วิจัยในชั้นเรียน

45 ร่างกายจะมีการเคลื่อนที่ ที่มีความคล่องแคล่วว่องไวนั้น ต้องอาศัยหลักการฝึกความคล่องแคล่วว่องไว โดยการฝึกความคล่องแคล่วนั้นจะคล้ายคลึงกับการฝึกความเร็ว ซึ่งนักกีฬาและผู้ฝึกสอน จะต้อง พยายามพัฒนาทักษะกีฬาและเทคนิคควบคู่ไปด้วยกัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาความคล่องแคล่ว ในการ เคลื่อนไหวขณะปฏิบัติทักษะ จะต้องเริ่มจากการปฏิบัติด้วยรูปแบบที่ง่ายๆไม่ซับซ้อนและ ใช้ปฏิบัติ ด้วยความเร็วจากช้าไปสู่ความเร็วสูงสุด และจะต้องเน้นจะต้องมีความถูกต้องและสมบูรณ์ก่อน ความเร็วในการปฏิบัติและไม่เกิดอาการเกร็งกล้ามเนื้อหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายในขณะที่ ปฏิบัติด้วยความเร็วสูงสุด เป็นการฝึกที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทที่สั่งการเคลื่อนไหว ดังนั้นการฝึก ความคล่องแคล่วจึงได้รับการฝึกเป็นอันดับต้น ๆ ของการฝึกในแต่ละวัน หรือในสภาวะที่ ร่างกายไม่มี อาการเหน็ดเหนื่อย ช่วงเวลาพักระหว่างเที่ยวระหว่างเซต ควรเปิดโอกาสให้ร่างกายได้มีเวลาพักมาก พอหรือ นานพอที่จะทำให้นักกีฬารู้สึกหายเหนื่อย หรือประมาณ 2-3 นาทีการปฏิบัติช้าในการฝึก ความคล่องแคล่ว จะไม่มีการปฏิบัติซำจำนวนมากๆ เพราะว่าอาจจะทำให้ร่างกายเกิดความล้าสะสม และทำให้การปฏิบัติไม่ได้เต็มความสามารถของแต่ละคน ซึ่งสอดคล้องกับ เจริญ กระบวนรัตน์ (2557) ที่ได้กล่าวว่า การพัฒนาการประสานงานการเคลื่อนไหว เป็นสิ่งที่มีความสำคัญและจำเป็น สำหรับนักกีฬาเกือบทุกประเภท และสามารถฝึกหรือพัฒนาให้ดีขึ้นได้ การสอนหรือฝึกให้เด็กได้มี โอกาสเรียนรู้พื้นฐานของการประสานงานเบื้องต้น อย่างถูกต้องเป็นลำดับเป็นขั้นตอนจึงมีความ จำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อจะนำไปสู่การพัฒนาทักษะกลไกการเคลื่อนไหว และการประสานงาน การเคลื่อนไหวเฉพาะประเภทกีฬาต่อไป ดังนั้นเมื่อนักเรียนนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้าน หมากแข้งได้ ฝึกแบบฝึกตาราง 9 ช่อง ตามหลักการในการฝึกความคล่องแคล่วว่องไว จึงส่งผลทำให้มี ความคล่องแคล่วว่องไวที่ดีขึ้น ข้อเสนอแนะ 1. ข้อเสนอแนะจากผลวิจัย 1.1. ควรมีการอธิบาย หรือสาธิต ท่าทางในการฝึกปฏิบัติและประโยชน์ของการฝึก เพื่อให้ผู้ ที่เข้ารับการฝึก ได้ฝึกปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง ตรงจุด และปลอดภัยในการฝึกปฏิบัติ 1.2. ควรมีการควบคุมการฝึกให้เป็นไปตามขั้นตอนของแบบฝึกอย่างเคร่งครัด เพราะอาจะ ทำให้ไม่ได้ผลตามที่ต้องการ หรืออาจทำให้ผู้เข้ารับการฝึกได้รับบาดเจ็บ 1.3. สามารถนำแบบฝึกตารางเก้าช่องที่มีผลต่อความคล่องแคล่วว่องไวไปพัฒนาต่อยอด เช่น กำหนดช่วงวัย เพศ ระยะเวลาในการฝึก และท่าฝึก ตามความเหมาะสมได้ 1.4. สามารถนำแบบฝึกตารางเก้าช่องที่มีผลต่อความคล่องแคล่วว่องไวไปใช้ในการฝึก นักกีฬาต่างๆ ได้ เพื่อให้ร่างกายมีพัฒนาการทางด้านความคล่องแคล่วว่องไวในการเล่นกีฬา 2. ข้อเสนอแนะในการทำวิจัยต่อไป

46 2.1 ควรศึกษาวิธีการจัดทำแบบฝึกตารางเก้าช่องที่มีผลต่อความคล่องแคล่วว่องไว เพื่อให้ เหมาะสมและสอดคล้องกับกลุ่มตัวอย่าง ที่จะทำการวิจัย 2.2 ควรศึกษาช่วงอายุ เพศ เพื่อให้ทราบว่าช่วงอายุใด เพศใด ที่ได้รับการฝึกตารางเก้า ช่องที่มีผลต่อความคล่องแคล่วว่องไว แล้วจะมีการพัฒนาด้านความคล่องแคล่วว่องไวได้ผลดี ที่สุด 2.3 ควรศึกษาท่าฝึกท่าปฏิบัติต่างๆ ให้ถูกต้องเหมาะสม ความยากง่ายในการฝึกปฏิบัติ และความปลอดภัยของท่าที่ใช้ในการฝึกปฏิบัติ ให้เป็นอย่างดี 2.4 หากมีการจัดทำแบบฝึกตารางเก้าช่องที่มีผลต่อความคล่องแคล่วว่องไวขึ้นใหม่ ควรมี การนำไปทดลองใช้กับกลุ่มทดลองก่อนเสมอ ว่าได้ผลอย่างไร แล้วจึงนำมาปรับแก้ไข ก่อน นำไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง รายการอ้างอิง กิตติภูมิ บริสุทธิ์. (2555). ผลของการฝึกความคล่องแคล่วว่องไวต่อการทดสอบตาราง 9 ช่อง ในตัว นักกีฬาเทเบิลเทนนิส (วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต). เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. เจริญ กระบวนรัตน์. (2550). ประโยชน์ของการออกกำลังกายด้วยยาง: การทดสอบสมรรถภาพทาง กายและการแนะนำ วิธีการสร้างเสริมสุขภาพ "ยางยืด ยืดชีวิต". ใน: นิทรรศการงานวิจัย บน เส้นทางงานวิจัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ปี 2550 งานเกษตรแฟร์ประจำปี 2550. ม.ป.ท. เจริญ กระบวนรัตน์. (2552). การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ. กรุงเทพฯ : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. เจริญ กระบวนรัตน์. (2557). วิทยาศาสตร์การฝึกสอนกีฬา.กรุงเทพฯ: สินธนาก๊อปปี้เซ็นเตอร์. จตุรงค์ เหมรา. (2560). หลักการและการปฏิบัติการทดสอบสมรรถภาพทางกาย. พิมพ์ครั้งที่ 1. ลำปาง : บรรณกิจพริ้นติ้ง. ชารี จันสุพรม. (2556). ผลของการฝึกด้วยแรงต้านและการเคลื่อนที่แบบเฉพาะเจาะจงที่มีต่อพลัง กล้ามเนื้อและความคล่องแคล่วว่องไวในนักกีฬาแบดมินตัน ปลาย (วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร์ มหาบัณฑิต). กรุงเทพ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. ช่อพุทธรักษา หมายบุญ. (2559). ผลของการฝึกรูปแบบตารางเก้าช่องที่มีต่อความคล่องแคล่วว่องไว ของนักกีฬาเนตบอลหญิง ทีมโรงเรียนกัลยาณวัตร. วารสารศึกษาศาสตร์ฉบับวิจัย บัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ถาวร กมุทศรี. (2560). การสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย Phisical Fitness Conditioning. พิมพ์ ครั้งที่ 1. กรุงเทพ : วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬามหาวิทยาลัยมหิดล.

47 ถาวร กมุทศรี. (2562). การพัฒนาเกณฑ์สมรรถภาพทางกายนักกีฬามหาวิทยาลัยไทย. วารสาร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา 19(1), 79-83 ธนากาญจน์ เสถียรพูนสุข. (2561). การพัฒนาแบบทดสอบความคล่องแคล่วว่องไวบนพื้นทราย สำหรับนักกีฬาแฮนด์บอลชายหาด (วิทยานิพนธ์วิทยาศาตร์มหาบัณฑิต). ชลบุรี : มหาวิทยาลัยบูรพา. นภสร นีละไพจิตร. (2549). ผลการฝึกการทำงานของเท้าโดยใช้ตารางเก้าช่องที่มีขนาดต่างกันต่าง ความเร็วในการวิ่งระยะทาง25 เมตร. (วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต) กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. นฤเดช วีระสุข. (2563). ผลของการฝึกตาราง 9 ช่องที่มีต่อความคล่องแคล่วว่องไวของนักศึกษา ชมรมกีฬาดาบไทย สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตสุพรรณบุร. (วิทยานิพนธ์ปริญญา ศึกษาศาสตร์มหาบันทิฑ). สุพรรณบุรี : มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ. นรินทรา จันทศร. (2562). การพัฒนาความคล่องแคล่วว่องไวด้วยการฝึกพลัยโอเมตริก Agility Development by Plyometric Trining (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต). กรุงเทพ : มหาวิทยาลัยศิลปากร. พชรพล บุญเรือง. (2562). การศึกษาผลผลการฝึกการวิ่งรูปแบบตัว Z และตัว S ที่มีผลต่อความ คล่องแคล่วว่องไวของนักกีฬาฟุตบอล (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพ : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. มติชน ออนไลน์. (2563). ตาราง 9 ช่อง’วิธีฝึกเพิ่มความสมบูรณ์แบบของการออกกำลังทุกเพศทุกวัย. สืบค้นเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2565. จาก https://www.matichon.co.th/sportวรศักดิ์ เพียรชอบ. (2548). รวมบทความเกี่ยวกับปรัชญา หลักการ วิธีสอนและการวัดเพื่อประเมินผล ทางพลศึกษา. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. วัชรินทร์ เลิศนอก. (2560). ผลของการฝึกตารางเก้าช่องที่มีต่อทักษะการเคลื่อนไหวพื้นฐานของ นักเรียนกลุ่มบกพร่องทางการเรียนรู้. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต).สุพรรณบุรี : สถาบันการพลศึกษา. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2560) พัฒนาร่างกายและจิตใจ ผ่านเกมตาราง 9 ช่อง. สืบค้นเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2565. จาก https://www.thaihealth.or.th/?p=230271 สนธยา สีละมาด. (2555). หลักการฝึกกีฬาสำหรับผู้ฝึกสอนกีฬา. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่ง มหาวิทยาลัย. สุวัตร หลวงตระกูล. (2550). คู่มือรวมบทความสรีรวิทยาและการฝึกซ้อม. กรุงเทพฯ: การกีฬาแห่ง ประเทศไทย. สุรศักดิ์ เกิดจันทึก. (2560). แบบฝึกความเร็ว ความแคล่วคล่องว่องไว ความรวดเร็ว. กรุงเทพฯ :

48 การกีฬาแห่งประเทศไทย. สุรชัย แช่ด่าน. (2559). ผลการฝึกโดยใช้ตารางเก้าช่องและบันไดลิงที่มีต่อความคล่องตัวในนักกีฬากา บัดดี้. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต). สงขลา : มหาวิทยาลัยทักษิณ. สมพร ส่งตระกูล. (2564). ผลของการฝึกตารางใยแมงมุมและการฝึกตารางเก้าช่องที่มีต่อความ แข็งแรงของกล้ามเนื้อความคล่องแคล่วว่องไวและความเร็วของนักกีฬาวอลเลย์บอล. วารสาร สมาคมสุขศึกษา พลศึกษา และสันทนาการแห่งประเทศไทย คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2560). การทดสอบ สมรรถภาพทางกายภาคสนามกีฬาฟุตบอล-ฟุตซอล วอลเลย์บอล แบตมินตั้น. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร : บริษัท กู๊ดอีฟนิ่ง ติงค์ จำกัด. หงส์ทอง บัวทอง. (2559). ผลของการใช้โปแกรมฝึกความคล่องแคล่วร่วมกับการเพิ่มความหนักของ งานต่อความคล่องแคล่วและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาของนักกีฬาวอลเลย์บอลชาย (วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต). ชลบุรี : มหาวิทยาลัยบูรพา. อารีย์ อินสุวรรโณ. (2560). ผลของการใช้โปรแกรมฝึกแบบผสมผสาน ที่มีผลต่อความคล่องแคล่ว ว่องไวของนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิง (วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต). สงขลา : มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อริญชย์ นิลสกุล. (2558). ผลการฝึกตารางเก้าช่องและ เอส เอ คิว ที่มีต่อเวลาปฏิกิริยา. (ปริญญา การศึกษามหาบัณฑิต). กรุงเทพ : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

49 ภาคผนวก

50 ภาคผนวก ก รายนามผู้เชี่ยวชาญ

51 รายนามผู้เชี่ยวชาญที่ตรวจงานวิจัยเรื่องผลของการฝึกโดยใช้แบบฝึกตาราง 9 ช่อง ที่มีผลต่อความคล่องแคล่ววองไวในการเรียนกีฬาแชร์บอล ของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่4 อาจารย์วันวิสา ป้อมประสิทธิ์ อาจารย์ประจำสาขาพลศึกษาและสุขศึกษคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี นายเจนณรงค์ พรมหลวง ครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านหมากแข้ง นายปานเพชร พรมพิมพ์ ครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านหมากแข้ง

52 ภาคผนวก ข เครื่องมือในการทดลอง

53 แบบฝึกตารางเก้าช่องที่มีผลต่อความคล่องแคล่วว่องไว แบบฝึกใช้ระยะเวลา 3 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 วัน ได้แก่ วันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ ใช้เวลาการ ฝึก 60 นาที โดยกำหนดเวลาการฝึกไว้ดังนี้ สัปดาห์ที่ 1 แบบฝึกตารางเก้าช่องฝึกความคล่องแคล่วว่องไว ระยะเวลา (นาที) วันพฤหัสบดี 1. อบอุ่นร่างกาย (Warm-up) 2. แบบฝึกตารางเก้าช่องฝึกความคล่องแคล่วว่องไว ท่าที่ 1 ก้าวชิด - ก้าวชิด 15 ครั้ง / 3 เซต ท่าที่ 2 แยกชิด 15 ครั้ง / 3 เซต 3. คลูดาวน์ (Cooldown) 5 50 5 สัปดาห์ที่ 2 แบบฝึกตารางเก้าช่องฝึกความคล่องแคล่วว่องไว ระยะเวลา (นาที) วันพฤหัสบดี 1. อบอุ่นร่างกาย (Warm-up) 2. แบบฝึกตารางเก้าช่องฝึกความคล่องแคล่วว่องไว ท่าที่ 3 เดินหน้า – ถอยหลัง 15 ครั้ง / 3 เซต ท่าที่ 4 ตัวอักษร V 15 ครั้ง / 3 เซต 3. คลูดาวน์ (Cooldown) 5 50 5 สัปดาห์ที่ 3 แบบฝึกตารางเก้าช่องฝึกความคล่องแคล่วว่องไว ระยะเวลา (นาที) วันพฤหัสบดี 1. อบอุ่นร่างกาย (Warm-up) 2. แบบฝึกตารางเก้าช่องฝึกความคล่องแคล่วว่องไว ท่าที่ 5 ตัวอักษร V (คว่ำ) 15 ครั้ง / 3 เซต ท่าที่ 6 รวม ตัวอักษร V (หงาย-คว่ำ) 15 ครั้ง / 3 เซต 3. คลูดาวน์ (Cooldown) 5 50 5 สัปดาห์ที่ 4 แบบฝึกตารางเก้าช่องฝึกความคล่องแคล่วว่องไว วันพฤหัสบดี 1. อบอุ่นร่างกาย (Warm-up) 2. แบบฝึกตารางเก้าช่องฝึกความคล่องแคล่วว่องไว ท่าที่ 5 ตัวอักษร V (คว่ำ) 15 ครั้ง / 3 เซต ท่าที่ 6 รวม ตัวอักษร V (หงาย-คว่ำ) 15 ครั้ง / 3 เซต 3. คลูดาวน์ (Cooldown) 5 50 5

54 แบบฝึกตาราง 9 ช่องที่มีผลต่อความคล่องแคล่ววองไวในการเรียนกีฬาแชร์บอล ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่4 วัตถุประสงค์ เกิดความคล่องแคล่วว่องไวในการเคลื่อนไหว อุปกรณ์ 1. นาฬิกาจับเวลา 2. ตารางเก้าช่อง ท่าที่ใช้ในการฝึก ท่าที่ 1 ก้าวชิด - ก้าวชิด ท่าที่ 2 แยกชิด ท่าที่ 3 เดินหน้า – ถอยหลัง ท่าที่ 4 ตัวอักษร V ท่าที่ 5 ตัวอักษร V (คว่ำ) ท่าที่ 6 รวม ตัวอักษร V (หงาย-คว่ำ)

