คู่มอื การชว่ ยชีวติ ขน้ั พื้นฐาน
และเครือ่ งช็อกไฟฟ้าหวั ใจอัตโนมัติ
(เออีดี:AED) สำหรับประชาชน
พ.ศ. 2561
จัดทำโดย • ศูนย์ฝกึ อบรมปฐมพยาบาลและสขุ ภาพอนามยั สภากาชาดไทย
• คณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวติ
สมาคมแพทยโ์ รคหัวใจแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชปู ถมั ภ
์
คู่มือการช่วยชีวิตข้นั พื้นฐานและเครอ่ื งช็อกไฟฟา้ หวั ใจอตั โนมัติ (เออีด:ี AED) สำหรบั ประชาชน พ.ศ. 2559
ค ณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต
สมาคมแพทยโ์ รคหวั ใจแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชปู ถัมภ
์
อาคารเฉลมิ พระบารมี 50 ปี ชน้ั 5
เลขที่ 2 ซอยศนู ยว์ ิจยั ถนนเพชรบรุ ตี ัดใหม่ บางกะปิ หว้ ยขวาง กรงุ เทพฯ 10310
โทร 02-7180060-4 โทรสาร 02-7180065
https://thaicpr.org
ขอ้ มูลทางบรรณานกุ รมของสำนักหอสมุดแห่งชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
สมาคมแพทยโ์ รคหวั ใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์. คณะกรรมการมาตรฐานการชว่ ยชวี ติ .
คูม่ ือการชว่ ยชวี ติ ข้นั พ้นื ฐาน และเคร่อื งช็อกไฟฟา้ หัวใจอัตโนมตั ิ (เออดี :ี AED) สำหรับประชาชน
พ.ศ. 2561.-- พิมพ์คร้งั ที่ 1.-- กรุงเทพฯ : สมาคม, 2561.
40 หนา้ .
1. ปฐมพยาบาล. I. ชื่อเรอ่ื ง.
616.0252
ISBN 978-616-91386-8-6
ISBN : 978-616-91386-8-6
พิมพ์ครัง้ ท่ี 1 พ.ศ. 2561 จำนวน 200,000 เล่ม
จัดทำโดย : คณะกรรมการมาตรฐานการชว่ ยชวี ิต
สมาคมแพทย์โรคหัวใจแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชูปถมั ภ์
สงวนลิขสทิ ธ์ิตามกฎหมาย
สงวนลขิ สทิ ธ์ิตามกฎหมาย ห้ามคดั ลอกหรือพมิ พซ์ ้ำ หรือแจกจ่ายส่วนใดสว่ นหนึ่งของหนงั สอื นี
้
ไม่วา่ จะในรูปของส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เทปบันทกึ การถ่ายสำเนาเอกสาร หรอื อ่ืนๆ โดยไม่ได้รบั อนญุ าต
การถา่ ยสำเนาเอกสารหรือการคัดลอกใหม่โดยนำไปใชเ้ ป็นส่วนบคุ คลจะมคี วามผิดตามกฎหมาย
ถ้าประสงค์พมิ พแ์ จกเปน็ วิทยาทาน กรุณาติดต่อ คณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวติ
พิมพ์ที่ : บจก.ปญั ญมิตร การพมิ พ ์ โทร. 0-2873-2098, 08-1751-2341
คำนิยม
ศาสตราจารยค์ ลนิ ิกเกยี รตคิ ุณ นายแพทยป์ ิยะสกล สกลสตั ยาทร
รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสุข
เนอ่ื งในโอกาสจดั ทำคมู่ อื การช่วยชวี ติ ขั้นพน้ื ฐาน
และเคร่ืองช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (เออีด:ี AED) สำหรบั ประชาชน พ.ศ.2561
กระทรวงสาธารณสุขขอน้อมนำพระราชประสงค์ พระราชดำริต่างๆ ของสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้แก่
ประชาชน และพฒั นาประเทศให้เจริญกา้ วหนา้ ดว้ ยโครงการจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ”
โดยกระทรวงสาธารณสขุ ได้รว่ มกับคณะกรรมการมาตรฐานการชว่ ยชีวิต สมาคมแพทย์โรคหัวใจ
แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถมั ภ์ จัดทำ “โครงการเพ่มิ ศักยภาพจติ อาสา และประชาชน
ท่ัวไปในการช่วยชีวิตข้ันพื้นฐาน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ
บดินทรเทพยวรางกูร พระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี เน่ืองในโอกาส
วันเฉลมิ พระชนมพรรษา 66 พรรษา ในวนั ที่ 28 กรกฎาคม 2561” เพือ่ เปน็ การแสดงความ
จงรกั ภักดี สำนกึ ในพระมหากรณุ าธิคุณ โดยจดั ทำ “คู่มอื การชว่ ยชวี ิตขนั้ พ้นื ฐานและเครือ่ ง
ช็อกไฟฟ้าอัตโนมตั ิ (เออีดี:AED) สำหรับประชาชน” เพอ่ื การรณรงคป์ ระชาสัมพันธ์การช่วย
ชีวิตขั้นพื้นฐานให้ประชาชนจิตอาสาและประชาชนท่ัวไป เข้าใจวิธีการช่วยชีวิตข้ันพื้นฐานท่ี
ถูกต้อง จะได้มีโอกาสช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในครอบครัวของตนเองหรือผู้อ่ืนในสังคมท่ีประสบ
ภาวะวิกฤตหัวใจหยุดเต้นฉับพลัน นับเป็นการกระทำที่สร้างคุณความดีอันย่ิงใหญ่ สร้างคุณ
ประโยชน์ให้ผู้อื่นได้รอดชีวิต เป็นผู้มอบโอกาสการได้กลับมาอยู่กับครอบครัวอันเป็นที่รัก
อีกท้ังยังเป็นการช่วยเหลือท่ีมีส่วนสำคัญย่ิงก่อนที่ทีมบุคลากรทางการแพทย์จะมาถึงผู้ป่วย
สร้างการประสานเช่ือมโยงความช่วยเหลือต่อสังคมและส่วนรวมด้านการรักษาพยาบาล
ระหว่างจิตอาสา ประชาชนทวั่ ไปกบั ทีมบคุ ลากรทางการแพทย
์
ผมขอขอบคณุ คณะผู้จดั ทำ “คู่มือการชว่ ยชวี ิตขนั้ พน้ื ฐานและเคร่อื งช็อกไฟฟ้าอัตโนมตั ิ
(เออีดี:AED) สำหรับประชาชน” และเชื่อม่ันว่า คู่มือฉบับน้ีจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ใน
การช่วยเหลือผปู้ ว่ ยให้สามารถฟน้ื ขน้ึ มามชี วี ิตเป็นปกตไิ ด้อยา่ งปลอดภัย
(ศาสตราจารยค์ ลนิ ิกเกียรติคณุ นายแพทยป์ ิยะสกล สกลสตั ยาทร)
รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสขุ
1
คำนยิ ม
นายแพทยเ์ จษฎา โชคดำรงสุข ปลดั กระทรวงสาธารณสุข
เน่อื งในโอกาสจดั ทำคมู่ อื การชว่ ยชีวติ ข้ันพ้นื ฐาน
และเครอ่ื งชอ็ กไฟฟา้ หัวใจอตั โนมัติ (เออดี ี:AED) สำหรับประชาชน พ.ศ.2561
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู มีพระราชประสงค์
ที่จะสืบสาน รักษาและต่อยอดโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดำริและแนวทาง
พระราชดำริตา่ งๆ ในการบำบดั ทุกข์ บำรงุ สุข ให้แกป่ ระชาชน และพฒั นาประเทศให้
เจรญิ กา้ วหน้า พระองค์ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ ม ใหจ้ ดั โครงการจิตอาสา
“เราทำความดีด้วยหัวใจ” เพื่อให้หน่วยราชการในพระองค์ร่วมกับหน่วยราชการต่างๆ
และประชาชนได้ร่วมกันบำเพ็ญประโยชน์และทำความดี กระทรวงสาธารณสุขในฐานะ
เป็นหน่วยงานราชการร่วมกับสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรม
ราชูปถมั ภ์ ได้จดั ทำ “โครงการเพ่ิมศักยภาพจิตอาสา และประชาชนทัว่ ไปในการช่วยชวี ิต
ขั้นพนื้ ฐาน เฉลิมพระเกยี รตสิ มเด็จพระเจ้าอยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู
พระมหากษตั ริย์ไทย รัชกาลท่ี 10 แห่งราชวงศ์จักรี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนม
พรรษา 66 พรรษา ในวันท่ี 28 กรกฎาคม 2561” เพอ่ื เปน็ การแสดงความจงรักภักดี
สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยจัดทำ “คู่มือการช่วยชีวิตข้ันพ้ืนฐานและเคร่ืองช็อก
ไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (เออีดี:AED) สำหรับประชาชน” เพื่อการรณรงค์ประชาสัมพันธ์
การช่วยชีวิตข้ันพื้นฐานให้ประชาชนจิตอาสาและประชาชนทั่วไป เข้าใจวิธีการช่วยชีวิต
ขน้ั พ้ืนฐานท่ถี ูกต้อง
ผมขอขอบคุณคณะผู้จัดทำ “คู่มือการช่วยชีวิตข้ันพ้ืนฐานและเคร่ืองช็อกไฟฟ้า
หัวใจอัตโนมัติ (เออีดี:AED) สำหรับประชาชน” ท่ีเห็นความสำคัญในการช่วยชีวิตข้ัน
พืน้ ฐาน เพอ่ื จดั การช่วยชวี ิตในภาวะฉุกเฉนิ ไดอ้ ย่างมคี ณุ ภาพและมปี ระสิทธภิ าพ สง่ ผล
ให้ผ้ปู ่วยสามารถรอดชีวิตและลดความพิการได้ ผมเชอื่ มน่ั ว่า คู่มือฉบบั นจ้ี ะเปน็ ประโยชน์
ต่อบุคลากรทางการแพทย์ ประชาชนจิตอาสา และประชาชนท่ัวไป ในการช่วยชีวิต
ผูป้ ่วยฉกุ เฉนิ ที่มีภาวะหัวใจหยดุ เตน้ ดว้ ยเครื่องเออดี ี เพอื่ เพ่มิ โอกาสการรอดชวี ิตของ
ประชาชนทห่ี วั ใจหยุดเตน้ เฉยี บพลนั นอกโรงพยาบาลได ้ บรรลุเป้าหมายทีจ่ ะให้เกดิ
ประโยชนส์ งู สดุ ในการช่วยชวี ิตผ้ปู ว่ ยตามเจตนารมณข์ องกระทรวงสาธารณสขุ ที่ต้ังไว้
2 (นายแพทยเ์ จษฎา โชคดำรงสุข)
ปลดั กระทรวงสาธารณสุข
คำนยิ ม
นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย
เนอ่ื งในโอกาสจดั ทำคูม่ ือการชว่ ยชวี ติ ขน้ั พ้นื ฐาน
