๕๑
ใบงาน ๒
ช่ือ…………………………………..เลขท่ี….. ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๕
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนแผนที่ความคิดนิทานเร่ือง เหตุเกดิ ทแี่ ตงโม
ตอ่ ไปน้ี
ชาวนาต้องการ
ทดสอบปัญญาบตุ ร
เหตุเกดิ
เพราะแตงโม
ไมป่ รากฏชดั เจน
๕๒
ใบงาน ๓
ชื่อ…………………………………..เลขที่….. ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๕
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนวาดภาพประกอบนิทาน เร่ือง เจา้ ชายแตงโม เขียนอธิบายภาพ
แลว้ ระบายสีใหส้ วยงาม
๕๓
เฉลยใบงาน ๑
( อย่ใู นดุลพนิ ิจของครู )
เฉลยใบงาน ๒
ความยตุ ธิ รรม ชาวนา ชาวนาต้องการ
เกิดด้วยสตปิ ัญญา บตุ ร ๒ คน ทดสอบปัญญาบตุ ร
เหตุเกดิ ไมป่ รากฏ
เพราะแตงโม
ไมป่ รากฏ
ชาวนาต้องการทดสอบปัญญาของ
บตุ รจงึ ให้แบง่ แตงโม โดยบตุ ร
ตกลงกนั ว่าผ้ทู ี่เป็นคนผา่ แตง่ โมต้อง
ได้เลือกที่หลงั เพ่ือไมใ่ ห้ผา่ ลาเอียง
เฉลยใบงาน ๓
( อยู่ในดุลพนิ ิจของครู )
แผนการจัดการเรียนรู้ ๕๔
กล่มุ สาระ การเรียนรู้ ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๕
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๕ เร่ือง ประชาธิปไตยใบกลาง เวลา ๖ ช่ัวโมง
แผนการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง รู้เฟื่ องเรื่อง การโน้มน้าวใจ เวลา ๑ ชั่วโมง
สอนวนั ท…ี่ ……….เดือน……………………….พ.ศ. ……………
มาตรฐานการเรียนรู้
ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปตดั สินใจแกป้ ัญหาในการ
ดาเนิน ชีวติ และมีนิสัยรักการอา่ น
ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณและพดู แสดงความรู้ ความคิด และ
ความรู้สึกในโอกาสตา่ งๆอยา่ งมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์
ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลงั ของ
ภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ
ตวั ชี้วดั
ท ๑.๑ ป.๕/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง
ท ๑.๑ ป.๕/๔ แยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน
ท ๑.๑ ป.๕/๕ วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองที่อา่ นเพื่อนาไปใชใ้ นการดาเนิน
ชีวติ
ท ๓.๑ ป.๕/๔ พูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นท่ีศึกษาคน้ ควา้ จากการฟัง การดู และการสนทนา
ท ๓.๑ ป.๕/๕ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู
สาระสาคัญ
คาพูดหรืองานเขียนประเภทโนม้ นา้ วใจ เป็นการโฆษณาหรือประชาสัมพนั ธ์เพอ่ื เชิญชวน
จูงใจใหผ้ ฟู้ ังหรือผูอ้ า่ นเช่ือถือ เห็นคลอ้ ยตาม หรือยินดีปฏิบตั ิตาม
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
๕๕
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. มีวนิ ยั
๒. ใฝ่ เรียนรู้
๓. มุ่งมน่ั ในการทางาน
๔. รักความเป็ นไทย
๕. มีจิตสาธารณะ
๖. รักความเป็ นไทย
สาระการเรียนรู้
-บทเรียนเร่ือง “ประชาธิปไตยใบกลาง”
-คาพดู หรืองานเขียนประเภทโนม้ นา้ วใจ
กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. ใหน้ กั เรียนดูซีดีการโฆษณา หรือครูนาแผน่ โฆษณามาใหน้ กั เรียนอา่ นแลว้ สนทนาถึง
วธิ ีการโฆษณา วา่ มีลกั ษณะอยา่ งไร
๒. ครูอธิบายถึง คาพดู หรืองานเขียนประเภทโนม้ นา้ วใจ โดยยกตวั อยา่ งจากซีดีการโฆษณา
หรือครูนาแผน่ โฆษณา
๓. นกั เรียนอา่ นใบความรู้เร่ือง ซีดีการโฆษณา หรือครูนาแผน่ โฆษณา
๔. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงาน ดงั ตอ่ ไปน้ี
แยกขอ้ เทจ็ จริงจากขอ้ คิดเห็น
๕. ใหน้ กั เรียนทาใบงาน แลว้ ออกมานาเสนอผลงาน
๖. ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ
๗. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปรวบรวมขอ้ ความจากการโฆษณาหาเสียงหรือโฆษณาสินคา้
หรือบริการคนละ ๕ ขอ้ ความ จดั ทาเป็นรูปเล่มแลว้ ส่งครู
ส่ือ / แหล่งการเรียนรู้
๑. ใบงานทกั ษะทางภาษา ชุด ภาษาเพ่อื ชีวติ
๒. แบบเรียนภาษาพาที ชุด ภาษาเพ่ือชีวติ
๓. ใบงาน
กระบวนการวดั ผลและประเมินผล
๑.วธิ ีการ
๑.๑ สงั เกต
๕๖
๑.๑.๑ การฟัง การพดู
๑.๑.๒ การอา่ น
๑.๑.๓ การตอบคาถาม
๑.๑.๔ การรายงาน
๑.๑.๕ การร่วมกิจกรรม
๑.๒ ตรวจผลงาน
๑.๒.๑ ใบงาน
๑.๒.๒ แบบฝึกหดั
๑.๒.๓ แบบทดสอบก่อนการเรียนรู้
๒.เคร่ืองมือการวดั และประเมินผล
๒.๑ ใบงาน
๒.๒ แบบทดสอบก่อนการเรียนรู้
๒.๓ แบบสงั เกตพฤติกรรมและผลงานระหวา่ งเรียน
๒.๔ แบบประเมินผลงาน
๒.๕ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๓.เกณฑ์การวดั ผลและประเมนิ ผล
ใชก้ ารผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๗๐ ข้ึนไป
บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
ผลการจัดการเรียนรู้ตามตวั ชี้วดั
จานวนนกั เรียนท้งั หมด ......... คน
– ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ดี ........คน คิดเป็นร้อยละ ....................
– ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ปานกลาง .......คน คิดเป็ นร้อยละ ..........
– ไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ปรับปรุง .......คน คิดเป็นร้อยละ ..........
กจิ กรรมเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………….…
ความเหน็ ของผู้อานวยการโรงเรียน
……………………………………………………………………………………………………….…
….............................................................................................................................................................
ลงช่ือ...............................................
(นายธราเทพ แกว้ เกาะสะบา้ )
ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
............./......................../..............
๕๗
บนั ทกึ ผลหลงั กระบวนการจัดการเรียนรู้
ผลการเรียนรู้ท่ีเกิดข้ึนกบั ผูเ้ รียน
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
…………………….................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
ปัญหา / อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
ลงชื่อ ……………………………….…ผสู้ อน
(นางสาวอภิชญา ญาดาพชั ร์)
ตาแหน่ง ครู โรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
….…../…………./………….
