E-BOOK
1. ความหมายของปรัชญา ธารง บวั ศรี ให้ความหมายปรชั ญาว่าเปน็ การศึกษาหาความจริงหรือ
แก่นแท้ของสรรพสง่ิ ทีม่ ีอยใู่ นโลกและจกั รวาลอย่างมีระบบและเป็นมีระเบียบ
คาว่า “ปรัชญา” เป็นคาที่พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ แบบแผน
ประพันธ์ ทรงบัญญัติข้ึน เพื่อใช้แทนคาว่า “Philosophy” ในภาษาอังกฤษ มี
ความหมาย ดงั นี้ สุนทร โคตรบรรเทา ได้สรุปความหมายของปรัชญาว่าสามารถ
พิจารณาใน 2 ทัศนะคือ ทัศนะกว้างและทัศนะแคบ ถ้าเป็นทัศนะกว้าง คือ
กีรติ บุญเจือ กล่าวคาว่า ปรัชญามาจากรากศัพท์สันสกฤตว่า ชฺญา การมองท้ังจักรวาล ทัศนะแคบ คือ มองเฉพาะมนุษย์ ปรัชญา จึงหมายถึง
แปลว่า รู้เข้าใจ เมื่อเติมอุปสรรค ปฺร ซึ่งแปลว่า ไกล สูงสุดประเสริฐ ลงไป ศาสตร์ที่ว่าด้วยความจริง ความรู้ และคุณค่าของชีวิต และความเป็นมนุษย์
ข้างหน้าจึงกลายเป็น ปรัชฺญา ซึ่งอาจให้ความหมายได้ว่า เพิ่มความรอบรู้ รู้ และสิง่ ท่มี นษุ ย์ต้องเก่ยี วข้องในสงั คม
กว้างขวางหรือความรู้อนั ประเสริฐ ความรขู้ ั้นสงู
จากความหมายของปรชั ญาที่กล่าวมา สรุปได้ว่าปรัชญาเป็นศาสตร์
สุลักษณ์ ศิวลักษณ์ ให้ความหมายตามรูปศัพท์ภาษาอังกฤษที่เน้นไปที่ ที่ว่าด้วยความคิดความเชื่อ และวิธีแสวงหาความจริงในความรู้และคุณค่า
ทัศนคตนิ ิสยั และความตั้งใจ เน้นกระบวนการในการหาความรู้ ของสรรพสิ่งในโลกและจกั รวาล ความรู้ความจริง และคุณค่าของชีวิตมนุษย์
สง่ิ ทีม่ นษุ ยต์ ้องเกีย่ วข้องในสงั คม
Russell (อ้างถงึ ใน สุลักษ์ ศิวลักษณ์) กล่าวถึงความหมายของปรัชญาไว้
ว่า “ปรัชญาดูจะอยู่ก่ึงกลางระหว่างเทววิทยา (Theology) และวิทยาศาสตร์
(Science) เหมือนเทววิทยา ตรงที่ว่าด้วยเรื่องซึ่งไม่สามารถหาความรู้ได้แน่นอน
แตก่ ็เหมือนวิทยาศาสตร์ทรงที่ใช้หลกั เหตผุ ลทีค่ วรจะอาศัยอานาจใดเปน็ เกณฑ์
นักวิชาการ ได้ให้ความหมายของการศึกษาไว้ดงั นี้ 8) การศึกษาคือ กระบวนการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมของผู้เรียนเป็น
ในทางที่ดงี าม
พระธรรมปิฎก กล่าวถึงความหมายของการศึกษาว่า เป็นการพัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่
สมบูรณ์ 9) การศึกษาคือ ความเจริญงอกงามดา้ นความรู้และคณุ ธรรมของคน
สนุ ทร โคตรบรรเทา ได้สรุปความหมายของการศึกษา ดังนี้ 10) การศึกษาคือ กระบวนการพัฒนาขันธ์ 5 ของคน ซึ่งได้แก่ รูป เวทนา
สัญญา สังขาร และ วิญญาณ
1) การศึกษาคือ กระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคนให้ถึงขีดความสามารถ
สูงสุด 11) การศึกษาคือ กระบวนการลงทุนทรัพยากรมนุษย์เพื่อพัฒนา
ประเทศชาตทิ างด้านเศรษฐกิจสงั คมและการเมือง
2) การศึกษาคือ กระบวนการพฒั นาความสามารถที่มีมาแตเ่ กิดของทุกคน
12) การศึกษาคือ กระบวนการการถา่ ยทอดวฒั นธรรมไปสผู่ ู้เรียน
3) การศึกษาคือ กระบวนการที่ช่วยให้ผู้เรียนรู้จักนาความคิดและความรู้
ออกมาใช้ไดอ้ ย่างดีทีส่ ดุ กล่าวโดยสรุป การศึกษาเป็นการถ่ายทอดความรู้ ทกั ษะ และทศั นคติ และ
เป็นกระบวนการเรียนรู้ การพัฒนาคนให้มีการเปล่ยี นแปลงพฤติกรรมไปในแนวทางทีด่ ี
4) การศึกษาคือ กระบวนการกระตนุ้ สมองให้รับรเู้ กบ็ สะสมและรวบรวมส่ิงที่มี
คุณค่าเพื่อนาไปประพฤติปฏิบตั ิและปฏิบตั ิ
5) การศึกษาคือ กระบวนการสะสมประสบการณท์ างสังคมของคน
6) การศึกษาคือ กระบวนการอบรมสั่งสอนให้ผู้เรียนดารงชีวิตอยู่ในสังคม
อย่างมีความสขุ
7) การศึกษาคือ กระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์ทีด่ าเนินไปตลอดชีวิต
3. ความหมายของปรชั ญาการศึกษา 2. คณุ ค่าของปรชั ญาการศึกษา
จากความหมายของปรัชญาและการศึกษานี้สะท้อนให้เห็นว่า ปรัชญา ปรัชญาเป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยความคิด ความเชื่อต่อความเป็นจริง และ
และการศึกษามีความสัมพันธก์ นั อย่างใกล้ชิด และ Good [] ได้นิยามปรัชญาการศึกษาไว้ว่า คุณค่าของสรรพสง่ิ รวมทั้งเป็นกระบวนการแสวงหาความจริงอยา่ งเป็นระบบและเป็น
เป็นการใช้ปัญญาวิพากษ์วิจารณ์อย่างระมัดระวัง และอย่างเป็นระบบ เพื่อที่จะเข้าใจ แบบแผน ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้บุคคลมีหลักคิด และแนวทางที่ยึดถือในการดารงชีวิต
การศึกษาโดยรวมในฐานะที่เปน็ องค์รวมทางวัฒนธรรมของมนษุ ย์ และมีแนวทางทีจ่ ะแสวงหาความรู้และความเป็นจริงของชวี ิตอย่างแท้จริง
Kneller กล่าวว่า ปรัชญาการศึกษา คือการค้นหาความเข้าใจในเรื่อง สนุ ทร โคตรบรรเทา กล่าวถึงความสมั พนั ธ์ระหว่างปรชั ญากับการศึกษา
การศึกษาทั้งหมด การตีความหมายโดยการใช้ความคิดรวบยอด ช่วยแนะแนวทางในการ ดงั นี้
เลอื กจุดมุ่งหมายและนโยบายของการศึกษา
1) ปรชั ญาช่วยวางรปู แบบในการจดั การศึกษา
สาโรช บัวศรี แสดงให้เหน็ ความหมายและความแตกต่างระหว่างปรัชญา
การศึกษากบั ทฤษฎีทางการศึกษาไว้ว่า ปรชั ญาการศึกษาเป็นเรื่องของความคิดและระบบ 2) ปรัชญาช่วยให้ภาพรวมเกี่ยวกับเป้าหมายและวิธีการจัดการศึกษา
ของความคิดทีเ่ กี่ยวกบั การศึกษา ทีต่ ั้งอยบู่ นรากฐานของปรัชญาแม่บทอันใดอันหนึ่ง ไม่ใช่ แนวคิดทางปรัชญาโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เก่ียวกับความเป็นมนุษย์ ช่วยให้ภาพรวม
