กรอบที่ ๑ ๖
ความหมายของหน้าท่ชี าวพทุ ธ
หน้าท่ชี าวพุทธหมายถงึ อะไร
ใครทราบบ้าง
หนา้ ท่ขี องชาวพุทธ คือ ทำประโยชน์ของตนเองและประโยชน์ของผู้อืน่
ให้ถงึ พร้อมดว้ ยความไมป่ ระมาท
ถ้าธรรมะเข้ามาอยู่ในใจเรา เราจะเป็นผู้สืบทอดรกั ษาศาสนาตัวจริง
ดังนั้นต้องต้ังใจเรียน ธรรมะของพระพทุ ธเจา้ ถา้ เราศึกษาเราจะได้รับ
ประโยชนแ์ ละความสุข ฉะน้ัน เวลาพระพุทธเจ้าจะส่งพระสาวกออกไป
ประกาศธรรมะ ทา่ นจะสง่ั เลย มอบหมายภารกจิ ใหเ้ ธอจารกิ ไป ทา่ นจะสัง่
พระที่จะออกไปเผยแผ่ธรรมะว่า ให้ไปประกาศธรรมะที่งดงามในเบื้องตน้ ใน
ท่ามกลาง และในที่สดุ คือสมเหตสุ มผลไปประกาศเพื่ออะไร เพื่อประโยชน์
และความสุขของมหาชน ของคนจำนวนมาก ไม่ใชข่ องใครคนใดคนหนึง่
หรอก ธรรมะเป็นของมวลชนไม่ใช่ประกาศใหก้ ับคนร่ำคนรวยอย่างเดยี ว
ชาวพทุ ธ คือ ผู้ทีเ่ คารพเลื่อมใสและศรทั ธาในพระรัตนตรัย
มีหน้าที่ในการศึกษาและปฏิบตั ิตามหลกั ธรรมคำสอนของระพุทธาสนา
ในความเคารพนบั ถือตอ่ พระรัตนตรยั เอาใจใสท่ ำนุบำรุง และบำเพ็ญ
ประโยชน์ต่อวัดและพระสงฆ์ นอกจากนยี้ งั ต้องปฏิบัตติ นอยา่ งมมี ารยาท
ที่ถกู ต้องและเหมาะสมต่อพระสงฆ์ และนำแนวทางการปฏิบตั ติ นของ
พระสงฆ์มาเปน็ แบบอยา่ งที่ดีงามในการดำเนินชีวติ
คำถาม กรอบที่ 1
ในฐานะท่นี ักเรียนเปน็ ชาวพทุ ธ นกั เรียนไดป้ ฏิบตั ิตนอย่างไรบ้าง
............................................................................................
บทเรียนสำเร็จรปู หนา้ ทีแ่ ละมรรยาทชาวพุทธ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๓ หน่วยพระสงฆ์ ม.๕ จดั ทำโดยครพู รรณี อ่นุ อก
คำตอบกรอบท่ี 1 ปฏิบตั ิตามหลักธรรมคำสอนของระพุทธศาสนาในความเคารพนับถือตอ่ ๗
พระรัตนตรยั เอาใจใส่ทำนบุ ำรุง และบำเพญ็ ประโยชน์ต่อวดั และพระสงฆ์
กรอบที่ ๒ หนา้ ทีช่ าวพุทธท่มี ีต่อตนเองและพระพทุ ธศาสนา
หนา้ ที่ชาวพุทธทม่ี ีตอ่ ตนเองและพระพุทธศาสนา
1. หน้าทใ่ี นการศึกษาเล่าเรียนพระธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา จุดหมาย
ของการศึกษาอบรม คอื การพฒั นาตนเองใน 4 ดา้ น ได้แก่
1.1 ด้านรา่ งกาย เป็นการศึกษาเพ่อื เตรียมตวั ให้พร้อมทีต่ อ้ งปฏิบตั ิ
และสิ่งตา่ ง ๆ รอบตัว
1.2 ด้านสังคม เป็นการศึกษาเพ่อื เตรียมตัวให้พร้อมในการปรับตัว
ปรับพฤตกิ รรมเพือ่ ให้อยูร่ ่วมกับคนอน่ื ในสงั คมได้
1.3 ดา้ นจิตใจ การเตรียมใจของตนให้พร้อม มีความหนกั แนน่ มนั่ คง
ไมห่ วัน่ ไหวตามกระแสสงั คมหรอื กิเลส
1.4 ดา้ นปัญญา เปน็ เป้าหมายสูงสดุ ในการศึกษาหลักธรรมคำสอน คอื
การพฒั นาตนเองตามหลักการพระพุทธศาสนา ปัญญาคอื การรู้แจง้ คิดรอบคอบ
2. หน้าท่ปี ฏิบตั ิตามหลกั ธรรมคำสั่งสอนของพระพทุ ธศาสนา โดยมี
จุดมุ่งหมาย คอื
2.1 พฒั นาตนเองสู่การเป็นสมาชิกท่ีดขี องสงั คม โดยนำหลกั เบญจศีล
เบญจธรรมมาใช้ในชีวติ ประจำวนั เพ่อื พฒั นาตนเองให้เป็นคนดี
2.2 เพอ่ื พฒั นาตนเองให้เป็นชาวพทุ ธทด่ี ี เพอ่ื เป็นสมาชิกทด่ี ีของสงั คม
และร่วมถึงการปฏิบตั ติ ามพิธีกรรมของศาสนาดว้ ย
3. ทำนบุ ำรงุ พทุ ธศาสนา ได้แก่ สรา้ งศาลาการเปรียญ โบสถ์ วิหาร
4. อปุ ถมั ภบ์ ำรงุ พระภิกษุ สามเณร ซึง่ เปน็ สาวกของพระพทุ ธเจ้าได้มี
โอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย ฝึกฝนสมาธิ วิปสั นากรรมฐาน
5. หน้าท่ใี นการปกปอ้ งพระพุทธศาสนา คอื การปกปอ้ งพระรัตนตรัย ได้แก่
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
คำถามกรอบที่ ๒ เมือ่ นักเรยี นปฏบิ ตั ติ นตามหน้าทช่ี าวพทุ ธจะมีการ
พัฒนาตนเองใน 4 ดา้ น ได้แก่.....................................