55 ท่าที่ 1 ก้าวชิด – ก้าวชิด 1.วัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มความคล่องแคล่วว่องไวในการเคลื่อนที่ 2.อุปกรณ์ ตาราง 9 ช่อง 3.ขั้นตอนการฝึก ยืนท่าเตรียมโดยเท้าซ้ายและเท้าขวายืนบนช่องหมายเลข 3 ก้าวเท้าซ้ายไปช่องหมายเลข 1 และก้าวเท้าขวามาชิดกับเท้าซ้ายในช่องหมายเลข 1 ก้าวเท้าขวาไปช่องหมายเลข 3 และเก้าเท้าซ้าย มาชิดกับเท้าขวาในช่องหมายเลข 3 4.จำนวนครั้งในการฝึก 15 ครั้ง / 3 เซต

56 แบบประเมินคุณภาพโปรแกรมการฝึกด้วยตาราง 9 ช่อง คำชี้แจง ขอให้ท่านผู้เชี่ยวชาญได้กรุณาแสดงความคิดเห็นของท่านที่มีต่อโปรแกรมการฝึก ด้วยตาราง 9 ช่อง โดยใส่เครื่องหมาย ( / ) ลงในช่องความคิดเห็นของท่านพร้อมเขียนข้อเสนอแนะที่ เป็นประโยชน์ในการนำไปพิจารณาปรับปรุงต่อไป โปรแกรมการฝึกด้วยตาราง 9 ช่อง ท่าที่ 1 ก้าวชิด – ก้าวชิด รายการความคิดเห็น ความคิดเห็น เหมาะสม ข้อเสนอแนะ +1 ไม่แน่ใจ 0 ไม่เหมาะสม -1 1. วัตถุประสงค์มีความเหมาะสม / 2. ความเหมาะสมของลักษณะ ท่าทางการฝึกตารางเก้าช่อง / 3. ความเหมาะสมของวิธีการฝึก / 4. ความสอดคล้องเหมาะสมกับวัย ของผู้เรียน / 5. ความเหมาะสมกับความสนใจของ นักเรียน / 6. ความเหมาะสมของระยะเวลาใน การฝึก / 7. จำนวนเซต ในการฝึก /

57 ท่าที่ 2 แยกชิด 1.วัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มความคล่องแคล่วว่องไวในการเคลื่อนที่ 2.อุปกรณ์ ตาราง 9 ช่อง 3.ขั้นตอนการฝึก ยืนท่าเตรียมบนช่องหมายเลข 2 ก้าวเท้าซ้ายไปช่องหมายเลข 1 ก้าวเท้าขวาไปช่องหมายเลข 3 ก้าวเท้าซ้ายกลับมาช่องหมายเลข 2 และก้าวเท้าขวากลับมาช่องหมายเลข 2 4.จำนวนครั้งในการฝึก 15 ครั้ง / 3 เซต

58 แบบประเมินคุณภาพโปรแกรมการฝึกด้วยตาราง 9 ช่อง คำชี้แจง ขอให้ท่านผู้เชี่ยวชาญได้กรุณาแสดงความคิดเห็นของท่านที่มีต่อโปรแกรมการฝึก ด้วยตาราง 9 ช่อง โดยใส่เครื่องหมาย ( / ) ลงในช่องความคิดเห็นของท่านพร้อมเขียนข้อเสนอแนะที่ เป็นประโยชน์ในการนำไปพิจารณาปรับปรุงต่อไป โปรแกรมการฝึกด้วยตาราง 9 ช่อง ท่าที่ 2 แยกชิด รายการความคิดเห็น ความคิดเห็น เหมาะสม ข้อเสนอแนะ +1 ไม่แน่ใจ 0 ไม่เหมาะสม -1 1. วัตถุประสงค์มีความเหมาะสม / 2. ความเหมาะสมของลักษณะ ท่าทางการฝึกตารางเก้าช่อง / 3. ความเหมาะสมของวิธีการฝึก / 4. ความสอดคล้องเหมาะสมกับวัย ของผู้เรียน / 5. ความเหมาะสมกับความสนใจของ นักเรียน / 6. ความเหมาะสมของระยะเวลาใน การฝึก / 7. จำนวนเซต ในการฝึก /

59 ท่าที่ 3 เดินหน้า – ถอยหลัง 1.วัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มความคล่องแคล่วว่องไวในการเคลื่อนที่ 2.อุปกรณ์ ตาราง 9 ช่อง 3.ขั้นตอนการฝึก ด้วยการวางเท้าซ้ายที่ช่องหมายเลข 2 เท้าขวาอยู่ที่ช่องหมายเลข 3 จากนั้นก้าวเท้าซ้ายขึ้น ไปที่ช่องหมายเลข 5 ก้าวเท้าขวาขึ้นไปที่ช่องหมายเลข 6 ต่อด้วยก้าวเท้าซ้ายต่อไปที่ช่องหมายเลข 8 ก้าวขวาก้าวต่อไปที่ช่องหมายเลข 9 จากนั้นถอยเท้าซ้ายลงไปที่ช่องหมายเลข 5 ถอยเท้าขวาไปที่ช่อง หมายเลข 6 ถอยเท้าซ้ายลงไปที่ช่องหมายเลข 2 สุดท้ายถอยเท้าขวาลงไปที่ช่องหมายเลข 3 4.จำนวนครั้งในการฝึก 15 ครั้ง / 3 เซต

60 แบบประเมินคุณภาพโปรแกรมการฝึกด้วยตาราง 9 ช่อง คำชี้แจง ขอให้ท่านผู้เชี่ยวชาญได้กรุณาแสดงความคิดเห็นของท่านที่มีต่อโปรแกรมการฝึก ด้วยตาราง 9 ช่อง โดยใส่เครื่องหมาย ( / ) ลงในช่องความคิดเห็นของท่านพร้อมเขียนข้อเสนอแนะที่ เป็นประโยชน์ในการนำไปพิจารณาปรับปรุงต่อไป โปรแกรมการฝึกด้วยตาราง 9 ช่อง ท่าที่ 3 เดินหน้า – ถอยหลัง รายการความคิดเห็น ความคิดเห็น เหมาะสม ข้อเสนอแนะ +1 ไม่แน่ใจ 0 ไม่เหมาะสม -1 1. วัตถุประสงค์มีความเหมาะสม / 2. ความเหมาะสมของลักษณะ ท่าทางการฝึกตารางเก้าช่อง / 3. ความเหมาะสมของวิธีการฝึก / 4. ความสอดคล้องเหมาะสมกับวัย ของผู้เรียน / 5. ความเหมาะสมกับความสนใจของ นักเรียน / 6. ความเหมาะสมของระยะเวลาใน การฝึก / 7. จำนวนเซต ในการฝึก /

61 ท่าที่ 4 ตัวอักษร V 1.วัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มความคล่องแคล่วว่องไวในการเคลื่อนที่ 2.อุปกรณ์ ตาราง 9 ช่อง 3.ขั้นตอนการฝึก ท่าเตรียมยืนด้วยเท้าทั้งสองข้างอยู่ที่ช่องหมายเลข 2 เริ่มต้นด้วยก้าวเท้าซ้ายขึ้นไปที่ หมายเลข 7 ก้าวเท้าขวาขึ้นไปที่ช่องหมายเลข 9 ต่อด้วยก้าวเท้าซ้ายกลับมาที่ช่องหมายเลข 2 และ สุดท้ายก้าวเท้าขวากลับมาที่ช่องหมายเลข 2 4.จำนวนครั้งในการฝึก 15 ครั้ง / 3 เซต

