The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานทักษะอาชีพ-ชั้นประถมศึกษาปีที่-4-กล้วยเขย่า-Banana-shake

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chaveewan0509, 2023-02-27 18:31:17

โครงงานทักษะอาชีพ-ชั้นประถมศึกษาปีที่-4-กล้วยเขย่า-Banana-shake

โครงงานทักษะอาชีพ-ชั้นประถมศึกษาปีที่-4-กล้วยเขย่า-Banana-shake

โครงงานทักษะอาชีพ จัดท าโดย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง กล้วยเขย่า (Banana shake) โรงเรียนบ้านบางใหญ่ ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1


โครงงาน เรื่อง กล้วยเขย่า (Banana shake) จัดทำโดย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ครูที่ปรึกษา นางอรอุมา ขวัญช่วย นางสาวสรัสวันต์ แก้วสวัสดิ์ นางสาวฉวีวรรณ สังดวงยาง โรงเรียนบ้านบางใหญ่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1


ก บทคัดย่อ กล้วยเป็นวัตถุดิบที่พบได้มากในชุมชนบ้านบางใหญ่ และหาได้ง่ายในทุกครัวเรือน ซึ่งเราสามารถนำ กล้วยมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน จึงสนใจนำกล้วยมาทำโครงงาน เรื่อง กล้วยเขย่า จากการศึกษาและค้นคว้า ผลการทดลอง พบว่านักเรียนสามารถนำกล้วยไปแปรรูปเป็นอาหาร ได้ฝึก ทักษะอาชีพเกี่ยวกับการแปรรูปกล้วย บูรณาการความรู้กับบริบทในท้องถิ่น การได้ทำงานร่วมกับผู้อื่น และมี รายได้เสริมระหว่างเรียนอีกด้วย โครงงานเรื่อง กล้วยเขย่า (Banana shake)มีจุดมุ่งหมายในการทำงาน บูรณาการการเรียนรู้ โดยนำ กล้วยมาแปรรูปทำเป็นกล้วยเขย่า ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และยังเป็นการนำสิ่งที่หาได้ง่ายภายในชุมชนมาใช้ ให้เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ในโรงเรียน การนำแนวคิดของหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ให้ผู้เรียนมีการพัฒนาทั้งความรู้และคุณธรรมจริยธรรม นอกจากนี้ยังฝึกการ ทำงานแบบกระบวนการกลุ่ม ฝึกความรับผิดชอบ สร้างความสามัคคี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เรียนรู้เทคโนโลยี สร้าง ทักษะชีวิตและทักษะอาชีพแก่สมาชิกในกลุ่มอีกด้วย


ข กิตติกรรมประกาศ คณะผู้จัดทำขอขอบคุณ นายเสวก เอียดนิมิตร ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบางใหญ่ นางสาววรัญญา จินโนภาส รองผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบางใหญ่ นางสาวโชติมา เข็มทอง ประธานชุมชนบ้านบางใหญ่ ภูมิ ปัญญาท้องถิ่น ตลอดจนบุคลากรในชุมชนบ้านบางใหญ่ ผู้ปกครอง ที่ให้คำปรึกษา แนะนำ และถ่ายทอด วิธีการทำกล้วยเขย่าด้วยความเมตตาและตั้งใจจริง ขอขอบคุณ คุณครูอรอุมา ขวัญช่วย คุณครูสรัสวันต์ แก้วสวัสดิ์และ คุณครูฉวีวรรณ สังดวง คุณครู ประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่กรุณาให้คำแนะนำในการจัดทำโครงงาน อำนวยความสะดวก จัดหาอุปกรณ์ อุทิศเวลา และเป็นที่ปรึกษาโครงงาน ฝึกการนำเสนอที่ถูกต้อง สุดท้ายนี้ขอขอบใจเพื่อนนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ทุกคนที่ให้ความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ให้ ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ปรับปรุง แก้ไข ช่วยกันทำให้โครงงานสำเร็จลุล่วงด้วยดี คณะผู้จัดทำ


ค คำนำ โครงงานฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอโครงงาน เรื่อง กล้วยเขย่า ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาค เรียนที่ 2 ปีการศึกษา ๒๕๖๕ คณะผู้จัดทำโครงงานได้ศึกษาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ รวบรวมข้อมูล ลงมือปฏิบัติ เก็บบันทึก ข้อมูล เพื่อศึกษาการจัดทำผลิตภัณฑ์จากกล้วย มีจุดมุ่งหมายในการทำงาน บูรณาการการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระ การเรียนรู้ ทุกระดับชั้น โดยนำกล้วยมาแปรรูปทำเป็นกล้วยเขย่า ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และยังเป็นการ นำสิ่งที่หาได้ง่ายภายในชุมชนมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ในโรงเรียน การนำแนวคิดของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ให้ผู้เรียนมีการพัฒนาทั้งความรู้และคุณธรรม จริยธรรม นอกจากนี้ยังฝึกการทำงานแบบกระบวนการกลุ่ม ฝึกความรับผิดชอบ สร้างความสามัคคี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เรียนรู้เทคโนโลยี สร้างทักษะชีวิตและทักษะอาชีพแก่สมาชิก ผู้จัดทำหวังว่าโครงงาน เรื่อง กล้วยเขย่า จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจทุกท่าน คณะผู้จัดทำ


ง สารบัญ หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข คำนำ ค สารบัญ ง บทที่ 1 บทนำ 1 ที่มาและความสำคัญของปัญหา 1 วัตถุประสงค์ของการศึกษา 1 ขอบเขตโครงงาน 1 สมมติฐาน 2 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2 นิยามศัพท์เฉพาะ 2 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 3 แนวคิด /หลักการและทฤษฎี/ข้อมูลวิชาการ/ข้อมูลวิจัย/ภูมิปัญญาท้องถิ่น 3 คุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียน 11 หลักธรรมที่นำมาใช้ 12 บทที่ 3 วิธีดำเนินงาน 13 ตารางปฏิบัติกิจกรรม 13 วัตถุดิบ 14 เครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ 14 วิธีดำเนินงาน/ขั้นตอน 14 ราคาต้นทุน 15 เกณฑ์ประเมินผล 15 บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน 16 ผลการดำเนินงาน 16 บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล ปัญหา และข้อเสนอแนะ 17 สรุปผลการศึกษา 17 อภิปรายผล 17 ปัญหา 17 ข้อเสนอแนะ 17 บรรณานุกรม 18 ภาคผนวก 19 ภาพประกอบกิจกรรม 20 รายชื่อนักเรียน 22 รายชื่อครูที่ปรึกษา 23