และเครอ่ื งช็อกไฟฟ้าหวั ใจอัตโนมัติ (เออีด:ี AED)
หนังสือคมู่ ือ “การชว่ ยชวี ติ ขั้นพนื้ ฐานและเคร่อื งช็อกไฟฟ้าหวั ใจอัตโนมตั ิ (เออดี :ี
AED)” สำหรับประชาชนเลม่ นี้ ไดร้ วบรวมเนื้อหาเร่ืองการช่วยชีวติ ข้ันพ้ืนฐาน การนำ
ส่งิ แปลกปลอมทอ่ี ุดก้นั ออกจากทางเดนิ หายใจ โดยมกี ารเขยี นขั้นตอนการปฏบิ ตั ิพร้อม
ภาพประกอบอย่างชัดเจน ใชภ้ าษาท่ีเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับประชาชนใช้ในการศึกษา
ความรู้ได้เป็นอย่างดี นอกจากน้ันยังมีเนื้อหาเรื่องเคร่ืองเออีดีเป็นอุปกรณ์สำคัญ
ประการหนง่ึ ทจ่ี ะชว่ ยให้การชว่ ยชวี ติ ไดผ้ ล และเพ่มิ โอกาสรอดชีวิตแกผ่ ูบ้ าดเจบ็
สภากาชาดไทยเป็นองค์กรกุศลเพ่ือมนุษยธรรม ดำเนินงานเพื่อประโยชน์สุข
ของประชาชนอนั ประกอบดว้ ยภารกจิ หลัก 4 ประการ คอื การบริการทางการแพทย์และ
สุขภาพอนามัย การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยพิบัติ การบริการโลหิต และการส่งเสริม
คุณภาพชีวิต ซึ่งมีกิจกรรมสำคัญประการหนึ่ง คือ งานฝึกอบรมความรู้เรื่องการปฐม
พยาบาลแก่ประชาชน โดยมีเป้าหมายทร่ี ้อยละ 5 ของประชากรของประเทศ ควรไดร้ ับ
การฝึกอบรมความรู้เร่ืองการปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิต เพ่ือให้สามารถนำความรู้
ไปใชช้ ว่ ยเหลือผ้บู าดเจบ็ จากอบุ ัติเหตุ อุบัตภิ ัย ท้งั ในชวี ิตประจำวนั และในยามภยั พบิ ตั ิ
ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะเกิดสูงข้ึน เป็นการช่วยลดอัตราการเสียชีวิตและพิการลงได้
ในการนี้ศูนยฝ์ ึกอบรมปฐมพยาบาลและสุขภาพอนามัย สภากาชาดไทย ได้มกี ารพฒั นา
หลักสตู รการฝึกอบรมและคู่มอื การปฐมพยาบาลสำหรับประชาชนอย่างตอ่ เนอื่ ง
สภากาชาดไทยมีความยินดที ี่คณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชวี ิต สมาคมแพทย์
โรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดทำหนังสือคู่มือเล่มนี้ข้ึน เพื่อ
เผยแพร่แก่ประชาชน อันนับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีท่ีหน่วยงานที่มีผู้เชี่ยวชาญให้ความ
รว่ มมอื กนั จัดทำสิง่ ที่ดี มคี ณุ ประโยชน์ตอ่ ประชาชนของประเทศ และหวังวา่ หนงั สอื คมู่ อื
“การช่วยชีวิตข้ันพื้นฐานและเคร่ืองช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (เออีดี:AED)” สำหรับ
ประชาชนเล่มนี้ จะอำนวยประโยชน์ให้เกิดแก่ประชาชนท่ีจะได้เรียนรู้และนำไปปฏิบัติ
ได้อยา่ งกวา้ งขวางตอ่ ไป
(นายแผน วรรณเมธ)ี
3
เลขาธกิ ารสภากาชาดไทย
คำนำ
ในระยะเวลา 15 ปที ผี่ า่ นมา การเผยแพร่ความรู้ทางดา้ นการชว่ ยชวี ติ (Cardio-
Pulmonary Resuscitation: CPR) ในประเทศไทย มีความกา้ วหน้ามากขนึ้ บคุ ลากร
ทางการแพทยแ์ ละประชาชนใหค้ วามสนใจ เขา้ ร่วมกจิ กรรมตา่ งๆ เพอ่ื พฒั นางานดา้ น
การช่วยชีวิต และการรักษาพยาบาลในภาวะวิกฤตของประเทศไทย ให้มีประสิทธิภาพ
และมีมาตรฐานเป็นทยี่ อมรับทดั เทยี มกนั กับนานาประเทศ เปน็ ผลให้มจี ำนวนผู้รอดชวี ติ
จากภาวะหัวใจหยุดเต้นฉับพลันที่เกิดขึ้นนอกโรงพยาบาลเพ่ิมมากข้ึน นอกจากนั้น
สถาบันทางการแพทย์ต่างๆ ได้ร่วมกันจัดฝึกอบรมการช่วยชีวิต ให้กับบุคลากรทาง
การแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ทำให้ทีมผู้สอนมีประสบการณ์ในการจัดฝึกอบรม มีการจัด
ทำคู่มอื การฝึกอบรมฯ จดั ทำคำบรรยาย การสาธิตและการฝึกปฏิบตั ทิ ่มี อี ปุ กรณ์การสอน
ในการฝึกทักษะการช่วยชีวิตอย่างเหมาะสมและเพียงพอ โดยมีจำนวนครูผู้สอน
(Instructors) ตามเกณฑท์ ี่กำหนด ตลอดจนมกี ารประเมนิ ทางดา้ นทักษะโดยการสอบ
ปฏิบัติ ที่ใช้เกณฑ์ในการประเมินความถูกต้อง และประสิทธิภาพในการช่วยชีวิต และ
การสอบข้อเขียน เพ่ือประเมนิ ความรูข้ องผูเ้ ขา้ รบั การฝึกอบรมฯ
จากการทำงานร่วมกันเป็นทีมที่มีความต่อเนื่อง ทำให้บุคลากรทางการแพทย์
ท้ังภาครัฐบาลและภาคเอกชน เห็นความสำคัญของการฝึกอบรมฯ เพ่ือให้การรักษา
พยาบาลผูป้ ว่ ยในภาวะวกิ ฤต มปี ระสทิ ธิภาพ และเปน็ การประกาศความเปน็ มาตรฐาน
ในการให้บริการทางสาธารณสุขของประเทศไทย ส่งผลให้ประชาชนมีความสนใจ และ
ขอเข้ารบั การฝึกอบรมการช่วยชีวติ เป็นจำนวนมากขน้ึ ในทุกภาคของประเทศไทย
หนงั สือ คมู่ อื การชว่ ยชีวิตข้นั พืน้ ฐานและเครอื่ งชอ็ กไฟฟา้ หวั ใจอตั โนมัติ (เออีด:ี
AED) สำหรับประชาชน พ.ศ. 2559 เล่มนี้ เกิดจากความร่วมมอื รว่ มใจกนั ของคณะ
กรรมการมาตรฐานการช่วยชีวติ (Thai Resuscitation Council: TRC) ในการเผยแพร่
ความรู้ในการช่วยชีวิตข้ันพ้ืนฐานและการใช้เคร่ืองช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติสำหรับ
ประชาชน มาปรับปรุงให้ทันสมัยเพ่ือให้ประชาชนสามารถได้นำไปศึกษาด้วยตนเอง
และนอกจากนี้ยังเป็นคู่มือในการฝึกอบรมการช่วยชีวิตข้ันพ้ืนฐานและเคร่ืองช็อกไฟฟ้า
4
หัวใจอัตโนมัติ อีกด้วย กระผม ขอขอบคุณคณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต
สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชปู ถมั ภ์ สภากาชาดไทย หน่วยงาน
ต่างๆ ของกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งภาคเอกชน ท่ีเห็นความสำคัญ ให้ความ
ร่วมมือ และสนับสนุนในการพัฒนางานการช่วยชีวิต ให้เข้าสู่มาตรฐานสากลและเพื่อ
ประโยชนก์ บั คนไทยทุกคน และชาวต่างชาติทุกคนทเ่ี ดนิ ทางมาประเทศไทย
สำหรับ การใช้เคร่ืองช๊อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ เออีดี (AED: Automated
External Defibrillator) ในประเทศไทย พบว่า มหี นว่ ยงานหลายหนว่ ยงาน ทง้ั ภาครฐั
และเอกชน ให้ความสนใจ และได้ตดิ ตง้ั เคร่อื งเออดี ี ไวส้ ำหรบั ประชาชนได้ใช้ในการ
ช่วยชีวิตข้ันพ้ืนฐาน ก่อนที่หน่วยแพทย์ฉุกเฉินจะมาถึง โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีผู้คน
จำนวนมากมารับบริการ อาทิในอาคารการทา่ อากาศยาน สถานขี นส่งผู้โดยสาร สถานี
รถไฟ สถานีรถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า โรงแรม สวนสาธารณะ สวนสัตว์ สวนสนุก
สนามกีฬา รวมท้ังมกี ารจัดทมี ปฐมพยาบาลพรอ้ มอุปกรณ์การแพทยแ์ ละเออีดี ในการ
จัดการแข่งขนั กฬี าหลายชนดิ นอกจากน้ัน สถานทรี่ าชการหลายแห่งรวมท้ัง สถาบัน
การศกึ ษาหลายแห่ง ไดม้ ีการติดตั้งเออดี ี ไว้ในจดุ ทมี่ ปี ระชาชนมาใช้บริการเปน็ จำนวน
มาก อย่างไรก็ตาม เออีดี เป็นเพียงอุปกรณ์การแพทย์ การช่วยชีวิตจะสำเร็จได้น้ัน
อาศัยองค์ประกอบที่สำคัญ คือ ประชาชนมีความรู้ สถาบันและองค์กรต่างๆ ให้การ
สนับสนนุ ในการจดั การฝึกอบรมการชว่ ยชีวติ รวมทง้ั มกี ารจัดการในการใหบ้ รกิ ารทาง
การแพทยฉ์ กุ เฉนิ ทมี่ ีประสทิ ธภิ าพ รวดเร็ว และครอบคลมุ ทุกพื้นทอี่ ยา่ งเหมาะสม
(พล.ต.ต. น.พ.โสภณ กฤษณะรังสรรค)์
ทปี่ รกึ ษาอาวุโส
คณะกรรมการมาตรฐานการชว่ ยชีวติ (Thai Resuscitation Council: TRC)
สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ
์
สงิ หาคม 2560
5
ข้นั ตอนการช่วยชวี ติ ข้ันพนื้ ฐานในผู้ใหญ่สำหรบั ประชาชนทั่วไป*
1. ตรวจดูความปลอดภยั ของสถานทีเ่ กดิ เหต
ุ
2. ตรวจยืนยนั ว่าผู้ป่วยหมดสติจริง
ตะโกนขอความชว่ ยเหลือทนั ที
3. โทรเบอรฉ์ กุ เฉิน 1669 (สำหรบั ประเทศไทย)
และรบี นำ AED มา (ถา้ มีคนอนื่ อยบู่ ริเวณนน้ั ใหผ้ ู้อ่ืนไปนำมา)
ให้ทำตามคำแนะนำทางโทรศพั ท์
4. ดูการหายใจ
หายใจปกติ
เฝ้าสังเกตอาการผปู้ ว่ ย
รอทมี ชว่ ยชวี ติ มาถงึ
หายใจผดิ ปกติ (หายใจเฮอื ก) หรอื ไมห่ ายใจ*
* ถา้ ไมแ่ นใ่ จวา่ หายใจหรือไม่ ให้เร่มิ กดหนา้ อกทันที
5. เร่ิมกดหนา้ อกทันที
* กดลกึ (ประมาณ 5 ซม. ไมเ่ กิน 6 ซม.)