62 แบบประเมินคุณภาพโปรแกรมการฝึกด้วยตาราง 9 ช่อง คำชี้แจง ขอให้ท่านผู้เชี่ยวชาญได้กรุณาแสดงความคิดเห็นของท่านที่มีต่อโปรแกรมการฝึก ด้วยตาราง 9 ช่อง โดยใส่เครื่องหมาย ( / ) ลงในช่องความคิดเห็นของท่านพร้อมเขียนข้อเสนอแนะที่ เป็นประโยชน์ในการนำไปพิจารณาปรับปรุงต่อไป โปรแกรมการฝึกด้วยตาราง 9 ช่อง ท่าที่ 4 ตัวอักษร V รายการความคิดเห็น ความคิดเห็น เหมาะสม ข้อเสนอแนะ +1 ไม่แน่ใจ 0 ไม่เหมาะสม -1 1. วัตถุประสงค์มีความเหมาะสม / 2. ความเหมาะสมของลักษณะ ท่าทางการฝึกตารางเก้าช่อง / 3. ความเหมาะสมของวิธีการฝึก / 4. ความสอดคล้องเหมาะสมกับวัย ของผู้เรียน / 5. ความเหมาะสมกับความสนใจของ นักเรียน / 6. ความเหมาะสมของระยะเวลาใน การฝึก / 7. จำนวนเซต ในการฝึก /

63 ท่าที่ 5 ตัวอักษร V (คว่ำ) 1.วัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มความคล่องแคล่วว่องไวในการเคลื่อนที่ 2.อุปกรณ์ ตาราง 9 ช่อง 3.ขั้นตอนการฝึก ท่าเตรียมยืนด้วยเท้าทั้งสองข้างอยู่ที่ช่องหมายเลข 8 เริ่มต้นด้วยก้าวเท้าซ้ายขึ้นไปที่ หมายเลข 1 ก้าวเท้าขวาขึ้นไปที่ช่องหมายเลข 3 ต่อด้วยก้าวเท้าซ้ายกลับมาที่ช่องหมายเลข 8 และ สุดท้ายก้าวเท้าขวากลับมาที่ช่องหมายเลข 8 4.จำนวนครั้งในการฝึก 15 ครั้ง / 3 เซต

64 แบบประเมินคุณภาพโปรแกรมการฝึกด้วยตาราง 9 ช่อง คำชี้แจง ขอให้ท่านผู้เชี่ยวชาญได้กรุณาแสดงความคิดเห็นของท่านที่มีต่อโปรแกรมการฝึก ด้วยตาราง 9 ช่อง โดยใส่เครื่องหมาย ( / ) ลงในช่องความคิดเห็นของท่านพร้อมเขียนข้อเสนอแนะที่ เป็นประโยชน์ในการนำไปพิจารณาปรับปรุงต่อไป โปรแกรมการฝึกด้วยตาราง 9 ช่อง ท่าที่ 5 ตัวอักษร V (คว่ำ) รายการความคิดเห็น ความคิดเห็น เหมาะสม ข้อเสนอแนะ +1 ไม่แน่ใจ 0 ไม่เหมาะสม -1 1. วัตถุประสงค์มีความเหมาะสม / 2. ความเหมาะสมของลักษณะ ท่าทางการฝึกตารางเก้าช่อง / 3. ความเหมาะสมของวิธีการฝึก / 4. ความสอดคล้องเหมาะสมกับวัย ของผู้เรียน / 5. ความเหมาะสมกับความสนใจของ นักเรียน / 6. ความเหมาะสมของระยะเวลาใน การฝึก / 7. จำนวนเซต ในการฝึก /

65 ท่าที่ 6 รวม ตัวอักษร V (หงาย-คว่ำ) 1.วัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มความคล่องแคล่วว่องไวในการเคลื่อนที่ 2.อุปกรณ์ ตาราง 9 ช่อง 3.ขั้นตอนการฝึก ท่าเตรียมเท้าทั้งสองข้างอยู่ที่ช่องหมายเลข 5 ก้าวเท้าซ้ายไปช่องหมายเลข 7 ก้าวเท้าขวาไป ช่องหมายเลข 9 จากนั้นถอยเท้าซ้ายลงไปที่ช่องหมายเลข 5 ถอยเท้าขวาลงไปที่ช่องหมายเลข 5 จากนั้นถอยเท้าซ้ายลงไปที่ช่องหมายเลข 1 ถอยเท้าขวาลงไปที่ช่องหมายเลข 3 จากนั้นก้าวเท้าซ้าย ไปช่องหมายเลข 5 ก้าวเท้าขวาไปช่องหมายเลข 5 4.จำนวนครั้งในการฝึก 15 ครั้ง / 3 เซต

66 แบบประเมินคุณภาพโปรแกรมการฝึกด้วยตาราง 9 ช่อง คำชี้แจง ขอให้ท่านผู้เชี่ยวชาญได้กรุณาแสดงความคิดเห็นของท่านที่มีต่อโปรแกรมการฝึก ด้วยตาราง 9 ช่อง โดยใส่เครื่องหมาย ( / ) ลงในช่องความคิดเห็นของท่านพร้อมเขียนข้อเสนอแนะที่ เป็นประโยชน์ในการนำไปพิจารณาปรับปรุงต่อไป โปรแกรมการฝึกด้วยตาราง 9 ช่อง ท่าที่ 6 รวม ตัวอักษร V (หงาย-คว่ำ) รายการความคิดเห็น ความคิดเห็น เหมาะสม ข้อเสนอแนะ +1 ไม่แน่ใจ 0 ไม่เหมาะสม -1 1. วัตถุประสงค์มีความเหมาะสม / 2. ความเหมาะสมของลักษณะ ท่าทางการฝึกตารางเก้าช่อง / 3. ความเหมาะสมของวิธีการฝึก / 4. ความสอดคล้องเหมาะสมกับวัย ของผู้เรียน / 5. ความเหมาะสมกับความสนใจของ นักเรียน / 6. ความเหมาะสมของระยะเวลาใน การฝึก / 7. จำนวนเซต ในการฝึก /

67 แบบทดสอบความคล่องแคล่วว่องไว 1. ทดสอบวิ่งเก็บของ (shuttle run) อุปกรณ์ประกอบด้วย 1.1 นาฬิกาจับเวลาอย่างละเอียด 1/10 วินาที 1.2 ทางวิ่งเรียบระหว่างเส้นขนาน 2 เส้น ห่างกัน 10 เมตร ชิดด้านนอกของเส้นทั้ง สอง มีวงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร ถัดออกไปจากเส้นเริ่ม ควรมีทางให้วิ่งต่อไปได้อีก อย่างน้อย 5 เมตร 1.3 ท่อนไม้ 2 ท่อน (3x3x5 เซนติเมตร) วิธีการ วางท่อนไม้สองท่อนกลางวงในจุดที่กา หนดที่อยู่ชิดเส้นตรงข้ามเส้นเริ่ม ผู้เข้ารับการทดสอบยืนให้เท้าข้างใดข้างหนึ่งอยู่ที่่เส้นเริ่มเมื่อพร้อม แล้วผู้ปล่อยตัวสั่ง “ไป” ให้ผู้เข้ารับการทดสอบวิ่งไปหยิบท่อนไม้ท่อนหนึ่งในวงกลม วิ่งกลับมาวางใน วงกลมหลังเส้นเริ่ม แล้ววิ่ง กลับไปหยิบท่อนไม้อีกท่อนหนึ่งมาวางในวงกลมเดียวกัน ห้ามโยนท่อนไม้ ถ้าวางไม่เข้าในวงต้องเริ่มใหม่ ทดสอบ 2 ครั้ง ใช้เวลาที่ดีที่สุด เกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกายวิ่งเก็บของ (วินาที) ของนักเรียนชาย อายุ9-15 ปี รวมทั่วประเทศ ช่วงคะแนน (วินาที) คุณภาพ 10.85 ลงมา ดีมาก 10.86-11.34 ดี 11.35-12.33 พอใช้ 12.83ขึ้นไป ปรับปรุง เกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกายวิ่งเก็บของ (วินาที) ของนักเรียนหญิง อายุ9-15ปี รวมทั่วประเทศ ช่วงคะแนน (วินาที) คุณภาพ 12.24 ลงมา ดีมาก 12.25-12.79 ดี 12.80-13.90 พอใช้ 14.46ขึ้นไป ปรับปรุง

68 แบบประเมินคุณภาพแบบทดสอบความคล่องแคล่วว่องไว (ทดสอบวิ่งเก็บของ) คำชี้แจง ขอให้ท่านผู้เชี่ยวชาญได้กรุณาแสดงความคิดเห็นของท่านที่มีต่อแบบทดสอบความ คล่องแคล่วว่องไว โดยใส่เครื่องหมาย ( / ) ลงในช่องความคิดเห็นของท่านพร้อมเขียนข้อเสนอแนะที่ เป็นประโยชน์ในการนำไปพิจารณาปรับปรุงต่อไป รายการความคิดเห็น ความคิดเห็น เหมาะสม ข้อเสนอแนะ +1 ไม่แน่ใจ 0 ไม่ เหมาะสม -1 1. ท่าที่นำมาใช้ทดสอบมีความ เหมาะสม 2. วัตถุประสงค์ เพื่อทดสอบความ คล่องแคล่วว่องไว มีความเหมาะสม 3. ความสอดคล้องเหมาะสมกับวัย ของผู้เรียน 4. ความเหมาะสมกับความสนใจของ นักเรียน 5. อุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบมีความ เหมาะสม 6. ความเหมาะสมต่อ กระบวนการพัฒนาผู้เรียน 7.เกณฑ์การให้คะแนน

