The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ล่องเรือไหว้พระ 9 วัด รับปีใหม่ 2567

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ล่องเรือไหว้พระ 9 วัด รับปีใหม่ 2567

ล่องเรือไหว้พระ 9 วัด รับปีใหม่ 2567

ล่องเรือไหว้พระ 9 วัด รับปีใหม่ 2567 กระทรวงคมนาคมโดยกรมเจ้าท่า


วัดทางทิศเหนือ


วัดสร้อยทอง ปูชนียวัตถุที่สำ คัญ คือ พระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะทองเหลือง นามว่า “หลวงพ่อเหลือ” ซึ่งสร้าง จากโลหะที่เหลือจากการหล่อพระประธาน ในปี พ.ศ.2445 และภายในเกศองค์พระพุทธรูปบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ ของ พระอรหันต์ 5 พระองค์ ชาวบ้านมีความเชื่อว่า หากได้มาไหว้ขอพรหลวงพ่อเหลือ จะมีเหลือกินเหลือใช้ ศาสนสถานที่สำ คัญ คือ “พระมหาธาตุเจดีย์ศรีสร้อยทอง” เป็นเจดีย์องค์ใหญ่งดงาม ที่สร้างขึ้น ในปี พ.ศ.2548 โดยภายในพระเจดีย์นั้น ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ ท่าน้ำ วัดสร้อยทอง ยังสามารถให้อาหารปลาได้


วัดวิมุตยาราม ภายในวัดมีพระอุโบสถที่สวยงามและโดดเด่น สามารถมองเห็นได้ไกลจากอีกฝั่งของแม่น้ำ เจ้าพระยา ส่วนภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานองค์ใหญ่ และมีการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม หากใครมาที่วัดแห่งนี้แล้ว นอกจากจะมาไหว้พระทำ บุญ ก็ยังสามารถมานั่งกินลมชมวิวริมแม่น้ำ เจ้าพระยาได้อีกด้วย วัดแก้วฟ้าจุฬามณี จุดแรก : มีพระวิหาร ซึ่งประดิษฐานองค์พระพุทธศิริไอย์ศวรรค์ และมีองค์พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ หลายองค์ เช่น หลวงเพชร หลวงพ่อพระพุทธโสธรจำ ลอง รูปหล่อสมเด็จโตพรหมรังสี หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำ ทะเลจืดและหลวงพ่อคูณแห่งวัดบ้านไร่ จุดที่สอง : องค์พระราหู ชาวบ้านมักจะขอพรเรื่องมีโชคลาภตลอดปี ร่ำ รวยเงินทอง ปลอดภัยจาก อันตรายทั้งปวง จุดที่สาม : องค์ท้าวเวสสุวรรณ ขอพรเรื่องอำ นาจบารมีหรือโชคลาภร่ำ รวยเงินทอง จุดที่สี่ : พระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และใกล้กันคือองค์พระพิฆเนศ


วัดราชาธิวาสวิหาร จุดเด่นของวัด คือ มีพระอุโบสถที่สวยงาม เป็นทรงขอมคล้าย นครวัด แต่ก็ยังคงรักษาโครงสร้างของพระ อุโบสถเดิมที่สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 3 ไว้ ภายในพระอุโบสถ มีพระสัมพุทธพรรณีเป็นพระประธาน มีเศวตฉัตร 9 ชั้น เบื้องบนพระประธานเป็นภาพ พระพุทธเจ้าอยู่เหนือเมฆกำ ลังตอบปัญหาของพระสารีบุตรและพระอินทร์ ที่ใกล้พระประธานมีรูปศากย กษัตริย์พระประยูรญาติมาเฝ้าอยู่เบื้องหลัง สิ่งที่ทำ ให้ผู้ที่แวะมาเยือนวัดนี้ประทับใจและตื่นตามากที่สุด คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง แสดงเรื่องพระ เวสสันดรชาดกทั้ง 13 กัณฑ์ มีศาลาการเปรียญ อยู่ด้านหน้าวัด ซึ่งสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง และถือเป็นศาลาการเปรียญที่ใหญ่ที่สุดใน ประเทศไทย วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร พระอุโบสถของวัดเทวราชกุญชรมีลักษณะรูปแบบสถาปัตยกรรมที่งดงาม ซึ่งภายในเป็นที่ประดิษฐานของ พระอินทร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อขององค์เทวราชเนรมิตเทพทันใจที่กำ ลังมาแรงและมีผู้ศรัทธาเป็นจำ นวนมาก เชื่อกันว่า หากได้มาขอพรกับองค์เทวราชเนรมิตแล้วก็จะได้รับความสมปรารถนาแบบทันใจ


