การเขียนบรรณานุกรมในรูปแบบหนังสือ

หนว่ ยท่ี 3

การเขยี นบรรณานกุ รมในรปู แบบหนงั สอื

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

วิชาสารสนเทศเพอ่ื การเรยี นรู้ ท21202
ครผู สู้ อน

คุณครูกนกกาญจน์ วงษน์ อ้ ย (ครูมนิ้ ท)์
โรงเรยี นมธั ยมวดั หนองแขม

บรรณานกุ รม

บรรณานุกรม คือ รายชื่อหนงั สือที่ผเู้ ขียนใชค้ น้ ควา้
ประกอบการเขียนรายงานเล่มน้นั อาจอยทู่ า้ ยเล่มหรืออยทู่ า้ ย
บทแต่ละบท มีประโยชน์ใหผ้ อู้ ่านไดท้ ราบวา่ หนงั สือเล่มน้นั
ผูแ้ ต่งได้คน้ ควา้ จากแหล่งขอ้ มูลใดบา้ ง เพ่ือให้ผูอ้ ่านได้มี
โอกาสคน้ ควา้ เพมิ่ เติม

ประโยชน์ของบรรณานุกรม

1. ทาใหร้ ายงานน้นั เป็นรายงานที่มีเหตผุ ล มีสาระน่าเช่ือถือ
2. เป็นการเคารพสิทธิและความคิดเห็นของผอู้ ื่นจึงนามาอา้ งไว้
3. เป็นแนวทางสาคญั สาหรับผสู้ นใจตอ้ งการศึกษารายละเอียดเพ่ิมเติม
4. สามารถตรวจสอบขอ้ เทจ็ จริงท่ีนามาอา้ งอิงได้

วธิ เี ขยี นบรรณานกุ รม

1. เขียนไวใ้ นส่วนทา้ ยของรายงาน
2. เอกสารที่นามาใชใ้ นการอา้ งอิงต้งั แต่ 1-5 เล่ม

ใหใ้ ชค้ าวา่ “เอกสารอ้างองิ ”
3. เอกสารที่นามาใชใ้ นการอา้ งอิงต้งั แต่ 5 เล่มข้ึนไป

ใหใ้ ชค้ าวา่ “บรรณานุกรม”
4. การใชว้ สั ดุอ่ืนๆ นอกจากหนงั สือใหใ้ ชค้ าวา่
“วสั ดุอ้างองิ ”

วิธเี ขยี นบรรณานกุ รม

5. การเรียงบรรณานุกรม เรียงตามลาดบั ตวั อกั ษร
ของชื่อผแู้ ต่ง ก-ฮ และ A-Z
6. การเรียงไม่ตอ้ งใส่เลขหนา้ ขอ้
7. เรียงรายช่ือหนงั สือภาษาไทยก่อน แลว้ จึงตามดว้ ย
หนงั สือภาษาต่างประเทศ

วธิ เี ขยี นบรรณานกุ รม

8. การเขียนใหเ้ ขียนชิดดา้ นซา้ ยมือ
ถา้ เขียนบรรทดั เดียวไม่จบใหข้ ้ึนบรรทดั ใหม่
โดยนบั ตวั อกั ษร
9. ยอ่ หนา้ ไป 8 ตวั อกั ษร ถา้ ไม่จบ
ในสองบรรทดั ข้ึนบรรทดั ท่ีสามใหเ้ ขียน
ตรงกบั บรรทดั ท่ีสองจนจบ

วิธีเขยี นบรรณานกุ รม

10.ในการเขียนบรรณานุกรม ใหด้ ูรายละเอียดจาก
หนา้ ปกในของหนงั สือ ถา้ ไม่มีหนา้ ปกในจึงจะใช้
รายละเอียดจากปกนอกหรือส่วนอ่ืนๆ ของหนงั สือ

11. เอกสารอา้ งอิง ภาษาองั กฤษใหใ้ ชค้ าวา่ “Reference”
12. บรรณานุกรมภาษาองั กฤษใหใ้ ชค้ าวา่ “Bibliography”

รูปแบบการลงบรรณานกุ รมหนงั สอื

ช่อื ผแู้ ต่ง.(ปีทพี่ มิ พ์).ชือ่ หนังสอื .พมิ พ์คร้ังที่.สถานท่ีพมิ พ์ :สานักพิมพ.์

ตวั อย่าง

คามิน คมนีย.์ (2561). ลูกนกจากคอน. พมิ พค์ ร้ังท่ี 2. กรุงเทพฯ : สถาพรบุ๊คส์.
วิภาส ศรีทอง. (2555). คนแคระ. กรุงเทพฯ : สมมติ.

