4.6 การตลาดสับปะรดของจงั หวัดที่ทาการศกึ ษา
4.6.1 หน้าทก่ี ารตลาด
การศึกษาหน้าท่ีการตลาดของสับปะรดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของจังหวัดที่ทาการศึกษา
เป็นการอธิบายหน้าท่ีหลักท้ังหน้าท่ีการแลกเปลี่ยน หน้าท่ีทางกายภาพ และหน้าที่การอานวยความสะดวก ประกอบด้วย การ
ซอ้ื และ รวบรวม การขาย การเก็บรักษาสนิ ค้า การขนส่ง การแปรรปู รวมท้ังการจัดชนั้ และมาตรฐานสินค้า การเงินใน
ตลาด การแบกภาระความเสย่ี ง และความรอบรู้ข่าวสารทางการตลาด เพื่อใหท้ ราบว่าแต่ละหน้าที่การตลาดมปี ัญหาใน
เรอื่ งใดบา้ ง
1) การรับซอื้ และรวบรวมผลผลิต
ก าร รั บ ซื้ อ แ ล ะ ร ว บ ร ว ม ผ ล ผ ลิ ต สั บ ป ะ ร ด ใน ภ า ค ต ะ วัน อ อ ก เฉี ย งเห นื อ ต อ น บ น ข อ งจั งห วั ด ท่ี
ทาการศึกษามีความแตกตา่ งกนั ออกไป โดยมี 2 ลกั ษณะ ดงั น้ี
(1) การรับซื้อและรวบรวมผลผลิตเพ่ือส่งโรงงานแปรรูป จะมี พ่อค้ารวบรวมท้องถ่ิน
(แผงรับซื้อ) โดยการซ้อื ของพ่อค้ารวบรวมท้องถ่ิน (แผงรับซื้อ) จะซ้ือผลผลิตจากเกษตรกรโดยตรงทั้งหมด ซึ่งจะมีท้ังรับ
ซ้ือหน้าแผงและรับซ้ือท่ีไร่ในกรณีท่ีมีปริมาณผลผลิตมากพอ แต่จะต้องมีการช่ังน้าหนักผลผลิตซึ่งในบางแผงรับซ้ือ
อ าจ จ ะมี เค รื่อ งชั่ ง ณ จุด รับ ซ้ื อ แ ต่ ก ารรับ ซื้ อ ข อ งพ่ อ ค้ ารว บ รว ม จ ะไม่ มี ก ารต รว จ วัด ส ารไน เต รท
แต่จะมีวิธีการคัดขนาดผลสับปะรด สาเหตุท่ีเกษตรกรนาผลผลิตมาขายพ่อค้ารวบรวมมาจากหลายสาเหตุ
เชน่ เกษตรกรไมม่ ีโควต้าขายให้โรงงานแปรรูปไม่มั่นใจในคุณภาพผลผลิตของตนเองจึงหันมาขายใหพ้ ่อคา้ รวบรวมแทน
การขายให้โรงงานแปรรปู เนือ่ งจากมีการสุ่มสบั ปะรดเพื่อคัดขนาด ความสุก สีและอ่ืน ๆ ซึ่งก่อให้เกิดความย่งุ ยากใหแ้ ก่
เกษตรกร หรือขายพ่อค้ารวบรวมไมต่ ้องรอเข้าคิว
สาหรับการรับซ้ือของตัวแทนบริษัท/โรงงาน จะเป็นการรับซื้อจากเกษตรกรโดยตรงส่วนหนึ่งและอีก
ส่วนหนึ่งจะรบั ซื้อจากพ่อค้ารวบรวมท้องถ่ินทวั่ ไป และรบั ซื้อจากเกษตรกรและพ่อค้าท้องถิน่ ที่มีโควตา ซ่ึงการรับซื้อจะมี
การคัดขนาด ความสุก สี รวมท้ังสุ่มตรวจสารไนเตรทตกค้าง ท้ังนี้ ตัวแทนบริษัท/โรงงานจะมีการตั้งจุดรับซ้ือในแหล่งผลิต
โดยจะรับซื้อตามปริมาณท่ีทางโรงงานกาหนดให้ ส่วนราคาจะรบั ซื้อตามกลไกตลาด
ทง้ั นี้ สับปะรดท่ีเข้าสโู่ รงงานจะไม่มีจุกและไม่มีขว้ั ผล โดยจะรบั ซอ้ื 2 ขนาด ได้แก่ ขนาดเลก็ (นา้ หนัก
นอ้ ยกวา่ 0.6 กิโลกรมั ตอ่ ผล) และขนาดใหญ่ (นา้ หนกั มากกว่า 0.6 กิโลกรัมต่อผล)
