แบบประเมนิ กระบวนการทางานกล่มุ ๕๑
ที่ รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คิดเห็น
๓๒๑
๑. การกาหนดเป้าหมายร่วมกนั
๒. การแบ่งหนา้ ที่รับผดิ ชอบ
๓. การปฏิบตั ิตามหนา้ ท่ีที่ไดร้ ับมอบหมาย
๔. การประเมินและปรับปรุงผลงาน
รวม
ลงชื่อ ผปู้ ระเมิน
(นางสาวอภิชญา ญาดาพชั ร์)
ตาแหน่ง ครู โรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
เกณฑก์ ารประเมิน
๑๑ – ๑๒ = ดีมาก
๘ – ๑๐ = ดี
๕ – ๗ = พอใช้
๐ – ๔ = ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ ๕๒
กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๕
หน่วยที่ ๑๓ เรื่อง ก้าวให้ไกล ไปให้ถึง เวลาเรียน ๖ ช่ัวโมง
แผนการเรียนรู้ท่ี ๔ เรื่อง อ่านคดิ วเิ คราะห์ข่าว เวลาเรียน ๑ ชั่วโมง
สอนวนั ท…ี่ ………เดือน……………………..พ.ศ. ……………
มาตรฐานการเรียนรู้
ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปตดั สินใจแกป้ ัญหาในการ
ดาเนิน ชีวติ และมีนิสัยรักการอา่ น
ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณและพดู แสดงความรู้ ความคิด และ
ความรู้สึกในโอกาสต่างๆอยา่ งมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์
ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณค่า
และนามา ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
ตวั ชี้วดั
ท ๑.๑ ป.๕/๔ แยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน
ท ๑.๑ ป.๕/๕ วเิ คราะห์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องที่อ่านเพ่ือนาไปใชใ้ นการ
ดาเนินชีวติ
ท ๓.๑ ป.๕/๓ วเิ คราะห์ความน่าเช่ือถือจากเรื่องท่ีฟังและดูอยา่ งมีเหตุผล
ท ๓.๑ ป.๕/๔ พูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นท่ีศึกษาคน้ ควา้ จากการฟัง การดู และการ
สนทนา
ท ๕.๑ ป.๕/๒ ระบุความรู้และขอ้ คิดจากการอา่ นวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีสามารถนาไปใช้
ในชีวติ จริง
สาระสาคัญ
การส่ือสารในปัจจุบนั ผา่ นสื่อหลายประเภท เช่น หนงั สือพิมพ์ วารสาร โทรทศั น์
วิทยุ โทรศพั ท์ อินเทอร์เน็ต ฯลฯ ผูส้ ่งสารถ่ายทอดความรู้ ความเขา้ ใจและความคิดเห็น โดยการ
พูดและการเขียนตามประสบการณ์ การศึกษาและการอบรม ตลอดจนความเชื่อและนิสัยของแต่ละ
คนท่ีแตกต่างกนั ขอ้ มูลข่าวสารต่าง ๆ ท่ีเราได้รับมาน้ันอาจมีขอ้ เท็จจริง การบิดเบือนขอ้ เท็จจริง
และขอ้ คิดเห็น ผรู้ ับสารจึงควรพจิ ารณาวเิ คราะห์ใหร้ อบคอบ ถ่ีถว้ น เมื่อฟัง ดู และอ่านสารน้นั ๆ
๕๓
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. ซ่ือสัตยส์ ุจริต
๒. มีวนิ ยั
๓. ใฝ่ เรียนรู้
๔. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
๕. มุง่ มนั่ ในการทางาน
๖. มีจิตสาธารณะ
สาระการเรียนรู้
เรื่อง “การอ่านข่าว” แสดงความคิดเห็นเชิงวิเคราะห์
กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. นกั เรียนเล่นเกม แข่งขนั กนั ต่อเรื่อง
๒. ครูนาภาพข่าวมาให้นกั เรียนดูและอา่ นข่าวสัก ๔ เร่ือง ใหน้ กั เรียนฟัง แลว้ ต้งั คาถาม
ดงั น้ี
๒.๑ ขา่ วท่ีอ่านน่าเชื่อถือไดไ้ หม เพราะอะไร
๒.๒ เราควรทาอยา่ งไรเม่ืออ่านข่าวแลว้
๓. แบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่ม อ่านเรื่อง การวเิ คราะห์ในการรับสาร แลว้ แต่ละกลุ่มออกมา
นาเสนอ ครูสังเกตพฤติกรรมพร้อมบนั ทึกลงในแบบสงั เกต
๔. ตวั แทนกลุ่มนาขา่ วที่ครูเตรียมใหม้ าวเิ คราะห์เรื่อง แลว้ ออกมานาเสนอ
๕. นกั เรียนแตล่ ะคนทาใบงาน
๖. ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปบทเรียนจากการอ่านบทเรียน เร่ือง ลูกยางเดินทาง
ส่ือ / แหล่งการเรียนรู้
๑. เกมแขง่ ขนั ต่อเรื่อง
๒. ขา่ ว
๓. ใบงาน
๔. แบบฝึกชุดทกั ษะทางภาษา
๕. แบบเรียนภาษาพาที ชุดภาษาเพอ่ื ชีวติ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๕
๕๔
กระบวนการวดั ผลและประเมินผล
๑.วธิ ีการ
๑.๑ สังเกต
๑.๑.๑ การฟัง การพูด
๑.๑.๒ การอ่าน
๑.๑.๓ การตอบคาถาม
๑.๑.๔ การรายงาน
๑.๑.๕ การร่วมกิจกรรม
๑.๒ ตรวจผลงาน
๑.๒.๑ ใบงานที่หดั
๑.๒.๒ ใบงานท่ี
๑.๒.๓ แบบทดสอบก่อนการเรียนรู้
๒.เครื่องมือการวดั และประเมินผล
๒.๑ ใบงานท่ีหดั
๒.๒ แบบทดสอบก่อนการเรียนรู้
๒.๓ ใบงานท่ี
๒.๔ แบบสังเกตพฤติกรรม
๓.เกณฑ์การวดั ผลและประเมินผล
ใชก้ ารผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ข้ึนไป
บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
ผลการจัดการเรียนรู้ตามตวั ชี้วดั
จานวนนกั เรียนท้งั หมด ......... คน
– ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ดี ........คน คิดเป็นร้อยละ ....................
– ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ปานกลาง .......คน คิดเป็ นร้อยละ ..........
– ไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ปรับปรุง .......คน คิดเป็นร้อยละ ..........
๕๕
กจิ กรรมเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………….…
…...……………………………………………………………………………………………………
ความเห็นของผ้อู านวยการโรงเรียน
……………………………………………………………………………………………………….…
….............................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(นายธราเทพ แกว้ เกาะสะบา้ )
ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
............./......................../..............
บนั ทกึ ผลหลงั กระบวนการจัดการเรียนรู้
ผลการเรียนรู้ท่ีเกิดข้ึนกบั ผเู้ รียน
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา / อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………….
................................................................................................................................................................
ลงชื่อ ……………………………….…ผสู้ อน
(นางสาวอภิชญา ญาดาพชั ร์)
ตาแหน่ง ครู โรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
….…../…………./………….
๕๖
เกม “แข่งขันกนั ต่อเรื่อง
อุปกรณ์
– ขอ้ ความท่ีครูเตรียมมาเป็ นเหตุการณ์ในเร่ือง เดียวกนั มีเน้ือเรื่องต่อเน่ืองกนั แต่
ไดจ้ ดั คละกนั ไว้ จดั ทาไวเ้ ป็น ๒ ชุด – นกหวีด – นาฬิกาจบั เวลา
วธิ ีการเล่นเกม มีดงั น้ี
๑. แบง่ นกั เรียนออกเป็น ๒ กลุ่ม กลุ่มละ ประมาณ ๑๐ – ๑๕ คน
๒. ครูอธิบายกติกาการเล่นโดย
–ใหแ้ ต่ละกลุ่มมารับขอ้ ความซ่ึงเป็นขอ้ ความชนิดเดียวกนั กลุ่มละ ๑ ชุด
ครูจะใหเ้ วลาเล่นเกมประมาณ ๑๐ นาที โดยจะใหส้ ญั ญาณเร่ิมเล่นดว้ ยการเป่ านกหวีด และให้
สญั ญาณหยดุ เล่นดว้ ยการเป่ านกหวดี เช่นกนั
–เมื่อไดย้ นิ สญั ญาณใหน้ กั เรียนเริ่มเล่นเกมทนั ที โดยการจดั ลาดบั ขอ้ ความท่ีไดร้ ับให้
เน้ือความต่อเน่ืองกนั จากขอ้ ความที่นกั เรียนคิดวา่ น่าจะอยอู่ นั ดบั แรก หรือเริ่มตน้ ไปจนถึงขอ้ ความที่
