รายงานวธิ ีการและผลการดาเนนิ งาน
ตามเกณฑ์รางวลั คุณภาพแห่งสานกั งานคณะกรรมการ
การศึกษาข้ันพื้นฐาน (OBECQA)
ประจาปี 2563
โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลยั นครปฐม (พระตาหนักสวนกุหลาบมธั ยม)
299 หมู่ 5 ตาบลศาลายา อาเภอพทุ ธมณฑล จังหวดั นครปฐม
สานักเขตพื้นทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษา นครปฐม
คานา
โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระตาหนักสวนกุหลาบมัธยม) มีนโยบายชัดเจนที่จะยกระดับ
คุณภาพม่งุ สคู่ วามเปน็ เลศิ ในระดับสากล เพอ่ื ใหส้ อดรบั นโยบายของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มี
จุดมุ่งหมายเพ่ือพัฒนา โรงเรียนในโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากลให้มีคุณภาพเทียบเคียงมาตรฐานสากล
มีคุณภาพการบริหารจัดการที่เป็นเลิศ และการบริหารจัดการด้วยระบบคุณภาพ ตามเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ
(Thailand Quality Award : TQA) ทงั้ นี้ สานักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้กาหนดนโยบายสาคัญในการ
ให้โรงเรียนในสังกัด นาเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน (OBECQA) ของ
โครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล ปี 2559 – 2560 มาใชใ้ นการดาเนนิ งานดังกล่าว
เอกสารรายงานวิธีการและผลการดาเนินงานตามแนวทางเกณฑ์รางวัลคุณภาพ แห่งสานักงา น
คณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน (OBECQA) ประจาปีการศึกษา 2559-2560 ของโรงเรียนกาญจนาภิเษก
วิทยาลัย นครปฐม (พระตาหนักสวนกุหลาบมัธยม) เป็นการนาเสนอภาพรวมของโรงเรียนท่ีมีผลการดาเนินงาน และ
การยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่มาตรฐานสากล อันนาไปสู่การขับเคลื่อนการบริหารจัดการด้วยระบบคุณภาพ
เทียบเคยี งมาตรฐานสากล มีสมรรถนะในการแข่งขนั สเู่ วทีโลก
ขอขอบพระคุณคณะกรรมการและบุคลากรทุกฝ่ายของโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม
(พระตาหนักสวนกุหลาบมัธยม) ท่ีได้อนุเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ในการจัดทารายงานให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์
ไว้ ณ โอกาสน้ี
(นางสปุ ราณี อยู่ฤกษ์)
ผ้อู านวยการโรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวิทยาลยั นครปฐม
(พระตาหนกั สวนกุหลาบมัธยม)
ผงั โครงสร้างการบรหิ ารของโรงเรยี น
คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพืน้ ฐาน
สมาคมผูป้ กครอง คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองและครู ผอู้ านวยการสถานศึกษา คณะกรรมการบรหิ ารโรงเรียน
รองผู้อานวยการ รองผู้อานวยการ รองผ้อู านวยการ รองผอู้ านวยการ รองผูอ้ านวยการ
กลุ่มบริหารวชิ าการ กลมุ่ บริหารบุคคล กลมุ่ บรหิ ารงบประมาณ กลมุ่ บริหารท่ัวไป กลมุ่ นโยบายและแผน
หัวหนา้ หัวหน้า หัวหนา้ หัวหนา้ หัวหน้า
กล่มุ บรหิ ารวิชาการ กล่มุ บรหิ ารบุคคล กลมุ่ บรหิ ารงบประมาณ กลุ่มบริหารท่วั ไป กลุม่ นโยบายและแผน
คณะกรรมการกลุม่
1. งานอานวยการสานกั งาน 1. งานอานวยการสานกั งาน 1. งานอานวยการสานักงาน 1. งานอานวยการสานกั งาน 1. งานอานวยการสานกั งาน
2. งานบรหิ ารหลกั สูตร 2. งานวนิ ัยข้าราชการครู 2. งานบรหิ ารการเงิน 2. งานอาคารสถานทแี่ ละ 2. งานแผนงาน
3. งานทะเบยี นนกั เรียน 3. งานอัตรากาลงั สรรหา 3. งานเกบ็ รกั ษาเงิน ส่ิงแวดลอ้ ม 3. งานวจิ ยั และพัฒนา
4. งานวัดและประเมนิ ผล และบรรจแุ ตง่ ตั้ง 4. งานบริหารบญั ชี 3. งานประชาสัมพันธ์ 4. งานสารสนเทศ
5. งานบริหารกลมุ่ สาระการ 4. งานพฒั นาและสง่ เสรมิ 5. งานตรวจสอบบัญชี 4. งานโสตทัศนศกึ ษา 5. งานจดั สรรงบประมาณ
เรยี นรู้ ความก้าวหน้าวชิ าชพี ครู 6. งานบรหิ ารพสั ดุและ 5. งานอนามัยโรงเรยี น 6. งานติดตามและประเมนิ
6. งานห้องสมุด 5. งานระบบการดแู ล สนิ ทรัพย์ 6. งานโภชนาการ นา้ ดม่ื โครงการ
7. งานแนะแนว ชว่ ยเหลือนกั เรียนและงาน 7. งานสารบรรณ 7. งานสวสั ดกิ ารครแู ละ 7. งานควบคุมภายใน
8. งานวจิ ยั ทางการศึกษา เครือข่ายผู้ปกครอง 8. งานระดมทรัพยากร นกั เรียน 8. งานประกนั คณุ ภาพ
9. งานกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น 6. งานวนิ ยั และความ 9. งานยานพาหนะและรถ 8. งานหอพกั นกั เรียน 9. งานรบั นกั เรียน
10. งานคอมพวิ เตอร์ ประพฤตนิ ักเรียน รับ-ส่งนกั เรียน 9. งานประชาสัมพนั ธ์ชมุ ชน 10. งานกลมุ่ กาญจนา
11. งานจดั การเรยี นการสอน 7. งานกจิ กรรมนกั เรยี น 10. งานธนาคารโรงเรยี น ภเิ ษกวทิ ยาลยั
12. งานนิเทศการศกึ ษา 8. งานเบญจวิถี 11. งานสวสั ดกิ ารโรงเรยี น
13. งานพฒั นาแหล่งเรยี นรู้ 9. งานป้องกันและแกไ้ ข
14. งานส่งเสรมิ ความร้สู ู่ ปัญหายาเสพตดิ
ชมุ ชน 10. งานส่งเสริมคณุ ธรรม
15. งานสานกั ทดสอบ จรยิ ธรรม
11. งานสง่ เสริมประชาธปิ ไตย
12. งานรกั ษาความปลอดภัย
และจราจร
13. งานธนาคารความดี
อภธิ านศพั ท์
KPN หมายถึง การส่งเสริมให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุดใน
การบรหิ ารเชงิ กลยุทธ์ 4 ยุทธวธิ ี 9 วถิ ี การทางานตามหลักการ คือ
K : Knowledge Management : การจัดการความรู้
(Knowledge Management) หรือที่เรียกย่อๆ ว่า KM คือ เคร่ืองมือ
เพื่อใชใ้ นการบรรลุเป้าหมายอย่างน้อย 3 ประการไปพร้อมๆ กัน ได้แก่
บรรลุเป้าหมายของงาน บรรลุเป้าหมายการพัฒนาคน และบรรลุ
เป้าหมายการพัฒนาองค์กรไปสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ มีการ
แลกเปล่ียนเรียนรู้เพื่อพัฒนาการทางานที่ดีและเหมาะสมที่สุด เพ่ือให้
องค์กรสามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างสวยงามกลายเป็นองค์กรแห่งการ
เรียนรูแ้ ละสงั คมแหง่ การเรยี นรู้ในทส่ี ดุ
P : Professional/PLC : ความเป็นมืออาชีพ การปฏิบัติด้วย
กระบวนการ PLC (Professional Learning Community) เป็น
กิจกรรมทางวิชาชีพท่ี กลุ่มครู ผู้บริหาร นักการศึกษา และผู้เกี่ยวข้อง
แสวงหาแนวทางหรือข้อตกลงร่วมกัน มีเป้าหมายมุ่งพัฒนา ปรับปรุง
ตนเอง และพัฒนาวชิ าชพี ทางการศึกษา ให้มีความเป็นมืออาชีพเพื่อให้
ผู้รับบริการเกิดการเรียนรู้ท่ี ยั่งยืน เพื่อผู้เรียนและความก้าวหน้าของ
วิชาชีพครูบนพื้นฐานของ การสร้างบรรทัดฐานและค่านิยมร่วมกัน
(Shared values and norms) การปฏิบัติที่มีเป้าหมายร่วมกันคือการ
เรียนรู้ของผู้เรียน (Collective focus on student learning) การ
ร่วมมอื รวมพลงั (Collaboration) การเปิดรับการช้ีแนะการปฏิบัติงาน
(Expert advice and study visit) และการสนทนาท่ีมุ่งสะท้อนผล
การปฏิบัติงาน (Reflection dialogue)
N : Network : การสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและ
การพัฒนาทรัพยากรต่าง ๆ กับองค์การทางการศึกษาท้ังภาครัฐและ
เอกชน ในประเทศ และต่างประเทศ ตลอดจนภาคีเครือข่ายความ
รว่ มมอื ดา้ นตา่ ง ๆ
หมายถึง การบริหารจัดการสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียน
กาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลัย นครปฐม (พระตาหนักสวนกุหลาบมัธยม) โดย
มีรายละเอยี ด 4 ยุทธวิธี 9 วิถี ดังนี้ ยุทธวิธีที่ 1 พัฒนาองค์กรให้พร้อม
บ ริ ก า ร วิ ถี ที่ 1 ป รั บ ป รุ ง โ ค ร ง ส ร้ า ง ก า ร บ ริ ห า ร โ ร ง เ รี ย น
วิถีที่ 2 พัฒนาภูมิทัศน์โรงเรียน ยุทธวิธีที่ 2 พัฒนาวิชาการเพื่อ
การเรียนรู้ วิถีที่ 3 จัดการเรียนการสอนโดยใช้ ICT วิถีที่ 4 พัฒนา
เบญจวถิ ี วถิ กี าญจนา กระบวนการคิด วิถีท่ี 5 พัฒนาการอ่านการเขียน วิถีท่ี 6 พัฒนา
ห้องเรียนคุณภาพ วิถีท่ี 7 ยกระดับความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์และ
ค ณิ ต ศ า ส ต ร์ ยุ ท ธ วิ ธี ท่ี 3 พั ฒ น า ค รู แ ล ะ บุ ค ล า ก ร ท า ง
การศึกษา วิถีท่ี 8 พัฒนาครูและบุคลากรเพื่อการปฏิบัติงาน และ
ยุทธวิธีท่ี 4 พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาสู่มาตรฐานสากล วิถีท่ี 9
พฒั นาโรงเรียนสูม่ าตรฐานสากล
หมายถึง ข้อกาหนดคุณลักษณะจานวน 5 ประการในการพัฒนา
นักเรียนให้มีความเป็นสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี ประกอบด้วย วิถีท่ี 1
เทิดทูนสถาบัน การเคารพ ยกย่อง เชิดชู สถาบันชาติ ศาสนา
พ ร ะ ม ห า ก ษั ต ริ ย์ วิ ถี ที่ 2 ก ตั ญ ญู ค ว า ม รู้ สึ ก ส า นึ ก
ในบุญคุณ ด้ ว ยคว ามเค ารพนับถือ เช่ือฟัง แล ะช่ว ยเหลื อ
ในกิจการงานต่างๆ ต่อ บิดามารดา ครูอาจารย์ ผู้มีพระคุณ และ
สถานศึกษา วิถีท่ี 3 บุคลิกดี ลักษณะของบุคคลที่ปรากฏในด้าน
สุขภาพอนามัย การแต่งกาย ท่วงทีกิริยามารยาท.และการแสดงออก
ทางสังคมที่ทาให้ผู้พบเห็นเกิดความประทับใจในด้านบวก วิถีที่ 4 มี
วินัย วินัย หมายถึงระเบียบ กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ สาหรับควบคุมความ
ประพฤติกาย.วาจา.และจิตใจของคนในสังคมให้เรียบร้อยดีงาม ผู้มี
วนิ ัย คือ ผู้ท่ีปฏิบัติตนตามระเบียบ กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ ของครอบครัว
โรงเรียน และสังคมเป็นปกติวิสัย วิถีที่ 5 ให้เกียรติ เกียรติ หมายถึง
การยกย่องนับถือ ให้เกียรติ หมายถึง การแสดงออกถึงการยกย่องนับ
ถือ ให้ความเคารพ ใหค้ วามสาคัญแกบ่ คุ คลและสถานท่ี
สารบัญ
หนา้
คานา
ผงั โครงสร้างองค์กร
อภิธานศพั ท์
สารบัญ
สารบญั ตาราง
สารบญั ภาพ
บทนา : โครงร่างองค์กร (Organization Profile) ……………………………………………………………………………… 1
1. ลักษณะขององคก์ ร (Organization Description) ……………………………………………………………………….. 1
2. สภาวการณข์ ององค์กร (Organizational Situation)…………………………………………………………………….. 8
หมวด 1 การนาองคก์ ร (Leadership) ……………………………………………………………………………………... 11
1.1 การนาองคก์ รโดยผ้นู าระดับสงู (Senior Leadership) ……………………………………………………..……………11
1.2 การกากับดูแลองค์กรและความรับผิดชอบต่อสงั คม (Governance and Societal Responsibilities)..15
หมวด 2 กลยทุ ธ์ (Strategy)……………………………………………………………………………………………………… 18
2.1 การจดั ทากลยุทธ์ (Strategy Development) …………………………………………………………………………….. 18
2.2 การนากลยุทธไ์ ปปฏบิ ตั ิ (Strategy Implementation)…………………………………………………………………. 27
หมวด 3 นกั เรยี นและผู้มีสว่ นได้ส่วนเสยี (Student and Stakeholder)……………………………………….. 31
3.1 เสยี งของนักเรยี นและผู้มีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี (VOICE OF THE STUDENT and Stakeholder) ……………...31
3.2 ความผกู พันของนกั เรยี นและผูม้ สี ่วนไดส้ ่วนเสีย (Student and Stakeholder Engagement) ………... 35
หมวด 4 การวดั การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้ (Measurement, Analysis and Knowledge
Management)……………………………………………………………………………………………………………………………….. 41
4.1 การวดั การวิเคราะห์และการปรับปรงุ ผลการดาเนนิ การของโรงเรยี น (Measurement , Analysis and
Improvement of Organization Performance) ……………………………………………………………………………. 42
4.2 การจดั การความรู้ สารสนเทศ และเทคโนโลยีสารสนเทศ (Knowledge Management, Information
and information Technology) ……………………………………………………………………………………………………. 45
หมวด 5 มุ่งเน้นบุคลากร (Workforce) …………………………………………………………………………………… 50
5.1 สภาพแวดลอ้ มของบุคลากร (Workforce Environment) ……………………………………………………………. 50
5.2 ความผกู พันของบุคลากร (Workforce Engagement) …………………………………………………………………56
หมวด 6 การปฏบิ ัตกิ าร (Operations) ……………………………………………………………………………………. 60
6.1 กระบวนการทางาน (Work Process) ………………………………………………………………………………………….60
6.2 ประสิทธผิ ลของการปฏิบัตกิ าร (Operational Effectiveness) …………………………………………………….. 67
สารบญั (ต่อ)
หน้า
หมวด 7 ผลลัพธ์ (RESULTS) ……………………………………………………………………………………………… 71
7.1 ผลลพั ธด์ ้านหลักสูตรและกระบวนการ : ผลลัพธก์ ารดาเนินการดา้ นหลักสตู รและประสทิ ธิผลของ
กระบวนการ (Product and Process RESULTS) …………………………………………………………………………….. 71
7.2 ผลลพั ธ์ด้านนกั เรยี นและผมู้ สี ่วนได้สว่ นเสีย (STUDENT and Stakeholder –Focused RESULTS)…. 76
7.3 ผลลัพธด์ ้านบคุ ลากร (WORKFORCE-Focused RESULT) …………………………………………………………….77
7.4 ผลลพั ธ์ด้านการนาองค์กรและการกากบั ดูแลองค์กร (Leadership and Governance Results) ……… 81
7.5 ผลลัพธด์ า้ นการเงนิ และด้านการตลาด (Financial and Market Results) …………………………………….. 84
สารบญั ตาราง
หนา้
ตารางท่ี 1 แสดงจานวนขา้ ราชการและบคุ ลากรทางการศึกษา จาแนกตามเพศ ตาแหนง่ วิทยฐานะ และ
วฒุ ิทางการศึกษา ............................................................................................................................. ............... 3
ตารางท่ี 2 อาคารสถานท่โี รงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลยั นครปฐม (พระตาหนักสวนกุหลาบมธั ยม) ...........4
ตารางท่ี 3 แสดงความต้องการและความคาดหวงั ของผู้เรยี นและกลุ่มผู้มสี ่วนไดส้ ว่ นเสยี .............................. 7
ตารางที่ 4 แสดงการจาแนกประเภทนกั เรียนปัจจบุ ันและความต้องการ ความคาดหวงั ที่สาคัญ ....................7
ตารางที่ 5 สภาพแวดลอ้ มการแข่งขัน ปีการศกึ ษา 2561-2563 ................................................................... 8
ตารางท่ี 6 ปัจจยั สาคัญที่มีผลตอ่ ความสาเรจ็ ของโรงเรียน ............................................................................. 8
ตารางที่ 2.1 แสดงแผนกลยทุ ธ์วัตถุประสงค์เชงิ กลยุทธ์กิจกรรม/โครงการตวั ชวี้ ดั ความสาเร็จและเป้าหมาย..23
ตารางท่ี 3.1 แสดงรายละเอยี ดประเภทและช่องทางข้อร้องเรยี นของนักเรียนและผู้มีสว่ นได้ส่วนเสีย………… 40
ตารางที่ 5.1 ตารางนโยบาย และสิทธปิ ระโยชนข์ องข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รบั ...............56
ตารางท่ี 7. 1 แสดงรอ้ ยละของนกั เรียนชนั้ ม.1-ม.6 ท่มี ีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนอยู่ในระดับ ดีขนึ้ ไป ............71
ตารางที่ 7. 2 แสดงผลการประเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะห์และเขียนสอ่ื ความ ระดบั ดขี น้ึ ไป ........................... 72
ตารางที่ 7. 3 แสดงผลการประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนระดบั ดีข้ึนไป .............................. 72
ตารางท่ี 7. 4 แสดงคะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละผลสัมฤทธก์ิ ารทดสอบทางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐานระดับชาติ (O–NET)
ของนักเรียนระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3 และระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 เทียบกบั โรงเรียนคู่เทียบในการ
แข่งขัน ............................................................................................................................. ............................... 72
ตารางที่ 7. 5 ตารางการศึกษาตอ่ ระดับอุดมศึกษาของโรงเรียนกาญจนาภิเษกวทิ ยาลัย นครปฐม (พระตาหนัก
สวนกหุ ลาบมัธยม) เปรียบเทียบกับ โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั สพุ รรณบรุ ี .......................................... 73
ตารางท่ี 7. 6 แสดงสดั ส่วนการรับนกั เรียนของโรงเรยี นกาญจนาภิเษกวทิ ยาลัย นครปฐม (พระตาหนกั สวน
กหุ ลาบมธั ยม) ทีม่ ีสว่ นแบง่ ตลาดเพ่ิมมากข้ึนเทยี บกับคู่เทียบ (หอ้ งเรียนปกติ ปกี ารศึกษา 2561) ...............73
ตารางท่ี 7. 7 แสดงคา่ ร้อยละของนักเรยี นท่เี รยี นจบหลกั สูตรระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับ ชนั้
มัธยมศึกษาตอนปลาย .................................................................................................................................... 74
ตารางที่ 7. 8 แสดงนกั เรียนที่เรียนจบการศกึ ษาหลักสตู รการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน สามารถเข้าศกึ ษาตอ่
ระดับอดุ มศึกษา ..............................................................................................................................................74
ตารางที่ 7. 9 ความพึงพอใจของครแู ละนักเรียนต่อระบบเตรียมความพร้อมต่อภาวะฉุกเฉิน ........................ 75
ตารางที่ 7.10 แสดงจานวนนักเรยี นทจี่ บหลกั สตู รการศึกษาภาคบงั คับ ต้องการเขา้ ศึกษาต่อในหลกั สูตร
การศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน ในโรงเรียนเดมิ .............................................................................................................. 77
ตารางที่ 7.11 แสดงร้อยละของครแู ละบคุ ลากรมขี ีดความสามารถดา้ นระบบการจดั การเรยี นรู้ ปกี ารศกึ ษา
2561-2563 ............................................................................................................................. ........................77
ตารางที่ 7.12 แสดงวฒุ ิการศึกษาของครูโรงเรยี นกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั นครปฐม(พระตาหนักสวนกหุ ลาบ
มัธยม) ปกี ารศึกษา 2561-2563 ..................................................................................................................... 78
สารบญั ตาราง (ตอ่ )
หน้า
ตารางท่ี 7.13 แสดงขอ้ มลู วิทยะฐานะของครูโรงเรียนกาญจนาภิเษกวทิ ยาลยั นครปฐม (พระตาหนักสวน
กุหลาบมัธยม) ปกี ารศึกษา 2561-2563 ......................................................................................................... 78
ตารางท่ี 7.14 อัตรากาลงั คร:ู นักเรียน .............................................................................................................78
ตารางที่ 7.15 ร้อยละการผู้ถูกไลอ่ อก/เลิกจ้าง อัตราการลาออก อัตราการลาป่วย ลากจิ หรือขาดงานรวมไม่
เกิน 30 วนั ......................................................................................................................................................79
ตารางท่ี 7.16 ผลลัพธด์ ้านความสาเรจ็ ทีส่ าคญั ตามวิสัยทศั น์ พนั ธกิจและการสร้างค่านิยมองคก์ ร ................82
ตารางท่ี 7.17 แสดงผลการดาเนินการตามแผนกลยทุ ธ์ ปี การศึกษา 2561-2563 ........................................ 83
ตารางที่ 7.18 แสดงผลการจัดสรรงบประมาณของโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม(พระตาหนักสวน
กหุ ลาบมธั ยม) ................................................................................................................................................. 84
ตารางที่ 7.19 แสดงร้อยละของบุคลากรและผู้ที่เก่ียวข้องมีความพึงพอใจ ต่อการใหบ้ ริการด้านการเงินการ
บญั ชี การพัสดุ และการควบคุมภายใน ปกี ารศึกษา 2561-2564 .................................................................. 85
ตารางท่ี 7.20 แสดงผลส่วนแบง่ การตลาดและการรับนักเรียน........................................................................ 86
สารบัญภาพ
หน้า
แผนภาพท่ี 1 แผนผงั โครงสร้างองคก์ ร ........................................................................................................... 6
แผนภาพท่ี 2.1 กระบวนการวางแผนกลยุทธ์ ................................................................................................. 19
แผนภาพท่ี 2.2 รูปแบบการบริหารโรงเรยี น “4 กลยทุ ธ์ 9 วิถี เบญจวถิ ี วิถีกาญจนา” …………………………….21
แผนภาพท่ี 2.3 กระบวนการพฒั นาในการจัดทาแผนปฏบิ ัติการ .................................................................... 28
แผนภาพที่ 2.4 กระบวนการงบประมาณและมาตรฐานทางการเงนิ ................................................................28
แผนภาพท่ี 3.1 กระบวนการรับฟงั เสยี งของนักเรียนและผู้มสี ว่ นได้สว่ นเสยี ……………………………………………31
แผนภาพท่ี 3.2 กระบวนการประเมินความพงึ พอใจและความผกู พันของนักเรียนและผู้มีสว่ นได้สว่ นเสีย ....34