บทเรียนสำเร็จรูปหนา้ ทีแ่ ละมรรยาทชาวพทุ ธ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๓ หน่วยพระสงฆ์ ม.๕ จดั ทำโดยครูพรรณี อนุ่ อก
คำตอบกรอบท่ี ๒ ดา้ นรา่ งกาย ด้านสังคม ดา้ นจิตใจ ดา้ นปญั ญา ๘
กรอบท่ี ๓ หน้าที่ของชาวพทุ ธท่ดี ี
หนา้ ทีข่ องชาวพุทธท่ดี ี” ดังน้ี
หน้าท่ี ตามหลักของพระพุทธศาสนาเปน็ 3 ประการคือ
1. ละเว้นจากการทำบาปทง้ั ปวง
2. ถึงพร้อมด้วยการทำความดี
3. ทำจิตให้สดใสผอ่ งแผ้ว ผ่องใส
เอกลกั ษณข์ องพุทธศาสนิกชน 9 ประการคอื
1. แสดงตนเปน็ พุทธมามกะแตย่ ังเยาว์ เปน็ พธิ ีแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ ถึงซง่ึ พระรตั นตรัย
เป็นทีพ่ ึงที่ระลึกเสียแต่ยงั เยาว์ เร่มิ ตั้งแตเ่ ข้าโรงเรยี น
2. มีที่บูชาประจำบ้าน เพ่อื เปน็ ทีเ่ คารพกราบไหวร้ ะลึกถึงคณุ พระรัตนตรยั
3. ไหว้พระสวดมนต์ประจำวันเปน็ การเสริมข้อตน้ ๆ ทั้ง 2 คือ การระลึกถึงคณุ พระรตั นตรยั
ให้รู้จักความกตัญญตู ามหลกั ธรรม ระลึกถึงคุณของผมู้ ีพระคุณมบี ิดามารดาครอู าจารย์
4. ตกั บาตรตามกำลังของตน เพื่อเป็นการสืบพระศาสนาด้วยการบำรุงพระภิกษสุ งฆ์ให้ได้
ศึกษาเลา่ เรยี นพระธรรมวนิ ยั นำมาเผยแผแ่ ก่ประชาชนทวั่ ไปใหป้ ระพฤติปฎบิ ตั ิทั้งเปน็ การฝึกใจ
ในการบริจาคทาน
5. ฟงั ธรรมเปน็ นิจ ในวนั พระหรอื วนั อาทติ ยไ์ ด้เขา้ วัดฟังธรรมหรอื แมท้ างสอื่ สารมวลชนที่
เผยแพร่อยทู่ ั่วไป
6. ทำบุญและประกอบพิธีตามฤดกู าล เชน่ วนั สำคญั ทางศาสนาหรือพธิ ีบำเพญ็ บุญตา่ ง ๆ
ตามฤดูกาล
7. แสดงความเคารพเมอื่ ผ่านปชู นยี วตั ถุ ปชู นียสถานทางพระพทุ ธศาสนา เพ่อื เป็นการน้อม
รำลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย
8. มีเบญจศีล เบญจธรรม ซง่ึ เปน็ หลักการเบอื้ งตน้ ทีจ่ ะให้คนละเว้นความชว่ั แล้วทำความดอี ยู่
ด้วยกันอย่างมีความสุข
9. ผชู้ ายต้องบวช แม้จะแสดงตนเปน็ พทุ ธมามกะแล้วหรือเขา้ เป็นสมาชกิ ของชาวพทุ ธแล้วยงั มี
อีกองค์การหนึง่ ทีผ่ ชู้ ายควรหาโอกาสเข้าเปน็ สมาชกิ เพือ่ ศึกษาปฎบิ ตั ิยอมสละกายใจและเวลา
เพื่อบวชเปน็ ภิกษุ
คำถามกรอบท่ี ๓ ให้นกั เรียนบอกถึงเอกลักษณ์ของชวา
พทุ ธทีน่ กั เรียนปฏิบัติมาอย่างน้อย ๕ ขอ้
บทเรียนสำเร็จรปู หนา้ ทีแ่ ละมรรยาทชาวพทุ ธ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๓ หนว่ ยพระสงฆ์ ม.๕ จดั ทำโดยครูพรรณี อ่นุ อก
คำตอบ กรอบท่ี ๓ ตกั บาตร, ฟังธรรม, ทำบุญและประกอบพิธี,รกั ษำศลี ,น่งั สมำธิ ๙
กรอบที่ ๔ หน้าที่ชาวพทุ ธตามหลกั ของพระพุทธศาสนา
หนา้ ทีพ่ ระ-ชาวพทุ ธท่ีดีควรเปน็ อย่างไร??
ดา้ นการศกึ ษาและปฏิบตั ิธรรม ชาวพทุ ธทด่ี คี วรให้ความสนใจศึกษาค้นควา้
หลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนา และน้อมนำหลกั ธรรมทีไ่ ด้ประยุกตใ์ ชใ้ ห้เหมาะสม
แก่ฐานะ รวมท้ังมนั่ ทำบุญบำเพ็ญกศุ ล เขา้ รว่ มพิธกี รรมทางพระพุทธศาสนาในโอกาส
สำคญั ต่างๆ อย่าทำให้ศนู ยก์ ลางชุมชน คือ วัด กลายเป็นสถานท่รี ้าง จึงต้องรว่ มกัน
พฒั นาอยู่เสมอๆ
ด้านการอุปถมั ภพ์ ระพทุ ธศาสนา นอกจากมีหน้าทใ่ี นการศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรม
และสง่ั สอนธรรมแล้ว ยังต้องปฏิบตั ศิ าสนกจิ อ่นื ๆ เพอ่ื ความดีงามและความสงบสขุ ของ
ประชาชน ชาวพุทธท่ดี จี ึงควรช่วยอปุ ถัมภบ์ ำรงุ และสง่ เสริมพระภิกษุสามเณร เพอ่ื ให้มี
กำลังในการปฏิบัตศิ าสนกิจสบื ตอ่ อายุพระพุทธศาสนาให้ม่ันคงสืบไป
การทำนบุ ำรุงวดั และพุทธศาสนสถาน พระพทุ ธศาสนามีวดั เป็นศนู ย์กลางสำหรบั
บำเพ็ญกุศล ฝึกอบรม และพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตประชาชน โดยมีพระสงฆ์ในฐานะ
ศาสนบุคคล เปน็ ผู้ชแี้ นะแนวทางการดำเนนิ ชวี ิต วัดจงึ เป็นอทุ ยานการศึกษา
ดา้ นการปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา พระพทุ ธศาสนาถอื เป็นมรดกชาติไทย
ทบ่ี รรพบุรษุ ได้ปกปอ้ งคุ้มครองมาด้วยชีวิต เมือ่ วิกฤตการณเ์ กิดขึน้ กับพระพุทธศาสนา
ชาวพทุ ธไม่ควรนิ่งดูดายและปลอ่ ยให้เป็นหน้าทีข่ องพระสงฆเ์ พยี งฝา่ ยเดียว
ควรจะช่วยกนั แก้ไขระงบั เหตุการณม์ ิให้ลกุ ลามใหญ่โต
คำถามกรอบท่ี ๔ ในฐานะที่เราเป็นพุทธศาสนกิ ชนคนหนึง่ เรา
จะทำหน้าทีช่ าวพทุ ธท่ีดไี ดอ้ ย่างไรบ้าง
บทเรียนสำเร็จรปู หนา้ ทีแ่ ละมรรยาทชาวพุทธ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๓ หนว่ ยพระสงฆ์ ม.๕ จดั ทำโดยครูพรรณี อนุ่ อก
คำตอบ กรอบท่ี ๔ อยู่ในดุลพินิจครผู ้สู อน ๑๐
กรอบท่ี ๕
หนา้ ทีข่ องชาวพุทธทดี่ ีทีค่ วรรู้
1. หมัน่ ทำความดี ทกุ ศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี การท่คี นหนึ่งคนจะเป็นคนดี
หรือไมด่ นี นั้ สามารถสงั เกตไดจ้ ากการกระทำ ถ้าจิตใจใฝ่ดี คดิ ดแี ล้วการกระทำย่อมดี
ตามไปดว้ ยแนน่ อน การทำดไี มจ่ ำเป็นวา่ จะตอ้ งทำแค่กบั คนรู้จักเท่านนั้ แตเ่ ราสามารถ
ปฏิบตั ิไดก้ บั เพอ่ื นรว่ มโลกทั้งหลาย
2.ละเว้นจากการทำบาป ส่งิ ใหนท่คี ดิ วา่ ไม่ดีทงั้ ตอ่ ตัวเองและผู้อื่นก็ไมค่ วรทำ เพราะ
ถ้ารู้ว่าไม่ดแี ต่ก็ยงั จะฝืนทำลงไปสกั วันหนึ่งผลร้ายนน้ั ต้องมาถงึ ตวั แน่นอน
3.ไหวพ้ ระสวดมนต์ การสวดมนต์จะชว่ ยให้เกดิ สมาธิ จิตใจสงบไมว่ อกแวก พอ
สวดมนตน์ านๆเขา้ ก็จะส่งผลใหเ้ ราเป็นคนมีสติปญั ญาดีเมื่อมเี หตุการณไ์ มค่ าดคิด
