ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ ประจ าต าบลบ้านหลุม
ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ ประจ าต าบลบ้านหลุม สวนไผ่เพิ่มทรัพย์
ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ประจ าต าบลบ้านหลุม กศน.ต าบลบ้านหลุม ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอเมืองสุโขทัย ส านักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดสุโขทัย
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชด ารัสเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ดังใจความว่า “...การจะเป็นเสือนั้น ไม่ส าคัญ ส าคัญอยู่ที่เรามีเศรษฐกิจแบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกิน หมายความว่า อุ้มชูตัวเองได้ ให้มีความพอเพียงกับตัวเอง ความพอเพียงนี้ไม่ได้หมายความว่า ทุกครอบครัวจะต้องผลิตอาหารของ ตัวเอง จะต้องทอผ้าใส่เอง อย่างนั้นมันเกินไป แต่ว่าในหมู่บ้านหรือใน อ าเภอ จะต้องมีความพอเพียงพอสมควร บางสิ่งบางอย่างที่ผลิตได้มากกว่า ความต้องการก็ขายได้ แต่ขายในที่ไม่ห่างไกลเท่าไหร่ ไม่ต้องเสียค่าขนส่ง มากนัก...”
เศรษฐกิจพอเพียงคือ…… • ความสามารถของชุมชนเมือง รัฐ ประเทศ หรือภูมิภาคหนึ่ง ๆ ในการผลิตสินค้าและ บริการทุกชนิดเพื่อเลี้ยงสังคม นั้น ๆ ได้โดยไม่ต้องพึ่งพา ปัจจัยต่างๆ ที่เราไม่ได้เป็น เจ้าของ • ในระดับบุคคลนั้น คือ ความสามารถในการด ารงชีวิต ได้อย่างไม่เดือดร้อน มีความ เป็นอยู่ตามฐานะ ตามอัตภาพ และที่ส าคัญไม่หลงใหลไป ตามกระแสของวัตถุนิยม มี อิสรภาพ เสรีภาพ ไม่ พันธนาการอยู่กับสิ่งใด
กล่าวโดยสรุปคือ….. “เศรษฐกิจพอเพียงคือ หันกลับมายึดเส้นทางสายกลาง ในการด ารงชีวิต”
หลักการพึ่งตนเอง 1.ด้านจิตใจ เป็นที่พึ่งตนเอง มีจิตส านึกที่ดี สร้างสรรให้ตนเองและชาติโดยรวม เห็น ประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง 2. ด้านสังคม แต่ละชุมชนต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายชุมชนที่ แข็งแรง เป็นอิสระ 3. ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ใช้และจัดการอย่างฉลาด พร้อมทั้งหาทาง เพิ่มมูลค่า โดยให้ยึดอยู่บนหลักการของความยั่งยืน 4. ด้านเทคโนโลยีใช้เฉพาะที่สอดคล้อง กับความต้อการ ควรพัฒนาเทคโนโลยี จากภูมิปัญญาของเราเอง 5.ด้านเศรษฐกิจ มุ่งลดรายจ่ายก่อน เป็น ส าคัญ และยึดหลักพออยู่ พอกิน พอใช้
เงื่อนไขและการน าไปใช้…ของเศรษฐกิจพอเพียง หลัก3 ห่วง 2 เงื่อนไข
