ประวตั ิศาสตร์ไทย
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4-6
กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2
การสร้างองคค์ วามรใู้ หมท่ างประวตั ศิ าสตรไ์ ทย
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
• สรา้ งองค์ความรู้ใหม่ทางประวัตศิ าสตร์โดยใช้วิธกี ารทาง
ประวตั ศิ าสตร์อยา่ งเป็นระบบได้
ความหมาย ความสาคญั และประโยชนข์ องวิธกี ารทางประวตั ศิ าสตร์
ความหมายของ ความสาคญั ของ ประโยชนข์ องวิธกี ารทาง
วิธีการทางประวตั ิศาสตร์ วิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์ ประวัติศาสตร์
วิธีการทางประวัติศาสตร์ เปน็ ทาใหเ้ รอ่ื งราว กจิ กรรม ทาให้เป็นคนละเอยี ดรอบคอบ
วิธีการหรอื ขนั้ ตอน ทใี่ ชใ้ น เหตุการณ์ท่ีเกดิ ขน้ึ ใน มีการตรวจสอบเรอื่ งราวท่ีศึกษา
การศกึ ษาเรอ่ื งราวทาง ประวตั ศิ าสตร์มีความนา่ เช่ือถอื รู้จกั ประเมนิ ความนา่ เช่ือถอื ของ
ประวัตศิ าสตร์ โดยอาศยั จาก มคี วามถกู ตอ้ งเปน็ จรงิ หรอื
หลกั ฐานทเ่ี ป็น ลายลกั ษณอ์ ักษร ใกลเ้ คียงกับความเป็นจรงิ มาก เหตุการณต์ า่ ง ๆ
และไม่เปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษร ท่ีสดุ เพราะมกี ารศกึ ษาอยา่ ง
เพ่ือใหส้ ามารถฟน้ื หรือจาลอง เปน็ ระบบ มขี นั้ ตอน
อดีตข้นึ มาใหมไ่ ดอ้ ย่างถกู ต้อง
นา่ เชือ่ ถือ
ขั้นตอนของวิธีการทางประวัติศาสตร์
01 การกาหนดหัวเรอ่ื งทจ่ี ะศกึ ษา
• เริ่มจากความสงสยั อยากรู้
• หลงั จากนัน้ กาหนดเรื่องหรอื ประเด็นท่ตี ้องการ
ศกึ ษา
• ประเดน็ ทจ่ี ะศึกษาควรกาหนดไวก้ ว้างๆ กอ่ น
แลว้ จากัดประเดน็ ใหแ้ คบลง เพอื่ ความชัดเจน
ในภายหลัง
• การกาหนดหัวเร่ืองอาจเก่ยี วกับเหตกุ ารณ์
ความเจริญ ความเสอื่ มของอาณาจักร ตัวบคุ คล
ในชว่ งเวลาใดเวลาหนงึ่
ขัน้ ตอนของวิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์
02 การรวบรวมหลักฐาน
• เปน็ การรวบรวมหลักฐานทเี่ กย่ี วข้องกับหวั ขอ้ ที่
จะศกึ ษา มที ั้งหลกั ฐานท่เี ปน็ ลายลักษณ์อักษร
และหลักฐานท่ไี ม่เป็นลายลักษณ์-อักษร
หลักฐานช้ันตน้ หรือหลักฐานปฐมภมู ิกบั
หลกั ฐานช้ันรองหรอื หลกั ฐานทุติยภูมิ
ขัน้ ตอนของวธิ กี ารทางประวตั ิศาสตร์ ภาพถา่ ยเหตกุ ารณ์มหา
วิปโยค 14 ตุลาคม พ.ศ.