เกิดขนึ้ ก็จะสามารถต้ังรับไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
4.เขา้ วดั ฟังธรรม อยา่ งน้อยกข็ อให้เข้าถึงพระพุทธศาสนาในโอกาสสำคญั ตา่ งๆ
เชน่ วันมาฆบูชา วันวสิ าขบชู า และวันอาสาฬหบชู า เปน็ ตน้
5.ทำบุญตามกำลังศรัทธา การทำบุญสามารถทำไดท้ กุ ทท่ี ุกเวลาไมจ่ ำเป็นว่าจะต้อง
ทำบุญแค่ภายในวดั ถวายสงั ฆฑาน หรือปัจจยั ตา่ งๆ เพราะเราสามารถทำบญุ ใหก้ บั คน
สัตว์เลก็ สตั ว์ใหญ่ หรือแม้กระทั่งสิง่ ไม่มีชีวติ เราก็สามารถทำได้ การชว่ ยพยุงคนตาบอด
ขา้ มถนน ถ้าไม่มีกำลงั ทรัพย์กเ็ ลือกทำบุญในรปู แบบอ่นื ซึ่งมวี ธิ ีเยอะแยะหลายรูปแบบ
คำถามกรอบท่ี ๕ ชาวพุทธท่ดี คี วรจะประพฤติตนอย่างไร
บทเรียนสำเรจ็ รูปหนา้ ทีแ่ ละมรรยาทชาวพทุ ธ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๓ หน่วยพระสงฆ์ ม.๕ จดั ทำโดยครูพรรณี อ่นุ อก
คำตอบ กรอบท่ี ๕ อยูใ่ นดุลพินิจครูผู้สอน ๑๑
กรอบท่ี ๖
การปฏิบตั ิตนเบ้ืองต้นของชาวพุทธ
การฝึกปฏิบตั ิตามวฒั นธรรมชาวพทุ ธ คอื ฝกึ เพ่อื ละจากความชั่ว แลว้ ตงั้ อยู่ใน
คุณธรรมความดี ยังจิตของตนให้ผ่องใสอยูเ่ สมอ และในทา่ มกลางท่ีเศรษฐกจิ และ
สังคมที่มีแตค่ วามตึงเครียด ธรรมะถอื ว่าเป็นทพ่ี ักใจได้
ข้อแนะนำ การปฏิบัตติ นในเบือ้ งตน้ ของชาวพุทธ ซึง่ ควรมีการปฏิบัตติ นให้
เหมาะสม ดังน้ี 1.การให้ทาน 2.การถอื ศีล 3.การศึกษาธรรมะ
การใหท้ าน
การให้ทาน ได้แก่ การสละทรพั ย์สิ่งของสมบัตขิ องตนท่มี ีอย่ใู ห้แก่ผู้อื่น โดยมุ่งหวงั จะจนุ
เจอื ให้ผู้อ่นื ได้รบั มอี งค์ประกอบ 3 ประการ ดังน้ี
- องค์ประกอบข้อที่ 1 "วตั ถุทานทใ่ี ห้ต้องบรสิ ทุ ธิ์”ได้มาด้วยความบรสิ ุทธิใ์ นการ
ประกอบอาชีพ ไมใ่ ชข่ องท่ไี ด้มาเพราะการเบียดเบยี นผู้อื่น
- องคป์ ระกอบที่ข้อ 2 "เจตนาในการสร้างทานต้องบรสิ ุทธิ์”เพ่ือเปน็ การสงเคราะห์
ผู้อนื่ ให้ได้รับความสขุ ดว้ ย
- องคป์ ระกอบขอ้ ที่ 3 "เนื้อนาบุญตอ้ งบริสทุ ธ์ิ”คำว่า "เนื้อนาบญุ ” จะต้องมาจากเจตนา
ในการทำทานก็งามบริสุทธ์ิ คำถามกรอบท่ี ๖
ทานคืออะไร ประกอบด้วยอะไรบา้ ง
บทเรียนสำเรจ็ รปู หนา้ ทีแ่ ละมรรยาทชาวพุทธ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๓ หน่วยพระสงฆ์ ม.๕ จัดทำโดยครูพรรณี อุ่นอก
คำตอบ กรอบท่ี ๕ การสละทรพั ย์สิ่งของสมบตั ิของตนที่มอี ยู่ใหแ้ ก่ผอู้ ืน่ ๑๒
วตั ถุบรสิ ทุ ธิ์ สรำ้ งบรสิ ทุ ธิ์ เนอื้ นำบญุ บรสิ ทุ ธิ์
ศีล
"ศีล” นนั้ แปลว่า "ปกติ” คอื ส่งิ หรอื กตกิ าทีบ่ คุ คลจะต้องระวงั รกั ษากาย วาจา ใจ ไม่ให้
ทำร้ายผู้ใดหรอื สตั ว์ใด จนเกิดความลำบากเดือดร้อนหรือลม้ ตาย โดยรักษาตามเพศและฐานะ
ศีลนน้ั มีหลายระดบั คอื ศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ศีล 227 และศีล 311 การถอื ศีลนีเ้ ป็นการเพยี ร
พยายามเพ่อื ระงบั กิเลสหยาบไม่ให้กำเริบข้นึ และเปน็ การบำเพญ็ บญุ บารมีที่สงู ขนึ้ กวา่ การให้
ทาน ในเบ้ืองต้นบคุ คลที่ไม่มีศีล 5 ไมเ่ รียกวา่ มนษุ ย์
* ศีลขอ้ ท่ี 1 ไม่เบยี ดเบยี นผู้อืน่
* ศีลขอ้ ท่ี 2 ไมฉ่ ้อโกงลักขโมย
* ศีลขอ้ ท่ี 3 ไม่ประพฤตผิ ิดลกู เมีย-ผัว ผู้อืน่
* ศีลขอ้ ท่ี 4 ไม่โกหกหลอกลวง
* ศีลขอ้ ท่ี 5 ไมเ่ ก่ยี วข้อกับส่งิ เสพติดของมึนเมาให้โทษ
การศึกษาธรรมะ
ธรรมะ ท่อี งคพ์ ระอรหันสมั มาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงนั้น มีทั้งธรรมะในเบ้ืองต้น ธรรมะ
ในระดับกลาง และธรรมะข้ันสงู สุด ซึง่ การท่เี ราจะเขา้ ใจธรรมะข้ันใดน้ัน ข้ึนอย่กู บั ปจั จยั หลาย
อย่าง ธรรมะทีเ่ ปน็ หลักใหญ่ในพระพุทธศาสนา คอื อรยิ สัจ 4 คอื ความจริง 4 ประการ ซึ่ง
ได้แก่ * ทกุ ข์ ไดแ้ ก่ ความเกิด ความแก่ ความตาย ซึง่ มีเป็นธรรมดาของชีวิตและความเศร้าโคก
ความรำ่ ไรรำพนั ความไมส่ บายกาย ความไมส่ บายใจ มีความปรารถนาส่ิงใดไมไ่ ด้สิง่ นน้ั ซึ่งกค็ อื
อปุ ทานขนั ธ์ทงั้ 5 นั่นเอง
* สมทุ ัย เหตใุ ห้เกดิ ทกุ ข์ ไดแ้ ก่ ตัณหา ความด้ินรน ทะยานอยากของจิตใจ คือ ด้ินรน
ทะยานอยาก เพอ่ื ท่จี ะได้สง่ิ ปรารถนาอยากได้
* นโิ รธ ความดับทกุ ข์ ไดแ้ ก่ ดบั ตณั หา ความดนิ้ รนทะยานอยากดังกล่าว
* มรรค ทางปฏิบัตใิ ห้ถึงความดบั ทกุ ข์ ได้แก่ ทางมีองค์ 8 คอื ความเหน็ ชอบ ความดำริ
ชอบ วาจาชอบ การงานชอบ อาชีพชอบ เพียรพยายามชอบ สติชอบ ตง้ั ใจชอบ
คำถามกรอบท่ี ๖ อรยิ สจั สี่ คืออะไร ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง
บทเรียนสำเรจ็ รูปหนา้ ทีแ่ ละมรรยาทชาวพทุ ธ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๓ หน่วยพระสงฆ์ ม.๕ จดั ทำโดยครูพรรณี อุ่นอก
คำตอบกรอบที่ ๖ ความจริงอนั ประเสริฐ คอื ทุกข์ สมทุ ยั นโิ รธ มรรค ๑๓
กรอบที่ ๗ การแสดงตนเปน็ พทุ ธมามากะ
การแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ คอื การประกาศตนให้
ปรากฎวา่ เป็นผู้ยอมรับนับถือพระพทุ ธเจา้ หรอื
พระพุทธศาสนาประจำชีวิตของตน ผู้ประสงคจ์ ะ
ประกอบพธิ นี ้ี ตอ้ งไปมอบตวั กบั พระอาจารย์ทีเ่ คารพ
นบั ถือ หากเป็นเดก็ หรือนกั เรยี น ตอ้ งมีผู้ปกครองหรอื
ครูนำไป ควรมีดอกไม้ ธปู เทยี น ไปถวายพระอาจารย์
ตามธรรมเนียมโบราณด้วย เมื่อไปถึงสำนกั พระอาจารย์แลว้ พิธีกรพงึ แนะนำให้ผู้จะแสดงตนเปน็
พุทธมามกะ ปฏิบัติดงั นี้
- เข้าไปหาพระอาจารย์ ทำความเคารพ กราบเรียนถงึ จดุ ประสงค์ให้พระอาจารยท์ ราบ เมื่อ