คิดวา่ น่าจะอยสู่ ุดทา้ ย
–ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เขียนเร่ืองราวเพิ่มเติมจากขอ้ ความแรกจนถึงขอ้ ความสุดทา้ ยใหเ้ ป็ น
เรื่องราวท่ีสมั พนั ธ์ต่อเนื่องกนั
–เมื่อไดย้ นิ สัญญาณหมดเวลา ใหต้ วั แทนของกลุ่มมาจบั สลากกนั ออกมารายงานโดยเล่าเรื่อง
ใหเ้ พือ่ น ๆ ฟัง
–ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มติดขอ้ ความท่ีไดร้ ับและส่วนท่ีไดต้ ่อเติมแต่งต่อเร่ืองราวเสร็จไวบ้ นกระดานดา
ใหเ้ พื่อนดู
–จากน้นั ครูนาขอ้ ความมาเฉลยใหน้ กั เรียนดู แลว้ พจิ ารณาวา่ กลุ่มใดลาดบั เรื่องไดถ้ ูก และต่อ
เติมไดด้ ีสมบูรณ์เหมาะสม เป็นฝ่ ายชนะ
ข้อเสนอแนะ
เกมน้ีอาจนามาดดั แปลง ใชเ้ ป็นใบงานในการเขียนเรียบเรียงขอ้ ความหรือประโยชน์หรือฝึก
การเขียนเรียบเรียงความได้ เมื่อเกมจบลงหรือหมดเวลา ครูกพ็ ดู โยงเขา้ สู่บทเรียนตอ่ ไป
๕๗
ใบความรู้
เรื่อง การคิดวเิ คราะห์ในการรับสาร
การสื่อสารในปัจจุบนั ผ่านส่ือหลายประเภท เช่นหนังสือพิมพ์ วารสาร โทรทศั น์ วิทยุ
โทรศพั ท์ อินเทอร์เน็ต ฯลฯ ผสู้ ่งสารถ่ายทอดความรู้ ความเขา้ ใจและความคิดเห็น โดยการพูดและ
การเขียนตามประสบการณ์ การศึกษาและการอบรม ตลอดจนความเช่ือและนิสัยของแต่ละคนท่ี
แตกต่างกนั ขอ้ มูลข่าวสารต่าง ๆ ท่ีเราไดร้ ับมาน้นั อาจมีขอ้ เท็จจริง การบิดเบือนขอ้ เท็จจริง และ
ขอ้ คิดเห็น ผรู้ ับสารจึงควรพจิ ารณาวเิ คราะห์ใหร้ อบคอบ ถ่ีถว้ น เมื่อฟัง ดู และอ่านสารน้นั ๆ ดงั น้ี
๑. เป็นเร่ืองเก่ียวกบั อะไร มีเน้ือหาอยา่ งไร
๒. ผสู้ ่งสารมีความน่าเช่ือถือเพียงใด
๓. ผสู้ ่งสารมีเจตนาและจุดมุ่งหมายอะไร
๔. พจิ ารณาวา่ อะไรเป็นขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็น
๕. หาขอ้ มูลมาประกอบหรือเปรียบเทียบ
๖. คิดวเิ คราะห์และตดั สินใจอยา่ งมีเหตุผล อา้ งอิงได้
การพดู และเขียนแสดงความคิดเห็นเชิงวเิ คราะห์
เม่ือวิเคราะห์สารจากการฟัง ดู และอ่านแล้ว ผูร้ ับสารต้องการพูดหรือเขียนแสดงความ
คิดเห็น ควรยดึ แนวปฏิบตั ิ ดงั น้ี
๑. จบั ประเด็นสาคญั และเรียงลาดบั เน้ือหา
๒. แสดงความคิดเห็นใหต้ รงประเดน็ มีขอ้ มูลอา้ งอิงชดั เจน ถูกตอ้ ง
๓. แสดงความคิดเห็นอยา่ งมีเหตุผลและเป็นธรรม
๔. ใชถ้ อ้ ยคาสุภาพ หลีกเล่ียงการใชค้ ารุนแรง ทา้ ทาย และล่วงเกิน
๕. มีมารยาทในการพดู และเขียน
๕๘
ใบงาน ๑
ชื่อ…………………………………………………….เลขท่ี….. ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๕
คาชี้แจง ให้นักเรียนอ่านข่าวแล้วคดิ วเิ คราะห์แล้วตอบคาถาม
นัดชาวพุทธชุมนุมหน้าสภา
พระเทพวสิ ุทธิกวกี ล่าววา่ ต้งั แต่วนั ท่ี ๑๖ – ๑๙ เม.ย. พระสงฆจ์ ากทว่ั ประเทศ จะเดินทาง
มาชุมนุมที่หนา้ รัฐสภา เพ่ือเรียกร้องใหม้ ีการบญั ญตั ิคาวา่ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจาชาติใน
ข้นั ตอนการแปรญตั ติ “ มหาเถรสมาคม ซ่ึงเป็นองคก์ รสูงสุดไฟเขียวเตม็ ท่ี เพราะเห็นภยั มานานแลว้
แต่ที่ยงั ไม่ออกมาเคล่ือนไหวเพราะคิดวา่ ผทู้ ี่มีความรู้ท้งั หลายจะมีสติ การชุมนุมจะเร่ิมต้งั แต่วนั ท่ี ๑๖
เม.ย. น้ี โดยคณะสงฆไ์ ดจ้ ดั ต้งั องคก์ รชาวพทุ ธแห่งประเทศไทยข้ึนมาเป็นองคก์ รนามีพระธรรมกิตติ
เมธี กรรมการมหาเถรสมาคม วดั สัมพนั ธวงศ์ เป็นประธานและจะมีพระธรรมสุธี เจา้ คณะ กทม.
เป็นกาลงั หลกั ในการระดมวดั ต่าง ๆ กวา่ ๕๐๐ แห่งใน กทม. มาชุมนุมยนื พ้ืนเพื่อรอใหพ้ ระสงฆ์
ต่างจงั หวดั ทยอยกนั เขา้ มาสมทบ หวงั วา่ ในข้นั ตอนแปรญตั ติจะมีการเปลี่ยนแปลง ตามท่ีคณะสงฆ์
เรียกร้อง โดยอาจจะบญั ญตั ิไวใ้ นมาตรา ๒ ที่แตเ่ ดิมบญั ญตั ิวา่ “ พระมหากษตั ริย์ ทรงเป็น
พุทธมามกะและเป็นอคั รศาสนูปถมั ภก ” เป็น “ ประเทศไทยมีพระพทุ ธศาสนาเป็นศาสนาประจา
ชาติ พระมหากษตั ริย์ ทรงเป็นพทุ ธมามกะและเป็นอคั รศาสนูปถมั ภก ก็ได้ ” พระเทพวสิ ุทธิกวี
กล่าวและวา่ สาหรับในวนั ที่ ๑๗ เม.ย. เวลา ๑๐.๐๐ น. พระธรรมกิตติเมธีกรรมการมหาเถร ฯ จะ
อา่ นแถลงการณ์เรียกร้องและยนื่ หนงั สือถึง น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการร่าง
รัฐธรรมนูญดว้ ย
๕๙
คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
๑. ข่าวท่ียกมาใหอ้ ่าน ผเู้ ขียนมีจุดมุ่งหมายอยา่ งไร
.......................................................................................................................................
๒. ข่าวน้ีตอ้ งการสื่อถึงใคร ในเรื่องอะไร
.......................................................................................................................................
๓. ข่าวที่ยกมาใหอ้ ่านมีความน่าเช่ือถือหรือไม่ เพราะอะไร
.......................................................................................................................................
๔. “ ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจาชาติ พระมหากษตั ริย์ ทรง
เป็นพทุ ธมามกะและเป็นอคั รศาสนูปถมั ภก กไ็ ด้ ” นกั เรียนเห็นดว้ ยกบั คาพูดน้ี
หรือไม่ เพราะเหตุใด
.......................................................................................................................................
๕. ภาษาในข่าวท่ีมีส่วนบกพร่องคืออะไร
.......................................................................................................................................
๖. ถา้ มีการเปล่ียนแปลงดงั กล่าวตามข่าวน้ี จะมีผลดีหรือเสียอยา่ งไร
.......................................................................................................................................
.......................................................................................................................................
๗. บอกความหมายของคาศพั ทต์ ่อไปน้ี
อคั รศาสนูปถมั ภก หมายถึง..........................................................................
พทุ ธมามกะ หมายถึง ...................................................................................
๖๐
ใบงาน ๒ (การบ้าน)
การเขียนเร่ืองจากภาพ
ชื่อ…………………………………………………….เลขที่….. ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๕
คาชี้แจง นกั เรียนเขียนเร่ืองจากภาพ ตามความเขา้ ใจ
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………….……………………………………
…………………………………………………………………………………………….……………
…………………………………………………………………………………………………………
………….………………………………………………………………………………………………
………………………………….………………………………………………………………………
………………………………………………………….………………………………………………
………………………………………………………………………………….………………………