บทที่ 1 บทนำ ที่มาและความสำคัญ ผลไม้เป็นอาหารประจำของมนุษย์เป็นแหล่งอาหารให้แร่ธาตุวิตามินที่มีคุณค่าอาหารสูง มีราคาถูกเมื่อ เปรียบเทียบกับเนื้อสัตว์ จากข้อมูลวิจัยมนุษย์เราควรบริโภคผลไม้วันละประมาณ 400กรัม เพื่อให้ร่างกาย ได้รับแร่ธาตุและวิตามินอย่างเพียงพอ กล้วยน้ำว้า เป็นกล้วยพันธุ์พื้นบ้านของไทย เป็นกล้วยพันธุ์ผสมระหว่างกล้วยป่ากับกล้วยตานี มีลำต้น เดี่ยวตั้งตรง ลำต้นมีลักษณะกลม มีสีน้ำตาลปนเขียว ใบเป็นใบเลี้ยงเดี่ยว มีลักษณะแบนยาวใหญ่ มีสีเขียวแก่ ดอกจะออกเป็นช่อ จะมีปลีออกที่ปลายยอด มีเครือยาวมีหวีอยู่ จะมีผลเรียงอยู่ในหวีคล้ายพัด ผลอ่อนเปลือก มีสีเขียว ผลสุกเปลือกมีสีเหลือง มีรสชาติหวานหอม โดยกล้วยน้ำว้ายังเป็นผลไม้ที่หาง่ายในชุมชนและมี ประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยแก้อาการท้องผูก เพราะมีกากใยสูง และกล้วยน้ำว้าดิบยังช่วยรักษาโรคกะเพาะ อาหารได้อีกด้วย นอกจากนี้กล้วยยังเป็นพืชที่ทางโรงเรียนบ้านบางใหญ่ได้นำมาปลูกเพื่อให้นักเรียนได้นำ ผลผลิตมาทำโครงการทักษะอาชีพ ให้นักเรียนได้ฝึกการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกล้วยไม่ว่าจะเป็นอาหาร ขนม ไทย ขนมเบเกอรี่และผลิตภัณฑ์ต่างๆจากกล้วย เพื่อให้นักเรียนมีทักษะที่จะนำไปใช้ในการประกอบอาชีพใน อนาคตได้ ดังนั้นครูและนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่4 โรงเรียนบ้านบางใหญ่ จึงได้นำกล้วยน้ำว้าที่มีอยู่ในชุมชน มาทำเมนู กล้วยเขย่า(Banana shake) ซึ่งเป็นเมนูที่ทำง่าย ใช้วัตถุดิบน้อย จุดเด่นของเมนูนี้ คือสามารถปรุง แต่งรสชาติได้หลากหลายโดยใช้ผงปรุงรสต่างๆมาเขย่า คลุกเคล้าให้เข้ากันซึ่งเป็นเมนูที่ผู้บริโภคสามารถเลือก รสชาติได้ตามต้องการ เมื่อนักเรียนได้ฝึกทำเมนูกล้วยเขย่า(Banana shake) นักเรียนจะสามารถนำไปใช้ใน การประกอบอาชีพได้จริงในอนาคต วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ในการประกอบอาชีพและฝึกทักษะการทำงานเป็นกลุ่ม 2. เพื่อนำผลผลิตที่มีในชุมชนมาแปรรูปให้เกิดมูลค่าเพิ่ม 3. เพื่อเสริมสร้างเจตคติที่ดีต่อการประกอบอาชีพที่สุจริต ขอบเขตของโครงงาน กลุ่มเป้าหมาย - เชิงปริมาณ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านบางใหญ่ ปีการศึกษา 2565 จำนวน 28 คน - เชิงคุณภาพ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านบางใหญ่ ปีการศึกษา 2565 มีส่วนร่วมใน กิจกรรม มีเจตคติที่ดี และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์


2 สถานที่ อาคารอเนกประสงค์ โรงเรียนบ้านบางใหญ่ ระยะเวลาดำเนินการ เริ่มภาคเรียนที่ ๒/2565 ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 งบประมาณ ๑500 บาท สมมติฐาน จากการศึกษาและลงมือปฏิบัติจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์กล้วยเขย่า (Banana shake) จนสามารถนําไป ขายเพื่อให้เกิดรายได้ ได้รับประโยชน์จากการทำโครงงาน สามารถนำไปประกอบอาชีพในอนาคตได้และใช้ ผลผลิตจากกล้วยให้เกิดประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด ประโยชน์ที่ได้รับ 1. ได้รับความรู้และแนวทางการประกอบอาชีพ 2. เพิ่มประสบการณ์และทักษะการทำงานเป็นกลุ่ม 3. สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและประกอบอาชีพได้ นิยามศัพท์เฉพาะ การแปรรูป หมายถึง การนำผลผลิตทางการเกษตรซึ่งมีอยู่ในรูปวัตถุดิบมาผ่านขบวนการผลิต การ แปรสภาพเพื่อสามารถบริโภค มีอายุยืนยาวขึ้น ตลอดทั้งความสะดวกสบายในรูป ผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป กล้วยน้ำว้า (Cultivated Banana) เป็นกล้วยพันธุ์พื้นบ้านของไทย เป็นไม้ดอกล้มลุก เป็นกล้วยพันธุ์ ผสมชนิดหนึ่ง เป็นกล้วยพันธุ์ผสมระหว่างกล้วยป่า กับกล้วยตานี มีลำต้นเดี่ยวตั้งตรง มีลักษณะกลมๆ ใบเป็น แบบขนาน มีลักษณะแบนยาวใหญ่ จะมีหัวปลีออกที่ปลายยอดของเครือ บนเครือจะมีหวีอยู่ จะมีผลเรียงอยู่ใน หวี มีรสชาติหวานหอม มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และต่อมาได้ปลูกในหลายประเทศ ทั่วโลก ในส่วนประเทศไทยนั้นจะปลูกกล้วยน้ำว้า ได้ทั่วทุกภาคและปลูกได้ทุกฤดู มีประโยชน์และมีสรรพคุณ ใช้นำมารักษาโรคต่างๆ ได้หลายอย่าง ใช้นำมาประกอบอาหารต่างๆ ได้หลากหลายเมนู


บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง ในการทำโครงงานอาชีพ เรื่องกล้วยเขย่า (Banana shake) กลุ่มผู้ศึกษาได้รวบรวมแนวคิดทฤษฎีและ หลักการต่างๆ จากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ แนวคิด /หลักการและทฤษฎี/ข้อมูลวิชาการ/ข้อมูลวิจัย/ภูมิปัญญาท้องถิ่น ข้อมูลวิชาการ ในการดำเนินงานกิจกรรมโครงงานอาชีพสมาชิกในกลุ่มกิจกรรมได้ดำเนินงานตามยุทธศาสตร์เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ตามรอยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่สอดคล้องกับ 3 ห่วง 2 เงื่อนไข คือ ทางสายกลาง ประกอบด้วยดังนี้ 1. ความพอประมาณ คือ มีความพอประมาณ ความพอดี ไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไป โดยต้องไม่ เบียดเบียนรู้จักความพอดี พอประมาณ ในการจัดทำผลิตภัณฑ์ เป็นต้น 2. ความมีเหตุผล คือ การตัดสินใจระดับความพอเพียงนั้นจะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยพิจารณา จากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆอย่างรอบคอบเช่น เมื่อ เกิดปัญหาในการดำเนินงานกิจกรรมโครงงานอาชีพสมาชิกในกลุ่มกิจกรรมต้องมีความรอบคอบในการแก้ไข้ ปัญหา คิด แก้ไข้ ปรับใช้ จนนำไปสู้แนวทางแก่ปัญหา เป็นต้น 3. ความมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเอง คือ การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้าน ต่างๆที่เกิดขึ้น โดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ในสถานการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกลเช่น ในการ จัดทำผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารจากมันเทศสมาชิกในกลุ่มกิจกรรมต้องคิดอย่างรอบคอบในการเลือกวัตถุดิบใน การแปรรูปอาหารเพื่อการเก็บรักษาที่สามารถไว้รับประทานได้นาน เป็นต้น 4. เงื่อนไขความรู้คือ มีความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่ นำความรู้เหล่านี้มาพิจารณาให้เชื่อมโยงกันเพื่อประกอบการวางแผน และความระมัดระวังในขั้นตอนการ ปฏิบัติ คุณธรรมประกอบด้วยมีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความอดทน มีความพอเพียง โดยใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิตเช่น ในการดำเนินกิจกรรมโครงงานอาชีพสมาชิกในกลุ่มกิจกรรมนำกิจกรรม โครงงานอาชีพมาบูรณาการกับวิชาภาษาไทยในเรื่องการเขียนรายงาน วิชาวิทยาศาสตร์ในเรื่องของ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วิชาสังคมในเรื่องที่ตั้งทำเลในการค้าขาย วิชาอังกฤษในเรื่องของการสื่อสารเพื่อ เข้าสู่ประชาคมอาเซียน วิชานาฏศิลป์ในเรื่องของการจัดทำอุปกรณ์การแสดง วิชาสุขศึกษาในเรื่องของคุณค่า ทางโภชนาการอาหาร เป็นต้น 5. เงื่อนไขคุณธรรม คือ มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความอดทน มีความ เพียร และใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิตเช่น ในการดำเนินงานโครงงานอาชีพสมาชิกในกลุ่มกิจกรรมมี่ความ รัก ความสามัคคี และคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งเป็นพื้นฐานของการดำเนินงานที่นำไปสู่ความสำเร็จ


4 การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning Active Learning เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างสรรค์ทางปัญญา (Constructivism) ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้มากกว่าเนื้อหาวิชา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ หรือสร้างความรู้ให้เกิดขึ้นในตนเอง ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงผ่านสื่อหรือกิจกรรมการเรียนรู้ ที่มีครูผู้สอนเป็นผู้ แนะนำ กระตุ้น หรืออำนวยความสะดวก ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ขึ้น โดยกระบวนการคิดขั้นสูง กล่าวคือ ผู้เรียนมีการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการประเมินค่าจากสิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมการเรียนรู้ ทำให้การเรียนรู้ เป็นไปอย่างมีความหมายและนำไปใช้ในสถานการณ์อื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ (สถาพร พฤฑฒิกุล, 2558) ลักษณะของการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning เป็นดังนี้ (ไชยยศ เรืองสุวรรณ, 2553) 1. เป็นการเรียนการสอนที่พัฒนาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปัญหา และการนำความรู้ไป ประยุกต์ใช้ 2. เป็นการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้สูงสุด 3. ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้และจัดกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง 4. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนทั้งในด้านการสร้างองค์ความรู้ การสร้างปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน ร่วมมือกันมากกว่าการแข่งขัน 5. ผู้เรียนเรียนรู้ความรับผิดชอบร่วมกัน การมีวินัยในการทํางาน และการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ 6. เป็นกระบวนการสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิดอย่างลุ่มลึก ผู้เรียนจะเป็นผู้จัดระบบการ เรียนรู้ด้วยตนเอง 7. เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นทักษะการคิดขั้นสูง 8. เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนบูรณาการข้อมูลข่าวสาร หรือสารสนเทศ และหลักการความคิด รวบยอด 9. ผู้สอนจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง 10. ความรู้เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้ และการสรุปทบทวนของผู้เรียน บทบาทของผู้สอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางของ Active Learning บทบาทของผู้สอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางของ Active Learning ดังนี้ (ณัชนัน แก้ว ชัยเจริญกิจ, 2550) จัดให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนการสอน กิจกรรมต้องสะท้อนความต้องการในการ พัฒนาผู้เรียนและเน้นการนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงของผู้เรียน 1. สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้สอน และเพื่อนในชั้นเรียน 2. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวัต ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมรวมทั้งกระตุ้นให้ ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ 3. จัดสภาพการเรียนรู้แบบร่วมมือ ส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือในกลุ่มผู้เรียน


5 4. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ท้าทาย และให้โอกาสผู้เรียนได้รับวิธีการสอนที่หลากหลาย 5. วางแผนเกี่ยวกับเวลาในจัดการเรียนการสอนอย่างชัดเจน ทั้งในส่วนของเนื้อหา และกิจกรรม 6. ครูผู้สอนต้องใจกว้าง ยอมรับในความสามารถในการแสดงออก และความคิดเของที่ผู้เรียน ตัวอย่างเทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning สามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน รวมทั้งสามารถใช้ได้กับนักเรียนทุกระดับ ทั้งการเรียนรู้เป็นรายบุคคล การเรียนรู้แบบกลุ่มเล็ก และการเรียนรู้ แบบกลุ่มใหญ่ McKinney (2008) ได้เสนอตัวอย่างรูปแบบหรือเทคนิค การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่จะช่วยให้ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้แบบ Active Learning ได้ดี ได้แก่ 1. การเรียนรู้แบบแลกเปลี่ยนความคิด (Think-Pair-Share) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ ผู้เรียนคิดเกี่ยวกับประเด็นที่กำหนดแต่ละคน ประมาณ 2-3 นาที (Think) จากนั้นให้แลกเปลี่ยน ความคิดกับเพื่อนอีกคน 3-5 นาที (Pair) และนำเสนอความคิดเห็นต่อผู้เรียนทั้งหมด (Share) 2. การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative learning group) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ ผู้เรียนได้ทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยจัดเป็นกลุ่มๆ ละ 3-6 คน 3. การเรียนรู้แบบทบทวนโดยผู้เรียน (Student-led review sessions) คือการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ทบทวนความรู้และพิจารณาข้อสงสัยต่าง ๆ ในการปฏิบัติกิจกรรม การเรียนรู้ โดยครูจะคอยช่วยเหลือกรณีที่มีปัญหา 4. การเรียนรู้แบบใช้เกม (Games) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้สอนนำเกมเข้าบูรณาการในการ เรียนการสอน ซึ่งใช้ได้ทั้งในขั้นการนำเข้าสู่บทเรียน การสอน การมอบหมายงาน และหรือขั้นการ ประเมินผล 5. การเรียนรู้แบบวิเคราะห์วีดีโอ (Analysis or reactions to videos) คือการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้ดูวีดีโอ 5-20 นาที แล้วให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็น หรือสะท้อนความคิด เกี่ยวกับสิ่งที่ได้ดู อาจโดยวิธีการพูดโต้ตอบกัน การเขียน หรือ การร่วมกันสรุปเป็นรายกลุ่ม 6. การเรียนรู้แบบโต้วาที (Student debates) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่จัดให้ผู้เรียนได้ นำเสนอข้อมูลที่ได้จากประสบการณ์และการเรียนรู้ เพื่อยืนยันแนวคิดของตนเองหรือกลุ่ม 7. การเรียนรู้แบบผู้เรียนสร้างแบบทดสอบ (Student generated exam questions) คือการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนสร้างแบบทดสอบจากสิ่งที่ได้เรียนรู้มาแล้ว 8. การเรียนรู้แบบกระบวนการวิจัย (Mini-research proposals or project) คือการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ที่อิงกระบวนการวิจัย โดยให้ผู้เรียนกำหนดหัวข้อที่ต้องการเรียนรู้ วางแผนการเรียน เรียนรู้ตามแผน สรุปความรู้หรือสร้างผลงาน และสะท้อนความคิดในสิ่งที่ได้เรียนรู้ หรืออาจเรียกว่า การสอนแบบโครงงาน(project-based learning) หรือ การสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (problem-based learning) 9. การเรียนรู้แบบกรณีศึกษา (Analyze case studies) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียน ได้อ่านกรณีตัวอย่างที่ต้องการศึกษา จากนั้นให้ผู้เรียนวิเคราะห์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือ แนวทางแก้ปัญหาภายในกลุ่ม แล้วนำเสนอความคิดเห็นต่อผู้เรียนทั้งหมด


