The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

5 เส้นทางท่องเที่ยว ฉบับ. E-Book

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by arpaphan, 2021-09-17 12:17:07

5 เส้นทางท่องเที่ยว ฉบับ. E-Book

5 เส้นทางท่องเที่ยว ฉบับ. E-Book

1

2

พระสมเด็จเกษไชโย หลวงพ่อโตองค์ใหญ่
วีรไทยใจกล้า ตุ๊กตาชาววัง โด่งดังจักสาน
ถิ่นฐานท�ำกลอง เมืองสองพระนอน

3

“ท่องเที่ยว 5 เสน้ ทาง”

ในจังหวัดอ่างทอง

10

เสน้ ทางทอ่ งเทยี่ ววิถเี กษตร

26

เส้นทางทอ่ งเที่ยววิถีวัฒนธรรม

4

42

เสน้ ทางแหล่งทอ่ งเทยี่ วทางประวัตศิ าสตร์

60

เส้นทางทอ่ งเทย่ี วตามรอยความศรัทธา

92

เส้นทางแหลง่ ท่องเทีย่ วเพอ่ื นันทนาการ

5

6

คาํนํา

จังหวัดอ่างทองเป็นจังหวัดท่มี ีศักยภาพด้านการทอ่ งเที่ยว ทง้ั แหลง่ ท่องเทยี่ ว
ทางประวตั ศิ าสตร์ แหล่งท่องเที่ยวทางวฒั นธรรม แหลง่ ท่องเท่ยี วทางศาสนา และ
กิจกรรมด้านการท่องเท่ียวประเภทต่างๆ เช่น เรียนรู้วิถีชีวิตและพ�ำนักโฮมสเตย์
ตกปลาแพริมน�้ำ และชิมอาหารพ้ืนถิ่น ตลอดจนซื้อผลิตภัณฑ์ท่ีชุมชนผลิตและ
จ�ำหนา่ ย เช่น อาหารท้องถ่นิ แปรรปู กระเป๋าจกั สาน ต๊กุ ตาชาววัง และกลองที่ระลกึ
เป็นตน้ ส่งผลดีต่อชุมชน สามารถกระจายรายได้ให้แก่ชุมชน
ดังนั้น เพ่อื เป็นการกระตนุ้ เศรษฐกิจและสง่ เสรมิ การทอ่ งเท่ียวภายในประเทศ
จังหวัดอ่างทอง โดยส�ำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอ่างทอง จึงได้จัดท�ำ
กจิ กรรมสง่ เสรมิ และประชาสมั พนั ธก์ ารทอ่ งเทย่ี วจงั หวดั อา่ งทอง โดยดำ� เนนิ การผลติ
หนังสือแนะน�ำสถานที่ท่องเท่ียวจังหวัดอ่างทอง เพ่ือกระตุ้นการเดินทางท่องเท่ียว
จงั หวดั อา่ งทอง ประชาสมั พนั ธใ์ หน้ กั ทอ่ งเทย่ี วทยี่ งั ไมเ่ คยเดนิ ทางมาทอ่ งเทยี่ วจงั หวดั
อ่างทองได้รู้จักจังหวัดอ่างทองในมุมมองใหม่ๆ และเชิญชวนให้นักท่องเท่ียวท่ีเคย
ทอ่ งเทย่ี วแลว้ ใหก้ ลบั มาทอ่ งเทย่ี วจงั หวดั อา่ งทองอกี ครงั้ (Re-visit) อนั จะชว่ ยกระจาย
รายไดใ้ ห้ แก่ ภาคธรุ กจิ ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ชมุ ชนทอ่ งเทย่ี ว ประชาชน และภาคอตุ สาหกรรม
ทอ่ งเทยี่ วภายใน จงั หวัดอา่ งทองใหก้ ลับมาคึกคัก สง่ ผลดตี อ่ ภาคเศรษฐกิจโดยรวม
ของจังหวัดอ่างทอง
ไกด์บุ๊คเล่มนี้จะท�ำให้ท่านรู้จัก จังหวัดอ่างทองมากยิ่งข้ึน และพวกเราจะรอ
ต้อนรบั ทุกทา่ นผู้มาเยอื นตลอดเวลาครับ

โดย
สำ� นักงานการทอ่ งเท่ียวและกฬี าจังหวดั อา่ งทอง

7

ประวัติความเปน็ มา

จงั หวดั อา่ งทองตามหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ สนั นษิ ฐานวา่ อา่ งทองเปน็ ชมุ ชนโบราณ
ขนาดเลก็ ตงั้ แตส่ มยั ทวาราวดี ในสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยา อา่ งทองเปน็ ชานเมอื งของกรงุ ศรอี ยธุ ยา
มชี อ่ื เดมิ ว่า “แขวงเมืองวิเศษไชยชาญ” ต้ังอยรู่ ิมฝง่ั แมน่ �้ำน้อย
พระราชพงศาวดารในสมัยกรุงศรีอยุธยา บทบาทความสําคัญของเมืองอ่างทองเป็น
เมืองหน้าดา่ นท่ีสําคัญของ กรุงศรีอยุธยาในการสู้รบกับกองทัพพม่า ท้ังน้ี สืบเนื่องมาจาก
ทําเลทีต่ ้ังของเมอื งอ่างทอง และสภาพภูมิประเทศ ทเ่ี ปน็ ทีร่ าบ มีแมน่ �ำ้ สายสําคญั ไหลผ่าน
คือ แม่น้ําเจ้าพระยา ทําให้เมืองอ่างทองกลายเป็นเส้นทางเดินทัพ เมื่อพม่า ยกทัพเข้าตี
กรงุ ศรอี ยธุ ยา และบางคร้งั กลายเป็นสมรภูมิทีท่ ัง้ สองฝ่ายใช้ประลองยุทธ์กนั
ชาวอ่างทองได้พลีชีวิตและเลือดเนื้อเพื่อชาติไทยยามท่ีบ้านเมืองมีภัยสงคราม
เช่น การกอบกู้เอกราช ของชาติไทยในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พม่าได้ใช้แขวง
เมืองวิเศษไชยชาญเป็นที่ต้ังค่ายตีกรุงศรีอยุธยา และเกิดการสู้รบคร้ังสําคัญที่จารึกไว้ใน
ประวัตศิ าสตร์ไทย คือ ศกึ บางระจัน ทบี่ า้ นบางระจัน จงั หวัดสงิ ห์บรุ ี ซึ่งชาวอ่างทองได้รว่ ม
สู้รบกับกองทัพพม่าอย่างห้าวหาญ ดังน้ัน อ่างทองสมควรได้รับการขนานนามว่าเป็น
เมืองแห่ง “วรี ไทยใจกลา้ ”