เปน็ ความคิดแบบลอ่ งลอย เกีย่ วกบั ผู้เรยี นหรือชว่ ยให้เด็กไทยในรุ่นอายแุ ละวัยต่าง ๆ มีความรู้ความสามารถและ
คณุ สมบัติทีเ่ หมาะสมตามที่สังคมต้องการ
วิจิตร ศรีสอ้าน กล่าวว่า ปรัชญาการศึกษาที่ศึกษาวิเคราะห์สาระและ
ธรรมชาตขิ องการศึกษา เพือ่ จะกาหนดจดุ มุ่งหมายและวิธกี ารจัดการศึกษาทีส่ อดคล้องกับ 3) ปรัชญาช่วยให้กรอบในการวิเคราะห์ความคิดและภาษาของการศึกษา
คุณค่าและความหมายของชีวิตทีด่ ีตามอดุ มการณข์ องสังคม เปน็ การวิเคราะห์เกีย่ วกับความหมายของการศึกษา
กล่าวโดยสรุป ปรัชญาการศึกษาเป็นความพยายามวิเคราะห์และทา สรุปได้ดังนี้ ปรัชญาการศึกษาช่วยให้เกิดความเข้าใจแนวคิด กิจกรรม
ความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาสามารถมองเห็นปัญหาของการศึกษาได้อย่างชัดเจนและ ทางการศึกษาที่เป็นอยู่ชัดเจน ขจัดความขัดแย้งหรือความไม่สอดคล้องต้องกันใน
สามารถกาหนดเป็นแนวคิดหลักการเพื่อเป็นแนวทางในการจัดการศึกษา แสดงออกมาใน ประเด็นต่าง ๆ ในวงการศึกษา ช่วยในการวางรูปแบบในการจัดการศึกษาโดยการให้
รูปของอุดมการณ์ หรืออุดมคติซึ่งสามารถนามายึดเป็นหลักในการดาเนินการให้บรรลุ ภาพรวมเกี่ยวกับเป้าหมายและวิธกี ารจัดการศึกษา และเสนอแนวคิดและแนวทางใหม่
จดุ มงุ่ หมายของการศึกษา เกี่ยวกับกิจกรรมให้กับวงการศึกษา
3. บทบาทของปรัชญาการศึกษาตอ่ การจดั การศกึ ษา ไพฑูรย์ สินลารัตน์ ได้แบ่งหนา้ ที่ของปรัชญาไว้ 3 หน้าที่ คือ
ศักดิช์ ัย นิรัญทวี และทิศนา แขมมณี กล่าวว่าปรัชญาการศึกษามีความสัมพันธ์กับ 1. การพรรณนา (descriptive) การพรรณนานั้นมุ่งที่การอธิบาย
การเรียนการสอนอย่างลึกซึ้ง เป็นเหตุผลของการคิดและการกระทาต่าง ๆ ในด้านการจัด และบรรยายให้ทราบว่านักปรัชญาคนใดพดู อะไรทาอะไรไว้บ้าง
การศึกษาและการจัดหลักสตู รและการจัดการเรียนการสอน ปรัชญาการศึกษาจึงเป็นความเชื่อ
ความศรัทธา ความเห็นดงี าม ความเชือ่ ถอื ในความคิดทางการศึกษา 2.การกาหนดมาตรฐาน (normative) ปรัชญาหรือนักปรัชญาจะ
ชีว้ ่าสง่ิ ทีค่ วรเน้นและส่งิ ที่ควรทานั้นมีอะไรบ้าง
วิทย์ วิศทเวทย์ กล่าวถึง บทบาทของปรัชญาที่มีส่วนช่วยในการวางแผนดาเนิน
กจิ กรรมทางการศึกษา ใน 2แง่ คือ ในเนอื้ หา ปรัชญามีส่วนช่วยนักการศึกษาในด้านการกาหนด 3.การวิเคราะห์ (analysis) การทาความเข้าใจให้ชัดเจนต่อคานน้ั
เป้าหมายหรือกาหนดส่ิงอันมีค่าสูงสุดในการดาเนินกิจการการศึกษา ในแง่วิธีการ วิธีการของ
ปรชั ญาก็คอื วิเคราะห์ สังเคราะห์ และตีความหมายโดยใช้เหตุผลตามครรลองของตรรกวิทยา สุนทร โคตรบรรเทา กล่าวถึง ลักษณะของปรัชญาการศึกษาที่
ด้วยการค้นหาของญาณทศั น์ ต้องมีลกั ษณะหน้าที่ 3 ประการ คือ
ทองปลิว ชมชืน่ [] กล่าวถึงบทบาทหน้าที่ของปรัชญาการศึกษาทีส่ าคญั คอื 1. พรรณนาและวิเคราะห์
1. การอนุมาน (speculative) หมายถึง การคาดคะเนหรือคาดหมายเรื่องใดเรื่อง 2. เป็นการวิจารณ์และประเมิน
หนึง่ ถึงเหตผุ ลผลที่จะเกิดข้ึน
3. เป็นการคาดการณล์ ว่ งหน้า
2. การกาหนดรูปแบบ (normative) การกาหนดรูปแบบหรือมาตรฐานเกี่ยวกับเรื่อง
ใดเรือ่ งหนึง่ ข้นึ มา เพื่อเปน็ ข้อกาหนดในการปฏิบตั ิ สรุปได้ว่า ปรชั ญาการศึกษา คือ ลักษณะเปน็ การพรรณนา คาดคะเน
มุ่งเนน้ อธิบายและบรรยายให้รู้ถงึ แนวคิด ความเชื่อของหลกั ปรัชญาต่างๆเพื่อ
3) การวิเคราะห์ (critical) การวิเคราะห์หรือการคิดอย่างรอบคอบและมีเหตุผล คาดคะเนหรือคาดหมายเรื่องหนึ่งถึงส่วนที่จะเกิดขึ้นหรือกาหนดรูปแบบ
มาตรฐานเป็นข้อกาหนดการปฏิบัติและการวิเคราะห์หรือการคิดอย่าง
รอบคอบมีเหตมุ ีผล
4. แนวทางการศึกษาปรชั ญาการศกึ ษาในการศึกษาปรัชญาการศกึ ษา แนวทางที่หนึ่งคือ ปรัชญาการศึกษาที่ยึด เนื้อหาปรัชญาท่ัวไปเป็นแม่บท เพื่อจะ
นามาใช้ในการอธิบายการจดั การศึกษา
4.1 ปรัชญาการศึกษาที่ยึดเนอื้ หาทางปรชั ญาทัว่ ไปเป็นแม่บท ปรัชญาการศึกษา
แนวนีเ้ ปน็ แนวเก่าและมมี านาน เปน็ ระบบและรปู แบบทีช่ ดั เจน แนวทางที่สอง คือปรัชญาการศึกษาที่ยึดการศึกษาเป็นแกนกลาง ซึ่งเน้นที่
จุดมุ่งหมายของการศึกษา ครู และการจัดการเรียนการสอนโดยนาปรัชญาแนวคิดหลาย ๆ
4.2 ปรัชญาการศึกษาที่ยึดตัวการศึกษาเป็นแกนกลาง แนวทาง แนวทางมาใช้เพื่ออธิบายปรชั ญาการศึกษา
การศึกษาลักษณะนี้เป็นแนวเก่าและได้ใช้กันมานานแล้ว โดยเฉพาะในวง
การศึกษาเอง ปรชั ญาแนวนีถ้ อื ว่าเมือ่ มีการศึกษาจึงมปี รัชญาการศึกษาเกิดขนึ้ ความสัมพนั ธ์ของสาขาของปรชั ญากบั การศกึ ษา
4.3 ปรชั ญาการศึกษาทีม่ ุ่งหาความกระจ่างในแนวคิดและกิจกรรม สาหรับปรัชญาของกลุ่มประเทศตะวันตก มีพื้นฐานมาจากปรัชญากรีก ซึ่งนัก
การศึกษา ถอื ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างปรัชญากับการศึกษามีความสัมพันธ์ ใน ปรชั ญาสมัยนั้นได้แบ่งสาขาของปรชั ญา ออกเป็น 3 สาขา คือ (McNergney and McNergney)
ลกั ษณะทีป่ รัชญาไม่ใช่ตวั เนือ้ หา แตป่ รชั ญาเปน็ กิจกรรมของการวิพากษ์วิจารณ์
หาความกระจ่าง 1.1 อภิปรัชญา (Metaphysics) เป็นการศึกษาเกี่ยวกับความจริง แบ่งเป็น 2
แขนง ย่อยคือ 1. ภววิทยา (Ontology) ค้นหาสิ่งท้ังหลายที่เก่ียวข้องกับธรรมชาติ 2. จักรวาล
