พิธีไหว้ครู ซึ่งการจัดพิธีไหว้ครูนั้นเป็นการแสดงความ เคารพครูอย่างหนึ่ง มักจะถูกจัดขึ้นในช่วง เดือนมิถุนายน ของทุกปี แต ่โดยส ่วนใหญ ่จะเป็นวันพฤหัสบดีแรกของ ภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษานั้นๆ ให้เป็นวันไหว้ครู ซึ่งตามสถาบันการศึกษาต่างๆ จะกำหนดให้พิธีไหว้ครูจัดขึ้น ในวันพฤหัสบดี ส ่วนจะเป็นพฤหัสบดีที่เท ่าไรของเดือน ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละสถาบันไม่มีข้อจำกัด
วันไหว้ครู นับเป็นวันที่ศิษย์จะได้แสดงถึงคุณธรรมภายในจิตใจ คำว่า “ไหว้ครู” ถึงแม้ว่า จะเป็นถ้อยคำที่แสนธรรมดาสามัญที่ใครหลายๆ คนต่างเข้าใจกันดีอยู่ แต่จริงๆ แล้ว วันไหว้ครู คือวันที่บรรดาศิษย์ทั้งหลายจะได้แสดงความเคารพและสักการะต่อครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณ ตลอดจนผู้เสียสละชี้ทางและให้แสงสว่างแก่ศิษย์โดยไม่คำนึงถึงความยากลำบาก ซึ่งแนวความคิดวันไหว้ครูเกิดขึ้นในที่ประชุมครูทั่วประเทศเมื่อปี พ.ศ. 2499 จากคำปราศรัยของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ ในขณะนั้น ต่อมาได้มีการจัดงานวันครูขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2500
ถึงแม้ในทุกวันนี้เทคโยโลยีต่าง ๆ จะมีความเจริญก้าวหน้า มากขึ้น แต่คนไทยก็ยังคงให้ความสำคัญกับครูด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นสิ่งที่เกิดจากการสั่งสมความรู้ ประสบการณ์และการปฏิบัติจน เชี่ยวชาญที่อาจไม่สามารถถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือได้ ครูจึงเปรียบเสมือนพ่อและแม่ คนที่ 2 ของศิษย์ ผู้ที่ประสบความสำเร็จได้เป็นเพราะมีแม่เป็นผู้ให้กำเนิด มีครูเป็น ผู้ให้ความรู้ ความคิด สติปัญญา และชี้ทางสว่างให้กับชีวิต ประเพณีการไหว้ครู จึงยังสืบทอดต่อมาจนถึงปัจจุบัน
การไหว้ครูในสถานศึกษา ที่มีตั้งแต่ระดับอนุบาล ไปจนกระทั่ง ถึงระดับอุดมศึกษา มีพิธีทางศาสนา พิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ พิธีปฏิญาณตน การกล่าวคำระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ การแข่งขันประกวดพานไหว้ครู โดยให้นักเรียนได้แสดง ความคิดสร้างสรรค์และใช้ดอกไม้ที่สัญลักษณ์ของวันไหว้ครูมา ประดับตกแต่งให้เกิดความสวยตามสมัยนิยม ที่ประกอบไปด้วย ดอกมะเขือ หญ้าแพรก ข้าวตอก ดอกเข็ม
พานในวันไหว้ครู มักจะประกอบไปด้วย ธูป เทียน และดอกไม้ ซึ่งดอกไม้ ที่ขาดไม่ได้ใน พานไหว้ครู คือ ดอกเข็ม หญ้าแพรก ดอกมะเขือ ข้าวตอก ดอกเข็มนั้นมีปลายแหลม สติปัญญาจะได้แหลมคมเหมือน ดอกเข็ม เกสรดอกเข็มมีรสหวาน วิชาความรู้จะให้ประโยชน์ กับชีวิต ทำให้ชีวิตมีความสดชื่นเหมือนรสหวานของดอกเข็ม เป็นหญ้าที่เจริญงอกงาม แพร่กระจายพันธ์ ไปได้อย่าง รวดเร็วมาก สติปัญญาจะเจริญงอกงามเหมือนหญ้าแพรก เป็นดอกที่โน้มต ่าลงมาเสมอ ไม่ได้เป็นดอกที่ชูขึ้น เพื่อศิษย์ จะได้อ่อนน้อมถ่อมตนพร้อมที่จะเรียนวิชาความรู้ต่างๆ นอกจากนี้มะเขือยังมีเมล็ดมาก ไปงอกงามได้ง่ายในทุกที่ เป็นสัญลักษณ์ของความมีระเบียบวินัย ใครก็ตามหากไม่ สามารถควบคุมตัวเองได้ บุคคลนั้นก็จะเป็นเหมือนข้าวเปลือก ที่ถูกคั่ว แต่ไม่มีโอกาสได้เป็นข้าวตอก