8

9

ตราประจาํ จงั หวดั อ่างทอง

เปน็ รปู อา่ งสนี ำ้� ตาล ในอา่ งมใี บขา้ วสเี ขยี วสลบั ไขวไ้ ปมา มรี วงขา้ ว
สุกสีเหลือง 4 รวงอยู่ภายในวงกลมพ้ืนสีเขียวอ่อน ขอบนอกวงกลม
สีน้ำ� ตาล ขอบในสีขาว ดา้ นล่างของอา่ ง ภายในวงกลมมีลายไทย สเี หลอื งประกอบ
และมีตัวหนังสือค�ำว่า จังหวัดอ่างทอง อยู่ภายใน จังหวัดอ่างทอง เป็นจังหวัด
ที่ราบลุ่ม มลี กั ษณะเปน็ แอง่ รบั นำ�้ ภมู ิประเทศเหมาะแกก่ ารเพาะปลกู ดวงตราของ
จังหวัดจึงเป็นรูปอ่างสีทอง ซ่ึงหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ของจังหวัด ในอ่างมี
รวงขา้ ว และใบข้าวซ่ึงหมายถงึ การท�ำนา ซึง่ เปน็ อาชีพหลกั ของคนในภมู ภิ าคนี้
จังหวัดอ่างทอง ต้ังอยู่บริเวณท่ีราบภาคกลางของประเทศไทย ห่างจาก
กรงุ เทพมหานคร ตามเสน้ ทางหลวงแผน่ ดินหมายเลข 32 ประมาณ 108 กโิ ลเมตร
มีพื้นที่ 968,372 ตารางกิโลเมตรหรือ 605,232.50 ไร่
อา่ งทอง เปน็ จงั หวดั เลก็ ๆ ทมี่ คี วามสำ� คญั ตงั้ แตส่ มยั กรงุ ศรอี ยธุ ยา โดยเฉพาะ
อย่างยง่ิ ประวตั ิศาสตร์ โบราณวตั ถุ ศาสนสถาน ศลิ ปวัฒนธรรม ประเพณวี ถิ ีชีวติ
ธรรมชาติและการด�ำรงชีพด้วยวิถีเกษตรกรรมที่สรรค์สร้างจนเป็นเอกลักษณ์
ของจงั หวดั อา่ งทอง มีวัดทส่ี วยงามโดดเด่นน่าสนใจมากกว่า 200 วดั เป็นดินแดน
พระใหญ่ที่อุดมด้วยงานฝีมือที่วิจิตรตระการตา สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็น
อยู่ของคนอา่ งทองไดเ้ ปน็ อย่างดี
นกั ทอ่ งเทย่ี วจะไดส้ มั ผสั ถงึ การแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ เพม่ิ พลงั บวก สลายพลงั ลบ
ค้นพบธรรมชาติ ผ่านเส้นทางท่องเท่ียวท่ีเชื่อมโยงความหลากหลายมิติของแหล่ง
ท่องเที่ยวในพ้นื ทจี่ งั หวดั อ่างทอง

สภาพทว่ั ไป

จังหวัดอ่างทอง ต้ังอยู่ในพื้นท่ีราบลุ่มภาคกลางของประเทศไทย เป็นเมือง
อขู่ า้ วอนู่ ำ้� ทม่ี คี วามสําคญั ตอ่ เศรษฐกจิ ของชาตมิ าเปน็ เวลาชา้ นาน ผลติ ผลดา้ นการเกษตร
โดยเฉพาะข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถส่งไปขาย ยังต่างประเทศได้มากเป็น
อันดับหน่ึง ทํารายได้เลี้ยงประชากรและใช้ในการพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า
ตลอดมา แม่นำ�้ เจา้ พระยาเป็นแม่น�ำ้ สายที่ให้ความอดุ มสมบูรณ์ ไหลผา่ นพน้ื ทรี่ าบล่มุ
ภาคกลาง ซงึ่ เริม่ ต้นจากจังหวัด นครสวรรค์ลงไปถงึ จงั หวัดสมุทรปราการ ประชาชน
สว่ นมากตามพน้ื ทรี่ าบลมุ่ ภาคกลาง จงึ ประกอบอาชพี ทํานา กลา่ วไดว้ า่ ภมู ปิ ระเทศเปน็
ตัวกําหนดอาชพี ประเพณี และวฒั นธรรมตา่ ง ๆ เป็นลักษณะเฉพาะทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การ
พัฒนาการทางประวัติศาสตรข์ องเมืองอยา่ งสําคญั

10

11

❖ เวสถิ ้นีเทกาษงแตหลรง่ ❖ท่องเท่ยี ว

12

11

13

โครงการฟาร์มตวั อยา่ งตามพระราชด�ำริฯ

หนองระหารจีน

ฟาร์มตัวอย่างตามพระราชด�ำริ งานแปรรปู การเก็บเกยี่ ว ตัดแตง่ คดั และ
ในสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ พ์ิ ระบรม บรรจุลงหบี ห่อ
ราชนิ นี าถ (หนองระหารจนี ) ชมการเกษตร สมเดจ็ พระนางเจ้าสิรกิ ติ ์ิ พระบรม
แบบผสมผสาน โดยนอ้ มนำ� พระราชปรชั ญา ราชินีนาถ พระราชทานพระราชด�ำริ
เศรษฐกิจพอเพียงมาด�ำเนินการเพื่อให้ เม่ือวันท่ี 10 ตุลาคม 2549 ทรงมี
ได้ผลผลิตท่ีปลอดภัยจากสารพิษ มีการ พระราชดำ� รหิ ว่ งใยประชาชนผปู้ ระสบอทุ กภยั
วางแผนการใช้ท่ีดินอย่างมีประสิทธิภาพ ปี 2549 ซงึ่ ทำ� ใหพ้ น้ื ทกี่ ารเกษตร ทอ่ี ยอู่ าศยั
มีความหลากหลายของชนิดอาหาร และสิ่งก่อสร้างสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ
การแปรรูปผลผลติ เรยี นรกู้ ารปลูกพืชผกั ได้รับความเสียหายพระองค์ทรงมี
การเพาะเหด็ การปลกู ไมผ้ ล ทโี่ ดดเดน่ คอื พระมหากรุณาธิคุณให้จังหวัดอ่างทองจัด
การปลกู ถวั่ งอกอนิ ทรยี ต์ ดั ราก การเลยี้ งสตั ว์ ทำ� โครงการสรา้ งศาลาเอนกประสงค์ เพอ่ื