6 10. การเรียนรู้แบบการเขียนบันทึก (Keeping journals or logs) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ ผู้เรียนจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ ที่ได้พบเห็น หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน รวมทั้งเสนอ ความคิดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบันทึกที่เขียน 11. การเรียนรู้แบบการเขียนจดหมายข่าว (Write and produce a newsletter) คือการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนร่วมกันผลิตจดหมายข่าว อันประกอบด้วย บทความ ข้อมูล สารสนเทศ ข่าวสาร และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วแจกจ่ายไปยังบุคคลอื่นๆ 12. การเรียนรู้แบบแผนผังความคิด (Concept mapping) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียน ออกแบบแผนผังความคิด เพื่อนำเสนอความคิดรวบยอด และความเชื่อมโยงกันของกรอบความคิด โดยการใช้เส้นเป็นตัวเชื่อมโยง อาจจัดทำเป็นรายบุคคลหรืองานกลุ่ม แล้วนำเสนอผลงานต่อผู้เรียน อื่นๆ จากนั้นเปิดโอกาสให้ผู้เรียนคนอื่นได้ซักถามและแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ข้อมูลงานวิจัย 1. ถิ่นกำเนิดของกล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำว้าเป็นกล้วยที่เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ของกล้วยป่า 2 ชนิด ได้แก่ Musaacuminate Musa balbisaina มีถิ่นกำเนิดอยู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีเอกสารกล่าวว่า คนแถบนี้ใช้ประโยชน์จาก กล้วยกันมานานแล้ว แหล่งกำเนิดจริงๆ ของกล้วยยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แต่ทฤษฎีของซิกมอนด์และเชเพิร์ด เสนอว่า มาเลเซียอาจเป็นศูนย์กลางของกล้วยในระยะแรกๆ ก็ได้ และจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การปลูก กล้วยก็ได้ขยายออกไปทั่วเขตร้อน และเข้าไปในเขตอบอุ่นของเอเชีย อเมริกา แอฟริกาและออสเตรเลีย จึงอาจ กล่าวได้ว่าประเทศทั้งหลายที่ตั้งอยู่ในเขตร้อนและมีฝนชุกโดยเฉพาะเอเชีย กล้วยเป็นผลไม้ที่มีคนปลูกกันมาก และมีการบริโภคกันมากเป็นอันดับหนึ่งของทุกประเทศ 2. ความเป็นมาของกล้วยในประเทศไทย จากหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุด คือ จดหมายเหตุของลาลูแบร์ ที่เขียนขึ้นในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์ มหาราชในจดหมายเหตุกล่าวถึงกล้วยงวงช้าง และกล้วยงาช้าง ซึ่งน่าจะหมายถึง กล้วยยักษ์ และกล้วยร้อยหวี ในเมื่อกล้วยมีกำเนิดอยู่ทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ดังที่กล่าวมาแล้วนั้น จึงย่อมเชื่อได้ว่ามีการปลูกกล้วยใน เมืองไทยมานานก่อนสมัยอาณาจักรศรีวิชัย (พ.ศ.1200 โดยประมาณ) ในปัจจุบันกล้วยน้ำว้า ปลูกกันมาก ที่สุดในจังหวัดเลย หนองคาย และระนอง พันธุ์กล้วยน้ำว้าที่พบในไทย ได้แก่ กล้วยน้ำว้าแดง กล้วยน้ำว้าค่อม กล้วยน้ำว้าเหลือง กล้วยน้ำว้าขาวกล้วยน้ำว้านวล