กล่าวโดยสรุป แล้ว แ นวทางการศึกษาปรัชญาการศึกษาน้ัน วิทยา (Cosmology) เปน็ ปรชั ญาทีเ่ กีย่ วข้องกบั ธรรมชาตแิ ละจุดเรม่ิ ต้นของจักรวาล
ประกอบด้วย 3 แนวทางสาคัญคือ แนวทางการศึกษาที่ยึดเนื้อหาทางปรัชญา
ทั่วไปเปน็ แม่บท แนวทางการศึกษาที่ยึดตัวการศึกษาเป็นแกนกลาง และในทาง 1.2 ญาณวิทยา (Epistemology) เป็นการศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติของความรู้
การศึกษาที่มุ่งหาความกระจ่างในแนวคิดและกิจกรรมการศึกษา หรือการรับรู้สิ่งต่าง ๆ ของบคุ คล
1.3 คุณวิทยา (Axiology) ปรัชญาที่มุ่งค้นหาหรือวิเคราะห์คุณค่าหรือค่านิยม
เกี่ยวกับความดี ความงาม มุ่งศึกษา 2 ด้าน คือ ด้านจริยศาสตร์ (Ethics) สุนทรียศาสตร์
(Aesthetics)
อภิปรชั ญา เปน็ การอธิบายเกีย่ วกบั ธรรมชาตขิ องความจรงิ
ญาณวิทยา เป็นการอธิบายถึงส่ิงที่เกี่ยวข้องกับความรู้ การรับรู้ซึ่งจะส่งผล
ต่อวิธกี ารสอนและการเรียนรู้
คุณวิทยา เป็นการอธิบายเก่ียวกับคุณค่า ว่าสิ่งไหนควรทาหรือไม่ควรทา
แบ่งออกเปน็ 2 สว่ น คือ จริยศาสตร์ และสนุ ทรยี ศาสตร์
ตรรกะเกี่ยวข้องกับการความถูกผิดและการคิดอย่างมีเหตุผล การใช้ตรรกะ
เชิง นิรนัยใช้ถ้อยคาทัว่ ๆ ไปปรับเปลี่ยนแนวปฏิบตั ิทีเ่ ฉพาะเจาะจง
กล่าวโดยสรุป สาขาของปรัชญาแบ่งออกได้เป็น 3 สาขา ได้แก่ อภิปรัชญา
วิญาณวิทยาและคุณวิทยา ซึ่งสาขาทั้ง 3 น้ี สามารถนาไปใช้เพื่อการอธิบายปรัชญา
การศึกษาตามแนวทางปรัชญาพืน้ ฐานต่อไป
ปรัชญาการศึกษาตามแนวทางปรัชญาพื้นฐานที่ได้รับการยอมรับในการศึกษา เป็นปรัชญาที่มีต้นคิดมาจากปรัชญา
ระดับสากล และใช้เป็นแนวทางพื้นฐานสาคัญในการจัดการศึกษา ปรัชญาการศึกษาตาม กรีก ผู้เปน็ บิดาของปรชั ญาสาขานีค้ ือ Aristotle
แนวทางน้อี าจจาแนกไดเ้ ปน็ 4 กลุ่ม
อภปิ รชั ญาของประจักษ์นิยม เชือ่ ว่า โลกถูกสร้างข้ึนจากวัตถุหรือสสารที่เป็นจริง
ปรชั ญามโนคตินิยมเป็นปรัชญาสาขาเก่าแก่ที่สุด จบั ต้องได้
ต้นกาเนดิ ปรชั ญาอาจยอ้ นไปถึงถึงปรัชญาอินเดียโบราณและกรีกโบราณ สาระสาคัญของ
ปรชั ญามโนคตนิ ิยม Callahan and Clark มีดังนี้ ญาณวิทยาของประจักษ์นิยม เชื่อว่ามนุษย์เมื่อแรกเกิดจิตจะว่างเปล่า
หลงั จากนั้นกจ็ ะเกิดการรับรู้ต่าง ๆ
อภิปรัชญาของมโนคตนิ ิยม ปรัชญานีม้ ีความเชื่อว่าความจริงท้ังหลายสามารถสรุป
รวมได้เปน็ ความจริงแท้ คณุ วิทยาของประจกั ษ์นิยม ถอื เอากฎของธรรมชาตเิ ปน็ หลักสาคญั
ญาณวิทยาของมโนคตินิยม ความรู้เป็นอิสระจากประสบการณ์ และเกิดขึ้นภายใน จากแนวคิดทางปรัชญาประจกั ษ์นิยม วิจิตร ศรีสะอาด ดงั นี้
จิตใจ 1) บทบาทของโรงเรียนและผู้เรียน โรงเรยี นตอ้ งจดั กิจกรรมการ
เรียนรู้ต่อเนือ่ งและเปน็ ระบบ โรงเรียนจะต้องเสริมสร้างสิง่ แวดล้อมที่
คุณวิทยาของมโนคตินิยม เนื่องมาจากความเชื่อว่า ความจริง ความดี และความ สง่ เสริมการเรียนรู้ความจริงตามธรรมชาตโิ ดยยึดกฎธรรมชาติเปน็
งาม ดารงอยู่ในจักรวาล และเปน็ นิรนั ดร หลัก
2) หลกั สูตร เนือ้ หาสาระเกี่ยวกบั โลกทางกายภาพและสง่ เสริมให้
แนวคิดจากวจิ ติ ร ศรีสอา้ น อธบิ ายในปรชั ญาการศึกษาได้ ดงั น้ี ผู้เรยี นได้ศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาตวิ ิชาที่ว่าด้วยชีวภาพและธรรมชาติ
1) จดุ เนน้ ของโรงเรยี น โรงเรยี นตามแบบมโนคตนิ ยิ ม ในการเสรมิ สรา้ งส่งิ แวดลอ้ มทาง 3) การเรียนการสอน เน้นการเรียนโดยอาศัยการรับรู้ทางการฝึก
ความคิด คือสญั ลกั ษณ์ ซง่ึ เป็นส่อื ความคิดท่สี าคญั โรงเรยี นจงึ ใชส้ ญั ลกั ษณใ์ หผ้ เู้ รยี นไดฝ้ ึก ปฏิบตั แิ ละการนาของจริงมาแสดงและทดลองเป็นสาคญั
การคิดและการแสดงออกเป็นพฒั นาจิตใจ 4) การปลูกฝังค่านิยมทางจริยธรรมและสนุ ทรยี ภาพ การเรียนการ
2) หลกั สตู รจะเนน้ เนอื้ หาดา้ นการพฒั นาความคิดและจิตใจ วชิ าการดา้ นมนษุ ยศาสตร์ สอนตามกฎและระเบียบที่สงั คมกาหนด
3) การเรยี นการสอน เนน้ การใชส้ ญั ลกั ษณเ์ ป็นส่อื ในการเรยี นและการทากิจกรรมหอ้ งเรยี น
ปรัชญาสาขานีไ้ ด้ต้นเค้าความคิดจากปรัชญาประจักษ์ ความจริงไม่สามารถอยู่เหนือความเข้าใจ
นิยมทีเ่ กิดข้ึนในอังกฤษในครสิ ต์ศตวรรษที่ 17 ของมนุษย์ แต่ขึน้ อยู่กบั ความชอบและประสบการณ์ชีวิตของมนุษย์
อภิปรัชญาของประสบการณ์นิยม ปรัชญาประสบการณ์นิยมนี้ แตกต่างกับปรัชญา อภิปรัชญาของอัตภาวนิยม มีความเชื่อว่า ความสุขคือการ
ท้ัง 2 กลุ่มที่กล่าวมาแล้ว ความจริงคือประสบการณ์ของแต่ละคนบุคคลไม่สามารถรู้อะไร ดารงชีวิตอยู่จริง ๆ ของ ปัจเจกบุคคล
ได้หากไมม่ ี
ญาณวิทยาของอตั ภาวนยิ ม บุคคลจะเรียนรู้โดยผ่านประสบการณ์
ญาณวิทยาของประสบการณ์นิยม โดยถอื ว่าความรู้จะเกิดขนึ้ อยู่กับประสบการณ์ที่ คุณวิทยาของอัตภาวนิยม คุณค่าขึ้นอยู่กับการเลือกและการ
ได้รับ ตัดสินใจของบุคคล บคุ คลจะไมย่ อมตามค่านิยมและบรรทัดฐานของสังคม เพราะจะ
ทาให้เขาสูญเสียความเป็นมนุษย์และความจริงแท้ไป
คุณวิทยาของประสบการณ์นิยม คณุ ค่ามาจากเงือ่ นไขของบุคคลและประสบการณ์
ต่าง ๆ ที่คนนั้นประสบอยู่ วิจิตร ศรีสะอาด กล่าวว่าแนวคิดปรชั ญาอตั ภาวนิยม ดงั นี้
1) บทบาทของโรงเรียน โรงเรียนควรกาหนดเป้าหมายของการศึกษา เพื่อ
จากแนวคิดทางปรชั ญาประสบการณ์นิยม วิจิตร ศรีสะอาด ดังนี้ ตอบสนองความเป็นปัจเจกบคุ คลของนักเรียน
