโรฟิลล์ มีบทบาทสาคญั ในการสงั เคราะหแ์ สงและ
หายใจ ถา้ ขาดธาตุน้ีใบออ่ นจะมสี ีขาวซีดในขณะท่ใี บแก่ยงั เขียวสด
แมงกานีส ช่วยในการสงั เคราะหแ์ สงและการทางานของเอนไซมบ์ างชนิด ถา้ ขาดธาตุ
น้ีใบอ่อนจะมสี ีเหลืองในขณะท่ีเสน้ ใบยงั เขยี ว ต่อมาใบที่มอี าการดงั กลา่ วจะเห่ียว
แลว้ ร่วงหลน่
โบรอน ช่วยในการออกดอกและการผสมเกสร มบี ทบาทสาคญั ในการติดผลและการ
เคลื่อนยา้ ยน้าตาลมาสู่ผล การเคล่ือนยา้ ยของฮอร์โมน การใชป้ ระโยชนจ์ าก
ไนโตรเจนและการแบ่งเซลล์ ถา้ พืชขาดธาตุน้ี ตายอดจะตายแลว้ เร่ิมมีตาขา้ ง แตต่ า
ขา้ งกจ็ ะตายอีก ลาตน้ ไมค่ อ่ ยยดื ตวั กิ่งและใบจึงชิดกนั ใบเลก็ หนา โคง้ และเปราะ
โมลิบดินมั ช่วยให้พืชใชไ้ นโตรเจนให้เป็นประโยชนแ์ ละเกี่ยวขอ้ งกบั
การสังเคราะหโ์ ปรตีน ถา้ ขาดธาตุน้ีพืชจะมอี าการคลา้ ยขาดไนโตรเจน
ใบมลี กั ษณะโคง้ คลา้ ยถว้ ย ปรากฏจุดเหลืองๆ ตามแผ่นใบ
ทองแดง ช่วยในการสงั เคราะห์คลอโรฟิลล์ การหายใจ การใช้โปรตนี และ
แป้ง กระตนุ้ การทางานของเอนไซมบ์ างชนิด ถา้ พืชขาดธาตนุ ้ี ตายอดจะ
ชะงกั การเจริญเติบโตและกลายเป็นสีดา ใบอ่อนเหลอื ง และพชื ท้งั ตน้ จะ
ชะงกั การเจริญเติบโต
สังกะสี ช่วยในการสงั เคราะหฮ์ อร์โมนออกซิน คลอโรฟิ ลล์ และแป้ง ถา้ ขาดธาตนุ ้ี
ใบออ่ นจะมสี ีเหลอื งซีดและปรากฏสีขาวๆ ประปรายตามแผ่นใบ โดยเส้นใบยงั
เขียว รากส้นั ไม่เจริญตามปกติ
คลอรีน มีบทบาทบางประการเกี่ยวกบั ฮอร์โมนในพืช ถา้ ขาดธาตนุ ้ีพชื จะเหี่ยวง่าย
ใบสีซีด และบางส่วนแห้งตาย
อ้างอิง
1.ธาตอุ าหารทจี่ าเป็นตอ่ การเจริญเติบโตของพืช [ออนไลน์].2021.แหล่งทมี่ า : http://oss101.ldd.go.th
[20 มกราคม 2565]
2. อาการขาดธาตอุ าหารพชื [ออนไลน]์ .2021.แหล่งทมี่ า : https://www.opsmoac.go.th [20 มกราคม 2565]
พริก
ภาชนะทีใ่ ช้ แกว้
ดินทใ่ี ช้ ดินร่วน
วธิ กี ารปลูก
1. นำเมล็ดสำหรับกำรเพำะปลูกหรือพริกสดท่มี ีนำมำลงดินทม่ี อี ยู่
2. ฝังเมลด็ ลงดินพอประมำณ