3 ห่วง ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่ น้อยเกินไปและไม่มาก เกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเอง และผู้อื่น เช่นการผลิต และการบริโภคที่อยู่ใน ระดับพอประมาณ ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจ เกี่ยวกับระดับของความ พอเพียงนั้น จะ ต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุ ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนค านึงถึงผลที่ คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการ กระท านั้นๆ อย่าง รอบคอบ การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้ พร้อมรับผลกระทบและ การเปลี่ยนแปลงด้านการ ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นโดย ค านึงถึงความเป็นไปได้ ของสถานการณ์ ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ในอนาคตทั้งใกล้และไกล
2 เงื่อนไข คือการตัดสินใจและการด าเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ระดับ พอเพียงนั้น ต้องอาศัยทั้งความรู้และคุณธรรมเป็นพื้นฐาน ประกอบไปด้วย 2.เงื่อนไขคุณธรรม หมายถึง ด าเนินชีวิตด้วยความอดทนมีความเพียร มี สติและใช้ปัญญาบริหารจัดการการใช้ชีวิต โดยใช้หลักวิชาและคุณธรรม เป็นแนวทางพื้นฐาน 1. เงื่อนไขความรู้ มีความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่าง รอบด้าน มีความรอบคอบและระมัดระวังในการด ารงชีวิต
การปฏิบัติตนแบบพอเพียง 1. ยึดความประหยัด 2. ความถูกต้อง สุจริต 5. ละซึ่งความชั่วท าแต่ความดี 4. ไม่หยุดนิ่งที่จะหาทางแห่งการพ้นทุกข์ 3. ละเลิกการแก่งแย่งผลประโยชน์
1. ยึดความประหยัด ตัดทอนค่าใช้จ่ายในทุกด้าน ลดละความฟุ่มเฟือยในการ ด ารงชีพอย่างจริงจัง 4. ไม่หยุดนิ่งที่จะหาทางให้ชีวิตหลุดพ้น จากความทุกข์ยากครั้งนี้ โดยต้อง ขวนขวายใฝ่หาความรู้ให้เกิดมีรายได้ เพิ่มพูนขึ้นจนถึงขั้นพอเพียง 2. ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความถูกต้อง สุจริต แม้จะตกอยู่ในภาวะขาด แคลนในการด ารงชีพก็ตา 3. ละเลิกการแก่งแย่งผลประโยชน์และแข่งขันกันในทางการค้าขาย ประกอบอาชีพแบบ ต่อสู้กันอย่างรุนแรงดังอดีต 5. ปฏิบัติตนในแนวทางที่ดีลดละ สิ่งชั่วให้หมดสิ้นไป
เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชด าริ
แนวคิดระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงส าหรับเกษตรกร ตามแนวพระราชด าริ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักการ “ทฤษฎีใหม่” 3 ขั้น คือ
ขั้นที่หนึ่ง มีความพอเพียง เลี้ยงตัวเองได้บนพื้นฐาน ของความประหยัด ขจัดการใช้จ่าย ขั้นที่สอง รวมพลังกันในรูปกลุ่ม เพื่อท าการผลิต การตลาด การจัดการ รวมทั้งด้านสวัสดิการ การศึกษา การพัฒนา สังคม ฯลฯ ขั้นที่สาม สร้างเครือข่ายกลุ่มอาชีพและขยายกิจกรรมทาง เศรษฐกิจให้หลากหลาย โดยประสานความร่วมมือกับภาคธุรกิจ ภาคองค์กรพัฒนาเอกชน และภาคราชการ ในด้านเงินทุน การตลาด การผลิต การจัดการ และข่าวสารข้อมูล