วัดเทพนารี วัดเทพนารี เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ในแขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันเจ้าอาวาสคือ พระครูปลัดนายกวัฒน์ (กมล ถาวโร) วัดเทพนารีสร้างเมื่อ พ.ศ. 2329 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2335 ชาวมอญสองพี่น้องที่มา พึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเป็นผู้สร้าง โดยผู้พี่สร้าง วัดเทพากร ผู้น้องสร้างวัดเทพนารี เมื่อแรกสร้างน่าจะชื่อ วัดเงิน เพื่อคู่กับวัดทอง ในสมัยพระอุปัชฌาย์ เหมเจ้าอาวาสเรียก วัดบางพลูล่าง ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงแปลงนาม วัดเทพนารีเป็น วัดเทพากรนารี ดังปรากฏในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ 4 ฉบับ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค) วัดบวรมงคลราชวรวิหาร วัดบวรมงคลราชวรวิหารตั้งวัดเมื่อปี พ.ศ. 2300 ได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมา ในปีเดียวกัน เดิมชื่อ วัดลิงขบ เนื่องจากบริเวณรอบวัดเป็นป่า มีฝูงลิงอาศัยอยู่เป็นจำ นวนมาก สร้างโดย ชาวรามัญที่อพยพมา จากเมือง หงสาวดี ในสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้โปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ เป็นผู้บูรณปฏิสังขรณ์วัดนี้ขึ้นใหม่เพื่ออนุเคราะห์แก่ชาวรามัญ มีพระสงฆ์รามัญอยู่มาก และมีพระผู้ใหญ่เป็น ประธานสงฆ์อยู่ด้วย จึงบูรณะให้เป็นวัดส่วนกลางสำ หรับพระสงฆ์รามัญนิกาย ได้พระราชทานนามใหม่ว่า วัดบวรมงคล ต่อมาสถาปนาเป็น พระอารามหลวง เมื่อ พ.ศ. 2352


วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร มี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ที่โดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำ เจ้าพระยา ซึ่งองค์พระปรางค์ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ คือ ฐาน เรือนธาตุ และเรือนยอด โบสถ์น้อย เป็นพระอุโบสถหลังเก่าของวัดอรุณฯ ภายในประดิษฐานพระบรมรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสิน, พระแท่นบรรทม และหลวงพ่อรุ่งมงคล วิหารน้อย หรือวิหารหลังเก่า เป็นที่ประดิษฐาน “พระจุฬามณีเจดีย์” เป็นพระเจดีย์ขนาดใหญ่หล่อด้วย โลหะ มีรูปปั้นท้าวจตุโลกบาลยืนเฝ้าพระเจดีย์อยู่ทั้ง 4 มุม และมี “พระแท่นบรรทม พระบาทสมเด็จ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย” อยู่ด้านในวิหารน้อยด้วย วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร มีพระพุทธมหาชนก พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องที่สวยงามมาก (ทรงเครื่อง ที่ว่าคือ ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ พระพุทธรูปที่เราเห็นทั่วๆ ไป จะห่มจีวร แต่พระพุทธรูปทรงเครื่องต้น ภายในมีทางเดินรอบโบสถ์ มีพระพุทธรูปรายล้อมตลอดทางเดิน มีศาลกรมหลวงรักษรณเรศร ( หม่อมไกรสร ) ที่ถูกสำ เร็จโทษที่ลานวัดแห่งนี้ในข้อหาคิดก่อการกบฏ ที่ลานวัดปทุมคงคา มีศาลกรมหลวงรักษรณเรศร ( หม่อมไกรสร ) ที่ถูกสำ เร็จโทษที่ลานวัดแห่งนี้ในข้อหาคิดก่อการกบฏ ที่ลานวัดปทุมคงคา วัดปทุมคงคา น่าจะเป็นสถานที่ประหารชีวิตแห่งแรกที่เป็นวัดในกรุงเทพฯ