การเลยี้ งสัตว์ในประเทศไทย
การเลยี้ งสัตว์ในประเทศไทยในปัจจบุ นั มจี ดุ ประสงค์ ดงั น้ี
1. เพอ่ื ใชบ้ ริโภคในครัวเรือน ไดแ้ ก่ ไกเ่ น้ือ ไก่ไข่ เป็ด ปลา เป็นตน้
2. เพอื่ เป็นอาชีพ ไดแ้ ก่ โคเน้ือ โคนม กระบอื สุกร ไกเ่ น้ือ ไกไ่ ข่ เป็ด เป็นตน้
3. เพอื่ เสริมรายได้ ไดแ้ ก่ ไกเ่ น้ือ ไกไ่ ข่ เป็ด สุกรป่ า จิง้ หรีด เป็นตน้
4. เพ่ือเป็นสัตวส์ วยงามและใหค้ วามเพลดิ เพลนิ ไดแ้ ก่ สุนขั แมว นก กระต่าย เป็นตน้
5. เพอ่ื เป็นสัตวส์ งวนหรือสัตวอ์ นุรักษพ์ นั ธุ์ (conservative animals) ไดแ้ ก่ ววั แดง กวาง หมี กูปรี เป็นตน้
สาหรับสัตว์เศรษฐกจิ (economic animals) ท่ีสาคญั ของไทยและจังหวัดทเ่ี ป็ นแหล่งเลยี้ งสัตว์ มดี งั นี้
1. โคเน้ือ จงั หวดั ท่ีเล้ยี งมาก ไดแ้ ก่ นครราชสีมา ศรีสะเกษ อบุ ลราชธานี เป็นตน้
2. โคนม จงั หวดั ที่เล้ียงมาก ไดแ้ ก่ นครราชสีมา สระบรุ ี ราชบุรี เป็นตน้
3. สุกร จงั หวดั ที่เล้ียงมาก ไดแ้ ก่ นครราชสีมา เชียงใหม่ เชียงราย เป็นตน้
4. ไก่เน้ือ ไกไ่ ข่ จงั หวดั ทเี่ ล้ียงมาก ไดแ้ ก่ นครราชสีมา บรุ ีรัมย์ เชียงใหม่ เป็นตน้
นอกจากน้ียงั มีสตั วอ์ กี หลายชนิดที่ผเู้ ล้ียงนามาเป็นอาชีพ ตามความตอ้ งการของตลาดและผูบ้ ริโภค
เฉพาะกลมุ่ เรียกวา่ เป็นสัตวเ์ ศรษฐกิจทางเลือกใหม่ (new alternative economic animals) ไดแ้ ก่ ไกช่ น
นกเขานกกระจอกเทศ จระเข้ ไส้เดือน สุนขั ปลากดั ผ้งึ หมูป่ า จิง้ หรีด เป็นตน้
หลักการเบื้องต้นของการเลยี้ งสัตว์
ในการเล้ียงสตั วโ์ ดยทว่ั ๆ ไปน้นั มหี ลกั 3 ประการ ทผี่ ูเ้ ล้ยี งควรปฏิบตั ิ เพอื่ ให้การเล้ยี งสตั วไ์ ดผ้ ลดีท่ีสุด
คอื ใชพ้ นั ธุ์ดี อาหารดี และการจดั การดี (สมชาย, 2549) (ภาพท่ี 1) ซ่ึงมรี ายละเอียดดงั น้ี
1. เล้ียงแตส่ ตั วพ์ นั ธุ์ดี เพราะสตั วพ์ นั ธุ์ดีจะโตไวใช้เวลาเล้ยี งส้ันให้ผลผลิตสูงและกินอาหารไม่เปลือง
ตวั อยา่ งเช่น การเลอื กเล้ยี งสุกรที่โตไดว้ นั ละ 9 ขดี ใช้เวลาเล้ียงต้งั แต่เกิดจนถงึ น้าหนกั 100