๕๘
ใบความรู้
เรื่อง การฟังและการอ่านงานเขียนประเภทโน้มน้าวใจ
คาพดู หรืองานเขียนประเภทโนม้ นา้ วใจ เป็นการโฆษณาหรือประชาสมั พนั ธ์เพือ่ เชิญชวน
จูงใจใหผ้ ฟู้ ังหรือผอู้ า่ นเช่ือถือ เห็นคลอ้ ยตาม หรือยินดีปฏิบตั ิตาม มกั ปรากฏในหนงั สือพิมพ์
นิตยสาร วารสาร วทิ ยุ โทรทศั น์ ตลอดจนการพูดในท่ีประชุมชนต่าง ๆ
ผฟู้ ังหรือผอู้ ่าน ควรปฏิบตั ิดงั น้ี
๑. พจิ ารณาขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็น
๒. หาขอ้ มูลประกอบการตดั สินใจ
๓. พจิ ารณาความน่าเช่ือถือ
๔. พจิ ารณาวา่ ใครหรือกลุ่มใดท่ีจะไดร้ ับประโยชน์
ตวั อย่าง
สวสั ดีเพ่ือน ๆ และนอ้ ง ๆ ทุกคน
กระผม นาทาง วิถีไทย ผูส้ มคั รประธานนกั เรียน หมายเลข ๑ ขออาสามารับใชเ้ พ่ือน ๆ
นอ้ งครับ ผมมีความมน่ั ใจที่จะนาทางท่ีดีมาสู่พวกเราทุกคน เพราะผมช่ือ นาทาง อยแู่ ลว้ ครับ
ผมมีโครงการท่ีจะพฒั นาโรงเรียนของเรา ให้มีสนามกีฬาชุมชน เพ่ือส่งเสริมสุขภาพกาย
สุขภาพจิตท่ีดีแก่พวกเราเยาวชนและทุกคนในชุมชน ผมจะติดต่อผฝู้ ึ กสอนจากศูนยก์ ีฬาจงั หวดั และ
คดั เลือกผมู้ ีทกั ษะทางกีฬามุงสู่โอลิมปิ ก นาชื่อเสียงมาสู่โรงเรียน สู่ชุมชนและประเทศของเรา
โครงการของผมจะเป็ นจริงได้ ถา้ เพ่อื น ๆ นอ้ ง ๆ ช่วยกนั เลือกเบอร์ ๑ จาง่าย กาง่ายครับ
เบอร์ ๑ ไม่ผดิ หวงั ครับ
พจิ ารณาขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็น
ขอ้ เทจ็ จริง ขอ้ คิดเห็น
นาทาง วถิ ีไทย ผสู้ มคั รประธานนกั เรียน - มน่ั ใจท่ีจะนาทางที่ดีมาสู่โรงเรียน
หมายเลข ๑ - จดั โครงการพฒั นาโรงเรียนมีสนามกีฬาชุมชน
- ติดต่อขอผฝู้ ึกสอนจากศูนยก์ ีฬาจงั หวดั
- คดั เลือกผมู้ ีทกั ษะทางกีฬามุง่ สู่โอลิมปิ ก
- โครงการจะเป็ นจริงไดถ้ า้ ช่วยกนั เลือกเบอร์ ๑
๕๙
หาข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
ถา้ จะทากีฬาชุมชน ครู นกั เรียนและประชาชนในชุมชนสนใจการออกกาลงั กาย
หรือเล่นกีฬาหรือไม่
ในชุมชนมีผทู้ ่ีสามารถสนบั สนุนดา้ นน้ีหรือไม่
มีเครื่องมือ อุปกรณ์กีฬาตา่ ง ๆ ที่พอจดั หาไดห้ รือไม่ ฯลฯ
พจิ ารณาความน่าเช่ือถือ
โครงการท่ีทาค่อนขา้ งเป็ นเรื่องที่ตอ้ งใชค้ วามร่วมมือจากคนหลายประเภท ไม่แน่ใจวา่ จะทา
ได้ แตถ่ า้ โรงเรียนเป็นผดู้ าเนินการเองอาจเป็นไปได้
พจิ ารณาว่าใครหรือกลุ่มใดทจี่ ะได้รับประโยชน์
ถา้ ไดร้ ับเลือกเป็ นประธานสภานกั เรียน และสามารถทาโครงการไดจ้ ริง น่าจะมีประโยชน์
ตอ่ ทุกคน
๖๐
คาชี้แจง ใบงาน
ช่ือ………………………………………เลขท…่ี . ..ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๕
นกั เรียนดูบทโฆษณาแลว้ ตอบคาถาม
คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
๑. บทโฆษณาท่ียกมาใหอ้ ่าน ผเู้ ขียนมีจุดมุ่งหมายอยา่ งไร
.......................................................................................................................................
๒. บทโฆษณาน้ีตอ้ งการสื่อถึงใคร ในเร่ืองอะไร
.......................................................................................................................................
๓. บทโฆษณาท่ียกมาใหอ้ ่านมีความน่าเช่ือถือหรือไม่ เพราะอะไร
.......................................................................................................................................
๔. “ คอกรักษอ์ านไทยสุนขั ประจาชาติ ” นกั เรียนเห็นดว้ ยกบั คาพูดน้ีหรือไม่ เพราะ
เหตุใด
.......................................................................................................................................
๕. สานวนโฆษณาน้ีมีภาษาที่มีส่วนบกพร่องคืออะไร ควรปรับปรุงอยา่ งไร
.......................................................................................................................................
๖. บทโฆษณาน้ีมีจุดเด่นอยา่ งไรและจุดขายของสินคา้ อยทู่ ี่ใด
.......................................................................................................................................
๖๑
ใบงาน
ชื่อ………………………………………เลขท…ี่ . ..ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๕
คาชี้แจง นกั เรียนอา่ นบทความแลว้ ตอบคาถามพจิ ารณาขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็น
ลดความอ้วนอย่างไรจึงปลอดภยั
ภญ. รศ.ดร. วนั ดี กฤษณพนั ธ์
ปัจจุบนั มีคนจานวนมากพยายามลดความอว้ น ซ่ึงเห็นไดจ้ ากธุรกิจลดน้าหนกั ไมว่ า่ จะ
เป็นสถานบริการลดน้าหนกั ผลิตภณั ฑค์ วบคุมน้าหนกั ซ่ึงโฆษณาตามส่ือต่าง ๆ และขายอยทู่ วั่ ไป
ท้งั น้ีแต่ละคนมีเหตุผลในการลดน้าหนกั ที่แตกตา่ งกนั ไป บา้ งตอ้ งการใหร้ ูปร่างดีเพื่อความคล่องตวั
และหาเส้ือผา้ ง่ายตอ้ งการเรียกความมนั่ ใจของตวั เองกลบั คืนมาและอีกเหตุผลท่ีสาคญั คือ ห่วงสุขภาพ
อนามยั ของตวั เอง
คนส่วนใหญ่เริ่มรู้วา่ ความอว้ นน้นั ก่อให้เกิดโรคไดส้ ารพดั ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพทาให้
ไขมนั อุดตนั ท่ีผนงั หลอดเลือด ซ่ึงนาไปสู่โรคหวั ใจ เบาหวาน อมั พาต และทาใหค้ วามดนั โลหิต
สูงข้ึนเป็นโรคนิ่วในถุงน้าดีโรคไขขอ้ โดยเฉพาะขอ้ เขา่ ขอ้ เทา้ และที่ตวั เทา้ เพราะขอ้ เหล่าน้ีจะตอ้ ง
รับน้าหนกั มากกวา่ ปกติ ความอว้ นทาใหข้ าดความคล่องตวั อาจเกิดอุบตั ิเหตุไดง้ ่ายและมกั จะรุนแรง
การลดความอว้ นจะทาไดง้ ่ายก็ง่าย จะวา่ ยากกย็ ากข้ึนอยกู่ บั ความต้งั ใจและความมุง่ มน่ั
ท่ีสาคญั เมื่อลดน้าหนกั ไดแ้ ลว้ ตอ้ งพยายามรักษาน้าหนกั ใหอ้ ยใู่ นเกณฑโ์ ดยตลอด
การลดความอว้ นที่ปลอดภยั และไมเ่ ป็นอนั ตรายต่อสุขภาพ ควรลดอยา่ งชา้ ๆ
พยายามใหร้ ่างกายไดร้ ับอาหารที่มีแคลอรี่นอ้ ยกวา่ จานวนพลงั งานที่ร่างกายตอ้ งใชไ้ ปในแตล่ ะวนั
กล่าวคือ กินอาหารใหน้ อ้ ยลงกวา่ ปกติและออกกาลงั กายใหม้ ากข้ึน เพื่อร่างกายจะไดน้ าพลงั งาน
สะสมมาใชท้ ดแทน กินอาหารที่มีไขมนั แป้ง น้าตาล และน้าอดั ลมใหน้ อ้ ยลง ควรหมนั่ กินผกั
ผลไมท้ ่ีรสไม่หวานและมีเส้นใยมาก เช่น คะนา้ หวั บุก ส้ม เป็นตน้ เส้นใยเหล่าน้ีจะช่วยลดการดูด
ซึมของไขมนั และน้าตาล และช่วยใหก้ ารขบั ถ่ายดีข้ึน เป็ นอาหารท่ีเหมะสาหรับผทู้ ี่ตอ้ งการควบคุม
น้าหนกั เพราะมีแคลอรี ต่า ช่วยลดความอว้ นไดอ้ ยา่ งปลอดภยั และไมเ่ ป็นอนั ตรายต่อสุขภาพ
หากยงั ไม่ไดผ้ ลควรปรึกษาแพทย์
( มติชนฉบับวนั จันทร์ที่ ๑๕ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๔๖ หน้า ๑๓ )
๖๒
ใหพ้ จิ ารณาขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็น ขอ้ คิดเห็น
ขอ้ เทจ็ จริง
๖๓
คาชี้แจง เฉลยใบงาน ๑
ช่ือ………………………………………เลขท…ี่ . ..ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๕
นกั เรียนดูบทโฆษณาแลว้ ตอบคาถาม
๑. บทโฆษณาท่ียกมาใหอ้ า่ น ผเู้ ขียนมีจุดมุ่งหมายอยา่ งไร
ตอ้ งการขายสินคา้
๒. บทโฆษณาน้ีตอ้ งการสื่อถึงใคร ในเรื่องอะไร
คนทว่ั ไป ขายสุนขั ไทยพนั ธุ์หลงั อาน
๓. บทโฆษณาที่ยกมาใหอ้ ่านมีความน่าเช่ือถือหรือไม่ เพราะอะไร
ไม่น่าเชื่อถือ เพราะใชภ้ าษาไมช่ ดั เจน
๔. “ คอกรักษอ์ านไทยสุนขั ประจาชาติ ” นกั เรียนเห็นดว้ ยกบั คาพดู น้ีหรือไม่ เพราะเหตุใด
ไมเ่ ห็นดว้ ย เพราะใชภ้ าษาสูงเกินไป เช่น ประจาชาติ
๕. สานวนโฆษณาน้ีมีภาษาท่ีมีส่วนบกพร่องคืออะไร ควรปรับปรุงอยา่ งไร
ใชภ้ าษายงั ไม่ครอบคลุม เช่น พร้อมเปิ ดรับผสม. ติดต่อคุณวชั ร์...