(2) การรับซ้ือและรวบรวมผลผลิตเพ่ือบริโภคสด จะมีพ่อค้าต่างถ่ิน และพ่อค้ารวบรวมท้องถ่ิน
การรับ ซื้อแบบ น้ีจะมีท้ั งรับซื้อที่ไร่ของเกษตรกรและรับ ซ้ือ ณ แผงรับซื้อ ส่วนใหญ่ ผู้รับซ้ือจะรับ ซื้อ
2 ขนาด ไดแ้ ก่
- ขนาดเล็ก (นา้ หนักน้อยกว่า 0.5 กโิ ลกรัมต่อผล)
- ขนาดใหญ่ (น้าหนกั มากกวา่ 0.5 กโิ ลกรมั ตอ่ ผล)
ยกเวน้ จังหวัดเลยที่มกี ารรับซอื้ 3 ขนาด ได้แก่
- ขนาดเล็ก (น้าหนักน้อยกวา่ 0.5 กิโลกรัมต่อผล)
- ขนาดกลาง (นา้ หนักน้อยกวา่ 0.5 – 1.5 กิโลกรัมต่อผล)
- ขนาดใหญ่ (น้าหนักมากกว่า 1.5 กิโลกรัมต่อผล)
2) การขายผลผลิต
รูป แ บ บ ก า รข า ย ผ ล ผ ลิ ต ข องเก ษ ต รก ร ใน ภ า ค ต ะวั น ออ ก เฉี ย งเห นื อต อ น บ น ข อ งจั งห วัด ท่ี
ทาการศึกษา มี 2 รปู แบบหลัก ได้แก่
(1) การขายสับปะรดแบบอิสระ ซึ่งเกษตรกรมักเป็น ผู้ปลูกอิสระที่สามารถจาหน่าย
ผลผลิตให้กับแหล่งรับซ้ือใดก็ได้ เช่น ตัวแทนบริษัท/โรงงานสับปะรด หรือแผงรับซ้ือของพ่อค้ารวบรวมท้องถิ่นและ
พ่อค้าต่างถ่ิน ซ่ึงระดับราคาท่ีได้รับข้ึนอยู่กับกลไกราคาในช่วงนั้น หากปริมาณอุปทานสับปะรดมากทาให้ระดับราคา
ลดลง
(2) ตั้งแผงขายเองตามตลาดระดับท้องถ่ิน ซึ่งเกษตรกรประมาณร้อยละ 20 จะมีการนาผลผลิต
ของตนเองไปวางขายตามตลาดในระดับท้องถิ่นซึ่งจะมีราคาสูงกว่าที่พ่อคา้ มารับซื้อเองเนอื่ งจากเป็นการขายปลีกให้กับ
ผูบ้ ริโภคโดยตรง
3) วถิ กี ารตลาด (Marketing Channel)
วิถีการตลาดสับปะรดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของ 4 จังหวัดท่ีทาการศึกษาจะแสดง
ให้เห็นถึงการเคล่ือนย้ายผลผลิตของเกษตรกร ไปยังผู้บริโภคโดยผ่านกลไกที่สาคัญ โดยเกษตรกรจะขายให้พ่อค้าผู้
รวบรวมท้องถ่ินมากท่สี ุด รองลงมา ได้แก่ ตัวแทนบริษทั /โรงงาน พ่อค้าต่างถน่ิ และเกษตรกรนาไปขายเองท่ีตลาด ซ่ึง
วถิ กี ารตลาดสามารถอธิบายได้ ดงั น้ี (ภาพที่ 1)
(1) เกษตรกร ขายสับปะรดสดให้แก่พ่อค้ารวบรวมในท้องถ่ินมากท่ีสุด ร้อยละ 53.50 รองลงมา
ได้แก่ ตัวแทนบริษัท/โรงงานแปรรูป ร้อยละ 22.45 พ่อค้าต่างถิ่นร้อยละ 20.05 และนาไปขายปลีกให้ผู้บริโภคผลสด
โดยตรงร้อยละ 4
(2) พ่อค้าต่างถิ่นเม่ือรบั ซือ้ ผลผลิตจากเกษตรกรแล้วจะขายให้พอ่ ค้าปลีกเพื่อบริโภคสดทั้งหมดร้อย
ละ 20.05 ซง่ึ การรับซอ้ื ของพอ่ คา้ ต่างถน่ิ ทง้ั หมดจะเปน็ การซื้อสบั ปะรดเพ่ือบรโิ ภคสดเท่านน้ั
(3) พ่อค้าปลีกจะรับซื้อผลผลิตจากพ่อค้าต่างถ่ินร้อยละ 20.05 และพ่อค้ารวบรวมท้ องถิ่น