14

รองรบั ประชาชนทไ่ี ดร้ บั ผลกระทบจากอทุ กภยั หนองระหารจีน หมู่ที่ 1 ต�ำบลบ้านอิฐ
และไรท้ อ่ี ยอู่ าศยั ไดพ้ กั อาศยั ขณะนำ�้ ทว่ ม อำ� เภอเมอื งอา่ งทอง จงั หวดั อา่ งทอง เนอ้ื ที่
พรอ้ มจดั หาทด่ี นิ ซงึ่ เปน็ ทสี่ งู นำ้� ทว่ มไมถ่ งึ ประมาณ 36 ไร่ เปน็ พ้ืนทด่ี ิน 23 ไร่ พ้นื ที่
เพอ่ื ใชส้ ำ� หรบั ทำ� เปน็ ฟารม์ ตวั อยา่ ง ซงึ่ จงั หวดั น�้ำ 13 ไร่
ไดจ้ ดั หาพน้ื ทตี่ ามพระราชดำ� รไิ ดท้ บ่ี รเิ วณ

ทอี่ ยู่ ม.1 ต.บ้านอฐิ อ.เมอื ง จ.อ่างทอง 14000 โทร. 0652924564
คณุ เปรมศักด์ิ https://www.facebook.com/angthong.farm/ เปดิ 08:30 - 16:30 น.

15

สสวนเมล่อน อินทรโ์ ตฟารม์
วนเมล่อน INTO Farm ฟาร์มน้ี เมลอ่ น โอโ้ หหหเยอะขนาดน้ี ต้องไปลอง
ตั้งอยู่แถว ต.ศรีพราน อ.แสวงหา ใหร้ ูซ้ ะหนอ่ ย
จ.อ่างทอง ในส่วนของการเดินทางน้ัน INTO Farm ถอื ไดว้ า่ เปน็ อกี สถานที่
กไ็ มย่ าก เพราะไมไ่ กลจากกรงุ เทพฯ มากนกั ทอ่ งเทยี่ วหนง่ึ ทนี่ า่ สนใจ ถา้ ใครยงั ไมม่ แี พลน
โดยรวมเปน็ ฟารม์ ทมี่ บี รรยากาศรม่ รน่ื เตม็ ไป จะไปเที่ยวทีไ่ หนในวนั หยดุ ก็ลองมาท่ีน่ไี ด้
ดว้ ยต้นไม้ ท�ำใหไ้ ม่ค่อยร้อน แถมยงั เงียบ นะคะ รับรองว่าได้สัมผัสบรรยากาศและ
สงบ เมล่อนท่ีทางฟาร์มปลูกไว้ สามารถ ธรรมชาตทิ ส่ี ดชน่ื แนน่ อน ทส่ี ำ� คญั สามารถ
เข้าไปเยี่ยมชมและถ่ายภาพได้ด้วย ซอื้ เมลอ่ นกลบั บ้านไดด้ ้วยนะคะ
เป็นสถานที่ท่ีเหมาะส�ำหรับชาร์จพลังให้
กับตัวเองในวันหยุดมากๆ และยังมีเมนู ท่ีอยู่ 5/9 หมู่ 2 ต.ศรีพราน อ.แสวงหา
อาหารคาวหวานสารพนั ทนี่ ำ� เมลอ่ นไปเปน็ จ.อ่างทอง 14150
สว่ นผสม ไมว่ ่าจะเป็นเมลอ่ นปัน่ ไอศกรีม โทร. 092 - 7294433
เมลอ่ น บงิ ซเู มลอ่ น บวั ลอยเมลอ่ น วาฟเฟลิ เปดิ 10:00 - 17:00 น.

16

17

โครงการฟารม์ ตวั อยา่ งตามพระราชดำ� รฯิ สบี วั ทอง
โครงการฟารม์ ตวั อยา่ งตามแนวพระ
ทอ่ี ยู่ ฟารม์ ในตำ�บล สีบวั ทอง ราชด�ำริ ตำ� บลสบี วั ทอง เกิดจาก
โทร. 092 557 9497 พระมหากรณุ าธคิ ณุ ในสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ
พระบรมราชินนี าถ ทีท่ รงห่วงใยถงึ ปัญหา
ความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหา
อุทกภัย เน่ืองมาจากพายุไต้ฝุ่นช้างสาร
ทพ่ี ดั ผา่ นประเทศไทยในชว่ งเดอื นตลุ าคม
2549 โดยเมอ่ื วันท่ี 10 ตลุ าคม 2549 ไดม้ ี
พระราชด�ำริความว่า
“ให้จัดหาท่ีดินซ่ึงเป็นท่ีสูงน้�ำท่วม
ไม่ถึง อยู่ใกล้เคียงจังหวัดอ่างทอง น�ำมา
จัดสร้างศาลาอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ใช้
เป็นศูนย์กลางรองรับราษฎรท่ีได้รับผล
กระทบจากอทุ กภัยจนไร้ท่อี ยอู่ าศัย”

18

19

ฟาร์มเห็ดครูพยงค ์

ฟารม์ เหด็ “ครพู ยงค-์ อนนั ต”์ โดย เรมิ่ อาชพี การเพาะเหด็ มาตง้ั แต่ พ.ศ.2547 จนถงึ
ปจั จบุ นั ฟารม์ เหด็ ตงั้ อยทู่ ต่ี ำ� บลโคกพทุ รา อำ� เภอพธท์ิ อง จงั หวดั อา่ งทอง 14120
ประเภทของเหด็ ทีผ่ ลิต และผลิตภณั ฑแ์ ปรรูปจากเหด็ ไดแ้ ก่ เห็ดภูฐาน เหด็ โคนญ่ีปุ่น
เหด็ ฮงั การี เห็ดนางนวล เห็ดนางฟ้า เห็ดขอนขาว เห็ดขอนดำ� เหด็ Giant Cup เห็ดถงั่
เชา้ สที อง เหด็ ถง่ั เช่าหมิ ะ เห็ดแอนโธเดยี เห็ดหัวลงิ เหด็ นางรมทอง เห็ดมลิ คก์ ้ี (Milky)