นัยส าคัญของแนวคิดระบบ เศรษฐกิจแบบพอเพียง ประการแรก “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” โดยมุ่งเน้นการผลิต พืชผลให้เพียงพอกับความต้องการบริโภคในครัวเรือนเป็น อันดับแรกเมื่อเหลือพอจากการบริโภคแล้ว จึงค านึงถึงการ ผลิตเพื่อการค้าเป็นอันดับรองลงมารองลงมา ผลผลิต ส่วนเกินที่ออกสู่ตลาดก็จะเป็นก าไรของเกษตรกร ใน สภาพการณ์เช่นนี้เกษตรกรจะกลายสถานะเป็นผู้ก าหนด หรือเป็นผู้กระท าต่อตลาด แทนที่ว่าตลาดจะเป็นตัวกระท า หรือเป็นตัวก าหนด เกษตรกรดังเช่นที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และหลักใหญ่ส าคัญยิ่ง คือ การลดค่าใช้จ่าย โดยการสร้างสิ่งอุปโภคบริโภคในที่ดิน ของตนเอง เช่น ข้าว น้ า ปลา ไก่ ไม้ผล พืชผัก ฯลฯ ประการที่สอง เศรษฐกิจแบบพอเพียงให้ความส าคัญกับ การรวมกลุ่มของชาวบ้าน ทั้งนี้ กลุ่มชาวบ้านหรือองค์กร ชาวบ้านจะท าหน้าที่เป็นผู้ด าเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ต่าง ๆ ให้หลากหลาย ครอบคลุมทั้งการเกษตรแบบ ผสมผสาน หัตถกรรมการแปรรูปอาหาร การท าธุรกิจค้าขาย และ การท่องเที่ยวระดับชุมชน ฯลฯ เมื่อองค์กรชาวบ้าน เหล่านี้ได้รับการพัฒนาให้เข้มแข็ง และมีเครือข่ายที่ กว้างขวางมากขึ้นแล้วเกษตรกรทั้งหมดในชุมชนก็จะ ได้รับการ ดูแลให้มีรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งได้รับการแก้ไข ปัญหาในทุก ๆ ด้าน ประการที่สาม เศรษฐกิจแบบพอเพียงตั้งอยู่บนพื้นฐานของการมีความเมตตา ความเอื้ออาทร และความสามัคคีของสมาชิกใน ชุมชนในการร่วมแรงร่วมใจเพื่อประกอบอาชีพต่าง ๆ ให้บรรลุผลส าเร็จ ประโยชน์ที่เกิดขึ้นจึงมิได้หมายถึง รายได้แต่เพียงมิติเดียว หากแต่ยังรวมถึงประโยชน์ในมิติอื่น ๆ ด้วย ได้แก่ การสร้างความมั่นคงให้กับสถาบันครอบครัว สถาบัน ชุมชน
เกษตรทฤษฎีใหม่กับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง การท าเกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นทฤษฎีแห่งการใช้ ทรัพยากรธรรมชาติและ การบริหารงานในการท า การเกษตรที่ พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช มหาราช ทรงพระราชทาน แก่พสกนิกรชาวไทย เพื่อ แก้ไขปัญหาการเกษตร โดย การแบ่งพื้นที่การเกษตร ออกเป็น 4 ส่วน Sales ส่วนที่หนึ่งขุดสระกักเก็บน ้ำ จ ำนวน 30% ของพื้นที่ ส่วนที่สอง ปลูกข้ำว จ ำนวน 30% ของพื้นที่ ส่วนที่สำม ปลูกไม้ผลไม้ยืน ต้น จ ำนวน 30% ของพื้นที่ ส่วนที่สี่ เป็น พื้นที่ที่ใช้สร้ำง สิ่งปลูกสร้ำงเช่น ที่อยู่อำศัย โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ ฉำง จ ำนวน 10% ของพื้นที่
จ านวนสัดส่วนของพื้นที่ นี้ทั้งหมดสามารถปรับ เพิ่มหรือลด ขึ้นอยู่กับ ความเหมาะสมของ สภาพพื้นที่แต่ละแห่ง เช่นครอบครัวหนึ่งมี สมาชิกจ านวน 4 คน พื้นที่มีแหล่งน้ าใช้ได้ ตลอดทั้งปี แต่ดินมี ความอุดมสมบูรณ์ต่ าก็ ควรปรับลดพื้นที่ขุดสระ และเพิ่มพื้นที่นาข้าว เพื่อให้มีข้าวบริโภค เพียงพอตลอดทั้งปี ประโยชน์ของ "ทฤษฎีใหม่ สรุปได้ดังนี้ - ประชาชนพออยู่พอกินในระดับประหยัด เลี้ยงตนเองได้ ไม่อดอยาก ตามหลักปรัชญาของ "เศรษฐกิจพอเพียง" - ในหน้าแล้งก็สามารถน าน้ าที่เก็บกักไว้ในสระมาปลูกพืชที่ใช้น้ าน้อย เช่น ถั่วต่างๆ ได้ โดยไม่ต้องอาศัยชลประทาน - ในปีที่ฝนตกตามฤดูกาล ก็สามารถสร้างรายได้ให้ร่ ารวยได้ - ในกรณีที่เกิดอุทกภัย ก็สามารถฟื้นตัว และช่วยตัวเองได้ในระดับหนึ่ง โดยราชการไม่ต้องช่วยเหลือมากนัก