หลกั ฐานชั้นตน้ 2516 เปน็ หลกั ฐานชน้ั ต้น
• เปน็ หลักฐานร่วมสมัยของผู้ที่เก่ยี วขอ้ งกับ
เหตกุ ารณ์โดยตรง ประกอบดว้ ยหลกั ฐานทาง
ราชการทั้งท่เี ป็นเอกสารลบั เอกสารที่เปิดเผย
กฎหมาย ประกาศ สนุ ทรพจน์ บันทกึ ความ
ทรงจาของผทู้ เ่ี กี่ยวขอ้ งกบั เหตุการณ์ หรอื
อัตชวี ประวัตผิ ทู้ ่ีไดร้ บั ผลกระทบกับเหตกุ ารณ์
การรายงานขา่ วของผู้รู้ ผูเ้ หน็ เหตกุ ารณ์ วดี ิ
ทศั น์ ภาพยนตร์ ภาพถา่ ยเหตุการณ์ทเ่ี กดิ ข้ึน
เป็นตน้
ข้ันตอนของวิธกี ารทางประวัติศาสตร์ สารนพิ นธข์ อง ศ.ดร.
ประเสรฐิ ณ นคร
หลกั ฐานชัน้ รอง เป็นหลกั ฐานช้นั รอง
• หลกั ฐานทีจ่ ัดทาขึ้นโดยอาศยั หลักฐานชน้ั ตน้
หรือโดยบคุ คลที่ไม่ได้เกี่ยวขอ้ ง ไมไ่ ดร้ เู้ หน็
เหตุการณด์ ว้ ยตนเอง แตไ่ ดร้ บั รู้โดยผ่านบคุ คล
อ่ืน เช่น ผลงานของนักประวตั ศิ าสตร์หรือ
หนังสอื ประวัตศิ าสตร์ รายงานของสือ่ มวลชนท่ี
ไม่ได้รู้เห็นเหตกุ ารณ์ดว้ ยตนเอง
ข้ันตอนของวิธีการทางประวัตศิ าสตร์
03 การประเมินคุณคา่ ของหลักฐาน
3.1. การประเมินคุณค่าภายนอกหรือวิพากษ์วิธี
ภายนอก
• ประเมินคุณคา่ จากลกั ษณะภายนอกของ
หลกั ฐาน บางครั้งอาจมกี ารปลอมแปลงเพื่อ
การโฆษณาชวนเช่ือ ทาให้หลงผิด จึงมีการ
ประเมนิ ว่าหลกั ฐานนนั้ เป็นของจรงิ หรือไม่ โดย
พิจารณาจากสง่ิ ที่ปรากฏภายนอก เช่น เนือ้
กระดาษ เป็นตน้
ขัน้ ตอนของวธิ กี ารทางประวตั ิศาสตร์
03 การประเมินคุณค่าของหลักฐาน
3.1.การประเมินคุณค่าภายในหรอื วพิ ากษ์วิธี
ภายใน
• ประเมินคณุ คา่ จากข้อมลู ภายในหลักฐานน้นั
เช่น มชี ่อื บุคคล สถานท่ี เหตุการณ์ ในชว่ งเวลา
ทห่ี ลกั ฐานนน้ั ทาขน้ึ หรอื ไม่ นอกจากน้ี ยงั
สงั เกตได้จากการกล่าวถึงตัวบคุ คล เหตกุ ารณ์
สถานที่ ถ้อยคา เปน็ ต้น
ข้ันตอนของวธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์
04 การวิเคราะห์ สงั เคราะห์ และจัด
หมวดหมขู่ ้อมลู
• ตอ้ งศกึ ษาข้อมลู ในหลักฐานนั้นวา่ ให้ข้อมลู
อะไรบา้ ง มีความสมบูรณเ์ พียงใด มีจดุ มุง่ หมาย
เบอ้ื งตน้ อยา่ งไร เปน็ ต้น
• นาข้อมูลทง้ั หลายมาจัดหมวดหมู่
• เม่ือได้ข้อมูลเปน็ ประเด็นแลว้ ต้องหาความสมั พนั ธ์
ของประเดน็ ตา่ งๆ และตคี วามขอ้ มูล
• ในการวเิ คราะห์ สังเคราะห์ขอ้ มลู ผ้ศู ึกษาควรมี
ความรอบคอบ วางตวั เป็นกลาง
ขั้นตอนของวธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์