๖. บทโฆษณาน้ีมีจุดเด่นอยา่ งไรและจุดขายของสินคา้ อยูท่ ี่ใด
ใชภ้ าษาท่ีมีภาษาสูง เช่น สุนขั ประจาชาติ และมีรูปสุนขั ใหญ่ชดั เจน
เฉลยใบงาน ๒
ชื่อ………………………………………เลขท…่ี . ..ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๕
อยู่ในดุลพนิ ิจของครู
๖๔
แบบประเมินพฤติกรรมและผลงานระหว่างเรียน
ความหมาย
๑. ต้งั ใจ หมายถึง ความมานะ อดทนทางานจนเสร็จ ( A )
๒. ความร่วมมือ หมายถึง สมาชิกในกลุ่มใหค้ วามร่วมมือทางานจนเสร็จ ( A )
๓. ความมีวินยั หมายถึง ผลงาน หรือการทางานเป็ นระบบระเบียบเรียบร้อย สะอาด
สวยงาม และไดเ้ น้ือหาครบถว้ น ทนั หรือตรงตอ่ เวลา ( A,K )
๔. คุณภาพของผลงาน หมายถึง ผลงานเรียบร้อย สวยงาม เน้ือหาครบถว้ น ภาษาท่ี
ใชเ้ หมาะสม (P – Product, K)
๕. การนาเสนอผลงาน หมายถึง การพูดอธิบายนาเสนอผลงานไดต้ ามลาดบั และ
เน้ือหาถูกตอ้ ง ( P – Process, K )
เกณฑ์การประเมิน
๔ หมายถึง ทาไดด้ ีมาก ๓ หมายถึง ทาไดด้ ี
๒ หมายถึง ทาไดพ้ อใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง
ชื่อ-สกลุ ความต้งั ใจ ความร่วมมือ ความมีวนิ ยั คุณภาพของ การนาเสนอ รวม
(๔) (๔) (๔) ผลงาน (๔) ผลงาน (๔) (๒๐)
เด็กหญงิ วราภรณ์ หดั เอยี ด
เดก็ หญงิ ภัคจริ า เต๊ะยอ่
เดก็ ชายธรี กร แกว้ จติ ตะ
เดก็ หญิงอนศุ รา แกว้ นพรัตน์
เด็กชายซาอดุ ี ราชการ
เด็กชายธนวัฒ บินดุเหลม็
เด็กชายศรณั ละซอ
เด็กชายฮสั ซาน ติเอยี ดยอ่
เด็กชายอจั ฉริยะ เมาะสนิ
เด็กหญงิ อจั ฉารีญา เมาะสนิ
เด็กหญงิ นชิ านันท์ ดารากยั
เดก็ หญงิ นสิ รีน หมี เกะ
เด็กหญงิ อสั มา แวยาเง๊าะ
เดก็ หญิงขวญั จริ า ติเอียดย่อ
เด็กชายพายุ สวุ รรณโณ
เด็กชายสิทธโิ ชค สุวรรณโน
๖๕
แบบประเมนิ ชิ้นงาน
รายช่ือสมาชิกกลุ่ม
๑…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน…………..
๒…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน…………..
๓…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน…………..
๔…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน…………..
๕…………………………………….เลขท…ี่ …………ช้ัน…………..
๖.…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน………….
ชิ้นงานเรื่อง……………………..
เกณฑ์การประเมิน คะแนน คะแนนทไี่ ด้
๑๒๓๔๕
๑. รูปแบบถูกตอ้ ง
๒. จดั รูปแบบน่าสนใจ สวยงาม
๓. ความครบถว้ นในเน้ือหาสาระท่ีเสนอ
๔. การใชค้ าเหมาะสม
๕. การสะกดคาถูกตอ้ ง
ลงช่ือ ผปู้ ระเมิน
(นางสาวอภิชญา ญาดาพชั ร์)
ตาแหน่ง ครู โรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
๖๖
เกณฑ์การให้คะแนนกระบวนการทางานกลุ่ม
ประเด็นการประเมิน ๓ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน / ระดบั
๑. การกาหนด – สมาชิกทุกคนมีส่วน ๒๑
เป้าหมายร่วมกนั ร่วมในการกาหนด
เป้าหมายการทางาน สมาชิกส่วนใหญม่ ี สมาชิกส่วนนอ้ ยมี
๒. การแบ่งหนา้ ที่ อยา่ งชดั เจน ส่วนร่วมในการ ส่วนร่วมในการกาหนด
รับผดิ ชอบ กระจายงานไดอ้ ยา่ ง กาหนดเป้าหมายใน เป้าหมายในการทางาน
ทว่ั ถึงและตรงตาม การทางาน
๓. การปฏิบตั ิหนา้ ที่ ความสามารถของ กระจายงานไดท้ ว่ั ถึง กระจายงานไม่ทวั่ ถึง
ที่ไดร้ ับมอบหมาย สมาชิกทุกคน แต่ไม่ตรงตาม
ทางานไดส้ าเร็จตาม ความสามารถของ
๔. การประเมินและ เป้าหมายท่ีไดร้ ับ สมาชิก
ปรับปรุงผลงาน มอบหมาย ตาม ทางานไดส้ าเร็จตาม ทางานไมส่ าเร็จตาม
ระยะเวลาที่กาหนด เป้าหมายแต่ชา้ กวา่ เป้าหมาย
สมาชิกทุกคนร่วม เวลาท่ีกาหนด
ปรึกษาหารือ ติดตาม
ตรวจสอบและ สมาชิกบางส่วนมี สมาชิกบางส่วนไมม่ ีส่วน
ปรับปรุ งผลงานเป็ น ส่วนร่วมปรึกษาหารือ ร่วมปรึกษาหารือและไม่
ระยะ แต่ไม่ช่วยปรับปรุง ช่วยปรับปรุงผลงาน
ผลงาน
แบบประเมนิ กระบวนการทางานกล่มุ ๖๗
ที่ รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คิดเห็น
๓๒๑
๑. การกาหนดเป้าหมายร่วมกนั
๒. การแบ่งหนา้ ที่รับผดิ ชอบ
๓. การปฏิบตั ิตามหนา้ ท่ีที่ไดร้ ับมอบหมาย
๔. การประเมินและปรับปรุงผลงาน
รวม
ลงชื่อ ผปู้ ระเมิน
(นางสาวอภิชญา ญาดาพชั ร์)
ตาแหน่ง ครู โรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
เกณฑก์ ารประเมิน
๑๑ – ๑๒ = ดีมาก
๘ – ๑๐ = ดี
๕ – ๗ = พอใช้
๐ – ๔ = ปรับปรุง
๖๘
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๕.๖
กลุ่มสาระ การเรียนรู้ ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๕
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ เร่ือง ประชาธิปไตยใบกลาง เวลา ๖ ช่ัวโมง
แผนการเรียนรู้ที่ ๖ เรื่อง อ่านคิดสังเคราะห์เรื่อง เวลา ๑ ชั่วโมง
สอนวนั ท.่ี ...................เดือน..................พ.ศ.....................