1) บทบาทของโรงเรียน เน้นการสร้างสิ่งแวดล้อมทีจ่ ะเออื้ ให้ผู้เรยี นเกิดประสบการณ์ 2) หลกั สูตร เปน็ หลกั สตู รที่เน้นเนือ้ หา เนือ้ หาทีเ่ รยี นจะไมก่ าหนดค่านิยม
ต่อเนือ่ ง ตายตวั ไว้ส่งิ ทีเ่ รียนจะเป็นเครือ่ งมือที่ให้ผู้เรียนพัฒนาความรู้ด้วยตนเอง
2) หลกั สตู ร เป็นการเสริมสร้างประสบการณท์ างสงั คม ให้ความสาคญั แก่กระบวนการ 3) การเรียนการสอน ต้องเปน็ ประชาธิปไตย ครไู ม่บงั คับหรือกาหนด
เรียนรู้มากกว่าการเน้นดา้ นพัฒนาสาระการจัดหลกั สูตร เป้าหมายให้ผู้เรียน หน้าที่ของครูคือผู้แนะนา และวางแผนร่วมไปกบั
3) การเรียนการสอน จะเนน้ 1) การเรียนโดยวิธแี ก้ปัญหา 2) การจัดการเรียนการสอน
โดยยึดผู้เรยี นเป็นศนู ย์กลาง และ 3) การเรียนรู้ในขณะทีน่ าความรู้มาใช้เพือ่ ให้การเรียนรู้
และการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์เกิดขนึ้ พร้อม ๆ กนั
4) การปลูกฝงั ค่านิยมทางจริยธรรมคณุ ธรรมและด้านสนุ ทรยี ภาพเปน็ การเรียนรู้จาก
สภาวะทางศีลธรรมและประสบการณ์ทางสุนทรยี ภาพทีเ่ ป็นจริงในสงั คม
ผู้ให้กาเนดิ คอื นักปรชั ญาชาว ปรัชญาการศกึ ษาที่ยึดการศกึ ษาเปน็ แกนกลาง
เยอรมัน Friedrich และ Martin เขาให้ความเห็นว่ายุคสมัยใหม่ได้สิน้ สุดลงแลว้ ช่วงนีค้ ือยคุ
หลงั สมัยใหม่ เขาปฏิเสธแนวคิดแบบอภิปรชั ญา เกีย่ วกับความจรงิ แท้สมบูรณ์และนาเสนอ ปรชั ญาการศึกษาทีย่ ึดการศึกษาเปน็ แกนกลางได้รับการพัฒนาขึ้น
ปรชั ญาที่เรยี กว่าปรากฏการณ์นิยม (Phenomenology) มาจากการประยุกต์ปรัชญาหลาย ๆ สาขาเพื่อสร้างอธิบายถึงจุดมุ่งหมายของ
การศึกษา บทบาทของการศึกษา หลักสูตร และการจดั การเรียนการสอน
กล่าวโดยสรุป สาหรับปรัชญาหลังสมัยใหม่ สามารถเปน็ แนวทางในการ
จดั การเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรดู้ ว้ ยตนเอง และสามารถนามาใช้เพื่อพัฒนาการ 1. ปรัชญาสารัตถนิยม (Essentialism) สารัตถนิยมเกิดขึ้นใน
เรียนรู้ในยุคปจั จบุ ันไดอ้ ย่างมาก สหรัฐอเมริกา เม่ือประมาณ ค.ศ. 1930 ปรัชญาการศึกษากลุ่มนี้ต้องการให้ผู้เรียน
ศึกษาวรรณกรรมสาคัญ ๆ เพือ่ เตรียมตัวแก้ปัญหาในโลกปัจจุบัน เน้นการเรียนรู้เพื่อ
การแก้ไขปัญหาในปัจจบุ นั และการป้องกันปญั หาทีจ่ ะเกิดขนึ้ ในอนาคต ปรัชญากลุ่มนี้
เน้นการให้ครมู ีบทบาทสาคัญในการจดั การศึกษาและสอนให้เด็กมีความรู้ในเรื่องต่าง
ๆ โดยการเรียนการสอนเน้นครเู ป็นศูนย์กลาง หัวใจการศึกษาตามปรัชญากลุ่มนี้ คือ
การจดจาเนอื้ หาวิชาทีก่ าหนด
2. ปรัชญาพพิ ฒั นิยม (Progressivism) พิพฒั นิยม เปน็ ปรชั ญา
การศึกษาทีอ่ าศยั หลักของปรชั ญาการศึกษาประสบการณ์นิยมเป็นหลัก
3. ปรชั ญานิรันตรนิยม (Parennialism) นิรนั ตรนิยมเป็นปรัชญาการศึกษา ปรัชญาตะวันออกที่จะกล่าวในที่นี้ หมายถึง ระบบแนวคิดหลักการและความรู้
สมัยใหม่ที่เน้นการมองย้อนกลับผ่านประวัติศาสตร์และมองไปข้างหน้าเพื่อกาหนด ต่าง ๆ ทางปรัชญาทีเ่ กิดขนึ้ ในซีกโลกตะวันออก
แนวความคิดเกี่ยวกับเป้าหมายและกระบวนการศึกษา ปรัชญาการศึกษามีความเชื่อว่า
มนษุ ยเ์ ปน็ ผมู้ ีเหตผุ ล และมนษุ ย์ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็มีธรรมชาตเิ หมือนกนั ปรชั ญาสาขานี้เน้น กฤษดา เวลาดี และศุภิสรา มาศชาย กล่าวว่า อิสลาม คือระบอบวิถีชีวิตที่
ครูเปน็ ศนู ย์กลางการศึกษา ครูคือ ผู้รู้และเป็นผู้รับผิดชอบตอ่ การให้การศึกษาแก่เดก็ ได้รับการวิวรณ์ เปิดเผยโดยพระเจ้าคือ“อัลเลาะห์”ผ่านทางศาสดาพยากรณ์ทั้งหลายของ
พระองค์ อิสลามเป็นทุกส่ิงทุกอย่างของวิถีชีวิตมุสลิม น่ันหมายความว่ามุสลิมนั้นคือ คนที่ใช้
4. บูรณนยิ ม (Reconstructionism) ปรัชญาการศึกษากลุ่มนี้อาศัยปรัชญา ชีวิตและมปี รัชญาการมองโลกโดยผ่านแว่นตาแห่งอิสลาม
ประสบการณ์นิยมเป็นหลักยึด ปรัชญาการศึกษาได้ชื่อว่า “เป็นหนทางประยุกต์ปฏิรูปเพื่อ
สร้างสงั คมใหม่” ยึดถอื การศึกษาเพื่อปฏิรปู สงั คม ดังนั้น การศึกษาในอิสลามจึงไม่ได้หมายถึงเพียงการถ่ายทอดความรู้
ประสบการณห์ รือทักษะจากชนรุ่นหนึ่งไปยังชนอีกรุ่นหนึ่ง แต่ในมุมมองของอิสลามการศึกษา
สรุปได้ว่า ปรัชญาการศึกษาท้ัง 4 กลุ่ม เป็นปรัชญาการศึกษาที่นักการ จะมีความหมายที่กว้างครอบคลมุ หลาย ๆ ดา้ น
ศึกษายึดถอื นามาใช้เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการศึกษาในปัจจุบันเป็นส่วนใหญ่ จะเห็นได้
ว่าเป็นแนวคิดปรัชญาของแต่ละกลุ่มทีม่ ีความแตกต่างกนั ออกไป อิบราฮิม ณรงค์เขตรกั ษา ได้กล่าวถึงการศึกษาในอิสลามพบว่า การศึกษาใน
อิสลามมีลักษณะ ดังนี้
1. เปน็ การศึกษาตลอดชีพ
2. เป็นการพัฒนาทุกส่วนของความเป็นมนุษย์ วิญญาณ สติปัญญา และ
ร่างกาย
3. ตอบสนองวัตถุประสงค์ของการสร้างมนุษย์ กล่าวคือ เป็นบ่าวของอัล
เลาะห์ และเปน็ ตวั แทนของอลั เลาะห์บนผนื ดนิ
4. ทาให้สมาชิกของสงั คมมีคณุ ธรรมและจริยธรรม มีความเจริญรุ่งเรอื ง
สาราญ อิ่มจติ ต์ และกฤต ศรียะอาจ กล่าวว่าปรัชญาจีนเป็นปรัชญาที่ไม่ ปรชั ญาขงจอ้ื
สนใจแสวงหาปฐมธาตุ แต่ให้ความสาคัญกับเรื่องของมนุษย์ด้วยกัน จึงมักถูกมองว่าเป็น
ปรชั ญามนุษย์นิยม ปรัชญาสานักนี้มุ่งสอนให้คนกลับสู่อดีตเช่นกัน จะต่างกันตรงที่
แทนทีจ่ ะเน้นธรรมชาตกิ บั เน้นจารีตประเพณี ดนตรี และคุณธรรมที่ดีงาม ขงจื้อไม่ให้