………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
๖๑
เฉลยใบงาน ๑
ชื่อ…………………………………………………….เลขท่ี….. ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๕
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนอา่ นข่าวแลว้ คิดวเิ คราะห์แลว้ ตอบคาถาม
๑. ข่าวที่ยกมาใหอ้ ่าน ผเู้ ขียนมีจุดมุ่งหมายอยา่ งไร ผใู้ หข้ า่ วคือใคร
พระเทพวสิ ุทธิกวี
๒. ขา่ วน้ีตอ้ งการสื่อถึงใคร ในเรื่องอะไร
ชาวพทุ ธ การใหพ้ ุทธศาสนาเป็ นศาสนาประจาชาติ
๓. ข่าวที่ยกมาใหอ้ า่ นมีความน่าเช่ือถือหรือไม่ เพราะอะไร
ยงั ไมน่ ่าเชื่อถือเป็ นการแจง้ เดาเหตุการณ์ท่ีจะเกิดข้ึน ในวนั จริงอาจเปลี่ยนแปลง
๔. “ ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจาชาติ พระมหากษตั ริย์ ทรงเป็ นพุทธมามกะ
และเป็นอคั รศาสนูปถมั ภก ” นกั เรียนเห็นดว้ ยกบั คาพูดน้ีหรือไม่ เพราะเหตุใด
เห็นดว้ ยเพราะยงั ไมม่ ีการบญั ญตั ิศาสนาประจาชาติ
๕. ภาษาในขา่ วที่มีส่วนบกพร่องคืออะไร ควรปรับปรุงอยา่ งไร
มี เช่น ต้งั แตว่ นั ท่ี ๑๖ – ๑๙ เม.ย. ไมม่ ีพ.ศ. บอกชดั เจน, ไฟเขียวเตม็ ที่ ไมค่ วรเพราะเป็น
ภาษาพูดแลว้ นามาเป็นภาษาเขียน
๖. ถา้ มีการเปล่ียนแปลงดงั กล่าวตามขา่ วน้ี จะมีผลดีหรือเสียอยา่ งไร
จะทาใหเ้ กิดผลดีเพราะพทุ ธศาสนาจะไดเ้ ป็นศาสนาประจาชาติ ที่ชดั เจน ผลเสีย
ศาสนาอื่น ๆ ในเมืองไทยจะไมพ่ อใจ
๗. บอกความหมายของคาศพั ทต์ ่อไปน้ี
อคั รศาสนูปถมั ภก หมายถึง ผทู้ ะนุบารุงศาสนาที่ยง่ิ ใหญ่
พทุ ธมามกะ หมายถึง ผปู้ ระกาศตนวา่ นบั ถือพระนบั ถือศาสนาพุทธ
เฉลยใบงาน ๒ (การบ้าน)
(อย่ใู นดุลพนิ ิจของครูผ้สู อน )
แบบบนั ทึกคะแนนพฤตกิ รรมการอ่านในใจ ๖๒
เกณฑ์การให้คะแนน ดี ให้ ๒ พอใช้ ให้ ๑ ควรปรับปรุง ให้ ๐ หมายเหตุ
เกณฑ์การประเมนิ การผา่ นการประเมินทุกรายการตอ้ งได้ ๑ ข้ึนไป
รายการประเมิน
เลขท่ี ชื่อ - สกุล การวาง/จับหนัง ืสอหนัง
ูถีมกสต้มาองิธในการ ่อาน
การวางตาในการ ่อาน
ไม่ ้ีชตามตัวอักษร ี่ท ่อาน
ไม่สายหน้าไปมาขณะ ่อาน
คะแนนรวม ๑๐ คะแนน
ส ุรป ่ผาน / ไ ่ม ่ผาน
๑ เดก็ หญิงวราภรณ์ หดั เอยี ด
๒ เดก็ หญงิ ภคั จริ า เต๊ะยอ่
๓ เด็กชายธีรกร แกว้ จติ ตะ
๔ เดก็ หญิงอนศุ รา แก้วนพรตั น์
๕ เด็กชายซาอุดี ราชการ
๖ เด็กชายธนวัฒ บินดเุ หลม็
๗ เด็กชายศรัณ ละซอ
๘ เด็กชายฮัสซาน ตเิ อยี ดยอ่
๙ เดก็ ชายอัจฉริยะ เมาะสนิ
๑๐ เดก็ หญิงอจั ฉารญี า เมาะสนิ
๑๑ เดก็ หญิงนิชานนั ท์ ดารากัย
๑๒ เด็กหญงิ นิสรนี หมี เกะ
๑๓ เดก็ หญงิ อัสมา แวยาเงา๊ ะ
๑๔ เด็กหญงิ ขวญั จริ า ติเอียดยอ่
๑๕ เด็กชายพายุ สุวรรณโณ
๑๖ เด็กชายสิทธโิ ชค สุวรรณโน
๖๓
แบบประเมินพฤติกรรมและผลงานระหว่างเรียน
ความหมาย
๑. ต้งั ใจ หมายถึง ความมานะ อดทนทางานจนเสร็จ ( A )
๒. ความร่วมมือ หมายถึง สมาชิกในกลุ่มใหค้ วามร่วมมือทางานจนเสร็จ ( A )
๓. ความมีวินยั หมายถึง ผลงาน หรือการทางานเป็ นระบบระเบียบเรียบร้อย สะอาด
สวยงาม และไดเ้ น้ือหาครบถว้ น ทนั หรือตรงตอ่ เวลา ( A,K )
๔. คุณภาพของผลงาน หมายถึง ผลงานเรียบร้อย สวยงาม เน้ือหาครบถว้ น ภาษาท่ี
ใชเ้ หมาะสม (P – Product, K)
๕. การนาเสนอผลงาน หมายถึง การพูดอธิบายนาเสนอผลงานไดต้ ามลาดบั และ
เน้ือหาถูกตอ้ ง ( P – Process, K )
เกณฑ์การประเมิน
๔ หมายถึง ทาไดด้ ีมาก ๓ หมายถึง ทาไดด้ ี
๒ หมายถึง ทาไดพ้ อใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง
ช่ือ-สกลุ ความต้งั ใจ ความร่วมมือ ความมีวนิ ยั คุณภาพของ การนาเสนอ รวม
(๔) (๔) (๔) ผลงาน (๔) ผลงาน (๔) (๒๐)
เด็กหญงิ วราภรณ์ หดั เอยี ด
เดก็ หญงิ ภัคจริ า เต๊ะยอ่
เดก็ ชายธรี กร แกว้ จติ ตะ
เดก็ หญิงอนศุ รา แกว้ นพรัตน์
เด็กชายซาอดุ ี ราชการ
เด็กชายธนวัฒ บินดุเหลม็
เด็กชายศรณั ละซอ
เด็กชายฮสั ซาน ติเอยี ดยอ่
เด็กชายอจั ฉริยะ เมาะสนิ
เด็กหญงิ อจั ฉารีญา เมาะสนิ
เด็กหญงิ นชิ านันท์ ดารากยั
เดก็ หญงิ นสิ รีน หมี เกะ
เด็กหญงิ อสั มา แวยาเง๊าะ
เดก็ หญิงขวญั จริ า ติเอียดย่อ
เด็กชายพายุ สวุ รรณโณ
เด็กชายสิทธโิ ชค สุวรรณโน
๖๔
แบบประเมินชิ้นงาน
รายช่ือสมาชิกกลุ่ม
๑…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน…………..
๒…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน…………..
๓…………………………………….เลขท…ี่ …………ช้ัน…………..
๔…………………………………….เลขท…ี่ …………ช้ัน…………..
๕…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน…………..
๖.…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน………….
ชิ้นงานเร่ือง……………………..
เกณฑ์การประเมนิ คะแนน คะแนนทไี่ ด้
๑๒๓๔๕
๑. รูปแบบถูกตอ้ ง
๒. จดั รูปแบบน่าสนใจ สวยงาม
๓. ความครบถว้ นในเน้ือหาสาระที่เสนอ
๔. การใชค้ าเหมาะสม
๕. การสะกดคาถูกตอ้ ง
ลงชื่อ ผปู้ ระเมิน
(นางสาวอภิชญา ญาดาพชั ร์)
ตาแหน่ง ครู โรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
๖๕
เกณฑ์การให้คะแนนกระบวนการทางานกลุ่ม
ประเด็นการประเมิน ๓ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน / ระดบั
๑. การกาหนด – สมาชิกทุกคนมีส่วน ๒๑
เป้าหมายร่วมกนั ร่วมในการกาหนด
เป้าหมายการทางาน สมาชิกส่วนใหญม่ ี สมาชิกส่วนนอ้ ยมี
๒. การแบ่งหนา้ ที่ อยา่ งชดั เจน ส่วนร่วมในการ ส่วนร่วมในการกาหนด
รับผดิ ชอบ กระจายงานไดอ้ ยา่ ง กาหนดเป้าหมายใน เป้าหมายในการทางาน
ทว่ั ถึงและตรงตาม การทางาน
๓. การปฏิบตั ิหนา้ ที่ ความสามารถของ กระจายงานไดท้ ว่ั ถึง กระจายงานไม่ทวั่ ถึง
ที่ไดร้ ับมอบหมาย สมาชิกทุกคน แตไ่ มต่ รงตาม
ทางานไดส้ าเร็จตาม ความสามารถของ
๔. การประเมินและ เป้าหมายท่ีไดร้ ับ สมาชิก
ปรับปรุงผลงาน มอบหมาย ตาม ทางานไดส้ าเร็จตาม ทางานไมส่ าเร็จตาม
ระยะเวลาท่ีกาหนด เป้าหมายแต่ชา้ กวา่ เป้าหมาย
สมาชิกทุกคนร่วม เวลาท่ีกาหนด
ปรึกษาหารือ ติดตาม
ตรวจสอบและ สมาชิกบางส่วนมี สมาชิกบางส่วนไมม่ ีส่วน
ปรับปรุ งผลงานเป็ น ส่วนร่วมปรึกษาหารือ ร่วมปรึกษาหารือและไม่
ระยะ แตไ่ ม่ช่วยปรับปรุง ช่วยปรับปรุงผลงาน
ผลงาน
แบบประเมนิ กระบวนการทางานกล่มุ ๖๖
ที่ รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คิดเห็น
๓๒๑
๑. การกาหนดเป้าหมายร่วมกนั
๒. การแบ่งหนา้ ที่รับผดิ ชอบ
๓. การปฏิบตั ิตามหนา้ ท่ีที่ไดร้ ับมอบหมาย
๔. การประเมินและปรับปรุงผลงาน
รวม
ลงชื่อ ผปู้ ระเมิน
(นางสาวอภิชญา ญาดาพชั ร์)
ตาแหน่ง ครู โรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
เกณฑก์ ารประเมิน
๑๑ – ๑๒ = ดีมาก
๘ – ๑๐ = ดี
๕ – ๗ = พอใช้
๐ – ๔ = ปรับปรุง
แผนการจดั การเรียนรู้ ๖๗
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๕
หน่วยท่ี ๑๓ ก้าวให้ไกล ไปให้ถึง เวลาเรียน ๖ ช่ัวโมง
แผนการเรียนรู้ท่ี ๕ เร่ือง บันทกึ รักการอ่าน เวลาเรียน ๑ ชั่วโมง
สอนวนั ท่ี.................เดือน.......................พ.ศ..................
