โครงงานช้นั วางของจากไม้ไอศกรีม
โดย
นางสาว จิรประภา ขนั ภบิ าล เลขท1่ี ช้นั 6/15
นางสาว อมรพรรณ หงษง์ าม เลขท5ี่ ช้นั 6/15
นางสาว นา้ ทพิ ย์ มะลิวลั ย์ เลขท8ี่ ช้นั 6/15
นางสาว ณฐั รกิ า หงษน์ นั เลขท1ี่ 4 ช้นั 6/15
นางสาว สิริกัญญา โยธาวงษ์ เลขท1ี่ 6 ช้นั 6/15
นางสาว นลินี ยอดเกตุ เลขท1่ี 8 ช้นั 6/15
ครทู ป่ี รษึ า
คุณครู วนดิ า บญุ พเิ ชฐวงศ์
บทท่ี 1
บทนา
ทม่ี าและความสาคัญของโครงงาน
ไมไ้ อศกรีมทีเ่ ราทิ้งไปกลายเป็นขยะท่ีมีมากในโรงเรียนและใน เราสามารถนาไมไ้ อศกรีมเหลา่ น้ีมา
ประดิษฐ์เป็นของใช้ ของประดบั ตกแตง่ โดยใหผ้ เู้ รียนเล็งเห็นคณุ คา่ ของเศษ วสั ดุและเห็นแนวทางจากของ
จริง แลว้ ให้ผเู้ รียนวางแผนออกแบบ จดั เตรียมวสั ดุ – อุปกรณจ์ นถงึ ขน้ั ปฏิบตั ิงานพร้อมท้งั รายงานผลการ
ปฏบิ ตั ิงาน ทีส่ ง่ เสริมให้ผเู้ รียนไดส้ ร้างองค์ ความรู้ไดด้ ว้ ยตนเอง พรอ้ มทง้ั พฒั นาความคิดสรา้ งสรรค์จาก
การปฏิบตั ิกจิ กรรมที่ตนเองและเพ่ือน สนใจและรว่ มงานวางแผนไว้
จุดม่งุ หมายของโครงงาน
-เพือ่ ใหน้ ักเรียนสามารถวางแผนและออกแบบการทาส่ิงประดษิ ฐ์
-เพอื่ ใหน้ ักเรียนสามารถบอกขน้ั ตอนการประดิษฐ์ส่ิงของจากไมไ้ อติม
- เพอ่ื ให้นกั เรียนสามารถนาเศษวสั ดุเหลือใชม้ าดดั แปลงใหเ้ กดิ ประโยชน์ได้
- เพอ่ื ให้นกั เรียนรูจ้ กั การทางานรว่ มกบั ผอู้ น่ื และมคี วามสามคั คใี นหมคู่ ณะ
- เพอ่ื ใหน้ กั เรียนไดเ้ รียนรูต้ ามความสนใจและเกดิ ความภาคภูมใิ จในผลงานของตน
สมมุติฐานของการศกึ ษาค้นคว้า
เศษวสั ดุเหลอื ใชเ้ ชน่ ไมไ้ อศกรีม สามารถนามาดดั แปลง ตกแตง่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์ได้
ขอบเขต
ระยะเวลาในการดาเนินโครงงาน 13-14 กนั ยายน 2563
ประโยชน์และคณุ ค่าของโครงงาน
1.ไดป้ ฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามความถนดั และความสนใจของตนเอง
2.ไดร้ ับการฝึกทกั ษะและความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์
บทที่ 2
เอกสารทเี่ กย่ี วข้อง
ประวัติไม้ไอศกรีม
เลา่ กนั วา่ "ไอติม"มตี น้ กาเนิดมาจากดนิ แดนในตา่ งประเทศ ทง้ั น้ีไดแ้ พรก่ ระจายเขา้ มาในประเทศไทย
เมอ่ื สมยั รัชกาลที่ 5 ในสมยั น้ันสว่ นใหญจ่ ะใชร้ บั ประทานกนั แตภ่ ายในวงั เป็นสว่ นใหญ่ เนื่องจากไอศกรีม
เป็นอาหารหวานที่ทนั สมยั หรืออาจจะเรียกไดว้ า่ เป็นนวตั กรรมให้มากว็ า่ ได้ ใครไดล้ องรบั ประทานไอศกรีม
ในสมยั น้นั กถ็ อื วา่ เป็นคนทกี่ า้ วล้านาสมยั ไปโดยปริยาย
สืบสาวตน้ กาเนิดไอศกรีมยุคโบราณ
จุดเร่ิมตน้ ของไอศกรีมในระดบั สากล นายโทมสั อาร์ควนิ นี่ เลา่ วา่ การรับประทานไอศกรีมนา่ จะ
เริ่มตน้ กนั มาต้งั แตส่ มยั จกั รพรรดเิ นโรห์ แหง่ อนาจกั รโรมนั ทีไ่ ดพ้ ระราชทานเล้ยี งไอศกรีมแกเ่หลา่ ทหาร
หาญท่ีอยใู่ นกองทพั ของพระองค์ แตใ่ นขณะน้ันไอศกรีมเกดิ จากเป็นการนาหิมะมาผสมเขา้ กบั น้าผ้งึ และ
ผลไม้ ตอ่ มาเรียกไอศกรีมประเภทน้ีวา่ เชอร์เบท็ (Sherbet)น่นั เอง แตต่ านานน้ีกห็ าไดเ้ ป็นแคต่ านานเดยี วที่