กิโลกรมั ส่งตลาดเพียง 5 เดือน และกินอาหาร 2.5 กิโลกรัม ในการเติบโตได้ 1 กิโลกรัม ยอ่ มจะทา
กาไรใหผ้ เู้ ล้ียงมากกว่าการเล้ยี งสุกรทีโ่ ตไดว้ นั ละ 5 ขดี ใชเ้ วลาเล้ยี งจนส่งตลาดเมอื่ 100 กิโลกรัม
นาน 6 เดือน และมอี ตั ราการเปลี่ยนอาหารเป็นเน้ือ 3.5 ต่อ 1
2. เล้ียงดว้ ยอาหารที่ดี มีคณุ ค่าทางอาหารครบถว้ นตามความตอ้ งการของร่างกายสตั วใ์ นแตล่ ะระยะ
การเจริญเตบิ โตให้ผลผลติ รวมไปถึงมีวิธีการให้อาหารท่ถี ูกตอ้ ง ยอ่ มจะทาใหส้ ัตวเ์ จริญเตบิ โตได้
เตม็ ที่
3. มรี ะบบการจดั การฟาร์มท่ดี ี การรู้หลกั การจดั การฟาร์มท่ีดี ทาให้ประหยดั ตน้ ทนุ และแรงงานใน
การเล้ียงดูสัตว์ การใชป้ ระโยชน์จากทดี่ ินและโรงเรือนเป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ ปัญหามลภาวะ
ท่จี ะเกิดจากการเล้ยี งสตั ว์ เช่น กลนิ่ เน่าเหม็นของมูลสตั วม์ นี อ้ ยและป้องกนั โรคระบาด ซ่ึงจะ
ก่อใหเ้ กิดความเสียหายตอ่ สัตวเ์ ล้ยี งได้
การเริ่มต้นเลยี้ งสัตว์
ผทู้ ่ีจะเร่ิมตน้ เล้ยี งสัตวน์ ้นั จะตอ้ งมีการศกึ ษาขอ้ มลู หาความรู้เพ่ิมเติม เป็นผทู้ ี่มคี วาม
กระตอื รือร้น ขยนั อดทน ท้งั น้ี เพราะสัตวเ์ ป็นสิ่งมีชีวติ ทต่ี อ้ งการการเอาใจใส่ดูแลเป็นพเิ ศษ ซ่ึง ธีระ
(2528) ได้ แนะนาการเริ่มตน้ เล้ยี งสตั วไ์ วด้ งั น้ี
1. ลกั ษณะของผทู้ จ่ี ะเล้ยี งสตั วส์ าเร็จ ผูท้ ่ีจะเล้ียงสตั วไ์ ดส้ าเร็จสมควรจะตอ้ งมลี กั ษณะและ
นิสยั ดงั ตอ่ ไปน้ี
ก. ตอ้ งมนี ิสยั รักและชอบสตั ว์ ความรักชอบจะเป็นเหตใุ ห้ผูเ้ ล้ียงเอาใจใส่ดูแลสัตวอ์ ยู่
เสมอ ผูเ้ ล้ยี งสัตวบ์ างคนเห็นคนอ่นื ลงทนุ เล้ยี งสตั วแ์ ลว้ รวยกเ็ ล้ยี งตามอยา่ งบา้ ง แต่พอลงทุนเล้ียงไป
แลว้ พบวา่ นิสัยไม่ชอบและไมเ่ หมาะสมกบั การเล้ยี งสตั ว์ ทาให้กิจการเล้ียงสัตวต์ อ้ งลม้ เลิกไปในทสี่ ุด
ข. ตอ้ งแสวงหาความรู้ความชานาญอยเู่ สมอ ความรู้และความชานาญนบั วา่ เป็นหวั ใจ
