The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สไลด์ประกอบเนื้อหาเรื่อง Kingdom Animalia part02

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by todsapon, 2021-04-28 11:30:45

Kingdom Animalia part02

สไลด์ประกอบเนื้อหาเรื่อง Kingdom Animalia part02

Keywords: ชีววิทยา,biology

Phylum Porifera

• Porifera มที ่ีมาจาก Porus (รู) +
Ferre (การมีอย)ู่

• ส่ิงมีชีวิตในไฟลัมนี้ ได้แก่ ฟองน้า
(Sponge) ชนดิ ต่างๆ

• ประมาณ 5,000 ชนิดอยู่ในทะเล มี
เพียง 150 ชนดิ อยูใ่ นนา้ จืด

• จัดอยใู่ นพวก Parazoa

Phylum Porifera

เนือ้ เย่อื -

ชอ่ งภายในลา้ ตัว -

สมมาตร Asymmetry or Radial symmetry

ปลอ้ งลา้ ตวั -

ทางเดนิ อาหาร Channel network

Phylum Porifera

ระบบหายใจ Skin diffusion

ระบบหมุนเวียน -

ระบบขบั ถา่ ย -

ระบบประสาท Coordinating fiber

โครงกระดกู Endoskeleton (Spicule)

Phylum Porifera

การเกดิ ชอ่ งปาก -

ลกั ษณะตัวออ่ น -

การสืบพนั ธ์ุ Budding, Gemmule, Sexual

แหล่งท่พี บ Marine (Some of sponge are
found in fresh water)

Phylum Porifera

• รูปร่างของฟองน้าจะเป็นทรงกระบอกที่
กลวงตรงกลาง และมรี พู รุนอยูโ่ ดยรอบ

• รูพรุนรอบตัวฟองน้าเรียกว่า Ostium
(พหูพจน์ : Ostia)

• ช่ อ ง ก ล า ง ตั ว ฟ อ ง น้ า เ รี ย ก ว่ า
Spongocoel

• รูเปิดขนาดใหญ่ด้านบนฟองน้าเรียกว่า
Osculum

Phylum Porifera

• ร่างกายของฟองน้าประกอบด้วยเซลล์
หลายชนิดเรยี งตวั 2 ชนั้

• เซลล์รอบนอกสุดมีลักษณะแบน
เรยี กว่า Pinacocytes

• เซลล์รอบ Spongocoel มีลักษณะ
เ ป็ น ป ล อ ก ค อ แ ล ะ มี Flagellum
เรียกว่า Choanocytes หรือ Collar
cells

Phylum Porifera

• ตรงกลางระหว่างเซลล์ทั้ง 2 ชน้ั มีสาร
คล้ายวุ้นที่มีเซลล์แบบอะมีบาเคลื่อนตัว
อยู่ เรียกว่า Amoebocytes

• เซลล์ท่ีท้าให้เกิดรู Ostium คือเซลล์
Porocytes ซึ่งพัฒนามาจาก
Pinacocytes บางเซลล์ท่ีปรับ
โครงสรา้ งให้มรี ตู รงกลาง







Phylum Porifera

• รูปร่างของฟองน้าสามารถแบ่งออกได้
เป็น 3 แบบ ตามลักษณะของการ
ห มุ น เ วี ย น น้ า ไ ด้ แ ก่ Asconoid,
Syconoid และ Leuconoid



Phylum Porifera

• ฟองน้ามีโครงสร้างท่ีท้าให้ฟองน้าคง
รูปร่างอยู่ได้ คือ Spicule และ
Spongin

• Spicule หรือ ขวาก มีลักษณะเป็น
แท่งสารท่ีแข็ง อาจมีแฉกเดียวหรือหลาย
แฉกก็ได้

• Spongin มีลกั ษณะเป็นเสน้ ใยโปรตีน







Phylum Porifera

• ฟองน้าสารมารถสืบพันธุ์ได้ท้ังแบบ
อาศยั เพศและไมอ่ าศัยเพศ

• Gemmule เป็นตัวอย่างของการ
สืบพันธ์ุแบบไมอ่ าศัยเพศแบบหนึ่ง โดย
เป็นการแตกหน่อภายใน (Internal
budding)



Phylum Porifera

• การจัดหมวดหมู่ของฟองน้า อาศัย
ลักษณะของโครงร่าง โดยแบ่งได้ 4
classes คือ

• Clacispongiae หรอื Calcarea
• Demospongiae
• Hyalospongiae หรือ Hexactinellida
• Sclerospongiae

Class Calcarea

• ฟองน้าหินปูน
• Spicules มีองค์ประกอบหลักเป็น

หนิ ปนู (Calcium carbonate)
• พบรูปร่างตามการหมุนเวียนของน้าท้ัง

3 แบบ
• พบในทะเลทง้ั หมด (ตามชายฝงั่ )

• Leucosolenia spp., Scypha spp.