บริเวณคร่ึงล่างของกระดกู หนา้ อก
* กดเรว็ (100-120 คร้งั /นาที)
* ขดั จงั หวะการกดหนา้ อกใหน้ ้อยทส่ี ุด
* ปลอ่ ยหน้าอกคืนตวั สดุ กอ่ นกดครงั้ ถดั ไป
หากเคยฝกึ และยนิ ดีช่วยหายใจ ให้ช่วยหายใจ
6. กดหน้าอก 30 คร้ัง ช่วยหายใจ 2 คร้ัง
7. เมอ่ื AED มาถงึ ใหใ้ ช้ AED
วิเคราะหค์ ลืน่ ไฟฟ้าหวั ใจ
ว่าตอ้ งช็อกไฟฟา้ หรือไม
่
2 นาที
ให้ชอ็ กไฟฟา้
ไมแ่ นะนำใหช้ ็อกไฟฟ้า
2 นาที
ชอ็ กไฟฟา้ แล้วทำ CPR
ให้ทำ CPR ตอ่
โดยเรม่ิ กดหน้าอกทันที
โดยเริ่มกดหนา้ อกทนั ที
ทำ CPR ต่อเนอ่ื งจนกว่าทีมช่วยชีวิตมาถงึ หรือเมือ่ เหน็ ผปู้ ว่ ยเคล่ือนไหวหรือหายใจปกต
ิ
6* อา้ งองิ จาก สภาการช่วยชวี ติ แห่งเอเชยี (Resuscitation Council of Asia)
ข้ันตอนการชว่ ยชวี ติ ข้นั พื้นฐาน
ข้นั ตอน 1 ข้ันตอน 2
ประเมนิ ผปู้ ว่ ย ปลกุ เรียก การขอความช่วยเหลอื
โดยใชม้ อื ตบบริเวณไหล่ โทรเรยี ก 1669
หรือโรงพยาบาลใกลบ้ ้าน
หนา้ 13 หนา้ 14
ขนั้ ตอน 3 การกดหนา้ อก สลับการช่วยหายใจ หนา้ 21
30 ครง้ั ดว้ ยอัตราเร็ว
อย่างนอ้ ย 100-120 ครัง้ /นาที
โดยเป่าลมเข้าปอดใหเ้ หน็
หน้า 19 ผนงั ทรวงอกขยบั ขึน้ 2 คร้ัง
ประเ ิมนซ้ำ ุทก 2 นา ีท หรือ 5 รอบ ขน้ั ตอน 4 ใชเ้ ครอื่ งชอ็ กไฟฟ้าหวั ใจอตั โนมัติทนั ทที ี่พรอ้ มใช้ ประเมินซำ้ ทกุ 2 นาที หรือ 5 รอบ
1. เปิดเครอื่ ง 2. แปะแผ่น -----> วเิ คราะห์ 3. ชอ็ กหัวใจ 7
สารบญั
• บทนำ 9
13
• การชว่ ยชีวติ ข้นั พน้ื ฐาน 13
• เรียกดวู า่ หมดสตจิ รงิ หรอื ไม ่ 14
• เรียกหาความชว่ ยเหลอื 16
• จัดทา่ ใหพ้ รอ้ มสำหรบั การช่วยชีวติ 17
• หาตำแหน่งวางมอื บนหนา้ อก 19
• การกดหนา้ อก 30 คร้ัง 20
• เปดิ ทางเดินหายใจให้โลง่ 21
• ชว่ ยหายใจ 23
• กดหนา้ อก 30 ครง้ั สลับกับการเปา่ ลมเขา้ ปอด 2 ครงั้ 24
32
• การใชเ้ ครื่องช็อกไฟฟา้ หัวใจอตั โนมัติ (เออีดี : AED) 36
• การเอาสิ่งแปลกปลอมท่อี ดุ กน้ั ออกจากทางเดินหายใจ
• บรรณานกุ รม
8
บทนำ
คนเรามีชีวติ อยู่ไดเ้ พราะหัวใจเตน้ และมกี ารหายใจ
ปกติคนเรามชี ีวติ อยู่ได้ด้วยระบบสำคัญ 2 ระบบ คือระบบหายใจและ
ระบบไหลเวยี นโลหิต ระบบหายใจซง่ึ มปี อด เปน็ อวัยวะสำคัญ จะทำงานโดย
หายใจเอาอากาศท่ีมีออกซิเจนสูงประมาณ 21% จากอากาศภายนอกผ่าน
จมูกและหลอดลมเข้าไปในปอด แล้วหายใจเอาอากาศที่มีคาร์บอนได-
ออกไซด์จากในปอดผ่านหลอดลมและจมูกออกมาสูภ่ ายนอก
ระบบไหลเวียนโลหิตมีหัวใจเป็นอวัยวะสำคัญ ทำงานโดยหัวใจจะ
สูบฉีดเลือดที่รับออกซิเจนจากปอดไปเล้ียงเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย เช่น
สมอง ลำตัว แขนขา แล้วรับคาร์บอนไดออกไซด์ ซ่ึงเป็นของเสียจากการ
ทำงานของเซลลม์ าท่ีปอด เพอื่ ใหร้ ะบบหายใจพาออกไปทิ้งนอกรา่ งกาย
เกดิ ขึ้นกับใคร เม่อื ไร และท่ีไหน
ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน อาจเกิดข้ึนกับใคร เมื่อเวลาใด และ
สถานท่ีแห่งไหนก็ได้ จากการศกึ ษาพบว่า เกิดขึ้นกับผู้ใหญ่มากกวา่ เด็ก อาจ
เกิดข้ึนได้ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ที่สำคัญคือ สถานที่ อันเป็นจุดท่ี
เกิดภาวะหวั ใจหยุดเตน้ เฉยี บพลัน มกั จะเกิดข้นึ นอกโรงพยาบาลเป็นส่วนมาก
ประชาชนจึงเป็นผู้ที่มีความสำคัญในการให้ความช่วยเหลือมากที่สุด เน่ืองจาก
เปน็ ท้งั ผพู้ บเหน็ และเป็นบคุ คลแรกที่ใหค้ วามชว่ ยเหลือ ในหลายประเทศจงึ
ส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ และมีโอกาสได้ทำการฝึกอบรมการช่วยชีวิต
ข้นั พนื้ ฐานรว่ มกับการใชเ้ คร่ืองช็อกไฟฟ้าหวั ใจอตั โนมตั ิ (เออีด:ี AED) รวมทั้ง
9
มีการติดตั้ง AED ในสถานท่ีสาธารณะที่มีประชาชนจำนวนมากท่ีใช้พ้ืนท่ี
ดงั กล่าว ซงึ่ พบว่าสามารถทำให้อัตรารอดชวี ติ มเี พิ่มมากขึน้ ได
้
เนื่องดว้ ย สมอง และ หวั ใจ เป็นอวยั วะทมี่ ผี ลต่อการรอดชวี ิตของผทู้ ่ี
มีภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ความเข้าใจผลของการที่หัวใจหยุดเต้นลง
จึงมีความสำคญั ต่อการฝึกปฏิบตั ทิ ีม่ ปี ระสทิ ธภิ าพ
เมื่อหัวใจหยุดเต้นลง จะไม่มีเลือดไปเล้ียงอวัยวะใดๆ ในร่างกาย และ
เมือ่ สมองขาดเลอื ดมาเลย้ี ง จะหยุดทำงานในทันที ดังนนั้ ผทู้ ีส่ มองขาดเลือด
จากภาวะหัวใจหยุดเตน้ เฉียบพลัน จะหมดสติลงในระยะเวลาเพยี ง 10 วนิ าที
ซ่งึ ผปู้ ว่ ยทีห่ มดสตลิ ง ควรได้รับการชว่ ยเหลอื ในทันที หากไม่ไดร้ บั การชว่ ยเหลอื
หรือมิได้มีการกดหน้าอกเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ และที่สำคัญท่ีสุด
คอื สมอง ในระยะเวลา 4 นาที เนอ้ื สมองจะเร่ิมเสียหาย หากผู้ใหค้ วามช่วยเหลอื
ทำการกดหน้ากดในทันทีท่ีพบว่าผู้ป่วยหมดสติ ไม่หายใจ ไม่ตอบสนอง
สมองจะได้รับเลอื ด แม้ว่าจะไมช่ ่วยเร่ืองการหายใจ เพราะว่าในชว่ ง 6 นาทีแรก
ที่หัวใจหยุดเต้น ยังพอมี ออกซิเจนอยู่ในเลือด ดังน้ัน การกดหน้าอกอย่าง