สาคญั ทส่ี ุดของการผลติ สตั วใ์ ห้มปี ระสิทธิภาพสูงสุด ความรู้อาจจะศกึ ษาไดจ้ ากตาราวชิ าการต่าง ๆซ่ึง
จะมรี ายงานถึงการคน้ พบใหม่ ๆ ออกมาเร่ือย ๆ หรือศึกษาจากตวั สัตวเ์ อง ในขณะที่ความชานาญ
จาเป็นตอ้ งอาศยั ประสบการณแ์ ละการปฏิบตั ิดว้ ยตวั เองเป็นหลกั
ค. ตอ้ งเป็นคนละเอยี ดรอบคอบ เน่ืองจากสัตวพ์ ูดไมไ่ ด้ ฉะน้นั ผเู้ ล้ียงจาเป็นตอ้ งคอย
ตรวจตราสังเกตอยเู่ สมอ การมองขา้ มจดุ เล็ก ๆ นอ้ ย ๆ อาจเป็นสาเหตุทาใหก้ ิจการเล้ยี งสตั วต์ อ้ งขาดทุน
ลม้ เลกิ ไปได้
ง. ตอ้ งเป็นคนสู้งาน การเล้ียงสัตวจ์ ะตอ้ งเป็นผูท้ างานดว้ ยตนเองบา้ ง งานบางอยา่ งจะ
วางใจให้คนอ่นื ทาแทนไมไ่ ด้ เน่ืองจากความกระตอื รือร้นและความเอาใจใส่ทุ่มเทกบั งานของลกู จา้ ง
มกั จะไมส่ ูงเทา่ เจา้ ของกิจการเองและการทางานดว้ ยตนเอง เท่ากบั เป็นการเพ่ิมพนู ประสบการณแ์ ละ
ความชานาญให้ตวั เองดว้ ย
จ. ตอ้ งเป็นคนกลา้ และมีมานะ เพราะกิจการเล้ยี งสัตวก์ ว่าจะพบความสาเร็จตอ้ งพบ
ปัญหาอุปสรรคหลายอยา่ ง เน่ืองจากมีปัจจยั ต่าง ๆ เป็นตวั แปรมาก โดยเฉพาะปัญหาดา้ นการตลาดราคา
ผลติ ผลจากสัตวแ์ ละราคาวตั ถดุ ิบอาหารสตั ว์ ซ่ึงเมอื งไทยยงั ไม่มีระบบประกนั ราคาที่แน่นอน ราคาข้ึน
ลงอยเู่ สมอ ฉะน้นั ถา้ ไม่กลา้ สูแ้ ละไมม่ ีความพยายามแลว้ เมือ่ พบปัญหาอปุ สรรคกจ็ ะเกิดความทอ้ ถอย
และเลกิ เล้ียงได้
2. การเลือกสถานท่เี ล้ียงสตั ว์ ในการเล้ียงสตั ว์ ถา้ เป็นการเล้ียงแบบหลงั บา้ นหรืองานอดิเรก
สถานทีเ่ ล้ยี งสัตวไ์ ม่คอ่ ยมีปัญหา เพยี งแต่เลือกท่ีใดทห่ี น่ึงในบริเวณบา้ นหรือท่ดี ินของตนใหเ้ หมาะสม
เน่ืองจากปริมาณสตั วท์ ีเ่ ล้ียงไมค่ ่อยมาก แตใ่ นการเล้ยี งเป็นอาชีพหลกั ทาเล สถานท่ีในการเล้ยี งนับวา่
เป็นส่ิงสาคญั ท่มี ีผลกระทบต่อความสาเร็จหรือลม้ เหลวในการทาฟาร์ม ดงั น้นั ผูเ้ ล้ียงจะตอ้ งพิจารณา
อยา่ งระมดั ระวงั และรอบคอบ ดงั เช่น
ก. สถานท่ีควรอยหู่ ่างไกลจากชุมชนและผเู้ ล้ียงรายอื่น ๆ พอสมควร เนื่องจากการเล้ียง