วัดทางทิศใต้


วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร เมื่อเอ่ยถึงวัดระฆังโฆสิตาราม ก็ต้องนึกถึง คือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) พระมหาเถระรูป สำ คัญ ที่ได้รับความเคารพนับถืออย่างมากในประเทศไทย ซึ่งท่านเคยดำ รงตำ แหน่งเจ้าอาวาส วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารในสมัยรัชกาลที่ 4-5 มีพระอุโบสถที่สวยงาม ซึ่งประดิษฐาน หลวงพ่อยิ้มรับฟ้า ภายในอุโบสถยังมีภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังที่มีเรื่องราวของต่างๆ ของพระพุทธเจ้า เป็นภาพจิตรกรรม ที่ได้รับการยกย่องว่าฝีมืองดงามมาก มีชีวิตชีวาอ่อนช้อย มีปูชนียสถานที่สำ คัญ คือ พระปรางค์ วัดระฆัง ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระปรางค์ที่ทำ ถูกแบบแผนที่สุด ในประเทศไทย สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1


วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดไทยที่ผสมผสานกับศิลปะสไตล์จีน สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) ภายในพระวิหารหลวงมีพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่เคารพนับถือคือ “หลวงพ่อโต” หรือ “พระพุทธไตรรัตนนายก” หรือเรียกตามแบบจีนว่า “หลวงพ่อซำ ปอกง” การมาไหว้พระที่วัดนี้มีคติความเชื่อในเรื่องขอให้ “เดินทางปลอดภัย มีมิตรไมตรีที่ดี” มี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ที่โดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำ เจ้าพระยา ซึ่งองค์พระปรางค์ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ คือ ฐาน เรือนธาตุ และเรือนยอด โบสถ์น้อย เป็นพระอุโบสถหลังเก่าของวัดอรุณฯ ภายในประดิษฐานพระบรมรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสิน, พระแท่นบรรทม และหลวงพ่อรุ่งมงคล วิหารน้อย หรือวิหารหลังเก่า เป็นที่ประดิษฐาน “พระจุฬามณีเจดีย์” เป็นพระเจดีย์ขนาดใหญ่หล่อด้วยโลหะ มีรูปปั้นท้าวจตุโลกบาลยืนเฝ้าพระเจดีย์อยู่ทั้ง 4 มุม และมี “พระแท่นบรรทม พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศ หล้านภาลัย” อยู่ด้านในวิหารน้อยด้วย


วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร มีพระพุทธมหาชนก พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องที่สวยงามมาก (ทรงเครื่องที่ว่าคือ ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ พระพุทธรูปที่เราเห็นทั่วๆ ไป จะห่มจีวร แต่พระพุทธรูปทรงเครื่องต้น ภายในมีทางเดินรอบโบสถ์ มีพระพุทธรูปรายล้อมตลอดทางเดิน มีศาลกรมหลวงรักษรณเรศร ( หม่อมไกรสร ) ที่ถูกสำ เร็จโทษที่ลานวัดแห่งนี้ในข้อหาคิดก่อการกบฏ ที่ลานวัดปทุมคงคา มีศาลกรมหลวงรักษรณเรศร ( หม่อมไกรสร ) ที่ถูกสำ เร็จโทษที่ลานวัดแห่งนี้ในข้อหาคิดก่อการกบฏ ที่ลานวัดปทุมคงคา วัดปทุมคงคา น่าจะเป็นสถานที่ประหารชีวิตแห่งแรกที่เป็นวัดในกรุงเทพฯ วัดยานนาวา วัดยานนาวา มีเรือสำ เภาขนาดใหญ่เป็นสัญลักษณ์ภายในวัด รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และ สร้างเรือสำ เภาพระเจดีย์แทนพระสถูปเจดีย์ทั่วไป เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นรูปแบบเรือสำ เภาซึ่งกำ ลังจะ หมดไปจากเมืองไทย สำ หรับการมาไหว้วัดนี้มีคติว่า “การค้าขาย การทูต เจริญรุ่งเรือง”