ถูกต้องเพียงอย่างเดียวก็มีประโยชน์ แต่ถ้าสามารถช่วยได้ท้ังการกดหน้าอก
และช่วยเป่าปากช่วยหายใจได้ จะเป็นการช่วยเหลือท่ีมีประสิทธิภาพ และ
สามารถช่วยไดน้ านพอ จนกระทั่งทแี่ พทย์ฉุกเฉินจะมาถึง
สาเหตทุ ท่ี ำใหห้ ยุดหายใจและหัวใจหยดุ เตน้
ภาวะหยดุ หายใจเกดิ ขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เชน่ จมน้ำ สิ่งแปลกปลอม
อุดก้ันทางเดินลมหายใจ สูดดมควันเข้าไปมาก ได้รับยาเกินขนาด ไฟฟ้าช็อต
อยู่ในที่ไม่มีอากาศหายใจ บาดเจ็บ กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ฟ้าผ่า
และสมองเสยี การทำงานจนโคม่าจากสาเหตตุ ่างๆ
ภาวะหัวใจหยุดเต้น หมายถึงการไหลเวียนโลหิตหยุดลงอย่างสิ้นเชิง
ซึ่งทราบได้จากการหมดสติไม่มีการเคล่ือนไหว ไม่มีอาการไอ ไม่มีชีพจร
10
ไม่หายใจตามปกติ ภาวะหัวใจหยุดเต้น เกิดข้ึนจากสาเหตุหลายอย่าง เช่น
ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากหลอดเลือดหัวใจตีบหรือจากภาวะ
หวั ใจเตน้ ผิดปกติจากการท่กี ล้ามเน้ือหัวใจขาดเลือด หรอื อาจเกดิ ข้นึ ตามหลงั
ภาวะหยดุ หายใจ
คนท่หี ยุดหายใจและหวั ใจหยดุ เต้นไปแล้วยงั มีโอกาสฟ้ืนได
้
ใครก็ตามเมื่อเกิดภาวะหยุดหายใจและหัวใจหยุดเต้น ถ้าหากมีใคร
สักคนรีบทำการช่วยชีวิตข้ันพ้ืนฐาน (Basic Life Support - BLS) ตาม
หลักการท่ีถูกต้องด้วยวิธีที่ได้บรรยายไว้ในหนังสือเล่มน้ี ก็จะทำให้เกิดการ
แลกเปลี่ยนออกซิเจนท่ีปอด และมีเลือดไหลเวียนนำออกซิเจนไปเล้ียงสมอง
เพยี งพอที่จะทำใหส้ มองยังทำงานตอ่ ไปได้โดยไมเ่ กิดภาวะสมองตาย คนผ้นู นั้
จึงยังมีโอกาสที่จะกลับฟื้นขึ้นมามีชีวิตปกติได้ เนื่องจากวิธีการช่วยชีวิตขั้น
พ้ืนฐานสำหรับประชาชนทั่วไปน้ันแตกต่างจากวิธีการสำหรับบุคลากรทาง
การแพทย์และเจ้าหน้าท่ีช่วยชีวิตในรายละเอียดบางประการ ในคู่มือเล่มนี้จะ
กล่าวถงึ การชว่ ยชวี ิตขน้ั พื้นฐานสำหรับประชาชนท่วั ไปเทา่ นั้น
การช่วยชวี ิตข้นั พ้ืนฐานสำหรบั ประชาชน
เมื่อเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นและภาวะหยุดหายใจข้ึนแล้ว ประชาชน
ผู้ใหก้ ารช่วยเหลือ สามารถใช้หลักการจำข้ันตอนท่สี ำคัญ 4 หลกั การสั้นๆ
1. ประเมินการตอบสนองของผู้ป่วยว่ามีสติหรือไม่ โดยการปลุก
เรยี กและดูการเคลื่อนไหวทหี่ นา้ อกว่าหายใจหรือไม
่
2. ขอความช่วยเหลอื จากทมี แพทย์ฉกุ เฉิน ตามเครือ่ งชอ็ กไฟฟา้ หัวใจ
อตั โนมตั ิ : เคร่ืองเออีดี (Automated External Defibrillator : AED)
3. ปฏิบัติตามขนั้ ตอน
• การชว่ ยกดหน้าอก
11
• การเปิดทางเดินลมหายใจให้โลง่
• การช่วยหายใจ
4. การชอ็ กไฟฟา้ หัวใจอัตโนมตั ิโดยใช้เครอื่ งเออดี ี
ท้ัง 4 หลักการที่สำคัญน้ี มีข้ันตอนย่อยๆ ท่ีสามารถทำให้การปฏิบัติ
การช่วยเหลอื มีประสทิ ธภิ าพมากทส่ี ดุ
12
การช่วยชวี ิตขัน้ พ้ืนฐาน
1
เรยี กดูว่าหมดสติจริงหรอื ไม่
ควรมองดูสภาพรอบตัว ผู้หมดสติว่าบริเวณนั้นปลอดภัยก่อน แล้วจึง
เขา้ ไปยังข้างตวั ผหู้ มดสติ ทำการกระตุ้นโดยการตบแรงๆท่ีบรเิ วณไหลท่ ั้งสอง
ข้างผหู้ มดสติ พรอ้ มกับตะโกนถามว่า “คุณๆ…. เป็นอย่างไรบ้าง?”
รูปท่ี 1 การตบแรงๆ ที่บริเวณไหลท่ ้งั สองขา้ งผู้หมดสติ
13
หมายเหต
ุ
1. ในกรณีท่ีผู้หมดสติถูกไฟฟ้าช็อต ให้ร้องขอความช่วยเหลือในการตัด
ไฟหรือปดิ สวติ ซ์ไฟฟ้าก่อนเขา้ ไปสมั ผัสตัวผู้หมดสต
ิ
2. ในกรณีท่ีสงสัยว่าจะมีการบาดเจ็บของศีรษะและคอ ให้พยายามขยับ
ตวั ผ้หู มดสติใหน้ อ้ ยทีส่ ุด เพราะการขยับตวั มากอาจจะทำใหผ้ ้หู มดสติ
ท่ีมกี ารบาดเจบ็ ของกระดูกสันหลังเป็นอมั พาตได้
2
เรียกหาความช่วยเหลอื
หากหมดสติ หรือหายใจเฮือก (เกิดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อ ไม่ใช่
หายใจตามปกติ) ให้ร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ท่ีอยู่ในบริเวณน้ันและขอให้
คนใดคนหนึ่งโทรศัพท์ หมายเลข 1669 ซึ่งสามารถเรียกรถพยาบาลได้ทุก
จังหวัด หรืออาจเรียกรถพยาบาลหรือทีมงานของโรงพยาบาลที่เคยใช้อยู่
ประจำก็ได
้
รูปท่ี 2 โทรศัพท์เพอ่ื ขอความชว่ ยเหลอื หมายเลข 1669
14
หมายเหตุ
1. ผู้ที่ทำหน้าท่ีโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลต้องเตรียมข้อมูลให้ครบถ้วน
ดังน้ี เหตเุ กดิ ที่ไหน (ชอื่ บริษัท หมบู่ ้าน ถนน ซอย ใกล้กับสถานท่ี
สำคัญใด) หมายเลขโทรศพั ทท์ ี่กำลงั ใชพ้ ดู อยู่ เกิดอะไรขน้ึ (อบุ ัติเหตุ
รถยนต์ หัวใจวาย จมนำ้ ) มคี นต้องการความชว่ ยเหลือกีค่ น เช่น คน
จมนำ้ 3 คน หรือ คนถกู ไฟฟ้าชอร์ต 2 คน สภาพของผู้หมดสติเปน็
อย่างไรบา้ ง มกี ารให้ความช่วยเหลือ อะไรอยูบ่ ้าง มเี ครื่องช็อกไฟฟ้า
หัวใจอัตโนมัติ (เคร่ือง AED) อยู่หรือไม่ ข้อมูลอ่ืนๆ ที่คิดว่าจำเป็น
อย่าวางหูโทรศัพท์ ให้แจ้งเบอร์โทรกลับและทบทวนให้ถูกต้อง จึง