7 3. ลักษณะทั่วไปของกล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำว้า เป็นพืชผักที่มีลำต้น มีลำต้นเดี่ยว ตั้งตรง ลำต้น มีลำต้นเดี่ยว ตั้งตรง ลำต้นมีลักษณะ กลมๆ มีกาบเปลือกหุ้มล้อมรอบ มีผิวลื่นเรียบ มีสีเขียวปนสีน้ำตาล มีหน่อเหง้างอกโผล่ออกมาจากดิน กล้วย น้ำว้าจะมีรากที่เป็นระบบรากแก้ว รากมีลักษณะกลมๆ จะมีรากแขนงฝอยๆ มีสีน้ำตาล ใบของกล้วยน้ำว้า เป็นใบเลี้ยงเดี่ยว เรียกว่าใบตอง ยอดอ่อนมีสีเขียวอ่อน ใบเป็นแบบขนาน มีลักษณะแบนยาวใหญ่ มีก้านใบ ใหญ่ตรงกลาง มีใบล้อมรอบ ปลายใบปลายมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบมัน ด้านบนมีสีเขียวสด ด้านล่างมีสี เขียวเข้ม มีนวลสีขาว ส่วนของดอกนั้นจะมีดอกเป็นช่อ ห้อยลงมาเป็นเครือ จะมีปลีออกที่ปลายยอด มีใบ ประดับหุ้มอยู่ มีลักษณะโคนกลมปลายรี มีสีแดงม่วง ในเครือจะมีหวีเรียงซ้อนกันอยู่ และมีจะดอกยาวเล็ก โคนดอกมีสีขาว ปลายดอกสีเหลือง เรียงอยู่ในหวีคล้ายพัด และต่อมาจะกลายเป็นผล ซึ่งจะมีลักษณะกลมทรง รี เรียงอยู่ในหวีคล้ายพัด มีผิวลื่นเรียบ ปลายผลเป็นจุก ผลอ่อนเปลือกจะมีสีเขียว ผลสุกแก่เปลือกจะมีสีเหลือง ข้างในจะมีเนื้อสีขาว เนื้อนุ่ม จะมีรสชาติหวานหอม ในส่วนของเมล็ดเมล็ด จะมีลักษณะกลมเล็กๆ จะอยู่ใน เนื้อกล้วย มีสีดำ และแข็งมาก บางสายพันธุ์จะไม่มีเมล็ด 4. วิธีการปลูกกล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำว้าจะชอบปลูกในดินร่วน ดินที่มีความชุ่มชื้นพอเหมาะ น้ำไม่ขัง สามารถเจริญเติบโตในดินทุก ชนิด สามารถปลูกกล้วยน้ำหว้าได้ทั่วทุกภูมิภาค และปลูกได้ทุกฤดูในประเทศไทย เป็นพืชที่ทนทานต่อความ แห้งแล้งได้ดี การปลูกโดยจะใช้หน่อ แล้วเลือกหน่อที่สมบูรณ์ และแข็งแรง ให้มีใบติดด้วยจากนั้นจะนำปลูกลง ในแปลงดินที่เตรียมไว้ โดยนำใส่ลงในหลุมปลูก พร้อมกลบดินให้แน่นพอประมาณ ให้มีระยะห่างระหว่างแถว ประมาณ 2 ม. ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 2 ม. 5. วิธีดูแลรักษากล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำว้าเป็นพืชที่ชอบน้ำ ต้องการระบายน้ำดี น้ำไม่ขัง ระยะแรกโดยให้รดน้ำทุกวัน ให้โดนแดด ตลอดได้ จะเจริญเติบโตได้ดี เมื่อเริ่มเติบโตขึ้นให้ลดการรดน้ำลง เป็นพืชที่ทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดี ให้ตัด แต่งใบออกเพื่อให้แสงแดดส่องทั่วถึง ให้ตัดแต่งหน่อให้เหลือ 3-4 หน่อต่อกอ ให้ตัดหัวปลีออก ให้เครือกล้วยมี หวีอยู่ ประมาณ 10-14 หวี เพื่อให้ผลผลิตที่สมบูรณ์ 6. การเก็บเกี่ยวผลผลิตกล้วยน้ำว้า


8 เมื่อกล้วยน้ำว้าผลเริ่มสุกโตเต็มที่ จะเกี่ยวเก็บผลผลิต มีสีเขียวหรือสีเขียวอมเหลือง แล้วตัดมาทั้งเครือ แล้วนำมาใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ การขนส่งให้ระวังกล้วยน้ำว้าผลช้ำ 7. วิธีเก็บรักษากล้วยน้ำว้า วิธีเก็บรักษาให้กล้วยน้ำว้าอยู่ได้นาน คือการนำกล้วยหอมที่สุกเต็มที่ วางไว้ในที่โล่งอากาศถ่ายเท เพื่อ เพิ่มระยะเวลาในการเก็บรักษากล้วยน้ำว้า 8. ประโยชน์ของกล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำว้า มีฟอสฟอรัส มีวิตามินเอ มีวิตามินซี มีวิตามินบี1 มีวิตามินบี2 มีวิตามินบี3 มีวิตามินบี5 มีวิตามินบี6 มีวิตามินบี9 มีแคลเซียม มีเหล็ก มีแมกนีเซียม มีคาร์โบไฮเดรต มีสังกะสี มีไขมัน มีโปรตีน มี โพแทสเซียม มีสังกะสี มีเส้นใย มีพลังงาน มีไฟเบอร์ มีเบต้าแคโรทีน มีสารแทนนิลแทคติน มีกรดอมิโน ช่วย บำรุงผิวพรรณ ช่วยชะลอความแก่ ช่วยบำรุงเลือด ช่วยสร้างเมล็ดเลือดแดง ช่วยรักษาโรคเลือดจาง ช่วยบำรุง สายตา ช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยลดความอ้วน ช่วยลดความดันโลหิตสูง ช่วยลดกรดใน กระเพาะ ช่วยรักษาโรคกระเพาะ ช่วยรักษาแผลในลำไส้ ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ช่วยรักษาโรคริดสีดวง ทวาร ช่วยรักษาโรคผิวหนัง รักษาเป็นผื่นแดง ช่วยรักษาแมลงกัดต่อย ลดอาการฝีบวม ช่วยรักษาแผลไฟไหม้ แก้แผลเป็นหนอง ช่วยสมานแผล แก้เคล็ดขัดยอก แก้ท้องเดิน ช่วยรักษาอาการท้องเสีย แก้ท้องผูก ช่วย ระบายท้อง ช่วยบำรุงกระดูก ช่วยบำรุงฟัน ช่วยบำรุงเหงือก แก้เลือดออกตามไรฟัน ช่วยลดกลิ่นปาก แก้แน่น หน้าอก แก้เจ็บคอ แก้ไอ ช่วยห้ามเลือด แก้โรคขัดเบา แก้โรคไส้เลื่อน 9. ข้อเสียของกล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้ ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง (Glycemic Index: GI) ซึ่งเป็นค่าบ่งชี้ระดับน้ำตาลใน เลือด หลังรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต หากรับประทานมากเกินไป อาจทำให้ระดับน้ำตาลใน เลือดพุ่งขึ้นสูง และส่งผลกระทบต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด โรคเบาหวาน หรือทำให้ผู้ที่ป่วยโรคเบาหวาน มีอาการแย่ลง ดังนั้น ควรรับประทานในปริมาณที่พอดี ประมาณ 1-2 ลูก/วัน 10. น้ำปูนแดง ปูนแดงนิยมใช้ทำน้ำปูนใสสำหรับใช้ประโยชน์ในด้านอาหาร ใช้ทำขนมหรือของหวาน เช่น ขนมเปียก ปูน ลอดช่อง เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ขนมมีความแข็งขึ้น มีความกรอบขึ้น รวมถึงช่วยในการต้านเชื้อจุลินทรีย์ ป้องกันอาหารบูดเน่า และเป็นแหล่งช่วยเสริมแคลเซียมให้แก่ร่างกาย