ปรชั ญาจีนเกิดข้ึนมาชา้ นาน และมีสานักต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่สานัก ความสาคัญกบั อภิปรชั ญา แต่ให้ความสนใจทางจริยศาสตร์ และการเมือง ดังนั้นจึง
ที่มีการกล่าวถึงมากที่สุดคือสานักปรัชญาเต๋าและสานักปรัชญาขงจื้อ ซึ่งได้กล่าวถึง ควรวางจริยศาสตร์ไว้ 5 ประการคือ 1) หลักความเมตตา 2) หลักความชอบธรรม
สาระสาคัญของปรชั ญาทั้งสองสานกั โดยสรปุ ดังนี้ 3) หลักความเหมาะสม 4) หลกั ปญั ญา และ 5) หลกั การวางตน
สานักปรัชญาเตา๋ กล่าวโดยสรุป ปรัชญาเต๋าและขงจื้อ เป็นปรัชญาที่ให้ความสาคัญ
กบั มนษุ ย์และเป็นปรัชญาทีเ่ นน้ การปฏิบัติและเน้นด้านจริยธรรม และมีความแตกต่าง
สานักนี้มีเหล่าจื๊อเป็นหัวหน้า และมีนักปรัชญาคนอื่น ๆ ที่สาคัญคือ กัน คือปรัชญาเต๋าเน้นการดารงตนอย่างสงบ กลมกลืนและสอดคล้องกับธรรมชาติ
จวงจื๊อ ปรัชญาในสานักนี้มีเต๋าเป็นเป้าหมายสูงสุด เต๋าเป็นนามธรรมแต่ก็เป็นบ่อเกิดแห่ง ปรัชญาขงจื้อ เชื่อว่าการศึกษาอบรมเป็นส่ิงที่มีความสาคัญเพราะช่วงอบรมให้คน
สรรพส่งิ และเป็นจดุ มุ่งหมายของสรรพสง่ิ เพราะฉะนน้ั ทุกสง่ิ เกิดขึ้นได้ เพราะเต๋ากลับคืนสู่ รู้จักหนา้ ที่ของตนเพื่อประโยชน์ต่อตนเองและสงั คม
เต๋าอีกคร้ัง หลักคาสอนของคัมภีร์เหล่าจื๊อ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี คือ “เต๋าเต็กเก็ง” ซึ่งแปลว่า
สจั ธรรม คณุ ธรรมสตู ร หลักคาสอนของเต๋ามีลักษณะที่สวนกระแสโลก เป็นหลักคาสอนที่
เป็นการแนะนาการดารงชีวิตที่มองเห็นได้เป็นรูปธรรม คัมภีร์เต๋าเต็กเก็ง มีแต่ 81 บทแบ่ง
ออกเป็น ภาคที่ 1 เป็นปรัชญาของประมุขบริหารราชการ ภาคที่ 2 ปรัชญาการปกครอง
ภาคที่ 3 ปรัชญาสังคมอธิบายถึงหลักแห่งการดารงชีวิตในสังคม ภาคที่ 4 อภิปรัชญา
อธิบายถึงหลักคุณธรรมต่าง ๆ ที่เป็นสัจธรรม ภาคที่ 5 ปรัชญาชีวิตกล่าวถึงหลักการแห่ง
การพฒั นาชีวิตเพือ่ ให้อยรู่ ่วมกับคนอื่นได้
จากปรชั ญาคาสอนของเหลา่ จือ๊ ข้างต้น สามารถจะอธิบายให้เห็นถึงทัศนะ
ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาได้ว่าเหล่าจื๊อ มองว่าสภาวะด้ังเดิมของมนุษย์ คือความสุข แต่
สาเหตุที่ทาให้มนุษยป์ ระสบกบั ความทกุ ขน์ ้ันเป็นเพราะภาวะทางสังคมที่เปลย่ี นแปลง
ในปัจจุบัน สภาพของชีวิตและสังคมแตกต่างไปจากสมัยก่อน แต่แก่นแท้ของ 1. ความหมายการศึกษา “การศึกษา” ทีแ่ ท้จริงมลี กั ษณะหรือมีความหมายเป็น
ชีวิตแบบไทยยังคงยึดถือคุณธรรม ซึ่งเป็นคาสอนที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้และนามาเผยแผ่สั่ง พิเศษอยู่ คือต้องดอู อกมาจากข้างใน แล้วแก้ปญั หาข้างนอก
สอนบุคคลทวั่ ไป
2. จุดมุ่งหมายของการศึกษา จุดมุ่งหมายของการศึกษาของพุทธทาสภิกขุ
สาโรช บัวศรี ได้กล่าวถึงวิธีการคิด ปรัชญาแม่บทในประเทศไทยของเราก็มี ต้องการให้การศึกษาเป็นไปตามมรรคมีองค์แปด จึงจะสามารถทาให้ได้การศึกษา ที่เป็น
อยู่แล้ว คือพุทธปรัชญาซึ่งเป็นระบบความคิดที่ยอดเยี่ยมมาก ดังน้ัน ถ้าประยุกต์พุทธ การศึกษาเพื่อพฒั นา ให้เปน็ มนุษยท์ ีส่ มบรู ณ์
ปรชั ญาให้เปน็ ปรชั ญาการศึกษากน็ ่าจะทาได้ การประยกุ ต์น้ันอาจทาได้ 3 ข้ันตอน คือ
3. สถานที่เรยี น สถานที่เรยี นในทัศนะของพุทธทาสภกิ ขไุ ม่จาเปน็ ต้องไปหาที่อื่น
ขน้ั ที่ 1 ศึกษาค้นคว้าให้พบแกน่ แท้หรอื ความคิดสาคัญ ๆ ในพุทธปรัชญา หรือแสวงหาที่อื่น แต่โรงเรียนคือร่างกายของคนเรา ในร่างกายอันยาววาหนึ่ง ที่มีพร้อมทั้ง
สญั ญาและใจเป็นแหลง่ เรียนรู้ที่สามารถช่วยให้พ้นทุกข์ได้
ข้ันที่ 2 กาหนดรปู แบบหรือแนวทางของปรัชญาการศึกษาทีจ่ ะสร้างข้นึ
4. ผู้สอนหรือครู พุทธทาสภิกขุได้ให้ความหมายคาว่า ครู ว่าตรงกับคาว่า ครุ
ขนั้ ที่ 3 การใช้ความรใู้ นวิชาศึกษาศาสตร์บางประการเขา้ มาเขา้ ดาเนินการ แปลว่าหนัก หมายถึง บคุ คลทีท่ ุกคนต้องให้ความเคารพ
5. หลักสูตรการศึกษา พุทธทาสภิกขุ ได้กล่าวถึง หลักสูตรต้องมีจริยธรรม
ควบคู่กันไปหลกั สูตรการศึกษาต้องมีลักษณะที่สาคัญ คือ ต้องมีการสอนคุณธรรมให้เหมาะกับ
วัยของแต่ละบคุ คล
6. การเรยี นการสอน พุทธทาสภกิ ขุไดก้ ล่าวถึงการเรียนการสอนว่า ต้องเป็นไป
ตามหลักไตรสิกขาสิ่งที่ได้คือ การสิ้นราคะ โทสะ และโมหะ เพื่อการดับทุกอย่างเดียว หากไม่
เปน็ ไปเพื่อการดบั ทุกขก์ ไ็ ม่ชือ่ ว่าเปน็ การศึกษา
7. การจัดการศึกษา พุทธทาสภิกขุได้กล่าวเปรียบการศึกษาคือชีวิตของคนไว้
เหมือนกับวัว ไว้ว่าชีวิตต้องเทียมด้วยวัวสองตัว คือตัวหนึ่งรู้ตัว Spiritual Enlightenment อีกตัว
หนึ่งคือกาลัง
1. ความหมายของการศกึ ษา การศึกษาคือการพัฒนาข้ึนมาในทางท่ีพึงประสงค์ การเปล่ียนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์ที่เกิดขึ้น ในปัจจุบันส่งผลให้การศึกษาของ
หรอื พดู ใหช้ ดั ไปอกี กว็ า่ การศึกษาคอื การพัฒนาขนั ธ์ 5ซง่ึ ไดแ้ ก่ รูป หมายถึง รา่ งกาย เวทนา หมายถึง ไทยต้องปรับตัวให้เท่าทนั กับการเปลย่ี นแปลงของโลก จึงไดม้ ีการประกาศใช้พระราชบัญญัติ
ความรู้สึกต่าง ๆ สัญญา หมายถึง การจาได้หมายรู้ สังขาร หมายถึง ความรู้สึก การคิด ญญาณ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ซึ่งถอื เปน็ กฎหมายแม่บท เปน็ เสมอื นธรรมนญู การศึกษาของ