ค่อยวางหูโทรศัพท์ หรือถ้าใช้มือถือ ให้เปิดลำโพงเสียง แล้ววางไว้
ข้างตวั เพ่อื สอ่ื สารกบั เจา้ หนา้ ท
่ี
2. ถ้าผู้หมดสติเป็นผู้ใหญ่ ให้โทรศัพท์เรียกความช่วยเหลือทันทีก่อน
ลงมอื ปฏิบตั ิการช่วยชวี ติ (Phone first) เพราะผู้ใหญ่ท่ีหมดสติมกั เกิด
จากหวั ใจห้องล่างเต้นพลิ้ว (VF, ventricular fibrillation) ซึง่ มโี อกาส
รอดชีวิตมากท่ีสุดหากได้รับการช็อกไฟฟ้าจากทีมงานช่วยชีวิตข้ันสูง
โดยเร็ว (ภายใน 3-5 นาท)ี
3. ถ้าผหู้ มดสตเิ ป็นเดก็ หากทา่ นอยู่ในเหตุการณเ์ พียงคนเดยี ว ใหล้ งมือ
ช่วยชวี ติ กอ่ นแลว้ คอ่ ยไปโทรศพั ท์ภายหลัง (CPR first) เพราะสาเหตุ
การหมดสติในเด็กมักเกิดจากทางเดินลมหายใจถูกอุดก้ัน ซ่ึงแก้ได้
โดยการลงมือปฏิบัติการช่วยชีวิตก่อน โดยกดหน้าอก 30 คร้ัง และ
การช่วยหายใจ 2 คร้งั เป็นเวลา 2 นาที (5 รอบ) แล้วจึงละจากผ้ปู ว่ ย
ไปโทรศัพท์ ขอความช่วยเหลอื ทงั้ นมี้ ขี อ้ ยกเว้นกรณที ีร่ ูแ้ น่ชัดอยูก่ ่อน
แล้วว่าเด็กผู้หมดสติเป็นโรคหัวใจหรือมีผู้ช่วยเหลือ มากว่า 1 คน
ควรรีบโทรศัพท์ก่อนเพราะผู้หมดสติจะมีโอกาสรอดชีวิตมากกว่า หาก
ไดร้ ับการช็อกไฟฟา้ โดยเรว็
15
4. การติดต่อขอความช่วยเหลือ ควรมีเบอร์โทรศัพท์สำหรับติดต่อ เช่น
เบอร์โรงพยาบาล เบอร์สถานีตำรวจ และเบอรท์ ี่จำเป็นไว้ขา้ งๆ โทรศัพท์
มีหลายกรณีท่ีผู้ป่วยได้รับความช่วยเหลือไม่ทันต่อเหตุการณ์ จึงควร
โทรขอความช่วยเหลอื เช่น ผ้ปู ่วยมอี าการแน่นหน้าอก เหนอื่ ย หายใจ
ไม่ออก แขนขา อ่อนแรง ซ่ึงท่านไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรในกรณี
ฉกุ เฉนิ นนั้ ควรขอความช่วยเหลอื ทนั ที
3
จัดทา่ ให้พร้อมสำหรบั การช่วยชีวติ
จัดท่าให้ผู้หมดสติมาอยู่ในท่านอนหงายบนพ้ืนราบและแข็ง แขนสอง
ขา้ งเหยียดอยู่ข้างลำตวั
รูปที่ 3 จัดทา่ ให้ผูห้ มดสติมาอยใู่ นท่านอนหงายบนพืน้ ราบและแข็ง
หมายเหต
ุ
กรณีผปู้ ว่ ยอุบัติเหตหุ รือสงสัยการบาดเจบ็ ทีค่ อและหลัง การจดั ท่าตอ้ ง
ระมัดระวังอย่างที่สุด โดยใหศ้ ีรษะ คอ ไหล่ และลำตัวตรึงเป็นแนวเดียวกัน
16
ไม่บดิ คอไปมา มฉิ ะน้ันผหู้ มดสติอาจกลายเปน็ อัมพาต เพราะกระดูกสันหลงั
ที่หักอยแู่ ลว้ จะไปกดทบั ไขสนั หลัง
4
หาตำแหนง่ วางมอื บนหน้าอก
4.1 กรณีผู้ใหญ่ ถ้าผู้หมดสติไม่ไอ ไม่หายใจ ไม่ขยับส่วนใดๆ ของ
ร่างกายให้ถือว่า หัวใจหยุดเต้น ไม่มีสัญญาณชีพ ต้องช่วยกดหน้าอกทันที
ให้หาตำแหน่งการวางมือท่ีครึ่งล่างของกระดูกหน้าอกเพื่อกดหน้าอก โดยใช้
ส้นมือข้างหนึ่งวางบนบริเวณครึ่งล่างกระดูกหน้าอก แล้วเอามืออีกข้างหนึ่ง
วางทาบหรือประสานไปบนมอื แรก
รปู ท่ี 4 การวางมือเพือ่ กดหนา้ อก
17
รปู ที่ 5 การเตรียมพรอ้ มทจ่ี ะกดหนา้ อก
4.2 กรณีเด็ก (ยังไม่เป็นวัยรุ่น) วางส้นมือของมือหนึ่งไว้บนกระดูก
หน้าอก ตรงกลางคร่ึงล่างของกระดูกหน้าอก (ใช้มือเดียวหรือใช้สองมือ
ข้ึนอยู่กับรูปร่างเด็ก ตัวเล็กหรือตัวโต) ถ้าใช้สองมือให้เอาอีกมือหน่ึงไปวาง
ทาบหรือประสานกับมือแรก หรือใช้อีกมือหนึ่งดันหน้าผากเพ่ือเปิดทางเดิน
ลมหายใจ
รูปที่ 6 การกดหน้าอกโดยใช้มือข้างเดยี ว
18
4.3 กรณีทารก (อายุ 1 เดอื น ถงึ 1 ปี) กดหนา้ อกด้วยน้วิ มอื สองนว้ิ
ทีก่ ่ึงกลางหนา้ อกเดก็ ระดับใต้ราวนมเลก็ น้อย โดยใช้นิ้วช้ีและนิว้ กลาง หรือ
ใชน้ ิว้ กลางและนวิ้ นางกดหน้าอก
รูปที่ 7 การกดหน้าอกในทารก
5
กดหน้าอก 30 ครง้ั
การกดหน้าอกเป็นการทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตคงอยู่ได้แม้หัวใจจะ
หยุดเต้น สามารถทำได้โดย กดหน้าอกแล้วปล่อย กดแล้วปล่อย ทำติดต่อ
กันไป 30 ครัง้ ให้ได้ความถ่ขี องการกดอย่างนอ้ ย 100-120 คร้งั ตอ่ นาที โดย
นบั “หน่งึ และสอง และสาม และส่ี และหา้ และหก และเจด็ และแปด และ
เก้า และสิบ สิบเอ็ด สิบสอง สิบสาม สิบส่ี ....... สิบเก้า ยสี่ ิบ ยีบเอด็ (ยส่ี บิ
เอ็ด) ยีบสอง (ย่ีสบิ สอง) ยีบสาม ........ ยบี เก้า สามสบิ ”
โดยให้ฝึกนับและจับเวลาจาก หน่ึงและสองและสาม...ไปจนถึงสามสิบ
จะใช้เวลาอยู่ในช่วง 15-18 วินาที จึงจะได้ความเร็วในการกดอย่างน้อย
100-120 คร้ังต่อนาที (โดยท่คี วามเรว็ 100 ครัง้ ต่อ 1 นาที หรอื 60 วนิ าท,ี
10 คร้ัง ตอ่ 6 วินาที, 30 ครัง้ ตอ่ 18 วินาท)ี
19
เทคนิคในการกดหน้าอก
1. วางมือลงบนตำแหน่งท่ีถูกต้อง ระวังอย่ากดลงบนกระดูกซี่โครง
เพราะจะเปน็ ตน้ เหตุใหซ้ ี่โครงหกั
2. แขนเหยียดตรงอย่างอแขน โน้มตัวให้หัวไหล่อยู่เหนือผู้หมดสติ
โดยทศิ ทางของแรงกดดิ่งลงสกู่ ระดกู หนา้ อก
3. กรณีผู้ใหญ่ กดหน้าอกให้ยุบลงไปอย่างน้อย 2 นิ้วหรือ 5 ซม.
ไมเ่ กิน 2.4 นว้ิ หรือ 6 ซ.ม.
4. กรณีเด็ก กดหน้าอกให้ยุบลงอย่างน้อย 1/3 ของความหนาของ
ทรวงอก หรอื ประมาณ 2 นว้ิ (5 ซม.)
5. กรณีทารก กดหน้าอกใหย้ บุ ลงอยา่ งน้อย 1/3 ของความหนาของ
ทรวงอก หรอื ประมาณ 1.5 นวิ้ ( 4 ซม.)