ท่านรบั แลว้ จึงมอบตัว
- ให้ผู้จะแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ถือพานดอกไม้เขา้ ไปหาพระอาจารยค์ กุ เข่าลงกับพ้ืนยก
พานดอกไม้ข้นึ นอ้ มตัวลงประเคน
- เมื่อพระอาจารย์รบั พานแล้ว ให้ถอยออกมาพอสมควร ประนมมือก้มลงกราบด้วย
เบญจางคประดิษฐ์ ๓ คร้ัง แล้วน่ังพับเพียบเพ่อื รับฟงั ขอ้ แนะนำ พร้อมท้ังกำหนดนดั หมายวัน เวลา
ท่จี ะประกอบพิธี
- ขออาราธนาพระสงฆ์ตอ่ พระอาจารย์ อยา่ งต่ำ ๓ รูป รวมพระอาจารยด์ ้วยเป็น ๔ รูป คอื
ครบองคส์ งฆ์ เกินกว่านี้กไ็ ด้ เสรจ็ แล้วพงึ กราบลาพระอาจารย์
- เมือ่ ถึงวนั กำหนดนดั หมาย ฝา่ ยพระอาจารย์จะจดั เตรียมสถานทีป่ ระกอบพธิ ี พิธนี ้คี วรจัด
ภายในบรเิ วณวดั โดยเฉพาะในอุโบสถหากมีผู้แสดงตนเป็นจำนวนมาก จะจดั ในศาลาการเปรียญ
หรือห้องประชมุ ภายในวัดก็ได้ ผู้แสดงจะแสดงตนเปน็ พุทธมามกะควรแต่งกายด้วยชดุ สขี าวลว้ น
แตถ่ ้าจำเป็นเชน่ นักเรียนเปน็ จำนวนมาก จะแตง่ เคร่อื งแบบตามปกติกไ็ ด้ เมือ่ ถึงเวลากำหนด พระ
อาจารย์พร้อมด้วยพระสงฆ์ ก็จะลงมากราบพระพทุ ธรปู ประธาน แลว้ นง่ั ณ อาสนะผู้แสดงตนเปน็
พทุ ธมามกะเขา้ ไปคกุ เข่าหน้าโตะ๊ หมู่บูชา จดุ ธปู เทยี นและวางดอกไม้
บทเรียนสำเร็จรปู หนา้ ทีแ่ ละมรรยาทชาวพทุ ธ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๓ หนว่ ยพระสงฆ์ ม.๕ จดั ทำโดยครพู รรณี อุ่นอก
เปล่งวาจาบชู าพระรตั นตรัย วา่ ๑๔
อมิ ินา สกั กาเรนะ พทุ ธัง ปูเชมิ (กราบ)
อมิ ินา สกั กาเรนะ ธัมมงั ปูเชมิ (กราบ) ถ้ามีผู้แสดงตนเป็นพทุ ธมามกะเปน็ จำนวนมาก ให้
อมิ ินา สักกาเรนะ สังฆงั ปเู ชมิ (กราบ) หัวหนา้ หรอื ผนู้ ำเปน็ คนจุดธูป เทียน คนเดียว นอกนั้นให้
วางดอกไม้ทีน่ ำมาบชู าพระรัตนตรยั ดว้ ยให้หวั หน้าเปน็
ผกู้ ล่าวนำบูชา เสร็จแล้วกราบลงพร้อม ๆ กัน
คำนมัสการและคำปฏิญาณตน ต่อหน้าสงฆด์ งั นี้
นะโม ตสั สะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสมั พุทธสั สะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสมั พุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสมั พุทธัสสะ
เอสาหัง ภันเต สุจริ ะปะรินิพพุตมั ปิ ตัง ภะคะวนั ตงั สะระณัง คจั ฉามิ ธมั มัญจะ สังฆญั จะ พุทธะ
มามะโกติ มงั สงั โฆ ธาเรต.ุ
ถ้าปฏิญาณพร้อมกนั หลายคน ใหเ้ ปลีย่ นคำทีข่ ีดเส้นใต้ไว้ดังนี้ เอสาหงั ผู้ชายว่า เอเต มะยัง ผู้หญิงว่า เอตา
มะยงั คำว่า คัจฉามิ เปน็ คัจฉามะ คำว่า พทุ ธะมามะโกติ เป็น พทุ ธะมามกาติ คำว่า มัง เปน็ โน สามคำหลังนี้วา่
เหมอื นกัน สำหรับคำว่า พุทธะมามะโกติ ถ้าผหู้ ญิงกล่าวแมค้ นเดียวก็เปลี่ยนเปน็ พุทธะมามะกาติ
เมือ่ กล่าวคำนมัสการและคำปฏิญาณจบลงแล้ว พระสงฆ์จะรับ "สาธุ" พร้อมกัน พึงก้มลงกราบพร้อมกัน
ลดลงนัง่ ราบกับพืน้ ประนมมอื รับฟงั โอวาท จากพระอาจารยต์ ่อไป หลังจากพระอาจารยใ์ หโ้ อวาทจบแล้ว ผู้
ปฏิญาณตนรับคำวา่ "สาธ"ุ แล้วพึงนงั่ คุกเข่าประนมมอื กลา่ วคำสมาทานเบญจศลี (คำอาราธนาได้แสดงไว้เบอื้ งตน้
แล้ว เฉพาะผู้ที่ปฏิญาณตนเป็นพุทธะมามกะคนเดียว เปลี่ยนคำว่า มะยัง เป็น อะหัง คำว่า ยาจามะ เป็น ยาจามิ
ท้ังหญิงและชาย) จากนั้นพึงว่าตามพระอาจารย์ทีบ่ อกเบญจศลี เริ่มแต่ นะโม .... ฯ เม่อื ว่า นะโม ตามจนครบสาม
จบแล้ว พระอาจารย์จะกล่าวคำว่า ยะมะหงั วะทามิ ตัง วะเทหิ ผปู้ ฏิญาณตนรับวา่ อามะ ภันเต พระอาจารย์จะ
บอกไตรสรณคมนต์ อ่ ไป คอื พุทธัง... ฯ พึงว่าตามไป จบแล้วพระอาจารยจ์ ะกล่าวว่า ติสะระณะคะมะนงั นิฏฐิตัง
ผปู้ ฏิญาณตนพึงรับว่า อามะ ภันเต พระอาจารย์จะบอกเบญจศลี คือ ปาณาติปาตา...ฯ พึงว่าตนไปจนครบห้าข้อ
จากนั้นพระอาจารย์จะกล่าวคำว่า อิมานิ ปญั จะ สกิ ขา ปะทานิ สะมาทิยามิ จบเดียว ผปู้ ฏิญาณตนตอ้ งว่าตาม
สามจบจากน้ันพระอาจารยจ์ ะบอกอานิสงส์ของศีลจบแล้วผู้ปฏิญาณตนพึงกราบลง ๓ ครง้ั
ถ้ามีเครอ่ื งไทยธรรมถวายพระสงฆ์ กใ็ ห้นำมาถวายใหใ้ นตอนนี้ ถวายเสร็จแล้วน่งั ราบ เตรยี มกรวยน้ำเมือ่
พระสงฆ์อนุโมทนาการกรวดน้ำน้ัน มแี บบแผนที่ปฏิบัติกนั มาคอื เม่ือพระสงฆเ์ ริ่มยะถา..... ผู้กรวดน้ำพึงเทน้ำ
กรวดลงภาชนะที่รองรบั เม่ือพระสงฆ์กล่าวยะถาจบลงผกู้ รวดน้ำพึงเทน้ำใหห้ มดพอดี และเมอ่ื พระสงฆร์ ปู ทีส่ อง
รบั ว่า สพั พีตโิ ย... พึงนงั่ ประนมมอื รบั พรไปจนจบ แล้วคกุ เข่ากราบพระสงฆ์ ๓ คร้ัง เป็นเสรจ็ พิธีปฏิญาณตน
เปน็ พทุ ธะมามกะ...ฯ คำถามกรอบท่ี ๗ ให้นักเรียนศกึ ษาข้ันตอนการแสดงตนเปน็ พทุ ธมามกะให้เข้าใจ
แล้วแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๑๐ คน แล้วแสดงบทบาทสมมุติใหค้ รผู สู้ อนดู นอกเวลาเรียน
โดยแบ่งหน้าทีแ่ ละบทบาทของแตล่ ะคนใหช้ ัดเจน
บทเรียนสำเร็จรปู หนา้ ทีแ่ ละมรรยาทชาวพุทธ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๓ หนว่ ยพระสงฆ์ ม.๕ จัดทำโดยครพู รรณี อุ่นอก
คำตอบกรอบที่ ๗ ขนึ้ อยกู่ บั ดุลพนิ ิจครผู สู้ อน ๑๕
กรอบที่ _๘ บทบาทของพระภิกษุสามเณร
หนา้ ทีข่ องพระภิกษแุ ละสามเณรทีเ่ ปน็ บรรพชิต กค็ อื เปน็ ผู้ศึกษาใน คนั ถธุระ และ
วิปัสสนาธรุ ะ คันถธรุ ะ หมายถึง การศึกษาพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจา้
ทท่ี รงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา และปฏิบตั ิตามคำสอน ส่วนวิปัสสนาธรุ ะ คอื การอบรมเจริญ