แผนภาพท่ี 3.3 กระบวนการจัดการความสมั พนั ธก์ บั นักเรียนและผูม้ สี ่วนไดส้ ว่ นเสีย .................................... 38
แผนภาพท่ี 3.4 การจดั การข้อร้องเรียนของนักเรยี นและผู้มีส่วนไดส้ ว่ นเสยี …………………………….................. 40
แผนภาพท่ี 4.1 กระบวนการวดั การวิเคราะหแ์ ละการปรับปรงุ ผลการดาเนินการของโรงเรียน .................... 41
แผนภาพที่ 4.2 กระบวนการจัดการข้อมลู สารสนเทศและการจัดการความรู้……………………………..................45
แผนภาพท่ี 4.3 แสดงการตรวจสอบคณุ ภาพของข้อมลู และสารสนเทศ …………………………….........................46
แผนภาพที่ 5.1 กระบวนการประเมินขีดความสามารถและอัตรากาลังทตี่ อ้ งการ …………………………………….50
แผนภาพที่ 5.2 กระบวนการจัดการบุคลากรใหม่ …………………………….…………………………….........................51
แผนภาพท่ี 5.3 กระบวนการจดั การสภาพแวดลอ้ มในการทางาน ……………………………................................. 53
แผนภาพที่ 5.4 กระบวนการประเมินระดบั ความผูกพันของบคุ ลากร และนาผลที่ได้ไปใชป้ ระโยชน์ ............ 56
แผนภาพที่ 5.5 ความกา้ วหน้าในอาชพี การงาน …………………………….……………………………............................59
แผนภาพที่ 6.1 กระบวนการพัฒนาหลักสตู รโรงเรยี นกาญจนาภิเษกวิทยาลยั นครปฐม (พระตาหนักสวน
กหุ ลาบมัธยม) …………………………….…………………………….…………………………….…………………………….............61
แผนภาพที่ 6.2 กระบวนการพัฒนาระบบดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรียน …………………………….…………………………… 62
แผนภาพท่ี 7.1 ความพึงพอใจของนักเรียนและผมู้ สี ่วนได้สว่ นเสยี ต่อการบริหารจดั การสถานศึกษา ปี
การศกึ ษา 2561-2563 …………………………….…………………………….…………………………….………………………… 76
แผนภาพท่ี 7.2 ร้อยละการพัฒนาตนเองอยา่ งน้อย 20 ชั่วโมง/ปีการศึกษา ……………………………..................80
แผนภาพที่ 7.3 ร้อยละการเข้าร่วมชมุ ชนแหง่ การเรยี นรวู้ ชิ าชพี (PLC) ..........................................................81
แผนภาพท่ี 7.4 ร้อยละการพัฒนาตนเองเพอ่ื การเล่อื น/ขอมีวทิ ยฐานะ ……………………………......................... 81
สารบญั ตาราง (ตอ่ )
หน้า
ตารางท่ี 7.13 แสดงขอ้ มลู วิทยะฐานะของครูโรงเรยี นกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระตาหนักสวน
กุหลาบมัธยม) ปีการศึกษา 2561-2563 ......................................................................................................... 78
ตารางที่ 7.14 อัตรากาลงั ครู:นกั เรยี น ............................................................................................................. 78
ตารางที่ 7.15 รอ้ ยละการผู้ถูกไลอ่ อก/เลิกจ้าง อัตราการลาออก อตั ราการลาป่วย ลากิจหรือขาดงานรวมไม่
เกิน 30 วัน ......................................................................................................................................................79
ตารางท่ี 7.16 ผลลพั ธด์ า้ นความสาเร็จท่สี าคัญตามวสิ ยั ทศั น์ พนั ธกิจและการสรา้ งคา่ นยิ มองคก์ ร ................82
ตารางที่ 7.17 แสดงผลการดาเนนิ การตามแผนกลยุทธ์ ปี การศกึ ษา 2561-2563 ........................................ 83
ตารางท่ี 7.18 แสดงผลการจัดสรรงบประมาณของโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลยั นครปฐม(พระตาหนกั สวน
กุหลาบมธั ยม) ............................................................................................................................. .................... 84
ตารางท่ี 7.19 แสดงร้อยละของบคุ ลากรและผูท้ ่ีเกี่ยวข้องมีความพงึ พอใจ ตอ่ การให้บริการดา้ นการเงินการ
บัญชี การพสั ดุ และการควบคมุ ภายใน ปีการศกึ ษา 2561-2564 .................................................................. 85
ตารางที่ 7.20 แสดงผลส่วนแบง่ การตลาดและการรบั นักเรียน........................................................................86
บทนา : โครงร่างองค์กร (Organization Profile)
1. ลักษณะขององคก์ ร (Organization Description)
ก. สภาพแวดลอ้ มขององค์กร
โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระตาหนักสวนกุหลาบมัธยม) ตั้งอยู่เลขที่ 299 หมู่ 5
ถนนศาลายา-บางภาษี ตาบลศาลายา อาเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม รหัสไปรษณีย์ 73170 โทรศัพท์
02-4313614-5, 034-297663 โทรสาร 034-297664 และเว็บไซต์ http://www.kjn.ac.th ก่อต้ังเมื่อวันที่
27 กุมภาพันธ์ 2538 มีเนื้อที่ 38 ไร่ 9.67 ตารางวา ก่อต้ังข้ึนเนื่องในโอกาสมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จ
พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 50 ปี
ในวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2539 กระทรวงศึกษาธิการ ได้สานึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงได้จัดต้ังโรงเรียน
มธั ยมศึกษา เฉลิมพระเกยี รติขนึ้ โดยมีจดุ มุง่ หมายเพ่อื ใหเ้ ป็นอนุสรณ์สถานทางการศึกษาถวายแก่พระองค์ จานวน 9 แห่ง
ทว่ั ประเทศ โดยมชี ือ่ เมือ่ แรกต้ังว่า “โรงเรียนเฉลมิ พระเกยี รตพิ ระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรง
ครองราชย์ 50 ป”ี เมอ่ื กระทรวงศึกษาธกิ ารได้นาความขึ้นกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระ
บรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
พระราชทานชอ่ื โรงเรยี นทจี่ ดั ตงั้ ขน้ึ ใหม่ นวี้ า่ “โรงเรยี นกาญจนาภิเษกวิทยาลัย” และให้ต่อท้ายด้วยช่ือจังหวัดที่ตั้งอยู่ เป็น
โรงเรียนประเภทสหศึกษาเปิดทาการสอนตั้งแต่ระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รองรับ
นักเรียนที่จะจบการศึกษาจากโรงเรียนพระตาหนักสวนกุหลาบ บุตรข้าราชบริพาร ทหาร ตารวจตระเวนชายแดน และ
ประชาชนท่ัวไปในท้องท่ีจงั หวดั นครปฐม รับนกั เรียนทงั้ ประเภทประจาและไปกลบั
(1) หลกั สูตร (Product Offerings)
โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระตาหนักสวนกุหลาบมัธยม) จัดการเรียนการสอนโดยใช้หลักสูตร
โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระตาหนักสวนกุหลาบมัธยม) พุทธศักราช 2562 ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) เปิดสอนหลักสูตรในระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น
และช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย สอดคล้องกับหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2561 และมีการจัด
กล่มุ การเรียนตามความสามารถและความถนัดของผู้เรียน ดังนี้ ระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น มี 3 กลุ่มห้องเรียน ดังน้ี 1)
กล่มุ หอ้ งเรียนส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ กลุ่มโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย ท่ีมุ่งเน้น
ส่งเสริมพัฒนาศักยภาพให้กับผู้เรียนท่ีมีความเป็นเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 2) กลุ่มห้องเรียนปกติ และ
3) กลุ่มห้องเรียนโครงการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษ (English Program)
เพ่ือสนับสนุนให้จัดการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายประกอบด้วย มี 3 กลุ่ม
ห้องเรียน ดังนี้ 1) กลุ่มห้องเรียนพิเศษ ประกอบด้วย ห้องเรียนส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์และ
คณติ ศาสตร์ กลมุ่ โรงเรยี นกาญจนาภิเษกวิทยาลัย ที่มุ่งเน้นส่งเสริมพัฒนาศักยภาพให้กับผู้เรียนที่มีความเป็นเลิศทางด้าน
1
วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ห้องเรียนแผนการเรียนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์(เตรียมวิศวกรรมศาสตร์) และห้องเรียน
พิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และส่ิงแวดล้อม (SMTE) สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน 2)
กลุ่มห้องเรียนปกติ ประกอบดว้ ย หอ้ งเรียนแผนการเรียนวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ห้องเรียนแผนการเรียนคณิตศาสตร์ -
ภาษาอังกฤษ ห้องเรียนแผนการเรียนภาษาอังกฤษ-จีน ห้องเรียนแผนการเรียนภาษาอังกฤษ-ฝรั่งเศส ห้องเรียนแผนการ
เรียนภาษาอังกฤษ-เยอรมัน และ 3) กลุ่มห้องเรียนโครงการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการเป็น
ภาษาอังกฤษ (English Program) เพือ่ สนับสนุนใหจ้ ดั การเรียนการสอนเปน็ ภาษาอังกฤษ
กลไกท่ีโรงเรียนใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนจบหลักสูตรหรือโปรแกรมการเรียนการสอนที่ส่งผลต่อ
ความสาเร็จของโรงเรียน คือ การบริหารจัดการหลักสูตร โดยการปรับปรุงหลักสูตรตอบสนองตามความต้องการของ
ผเู้ รยี น และสอดแทรกหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จัดรายวิชาในหลักสูตรที่สอนนอกเหนือจากรายวิชาบังคับ ตาม
โครงสรา้ งของหลกั สตู ร ตามแนวทางโรงเรียนมาตรฐานสากล คือ จัดรายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS1)
รายวิชาการส่ือสารและนาเสนอ (IS2) และกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ (IS3) และสอดแทรกการเรียนรู้
บูรณาการกระบวนการ STEM ศึกษา โดยใช้กลไกในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยคานึงถึงปัจจัยท่ีเก่ียวข้องทุก
ด้าน ความต้องการและความสนใจของผู้เรียน ผู้ปกครองและชุมชน มีความพร้อมด้านบุคลากร อาคารสถานที่ การ
สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์และแหล่งเรียนรู้ทั้งในและนอกโรงเรียน และการนิเทศติดตามประเมินผลเพื่อพัฒนาและปรับปรุง
การนาหลกั สตู รไปใชจ้ ดั การศกึ ษาทมี่ ุง่ พัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา
ใช้กลไกของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีความสมบูรณ์ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ
สติปัญญา ความสามารถ คุณธรรม จริยธรรม และมีวิถีชีวิตที่เป็นสุขตามที่สังคมมุ่งหวัง ด้วยการส่งเสริม พัฒนา การ
ป้องกัน และการแก้ไขปญั หาเพอ่ื ให้นกั เรยี นได้พัฒนาเตม็ ตามศกั ยภาพ มคี ณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ มีภูมิคุ้มกันทางจิตใจท่ี
เข้มแข็ง คณุ ภาพชวี ติ ท่ดี ี มที ักษะการดารงชีวิต
มกี ลไกการบรหิ ารจัดการอย่างมีส่วนร่วม ท่ีเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเก่ียวข้องกับการจัดการศึกษาได้เข้ามามีส่วนร่วม
คดิ ร่วมวางแผน ร่วมทางาน ในการบริหารโรงเรยี นใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย เกดิ ประโยชน์อย่างสงู สดุ
(2) วสิ ัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าประสงคข์ องโรงเรียน (VISION, MISSION and VALUES)
วิสั ยทั ศน์ (Vision) “โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลั ย นครปฐม (พระต าหนั กสวนกุหลาบมั ธยม)
เปน็ องค์กรแหง่ การเรยี นรู้ เชดิ ชูคุณธรรม เลิศลา้ วชิ าการ สืบสานงานพระราชดาริ ธารงความเปน็ ไทย ก้าวไกลส่สู ากล”
พันธกจิ (Mission)
1. ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความเป็นเลิศทางวิชาการตามมาตรฐานการศึกษา สามารถใช้ภาษาเพื่อการส่ือสาร
บรู ณาการความรู้ มุ่งส่มู าตรฐานสากล
2. ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม ตามหลักเบญจวิถี(เทิดทูนสถาบัน กตัญญู บุคลิกดี มีวินัย ให้
เกยี รติ) และมคี วามสุขบนพื้นฐานความเป็นไทย
3. ส่งเสริมให้ผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาน้อมนาแนวพระราชดาริตามศาสตร์พระราชา และพระ
บรมราโชบายดา้ นการศึกษามาสูก่ ารปฏิบัติ เพือ่ ให้เป็นพลเมืองดมี ีจิตอาสา
2
4. พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ระบบการจัดการเรียนรู้และส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการทาง
วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วิศวกรรม คณิตศาสตร์(STEM)และภาษาต่างประเทศ เพื่อสร้างทักษะพ้ืนฐานท่ีเชื่อมโยงสู่
การศึกษาต่อการสรา้ งอาชีพและการมีงานทา
5. พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ส่งเสริมให้ผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นผู้มี
ความสามารถในการใชส้ ่อื เทคโนโลยี และนวตั กรรมทางการศกึ ษา
6. ส่งเสรมิ พฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาให้มีความเชยี่ วชาญตามมาตรฐานวชิ าชพี
7. สง่ เสรมิ ระบบการบรหิ ารจัดการทีเ่ นน้ การมีส่วนร่วมและกระจายอานาจตามหลักธรรมาภิบาล
ค่านิยม (VALUES) “องค์กรแหง่ การเรียนรู้”
สมรรถนะหลักของโรงเรียน (CORE COMPETENCIES) ประกอบด้วย 1) การนาองค์กรอย่างมีวิสัยทัศน์ 2) การ
มุ่งผลสัมฤทธ์ิ 3) การบริการท่ีดี 4) การพัฒนาตนเอง และ 5) การทางานเป็นทีม สาหรับการขับเคล่ือน เพื่อให้โรงเรียน
บรรลุพันธกจิ
วัฒนธรรมโรงเรยี น “เบญจวิถี วิถกี าญจนา (เทดิ ทนู สถาบัน กตัญญู บคุ ลกิ ดี มีวินัย ให้เกยี รติ)”
(3) ลักษณะโดยรวมของบุคลากร (WORKFORCE Profile)
โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลยั นครปฐม (พระตาหนักสวนกหุ ลาบมัธยม) มีการจาแนกบุคลากร ดังตารางตอ่ ไปน้ี
ตารางที่ 1 จานวนข้าราชการและบคุ ลากรทางการศกึ ษา จาแนกตามเพศ ตาแหนง่ วิทยฐานะ และวฒุ ิทางการศกึ ษา
ประเภท จานวนขา้ ราชการ
รวม ช ญ ตาแหน่งวทิ ยฐานะ วุฒิการศกึ ษา
ไม่มี ชานาญ ชานาญ เช่ียว เชยี่ วชาญ ตรี โท เอก
วทิ ยฐานะ การ การ ชาญ พเิ ศษ
พเิ ศษ
ฝา่ ยบรหิ าร 5 32 - 1 3 1 - -5-
ภาษาไทย 11 - 11 2 2 7 - - 65-
สังคมศกึ ษา ศาสนา และ 10 1 9 3 2 5 - - 37-
วฒั นธรรม
สุขศกึ ษาและพลศึกษา 5 32 - 3 2 - - 32-
วทิ ยาศาสตร์ 19 6 13 8 5 5 1 - 8 11 -
คณิตศาสตร์ 16 4 12 7 3 6 - - 5 10 1
ภาษาตา่ งประเทศ 16 2 14 5 7 4 - - 88-
การงาน อาชีพและ 13 4 9 2 4 7 - - 76-
เทคโนโลยี
ศลิ ปศึกษา 4 31 - 2 2 - - 31-
แนะแนว/บรรณารกั ษ์ 2 -2 1 - 1 - - 11-
รวม 101 26 75 28 29 42 2 - 44 56 1
ทีม่ า : ข้อมูลสารสนเทศกลุ่มบรหิ ารงานบุคคล (ขอ้ มูล ณ วันท่ี 10 มิถุนายน 2563)
3
ปัจจัยท่ีสาคัญท่ีทาให้บุคลากรมุ่งม่ันในการทางานเพื่อบรรลุวิสัยทัศน์และพันธกิจของโรงเรียน คือ องค์ประกอบ
ของความผูกพันขององค์กร ได้แก่ 1) การทางานเป็นทีม 2) บรรยากาศการทางานท่ีดี 3) การสื่อสาร
ทีด่ ี 4) แรงจงู ใจในการทางาน และ 5) ความผูกพนั ตอ่ องค์กร
มีกลุ่มต่าง ๆ ภายในโรงเรียนทาหน้าท่ีเจรจาสิทธิประโยชน์ให้กับนักเรียน บุคลากร และโรงเรียน ประกอบด้วย
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน คณะกรรมการบริหารกลุ่มโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย คณะกรรมการบริหาร
สหวิทยาเขต สมาคมผ้ปู กครองและครูฯ คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองนักเรยี น คณะกรรมการสภานักเรยี น เปน็ ตน้
สิทธิประโยชน์และข้อกาหนดพิเศษด้านสุขภาพและความปลอดภัยที่สาคัญของบุคลากร อาทิเช่น งานอนามัย
กลมุ่ บรหิ ารงานท่วั ไป ดาเนินการจัดทาประกนั ชีวติ หมใู่ ห้กบั บุคลากร ตรวจสุขภาพประจาปี ประสานงานกับหน่วยงานต้น
สังกัดท่ีเก่ียวข้องกับสุขภาพ ค่ารักษาพยาบาล ค่าประกันอุบัติเหตุ ค่าการศึกษาบุตร ประกันสังคม เป็นต้น การส่งเสริม
สุขภาพของบุคลากร เช่น KPN FINNESS ศูนย์ออกกาลังกาย สนามแบตมินตัน เป็นต้น ตลอดจนสวัสดิการการดูแล เช่น
การเสรมิ สร้างขวัญและกาลงั ใจให้กับบคุ ลากร การศึกษาดงู าน ระบบรกั ษาความปลอดภยั มาตรฐานสขุ าภบิ าล เป็นตน้
(4) สนิ ทรัพย์
โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระตาหนักสวนกุหลาบมัธยม) มีอาคารเรียน เทคโนโลยี ครุภัณฑ์
และอปุ กรณ์ทสี่ าคัญตอ่ การบริหารจัดการหลกั สตู ร ดงั น้ี
ตารางที่ 2 อาคารสถานท่ีโรงเรยี นกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั นครปฐม (พระตาหนักสวนกุหลาบมัธยม)
อาคารสถานท่ี จานวน อาคารสถานที่ จานวน
อาคารเรียนแบบพเิ ศษ 6 ชน้ั 1 หลงั อาคารหอสมุดและแหลง่ เรยี นรู้ 1 หลงั
อาคารอเนกประสงค์ 3 ชนั้ 1 หลัง อาคารหอพักนกั เรียน 2 หลงั
อาคารเรยี นแบบ 324 ล 1 หลัง แฟลตครู แบบ 207 ล 2 ช้นั 1 หลัง
หอประชมุ 101ล/27 1 หลงั อาคารชั่วคราว 1 หลัง
แฟลตนักการภารโรง 3 ชน้ั 1 หลัง หอ้ งน้า 79 ห้อง
โรงเรียนมีเทคโนโลยีและอุปกรณ์ส่ิงอานวยความสะดวกท่ีสาคัญ ๆ คือ มีห้องปฏิบัติการประจากลุ่มสาระการ
เรียนรู้ต่าง ๆ โดยมีส่ือ วัสดุที่ทันสมัย เช่น เคร่ืองโปรเจคเตอร์ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น มีห้องปฏิบัติ การคอมพิวเตอร์
จานวน 4 ห้อง เปน็ ตน้
(5) กฎระเบยี บข้อบงั คับ
กฎระเบียบข้อบังคับที่เก่ียวข้องกับการดาเนินการของโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม(พระตาหนัก
สวนกุหลาบมัธยม ประกอบดว้ ย กลุ่มบรหิ ารวิชาการ ประกอบดว้ ย พระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่
แก้ไขเพ่ิมเติม,ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการสถานศึกษาพ้ืนฐาน
พ.ศ. 2544,ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง การเทียบโอนผลการเรียนการศึกษาข้ันพื้นฐาน และการศึกษา
ระดบั อุดมศึกษา, ระดับต่ากว่าปริญญา,ประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการเรอื่ งหลักเกณฑ์และวิธีการปรับใช้หลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551,ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยหลักฐานในการรับนักเรียน นักศึกษาเข้าเรียนใน
สถานศึกษา, ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ.2549,พะราชบัญญัติ
4
ลูกเสือแห่งชาติ พ.ศ.2551, คาส่ังกระทรวงศึกษาธิการเรื่องให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551,
กฎกระทรวงการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา พ.ศ. 2561,ประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ เร่ือง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษาระดับ
ปฐมวัยและระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน,พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ 2545 ระเบียบโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยา
ลัย นครปฐม(พระตาหนักสวนกุหลาบมัธยม) ว่าด้วยการวัดและประเมินผลตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 เปน็ ต้น
กลุ่มบริหารงบประมาณ ประกอบด้วย พะราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ.2502 แก้ไขเพิ่มเติม ฉ.6, ระเบียบ
คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินว่าด้วยการกาหนดมาตรฐานการควบคุมภายใน พ.ศ.2544 ว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ.
2548, ระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2544, พะราชบัญญัติ การจัดซ้ือจัดจ้างฯ พ.ศ.2560, ระเบียบ
กระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การเก็บรักษาเงินและการนาเงินส่งคลัง พ.ศ.2551, ระเบียบกระทรวงการคลัง
ว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเก่ียวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ.2545, พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเก่ียวกับการ
รักษาพยาบาล พ.ศ.2553, ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร พ.ศ.2551,
ระเบยี บกระทรวงการคลงั ว่าดว้ ยการเบิกค่าใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทางไปราชการ พ.ศ.2550 เป็นตน้
กลุม่ บริหารงานบุคคล ประกอบด้วย พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการฉบับที่ 2 พ.ศ.
2553, พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.
2551, กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการเล่ือนข้ันเงินเดือนครูฯ และวิธีการย้ายครูฯ ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการ
กาหนดเวลาทางาน และ วันหยุดราชการของสถานศึกษา พ.ศ.2547, พะราชบัญญัติ อานวยความสะดวกในการพิจารณา
อนุญาตของทางราชการ พ.ศ.2558, พะราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539, พะราชบัญญัติข้อมูล
ขา่ วสารราชการ พ.ศ.2540 เป็นต้น
กลุ่มบริหารทั่วไป ประกอบด้วย พระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. 2558, ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วย การพา