6. ในจังหวะปล่อยต้องคลายมือข้ึนมาให้สุด เพื่อให้หน้าอกคืนตัว
กลับมาสูต่ ำแหนง่ ปกตกิ ่อนแล้วจึงทำการกดครง้ั ต่อไป อย่ากดท้งิ
น้ำหนักไว้ เพราะจะทำให้หวั ใจคลายตัวได้ไม่เต็มท่ี ห้ามคลายจน
มือหลดุ จากหนา้ อก เพราะจะทำใหต้ ำแหนง่ ของมือเปลย่ี นไป
6
เปดิ ทางเดินหายใจใหโ้ ลง่
ในคนที่หมดสติ กล้ามเนื้อจะคลายตัวทำให้ลิ้นตกลงไปอุดทางเดิน
หายใจ การเปิดทางเดินหายใจทำโดยวิธีดันหน้าผากและยกคาง (head tilt-
chin lift) โดยการเอาฝา่ มอื ขา้ งหนง่ึ ดนั หน้าผากลง น้วิ ชแ้ี ละนิ้วกลางของมอื
อีกข้างหนึ่งยกคางข้ึน ใช้นิ้วมือดึงเฉพาะกระดูกขากรรไกรล่างโดยไม่กดเนื้อ
ออ่ นใต้คาง ให้หน้าผ้ปู ว่ ยเงยขนึ้
20
รปู ท่ี 8 วิธดี นั หนา้ ผากและยกคาง
7
ชว่ ยหายใจ
เม่ือเห็นว่าผู้หมดสติไม่หายใจหรือไม่มั่นใจว่าหายใจได้ ให้เป่าลมเข้า
ปอด 2 ครง้ั แต่ละครั้ง ใชเ้ วลา 1 วนิ าที และตอ้ งเห็นผนงั ทรวงอกขยบั ขนึ้
วิธชี ่วยหายใจแบบปากต่อปากพรอ้ มกับดันหน้าผากและยกคาง
ให้เลื่อนหัวแม่มือและน้ิวชี้ของมือท่ีดันหน้าผากอยู่มาบีบจมูกผู้หมด
สติให้รูจมูกปิดสนิท สูดลมหายใจเข้าตามปกติแล้วครอบปากผู้ช่วยเหลือเข้า
กับปากของผู้หมดสติ ตาชำเลืองมองหน้าอกผู้หมดสติพร้อมกับเป่าลม
เข้าไปจนหนา้ อกของผหู้ มดสติขยับขึน้ เป่านาน 1 วนิ าที แลว้ ถอนปากออก
ใหล้ มหายใจของผหู้ มดสติผ่านกลบั ออกมาทางปาก
21
รปู ที่ 9 วิธชี ่วยหายใจแบบปากต่อปาก
ถ้าเป่าลมเข้าปอดครั้งแรกแล้ว ทรวงอกไม่ขยับข้ึน (ลมไม่เข้าปอด)
ให้จัดทา่ โดยทำการดนั หน้าผาก ยกคางขน้ึ ใหม่ (พยายามเปิดทางเดนิ หายใจ
ให้โล่งทส่ี ดุ ) ก่อนจะทำการเปา่ ลมเขา้ ปอดคร้งั ต่อไป
การช่วยชีวิตทารก มีประเด็นสำคัญที่แตกต่างจากการช่วยชีวิตใน
ผู้ใหญบ่ างประการ คอื ในกรณีทป่ี ากเดก็ เล็กมาก การเป่าปากควรอ้าปากให้
ครอบทงั้ ปากและจมูกของทารก
รปู ที่ 10 การเป่าปากควรควรอ้าปากครอบทัง้ ปากและจมูกของทารก
22
หมายเหตุ
การเปา่ ลมเข้าปอด ถา้ ทำบอ่ ยเกินไป หรือใชเ้ วลานานเกินไป จะเปน็
ผลเสียต่อการไหลเวียนโลหิตและทำใหอ้ ัตราการรอดชวี ิตลดลง
หลังการเป่าลมเข้าปอด 2 ครั้ง ให้เร่ิมกดหน้าอกต่อเนื่อง 30 คร้ัง
ทนั ที สลบั กบั การเป่าลมเข้าปอด 2 ครัง้ (หยดุ กดหนา้ อกเพื่อชว่ ยหายใจ 2
ครั้ง ต้องไมเ่ กนิ 10 วนิ าที) ใหท้ ำเช่นนี้ จนกระท่งั
1. ผู้ปว่ ยมกี ารเคล่ือนไหว หายใจ หรือไอ
2. มีคนนำเครื่องชอ็ กไฟฟา้ หวั ใจอัตโนมัติ(เออดี )ี มาถงึ
3. มบี คุ ลากรทางการแพทย์มารับช่วงต่อ
8
กดหนา้ อก 30 ครง้ั สลบั กับการเปา่ ลมเข้าปอด 2 ครงั้
เม่อื ผา่ นขั้นตอนการช่วยเหลือมาตงั้ แตข่ ้นั ท่ี 1 ถงึ ขั้นที่ 8 แล้ว ผู้หมดสติ
จะได้รับ การเปา่ ลมเข้าปอด 2 ครั้ง สลบั กับกดหนา้ อก 30 ครง้ั (นบั เปน็ 1
รอบ) ใหท้ ำต่อไปเร่อื ยๆ จนกวา่ ผู้ป่วยมีการเคล่ือนไหว ไอ หรือหายใจ หรอื
เครือ่ งเออีดี มาถงึ หรอื มบี คุ ลากรทางการแพทยม์ ารับช่วงต่อไป
ในกรณีทีม่ ีผปู้ ฏบิ ตั กิ ารชว่ ยชวี ติ มากกวา่ 1 คน สลบั หน้าที่ของผทู้ ่ีกด
หน้าอกกับผู้ที่ช่วยหายใจ ทุก 2 นาที (5 รอบ)
หมายเหต
ุ
ถ้าผู้ปฏิบัติการช่วยชีวิตไม่ต้องการเป่าปากผู้หมดสติ หรือทำไม่ได้
ให้ทำการช่วยชีวิตด้วยการกดหนา้ อกอยา่ งเดยี ว
23
การใช้เคร่ืองชอ็ กไฟฟ้าหวั ใจอัตโนมัติ
(เออีดี : AED)
การใช้เคร่ืองช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติหรือเคร่ืองเออีดี เป็นอีกข้ันตอน
ท่ีมีความสำคัญมากในห่วงโซ่แห่งการรอดชีวิต เคร่ืองเออีดี เป็นอุปกรณ์ที่
สามารถ “วิเคราะห์” คล่ืนไฟฟ้าหัวใจของผู้ป่วยได้อย่างแม่นยำ ถ้าเครื่อง
ตรวจพบว่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจของผู้ป่วยเป็นชนิดท่ีต้องการการรักษาด้วยการ
ช็อกไฟฟา้ หัวใจ เครื่องจะบอกเราใหช้ อ็ กไฟฟา้ หัวใจแก่ผปู้ ่วย การชอ็ กไฟฟ้า
หัวใจให้กับผ้ปู ่วยเป็นการรกั ษาท่มี ปี ระสิทธิภาพและประสบความสำเร็จสูงมาก
จะทำให้คล่ืนไฟฟ้าหัวใจท่ีผิดปกตินั้นกลับมาสู่ภาวะปกติได้ และหัวใจจะ
สามารถสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงร่างกายได้ตามปกติ แต่ถ้าเคร่ืองเออีดีตรวจพบ
ว่าคล่ืนไฟฟ้าหัวใจของผู้ป่วยเป็นชนิดที่ไม่ต้องรักษาด้วยการช็อกไฟฟ้าหัวใจ
เคร่ืองกจ็ ะบอกว่าไม่ตอ้ งช็อก และบอกให้ประเมนิ ผปู้ ว่ ย ซ่งึ เราจะตอ้ งประเมิน
และพิจารณาต่อเองว่าจะต้องทำการช่วยฟ้ืนชีวิตข้ันพ้ืนฐานโดยการกดหน้าอก
ใหแ้ ก่ผ้ปู ่วยหรอื ไม่
ความสำคัญของเครอ่ื ง (เออีดี : AED) และคลืน่ ไฟฟ้าหวั ใจ
การท่ีหัวใจบีบตัว หรือท่ีเรียกว่าหัวใจเต้น เพ่ือให้เลือดไปเล้ียงอวัยวะ
ต่างๆ ในร่างกายได้นั้น เป็นเพราะมีเนื้อหัวใจชนิดพิเศษ ท่ีสามารถปล่อย
กระแสไฟฟ้าออกมากระตุ้นให้หัวใจบีบตัวอย่างเป็นจังหวะ ซึ่งเราสามารถ
บันทึกเป็นรปู ทีเ่ รยี กว่าคลน่ื หัวใจหรอื คลน่ื ไฟฟ้าหวั ใจ ดงั ภาพ
24
ภาพที่แสดงภาวะหัวเตน้ เป็นปกต
ิ
ภาพที่แสดงภาวะหวั ใจหอ้ งลา่ งสนั่ พล้ิว (ventricular fibrilation)
ภาพท่แี สดงภาวะหวั ใจหยุดเตน้ โดยสนิ้ เชงิ asystole
เมื่อเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน นั้น ก่อนที่หัวใจจะหยุดเต้น
อย่างส้นิ เชงิ เราสามารถใช้เครอื่ งชอ็ กไฟฟา้ หวั ใจ ปลอ่ ยกระแสไฟฟ้าออกไป
ทำการช็อกหัวใจที่ส่ันพล้ิวให้หยุดลงทันที่ เพื่อให้เน้ือหัวใจชนิดพิเศษปล่อย
กระแสไฟฟา้ ที่ปกติไปกระตุน้ หวั ใจใหก้ ลบั มาบบี ตวั ตามปกติอกี คร้ังหนึ่ง