หมายถงึ การรับรู้ ประเทศ
2. ความม่งุ หมายของการศึกษา ความมุ่งหมายของการศึกษาของบุคคลท้ังหลาย 1.1 แนวทางการจัดการศึกษาหลังการประกาศใช้พระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติ
คือ บูรณาการชีวิต คือชีวติ ทีม่ ีความเตม็ สมบูรณ์ ซง่ึ ยอ่ มเปน็ ชีวติ ทีม่ คี วามสมดุล พ.ศ.2542
3. แนวนโยบายของหลกั การศกึ ษา เพือ่ จะบรรลนุ พิ พานคือมรรคมีองคแ์ ปด การศึกษามาตรที่ 4 หมายความถึง กระบวนการเรียนรู้เพือ่ ความงอกงาม
ชองบคุ คลและสงั คมโดยการเรียนรู้ดังกล่าว อาจได้มาด้วยวิธีการต่าง ๆ อนั จะทาให้
4. วิธีการศึกษา (วิธีการสอน การอบรม) การสอนหรือการอบรมย่อมมีวิธีการ บคุ คลสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนือ่ งตลอดชีวิตนอกจากนี้ ยังกาหยดแนวคิด
หลากหลายประการ แต่วธิ ีการคิดที่เด่นชดั ได้แก่ เป็นวิธกี ารสอนตามขั้นทั้ง 4 ของอรยิ สจั ” เกี่ยวกบั การจดั และการไดร้ บั การศึกษาให้แก่บตุ รหลานของตน สว่ นสิทธิการไดร้ ับ
การศึกษาไดก้ าหนดให้บคุ คลมสี ทิ ธิและโอกาสไดร้ บั การศึกษาขน้ั พนื้ ฐานไม่น้อย
5. อดุ มการณข์ องอาจารย์ กว่า 12 ปีโดบมาเสียค่าใช้จา่ ย
6. การพฒั นากระบวนการเรยี นรูแ้ บบพทุ ธ
7. ความหมายและสภาพปัจจบุ นั ของการศกึ ษา
8. วตั ถปุ ระสงคข์ องการศกึ ษา
9. โลกทศั นแ์ ละวิธีคดิ แบบพทุ ธ โลกทัศน์เป็นแบบพุทธจะเห็นสรรพส่ิงท้ังรูปธรรม
และนามธรรม
10. ระบบสง่ เสริมกระบวนการเรียนรู้แบบพทุ ธ
สรุปแล้ว ปรัชญาการศึกษาตามแนวพุทธธรรม เป็นปรัชญาการศึกษาที่มี
จุดมุ่งหมาย เพือ่ การพัฒนามนุษย์ให้เปน็ มนุษย์ทีส่ มบูรณ์ สามารถดับทุกข์และมีการรับรู้สรรพ
ส่งิ ได้อยา่ งถูกต้องตามความเปน็ จริง
1.2 แนวการจัดการศึกษาตามข้อเสนอการปฏิรปู การศึกษาในทศวรรษทีส่ อง (พ.ศ.2552- 2.1 ความเปน็ มาเศรษฐกิจพอเพียงหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2561)
เศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวพระราชดาริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่
ในการดาเนนิ การให้บรรลเุ ป้าหมายของการปฏิรูป ได้มกี ารกาหนดกรอบแนว พระราชทานให้เป็น “ปรัชญา” ในการดารงชีวิตที่ยึดหลักความพอเหมาะ พอดี มีเหตุมี
ทางการปฏิรปู การศึกษาเพือ่ ให้ปฏิรปู การศึกษาและเรียนรู้อย่างเปน็ ระบบไว้ 4 ประการ ผล และความไมป่ ระมาท
หลกั คือ
กล่าวโดยสรุป เศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางการพัฒนาตามพระบรม
1. พฒั นนาคุณภาพคนไทยยุคใหม่ทีม่ ีนิสยั ใฝเ่ รียนรู้ต้ังแต่ปฐมวยั สามารถเรยี นรู้ ราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เพื่อเป็นแนวทางนาความ
ด้วยตนเองและแสวงหาความรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต มั่นคงแบบย่ังยืนมาสู่สังคมไทย ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความพอเพียงทั้งทางด้านวัตถุ และ
ทางด้านจิตใจ ซึ่งต้องดาเนินชีวิตตามทางสายกลาง เพื่อให้เกิดความสมดุลมั่นคงและ
2. พฒั นาคณุ ภาพครยู คุ ใหม่ ที่เป็นผเู้ ออื้ อานวยให้เปน็ ผเู้ รียนเกิดการเรียนรู้ ยั่งยืน
เปน็ วิชาชีพทีม่ ีคณุ ค่า มีระบบกระบวนการผลติ และพฒั นาครู คณาจารย์ และบคุ ลากรทางการ
ศึกษา
3.พัฒนาคณุ ภาพสถานศึกษาและแหลง่ เรียนรู้ยุคใหม่ พฒั นาคณุ ภาพ
สถานศึกษาทุกระดับ/ประเภท ให้สามารถเป็นแหลง่ เรียนรู้ทีม่ คี ณุ ภาพทางในการศึกษา
ในระบบ นอกระบบ การจัดการศึกษาตามอธั ยาศัย เพื่อสง่ เสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน
อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตและมีคุณภาพ
4. พฒั นาคุณภาพการบรหิ ารจดั การใหม่มงุ่ เน้นการกระจายอานาจสู่
สถานศึกษา เขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งการมสี ว่ นร่วมของ
ผู้ปกครองชมุ ชนภาคเอกชนและทุกภาคส่วน
สรุปแนวการจดั การศึกษาตามข้อเสนอการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองมี
การปฏิรูปในประเดน็ หลกั 3 ประเด็น 1)พฒั นาคณุ ภาพและมาตรฐานการศึกษา 2)
โอกาสทางการสึกษาและการเรียรู้ 3)ส่งเสริมการมีส่วนร่วมทกุ ภาคส่วนในการจดั
การศึกษา
2.2 หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 2.3 ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา
เศรษฐกิจพอเพียงเปน็ การพัฒนาทีต่ ้ังอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลาง มีหลัก เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในการ
ในการพิจารณาอยู่ด้วยกนั 5 สว่ น ดังนี้ จัดทาแผนการศึกษาแห่งชาติฉบับปรับปรุง (พ.ศ. 2552-2559)จึงได้คิดปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นปรัชญาพื้นฐาน เพื่อเป็นแนวทางในการกาหนดมาตรการด้าน
1. กรอบแนวคิด ต่าง ๆ ดังนั้นจะเหน็ ได้ว่า ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเปน็ แนวในการพัฒนาการศึกษาที่
หน่วยงานทางการศึกษาทั้งหลายควรต้องให้ความสนใจและน้อมมาประยุกต์ใช้ เพื่อ
2. คุณลักษณะ ปลูกฝงั สร้างจิตสานึกแห่งความเพียงพอให้กับเด็กและเยาวชนของชาติ
3. คานิยาม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คุณลักษณะพร้อม ๆ กัน