05 การเรยี บเรียงหรอื การนาเสนอ
• เปน็ ขนั้ ตอนสดุ ทา้ ยของวธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์
• เปน็ การนาข้อมูลทัง้ หมดมารวบรวม เรยี บเรียง
หรอื นาเสนอให้ตรงกบั ประเดน็ ท่ตี นสงสัยหรือ
อยากรู้
• ควรนาเสนอเหตุการณ์อยา่ งมรี ะบบ ใหม้ คี วาม
สอดคล้องต่อเนอ่ื ง มีความเป็นเหตุเปน็ ผล โดยมี
ข้อมลู สนับสนนุ อยา่ งมีน้าหนกั รวมทั้งสรปุ ผล
การศกึ ษาทสี่ ามารถให้คาตอบในเร่อื งที่สงสัยหรอื
อยากรู้
ลักษณะของหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ไทย
หลกั ฐานทเี่ ปน็ ลายลักษณอ์ ักษร
• จารึกหรือจาร มีหลายลกั ษณะ ท่ีสลกั ลงบนแทง่ หิน
หรอื แผน่ หนิ เรยี ก ศิลาจารึก จารกึ ลงแผน่ ทองคา
เรียก จารกึ ลานทอง จารึกลงแผน่ เงนิ เรียก จารกึ ลาน
เงนิ ท่ีจารลงใบลาน เรยี ก หนงั สอื ใบลาน และยงั มี
การพบจารึกที่ฐานพระพทุ ธรูปอีกดว้ ย ซง่ึ จารึกท่มี ี
อยู่หลายลกั ษณะนนั้ จารกึ บนแท่งหินหรอื ศลิ าจารึกมี
ความคงทนมากทส่ี ุด
จารึกลานทอง พบทีว่ ดั สอ่ งคบ อาเภอเมือง จังหวดั ชยั นาท จารกึ
ดว้ ยอกั ษรขอม - อักษรไทยสมัยอยุธยา พ.ศ. 1951
ลักษณะของหลักฐานทางประวตั ิศาสตรไ์ ทย
หลกั ฐานทเ่ี ปน็ ลายลกั ษณ์อักษร
• พระราชพงศาวดาร ปกพระราชพงศาวดารกรงุ รตั นโกสินทร์ รชั กาลท่ี 2 พระนพิ นธ์
• เป็นการจดบนั ทึกเรื่องราวเกยี่ วกับพระมหากษัตรยิ ์ สมเดจ็ ฯ กรมพระยาดารงราชานุภาพ และปกพระราชพงศาวดาร
• เขยี นลงบนสมุดไทย ฉบับพระราชหตั ถเลขาในรชั กาลท่ี 4 จัดพิมพ์โดยกรมศลิ ปากร
• เรม่ิ เขยี นขึน้ ในสมัยอยุธยาเรือ่ ยมาจนกระท่งั สมยั
รชั กาลที่ 5
• พระราชพงศาวดารฉบับหลวงประเสรฐิ ฯ ถอื เปน็ พระ
ราชพงศาวดารท่ีเก่าแก่ท่สี ุดท่มี ีเหลอื อยจู่ นถงึ ปัจจบุ ัน
ลกั ษณะของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทย
หลักฐานทีเ่ ป็นลายลักษณ์อกั ษร
• ตานาน
• เปน็ การเล่าเร่ืองราวประวัตคิ วามเป็นมาของบุคคล
โบราณสถาน โบราณวัตถสุ ืบทอดกันมา
• เป็นการบอกเล่า จดจา และบนั ทกึ
• จัดวา่ มีคุณคา่ ทางประวตั ิศาสตรน์ อ้ ย เพราะไมท่ ราบวา่
ใครแตง่ แต่งเม่ือใด และมีหลกั ฐานอ้างอิงอย่างไร
ชนิ กาลมาลีปกรณแ์ ละตานานพนื้ เมอื งเชียงใหม่ เป็นตานาน
เก่ยี วกับพระพุทธศาสนาและประวัตศิ าสตร์ลา้ นนา
ลักษณะของหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ไทย
หลกั ฐานทีเ่ ป็นลายลักษณอ์ ักษร เอกสารส่วนบุคคล (จากภาพ) ลายพระราชหตั ถเลขาของ
พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจา้ อยหู่ ัว
• เอกสารสว่ นบคุ คล ทรงพระราชทานแกน่ างแอนนา เลียวโนเวนส์
• เปน็ บนั ทึกส่วนตวั ของผู้ท่เี กี่ยวขอ้ งหรอื ผทู้ ร่ี เู้ หน็
เก่ยี วกบั เหตุการณน์ ั้นๆ
• เชน่ จดหมายเหตพุ ระราชกจิ รายวนั ในรัชกาลท่ี 5
จดหมายเหตุความทรงจาของกรมหลวงนรนิ ทรเทวี
และบันทึกของคณะราษฎรหลายท่านที่เกี่ยวข้องกับ
การเปล่ยี นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เป็นตน้
ลกั ษณะของหลักฐานทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทย
หลักฐานทเี่ ป็นลายลกั ษณ์อักษร
• หนงั สอื ราชการ
• เปน็ เอกสารเกีย่ วขอ้ งกับการบริหารราชการด้านจดั การปกครอง
ที่รัฐมีตอ่ ส่วนกลางและส่วนภมู ิภาค
• มีความสาคญั เพราะเปน็ บันทึกของผ้ทู ่ีเกีย่ วข้องกบั เหตุการณ์
โดยตรง
• ส่วนใหญ่เป็นของสมัยรัตนโกสนิ ทร์ ที่มีมาแต่ครงั้ โบราณไดส้ ูญ
หายเกอื บหมดแลว้
ลักษณะของหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ไทย
หลักฐานทเี่ ป็นลายลักษณ์อักษร
• บนั ทึกของชาวต่างชาติ
• เป็นเอกสารของชาวต่างชาติท่ีเขยี นหรือบนั ทึกเกีย่ วกับเมอื งไทย
• อาจอยู่ในรูปของบันทกึ ประจาวนั การเล่าเรอ่ื ง หรือจดหมายเหตุ
• มีคุณคา่ มากในทางประวัติศาสตร์ โดยบางเรอ่ื งอาจให้ข้อมลู
นอกเหนือจากท่ีมีอยูแ่ ล้ว หรือบางเร่อื งอาจเปน็ การเสริมข้อมูลท่ี
ไทยมอี ยู่ เชน่ จดหมายเหตลุ าลูแบร์ ของซมิ ง เดอ ลาลแู บร์ ราชทตู
ฝร่ังเศส สมัยสมเด็จพระนารายณม์ หาราช จดหมายเหตุลาลแู บร์ ของซิมง เดอ ลา ลแู บร์
ราชทตู ฝร่ังเศสในสมัยอยุธยา
ลกั ษณะของหลักฐานทาง
ประวตั ศิ าสตร์ไทย
หลกั ฐานที่ไมเ่ ป็นลายลกั ษณอ์ ักษร
ส่วนใหญเ่ ป็นหลักฐานประเภทโบราณสถาน โบราณวตั ถุ เช่น โบสถ์ วหิ าร โครงกระดูก
มนุษย์ เครอ่ื งมอื เคร่อื งใช้ต่างๆ ปัจจุบันมีการบนั ทกึ เหตุการณ์ สถานที่ ท้งั ทีเ่ ป็นภาพเสียง
หรือทั้งภาพและเสียง เช่น ภาพถ่าย แถบบนั ทกึ เสยี ง วีดทิ ัศน์ รายงานข่าวของสื่อมวลชน
ประเภทของของหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตรไ์ ทย