สนใจติดต่อสอบถามเพม่ิ เตมิ ไดท้ ี่
ศูนย์การเรียนรู้ ฟาร์มเห็ด ครูพยงค์ – อนนั ต์
ทอี่ ยู่ บ้านตาล หมู่ ๖ ต.ทางพระ อ.โพธทิ์ อง จ.อา่ งทอง
Line ID and WeChat : payong1111
เบอรม์ ือถอื : 091-8609324

20

21

สวนเฟิร์น ตะนาวะสี

สวนเฟิรน์ ตะนาวะสี เปน็ สวนของสามี
ภรรยา คุณนพดล และคุณสุภาศรี
นาเงนิ เจา้ ของฟารม์ ตะนาวะสี เฟริ น์ การเ์ ดน้ ท์
ที่อ�ำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง
บนเนอื้ ทข่ี องฟารม์ มากกวา่ 10 ไร่ คณุ นพดล
และ คณุ สภุ าศรี ทมุ่ เทความก�ำลังแรงกาย

22

แรงใจ รวมถงึ กำ� ลงั เงนิ เนรมติ ฟารม์ แหง่ น้ี ท่ีแปลกตาจากทุกมุมโลกกว่า 500 สาย
ได้มีความสวยงาม และสร้างบรรยากาศ พันธ์ุ นอกจากนนั้ ยังได้รวมรวมพชื พรรณ
โดยรอบให้มีความชื้นตลอดเวลา เพ่ือให้ ธรรมชาตอิ นั ทรงคณุ คา่ หายากและจะใกล้
เหมาะสมกบั การเพาะและขยายพนั ธเ์ุ ฟริ น์ สูญพันธุ์ นานาชนิดไว้อีกมากมายหลาย
โดยวธิ ที างธรรมชาติ ตา่ งจากฟารม์ แหง่ อน่ื ๆ ชนดิ วตั ถปุ ระสงคห์ ลกั ของศนู ยฯ์ กเ็ พอ่ื ใช้
ทใ่ี ชเ้ ทคโนโลยีเขา้ มาชว่ ย ทำ� ให้เมอ่ื ลกู คา้ เปน็ แหลง่ เรยี นรู้ และถ่ายทอดความรทู้ าง
ซอ้ื เฟริ น์ ออกไปเลยี้ งภายนอกฟารม์ เฟริ น์ ดา้ นการเพาะเลยี้ ง การขยายพนั ธพ์ุ ชื กลมุ่
จะไมต่ ายหมด หรอื กไ็ มส่ วยงามเหมอื นอยู่ เฟินอย่างถูกวิธี รวมถึงการน�ำเฟินมาจัด
ในฟารม์ ในขณะเฟริ น์ ทเี่ ลย้ี งภายในฟารม์ เปน็ สวนแบบตา่ งๆ ใหแ้ กเ่ ดก็ และเยาวชน
แห่งน้ี ซ่ึงเล้ียงตามธรรมชาติ เมื่อลูกค้า รวมทัง้ ประชาชนท่สี นใจท่ัวไป
น�ำไปเลี้ยงท่ีบ้านเฟิร์นมีการปรับตัวบ้าง
ก็สามารถอย่รู อดได้
ตะนาวะสีเฟินการ์เด้นท์ หรือ สนใจติดต่อ
สวนเฟริ น์ ตะนาวะสี คอื สวนเฟริ น์ แหง่ แรก สวนเฟิรน์ ตะนาวะสี เฟริ ์นการ์เด้นท์
ของประเทศไทยมหัศจรรย์กับสายพันธุ์ โทร. 081-858-4863

23

บศุน้านยก์ สาวรนเรธียนนรวูเ้ กัฒษนตร์ และอาหารปลอดภยั

แหลง่ ทอ่ งเท่ยี วเชิงเกษตรใน อ.โพธท์ิ อง จ.อ่างทอง
ที่อยู่ : หมู่ 8 ต.องครกั ษ์ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง

24

25

26

27

❖ เวสถิน้ ทวี าฒังแหนลธง่ ทรอ่ รงเมที่ย❖ว

28

29

30

ตตลาดศาลเจ้าโรงทอง หลากหลายชนดิ ต้งั แต่ทองหยอด เม็ดขนนุ
ลาดศาลเจ้าโรงทอง ตลาดเก่าแก่ท่ี ฝอยทอง ทองมว้ น ขนมเกสรลำ� เจยี ก ขนมกง
มอี ายมุ ากกวา่ 100 ปี อยรู่ มิ แมน่ ำ�้ นอ้ ย ขนมสามเกลอ ขนมดอกจอก ขนมสาลี่
เดิมตวั ตลาดเป็นหอ้ งแถวไมส้ องชั้นแต่ถูก ขนมลกู เตา๋
เพลงิ ไหมจ้ นแทบไมเ่ หลอื อาคารเกา่ และถกู สำ� หรบั สภาพทว่ั ไปกเ็ หมอื นกบั ตลาดใน
ปลกู แทนดว้ ยตกึ 2 ชนั้ ทดแทนอย่ใู กล้กับ ท้องถิน่ ทม่ี ีสินคา้ พนื้ บ้านจ�ำหน่าย หากเดนิ
วดั นางในธรรมกิ าราม อำ� เภอวเิ ศษชยั ชาญ ออกไปทางแมน่ ำ้� นอ้ ย จะพบกับศาลเจา้ พอ่
จังหวัดอ่างทอง ตลาดเก่าแแก่ท่ีชาวบ้าน กวนอู ทช่ี าวบา้ นใหค้ วามเคารพ ตวั ศาลเปน็
ออกมาใชว้ ถิ ชี วี ิตค้าขายทสี่ บื ทอดกนั มา เกง๋ จนี ยกพน้ื สงู ดา้ นหนา้ มรี ปู ปน้ั เจา้ แมก่ วนอมิ
เมื่อมาตลาดศาลเจ้าโรงทอง จะพบ โดยเม่ือข้ึนไปด้านบนจะพบกับรูปปั้น
กับสินค้าตามวิถีชุมชนท้องถิ่น น่ันก็ เจา้ พอ่ กวนอู ประทบั อยดู่ า้ นในของศาล และ
คือ เปลเด็กแบบโบราณ ตะกร้อสอย ตรงทา่ นำ้� จะมเี รอื พลงั นำ�้ ใหบ้ รกิ ารประชาชน
ผลไม้ ตะกร้าและเคร่ืองจักรสาน ส่ิงหน่ึง ท่ีต้องการข้ามฝากไปอีกฝัง่ ของแม่นำ้� ดว้ ย
ทพี่ ลาดไมไ่ ด้คือ ขนมโบราณ ทม่ี ใี หเ้ ลอื ก ส�ำหรับผู้ท่ีสนใจสามารถน�ำรถไปจอด
ได้ท่ีวัดนางในธรรมมิการามและเดินข้าม
ถนนมาทตี่ ลาดไดเ้ ลย ตลาดศาลเจา้ โรงทอง
เปิดบรกิ าร : 08.00 – 16.00 น.
เทศบาลตลาดฯ: 081 8533 852
ททท. 0-3552-5867, 0-3552-5880