การใช้งานเครื่องเออีดี แม้จะมีเครื่องเออีดีหลายรุ่นจากหลายบริษัท
แต่หลักการใช้งานจะมีอยสู่ ขี่ ัน้ ตอนเหมอื นกนั ดงั น
ี้
1. เปิดเครื่อง ในเคร่ืองเออีดีบางรุ่นท่านต้องกดปุ่มเปิดเคร่ือง ใน
ขณะท่ีเคร่ืองบางรุ่นจะทำงานทันทีที่เปิดฝาครอบออก เมื่อเปิดเคร่ืองแล้วจะ
มีเสยี งบอกให้รู้วา่ ท่านต้องทำอย่างไรต่อไปอย่างเป็นขั้นตอน
25
รปู ท่ี 11 เครื่องเออดี
ี
2. ติดแผ่นนำไฟฟ้า โดยติดแผ่นนำไฟฟ้าท้ัง 2 แผ่นเข้ากับหน้าอก
ของผู้ป่วยให้เรยี บร้อย (ในกรณจี ำเปน็ ท่านสามารถใชก้ รรไกรตัดเสื้อของผ้ปู ่วย
ออกก็ได้ กรรไกรน้ี จะมเี ตรียมไว้ให้ในชดุ ช่วยชวี ิต (กระเป๋าเออีดี) อยู่แล้ว)
ต้องให้แน่ใจว่าหน้าอกของผู้ป่วยแห้งสนิทดี ไม่เปียกเหง่ือ หรือเปียกน้ำ
แผ่นนำไฟฟ้าของเครื่องเออีดีต้องติดแนบสนิทกับหน้าอกจริงๆ ถ้าจำเป็น
ท่านสามารถใช้ผ้าขนหนูซึ่งจะมีเตรียมไว้ให้ในชุดช่วยชีวิต เช็ดหน้าอกของ
ผู้ป่วยให้แห้งเสียก่อน การติดแผ่นนำไฟฟ้าของเคร่ืองเออีดีน้ัน เริ่มด้วยการ
ลอกแผน่ พลาสติกด้านหลงั ออก ตำแหนง่ ติดแผน่ นำไฟฟา้ ดตู ามรูปทแ่ี สดงไว้
(เครื่องบางรุ่นมีรูปแสดงท่ีตัวแผ่นนำไฟฟ้า บางรุ่นก็มีรูปแสดงที่ตัวเคร่ือง)
ต้องติดให้แนบสนิทกับหน้าอกของผู้ป่วยด้วยความรวดเร็ว แผ่นหน่ึงติดไว้ท่ี
ใตก้ ระดูกไหปลาร้าดา้ นขวา และอีกแผ่นหน่ึงติดไว้ที่ใตร้ าวนมซา้ ยดา้ นข้างลำตัว
ตรวจดูให้แน่ใจว่าสายไฟฟ้า จากแผ่นนำไฟฟา้ ตอ่ เขา้ กับตวั เคร่ืองเรียบรอ้ ย
26
รูปที่ 12 ติดแผ่นนำไฟฟา้ ท้ัง 2 แผน่
3. ให้เคร่ืองเออีดีวิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าหัวใจ ระหว่างน้ันห้ามสัมผัสถูก
ตัวผู้ป่วยโดยเด็ดขาด ให้ท่านร้องเตือนดังๆว่า “เครื่องกำลังวิเคราะห์คล่ืน
ไฟฟ้าหัวใจ ห้ามสัมผัสตัวผู้ป่วย” เครื่องเออีดีส่วนใหญ่จะเร่ิมวิเคราะห์คล่ืน
ไฟฟ้าหัวใจทันทีท่ีติดแผ่นนำไฟฟ้าเสร็จ เคร่ืองบางรุ่นต้องให้กดปุ่ม “
ANALYZE” กอ่ น
4. ห้ามสัมผัสตัวผู้ป่วย ถ้าเคร่ืองเออีดีพบว่าคล่ืนไฟฟ้าของผู้ป่วยเป็น
ชนิดที่ต้องการการรักษาด้วยการช็อกไฟฟ้าหัวใจ เครื่องจะบอกให้เรากดปุ่ม
“SHOCK” และกอ่ นท่เี ราจะกดปมุ่ “SHOCK” ต้องใหแ้ น่ใจวา่ ไม่มีใครสัมผสั
ถูกตัวของผู้ป่วย ร้องบอกดังๆ ว่า “ฉันถอย คุณถอย และทุกคนถอย” ให้
มองซำ้ อกี คร้ังเปน็ การตรวจสอบคร้ังสุดทา้ ย กอ่ นกดปมุ่ “SHOCK”
เม่ือทำการช็อกไฟฟ้าหัวใจแล้ว ให้เร่ิมทำการช่วยชีวิต โดยการกด
หน้าอก 30 ครัง้ สลบั กบั การเปา่ ลมเข้าปอด 2 ครั้ง ตอ่ เนอ่ื งไปในทนั ที
27
รูปท่ี 13 ห้ามแตะตอ้ งตวั ผปู้ ว่ ย
หากเครื่องบอกว่า “No shock is needed” หรือ “start CPR” ให้เร่มิ
ทำการช่วยชวี ิตขั้นพื้นฐานตอ่ ทนั ที โดยไม่ตอ้ งปิดเครื่องเออีดี
28
รูปท่ี 14 ช่วยชีวติ ขนั้ พ้นื ฐานทันท
ี
โดยทำการกดหนา้ อก 30 คร้ังสลับกบั ช่วยหายใจ 2 ครั้ง จนกวา่ เคร่อื ง
เออีดีจะสงั่ วิเคราะห์คลนื่ ไฟฟ้าหวั ใจอีกครั้ง แลว้ กลบั ไปทำข้อ 3, 4
29
สรปุ ขั้นตอนสำคัญ 4 ประการของการใช้เครอ่ื งเออีดี
1. เปดิ เครื่อง
2. ตดิ แผน่ นำไฟฟา้ ทห่ี น้าอกของผู้ปว่ ย
3. ห้ามสัมผัสตัวผู้ป่วยระหว่างเครื่องเออีดีกำลังวิเคราะห์คลื่นไฟฟ้า
หวั ใจ
4. ห้ามสมั ผสั ตวั ผปู้ ว่ ย จากน้ันกดปมุ่ “SHOCK” ตามท่เี ครอื่ งเออดี ี
บอก
สำหรับข้นั ตอนที่ 1 และ 2 ไม่ควรใชเ้ วลาเกิน 30 วินาที โดยระหว่าง
ข้ันตอนที่ 1 และ 2 ให้กดหน้าอกตามปกตไิ ด
้
หลังจากเครื่องเออีดี บอกว่าปลอดภัยที่จะสัมผัสผู้ป่วยได้แล้วให้
ทำการกดหน้าอกต่อทันที หรือหากเครื่องเออีดีมีปัญหาในการทำงาน ให้
ทำการกดหนา้ อกต่อไปก่อนจนกว่าเครื่องจะพร้อมใชง้ าน
30
ตารางที่ 1 การชว่ ยชวี ติ ข้ันพ้นื ฐานในผู้ใหญ่ เดก็ และ ทารก สำหรบั ประชาชน
องคป์ ระกอบ ผูใ้ หญ ่ เดก็ ทารก
(อายุ 1 ปถี งึ วัยรนุ่ ) (อายุ 1 เดือน - 1 ปี)
ความปลอดภัยของ สภาพแวดล้อมต้องปลอดภยั ต่อผชู้ ่วยเหลอื และผู้ป่วย
สถานทเี่ กดิ เหตุ
การรบั รถู้ งึ ภาวะหวั ใจ ปลุกผู้ป่วยดคู วามรู้สึกตวั เม่อื พบว่าหมดสติ ไมห่ ายใจ
หยุดเตน้ หรือมเี พยี งการหายใจเฮอื ก ไมม่ ีการตอบสนอง ภายใน 10 วินาที
ใหข้ อความชว่ ยเหลือ
การขอความชว่ ยเหลอื อยู่คนเดียวและไมม่ ีโทรศพั ท ์ มผี เู้ หน็ เหตกุ ารณ์ขณะที่หมดสติ (Witness)
จากหนว่ ยชว่ ยชวี ติ ฉกุ เฉิน มือถือ ให้ละทิ้งผปู้ ่วย เพื่อ ปฏิบัติตามขนั้ ตอนสำหรับผใู้ หญ่ดา้ นซ้าย
EMS เรยี กขอความช่วยเหลือจาก
หน่วย EMS และนำAED มา
กอ่ นทำ CPR
แตถ่ ้ามบี ุคคลอน่ื ด้วย ใหเ้ ร่มิ ไมม่ คี นเห็นว่าหมดสติไปต้งั แตเ่ มื่อใด (Unwitness)
ทำ CPR ทันที จนเมื่อ AED ทำการ CPR ก่อน 2 นาที แลว้ คอ่ ยละทงิ้ ผูป้ ่วย
พรอ้ มใช้ ให้ทำการช็อคทันที ไปขอความช่วยเหลือและนำเคร่ือง AED มาใชท้ นั ที
อัตราการกดหนา้ อกตอ่ การ 30 : 2
ช่วยหายใจที่ปราศจาก
ท่อชว่ ยหายใจ
อัตราการกดหน้าอก กดหนา้ อกต่อเนอ่ื งด้วยอัตรา 100 - 120 คร้งั ตอ่ นาที
ตอ่ การช่วยหายใจ ช่วยหายใจ 1 ครั้ง ทกุ 6 วนิ าที (10 ครั้ง/นาท)ี
เมือ่ ใสท่ ่อชว่ ยหายใจ
อัตราการกดหน้าอก 100 - 120 ครงั้ ตอ่ นาที
ความลึกในการกด อยา่ งน้อย 2 น้วิ (5 ซ.ม.) อยา่ งนอ้ ยหน่ึงในสาม อย่างนอ้ ยหน่งึ ในสาม
ไม่ควรเกิน 2.4 น้ิว ของเสน้ ผา่ นศนู ย์กลาง ของเส้นผ่านศนู ยก์ ลาง
(6 ซ.ม.) จากด้านหนา้ ไปหลังของ จากดา้ นหนา้ ไปหลังของ
หน้าอกประมาณ 2 นิว้ หน้าอกประมาณ 1.5 นวิ้
(5 ซ.ม.) (4 ซ.ม.)