มาตรฐานการเรียนรู้
ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปตดั สินใจแกป้ ัญหาในการ
ดาเนิน ชีวติ และมีนิสยั รักการอา่ น
ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียน เขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และ
เขียนเร่ืองราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศ และรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมี
ประสิทธิภาพ
ตัวชี้วดั
ท ๑.๑ ป.๕/๕ วเิ คราะห์และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องท่ีอ่านเพ่ือนาไปใชใ้ นการดาเนิน
ชีวติ
ท ๒.๑ ป.๕/๒ เขียนส่ือสารโดยใชค้ าไดถ้ ูกตอ้ งชดั เจน และเหมาะสม
ท ๒.๑ ป.๕/๔ เขียนยอ่ ความจากเร่ืองที่อ่าน
ท ๒.๑ ป.๕/๙ มีมารยาทในการเขียน
สาระสาคญั
การยอ่ ความคือ การเกบ็ เน้ือความหรือใจความสาคญั ของเรื่องแลว้ นามาเรียบเรียงใหม่
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. ซ่ือสัตยส์ ุจริต
๒. มีวนิ ยั
๓. ใฝ่ เรียนรู้
๔. มุ่งมนั่ ในการทางาน
๖๙
๕. รักความเป็ นไทย
สาระการเรียนรู้
บทเรียนเรื่อง “ประชาธิปไตยใบกลาง” แสดงความคิดเห็นเชิงวเิ คราะห์และประเมินค่า
กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. ครูเล่านิทานเร่ือง กบเลือกนาย แลว้ ใหน้ กั เรียนอาสาสมคั รอกมาแสดงบทบาท
สมมุติตามเรื่องที่ครูเล่า จากน้นั ครูถามนกั เรียนวา่ เรื่องน้ีมีเรื่องยอ่ วา่ อยา่ งไรใหน้ กั เรียนตอบแบบ
ลองผดิ ลองถูก จากน้นั ครูอธิบายคาจากดั ความของการเขียนยอ่ ความ
๒. ครูใหน้ กั เรียนศึกษาวธิ ีการเขียนยอ่ ความจากใบความรู้ แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ยอ่
ความอีกคร้ังหน่ึง โดยใหน้ กั เรียนยกมือตอบทีละคน ครูเขียนบนกระดาน และปรับแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ ง
๓. ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปความรู้เร่ือง การเขียนยอ่ ความ ดงั น้ี
๓.๑ การเขียนยอ่ ความ หมายถึง การเกบ็ ใจความสาคญั ของเรื่องใดเรื่องหน่ึงจาก
การอ่าน แลว้ นามาเขียนเรียบเรียงใหม่ดว้ ยสานวนของตนเอง
๓.๒ วธิ ีการเขียนยอ่ ความ ทาได้ ดงั น้ี
– อ่านเร่ืองให้จบ เพ่ือใหท้ ราบวา่ เรื่องน้นั กล่าวถึงใคร ทาอะไร ที่ไหน
อยา่ งไร เม่ือไร และผลเป็นอยา่ งไร
–บนั ทึกใจความสาคญั ของเร่ืองที่อา่ น แลว้ นามาเขียนเรียบเรียงใหมด่ ว้ ยสานวน
ของตนเอง
–อ่านทบทวนใจความสาคญั แลว้ แกไ้ ขใหส้ มบูรณ์
–เขียนยอ่ ความใหส้ มบูรณ์
–การเขียนยอ่ ความไม่นิยมใชส้ รรพนามบุรุษท่ี ๑ และ ๒ แตจ่ ะใชส้ รรพนาม
บุรุษท่ี ๓ เทา่ น้นั
๔. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นบทความที่กาหนดให้ แลว้ เขียนยอ่ ความใหถ้ ูกตอ้ งตามรูปแบบ
การเขียนยอ่ ความ ลงในแบบฝึกที่ ๑ การเขียนยอ่ ความ แลว้ นาเสนอผลงาน
ท่ีหนา้ ช้นั
๕.ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายถึงการสรุปความ หรือการสรุปใจความสาคญั ของเรื่อง
๖.ครูอธิบายเร่ือง การสรุปความเกี่ยวกบั คาจากดั ความ และวธิ ีสรุปความ
๗.ครูให้นกั เรียนอ่านเร่ือง กาเนิดมะตะโท (หนา้ ๕๖ – ๖๑) แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั สรุป
โดยยกมือตอบ แลว้ ครูเขียนสรุปบนกระดาน และช่วยแนะนาแกไ้ ข
๘.ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปความรู้เรื่อง การสรุปความ ดงั น้ี
๗๐
–การสรุปความ เป็ นการสรุปเรื่องราวจากการฟังหรือการอ่าน ซ่ึงผฟู้ ังหรือผอู้ ่าน
จะตอ้ งจบั ใจความและสรุปใจความสาคญั ของเรื่อง เพอ่ื จะเป็นพ้ืนฐานของการพูด หรือการเขียนสรุป
ความต่อไป
–หลกั ในการสรุปความ คือ
–มีสมาธิ และความต้งั ใจในการอ่าน และฟัง
–ต้งั คาถามเก่ียวกบั ใจความสาคญั คือ ใคร ทาอะไร ท่ีไหน เมื่อไร อยา่ งไร และผล
เป็นอยา่ งไร แลว้ จดบนั ทึกไว้
–เรียบเรียงใจความสาคญั ของเร่ือง และสรุปเป็นขอ้ ความส้ัน ๆ ใหไ้ ดใ้ จความ
๙. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นบทร้อยกรองที่กาหนดให้ และตอบคาถาม ลงในแบบฝึกที่ ๒
แลว้ นาเสนอผลงานที่หนา้ ช้นั
๑๐. ตวั แทนออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน
ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
๑. ใบงาน
๒. ใบความรู้
๓. นิทาน
กระบวนการวดั ผลและประเมินผล
๑.วธิ ีการ
๑.๑ สังเกต
๑.๑.๑ การฟัง การพูด
๑.๑.๒ การอ่าน
๑.๑.๓ การตอบคาถาม
๑.๑.๔ การรายงาน
๑.๑.๕ การร่วมกิจกรรม
๑.๒ ตรวจผลงาน
๑.๒.๑ ใบงาน
๑.๒.๒ แบบฝึกหดั
๑.๒.๓ แบบทดสอบก่อนการเรียนรู้
๒.เครื่องมือการวดั และประเมนิ ผล
๒.๑ ใบงาน
๒.๒ แบบทดสอบก่อนการเรียนรู้
๗๑
๒.๓ แบบสงั เกตพฤติกรรมและผลงานระหวา่ งเรียน
๒.๔ แบบประเมินผลงาน
๒.๕ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๓.เกณฑ์การวดั ผลและประเมินผล
ใชก้ ารผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๗๐ ข้ึนไป
บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
ผลการจัดการเรียนรู้ตามตวั ชี้วดั
จานวนนกั เรียนท้งั หมด ......... คน
– ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ดี ........คน คิดเป็นร้อยละ ....................
– ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ปานกลาง .......คน คิดเป็ นร้อยละ ..........
– ไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ปรับปรุง .......คน คิดเป็นร้อยละ ..........
กจิ กรรมเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………….…
…. . . ……………………………………………………………………………………………………
….……...………………………………………………………………………………………………
……….……............................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
ความเห็นของผ้อู านวยการโรงเรียน
……………………………………………………………………………………………………….…
….............................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
.....................……………………………………………………………………………………………
………….……........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(นายธราเทพ แกว้ เกาะสะบา้ )
ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
............./......................../..............
๗๒
บนั ทกึ ผลหลงั กระบวนการจัดการเรียนรู้
ผลการเรียนรู้ท่ีเกิดข้ึนกบั ผูเ้ รียน
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
…………………….................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
ปัญหา / อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
ลงชื่อ ……………………………….…ผสู้ อน
(นางสาวอภิชญา ญาดาพชั ร์)
ตาแหน่ง ครู โรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
….…../…………./………….
๗๓
ใบความรู้
เรื่อง การเขยี นย่อความ
การเขยี นย่อความ คือ การเขียนจบั ใจความสาคญั จากการอา่ นหรือการฟังดว้ ยสานวน
ของผเู้ ขียนเอง โดยจะตอ้ งเขียนใหถ้ ูกตอ้ งตามรูปแบบของการยอ่ ความ
การเขียนยอ่ ความท่ีดีน้นั ผเู้ ขียนจะตอ้ งเขา้ ใจเรื่องท่ีอ่านหรือฟังแลว้ จบั ใจความสาคญั
ใหไ้ ด้ จากน้นั จึงนาใจความสาคญั มาเขียนเรียบเรียงใหม่ ดว้ ยถอ้ ยคาที่สละสลวย
วธิ ีการเขียนยอ่ ความ มีข้นั ตอนดงั ต่อไปน้ี
๑. อ่านเรื่องที่จะขอ่ ดว้ ยวธิ ีการอา่ นเพ่ือพฒั นาความเขา้ ใจในการอา่ น
๒. บนั ทึกใจความสาคญั ดว้ ยสานวนภาษาของผเู้ ขียน
๓. นาใจความสาคญั มาเขียนเรียบเรียงใหม่ โดยไมใ่ ชส้ รรพนามบุรุษท่ี ๑และบุรุษที่ ๒
แต่ใชส้ รรพนามบุรุษท่ี ๓ เช่น เขา เธอ
๔. แกไ้ ขปรับปรุงสิ่งที่เขียนใหส้ มบูรณ์อีกคร้ัง
๕. เขียนข้ึนตน้ ตามรูปแบบของยอ่ ความ เพือ่ ให้รู้ที่มาของเร่ืองท่ีนามายอ่ แลว้ จึงมายอ่
ความใหส้ มบูรณ์
๗๔
รูปแบบของการเขยี นย่อความ
ยอ่ นิทานเรื่อง…………………………….ผแู้ ต่ง……………………………
จากหนงั สือ…………………………………………………………………………
ความวา่ ……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………..