การลงรายการชอื่ ผแู้ ตง่

1. สามญั ชนชาวไทย
การลงชื่อผแู้ ต่งท่ีเป็นสามญั ชนชาวไทยไม่ตอ้ งใส่ยศ เช่น ร้อยตารวจโท

พลตรี พลเอก ตาแหน่งทางวิชาการ เช่น ศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์
ใหต้ ดั คานาหนา้ ออกท้งั หมด เช่น

นายชวน หลีกภยั ตอ้ งเขียนวา่ ชวน หลีกภยั .

ศาสตราจารย์ ดร. จิรา แยม้ ศรี ตอ้ งเขียนวา่ จิรา แยม้ ศรี.

การลงรายการชอื่ ผแู้ ตง่

2. ผมู้ ีฐานนั ดรศกั ด์ิ บรรดาศกั ด์ิ
การเขียนตอ้ งใชน้ ามข้ึนตน้ แลว้ ต่อดว้ ยเครื่องหมายจุลภาคคน่ั หนา้

บรรดาศกั ด์ิ เช่น
กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี, สมเดจ็ พระ
กนิษฐาธิราชเจา้ .

คึกฤทธ์ิ ปราโมช, ม.ร.ว.

จินตนา ยศสุนทร, คุณหญิง.

การลงรายการชอื่ ผแู้ ตง่

3. การลงช่ือผแู้ ต่งมากกวา่ 1 คน
3.1 ผแู้ ต่ง 2 คน ใหล้ งช่ือท้งั หมดทุกคน โดยใชเ้ ครื่องหมาย “ , ” ใชค้ าวา่

“และ” เชื่อมคนสุดทา้ ย เช่น
สุชาย ธนาเสถียร, และชยั ยงค์ วงศช์ ยั สุวฒั น์.
3.2 ผแู้ ต่ง 3-6 คน ใหล้ งรายการผแู้ ต่งทุกคน ใหใ้ ชเ้ ครื่องหมายจุลภาคคน่ั

“ , ” ระหวา่ งผแู้ ต่งแต่ละคน ใชค้ าวา่ “ และ” เชื่อมคนสุดทา้ ย เช่น
พรรณพไิ ล เสกสิทธ์ิ, ประเสริฐ คงคะเสน, และพีระศกั ด์ิ จนั ทรประทีป.

การลงรายการชอื่ ผแู้ ตง่

3.3 ผแู้ ต่งมากกวา่ 6 คน ใหใ้ ส่ช่ือผแู้ ต่งคนที่ 1-6 คนแรกเท่าน้นั ใหใ้ ช้
เครื่องหมายจุลภาคคนั่ “ , ” ระหวา่ งผแู้ ต่งแต่ละคน ตามดว้ ย “และคณะ”
เช่น

สุจิตต์ วงษเ์ ทศ, ประไพ จนั ดี, ส่งศรี ดีสกลุ , ประพนั ธ์ เรืองงาม,
สมศรี เรืองศกั ด์ิ, เพญ็ ศรี เลนุกลู , และคณะ.

การลงรายการปที ี่พมิ พ์

1.ใชป้ ี พิมพ์ พ.ศ. ในเครื่องหมายวงเวบ็ ตามดว้ ยเคร่ืองหมายจุลภาค “ . ”
เช่น

ไพศาล จุลพงษ.์ (2550).

2. กรณีไมม่ ีปี พมิ พ์ ใชค้ าวา่ (ม.ป.ป.) คือ ไม่ปรากฏปี พมิ พ์ และตามดว้ ย
เคร่ืองหมายจุลภาค “ . ” เช่น

ช่อทิพย์ กาญจนศิริ. (ม.ป.ป.).