มาตรฐานการเรียนรู้
ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปตดั สินใจแกป้ ัญหาในการ
ดาเนิน ชีวติ และมีนิสยั รักการอา่ น
ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ
ตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ
ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณค่าและ
นามา ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
ตวั ชี้วดั
ท ๑.๑ ป.๕/๗ อา่ นหนงั สือที่มีคุณคา่ ตามความสนใจอยา่ งสม่าเสมอและแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกบั เร่ืองท่ีอา่ น
ท ๑.๑ ป.๕/๘ มีมารยาทในการอา่ น
ท ๕.๑ ป.๕/๒ ระบุความรู้และขอ้ คิดจากการอา่ นวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีสามารถนาไปใชใ้ น
ชีวติ จริง
สาระสาคญั
การอ่านมีจุดมุ่งหมายแตกต่างกนั หลายอย่าง เช่น เพ่ือหาความรู้ เพ่ือศึกษาคน้ ควา้
เพื่อความบนั เทิง ฯลฯในการอ่านน้นั เมื่อเวลาผา่ นไปความเขา้ ใจและความจาก็อาจะลืมเลือนไปได้
ดังน้ัน ควรมีการจดบันทึกเรื่องที่อ่านเพ่ือกันลืม และเป็ นการเก็บรวบรวมข้อมูล เหตุการณ์
ตลอดจนส่ิงที่ประทบั ใจไว้
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
๖๘
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. มีวนิ ยั
๒. ใฝ่ เรียนรู้
๓. อยอู่ ยา่ งพอเพียง
๔. มุ่งมน่ั ในการทางาน
๕. รักความเป็นไทย
๖. มีจิตสาธารณะ
สาระการเรียนรู้
บทเรียนเร่ือง “ กา้ วใหไ้ กล ไปใหถ้ ึง ”
กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. นกั เรียนเล่นเกม “คู่อยไู่ หน”
๒. นาตวั อยา่ งหนงั สือมาเป็ นตวั อยา่ งนิทาน หรืออ่ืนๆให้นกั เรียนไดด้ ู แลว้ สนทนาเร่ือง
ข้นั ตอนการอา่ น
-เม่ืออ่านเสร็จนกั เรียนมีข้นั ตอน/วธิ ีการทาอยา่ งไรจึงจะไมล่ ืม
- ถา้ มีการบนั ทึกนกั เรียนจะมีข้นั ตอน/วธิ ีการทาอยา่ งไร
โดยครูถามนาแลว้ นกั เรียนตอบ
๓. แบ่งนกั เรียนออกเป็น ๖ กลุ่ม โดยคละความสามารถทางภาษาไทย ( เก่ง ปานกลาง
อ่อน ) แลว้ ใหเ้ ลือกประธาน และเลขานุการ ครูไดช้ ้ีแจงบทบาทหนา้ ท่ีของประธาน สมาชิก และ
เลขานุการ ใหน้ กั เรียนทุกคนเขา้ ใจ ในการแบ่งกลุ่มไดด้ าเนินการดงั น้ี
ระดบั ความสามารถ กลุ่มที่ หมายเหตุ
๑ ๒๓ ๔๕ ๖
เก่ง ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖
เก่ง ๑๒ ๑๑ ๑๐ ๙ ๘ ๗
ปานกลาง ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘
ปานกลาง ๒๔ ๒๓ ๒๒ ๒๑ ๒๐ ๑๙
ออ่ น ๒๕ ๒๖ ๒๗ ๒๘ ๒๙ ๓๐
ออ่ น ๒๖ ๓๕ ๓๔ ๓๓ ๓๒ ๓๑
อ่อน ๓๗ ๓๘ ๓๙ ๔๐
ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มอ่านใบความรู้ เรื่อง การเขียนบนั ทึกจากการอ่าน
๔. แตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอความรู้ เรื่อง การเขียนบนั ทึกจากการอา่ น
๖๙
๕. ครูนาตวั อยา่ งนิทาน มาใหน้ กั เรียนสรุปเรื่องและเขียนบนั ทึก
๖. ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปบทเรียน
๗. นกั เรียนทาใบงาน
ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
๑. ตวั อยา่ งหนงั สือ นิทาน สานวนสุภาษิต คาพงั เพย
๒. ใบงาน
๓. หนงั สือแบบเรียนภาษาไทย ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๕
๔. แบบฝึกหดั พฒั นาทกั ษะทางภาษา ชุดภาษาเพือ่ ชีวติ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๕
กระบวนการวดั ผลและประเมนิ ผล
๑.วธิ ีการ
๑.๑ สังเกต
๑.๑.๑ การฟัง การพดู
๑.๑.๒ การอ่าน
๑.๑.๓ การตอบคาถาม
๑.๑.๔ การรายงาน
๑.๑.๕ การร่วมกิจกรรม
๑.๒ ตรวจผลงาน
๑.๒.๑ ใบงานที่หดั
๑.๒.๒ ใบงานที่
๑.๒.๓ แบบทดสอบก่อนการเรียนรู้
๒.เคร่ืองมือการวดั และประเมินผล
๒.๑ ใบงานที่หดั
๒.๒ แบบทดสอบก่อนการเรียนรู้
๒.๓ ใบงานที่
๒.๔ แบบสงั เกตพฤติกรรม
๓.เกณฑ์การวดั ผลและประเมนิ ผล
ใชก้ ารผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ข้ึนไป
๗๐
บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
ผลการจัดการเรียนรู้ตามตัวชี้วดั
จานวนนกั เรียนท้งั หมด ......... คน
– ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ดี ........คน คิดเป็นร้อยละ ....................
– ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ปานกลาง .......คน คิดเป็ นร้อยละ ..........
– ไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ปรับปรุง .......คน คิดเป็นร้อยละ ..........
กจิ กรรมเสนอแนะ
ควรมอบหมายใหน้ กั เรียนอา่ นขา่ วมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียนหรือจดั ป้ายนิเทศ
……………………………………………………………………………………………………….…
….............................................................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………….…
….............................................................................................................................................................
ความเห็นของผ้อู านวยการโรงเรียน
……………………………………………………………………………………………………….…
….............................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
.....................……………………………………………………………………………………………
………….……........................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(นายธราเทพ แกว้ เกาะสะบา้ )
ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
............./......................../..............
๗๑
บนั ทกึ ผลหลงั กระบวนการจัดการเรียนรู้
ผลการเรียนรู้ที่เกิดข้ึนกบั ผูเ้ รียน
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
…………………….................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
ปัญหา / อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
ลงชื่อ ……………………………….…ผสู้ อน
(นางสาวอภิชญา ญาดาพชั ร์)
ตาแหน่ง ครู โรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
….…../…………./………….
๗๒
เกม “คู่อย่ไู หน”
นกั เรียนเล่นเกม “คู่อยไู่ หน” เพอื่ ใหน้ กั เรียนสามารถจบั คู่สานวนภาษาและความหมายได้
ถูกตอ้ งอนั จะเป็นการนามาไปสู่การรวบรวมและหาความหมายของสานวนใหถ้ ูกตอ้ งและนาไปสู่การ
แตง่ ประโยคตอ่ ไป
วตั ถุประสงค์
เพ่ือใหน้ กั เรียนสามารถบอกชื่อสานวนภาษาและความหมายสานวนน้นั ๆ ใหต้ รงกนั
อปุ กรณ์
มีบตั รสานวนภาษาและความหมาย นกหวดี นาฬิกาจบั เวลา
วธิ ีการเล่นเกม มีดงั นี้
๑. ครูเตรียมบตั รสานวนภาษาชุดที่ ๑ เขียนช่ือสานวนภาษาตา่ งๆ เช่น เข็นครกข้ึนภูเขา ฝน
ทง่ั ใหเ้ ป็นเขม็ น้าพ่งึ เรื่อเสือพ่ึงป่ า คนละไมค้ นละมือ
๒. ครูเตรียมบตั รชุดที่ ๒ เขียนความหมายของสานวนจากขอ้ ท่ี ๑ เช่น ใจดี ใจดา
๓. ใหผ้ เู้ ล่นท้งั หมดนง่ั เป็นวงกลม เริ่มการเล่น โดยครูแจกบตั รท่ีทาใหน้ กั เรียนคนละบตั รเมื่อ
แจกใหน้ กั เรียนแต่ละคนถือบตั รคาคว่าไวก้ ่อน เมื่อใหส้ ัญญาณเร่ิมเล่น ผเู้ ล่นแตล่ ะคนจะพลิกบตั ร ดู
วา่ ตนไดร้ ับสานวน หรือความหมายอะไรในบตั ร จากน้นั เริ่มเดินไปหาคู่ของตนให้เร็วที่สุด
๔. ผทู้ ่ีหาคู่ไดช้ า้ สุดหรือจบั คู่ไมถ่ ูกตอ้ งอาจให้รางวลั โดยวิธีการสนุก โดย ใหร้ าวง ร้องเพลง
สร้างสรรค์ ไม่ไดเ้ ดก็ รู้สึกกดดนั
๗๓
ใบความรู้
เร่ือง การเขียนบนั ทึกจากการอ่าน
การอา่ นมีจุดมุ่งหมายแตกต่างกนั หลายอยา่ ง เช่น เพ่ือหาความรู้ เพื่อศึกษาคน้ ควา้ เพือ่ ความ
บนั เทิง ฯลฯ
ในการอ่านน้นั เม่ือเวลาผ่านไปความเขา้ ใจและความจาก็อาจะลืมเลือนไปได้ ดงั น้นั ควรมี
การจดบันทึกเร่ืองท่ีอ่านเพื่อกันลืม และเป็ นการเก็บรวบรวมข้อมูล เหตุการณ์ ตลอดจนส่ิงท่ี
ประทบั ใจไว้ นอกจากน้ียงั เป็นการฝึกนิสยั รักการอ่าน และการเขียนอีกดว้ ย วธิ ีการเขียนบนั ทึก ควร
ปฏิบตั ิดงั น้ี
๑. ระบุวนั เดือน ปี ที่บนั ทึก
๒. บอกที่มาวา่ บนั ทึกจากการอ่านเรื่องอะไร หนงั สืออะไร หนา้ ท่ีเท่าไร สานกั พิมพอ์ ะไร
ใครเป็นผแู้ ต่ง / ผแู้ ปล / ผเู้ รียบเรียง
๓. บนั ทึกแต่ใจความสาคญั หลงั จากอา่ นจบแลว้ ๑ - ๒ เที่ยว
๔. บนั ทึกเป็นขอ้ ความหรือเป็นแผนภาพก็ได้
๕. ใชส้ านวนภาษาของผบู้ นั ทึกเอง
๖. สามารถเพิ่มเติมความคิดเห็นลงในบนั ทึกของตนได้
ตวั อย่าง
อา่ นนิทานเร่ือง นกเอยี้ งเลยี้ งหลาน
แม่มะลิกระบือเผือกตกลูกเป็ นเพศผูช้ ่ือมะขวิด เมื่อตอ้ งออกไปทางาน แม่มะลิไดฝ้ ากให้ลุง
เอ้ียงช่วยเล้ียงมะขวดิ
ลุงเอ้ียงเล้ียงมะขวดิ เหมือนลูกหลาน ลุงเอ้ียงพามะขวิดไปกินหญา้ แลว้ สอนให้กินส่วนยอด
ใบ อยา่ ดึงรากข้ึนมา และใหก้ ินเป็นแถบ ๆ ไป เพือ่ หญา้ จะไดแ้ ตกใบออ่ นใหก้ ินไดต้ ลอดปี
ตอนกลางวนั ลุงเอ้ียงพามะขวดิ ไปวง่ิ ออกกาลงั กายที่ชายป่ า มะขวดิ นึกสนุกวง่ิ ไปเหยยี บที่อยูข่ องพวก
แย้ ลุงเอ้ียงจึงลงโทษดว้ ยการจิกจมูกมะขวิดและให้ขอโทษพวกแย้ แลว้ จึงพามะขวิดไปอาบน้าแช่
ปลกั โคลนเพอื่ ใหค้ ลายร้อน กาจดั แมลงท่ีผวิ หนงั และทาใหผ้ วิ หนงั ชุ่มช้ืนเป็นมนั
ตอนบ่ายแดดร้อนลุงเอ้ียงพามะขวิดไปพกั ผ่อนใตร้ ่มไมใ้ หญ่ ลุงเยงเล่านิทานเรื่องทรพีซ่ึง
เป็นบรรพบุรุษของมะขวดิ ที่ถูกแมท่ ิ้งไวใ้ นถ้าดว้ ยความจาเป็ นก่อนจะไป แมไ่ ดฝ้ ากทรพีไวก้ บั เทวดา
๖ องค์ เทวดาสงสารจึงคอยดูแลคุม้ ครองทรพีใหเ้ ติบโตแขง็ แรง แต่ทรพีไม่มีใครอบรมส่ังสอนส่ิงที่
ถูกตอ้ งให้ เขาจึงทาผดิ อยา่ งใหอ้ ภยั ไมไ่ ด้
มะขวิดไดฟ้ ังนิทานแล้วจึงขอบคุณลุงเอ้ียงท่ีอบรมสั่งสอนให้ทาดี และหวงั ว่าเทวดาน่าจะ
คุม้ ครองเขาบา้ ง
๗๔
บนั ทึกการอ่าน
๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๔
เรื่อง นกเอ้ียงเล้ียงหลาน จากหนงั สือนิทานเร่ือง นกเอ้ียงเล้ียงหลาน หนา้ ท่ี ๑ - ๖
สานกั พมิ พ์ คมคา ผเู้ รียบเรียง ละเอียด สดคมขา
กระบือตวั เมียช่ือมะลิ มีลูกช่ือมะขวิด เมื่อแม่ตอ้ งไปทางานไดฝ้ ากลุงเอ้ียงซ่ึงเป็ น
นกช่วยดูแล ลุงเอ้ียงเล้ียงมะขวิดอยา่ งดี เช่น พาไปกินหญา้ ไปวิ่งออกกาลงั กาย อาบน้า
และกาจดั แมลง คราวหน่ึงมะขวิดนึกสนุกไปเหยียบท่ีอยูข่ องพวกเย้ ลุงเอ้ียงจึงลงโทษโดย
ให้ขอโทษพวกแย้ ขณะที่พามะขวดิ ไปพกั ผอ่ นใตร้ ่มไม้ ลุงเอ้ียงไดเ้ ล่านิทานเรื่องทรพีซ่ึงทา
ผดิ เพราะไมม่ ีใครอบรมสั่งสอน มีเพียงเทวดาที่คุม้ ครองใหเ้ ติบโตแขง็ แรง มะขวดิ ฟังนิทาน
แลว้ จึงขอบคุณลุงเอ้ียงท่ีสัง่ สอนใหท้ าดี และหวงั วา่ เทวดาน่าจะคุม้ ครองเขาบา้ ง
ลงชื่อ ภูบดี วฒุ ิวยั ผบู้ นั ทึก
๗๕
ใบงาน
ชื่อ.......................................................................ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๕ เลขที่..............