9 11. น้ำมันพืช น้ำมันสำหรับนำมาใช้ประกอบอาหาร นับเป็นส่วนหนึ่งของสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งจัดอยู่ใน หมวดของไขมัน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าน้ำมันหรือไขมันจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่หากกินเกินกว่าที่ ร่างกายต้องการ ก็ก่อให้เกิดโรคภัยตามมาได้หลายโรค ยิ่งในปัจจุบันที่มีน้ำมันวางขายมากมายหลายชนิดหลาย ประเภท หากเลือกซื้อหรือใช้อย่างไม่มีความรู้ ก็จะยิ่งทำให้เป็นโรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น 12. เกลือปรุงอาหาร "เกลือปรุงอาหาร " ประกอบไปด้วย "โซเดียมคลอไรด์" ซึ่งรสชาติเกลือนอกจากมีรสเค็มเเล้ว ยังมี ประโยชน์ ซึ่งเมื่อนำไปปรุงอาหาร ก็จะทำให้อาหารนั้นมีรสชาติกลมกล่อม อร่อยมากขึ้น นอกจากนี้แล้ว เกลือ ยังมีประโยชน์อื่น ๆ เช่น เพิ่มรสชาติอาหาร แช่ผักผลไม้ไม่ให้คล้ำ และอาจจะนำไปลบคราบรอยเปื้อนได้อีก ด้วย


10 13. ผงปรุงรส ผงปรุงรสสำเร็จรูป คือผลิตภัณฑ์ปรุงแต่งรสอาหารที่ได้จากการนำเนื้อสัตว์ ซึ่งส่วนใหญ่จะ นิยมใช้เนื้อไก่หรือเนื้อหมูมาหมักรวมกับเครื่องปรุงรสและเครื่องเทศต่างๆ เช่น น้ำตาล เกลือ กระเทียม พริกไทย โมโนโซเดียมกลูตาเมต ฯลฯ แล้วให้ความร้อนจนแห้งจึงบดเป็นผง


11 คุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียนของโรงเรียนบ้านบางใหญ่ คุณธรรมอัตลักษณ์ คุณธรรมเป้าหมาย พฤติกรรมบ่งชี้เชิงบวก ผู้บริหาร ครู นักเรียน ความซื่อสัตย์ - จัดซื้อจัดจ้างอย่าง โปร่งใสตามระเบียบ ราชการ - พิจารณาความดี ความชอบอย่างเป็นธรรม ตรงไปตรงมา - ปฏิบัติหน้าที่ตรงต่อเวลา เต็มความสามารถ -ปฏิบัติตามข้อตกลงของ โรงเรียน และระเบียบของ โรงเรียนอย่างเคร่งครัด - ปฏิบัติตามข้อตกลงของ ชุมชนด้วยความเต็มใจ -ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมายจนเสร็จ และมีประสิทธิภาพด้วย ตนเอง - ใช้ทรัพยากรของ โรงเรียนเพื่อประโยชน์ ของทางราชการ -ทำการบ้านด้วยตนเอง -พูดความจริงไม่โกหก ความรับผิดชอบ - ปฏิบัติหน้าที่ตรงต่อเวลา - นิเทศการเรียนการสอน อย่างสม่ำเสมอ - บริหารอย่างเต็มกำลัง ความสามารถเป็น แบบอย่างที่ดีแก่ ผู้ใต้บังคับบัญชา - สอนให้นักเรียนรู้จักคิด วิเคราะห์ รู้จักการ แก้ปัญหาด้วยตนเอง - ปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดี แก่เพื่อนร่วมงานและ นักเรียน - -ช่วยผู้ปกครองทำงานบ้านทุก วัน - -แต่งกายถูกต้องตามระเบียบ ของโรงเรียน - -ส่งงานที่ได้รับมอบหมายตรง เวลา - -เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อนๆ จิตสาธารณะ - เสียสละเวลาส่วนตัวใน การพัฒนาโรงเรียน - ร่วมดูแลสังคม - รับผิดชอบส่วนร่วม - เสียสละเพื่อส่วนรวม - เอื้อเฟื้อ เมตตา มีน้ำใจ ต่อผู้ใต้บังคับบัญชา - เสียสละเวลาส่วนตัวใน การอบรมสั่งสอนนักเรียน - อุทิศเวลาทั้งในและ นอกเวลาราชการเพื่อ ชุมชนและสังคม - เอื้อเฟื้อ เมตตา มีน้ำใจ ต่อนักเรียน - อาสาช่วยงานต่างๆ - รู้จักแบ่งปันสิ่งของแก่ผู้อื่นได้ โดยไม่เรียกร้องสิ่งตอบแทน - ดูแล รักษาสาธารณสมบัติ และสิ่งแวดล้อมด้วยความเต็ม ใจ - เข้าร่วมกิจกรรมที่เป็น ประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม


12 หลักธรรมที่นำมาใช้ในการทำโครงงาน อิทธิบาท 4 หมายถึง คุณธรรมที่นำไปสู่ความสำเร็จแห่งผลที่มุ่งหมาย มี 4 ประการ คือ (1) ฉันทะ คือ ความพอใจ เป็นความต้องการที่ทำให้มีใจรักที่จะทำสิ่งนั้นอยู่เสมอแล้ว ปรารถนาที่จะทำให้ได้ผลดียิ่ง ๆ ขึ้นไป (2) วิริยะ คือ ความเพียร ความขยันประกอบทำสิ่งนั้นด้วยความพยายาม (3) จิตตะ คือ ความคิด ตั้งจิตรับรู้ในสิ่งที่ทำ และทำสิ่งนั้นด้วยความคิด (4) วิมังสา คือ ความไตร่ตรอง หรือทดลอง หมั่นใช้ปัญญาพิจารณา ใคร่ครวญ ตรวจตราหา เหตุผลและตรวจสอบข้อยิ่งหย่อนในการทำสิ่งนั้น มีการวางแผน วัดผลคิดค้นวิธีแก้ไข ปรับปรุง สรุปว่าการจะทำงานสิ่งใดให้สำเร็จ ต้องรักงาน สู้งาน ใส่ใจงาน และทำงานด้วยปัญญาเข้า