31

32

หบ้านบางเจา้ ฉ่า
ม่บู า้ นจักสาน งานฝีมอื จักสานอนั ลอื ฉ่าเปน็ ผนู้ �ำ นายฉ่านนั้ พนื้ เพเปน็ คนสบี ัว
ชื่อของอ่างทองส่วนมากจะเป็นฝีมือ ทอง ภายหลังการสู้รบยุติแล้ว "นายฉ่า”
ของชาวอ�ำเภอโพธิ์ทองแทบทุกครัวเรือน จึงได้น�ำชาวบ้านมาตั้งบ้านเรือนเป็นที่อยู่
ที่ต้ังบ้านเรือนเรียงรายอยู่ทั้งสองฟาก อาศัยถาวรข้ึนในชุมชนด้านทิศตะวันตก
ฝั่งแม่น้�ำเจ้าพระยาในละแวกเดียวกัน มี ของแม่น�ำ้ นอ้ ย แต่เดมิ เรยี กวา่ "บ้านสร้าง
การจัดต้ังเป็นกลุ่มการผลิตเคร่ืองจักสาน สามเรือน” เพราะเร่มิ แรกมเี พยี งสามหลงั
เครอื่ งหวาย กลมุ่ จักสานไมไ้ ผ่ เช่น กลุ่ม คาเรือนเท่านัน้ ซึ่งเปน็ พนื้ ทีอ่ ุดมสมบูรณ์
ต�ำบลองครกั ษ์ กลมุ่ ตำ� บลบางเจา้ ฉ่า กลุม่ เหมาะแก่การต้ังเป็นที่อยู่อาศัย ปัจจุบัน
ต�ำบลบางระก�ำ กลุม่ ต�ำบลพลับ และกลมุ่ มีชอ่ื วา่ "บางเจา้ ฉ่า” เพราะน�ำช่ือของนาย
ต�ำบลอนิ ทประมูล ฉา่ มาตงั้ ชอ่ื ซ่งึ นายฉ่าน้นั เป็นทง้ั ผนู้ ำ� และ
แหลง่ หตั ถกรรมเครอื่ งจกั สานสำ� คญั ท่ี เป็นผกู้ ่อตัง้ หม่บู ้าน
ขน้ึ ชอ่ื ของจังหวัดอา่ งทอง คอื "บ้านบาง
เจ้าฉ่า” ตงั้ อยหู่ มู่ ๘ บา้ นยางทอง ตำ� บล
บางเจ้าฉ่า เป็นชุมชนท่ีมีมาในสมัยกรุง ทอี่ ยู่ หมู่ 8 ต.บางเจ้าฉ่า อ.โพธิ์ทอง
ศรีอยุธยา ซ่ึงชาวบ้านได้เคยร่วมกับชาว จ.อ่างทอง
แขวงเมอื งวเิ ศษชยั ชาญ และชาวบางระจนั โทร. 035 - 644091, 035 - 644319
สูร้ บกับพม่า ณ บ้านบางระจนั โดยมีนาย เปิด 07:00 - 18:00 น.

33

ศูนยต์ ุ๊กตาชาววงั บ้านบางเสดจ็

ต้ังอยู่บริเวณด้านหลังวัดท่าสุทธาวาส
ในต�ำบลบ้านบางเสด็จ ต�ำบลนี้เดิม
ชื่อบ้านวัดตาล ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นชื่อ
บ้านบางเสด็จ เนื่องจากพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาล บา้ นบางเสดจ็ จะมกี ารสาธติ การปน้ั ตกุ๊ ตา
ท่ี 9 และและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ชาววงั ประดษิ ฐกรรมดนิ เหนยี วอนั สวยงาม
พระบรมราชินนี าถ ในรชั กาลท่ี 9 ได้เสด็จ แสดงใหเ้ หน็ วถิ ชี วี ติ ความเปน็ อยขู่ องผคู้ น
พระราชดำ� เนนิ พระราชทานความชว่ ยเหลอื และวฒั นธรรมประเพณไี ทยตา่ ง ๆ เชน่ การ
แกร่ าษฎรผปู้ ระสบอทุ กภยั ในปี พ.ศ. 2518 ละเล่นของเด็ก ไทย วงมโหรปี พ่ี าทย์ ชุด
และทรงเหน็ วา่ พนื้ ทดี่ งั กลา่ วมดี นิ ทเี่ หมาะ ท่วงท่าฤาษีดัดตน หรือรูปผลไม้ ซ่ึงล้วน
สมแกก่ ารปน้ั ตกุ๊ ตาชาววงั จงึ ทรงพระกรณุ า แต่สวยงามน่ารกั อยา่ งยิง่
โปรดเกลา้ ฯ ใหต้ งั้ โครงการตกุ๊ ตาชาววงั ขนึ้
จนถงึ วนั นี้ ชาวบางเสดจ็ ไดส้ านตอ่ โครงการ เปดิ ทุกวัน ต้ังแต่เวลา 09.00-16.00 น.
จนทำ� ใหต้ กุ๊ ตาจากดนิ เหนยี วของไทยเปน็ โทร.: 094 494 0538
ท่ีชื่นชอบไปทัว่ โลก โดยศูนยต์ กุ๊ ตาชาววงั FB : ศนู ยต์ ุ๊กตาชาววังบ้านบางเสดจ็