ร้อยละ 37.00 โดยจะนาผลผลิตทั้งหมดที่รวบรวมไดข้ ายใหก้ บั ผบู้ รโิ ภคสบั ปะรดผลสดโดยตรง
(3) พ่อค้ารวบรวมท้องถ่ินขายให้ตัวแทนบริษัท/โรงงานร้อยละ 14.85 และขายให้โรงงานแปรรูป
รอ้ ยละ 1.65
(4) ตัวแทนบริษัท/โรงงานแปรรูปเมอ่ื รวบรวมผลผลิตจากเกษตรกรและพ่อคา้ รวบรวมท้องถิ่นแล้ว
จะขายผลผลิตให้กับโรงงานแปรรปู ผลติ ภณั ฑ์ทั้งหมด หรือร้อยละ 38.95 และเมอื่ แปรรปู เปน็ ผลติ ภัณฑ์แล้วจะใช้บริโภค
ในประเทศและสง่ ออกไปตา่ งประเทศ
4%
พ่อค้าต่างถิ่น 20.05% พ่อค้าปลกี ผบู้ ริโภค
20.05 57.05 ผลสด
57.05% 61.50%
1.65%
เกษตรกร พอ่ ค้ารวบรวม 37.00%
100 ท้องถิน่ 53.50
14.85%
ตัวแทนบริษทั / 37.30% โรงงาน ผู้บรโิ ภค
22.45% โรงงาน ในประเทศ
แปรรปู
37.30 38.95 และ
สง่ ออก
ภาพท่ี 4.1 วถิ กี ารตลาดสับปะรดของ 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนท่ีทาการศึกษา
ทมี่ า : จากการสารวจ
4.6.2 การวิเคราะห์การตลาดและตน้ ทนุ การตลาดสับปะรดของจังหวดั ท่ีทาการศกึ ษา
1) การวิเคราะห์การตลาด สาหรับการตลาดของสับปะรดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของ
จังหวัดท่ีทาการศึกษามีผ้เู กยี่ วข้อง ประกอบด้วย เกษตรกรปลูกสับปะรด พ่อค้าตา่ งถ่ิน พอ่ ค้ารวบรวมท้องถิ่น และตัวแทน
บรษิ ัท/โรงงาน
(1) เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด หมายถึง เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของ
จังหวดั ที่ทาการศึกษา ซง่ึ จะทาการผลิตสบั ปะรดตัง้ แตก่ ารจัดหาพนั ธุ์ การจัดหาปัจจยั การผลิต และวัสดุการเกษตร ซง่ึ ก็
คอื ตน้ ทนุ การผลิตของเกษตรกร และขายสบั ปะรดให้แก่ พ่อค้าต่างถิ่น พ่อคา้ รวบรวมทอ้ งถ่ิน และตวั แทนบริษทั /โรงงาน
รวมทั้งขายปลีกให้กับผู้บริโภคเองโดยตรง ท้ังนี้เกษตรกรจะดาเนินการขายผลผลิตด้วยตนเองไม่ว่าจะทาการเก็บเก่ียว
ดว้ ยตนเองหรอื จดั จา้ งจะใช้รถบรรทกุ ขนสง่ ผลผลติ ไปยงั จุดรับซือ้ ในท้องถิ่นก็ตาม
จากการศึกษา พบว่า ลักษณะการตลาดของเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตอนบนของจังหวดั ทท่ี าการศึกษา มีลกั ษณะดงั นี้
เกษตรกรผู้ปลูกสบั ปะรดมีผมู้ ารบั ซ้ือสับปะรดทไ่ี ร่ จานวน 31 ราย คิดเป็นร้อยละ 58.49 รองลงมา
ก็จะเป็นมีผู้มารับซื้อท่ีบ้าน จานวน 16 ราย คิดเป็นร้อยละ 30.19 ขนส่งเอง จานวน 5 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.43 และ
จา้ งรถกระบะ 4 ลอ้ จานวน 1 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.89 ของจานวนเกษตรกรทัง้ หมดท่ีทาการสารวจ