ยอ่ ขา่ วเรื่อง…………………………….จาก….……………………………
ความวา่ ……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………..
ยอ่ บทความเร่ือง…………………………………ของ…………………….
จาก………………………………………………………………………………..
ความวา่ …………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………..
การเขียนย่อความ นิยมใช้สรรพนามบรุ ุษท่ี ๓ เช่น
เธอ เขา ไม่นิยมใช้อักษรย่อด้วยกัน เช่น โรงเรียน
ไม่ใช้ รร.
๗๕
บทความสาหรับการเขียนย่อความ
การทอดผ้าป่ า
ประเพณีการทาบุญทอดผา้ ป่ าไมม่ ีการจากดั ระยะเวลาอยา่ การทอดกฐินสามารถทาได้
ตลอดปี แต่เท่าที่เป็นอยใู่ นปัจจุบนั นิยมทอดผา้ ป่ ากนั มากในเทศกาลทอดกฐิน การทาบุญทอดผา้ ป่ า
และทอดกฐินกาเนิดจากสาเหตุเดียวกนั และมีจุดมุ่งหมายอยา่ งเดียวกนั สาเหตุของการทาบุญ
ทอดผา้ ป่ าตามท่ีปรากฏในพระวนิ ยั ปิ ฎก แต่เดิมผทู้ ี่จะบวชตอ้ งไปหาจีวรมาเอง และพระที่ตอ้ งการ
จีวรใหม่มาเปลี่ยนของเก่ากต็ อ้ งไปหาผา้ มาเอง วธิ ีการหาผา้ ก็เที่ยวไปหาผา้ ท่ีเขาทิ้ง แลว้ ซ่ึงมีมากใน
ป่ าชา้ ผดี ิบ จะเห็นไดว้ า่ ในสมยั แรกแห่งการประกาศศาสนาของพระพุทธเจา้ ภิกษุท้งั หลายนุ่งห่มได้
เฉพาะผา้ บงั สุกลุ เทา่ น้นั จะใชจ้ ีวรนอกเหนือไปจากน้นั ไม่ได้ แต่การแสวงหาผา้ มาทาจีวรของภิกษุจึง
ไดร้ ับความลาบากมาก เพราะกวา่ จะไดม้ าแตล่ ะชิ้นก็กินเวลานาน ถา้ จะเก็บสะสมไวน้ านเกิน ๑๐ วนั
กไ็ มไ่ ด้ ผดิ วนิ ยั ถา้ เก็บไวเ้ กิน ๑๐ วนั ตอ้ งสละผา้ น้นั เสีย เมื่อภิกษุไดผ้ า้ มาจนครบพอท่ีจะทาจีวรได้
ตามขนาดท่ีวนิ ยั บญั ญตั ิภิกษุก็ลงมือทาเองท้งั สิ้น
ต่อมาชาวบา้ นไดเ้ ห็นและไดท้ ราบถึงความยากลาบากของภิกษุท้งั หลายในการแสวงหา
ผา้ มาทาจีวร จึงอยากจะช่วยลดปัญหาน้ีดว้ ยศรัทธาและจริงใจคร้ันจะถวายผา้ โดยตรง ภิกษุก็ไมร่ ับ
เพราะไม่มีพทุ ธานุญาตใหท้ าเช่นน้นั ไดช้ าวบา้ นจึงแอบเอาผา้ ดิบไปหมกดิน หมกฝ่ นุ หมกกองขยะ
ไว้ ใหช้ ายผา้ โพล่ออกมาเหมือนกบั ผา้ ที่ถูกทิ้ง เม่ือภิกษุไปพบก็ชกั บงั สุกุลเอาผา้ ไป ดว้ ยเหตุน้ีจึงได้
ช่ือวา่ “ผา้ ป่ า”
หลงั จากประกาศศาสนาไดป้ ระมาณ ๑๐ ปี เศษ หมอชีวกโกมารภจั หมอประจาพระองค์
พรเจา้ พมิ พิสาร และพระพทุ ธเจา้ ดว้ ย ไดท้ ูลขออนุญาตถวายคหบดีจีวรแดภิกษุ พระพุทธเจา้ ทรง
อนุญาต ต้งั แต่น้นั มานายกกส็ ามารถถวายจีวรแดพระภิกษุไดโ้ ดยตรง จึงทาใหน้ ายกนิยมทอดกฐิน
ผา้ ป่ าอยตู่ ลอดมาทุกยคุ ทุกสมยั
ผา้ ป่ าแบ่งเป็น ๓ ประเภท คือ
๑. ผา้ ป่ าหางกฐินหรือแถบกฐิน เป็นผา้ ป่ าที่เจา้ ของกฐินจดั ข้ึน คือ หลงั จากทอดถวาย
กฐินเรียบร้อยแลว้ กท็ อดผา้ ป่ าดว้ ยในวนั เดียวกนั น้นั หรือทอดวดั อ่ืน ๆ อีกตามรายทางท่ีไปทอดกฐิน
๒. ผา้ ป่ าโยง เป็นผา้ ป่ าที่มีเจา้ ภาพเดียวหรือหลายเจา้ ภาพจดั เป็นผา้ ป่ าหลาย ๆ กอง
บรรทุกเรือพว่ งแห่กนั ไปทางน้า ผา่ นวนั ไหนก็ทอดวดั น้นั เรื่อยไป
๓. ผา้ ป่ าสามคั คี เป็นผา่ ป่ าท่ีมีมากมายหลายเจา้ ของ มีการพิมพก์ าร์ดพมิ พซ์ องผา้ ป่ า
แจก มีคณะกรรมการดาเนินงาน โดยแบง่ หนา้ ท่ีกนั ทาอยา่ งเป็นองคก์ ร แตเ่ ป็นองคก์ รชว่ั คราว เมื่อ
ดาเนินการบรรลุจุดมุ่งหมายก็สลายตวั ไป
๗๖
ตวั อยา่ งการเขียนยอ่ ความ
ประเพณีการทาบุญทอดผา้ ป่ าไมจ่ ากดั เวลาสามารถทาไดต้ ลอดปี การทอดผา้ ป่ า มี
สาเหตุและจุดมุ่งหมายเพือ่ ช่วยพระท่ีจะบวชใหม่ หรือพระที่จะเปล่ียนจีวรใหม่ท่ีพระตอ้ งหาผา้ ทา
จีวรจากผา้ บงั สุกลุ แลว้ ตดั เยบ็ เองท้งั หมดตามพทุ ธ บญั ญตั ิ ชาวบา้ นเห็นความลาบากของพระจึง
หาทางช่วยโดยเอาผา้ ดิบไปหมดฝ่ นุ หมกดินหรือหมกกองขยะไว้ เม่ือพระภิกษุไปพบก็ชกั บงั สุกลุ เอา
ผา้ ไปทาจีวร จึงไดช้ ื่อวา่ ผา้ ป่ า ต่อมาหมอชีวกไดท้ ูลขออนุญาตถวายจีวรแดพระภิกษุ พระพทุ ธเจา้ ก็
ทรงอนุญาต ต้งั แตน่ ้นั มาชาวบา้ นก็นิยมทอดกฐินและผา้ ป่ าต่อ ๆ มาจนถึงปัจจุบนั ผา้ ป่ าแบง่ เป็น ๓
ประเภท คือ ผา้ ป่ าหางกบิน ทอดต่อจากทอดกฐิน ผา้ ป่ าโยงตามเรือหลาย ๆ ลา ทอดตามวนั ท่ีเรือ
ผา่ น และผา้ ป่ าสามคั คี
๗๗
ใบงาน
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนยอ่ ความจาเรื่อง ประชาธิปไตยใบกลาง จากหนงั สือเรียน
ภาษาพาที ตามหลกั การยอ่ ความ
ยอ่ ความเรื่อง………………………………………………………….
จากหนงั สือ…………………………………………………………………..
หนา้ ………………ถึง…………………….ความวา่
………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
………………......................................................................................................................................
๗๘
ใบงาน
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนอ่านโคลงโลกนิติ แลว้ สรุปความลงในแบบฝึก
โคลงโลกนิติ
สมเด็จพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาเดชาดิศร
ทุรชนอยา่ เคียดแคน้ อยา่ สนิท
อยา่ ห่างศตั รูชิด อยา่ ใกล้
คือไฟถ่านแรงฤทธ์ิ ถือถลาก มือนา
แมน้ ดบั แลว้ บ่อไหม้ หมน่ ตอ้ งมือดา
สนิทนกั
มิตรพาลอยา่ คบให้ กล่าวใกล้
พาลใช่มิตรอยา่ มกั เอาโทษ ใส่นา
คร้ันคราวเคียดคุมชกั ส่อสิ้นกลางสนาม
รู้เหตุส่ิงใดไซร้
สรุป
…………………………………………………………………………..……………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………..……………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
….........................................................................................................................................................