นักเรียน และนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา พ.ศ. 2548, พระราชบัญญัติรถยนต์ ว่าด้วยการขออนุญาตและการอนุญาตให้
ใช้รถในการรับจ้างรับส่งนักเรียน พ.ศ. 2547, พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และภาพแวดล้อมในการ
ทางาน พ.ศ. 2554, พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546, กฎกระทรวงกาหนดอัตราค่าจ้างให้ผู้บริการจ้างออกแบบ
หรือควบคุมงานก่อสร้าง พ.ศ. 2562 บัญชีอัตราค่าจ้างผู้ให้บริการงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง บัญชี 1
สาหรับประเภทงานสถาปัตยกรรม, กฎกระทรวงกาหนดการรับน้าหนัก ความต้านทาน ความคงทนของอาคาร และ
พ้ืนดินที่รองรับอาคารในการต้านทานแรงส่ันสะเทือนของแผ่นดินไหว พ.ศ. 2564, พะราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.
2522 หรือท่ีแกไ้ ขเพมิ่ เติม เปน็ ตน้
ข. ความสัมพันธร์ ะดับองคก์ ร (Organizational Relationships)
(1) โครงสร้างองค์กร (Organizational Structure) โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระตาหนัก
สวนกหุ ลาบมัธยม) ไดจ้ ัดโครงสรา้ งองคก์ รเพอื่ การบริหารงาน ดงั นี้
5
สมาคมผปู้ กครอง คณะกรรมการเครอื ขา่ ยผู้ปกครองและ ผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา คณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน
ครู
รองผอู้ านวยการ
รองผ้อู านวยการ รองผูอ้ านวยการ กลุ่มบรหิ ารงบประมาณ รองผ้อู านวยการ รองผ้อู านวยการ
กลมุ่ บรหิ ารวิชาการ กลุ่มบริหารงานบคุ คล กลุ่มบรหิ ารท่วั ไป กลมุ่ นโยบายและแผน
หัวหนา้
หัวหนา้ หัวหนา้ กลุ่มบรหิ ารงบประมาณ หัวหน้า หวั หน้า
กลุม่ บรหิ ารวชิ าการ กลมุ่ บรหิ ารงานบุคคล กลุม่ บริหารทัว่ ไป กล่มุ นโยบายและแผน
คณะกรรมการกลุ่ม
1. งานอานวยการสานกั งาน 1. งานอานวยการสานกั งาน 1. งานอานวยการสานกั งาน 1. งานอานวยการสานกั งาน 1. งานอานวยการสานกั งาน
2. งานบริหารหลกั สูตร 2. งานวนิ ัยข้าราชการครู 2. งานบริหารการเงนิ 2. งานอาคารสถานทแี่ ละ 2. งานแผนงาน
3. งานทะเบยี นนกั เรยี น 3. งานอัตรากาลงั สรรหา 3. งานเก็บรกั ษาเงิน สงิ่ แวดลอ้ ม 3. งานวิจยั และพัฒนา
4. งานวดั และประเมนิ ผล และบรรจแุ ตง่ ตง้ั 4. งานบรหิ ารบญั ชี 3. งานประชาสัมพันธ์ 4. งานสารสนเทศ
5. งานบริหารกลุ่มสาระการ 4. งานพฒั นาและส่งเสรมิ 5. งานตรวจสอบบญั ชี 4. งานโสตทัศนศกึ ษา 5. งานจดั สรรงบประมาณ
เรียนรู้ ความกา้ วหน้าวชิ าชพี ครู 6. งานบริหารพสั ดแุ ละ 5. งานอนามยั โรงเรียน 6. งานตดิ ตามและประเมิน
6. งานห้องสมุด 5. งานระบบการดแู ล สินทรัพย์ 6. งานโภชนาการ นา้ ด่ืม โครงการ
7. งานแนะแนว ชว่ ยเหลอื นกั เรียนและงาน 7. งานสารบรรณ 7. งานสวัสดกิ ารครูและ 7. งานควบคมุ ภายใน
8. งานวิจยั ทางการศกึ ษา เครอื ขา่ ยผปู้ กครอง 8. งานระดมทรพั ยากร นักเรยี น 8. งานประกันคณุ ภาพ
9. งานกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น 6. งานวนิ ัยและความ 9. งานยานพาหนะและรถ 8. งานหอพกั นกั เรยี น 9. งานรบั นกั เรยี น
10. งานคอมพวิ เตอร์ ประพฤตนิ กั เรียน รบั -ส่งนกั เรยี น 9. งานประชาสมั พนั ธ์ 10. งานกลมุ่ กาญจนา
11. งานจดั การเรยี นการสอน 7. งานกจิ กรรมนกั เรียน 10. งานธนาคารโรงเรียน ชุมชน ภเิ ษกวทิ ยาลัย
12. งานนิเทศการศกึ ษา 8. งานเบญจวิถี 11. งานสวัสดกิ ารโรงเรียน
13. งานพัฒนาแหล่งเรียนรู้ 9. งานป้องกันและแก้ไข
14. งานสง่ เสรมิ ความร้สู ู่ ปญั หายาเสพตดิ
ชุมชน 10. งานสง่ เสรมิ คณุ ธรรม
15. งานสานกั ทดสอบ จรยิ ธรรม
11. งานสง่ เสริมประชาธิปไตย
12. งานรกั ษาความปลอดภัย
และจราจร
13. งานธนาคารความดี
แผนภาพท่ี 1 แผนผงั โครงสรา้ งองค์กร
สาหรับการกากบั ดูแลองค์กร (GOVENANCE system) มีลกั ษณะการดาเนนิ การ การตดิ ตาม กากบั ควบคมุ และดูแลให้
มีการการจัดกระบวนกรเพ่ือใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า ประหยัดและ เกิดประโยชน์สูงสุด สอดคล้องต่อหลัก
คุณธรรม จริยธรรม และหลักธรรมาภิบาล มีระบบการรายงานระหว่างคณะกรรมการการกากับดูแลองค์กร ผู้นาระดับสูง
หน่วยงานต้นสังกดั ดว้ ยระบบการบรหิ ารผลการปฏบิ ัติงาน การควบคมุ ภายใน ระบบบริหารความเสย่ี ง และการตรวจสอบภายใน
(2) นักเรยี นและผมู้ สี ่วนไดส้ ่วนเสีย (STUDENTS and STAKEHOLDERS)
โรงเรียนกาญจนาภิเษกวทิ ยาลยั นครปฐม (พระตาหนกั สวนกุหลาบมัธยม) รับนักเรียนท้ังประเภทประจาไปกลับ
ในเขตพน้ื ท่ี ดงั ตารางต่อไปน้ี
6
ตารางท่ี 3 ความต้องการและความคาดหวังของผเู้ รยี นและกลมุ่ ผู้มีส่วนไดส้ ่วนเสีย
ประเภทนกั เรียน ความต้องการ ความคาดหวงั ท่ีสาคญั
นกั เรยี นศิษย์เก่า ความพึงพอใจ / ไม่พึงพอใจ / ความผูกพนั
นักเรียนปจั จุบัน ความตอ้ งการ/ความคาดหวงั ตอ่ หลักสตู รและการบริการเสรมิ
นักเรียนโรงเรยี นอ่นื ความพึงพอใจ/ไม่พึงพอใจต่อหลักสตู รและการเรยี นการสอนความผกู พัน
นักเรียนในอนาคต ความต้องการ/ความคาดหวงั ตอ่ หลักสูตรและการบรกิ ารเสรมิ
บคุ ลากรในองค์กร ความจาเป็น/ความคาดหวงั /ความพึงพอใจ/สภาพแวดลอ้ ม บรรยากาศการทางาน การพัฒนาบุคลากร การ
มีส่วนรว่ ม แรงจงู ใจ ความกา้ วหน้าในวชิ าชีพ
ตารางที่ 4 การจาแนกประเภทนกั เรียนปัจจบุ นั และความต้องการ ความคาดหวงั ท่ีสาคัญ
ประเภทนกั เรยี นปจั จุบัน ความตอ้ งการ ความคาดหวังที่สาคญั
นกั เรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาตอนต้น 1. ความพงึ พอใจ/ไม่พึงพอใจตอ่ หลกั สูตรและการเรยี นการสอน
- นกั เรยี นหอ้ งปกติ 2. ความตอ้ งการ/ความคาดหวังต่อหลกั สตู รและการบรกิ ารเสริม
- นักเรยี นหอ้ งพเิ ศษ ทางการศึกษา
3. ความผกู พัน
นักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษาตอนปลาย 1. ความพึงพอใจ/ไม่พงึ พอใจตอ่ หลกั สูตรและการเรยี นการสอน
- นกั เรียนห้องปกติ 2. ความต้องการ/ความคาดหวังต่อหลกั สตู รและการบรกิ ารเสริมทางการศึกษา
- นักเรียนห้องพิเศษ 3. ความผูกพนั
นกั เรียนเรียนร่วม (กรณมี )ี ความตอ้ งการ/ความคาดหวังต่อหลกั สตู รและการบรกิ ารเสรมิ ทางการศึกษา
(3) ผูส้ ่งมอบและพนั ธมิตร (Suppliers and PARTNERS)
ผู้ ส่ ง ม อ บ พั น ธ มิ ต ร แ ล ะ ผู้ ใ ห้ ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ที่ ส า คั ญ ข อ ง โ ร ง เ รี ย น ที่ เ ก่ี ย ว ข้ อ ง กั บ ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น
ก า ร จ บ ห ลั ก สู ต ร ข อ ง นั ก เ รี ย น แ ล ะ ก า ร ย ก ร ะ ดั บ ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร แ ข่ ง ขั น ข อ ง โ ร ง เ รี ย น มี ก า ร ด า เ นิ น ง า น
ด้านความร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับพันธมิตรท้ังท่ีเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ ได้แก่ ผู้ปกครอง และชุมชน หน่วยงาน
ราชการทั้งภายในและภายนอก โรงเรียนได้รับความร่วมมือและสนับสนุนปัจจัยต่าง ๆ มาโดยตลอด คู่ความร่วมมือที่สาคัญใน
การพัฒนาคุณภาพการศึกษาระดับอุดมศึกษาภายในประเทศและตา่ งประเทศ
ผสู้ ่งมอบ ประกอบด้วย โรงเรียนในเขตพื้นที่บริการ ได้แก่ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม
สมุทรสาคร กรุงเทพฯ เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ บุตรข้าราชบริพาร รับนักเรียนจากโรงเรียนพระตาหนักสวนกุหลาบ (ใน
พระบรมมหาราชวัง) บุตรข้าราชการครู และลูกจ้างโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระตาหนักสวนกุหลาบมัธยม)
บุตรทหาร และบตุ รตารวจตระเวนชายแดนที่กาลังปฏิบัติราชการเป็นประจาที่ชายแดน เขตพื้นท่ีใกล้โรงเรียน ใน อ.พุทธมณฑล
จ.นครปฐม และโรงเรยี นในจงั หวดั อ่ืน ๆ โรงเรียนในจงั หวัดต่าง ๆ
กลมุ่ พนั ธมติ ร ประกอบด้วย หน่วยงานทางการศึกษาภาครัฐและเอกชน ภายในและต่างประเทศ อาทิเช่น กลุ่มกาญจนา
ภิเษกวทิ ยาลยั มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร มหาวิทยาลัยศรีนครนิ ทรวิโรฒ ประสานมิตร มหาวทิ ยาลัยมหิดล สถาบันเทคโนโลยีเจา้ คุณ
ทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งคุณหมิง สถาบันเกรเธ่ สถาบันขงจื้อ สถาบันภาษาญ่ีปุ่นเจแปน
ฟาวน์เดชั่น ศูนยร์ ะดับภาควา่ ดว้ ยการศกึ ษาวิทยาศาสตร์ และ. คณิตศาสตรซ์ ีมโี อ(เรคแซม) เมืองปนี ัง ประเทศมาเลเซยี เปน็ ตน้
กลไกการขับเคลอ่ื นในการสือ่ สารดว้ ย รูปแบบการสือ่ สารภายในและการส่ือสารภายนอก อาทเิ ช่น การสร้างแพลตฟร์อม
การส่ือสารผ่านสื่อดิจิทัล การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ และการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ
7
(MOU&MOA) ร่วมกับเครือข่ายความร่วมมือ นอกจากน้ียังเป็นโรงเรียนคู่พัฒนาในการจัดการเรียนการสอนผ่านระบบ Video
Conference ระหวา่ งกล่มุ โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวิทยาลยั ท้ัง 9 โรงเรยี น โดยผ้สู ง่ มอบ พนั ธมติ ร และผใู้ ห้ความรว่ มมอื มสี ว่ นร่วม
ในการสรา้ งนวตั กรรมการบริหารจัดการ นวตั กรรมการเรยี นการสอน นวตั กรรมการจดั การความรู้รว่ มกัน เปน็ ต้น
ข้อกาหนดที่สาคัญของห่วงโซ่อุปทาน (Supply-chain) ของโรงเรียนจาก ระบบการบริหารจัดการหลักสูตร คือ การ
วิเคราะห์ SWOT ปัจจัยนาเข้า บริบทของโรงเรียน นักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กระบวนการจัดการเรียนรู้และการส่งเสริม
พัฒนาผู้เรียน ประเมินผลการจบหลักสูตร การรายงานผลการจบหลักสูตร แสดงผลย้อนกลับไปยังผู้ส่งมอบ เพื่อพัฒนา
กระบวนการในการดาเนินงานของผู้สง่ มอบ
2. สภาวการณข์ ององคก์ ร (Organizational Situation)
ก. สภาพแวดล้อมของการแข่งขนั (Competitive Environment)
(1) ลาดบั ในการแข่งขัน (Competitive Position)
โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระตาหนักสวนกุหลาบมัธยม) เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ
สงั กดั สพฐ. มีอัตราการสอบเข้าท่ีแข่งขันสูง และผลการเปรียบเทียบผลการทดสอบการสอบการศึกษาระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน (O-
NET) ในปีการศึกษา 2561-2563 ผลการทดสอบการศึกษาระดับชาติข้ันพ้ืนฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 6 สูงกว่า
ระดับประเทศ อยู่ในลาดับที่ 1 ของ สพม.9 และจังหวัดนครปฐม และอยู่ในลาดับที่ 16 ของการจัดลาดับโรงเรียนมัธยมศึกษา
ขนาดใหญ่พิเศษ สังกัด สพฐ. ทั้งนี้โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม ใช้ผลการจัดการศึกษา ของโรงเรียนกาญจนา
ภเิ ษกวิทยาลัยสพุ รรณบุรีเป็นคูล่ าดบั ในการแข่งขนั ซ่งึ มลี ักษณะการวัตถุประสงค์การก่อตั้งโรงเรียน ขนาด การเติบโต ตลอดจน
หลกั สตู รการจดั การเรียนการสอนในลักษณะเดยี วกนั การบริหารการเงินและสินทรัพย์ ดังตาราง ต่อไปนี้
ตารางท่ี 5 สภาพแวดลอ้ มของการแขง่ ขัน ปกี ารศึกษา 2561-2563
สภาพแวดลอ้ มของการแขง่ ขัน
โรงเรียน กลมุ่ ส่วนแบง่ ตลาด อตั ราการรบั นักเรยี น
นักเรยี น
โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั นครปฐม ปีการศกึ ษา ปกี ารศึกษา ปกี ารศึกษา ปกี ารศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ปีการศึกษา
(พระตาหนักสวนกหุ ลาบมัธยม) ม. 1 2561
ม. 4 1,296 2562 2563 2561 2562 2563
1,194 1,120 492 492 492
415 434 393 384 384 384
(2) การเปลี่ยนแปลงความสามารถในการแข่งขนั (Competitiveness Changes)
ปัจจัยที่มีผลต่อความสาเร็จของโรงเรียน เม่ือเทียบกับโรงเรียนท่ีมีลักษณะเดียวกัน รวมท้ังผลกระทบจากการ
เปลีย่ นแปลงท่สี าคญั ๆ ท่ีเกิดขึ้นตอ่ สภาพการแขง่ ขันของโรงเรียน ดงั ตารางตอ่ ไปน้ี
ตารางท่ี 6 ปัจจัยสาคญั ทีม่ ีผลต่อความสาเร็จของโรงเรียน
กลุม่ เป้าหมาย ขนาดกลุ่มเป้าหมาย
การเขา้ ศึกษาระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ - บตุ รขา้ ราชบรพิ าร รบั นักเรียนจากโรงเรยี น
- บุตรขา้ ราชบรพิ าร พระตาหนกั สวนกหุ ลาบ (ในพระบรมมหาราชวัง) บุตรข้าราชการครู และลกู จา้ ง
8
กลุม่ เปา้ หมาย ขนาดกลุม่ เป้าหมาย
- นักเรยี น ป.6 ในเขตพื้นทีใ่ กลโ้ รงเรียน โรงเรยี นกาญจนาภิเษกวทิ ยาลยั นครปฐม (พระตาหนกั สวนกหุ ลาบมธั ยม) บุตร
- นักเรียน ป.6 ในเขตพื้นทบี่ รกิ าร ทหาร และบตุ รตารวจตระเวนชายแดนท่กี าลงั ปฏบิ ตั ิราชการเปน็ ประจาที่
- นกั เรียน ป.6 นอกเขตพ้ืนท่บี รกิ าร ชายแดน
การเขา้ ศกึ ษาระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย - เขตพ้นื ท่ใี กล้โรงเรียน ใน อ.พทุ ธมณฑล จ.นครปฐม
- นักเรียน ม.3 โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระ - โรงเรียนในเขตพ้ืนที่บริการ ได้แก่ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี
ตาหนักสวนกุหลาบมัธยม) ทีต่ อ้ งการศกึ ษาตอ่ ทเ่ี ดมิ สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร กรุงเทพฯ เพชรบุรี และ
- นกั เรียน ม.3 ในเขตพนื้ ทีบ่ รกิ าร ประจวบครี ขี นั ธ์ โรงเรยี นในจงั หวัดอ่นื ๆ
- นักเรยี น ม.3 นอกเขตพืน้ ท่บี ริการ
- โรงเรียนในเขตพ้ืนท่ีบริการ ได้แก่ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี
สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร กรุงเทพฯ เพชรบุรี และ
ประจวบคีรีขนั ธ์
- โรงเรียนในจังหวัดอน่ื ๆ
การเปลี่ยนแปลงความสามารถในการแข่งขัน ท่ีสาคัญท่ีส่งผลต่อสถานการณ์การแข่งขันของโรงเรียน รวมถึง
โอกาสการสร้างนวัตกรรมและความร่วมมือนั้น ในปีการศึกษา 2563 โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระตาหนัก
สวนกุหลาบมัธยม) มีคาดหวังการเปล่ียนแปลงท่ีสาคัญซ่ึงส่งผลต่อการแข่งขัน คือ การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ
นักเรียนมีความเป็นเลิศทางด้านวิชาการ สามารถสื่อสารได้สองภาษา ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และ
รว่ มกนั รบั ผิดชอบต่อสังคมโลก
(3) แหล่งข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ
แหล่งข้อมูลที่สาคัญสาหรับข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ คือ คะแนนผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ผลคะแนนสอบ
O-Net ของนักเรียนช้ัน ม.3 และ ม.6 เป้าหมายคือ ค่าคะแนนเฉล่ียสูงกว่าระดับประเทศโรงเรียนคู่เทียบ จานวนนักเรียนท่ีเข้า
ศึกษาต่อในโรงเรียนแต่ละปีการศึกษา จานวนนักเรียนท่ีสอบเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยในกากับของรัฐในแต่ละปี
การศกึ ษา และการบริหารการเงินและสินทรัพย์
ข. บริบทเชิงกลยุทธ์ (Strategic Context)
ความท้าทายเชิงกลยุทธ์
ความท้าทายและความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ท่ีสาคัญด้านการจัดการศึกษา ด้านการปฏิบัติการ ด้านความรับผิดชอบต่อ
สังคมในวงกว้าง และด้านทรัพยากรบุคคลของโรงเรียน โดยมีเป้าหมายเพ่ือยกระดับคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้น
พ้ืนฐาน (O-NET) ให้มีค่าเฉล่ียสูงกว่าระดับประเทศทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ดังนั้นในการจัดการศึกษาต้องอาศัยการบริหาร
จดั การทม่ี ีประสิทธภิ าพ ดังนี้
1. การบริการจัดการศึกษา ผู้นามีวิสัยทัศน์ ในการเป็นผู้นาด้านหลักสูตร การพัฒนาหลักสูตร การพัฒนา
นวัตกรรม ด้านต่าง ๆ ตลอดจน มีโครงสร้างการบริหารงานและบุคลากรรับผิดชอบที่ชัดเจน มีการจัดทาระบบสารสนเทศ
ฐานข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ทาให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย สามารถนามาใช้ในการวางแผนในการดาเนินงานได้อย่างประสิทธิภาพ มี
การประชาสัมพันธ์เชงิ รุก
9
2. การจัดการเรียนการสอน ส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ระบบสารสนเทศ เพื่อ
สนบั สนนุ ประสิทธิภาพการเรียนการสอน พัฒนาไปสู่การเรียนการสอนอิเล็กทรอนิกส์แบบบูรณาการ พัฒนาให้เต็มรูปแบบและ
เป็น Multimedia มากขึ้น เพื่อยกระดับคะแนนเฉล่ียผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน (O-NET) ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และ
สามารถพฒั นาไปสูอ่ งค์กรแห่งการเรยี นร้ตู ่อไปในอนาคต
3.การบริหารทรัพยากรบุคคล โรงเรียนมีครูและบุคลากร ที่มีขีดความสามารถเชี่ยวชาญเฉพาะสาขา มี
ความสามารถทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในด้านต่าง ๆ เช่น การสืบค้นข้อมูล การผลิตสื่อการสอน การส่ือสารได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ ดังน้นั จงึ สนับสนนุ ให้ครู และบุคลากรได้เพ่ิมพูนความรู้ให้ทันสมัย ทันต่อการเปล่ียนแปลง เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่
ๆ สามารถนาไปประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอน และสนับสนุนให้มีการวิจัยเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนอย่างต่อเน่ือง
รวมทัง้ นาผลงานวิจยั ไปใชป้ ระโยชน์จริง
4. การสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพ่ือการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนมีเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการ
พัฒนาคุณภาพการศึกษาที่มีความพร้อม แลมีความหลากหลายทางสหวิชาชีพ ความเช่ียวชาญเฉพาะทาง ด้วยท่ีตั้งของ
สถานศึกษาท่ีต้ังอยู่ท่ามกลางสถาบันการศึกษามากหมาย อาทิเช่น มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
รัตนโกสินทร์ฯ วิทยาลัยในวัย ช่างสิบหมู่ ช่างทองหลวง สถาบันพัฒนาศิลป์ วิทยาลัยนาฎศิลป์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนัน
ทา วิทยาลัยนานาชาติ มหิดล ตลอดจนการมีช่ือเสียงในการพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาท่ีเป็นที่ยอมรับในระดับต่างประเทศ
อาทเิ ชน่ มหาวทิ ยาลยั วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีแห่งคุณหมงิ เปน็ ต้น
5. สัดส่วนต้นทุนการบริหารจัดการ โรงเรียนมีต้นทุนการบริหารจัดการท่ีมีความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน อาทิเช่น
ทาเลที่ต้ังอยู่ในเขตปริมณฑล ที่มีระยะไม่ห่างไกลจากเมืองหลวง การเดินทางสะดวก สามารถเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดได้อย่าง
รวดเร็ว เช่น กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ เป็นต้น ตลอดจนต้นทุนการระดมทรัพยากรทาง
การศึกษา ต้นทนุ การรับนักเรียน ทสี่ ามารถดาเนินการได้อย่างมีประสิทธภิ าพและประสิทธผิ ล เปน็ ตน้
ค. ระบบการปรับปรุงผลการดาเนินงาน (Performance Improvement System)
กระบวนการของโรงเรียนสาหรับการดาเนินการประเมินผลและปรับปรุงกระบวนการ ดาเนินการ
อย่างต่อเน่ืองตามระบบวงจรคุณภาพ (PDCA) (Plan –Do- Check-Action) ซึ่งเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการพัฒนา
ประสิทธิภาพและคุณภาพของการดาเนินงาน ซ่ึงประกอบด้วย 4 ข้ันตอน คือ 1) P = Plan คือ การวางแผนงานจาก
วัตถุประสงค์ และเป้าหมายที่ได้กาหนดขึ้น โดยการกาหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาการจัดทาแผนพัฒนาการจัด
การศึกษา และการจัดระบบบริหารและสารสนเทศ 2) D = Do คือ การปฏิบัติตามขั้นตอนในแผนงานที่ได้เขียนไว้อย่างเป็น
ระบบและมีความต่อเน่ือง การดาเนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษา 3) C = Check คือ การตรวจสอบผลการดาเนินงาน
ในแต่ล่ะขั้นตอนของแผนงานว่ามีปัญหาอะไร เกิดขึ้นจาเป็นต้องเปล่ียนแปลงแก้ไขแผนงานในข้ันตอนใด การจัดให้มีการ
ติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา การประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาและการจัดทารายงานประจาปีท่ีเป็น
รายงานประเมินคุณภาพภายใน และ 4) A = Action คือ การปรับปรุงแก้ไขส่วนที่มีปัญหา หรือถ้าไม่มีปัญหาใดๆ ก็ยอมรับแนว
ทางการปฏิบตั ติ ามแผนงานท่ีไดผ้ ลสาเรจ็ การจัดให้มีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อนาไปใช้ ในการทางานครั้ง
ต่อไป ซงึ่ สง่ ผลให้การดาเนินงานมีประสิทธภิ าพและมคี ุณภาพเพ่ิมขนึ้ โดยเทยี บกับตวั วัด (KPI)
10
หมวด 1 การนาองค์กร (Leadership)
1.1 การนาองค์กรโดยผ้นู าระดับสูง (Senior Leadership)
แผนภาพที่ 1.1 กระบวนการถา่ ยทอดวิสัยทศั น์ พันธกิจ และค่านยิ ม สู่การปฏบิ ัติ
ก. วิสัยทศั น์ พนั ธกจิ และค่านยิ ม (Vision, Mission and Values)