ผู้ออกค่าใช้จ่ายการขนส่งสับปะรดไปจาหน่าย คือ พ่อค้าผู้รับซ้ือ จานวน 42 ราย คิดเป็นร้อยละ
79.25 และ เกษตรกรเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง จานวน 11 ราย คิดเป็นร้อยละ 20.75 ของจานวนเกษตรกรท้ังหมดที่ทา
การสารวจ ซึ่งในแต่ล่ะปีเกษตรกรจะขายสับปะรดให้กับผู้ซอ้ื รายเดียว เนือ่ งจากเปน็ ขาประจา จานวน 49 ราย คดิ เป็น
รอ้ ยละ 92.45 และ ขายให้กับผู้รับซื้อมากกว่า 1 ราย หรอื ขาจร จานวน 4 ราย คิดเป็นร้อยละ 7.55 ของจานวนเกษตรกร
ทั้งหมดท่ที าการสารวจ ซงึ่ จานวนปที ขี่ ายหรอื ติดต่อกันเฉล่ยี 7 ปี
เกษตรกรตัดสินใจขายสับปะรดจะพิจารณาจาก ราคาของสับปะรดในตลาด ณ เวลานั้น มาก
ท่ีสุด จานวน 25 ราย คิดเป็นร้อยละ 47.17 ลาดับรองลงมา ข้อเสนอของพ่อค้า จานวน 21 ราย คิดเป็นร้อยละ 39.62
ความเดือนร้อนทางการเงิน จานวน 4 ราย คิดเป็นร้อยละ 7.55 และ แนวโน้มราคาในอนาคต จานวน 3 ราย คิดเป็น
ร้อยละ 5.66 ของจานวนเกษตรกรท้ังหมดที่ทาการสารวจ ซ่ึงเกษตรกรจะเลือกขายสับปะรด จะพิจารณาจาก
ความคุน้ เคยหรือความสนิท (ขาประจา) จานวน 35 ราย คดิ เป็นร้อยละ 66.04 ลาดับรองลงมา ราคารบั ซ้ือที่สูงกว่าที่
อ่นื จานวน 15 ราย คดิ เป็นร้อยละ 28.30 สามารถตอ่ รองราคาได้ จานวน 2 ราย คิดเป็นร้อยละ 3.77 และต้ังแผงขาย
เอง จานวน 1 ราย คดิ เปน็ ร้อยละ 1.88 ของจานวนเกษตรกรทง้ั หมดทที่ าการสารวจ
สาหรับผู้ท่ีกาหนดราคาขายสับปะรด พบว่า ผู้ซ้ือเป็นคนกาหนดราคาเอง จานวน 49 ราย คิดเป็น
ร้อยละ 92.45 ผู้ขายกาหนดราคาเอง จานวน 3 ราย คิดเป็นร้อยละ 5.66 และ ให้ตามราคาตลาด จานวน 1 ราย คิดเป็น
รอ้ ยละ 1.88 ของจานวนเกษตรกรทัง้ หมดทที่ าการสารวจ และ เกษตรกรจะสามารถทราบราคากอ่ นนาไปขายโดยการ
โทรศัพท์ถามผู้ซ้ือ หรือถามเพ่ือนเกษตรกร จานวน 34 ราย คิดเป็นร้อยละ 64.15 และ เกษตรกรทราบราคาเม่ือตอน
นาไปขาย จานวน 19 ราย คดิ เปน็ ร้อยละ 35.85 ของจานวนเกษตรกรทง้ั หมดทท่ี าการสารวจ ซ่ึงเกษตรกรสามรถขาย
ไดต้ ามราคาทีป่ ระกาศหน้าจุดรับซ้อื จานวน 40 ราย คิดเปน็ รอ้ ยละ 75.47 และไม่มีประกาศราคาหน้าจุดรับซ้ือ จานวน
13 ราย คิดเป็นร้อยละ 24.53 ของจานวนเกษตรกรท้ังหมดที่ทาการสารวจ และเม่อื นาสับปะรดไปขายแล้วได้ราคาต่า
กว่าที่หน้าจดุ ที่รับซือ้ ประกาศเกษตรกรจะต่อรองราคากับผซู้ อื้ จานวน 41 ราย คิดเป็นร้อยละ 77.36 ไม่ดาเนินการใด
ๆ ขายตามราคาทผี่ ู้รับซอ้ื กาหนดให้ จานวน 7 ราย คิดเปน็ ร้อยละ 13.21 นาไปขายที่อืน่ จานวน 4 ราย คดิ เป็นร้อยละ