สมถภาวนาและวิปัสสนาภาวนา เพอ่ื ผลอันเลศิ คอื การละคลายกิเลส จนบรรลุเป็นพระ
อรหนั ต์ การบรรลุเป็นพระอรหันต์เป็นสิง่ ท่ีนกั บวชปรารถนา ไมใ่ ชส่ ิง่ อ่ืน
หน้าทีข่ องภิกษุ สามเณร คอื การศึกษาปริยตั ิ ปฏิบตั ิ ปฏิเวธ ตามคำสอนของ
พระพทุ ธเจ้า และเวลาทภ่ี ิกษุเขา้ สู่ทป่ี ระชมุ
หนา้ ทีข่ องภิกษุ สามเณร คอื
การศึกษาปรยิ ตั ิ ทำความเข้าใจให้ถูกตอ้ งตามพระธรรมวินัย เพอ่ื จะได้นำไปปฏิบัติ
ได้อย่างถกู ตอ้ ง ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย เป็นผู้สำรวมในสิกขาบทท้ังในที่ลบั และท่แี จ้ง
ศึกษาสกิ ขาบทแม้จะเป็นขอ้ ปลีกยอ่ ยเลก็ นอ้ ย ดว้ ยความเปน็ ผู้มีศีลสำรวมกาย วาจา
ก็จะเป็นท่ีเลื่อมใสแก่ผู้พบเห็น ทำให้ผู้ที่ยังไม่ศรทั ธาเกดิ ศรทั ธา หรือผู้ทีศ่ รัทธาอยแู่ ลว้
ก็มีความศรทั ธายิง่ ๆ ขนึ้ มีความเพยี รชำระขัดเกลากิเลส เพอ่ื ให้บรรลุคุณธรรมท่สี งู ยิง่ ๆ
ข้นึ ไป จะได้เปน็ เนอื้ นาบญุ ของโลก ทำให้ผลทาน และผลแหง่ บูชา ของสาธชุ น
ทง้ั หลายมีผลมาก
เผยแพร่พระธรรมคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจา้ เพ่อื สบื ทอดอายุของพระศาสนา
เมือ่ ศึกษาอย่างถูกต้อง และปฏิบตั ถิ ูกตอ้ ง ก็จะสอนได้อย่างถกู ตอ้ ง เพราะพระพทุ ธ
ศาสนาจะดำรงอยู่ได้ด้วยการรกั ษาพระธรรมวินัย โดยการศึกษา ทำความเข้าใจให้ถกู
ตอ้ ง และการท่มี ีผู้เลอ่ื มใสปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน การประดิษฐานพระพุทธศาสนา
ไว้ในใจคน เป็นการสืบทอดพระศาสนา แบบย่งั ยืนกว่าการสร้างถาวรวัตถุ หรือการจารึก
ไว้ในกฏหมาย เพราะเป็นสมบัตทิ ใ่ี ครก็ไมอ่ าจจะมาปลน้ หรอื แย่งชิงได้
คำถามกรอบที่ ๘ พระเมื่อบวชแลว้ มหี นา้ ที่อะไรบา้ ง
บทเรียนสำเร็จรูปหนา้ ที่และมรรยาทชาวพทุ ธ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๓ หน่วยพระสงฆ์ ม.๕ จดั ทำโดยครพู รรณี อุ่นอก
คำตอบกรอบที่ _๘ การศึกษาปรยิ ตั ิ ปฏิบตั ิ ปฏิเวธ ๑๖
กรอบที่ _๙
พระนกั เทศน์/พระธรรมทูต/พระธรรมจาริก
พระนกั เทศน์ ได้แก่ พระภิกษุท่ปี ฏิบตั ิหนา้ ที่สอนหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาแก่เด็ก เยาวชน
และประชาชนทว่ั ไป โดยการแสดงธรรม (เทศน์) และจะตอ้ งผา่ นการฝึกอบรมเป็นพระนกั เทศน์
ตามหลกั สูตรของมหาเถรสมาคมแต่งตงั้ มี 2 ประเภท คอื
1. พระนักเทศนแ์ ม่แบบ หมายถึง พระนกั เทศน์ทีผ่ ่านการอบรมจากคณะกรรมการฝึกอบรม
พระนักเทศนท์ ม่ี หาเถรสมาคมแต่งตง้ั เพอ่ื ไปจัดอบรมพระนกั เทศน์ประจำจังหวดั
2. พระนกั เทศน์ประจำจงั หวัด หมายถึง พระนกั เทศนท์ ี่ผา่ นการอบรมปฏิบัติหนา้ ทีเ่ ทศน์
ภายในจงั หวัดทส่ี งั กัดหรือสถานทท่ี ่ีทายกอาราธนานอกจากนน้ั พระภิกษทุ ่วั ไปทม่ี ีความรู้
ความสามารถ ก็สามารถเปน็ พระนกั เทศน์ได้ โดยให้การสอนหลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนา
และต้องมีความรู้ทางดา้ นธรรมเป็นอย่างดียิง่
พระธรรมทูต (อ่านว่า -ทำมะทูด) หรอื พระธรรมจาริก
หมายถึง ภิกษทุ ่เี ดินทางไปแสดงธรรมในที่ตา่ ง ๆ ทำหน้าท่ีเหมือนทูตทางธรรมหรือทตู ของ
พระศาสนาพระธรรมทูตเริ่มมีครั้งแรกเมือ่ พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมจนมีพระสาวกมากรูป
แล้วจงึ ส่งพระสาวกเหล่าน้ันไปประกาศธรรมในทศิ ตา่ งๆ โดยตรสั ว่า "เธอทง้ั หลายจงจาริกไป
เพอ่ื ประโยชนส์ ุขแก่ประชมุ ชน เพ่อื อนเุ คราะห์แก่ประชุมชน"
พระธรรมจารกิ มีความหมายเดียวเชน่ เดียวกันกบั พระธรรมทตู แต่เป็นคำบญั ญัตทิ ่เี กดิ
ทห่ี ลังคำว่าพระธรรมทูตปัจจุบนั แบ่งพระธรรมทูตออกเป็น 2 ประเภทคอื พระธรรมทตู ใน
ประเทศ กบั พระธรรมทูตต่างประเทศพระธรรมทตู กค็ ือพระทีท่ ำหน้าท่เี ปน็ ทูตหรือเปน็
ผแู้ ทนของพระพุทธเจา้ ในการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาแตเ่ ป็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ใหแ้ ก่คนทกุ คนทงั้ ในและตา่ งประเทศ
คำถามกรอบท่ี ๙
พระนักเทศนต์ า่ งจากพระธรรมทตู อย่างไร
บทเรียนสำเรจ็ รปู หนา้ ทีแ่ ละมรรยาทชาวพทุ ธ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๓ หนว่ ยพระสงฆ์ ม.๕ จัดทำโดยครพู รรณี อุ่นอก
คำตอบกรอบที่ ๙ ขึ้นอย่กู บั ดุลพินิจครูผสู้ อน ๑๗
กรอบที่ ๑๐ พระวิทยากร/พระวิปัสสนาจารย/์ พระนกั พัฒนา
พระวิทยากร ได้แก่ พระภิกษุผู้ปฏิบัติหนา้ ที่ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา อบรมให้ความรู้ด้าน
คณุ ธรรมจริยธรรมแก่หน่วยงานท้ังภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป และเปน็ ผู้นำในการพฒั นา
ชุมชน ตลอดจนถงึ การจัดอบรมตา่ งๆ ตามทีค่ ณะสงฆ์มอบหมาย หรอื หนว่ ยงานนั้นๆ ขอความ
อนุเคราะหน์ อกจากนนั้ พระวิทยากร ตอ้ งเป็นผู้ทีม่ ีความรู้ความเขา้ ใจในเรือ่ งการอบรมมาแล้วเป็น
อย่างดี มีทักษะความคล่องตวั ในการสอนตามเน้ือหาวชิ าเฉพาะที่ไดร้ บั มอบหมาย มีการเตรียมการ
ล่วงหน้า มีสุขภาพดที งั้ กายและจติ ใจ มีมนุษย์สมั พนั ธ์ดี มีบุคลกิ ลักษณะดี และเหมาะสมเป็นผู้นำ
และผู้ตามที่ดี มีความสุภาพออ่ นโยน และมีศรัทธาในเรื่องการอบรมอย่างแท้จริง มีความ
รับผิดชอบตอ่ งานท่ไี ด้รบั มอบดีไม่หลีกเลี่ยง และตรงตอ่ เวลา
พระวิปัสสนาจารย์
พระวิปสั สนาจารย์ ได้แก่ พระภิกษผุ ู้ทำการสอนการปฏิบัตกิ รรมฐานตามหลักคำสอนของ