พื้นที่ส่วนที่หนึ่ง จ านวน 3.6 ไร่ (30%) ขุดสระกักเก็บน้ าจ านวน 2 สระ สามารถกักเก็บน้ า ได้ รวม 10,455 ลูกบาศก์เมตร เพียงพอ ต่อการน าน้ ามาใช้ ในการท าการเกษตรได้ทั้งปีแต่การผัน น้ ามาใช้นั้น ยังคงต้องใช้เครื่องจักรกลในการสูบน้ ามาใช้ ท าให้สูญเสียพลังงานเชื้อเพลิง จ านวนมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ถ้าสามารถลดการใช้พลังงานลงได้หรือ หาพลังงาน เชื้อเพลิงอื่นทดแทน หรือมีการวางแผนการใช้น้ า เช่น หากพื้นที่มีระดับที่ต่างกันมาก สามารถ วางท่อน าน้ าออกมาใช้โดยไม่ต้องใช้เครื่องสูบน้ าและน้ ามัน เป็นการจัดการท าให้ ต้นทุนการเกษตรลดลงได้ในระยะยาว
พื้นที่ส่วนที่สอง 3.6 ไร่ (30%) ใช้ปลูกข้าว ด าเนินการในปี 2547 เตรียมดิน หว่าน กล้าและปักด าโดยใช้ข้าวจ้าวหอมมะลิ 105 จ านวน 40 กิโลกรัม ท าการก าจัด วัชพืชในนาข้าว โดยการถอน ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 16 – 20 – 0 จ านวน 30 กิโลกรัม และปุ๋ยเคมีสูตร 40 – 0 – 0 จ านวน 30 กิโลกรัม
พื้นที่ส่วนที่สาม 3.6 ไร่ (30%) ปลูกพืชแบบ ผสมผสาน โดยแบ่งพื้นที่ปลูกดังนี้ 1. พื้นที่จ านวน 2 ไร่ ปลูกมะม่วงพันธุ์โชคอนันต์ จ านวน 50 ต้น 2. พื้นที่จ านวน 0.5 ไร่ ปลูกกล้วยน้ าหว้า จ านวน 60 ต้น 3. พื้นที่จ านวน 0.5 ไร่ ปลูกพืชผัก จ านวน 20 แปลง 4. พื้นที่จ านวน 0.6 ไร่ ปลูกไม้ใช้สอย อาทิเช่น - ต้นสัก จ านวน 30 ต้น - ต้นยูคาลิปตัส จ านวน 80 ต้น - ต้นไผ่รวก จ านวน 10 ต้น - ต้นไผ่ตง จ านวน 5 ต้น - ต้นหวาย จ านวน 30 ต้น
พื้นที่ส่วนที่สี่ 1.2 ไร่ (10%) เป็นพื้นที่สร้างที่อยู่ อาศัยและคอกสัตว์ 1. สร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ จ านวน 1 หลังขนาด 3*4 เมตร เลี้ยงไก่แล้ว 3 รุ่น จ านวน 200 ตัว คัดไว้เป็น พ่อพันธุ์ จ านวน 2 ตัวและแม่พันธุ์ จ านวน 10 ตัว 2. สร้างโรงเรือนเลี้ยงเป็ดจ านวน 1 หลัง ขนาด 3*4 เมตร ใช้เลี้ยงเป็ด 3 รุ่น จ านวน 129 ตัว คัดไว้เป็น พ่อพันธุ์ จ านวน 2 ตัวและแม่พันธุ์ จ านวน 10 ตัว 3. สร้างโรงเรือนสุกร จ านวน 1 หลัง ขนาด 3.5*19.5 เมตร ด าเนินการเลี้ยงสุกรจ านวน 20 ตัว 4. สร้างศาลาถ่ายทอดเทคโนโลยี จ านวน 1 หลัง ขนาด 3.5*10.5 เมตร ใช้เป็นพื้นที่แสดงและ ถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรและผู้สนใจทั่วไป