7.55 และต้ังแผงขายด้วยตนเอง จานวน 1 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.89 ของจานวนเกษตรกรทง้ั หมดท่ที าการสารวจ โดย
ที่ปัจจัยท่ีกาหนดราคาของสับปะรดจะสูงหรือต่าขึ้นอยู่กับขนาดของสับปะรดจานวน 45 รายคิดเป็นร้อยละ 84.91
ความสมบูรณ์ของผล จานวน 5 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.43 และการกาหนดราคาของผู้ซ้ือสับปะรด จานวน 3 ราย คิด
เปน็ ร้อยละ 5.66 ของจานวนเกษตรกรทงั้ หมดท่ที าการสารวจ
(2) พ่อค้ารวบรวมท้องถ่ิน พ่อคา้ ต่างถนิ่ และตัวแทนบริษัท/โรงงาน หมายถงึ พ่อคา้ ท่ตี ้ังแผงรบั ซื้อ
ผลผลิตสับปะรดสดจากเกษตรกรเพ่ือส่งไปยังโรงงานสับปะรดส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหน่ึงเป็นการรับซื้อสับปะรดเพื่อ
บริโภคสด ซึ่งจะขนส่งสับปะรดสดโดยรถบรรทุก 6 ล้อ รถบรรทุก 10 ล้อ และรถพ่วง โดยจะขนส่งไปยังผู้รับซื้อ
ปลายทาง รวมท้ังโรงงานสับปะรดทั้งในและนอกเขตภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือตอนบน
จากการศึกษาพบว่า ผู้ประกอบการสับปะรดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของจังหวัดที่
ทาการศึกษา มีลักษณะการประกอบธุรกิจรบั ซ้อื สบั ปะรด มีประสบการณใ์ นการรับซือ้ สับปะรดเฉล่ยี 8.73 ปี ซ่ึงจะเป็น
การรับซ้อื จากเกษตรกรโดยตรง ซึ่งในปีการผลิต 2558 รับซื้อสับปะรดทั้งหมด 6,794 ตัน ซึ่งเป็นการรบั ซ้ือเองจานวน 5,892
ตัน คิดเป็นร้อยละ 86.72 และเป็นการรบั ซื้อแบบโควตา จานวน 902 ตัน คิดเป็นร้อยละ 13.28 แบ่งเป็น พันธ์ุสายน้าผึ้ง
(พันธุ์พื้นเมืองของจังหวัดเลย) จานวน 6,012 ตัน คิดเป็นร้อยละ 88.49 พันธ์ุหนองคาย (ตาจะใหญ่กว่าพันธ์ุปัตตาเวีย)
จานวน 500 ตนั คดิ เปน็ รอ้ ยละ 7.36 และพันธุ์ปัตตาเวีย จานวน 282 ตนั คิดเป็นรอ้ ยละ 4.15 ของจานวนผลผลติ ท่ีรับ
ซ้ือของจานวนผู้ประกอบการท่ีทาการสารวจ ราคาที่รับซื้อเฉลี่ยอยู่ท่ี 11.13 บาทต่อกิโลกรัม ซ่ึงราคารับซื้อแบ่งตาม
ขนาดของผลสบั ปะรด ได้ดงั นี้
- ขนาดใหญ่ คอื น้าหนักตั้งแต่ 1.5 กิโลกรัมขนึ้ ไป รับซอ้ื ในราคาเฉลยี่ กโิ ลกรมั ละ 12.07 บาท
- ขนาดกลาง น้าหนกั ตัง้ แต่ 0.5 – 1.5 กโิ ลกรมั รบั ซ้อื ในราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 8.05 บาท
- ขนาดเล็กจะเป็นการรับซื้อแบบเหมา น้าหนักต้ังแต่ 0.5 กิโลกรัมลงมารับซ้ือในราคาเฉลี่ย
กิโลกรัมละ 6.27 บาท
ท้ังนี้ ในปี 2558 ผู้ประกอบการมีการรับซ้ือสับปะรดขนาดใหญ่ จานวน 1,653 ตัน