(1) วิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยม (Vision, Mission and Values) ผู้นำระดับสูง ดำเนินกำรถ่ำยทอด
วิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่ำนิยม สู่กำรปฏิบัติโดยผ่ำนระบบกำรนำองค์กรไปยังบุคลำกร ผู้ส่งมอบ พันธมิตร
ผู้ให้ควำมร่วมมือท่ีสำคัญ นักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยกำหนดกระบวนกำร มีแนวทำงกำรนำองค์กรโดย
เน้นกำรมีส่วนร่วมของบุคลำกรและกำรส่ือสำรสองทำง เปิดโอกำสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในกำรกำหนดทิศทำง
นโยบำย วิสัยทัศน์ ค่ำนิยมและพันธกิจร่วมกัน และมีผู้ดูแลกำรบริหำรจัดกำรวำงแผนติดตำมประเมิน
ผลกำรปฏิบัติงำน ผู้นำทุกระดับมีบทบำทในกำรสนับสนุนและผ ลักดันให้เกิดกิจกรรมพัฒนำคุณภำพ
ท่ีมีกำรประสำนงำนในด้ำนต่ำง ๆ ใช้วิธีกำรตัดสินใจและแก้ปัญหำแบบมีส่วนร่วม โดยสร้ำงควำมตระหนักรู้
ร่วมกันว่ำงำนแผนงำนและประกันคุณภำพเป็นงำนขององค์กร ผู้มีหน้ำท่ีรับผิดชอบมีบทบำทสำคัญในกำรบริหำร
จดั กำรผู้นำและบคุ ลำกรเพอ่ื ร่วมกันทำงำน ผูน้ ำสนบั สนนุ ให้กำรดำเนินงำนดำ้ นต่ำง ๆ เปน็ ไปตำมเปำ้ หมำย
โรงเรียนเนน้ กำรพฒั นำผลงำนและควำมกำ้ วหน้ำตำ่ ง ๆ ให้ทันต่อสถำนกำรณ์ รวมท้ังกำรปรับเปล่ียนตำม
ควำมเหมำะสม เช่น กำรปรับโครงสร้ำงองคก์ รและกำรปรบั ระบบกำรบริหำรจดั กำรโดยใช้หลักธรรมำภิบำลเพื่อให้
เกิดกำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กำรมีส่วนร่วมของบุคลำกรรวมทั้งกำรส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลำกรปฏิบัติตนตำม
หลักคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม
ผู้นำเปิดโอกำสให้บุคลำกรได้พัฒนำควำมรู้และศักยภำพในกำรทำงำน ส่งเสริมให้มีกำรสัมมนำ อบรม
กำรประชุมเชิงปฏิบัติกำร หรือศึกษำด้วยตนเองท้ังในด้ำนวิชำกำร ด้ำนคุณธรรมจริยธรรม และกำรศึกษำต่อ
โดยกำหนดทิศทำงกำรดำเนินงำนให้สอดคล้องกับแผนยุทธศำสตร์ของโรงเรียนและเป็นไปตำมวัตถุประสงค์
11
พันธกิจ และแผนปฏิบัติกำรประจำปีของโรงเรียน ภำยใต้แนวคิดของกำรใช้ทรัพยำกรท่ีมีอย่ำงจำกัดให้มี
ประสทิ ธภิ ำพและมคี วำมค้มุ ค่ำสูงสดุ ทง้ั น้ีมีกำรปรบั ปรุงแผนกลยทุ ธร์ อบ 4 ปี
1. การถ่ายทอดวิสัยทัศน์และค่านิยมสู่การปฏิบัติ โดยผ่ำนระบบกำรนำองค์กรไปยังบุคลำกรผู้ส่ง
มอบและพันธมิตรที่สำคัญ ผู้เรียนรวมท้ังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ และดำเนินกำรควำมร่วมมืออย่ำงเป็นทำงกำร
เช่น กำรทำ MOU&MOA กับมหำวิทยำลัยและหน่วยงำนต่ำง ๆ โดยกำรนำวิสัยทัศน์ พันธกิจ เผยแพร่ในวำรสำร
จดหมำยข่ำว วำรสำรประชำสมั พันธ์ของโรงเรยี น เวบ็ ไซต์โรงเรียน และในเวทเี สวนำทำงวชิ ำกำรตำ่ ง ๆ
2. การปฏบิ ตั ติ นของผ้บู ริหารโรงเรยี น ได้แสดงใหเ้ ห็นถงึ ควำมมุ่งม่ันต่อค่ำนิยมขององค์กร ผู้บริหำร
ให้ควำมสำคัญกบั กำรปฏิบตั ติ ำมค่ำนยิ มขององคก์ ร ซงึ่ เกดิ จำกกำรประชมุ เพ่ือกำหนดค่ำนิยมร่วมกัน นั่นคือกำรให้
ควำมรู้ด้ำนวิชำกำร และฝึกคุณลักษณะด้ำนคุณธรรมจริยธรรมแก่ผู้เรียนโดยค่ำนิยมนำไปสู่แผนกำรปฏิบัติกำร
ประจำปี ผ่ำนโครงกำร/กิจกรรมสู่กลุ่มผู้มีส่วนไดส้ ว่ นเสยี แบบใหเ้ ปล่ำ
(2) การส่งเสริมการประพฤติปฏิบตั ิตามกฎหมายและการประพฤติปฏิบตั ิอยา่ งมีจรยิ ธรรม (Promoting
Legal and Ethical Behavior)
ผบู้ รหิ ำรโรงเรยี นปฏบิ ัติตนตำมกฎหมำย มีคุณธรรมจริยธรรม โดยสร้ำงสภำพแวดล้อมในโรงเรียนเพ่ือส่งเสริม
คุณธรรม จริยธรรม โดยผู้บริหำรปฏิบัติตนเป็นแบบอย่ำงท่ีดี ประพฤติปฏิบัติตนตำมกฎหมำย และปฏิบัติตนโดยยึด
หลักธรรมำภิบำล มีกำรแจ้งแนวปฏิบัติด้ำนกฎระเบียบให้บุคลำกรรับทรำบอย่ำงสม่ำเสมอ แต่งตั้งคณะกรรมกำร
ดำเนินงำน มีกำรนำระบบคุณภำพมำใช้ในองค์กร มีคณะกรรมกำรระบบกำรเงินและพัสดุ มีระบบบริหำรจัดกำรของ
โรงเรยี น ด้ำนกำรบริหำรควำมเสยี่ งมีเกณฑ์ประเมินผล 2 ครั้งต่อปี มีกำรสอ่ื สำรผ่ำนระบบ E-mail และ Social media
อยำ่ งตอ่ เน่ืองเพอื่ สร้ำงควำมเข้ำใจซง่ึ กันและกนั คณะกรรมกำรบรหิ ำรมกี ำรประเมนิ ผลกำรทำงำนและนำผลกำรประเมิน
ไปใชป้ ระโยชน์ มีกำรประเมินผลกำรปฏิบัติงำน โดยฝ่ำยบริหำรประเมิน 2 ครั้งต่อปี กรณีที่บุคลำกรไม่ประพฤติปฏิบัติ
ตำมกฎหมำยและจริยธรรมจรรยำบรรณ หรอื สมรรถนะหลักสมรรถนะรอง ผบู้ ริหำรและบคุ ลำกรมีกำรตกลงร่วมกันให้มี
กำรลงโทษตำมขน้ั ตอนอยำ่ งมีระบบ มกี ำรแต่งตั้งคณะกรรมกำรดำเนินกำรสอบข้อเท็จจริงและรำยงำนตำมลำดับข้ัน ผล
กำรดำเนินงำนสง่ ผลให้บุคลำกรทุกคน ตระหนักถึงบทบำทหน้ำที่และควำมรบั ผดิ ชอบภำยใตก้ ฎหมำยและจริยธรรมอันดี
งำมทีพ่ งึ ปฏิบัติสืบกนั มำ
การสร้างบรรยากาศในองค์กรเพื่อส่งเสริมการประพฤติปฏิบัติตามกฎหมายและการประพฤติปฏิบัติ
อย่างมีจริยธรรม ผู้บริหำรและบุคลำกรของโรงเรียนร่วมกันสร้ำงบรรยำกำศเพื่อกระตุ้นสนับสนุนและส่งเสริมให้
บุคลำกรทุกคนปฏิบัติตำมกฎระเบียบ และจริยธรรมสมรรถนะสำคัญโดยได้นำหลักธรรมำภิบำลมำ
เป็นกรอบในกำรนำองค์กร กล่ำวคือมีกำรสร้ำงบรรยำกำศในกำรปฏิบัติงำน กำรตัดสินใจกำรเปลี่ยนแปลงและ
ริเร่ิมกำรดำเนินกำรใหม่ๆ โดยควำมเห็นชอบและเต็มใจปฏิบัติงำนของบุคลำกรอย่ำงมีส่วนร่วม กำหนดให้มีกำร
ประชุมเพื่อปรึกษำหำรือร่วมกันอย่ำงสม่ำเสมอ มีกำรจัดโครงกำรพัฒนำบุคลำกรเพ่ือให้ควำมรู้ จัดกิจกรรมเพ่ือ
เสรมิ สรำ้ งควำมสำมัคคีในหมู่คณะ ส่งเสรมิ สนับสนุนให้บคุ ลำกรมคี ณุ ธรรมจริยธรรม และปฏิบัติงำนร่วมกันอย่ำง
กัลยำณมิตร โดยมีกำรจัดกิจกรรมวันขึ้นปีใหม่ทุกปี กิจกรรมทัศนศึกษำ/ กำรศึกษำดูงำน และมีกำรมอบโล่
รำงวัล และเกียรติบตั รแก่ผู้ปฏิบัตงิ ำนดเี ดน่ เพอื่ เป็นกำรเสรมิ สรำ้ งขวัญและกำลงั ใจในกำรทำงำนให้แก่บุคลำกรใน
โรงเรียน เป็นต้น
12
(3) การสร้างโรงเรียนท่ีประสบความสาเร็จ (Creating a Successful Organization) โรงเรียนมี
แนวทำงกำรดำเนนิ กำรเพ่อื สร้ำงองค์กรใหย้ งั่ ยนื โดยกำรจัดประชุมเพื่อสร้ำงทีมงำนให้เข้มแข็ง ส่งเสริมกำรมีส่วน
รว่ มและแลกเปล่ียนควำมคิดเห็นของบุคลำกร มุ่งเน้นที่เป้ำหมำยและกระบวนกำร มีกำรจัดประชุมวำงแผนกำร
ทำงำนหรือกำหนดนโยบำยทิศทำง วิสัยทัศน์ และพันธกิจของโรงเรียน จัดประชุมกำรทำงำนประกันคุณภำพ
และแผนงำนต่ำง ๆ รับฟังปัญหำและจัดกำรแก้ไขปัญหำร่วมกัน จัดกิจกรรมให้ผู้บริหำรและบุคลำกรของโรงเรียน
ไดแ้ ลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่ำงสม่ำเสมอ มีกำรประชุมกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ฝ่ำยงำนในโอกำสต่ำงๆ สร้ำงบรรยำกำศ
เพื่อให้เกิดกำรปรับปรุงผลกำรดำเนินกำร กำรบรรลุพันธกิจและวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ กำรสร้ำงนวัตกรรม
กำรเป็นผู้นำในด้ำนผลกำรดำเนินกำรและควำมคล่องตัวขององค์กร สร้ำงวัฒนธรรมที่ดีบุคลำกรส่งมอบ
ประสบกำรณ์ที่ดีให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่ำงสม่ำเสมอและสร้ำงควำมผูกพัน สร้ำงบรรยำกำศเพ่ือให้เกิดกำร
เรยี นรทู้ ั้งในระดับองค์กรและระดับบคุ คล พฒั นำและเสริมสรำ้ งทักษะควำมเป็นผู้นำมีส่วนร่วมในกำรเรียนรู้ระดับ
องคก์ ร กำรวำงแผนพัฒนำผู้นำในอนำคตของโรงเรียน จัดให้มีกำรบริหำรควำมเส่ียง โดยมีคณะกรรมกำรบริหำร
ควำมเสี่ยง มีแผนกำรประชุมร่วมกันอย่ำงสม่ำเสมอโดยมีประเด็นต่ำง ๆ เช่น ควำมสูญเสียของกำรจัดกำรใน
กรณีฉุกเฉิน มกี ำรกำหนดมำตรฐำนระเบียบและแนวปฏิบัติของโรงเรียน จดั ทำแบบกำหนดหนำ้ ที่ควำมรับผิดชอบ
และอำนำจดำเนนิ กำรทช่ี ัดเจนเพ่ือเพ่มิ ควำมคลอ่ งตัวในกำรทำงำนและกำรตดั สินใจ
ผู้บริหำรของโรงเรียนดำเนินกำรด้วยวิธีที่หลำกหลำยเพ่ือสร้ำงควำมย่ังยืนให้แก่โรงเรียน เริ่มด้วย
กำรกำหนดวิสัยทัศน์ร่วมกันของผู้นำและบุคลำกรผู้เก่ียวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและกำหนดแผนกลยุทธ์ท่ี
ชัดเจนโดยใช้วิธีกำรต่ำง ๆ เช่น กำรวำงแผนเชิงกลยุทธ์ กำรมอบหมำยงำน กำรกระจำยอำนำจ กำรวำงระบบ
พเ่ี ลี้ยง กำรนำเทคโนโลยีสำรสนเทศมำใช้ในกำรปฏิบัติงำน กำรมีระบบรักษำควำมปลอดภัย กำรวำงแผนสืบทอด
ตำแหน่ง และกำรให้โอกำสบุคลำกรได้พัฒนำควำมเชี่ยวชำญในฝ่ำยท่ีรับผิดชอบเพ่ือสำมำรถเลื่อนระดับเป็น
หัวหน้ำฝ่ำย หัวหน้ำงำน หัวหน้ำกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ โดยจัดให้พี่เล้ียงคอยส่งเสริมสนับสนุนและให้คำปรึกษำ
แนะนำบุคลำกรได้ เพื่อเตรียมพร้อมในกำรพัฒนำศักยภำพ เช่น กำรส่งบุคลำกรเข้ำร่วมประชุมหรืออบรมกำร
พฒั นำงำนดำ้ นตำ่ ง ๆ ตำมควำมสมคั รใจ เป็นต้น
ข. การสอ่ื สารและผลการดาเนินการของโรงเรยี น (Communication and Organizational
PERFORMANCE)
(1) การสอื่ สาร (Communication)
โรงเรียนกำหนดแนวทำงกำรส่ือสำร และผลกำรดำเนินกำรของโรงเรียน เพ่ือสร้ำงควำมผูกพันกับ
บุคลำกรทุกคนในโรงเรียน เพื่อกำรปฏิบัติงำนได้บรรลุตำมเป้ำหมำย โดยมุ่งเน้นกำรสื่อสำรอย่ำงตรงไปตรงมำ
เป็นกำรสื่อสำรแบบสองทำงรวมทั้งกำรใช้ส่ือสังคมออนไลน์อย่ำงมีประสิทธิผล ส่ือสำรให้ทรำบถึงกำรตัดสินในที่สำคัญ
และควำมจำเป็นต่อกำรเปล่ียนแปลงของโรงเรียน เพื่อเสริมสร้ำงให้มีผลกำรดำเนินกำรท่ีดี และให้ควำมสำคัญกับ
นกั เรยี นและผูม้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสีย จูงใจบุคลำกรในกำรปฏิบัติงำน โดยกำหนดกระบวนกำรบริหำรโรงเรียนมีวิธีดำเนินกำร
ในกำรส่ือสำรและสร้ำงควำมผูกพันกับบุคลำกรทุกคน และมีวิธีดำเนินกำรให้โรงเรียนประสบควำมสำเร็จ โดยกระตุ้น
ให้เกิดกำรส่ือสำรที่ตรงไปตรงมำและเป็นไปในลักษณะสองทำงท้ังโรงเรียน มีกำรส่ือสำรในกำรตัดสินใจที่สำคัญ ๆ มี
กำรให้รำงวัลและยกย่องชมเชยบุคลำกรเพ่ือเสริมสร้ำงให้มีผลสำเร็จของงำน และกำรดำเนินกำรท่ีดีรวมทั้งกำรให้
ควำมสำคญั กับผูเ้ รียนและผู้มีสว่ นได้สว่ นเสียและโรงเรยี น
13
โรงเรียนมีกำรส่ือสำรให้ทรำบถึงกำรตัดสินใจท่ีสำคัญและควำมจำเป็นต่อกำรเปล่ียนแปลงของโรงเรียนและ
สร้ำงควำมผกู พนั กบั บคุ ลำกรทุกคนทัว่ ท้ังโรงเรียน โดยผู้บริหำรได้กระตุ้นให้เกิดกำรสื่อสำรท่ีตรงไปตรงมำและเป็นไปใน
ลักษณะสองทำงระหว่ำงผู้อำนวยกำร ผู้บริหำรและบุคลำกรผู้ปฏิบัติงำนทุกฝ่ำยของโรงเรียน โดยมีกำรวำงแผนประชุม
ช้ีแจงและร่วมกันอภิปรำยประเด็นควำมคิดเห็นบำงประกำรเพื่อผลกำรปฏิบัติงำนที่มีประสิทธิภำพโดยมีกำรจัดประชุม
ดำเนินกำรตำมวำระและโอกำสต่ำงๆ ดังต่อไปน้ี กำรประชุมผู้บริหำรทุกสัปดำห์ กำรประชุมผู้บริหำร หัวหน้ำงำน และ
คณะกรรมกำรดำเนินงำนกลุ่มบริหำรวิชำกำรทุกวันอังคำร กำรประชุมบุคลำกรประจำเดือน และกำรประชุม
คณะกรรมกำรต่ำง ๆ ตำมภำรกิจที่ได้รับมอบหมำยตำมกิจกรรมและโครงกำร เป็นต้น มีกำรเผยแพร่เอกสำร ในรูป
เอกสำร/รำยงำนกำรประชุม ประกำศ คำส่ัง ระเบียบข้อปฏิบัติและหนังสือแจ้งเวียนต่ำงๆ ตลอดจนมีกำรเผยแพร่
ข้อมูลข่ำวสำรอ่ืน ๆ ในรูปสื่อสิ่งพิมพ์ หรือเว็บไซต์ เฟสบุ๊ค เพื่อให้บุคลำกรได้รับรู้และติดตำมควำมเคลื่อนไหวของ
โรงเรียนและหน่วยงำนต่ำงๆ ท่ีเก่ียวข้องอย่ำงสม่ำเสมอ กำรสร้ำงบรรยำกำศกำรแลกเปล่ียนเรียนรู้และกำรจัดกำร
ควำมรู้จำกสถำนกำรณ์จริง (Knowledge Management in Real Time) เพ่ือมุ่งเน้นกำรทำงำนเป็นทีม กำรมีส่วนร่วม
และกำรสร้ำงโอกำสให้บุคลำกรได้เรียนรู้งำนบริกำรวิชำกำรและกำรจัดกิจกรรมหรือกำรจัดโครงกำรต่ำง ๆ โดยให้
บุคลำกรทุกคนมีส่วนร่วมในกำรปฏิบัติงำน เกิดจิตสำนึกของภำวะผู้นำตลอดจนเกิดควำมภำคภูมิใจในกำรทำงำนโดย
ยึดถือค่ำนิยมหลัก (Core Values) ในกำรทำงำน กำรให้รำงวัลและกำรยกย่องชมเชย โดย ผู้บริหำรของโรงเรียน ใช้
วำระท่ีมีกำรประชุมร่วมกัน ยกย่องชมเชยบุคลำกรผู้เป็นตัวอย่ำงท่ีดีในกำรปฏิบัติงำนด้วยควำมมุ่งม่ันขยันขันแข็ง และ
มคี วำมรบั ผิดชอบต่อหน้ำท่ีที่ได้รับมอบหมำย ตลอดจนมีกำรนิเทศติดตำมกำรปฏิบัติงำน มีกำรส่งเสริมและสนับสนุน
ให้บุคลำกรมีควำมก้ำวหน้ำในตำแหน่งหน้ำที่ เช่น กำรกระตุ้นให้เกิดโครงกำรกำรจัดกิจกรรมในฝ่ำยของตน
กำรส่งเสริมให้เข้ำร่วมอบรมสัมมนำศึกษำดูงำน และศึกษำต่อในระดับสูงขึ้น ตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุนให้
บุคลำกรก้ำวสู่ตำแหน่งหัวหน้ำและผู้นำในอนำคต มีกำรสร้ำงขวัญและกำลังใจให้บุคลำกร เช่น มีกำรคัดเลือกและยก
ย่อง บุคลำกรดีเด่นโดยมอบเกียรติบัตรในที่ประชุมประจำเดือน เช่น ครูดีเด่น ครูสอนดี หน่ึงแสนครูดี หรือครูที่
ได้รับรำงวัลต่ำงๆ เป็นต้น มีกำรจัดหำเคร่ืองแต่งกำยเพื่อสร้ำงควำมรู้สึกร่วมกันของบุคลำกร ตลอดจนดูแลเอำใจใส่
ครอบครัวของบคุ ลำกร เปน็ ตน้ ทง้ั น้ีกำรคิดริเริ่มวำงแผนและตัดสินใจอย่ำงมีส่วนร่วมจำกบุคลำกรและผู้มีส่วนได้ส่วน
เสียในกำรจัดกำรทุกระดับและมีกำรกระตุ้นให้เกิดกำรปฏิบัติกำรแบ่งปันผลประโยชน์ และควำมภำคภูมิใจร่วมกัน
รวมทั้งยังมีกำรติดตำมและประเมินผลร่วมกันเพ่ือควำมยั่งยืนของโรงเรียนอันเป็นวิธีกำรสื่อสำรและกำรสร้ำงควำม
ผกู พนั ใหแ้ กผ่ ู้ปฏิบัติงำนอย่ำงท่วั ถึง
(2) การทาใหเ้ กิดการปฏบิ ตั ิอยา่ งจรงิ จงั (Focus on Action)
กำรดำเนินงำนของโรงเรียน ผู้บริหำรและบุคลำกรได้มีกำรสร้ำงและพัฒนำนวัตกรรมกำรบริหำร กำหนด
เป้ำหมำยกำรปฏิบัติกำรเพื่อให้เกิดผลสำเร็จและบรรลุวัตถุประสงค์ มีกำรปรับปรุงผลกำรดำเนินกำรและกำร
ติดตำมกำกบั และทบทวนกำรดำเนนิ งำนใหเ้ ป็นไปตำมแผนกลยทุ ธ์มีกำรดำเนินงำน ดงั น้ี
1. ปฏิบตั ิกำรตำมแผนยุทธศำสตรข์ องโรงเรยี น กลยทุ ธ์ วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้ำประสงค์
2. ดำเนินงำนทุกโครงกำร/ทุกกิจกรรมท่ีกำหนดไว้ในแผนปฏิบัติกำรประจำปี มีกำรทบทวนและ
ประเมนิ ผลอย่ำงสมำ่ เสมอ แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ร่วมกันในท่ปี ระชุมโดยมผี ู้รบั ผดิ ชอบเสนอรำยงำนข้ึนไปตำมลำดบั
14
3. โรงเรียนมีกำรสร้ำงเครือข่ำยด้วยตนเองและตำมแผนของโรงเรียน มีกำรวำงแผนสร้ำงเครือข่ำยกับ
หน่วยงำนและองค์กรต่ำงๆ มีกำรวำงแผนสร้ำงเครือข่ำยระดับโรงเรียนและหน่วยงำนท้ังภำครัฐและเอกชนจน
ทำใหโ้ รงเรียนเป็นทร่ี ูจ้ ักอย่ำงกวำ้ งขวำงของบุคคลทว่ั ไป องคก์ รภำครฐั และเอกชนทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ
4. โรงเรยี นมกี ำรวำงแผนวัดระดับควำมพงึ พอใจของบุคลำกรและวัดควำมผูกพนั ตอ่ อตั ลักษณข์ องโรงเรยี น
5. บุคลำกรมที กั ษะกำรจัดกำรและทำงำนเปน็ ทีม
6. โรงเรียนมีกำรวำงแผนวัดระดับควำมพึงพอใจ/ ควำมไม่พึงพอใจของผู้รับบริกำรทุกโครงกำรและ
กิจกรรมโดยสรปุ สง่ งำนแผนงำนและงำนประกนั คุณภำพทุกปี
1.2 การกากับดูแลองคก์ รและความรบั ผิดชอบต่อสังคม (Governance and Societal Responsibilities)
ก. การกากบั ดูแลโรงเรยี น (Organizational GOVERNANCE)
(1) ระบบการกากบั ดูแลโรงเรยี น (GOVERNANCE System)
ผ้นู ำระดับสงู วำงระบบกำรกำกบั ดแู ลโรงเรียน โดยกำหนดกระบวนกำรโรงเรียนดำเนินกำรในกำรทบทวน
และทำให้โรงเรียนประสบควำมสำเร็จในเร่ืองต่ำงๆ ที่สำคัญ โดยมุ่งเน้นกำรกำกับดูแลโรงเรียนด้วยหลักธรรมำภิบำล
(Good Governance) ในประเด็นตอ่ ไปนี้
1. ควำมรบั ผดิ ชอบต่อกำรจัดกำรของผบู้ ริหำร เชน่ กำรจดั กิจกรรม/โครงกำรต่ำงๆ มีกำรประชุมเพ่ือ
มอบหมำยงำน กำหนดหน้ำทแ่ี ละผรู้ ับผิดชอบงำนไว้อย่ำงชัดเจนและเปน็ ระบบ ตลอดจนมีกำรควบคุมติดตำมและ
ประเมนิ ผลกำรดำเนินงำนทุกครง้ั เพอ่ื นำผลสรปุ มำใช้เปน็ แนวทำงปรับปรุงและพฒั นำต่อไป
2. ควำมรับผิดชอบด้ำนกำรเงินมีกำรจัดเก็บ และรักษำและจัดส่งเงินรำยได้ตำมระเบียบงำนรำชกำร
มีกำรรำยงำนข้อมูลทำงกำรเงินอย่ำงสม่ำเสมอรวมท้ังมีกำรแต่งต้ังคณะกรรมกำรเฉพำะกิจเพ่ือจัดซ้ือจัดจ้ำง
มีกำรตรวจสอบภำยในและภำยนอกอย่ำงเป็นอิสระ เช่น กำรตรวจสอบจำกหน่วยตรวจสอบภำยในและ
สำนกั งำนตรวจเงินแผน่ ดนิ
3. กำรปกป้องผลประโยชน์ของทำงรำชกำรตำมควำมเหมำะสม เช่น มีระบบกำรประกันคุณภำพ
กำรศึกษำ กำรดำเนินกำรตำมนโยบำยของโรงเรียนเพ่ือให้บรรลุเป้ำหมำยตำมพันธกิจ มีระบบกำรตรวจสอบ
ข้อมูลข่ำวสำรท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องกับกำรปฏิบัติงำนและอำจมีกำรปรับเปล่ียนและแก้ไขสัญญำในส่วนที่รำชกำรจะ
เป็นผู้เสียเปรียบ รวมทั้งมีกำรจัดซื้อจัดจ้ำงวัสดุครุภัณฑ์ของทำงรำชกำรอย่ำงโปร่งใสและตรวจสอบได้
กำรดำเนินงำนกำรปกครองกำรบริหำรกำรจัดกำรกำรควบคุมดูแลกิจกำรต่ำงๆ ให้เป็นไปตำมศีลธรรมและ
จริยธรรม กำรบรหิ ำรจัดกำรทดี่ ีซ่ึงโปร่งใสตรวจสอบได้โดยกำรมอบอำนำจกำรรำยงำนกำรจัดทำงบประมำณกำร
บริหำรจัดกำรอย่ำงมีระบบและคล่องตัว ลดขั้นตอนในกำรทำงำนโดยใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศเข้ำมำช่วย
และมรี ะบบกำรประเมนิ กำรปฏิบตั ิงำนแต่ละระดับ
(2) การประเมนิ ผลการดาเนินการ (PERFORMANCE Evaluation)
โรงเรียนประเมินผลกำรดำเนินกำรของผู้นำระดับสูง โดยบุคลำกรในโรงเรียนมีกำรประเมินผลงำนของ
ผนู้ ำระดับสูงและหวั หน้ำฝำ่ ย หัวหนำ้ งำน หัวหน้ำกลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ได้รับกำรประเมินผลงำนโดยคณะกรรมกำร
ประเมินระดับผู้บริหำรโรงเรียนโรงเรียนใช้กำรประเมินผลกำรดำเนินกำรในกำรกำหนดค่ำตอบแทนของผู้บริหำร
ดว้ ยกำรกำหนดค่ำตอบแทนของผบู้ ริหำรตำมหลักเกณฑท์ ี่กำหนด
15
ผู้นำระดับสูงและคณะกรรมกำรกำกับดูแลองค์กรใช้ผลกำรดำเนินกำรในกำรประเมินผลกำรดำเนินกำรของ
คณะกรรมกำรกำกับดูแลองค์กร ได้แก่ กำรกำกับดูแลโดยคณะกรรมกำรดำเนินงำนประจำโรงเรียน
ซ่ึงประกอบด้วย คณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพ้ืนฐำน มีกำรให้ข้อเสนอแนะผ่ำนกลไกกำรมีส่วนร่วม มีกำรประชุม มี
กำรกำกับ ตรวจสอบ ใหข้ ้อเสนอแนะในกำรปรับปรุงตรวจสอบ ซง่ึ จะมีกำรประชมุ อย่ำงน้อยปีละ 2 คร้งั
ผนู้ ำระดับสูงและคณะกรรมกำรกำกบั ดแู ลองคก์ ร ใช้ผลกำรทบทวนผลกำรดำเนินกำรข้ำงต้นไปพัฒนำต่อ
และปรับปรุงประสิทธิผลของกำรนำองค์กรของผู้นำแต่ละคน และของคณะกรรมกำรรวมทั้งระบบกำรนำองค์กร
ต่อไป โดยมีคณะกรรมกำรกำกับดูแลโรงเรียนตำมคำส่ังโรงเรียนและได้นำข้อเสนอแนะของคณะกรรมกำรมำ
ปรับปรุงกำรดำเนนิ งำน มกี ำรกำกับดแู ลตรวจสอบและประเมินผลกำรทำงำนอย่ำงต่อเน่ืองเปน็ ระยะๆ
ข. การประพฤติปฏบิ ตั ิตามกฎหมายและมจี รยิ ธรรม (Legal and ETHICAL BEHAVIOR)
(1) การประพฤติปฏิบัตติ ามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ (Legal and REGULATORY
BEHAVIOR)
โรงเรียนได้คำดกำรณ์ล่วงหน้ำถึงควำมกังวลของสำธำรณะ (Public Concerns) ที่มีต่อหลักสูตรกำรจัด
กำรศกึ ษำและกำรปฏิบัติ โดยดำเนินกำรด้ำนหลักสูตรและกำรดำเนินกำรมีผลกระทบในเชิงลบต่อสังคมรวมท้ังมี
กำรคำดกำรณ์ล่วงหน้ำถึงควำมกังวลของสำธำรณะท่ีมีต่อหลักสูตรและกำรกำรดำเนินกำรท้ังในปัจจุบันและใน
อนำคต กำรดำเนินงำนของโรงเรียนกำหนดใหส้ อดคลอ้ งกบั วิสัยทศั น์และพนั ธกิจ มีกำรจัดโครงกำรหรอื กิจกรรมตำ่ ง ๆ
1. องคก์ รมกี ำรเตรยี มกำรเชิงรุกถึงควำมกังวลและผลกระทบเหลำ่ น้ีโดย
1.1 กำรดำเนินกำรคำนึงถึงผลกระทบในเชิงลบต่อสังคม โดยใช้วิธีดำเนินกำรในเชิงรุกท้ังใน
ปจั จบุ ันและอนำคต เนน้ กำรใชท้ รัพยำกรอย่ำงคมุ้ คำ่ และรักษำส่งิ แวดล้อม
1.2 กำรจัดเตรียมป้องกันและแก้ไขผลกระทบในทำงลบต่อสังคม เช่น กำรจัดฝึกอบรม
ทุกคร้ังจะมีกำรประชุมวำงแผนงำนดำเนินงำนตำมแผนและนำผลกำรดำเนินงำนมำประชุมร่วมกันเพ่ือรับรู้ถึง
ควำมพงึ พอใจของผ้เู ขำ้ ร่วมกจิ กรรมหรือโครงกำรน้นั ๆ
2. กำรจดั กิจกรรมและโครงกำรตำ่ งๆ มุ่งตอบสนองควำมตอ้ งกำรของผู้เรยี น
3. องค์กรมีกระบวนกำร ตัวชี้วัดและเป้ำประสงค์ท่ีสำคัญด้ำนต่ำงๆและมีกำรดำเนินกำรเรื่อง
ควำมเส่ียงท่ีเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และกำรปฏิบัติกำรขององค์กร ควำมน่ำเชื่อถือของผลงำนวิจัยและผลงำน
ทำงวิชำกำร กำรจดั ทำเอกสำรหนังสอื หำกข้อมลู คลำดเคลื่อนจะทำใหเ้ สยี ชอ่ื เสยี ง
โรงเรียนกำหนดให้มีกำรตรวจสอบควำมถูกต้องจำกผู้ทรงคุณวุฒิ อีกท้ังสำมำรถตอบสนองผู้เรียน
ในด้ำนบริกำรวิชำกำรและได้ดำเนนิ กำรใหเ้ ป็นไปตำมกฎระเบียบ
(2) การประพฤตปิ ฏบิ ัตอิ ยา่ งมจี รยิ ธรรม (ETHICAL BEHAVIOR)
โรงเรียนมีวิธีกำรส่งเสริมและทำให้ม่ันใจได้ว่ำบุคลำกรทุกคนมีพฤติกรรมที่มีจริยธรรมในกำรปฏิสัมพันธ์
ทกุ กรณีและทุกคนประพฤติปฏบิ ตั ิตนโดยยึดตำมกฎระเบียบข้อบังคับตำมพระรำชบัญญัติครูและบุคลำกรทำงกำร
ศึกษำ พ.ศ.2546 และจรรยำบรรณข้ำรำชกำรครู ท้ังน้ีโรงเรียนมีวิธีในกำรติดตำมและดำเนินกำรต่อพฤติกรรมท่ี
ฝ่ำฝืนจรยิ ธรรม ดังนี้
1. สร้ำงค่ำนิยมท่ีดีภำยในโรงเรียนโดยยึดหลักกำรดำเนินงำนตำมแนวนโยบำยโรงเรียนซ่ึงต้ังอยู่