69 ภาคผนวก ค วิเคราะห์คุณภาพเครื่องมือ

70 ตารางตรวจสอบหาความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบฝึกตาราง 9 ช่อง ที่มีผลต่อความคล่องแคล่ววองไวในการเรียนกีฬาแชร์บอล ของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่4/3 รายการความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ (R) ผลรวม ของ คะแนน (∑R) ค่า IOC คน ข้อเสนอแนะ ที่ 1 คน ที่ 2 คน ที่ 3 1. วัตถุประสงค์มีความเหมาะสม 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 2. ความเหมาะสมของลักษณะ ท่าทางการฝึกตาราง 9 ช่อง 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 3. ความเหมาะสมของวิธีการฝึก 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 4. ความเหมาะสมในการบันทึกการ ฝึก 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 5. ความสอดคล้องเหมาะสมกับวัย ของผู้เรียน 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 6. ความเหมาะสมกับความสนใจของ นักเรียน 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 7.ความสอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน และปัญหา 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 8. ความเหมาะสมของระยะเวลาใน การฝึก 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 9. จำนวนเซต ในแต่ละสัปดาห์ 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 10. การอบอุ่นร่างกาย (Warm up) 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 11. การคลายอุ่นร่างกาย Cool down) 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้

71 ภาคผนวก ง แผนการจัดการเรียนรู้ (กีฬาแชร์บอล) โดยใช้แบบฝึกตาราง9 ที่มีผลต่อความคล่องแคล่ววองไวในการเรียนกีฬาแชร์บอล

72 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 20 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา เรื่อง กฎ กติกา และทักษะการเล่นกีฬาแชร์บอล เวลา 1 คาบ วันที่……......เดือน…………….พ.ศ……... มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา พ 3.2 รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมในสุนทรียภาพของ การกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ป.4/4 เล่นกีฬาพื้นฐานได้อย่างน้อย ๑ ชนิด พ 3.2 ป.4/1 ออกกำลังกาย เล่นเกม และกีฬาที่ตนเองชอบและมีความสามารถในการ วิเคราะห์ผลพัฒนาการของตนเองตามตัวอย่างและแบบปฏิบัติของผู้อื่น พ 3.2 ป.4/2 ปฏิบัติตามกฎ กติกาการเล่นกีฬาพื้นฐาน ตามชนิดกีฬาที่เล่น จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกกฎและกติกาการเล่นกีฬาแบบต่าง ๆ ได้ (K) 2. เล่นกีฬาที่ชื่นชอบอยู่เสมอ (P) 3. รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยในการเล่นกีฬา (A) 4. รับผิดชอบในหน้าที่ของตนในการเล่นกีฬาเป็นทีม (A) สาระสำคัญ กีฬา หมายถึง การเล่นในลักษณะของการแข่งขันที่มีกติกาการเล่นที่แน่นอน เช่น กีฬา แฮนด์บอล กีฬาห่วงยาง การวิ่ง และการกระโดดไกล ซึ่งนักเรียนควรได้เรียนรู้และสร้างเสริมทักษะ การเล่นกีฬาดังกล่าว เพื่อนำมาใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการเล่นกีฬาชนิดอื่น ๆ ต่อไป อีกทั้งการเล่นกีฬา ยังส่งเสริมความแข็งแรงและการเจริญเติบโตของร่างกาย สาระการเรียนรู้ กีฬาแฮนด์บอล : การวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอล

73 สมรรถนะ 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.ความสามารถในการใช้ทักษะการเคลื่อนไหว คุณลักษณะที่เน้น 1.มีวินัย 2.ใฝ่เรียนรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน 1. การวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอลได้ 2.ใบงาน กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 5 นาที 1. ให้นักเรียนอบอุ่นร่างกายด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 2. แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 8-10 คน ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาทักษะการรับ-ส่ง ลูกบอลในกีฬาแฮนด์บอล ในใบความรู้ เรื่อง การวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอล ขั้นสอน 10 นาที . ครูเลือกตัวแทนนักเรียน 1 กลุ่ม ออกมาสาธิตการวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอลเพื่อเป็น แบบอย่างให้กับนักเรียนกลุ่มอื่น ๆ ได้สังเกตและปฏิบัติตาม ซึ่งครูคอยแนะนำขั้นตอนวิธีการปฏิบัติที่ ถูกต้องให้กับนักเรียนด้วย ขั้นฝึกปฏิบัติ30 นาที ให้นักเรียนฝึกฝนทักษะการวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอลในกีฬาแชร์บอลกับ เพื่อน ๆ เพิ่มเติมนอกเวลาเรียน และทดสอบทักษะการเคลื่อนไหว ขั้นนำไปใช้5 นาที 1. ให้นักเรียนทำใบงาน เรื่อง การวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอล 2. ให้นักเรียนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) และทำความสะอาดร่างกาย ขั้นสรุป 5 นาที ให้นักเรียนร่วมกันสรุปสาระสำคัญที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรม

74 สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ลานอเนกประสงค์ โรงฝึกพลศึกษา 2. ลูกแชร์บอล กระบวนการวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์การประเมิน วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑฺ์การประเมิน ด้านทักษะ มีทักษะการวางแผนการ เล่นกีฬาแฮนด์บอล การทดสอบ แบบทดสอบ คะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยให้ คะแนนตามความเหมาะสมของ ครูผู้สอน ด้านคุณลักษณะ 1. มีความกระตือรือร้น 2. มีความรับผิดชอบ 3. มีความสนใจ 4. สนุกสนานเพลิดเพลิน 5. กล้าแสดงออก สังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก คะแนน 7-8 ระดับ ดี คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรุง

75 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 22 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา เรื่อง กฎ กติกา และทักษะการเล่นกีฬาแชร์บอล เวลา 1 คาบ วันที่……......เดือน…………….พ.ศ……... มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา พ 3.2 รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมในสุนทรียภาพของ การกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ป.4/4 เล่นกีฬาพื้นฐานได้อย่างน้อย ๑ ชนิด พ 3.2 ป.4/1 ออกกำลังกาย เล่นเกม และกีฬาที่ตนเองชอบและมีความสามารถในการ วิเคราะห์ผลพัฒนาการของตนเองตามตัวอย่างและแบบปฏิบัติของผู้อื่น พ 3.2 ป.4/2 ปฏิบัติตามกฎ กติกาการเล่นกีฬาพื้นฐาน ตามชนิดกีฬาที่เล่น จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกกฎและกติกาการเล่นกีฬาแบบต่าง ๆ ได้ (K) 2. เล่นกีฬาที่ชื่นชอบอยู่เสมอ (P) 3. รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยในการเล่นกีฬา (A) 4. รับผิดชอบในหน้าที่ของตนในการเล่นกีฬาเป็นทีม (A) สาระสำคัญ กีฬา หมายถึง การเล่นในลักษณะของการแข่งขันที่มีกติกาการเล่นที่แน่นอน เช่น กีฬา แฮนด์บอล กีฬาห่วงยาง การวิ่ง และการกระโดดไกล ซึ่งนักเรียนควรได้เรียนรู้และสร้างเสริมทักษะ การเล่นกีฬาดังกล่าว เพื่อนำมาใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการเล่นกีฬาชนิดอื่น ๆ ต่อไป อีกทั้งการเล่นกีฬา ยังส่งเสริมความแข็งแรงและการเจริญเติบโตของร่างกาย