คิดเป็นร้อยละ 24.33 ขนาดกลาง จานวน 4,728 ตัน คิดเป็นร้อยละ 69.59 และขนาดเล็ก 413 ตัน คิดเป็นร้อยละ
6.08
ผ้ปู ระกอบการ มีกลยทุ ธ์ในการรบั ซื้อสับปะรด คอื ใหร้ าคาตามท้องตลาดหรือโรงงานซง่ึ แหล่งท่ี
ใช้อ้างอิงราคา ราคาตลาดในท้องถิ่นและต่างจังหวัด เช่น ราคาตลาดจังหวัดอุดรธานี จังหวัดพิษณุโลก เป็นต้น
รองลงมา ตั้งราคารับซ้ือให้สูงกว่าท่ีอื่น และ ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในรูปปัจจัยการผลิตและทุน คิดเป็นร้อยละ
33.33 และ 20 ตามลาดับ โดยที่การแข่งขันทางด้านราคามีการแข่งขันไม่รุนแรง เน่ืองจากในพื้นที่มีผู้ประกอบการ
เพียง 3-5 ราย คิดเป็นร้อยละ 66.67 แต่ในบางพื้นท่ีมีการแข่งขันทางด้านราคาสูง เน่ืองจากในพื้นท่ีมีผู้ประกอบ
ประมาณ 6-10 รายขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 33.33 ทาให้คู่แข่งทางด้านราคาเป็นปัญหาอุปสรรคมากท่ีสุด คิดเป็นร้อยละ
46.67 รองลงมา ปริมาณสับปะรดในพ้ืนท่ีมีปริมาณน้อย คุณภาพสับปะรดไม่ดีและต้นทุนการรับซ้ือสูง คิดเป็นร้อยละ
13.33 , 6.67 และ 6.66 ตามลาดับ ซึ่งผู้ประกอบการในแต่ละพื้นท่ีก่อนทาการรับซื้อสับปะรดจะมีการตรวจคุณภาพ
เช่น ดูแกน สังเกตตาดา รวมท้ังการแกร็น เป็นต้น คิดเป็นร้อยละ 60 และในบางพ้ืนที่ผู้ประกอบการไม่มีการตรวจ
คณุ ภาพสับปะรด คิดเป็นร้อยละ 40 และผปู้ ระกอบการจะขายสบั ปะรดให้กับบริษัทมากท่ีสุด จานวน 4,370 ตัน คิด
เป็นร้อยละ 64.32 รองลงมา ขายให้กับพอ่ ค้าปลกี ขายผา่ นตัวแทน และ ตั้งแผงขายเอง จานวน 1,540 642 และ 242
ตนั คดิ เป็นร้อยละ 22.67 9.45 และ 3.56 ตามลาดบั
2) การวเิ คราะห์ตน้ ทุนการตลาด
สาหรับต้นทุนของผู้ประกอบการสับปะรดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของจังหวัดที่
ทาการศึกษา ปี 2558 พบว่า ต้นทุนค่าแรงงาน เป็นค่าใช้จ่ายมากท่ีสุด คิดเป็นร้อยละ 54.86 รองลงมา
ค่าน้ามันเชื้อเพลิง คิดเป็นร้อยละ 23.20 ค่าไฟฟ้า คิดเป็นร้อยละ 6.48 และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าน้า
คา่ โทรศัพท์ เปน็ ตน้ คิดเปน็ ร้อยละ 15.46 ของต้นทนุ ผปู้ ระกอบการทงั้ หมดท่ีทาการสารวจ (ตารางที่ 4.12)
ตารางท่ี 4.12 ต้นทุนของผู้ประกอบการสับปะรดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดที่ทาการศึกษา
ปี 2558
หนว่ ย : บาท
รายการ คา่ ใช้จ่ายต่อปี รอ้ ยละ
คา่ คนงาน 990,000 54.86
ค่าน้ามนั เช้ือเพลิง 418,700 23.20
ค่าไฟฟ้า 117,000 6.48