๗๙
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมและผลงานระหว่างเรียน
ความหมาย
๑. ต้งั ใจ หมายถึง ความมานะ อดทนทางานจนเสร็จ ( A )
๒. ความร่วมมือ หมายถึง สมาชิกในกลุ่มใหค้ วามร่วมมือทางานจนเสร็จ ( A )
๓. ความมีวินยั หมายถึง ผลงาน หรือการทางานเป็ นระบบระเบียบเรียบร้อย สะอาด
สวยงาม และไดเ้ น้ือหาครบถว้ น ทนั หรือตรงตอ่ เวลา ( A,K )
๔. คุณภาพของผลงาน หมายถึง ผลงานเรียบร้อย สวยงาม เน้ือหาครบถว้ น ภาษาท่ี
ใชเ้ หมาะสม (P – Product, K)
๕. การนาเสนอผลงาน หมายถึง การพดู อธิบายนาเสนอผลงานไดต้ ามลาดบั และ
เน้ือหาถูกตอ้ ง ( P – Process, K )
เกณฑ์การประเมิน
๔ หมายถึง ทาไดด้ ีมาก ๓ หมายถึง ทาไดด้ ี
๒ หมายถึง ทาไดพ้ อใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง
ชื่อ-สกลุ ความต้งั ใจ ความร่วมมือ ความมีวนิ ยั คุณภาพของ การนาเสนอ รวม
(๔) (๔) (๔) ผลงาน (๔) ผลงาน (๔) (๒๐)
เด็กหญงิ วราภรณ์ หดั เอยี ด
เดก็ หญงิ ภัคจริ า เต๊ะยอ่
เดก็ ชายธรี กร แกว้ จติ ตะ
เดก็ หญิงอนศุ รา แกว้ นพรัตน์
เด็กชายซาอดุ ี ราชการ
เด็กชายธนวัฒ บินดุเหลม็
เด็กชายศรณั ละซอ
เด็กชายฮสั ซาน ติเอยี ดยอ่
เด็กชายอจั ฉริยะ เมาะสนิ
เด็กหญงิ อจั ฉารีญา เมาะสนิ
เด็กหญงิ นชิ านันท์ ดารากยั
เดก็ หญงิ นสิ รีน หมี เกะ
เด็กหญงิ อสั มา แวยาเง๊าะ
เดก็ หญิงขวญั จริ า ติเอียดย่อ
เด็กชายพายุ สวุ รรณโณ
เด็กชายสิทธโิ ชค สุวรรณโน
๘๐
แบบประเมนิ ชิ้นงาน
รายช่ือสมาชิกกลุ่ม
๑…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน…………..
๒…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน…………..
๓…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน…………..
๔…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน…………..
๕…………………………………….เลขท…ี่ …………ช้ัน…………..
๖.…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน………….
ชิ้นงานเรื่อง……………………..
เกณฑ์การประเมิน คะแนน คะแนนทไี่ ด้
๑๒๓๔๕
๑. รูปแบบถูกตอ้ ง
๒. จดั รูปแบบน่าสนใจ สวยงาม
๓. ความครบถว้ นในเน้ือหาสาระท่ีเสนอ
๔. การใชค้ าเหมาะสม
๕. การสะกดคาถูกตอ้ ง
ลงช่ือ ผปู้ ระเมิน
(นางสาวอภิชญา ญาดาพชั ร์)
ตาแหน่ง ครู โรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
๘๑
เกณฑ์การให้คะแนนกระบวนการทางานกลุ่ม
ประเด็นการประเมิน ๓ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน / ระดบั
๑. การกาหนด – สมาชิกทุกคนมีส่วน ๒๑
เป้าหมายร่วมกนั ร่วมในการกาหนด
เป้าหมายการทางาน สมาชิกส่วนใหญม่ ี สมาชิกส่วนนอ้ ยมี
๒. การแบ่งหนา้ ที่ อยา่ งชดั เจน ส่วนร่วมในการ ส่วนร่วมในการกาหนด
รับผดิ ชอบ กระจายงานไดอ้ ยา่ ง กาหนดเป้าหมายใน เป้าหมายในการทางาน
ทว่ั ถึงและตรงตาม การทางาน
๓. การปฏิบตั ิหนา้ ที่ ความสามารถของ กระจายงานไดท้ ว่ั ถึง กระจายงานไม่ทวั่ ถึง
ที่ไดร้ ับมอบหมาย สมาชิกทุกคน แต่ไม่ตรงตาม
ทางานไดส้ าเร็จตาม ความสามารถของ
๔. การประเมินและ เป้าหมายท่ีไดร้ ับ สมาชิก
ปรับปรุงผลงาน มอบหมาย ตาม ทางานไดส้ าเร็จตาม ทางานไมส่ าเร็จตาม
ระยะเวลาที่กาหนด เป้าหมายแต่ชา้ กวา่ เป้าหมาย
สมาชิกทุกคนร่วม เวลาท่ีกาหนด
ปรึกษาหารือ ติดตาม
ตรวจสอบและ สมาชิกบางส่วนมี สมาชิกบางส่วนไมม่ ีส่วน
ปรับปรุ งผลงานเป็ น ส่วนร่วมปรึกษาหารือ ร่วมปรึกษาหารือและไม่
ระยะ แต่ไม่ช่วยปรับปรุง ช่วยปรับปรุงผลงาน
ผลงาน
แบบประเมนิ กระบวนการทางานกล่มุ ๘๒
ที่ รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คิดเห็น
๓๒๑
๑. การกาหนดเป้าหมายร่วมกนั
๒. การแบ่งหนา้ ที่รับผดิ ชอบ
๓. การปฏิบตั ิตามหนา้ ท่ีที่ไดร้ ับมอบหมาย
๔. การประเมินและปรับปรุงผลงาน
รวม
ลงชื่อ ผปู้ ระเมิน
(นางสาวอภิชญา ญาดาพชั ร์)
ตาแหน่ง ครู โรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
เกณฑก์ ารประเมิน
๑๑ – ๑๒ = ดีมาก
๘ – ๑๐ = ดี
๕ – ๗ = พอใช้
๐ – ๔ = ปรับปรุง
๘๓
แบบทดสอบหลังการเรียนรู้
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนเครื่องหมาย X ทบั ตวั อกั ษร ก ข ค ง ที่ถูกที่สุดเพยี งขอ้ เดียว
๑. นกั เรียนควรเลือกใครท่ีควรมีคุณสมบตั ิในการทจะไดร้ ับเลือกเป็นประธานนกั เรียน
ก.ผทู้ ่ีรูปหล่อ พอ่ รวย ใจกวา้ ง
ข. ผทู้ ี่พดู ดี ซ่ือสัตย์ มีน้าใจ
ค. เรียนเก่ง คิดดี ทาตามใจเพือ่ น
ง. พูดนอ้ ย จริงใจ เห็นตามใจเพือ่ น
๒. จากเร่ือง “ มีดี ” มีพฤติกรรมอยา่ งไร ท่ีขดั กบั หลกั ประชาธิปไตยอยา่ งร้ายแรง
ก.การวางแผนท่ีจะซ้ือเสียง ค.การจดั เล้ียงวนั เกิด
ข.การจบั กลุ่มคุยกนั ง.การไม่ยอมรับในสิ่งท่ีตนไดก้ ระทาลงไป
๓. ขอ้ ใดอา่ นไม่ถูกต้อง ค. ศรัทธา อ่าน สัด-ทา
ก. ยตุ ิธรรม อา่ น ยดุ -ติ-ธรรม ง. วฒั นา อา่ น- วดั -ถะ- นา
ข. สุจริต อ่าน สุด- จะ -หริด
๔. “ ดาบสองคม” สานวนน้ีมีความหมายวา่ อยา่ งไร
ก. คนเรามีท้งั ความดีและความชวั่
ข. การกระทาที่มีท้งั คุณและโทษ
ค. ชีวติ มีท้งั สุขและทุกข์
ง. คนเรามีท่ีท้งั รวยและจน
๕. ขอ้ ใดเก่ียวขอ้ งกบั หลกั การประชาธิปไตย ค. ประชาชน
ก. การเลือกตวั แทน ง. ถูกทุกขอ้
ข. การบริหารประเทศ
๖. ขอ้ ใดไม่ใช่จุดมุง่ หมายของการโฆษณา
ก. เป็นการประชาสมั พนั ธ์ใหร้ ู้จกั สินคา้ และบริการ
ข. จูงใจใหผ้ ฟู้ ังหรือผูอ้ า่ นเช่ือถือ
ค. ทาใหไ้ ดส้ ินคา้ ดี มีราคาถูกมาใช้
ง. ใหเ้ ห็นคลอ้ ยตามและปฏิบตั ิตาม
๘๔
๗. ประโยคใดใชค้ าเชื่อมไม่ถูกต้อง ค. เธอจะเรียนหรือเธอจะเล่น
ก. พอ่ และแมไ่ ปตลาด ง. เขาขยนั เรียนจึงไดเ้ กรด ๔
ข. พี่ทาการบา้ นและนอ้ งกินขนม
๘. ส่ิงใดไม่ควรอยใู่ นส่วนที่ ๑ ของการยอ่ ความ
ก. ชื่อเรื่อง ค. ผเู้ ขียน