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนอา่ นเรื่องแลว้ ตอบคาถามและบนั ทึกการอ่านตามแบบ
เร่ืองท่ี เทพารักษ์กบั คนตดั ต้นไม้
คร้ังหน่ึงนานมาแลว้ ชายชาวป่ าผหู้ น่ึง ขณะเขา้ ไปตดั ตน้ ไม้
ซ่ึงข้ึนอยรู่ ิมแม่น้าเกิดทาขวานหลดุ มือตกจมหายลงไปในน้า เน่ืองจาก
เขาวา่ ยน้าไม่เป็นและนึกเสียดายขวานคูช่ ีวติ เลยนง่ั ลงร้องไห้
เทพารักษม์ ีความเมตตาสงสารไดป้ รากฏกายข้ึนกล่าวปลอบโยน และ
ลงไปงมขวานมาคืนให้ แต่คิดอยากจะลองใจชายผนู้ ้ี คร้ังแรกจึงนา
ขวานทองข้ึนมาจากแม่น้าแลว้ ถามวา่ “ ขวานดา้ มน้ีใช่ของเจา้ หรือไม่”
“ ไม่ใช่หรอกขอรับ ขวานของขา้ พเจา้ เป็นขวานเหลก็ ธรรมดา ”
เทพารักษน์ ึกพอใจแต่ยงั คิดอยากจะทดสอบอีกคร้ัง
แสร้งดาลงไปคน้ หาในแม่น้าแลว้ โผล่ข้ึนมาพร้อมกบั ขวานเงินในมือ
“ ขวานดา้ มน้ีใช่ของเจา้ หรือไม่ ” “ ไม่ใช่หรอกท่าน ขวานของ
ขา้ พเจา้ เป็นขวานเหลก็ ธรรมดา ” เม่ือเทพารักษน์ าขวานเหลก็ มาคืน
ใหก้ บั ชายตดั ฟื น ท่านไดย้ กขวานเงินและขวานทองใหด้ ว้ ยเพื่อเป็น
รางวลั ในความซื่อสตั ย์
คร้ันเพ่ือนของชายตดั ฟื นทราบเร่ือง จึงทาทีออกไป
ตดั ฟื นแลว้ นงั่ ร้องไห้ คร่าครวญหลงั จากแกลง้ ทาขวานหล่นใน
แม่น้า เม่ือเทพารักษป์ รากฏตวั ข้ึนปลอบโยนและลองใจโดยงมขวาน
ทองมาส่งให้ ชายผนู้ ้นั เกิดความโลภรับบอกวา่ เป็นขวานของตน
เทพารักษเ์ ห็นวา่ ชายผนู้ ้ีกล่าวเทจ็ จึงแสดงฤทธ์ิหายตวั ไปทนั ที ชายผไู้ ร้
ความซื่อสตั ยน์ อกจากไมต่ไอดนทข้ ี่ว๑านแบเงบินบแนั ลทะกึ กขาวราอน่านทองเป็นรางวลั แมแ้ ต่
ขวานเหลก็ ของตนกจ็ มอยใู่ นแม่น้าน้นั เอง
๗๖
วนั ................เดือน..................... ๒๕๕๔
เร่ือง .......................... จากหนงั สือ...................... หนา้ ที่ .................
สานกั พิมพ์ .................... ผเู้ รียบเรียง ..............................................
……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………….………………
……………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………
ลงชื่อ ...................................ผบู้ นั ทึก
๗๗
ตอนท่ี ๒ คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนสรุปนิทานเรื่องเป็นแผนที่ความคิดวา่ เป็ นเรื่องของใคร
ทาอะไร ที่ไหน เมื่อไร อยา่ งไรและใหข้ อ้ คิดอะไร
ชายชาวป่ า
ชายตดั ฟื น
เทพารักษ์กับ
คนตัดต้นไม้
ริมแม่นา้ ท่ปี ่ า
แห่งหน่ึง
๗๘
เฉลยใบงาน
ตอนท่ี ๑ (ครูใชด้ ุลพนิ ิจ)
ตอนที่ ๒
คุณธรรม ชายชาวป่ า ชายชาวป่ าทาขวานตก
ความซ่ือสัตย์ ชายตัดฟื น นา้
เทพารักษ์กับ ชายตดั ฟื นแกล้งทา
คนตดั ต้นไม้ ขวานตกนา้
ชายชาวป่ าทาขวานตกนา้ ริมแม่นา้ ท่ปี ่ า
เทพารักษ์ช่วยเหลอื ได้ขวานคนื แห่งหน่ึง
ชายตัดฟื นแกล้งทาขวานตกนา้
เทพารักษ์ไม่ช่วยเหลอื
แบบบนั ทึกคะแนนพฤตกิ รรมการอ่านในใจ ๗๙
เกณฑ์การให้คะแนน ดี ให้ ๒ พอใช้ ให้ ๑ ควรปรับปรุง ให้ ๐ หมายเหตุ
เกณฑ์การประเมนิ การผา่ นการประเมินทุกรายการตอ้ งได้ ๑ ข้ึนไป
รายการประเมิน
เลขท่ี ชื่อ - สกลุ การวาง/จับหนัง ืสอหนัง
ูถีมกสต้มาองิธในการ ่อาน
การวางตาในการ ่อาน
ไม่ ้ีชตามตัวอักษร ี่ท ่อาน
ไม่สายหน้าไปมาขณะ ่อาน
คะแนนรวม ๑๐ คะแนน
ส ุรป ่ผาน / ไ ่ม ่ผาน
๑ เดก็ หญงิ วราภรณ์ หดั เอียด
๒ เดก็ หญิงภัคจริ า เต๊ะย่อ
๓ เด็กชายธรี กร แกว้ จติ ตะ
๔ เดก็ หญิงอนุศรา แกว้ นพรตั น์
๕ เด็กชายซาอุดี ราชการ
๖ เด็กชายธนวัฒ บนิ ดเุ หลม็
๗ เด็กชายศรัณ ละซอ
๘ เด็กชายฮัสซาน ตเิ อยี ดยอ่
๙ เดก็ ชายอจั ฉริยะ เมาะสนิ
๑๐ เดก็ หญิงอัจฉารีญา เมาะสนิ
๑๑ เดก็ หญิงนชิ านันท์ ดารากยั
๑๒ เด็กหญงิ นิสรีน หีมเกะ
๑๓ เดก็ หญิงอัสมา แวยาเง๊าะ
๑๔ เด็กหญิงขวญั จริ า ติเอยี ดยอ่
๑๕ เด็กชายพายุ สุวรรณโณ
๑๖ เด็กชายสิทธิโชค สวุ รรณโน
๘๐
แบบประเมินพฤติกรรมและผลงานระหว่างเรียน
ความหมาย
๑. ต้งั ใจ หมายถึง ความมานะ อดทนทางานจนเสร็จ ( A )
๒. ความร่วมมือ หมายถึง สมาชิกในกลุ่มใหค้ วามร่วมมือทางานจนเสร็จ ( A )
๓. ความมีวินยั หมายถึง ผลงาน หรือการทางานเป็ นระบบระเบียบเรียบร้อย สะอาด
สวยงาม และไดเ้ น้ือหาครบถว้ น ทนั หรือตรงตอ่ เวลา ( A,K )
๔. คุณภาพของผลงาน หมายถึง ผลงานเรียบร้อย สวยงาม เน้ือหาครบถว้ น ภาษาท่ี
ใชเ้ หมาะสม (P – Product, K)
๕. การนาเสนอผลงาน หมายถึง การพูดอธิบายนาเสนอผลงานไดต้ ามลาดบั และ
เน้ือหาถูกตอ้ ง ( P – Process, K )
เกณฑ์การประเมิน
๔ หมายถึง ทาไดด้ ีมาก ๓ หมายถึง ทาไดด้ ี
๒ หมายถึง ทาไดพ้ อใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง
ช่ือ-สกลุ ความต้งั ใจ ความร่วมมือ ความมีวนิ ยั คุณภาพของ การนาเสนอ รวม
(๔) (๔) (๔) ผลงาน (๔) ผลงาน (๔) (๒๐)
เด็กหญงิ วราภรณ์ หดั เอยี ด
เดก็ หญงิ ภัคจริ า เต๊ะยอ่
เดก็ ชายธรี กร แกว้ จติ ตะ
เดก็ หญิงอนศุ รา แกว้ นพรัตน์
เด็กชายซาอดุ ี ราชการ
เด็กชายธนวัฒ บินดุเหลม็
เด็กชายศรณั ละซอ
เด็กชายฮสั ซาน ติเอยี ดยอ่
เด็กชายอจั ฉริยะ เมาะสนิ
เด็กหญงิ อจั ฉารีญา เมาะสนิ
เด็กหญงิ นชิ านันท์ ดารากยั
เดก็ หญงิ นสิ รีน หมี เกะ
เด็กหญงิ อสั มา แวยาเง๊าะ
เดก็ หญิงขวญั จริ า ติเอียดย่อ
เด็กชายพายุ สวุ รรณโณ
เด็กชายสิทธโิ ชค สุวรรณโน
๘๑
แบบประเมินชิ้นงาน
รายช่ือสมาชิกกลุ่ม
๑…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน…………..