ดงั นี้ 3.1 ความพอประมาณ หมายถึงความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป 3.2 ความมี
เหตุผล หมายถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับระดับความพอเพียงนั้นจะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล 3.3
การมีภูมคิ ุ้มกัน ในตวั ที่ดีหมายถึงการเตรียมตัวให้พร้อมกบั ผลกระทบและการเปลีย่ นแปลง
4. เง่อื นไข กล่าวคือ
4.1 เงือ่ นไขความรู้
4.2 เงอ่ื นไขคุณธรรมทีต่ ้องเสริมสร้าง
5. แนวทางปฏิบัติ/ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจ
พอเพียงมาประยกุ ต์ใช้ คือ การพัฒนาทีม่ ั่นคงและยง่ั ยืน
สรุป หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเป็นปรชั ญาการดารงชีวิตให้ดาเนินไป
ในทางสายกลาง เพื่อให้สมดุลพร้อมรองรับการเปล่ียนแปลงอยู่ได้อย่างมั่นคงและย่ังยืน ก้าว
ทนั ต่อยุคโลกาภิวัฒนท์ างด้าน วัตถุ เศรษฐกิจ สังคม และส่งิ แวดล้อม
2.4 การขบั เคลือ่ นปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงสู่สถานศึกษา 2.6 การจัดการศึกษาตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
การขับเคลอ่ื นปรชั ญาแห่งเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษานั้น มีดังนี้ ปรียานุช พิบูลสราวุธ กล่าวว่า เป้าหมายสาคัญของการจัดการศึกษา
ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คือการปลูกฝังให้เด็กและ
2.4.1 วตั ถปุ ระสงค์ เพือ่ ให้สถานศึกษานาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เยาวชนรู้จักการใช้ชีวิตทีพ่ อเพียง เห็นคณุ ค่าของทรพั ยากรต่าง ๆ
มาประยกุ ต์ใช้ในการจดั การเรียน การสอน การจัดกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น และการบริหารจดั การ
สถานศึกษา -
“”
2.4.2 วิสัยทศั น์ กระทรวงศกึ ษาธิการมุ่งพัฒนาสถานศึกษาในการนาหลกั . 3.1
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงไปจดั การศึกษาอย่างมปี ระสิทธภิ าพและประสิทธผิ ล
.
2.4.3 เป้าหมาย ระยะที่ 1 ปี 2550 กาหนดให้ในสถานศึกษาที่สามารถเปน็
แบบอย่างในการจดั กระบวนการเรียนการสอนและการบริหารจัดการตามหลกั ปรชั ญาของ /
เศรษฐกิจพอเพียง ระยะที่ 2 ปี 2551 - 2552 พัฒนาและขยายเครอื ข่ายสถานศึกษาทีเ่ ปน็
แบบอย่างในการจดั กระบวนการเรียนการสอน และการบริหารจดั การตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงทุกจังหวดั
2.5. ยุทธศาสตร์และแนวทางการขบั เคล่อื น
ยทุ ธศาสตร์ที่ 1 การพฒั นาแนวทางการจดั การศึกษาตามปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง
ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพฒั นาบุคลากร
ยุทธศาสตร์ที่ 3 การขยายผลและพัฒนาเครอื ขา่ ย
ยทุ ธศาสตร์ที่ 4 การเผยแพร่ประชาสมั พันธ์
ยทุ ธศาสตร์ที่ 5 การพัฒนากระบวนการติดตามและการประเมินผล
แนวทางการขบั เคลอ่ื น
จากภาพ จะเหน็ ได้ว่าในนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ 3. แนวคิดในการจัดการศึกษาเพอ่ื พฒั นาสู่ศตวรรษ 21
ในสถานศึกษานั้น แนวทางที่สาคญั ลาดบั แรก ซึ่งเป็นเสมอื นร่มใหญใ่ นการดาเนินการของ
สถานศึกษา การจดั การศึกษาในยุคเศรษฐกิจฐานความรู้ ซึง่ มกี ารเปล่ยี นแปลงทั้งแนวคิด
ความรู้กระบวนการเข้าสู่ความรู้ เทคโนโลยี ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสังคมและ
นอกจากนั้นผู้บริหารสถานศึกษาจาเป็นต้องเรียนรู้หลักการทรงงานใน ประชาชน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั และนาหลักการทรงงานมาปรับใช้ในการบรหิ าร
3.1 เป้าหมายของการศึกษาในศตวรรษที่ 21
สาหรับด้านการเรียนการสอน หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 ได้
กาหนดจุดมุ่งหมายไว้ข้อที่หนึ่ง “ว่ามุ่งพัฒนาผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่ ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นยุคเศรษฐกิจฐานความรู้ยุคที่มี
พึงประสงค์ เหน็ คณุ ค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี บทบาทของการศึกษาจึงเปล่ยี นแปลงไป
หรือศาสนาที่ตนนับถือยดึ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง”
3.2 กรอบแนวคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
ในด้านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนน้ัน เป็นกิจกรรมที่จะเข้ามาช่วยเสริมให้
ผู้เรียนเกิดคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการจัด อธิบายถึงทักษะที่สาคัญ ซึ่งได้แก่ ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม
กิจกรรมควรมีการวางแผนอยา่ งรอบคอบเพื่อลดความเส่ยี งต่าง ๆ ทีอ่ าจจะเกิดขนึ้ ความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว ความเป็นผู้นาและทักษะการเรียนรู้ทาง
วัฒนธรรม ซึง่ ล้วนจาเปน็ สาหรบั ผู้เรยี นทกุ คน
3.3 การทากรอบแนวความคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ไปปฏิบตั ิ
เจย์แม็คไทและเอลเลียต ซีฟ ได้สรุปสาระสาคัญในการนากรอบ
ความคิดไปปฏิบัติในการเรียนการสอนเพื่อสร้างทักษะแห่งศตวรรษใหม่ให้กับนักเรียน
ประกอบดว้ ยองค์ประกอบดงั นี้
1) พนั ธกิจดา้ นการสอน 2) หลักการเรียนรู้ 3) หลกั สูตร
4) ระบบการประเมินค่า 5) การสอน 6) ปจั จัยสนับสนนุ