76 สาระการเรียนรู้ กีฬาแฮนด์บอล : การวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอล สมรรถนะ 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.ความสามารถในการใช้ทักษะการเคลื่อนไหว คุณลักษณะที่เน้น 1.มีวินัย 2.ใฝ่เรียนรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน 1. การวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอลได้ 2.ใบงาน กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 5 นาที 1. ให้นักเรียนอบอุ่นร่างกายด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 2. แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 8-10 คน ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาทักษะการการ เคลื่อนไหวร่างกายในกีฬาแฮนด์บอล ขั้นสอน 10 นาที . ครูเลือกตัวแทนนักเรียน 1 กลุ่ม ออกมาสาธิตการการฝึกตาราง 9 ช่อง ท่าที่ 1 เพื่อเป็น แบบอย่างให้กับนักเรียนกลุ่มอื่น ๆ ได้สังเกตและปฏิบัติตาม ซึ่งครูคอยแนะนำขั้นตอนวิธีการปฏิบัติที่ ถูกต้องให้กับนักเรียนด้วย ขั้นฝึกปฏิบัติ30 นาที ให้นักเรียนฝึกฝนทักษะการเคลื่อนไหวในกีฬาแชร์บอลกับ เพื่อน ๆ เพิ่มเติมนอกเวลาเรียน และฝึกตาราง 9 ช่อง ท่าที่ 1 ขั้นนำไปใช้5 นาที 1. ให้นักเรียนฝึกตาราง 9 ช่องที่บ้านเพิ่มเติม 2. ให้นักเรียนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) และทำความสะอาดร่างกาย ขั้นสรุป 5 นาที ให้นักเรียนร่วมกันสรุปสาระสำคัญที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรม

77 สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ลานอเนกประสงค์ โรงฝึกพลศึกษา 2. ลูกแชร์บอล 3. ตาราง 9 ช่อง กระบวนการวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์การประเมิน วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑฺ์การประเมิน ด้านทักษะ มีทักษะการวางแผนการ เล่นกีฬาแฮนด์บอล การทดสอบ แบบทดสอบ คะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยให้ คะแนนตามความเหมาะสมของ ครูผู้สอน ด้านคุณลักษณะ 1. มีความกระตือรือร้น 2. มีความรับผิดชอบ 3. มีความสนใจ 4. สนุกสนานเพลิดเพลิน 5. กล้าแสดงออก สังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก คะแนน 7-8 ระดับ ดี คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรุง

78 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 23 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา เรื่อง กฎ กติกา และทักษะการเล่นกีฬาแชร์บอล เวลา 1 คาบ วันที่……......เดือน…………….พ.ศ……... มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา พ 3.2 รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมในสุนทรียภาพของ การกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ป.4/4 เล่นกีฬาพื้นฐานได้อย่างน้อย ๑ ชนิด พ 3.2 ป.4/1 ออกกำลังกาย เล่นเกม และกีฬาที่ตนเองชอบและมีความสามารถในการ วิเคราะห์ผลพัฒนาการของตนเองตามตัวอย่างและแบบปฏิบัติของผู้อื่น พ 3.2 ป.4/2 ปฏิบัติตามกฎ กติกาการเล่นกีฬาพื้นฐาน ตามชนิดกีฬาที่เล่น จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกกฎและกติกาการเล่นกีฬาแบบต่าง ๆ ได้ (K) 2. เล่นกีฬาที่ชื่นชอบอยู่เสมอ (P) 3. รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยในการเล่นกีฬา (A) 4. รับผิดชอบในหน้าที่ของตนในการเล่นกีฬาเป็นทีม (A) สาระสำคัญ กีฬา หมายถึง การเล่นในลักษณะของการแข่งขันที่มีกติกาการเล่นที่แน่นอน เช่น กีฬา แฮนด์บอล กีฬาห่วงยาง การวิ่ง และการกระโดดไกล ซึ่งนักเรียนควรได้เรียนรู้และสร้างเสริมทักษะ การเล่นกีฬาดังกล่าว เพื่อนำมาใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการเล่นกีฬาชนิดอื่น ๆ ต่อไป อีกทั้งการเล่นกีฬา ยังส่งเสริมความแข็งแรงและการเจริญเติบโตของร่างกาย

79 สาระการเรียนรู้ กีฬาแฮนด์บอล : การวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอล สมรรถนะ 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.ความสามารถในการใช้ทักษะการเคลื่อนไหว คุณลักษณะที่เน้น 1.มีวินัย 2.ใฝ่เรียนรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน 1. การวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอลได้ 2.ใบงาน กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 5 นาที 1. ให้นักเรียนอบอุ่นร่างกายด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 2. แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 8-10 คน ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาทักษะการการ เคลื่อนไหวร่างกายในกีฬาแฮนด์บอล ขั้นสอน 10 นาที . ครูเลือกตัวแทนนักเรียน 1 กลุ่ม ออกมาสาธิตการการฝึกตาราง 9 ช่อง ท่าที่ 2 เพื่อเป็น แบบอย่างให้กับนักเรียนกลุ่มอื่น ๆ ได้สังเกตและปฏิบัติตาม ซึ่งครูคอยแนะนำขั้นตอนวิธีการปฏิบัติที่ ถูกต้องให้กับนักเรียนด้วย ขั้นฝึกปฏิบัติ30 นาที ให้นักเรียนฝึกฝนทักษะการเคลื่อนไหวในกีฬาแชร์บอลกับ เพื่อน ๆ เพิ่มเติมนอกเวลาเรียน และฝึกตาราง 9 ช่อง ท่าที่ 2 ขั้นนำไปใช้5 นาที 1. ให้นักเรียนฝึกตาราง 9 ช่องที่บ้านเพิ่มเติม 2. ให้นักเรียนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) และทำความสะอาดร่างกาย ขั้นสรุป 5 นาที ให้นักเรียนร่วมกันสรุปสาระสำคัญที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรม

80 สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ลานอเนกประสงค์ โรงฝึกพลศึกษา 2. ลูกแชร์บอล 3. ตาราง 9 ช่อง กระบวนการวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์การประเมิน วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑฺ์การประเมิน ด้านทักษะ มีทักษะการวางแผนการ เล่นกีฬาแฮนด์บอล การทดสอบ แบบทดสอบ คะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยให้ คะแนนตามความเหมาะสมของ ครูผู้สอน ด้านคุณลักษณะ 1. มีความกระตือรือร้น 2. มีความรับผิดชอบ 3. มีความสนใจ 4. สนุกสนานเพลิดเพลิน 5. กล้าแสดงออก สังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก คะแนน 7-8 ระดับ ดี คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรุง

81 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 24 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา เรื่อง กฎ กติกา และทักษะการเล่นกีฬาแชร์บอล เวลา 1 คาบ วันที่……......เดือน…………….พ.ศ……... มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา พ 3.2 รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมในสุนทรียภาพของ การกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ป.4/4 เล่นกีฬาพื้นฐานได้อย่างน้อย ๑ ชนิด พ 3.2 ป.4/1 ออกกำลังกาย เล่นเกม และกีฬาที่ตนเองชอบและมีความสามารถในการ วิเคราะห์ผลพัฒนาการของตนเองตามตัวอย่างและแบบปฏิบัติของผู้อื่น พ 3.2 ป.4/2 ปฏิบัติตามกฎ กติกาการเล่นกีฬาพื้นฐาน ตามชนิดกีฬาที่เล่น จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกกฎและกติกาการเล่นกีฬาแบบต่าง ๆ ได้ (K) 2. เล่นกีฬาที่ชื่นชอบอยู่เสมอ (P) 3. รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยในการเล่นกีฬา (A) 4. รับผิดชอบในหน้าที่ของตนในการเล่นกีฬาเป็นทีม (A) สาระสำคัญ กีฬา หมายถึง การเล่นในลักษณะของการแข่งขันที่มีกติกาการเล่นที่แน่นอน เช่น กีฬา แฮนด์บอล กีฬาห่วงยาง การวิ่ง และการกระโดดไกล ซึ่งนักเรียนควรได้เรียนรู้และสร้างเสริมทักษะ การเล่นกีฬาดังกล่าว เพื่อนำมาใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการเล่นกีฬาชนิดอื่น ๆ ต่อไป อีกทั้งการเล่นกีฬา ยังส่งเสริมความแข็งแรงและการเจริญเติบโตของร่างกาย สาระการเรียนรู้ กีฬาแฮนด์บอล : การวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอล

82 สมรรถนะ 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.ความสามารถในการใช้ทักษะการเคลื่อนไหว คุณลักษณะที่เน้น 1.มีวินัย 2.ใฝ่เรียนรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน 1. การวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอลได้ 2.ใบงาน กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 5 นาที 1. ให้นักเรียนอบอุ่นร่างกายด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 2. แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 8-10 คน ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาทักษะการการ เคลื่อนไหวร่างกายในกีฬาแชร์บอล ขั้นสอน 10 นาที . ครูเลือกตัวแทนนักเรียน 1 กลุ่ม ออกมาสาธิตการการฝึกตาราง 9 ช่อง ท่าที่ 3 เพื่อเป็น แบบอย่างให้กับนักเรียนกลุ่มอื่น ๆ ได้สังเกตและปฏิบัติตาม ซึ่งครูคอยแนะนำขั้นตอนวิธีการปฏิบัติที่ ถูกต้องให้กับนักเรียนด้วย ขั้นฝึกปฏิบัติ30 นาที ให้นักเรียนฝึกฝนทักษะการเคลื่อนไหวในกีฬาแชร์บอลกับ เพื่อน ๆ เพิ่มเติมนอกเวลาเรียน และฝึกตาราง 9 ช่อง ท่าที่ 3 ขั้นนำไปใช้5 นาที 1. ให้นักเรียนฝึกตาราง 9 ช่องที่บ้านเพิ่มเติม 2. ให้นักเรียนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) และทำความสะอาดร่างกาย ขั้นสรุป 5 นาที ให้นักเรียนร่วมกันสรุปสาระสำคัญที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรม

83 สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ลานอเนกประสงค์ โรงฝึกพลศึกษา 2. ลูกแชร์บอล 3. ตาราง 9 ช่อง กระบวนการวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์การประเมิน วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑฺ์การประเมิน ด้านทักษะ มีทักษะการวางแผนการ เล่นกีฬาแฮนด์บอล การทดสอบ แบบทดสอบ คะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยให้ คะแนนตามความเหมาะสมของ ครูผู้สอน ด้านคุณลักษณะ 1. มีความกระตือรือร้น 2. มีความรับผิดชอบ 3. มีความสนใจ 4. สนุกสนานเพลิดเพลิน 5. กล้าแสดงออก สังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก คะแนน 7-8 ระดับ ดี คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรุง

84 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 25 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา เรื่อง กฎ กติกา และทักษะการเล่นกีฬาแชร์บอล เวลา 1 คาบ วันที่……......เดือน…………….พ.ศ……... มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา พ 3.2 รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมในสุนทรียภาพของ การกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ป.4/4 เล่นกีฬาพื้นฐานได้อย่างน้อย ๑ ชนิด พ 3.2 ป.4/1 ออกกำลังกาย เล่นเกม และกีฬาที่ตนเองชอบและมีความสามารถในการ วิเคราะห์ผลพัฒนาการของตนเองตามตัวอย่างและแบบปฏิบัติของผู้อื่น พ 3.2 ป.4/2 ปฏิบัติตามกฎ กติกาการเล่นกีฬาพื้นฐาน ตามชนิดกีฬาที่เล่น จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกกฎและกติกาการเล่นกีฬาแบบต่าง ๆ ได้ (K) 2. เล่นกีฬาที่ชื่นชอบอยู่เสมอ (P) 3. รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยในการเล่นกีฬา (A) 4. รับผิดชอบในหน้าที่ของตนในการเล่นกีฬาเป็นทีม (A) สาระสำคัญ กีฬา หมายถึง การเล่นในลักษณะของการแข่งขันที่มีกติกาการเล่นที่แน่นอน เช่น กีฬา แฮนด์บอล กีฬาห่วงยาง การวิ่ง และการกระโดดไกล ซึ่งนักเรียนควรได้เรียนรู้และสร้างเสริมทักษะ การเล่นกีฬาดังกล่าว เพื่อนำมาใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการเล่นกีฬาชนิดอื่น ๆ ต่อไป อีกทั้งการเล่นกีฬา ยังส่งเสริมความแข็งแรงและการเจริญเติบโตของร่างกาย สาระการเรียนรู้ กีฬาแฮนด์บอล : การวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอล

85 สมรรถนะ 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.ความสามารถในการใช้ทักษะการเคลื่อนไหว คุณลักษณะที่เน้น 1.มีวินัย 2.ใฝ่เรียนรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน 1. การวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอลได้ 2.ใบงาน กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 5 นาที 1. ให้นักเรียนอบอุ่นร่างกายด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 2. แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 8-10 คน ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาทักษะการการ เคลื่อนไหวร่างกายในกีฬาแชร์บอล ขั้นสอน 10 นาที . ครูเลือกตัวแทนนักเรียน 1 กลุ่ม ออกมาสาธิตการการฝึกตาราง 9 ช่อง ท่าที่ 4 เพื่อเป็น แบบอย่างให้กับนักเรียนกลุ่มอื่น ๆ ได้สังเกตและปฏิบัติตาม ซึ่งครูคอยแนะนำขั้นตอนวิธีการปฏิบัติที่ ถูกต้องให้กับนักเรียนด้วย ขั้นฝึกปฏิบัติ30 นาที ให้นักเรียนฝึกฝนทักษะการเคลื่อนไหวในกีฬาแชร์บอลกับ เพื่อน ๆ เพิ่มเติมนอกเวลาเรียน และฝึกตาราง 9 ช่อง ท่าที่ 4 ขั้นนำไปใช้5 นาที 1. ให้นักเรียนฝึกตาราง 9 ช่องที่บ้านเพิ่มเติม 2. ให้นักเรียนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) และทำความสะอาดร่างกาย ขั้นสรุป 5 นาที ให้นักเรียนร่วมกันสรุปสาระสำคัญที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรม

86 สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ลานอเนกประสงค์ โรงฝึกพลศึกษา 2. ลูกแชร์บอล 3. ตาราง 9 ช่อง กระบวนการวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์การประเมิน วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑฺ์การประเมิน ด้านทักษะ มีทักษะการวางแผนการ เล่นกีฬาแฮนด์บอล การทดสอบ แบบทดสอบ คะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยให้ คะแนนตามความเหมาะสมของ ครูผู้สอน ด้านคุณลักษณะ 1. มีความกระตือรือร้น 2. มีความรับผิดชอบ 3. มีความสนใจ 4. สนุกสนานเพลิดเพลิน 5. กล้าแสดงออก สังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก คะแนน 7-8 ระดับ ดี คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรุง

87 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 26 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา เรื่อง กฎ กติกา และทักษะการเล่นกีฬาแชร์บอล เวลา 1 คาบ วันที่……......เดือน…………….พ.ศ……... มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา พ 3.2 รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมในสุนทรียภาพของ การกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ป.4/4 เล่นกีฬาพื้นฐานได้อย่างน้อย ๑ ชนิด พ 3.2 ป.4/1 ออกกำลังกาย เล่นเกม และกีฬาที่ตนเองชอบและมีความสามารถในการ วิเคราะห์ผลพัฒนาการของตนเองตามตัวอย่างและแบบปฏิบัติของผู้อื่น พ 3.2 ป.4/2 ปฏิบัติตามกฎ กติกาการเล่นกีฬาพื้นฐาน ตามชนิดกีฬาที่เล่น จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกกฎและกติกาการเล่นกีฬาแบบต่าง ๆ ได้ (K) 2. เล่นกีฬาที่ชื่นชอบอยู่เสมอ (P) 3. รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยในการเล่นกีฬา (A) 4. รับผิดชอบในหน้าที่ของตนในการเล่นกีฬาเป็นทีม (A) สาระสำคัญ กีฬา หมายถึง การเล่นในลักษณะของการแข่งขันที่มีกติกาการเล่นที่แน่นอน เช่น กีฬา แฮนด์บอล กีฬาห่วงยาง การวิ่ง และการกระโดดไกล ซึ่งนักเรียนควรได้เรียนรู้และสร้างเสริมทักษะ การเล่นกีฬาดังกล่าว เพื่อนำมาใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการเล่นกีฬาชนิดอื่น ๆ ต่อไป อีกทั้งการเล่นกีฬา ยังส่งเสริมความแข็งแรงและการเจริญเติบโตของร่างกาย สาระการเรียนรู้ กีฬาแฮนด์บอล : การวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอล

88 สมรรถนะ 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.ความสามารถในการใช้ทักษะการเคลื่อนไหว คุณลักษณะที่เน้น 1.มีวินัย 2.ใฝ่เรียนรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน 1. การวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอลได้ 2.ใบงาน กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 5 นาที 1. ให้นักเรียนอบอุ่นร่างกายด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 2. แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 8-10 คน ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาทักษะการการ เคลื่อนไหวร่างกายในกีฬาแชร์บอล ขั้นสอน 10 นาที . ครูเลือกตัวแทนนักเรียน 1 กลุ่ม ออกมาสาธิตการการฝึกตาราง 9 ช่อง ท่าที่ 5 เพื่อเป็น แบบอย่างให้กับนักเรียนกลุ่มอื่น ๆ ได้สังเกตและปฏิบัติตาม ซึ่งครูคอยแนะนำขั้นตอนวิธีการปฏิบัติที่ ถูกต้องให้กับนักเรียนด้วย ขั้นฝึกปฏิบัติ30 นาที ให้นักเรียนฝึกฝนทักษะการเคลื่อนไหวในกีฬาแชร์บอลกับ เพื่อน ๆ เพิ่มเติมนอกเวลาเรียน และฝึกตาราง 9 ช่อง ท่าที่ 5 ขั้นนำไปใช้5 นาที 1. ให้นักเรียนฝึกตาราง 9 ช่องที่บ้านเพิ่มเติม 2. ให้นักเรียนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) และทำความสะอาดร่างกาย ขั้นสรุป 5 นาที ให้นักเรียนร่วมกันสรุปสาระสำคัญที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรม

89 สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ลานอเนกประสงค์ โรงฝึกพลศึกษา 2. ลูกแชร์บอล 3. ตาราง 9 ช่อง กระบวนการวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์การประเมิน วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑฺ์การประเมิน ด้านทักษะ มีทักษะการวางแผนการ เล่นกีฬาแฮนด์บอล การทดสอบ แบบทดสอบ คะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยให้ คะแนนตามความเหมาะสมของ ครูผู้สอน ด้านคุณลักษณะ 1. มีความกระตือรือร้น 2. มีความรับผิดชอบ 3. มีความสนใจ 4. สนุกสนานเพลิดเพลิน 5. กล้าแสดงออก สังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก คะแนน 7-8 ระดับ ดี คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรุง

90 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 27 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา เรื่อง กฎ กติกา และทักษะการเล่นกีฬาแชร์บอล เวลา 1 คาบ วันที่……......เดือน…………….พ.ศ……... มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา พ 3.2 รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมในสุนทรียภาพของ การกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ป.4/4 เล่นกีฬาพื้นฐานได้อย่างน้อย ๑ ชนิด พ 3.2 ป.4/1 ออกกำลังกาย เล่นเกม และกีฬาที่ตนเองชอบและมีความสามารถในการ วิเคราะห์ผลพัฒนาการของตนเองตามตัวอย่างและแบบปฏิบัติของผู้อื่น พ 3.2 ป.4/2 ปฏิบัติตามกฎ กติกาการเล่นกีฬาพื้นฐาน ตามชนิดกีฬาที่เล่น จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกกฎและกติกาการเล่นกีฬาแบบต่าง ๆ ได้ (K) 2. เล่นกีฬาที่ชื่นชอบอยู่เสมอ (P) 3. รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยในการเล่นกีฬา (A) 4. รับผิดชอบในหน้าที่ของตนในการเล่นกีฬาเป็นทีม (A) สาระสำคัญ กีฬา หมายถึง การเล่นในลักษณะของการแข่งขันที่มีกติกาการเล่นที่แน่นอน เช่น กีฬา แฮนด์บอล กีฬาห่วงยาง การวิ่ง และการกระโดดไกล ซึ่งนักเรียนควรได้เรียนรู้และสร้างเสริมทักษะ การเล่นกีฬาดังกล่าว เพื่อนำมาใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการเล่นกีฬาชนิดอื่น ๆ ต่อไป อีกทั้งการเล่นกีฬา ยังส่งเสริมความแข็งแรงและการเจริญเติบโตของร่างกาย สาระการเรียนรู้ กีฬาแฮนด์บอล : การวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอล

91 สมรรถนะ 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.ความสามารถในการใช้ทักษะการเคลื่อนไหว คุณลักษณะที่เน้น 1.มีวินัย 2.ใฝ่เรียนรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน 1. การวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอลได้ 2.ใบงาน กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 5 นาที 1. ให้นักเรียนอบอุ่นร่างกายด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 2. แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 8-10 คน ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาทักษะการการ เคลื่อนไหวร่างกายในกีฬาแชร์บอล ขั้นสอน 10 นาที . ครูเลือกตัวแทนนักเรียน 1 กลุ่ม ออกมาสาธิตการการฝึกตาราง 9 ช่อง ท่าที่ 6 เพื่อเป็น แบบอย่างให้กับนักเรียนกลุ่มอื่น ๆ ได้สังเกตและปฏิบัติตาม ซึ่งครูคอยแนะนำขั้นตอนวิธีการปฏิบัติที่ ถูกต้องให้กับนักเรียนด้วย ขั้นฝึกปฏิบัติ30 นาที ให้นักเรียนฝึกฝนทักษะการเคลื่อนไหวในกีฬาแชร์บอลกับ เพื่อน ๆ เพิ่มเติมนอกเวลาเรียน และฝึกตาราง 9 ช่อง ท่าที่ 6 ขั้นนำไปใช้5 นาที 1. ให้นักเรียนฝึกตาราง 9 ช่องที่บ้านเพิ่มเติม 2. ให้นักเรียนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) และทำความสะอาดร่างกาย ขั้นสรุป 5 นาที ให้นักเรียนร่วมกันสรุปสาระสำคัญที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรม

92 สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ลานอเนกประสงค์ โรงฝึกพลศึกษา 2. ลูกแชร์บอล 3. ตาราง 9 ช่อง กระบวนการวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์การประเมิน วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑฺ์การประเมิน ด้านทักษะ มีทักษะการวางแผนการ เล่นกีฬาแฮนด์บอล การทดสอบ แบบทดสอบ คะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยให้ คะแนนตามความเหมาะสมของ ครูผู้สอน ด้านคุณลักษณะ 1. มีความกระตือรือร้น 2. มีความรับผิดชอบ 3. มีความสนใจ 4. สนุกสนานเพลิดเพลิน 5. กล้าแสดงออก สังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก คะแนน 7-8 ระดับ ดี คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรุง

93 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 28 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา เรื่อง กฎ กติกา และทักษะการเล่นกีฬาแชร์บอล เวลา 1 คาบ วันที่……......เดือน…………….พ.ศ……... มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา พ 3.2 รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมในสุนทรียภาพของ การกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ป.4/4 เล่นกีฬาพื้นฐานได้อย่างน้อย ๑ ชนิด พ 3.2 ป.4/1 ออกกำลังกาย เล่นเกม และกีฬาที่ตนเองชอบและมีความสามารถในการ วิเคราะห์ผลพัฒนาการของตนเองตามตัวอย่างและแบบปฏิบัติของผู้อื่น พ 3.2 ป.4/2 ปฏิบัติตามกฎ กติกาการเล่นกีฬาพื้นฐาน ตามชนิดกีฬาที่เล่น จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกกฎและกติกาการเล่นกีฬาแบบต่าง ๆ ได้ (K) 2. เล่นกีฬาที่ชื่นชอบอยู่เสมอ (P) 3. รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยในการเล่นกีฬา (A) 4. รับผิดชอบในหน้าที่ของตนในการเล่นกีฬาเป็นทีม (A) สาระสำคัญ กีฬา หมายถึง การเล่นในลักษณะของการแข่งขันที่มีกติกาการเล่นที่แน่นอน เช่น กีฬา แฮนด์บอล กีฬาห่วงยาง การวิ่ง และการกระโดดไกล ซึ่งนักเรียนควรได้เรียนรู้และสร้างเสริมทักษะ การเล่นกีฬาดังกล่าว เพื่อนำมาใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการเล่นกีฬาชนิดอื่น ๆ ต่อไป อีกทั้งการเล่นกีฬา ยังส่งเสริมความแข็งแรงและการเจริญเติบโตของร่างกาย สาระการเรียนรู้ กีฬาแฮนด์บอล : การวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอล

94 สมรรถนะ 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.ความสามารถในการใช้ทักษะการเคลื่อนไหว คุณลักษณะที่เน้น 1.มีวินัย 2.ใฝ่เรียนรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน 1. การวางแผนการเล่นกีฬาแชร์บอลได้ 2.ใบงาน กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 5 นาที 1. ให้นักเรียนอบอุ่นร่างกายด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ขั้นสอน 10 นาที . ครูสอนการทดสอบการเคลื่อนไหวร่างกายการวิ่งเก็บของและสาธิตให้นักเรียนดู ขั้นฝึกปฏิบัติ30 นาที ให้นักเรียนทดสอบสมรรถภาพทางกายการวิ่งเก็บของและครูเก็บสธิติ ขั้นนำไปใช้5 นาที 1. ให้นักเรียนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) และทำความสะอาดร่างกาย ขั้นสรุป 5 นาที ให้นักเรียนร่วมกันสรุปสาระสำคัญที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรม สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ลานอเนกประสงค์ โรงฝึกพลศึกษา 2. ลูกแชร์บอล 3. ตาราง 9 ช่อง