ตำแหน่งการวางมือ วางมอื ทงั้ สองขา้ ง โดยให ้ วางมอื ทัง้ สองขา้ งทีก่ ลาง กด 2 นิ้วลงตรงกลาง
ส้นมืออยู่ท่ีกลางหนา้ อก ครง่ึ ลา่ งของกระดูกหนา้ อก หนา้ อก ให้ตำ่ กว่าราวนม
บรเิ วณครงึ่ ลา่ งของกระดูก (หากเด็กตัวเลก็ มากใช้เพียง เล็กนอ้ ย
หน้าอก (ดูขอ้ 4.1 หน้า 17) มอื เดยี ว) (ดขู อ้ 4.2 หนา้ 18) (ดูขอ้ 4.3 หนา้ 19)
การขยายกลบั หน้าอก ปลอ่ ยให้หนา้ อกขยายกลับสู่ตำแหนง่ เดมิ หลังจากการกดแตล่ ะครั้ง
ห้ามพักมอื บนหน้าอกหลงั การกดแต่ละคร้ัง
การหยุดกดใหน้ อ้ ยที่สดุ อยา่ หยดุ กดหน้าอกนานกว่า 10 วนิ าที
คำยอ่ : AED, automated external defibrillator; CPR, Cardiopulmonary resuscitation, 31
EMS, emergency medical service
การเอาส่งิ แปลกปลอมท่อี ดุ ก้ัน
ออกจากทางเดินหายใจ
จะช่วยเหลือในกรณีที่ส่ิงแปลกปลอมอุดก้ันทางเดินหายใจชนิดรุนแรง
เทา่ นน้ั โดยจะมอี าการดงั น
้ี
• หายใจไม่ได้ หายใจลำบาก
• ไอไม่ได
้
• พูดไมม่ ีเสยี ง พูดไม่ได
้
• หนา้ เรม่ิ ซดี เขียว
• มกั ใชม้ อื กุมลำคอตวั เอง
ก่อนเริ่มทำการช่วยเหลือให้ถามผู้ป่วย เพ่ือยืนยันว่าผู้ป่วยสำลักใช่
หรอื ไม
่
วธิ ที ี่ 1 การรดั กระตกุ ทท่ี อ้ งเหนอื สะดอื ใตล้ ้นิ ป่ี กรณีผูป้ ว่ ยยงั ไม่หมดสต
ิ
ให้ผู้ทำการช่วยเหลือเข้าไปยืนข้างหลังผู้ป่วยที่กำลังยืนอยู่ มือข้างที่
ถนัด กำหมดั ไวต้ รงหนา้ ท้องระหว่างสะดอื กบั ล้ินปี่ มืออกี ขา้ งโอบรอบกำปั้น
หรือใช้วิธีประสานมือสองข้างเข้าด้วยกันโดยหันนิ้วโป้งเข้าหาตัวผู้ป่วย แล้ว
รัดกระตุกเข้าหาตัวผู้ทำการช่วยเหลืออย่างแรงหลายๆ ครั้งจนพูดออกมาได้
หรือจนกระท่ังเหน็ สิง่ แปลกปลอมหลุดออกมาจากปาก
32
รปู ที่ 15 การรัดกระตุกที่ทอ้ งเหนือสะดอื ใต้ลิ้นปี่ กรณผี ปู้ ่วยยังไม่หมดสต
ิ
33
วธิ ที ี่ 2 การรดั กระตกุ ทห่ี น้าอก
เป็นเทคนิคเดียวกับการรัดกระตุกหรือกดกระแทกที่ท้องแต่เล่ือนข้ึนมา
ทำท่ีหน้าอกโดยวางหมัดไว้ท่ีกึ่งกลางกระดูกหน้าอกแทน ใช้ในคนอ้วนมากๆ
ทท่ี ้องมขี นาดใหญ่โอบไม่รอบ หรือใช้ในคนตง้ั ครรภ
์
รปู ที่ 16 การรดั กระตกุ ทห่ี น้าอก
วธิ ีที่ 3 การตบหลงั (back blow) ในเด็กทารก
การเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากทางเดินหายใจในเด็กทารก ให้จับเด็ก
นอนคว่ำบนแขนผู้ช่วยเหลือให้ศีรษะต่ำ และตบหลังจนสิ่งแปลกปลอมหลุด
ออกจากปากหรอื จนครบ 5 ครั้ง ถ้าไมส่ ำเรจ็ ใหพ้ ลกิ เดก็ หงายหน้าขนึ้ แลว้
ใช้น้ิวสองนิ้วกดกระแทกบริเวณก่ึงกลางกระดูกหน้าอกจนสำเร็จหรือจนครบ
5 ครง้ั แลว้ ตรวจดูสงิ่ แปลกปลอมในปาก
34
รปู ท่ี 17 การตบหลงั และกดกระแทกหนา้ อก
ในทุกกรณี ไม่ควรล้วงปากหรือคอ หากมองไม่เห็นส่ิงแปลกปลอม
และหากพบว่าหมดสติแล้ว ให้ทำการช่วยเหลือด้วยการช่วยชีวิตข้ันพ้ืนฐาน
(Basic Life Support) โดยกดหนา้ อกและชว่ ยหายใจทนั ที
35
บรรณานุกรม
1. สันต์ ใจยอดศิลป์. คมู่ ือการชว่ ยชีวติ ชนั้ พ้นื ฐาน ฉบับเรยี บเรียงครงั้ ที่
2: คณะกรรมการมาตรฐานการชว่ ยชีวิต สมาคมแพทย์โรคหัวใจ แหง่
ประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, บริษัท พิมพ์สวย จำกัด,
กรุงเทพมหานคร, 2544
2. โสภณ กฤษณะรงั สรรค.์ คู่มอื การช่วยชีวิตช้นั พน้ื ฐาน ฉบับเรียบเรยี ง
ครง้ั ท่ี 4: คณะกรรมการมาตรฐานการชว่ ยชีวติ สมาคมแพทย์โรคหวั ใจ
แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, บริษัท พิมพ์สวย จำกัด,
กรุงเทพมหานคร, 2554
3. โสภณ กฤษณะรังสรรค.์ ค่มู ือการชว่ ยชวี ติ ขั้นพ้นื ฐาน และเครือ่ งชอ็ ก
ไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (เออีดี:AED) สำหรับประชาชน ฉบับเรียบเรียง
ครง้ั ท่ี 5: คณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชวี ิต สมาคมแพทย์โรคหัวใจ
แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชปู ถัมภ,์ บรษิ ทั ปญั ญมิตร การพิมพ์
จำกัด, กรุงเทพมหานคร, 2558
4. Robert W. Neumar, Michael Shuster, Clifton W. Callaway, Lana
M. Gent, Dianne L. Atkins, Farhan Bhanji, Steven C. Brooks,
Allan R. de Caen, Michael W. Donnino, Jose Maria E. errer,
Monica E. Kleinman, Steven L. Kronick, Eric J. Lavonas, Mark
S. Link, Mary E. ancini, Laurie J. Morrison, Robert E. O’Connor,
Ricardo A. Samson, Steven M. chexnayder, Eunice M.
Singletary, Elizabeth H. Sinz, Andrew H. Travers, Myra H.
36
Wyckoff, and Mary Fran Hazinski Part 1: Executive Summary:
2015 American Heart Association Guidelines Update for
Cardiopulmonary Resuscitation and Emergency Cardiovascular
Care Circulation. 2015;132:S315-S367
5. Monica E. Kleinman, Erin E. Brennan, Zachary D. Goldberger,
Robert A. Swor, Mark Terry, Bentley J. Bobrow, RaÜl J.
Gazmuri, Andrew H. Travers, and Thomas Rea Part 5: Adult
Basic Life Support and Cardiopulmonary Resuscitation Quality:
2015 American Heart Association Guidelines Update for
Cardiopulmonary Resuscitation and Emergency Cardiovascular
Care Circulation. 2015;132:S414-S435
6. Hazinski MF, Travers AH and Eustice SK, the AHA BLS Project
Team. Basic Life Support:Provider manual. American Heart
Association. 2016.
37
กติ ตกิ รรมประกาศ
คณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย
ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอขอบคุณ คณาจารย์ทุกท่านท่ีมีส่วนในการจัดทำหนังสือ
“คู่มือการช่วยชีวิตข้ันพ้ืนฐานและเคร่ืองช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ” โดยเฉพาะในการ
จัดพิมพ์ คร้ังท่ี 6 น้ี กระทรวงสาธารณสุขได้สนับสนุนการพิมพ์เพ่ือเผยแพร่ความรู้
ออกสปู่ ระชาชนและหน่วยงานตา่ งๆ ทั่วประเทศ เพือ่ ให้ประชาชนชาวไทยได้มคี วามรู้
ในการช่วยชวี ติ CPR เปน็ ส่วนหน่ึงของโครงการจติ อาสา “เราทำความดดี ว้ ยหวั ใจ”
ขอขอบคุณ คุณกานดา ตันตสิรินทร์ คุณทัศนชัย พันธุ์มณี คุณคมกริช
ทาลุมพุก คณุ อาภากร ฟกั ทอง ในการจดั ทำรปู เล่ม ภาพประกอบ และการตรวจพสิ จู น์
อักษร รวมท้ัง นพ.มรุต จิรเศรษสิริ ในความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข
และคณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย
ในพระบรมราชูปถมั ภ์ ในการร่วมกันเผยแพร่ความรู้การชว่ ยชีวติ CPR ส่ปู ระชาชน
38
39
40
บรรณาธกิ าร :
กฤษณะรังสรรค
์
1. พล.ต.ต.นพ.โสภณ คุณาวฒุ ิ
2. อ.นพ.ปริญญา วบิ ลู ชตุ กิ ุล
3. อ.นพ.สรายทุ ธ พรหมพนั ธุ
์
4. ผศ.นพ.วรการ พัฒนปรีชากลุ
5. พ.ต.อ.นพ.ศุภฤกษ์ ศุภมาศ
6. นางอมรรัตน ์
รายชือ่ คณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชวี ิต ปี 2558 - 2560
สมาคมแพทยโ์ รคหวั ใจแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชปู ถัมภ
์
1. พล.ต.ต.นพ.โสภณ กฤษณะรงั สรรค ์ ทปี่ รกึ ษา
2. ศ.พญ.สวุ รรณ ี สุรเศรณวี งศ ์ ท่ีปรึกษา
3. ศ.นพ.ปิยะมติ ร ศรีธรา ท่ีปรึกษา
4. ผศ.นพ.ระพพี ล กุญชร ณ อยุธยา ทีป่ รกึ ษา
5. อ.นพ.ปรญิ ญา คณุ าวฒุ ิ ประธาน
6. พ.ต.อ.นพ.ศภุ ฤกษ ์ พฒั นปรชี ากลุ รองประธานฝา่ ยบริหาร
7. ผศ.นพ.วรการ พรหมพันธุ์ รองประธานฝ่ายกุมาร
8. อ.นพ.สรายทุ ธ วบิ ลู ชตุ ิกลุ เลขานุการ
9. ผศ.นพ.บวร วทิ ยชำนาญกลุ ผู้ชว่ ยเลขานุการ
10. อ.พญ,พลติ า เหลืองชเู กยี รติ เหรัญญิก
11. ผศ.พญ.รชั นี แซ่ล ้ี นายทะเบียน
12. น.อ.หญิง พญ.จริยา สนั ตตอิ นนั ต์ ร.น. ปฏคิ ม
13. อ.พญ.นลนิ าสน ์ ขนุ คลา้ ย วชิ าการ
14. อ.นพ.ปณั ณวิชญ์ เบญจวลยี ์มาศ ประชาสัมพันธ
์
15. อ.นพ.ภูมพิ ร กตญั ญูวงศ์ ผู้ช่วยประชาสมั พนั ธ์
16. รศ.พญ.อรลกั ษณ ์ รอดอนนั ต ์ กรรมการ
17. รศ.นพ.พลพนั ธ ์ บุญมาก กรรมการ
18. ผศ.นพ.ภทั รพงษ ์ มกรเวส กรรมการ
19. อ.นพ.อุเทน ปานด ี กรรมการ
20. อ.นพ.ฉตั รกนก ทุมวิภาต กรรมการ
คณะกรรมกCOาopneรrtมeantoาt:rต:a รฐานการช่วยชีวิต
สมาคมแพทยโ์ รคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถมั ภ์
อาคารเฉลมิ พระบารมี 50 ปี ชัน้ 5
เลขท่ี 2 ซอยศนู ยว์ ิจัย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ หว้ ยขวาง กรุงเทพฯ 10310
โทรศัพท์ 0-2718-0060-4 โทรสาร 0-2871-0065
https://thaicpr.org