วัดบุคคโล วัดบุคคโล เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ หลวงพ่อแพ พระพุทธประทานพร พระพุทธชินราช หลวงพ่อพุทธโสธร หลวงพ่อวัดไร่ขิง พระสีวลีมหาลาภ พระสังกัจจายนะ พระพาคุระ และพระพุทธมงคลทศพลมุนี(พระนาคปรก) วัดวรจรรยาวาส พระอุโบสถ สร้างแบบก่ออิฐถือปูน มีช่อฟ้าและใบระกาหน้าบัน ทั้งหน้าและหลังเป็นรูปปูนปั้นปิดทองปาง มารวิชัย บริเวณด้านหน้าในกำ แพงแก้ว มีมณฑป 2 หลัง มณฑปด้านซ้ายประดิษฐานพระพุทธรูปปาง นาคปรก ส่วนมณฑปด้านขวาประดิษฐานพระพุทธรูป ปางห้ามญาติ และ ปางทุกรกิริยา มีพระนอนปางสีหไสยาสน์ “พระพุทธวรมุนีศรีรัตนโกสินทร์” ศาลาการเปรียญ เป็นที่เก็บรักษาบุษบก ที่มีลักษณะและศิลปะลวดลายงดงาม ฝีมือช่างในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีธรรมาสน์รูปทรงปราสาทแกะสลักลวดลายอย่างวิจิตรพิสดาร ธรรมาสน์นี้คาดว่าสร้างขึ้นราวสมัย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ สมเด็จพระเอกาทศรถ


วัดกลางดาวคนอง วัดกลางดาวคนองสร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2420 ในสมัย รัชกาลที่ 5 วัดกลางดาวคนอง ได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมา ประมาณ พ.ศ. 2425 มีวิหารหลวงพ่อทรงงาม ซึ่งประดิษฐานหลวงพ่อทรงงาม เป็นพระพุทธรูปสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น วัดม่วงแค วัดม่วงแคตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2311 ต้นสมัยกรุงธนบุรี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2382 แต่เดิมทางเข้าวัดน่าจะอยู่ทางฝั่งแม่น้ำ แต่เมื่อการตัดถนนเจริญกรุง หน้าวัดจึงหันออกสู่ถนนเจริญกรุง ด้านการศึกษา ทางวัดสนับสนุนให้พระภิกษุสามเณรศึกษาพระปริยัติธรรมจากสำ นักเรียนต่างๆ ภายในวัดประกอบด้วยอาคารเสนาสนะและสิ่งปลูกสร้างดังนี้ อุโบสถกว้าง 10.50 เมตร ยาว 25.50 เมตร ภายในอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ด้านนอกมีกำ แพงแก้วล้อมรอบ กุฏิสงฆ์ จำ นวน 5 หลัง ปูชนียวัตถุมี พระประธาน หน้าตักกว้าง 3 ศอกเศษ มีพระปางปาลิไลยก์ พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร รวมทั้งพระพุทธรูปยืนและนั่งปางต่าง ๆ จำ นวน 20 องค์ เจดีย์ 1 องค์ ฐานโดยรอบ 9.50 เมตร หอระฆังสร้าง พ.ศ 2553


Click to View FlipBook Version