บนพ้นื ฐำนของหลกั คุณธรรม ยตุ ิธรรม และควำมเสมอภำค
16
2. อบรมชี้แจงให้บุคลำกรท้ังเก่ำและใหม่ได้รับทรำบและมีควำมเข้ำใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับจรรยำบรรณ
และกำรปฏิบัตงิ ำนในโรงเรยี น
3. ส่งเสริมใหบ้ คุ ลำกรทุกคนปฏบิ ตั ิตำมกฎหมำย ระเบียบข้อบงั คับ จำรตี ประเพณอี ยำ่ งเครง่ ครัด
4. สง่ เสริมและสนับสนุนให้บคุ ลำกรมจี ติ สำธำรณะในกำรใหบ้ รกิ ำรแกผ่ ้รู ับบริกำรอย่ำงเต็มใจและเทำ่ เทียมกนั
5. ยกย่องชมเชยบคุ ลำกรทีป่ ระพฤตติ นเปน็ แบบอย่ำงท่ีดีแก่ผรู้ ว่ มงำนคนอน่ื ๆ
ค. ความรบั ผิดชอบต่อสังคม (Societal Responsibilities)
(1) ความผาสุกของสังคม (Societal Well-Being) กำรคำนึงถึงควำมผำสุกและผลประโยชน์ของสังคมในวง
กวำ้ งเปน็ ส่วนหนึง่ ในกลยุทธ์และกำรปฏบิ ตั ิงำนประจำวนั โรงเรยี นมภี ำรกิจหลกั ให้ควำมร้ทู ำงวชิ ำกำรและอบรมบม่ นิสยั
ด้ำนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ดีแก่ผู้เรียน ดังน้ันจึงคำนึงถึงผลลัพธ์ท่ีเกิดข้ึนคือ ผู้เรียนต้องเป็นคนดี เก่ง และอยู่
รว่ มกันในสงั คมอย่ำงมคี วำมสขุ โดยกำหนดไวใ้ นพันธกจิ และแผนปฏบิ ัตกิ ำรประจำปี กำรมีส่วนในกำรสร้ำงควำมสมดุล
ใหก้ บั ระบบส่งิ แวดล้อม สงั คม และเศรษฐกิจ บุคลำกรมีสว่ นรว่ มในกำรประชุมและเป็นกรรมกำรต่ำง ๆ รว่ มกับบุคลำกร
ภำยนอก หนว่ ยงำนภำยนอก ในกำรสร้ำงควำมสมดลุ ให้กบั ระบบสิ่งแวดลอ้ มและสังคม
(2) การสนับสนุนชุมชน (Community Support) กำรดำเนินกำรในกำรสนับสนุนและสร้ำงควำม
เข้มแขง็ ใหแ้ ก่ชมุ ชนท่สี ำคัญขององคก์ รอย่ำงจริงจัง โรงเรียนได้ดำเนินกำร สนับสนุนและสร้ำงควำมเข้มแข็งให้แก่
ชุมชนอย่ำงจริงจังและต่อเน่ือง โดยมีโครงกำรบริกำรวิชำกำรและเข้ำร่วมในกิจกรรมของชุมชนและร่วมมือกับ
ชุมชนในกำรพัฒนำช่วยเหลือกิจกรรมต่ำง ๆ และยังมุ่งเน้นกำรเช่ือมโยงกับกำรมีส่วนร่วมของประชำชนในพื้นที่
มีกำรสอบถำมข้อมูลเพื่อประเมินควำมต้องกำร และรับรู้ปัญหำของชุมชนอย่ำงสม่ำเสมอ มีกำรสร้ำงเครือข่ำย
ระหว่ำงโรงเรียนกับชุมชน เป็นต้น ผลท่ีได้คือควำมไว้วำงใจ ควำมเป็นกัลยำณมิตรของบุคลำกรในโรงเรียน
กบั ชุมชนและจำนวนของผรู้ บั บริกำรเพ่มิ มำกข้ึนเพรำะมีควำมน่ำเชือ่ ถือ
องค์กรชุมชนท่ีให้กำรสนับสนุนกำรดำเนินงำนของโรงเรียนที่สำคัญ ได้แก่ กลุ่มองค์กรต่ำง ๆ ทั้งภำครัฐ
และเอกชน รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่ำง ๆ เช่น ชุมชนในเขตตำบลศำลำยำ เทศบำลอำเภอพุทธมณฑล องค์กำร
บรหิ ำรสว่ นจังหวัดนครปฐม เทศบำลเมืองนครปฐม โรงพยำบำลพุทธมณฑล สถำนีอนำมัยตำบลศำลำยำ สถำนี
ตำรวจ จังหวัดนครปฐม เป็นต้น โดยองค์กรมีวิธีกำรในกำรคัดเลือกชุมชนดังกล่ำว ดังนี้ มีผู้นำชุมชนท่ีเข้มแข็ง
มกี ลมุ่ เปำ้ หมำยรองรับชดั เจน และมีกำรดำเนนิ งำนดำ้ นวัฒนธรรมอยำ่ งต่อเนอ่ื ง
กำรกำหนดกิจกรรมที่โรงเรียนเข้ำไปมีส่วนร่วม รวมถึงกิจกรรมท่ีอำจใช้สมรรถนะหลักของโรงเรียนและควำม
ร่วมมือระหว่ำงผู้บริหำรและบุคลำกรในกำรพัฒนำชุมชนมีกระบวนกำร กำรประเมินศักยภำพของชุมชน สำรวจควำม
ต้องกำรของชุมชน จัดเสวนำ/พบปะพูดคุย/ลำนวัฒนธรรม/สภำกำแฟ เข้ำร่วมกิจกรรมต่ำงๆ ของชุมชน เช่น งำน
ประเพณีประจำปีของท้องถ่ิน งำนมงคลและงำนอวมงคล สนับสนุนทรัพยำกร เช่น บุคลำกร วัสดุ อุปกรณ์ และเชิดชู
เกียรตผิ ูม้ ผี ลงำนดเี ด่น เชน่ ศษิ ย์เกำ่ ดเี ดน่ ผมู้ อี ุปกำรคณุ ตอ่ โรงเรียน เปน็ ต้น
17
หมวด 2 กลยทุ ธ์ (Strategy)
2.1 การจัดทากลยทุ ธ์ (Strategy Development)
ก. กระบวนการจดั ทากลยุทธ์ (Strategy Development PROCESS)
(1) กระบวนการวางแผนกลยทุ ธ์(Strategy Planning PROCESS)
โรงเรียนวำงแผนกลยุทธ์ /แผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำด้วยหลักกำร PDCA โดยใช้กระบวนกำรบริหำรแบบมี
ส่วนร่วมของบุคลำกรภำยในโรงเรียนและบุคลำกรภำยนอกโรงเรียน ซึ่งบุคลำกรภำยในโรงเรียน ได้แก่ ผู้อำนวยกำร
โรงเรียน รองผู้อำนวยกำรโรงเรียนทั้ง 5 กลุ่มบริหำร คณะกรรมกำรบริหำรโรงเรียน (ครูหัวหน้ำกลุ่ม หัวหน้ำกลุ่มสำระ
และหัวหน้ำงำน) และตัวแทนนักเรียน (คณะกรรมกำรสภำนักเรียน) ส่วนบุคคลภำยนอกโรงเรียน ประกอบด้วย
คณะกรรมกำรสถำนศึกษำข้ันพ้ืนฐำน จำนวน 15 คน ตัวแทนผู้ปกครอง และชุมชน ได้มีส่วนร่วมในกำรดำเนินกำร
จัดทำกลยุทธ์ที่เป็นวิธี หรือแนวทำงของโรงเรียนที่จะเตรียมกำรสำหรับอนำคต กำรพัฒนำเชิงกลยุทธ์โดยกำรวำงแผน
หำทำงเลือกท่ี เหมำะสมกบั สภำพของโรงเรยี น
กำรวิเครำะห์สภำพแวดล้อมภำยนอก (STEP) ผลกำรวิเครำะห์พบว่ำ มีทั้งโอกำส (Opportunities) และ
อุปสรรค (Threats) ดังน้ี 1) ด้ำนสังคม-วัฒนธรรม (Social–cultural factors = S) 2) ด้ำนเทคโนโลยี (Technological
factors = T) 3) ด้ำนเศรษฐกิจ (Economic factors = E) และ 4) ด้ำนกำรเมือง กฏหมำยและนโยบำย (Political
and legal factors = P)
กำรวิเครำะห์สภำพแวดล้อมภำยใน (2S4M) ผลกำรวิเครำะห์พบว่ำ มีทั้งจุดแข็ง (Strengths) และจุดอ่อน
(Weaknesses) ดังน้ี 1) ด้ำนโครงสร้ำงและนโยบำยองค์กร (Structure = S1) 2) ด้ำนกำรบริกำรและคุณลักษณะ
ผู้เรียน (Service/Products =S2) 3) ด้ำนบุคลำกร (Man = M1) 4) ด้ำนกำรเงิน (Money = M2) 5) ด้ำนวัสดุ
อปุ กรณ์ (Materials = M3) และ 6) ด้ำนกำรจัดกำร (Management = M4)
จำกผลกำรวิเครำะห์ SWOT Analysis ทำให้บุคคลกรสำคัญที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียน ได้แก่ ผู้บริหำร ครูและ
บุคลำกรทำงกำรศึกษำ ผู้ปกครอง นักเรียน และคณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำน มีกำรกำหนดทิศทำงร่วมกัน
และได้กำหนดโครงสร้ำงกำรบริหำรโรงเรียนออกเป็น 5 กลุ่มบริหำร โดยมีกำรนำข้อมูลจำกผลกำรวิเครำะห์ SWOT
Analysis มำหำแนวทำงแก้ไขและพัฒนำ และมีกำรกำกับติดตำม ประเมินผลจำกผู้รับบริกำร (นักเรียนและผู้ปกครอง)
ใหอ้ ยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป
กระบวนกำรวำงแผนกลยุทธ์ของโรงเรยี น ในแตล่ ะขั้นตอนมีรำยละเอียด ดงั นี้
1. การเตรียมการ ผู้บริหำรประกำศแต่งต้ังคณะกรรมกำรดำเนินงำน กำรจัดทำกลยุทธ์ซ่ึงประกอบด้วย
คณะกรรมกำรบริหำรโรงเรียน คณะกรรมกำรสถำนศึกษำข้ันพื้นฐำน ผู้ทรงคุณวุฒิจำกชุมชน หน่วยงำน และองค์กร
ภำยนอก ตัวแทนนักเรียน ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำของโรงเรียน ประชุมร่วมกันทำควำมเข้ำใจแนวทำงในกำร
จัดทำแผนกลยุทธท์ ี่ผ่ำนมำ และวเิ ครำะหป์ ัจจยั ทีจ่ ะมำใช้เป็นฐำนในกำรจัดทำแผนกลยุทธ์
2. กำรรวบรวมและวิเครำะห์ข้อมูล งำนสำรสนเทศโรงเรียนประสำนงำนกับเจ้ำหน้ำที่สำรสนเทศ กลุ่ม
บริหำรงำนต่ำง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง เพื่อเก็บรวบรวมและวิเครำะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสภำพแวดล้อมของโรงเรียนในด้ำนต่ำง ๆ
ต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ปัจจัยสำคัญท่ีมีผลกระทบต่อกำรดำเนินงำนของโรงเรียน เช่น นโยบำยและจุดเน้นของ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน กระทรวงศึกษำธิกำร มำตรฐำนและกำรประกันคุณภำพภำยในและ
18
ภำยนอกสถำนศึกษำ ของสำนักงำนรับรองมำตรฐำนและประเมินคุณภำพกำรศึกษำ (องค์กำรมหำชน) โรงเรี ยน
มำตรฐำนสำกล ข้อมูลนักเรียน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ข้อมูลกำรเงิน ระบบบริหำรและกระบวนกำรปฏิบัติงำน ข้อมูล
ของโรงเรียนคู่แข่ง เป็นต้น เจ้ำหน้ำท่ีงำนสำรสนเทศตรวจสอบควำมครบถ้วนของข้อมูลสำรสนเทศ และจัดทำเป็น
เอกสำรใช้ในกำรประกอบกำรวิเครำะห์ สภำพแวดล้อมในขั้นตอนต่อไป
3. การวิเคราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT
Analysis) โรงเรียน วิเครำะห์ข้อมูลปัจจัยต่ำง ๆ
โดยใช้เทคนิค SWOT Analysis เป็นเครื่องมือ
วิเครำะห์ปัจจัยภำยนอกที่เป็นโอกำสและอุปสรรค
(STEP) 4 ด้ำน และปัจจัยภำยในที่เป็นจุดแข็งและ
จุดอ่อน (2S4M) ประมวลข้อมูลทั้งสองด้ำนเข้ำ
ด้วยกัน จำกกำรระดมควำมคิดเห็นจำกผู้มีส่วน
เก่ียวข้องทุกฝ่ำย ได้แก่ ผู้บริหำร ครูและ
บุคลำกรทำงกำรศึกษำ นักเรียน ผู้ปกครองและ
คณะกรรมกำรสถำนศึกษำข้ันพื้นฐำนของโรงเรียน
ในกำรวิเครำะห์สภำพแวดล้อมภำยนอก และ
สภำพแวดลอ้ มภำยในโรงเรยี นแลว้ ประมวลผลกำร
วิเครำะห์ และสรุปผลกำรวิเครำะห์สภำพแวดล้อม
ของโรงเรียนนำไปเป็นแนวทำงสำหรับกำหนดทิศ
ทำงกำรพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำของโรงเรียน ซึ่ง
สรุปเป็นตำรำงสัมพันธ์แบบเมตริก (SWOT
Matrix)นำไปสู่กำรประเมนิ สถำนภำพของโรงเรียน
ท่ีมีโอกำสมำกกว่ำอุปสรรค มีจุดแข็งมำกกว่ำ
จุดออ่ น อย่ใู นสถำนกำรณ์ “เอื้อและแขง็ ”
4. การกาหนดทิศทางการพัฒนาคุณภาพ
สถานศึกษา คณะกรรมกำรบริหำรโรงเรียน และ
คณะทำงำนประชุมร่วมกันเพ่ือกำหนดทิศทำงของ
โรงเรียน จัดทำวสิ ยั ทัศน์ พันธกิจเป้ำประสงค์ กล
ยุทธ์ โดยพิจำรณำจำกภำรกิจตำมกฎหมำย
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สมรรถนะหลักของโรงเรียน
ผลกำรวิเครำะห์สภำพแวดล้อมและกำรประเมิน
สถำนภำพของโรงเรียนในปัจจุบัน รวมท้ังกำร
ท บ ท ว น โ ร ง เ รี ย น ไ ป สู่ ค ว ำ ม ส ำ เ ร็ จ ใ น อ น ำ ค ต
นำข้อมูลมำวเิ ครำะหท์ บทวน ปรับปรุกระบวนกำร
จัดทำแผนกลยุทธ์เพ่ือให้เกิดควำมมั่นใจในทิศทำง
ของโรงเรียนมำกข้ึน
แผนภาพท่ี 2.1 กระบวนกำรวำงแผนกลยุทธ์ 19
5. การจัดทากลยทุ ธ์ คณะกรรมกำรบริหำรโรงเรียนและคณะทำงำนประชุมจัดทำกรอบแผนกลยุทธ์ กำหนด
เปำ้ หมำยระยะยำวและระยะสัน้ ระยะยำวคอื แผนพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำ จำกวสิ ัยทศั น์ พนั ธกจิ ของโรงเรียน เลอื กวธิ ี
ปฏิบัติในแต่ละพันธกิจของโรงเรียน กำหนดเป็นกลยุทธ์ จำนวน 4 กลยุทธ์ จำกนั้นกำหนดเป้ำหมำยเชิงกลยุทธ์ และ
ดำเนินกำรให้แล้วเสร็จก่อนส้ินสุดแผนปฏิบัติกำรประจำปีงบประมำณน้ัน ๆ ภำยใน 2 เดือน ส่วนแผนปฏิบัติกำร
ประจำปีในปถี ดั ไป โรงเรยี นจะแต่งต้ังคณะกรรมกำรจดั ทำใหแ้ ล้วเสรจ็ ประมำณ 1 เดอื น
6. การกล่ันกรองและเห็นชอบกลยทุ ธ์ คณะกรรมกำรกล่มุ งำนนโยบำยและแผนงำนไดต้ รวจสอบควำมถกู ต้อง
เหมำะสม จัดทำแผนกลยุทธ์ฉบับร่ำง เสนอคณะกรรมกำรบริหำรโรงเรียน พิจำรณำควำมถูกต้องร่วมกัน จำกนั้นนำ
ขอ้ เสนอแนะมำปรับปรงุ แกไ้ ข และจดั ทำแผนกลยทุ ธฉ์ บบั สมบรู ณ์ เสนอขอควำมเห็นชอบจำกผู้อำนวยกำรโรงเรยี นและ
คณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำข้ันพ้นื ฐำนของโรงเรยี น ตำมลำดับ
7. การส่ือสารและการเผยแพร่ ภำยหลังจำกกำรจัดทำแผนกลยุทธ์ฉบับสมบูรณ์แล้ว ได้มีกำรสื่อสำรและ
ถ่ำยทอดแผนกลยุทธ์ไปสู่บุคลำกรท่ีเก่ียวข้องดังนี้ 1) ผู้อำนวยกำรประชุมชี้แจงแนวทำงกำรบริหำรแผนกลยุทธ์ของ
โรงเรยี นและมอบแนวทำงกำรดำเนินงำนท่สี ำคญั แกร่ องผอู้ ำนวยกำรท้ัง 5 กลุ่มบริหำรงำน หัวหน้ำกลุ่มงำน หัวหน้ำงำน
และหวั หน้ำกลุ่มสำระกำรเรยี นรใู้ นกำรจดั ทำแผนปฏิบัติกำร 2) ผู้อำนวยกำรโรงเรยี นสรุปสำระสำคัญของแผนกลยุทธ์ใน
กำรประชมุ คณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำขนั้ พื้นฐำน คณะกรรมกำรเครือข่ำยผู้ปกครอง และกำรประชุมผูป้ กครองนักเรยี น
8. การนากลยุทธ์สู่การปฏิบัติ โดยคณะกรรมกำรบริหำรโรงเรียนมอบแนวทำงกำรดำเนินงำนที่สำคัญแก่
หวั หน้ำกลุ่มงำน หัวหน้ำงำน และหัวหน้ำกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ในกำรจัดทำแผนปฏิบัติกำรประจำปี และกำรปฏิบัติงำน
ตำมแผนโดยใชว้ งจรกำรบรหิ ำรงำนคุณภำพ PDCA
9. การกากับติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติ โดยผู้บริหำรจะมอบหมำยรองผู้อำนวยกำรท้ัง 5 กลุ่ม
บรหิ ำรงำน เปน็ ผกู้ ำกบั ตดิ ตำมและประเมนิ ผลกำรดำเนินงำนตำมโครงกำร/กิจกรรมตำมแผนปฏบิ ัติงำนประจำปีในกลุ่ม
บรหิ ำรงำนของแต่ละกลมุ่ ด้วยตนเอง
(2) นวตั กรรม (INNOVATION)
โรงเรียนกำญจนำภิเษกวิทยำลัย นครปฐม (พระตำหนักสวนกุหลำมมัธยม) มีกระบวนกำรจัดทำกลยุทธ์ของ
โรงเรียนเพื่อกระตุ้นและทำใหเ้ กดิ นวตั กรรม โดยคณะกรรมกำรบริหำรโรงเรียนมีกระบวนกำรในกำรสร้ำงนวัตกรรมจำก
กำรกำหนดรูปแบบกำรบริหำรโรงเรยี นคุณภำพ “ KPNS 4 กลยทุ ธ์ 9 วิถี เบญจวิถี วิถกี าญจนา” ดงั น้ี
1. การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล พิจำรณำจำกกำรประเมินสถำนภำพของโรงเรียน ท่ีมีโอกำสมำกกว่ำ
อุปสรรค มีจุดแข็งมำกกว่ำจุดอ่อน และปัจจัยควำมสำเร็จท่ีสำคัญของโรงเรียน พบว่ำ มีโอกำสเชิงกลยุทธ์ในด้ำนกำร
พัฒนำคณุ ภำพทำงดำ้ นวชิ ำกำรแก่ผู้เรียนดว้ ยกำรทำงำนเชงิ ระบบ และมงุ่ เน้นผลลัพธ์ของผู้เรียน
2. การตัดสินใจเลือกโอกาสเชิงกลยุทธ์ท่ีสาคัญ กำรพิจำรณำจำก สมรรถนะหลักของโรงเรียน คือควำม
เช่ียวชำญในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนที่มุ่งเน้นควำมเป็นเลิศทำงวิชำกำรและเพ่ือกำรศึกษำต่อในระดับอุดมศึกษำภำยใต้
กำรทำงำนอย่ำงเปน็ ระบบ
3. การกล่นั กรองและเห็นชอบโอกาสเชิงกลยุทธ์ คณะกรรมกำรกลมุ่ งำนนโยบำยและแผน รวบรวมข้อมูลท่ี
เก่ียวข้องเสนอคณะกรรมกำรบริหำรโรงเรียนเพื่อตรวจสอบควำมถูกต้องเหมำะสม และนำโอกำสเชิงกลยุทธ์ท่ีสำคัญมำ
กำหนดนวตั กรรมรูปแบบกำรบริหำรโรงเรยี นคุณภำพ
20
4. การสร้างนวตั กรรม คณะกรรมกำรบรหิ ำรโรงเรียนและกลุม่ งำนนโยบำยและแผน ใช้กลไกกำรปฏิบัติกำร
ตำมแผนกลยุทธ์ แผนพัฒนำบุคลำกร เน้นกำรพัฒนำคุณภำพโรงเรียนแบบมุ่งผลสัมฤทธ์ิ สร้ำงนวัตกรรมรูปแบบกำร
บริหำรโรงเรียน “KPNS 4 กลยุทธ์ 9 วิถี เบญจวิถี วิถีกาญจนา” ในกำรบริหำรจัดกำรศึกษำทั้ง 5 กลุ่มบริหำรของ
โรงเรียนกำญจนำภิเษกวิทยำลัย นครปฐม (พระตำหนักสวนกุหลำมมัธยม) ได้แก่ กลุ่มบริหำรวิชำกำร กลุ่มบริหำร
งบประมำณ กลุ่มบริหำรงำนบุคคล กลุ่มบริหำรทั่วไป และกลุ่มนโยบำยและแผน เพ่ือพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำของ
โรงเรียนสคู่ วำมเป็นเลศิ และประสบควำมสำเรจ็ อย่ำงตอ่ เน่อื งและย่ังยนื ดังแผนภำพท่ี 2.2
แผนภาพที่ 2.2 รูปแบบกำรบริหำรโรงเรียน
“KPNS 4 กลยุทธ์ 9 วิถี เบญจวิถี วิถีกำญจนำ”
กำรบริหำรเชิงกลยุทธ์ “KPNS 4 กลยุทธ์ 9 วิถี” ของโรงเรียนกำญจนำภิเษกวิทยำลัย นครปฐม
(พระตำหนักสวนกุหลำบมัธยม) มีรำยละเอียด ดังน้ี กลยุทธ์ท่ี 1 พัฒนาองค์กรให้พร้อมบริการ วิถีท่ี 1 ปรับปรุง
โครงสร้ำงกำรบริหำรโรงเรียน วิถีท่ี 2 พัฒนำภูมิทัศน์โรงเรียน กลยุทธ์ท่ี 2 พัฒนาคุณภาพผู้เรียน วิถีที่ 3
กำรจดั กำรเรยี นกำรสอนโดยใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศ วิถที ่ี 4 พัฒนำกระบวนกำรคิด วถิ ที ่ี 5 พัฒนำกำรอำ่ นและกำรเขียน
วิถีที่ 6 พัฒนำห้องเรียนคุณภำพ วิถีที่ 7 กำรยกระดับควำมเป็นเลิศทำงวิทยำศำสตร์และคณิตศำสตร์ กลยุทธ์ที่ 3
พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา วิถีที่ 8 พัฒนำครูและบุคลำกรเพ่ือกำรปฏิบัติงำน และกลยุทธ์ท่ี 4 พัฒนา
คณุ ภาพการจดั การศกึ ษาสู่มาตรฐานสากล วิถีท่ี 9 พฒั นำโรงเรยี นส่มู ำตรฐำนสำกล (World Class Standard School)
“เบญจวิถี วิถีกาญจนา” มีรำยละเอียด ดังนี้ 1) เทิดทูนสถาบัน หมำยถึง กำรมีส่วนร่วมในกำรจัดกิจกรรม
ทเ่ี กี่ยวกบั สถำบนั ชำติ ศำสนำ พระมหำกษัตริย์ สำนึกและแสดงออกถึงควำมจงรักภักดีต่อสถำบันพระมหำกษัตริย์ และ
น้อมนำพระบรมรำโชวำท พระรำชดำรัส มำปฏิบัติในกำรครองตน ครองคน ครองงำน 2) กตัญญู หมำยถึง อำสำ
ช่วยเหลือพ่อแม่ ครูอำจำรย์ แสดงควำมนับถือ ยกย่องผู้มีพระคุณ ปฏิบัติให้ผู้มีพระคุณสุขใจ อ่ิมใจ ปฏิบัติเป็นปกติ
วิสัย และเป็นแบบอย่ำงท่ีดี 3) บุคลิกดี หมำยถึง ร่ำงกำยสะอำด สมส่วน สง่ำงำมและสุขภำพสมบูรณ์ แข็งแรง แต่ง
กำยสะอำดเรียบร้อย เหมำะสม รวมถึงพูดจำไพเรำะ มีสัมมำคำรวะ รู้จักกำลเทศะ เป็นปกติวิสัยและเป็นแบบอย่ำงท่ีดี
4) มีวินัย หมำยถึง ปฏิบัติตำมข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียนและสังคม ตรงต่อเวลำใน
กำรปฏิบัติกิจกรรมต่ำง ๆ ในชีวิตประจำวัน มีควำมรับผิดชอบในกำรทำงำนท่ีได้รับมอบหมำย 5) ให้เกียรติ หมำยถึง
เป็นผู้มีควำมสุภำพเรียบร้อย มีสัมมำคำรวะ ไม่แสดงตนเหนือผู้อ่ืน มีน้ำใจ เสียสละ ช่วยเหลือผู้อ่ืน เคำรพพ่ี รักเพื่อน
ดแู ลนอ้ ง เคำรพกติกำ มำรยำทลำดบั ก่อน – หลงั
(3) การวิเคราะห์และกาหนดกลยุทธ์ (Strategy Considerations)
โรงเรียนได้วำงระบบติดตำมผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น โดยมีผู้รับผิดชอบแต่ละงำนอย่ำงชัดเจน วิเครำะห์และปรับปรุง
กำรดำเนินงำนอย่ำงต่อเน่ือง ด้วยกำรรวบรวมและวิเครำะห์ข้อมูลสำรสนเทศท่ีเกี่ยวข้องกับปัจจัยเหล่ำนี้มำเป็นส่วน
หนึ่งของกระบวนกำรวำงแผนเชิงกลยุทธ์ ซึ่งลำดับขั้นตอนกำรคิดเชิงกลยุทธ์ มีดังนี้ 1) กำหนดเป้ำหมำยท่ีจะไปให้ถึง
21
เป็นกำรกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้ำประสงค์ ของโรงเรียน เพ่ือเป็นเป้ำหมำยในกำรบริหำรจัดกำรในโรงเรียนให้
บรรลุเป้ำหมำย วิเครำะห์ ประเมินสถำนะ และประเมินควำมสำมำรถของโรงเรียน โดยกำรวิเครำะห์สภำพแวดล้อม
ภำยใน เพื่อรู้จุดแข็งและจุดอ่อนของกำรบริหำรจัดกำรภำยในโรงเรียน และ วิเครำะห์สภำพแวดล้อมภำยนอกโรงเรียน
เพือ่ รูค้ ู่แขง่ หรือโอกำสและอุปสรรคต่อกำรดำเนินงำน เป็นกำรคำดกำรณ์ในอนำคต หำทำงเลือกกลยุทธ์ ท่ีเป็นโอกำสที่
จะประสบควำมสำเรจ็ มำกทีส่ ดุ เพ่ือให้บรรลุเป้ำประสงค์/เป้ำหมำยท่ีกำหนดไว้ 2) กำรวำงแผนปฏิบัติกำร เป็นกำหนด
วิธกี ำรเพอ่ื ให้บคุ ลำกรในโรงเรยี นดำเนนิ กำร โครงกำร/กิจกรรมให้บรรลุผล สนองตอบวิสัยทัศน์และเป้ำประสงค์ 3) กำร
วำงแผนคขู่ นำน เป็นกำรหำมำตรกำรรองรับเม่ือมีปัญหำเกิดขึ้น และหำมำตรกำรที่เป็นทำงเลือกให้หลำกหลำยเป็นกำร
เตรยี มกำรรับมอื กบั ควำมเสีย่ งทอ่ี ำจจะเกดิ ข้นึ ระหว่ำงดำเนินกำรตำมแผนปฏิบัติกำร โดยกำรควบคุมภำยในและบริหำร
ควำมเส่ียงประจำปี ลงมือปฏิบัติงำนกลุ่ม/กลุ่มสำระกำรเรียนรู้/งำนดำเนินกำรตำมโครงกำร/ กิจกรรมตำมแผนปฏิบัติ
กำรประจำปีงบประมำณ มีกำรยืดหยุ่นหรือปรับให้สอดคล้องกับสถำนกำรณ์จริง เพ่ือกำรดำเนินกำรไปสู่เป้ำหมำยที่
กำหนด และประเมินผลกำรปฏิบัติงำน ประเมินผลกำรดำเนินกำรโครงกำร /กิจกรรม เป็นไปตำมแผนที่กำหนดหรือไม่
บรรลุเป้ำหมำยเพียงใด ซึ่งเป็นกำรตรวจสอบควำมสำเร็จ หรือควำม ล้มเหลว (ถ้ำมี) หำกพบว่ำ มีควำมล้มเหลวหรือ
บรรลุผลตำมเปำ้ หมำย ก็จะปรับปรงุ /พัฒนำ หรือ ปรับเปล่ียนกลยุทธ์ต่อไป กำรควบคุมภำยในและบริหำรควำมเสี่ยงใน
โรงเรียน เป็นกำรวำงแผนคู่ขนำนกับแผนปฏิบัติกำรประจำปีกำรงบประมำณของโรงเรียน เพื่อเตรียมกำรป้องกันควำม
เส่ียงท่ีอำจจะเกิดข้ึน ระหว่ำงกำรดำเนินกำรตำมแผนปฏิบัติกำรในกำรบริหำรจัดกำรศึกษำ และประเมินผลควบคู่กับ
กำรดำเนินกำรตำมแผนปฏิบัติกำร แจ้งผลกำรประเมินควำมเส่ียงแก่ผู้ท่ีเกี่ยวข้อง นอกจำกนี้ยังจัดกำรอบรมให้ควำมรู้
ใหม่ ๆ ฝึกปฏิบัติกำรแก่บุคลำกรทุกคน นิเทศ กำกับ ติดตำม มีกำรประเมินสรุปรำยผลกำรดำเนินงำนประจำปี พร้อม
ทั้งข้อเสนอแนะแกไ้ ขปรบั ปรุง แนวทำงกำรพัฒนำในปีต่อไป กำรทำแผนกลยุทธ์ของโรงเรียนในระยะ 4 ปี มีกำรติดตำม
ประเมินผลกำรนำไปใช้ทุกปี วิเครำะห์ปรับปรุง พัฒนำจุดอ่อนให้ดีข้ึนอย่ำงต่อเน่ือง เป็นควำมยั่งยืนของกำรบริหำรจัด
กำรศึกษำโรงเรียนในระยะยำว โดยควำมสำมำรถของโรงเรียนในกำรนำแผนกลยุทธ์ไปปฏิบัติ จำกวิสัยทัศน์ พันธกิจ
สู่กำรกำหนดกลยุทธแ์ ละเป้ำประสงค์ของกลยุทธ์
โรงเรียนได้กำหนดควำมท้ำทำย จำกกำรระดมควำมคิดเห็นจำกบุคคลสำคัญท่ีเกี่ยวข้องทุกฝ่ำยที่มีส่วนร่วม
และควำมได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ท่ีอธิบำยไว้ในโครงร่ำงของโรงเรียน มีกรอบเวลำของกำรวำงแผนระยะส้ัน โดยกำรจัดทำ
แผนปฏบิ ตั ิกำรประจำปีงบประมำณ 1 ปี กำรดำเนินกจิ กรรมของแตล่ ะโครงกำรเม่อื สิ้นสดุ จะมกี ำรประเมินผล เพ่ือนำผล
กำรประเมินมำพัฒนำให้ดียิ่งขึ้น และระยะยำวคือกำรจัดทำแผนกลยุทธ์/แผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำซ่ึงกำรกำหนด
กรอบเวลำได้จำกกำรจัดประชุม กำรมีส่วนร่วมของบุคลำกรทุกฝ่ำย และทำให้กระบวนกำรวำงแผนเชิงกลยุทธ์มีควำม
สอดคลอ้ งกบั กรอบเวลำดงั กล่ำว ในกระบวนกำรวำงแผนกลยุทธ์เพื่อให้มีควำมสอดคล้องกับกรอบของเวลำน้ันโรงเรียน
ได้มีกำรจดั ประชุมสรำ้ งควำมรูค้ วำมเข้ำใจโดยกำรมสี ว่ นร่วมของทุกฝ่ำยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ดำเนินกำรจัดทำแผนปฏิบัติ
กำรให้แล้วเสร็จกำรดำเนินกิจกรรมของแต่ละโครงกำรตำมแผนกลยุทธ์เพ่ือให้เกิดกำรปฏิบัติท่ีมีควำมคล่องตัวกำร
ดำเนนิ งำนสำมำรถยืดหยุ่นปรบั เปล่ยี นกจิ กรรมตำมสถำนกำรณท์ อ่ี ำจจะเปล่ียนแปลงในอนำคต