จากภาพ จะเหน็ ได้ว่าในนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ 3. แนวคิดในการจัดการศึกษาเพอ่ื พฒั นาสู่ศตวรรษ 21
ในสถานศึกษานั้น แนวทางที่สาคญั ลาดบั แรก ซึ่งเป็นเสมอื นร่มใหญใ่ นการดาเนินการของ
สถานศึกษา การจดั การศึกษาในยุคเศรษฐกิจฐานความรู้ ซึง่ มกี ารเปล่ยี นแปลงทั้งแนวคิด
ความรู้กระบวนการเข้าสู่ความรู้ เทคโนโลยี ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสังคมและ
นอกจากนั้นผู้บริหารสถานศึกษาจาเป็นต้องเรียนรู้หลักการทรงงานใน ประชาชน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั และนาหลักการทรงงานมาปรับใช้ในการบรหิ าร
3.1 เป้าหมายของการศึกษาในศตวรรษที่ 21
สาหรับด้านการเรียนการสอน หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 ได้
กาหนดจุดมุ่งหมายไว้ข้อที่หนึ่ง “ว่ามุ่งพัฒนาผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่ ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นยุคเศรษฐกิจฐานความรู้ยุคที่มี
พึงประสงค์ เหน็ คณุ ค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี บทบาทของการศึกษาจึงเปล่ยี นแปลงไป
หรือศาสนาที่ตนนับถือยดึ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง”
3.2 กรอบแนวคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
ในด้านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนน้ัน เป็นกิจกรรมที่จะเข้ามาช่วยเสริมให้
ผู้เรียนเกิดคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการจัด อธิบายถึงทักษะที่สาคัญ ซึ่งได้แก่ ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม
กิจกรรมควรมีการวางแผนอยา่ งรอบคอบเพื่อลดความเส่ยี งต่าง ๆ ทีอ่ าจจะเกิดขนึ้ ความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว ความเป็นผู้นาและทักษะการเรียนรู้ทาง
วัฒนธรรม ซึง่ ล้วนจาเปน็ สาหรบั ผู้เรยี นทกุ คน
3.3 การทากรอบแนวความคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ไปปฏิบตั ิ
เจย์แม็คไทและเอลเลียต ซีฟ ได้สรุปสาระสาคัญในการนากรอบ
ความคิดไปปฏิบัติในการเรียนการสอนเพื่อสร้างทักษะแห่งศตวรรษใหม่ให้กับนักเรียน
ประกอบดว้ ยองค์ประกอบดงั นี้
1) พนั ธกิจดา้ นการสอน 2) หลักการเรียนรู้ 3) หลกั สูตร
4) ระบบการประเมินค่า 5) การสอน 6) ปจั จัยสนับสนนุ
4. แนวคิดในการจดั การศึกษาส่ปู ระชาคมอาเซียน 4.2 การก่อตงั้ ประชาคมอาเซียน
อาเซียนหรือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ (Association of อาเซียนเปน็ ภมู ภิ าคทีม่ ีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกจิ อยา่ งรวดเรว็ เปน็
South East Asian Nations หรือ ASEAN) ก่อตงั้ ขนึ้ โดย ปฏิญญากรงุ เทพ เมื่อวันที่ 8 ตวั อย่างของการรวตวั ของกลุ่มประเทศต่อรองในเวทีการเมืองและเศรษฐกิจระหว่าง
สงิ หาคม 2510 โดยสมาชิกผกู้ ่อตงั้ จานวน 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ประเทศ มีความก้าวหน้าของอาเซียนมีปัจจัยสาคญั ความไว้ใจระหว่างรัฐสมาชิกอัน
สงิ คโปร์ และไทย ต่อมาได้มสี มาชิกเพิม่ เตมิ ได้แก่ บรูไน เวียดนาม ลาว พม่า และ ก่อให้เกิดบรรยากาศที่สร้างสรรค์และเออื้ ต่อความร่วมมือกนั
กมั พูชา เปน็ สมาชกิ อาเซียนครบ 10 ประเทศในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้
ประชาคมอาเซียนประกอบดว้ ยความรว่ มมือ 3 เสาหลัก คือ
4.1 วตั ถปุ ระสงค์ของการกอ่ ต้ังอาเซียนตามปฏิญญากรงุ เทพ การ
กอ่ ต้ังอาเซียนตามปฏิญญากรุงเทพ มีดังนี้ 1. ประชาคมการเมืองความม่ันคงอาเซียน
1. สง่ เสริมความรว่ มมือและความชว่ ยเหลอื ซึง่ กนั และกนั ในทาง 2. ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียน
เศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรมเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และการบรหิ าร
3. ประชาคมสังคมและวฒั นธรรมอาเซียน
2. สง่ เสริมสนั ติภาพและความมัน่ คงส่วนภมู ิภาค
สรุป
3. เสริมสร้างความรงุ่ เรืองทางเศรษฐกิจพัฒนาการความวฒั นธรรมใน
ปรัชญาการศึกษาเป็นแนวความคิด หลักการ ในการกาหนดแนวทางการจัด
ภูมิภาค การศึกษาเพือ่ ให้บรรลุจุดมุ่งหมายของการศึกษา ปรชั ญาการศึกษามีคุณค่าต่อการศึกษา
คือช่วยให้เกิดความเข้าใจแนวคิดและกิจกรรมทางการศึกษา ขจัดความไม่สอดคล้องใน
4. สง่ เสริมให้ประชาชนในอาเซียนมีความเป็นอยแู่ ละคุณภาพชีวิตทีด่ ี ประเดน็ ต่าง ๆ ช่วยในการวางรปู แบบและเสนอแนวทางใหม่การจัดการศึกษา บทบาทของ
ปรัชญาการศึกษาต่อการจัดการศึกษา ได้แก่ การพรรณนาาและคาดคะเน การกาหนด
5. ให้ความชว่ ยเหลอื ซึ่งกันและกันในรูปของการฝึกอบรมและการวิจยั รูปแบบหรือมาตรฐาน และการวิเคราะห์ สาหรับแนวทางการศึกษาปรัชญาการศึกษามีอยู่
และสง่ เสริมด้านการศึกษา 3 แนวทางคือ การศึกษาที่ยึดเนื้อหาทางปรัชญาท่ัวไปเป็นแม่บท การศึกษาที่ยืดตัวการ
ศึกษาเป็นแกนกลาง และการศึกษาทีม่ ุ่งหาความกระจ่างในแนวคิดและกิจกรรมการศึกษา
6. เพิม่ ประสทิ ธิภาพของการเกษตรกรและอุตสาหกรรมการขยายการค้า
ตลอดจนปรับปรงุ การขนสง่ และการคมนาคม
7. เสริมสร้างความรว่ มมืออาเซียนกบั ประเทศภายนอกองค์การความ
ร่วมมือภมู ิภาคอื่นๆ