การลงรายการชอื่ หนังสอื

การลงรายการชื่อหนังสือให้ลงต่อจากปี ท่ีพิมพ์ ขีดเส้นใต้หรือพิมพ์
ตวั หนาและตามดว้ ยเคร่ืองหมายจุลภาค “ . ” เช่น

วภิ าส ศรีทอง. (2555). คนแคระ.

การลงรายการพมิ พค์ รัง้ ที่

ใชส้ าหรับการจดั พมิ พค์ ร้ังท่ี 2 เป็นตน้ ไป ใหร้ ะบุไวใ้ นวงเวบ็ การลง
รายการคร้ังท่ีพิมพใ์ หล้ งต่อจากช่ือหนงั สือ เช่น

องั คาร กลั ยณพงศ.์ (2560). ปณธิ านกวี. พิมพค์ ร้ังที่ 2.

ใหร้ ะบุชื่อจงั หวดั ท่ีปรากฏบนหนา้ ปกในหรือหนา้ ลิขสิทธ์ิ และตามดว้ ย
เคร่ืองหมายทวิภาค “ : ” เช่น
องั คาร กลั ยณพงศ.์ (2560). ปณิธานกวี. พิมพค์ ร้ังที่ 2. กรุงเทพฯ:

กรณีท่ีไม่ปรากฏสถานท่ีพิมพ์ ใชค้ าวา่ (ม.ป.ท.) คือ ไม่ปรากฏสถานที่
พมิ พ์ และตามดว้ ยเครื่องหมายทวิภาค “ : ” เช่น
ชาติ กอบจิตติ. (2561). เวลา (พมิ พค์ ร้ังท่ี 4). ม.ป.ท.:

การลงรายการสานักพมิ พ์

ใหล้ งรายการตามท่ีปรากฏจริงในเอกสาร ไม่ตอ้ งพิมพค์ าวา่ ห.จ.ก.
บริษทั จากดั สานกั พมิ พ์ และตามดว้ ยเคร่ืองหมายจุลภาค “ . ” เช่น
องั คาร กลั ยณพงศ.์ (2560). ปณธิ านกวี. พิมพค์ ร้ังท่ี 2. กรุงเทพฯ : กะรัต.

กรณีท่ีไม่ปรากฏสถานท่ีพิมพ์ ใชค้ าวา่ (ม.ป.พ.) คือ ไม่ปรากฏ
สานกั พมิ พ์ และตามดว้ ยเคร่ืองหมายจุลภาค “ . ” เช่น
ภาณี แสงหิรัญ. (2561). เวชบาบัดวกิ ฤต. กรุงเทพฯ : ม.ป.พ.

รูปแบบการลงบรรณานกุ รมจากอนิ เทอร์เนต็

ชือ่ ผแู้ ต่ง.(ปีทพ่ี ิมพ์). “ชื่อเรื่องหรอื ชื่อบทความ.”ค้นเมือ่ วนั เดือน ป,ี จาก URL

ตวั อยา่ ง

ยนื ภู่วรรณ. (2560). “พระราชบญั ญตั ิการพฒั นาเดก็ .” ค้นเมื่อ 28 เมษายน 2562, จาก
www.kruwandee.com

รูปแบบการลงบรรณานกุ รมจากวารสาร

ชื่อผเู้ ขยี นบทความ.(ปีทีพ่ มิ พ,์ เดือน). “ชื่อบทความ.”ชอ่ื วารสาร.ปที ่ี (ฉบบั ท่ี):เลขหนา้ .

ตวั อย่าง

มาโนชญ์ เบญกาญจน.์ (2562, พฤษภาคม). “โรคเบาหวาน.” หมอชาวบา้ น. ปที ่ี 25 (722)
: หนา้ 35-37.

รูปแบบการลงบรรณานกุ รมจากหนงั สอื พิมพ์

ช่อื ผเู้ ขยี นบทความ.(ปีทพี่ มิ พ์, เดอื น วัน).“ช่ือบทความ.”ช่ือหนังสอื พิมพ์. เลขหน้า.

ตวั อย่าง

กุลธดิ า ทว้ มสขุ . (2562, มีนาคม 16). “สิ้นสงบ ทตู วรี ชัย หน.คดีพระวหิ าร.” มติชน. หน้า 2.