(4) ระบบงานและสมรรถนะหลักของโรงเรยี น (WORK SYSTEMS and CORE COMPETENCIES)
ระบบงำนท่ีสำคัญของโรงเรียน ใช้แนวคิดกำรบริหำรเชิงระบบ System Approach ซ่ึงประกอบด้วย Input -
Process - Output และมี Feedback เพ่ือกำรพัฒนำโรงเรียน ระบบและกลไกกำรบริหำรจัดกำรคุณภำพและมำตรฐำน
กำรศึกษำเพ่ือกำรประกันคุณภำพ ประกอบด้วย กำรกำหนดเป้ำหมำยคุณภำพสถำนศึกษำกำรขับเคล่ือนคุณภำพสู่
22
มำตรฐำน กำรประเมินควำมสำเร็จตำมมำตรฐำน กำรนำกำรเปลี่ยนแปลงสู่สถำนศึกษำและกำรสร้ำงคุณค่ำแก่วง
วิชำกำร และกำรเกิดวัฒนธรรมที่สะท้อนกำรพัฒนำที่ยั่งยืน โดยมีระบบกำรวัดวิเครำะห์และกำรจัดกำรควำมรู้เป็นตัว
ขบั เคล่ือนให้กำรบริหำรเชิงระบบสำมำรถพัฒนำและยกระดับคุณภำพใหส้ งู ข้นึ อย่ำงต่อเนื่อง
โรงเรียนได้ดำเนินกำรประชุมช้ีแจงต่อครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำในกำรวำงแผนตำมระบบงำนและ
สมรรถนะหลักของโรงเรียน เพ่ือให้เข้ำใจและปฏิบัติงำนไปทิศทำงเด่ียวกันทำให้องค์กรมีคุณภำพ ตลอดจนกำรกำหนด
มำตรฐำนกำรปฏิบัติงำน ทั้งกระบวนกำรและบทบำทหน้ำที่ เป็นแนวทำงให้ผู้ส่งมอบและพันธมิตรต้องดำเนินกำรต่อ
โรงเรียน พัฒนำคู่มือกำรปฏิบัติงำน ในกำรดำเนินกำรตำมแผนปฏิบัติกำรของโรงเรียนเพื่อกำรกำหนดสมรรถนะหลัก
(CORE COMPETENCIES) และระบบงำนในอนำคตของโรงเรียน
ข. วัตถุประสงคเ์ ชงิ กลยุทธ์ (STRATEGIC OBJECTIVES)
(1) วตั ถุประสงค์เชิงกลยุทธท์ ่ีสาคญั (KEY STRATEGIC OBJECTIVES)
โรงเรียนจัดทำแผนพัฒนำปฏิบัติกำรประจำปีที่สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ นโยบำย ควำมต้องกำรและปัญหำ
ของสถำนศึกษำและท้องถ่ิน โดยกำรมีส่วนร่วมของผู้บริหำร ครู บุคลำกร ชุมชน และองค์กรภำยนอก โดยได้
ดำเนินกำรจัดทำอย่ำงเป็นลำดับขั้นตอน มีกำรจัดทำโครงกำร/กิจกรรมที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้ำประสงค์
และกลยุทธ์ของสถำนศึกษำ และได้รับควำมเห็นชอบจำกคณะกรรมกำรสถำนศึกษำ ซ่ึงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ฝ่ำยงำน
ต่ำงๆ ได้เสนอกำรจัดกิจกรรม/โครงกำรต่ำง ๆ ดังปรำกฏในแผนปฏิบัติกำรประจำปีของสถำนศึกษำ มีกำรปฏิบัติงำนที่
เป็นรูปธรรมตำมกรอบแผนพัฒนำคณุ ภำพกำรศกึ ษำ มกี ำรนิเทศกำกับตดิ ตำมประเมินผลอย่ำงต่อเนือ่ ง
แผนกลยุทธ์และวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์เป็นองค์ประกอบหลักท่ีมุ่งเน้นสู่นักเรียนเพ่ือควำมสำเร็จ
ตำมวสิ ัยทัศนข์ ององค์กรมีอยู่ 4 กลยทุ ธส์ ถำนศึกษำได้บริหำรจัดกำรศึกษำ โดยใช้ 4 กลยุทธ์ ดังน้ี กลยุทธ์ที่ 1 พัฒนำ
องค์กรให้พร้อมบริกำร กลยุทธ์ที่ 2 พัฒนำคุณภำพผู้เรียน กลยุทธ์ท่ี 3 พัฒนำครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ และกล
ยทุ ธ์ท่ี 4 พฒั นำคุณภำพกำรจัดกำรศึกษำสมู่ ำตรฐำนสำกล โดยมีแผนกลยุทธ์ท่ีท้ำทำยและมีวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่
สำคญั ของโรงเรียนในช่วงปี 2561-2563 ดังตำรำงท่ี 2.1
ตารางที่ 2.1 แสดงแผนกลยุทธ์วัตถปุ ระสงค์เชิงกลยทุ ธ์กิจกรรม/โครงการตัวชวี้ ดั ความสาเร็จ
กลยทุ ธท์ ่ี 1 พฒั นาองคก์ รให้พร้อมบริการ ตัวชวี้ ดั ความสาเรจ็
เป้าหมาย 1.1 สถำนศึกษำมีกำรพัฒนำระบบเทคโนโลยีสำรสนเทศ และจัดสภำพแวดล้อมด้ำนระบบเทคโนโลยีสำรสนเทศท่ี
สนับสนนุ กำรบรหิ ำรจดั กำรและกำรจัดกำรเรยี นรอู้ ย่ำงเพียงพอและใชป้ ระโยชนเ์ ตม็ ศกั ยภำพ
1. สถำนศกึ ษำมีกำรพฒั นำระบบเทคโนโลยี
สำรสนเทศเพอื่ ใหผ้ ู้เรยี น ครแู ละบคุ ลำกรทำงกำร
ศกึ ษำ เปน็ ผู้มคี วำมสำมำรถในกำรใช้ส่ือเทคโนโลยี
และนวตั กรรมทำงกำรศกึ ษำ
2. สถำนศึกษำมกี ำรจัดสภำพแวดล้อมทำงกำยภำพ 2.1 สถำนศึกษำมีอำคำรเรียน อำคำรประกอบและสภำพแวดล้อมท่ีสะอำดปลอดภัย/เพียงพอและเอื้อต่อกำรจัดกำร
และสังคมท่ีเอื้อตอ่ กำรจัดกำรเรียนรู้อย่ำงมีคุณภำพ เรยี นรู้อย่ำงมีคณุ ภำพ
2.2 สถำนศึกษำมแี หลง่ เรียนรู้ท้งั ภำยในและภำยนอกสถำนศึกษำที่เอือ้ ตอ่ กำรจดั กำรเรียนรอู้ ยำ่ งมีคุณภำพและเพยี งพอ
3. สถำนศกึ ษำมกี ำรบริหำรจดั กำรโดยมุ่งเนน้ กำร 3.1 สถำนศกึ ษำมกี ำรปรับปรงุ และพัฒนำโครงสร้ำงกำรบริหำรจัดกำรโดยมงุ่ เนน้ กำรกระจำยอำนำจ กำรสรำ้ งเครอื ข่ำย
กระจำยอำนำจ กำรสรำ้ งเครอื ขำ่ ยและรับผดิ ชอบ และรบั ผดิ ชอบต่อผลกำรดำเนนิ งำน ให้เป็นไปตำมระบบประกนั คุณภำพภำยในของสถำนศกึ ษำ
ตอ่ ผลกำรดำเนนิ งำน 3.2 สถำนศกึ ษำมกี ำรบริหำรจดั กำรโดยยดึ หลกั ธรรมำภิบำล สง่ เสริมใหท้ กุ ภำคสว่ น และผู้มีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี เขำ้ มำมี
ส่วนรว่ มในกำรจดั กำรศกึ ษำ
23
กลยทุ ธท์ ี่ 1 พัฒนาองคก์ รใหพ้ ร้อมบรกิ าร ตัวชี้วดั ความสาเร็จ
เป้าหมาย 3.3 สถำนศกึ ษำได้รบั ควำมร่วมมือจำกทกุ ภำคสว่ นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในกำรส่งเสริมและสนับสนุนทรัพยำกรเพื่อ
กำรจัดกำรศกึ ษำ
กลยทุ ธท์ ี่ 2 พฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น ตัวช้ีวัดควำมสำเรจ็
เปา้ หมาย 1.1 ผเู้ รียนรอ้ ยละ 80 มีผลสมั ฤทธทิ์ ำงกำรเรยี นสำระกำรเรียนร้ภู ำษำไทยอยใู่ นระดบั ดขี น้ึ ไป
1.2 ผูเ้ รียนร้อยละ 80 ท่เี รียนภำษำตำ่ งประเทศเป็นภำษำที่สองผำ่ นกำรสอบวัดควำมรคู้ วำมสำมำรถกำรสือ่ สำรในระดบั
1. ผเู้ รยี นมคี วำมสำมำรถในกำรอำ่ น กำรเขยี น กำร ขัน้ พน้ื ฐำนของมำตรฐำนกำรเรยี นรู้ของภำษำน้ัน ๆ อยใู่ นระดับดขี ึน้ ไป
สอื่ สำรและกำรคิดคำนวณตำมเกณฑข์ องแต่ละช้ัน 1.3 ผู้เรยี นร้อยละ 75 มีผลสมั ฤทธท์ิ ำงกำรเรยี นในสำระกำรเรยี นรู้คณิตศำสตร์ อยู่ในระดบั ดขี ้นึ ไป
2.1 ผู้เรียนรอ้ ยละ 80 มผี ลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรยี นในสำระกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี อย่ใู นระดบั ดขี น้ึ ไป
2. ผเู้ รียนมีควำมสำมำรถในกำรวเิ ครำะหแ์ ละคิด 2.2 ผเู้ รียนร้อยละ 80 มีผลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรยี นในสำระเรยี นรู้สงั คมศกึ ษำศำสนำและวฒั นธรรม อยู่ในระดับดขี ึ้นไป
อยำ่ งมีวจิ ำรณญำณ อภิปรำยแลกเปลย่ี นควำม 2.3 ผเู้ รียนร้อยละ 80 สำมำรถอธิบำยหลกั กำร แนวคิด ขน้ั ตอนกำรทำงำนและอปุ สรรคของกำรทำงำนในผลงำน/
คิดเหน็ และแกป้ ญั หำ ชิน้ งำนของตนเองได้
3.1 ผู้เรียนชน้ั มธั ยมศึกษำตอนต้นและชัน้ มธั ยมศกึ ษำตอนปลำยร้อยละ 80 มโี ครงงำนและ/หรืองำนวิจยั และ/หรอื
3. ผู้เรยี นมคี วำมสำมำรถในกำรสรำ้ งนวตั กรรม นวัตกรรมท่นี ำไปสู่กำรขยำยผลอย่ำงนอ้ ย 1 ผลงำน
3.2 ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 80 สำมำรถแลกเปลย่ี นเรยี นร้นู ำเสนองำนได้
4. ผู้เรยี นมคี วำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี 4.1 ผู้เรยี นร้อยละ 90 สำมำรถสบื ค้นข้อมลู จำกอนิ เตอร์เน็ตและสรปุ ควำมรูด้ ว้ ยตนเองได้
สำรสนเทศ และกำรสอ่ื สำร 4.2 ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 90 สำมำรถนำเทคโนโลยสี ำรสนเทศมำใช้ในกำรผลติ ชิน้ งำนและใช้ในกำรนำเสนองำนได้
5. ผู้เรียนมผี ลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรยี นตำมหลกั สตู ร 5.1 ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 75 มีผลสัมฤทธทิ์ ำงกำรเรยี นตำมหลกั สตู รสถำนศกึ ษำในทกุ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรอู้ ย่ใู นระดบั ดเี ลิศ
สถำนศกึ ษำ ข้นึ ไป
5.2 ผูเ้ รียนรอ้ ยละ 75 มีผลกำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดับชำตขิ น้ั พน้ื ฐำน (O-NET) มีคำ่ เฉลี่ยรวมทกุ กลุ่มสำระกำร
6. ผู้เรยี นมีควำมรู้ ทกั ษะพน้ื ฐำนและเจตคตทิ ี่ดี เรยี นรู้สงู กวำ่ ผลกำรทดสอบระดบั ชำติทกุ รำยวิชำ
ตอ่ งำนอำชพี 6.1 ผเู้ รยี นร้อยละ 80 มีผลสัมฤทธทิ์ ำงกำรเรยี นในกลมุ่ สำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี อย่ใู นระดบั ดีเลศิ
ขึ้นไป
7. ผ้เู รียนมคี ณุ ลกั ษณะและคำ่ นยิ มที่ดตี ำมที่ 6.2 ผ้เู รียนร้อยละ 100 สำมำรถศกึ ษำต่อในระดบั ที่สูงขนึ้
สถำนศึกษำกำหนด โดยไมข่ ดั กบั กฎหมำยและ 7.1 ผูเ้ รยี นรอ้ ยละ 100 มีผลกำรประเมินคณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงคผ์ ่ำนเกณฑ์ ระดบั ดขี ึ้นไป
วฒั นธรรมอันดีงำมของสังคม 7.2 ผเู้ รียนรอ้ ยละ 100 มคี วำมเป็นสภุ ำพบรุ ษุ สุภำพสตรแี ละมีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ตำมหลักเบญจวถิ ี (เทิดทนู
8. ผู้เรียนมีควำมภมู ิใจในทอ้ งถนิ่ และควำมเปน็ ไทย สถำบัน,กตัญญ,ู บคุ ลิกด,ี มีวินัย,ใหเ้ กยี รต)ิ
8.1 ผู้เรยี นรอ้ ยละ 80 มผี ลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรียนในกลมุ่ สำระกำรเรยี นรศู้ ลิ ปะอยใู่ นระดบั ดีเลศิ ขึ้นไป
9. ผเู้ รียนยอมรบั ทจ่ี ะอยู่รว่ มกันบนควำมแตกต่ำง 8.2 ผเู้ รียนร้อยละ 80 มผี ลสัมฤทธท์ิ ำงกำรเรียนในกลมุ่ สำระกำรเรยี นร้สู งั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม อยใู่ นระดบั
และหลำกหลำย ดขี น้ั ไป
10. สุขภำวะทำงร่ำงกำยและลกั ษณะจิตสงั คม 8.3 ผู้เรียนร้อยละ 90 มสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมประเพณขี องทอ้ งถ่ิน
9.1 ผเู้ รียนร้อยละ 90 สำมำรถแสดงควำมคิดเห็นได้อย่ำงเหมำะสมและยอมรบั ควำมคิดเห็นทแ่ี ตกตำ่ ง
11. ผู้เรียนเป็นพลเมอื งดี มจี ติ อำสำ มคี ณุ ธรรม 9.2 ผเู้ รียนร้อยละ 90 มีสัมพนั ธภำพทำงสังคมอยใู่ นเกณฑ์ปกติ
จริยธรรม และมีคณุ ลักษณะตำม เบญจวถิ ขี อง 10.1ผ้เู รียนร้อยละ 100 มสี ขุ ภำพ ร่ำงกำยทส่ี มบรู ณแ์ ขง็ แรง ไม่เกี่ยวขอ้ งกบั สำรเสพตดิ และแก้ปญั หำโดยไม่ใชค้ วำม
สถำนศกึ ษำทีไ่ ด้กำหนดไว้ รุนแรง
10.2 ผเู้ รยี นร้อยละ 100 มีส่วนรว่ มในกำรดแู ล อนรุ ักษท์ รัพยำกรและสง่ิ แวดลอ้ มในสถำนศึกษำและชมุ ชนอยำ่ ง
ต่อเน่อื ง
11.1 ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 100 เป็นพลเมืองดี มจี ติ อำสำ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมคี ณุ ลกั ษณะตำมเบญจวิถขี อง
สถำนศกึ ษำที่ไดก้ ำหนดไว้
24
กลยทุ ธท์ ี่ 2 พัฒนาคณุ ภาพผ้เู รียน
เปา้ หมาย ตวั ช้ีวดั ควำมสำเร็จ
12 ผูเ้ รยี นมีจิตสำนกึ กำรอนรุ กั ษท์ รพั ยำกรธรรมชำติ 11.2 ผเู้ รียนทกุ คนมีจิตสำนกึ ในกำรอนุรกั ษท์ รพั ยำกรธรรมชำติและส่งิ แวดลอ้ ม
และสง่ิ แวดลอ้ ม และหำ่ งไกลยำเสพตดิ 11.3 ผู้เรียนทกุ คนปอ้ งกนั ตนเองให้หำ่ งไกลยำเสพติดและแกไ้ ขปญั หำยำเสพตดิ ในสถำนศกึ ษำ
12. ผเู้ รียนมที กั ษะกำรแกป้ ญั หำ ทกั ษะชวี ติ และ 12.1ผู้เรียนทกุ คนสำมำรถแกป้ ัญหำ มที กั ษะชวี ติ และอยอู่ ยำ่ งพอเพยี ง ตำมศำสตรพ์ ระรำชำ
อยอู่ ยำ่ งพอเพยี ง ตำมศำสตรพ์ ระรำชำ มคี วำมมงุ่ มนั่ 12.2 ผเู้ รยี นทุกคนมีควำมมงุ่ ม่ันในกำรศึกษำและกำรทำงำน สำมำรถปรบั ตวั เขำ้ กบั พหวุ ฒั นธรรม ยอมรบั ควำมคดิ และ
ในกำรศึกษำและกำรทำงำน สำมำรถปรบั ตัวเขำ้ กบั วัฒนธรรมทแ่ี ตกตำ่ ง
พหุวฒั นธรรม บนพนื้ ฐำนวฒั นธรรมที่ดีงำมของไทย
13. ผเู้ รียนมีสขุ ภำวะทำงรำ่ งกำย และจติ สังคมทดี่ ี 13.1ร้อยละ 100 ของผ้เู รียนทมี่ ีสุขนสิ ยั ในกำรดูแลสขุ ภำพและออกกำลังกำยสมำ่ เสมอ มีนำ้ หนกั สว่ นสูงและมี
มีสุนทรยี ภำพ มลี กั ษณะนสิ ัยดำ้ นศิลปะ ดนตรี และ สมรรถภำพทำงกำยตำมเกณฑ์มำตรฐำน
กีฬำ 13.2ร้อยละ 100 ของผเู้ รยี นรกั และเหน็ คุณคำ่ ในตนเองและผู้อน่ื มคี วำมม่ันใจ กลำ้ แสดงออกอยำ่ งเหมำะสม มมี นษุ ย
สัมพนั ธ์ทีด่ ี และให้เกยี รตผิ ู้อืน่
13.3รอ้ ยละ 100 ของผู้เรยี นท่ีสรำ้ งผลงำนจำกกำรเขำ้ ร่วมกจิ กรรมดำ้ นศลิ ปะ ดนตรี/นำฏศิลป์ กีฬำ/นันทนำกำร ตำม
จนิ ตนำกำร
14. ผู้เรยี นได้รบั กำรวดั และประเมนิ ผลทหี่ ลำกหลำย 15.1 ผ้เู รยี นทกุ คนได้รบั กำรวดั และปะเมนิ ผลทีห่ ลำกหลำยเหมำะสมตำมศักยภำพเปน็ รำยบคุ คล
เหมำะสมตำมศกั ยภำพเป็นรำยบุคคล
15. ผู้เรียนท่ีมคี วำมต้องกำรพิเศษได้รบั กำรสง่ เสริม 15.1 ผู้เรียนท่ีมคี วำมต้องกำรพิเศษไดร้ บั กำรส่งเสรมิ สนบั สนนุ และพฒั นำเต็มตำมศกั ยภำพเป็นรำยบคุ คลไม่นอ้ ย
สนบั สนุน และพฒั นำเตม็ ตำมศกั ยภำพเปน็ รำยบุคคล กวำ่ รอ้ ยละ 80
16. ผ้เู รยี นไดร้ บั กำรสง่ เสริมควำมรูแ้ ละ 16.1ผู้เรยี นทม่ี คี วำมรูค้ วำมสำมำรถพิเศษทำงดำ้ นวทิ ยำศำสตร์ คณิตศำสตร์ ภำษำ และเทคโนโลยี ไดร้ บั กำรสนบั สนนุ
ควำมสำมำรถพเิ ศษทำงด้ำนวิทยำศำสตร์ และได้รบั ควำมชว่ ยเหลอื ในกำรพฒั นำทกั ษะควำมรอู้ ยำ่ งตอ่ เนอ่ื ง
คณติ ศำสตร์ ภำษำ และเทคโนโลยี
17. สถำนศกึ ษำมีกำรสง่ เสรมิ กำรวจิ ยั และพัฒนำ 17.1ผู้เรยี นได้รบั กำรส่งเสรมิ กำรวจิ ยั และพัฒนำนวตั กรรมทีส่ ำมำรถนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้
นวตั กรรมของผูเ้ รยี นทส่ี ำมำรถนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ 17.2ร้อยละของผู้เรยี นมีงำนวิจยั ทสี่ ำมำรถนำไปใช้ประโยชน์ได้
กลยทุ ธ์ที่ 3 พฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ตวั ชีว้ ัดควำมสำเรจ็
เปา้ หมาย
1. ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำไดร้ บั กำรพัฒนำใหม้ ี 1.1 ครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำรอ้ ยละ 100 ได้รบั กำรพัฒนำที่สอดคลอ้ งกำรปฏบิ ตั หิ น้ำทอ่ี ยำ่ งนอ้ ย 20 ชวั่ โมงตอ่
ควำมเชย่ี วชำญทำงวชิ ำชพี ปกี ำรศกึ ษำ
1.2 ครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำร้อยละ 100 เขำ้ ร่วมชมุ ชนกำรเรยี นรทู้ ำงวิชำชีพ (PLC) อยำ่ งนอ้ ย 50 ชวั่ โมงต่อป/ี
ดำเนนิ กจิ กรรมชมุ ชนกำรเรยี นรู้ทำงวชิ ำชพี สกู่ ำรพฒั นำคุณภำพผเู้ รยี น
1.3 ครูและบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำร้อยละ 100 มกี ำรพฒั นำงำนวจิ ยั /นวตั กรรมเพอ่ื พฒั นำกำรเรยี นรอู้ ยำ่ งนอ้ ย 1 เรื่อง
ต่อปี
2.ครูและบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำจัดกำรเรยี นรู้ผ่ำน 2.1 ครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำรอ้ ยละ 100 มกี ำรจดั กำรเรียนรู้ท่เี นน้ กระบวนกำรวเิ ครำะห์ สังเครำะหแ์ ละคดิ
กระบวนกำรคดิ และปฏบิ ตั จิ รงิ และสำมำรถนำไป สรำ้ งสรรค์ โดยกำรปฏบิ ัตจิ ริงผำ่ นกำรทำโครงงำน/กิจกรรม/กำรฝึกปฏบิ ตั ใิ นสถำนกำรณ์จรงิ และนกั เรยี นขยำย
ประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ได้ ควำมคิดนำไปปรบั ใช้ในชวี ิตได้
2.2 ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำรอ้ ยละ 100 มีกระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้แบบวจิ ยั และนวตั กรรมเปน็ ฐำน (Research
3.ครแู ละบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำใช้สอื่ เทคโนโลยี and Innovation Based)
สำรสนเทศและแหล่งเรยี นรู้ที่เอ้ือตอ่ กำรเรียนรู้ 3.1 ครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำร้อยละ 100 มีกำรพัฒนำและใชส้ อื่ กำรสอน สอื่ เทคโนโลยสี ำรสนเทศและแหล่ง
เรียนรทู้ งั้ ภำยในและภำยนอกสถำนศกึ ษำทส่ี อดคลอ้ งกบั มำตรฐำนกำรเรยี นรู้
4.ครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำมกี ำรบริหำรจัดกำร 4.1 ครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำรอ้ ยละ 100 มกี ำรกำหนดแนวทำงรว่ มกบั นักเรยี น ในกำรเรยี นรแู้ ละกำรปฏิบตั ิตนใน
ชัน้ เรียนเชงิ บวก หอ้ งเรยี น
4.2 ครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำร้อยละ 100 มีกำรดำเนนิ งำนดว้ ยระบบดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรยี นสเู่ บญจวถิ ี
5.ครแู ละบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำตรวจสอบและ 5.1 ครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำร้อยละ 100 มีกำรจดั ทำข้อมูลนกั เรยี นเปน็ รำยบคุ คลและนำผลกำรสังเครำะหใ์ ชใ้ น
กำรวำงแผนพัฒนำคุณภำพผเู้ รยี น5.2 ครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำรอ้ ยละ 100
25
กลยทุ ธ์ที่ 3 พฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ตวั ช้ีวดั ควำมสำเร็จ
เปา้ หมาย
5.2 มแี ผนกำรวดั และประเมนิ ผลสอดคลอ้ งกบั มำตรฐำน กำรเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั ของหลกั สูตร
ประเมนิ ผูเ้ รียนอย่ำงเป็นระบบและนำผลมำพัฒนำ 5.3 ครแู ละบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำร้อยละ 100 มีผลกำรประเมนิ กำรใชห้ ลกั สูตรและกระบวนกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ุก
ผู้เรยี น หลักสตู รอยู่ในระดบั ดเี ลศิ ขนึ้ ไป
6.1 ครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำร้อยละ 100
6.ครแู ละบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำมกี ำรแลกเปลีย่ น มกี ำรนิเทศกำรสอนอยำ่ งหลำกหลำยเพ่อื พฒั นำและปรบั ปรงุ กำรเรยี นรอู้ ยำ่ งนอ้ ย 1 ครง้ั /ภำคเรยี น
เรยี นรแู้ ละใหข้ อ้ มูลสะท้อนกลบั เพอื่ พัฒนำและ 6.2 ครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำร้อยละ 100
ปรับปรงุ กำรจัดกำรเรียนรู้ มีกำรอภิปรำยแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ / แสดงควำมคิดเหน็ ของครู อยำ่ งนอ้ ย 1 ครงั้ /เดอื น
7.1 ผู้บริหำรสถำนศกึ ษำรอ้ ยละ 100 สำมำรถบริหำรงำนทกุ ดำ้ นให้มปี ระสิทธภิ ำพ และเกดิ ประสทิ ธิผล มี
7.ผบู้ ริหำรสถำนศกึ ษำ สำมำรถบรหิ ำรงำนทกุ ด้ำน ควำมสำมำรถบรหิ ำรสถำนศกึ ษำในศตวรรษที่ 21 ในระดบั ดีข้นึ ไป
ให้มีประสทิ ธภิ ำพ และเกดิ ประสิทธผิ ล 7.2 ผู้บริหำรรอ้ ยละ 100 มีวสิ ยั ทัศน์ ภำวะผนู้ ำ และควำมคิดริเริ่มทเ่ี น้นกำรพัฒนำผู้เรยี น ใชห้ ลกั กำรบรหิ ำรแบบมี
ส่วนรว่ ม และใชข้ ้อมูลผลกำรประเมิน ผลกำรวจิ ัย เปน็ ฐำนคิดท้ังดำ้ นวิชำกำรและกำรจดั กำร
7.3 ผบู้ รหิ ำรร้อยละ 100 สำมำรถจดั กำรศกึ ษำใหบ้ รรลเุ ปำ้ หมำยตำมทก่ี ำหนดไว้ บริหำรส่งเสรมิ พรอ้ มรบั กำรกระจำย
อำนำจ
กลยทุ ธ์ท่ี 4 พฒั นาคณุ ภาพการจดั การศกึ ษาสมู่ าตรฐานสากล
เปา้ หมาย ตัวชวี้ ัดความสาเรจ็
1. สถำนศึกษำมเี ปำ้ หมำย วิสยั ทัศน์และพนั ธกจิ 1.1 สถำนศกึ ษำมีวิสยั ทศั น/์ พนั ธกจิ /เปำ้ หมำยที่ชัดเจน มกี ลยทุ ธแ์ ละกระบวนกำรนำกลยทุ ธ์สู่กำรปฏบิ ตั ิสอดคล้องกบั
ทสี่ ถำนศึกษำกำหนดชัดเจน บรบิ ทสถำนศกึ ษำและนโยบำยหนว่ ยงำนตน้ สังกดั
2. สถำนศึกษำมีระบบบริหำรจดั กำรคุณภำพของ 2.1 สถำนศึกษำมโี ครงสรำ้ งกำรบริหำรงำนทมี่ ุ่งเน้นคณุ ภำพกำรศกึ ษำและสอดคลอ้ งกบั วสิ ยั ทัศน์/พนั ธกจิ /เปำ้ หมำย
สถำนศึกษำ สถำนศกึ ษำ
2.2 สถำนศกึ ษำมกี ำรบรหิ ำรจดั กำรดว้ ยระบบกำรบรหิ ำรคณุ ภำพและระบบกำรประกนั คุณภำพท่มี ่งุ เนน้ เพอื่ พัฒนำ
คุณภำพกำรศกึ ษำและมีผลกำรดำเนนิ งำน กจิ กรรม โครงกำร อยูใ่ นระดบั ดีเลศิ ขน้ึ ไป
3. สถำนศึกษำดำเนนิ งำนพฒั นำวชิ ำกำรทเี่ น้น 3.1 สถำนศึกษำพฒั นำหลกั สูตรสถำนศกึ ษำอยำ่ งหลำกหลำยที่ม่งุ เนน้ พฒั นำคณุ ภำพกำรศึกษำและพฒั นำศกั ยภำพ
คณุ ภำพผู้เรยี นรอบดำ้ นตำมหลกั สูตรสถำนศกึ ษำ ผู้เรียนทกุ กลมุ่ เปำ้ หมำย
และทกุ กลุม่ เปำ้ หมำย 3.2 สถำนศึกษำมแี ผนพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำทีม่ ุ่งเนน้ พฒั นำคุณภำพกำรศกึ ษำ สคู่ วำมเปน็ เลศิ
3.3 สถำนศึกษำมแี ผนพฒั นำคณุ ภำพกำรศึกษำ มุง่ เนน้ ควำมเป็นสภุ ำพบุรษุ สุภำพสตรี สมศกั ดศ์ิ รลี กู แกว้ กำญจนำ
4. สถำนศึกษำมกี ำรพฒั นำปรับปรุงหลกั สตู ร 4.1 สถำนศึกษำมหี ลกั สตู รสถำนศกึ ษำ และโครงสร้ำงเวลำเรยี นท่เี หมำะสมกบั ผเู้ รยี น
สถำนศกึ ษำ และกระบวนกำรจดั กำรเรยี นรู้ เพือ่ ให้ 4.2 สถำนศกึ ษำได้รบั กำรยกระดบั มำตรฐำนภำษำองั กฤษในแต่ละชว่ งชนั้
ผู้เรียนมีสมรรถนะสำคัญสู่มำตรฐำนสำกล 4.3 ผเู้ รียนทกุ คนได้รับกำรพัฒนำใหม้ สี มรรถนะสำคญั ตำมท่กี ำหนดในหลกั สูตรสถำนศกึ ษำ
(2) การพจิ ารณาวตั ถปุ ระสงค์เชงิ กลยทุ ธ์ (STRATEGIC OBJECTIVES CONSIDERATIONS)
กำรพิจำรณำวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ของโรงเรียนสำมำรถสร้ำงควำมสมดุลท่ีเหมำะสมระหว่ำงควำมต้องกำรที่
หลำกหลำยและแข่งขันกนั เองในโรงเรยี น โดยจะพิจำรณำในเร่ืองของควำมท้ำทำยเชิงกลยุทธ์ใช้ประโยชน์จำกสมรรถนะ
หลักของโรงเรียน ควำมไดเ้ ปรียบเชิงกลยุทธ์ และโอกำสเชงิ กลยุทธ์
ควำมสมดลุ ระหว่ำงโอกำสกบั ควำมท้ำทำย ทั้งระยะส้ันและระยะยำว โดยกระบวนกำรวิเครำะห์สภำพแวดล้อม
ภำยนอกของโรงเรียนท่ีวิเครำะห์ควำมท้ำทำยจำกกำรเปล่ียนแปลงทำงด้ำนสังคม และวัฒนธรรม ด้ำนเศรษฐกิจ