เลา่ สืบตอ่ กนั มาถงึ ตน้ กาเนิดของไอศกรีมไม ่ หากแตบ่ างกระแสกร็ ะบุวา่ บรรพชนของคนจนี คน้ พบไอศกรีม
เป็นคร้ังแรก เมอื่ ประมาณ 4,000 ปีทีผ่ า่ นมา ซ่งึ ลกั ษณะของไอศกรีมในประเทศจีนทามาจากขา้ วบดผสมกบั
นมสดที่เยน็ จนเป็นนาแข็ง และไดม้ กี ารสอนใหท้ าไอศกรีมให้กบั คนอินเดียและชาวเปอร์เชียอีกด้วย การ
กอ่ กาเนิดไอศกรีมตาม
ตานานประเทศจนี ระบวุ า่ เป็นเรื่องของความบงั เอญิ แทๆ้ ท้งั น้ีเป็นทีท่ ราบกนั ดวี า่ ประเทศจนี ในสมยั น้ันเพง่ิ
จะมกี ารรู้จกั รีดนมจากสัตวเ์ ล้ยี งท่ีอยใู่ นฟาร์ม เมอื่ รีดออกมาจานวนมากกบ็ ริโภคไมห่ มด ประกอบกบั น้านม
เป็นสินคา้ ทม่ี รี าคาแพงมากๆ คนชน้ั สูงเห็นทา่ ไมด่ จี ึงเกดิ แนวคดิ นาน้านมไปหมกซอ่ นไวใ้ นหิมะนัยวา่ เพ่ือ
ตอ้ งการทจ่ี ะถนอมน้านมเอาไวร้ ับประทานไดน้ านๆเกดิ ข้ึนด้วยความบงั เอญิ แทๆ้ จนกระทง่ั น้านมที่
นาไปหมกไวใ้ นหิมะกลายเป็นนมแชแ่ ขง็ ข้ึนมาในบดั ดล จากน้ันกม็ กี ารพฒั นารูปแบบจากนมแชแ่ ข็งท่แี สน
จะสุดธรรมดาใหก้ ลายเป็นน้าผลไมแ้ ชแ่ ข็ง ในสว่ นของราชวงศ์โมกลุ ไดน้ าเอานมตม้ มาผสมกบั ถวั่ พิสตาซิ
โอจนเกดิ เป็นของหวานแชแ่ ขง็ เรียกกนั วา่ Kulfi ซ่งึ เชอื่ กนั วา่ เป็นแบบแผนของไอศกรีมในยุคโบราณ
บทที่ 3
วธิ ีการดาเนินการ
1. วสั ดุและอุปกรณ์
1.1ไมไ้ อศกรีม
1.2 กาว
1.3 กรรไกร
1.4 คดั เตอร์
2. ขน้ั ตอนการทา
1.ออกแบบรูปแบบที่จะทาใหเ้ รียบร้อย
2 นาไมไ้ อติมมามาติดกาวประกอบกนั เป็นรูปรา่ ง
3.รอใหไ้ มไ้ อตมิ ท่ีตดิ ให้แหง้ กอ่ นนาไปตกแตง่
3.ตกแตง่ ให้สวยงาม
บทที่ 4
ผลการศึกษาและอภปิ รายผล
การทาช้นั วางของจากไมไ้ อศกรีมทาได้ง่าย เนื่องจากวสั ดุมรี ูปทรงเป็นส่เี หลี่ยม สามารถ
นามาประดิษฐไ์ ดเ้ ลยโดยไมต่ ้องแตง่ เติม หรือดดั แปลง เป็นเศษวสั ดุเหลือใช้ ท่ีหาไดง้ ่ายทัว่ ไป
และวธิ ีทาไมย่ ากจนเกินไป มคี วามคงทนแขง็ แรง สวยงาม ดึงดดู ความสนใจนา่ มอง เป็นการนา
ขยะไม้ กระดาษ พลาสติก กลบั มาใชใ้ หมใ่ หเ้ กิดประโยชน์ เป็นการลดภาวะโลกรอ้ น ลด
ปริมาณการเผาขยะทาใหล้ ดแกส็ พษิ ในอากาศ และเป็นการเพิ่มมูลคา่ ใหก้ บั วสั ดุเหลือใชอ้ ีกดว้ ย
บทท่ี 5
สรปุ ผลการดาเนนิ งาน
สรุป อภปิ ราย/ข้อเสนอแนะ
สรปุ ผลการศึกษา
จากการศกึ ษาคน้ ควา้ โครงงานเร่ืองไมไ้ อศกรีม ผลการศกึ ษาพบวา่
1. ไมไ้ อตสิ ามารถนามาทาสิ่งประดิษฐ์ตา่ งๆ ไดจ้ ริง
2. ไมไ้ อตสิ ามารถนาใชป้ ระโยชน์ไดห้ ลายอยา่ ง
3. ไอติมทกี่ นิ เหลือแตไ่ มก้ ็สามารถนาไปประดิษฐ์ไดห้ ลายอยา่ ง
จากการทพ่ี วกเราไดศ้ ึกษาไมไ้ อศกรีมสารพดั ประโยชน์ทาใหร้ ู้จกั ใชไ้ มไ้ อติมใหเ้ กดิ ประโยชน์ตอ่ ผู้ท่ี
สนใจ ไดผ้ ลสรุปผลการดาเนินโครางงาน ดงั น้ี
ในการศกึ ษาการทาช้นั วางของจากไมไ้ อศกรีมไดร้ ู้จกั การใชไ้ มไ้ อติมเพม่ิ มากข้ึนและวธิ ีการใชไ้ มไ้ อ
ติมให้เกดิ ประโยชน์ในการใชช้ วี ติ ประจาวนั เชน่ นาไมไ้ อตมิ มาประดิษฐ์เพอ่ื ไวใ้ ชภ้ ายในบา้ นหรือจาหนา่ ย
เพ่ือเป็นรายไดอ้ ีกทางหน่ึง