กล ่ าวโดยสรุปสาระส าคญัของเศรษฐกจ ิ พอเพียง แม้ว่าวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ สามารถหลีก เลี่ยงได้แต่ผลกระทบต่าง ๆ จะไม่รุนแรงมากนักถ้าหากทุก ภาคส่วนของสังคมมีการด าเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยยึดหลักความ พอดีกับศักยภาพของตนเอง บนพื้นฐาน ประชาชนทุกอาชีพหากใช้ชีวิตโดยยึดหลักความพอเพียงย่อมน าความ เป็นอยู่ที่ดีมาสู่ตนและครอบครัว การอยู่ด้วยความพอเพียงท าให้เราเหลือกินเหลือเก็บ ไม่ ล าบาก สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องเดือดร้อนใคร ไม่ต้องเป็นหนี้ การอยู่อย่างพอเพียง อยู่ด้วยสติปัญญาย่อมไม่น าพาไปสู่ อบายมุม ซึ่งจะน าความเสื่อมมาสู่ตนในภายหลัง ผู้ที่อยู่อย่างพอเพียงจะมีความสุขอยู่ท่ามกลางกระแส โลกาภิวัฒน์ แม้สังคมจะไหลไปตามกระแสแห่งทุนนิยมที่เปลี่ยนแปลง ไปตามวัตถุอยู่ตลอดเวลา หากแต่ผู้มีสติและตั้งตนอยู่บนความพอเพียง ก็จะอยู่อย่างเป็นสุขได้โดยไม่ไหลไปตามกระแสวัตถุนิยม แนวคิดของระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงที่มีสาระส าคัญ ดังกล่าวข้างต้นนั้น น่าจะน ามาใช้เป็นแบบอย่างของการ พัฒนา ประเทศไทยในระยะต่อไป ถึงแม้ว่าข้อคิดทั้งหมดจะมุ่งเน้นไปสู่กลุ่มเกษตรกร หรือ ผู้มีที่ดินทั้งหลาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้อง กลับไป สู่ภาคเกษตรหมด ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในสภาพความเป็นจริง เป็นแนวปฏิบัติตน ไม่ว่าจะอยู่ในกิจกรรม อาชีพใด ก็ ต้องยึดวิถีชีวิตไทย อยู่แต่พอดี อย่าฟุ่มเฟือยอย่างไร้ ประโยชน์ อย่ายึดวัตถุเป็นที่ตั้ง ยึดเส้นทางสายกลาง อยู่ กินตามฐานะ ใช้สติปัญญาในการด ารงชีวิต จ าเริญเติบโต อย่างค่อย เป็นค่อยไป อย่าใช้หลักการลงทุนเชิงการพนัน ซึ่งตั้งอยู่ บนความเสี่ยง กู้เงินมาลงทุนโดยหวังรวยอย่างรวดเร็ว แล้วก็ไปสู่ความล้มละลายในที่สุด “รู้รักสามัคคี” ใช้สติปัญญาปกป้องตนเองไม่ให้หลง กระแสโลกาภิวัฒน์โดยไม่รู้ถึงเหตุและผลตาม สภาพแวดล้อมของไทย ให้รู้จัก แยกแยะสิ่งดี สิ่งเลว สิ่ง ที่เป็นประโยชน์ ตามสภาพความเป็นจริงของบ้านเมือง ของเราเป็นที่ตั้ง ผลที่ได้รับจากแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง คือ การด ารงชีวิตในความพอดี มีชีวิตใหม่ คือ หวนกลับมาใช้วิถีชีวิตไทย จะท าให้ชาติบ้านเมืองและตัวเราหลุดพ้น จากความทุกข์และมีความสุขในที่สุด
- ฝึกฝนตนเองให้เป็นผู้มีคุณธรรม มีความ อดทน ความซื่อสัตย์ และขยันหมั่นเพียร - ฝึกการมองไปข้างหน้า และเตรียมตัวให้พร้อมกับ ความผันผวนของเหตุการณ์ต่างๆ อย่างรู้เท่าทัน ตัดสินใจบนพื้นฐานของเหตุผล - รู้จักอดออม ไม่โลภ ไม่ฟุ้งเฟ้อ - หมั่นแสวงหาความรู้ เพื่อให้เกิดความรู้รอบใน ด้านต่างๆ และฝึกฝนตนเองให้มีความรอบคอบ และระมัดระวัง โดยใช้สติปัญญาในการท างานและ ด าเนินชีวิต - ไม่เบียดเบียนผู้อื่น แบ่งปันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นักเรียนและเยาวชนแม้ จะยังไม่มีอาชีพ แต่ สามารถน าหลักของ เศรษฐกิจพอเพียงไป ประยุกต์ใช้ได้ ในการด ารงชีวิตประจ าวัน เช่น