๒…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน…………..
๓…………………………………….เลขท…ี่ …………ช้ัน…………..
๔…………………………………….เลขท…ี่ …………ช้ัน…………..
๕…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน…………..
๖.…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน………….
ชิ้นงานเร่ือง……………………..
เกณฑ์การประเมนิ คะแนน คะแนนทไี่ ด้
๑๒๓๔๕
๑. รูปแบบถูกตอ้ ง
๒. จดั รูปแบบน่าสนใจ สวยงาม
๓. ความครบถว้ นในเน้ือหาสาระที่เสนอ
๔. การใชค้ าเหมาะสม
๕. การสะกดคาถูกตอ้ ง
ลงชื่อ ผปู้ ระเมิน
(นางสาวอภิชญา ญาดาพชั ร์)
ตาแหน่ง ครู โรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
๘๒
เกณฑ์การให้คะแนนกระบวนการทางานกลุ่ม
ประเด็นการประเมิน ๓ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน / ระดบั
๑. การกาหนด – สมาชิกทุกคนมีส่วน ๒๑
เป้าหมายร่วมกนั ร่วมในการกาหนด
เป้าหมายการทางาน สมาชิกส่วนใหญม่ ี สมาชิกส่วนนอ้ ยมี
๒. การแบ่งหนา้ ที่ อยา่ งชดั เจน ส่วนร่วมในการ ส่วนร่วมในการกาหนด
รับผดิ ชอบ กระจายงานไดอ้ ยา่ ง กาหนดเป้าหมายใน เป้าหมายในการทางาน
ทว่ั ถึงและตรงตาม การทางาน
๓. การปฏิบตั ิหนา้ ที่ ความสามารถของ กระจายงานไดท้ ว่ั ถึง กระจายงานไม่ทวั่ ถึง
ที่ไดร้ ับมอบหมาย สมาชิกทุกคน แต่ไม่ตรงตาม
ทางานไดส้ าเร็จตาม ความสามารถของ
๔. การประเมินและ เป้าหมายท่ีไดร้ ับ สมาชิก
ปรับปรุงผลงาน มอบหมาย ตาม ทางานไดส้ าเร็จตาม ทางานไมส่ าเร็จตาม
ระยะเวลาที่กาหนด เป้าหมายแต่ชา้ กวา่ เป้าหมาย
สมาชิกทุกคนร่วม เวลาท่ีกาหนด
ปรึกษาหารือ ติดตาม
ตรวจสอบและ สมาชิกบางส่วนมี สมาชิกบางส่วนไมม่ ีส่วน
ปรับปรุ งผลงานเป็ น ส่วนร่วมปรึกษาหารือ ร่วมปรึกษาหารือและไม่
ระยะ แต่ไม่ช่วยปรับปรุง ช่วยปรับปรุงผลงาน
ผลงาน
แบบประเมนิ กระบวนการทางานกล่มุ ๘๓
ที่ รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คิดเห็น
๓๒๑
๑. การกาหนดเป้าหมายร่วมกนั
๒. การแบ่งหนา้ ที่รับผดิ ชอบ
๓. การปฏิบตั ิตามหนา้ ท่ีที่ไดร้ ับมอบหมาย
๔. การประเมินและปรับปรุงผลงาน
รวม
ลงชื่อ ผปู้ ระเมิน
(นางสาวอภิชญา ญาดาพชั ร์)
ตาแหน่ง ครู โรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
เกณฑก์ ารประเมิน
๑๑ – ๑๒ = ดีมาก
๘ – ๑๐ = ดี
๕ – ๗ = พอใช้
๐ – ๔ = ปรับปรุง
แผนการจดั การเรียนรู้ ๘๔
กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๕
หน่วยท่ี ๑๓ ก้าวให้ไกล ไปให้ถงึ เวลาเรียน ๖ ช่ัวโมง
แผนการเรียนรู้ที่ ๖ เร่ือง อ่านดมี ีวจิ ารณญาณ เวลาเรียน ๑ ช่ัวโมง
มาตรฐานการเรียนรู้
ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพอ่ื นาไปตดั สินใจแกป้ ัญหาในการ
ดาเนิน ชีวติ และมีนิสัยรักการอ่าน
ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบ
ตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ
ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณค่า
และนามา ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
ตวั ชี้วดั
ท ๑.๑ ป.๕/๔ แยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็นจากเร่ืองท่ีอ่าน
ท ๑.๑ ป.๕/๕ วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองท่ีอา่ นเพ่อื นาไปใชใ้ นการดาเนิน
ชีวติ
ท ๒.๑ ป.๕/๑ คดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทดั และคร่ึงบรรทดั
ท ๒.๑ ป.๕/๒ เขียนส่ือสารโดยใชค้ าไดถ้ ูกตอ้ งชดั เจน และเหมาะสม
ท ๕.๑ ป.๕/๒ ระบุความรู้และขอ้ คิดจากการอา่ นวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีสามารถนาไปใชใ้ น
ชีวติ จริง
ท ๕.๑ ป.๕/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม
สาระสาคัญ
๑. การคิดวเิ คราะห์บทเรียนอยา่ งมีเหตุผล เป็นเครื่องบ่งช้ีถึงการมีทกั ษะในการฟัง
๒.การฝึ กคิดและออกมาพูดอภิปราย ข้อคิดเห็นของเราให้คนอ่ืนฟัง ถือว่าเป็ นคนท่ีมี
ความสามารถและแสดงออกอยา่ งถูกตอ้ ง
๓. การมีทกั ษะในการเขียน ทาใหค้ ดั ลายมือไดถ้ ูกตอ้ ง รวดเร็ว และสวยงาม
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
๘๕
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. มีวนิ ยั
๒. ใฝ่ เรียนรู้
๓. มุ่งมน่ั ในการทางาน
๔. รักความเป็ นไทย
๕. มีจิตสาธารณะ
สาระการเรียนรู้
บทเรียนเรื่อง “กา้ วใหไ้ กล ไปใหถ้ ึง” แสดงความคิดเห็นเชิงวเิ คราะห์และประเมินค่า
กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. สนทนากบั นกั เรียนเก่ียวกบั เรื่อง กา้ วใหไ้ กล ไปใหถ้ ึง เราไดร้ ับความรู้อะไรบา้ ง ให้
นกั เรียนแสดงความคิดเห็น
๒. นกั เรียนประเมินการกระทาของตวั ละครในเร่ืองจากแถบประโยค คาถามที่ครูแสดงให้
นกั เรียนอา่ นดงั น้ี
๑) ทาไมกริชจึงหากีฬาท่ีตรงความสามารถของตน
๒) ทาไมเดก็ บางคนจึงทางานไม่ประสบความสาเร็จ
๓) กริชประสบความสาเร็จเพราะใครบา้ งมีส่วนช่วยเหลือ
๔) กริชปฏิบตั ิอยา่ งไรจึงประสบความสาเร็จ
๕) ถา้ เป็นนกั เรียน จะปฏิบตั ิไดห้ รือไม่ อยา่ งไร
นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลงานจากการวเิ คราะห์
๓. นกั เรียนแต่ละคนสมมุติตนเองวา่ เป็นตวั ละครในเรื่อง แลว้ จะปฏิบตั ิตนอยา่ งไร โดย
เขียนตอบลงในสมุดนามาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เช่น อาจเขียนข้ึนตน้ ไดด้ งั น้ี
ถา้ หากฉนั เป็น.................................................ฉนั จะ.................................................
๔. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกนั กาหนดแนวปฏิบตั ิตน ที่ไดจ้ ากเน้ือเรื่องใน
บทเรียนเพื่อนามาใชใ้ นชีวติ ประจาวนั
๕. นกั เรียนร่วมกนั สรุปขอ้ วเิ คราะห์ท่ีไดจ้ ากความคิดเห็นของนกั เรียน
ท้งั หมด
๖.นกั เรียนเลือกขอ้ ความจากบทเรียนแลว้ นามาคดั ลายมือตวั บรรจงคร่ึงบรรทดั
๗. แสดงผลงานนกั เรียนไวบ้ นป้ายนิเทศผลงานนกั เรียน
๘. นกั เรียนทาใบงาน
๙. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั การเรียนรู้
๘๖
ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
๑. บตั รคา
๒. ฉลากแบง่ กลุ่ม
๓. ใบงาน
๔. แถบประโยคคาถาม
๕. กระเป๋ าผนงั
๖. หนงั สือแบบเรียนภาษาไทย ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๕
๗. แบบฝึกหดั พฒั นาทกั ษะทางภาษา ชุดภาษาเพื่อชีวติ
ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๕
๘. แบบทดสอบหลงั การเรียนรู้ หน่วยท่ี ๑
กระบวนการวดั ผลและประเมินผล
๑.วธิ ีการ
๑.๑ สงั เกต
๑.๑.๑ การฟัง การพูด
๑.๑.๒ การอ่าน
๑.๑.๓ การตอบคาถาม
๑.๑.๔ การรายงาน
๑.๑.๕ การร่วมกิจกรรม
๑.๒ ตรวจผลงาน
๑.๒.๑ ใบงานที่หดั
๑.๒.๒ ใบงานที่
๑.๒.๓ แบบทดสอบก่อนการเรียนรู้
๒.เครื่องมือการวดั และประเมนิ ผล
๒.๑ ใบงานที่หดั
๒.๒ แบบทดสอบก่อนการเรียนรู้
๒.๓ ใบงานที่
๒.๔ แบบสงั เกตพฤติกรรม
๓.เกณฑ์การวดั ผลและประเมินผล
ใชก้ ารผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ข้ึนไป
๘๗
บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
ผลการจัดการเรียนรู้ตามตวั ชี้วดั
จานวนนกั เรียนท้งั หมด ......... คน
– ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ดี ........คน คิดเป็นร้อยละ ....................
– ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ปานกลาง .......คน คิดเป็ นร้อยละ ..........
– ไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ปรับปรุง .......คน คิดเป็นร้อยละ ..........
กจิ กรรมเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………….…
…. . . ……………………………………………………………………………………………………
….……...………………………………………………………………………………………………
……….……............................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
ความเห็นของผ้อู านวยการโรงเรียน
……………………………………………………………………………………………………….…
….............................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
.....................……………………………………………………………………………………………
………….……........................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(นายธราเทพ แกว้ เกาะสะบา้ )
ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
............./......................../..............
๘๘
บนั ทกึ ผลหลงั กระบวนการจัดการเรียนรู้
ผลการเรียนรู้ท่ีเกิดข้ึนกบั ผูเ้ รียน
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
…………………….................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
ปัญหา / อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
…………………….................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
ลงช่ือ ……………………………….…ผสู้ อน
(นางสาวอภิชญา ญาดาพชั ร์)
ตาแหน่ง ครู โรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
….…../…………./………….
๘๙
ใบงาน ๑
ช่ือ....................................................................ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๕ เลขที่..............
คาช้ีแจง ขีดเส้นใตค้ าที่สะกดถูกตอ้ ง
๑. โอกาศ โอกาส
๒. ปรากฏ ปรากฏ
๓. ชอุ่ม ชอุ่ม
๔. แอโรบิก แอโรบิค
๕. กีฬาลีลาส กีฬาลีลาศ
คาชี้แจง นาคาจากเรื่อง กา้ วใหไ้ กล ไปใหถ้ ึง เติมในช่องวา่ งใหไ้ ดใ้ จความ
๑) การออกกาลงั กายดว้ ยการเตน้ ราตอ้ ง .................ร่างกายใหส้ อดคลอ้ งกบั
จงั หวะดนตรี
๒) ผแู้ ขง่ ขนั กีฬาลีลาศท้งั ชายและหญิงมีรูปร่าง……………..
๓) ท้งั แม่และพอ่ คือ.................. ท่ีดีที่สุดของลูก
๔) เสียงหวั เราะของพ่อทาใหก้ ริช ............... ตามไปดว้ ย
๕) ผมู้ ีความเพียร อดทนจะกา้ วเดินไปสู่จุดหมายที่วางไวอ้ ยา่ ง……….
๙๐
ใบงาน ๒
ชื่อ……………………………………………………….เลขท่ี….. ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๕
คาชี้แจง นกั เรียนคดั ลายมือดว้ ยตวั บรรจงคร่ึงบรรทดั
บทน้ีสร้างกาลงั ใจ ใหก้ า้ วไปตามความฝัน
แมพ้ ลาดอยา่ เสียขวญั ลองทาใหมใ่ จอดทน
ความคิดใหม้ ุ่งมน่ั ทีละช้นั หมนั่ ขวายขวน
สุดทา้ ยจะเห็นผล สาเร็จไดด้ งั ใจปอง
วเิ คราะห์แสดงความเห็น จบั ประเด็นใหถ้ ูกตอ้ ง
ฝึ กอ่านฝึ กไตร่ตรอง หดั บนั ทึกช่วยความจา
…………………………………………………………………………………………………………
……………………….…………………………………………………………………………………
……………………………………………….…………………………………………………………
……………………………………………………………………….…………………………………
……………………………………………………………………………………………….…………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
……………………….…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
๙๑
เฉลยใบงาน ๑
ช่ือ....................................................................ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๕ เลขท่ี..............
คาชี้แจง ขีดเส้นใตค้ าที่สะกดถูกตอ้ ง
๑) โอกาศ โอกาส
๒) ปรากฏ ปรากฎ
๓) ชอุม่ ชะอุ่ม
๔) แอโรบิก แอโรบิค
๕) กีฬาลีลาส กีฬาลีลาศ
คาชี้แจง ๒. นาคาจากเรื่อง กา้ วใหไ้ กล ไปใหถ้ ึง เติมในช่องวา่ งใหไ้ ดใ้ จความ
๑) การออกกาลงั กายดว้ ยการเตน้ ราตอ้ ง เคลื่อนไหว ร่างกายใหส้ อดคลอ้ งกบั
จงั หวะดนตรี
๒) ผแู้ ขง่ ขนั กีฬาลีลาศท้งั ชายและหญิงมีรูปร่าง เพรียวบาง
๓) ท้งั แมแ่ ละพอ่ คือ ท่ีปรึกษา ท่ีดีที่สุดของลูก
๔) เสียงหวั เราะของพอ่ ทาใหก้ ริช ร่าเริงสนุกสนาน ตามไปดว้ ย
๕) ผมู้ ีความเพยี ร อดทนจะกา้ วเดินไปสู่จุดหมายท่ีวางไวอ้ ยา่ ง สมปรารถนา
เฉลยใบงาน ๒
ช่ือ……………………………………………………….เลขที่….. ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๕
( ตามดุลพินิจของครู)
แบบบนั ทึกคะแนนพฤติกรรมการอ่านในใจ ๙๒
เกณฑ์การให้คะแนน ดี ให้ ๒ พอใช้ ให้ ๑ ควรปรับปรุง ให้ ๐ หมายเหตุ
เกณฑ์การประเมนิ การผา่ นการประเมินทุกรายการตอ้ งได้ ๑ ข้ึนไป
รายการประเมิน
เลขท่ี ชื่อ - สกลุ การวาง/จับหนัง ืสอหนัง
ูถีมกสต้มาองิธในการ ่อาน
การวางตาในการ ่อาน
ไม่ ้ีชตามตัวอักษร ี่ท ่อาน
ไม่สายหน้าไปมาขณะ ่อาน
คะแนนรวม ๑๐ คะแนน
ส ุรป ่ผาน / ไ ่ม ่ผาน
๑ เดก็ หญงิ วราภรณ์ หดั เอียด
๒ เดก็ หญิงภัคจริ า เต๊ะย่อ
๓ เด็กชายธรี กร แกว้ จติ ตะ
๔ เดก็ หญิงอนุศรา แกว้ นพรตั น์
๕ เด็กชายซาอุดี ราชการ
๖ เด็กชายธนวัฒ บนิ ดเุ หลม็
๗ เด็กชายศรัณ ละซอ
๘ เด็กชายฮสั ซาน ตเิ อยี ดยอ่
๙ เดก็ ชายอจั ฉริยะ เมาะสนิ
๑๐ เดก็ หญิงอัจฉารีญา เมาะสนิ
๑๑ เดก็ หญิงนชิ านันท์ ดารากยั
๑๒ เด็กหญงิ นิสรีน หีมเกะ
๑๓ เดก็ หญิงอัสมา แวยาเง๊าะ
๑๔ เด็กหญิงขวญั จริ า ติเอยี ดยอ่
๑๕ เด็กชายพายุ สุวรรณโณ
๑๖ เด็กชายสิทธิโชค สวุ รรณโน
๙๓
แบบประเมินพฤติกรรมและผลงานระหว่างเรียน
ความหมาย
๑. ต้งั ใจ หมายถึง ความมานะ อดทนทางานจนเสร็จ ( A )
๒. ความร่วมมือ หมายถึง สมาชิกในกลุ่มใหค้ วามร่วมมือทางานจนเสร็จ ( A )
๓. ความมีวินยั หมายถึง ผลงาน หรือการทางานเป็ นระบบระเบียบเรียบร้อย สะอาด
สวยงาม และไดเ้ น้ือหาครบถว้ น ทนั หรือตรงตอ่ เวลา ( A,K )
๔. คุณภาพของผลงาน หมายถึง ผลงานเรียบร้อย สวยงาม เน้ือหาครบถว้ น ภาษาท่ี
ใชเ้ หมาะสม (P – Product, K)
๕. การนาเสนอผลงาน หมายถึง การพูดอธิบายนาเสนอผลงานไดต้ ามลาดบั และ
เน้ือหาถูกตอ้ ง ( P – Process, K )
เกณฑ์การประเมิน
๔ หมายถึง ทาไดด้ ีมาก ๓ หมายถึง ทาไดด้ ี
๒ หมายถึง ทาไดพ้ อใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง
ช่ือ-สกลุ ความต้งั ใจ ความร่วมมือ ความมีวนิ ยั คุณภาพของ การนาเสนอ รวม
(๔) (๔) (๔) ผลงาน (๔) ผลงาน (๔) (๒๐)
เด็กหญงิ วราภรณ์ หดั เอยี ด
เดก็ หญงิ ภัคจริ า เต๊ะยอ่
เดก็ ชายธรี กร แกว้ จติ ตะ
เดก็ หญิงอนศุ รา แกว้ นพรัตน์
เด็กชายซาอดุ ี ราชการ
เด็กชายธนวัฒ บินดุเหลม็
เด็กชายศรณั ละซอ
เด็กชายฮสั ซาน ติเอยี ดยอ่
เด็กชายอจั ฉริยะ เมาะสนิ
เด็กหญงิ อจั ฉารีญา เมาะสนิ
เด็กหญงิ นชิ านันท์ ดารากยั
เดก็ หญงิ นสิ รีน หมี เกะ
เด็กหญงิ อสั มา แวยาเง๊าะ
เดก็ หญิงขวญั จริ า ติเอียดย่อ
เด็กชายพายุ สวุ รรณโณ
เด็กชายสิทธโิ ชค สุวรรณโน
๙๔
แบบประเมินชิ้นงาน
รายช่ือสมาชิกกลุ่ม
๑…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน…………..
๒…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน…………..
๓…………………………………….เลขท…ี่ …………ช้ัน…………..
๔…………………………………….เลขท…ี่ …………ช้ัน…………..
๕…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน…………..
๖.…………………………………….เลขท…่ี …………ช้ัน………….
ชิ้นงานเร่ือง……………………..