34

35

หม่บู า้ นทำ� กลอง

ข้ึนชอื่ วา่ เปน็ หมบู่ า้ นผลติ กลองทมี่ ชี อ่ื เสยี ง กรรมวธิ กี ารทำ� กลอง ตงั้ แตเ่ รม่ิ กลงึ ทอ่ นไม้
และดีทส่ี ุดในประเทศไทย โดยชาวบา้ น ไปจนถึงขนั้ ตอนการข้นึ กลอง การฝงั หมดุ
นยิ มทำ� เปน็ อาชพี เสรมิ หลงั ฤดเู กบ็ เกย่ี วนบั สำ� หรบั กลองทท่ี ำ� มตี งั้ แตข่ นาดเลก็ ถงึ ใหญ่
ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. 2470 กลองของทนี่ ท่ี ำ� จากไม้ เช่น กลองทัด กลองส้ัน กลองยาว กลอง
ฉำ� ฉา เพราะเปน็ ไมเ้ นอ้ื ออ่ นท่ี สามารถขดุ ร�ำวง และกลองเพลท่ีใช้ในวัด จนกระทั่ง
เนอื้ ไมไ้ ดง้ า่ ยและอกี หนง่ึ วตั ถดุ บิ สำ� คญั คอื กลองขนาดเล็กจ๋ิวส�ำหรับเป็นของที่ระลึก
หนังวัว ท่ีต้องเตรียมไว้ส�ำหรับขึงท�ำหน้า และยงั สามารถซอ้ื กลับบ้านไดอ้ กี ด้วย
กลอง การมาเยย่ี มชมหมบู่ า้ นทำ� กลองแหง่ นอกจากน้ี ทห่ี มบู่ า้ นทำ� กลอง ยงั มกี ลอง
น้ี นกั ทอ่ งเทยี่ วและผสู้ นใจ สามารถเขา้ ชม ยาวที่ยาวท่ีสุดในโลกก็ว่าได้ โดยมีขนาด

36

หนา้ กลองกวา้ ง 36 นว้ิ 92 เซนตเิ มตร ยาว แต่ที่หมบู่ ้านแห่งนี้ ยงั คงอนรุ กั ษ์การผลิต
7.6 เมตร ท�ำจากไมจ้ ามจุรีต่อกนั 6 ท่อน กลองแบบไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
กลองใบน้ีถือเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้าน ควรคา่ แกก่ ารแวะเวยี นไปเยย่ี มเยยี น และ
ทำ� กลอง ทบ่ี ง่ บอกวา่ คณุ มาถงึ ถน่ิ ทำ� กลอง ศกึ ษาถงึ ภมู ปิ ญั ญาไทยทนี่ บั วนั จะหาชมได้
ของจงั หวัดอา่ งทองแล้ว กลองใบน้ีตั้งเดน่ ยากยงิ่
ตระหง่านอยู่หน้าบ้านของ ก�ำนันหงส์ฟ้า สอบถามเพิ่มเติม โทร 0-3566-1875
หยดย้อย ผู้สร้างกลองข้ึนมาเมื่อปีพ.ศ.
2537 และใชเ้ วลาสรา้ งราว 1 ปี แมป้ จั จบุ นั
หมบู่ า้ นทำ� กลองจะมไี มม่ ากในประเทศไทย

37

มัสยิดอลั ยุสรอสามคั คี

มัสยิดอัลยุสรอสามัคคี เป็นต�ำบลท่ีมี ระยะทางทไี่ กลพอสมควร จงึ ไดร้ วมตวั กนั
ประวัติศาสตร์มายาวนานตั้งแต่สมัย สรา้ งอาคารอกี หลงั หนงึ่ เมอื่ ประมาณ 60 ปี
กรงุ ศรอี ยธุ ยา โดยประชาชนของบา้ นชะไว ท่ีป่านมาที่บริเวณริมน�้ำเจ้าพระยาหมู่ 1
ไดร้ วม ออกรบชว่ ยเหลอื สมเดจ็ พระนเรศวร ต�ำบลชะไว ซง่ึ เปน็ อาคารไม้ช้ันเดยี วเพื่อ
มหาราชในการโจมตีกองทพั พมา่ และเจา้ ใช้ประกอบพิธีทางศาสนาและใช้สอนการ
เชยี งใหมท่ ่ี ยกทพั มาจนไดร้ บั ชยั ชนะ และได้ ปฏิบัติศาสนกิจของศาสนาอิสลามข้ัน
รบั พระราชทานนามจากสมเดจ็ พระนเรศวร พน้ื ฐานและตอ่ มาไดจ้ ดทะเบยี นเปน็ มลู นธิ ิ
ว่า บ้านเชาว์ไว และถูกเรียกต่อมากลาย ชอ่ื วา่ มลู นธิ โิ รงเรยี นนรู ลุ้ อสิ ลาม เปน็ เวลา
เปน็ ชะไว ในท่ีสุด บา้ นชะไวเปน็ ต�ำบลท่ี เกอื บ 30 ปี แตเ่ นอ่ื งจากอาคารนนั้ กอ่ สรา้ ง
มีมุสลิมอาศัยอยู่เป็นจ�ำนวนเกือบ 100% อยรู่ มิ ตลิง่ ของแม่น�้ำเจา้ พระยา จึงเกรงวา่
แตเ่ ดมิ นน้ั มมี สั ยดิ เพยี งแหง่ เดยี วชอื่ มสั ยดิ จะเกิดอันตราย เน่ืองจากเป็นทางสายน�้ำ
นรู รุ้ เราะฮฮ์ มี ตอ่ มาประชาชนทอ่ี ยทู่ างดา้ น ช่วงโค้งท�ำให้น�้ำน�้ำเซาะตลิ่งเข้ามา และ
แถบเหนอื ของบา้ นชะไว เกดิ ความไมส่ ะดวก ยงิ่ มกี ารอนญุ าตใหม้ กี ารดดู ทรายในแมน่ ำ�้
ในการประกอบพิธีทางศาสนา เนือ่ งจากมี ยงิ่ ทำ� ใหไ้ มป่ ลอดภยั แกอ่ าคารถาวร ทำ� ให้

ประชาชนมองเหน็ วา่ อาจจะเกดิ อนั ตรายได้
จงึ ไดร้ วมตวั กนั ซอื้ ทด่ี นิ อกี ผนื หนงึ่ ทบ่ี รเิ วณ
คลองชลประทานและติดกับโรงเรียนบ้าน
ชะไวไวใ้ นปัจจบุ ัน เพื่อสร้างอาคารมสั ยดิ
ถาวรเปน็ อาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก

ทีอ่ ยู่: หมู่ท่ี 2 ต.ชะไว อ.ไชโยจ.อ่างทอง

38

หม่บู ้านจกั สาน บา้ นตลาดใหม่

เม่ือปี 2526 ไดร้ วบรวมชาวบา้ นทจ่ี กั สาน คิดค้นวัสดุท่ีมีอยู่ในท้องถ่ิน คือใบลานมา
เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช้ ในหมบู่ า้ นประมาณ จกั สานรว่ มกบั ไมไ้ ผ่ จงึ เปน็ คนแรกทคี่ ดิ ทำ�
15 คน จัดต้งั เป็นกล่มุ จักสานขนึ้ ท่ี หมทู่ ี่ 2 ข้ึนและได้จดสิทธิบัตรเป็นภูมิปัญญาไทย
ตำ� บลตลาดใหม่ เพอ่ื เปน็ การสรา้ งงานและ เปน็ สนิ คา้ ทมี่ เี อกลกั ษณโ์ ดดเดน่ มคี วามคดิ
เสริมสร้างรายได้แก่ครอบครัวและชุมชน ริเร่ิมสร้างสรรค์เป็นของตนเอง สามารถ
อีกทั้งยังส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถ่ิน ท�ำลวดลายตา่ ง ๆ ไดม้ ากมาย เช่น ลาย
โดยเป็นผู้คิดค้น ดัดแปลงรูปแบบของ ดอกไม้ สญั ลกั ษณข์ องหนว่ ยงานตา่ ง ๆ แลว้
ตะกรา้ ในสมยั โบราณ ใหม้ รี ปู ทรงแบบใหม่ แต่ความต้องการของลูกค้า ซ่ึงต้องอาศัย
ทที่ นั สมยั เหมาะสมกบั การใชป้ ระโยชนใ์ น ความรู้ ความสามารถ ความชำ� นาญพเิ ศษ
ยคุ สมยั ปจั จบุ ัน เชน่ การจักสาน ตะกร้า ในการแกะลาย
หหู ว้ิ ตะกรา้ หกเหลยี่ ม ป้นั น้�ำชา โคมไฟ
ของจิ๋ว ของโชว์ กระเปา๋ หวิ้ หลายรปู แบบ
เชน่ ทรงเมด็ ตาล ซงึ่ ปจั จบุ นั ไดร้ บั ความนยิ ม
มาก การผลติ ไม่เพียงพอกบั การจำ� หน่าย
ซึ่งกระเป๋าทรงเม็ดตาล นางสาววรรณา
ไดป้ ระดษิ ฐค์ ดิ คน้ ขนึ้ มาใหมเ่ พอื่ ใหม้ ลี วดลาย
รูปแบบที่แปลก แตกต่างจากแบบเดิม
โดยไดแ้ นวคดิ และรปู แบบจากเมด็ ตาลสดท่ี
ชาวบ้านน�ำมาบริโภคว่าสามารถน�ำมาท�ำ
เป็น รูปทรงของกระเป๋าได้ โดยใช้วัสดุ ทีอ่ ย:ู่ หม่บู ้านจักสาน บา้ นตลาดใหม่
ไมไ้ ผก่ บั หวาย ตอ่ มาในชว่ งระยะเวลาหนงึ่ หมู่ 2 บา้ นตลาดใหม่ จ.อ่างทอง
หวายไดข้ าดตลาดและมรี าคาแพง จึง ได้ โทร: 081-7705915

39

วดั ฝาง

วัดฝาง (เป็นวัดเก่าแก่สร้างข้ึนในสมัย เมตร ยาว 12 เมตร รวมระยะเวลากอ่ สรา้ ง
สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร หรือ ขุนหลวง นานประมาณ 24 ปโี ดยเรม่ิ ก่อสรา้ งเมือ่ ปี
หาวดั เมอ่ื ประมาณปี พ.ศ. 2300 เมอ่ื คราว พ.ศ.2536 โดยพระครูธรรมรัต อริยวโส
ทรงผนวชเสด็จมาพักต�ำหนักค�ำหยาด เพอ่ื สบื สานดำ� รงในพระพทุ ธศาสนา นอกจาก
อ.โพธท์ิ อง โดยยงั พบรอ่ งลอยของตำ� หนกั น้ยี ังมีต้นตะเคียน อายุ 1,000 ปี ตน้ โพธ์ิ
เกา่ ทีอ่ ยู่ในวัดฝาง รวมไปถงึ โบสถม์ หาอุด เป็นรูปคล้ายช้าง พร้อมต้นฝาง ซึ่งเป็น
กวา้ ง 6 เมตรยาว 7.5 เมตร ที่ประดับด้วย ชื่อเดยี วกับวัด รวมถงึ หอสวดมนตท์ ่ีสร้าง
ถ้วยชามสังคโลก แต่ไม่มีช่อฟ้าใบระกา ดว้ ยไมส้ กั ทงั้ หลงั พรอ้ มใหน้ กั ทอ่ งเทย่ี วได้
ซง่ึ ภายในมพี ระศรีอริยเมตไตรย อายุราว ชมความสวยงามและตำ� นานความเปน็ มา
200-300 ปี เปน็ พระพทุ ธรปู เนอื้ ทองสำ� รดิ พรอ้ มการเรยี นรแู้ ละปฏบิ ตั ธิ รรม ต.ไผจ่ ำ� ศลี
รวมทั้ง หม้อ ไห สมัยเก่า ที่ขุดพบเจอ อ.วเิ ศษชยั ชาญ จ.อา่ งทอง
บริเวณวัด และโบสถ์แกะสลักหินทราย
ร่วมสมัยขอมรตั นโกสินทร์ ทรงเรอื ส�ำเภา ท่อี ยู่ หม่7ู ต.ไผ่จ�ำศีล อ.วเิ ศษชยั ชาญ
ซ่ึงเป็นโบสถ์แกะสลักหินทรายแห่งเดียว จ.อ่างทอง
และแหง่ แรกใน จ.อา่ งทอง มขี นาดกวา้ ง 8 โทร. 035 - 631535 เปิด 07:00 - 18:00 น.