การปลูกป่า 3 อย่าง ได้ประโยชน์ 4 อย่าง พระองค์มีพระราชด ารัส ดังนี้ “การ ปลูกป่าถ้าจะให้ราษฎรมีประโยชน์ให้เขาได้ให้ใช้วิธีปลูก ไม้ 3 อย่าง แต่มีประโยชน์ 4 อย่าง คือ ไม้ใช้สอย ไม้กินได้ ไม้เศรษฐกิจ โดยปลูกรองรับการชลประทาน ปลูกรับซับน้ า และปลูกอุดช่วงไหล่ตามร่องห้วยโดยรับน้ าฝนอย่าง เดียว ประโยชน์อย่างที่ 4 คือสามารถช่วยอนุรักษ์ดินและน้ า”
แปลความสรุปอย่างเข้าใจง่าย ปลูกไม้ให้พออยู่ พอกิน พอใช้ และระบบนิเวศน์ - พออยู่ หมายถึง ไม้เศรษฐกิจปลูกไว้ท าที่อยู่อาศัย และ จ าหน่าย - พอกิน หมายถึง ปลูกพืชเกษตรเพื่อการกินและสมุนไพร - พอใช้หมายถึง ปลูกไม้ไว้ใช้สอยโดยตรงและพลังงาน เช่น ไม้ฟืน, และไม้ไผ่ เป็นต้น ประโยชน์ต่อระบบนิเวศน์สร้างความสมบูรณ์และ ก่อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่า
การปลูกพืช แบบประยุกต์
1. จุดก าเนิดแนวคิดทฤษฎีใหม่ของหลักการเศรษฐกิจ พอเพียงเกิดขึ้นในจังหวัดใด ก. จังหวัดสระบุรี ข. จังหวัดเชียงใหม่ ค. จังหวัดกาฬสินธุ์ ง. จังหวัดฉะเชิงเทรา เฉลย ก. จังหวัดสระบุรี
2. หลักการใดไม่ใช่เศรษฐกิจพอเพียง ก. การพึ่งตนเองเป็นส าคัญ ข. การสร้างนิสัยนิยมไทย ค. การบริการดินและน้ าอย่างเหมาะสม ง. การลงทุนขนาดใหญ่เพื่อการผลิตสินค้า เฉลย ง. การลงทุนขนาดใหญ่เพื่อการผลิตสินค้า
3. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่หลักการพึ่งพาตนเองตามแนวของ เศรษฐกิจพอเพียง ก. การพึ่งตนเองทางด้านสังคม ข. การพึ่งตนเองทางด้านจิตใจ ค. การพึ่งตนเองทางด้านเศรษฐกิจ ง. การพึ่งตนเองทางด้านการเมือง/การปกครอง เฉลย ง. การพึ่งตนเองทางด้านการเมือง/การปกครอง
4. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของไทย เน้นการพัฒนาในด้านใดเป็ นส าคัญ ก. เน้นการส่งออก ข. เน้นการออมเงิน ค. เน้นโครงสร้างพื้นฐาน ง. เน้นการกระจ่ายรายได้ เฉลย ข. เน้นการออมเงิน
5. ความพอเพียงทางเทคโนโลยีตามหลักการเศรษฐกิจ พอเพียงมีความหมายอย่างไร ก. การใช้เทคโนโลยีแบบผสมผสาน ข. การใช้เทคโนโลยีในการผลิต ค. การใช้เทคโนโลยีขึ้นสูงเพื่อการผลิต ง. การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการผลิต เฉลย ก. การใช้เทคโนโลยีแบบผสมผสาน
6. ค ุ ณธรรมด ้ านใดทม ี ่ ค ี วามส าคญ ั กบ ั หลก ั เศรษฐกจ ิ พอเพย ี งมากทส ี ่ ุ ด ก. เป็นคนมีศิลธรรม ข. มีความละอายต่อบาป ค. เป็นผู้มีความโอบอ้อมอารี ง. มีความซื่อสัตย์ ขยันมั่นเพียร เฉลย ง. มีความซื่อสัตย์ ขยันมั่นเพียร
7. สาเหตุใดจึงต้องมีการประกาศใช้เศรษฐกิจพอเพียง ก. สินค้าเกษตรมีราคาสูง ข. เศรษฐกิจมีการขยายตัวสูงขึ้น ค. ปริมาณสินค้าในการรบริโภค ง. เกิดภาวะขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค เฉลย ก. สินค้าเกษตรมีราคาสูง