พระพทุ ธศาสนา ซึง่ ต้องมีคุณสมบัติ กลา่ วคอื ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับการอบรมโดย
ผู้บังคบั บญั ชาระดับจงั หวดั และผ่านการอบรมหลักสูตรพระวิปัสสนาจารยจ์ ากกรมการศาสนา
นอกจากน้ัน พระภิกษุที่มีความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติวปิ สั สนากรรมฐาน ก็อาจเผยแผก่ าร
ปฏิบตั ิกรรมฐานได้ แต่ต้องเปน็ ไปตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา
พระนักพัฒนา
พระนกั พัฒนา ได้แก่ พระสงฆท์ ี่ทำงานสงเคราะห์ชุมชนดว้ ยการให้คำแนะนำหรือ
ช่วยเหลอื ชาวบ้านด้วยกิจกรรมต่างๆ เพ่อื ให้ความเปน็ อย่ขู องชาวบา้ นดีขึ้น เชน่ การจดั ตงั้ ศูนย์
เด็กในวัด การอบรมเยาวชน การทำโครงการฝึกอาชพี ธนาคารข้าว หรอื การสง่ เสรมิ การแพทย์
พื้นบา้ น ให้คำแนะนำด้านสขุ อนามยั รวมท้ังการสง่ เสรมิ ชาวบ้านในเรอ่ื งเกษตรผสมผสาน หรือ
เกษตรกรรมเพ่ือการพึง่ ตนเอง ซึ่งการทำงานดงั กลา่ วนเี้ กดิ จากความคิดริเริม่ ของทา่ นเอง มิใช่
เพราะการชักนำของหนว่ ยงานรฐั หรอื เพ่อื สนองนโยบายรัฐ
คำถามกรอบท่ี ๑๐
พระสงฆเ์ หล่าน้ไีพดรท้ะวำทิใหยา้สกงั รคมตไา่ทงยจไาดก้ตพระระหนนักักพวฒั ่านพารอะยนา่ นั้ งไไมร่ได้มีบทบาทเฉพาะพิธีกรรมแต่
เพยี งอยา่ งเดยี วเท่านนั้ แต่ทา่ นยงั มีบทบาทที่สำคัญในพฒั นาชุมชนและสงั คมให้มีความเปน็ อยทู่ ีด่ ี
อบกีทเดร้วียยนสำเรจ็ รปู หนา้ ที่และมรรยาทชาวพุทธ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๓ หนว่ ยพระสงฆ์ ม.๕ จัดทำโดยครูพรรณี อนุ่ อก
คำตอบกรอบที่ ๙ ขึน้ อยูก่ บั ดุลพินิจครผู สู้ อน
กรอบที่ ๑๑ สรุป ๑๘
หน้าทีช่ าวพุทธ ชาวพุทธ คอื ผู้ทีเ่ คารพเลือ่ มใสและศรัทธาในพระรัตนตรยั มีหน้าท่ใี น
การศึกษาและปฏิบตั ติ ามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา ในความเคารพนับถอื ต่อพระ
รตั นตรยั เอาใจใส่ทำนุบำรุง และบำเพ็ญประโยชน์ตอ่ วดั และพระสงฆ์ นอกจากนยี้ ังตอ้ งปฏิบัติ
ตนอย่างมีมารยาท ท่ถี กู ตอ้ งและเหมาะสมตอ่ พระสงฆ์ และนำแนวทางการปฏิบตั ติ นของพระสงฆ์
มาเปน็ แบบอย่างทีด่ ีงามในการดำเนนิ ชวี ิต
๑) หนา้ ที่ชาวพุทธโดยทัว่ ไป
๑) ด้านการศึกษาและปฏิบตั ิธรรม
ชาวพทุ ธท่ดี คี วรให้ความสนใจศึกษาคน้ คว้าหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และน้อมนำหลักธรรม
ทไ่ี ด้ศึกษาแล้วมาประยกุ ตใ์ ช้ให้เหมาะสมแกฐ่ านะของตน การแสดงความเป็นชาวพุทธทด่ี ดี ว้ ยการ
ทำบุญบำเพ็ญกศุ ล เขา้ รว่ มพิธกี รรมทางพระพุทธศาสนาในโอกาสสำคัญต่างๆ
๒) ดา้ นการอปุ ถัมภพ์ ระพุทธศาสนา
๒.๑) การอุปถัมภพ์ ระภิกษสุ ามเณร พระภิกษุสามเณรนอกจากมีหนา้ ที่ในการศึกษา
ธรรม ปฏิบัติธรรม และสั่งสอนธรรมแล้ว ยงั ต้องปฏิบตั ิศาสนกิจอน่ื ๆ เพ่อื ความดีงามและความ
สงบสขุ ของประชาชน สั่งสอนประชาชนให้เปน็ คนดีมีคณุ ธรรม ดงั นน้ั เพื่อแสดงออกถงึ ความ
กตัญญูต่อคณุ ูปการของพระภิกษุสามเณร ชาวพุทธทีด่ ีจงึ ควรช่วยอุปถัมภ์ บำรุงและส่งเสรมิ
พระภิกษุสามเณร เพอ่ื ให้มีกำลังในการปฏิบัติศาสนกิจ สบื ต่ออายุพระพุทธศาสนาให้มั่นคงสืบไป
๒.๒) การทำนบุ ำรุงวัดและพทุ ธศาสนสถาน พระพุทธศาสนามีวัดเปน็ ศูนย์กลางสำหรับ
การบำเพ็ญกุศล การฝึกอบรม และการพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตให้กับประชาชน พระสงฆ์เปน็ ผู้ชี้แนะ
แนวทางการดำเนนิ ชวี ิต วัดจงึ เป็นอทุ ยานการศึกษาเปน็ แหลง่ การเรียนรูสำคญั ทางศิลปวัฒนธรรม
ของชาติ วัดบางแห่งยงั ไดร้ ับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาตแิ ละมรดกโลก
๒.๓) ดา้ นการปฏิบตั ติ นเพอ่ื เป็นแบบอยา่ งที่ดีของสังคม ชาวพุทธทีด่ ี คอื ผู้ปฏิบัติตนใน
ฐานะทีเ่ ปน็ พลเมืองดีของชาตดิ ว้ ยการดำรงตนอยู่ในกรอบของกฎหมาย ปฏิบตั ิตนตามสิทธิและ
หน้าทอ่ี ยา่ งเหมาะสม ไม่ละเมิดกฎระเบียบและกตกิ าของสังคม
๒.๔) ดา้ นการปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา พระพทุ ธศาสนาถือเปน็ มรดกของชาติ
ไทยทีบ่ รรพบรุ ุษไดป้ กป้องคมุ้ ครองมาด้วยชีวิต เมือ่ วิกฤตการณ์เกบั พระพุทธศาสนา ชาวพุทธไม่
ควรนิง่ ดูดายและปลอ่ ยให้เปน็ หน้าท่ีของพระสงฆ์เพยี งฝา่ ยเดียว ควรชว่ ยกนั แก้ไขระงับเหตกุ ารณ์
บทเรียนสำเรจ็ รูปหนา้ ที่และมรรยาทชาวพทุ ธ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๓ หนว่ ยพระสงฆ์ ม.๕ จดั ทำโดยครูพรรณี อนุ่ อก
แบบฝึกหดั ทา้ ยบทเรียน ๑๙
คำชแี้ จง . ใหน้ กั เรยี นเตมิ ผงั ดำ้ นควำมคิดใหส้ มบรู ณ์
หน้าทช่ี าวพุทธทีม่ ีต่อตนเองและ หนา้ ทีช่ าวพุทธตามหลกั ของพระพุทธศาสนามี
พระพทุ ธศาสนามีลกั ษณะอย่างไร ลกั ษณะอย่างไร
…………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………
… …
หนา้ ทช่ี าวพทุ ธ
หนา้ ที่ของชาวพุทธท่ดี ที ่คี วรรู้ คือ การปฏิบตั ิตนเบือ้ งตน้ ของชาวพทุ ธที่ดี คอื
………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………… …………………………………………………………………..…………
…………………………………………………………………..…………
นกั เรียนได้ปฏิบตั ิตนตามหลักชาวพทุ ธทีด่ ี มอี ะไรบ้าง อย่างน้อย ๕ ข้อ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ช่ือ..............................................................................ชนั้ ..............เลขท่.ี .................