ด้ำนกฎหมำยและกำรเมือง ควำมก้ำวหน้ำด้ำนเทคโนโลยี ทั้งในระยะส้ันและระยำว กำรคำดกำรณ์อนำคตในช่วงเวลำ
ระยะยำว กำรวิเครำะห์สภำพภำยในของโรงเรียนที่เป็นจุดแข็งและจุดอ่อนในด้ำนต่ำง ๆ เพ่ือกำหนดจุดยืนอย่ำงสมดุล
ในกำรใช้โอกำสซ่ึงเป็นปัจจัยท่ีจะส่งผลให้ดำเนินกำรได้ และจุดแข็งซ่ึงเป็นข้อได้เปรียบของโรงเรียนพิชิตควำมท้ำทำย
และขจัด/ ลดทอนต่ออุปสรรคซ่ึงเป็นปัจจัยที่คุกคำมกำรดำเนินงำนของโรงเรียนโดยโรงเรียนมีกำรจัดทำแผนกลยุทธ์
26
4 ปี ท่ีครอบคลุมถึงควำมท้ำทำยและควำมได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ ตำมสมรรถนะหลักของโรงเรียน มีกำรจัดทำแผนปฏิบัติ
กำรประจำปีที่สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ท่ีกำหนดไว้ ด้วยกำรรวบรวมข้อมูลควำมต้องกำรของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เน้น
กำรใช้ข้อมูลสำรสนเทศที่เช่ือถือได้ จัดทำแผนปฏิบัติกำรประจำปีที่ส่งเสริมคุณภำพกำรเรียนกำรสอน กำรพัฒนำ
ศกั ยภำพครู บคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ กำรมีสว่ นรว่ มของเครือข่ำย กำรยอมรับของผู้ปกครองและชุมชน
2.2 การนากลยทุ ธ์ไปปฏิบตั ิ (Strategy Implementation)
ก. การจดั ทาแผนปฏิบตั กิ ารและการถ่ายทอดสู่การปฏบิ ัติ (Action Plan Development and
Deployment)
(1) การจดั ทาแผนปฏิบตั กิ าร (Action Plan Development)
กระบวนกำรจัดทำแผนปฏิบัติกำร ที่ได้ให้ผู้เก่ียวข้องทุกฝ่ำยได้มีส่วนร่วมในกำรวำงแผน และได้ร่วม
กำหนดวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่ท้ำทำยควำมสำเร็จในกำรเปล่ียนกลยุทธ์ไปสู่กำรปฏิบัติ ต้องอำศัยแผนปฏิบัติ
กำรเป็นเคร่ืองมือสำคัญในกำรกำหนดโครงกำร/กิจกรรม ซ่ึงเป็นแนวทำงหรือกระบวนกำรพัฒนำให้เกิดผลตำม
กลยทุ ธ์ที่กำหนดไว้กระบวนกำรในกำรจัดทำแผนปฏบิ ัติกำร
โรงเรียนได้ดำเนินกำรทบทวนวิเครำะห์กลยุทธ์ที่ได้กำหนดไว้ เพ่ือปรับให้เหมำะสมและเพื่อกำหนด
รำยละเอียดขั้นตอนกำรดำเนินงำนต่ำง ๆ กำหนดกิจกรรมโครงกำรเป้ำหมำยและตัวชี้วัดควำมสำเร็จโดยผู้เขียน
โครงกำร/กจิ กรรมตอ้ งระบคุ ่ำเป้ำหมำยในแต่ละวัตถุประสงค์เพ่ือนำไปใช้กำหนดกำรวัด และจัดทำแผนปฏิบัติกำร
ประจำปใี ห้แผนงำนกล่มุ บรหิ ำร/กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ รวบรวมโครงกำรที่เสนอ มำจัดทำเป็นโครงกำรและกิจกรรม
ต่อไป
(2) การนาแผนปฏิบัติการไปปฏบิ ัติ (Action Plan Implementation)
โรงเรียนไดด้ ำเนินกำร ดงั นี้ ดำเนินกำรตำมแผนปฏิบัติรำชกำรโดยเจ้ำของโครงกำรขออนุมัติดำเนินกำร/
โครงกำรตำมแผน เสนองำนแผนงำนเพื่อตรวจสอบโครงกำรเสนอผู้อำนวยกำรอนุมัติ และเจ้ำหน้ำที่พัสดุ
ก็ดำเนินกำรจัดซ้ือจัดจ้ำงตำมระเบียบพัสดุ และดำเนินกำรจัดกิจกรรมตำมแผน วัดวิเครำะห์และประเมินผล/
โครงกำรแล้ว ต้องมีแบบสอบถำมหรือแบบประเมินผลกำรดำเนินงำนและภำยใน 15 วัน ต้องมีกำรประชุม
คณะทำงำนเพอื่ วดั วิเครำะห์ว่ำผลกำรดำเนินงำนบรรลุวัตถุประสงค์และเป้ำหมำยหรือไม่ มีปัญหำอุปสรรคจุดแข็ง
และจุดที่ควรพฒั นำอยำ่ งไรบำ้ ง เพื่อนำไปใช้วำงแผนในปีต่อไป และรำยงำนผลกำรดำเนินงำน/โครงกำร สรุปเป็น
เอกสำรรำยงำนผลกำรดำเนนิ งำน ประจำปีกลุ่มบริหำร/กลุ่มสำระละ 1 เลม่
กำรนำแผนปฏิบัติกำรไปปฏิบัติ กลุ่มบริหำรนโยบำยและแผนงำนดำเนินกำรทำแผนปฏิบัติกำรสู่กำร
ปฏิบัติโดยประชุมชี้แจงครูบุคลำกรและผู้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมโครงกำรที่ผ่ำนกำรพิจำรณำ เห็นชอบจำก
คณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำขั้นพื้นฐำนชแ้ี จงทำควำมเข้ำใจแนวปฏบิ ตั แิ ละรำยงำนผลกำรดำเนินงำนตำมแผนปฏิบัติ
กำรให้ผู้บริหำรทรำบเพ่ือเป็นข้อมูลในกำรแก้ปัญหำปรับปรุงพัฒนำและกำรเตรียมกำรในกำรแก้ปัญหำในโอกำส
ต่อไป โดยโรงเรยี นมีกระบวนกำรบรหิ ำรงำนตำมคุณภำพ PDCA ดังแผนภำพท่ี 2.3 ต่อไปนี้
27
แผนภาพท่ี 2.3 กระบวนกำรพัฒนำในกำร
จดั ทำแผนปฏบิ ัติกำร
(3) การจัดสรรทรัพยากร (Resource Allocation)
โรงเรียนมีกระบวนกำรจัดสรรทรัพยำกร ด้วยกำรประมำณกำรรำยรับจำกแผนกำรระดมทุนและ
งบประมำณท่ีได้รับกำรจัดสรรจำกสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน โครงกำรยกระดับและส่งเสริม
ควำมเป็นเลิศด้ำนวิทยำศำสตร์ คณิตศำสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มโรงเรียนกำญจนำภิเษกวิทยำลัยฯ ซ่ึงมีควำม
เพียงพอต่อกำรใช้สำหรับกำรบริหำรจัดกำร โดยใช้ฐำนข้อมูลรำยจ่ำยจริงจำกรำยงำนผลกำรดำเนินงำนของ
ปีงบประมำณที่ผ่ำนมำ วิเครำะห์แนวโน้มท่ีส่งผลกระทบเชิงลบ ประมำณกำรต้นทุนของแต่ละกิจกรรม/โครงกำร
จดั ลำดับควำมสำคัญของกจิ กรรมทีส่ ง่ ผลลพั ธต์ ำมวัตถุประสงค์ จัดสรรงบประมำณลงกิจกรรมตำมวงเงินประมำณ
กำรรำยรบั กำรจัดสรรรำยจำ่ ยจะเริ่มจำกงบประจำใช้ฐำนข้อมูล จัดสรรเงินงบประมำณสู่แผนปฏิบัติกำรประจำปี
และมีกำรจัดสรรงบกลำงไว้สำหรับกิจกรรมอื่น ๆ ในกรณีเกิดสภำวกำรณ์ฉุกเฉิน มีกำรประชุมชี้แจงสรุปกำร
จัดสรรงบประมำณเพ่ือนำไปสูก่ ำรปฏิบัตใิ หบ้ รรลุตำมแผนกลยทุ ธ์ วสิ ัยทศั น์ และบรบิ ทของโรงเรียน ส่งผลให้เกิด
ประสทิ ธิภำพและประสิทธผิ ลขององค์กร ซง่ึ ทำใหอ้ งคก์ รมคี วำมมัน่ คงและยั่งยนื
กำรบริหำรจัดกำรด้ำนงบประมำณมี
ควำมชัดเจน เน้นควำมโปร่งใส และให้ทุกฝ่ำย
มีส่วนร่วมในกำรตรวจสอบ มีกำรนิเทศ
ติดตำม ตรวจสอบกำรใช้งบประมำณท่ีเป็น
ทรัพยำกรและพัสดุ ครุภัณฑ์ รวมทั้งกำร
จัดซ้ือจัดจ้ำง มีกำรบริหำรงำนตำมระเบียบ
ของทำงรำชกำร กำรจัดหำทรัพยำกรมีควำม
โปร่งใส ให้คณะกรรมกำรสถำนศึกษำได้เข้ำ
มำมีส่วนร่วมในกำรดำเนินงำน และร่วม
ตรวจสอบ ติดตำม ในรูปของคณะกรรมกำร
และมีหน่วยงำนต้นสงั กดั คอยกำกบั นเิ ทศ
แผนภาพท่ี 2.4 กระบวนกำรงบประมำณและมำตรฐำนทำงกำรเงิน ติดตำมและตรวจสอบอย่ำงต่อเน่ืองในกำร
ดำเนินงำนตำมบทบำท/ภำรกิจของสถำนศึกษำ โดยใช้กระบวนกำรมำตรฐำนกำรจัดกำรทำงกำรเงิน 7 Hurdles
ไดแ้ ก่ กำรวำงแผนงบประมำณ กำรคำนวณต้นทุนกำรผลิต กำรจัดระบบกำรจัดซื้อจัดจ้ำง กำรบริหำรทำงเงินและ
ควบคมุ งบประมำณ กำรบริหำรสนิ ทรัพย์ กำรรำยงำนทำงกำรเงนิ และผลกำรดำเนนิ งำน และกำรตรวจสอบภำยใน
มำจดั กำรควำมเสยี่ งและก่อให้ใหเ้ กิดควำมมน่ั คงทำงดำ้ นกำรเงนิ ของโรงเรียน ตำมแผนภำพท่ี 2.4
28
(4) แผนดา้ นบุคลากร (WORKFORCE PLANS)
แผนด้ำนบุคลำกรท่สี ำคัญท่สี นับสนนุ วัตถปุ ระสงค์เชิงกลยทุ ธแ์ ละแผนปฏิบตั ิกำรทัง้ ระยะสั้นและระยะยำว
โดยได้คำนึงถึงผลกระทบต่อบุคลำกร ควำมเปลี่ยนแปลงที่อำจเกิดข้ึนเกี่ยวข้องกับควำมต้องกำรด้ำนขีด
ควำมสำมำรถและอัตรำกำหนด โดยดำเนินกำรดงั น้ี
1. กำรวำงแผนอัตรำกำลังในระยะยำว 10 ปี (2554-2564) โดยใช้เกณฑ์อัตรำกำลังครูต่อจำนวน
นกั เรียนที่หน่วยงำนต้นสังกัดกำหนดตำมระเบียบรำชกำรในสำยปฏิบัติกำรสอน รวมถึงกำรคำนวณจำกมำตรฐำน
กำรปฏิบัติงำน สถิติข้อมูลย้อนหลัง 3 ปี และข้อมูลอัตรำกำรเกษียณอำยุรำชกำรในระยะ 5 ปีข้ำงหน้ำ
เป็นส่วนประกอบในกำรพิจำรณำวำงแผนอัตรำกำลงั
2. กำรส่งเสริม สนับสนุน พัฒนำศักยภำพของบุคลำกรอย่ำงต่อเนื่อง โดยโรงเรียนจัดให้มีกำรอบรม
ประชุม สัมมนำ ศึกษำดูงำนแก่บุคลำกรทุกคนอย่ำงน้อยปีกำรศึกษำละ 2 ครั้ง และจัดสรรงบประมำณเพ่ือให้
บุคลำกรนำไปใช้ในกำรพัฒนำตนเองตำมควำมสนใจ โดยใช้แนวคิดเก่ียวกับสมรรถนะมำใช้ในกำรพัฒนำบุคลำกร
เน้นกำรประเมินสมรรถนะเพ่ือกำรพัฒนำเป็นรำยบุคคล ให้สำมำรถกำหนดควำมจำเป็นที่จะรับกำรพัฒนำของ
บุคลำกรตำมแผนกำรพัฒนำตนเอง ID-Plan มำเป็นภำพรวมในกำรปรับปรุงพัฒนำและเตรียมควำมพร้อมของ
บุคลำกร รำยงำนควำมกำ้ วหน้ำในกำรพฒั นำบคุ ลำกรต่อผ้บู ริหำรในรอบกำรประเมนิ ประสิทธภิ ำพและประสิทธผิ ล
3. กำรติดตำมประเมนิ ผล ผอู้ ำนวยกำรโรงเรียนและรองผู้อำนวยกำรโรงเรียนติดตำมควำมก้ำวหน้ำใน
กำรปฏบิ ัตงิ ำนของบุคลำกร เพื่อกำกับดูแลให้กำรปฏิบัติงำนเป็นไปตำมเป้ำหมำย แก้ไขปัญหำต่ำงๆ ท่ีอำจเกิดข้ึน
จำกกำรปฏบิ ัติงำนของบคุ ลำกร ซ่ึงจะชว่ ยใหผ้ ลกำรปฏิบตั งิ ำนเปน็ ไปตำมเป้ำหมำยท่ีกำหนดไวร้ ่วมกนั
(5) ตวั วดั ผลการดาเนนิ การ (PERFORMANCE MEASURES)
โรงเรียนมีกำรติดตำมตรวจสอบและประเมินผลกำรปฏิบัติงำนตำมแผนปฏิบัติกำรโดยใช้เคร่ืองมือ
กำรตรวจสอบท่ีหลำกหลำยและมีคุณภำพ สำมำรถสรุปผลกำรดำเนินงำนตำมรำยละเอียดที่ปรำกฏในรำยงำน
ประจำปีของสถำนศึกษำ (SAR) และมีกำรนำผลกำรประเมินของ สมศ. ผลกำรประเมินกิจกรรม/โครงกำร
ตำมแผนปฏิบัติกำรประจำปีของสถำนศึกษำทุกคร้ังไปใช้ในกำรปรับปรุงพัฒนำงำนอย่ำงต่อเน่ือง ส่งผลให้
สถำนศึกษำมีผลกำรดำเนินงำนบรรลุเป้ำหมำย โดยใช้ระบบกำรบริหำรจัดกำรมำบูรณำกำรกับระบบ PDCA
ทำให้โรงเรียนมีกำรบริหำรงำนท่ีมีประสิทธิภำพ มีผลงำนเป็นที่ประจักษ์ได้รับกำรยอมรับจำกผู้ปกครอง ชุมชน
สังคม และหน่วยงำนต่ำงๆ นอกจำกนี้โรงเรียนยังได้นำนวัตกรรมในด้ำนกำรบริหำรจัดกำร เข้ำมำมีส่วนร่วม
ในกำรจดั กำร ติดตำมและประเมินผล
ได้กำหนดตัวช้ีวัดในแผนกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้ำประสงค์ ในแต่ละตัวช้ีวัดได้
กำหนดค่ำเป้ำหมำยไว้อย่ำงชัดเจน ตัวชี้วัดเหล่ำน้ีจะนำไปสู่กำรกำหนดค่ำเป้ำหมำยตำมกรอบเวลำที่กำหนด
ระยะ 4 ปี โดยมกี ระบวนกำรวดั ผลกำรดำเนนิ กำรดังนี้
1. กำรวัดผลกำรดำเนินกำร โรงเรียนกำญจนำภิเษกวิทยำลัย นครปฐม (พระตำหนักสวนกุหลำบ
มัธยม) มีกำรวดั ผล 3 ระยะ คือระยะท่ี 1 ระยะตดิ ตำมควำมกำ้ วหน้ำของโครงกำรและกจิ กรรม โดยคณะกรรมกำร
กำกับติดตำมฯ ระยะที่ 2 สรุปโครงกำรและกิจกรรมจัดทำรำยงำนเป็นรูปเล่ม ที่จะแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภำพ
29
และประสิทธิผลของโครงกำรและกิจกรรมน้ันๆ หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมและโครงกำร และระยะที่ 3 ระยะสรุป
รำยงำนผลกำรดำเนินตำมแผนปฏิบตั กิ ำร
2. กำรวิเครำะห์ทบทวนผลกำรดำเนินกำร ทำเป็นข้อมูลสำรสนเทศเทียบเคียงกับเป้ำหมำยท่ีกำหนด
และประเมนิ แนวโน้มของผลกำรทำงำนในอนำคต
3. กำรปรับปรุงผลกำรดำเนินกำร ทุกกลุ่มงำนได้แปลผลกำรทบทวนผลกำรดำเนินกำร โดยจัดลำดับ
ควำมสำคัญท่ตี ้องกำรปรับปรุง และโอกำสในกำรสร้ำงนวัตกรรมเพอ่ื นำไปปฏิบตั ิงำนให้สอดคลอ้ งไปในแนวทำงเดียวกนั
(6) การคาดการณผ์ ลการดาเนินการ (PERFORMANCE PROJECTIONS)
กำรคำดกำรณผ์ ลกำรดำเนินกำรดำเนินกำรตำมกรอบเวลำของกำรวำงแผนทง้ั ระยะสน้ั และระยะยำวของโรงเรยี น
ตำมตัวชีว้ ดั หรอื ตวั ชวี้ ดั ทรี่ ะบุตำมแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบัติกำรประจำปีของโรงเรียน มีดังน้ี กำรเปรียบเทียบผลกำร
ดำเนินงำน จำกระบบคุณภำพภำยในโรงเรียน ผลกำรประเมินภำยนอก (สมศ.) มำวเิ ครำะห์กำหนดตวั บ่งช้ีเพ่ือกำรพัฒนำ
คุณภำพกำรศึกษำ ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน จำกกำรผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนของแต่ละกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ตำมค่ำ
เป้ำหมำยท่ีสถำนศึกษำกำหนด ผลกำรทดสอบกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน (O-NET) ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 3
และชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 6 มีค่ำเฉล่ียสูงกว่ำระดับประเทศ ผลกำรสอบศึกษำต่อในระดับอุดมศึกษำ และผลกำรดำเนิน
โครงกำร/กจิ กรรมสง่ เสริมให้นกั เรียน ตำมเป้ำหมำย วิสยั ทัศน์ และจดุ เน้นของสถำนศกึ ษำ
กระบวนกำรคำดกำรณ์ผลกำรดำเนินงำนของโรงเรียนกำญจนำภิเษกวิทยำลัย นครปฐม (พระตำหนัก
สวนกุหลำบมัธยม) ดำเนินกำรภำยใต้กระบวนกำรกำรมีส่วนร่วมของส่วนงำนที่เก่ียวข้อง มีกำรประเมินสถำนกำรณ์
ภำยนอก ภำยใน วิเครำะห์ผลงำนที่เกิดขึ้นจริงเทียบเป้ำหมำย มีกำรใช้ข้อมูลสถิติย้อนหลังกับปีที่ผ่ำนมำ มีกำร
ดำเนนิ กำรปรบั ปรุงแผนงำนและกำหนดมำตรกำรให้สอดคลอ้ งกับสถำนกำรณ์ มีกำรถ่ำยทอดและสื่อสำรมำตรกำรใหม่ๆ
หลำกหลำยช่องทำง รวมถึงกำรติดตำมข้อมูลย้อนกลับ ทำให้โรงเรียนมั่นใจได้ว่ำสำมำรถขับเคลื่อนภำรกิจหลักของ
โรงเรยี นได้บรรลตุ ำมเป้ำหมำย กำรคำดกำรณผ์ ลกำรดำเนนิ งำนของโรงเรยี นตำมวตั ถปุ ระสงค์เชงิ กลยทุ ธ์
ข. การปรับเปล่ียนแผนปฏบิ ัติการ (ACTION PLAN MODIFICATION)
โรงเรียนมีวิธีปรับเปล่ียนและนำแผนปฏิบัติกำรไปปฏิบัติอย่ำงรวดเร็ว ทั้งรำยละเอียดกิจกรรมและ
ทรัพยำกรเพ่ือควำมเหมำะสมของควำมต้องกำรและสภำวกำรณ์ปัจจุบัน ภำยใต้กรอบงบประมำณเดิม โดยบันทึก
ขอปรับเปล่ียนแผนปฏิบัติกำรในส่วนของรำยละเอียดกิจกรรม ทรัพยำกร งบประมำณ เสนอต่อผู้บริหำรเพื่อ
พิจำรณำอนุมัติ แล้วสำมำรถดำเนินกำรตำมแผนงำน/โครงกำรต่อไปได้ ทำให้โครงกำร/กิจกรรมบรรลุเป้ำหมำย
ตำมวตั ถุประสงคข์ องกลยทุ ธ์
กระบวนกำรกำรปรับเปล่ียนแผนปฏิบัติกำร โรงเรียนได้ดำเนินกำร วิเครำะห์สถำนกำรณ์ปัจจุบันและ
แนวโน้มในอนำคตเพื่อปรับเปล่ียนแผนปฏิบัติกำรในบำงกรณีเพ่ือให้สอดคล้องเหมำะสมกับเหตุกำรณ์และ
สภำวกำรณ์ปัจจุบันวิเครำะห์จุดท่ีต้องเปลี่ยนแปลงในแผนปฏิบัติกำร สำเหตุของปัญหำมีควำมจำเป็นต้องแก้ไข
และพัฒนำตำมสถำนกำรณ์ ร่วมกันพิจำรณำเพื่อกำหนดแผนปฏิบัติกำรใหม่ ท่ีสอดรับกับสภำวกำรณ์ปัจจุบัน
ปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติกำร วัดวิเครำะห์และทบทวนผลกำรปฏิบัติตำมโครงกำรท่ีได้รับกำรปรับเปล่ียน และ
รำยงำนผลกำรดำเนินงำนประชุมช้ีแจงผู้เกี่ยวข้องเพื่อให้ควำมเห็นและข้อเสนอแนะในกำรปรับเปลี่ยนและ
ดำเนินกำรตำมแผนท่ีได้รบั กำรอนุมัติกำรปรบั เปลีย่ นใหบ้ รรลุตำมวตั ถปุ ระสงค์
30
หมวด 3 นกั เรยี นและผมู้ สี ่วนได้สว่ นเสยี (Student and Stakeholder)
3.1 เสียงของนักเรียนและผมู้ สี ่วนได้สว่ นเสยี (VOICE OF THE STUDENT and Stakeholder)
ก. การรบั ฟงั นกั เรียนและผูม้ ีสว่ นได้ส่วนเสยี (STUDENT and Stakeholder Listening)
โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระตาหนักสวนกุหลาบมัธยม) ให้ความสาคัญกับการรับฟัง
ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะและความต้องการของนักเรียนปัจจุบันและผู้ท่ีมีส่วนได้ส่วนเสีย เพ่ือจะได้ตอบสนองความ
ต้องการและความสนใจ ผา่ นหลากหลายชอ่ งทาง โดยมกี ระบวนการรบั ฟังเสียงของนกั เรยี น (Mutual listening) ดงั น้ี
แผนภาพท่ี 3.1 กระบวนการรับฟังเสียงของนักเรยี นและผูม้ สี ่วนไดส้ ว่ นเสยี
(1) นกั เรียนปัจจุบนั และผู้มสี ว่ นได้สว่ นเสยี (Current STUDENTS and Stakeholder)
โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระตาหนักสวนกุหลาบมัธยม) มีการรับฟังเสียง ความต้องการ
ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะของนักเรียนปัจจุบันท่ีกาลังศึกษาอยู่และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยใช้วิธีการที่หลากหลาย
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังน้ี
1. สื่อทางสังคมออนไลน์และเทคโนโลยีบนเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ของโรงเรียน www.kjn.ac.th สื่อ
สงั คมออนไลน์ Facebook, Line Official Account, E-mail , Google Form เป็นต้น
2. ออฟไลน์ เช่น กล่องรับฟังความคิดเห็น จดหมาย โทรศัพท์ ติดต่อโดยตรง แบบสอบถาม
แบบประเมนิ ระบบผปู้ กครองสัมพนั ธ์ การประชุมผู้ปกครอง กิจกรรมสภานักเรียน โครงการสถานศึกษาสีขาวปลอด
ยาเสพติดและอบายมุข กิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมเย่ียมบ้านนักเรียน โดยได้รับความร่วมมือจากหัวหน้าระดับช้ัน
31
ครูท่ีปรึกษา นักวิชาการชั้นเรียน ผู้ปกครอง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน
เครือข่ายผู้ปกครอง สมาคมผู้ปกครองและครู สถาบันการศึกษา ชุมชนและท้องถ่ิน เม่ือได้ข้อมูลสารสนเทศ จากการรับฟัง
เสยี งของนักเรียนและผู้มีส่วนไดส้ ่วนเสยี ตามช่องทางตา่ ง ๆ จึงนั้นนาข้อมูลงมาประมวลผลและวิเคราะห์สรุปความต้องการ
ข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะต่าง ๆ เพื่อมอบหมายให้ผู้รับผิดชอบนาข้อมูลประเด็นที่เก่ียวข้องไปปรับปรุงและพัฒนาให้ตรง
กับความต้องการของนักเรียนปัจจุบันและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูล
ย้อนกลับไปยังนักเรียนปัจจุบันและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้วยช่องทางเดียวกันกับการรับฟังเสียงดังท่ีกล่าวมาข้างต้น
มกี ารประเมินความพึงพอใจเพ่ือให้ได้ข้อมลู ในการปรับปรุงพัฒนาการรับฟังเสียงคร้ังต่อไป
โดยมีวิธีการรับฟังที่หลากหลายรูปแบบทั้งทางตรงและทางอ้อม กาหนดช่องทางการรับฟัง ในรูปแบบการส่ือสาร
ทางเดียว และการส่ือสารสองทางท่ีเหมาะสมกับผู้เรียน จัดให้มีการติดต่อโดยตรงกับ ผู้บริหาร ผ่านทางโทรศัพท์ จดหมาย
แสดงความคิดเห็น ผ่านหัวหน้าห้องเรียน นักวิชาการช้ันเรียน คณะกรรมการสภานักเรียน ครูที่ปรึกษา ครูผู้สอน ครูเวร
ประจาวัน หัวหน้าระดับ ผู้นาระดับสูง องค์กรต่าง ๆ ของโรงเรียน เช่น ชมรมศิษย์เก่า สมาคมผู้ปกครอง เครือข่าย
ผูป้ กครอง เปน็ ต้น รวมทง้ั การใช้สื่อทางสังคม (Social media) และสื่อเทคโนโลยีทางเว็บไซต์ต่าง ๆ ของโรงเรียน ในการรับ
ฟังนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างเหมาะสม และกระบวนการวิจัยและพัฒนาคุณภาพ การศึกษา โดยรวบรวมข้อมูล
สารสนเทศ ข้อร้องเรียน ความต้องการของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ช่วยดาเนินการ ช่วยเหลือแก้ไขเพื่อให้นักเรียน
เกิดความพึงพอใจต่อระบบบริหารจัดการข้อมูลสารสนเทศ ในการวางแผนเกี่ยวกับหลักสูตรและการให้บริการการจัด
กระบวนการเรียนการสอน เปน็ ต้น โดยมี กระบวนการปฏบิ ตั ิ ดงั แผนภาพที่ 3.1
คณะทางานนาข้อมูลและข้อร้องเรียนจากการรับฟังเสียงของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มาประชุม
วิเคราะห์หาสาเหตุ แลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกันเพ่ือหาแนวทางพัฒนากระบวนการปฏิบัติงาน การบริหารจัดการเพื่อ
ปอ้ งกนั ไมใ่ หเ้ กดิ การรอ้ งเรยี นในปีตอ่ ๆ ไป
(2) นกั เรยี นในอนาคตและผู้มสี ่วนได้สว่ นเสีย (Potential STUDENT and Stakeholders)
โรงเรียนกาหนดช่องทางการรับฟังเสียง ความต้องการของนักเรียนในอดีต ด้วยวิธีการแบบออฟไลน์ (OFF-
LINE) และออนไลน์ (ON-LINE) โดยศกึ ษาข้อมูลบรบิ ทและความสาเร็จของโรงเรียนท่ีเป็นคู่เทียบโดยการรับฟังความ
คิดเห็นผ่านการประชุมกลุ่มโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย การประชุมคณะผู้บริหารของสานักงานเขตพื้นที่
การศึกษา การสัมมนาแลกเปลี่ยนทางวิชาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพ่ือเป็นข้อมูลในการวางแผนพัฒนาหลักสูตร
ใหส้ อดคล้องกบั ความต้องการของกลุ่มเปา้ หมาย ผูม้ ีสว่ นได้สว่ นเสยี และการรับนักเรยี นในอนาคต
จากการวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของโรงเรียนอ้างอิงจากหมวด 2 กลยุทธ์ พบว่าโรงเรียนมีจุดแข็งในด้าน
โอกาส ดังนนั้ โรงเรยี นจงึ ใช้วิธีการประชาสัมพันธ์ในการกาหนดทศิ ทางการรบั นักเรียนในอนาคต ดังน้ี
1. โรงเรยี นใช้วธิ กี ารประชาสัมพนั ธ์ภาพความสาเร็จของนกั เรยี น บรรยากาศสภาพแวดลอ้ มอาคารสถานที่
หลักสูตรทห่ี ลากหลายตรงตามความต้องการของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนการจัดการเรียนการสอนท่ี
ใช้ส่ือเทคโนโลยีที่ทันสมัยผ่านส่ือออนไลน์ ได้แก่ เพจโรงเรียน เว็บไซต์โรงเรียนป้ายประชาสัมพันธ์โรงเรียน วารสาร
โรงเรียน งานแนะแนว เพอื่ เผยแพร่ขอ้ มูลสารสนเทศตอ่ สาธารณชน
2. มีการแนะแนวการศึกษาตอ่ มีการสารวจความตอ้ งการการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา การรับฟังเสียง
ของนักเรียนในอดีตที่จบการศึกษาระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายมาแนะแนวการศึกษาต่อในระดับที่
สูงข้ึน โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระตาหนักสวนกุหลาบมัธยม) มีการทบทวนการรับฟังเสียงของ
32
นักเรียนในอนาคตและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในรูปแบบ การมีส่วนร่วมและเปิดเผย โดยได้วิเคราะห์ข้อมูล สถานการณ์
และคาดการณ์แนวโนม้ ความเปลยี่ นแปลงทจ่ี ะเกิดขึ้นในอนาคต เพ่ือเตรียมแผนงาน/ โครงการไว้รองรับของนักเรียน
ในอนาคต ได้แก่ นกั เรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 (รบั นกั เรยี นระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 จากโรงเรียนเดิม) และนักเรียน
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 (รับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 จากโรงเรียนอ่ืน) การรับฟังเสียงของนักเรียน ในอนาคตและ