40

41

42

43

❖ เส้นทางแหล่งทอ่ งเที่ยว

ทางประวตั ศิ าสตร์❖

44

45

46

ขุ อนสุ าวรยี ์ขุนรองปลัดชู
นรองปลัดชู เป็นครูฝึกเพลงอาวุธ ชาวอา่ งทองจงึ ไดร้ ว่ มกนั จดั สรา้ งอนสุ าวรยี ์
อยู่ในเมืองวิเศษชัยชาญ ชื่อครูดาบชู ขุนรองปลัดชูขึ้นภายในบริเวณวัดส่ีร้อย
ผทู้ รงวทิ ยาคมแกก่ ลา้ ชำ� นาญดาบสองมอื เพ่ือเชดิ ชูวีรกรรม โดยมีพิธีเปิดอนุสาวรีย์
มีศิษย์มากมาย ได้รวบรวมศิษย์และ แหง่ นเ้ี มอ่ื วนั ท่ี 21 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2553
ชาวเมอื งวเิ ศษชยั ชาญจำ� นวน 400 เขา้ เปน็
กองอาทมาตมาอาสาศกึ ออกตดิ ตามไปกบั ที่อยู่ หมู่ 4 ต.สีร่ ้อย อ.วิเศษชัยชาญ
กองทพั พระยารตั นาธเิ บศร์ แตถ่ กู พมา่ ยก จ.อ่างทอง 14110
ขน้ึ มาตี กองปลดั ชแู ตกพา่ ยเสยี ชวี ติ ทงั้ หมด เปิด 07:00 - 18:00 น.

47

พพระบรมราชานสุ าวรยี พ์ ระนเรศวรมหาราชและสมเดจ็ พระเอกาทศรถ
ระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวร 19 สิงหาคม พ.ศ.2534 นายทวีป
มหาราช ไดป้ ระกอบพธิ เี ททองหลอ่ ทวพี าณชิ ย์ ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั อา่ งทอง
โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จ ในขณะนนั้ ไดเ้ ปน็ ประธานในการจดั สรา้ ง
พระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระบรมราชานสุ าวรีย์ และได้อญั เชญิ
เมอ่ื วนั อาทติ ยท์ ี่ 19 มนี าคม พ.ศ.2533 มาประดิษฐานไว้ ณ พระบรมราชานุ
ณ บรเิ วณสถานทก่ี อ่ สรา้ งศาล หลกั เมอื ง สาวรยี ์ บรเิ วณหน้ากฎุ อิ ดตี เจา้ อาวาส
จงั หวดั อา่ งทองพระบรมรปู สมเดจ็ พระ วัดป่าโมกวรวิหาร เคียงคกู่ บั พระบรม
เอกาทศรถ ไดป้ ระกอบพธิ เี ททองหลอ่ รปู สมเดจ็ พระเอกาทศรถ และจดั ให้มี
โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา พิธีถวายสักการะ สมเด็จพระนเรศวร
สยามบรมราชกุมารี เม่ือวันศุกร์ที่ 3 มหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถ
สงิ หาคม พ.ศ. 2533 ณ บริเวณพระ ณ วดั ปา่ โมกวรวหิ าร ในวนั ที่ 18 มกราคม
อโุ บสถ วดั ทา่ สทุ ธาวาส อำ� เภอปา่ โมก และ วนั ที่ 25 เมษายน ของทุกปี
จังหวัดอ่างทอง ต่อมาเมื่อวันศุกร์ท่ี
48

อนุสาวรีย์นายดอก นายทองแก้ว

ประดิษฐานอยู่ที่หน้าโรงเรียนวิเศษชัยชาญวิทยาคม เป็นอนุสรณ์สถานท่ีชาว
วเิ ศษชยั ชาญและชาวอา่ งทองรว่ มกนั สรา้ ง เพอ่ื รำ� ลกึ ถงึ คณุ งามความดขี องวรี บรุ ษุ แหง่
บ้านโพธ์ทิ ะเล ชาววิเศษชยั ชาญ ป่ดู อกและปทู่ องแก้ว ทัง้ สองทา่ นยอมสละชีวิตอย่าง
กลา้ หาญเพอ่ื ปกปอ้ งแผน่ ดนิ ไทยในการสรู้ บกบั พมา่ ทคี่ า่ ยบางระจนั กอ่ นทก่ี รงุ ศรอี ยธุ ยา
จะแตกในปี พ.ศ. 2309
ทต่ี ้งั หมู่ 2 ซอยปูด่ อก-ปทู่ องแก้ว 16 ต.ไผจ่ �ำศีล อ.วเิ ศษชยั ชาญ จ.อ่างทอง 14110
เปิด: 06:00 - 18:00 น.

49

อ พระต�ำหนักคำ� หยาด
ยู่ในท้องท่ีต�ำบลค�ำหยาด ถัดจากวัด หาวัด (เจ้าฟ้าอุทุมพร กรมขุนพรพินิต)
โพธ์ทิ อง ไปทางทิศตะวนั ตกประมาณ ทรงผนวชทว่ี ดั โพธท์ิ องแลว้ สรา้ งพระตำ� หนกั
2 กม. บนถนนสายเดยี วกนั ตวั อาคารตง้ั แห่งนีข้ ้ึนเพอ่ื จำ� พรรษา เนือ่ งจากมชี ยั ภมู ิ
โดดเด่นอยู่กลางทุ่งนา ก่อด้วยอิฐถือปูน ท่ีเหมาะสม ครั้นได้ทอดพระเนตรเห็นตัว
ขนาดกว้าง 10 เมตร ยาว 20 เมตร สภาพ พระตำ� หนกั สรา้ งดว้ ยความประณตี สวยงาม
ปจั จุบันมีเพียงผนัง 4 ด้าน แต่ยงั คงเห็น แล้วพระราชดำ� รเิ ดิมกเ็ ปล่ยี นไป ดว้ ยทรง
เค้าความสวยงามทางด้านศิลปกรรม เหน็ วา่ ไมน่ า่ ทข่ี นุ หลวงหาวดั จะทรงมคี วาม
เช่น ลอดลายประดับซุ้มจรน�ำหน้าต่าง ใน คดิ ใหญโ่ ต สรา้ งทปี่ ระทบั ชวั่ คราวหรอื ทม่ี นั่
คราวทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ ในการต่อสู้ให้ดูสวยงามเช่นนี้ ดังนั้น จึง
อยหู่ วั เสดจ็ ประพาสลำ� นำ�้ มะขามเฒา่ เมอ่ื ทรงสนั นษิ ฐานวา่ พระตำ� หนกั นค้ี งจะสรา้ ง
พ.ศ. 2451 ไดเ้ สดจ็ มายงั โบราณสถานแหง่ ขึ้นต้ังแต่รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ
นแี้ ละทรงมพี ระราชหตั ถเลขาอรรถาธบิ าย เพื่อเป็นท่ีประทับแรมเนื่องจากมีพระราช
ไว้ว่า เดิมทีทรงมีพระราชดำ� รวิ ่า ขนุ หลวง นยิ มเสด็จประพาสเมืองแถบนี้อย่เู นอื ง ๆ

50


Click to View FlipBook Version