บทเรียนสำเรจ็ รูปหนา้ ทีแ่ ละมรรยาทชาวพทุ ธ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๓ หนว่ ยพระสงฆ์ ม.๕ จัดทำโดยครพู รรณี อุ่นอก
๒๐
แบบทดสอบหลังเรยี น
วชิ า พระพทุ ธศาสนา ๓ ส ๓๒๒๐๑ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๕
เรือ่ ง หน้าทชี่ าวพุทธ เวลา ๑๐ นาที คะแนน ๕ คะแนน
คำสัง่ ให้นักเรียนเลือกคำตอบท่ีถกู ท่ีสดุ เพียงคำตอบเดยี วแลว้ ทำเครอื่ งหมายX
ลงในกระดาษคำตอบ
1.การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในฐานะพระนักเทศน์ ๖. ขอ้ ใดจัดเป็นธรรมปฏสิ นั ถาร
จะมลี กั ษณะสำคัญในขอ้ ใด ก. เกง่ แจกทนุ การศึกษาแกเ่ ด็ก
ก. มีวธิ กี ารบรรยายโตต้ อบระหวา่ งพระสงฆ์ 2รปู ข. กอ้ ย เลี้ยงอาหารเพ่ือนที่มาเท่ียวท่บี ้าน
ข. เทศนาสงั่ สอนประชาชนทั่วไปโดยไมต่ ้องดูพระ ค. กุ้ง นำนำ้ เยน็ มาให้คณุ ลงุ ด่ืมเม่ือคุณลงุ
คัมภีรห์ รอื พระไตรปิฎก มาเยย่ี ม
ค. มปี ฏภิ าณในการประยุกต์พุทธธรรมกับการ ง. เก๋ ปลอบโยนดาวที่สอบเข้ามหาวิทยาลัย
ดำรงชีวิตของประชาชน มีโวหารเป็นทน่ี ่าเลอ่ื มใส ไม่ได้
ง. พระสงฆ์ที่มีความชำนาญในการเทศนาสั่งสอน
๗.ชาติ เปน็ ทร่ี กั ของลูกจา้ งทุกคน แสดงว่า ชาติปฏบิ ัติ
โดยประยุกต์คำสอนของพระพุทธศาสนาตามความ ตนตามหลกั ธรรมใด
เหมาะสม
๒. พระธรรมทตู มบี ทบาทสำคัญอย่างไร ก. กุศลมูล ข. อิทธบิ าท 4
ค. พรหมวหิ าร 4 ง. ปฏสิ ันถาร 2
ก. เผยแผ่พระพุทธศาสนายังประเทศต่างๆ ๘. การประกอบศาสนพิธี มีประโยชนต์ อ่ สงั คมในดา้ นใด
ทั่วโลก มากทสี่ ุด
ก. ทำใหร้ ูจ้ ักเสยี สละ
ข. เดินทางไปเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาในดนิ แดน
หา่ งไกล ข. ทำให้เกดิ ความสามัคคี
ค. เปน็ ผู้แทนของคณะสงฆ์ในการเผยแผ่ ค. ทำใหจ้ ติ ใจบริสทุ ธ์ิ ไม่ฟ้งุ ซ่าน
ง. ทำให้สามารถแก้ปญั หารว่ มกันได้
พระพุทธศาสนา
ง. มีหน้าทอี่ บรมสัง่ สอนหลกั ธรรมความรแู้ ก่ ๙. กอ่ นการบวช ผบู้ วชจะบอกลาบดิ ามารดา ญาติ มติ ร
ประชาชนทวั่ ไป และผทู้ ี่เคารพนบั ถือน้ัน เพือ่ วัตถุประสงค์ใด
๓. พระสงฆท์ ่ีเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในบริเวณปา่ เขา ก. เพอ่ื ทำตามประเพณีท่ีมมี าแต่โบราณ
นั้นหมายถึงข้อใด ข. เพ่ือใหท้ กุ คนรับรู้และอนุโมทนาในส่วนบญุ
ก. พระธรรมทูต ค. เพื่อให้ท่านเหล่านั้นได้เตรยี มตัวไปรว่ มในพิธี
ข. พระนักเทศน์
อุปสมบทโดยทวั่ ถงึ กัน
ค. พระธรรมจาริก ง. เพอ่ื ให้ทา่ นเหลา่ น้ันไดอ้ นโุ มทนาในการบวช
ง. พระวปิ สั สนาจารย์ และเพื่อขอขมาโทษท่เี คยมีต่อกัน
๔.เดี่ยวได้รับการยกย่องจากเพื่อนวา่ เปน็ คน “ธัมมะธมั โม” ๑๐. แกว้ เป็นลูกจา้ งทำงานบ้านให้วรดา ดงั นัน้ แกว้ ไม่ควร
แสดงว่า เด่ยี วปฏบิ ัตติ นตามหลกั ธรรมในขอ้ ใด ปฏบิ ตั ติ นต่อวรดาอย่างไร
ก. ตืน่ นอนก่อน วรดา
ก. ไตรสิกขา ข. ปฏิสนั ถาร ข. พดู ชมเชย วรดาใหเ้ พื่อนๆ ฟัง
ค. อุบาสกธรรม ง. อปรหิ านยิ ธรรม
๕. การปฏิสันถารมีอานสิ งส์อยา่ งไร ค. ใชเ้ สอื้ ผ้าเก่าที่ วรดามอบให้แกว้
ก. การร่วมมือกนั ข. สังคมสงบสุข ง. เลือกทำงานในส่วนที่แกว้ พอใจ
ค. ผกู ไมตรีที่ดีตอ่ กนั ง. มคี วามสามคั คีระหว่างกนั
บทเรียนสำเร็จรูปหนา้ ทีแ่ ละมรรยาทชาวพทุ ธ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๓ หน่วยพระสงฆ์ ม.๕ จัดทำโดยครพู รรณี อ่นุ อก
๒๑
๑๑. ในกรณีทจี่ ำเปน็ ต้องน่งั เกา้ อ้แี ถวเดียวกับ ๑๗. นกั เรยี นจะนำหลกั ธรรมเร่อื ง การทำงานไมม่ ี
พระสงฆใ์ นงานพิธี นักเรยี นควรปฏบิ ตั ติ น โทษ แต่มีประโยชนเ์ กื้อกลู ไปใช้เพอื่ ความสงบสุขใน
อยา่ งไร ชีวิตของตนได้อย่างไร
ก. นง่ั เก้าอ้ีดา้ นขวามือของพระสงฆ์ ก. ทำงานเพ่ือสังคมเป็นหลัก
ข. นง่ั เก้าอี้ดา้ นซา้ ยมือของพระสงฆเ์ สมอ ข. ทำงานอดิเรกทไี่ ม่เป็นโทษตอ่ ตนเอง
ค. เว้นเก้าอใ้ี ห้ว่าง 1 ตัว ไม่นั่งชิดพระสงฆ์ ค. ไม่ประกอบอาชีพต้องหา้ มตามพุทธบัญญัติ
ง. ขยบั เก้าอ้ีของตนใหเ้ ยื้องไปทางด้านหลงั ของ ง. ประกอบอาชีพสุจรติ และไม่ทำใหต้ นเอง
พระสงฆเ์ ลก็ น้อย และผู้อืน่ เดือดรอ้ น
๑๒. การมีส่วนร่วมในสงั คมพทุ ธ ควรกระทำตน ๑๘.คน ทเ่ี ขา้ ใจหลักธรรมเรื่อง โลกธรรม 8 จะมี
เชน่ ไรถงึ จะดีที่สดุ
ทศั นะในการมองโลกอย่างไร
ก. เปน็ สมาชิกท่ดี ขี องสังคม
ก. เกิด แก่ เจบ็ ตาย เป็นเรอ่ื งธรรมดา
ข. มีเมตตาตอ่ เพ่ือนร่วมสงั คม
ข. ลาภ ยศ สรรเสรญิ สุข มไี ดก้ ็เสอื่ มได้
ค. มคี วามกรุณาตอ่ เพ่ือนรว่ มสงั คม