ข. ใจความสาคญั ง. ประเภทของเร่ือง
๙. ขอ้ ใดกล่าวถึงการยอ่ ความไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. เป็นการเขียนเรื่องใหส้ ้ันลง
ข. เป็นการเขียนที่ให้ไดใ้ จความมากข้ึน
ค. เป็นการเขียนจากความรู้สึกของตนเอง
ง. เป็นการเกบ็ ใจความสาคญั นามาเขียนใหม่ดว้ ยสานวนตนเอง
๑๐. คาพดู ในขอ้ ใดเป็นขอ้ เท็จจริง
ก. มานี เป็นนกั เรียนที่ลงสมคั รเบอร์ ๑
ข. มีความมน่ั ใจวา่ จะนาสิ่งท่ีดีมาสู้เพือ่ นๆ
ค. จะจดั ต้งั โครงการเพ่ือพฒั นาการกีฬา
ง. โครงการจะจริงไดถ้ า้ ช่วยกนั เลือกเบอร์ ๑
๘๕
เฉลยแบบทดสอบหลงั การเรียนรู้
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนเครื่องหมาย X ทบั ตวั อกั ษร ก ข ค ง ท่ีถูกท่ีสุดเพียงขอ้ เดียว
๑. นกั เรียนควรเลือกใครท่ีควรมีคุณสมบตั ิในการทจะไดร้ ับเลือกเป็นประธานนกั เรียน
ก.ผทู้ ่ีรูปหล่อ พอ่ รวย ใจกวา้ ง
ข. ผทู้ ่ีพดู ดี ซ่ือสตั ย์ มีน้าใจ
ค. เรียนเก่ง คิดดี ทาตามใจเพอ่ื น
ง. พูดนอ้ ย จริงใจ เห็นตามใจเพ่ือน
๒. จากเร่ือง “ มีดี ” มีพฤติกรรมอยา่ งไร ที่ขดั กบั หลกั ประชาธิปไตยอยา่ งร้ายแรง
ก. การวางแผนที่จะซ้ือเสียง ค. การจดั เล้ียงวนั เกิด
ข. การจบั กลุ่มคุยกนั ง. การไมย่ อมรับในสิ่งท่ีตนไดก้ ระทาลงไป
๓. ขอ้ ใดอ่านไม่ถูกต้อง ค. ศรัทธา อ่าน สัด-ทา
ก. ยตุ ิธรรม อ่าน ยดุ -ติ-ธรรม ง. วฒั นา อา่ น- วดั -ถะ- นา
ข. สุจริต อ่าน สุด- จะ -หริด
๔. “ ดาบสองคม” สานวนน้ีมีความหมายวา่ อยา่ งไร
ก. คนเรามีท้งั ความดีและความชว่ั
ข. การกระทาที่มีท้งั คุณและโทษ
ค. ชีวติ มีท้งั สุขและทุกข์
ง. คนเรามีท่ีท้งั รวยและจน
๕. ขอ้ ใดเก่ียวขอ้ งกบั หลกั การประชาธิปไตย ค. ประชาชน
ก. การเลือกตวั แทน ง. ถูกทุกขอ้
ข. การบริหารประเทศ
๖. ขอ้ ใดไม่ใช่จุดมุ่งหมายของการโฆษณา
ก. เป็นการประชาสัมพนั ธ์ใหร้ ู้จกั สินคา้ และบริการ
ข. จูงใจใหผ้ ฟู้ ังหรือผูอ้ า่ นเช่ือถือ
ค. ทาใหไ้ ดส้ ินคา้ ดี มีราคาถูกมาใช้
ง. ใหเ้ ห็นคลอ้ ยตามและปฏิบตั ิตาม
๘๖
๗. ประโยคใดใชค้ าเชื่อมไม่ถูกต้อง ค. เธอจะเรียนหรือเธอจะเล่น
ก. พอ่ และแมไ่ ปตลาด ง. เขาขยนั เรียนจึงไดเ้ กรด ๔
ข. พี่ทาการบา้ นและนอ้ งกินขนม
๘. ส่ิงใดไม่ควรอยใู่ นส่วนที่ ๑ของการยอ่ ความ
ก. ชื่อเรื่อง ค. ผเู้ ขียน
ข. ใจความสาคญั ง. ประเภทของเร่ือง
๙. ขอ้ ใดกล่าวถึงการยอ่ ความไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. เป็นการเขียนเรื่องใหส้ ้ันลง
ข. เป็นการเขียนที่ให้ไดใ้ จความมากข้ึน
ค. เป็นการเขียนจากความรู้สึกของตนเอง
ง. เป็นการเกบ็ ใจความสาคญั นามาเขียนใหม่ดว้ ยสานวนตนเอง
๑๐. คาพดู ในขอ้ ใดเป็นขอ้ เท็จจริง
ก. มานี เป็นนกั เรียนท่ีลงสมคั รเบอร์ ๑
ข. มีความมน่ั ใจวา่ จะนาส่ิงท่ีดีมาสู้เพอ่ื นๆ
ค. จะจดั ต้งั โครงการเพื่อพฒั นาการกีฬา
ง. โครงการจะจริงไดถ้ า้ ช่วยกนั เลือกเบอร์ ๑
๘๗
แบบประเมนิ แบบ Rubrics
หลงั แผนการจดั การเรียนรู้
๘๘
แบบประเมนิ การเขียน Mind Mapping
กลุ่มที่.........................................................หอ้ ง....................
ประเด็น ความคิด ความคิด ความคิด การเชื่อมโยง ความ รวม
สวยงาม คะแนน
รวบยอด รอง ยอ่ ย ความคิด ๔ ๒๐
ชื่อ – สกุล ๔ ๔ ๔ ๔
ลงช่ือ.................................................ผปู้ ระเมิน
()
วนั ที่........เดือน..................ปี ..............
เกณฑ์การประเมนิ ๔ หมายถึง ดีมาก
๓ หมายถึง ดี
๒ หมายถึง พอใช้
๑ หมายถึง ปรับปรุง
๘๙
เกณฑ์การให้คะแนนการแต่งบทร้อยกรอง
๑. รูปแบบของฉันทลกั ษณ์
๔ คะแนน = มีฉนั ทลกั ษณ์ถูกตอ้ งตามรูปแบบคาประพนั ธ์
๓ คะแนน = มีฉนั ทลกั ษณ์ตามรูปแบบคาประพนั ธ์แต่ไมถ่ ูกตอ้ งท้งั หมด
๒ คะแนน = มีฉนั ทลกั ษณ์ท่ีถูกตอ้ งตามรูปแบบคาประพนั ธ์เพียงเล็กนอ้ ย
๑ คะแนน = มีฉนั ทลกั ษณ์ตามรูปแบบคาประพนั ธ์แต่ไมถ่ ูกตอ้ ง
๒. สาระ/ความรู้
๒ คะแนน = มีสาระความรู้ครบถว้ นตามหวั ขอ้ ชื่อเร่ืองที่แต่ง
๑ คะแนน = มีสาระความรู้เพียงเลก็ นอ้ ย ไมค่ รบถว้ นตามหวั ขอ้ หรือชื่อเรื่อง
๓. ข้อคดิ /คติธรรม
๒ คะแนน = มีขอ้ คิดและคติธรรมที่ครบถว้ นชดั เจน
๑ คะแนน = มีขอ้ คิดหรือคติธรรมเพยี งเลก็ นอ้ ย
๔. ใช้คาเหมาะสมไพเราะ
๔ คะแนน = ใชค้ าไดเ้ หมาะสม และมีความไพเราะดี
๓ คะแนน = ใชค้ าเป็นเพียงบางคาท่ีเหมาะสม และมีความไพเราะ
๒ คะแนน = ใชค้ าไม่ไดเ้ หมาะสม แต่มีความไพเราะพอสมควร
๑ คะแนน = ใชค้ าเหมาะสมบา้ ง และมีความไพเราะเพยี งเล็กนอ้ ย
๕. เรียบเรียงถ้อยคา/สัมผสั
๔ คะแนน = เรียบเรียงถอ้ ยคาไดด้ ีมีสมั ผสั คลอ้ งจองครบถว้ น
๓ คะแนน = เรียบเรียงถอ้ ยคามีสมั ผสั คลอ้ งจองแต่ไม่ครบถว้ นทุกคา
๒ คะแนน = เรียบเรียงถอ้ ยคามีสมั ผสั คลอ้ งจองที่ถูกตอ้ งเพยี งบางคา
๑ คะแนน = มีการเรียบเรียงถอ้ ยคามีสัมผสั แตไ่ ม่ถูกตอ้ งตามฉนั ทลกั ษณ์
๖. ความหมายตรงเนื้อเรื่อง
๒ คะแนน = ใชค้ าที่มีความหมายตรงหวั ขอ้ เรื่อง
๑ คะแนน = ใชค้ ามีความหมายใกลเ้ คียงแต่ไมต่ รงเร่ือง
๗. ความคดิ สร้างสรรค์
๒ คะแนน = มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์
๑ คะแนน = มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรคเ์ พยี งเล็กนอ้ ย
แบบประเมนิ คุณภาพผลงานการแต่งบทร้อยกรอง ๙๐
คุณค่า ความงามของภาษา หมายเหตุ
การประเมินผลงาน
แตง่ บทร้อยกรอง
ูรปแบบของฉันท์
ลัสากรษะ ์ณ/ ความ ู้ร
ข้อ ิคด / ค ิตธรรม
ใช้คาเหมาะสมไพเราะ
เ ีรยบเ ีรยงคา/สัมผัส
ความหมายตรงเ ่ืรอง
ความ ิคดส ้รางสรรค์
รวมคะแนน
กลุ่มท่ี ๔ ๒ ๒ ๔ ๔ ๒ ๒ ๒๐
ลงช่ือ ผปู้ ระเมิน
(.............................................)