บทที่ 3 วิธีการดำเนินงานโครงงานอาชีพ ในการดำเนินงานโครงงานอาชีพ เรื่องกล้วยเขย่า (Banana shake) สมาชิกกลุ่มกิจกรรมโครงงาน อาชีพ วางแผนการดำเนินงาน โดยการงานระบบการทำงานและปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ดังนี้ ตารางปฏิบัติกิจกรรมโครงงานเรื่อง กล้วยเขย่า วัน / เดือน / ปี กิจกรรมที่ปฏิบัติ สถานที่ปฏิบัติงาน ผู้ปฏิบัติงาน 9 มกราคม 2566 - เลือกหัวข้อเรื่องที่จะนำมาทำ เป็นรายงาน - ศึกษาหัวข้อย่อยของเรื่องที่จะ นำมาเขียนเป็นรายงาน แบ่งหน้าที่รับผิดชอบการทำ โครงงาน โรงเรียนบ้านบางใหญ่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 17 มกราคม 2566 เขียนโครงงานบทที่ 1 โรงเรียนบ้านบางใหญ่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 23 มกราคม 2566 เขียนโครงงานบทที่ 2 โรงเรียนบ้านบางใหญ่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 30 มกราคม 2566 เขียนโครงงานบทที่ 3 โรงเรียนบ้านบางใหญ่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 6 กุมภาพันธ์ 2566 ลงมือปฏิบัติทำกล้วยเขย่า โรงเรียนบ้านบางใหญ่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 13 กุมภาพันธ์ 2566 เขียนโครงงานบทที่ 4 โรงเรียนบ้านบางใหญ่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 20 กุมภาพันธ์ 2566 เขียนโครงงานบทที่ 5 โรงเรียนบ้านบางใหญ่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 28 กุมภาพันธ์ 2566 นำเสนอโครงงาน โรงเรียนบ้านบางใหญ่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 1. การคิดและเลือกหัวข้อโครงงานอาชีพ การคิดและเลือกหัวข้อโครงงานอาชีพมีความเกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนและสอดคล้องกับกิจกรรม ส่งเสริมการหารายได้ในระหว่างเรียนตามโครงการพัฒนาวิชาชีพเพื่อการมีงานทำเพื่อสนองนโยบายสำนัก บริหารงานการศึกษาพิเศษ ซึ่งกิจกรรมส่งเสริมการหารายได้ในระหว่างเรียนเป็นกิจกรรมที่โรงเรียนมุ่งเน้นให้ นักเรียนรู้จักการประกอบอาชีพ โดยมีเนื้อหาเหมาะสมตามความสามารถของสมาชิกในกลุ่มกิจกรรมโครงงาน อาชีพ มุ่งเน้นให้นำวัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่น โรงเรียน มาใช้ให้เกิดประโยชน์และเป็นการบริหารจัดการการใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า 2. การวางแผนการดำเนินงานโครงงานอาชีพ การวางแผนการดำเนินงานโครงงานอาชีพ โดยการกำหนดขอบข่ายหน้าที่ของสมาชิก แนวทางการ ปฏิบัติ ความรับผิดชอบของสมาชิกในกลุ่มกิจกรรมโครงงานอาชีพอย่างเป็นรูปธรรมและรัดกุม มุ่งเน้นให้ สมาชิกปฏิบัติงานด้วยตนเองและตรวจสอบควบคุมภาพผลิตภัณฑ์


14 3. การดำเนินงานโครงงานอาชีพ การปฏิบัติงานของสมาชิกในห้องประถมศึกษาปีที่ 4 กิจกรรมโครงงานอาชีพมุ่งเน้นให้สมาชิก ปฏิบัติงานด้วยตนเอง เริ่มตั้งแต่การลงพื้นที่ในชุมชนบางใหญ่ เพื่อเรียนรู้กระบวนการแปรกล้วยน้ำว้าเขย่า ตลอดจนการเก็บดูแลรักษา และนำความรู้ที่ได้มาปรับใช้ เมื่อได้ผลผลิตภัณฑ์ก็นำไปจัดจำหน่ายในกิจกรรม ตลาดนัดวิชาการโรงเรียน ตลอดจนการนำไปจัดจำหน่ายที่ก่อให้เกิดรายได้และการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ซึ่งทำให้สมาชิกได้เรียนรู้การทำงานจากประสบการณ์จริง คิด แก้ไข ปรับใช้ พัฒนาโครงงานอาชีพจนนำไปสู่ ความสำเร็จ วัตถุดิบในการทำกล้วยเขย่า 1. กล้วยน้ำว้าดิบ 2. น้ำเกลือ/ปูนแดง (สำหรับแช่กล้วย) 3. น้ำมันพืช 4. เกลือ 5. ผงปรุงรส เครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ 1. มีด 2. เขียง 3. กะละมัง 4. มีดขูดเส้น 5. กระทะ 6. น้ำมัน 7. ตะหลิว 8. กระชอน 9. กระปุกเขย่า วิธีดำเนินงาน/ขั้นตอนการทำกล้วยเขย่า 1. นำกล้วยน้ำว้าแก่มาปอกเปลือกและแช่ไว้ในน้ำสะอาดที่ผสมเกลือเล็กน้อยใช้เวลา 3-5นาที เพื่อไม่ให้ กล้วยมีสีดำ จากนั้นนำขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ 2. นำมีดขูดเส้นมาขูดกล้วยน้ำว้าแก่ให้เป็นเส้นและนำไปคลุกแป้งทอดกรอบที่เตรียมไว้ 3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ร้อน ใส่กล้วยเส้นคลุกแป้งทอดกรอบลงทอดให้เหลืองกรอบ ตักใส่กระชอนพัก ให้สะเด็ดน้ำมัน 4. ใส่กล้วยเส้นทอดกรอบลงในกระปุกเขย่าเติมผงปรุงรสและเขย่าคลุกเคล้าให้เข้ากัน


15 ราคาต้นทุน กล้วยเขย่า (Banana Shake) วัตถุดิบ 1. กล้วยน้ำว้าแก่ 1 หวี (12-15 ผล) ราคา 25 บาท 2. แป้งทอดกรอบ 100 กรัม ราคา 10 บาท 3. น้ำมันปาล์ม 500 กรัม ราคา 25 บาท 4. ผงปรุงรสชีส 2 ช้อนโต๊ะ ราคา 10 บาท 5. ปูนแดง 2 ช้อนชา ราคา 1 บาท รวมค่าวัตถุดิบ 71 บาท 1. ค่าเสื่อมของอุปกรณ์ ค่าแรง ค่าน้ำ ค่าแก๊ส ราคา 50 บาท 2. ราคาต้นทุนบรรจุภัณฑ์ (ถุง+=ช้อน) ราคา 2 บาท 3. รวมราคาต้นทุนทั้งหมด จำนวน ราคา 123 บาท 4. ต้นทุนต่อ 1 ถุง ราคา 10.25 บาท 5. จำหน่ายได้ 12 ชุด จำหน่ายถุงละ ราคา 15 บาท กำไรจากการจำหน่าย (15-10.25) = 4.75 บาท ถ้าจำหน่ายหมดได้กำไรทั้งสิ้น (4.75x12) = 57 บาท เกณฑ์ประเมินผล 1. การสังเกตการลงมือทำผลิตภัณฑ์กล้วยพับซาโมซา 2. แบบประเมินความพึงพอใจ


บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน ผลการดำเนินงาน ในการศึกษาค้นคว้าเรื่อง กล้วยเขย่า (Banana shake) คณะผู้จัดทำได้คิดหาวิธีผลปรากฏว่าผู้ที่ไม่ รับประทานกล้วยสามารถรับประทานกล้วยได้ และการนำกล้วยที่แก่ มาทำให้เกิดประโยชน์โดยการแปรรูปให้ เป็นอาหารคาวหรืออาจเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์นั้นๆ ปัญหาที่พบ 1. กล้วยน้ำว้าแก่ที่ตัดใหม่ๆจะหายาก ส่วนใหญ่จะเป็นกล้วยที่ตัดมาตั้งบ่มไว้รอขายตอนสุก ทำให้เนื้อนิ่ม ขูดเส้นยาก ทอดไม่กรอบ 2. การปอกเปลือกกล้วยที่ยังไม่สุกจะทำได้ยากและใช้เวลานาน แนวทางการปรับปรุง แก้ไข ควรหากล้วยที่ยังไม่สุก เพราะกล้วยสุกจะมีเนื้อที่นิ่มทำให้ทอดออกมาไม่กรอบ นอกจากนั้นในขั้นตอน การปอกกล้วย ควรหั่นหัว/ท้ายออกและแช่ในน้ำก่นอปลอกเปลือกเพื่อลดระยะเวลาในการแกะกล้วย


บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล ปัญหา และข้อเสนอแนะ ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ศึกษาแนวทางและความรู้ในการประกอบอาชีพ, เสริมสร้าง ประสบการณ์ในการประกอบอาชีพและฝึกทักษะการทำงานเป็นกลุ่ม และเพื่อเสริมสร้างเจตคติที่ดีต่ออาชีพ ทุจริต โดยการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกล้วยเพื่อให้เกิดประโยชน์ โดยสร้างสรรค์ออกมาในแบบของอาหารทาน เล่นที่มีส่วนผสมกล้วย ให้มีประโยชน์และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งสรุปผลการศึกษา อภิปรายผล และมี ข้อเสนอแนะ ดังนี้ สรุปผลการศึกษา จากการศึกษาการทำกล้วยเขย่า(Banana shake) ซึ่งเป็นการนำผลไม้ที่หาได้ง่ายใน ชุมชนมาสร้างสรรค์เป็นเมนูที่นักเรียนได้ฝึกการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งการทำกล้วยเขย่า สามารถทำได้ด้วยตนเอง เพื่อรับประทานภายในครอบครัวและสามารถลดรายจ่ายของครอบครัว ในการซื้อขนมขบเคี้ยว และยังสามารถนำมาพัฒนาเป็นอาชีพเสริมให้แก่ครอบครัวได้ในอนาคต อภิปรายผล 1. ประสบความสำเร็จในการทำกล้วยเขย่าเป็นที่น่าพอใจ 2. สมาชิกในกลุ่มมีความสามัคคีในการทำโครงงาน 3. รู้จักการทำโครงงานอย่างเป็นขั้นตอน 4. รู้จักวิธีแก้ไขปัญหา 5. รู้จักการทำงานเป็นกลุ่ม ปัญหา 1. กล้วยน้ำว้าแก่ที่ตัดใหม่ๆจะหายาก ส่วนใหญ่จะเป็นกล้วยที่ตัดมาตั้งบ่มไว้รอขายตอนสุก ทำให้เนื้อนิ่ม ขูดเส้นยาก ทอดไม่กรอบ 2. การปอกเปลือกกล้วยที่ยังไม่สุกจะทำได้ยากและใช้เวลานาน ข้อเสนอแนะ 1. ไม่ควรใช้กล้วยสุกในการทำกล้วยเขย่า เนื่องจากเนื้อจะนิ่มและทอดไม่กรอบ 2. ควรนำกล้วยน้ำว้าแก่มาหั่นหัว/ท้ายออกและแช่ในน้ำก่อนจะปอกเปลือกทำให้กล้วยแกะง่ายขึ้น


18 บรรณานุกรม กล้วยน้ำว้า. (2559). [ออนไลน์]. ได้จาก: https://www.thai-thaifood.com/th/กล้วยน้ำว้า/. [สืบค้นเมื่อ 20 มกราคม 2566]. ปูนแดง และประโยชน์ปูนแดง. (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. ได้จาก: https://www.siamchemi.com/ปูนแดง/. [สืบค้นเมื่อ 26 มกราคม 2566]. น้ำมันพืช : ใช้อย่างไรให้ถูกต้องและปลอดภัย. (2558). [ออนไลน์]. ได้จาก: https://reg7.pwa.co.th/kmr7/?p=118. [สืบค้นเมื่อ 28 มกราคม 2566]. กล้วยน้ำว้า. (2559). [ออนไลน์]. ได้จาก: https://www.thai-thaifood.com/th/กล้วยน้ำว้า/. [สืบค้นเมื่อ 28 มกราคม 2566]. ผงปรุงรส ตัวช่วยพิเศษสำหรับพ่อครัวแม่ครัวยุคใหม่. (2563). [ออนไลน์]. ได้จาก: https://www.wemall.com/blog/13562/ผงปรุงรส-ตัวช่วยพิเศษ. [สืบค้นเมื่อ 29 มกราคม 2566]. เศรษฐกิจพอเพียง. (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. ได้จาก: https://www.excise.go.th/prachinburi/PEOPLE/INFOCENTER/WEBPORTAL162000182 06. [สืบค้นเมื่อ 29 มกราคม 2566]. นรินทร์ เจริญพันธ์. (2559). การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning. สืบค้นเมื่อ 29 มกราคม 2566, https://km.buu.ac.th/article/frontend/article_detail/141.


ภาคผนวก ภาพประกอบกิจกรรม


20


21


22 รายชื่อนักเรียน ที่ ชื่อ -สกุล 2 ด.ช. จิรภัทร์ มากอนันต์ 3 ด.ช. อนาวิน เพชรรอด4 ด.ช. ฐาปนพงศ์ แซ่จิ้ว5 ด.ช. โภควินท์ จันทะแสน6 ด.ช. ธนศักดิ์ เจริญฤทธิ์ 8 ด.ช. ฑีฆายุ วานกล9 ด.ญ. จิลลาภัทร์ แก้วอ่อน 10 ด.ญ. ชญาภา ทองสุวรรณ 11 ด.ญ. ลลิตา ทองทา 12 ด.ญ. สโรชา ชัยโม 13 ด.ญ. เบญจกมล สุทธิมาศ 14 ด.ญ. พัชราภรณ์ พรมฤทธิ์ 15 ด.ญ. กนกพิชญ์ บุญนวล 16 ด.ญ. กัญญาพัชร์ คงงาม 17 ด.ญ. กัญญาวีร์ มือสันทัด 18 ด.ญ. สุทธิรัตน์ ศรีเมืองกาญจนา 19 ด.ญ. กัญนรี จามจุรี 33 *ด.ช. อภิลักษณ์ เพ็ชรรุ่ง 34 *ด.ช. จิรภัทร์ เกตุแก้ว 35 *ด.ช. สิรวิชญ์ พลจันทร์ 37 *ด.ช. ธนโชติ รื่นเริงใจ 38 *ด.ช. คุณากร ปานนก 39 *ด.ช. ธนดล อังศุคราญ 41 *ด.ช. ฉันทณ์พัฒน์ ใบสุวรรณ์ 42 **ด.ช. ปรเมศร์ นวลวัฒน์ 43 **ด.ช. ภูผา ขวยไพบูลย์ 44 **ด.ญ. กัลยา จันทรังสิกุล 45 **ด.ญ. วรัญญา คงวุ่น


23 รายชื่อคุณครูที่ปรึกษา นางอรอุมา ขวัญช่วย นางสาวสรัสวันต์ แก้วสวัสดิ์ นางสาวฉวีวรรณ สังดวงยาง


11 โรงเรียนบ้านบางใหญ่ ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1


Click to View FlipBook Version