ค. คนไมถ่ กู นินทาไมม่ ใี นโลก
ง. มีปยิ วาจาตอ่ เพ่อื นร่วมสงั คม
ง. พอใจในสิง่ ทต่ี นมี ไม่ดน้ิ รนจนเกนิ เหตุ
๑๓. ผูอ้ ุปสมบทจะต้องถือศีลกขี่ ้อ
๑๙. การปฏบิ ตั ติ ่อพระสงฆใ์ นขอ้ ใด ไมส่ มควรกระทำ
ก. 5 ข้อ ข. 8 ขอ้
อย่างยิ่ง สำหรบั ชาวพุทธทีด่ ี
ค. 10 ขอ้ ง. 227 ข้อ
ก. ถามทา่ นว่าพรุง่ นจี้ ะมารับบาตรอีกไหม
๑๔. ทา่ นปญั ญานันทะภิกขุ เปน็ แบบอย่างทด่ี ีใน
ชอบฉันแกงเผ็ดหรือไม่ อยา่ งไร
เรื่องใดมากท่ีสดุ
ข. ตอ่ หนา้ เรยี กวา่ หลวงพ่อ ลับหลัง เรยี กว่า
ก. เปน็ แบบอยา่ งชาวพุทธในการเผยแผธ่ รรมะ
ท่าน
ทีถ่ ูกต้อง
ค. ฟงั ท่านเทศน์ดว้ ยอาการสงบ ไมป่ ระนมมือ
ข. เปน็ แบบอยา่ งในการแตง่ ตำราทาง
ง. เดินสวนทางกับทา่ นต้องหลกี ทางให้ท่าน
พระพุทธศาสนา
เกนิ ไปทางขวามือของเรา
ค. เปน็ แบบอย่างของผนู้ ับถอื พระพุทธศาสนา ๒๐. ขณะทนี่ ักเรยี นน่ังเก้าอีร้ อรับพระในห้องโถง เมื่อ
ง. เป็นแบบอยา่ งในดา้ นการเทศนาธรรม พระสงฆม์ าถึง ควรปฏิบตั ิอยา่ งไร
๑๕.บุคคลใดสำนกึ ในบญุ คณุ ท่ีผู้อ่นื ใหค้ วามชว่ ยเหลอื
ก. ยกมอื ไหวใ้ นขณะที่น่ัง
ตน และตอบแทนบุญคณุ ให้ในทสี ุดเราเรยี กตามหลัก
ข. ลุกจากเก้าอ้ี มานงั่ กับพ้นื และยกมือไหว้
มงคลชวี ติ วา่ อยา่ งไร
ค. ลกุ ขึน้ ไหว้ และยกมือไหว้
ก. กตัญญู
ง. ลุกจากเก้าอ้ี นัง่ คกุ เข่า และกราบกบั พื้น
ข. กตเวที
ค. กตัญญูกตเวที
ง. กตญั ญกู ตเวทีและมุทติ าจิต
๑๖. การมองกวา้ ง คิดไกล ใฝ่สูง ต้องอาศยั
หลกั ธรรมใดประกอบเป็นสำคัญ
ก. ขันติ ข. สมาธิ
ค. ปัญญา ง. สติ
บทเรียนสำเรจ็ รูปหนา้ ที่และมรรยาทชาวพทุ ธ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๓ หนว่ ยพระสงฆ์ ม.๕ จัดทำโดยครพู รรณี อ่นุ อก
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน ๒๒
เรื่อง หน้าทีช่ าวพุทธ
ก่อนเรียน ก่อนเรียน หลงั เรียน หลงั เรียน
ขอ้ คำตอบ ขอ้ คำตอบ ขอ้ คำตอบ ขอ้ คำตอบ
1 ก 11 ก 1 ค 11 ข
2 ง 12 ค 2 ก 12 ก
3 ก 13 ง 3 ค 13 ง
4 ก 14 ค 4 ค 14 ก
5 ค 15 ข 5 ค 15 ก
6 ง 16 ค 6 ค 16 ค
7 ค 17 ค 7 ค 17 ง
8 ก 18 ค 8 ข 18 ข
9 ข 19 ข 9 ง 19 ก
10 ค 20 ง 10 ง 20 ค
บทเรียนสำเรจ็ รูปหนา้ ที่และมรรยาทชาวพทุ ธ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๓ หนว่ ยพระสงฆ์ ม.๕ จดั ทำโดยครูพรรณี อนุ่ อก
๒๓
บรรณานุกรม
ชวู งศ์ ฉายะบุตรและคณะ. พระพุทธศาสนา ม.2. กรงุ เทพฯ :วฒั นาพานิช, 2547.
ชิด ภิบาลแทน. พจนานกุ รมนกั เรยี นฉบบั สมบรู ณ์. กรงุ เทพฯ : อักษราพิพัฒน์, 2541.
ดร.พิษณุ เพชรพัชรกุล และ พงษศักดิ์ แคล้วเครือ. หน้าท่ีพลเมือง วฒั นธรรมและการดำเนินชีวติ ใน
สังคม ม.2. กรงุ เทพฯ : วัฒนาพานิช, 2553
มูลนิธิชีวติ สดใส: ธรรมศึกษาชั้นเอก .กรุงเทพมหานคร. สำนกั เรียนวัดราชพิธสถิตมหาสีมาราม,๒๕๔๙
ราชบัณฑติ ยสถาน. พจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ.2542. กรงุ เทพฯ : นานมบี ๊คุ
พับลิเคช่ันส์, 2546.
รศ.ธวชั ทนั โตภาส แบะคณะ.หน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสงั คม ม.2. กรุงเทพฯ :
วัฒนาพานิช, 2553.
รศ.ดร.สำเนียง เลือ่ มใส และนาสาวสุชาดา วราหพันธ์.สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๒.กรุงเทพฯ:
เอมพนั ธ,์ 2553
วิทยา ปานะบตุ ร. คู่มือพระพุทธศาสนา ม.๕. กรงุ เทพฯ : พ.ว.พฒั นา, 2550.
วิทยื วิศทวิทย์ และคณะ. พระพทุ ธศาสนา ม.๕ กรงุ เทพฯ: , อักษรเจรญิ ทศั น์ 255๙.
อาจารย์เสน่ห์ ธนารตั น์สกฤษดิ์. ภาพพุทธประวัติ .กรุงเทพฯ.สำนกั พิมพอ์ ำนวยสาสน์ ,๒๕๔๓.
บทเรียนสำเรจ็ รปู หนา้ ทีแ่ ละมรรยาทชาวพุทธ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๓ หนว่ ยพระสงฆ์ ม.๕ จัดทำโดยครูพรรณี อุ่นอก
อ้างอิงรปู ภาพ ๒๔
www.baanklon.com, thankhi5.blogspot.com, loadebookstogo.blogspot.com
www.bloggang.com,wcp1.blogspot.com,www.oknation.net, www.baanklon.com
thankhi5.blogspot.com,loadebookstogo.blogspot.com,www.bloggang.com
wcp1.blogspot.com,www.oknation.net,www.baanklon.com,topicstock.pantip.co
pasathaim2fornr.blogspot.com,www.modxtoy.com,www.thaigoodview.com
www.bloggang.com,ohm-cartoon.blogspot.com,www.oknation.net
บทเรียนสำเรจ็ รปู หนา้ ทีแ่ ละมรรยาทชาวพุทธ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๓ หน่วยพระสงฆ์ ม.๕ จดั ทำโดยครพู รรณี อ่นุ อก