สัตวเ์ ป็นจานวนมาก ปัญหากลิน่ มลู สัตวแ์ ละเสียงร้อง อาจรบกวนผูอ้ ืน่ เป็นปัญหาถึงข้นั ตอ้ งยา้ ยฟาร์ม
ได้ และการต้งั สถานที่ทาฟาร์มในแหลง่ เล้ยี งสัตวท์ หี่ นาแน่น ปัญหาโรคระบาดอาจเกิดและเขา้ มาสู่
ฟาร์มไดง้ า่ ย
ข. ตอ้ งอยใู่ นทาเลท่ีเหมาะสม ในการตดิ ต่อกบั ตลาดชุมชนและสะดวกในการขนส่ง การ
อยใู่ กลต้ ลาดรบั ซ้ือ และแหลง่ ผลิตอาหารสัตว์ ทาใหป้ ระหยดั ตน้ ทุนค่าขนส่ง ท้งั ในดา้ นส่งตวั สัตว์
ผลิตภณั ฑจ์ ากสัตวไ์ ปขาย และซ้ือนาอาหารเขา้ มาเล้ียงสัตว์ นอกจากน้ีในการต้งั ฟาร์ม ถา้ เจา้ ของ
จาเป็นตอ้ งต้งั บา้ นเรือนอยใู่ นบริเวณฟาร์มดว้ ย จาเป็นตอ้ งคานึงถึงความสะดวกเหมาะสม สาหรบั
ตนเองและครอบครวั ในการตดิ ต่อกบั ชุมชน เช่น ไม่ห่างไกลโรงพยาบาล โรงเรียนจนเกินไป
ค. ศตั รู ควรจะเลือกทีท่ ี่มศี ตั รูของสัตวใ์ ห้นอ้ ยท่ีสุดหรือไม่มเี ลย ศตั รูของสัตวเ์ ล้ียง
นอกจากพวกสตั วด์ ว้ ยกนั เช่น เสือ งู เหยี่ยว พงั พอน ฯลฯ แลว้ ศตั รูทสี่ าคญั ทสี่ ุดกค็ ือ คน ถา้ สถานทต่ี ้งั
ฟาร์มอยใู่ นแหลง่ ที่มขี โมยมากคนมนี ิสัยไมด่ ีคอยแกลง้ จอ้ งลกั ขโมยตลอดเวลา กิจการกไ็ ปไม่รอด
ง. ดิน แมว้ ่าในหลกั การโดยทวั่ ไปจะพิจารณาวา่ ดินท่มี ีความอุดมสมบูรณป์ ลกู พชื ให้
ผลผลติ ไมส่ ูง จึงสมควรพจิ ารณานามาเล้ยี งสตั ว์ แต่ในทางปฏบิ ตั ิสาหรบั ผจู้ ะเล้ียง โดยเฉพาะสัตว์
ประเภทกินหญา้ หรือจาเป็นตอ้ งปลกู พชื อาหารสัตวเ์ อง การเลือกสถานท่ที ด่ี ินดี มีความอดุ มสมบูรณ์
สูงมีการระบายน้าดี น้าไมท่ ว่ ม เป็นสิ่งจาเป็นในการผลิตพืชอาหารสตั วใ์ ห้ไดผ้ ลผลิตมาก ๆ
จ. น้า ควรมีน้ามคี ุณภาพดีและมพี อเพยี ง น้าสะอาดเป็นส่ิงจาเป็นสาหรับสัตวใ์ นการ
เตบิ โตใหผ้ ลผลติ ฟาร์มบางแห่งตอ้ งเสียค่าใชจ้ า่ ยสูงในการกรองน้าหรือทาน้าใหส้ ะอาดพอใหส้ ัตวด์ ื่ม
กินได้ เน่ืองจากคณุ สมบตั ิของน้าไม่เหมาะสมและบางแห่งก็จาเป็นตอ้ งหยดุ กิจการหรือลดขนาดของ
ฟาร์มลง เน่ืองจากปัญหาขาดแคลนน้าโดยเฉพาะในหนา้ แลง้