Class Demospongiae

• พบมากทีส่ ุดถงึ 95%
• Spicules ซิลิกอนไมเ่ ปน็ รูป 6 แฉก มี

Spongin แทรกอยู่ บางชนดิ พบเฉพาะ
Spongin อย่างเดยี ว
• รปู ร่างแบบ Leuconoid
• Family Spongillidae อยู่ในนา้ จืด

• Spongia spp., Hippospongia

spp. (ฟองนา้ ถูตวั )





Class Hexactinellida

• ฟองน้าแกว้
• Spicules ซิลกิ อนรูป 6 แฉก
• สมมาตรรัศมี มีการจัดเรียนตัวของเซลล์

ตา่ งจากฟองน้าชนดิ อ่นื ๆ ทง้ั หมด
• พบในทะเลน้าลกึ

• Euplectella sp. (Venus’s flower

basket)



Class Sclerospongiae

• ฟองน้าปะการงั
• คล้าย Demospongea แต่มีโครงร่าง

เป็นแผ่นหินปูนหรือเป็นตาข่ายหุ้มตัว
อีกที

• Calcifibrospongia spp.





Phylum Cnidaria

• Cnidaria มที ี่มาจาก Knide (ท้าให้
ระคายเคือง) + Arua (เก่ียวขอ้ งกบั )

• สมัยก่อนเรียกว่า Coelenterata มา
จาก Koilos (กลวง) + Enteron
(ทางเดนิ อาหาร) + Ata (มลี กั ษณะ)

• ปั จ จุ บั น ไ ด้ แ ย ก Coelenterata
ออกเป็น Cnidaria และ
Ctenophora

Phylum Cnidaria

• สมาชิกมจี ้านวน 9,000 ชนดิ ได้แก่
กะพรุน ไฮดรา ดอกไม้ทะเล ปะการัง
และกัลปังหา

Phylum Cnidaria

เนอื้ เย่อื Diploblastic

ชอ่ งภายในลา้ ตวั -

สมมาตร Radial symmetry

ปลอ้ งล้าตวั -
ทางเดนิ อาหาร Incomplete digestive tract
(Gastrovascular cavity)

Phylum Cnidaria

ระบบหายใจ Skin diffusion

ระบบหมุนเวยี น -

ระบบขบั ถ่าย -

ระบบประสาท Nerve net

โครงกระดกู Hydrostatic skeleton (Mesoglea)

Phylum Cnidaria

การเกดิ ชอ่ งปาก -

ลกั ษณะตวั ออ่ น -

การสบื พนั ธ์ุ Budding (Polyb), Sexual (Medusa)

แหลง่ ท่ีพบ Marine (Some of jelly fish are
found in fresh water)

Phylum Cnidaria

• มีเซลล์พิเศษเรียกว่า Cnidocytes ซึ่งมี
อ อ ร์ แ ก เ น ล ล์ เ ป็ น ถุ ง เ ข็ ม พิ ษ เ รี ย ก
Nematocysts

• พ บ ท่ั ว ไ ป บ ริ เ ว ณ Epidermis
(Ectoderm) แต่มีมากบริเวณหนวด
ร อ บ ป า ก แ ล ะ Gastrodermis
(Endoderm)

• ใช้ในการจับอาหาร ป้องกันตัว และยึด
เกาะ





Phylum Cnidaria

• มรี ปู รา่ ง 2 แบบ (Dimorphism)
• Polyp (Hydroid) เป็นรูปรา่ งคลา้ ย

ทรงกระบอก เกาะอยู่กับที่ หันช่องปาก
ข้ึ น ด้ า น บ น มี ลั ก ษ ณ ะ เ ป็ น เ นิ น
(Hypostome) ล้อมรอบด้วยหนวด
(Tentacle)
• ส่วนใหญ่ระยะน้ีมีการสืบพันธ์ุแบบไม่
อาศยั เพศ เชน่ Budding

Phylum Cnidaria

• Medusa (Jellyfish) มลี ักษณะคล้าย
ร่ม หนวดเรียงอยู่ตามขอบร่ม ช่อง
ปากอยู่ด้านล่าง มีลักษณะเป็นงวง
(Manubrium) มี ชั้ น Mesoglea
หนากว่า Polyp

• ส่วนใหญ่ระยะน้ีมีการสืบพันธ์ุแบบ
อาศัยเพศ



Phylum Cnidaria

• Metagenesis เป็นการสืบพนั ธุ์แบบ
สลับระหวา่ งอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ

• หลังจากการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
Embryo จะพัฒนาเป็นตัวอ่อนท่ีมี
Cilia รอบตัว ว่ายน้าอย่างอิสระ เรยี ก
ระยะนว้ี า่ Planula







Phylum Cnidaria

• การจัดจ้าแนกไนดาเรียนในระดับ Class
ใช้ความโดดเด่นของรูปร่างในแต่ละระยะ
เป็นเกณฑ์ ซ่ึงจะแบ่งออกได้เป็น 4
classes คือ

• Hydrozoa
• Scyphozoa
• Cubozoa
• Anthozoa



Class Hydrozoa

• Hydroid
• มีรูปร่างท้ัง 2 แบบ แต่บางชนิดก็พบ

เฉพาะ Polyp หรือ Medusa
• พบทง้ั ในน้าจดื และนา้ เคม็
• เซลล์สบื พนั ธสุ์ ร้างจาก Epidermis

• Hydra, Craspedacusta spp.,
Velella spp., Physalia sp.

(Portuguese man of war)


Click to View FlipBook Version