ผูม้ สี ่วนได้ส่วนเสยี ใช้กระบวนการแนะแนวในการรับฟังข้อมูลของนักเรียนในอนาคต พร้อมท้ังนาข้อเสนอแนะต่าง ๆ
มาวิเคราะห์และสรุปความคิดเห็นของนักเรียนและผู้ปกครองนาเข้าที่ประชุม บุคลากรทางการศึกษาเพ่ือนาข้อมูล
ย้อนกลับมาพัฒนาการจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการ ของนักเรียน ในอนาคต และการบริหารการศึกษา
ให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน 2551 ทาให้ม่ันใจได้ว่าทุกกลุ่ม/งานนาข้อมูลสารสนเทศ
เสียงนักเรียนไปบริหารจดั การให้บรรลุ ตามความคาดหวังของนกั เรยี นในอนาคตในทศิ ทางท่ดี ี
3. วดั วเิ คราะห์และจัดการเสยี งของนกั เรียนในอนาคตและผูม้ สี ว่ นได้สว่ นเสียวา่ นักเรียน ในอนาคตและผู้มี
สว่ นได้ส่วนเสียมีความตอ้ งการและความคาดหวังอะไรกบั โรงเรียนบา้ ง
4. รายงานผล ดาเนนิ การรบั ฟงั เสียงและขอ้ รอ้ งเรียน
สังเคราะห์ความคิดเห็นและความต้องการนาเสนอผู้อานวยการมาใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ต่อไป การรับฟัง
เสยี งของนักเรียนในอดตี (ศิษย์เกา่ ) โรงเรียนมกี ารรบั ฟงั เสยี งความคิดเหน็ ของศษิ ย์เกา่ โดยมวี ิธีการและรูปแบบ ดงั นี้
1) การเขา้ รว่ มประชุมและร่วมกจิ กรรมตา่ ง ๆ ของศิษยเ์ กา่ เพ่ือรับฟงั ความคิดเห็น สร้างความสัมพันธ์ที่ดี
ศิษย์เก่าร่วมเป็นคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานของโรงเรียน ร่วมแลกเปล่ียนองค์ประกอบเชิงเปรียบเทียบด้าน
คุณภาพการจัดการศึกษาของปจั จุบนั กับการจัดการศึกษา ในอดีต การบรรจุ แต่งตั้งรับย้าย ศิษย์เก่า เข้าปฏิบัติหน้าท่ี
บุคลากรของโรงเรยี นเพอื่ รว่ มพฒั นาคณุ ภาพโรงเรยี น
2) รบั ฟงั ความคิดเห็นของศิษย์เก่าโดยผ่านกิจกรรมโรงเรียน เชน่ งานราตรีแกว้ กาญจนา งานมุทติ าจติ เป็นต้น
3) ร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านส่ือออนไลน์และระบบเทคโนโลยีต่างๆ ตลอดจนสื่อประชาสัมพันธ์ เช่น
วารสารแก้วกาญจนา เป็นตน้
การรับฟังเสียงของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของคู่แข่ง โรงเรียนมีวิธีการดังน้ี 1) รับฟังความคิดเห็นผ่านการประชุม
กลมุ่ โรงเรยี นกาญจนาภเิ ษกวิทยาลยั การประชุมคณะผู้บริหารของสานักงานเขตพ้ืนท่ี การศึกษา ตลอดจนเวทีเสวนา
แลกเปลยี่ นทางวชิ าการ รวมท้งั การมบี ทบาทร่วมเปน็ คณะกรรมการบรหิ ารงานต่าง ๆ ในสถาบนั อืน่ ๆ เปน็ ต้น
ข. การประเมนิ ความพึงพอใจและความผูกพันของนักเรียนและผูม้ ีส่วนได้สว่ นเสีย (Determination of
STUDENT and Stakeholder Satisfaction ENGAGEMENT)
(1) ความพึงพอใจ ความไม่พึงพอใจและความผูกพัน (Satisfaction, Dissatisfaction and ENGAGEMENT)
โรงเรยี นมกี ระบวนการประเมินความพึงพอใจและความผูกพันของนักเรียนและผู้มสี ่วนได้สว่ นเสีย ดังนี้
1. สารวจความต้องการ/ความคาดหวงั ของนักเรยี นต่อการจัดการเรียนรู้และบริการอื่น ๆ เช่น การจัดวิชาสาระ
เพ่ิมเติมให้เลือกเรียนตามจุดเน้นโรงเรียนมาตรฐานสากล การจัดกิจกรรมให้ นักเรียนเลือกได้อย่างหลากหลาย จัดแผนการ
เรียนตามความต้องการของนักเรียน การให้บริการด้าน ICT การให้บริการห้องสมุด การให้บริการสื่อและอุปกรณ์การเรียน
การให้บริการหอพกั เปน็ ตน้ รวมถงึ อตั ราการขาดเรียน อตั ราการลาออกกลางคนั สถิติการเรยี นต่อในโรงเรียนเดมิ เปน็ ตน้
2. สรา้ งแบบประเมนิ ความพงึ พอใจ ให้ฝ่ายบรหิ ารแตล่ ะฝ่ายสร้างแบบประเมนิ ความพึงพอใจ ในการบริหารทัง้ 5
ดา้ น คอื การบริหารงบประมาณ การบริหารงานบคุ คล การบริหารวชิ าการ การบรหิ ารทั่วไป และการบริหารกจิ การนกั เรียน
33
3. กาหนดแผนการประเมนิ ความพงึ พอใจ จดั ทาปฏทิ ินการประเมินความพงึ พอใจ
4. ประเมนิ ความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้และบริการอื่น ๆ โดยประเมินเม่ือเสร็จส้ิน กิจกรรมและใน
วนั ประชุมผปู้ กครองชน้ั เรยี น ภาคเรียนละ 1 ครั้ง
5. วดั วิเคราะห์และจัดการความรู้ เพอื่ คน้ หาวธิ ปี ฏิบัติท่ีเป็นเลิศและวเิ คราะหป์ ญั หาอปุ สรรค ข้อเสนอแนะ
ในการดาเนนิ การและนาไปประชมุ แลกเปลย่ี นเรยี นร้เู พื่อปรับปรงุ แก้ไขอย่างต่อเน่ือง
6. รายงานผลความพึงพอใจ/ไม่พึงพอใจต่อการบริหารจัดการศึกษาของโรงเรียน ต่อผู้อานวยการทุกภาค
เรียน ประชุมผู้บรหิ าร ครู และบุคลากร เพื่อร่วมกันวางแผน สร้างแบบประเมินความพึงพอใจ มีการจัดทารายงานผล
ความพึงพอใจ/ไม่พึงพอใจต่อการบริหาร จัดการศึกษาของโรงเรียน ทั้ง 5 กลุ่มงานต่อผู้อานวยการทุกภาคเรียน
นาข้อเสนอแนะในการดาเนินการ และนาไปประชุมแลกเปล่ยี นเรยี นรเู้ พ่อื ปรับปรงุ แกไ้ ขต่อเนื่อง ดังแผนภาพที่ 3.2
แผนภาพท่ี 3.2 กระบวนการประเมนิ ความพงึ พอใจและความผกู พนั ของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
จากแผนภาพที่ 3.2 แสดงถึงการดาเนินการประเมินความพึงพอใจ เพื่อให้การเก็บข้อมูลสารสนเทศถูกต้องและ
สมบูรณ์จะได้นาข้อมูลการประเมินมาใช้ในการพัฒนาการบริหารจัดการสถานศึกษาโดยผ่านกระบวนการจัดทาโครงการ/
กจิ กรรมทมี่ ผี ลการดาเนินกิจกรรม/โครงการบรรลตุ ามวตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการเปน็ การสร้างความผูกพันกบั นักเรียนและผู้มี
ส่วนได้ส่วนเสียในระยะยาวในหนว่ ยงานต่าง ๆ เช่น สมาคมผปู้ กครองและครโู รงเรียนกาญจนาภเิ ษกวิทยาลัย นครปฐม (พระ
ตาหนกั สวนกหุ ลาบมัธยม) เครอื ข่ายผู้ปกครองฯ ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ วัดและสถาบันทางการศึกษา เปน็ ตน้
34
โดยการดาเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลทุกปีอย่างต่อเนื่อง ซ่ึงโรงเรียนจะสามารถเปรียบเทียบผลที่ได้ในแต่ละปีว่ามี
ความไม่พงึ พอใจมากขึน้ หรือน้อยลงในเร่ืองใด ตลอดจนข้อร้องเรียนจะถูกรับฟัง และช้ีแจงเบื้องต้นโดยผู้ท่ีรับฟังความไม่พึง
พอใจนั้น จากนั้นจะถูกส่งต่อไปยังผู้บริหารโรงเรียน กรรมการที่เกี่ยวข้อง เพ่ือประเมินและวิเคราะห์ถึงสาเหตุความไม่พึง
พอใจและหาแนวทางในการปรับปรุง และวธิ ีการป้องกนั ไม่ให้เกิดความไม่พึงพอใจในลักษณะเดียวกันอีกในอนาคต
(2) ความพงึ พอใจเปรียบเทียบกบั คแู่ ข่ง (Satisfaction Relative to Competitors)
โรงเรียนศึกษาความพึงพอใจของโรงเรียนคู่แข่ง จากข้อเสนอแนะท่ีนักเรียน ผู้ปกครอง เครือข่ายศิษย์เก่า
ตอบแบบประเมิน โดยมกี ระบวนการการประเมนิ ความพึงพอใจเปรียบเทียบกับคูแ่ ขง่ ไดด้ าเนินการปฏบิ ตั ิ ดังน้ี
1. สารวจความแตกต่างของโรงเรียนคู่แข่ง/ความต้องการของนักเรียนในเรื่องต่าง ๆ ประกอบด้วย หลักสูตร
กระบวนการจัดการเรียนการสอน การบริการส่งเสริมการเรียนรู้ บรรยากาศในการเรียนรู้ อาคารสถานที่ ห้องเรียนมีสื่อ
เทคโนโลยีทที่ ันสมัยพรอ้ มใช้ กิจกรรมส่งเสริมการเรยี นรู้ กิจกรรมส่งเสรมิ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนและบรกิ ารการศึกษาอ่นื ๆ
2. ใช้ผลการสอบ O-NET ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 และระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผลการสอบเข้าศึกษาต่อ
ในระดับอุดมศึกษา และสว่ นแบง่ การตลาดและการรับนักเรียนเปรียบเทียบกับ โรงเรยี นกาญจนาภิเษกวิทยาลัย สุพรรณบุรี
3. ดาเนินการตามแผนการตลาดโดยจัดกิจกรรมเพื่อสง่ เสรมิ นักเรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนสูงขึ้น มี
ผลการแขง่ ขันทักษะทางวิชาการสงู ขน้ึ และมีอัตราการแขง่ ขันสอบเข้าศึกษาต่อแต่ละ ปกี ารศึกษาเพิม่ ขึ้น
4. ประเมินความพึงพอใจและเปรียบเทียบทางการตลาด รายงานให้ผู้อานวยการทราบทุกปีการศึกษา
มีการประชุมคณะกรรมการหลักสูตรและวิชาการของสถานศึกษาเพ่ือสะท้อนผลการเปรียบเทียบ ด้านหลักสูตร
การตลาดและการรบั นักเรียน ผลการสอบ O-NET ผลการศกึ ษาต่อระดบั อดุ มศึกษา กับโรงเรียนคู่เทียบ เพื่อวิเคราะห์
หาแนวทางในการพฒั นาคุณภาพใหส้ งู ข้ึน
3.2 ความผูกพันของนกั เรยี นและผู้มีส่วนไดส้ ว่ นเสยี (Student and Stakeholder Engagement)
ก. หลักสตู รและการสนบั สนนุ นักเรียนและผู้มีส่วนได้สว่ นเสีย (Product Offering STUDENT and
Stakeholder Support)
(1) หลกั สตู ร (Product Offering)
โรงเรยี นได้จดั ทาหลักสตู รสถานศกึ ษาโดยยดึ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และ
หลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 โดยใช้
สาระพืน้ ฐาน-สาระเพิ่มเติม–สาระเพิ่มเติมความเป็นสากล (IS1-IS3) โดยมีการวิเคราะห์ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด
หน่วยการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ฯลฯ การจัดทาหลักสูตร สถานศึกษา ตอบสนองกับความต้องการของผู้เรียน
ผู้ปกครอง ชุมชน ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจเป้าประสงค์ ของโรงเรียน โดยผ่านความเห็นชอบและกากับ
ติดตามจากคณะกรรมการสถานศึกษา ข้ันพ้ืนฐาน ก่อนนาหลักสูตรสถานศึกษาไปใช้โดยมีกระบวนการกาหนด
หลกั สูตรเพอื่ ตอบสนอง ความต้องการของนักเรยี น ไดด้ าเนินการปฏบิ ตั ิ ดังน้ี
1. สารวจความต้องการตอ่ หลกั สูตร การบริการที่สาคัญ และความนิยม หลักสูตรของโรงเรียน ตอบสนอง
ความตอ้ งการ ความสนใจของนกั เรยี น
2. ศกึ ษามาตรฐาน/ ตัวช้วี ดั /สาระการเรยี นรู้
35
3. ร่างหลกั สูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับชุมชน และตอบสนองความต้องการ ของผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วน
เสีย โดยไดพ้ ฒั นาหลักสตู รสถานศกึ ษาใหส้ อดคลอ้ งกับความเป็นสากล เปิดรายวิชาเพิ่มเติมทั้งระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
และระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย มีวิธีการส่งเสริมการเรียนรู้และ การสร้างนวัตกรรมให้สอดคล้องกับหลักสูตรและการ
บริการทางการศึกษา เพอื่ ตอบสนองความต้องการ และความคาดหวงั ของนักเรยี นปัจจบุ ันและในอนาคต
4. เสนอความเห็นชอบ หลักสูตรได้รับการพิจารณา ผ่านความเห็นชอบ จากคณะกรรมการ สถานศึกษา
ขั้นพื้นฐานโดยหลักสูตรท่ีเปิดสอนในโรงเรียน ประกอบด้วย 3 หลักสูตร คือ หลักสูตรห้องเรียนปกติ หลักสูตร
ห้องเรียนพิเศษ ท้ังระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
โดยการจัดกลุ่มการเรียนตามความสามารถ และความถนัดของผู้เรียน ดังน้ี ระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น มี 3 กลุ่ม
การเรยี น ดังน้ี 1) กลมุ่ ห้องเรียนส่งเสริม ความเป็นเลิศ ทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ กลุ่มโรงเรียนกาญจนา
ภิเษกวิทยาลัย ที่มุ่งเน้นส่งเสริมพัฒนาศักยภาพ ให้กับผู้เรียนท่ีมีความเป็นเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
2) กลุ่มห้องเรียนปกติ และ 3) กลุ่มห้องเรียนโครงการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวง ศึกษาธิการเป็น
ภาษาอังกฤษ(English Program) เพื่อสนับสนุนให้จัดการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนระดับช้ันมัธยมศึกษา
ตอนปลาย ประกอบด้วย 3 กลมุ่ การเรียน ดังนี้
4.1 กลุ่มห้องเรียนพิเศษ ประกอบด้วยห้องเรียนส่งเสริมความเป็นเลิศ ทางด้านวิทยาศาสตร์และ
คณติ ศาสตร์ กลุ่มโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย ที่มุ่งเน้น ส่งเสริมพัฒนาศักยภาพให้กับผู้เรียนท่ีมีความเป็นเลิศทางด้าน
วิทยาศาสตรแ์ ละคณิตศาสตร์ และหอ้ งเรียนพเิ ศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิง่ แวดลอ้ ม (SMTE)
4.2 กลุ่มห้องเรียนปกติ ประกอบด้วย ห้องเรียนแผนการเรียนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ห้องเรียน
แผนการเรียนคณิตศาสตร์ -ภาษาอังกฤษ ห้องเรียนแผนการเรียนภาษาอังกฤษ-จีน ห้องเรียนแผนการเรียน
ภาษาองั กฤษ-ฝรงั่ เศส หอ้ งเรียนแผนการเรียนภาษาอังกฤษ-เยอรมัน
4.3 กล่มุ หอ้ งเรียนโครงการจดั การเรียนการสอนตามหลกั สตู รกระทรวง ศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษ
(English Program) เพ่อื สนบั สนนุ ให้จัดการเรยี นการสอนเปน็ ภาษาอังกฤษ
5. นาหลกั สูตรไปใช้เพ่อื ให้ตรงกับความต้องการและความสามารถของนกั เรียนและผปู้ กครอง
6. นิเทศ กากบั ตดิ ตาม
7. วดั วเิ คราะห์ประเมนิ การใชห้ ลักสูตร
8. รายงานผลความพึงพอใจของหลักสูตร คณะกรรมการหลักสูตรจัดกระบวนการสารวจ ความพึงพอใจ โดยใช้
แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียน ประชุมวิเคราะห์และนาผลสารวจจัดทารายงาน
ผลความพึงพอใจของ หลกั สูตรเสนอต่อคณะกรรมการ สถานศึกษาข้ันพื้นฐาน นาหลักสูตรไปใช้เพื่อให้ตรงกับความต้องการ
และความสามารถของนักเรียน และผู้ปกครอง โดยใชแ้ บบประเมินความพึงพอใจต่อการใชห้ ลักสตู ร
โรงเรียนมีกลไกในการส่งเสริมให้ครูนาหลักสูตรสู่การจัดการเรียนรู้ในห้องเรียน เพ่ือพัฒนา ผู้เรียนให้มีคุณภาพ
บรรลุตามมาตรฐานหลักสูตร จัดระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้นักเรียนทุกคน ได้รับบริการอย่างท่ัวถึง มีการนิเทศ
กากับติดตามดูแลการใช้หลักสูตรให้เกิดประสิทธิภาพ นาผลการนิเทศ การจัดการเรียนรู้มาเป็นข้อมูลในการพัฒนาผู้เรียน
และปรับปรุงการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยความร่วมมือของครูและบุคลากรในโรงเรียน ผู้ปกครอง และ
ชุมชน เป็นต้น เน้นการบริหารจัดการหลักสูตร โดยการปรับปรุงหลักสูตรตอบสนองตามความต้องการของผู้เรียน และ
สอดแทรกหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง จัดรายวิชาในหลักสูตรท่ีสอนนอกเหนือจากรายวิชาบังคับ ตามโครงสร้าง
ของหลักสูตร ตามแนวทางโรงเรียนมาตรฐานสากล คือ จัดรายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS1) รายวิชาการ
36
ส่ือสารและนาเสนอ (IS2) และกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ (IS3) และสอดแทรกการเรียนรู้บูรณาการ
กระบวนการ STEM ศึกษา ใช้กลไกในการจัดกิจกรรม การเรียนการสอน คานึงถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องทุกด้าน ความต้องการ
และความสนใจของผเู้ รียน ผู้ปกครอง และชุมชน มีความพร้อมด้านบุคลากร อาคารสถานที่ การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์และ
แหล่งเรียนรู้ทั้งใน และนอกโรงเรียนและการนิเทศติดตามประเมินผลเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการนาหลักสูตรไปใช้จัด
การศกึ ษาที่มุ่งพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา
(2) การสนับสนนุ นักเรยี นและผู้มสี ว่ นได้สว่ นเสีย (STUDENT and Stakeholder Support)
โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระตาหนักสวนกุหลาบมัธยม) ได้ใช้วิธีการสารวจ สัมภาษณ์
ผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพ่ือใช้เป็นข้อมูลในการจัดหลักสูตร/แผนการเรียน บริการที่ส่งเสริมการเรียนรู้และ
บริการการศึกษาอ่ืน ๆ นอกจากน้ีโรงเรียนได้ใช้วิธีการศึกษา ดูงาน อบรม สัมมนา เพื่อนาความรู้และประสบการณ์
มาประชุมเชิงปฏิบัติการในการกาหนดและสร้างนวัตกรรมให้หลักสูตร บริการที่ส่งเสริมการเรียนรู้ และบริการ
การศึกษาอ่ืน ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของ ผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งวิธีการ
คน้ หาและสร้างนวัตกรรมของหลักสูตร/แผนการเรียน บริการที่ส่งเสริมการเรียนรู้และบริการการศึกษาอ่ืน ๆ โดยหา
พื้นท่ีบริการใหม่เพื่อจูงใจผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใหม่ และสร้างโอกาสในการขยายความสัมพันธ์กับผู้เรียนและ
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในปัจจุบัน และมีการระดมความคิดเห็นร่วมกันของบุคลากรในโรงเรียน และได้ถ่ายทอดให้ทุกคน
รบั ทราบ และนามาใช้ดาเนินงานเป็นแนวทางเดยี วกนั
โรงเรียนมีบริการท่ีส่งเสริมการเรียนรู้และบริการทางการศึกษา เพื่อสนับสนุนนักเรียนให้ได้รับการพัฒนาคุณภาพ
นักเรียนและสนองกลยุทธ์ของโรงเรียน มีอาคารเรียนและอาคารประกอบเพียงพอกับการใช้งานระบบสาธารณูปโภค เช่น
ระบบประปา สามารถใช้การได้ดีในทุกอาคารเรียน ทุกห้องปฏิบัติการ ระบบไฟฟ้าเพียงพอ ใช้การได้ดี ระบบอินเตอร์เน็ต
ความเร็วสูงสามารถใชก้ ารได้และมบี รกิ ารทั่วถึงในห้องเรยี นทุกห้อง และห้องสานักงาน ทุกห้องสานักงาน ดาเนินการพัฒนา
หลักสูตร และบคุ ลากร สรา้ งประสบการณ์ การประสานงาน ความร่วมมือ ทางวิชาการในการสร้างเสริมประสบการณ์ เช่น
การแข่งขนั ทกั ษะทางวชิ าการ กจิ กรรมสง่ เสรมิ ความเป็นเลิศทงั้ ทางดา้ นศิลปะ ดนตรี กีฬาและนาฏศลิ ป์
มีกลไกการส่ือสารระหว่างนักเรียน กลุ่มนักเรียนหรือส่วนตลาด ใช้วิธีการประชาสัมพันธ์เชิงรุก โดยอาศัยช่องทาง
ต่าง ๆ สื่อออนไลน์ (Social media) ได้แก่ เว็บไซต์ เพจ Facebook ไลน์ โทรศัพท์ โทรสาร E-mail ป้ายประชาสัมพันธ์
วารสารแก้วกาญจนา หนังสือเชิญ และหนังสือราชการ ในการทาให้ ผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถติดต่อกับ
โรงเรียน และให้ข้อมูลป้อนกลับเก่ียวกับหลักสูตร/แผน การเรียน บริการท่ีส่งเสริมการเรียนรู้และบริการการศึกษาอื่น ๆ
และการสนับสนุนผู้เรียนและผู้มีส่วน ได้ส่วนเสียในเรื่องการทาธุรกรรมของโรงเรียน เช่น ห้องธุรการ งานการเงิน
ห้องวิชาการ ธนาคารโรงเรียน ห้องประชาสมั พันธ์ หอ้ งบริหารงานบุคคล และห้องแนะแนว เปน็ ต้น
(3) การจาแนกนักเรียน (STUDENT Segmentation)
โรงเรียนใชข้ อ้ มูลสารสนเทศเกย่ี วกับนักเรียน และหลกั สตู ร ในการจัดจาแนกกลุ่มนักเรยี น ส่วนตลาดปจั จบุ นั
และอนาคต กาหนดกลุม่ นักเรียนได้ 3 กลุม่ ไดแ้ ก่
1. กลมุ่ นกั เรยี นปจั จบุ ัน ได้แก่ นักเรยี นระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น นักเรียนระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
2. นกั เรยี นอดีต ได้แก่ นกั เรียนท่จี บการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และนกั เรยี นระดับช้ัน มธั ยมศึกษาปีที่ 6
37
3. กลุ่มนักเรียนอนาคตได้แก่ นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ในเขตพื้นท่ี และนอกเขตพ้ืนที่ ที่สมัครเข้า
ศึกษาต่อระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 และนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ท่ีสมัครเข้าศึกษาต่อ ระดับชั้น
มัธยมศึกษาปีที 4 ประกอบด้วยบุตรข้าราชบริพาร เขตพ้ืนที่บริการ กรุงเทพฯ นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร
สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และพ้ืนท่ีใกล้โรงเรียน นักเรียนและผู้ปกครองต้องอาศัย
อยู่ในอาเภอพทุ ธมณฑล อย่างนอ้ ย 2 ปี โดยมกี ระบวนการจาแนกนกั เรียน ไดด้ าเนนิ การปฏิบตั ิ ดังนี้
1. ศกึ ษา สารวจข้อมูลสารสนเทศของนักเรียน เม่ือนักเรียนเข้าเรียนในระบบของโรงเรียนแล้ว โรงเรียนมี
การจัดทาระบบข้อมูลสารสนเทศ ข้อมูลส่วนตัวของนักเรียน สุขภาพ พฤติกรรมเส่ียง ข้อมูลด้าน วิชาการและข้อมูล
ดา้ นผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน
2. รวบรวมข้อมูลสารสนเทศ โรงเรียนนาข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือ
นักเรยี นดา้ นทุนปจั จยั พน้ื ฐาน ทุนการศกึ ษา และโครงการต่าง ๆ
3. การจดั จาแนกข้อมลู นกั เรียนตามแผนการเรยี น คือ หอ้ งเรียนปกติ ห้องเรยี นพิเศษ
4. จัดทาสารสนเทศของแต่ละแผนการเรียน
5. วัดวิเคราะห์และจัดการความรู้ เพื่อตรวจสอบความพึงพอใจของนักเรียนแต่ละแผนการเรียน เพ่ือนา
ขอ้ มูลมาประชมุ แลกเปลีย่ นเรยี นรู้
6. รายงานผลการจาแนกนักเรียน คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องนาข้อมูลจากการจาแนกนักเรียน มาประชุม
แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ และนาไปปรับปรุงแก้ไข วางแผนการตลาดและแผนการรับนกั เรยี นในปีต่อไป
ข. การสร้างความสัมพันธ์นักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Building Student and Stakeholders
Relationship)
(1) การจัดการความสมั พนั ธ์ (Relationship Management)
โรงเรียนมีการจัดการบริการทางการศึกษาและส่งเสริมการเรียนรู้ (กิจกรรม/โครงการต่าง ๆ) เพ่ือตอบสนอง
นักเรียนตามความต้องการในความคาดหวัง และการสร้างความผูกพันโดยมีกระบวนการ ดังนี้ กระบวนการสร้าง
ความสมั พันธน์ กั เรียนและผู้มสี ่วนไดส้ ว่ นเสยี ไดด้ าเนนิ การปฏบิ ตั ิ ตามแผนภาพท่ี 3.3 ดังนี้
แผนภาพท่ี 3.3 กระบวนการจัดการ
ความสัมพนั ธก์ ับนักเรยี นและผ้มู ีสว่ น
ไดส้ ว่ นเสีย
38