๙๑
แบบประเมนิ การเขียนเร่ืองส้ัน กล่มุ ท…ี่ …
คาชี้แจง ขีดเคร่ืองหมาย ( / ) ในช่องทผ่ี ่านการประเมิน
รายการประเมิน
๑. ช่ือ และจานวนตวั ละครท่ีปรากฏมีความเหมาะสม ๒ คะแนน
คะแนน
๒. แนวคิดของเรื่องมีความน่าสนใจ ๒ คะแนน
คะแนน
๓. ฉาก ( เวลา สถานท่ี ) เหมาะสม ๒ คะแนน
๔. ใชภ้ าษาไดเ้ หมาะสมกบั เร่ือง ๒
๕. มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ๒
รายการประเมิน / เกณฑก์ ารประเมิน รวม
เลข ่ีท ชื่อ – สกลุ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๑๐
๒๑ ๐ ๒๑ ๐ ๒๑ ๐ ๒๑ ๐ ๒๑ ๐
หมายเหตุ ๑. เกณฑก์ ารประเมิน ๒ หมายถึง ดี
๑ หมายถึง พอใช้
๐ หมายถึง ตอ้ งปรับปรุง
๒. ผลการประเมินแตล่ ะเกณฑ์ นกั เรียนตอ้ งไดร้ ะดบั ๑ ข้ึนไปทุกรายการจึงจะถือวา่
ผา่ นเกณฑ์
( ลงช่ือ )…………………………………..ผปู้ ระเมิน
( .......................................... )
๙๒
แบบประเมนิ การอ่านออกเสียง
คาชี้แจง ขดี เครื่องหมาย ( / ) ในช่องทผ่ี ่านการประเมิน
รายการประเมนิ
๑. อา่ นออกเสียงคล่องแคล่ว ชดั เจน ถูกตอ้ งตามอกั ขรวิธี ๒ คะแนน
๒. การเวน้ วรรคตอนถูกตอ้ ง ๒ คะแนน
๓. ไมอ่ า่ นตกหล่น หรือตู่ตวั ๒ คะแนน
๔. จบั หนงั สือถูกตอ้ ง ๒ คะแนน
๕. ใชน้ ้าเสียงไดเ้ หมาะสมกบั เร่ืองที่อ่าน ๒ คะแนน
รายการประเมิน / เกณฑก์ ารประเมิน รวม
๑๐
เลข ่ีท ช่ือ – สกลุ ๑๒๓๔๕
๒๑ ๐ ๒๑ ๐ ๒๑ ๐ ๒๑ ๐ ๒๑ ๐
๑. ๑. เกณฑก์ ารประเมิน
๒ หมายถึง ดี
๒. ๑ หมายถึง พอใช้
๓. ๐ หมายถึง ตอ้ งปรบั ปรุง
๔.
๕. ๒. ผลการประเมินแต่ละเกณฑ์ นกั เรียนตอ้ งไดร้ ะดบั ๑ ข้ึนไปทกุ รายการจึงจะถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
๖.
๗. ( ลงช่ือ )……………………………………..ผปู้ ระเมิน
๘. ( ………………...........………. )
๙.
๑๐.
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖
หมายเหตุ
๙๓
แบบประเมนิ การอ่านบทร้อยกรอง
คาชี้แจง ขีดเคร่ืองหมาย ( / ) ในช่องทผี่ ่านการประเมิน
รายการประเมนิ
๑. อ่านเสียงดงั ฟังชดั ๒ คะแนน
๒. อ่านไพเราะ น้าเสียงนุ่มนวล ๒ คะแนน
๓. อ่านถูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี และถูกวรรคตอน ๒ คะแนน
๔. อา่ นทานองเสนาะถูกตอ้ งตามประเภทของบทร้อยกรอง ๒ คะแนน
๕. มีบุคลิกดี มีความเช่ือมน่ั ในตนเอง ๒ คะแนน
รายการประเมิน / เกณฑก์ ารประเมิน รวม
๑๐
เลข ่ีท ช่ือ – สกลุ ๑๒๓๔๕
๒๑ ๐ ๒๑ ๐ ๒๑ ๐ ๒๑ ๐ ๒๑ ๐
๑. ๑. เกณฑก์ ารประเมิน ๒ หมายถึง ดี
๒. ๑ หมายถึง พอใช้
๓. ๐ หมายถึง ตอ้ งปรับปรุง
๔. ๒. ผลการประเมินแตล่ ะเกณฑ์ นกั เรียนตอ้ งไดร้ ะดบั ๑ ข้ึนไปทกุ รายการจึงจะถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
๕. ( ลงชื่อ )……………………………………..ผปู้ ระเมิน
๖.
๗. ( ........................................ )
๘.
๙.
๑๐.
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖
หมายเหตุ
สนในเ ่ืรอง ี่ท ๙๔
เ ีรยน
ีมมารยาท แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน
ในการ ัฟงและคาชี้แจง ให้ทาเคร่ืองหมาย / ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมทกี่ าหนด
ีมูพสดมา ิธ
ในการ ่อานช้นั …………โรงเรียน…………………………………ภาคเรียนท่ี……………….
่อานคาได้บทที่……………แผนการสอนท่ี………………………..เร่ือง…………………….………………..
ูถกต้อง
เ ่อ ีสายนงไดัม่ง ู่ต ัฟคงาชัดรายการสังเกต
ห ืรอเ ิตมคา
จับหนัง ืสอเลข ช่ือ – สกุล
ได้ ูถกต้องที่
ทาใบงาน
ได้ ูถกต้อง๒๑ ๐ ๒๑ ๐ ๒๑ ๐ ๒๑ ๐ ๒๑ ๐ ๒๑ ๐ ๒๑ ๐
ส ุรปผลการประเ ิมน๑
๒
ผ่าน / ไม่ผ่าน๓
๔
๕
๖
๗
๘
๙
๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖
เกณฑ์การให้คะแนน ๒ = ดี, ๑ = ปานกลาง, ๐ = ต้องปรับปรุงแก้ไข
(ลงช่ือ)……………………………………….ผปู้ ระเมิน
วนั ที่……….เดือน…………………….พ.ศ………………
๙๕
แบบสังเกตพฤติกรรมคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ชื่อกลุ่ม........................................................................กลุ่มท่ี.................
สมาชิกกลุ่ม ๑. ....................................................................เลขที่....................
๒. ....................................................................เลขที่....................
๓. ....................................................................เลขที่....................
๔. ....................................................................เลขที่....................
รายการประเมิน ระดบั การประเมิน
๔๓๒๑
๑. ความรับผดิ ชอบเอาใจใส่ ทางานเสร็จทนั ตามกาหนดเวลา
๒. รักการทางาน มีวนิ ยั ในการทางาน เห็นคุณคา่ และ
ความสาคญั ของงาน
๒. มีน้าใจรู้จกั แบ่งปัน ใจกวา้ งมีเหตุผล ยอมรับฟังความ
คิดเห็นซ่ึงกนั และกนั
๔. ใหค้ วามร่วมมือในการทางานภายในกลุ่มและทางานร่วมกบั
ผอู้ ่ืน
๕. มีความสนใจใฝ่ รู้ (แสวงหาความรู้ )
๖. รักความเป็นไทย
๗. มีมารยาทในการอ่าน และ การฟัง การดูและการพดู
เกณฑก์ ารประเมิน
๔ หมายถึง ระดบั ดีมาก
๓ หมายถึง ระดบั ดี
๒ หมายถึง ระดบั พอใช้
๑ หมายถึง ระดบั ปรับปรุง
เกณฑก์ ารผา่ น : แตล่ ะรายการตอ้ งไม่นอ้ ยกวา่ ระดบั ๓
๙๖