เกณฑ์การประเมนิ คะแนน คะแนนทไี่ ด้
๑๒๓๔๕
๑. รูปแบบถูกตอ้ ง
๒. จดั รูปแบบน่าสนใจ สวยงาม
๓. ความครบถว้ นในเน้ือหาสาระที่เสนอ
๔. การใชค้ าเหมาะสม
๕. การสะกดคาถูกตอ้ ง
ลงชื่อ ผปู้ ระเมิน
(นางสาวอภิชญา ญาดาพชั ร์)
ตาแหน่ง ครู โรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
๙๕
เกณฑ์การให้คะแนนกระบวนการทางานกลุ่ม
ประเด็นการประเมิน ๓ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน / ระดบั
๑. การกาหนด – สมาชิกทุกคนมีส่วน ๒๑
เป้าหมายร่วมกนั ร่วมในการกาหนด
เป้าหมายการทางาน สมาชิกส่วนใหญม่ ี สมาชิกส่วนนอ้ ยมี
๒. การแบ่งหนา้ ที่ อยา่ งชดั เจน ส่วนร่วมในการ ส่วนร่วมในการกาหนด
รับผดิ ชอบ กระจายงานไดอ้ ยา่ ง กาหนดเป้าหมายใน เป้าหมายในการทางาน
ทว่ั ถึงและตรงตาม การทางาน
๓. การปฏิบตั ิหนา้ ที่ ความสามารถของ กระจายงานไดท้ ว่ั ถึง กระจายงานไม่ทวั่ ถึง
ที่ไดร้ ับมอบหมาย สมาชิกทุกคน แต่ไม่ตรงตาม
ทางานไดส้ าเร็จตาม ความสามารถของ
๔. การประเมินและ เป้าหมายท่ีไดร้ ับ สมาชิก
ปรับปรุงผลงาน มอบหมาย ตาม ทางานไดส้ าเร็จตาม ทางานไมส่ าเร็จตาม
ระยะเวลาที่กาหนด เป้าหมายแต่ชา้ กวา่ เป้าหมาย
สมาชิกทุกคนร่วม เวลาท่ีกาหนด
ปรึกษาหารือ ติดตาม
ตรวจสอบและ สมาชิกบางส่วนมี สมาชิกบางส่วนไมม่ ีส่วน
ปรับปรุ งผลงานเป็ น ส่วนร่วมปรึกษาหารือ ร่วมปรึกษาหารือและไม่
ระยะ แต่ไม่ช่วยปรับปรุง ช่วยปรับปรุงผลงาน
ผลงาน
แบบประเมนิ กระบวนการทางานกล่มุ ๙๖
ที่ รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คิดเห็น
๓๒๑
๑. การกาหนดเป้าหมายร่วมกนั
๒. การแบ่งหนา้ ที่รับผดิ ชอบ
๓. การปฏิบตั ิตามหนา้ ท่ีที่ไดร้ ับมอบหมาย
๔. การประเมินและปรับปรุงผลงาน
รวม
ลงชื่อ ผปู้ ระเมิน
(นางสาวอภิชญา ญาดาพชั ร์)
ตาแหน่ง ครู โรงเรียนบา้ นพรุหลุมพี
เกณฑก์ ารประเมิน
๑๑ – ๑๒ = ดีมาก
๘ – ๑๐ = ดี
๕ – ๗ = พอใช้
๐ – ๔ = ปรับปรุง
๙๗
แบบทดสอบหลงั การเรียนรู้
เร่ือง ก้าวให้ไกล ไปให้ถึง
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนเครื่องหมาย x ทบั ตวั อกั ษร ก ข ค ง ที่ถูกที่สุดเพยี งขอ้ เดียว
๑. การจะทาสิ่งใดใหส้ าเร็จเราควรปฏิบตั ิอยา่ งไร
ก. มีจุดมุง่ หมายแน่นอน ข. มีความต้งั ใจแน่วแน่
ค. มีทุนทรัพย์ ง. ถูก ก และ ข
๒. จากเร่ือง กริช ตดั สินใจเล่นกีฬาลีลาศ เพราะเหตุใด
ก. เพราะเขาชอบการแสดง
ข. เพราะเขาชอบดนตรีและกีฬา
ค. เพราะเขาชอบเล่นกีฬา
ง. เพราะเขาเล่นกีฬาไดท้ ุกชนิด
๓. ผทู้ ่ีมีส่วนช่วยเราในการเล่นกีฬาใหไ้ ดด้ ีมากท่ีสุดคือใคร
ก. โคช้ ข. พอ่ แม่
ค. เพอื่ นในทีม ง. คูฝ่ ึกซอ้ ม
๔. “ สารท่ีหลง่ั ออกมาตามธรรมชาติแลว้ ทาใหเ้ กิดความสุข” สารชนิดน้ีชื่อวา่ อยา่ งไร
ก. ฟูลออไรด์ ข. คลอโรฟิ ลด์
ค. เอน็ โดฟิ นส์ ง. โซเดียมคลอไรด์
๕. ขอ้ ใดไมใ่ ช่วธิ ีวเิ คราะห์สาร
ก. หาขอ้ มูลอ่ืนมาเปรียบเทียบ
ข. หาขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็น
ค. ดูวา่ ผสู้ ่งสารมีความน่าเช่ือถือหรือไม่
ง. อ่านสารเพยี งรอบเดียว
๖. ขอ้ ใดไมเ่ กี่ยวกบั การบนั ทึกการอา่ น
ก. ระบุวนั เดือนปี
ข. บอกประวตั ิผบู้ นั ทึก
ค. ใชส้ านวนภาษาเป็นของตนเอง
ง. บนั ทึกเฉพาะใจความสาคญั
๙๘
๗. ลูกยางท่ีเกิดใหม่ไมท่ อ้ แทเ้ พราะคาส่งั ของแมท่ ่ีพดู วา่ อยา่ งไร
ก. ปัญหาคือยากาลงั ใหต้ ่อสู้ตอ่ ไป
ข. เม่ือต้งั ใจจะอยทู่ ี่ใดแลว้ ตอ้ งทาใหด้ ีท่ีสุด
ค. ชีวติ ยอ่ มมีปัญหาและอุปสรรคแน่นอน
ง. อยา่ ยอมแพ้ วนั พรุ่งน้ีตอ้ งดีกวา่ วนั น้ี
๘. ลูกตน้ ยางท่ีเจริญเติบโตไดด้ ีเพราะอะไร
ก. เพราะความอดทนพากเพียร
ข. เพราะไดก้ าลงั ใจจากแม่
ค. เพราะโชคดีท่ีฝนตกเร็ว
ง. เพราะไดร้ ับความช่วยเหลือจากพ่ี
๙. การเล่นกีฬาลีลาศใหไ้ ดด้ ีตอ้ งทาอยา่ งไรบา้ ง
ก. หมน่ั ฝึกซอ้ มทุกวนั
ข.ออกกาลงั กายดว้ ยวธิ ีตา่ งๆ
ค. กินอาหารใหค้ รบหมู่
ง. ถูกทุกขอ้
๑๐. ขอ้ ใดไม่ใช่หลกั การพูดและเขียนแสดงความคิดเห็น
ก. ใชถ้ อ้ ยคาสุภาพ
ข. มีขอ้ มูลอา้ งอิงถูกตอ้ ง
ค. มีมารยาทในการพดู และเขียน
ง. แสดงความคิดเห็นตามความรู้สึกของตน
**************************
๙๙
เฉลยแบบทดสอบหลงั การเรียน
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนเคร่ืองหมาย x ทบั ตวั อกั ษร ก ข ค ง ท่ีถูกท่ีสุดเพยี งขอ้ เดียว
๑. การจะทาส่ิงใดใหส้ าเร็จเราควรปฏิบตั ิอยา่ งไร
ก. มีจุดมุ่งหมายแน่นอน
ข. มีความต้งั ใจแน่วแน่
ค. มีทุนทรัพย์
ง. ถูก ก และ ข
๒. จากเรื่อง กริช ตดั สินใจเล่นกีฬาลีลาศ เพราะเหตุใด
ก. เพราะเขาชอบการแสดง
ข. เพราะเขาชอบดนตรีและกีฬา
ค. เพราะเขาชอบเล่นกีฬา
ง. เพราะเขาเล่นกีฬาไดท้ ุกชนิด
๓. ผทู้ ่ีมีส่วนช่วยเราในการเล่นกีฬาใหไ้ ดด้ ีมากท่ีสุดคือใคร
ก. โคช้ ข. พอ่ แม่
ค. เพอ่ื นในทีม ง. คู่ฝึกซอ้ ม
๔. “ สารท่ีหลงั่ ออกมาตามธรรมชาติแลว้ ทาใหเ้ กิดความสุข” สารชนิดน้ีชื่อวา่ อยา่ งไร
ก. ฟูลออไรด์ ข. คลอโรฟิ ลด์
ค. เอน็ โดฟิ นส์ ง. โซเดียมคลอไรด์
๕. ขอ้ ใดไมใ่ ช่วธิ ีวเิ คราะห์สาร
ก. หาขอ้ มูลอื่นมาเปรียบเทียบ
ข. หาขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็น
ค. ดูวา่ ผสู้ ่งสารมีความน่าเชื่อถือหรือไม่
ง. อ่านสารเพียงรอบเดียว
๑๐๐
๖. ขอ้ ใดไม่เกย่ี วกบั การบนั ทึกการอ่าน
ก. ระบุวนั เดือนปี
ข. บอกประวตั ิผบู้ นั ทึก
ค. ใชส้ านวนภาษาเป็นของตนเอง
ง. บนั ทึกเฉพาะใจความสาคญั
๗. ลูกยางที่เกิดใหม่ไมท่ อ้ แทเ้ พราะคาส่ังของแม่ท่ีพดู วา่ อยา่ งไร
ก. ปัญหาคือยากาลงั ใหต้ ่อสู้ตอ่ ไป
ข. เม่ือต้งั ใจจะอยทู่ ี่ใดแลว้ ตอ้ งทาใหด้ ีท่ีสุด
ค. ชีวติ ยอ่ มมีปัญหาและอุปสรรคแน่นอน
ง. อยา่ ยอมแพ้ วนั พรุ่งน้ีตอ้ งดีกวา่ วนั น้ี
๘. ลูกตน้ ยางที่เจริญเติบโตไดด้ ีเพราะอะไร
ก. เพราะความอดทนพากเพียร
ข. เพราะไดก้ าลงั ใจจากแม่
ค. เพราะโชคดีท่ีฝนตกเร็ว
ง. เพราะไดร้ ับความช่วยเหลือจากพ่ี
๙. การเล่นกีฬาลีลาศใหไ้ ดด้ ีตอ้ งทาอยา่ งไรบา้ ง
ก. หมนั่ ฝึกซอ้ มทุกวนั
ข.ออกกาลงั กายดว้ ยวธิ ีต่างๆ
ค. กินอาหารใหค้ รบหมู่
ง. ถูกทุกขอ้
๑๐. ขอ้ ใดไม่ใช่หลกั การพูดและเขียนแสดงความคิดเห็น
ก. ใชถ้ อ้ ยคาสุภาพ
ข. มีขอ้ มูลอา้ งอิงถูกตอ้ ง
ค. มีมารยาทในการพดู และเขียน
ง. แสดงความคิดเห็นตามความรู้สึกของตน