นางสาวลลิล คูประเสริฐ ม.6/3 เลขที่ 29 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและฟิสิกส์อะตอม
คลื่น แม่เหล็ก ไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า c = f λ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (electromagnetic wave) เป็นคลื่นที่สามารถส่งผ่านจากวัตถุ หนึ่งไปยังวัตถุหนึ่งโดย ไม่อาศัยตัวกลางซึ่งเรียกว่าการแผ่รังสี(radiation) เดินทางด้วย ความเร็ว 3 x 108 m/s มีคุณสมบัติพื้นฐาน 3 ประการ คือ ความยาวคลื่น ความถี่ และ ความเร็ว มีความสัมพันธ์กัน c คือ ความเร็วคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (m/s) f คือ ความถี่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Hz) λ คือ ความยาวคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (m)
WHO IS JAMES CLERK MAXWELL เป็นผู้ตั้งสมมุติฐานการมีอยู่ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นคนแรก ได้รวบรวมสมการที่เกี่ยวกับ สนามไฟฟ้า และ สนามแม่เหล็ก โดยภายหลัง คำ ทำ นายนี้ได้รับ การยืนยันว่ามีเป็นจริงจากการ "ทดลองของเฮิร์ตซ์"
ทดลองของเฮิร์ตซ์ เฮิรตซ์ได้ทดลองพิสูจน์ทฤษฎี คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์ ยืนยันผลที่ว่า "แม่เหล็กไฟฟ้า" มีสมบัติเป็น "คลื่น" โดยพบว่าเมื่อ สร้างเส้นสปาร์คบริเวณ ตัวส่ง (Transmitter) จะเกิด เส้นสปาร์คที่บริเวณ ตัวรับ (Receiver) เชนกัน
การเหนี่ยวนำ เฟสของคลื่น
การนำ คลื่นแม่เหล็ก ไฟฟ้าไปใช้งาน -อนุภาคที่มีประจุ (บวก หรือ ลบ) เคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่คงที่ (มี a) จะปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า -เกิดจากการเปลี่ยนแปลงระดับพลังงานของ "อิเล็กตรอน" หรือ "นิวเคลียส" - วัตถุที่มีอุณหภูมิมากกว่า 0 K จะมีการแผ่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมา การเกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สำ หรับการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ที่อยู่บนภาคพื้นโลกกับอุปกรณ์ อวกาศ เช่นการใช้งาน GPS และภาพถ่ายดาวเทียม ที่มีการรับภาพ จากรังสีที่สะท้อนออกมาจากพื้นผิวโลกมาแปรเป็นภาพที่นอกโลกและ ส่งภาพกลับไปยังที่พื้นโลกเพื่อนำ ไปวิเคราะห์ใช้งาน ตั้งแต่การเดิน ทางในชีวิตประจำ วัน การเกษตร การพยากรณ์อากาศ หรือแม้กระทั่ง การหาแหล่งทรัพยากรบนพื้นโลก การสื่อสารบนพื้นโลกด้วยคลื่นวิทยุ ซึ่งเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่ง ทำ ให้เราสามารถแปลงคลื่นเสียงเป็นคลื่นวิทยุ และส่งออกไปโดยไม่ ต้องใช้สายเป็นตัวกลาง เพื่อไปยังผู้รับสาร หรือแม้กระทั่ง การทำ อาหาร ที่ใช้ทั้ง คลื่นไมโครเวฟ และคลื่นความ ร้อนที่จะนำ มาปรุงให้อาหารสุกพร้อมรับประทานในระยะเวลาอันสั้น
การโพลาไรเซชัน ANALOG SIGNAL DIGITAL SIGNAL
ฟิสิกส์ อะตอม
ฟิสิกส์อะตอม คืออะไร ? ฟิสิกส์อะตอม คือ การศึกษาโคงรสร้างของอะตอม ของธาตุต่างๆ และมีการเจาะลึกลงไปถึงนิวเคลียสและ อิเล็กตรอนที่โคจรอยู่ภายรอบ ซึ่งตั้งแต่ในอดีตก็ได้มีการ ค้นคว้า ทดลอง จนเกิดเป็นทฤษฎีเกี่ยวกับอะตอมต่าง ๆ มากมาย
(แบบจำ ลอง) (ผู้ค้นพบ) (การค้นพบ) (การทดลอง) (สมการคำ นวณ) Dalton Mendeleev Sir. W.Crooke สร้างตารางธาตุ พบ eหลอดรังสีแคโทด Thomson Thomson Millikan หา q/m ของ e- ดัดแปลงหลอดรังสีแคโทด หา q, m ของ e- การทดลองหยดน้ำ มัน Rutherford Rutherford Max Plank วัตถุดำ Spectrum ยิง a ผ่านแผ่นทองคำ ส่วนใหญ่ → ไม่เบน ส่วนน้อย → เบน น้อยมาก → สะท้อนกลับ ของแข็งร้อน → ต่อเนื่อง แก๊สร้อน → เส้น ของแข็งร้อนผ่านแก๊สเย็น
ขยายผลแบบจำ ลอง อะตอมของบอห์ร การทดลองกระตุ้น eปรอท (Hg) (แบบจำ ลอง) (ผู้ค้นพบ) (การค้นพบ) (การทดลอง) (สมการคำ นวณ) Niels Bohr โครงสร้างอะตอม ของไฮโดรเจน สมบัติโครงสร้างอะตอม ของไฮโดรเจน Franck and Hertz Niels Bohr อะตอมอื่นนอกเหนือ จากHydrogen
(แบบจำ ลอง) (ผู้ค้นพบ) (การค้นพบ) (การทดลอง) (สมการคำ นวณ) การค้นพบ รังสี Xและการ ศึกษาspectrum ของมัน Wilhelm Conrad Röntgen อะตอมอื่นนอกเหนือ จากHydrogen ขยายผลแบบจำ ลอง อะตอมของบอห์ร กลุ่มหมอก ต่อมาเหล่านักวิทยาศาสตร์อย่าง แอร์วิน ชเรอดิงเงอร์ (Erwin Schrodinger) ได้ใช้ ความรู้ความสามารถทางกลศาสตร์ควอน ตัมมาศึกษา พบว่า อิเล็กตรอนนั้น ไม่ได้ เคลื่อนที่เป็นวงกลมเหมือนวงโคจรของ แต่จะเคลื่อนที่รอบนิวเคลียสต่าง ๆโตลากมระดับพลังงานของอิเล็กตรอน และจะ เคลื่อนที่เร็วมากจนไม่สามารถหาตำ แหน่งที่แน่นอนได้เลย ดังนั้นไม่สามารถ บอกอย่างแม่นยำ ได้เลยว่าอิเล็กตรอนอยู่ชั้นใด แต่สามารถบอกในลักษณะ ความน่าจะเป็นได้ โดยสังเกตจากความหนาแน่นของอิเล็กตรอนนั่นเอง
ปรากฏการณ์โฟโต อิเล็กทริก
โมเมนตัมของโฟตอน สมมติฐานของเดอบรอยล์
THANK YOU FOR READING!