• หลกั ฐานทางประวัติศาสตรเ์ ป็นรอ่ งรอยของมนษุ ย์ทหี่ ลงเหลอื อยจู่ ากอดตี หลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์มีทงั้ วตั ถุ เอกสาร
จารกึ โดยแบ่งออกเปน็ 2 ประเภท หลกั ฐานชั้นตน้
• หรอื หลกั ฐานปฐมภมู ิ คอื หลักฐานทเี่ ป็นของรว่ มสมัย เชน่ เอกสารหรอื บันทึกที่เขยี นข้นึ โดยบคุ คลทีเ่ ก่ยี วขอ้ งหรอื รูเ้ ห็น
เหตุการณ์ เชน่ ภาพถ่าย วัตถรุ ว่ มสมยั เชน่ โบราณวตั ถุ เครอื่ งมอื เครอ่ื งใช้ จารกึ ผศู้ ึกษาควรมีความระมัดระวงั เนือ่ งจาก
หลักฐานบางอยา่ งมักจะกลา่ วถงึ แต่เรอื่ งราวในด้านดีหรือไมเ่ ป็นกลาง เพื่อให้เรอื่ งราวมีความน่าเชอื่ ถอื ย่ิงขึน้ จงึ ตอ้ งมกี าร
ตรวจสอบ ประเมนิ หลักฐาน โดยใช้วธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์
หลักฐานช้ันรอง
• หรือหลักฐานทุติยภูมิ คือ หลักฐานที่เขยี นขึ้นภายหลังจากเหตุการณน์ ั้นเกดิ ข้ึน โดยผบู้ นั ทกึ อาจไดย้ ินคาบอกเลา่ ผ่าน
บุคคลอน่ื หรือเปน็ หลักฐานทีเ่ ขียนขึน้ โดยบคุ คลทอ่ี าศัยขอ้ มลู จากหลกั ฐานช้นั ต้น เช่น หนงั สือ งานวิจัย บทความ รวมทงั้
หลักฐานท่ไี ม่เป็นลายลักษณ์อักษร เช่น ภาพยนตร์ ละคร ขา่ วโทรทัศน์
ความสาคัญของของหลกั ฐาน
ทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทย
12 3 4
มคี วามสาคญั ตอ่ การศึกษา หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ หลกั ฐานควรได้รบั เก็บรักษา การใช้หลักฐานของ
ประวตั ิศาสตรไ์ ทยมาก เพราะ สะท้อนให้เห็นโลกทัศน์ ใหด้ ี เพือ่ จะไดน้ ามาศกึ ษา ชาวตา่ งชาติ ผู้ศึกษาควรมี
หลักฐานขอ้ มูลทง้ั หลายทา วัฒนธรรมประเพณี คน้ ควา้ เผยแพร่ตอ่ ไป อันจะ ความระมดั ระวงั เนื่องจาก
หรือเขยี นขึ้นโดยผเู้ กยี่ วขอ้ ง ตลอดจนความเช่อื ของ ช่วยให้ประวตั ิศาสตรไ์ ทยมี
โดยตรง หรอื มคี วามใกล้ชิดกบั คนในสมัยก่อน ความชัดเจน ถูกตอ้ งมากขนึ้ ชาวตา่ งชาติมีพ้นื ฐาน
ความคดิ และวฒั นธรรมที่
เหตุการณห์ รือเร่ืองราว
ทั้งหลายทเี่ กดิ ข้ึน แตกตา่ งจากคนไทย
แหลง่ รวบรวมหลักฐานทางประวัตศิ าสตร์ไทยทีส่ าคัญ
• สานักหอจดหมายเหตแุ หง่ ชาติ
• พพิ ิธภณั ฑสถานแหง่ ชาติ
• หอสมดุ กลางของมหาวทิ ยาลัยต่างๆ
ทวารวดี
“กดไลก์ กดตดิ ตามกันไวไ้ ด้เลยครบั
SOC ไมย่ ากหากมี Trick"
ครูสังคมอมยิม้ เเลกเปลี่ยน เรยี นรู้ เพอ่ื ยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษา
เพจครูสงั คมอมย้มิ