ค่าน้า 85,040 4.74
ค่าโทรศัพท์ 80,500 4.46
ค่าจา้ งรถนาไปขาย 45,000 2.49
คา่ จา้ งรถรับซื้อ 32,850 1.82
ค่านายหนา้ 20,000 1.10
ดอกเบี้ยเงินกู้ 15,400 0.85
รวม 1,804,490 100
ทีม่ า : จากการสารวจ
4.6.3 ส่วนเหลอ่ื มการตลาดสับปะรดของจงั หวัดท่ที าการศึกษา
จากการศกึ ษาสว่ นเหล่อื มการตลาดสบั ปะรดของจงั หวัดท่ีทาการศกึ ษา ในปี 2558 พบว่า
1) ส่วนเหล่ือมการตลาดระหว่างราคาที่เกษตรกรได้รับกับราคาท่ีพ่อค้าท้องถ่ินหรือพ่อค้ารวบรวม
ผลผลิตได้รบั อยู่ทต่ี นั ละ 5,620.00 บาท คิดเปน็ รอ้ ยละ 26.58 ของราคาทีพ่ ่อคา้ ปลีกไดร้ บั
2) สว่ นเหลอื่ มการตลาดระหว่างราคาทีพ่ ่อค้าท้องถนิ่ /พ่อค้ารวบรวมผลผลิตได้รับกบั ราคาท่ีพอ่ ค้าตา่ ง
ถิ่นไดร้ ับอยู่ทีต่ นั ละ 2,490.00 บาท คิดเปน็ รอ้ ยละ 11.78 ของราคาทีพ่ อ่ ค้าปลกี ได้รบั
3) ส่วนเหล่ือมการตลาดระหว่างราคาที่พ่อค้าต่างถิ่นได้รับกับราคาท่ีพ่อค้าปลีกได้รับอยู่ที่
ตนั ละ 3,900.00 บาท คดิ เปน็ ร้อยละ 18.45 ของราคาท่พี ่อคา้ ปลกี ได้รบั
จะเห็นได้ว่า ส่วนเหล่ือมการตลาดระหว่างราคาท่ีเกษตรกรได้รับกับราคาท่ีพ่อค้าท้องถิ่นหรือ
พอ่ คา้ รวบรวมทอ้ งถิ่นไดร้ ับมีมูลคา่ สงู ทีส่ ดุ
จากการศึกษากาไรและต้นทุนต่าง ๆ ของพ่อค้าและเกษตรผู้ผลิตสับปะรดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตอนบนของจังหวัดที่ทาการศึกษา พบว่า ราคาท่ีเกษตรกรได้รับจากการขายสับปะรด ปี 2558 ตันละ 9,130.00 บาท
คิดเป็นร้อยละ 43.19 มีต้นทุนการผลิต ตันละ 2,360.69 บาท คิดเป็นร้อยละ 11.17 กาไรตันละ 6,769.31 บาท คิด
เป็นร้อยละ 32.02 ต้นทุนของพ่อค้าอยู่ที่ตันละ 3,078.63 บาท คิดเป็นร้อยละ 14.56 กาไรของพ่อค้าทุกระดับ ตันละ
8,931.37 บาท คิดเป็นร้อยละ 42.25
จากการศึกษาต้นทุนท้ังหมดและกาไรสุทธิจากการค้าสับปะรดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
ของจงั หวัดที่ทาการศึกษา ปี 2558 แยกรายละเอียดได้ ดงั นี้ (ตารางท่ี 4.13 – 4.15)
(1) เกษตรกร สามารถขายสับปะรดได้ตันละ 9,130.00 บาท หักต้นทุนการผลิตทั้งหมดตัน
ละ 2,360.69 บาท ท าให้ เกษตรกรมีกาไรเฉลี่ยตันละ 6,769.31 บาท คิดเป็นร้อยละ 32.02 ของราคา
ที่พอ่ คา้ ปลีกได้รบั และ คิดเปน็ รอ้ ยละ 286.75 ของต้นทนุ รวมท้ังหมด
(2) พ่อค้ารวบรวมท้องถ่ิน สามารถขายสับปะรดได้ตันละ 14,750.00 บาท หักต้นทุน
การผลิตท้ังหมดตันละ 9,400.73 บาท ทาให้พ่อค้ารวบรวมท้องถ่ินมีกาไรเฉลี่ย ตันละ 5,394.27 บาท คิดเป็นร้อยละ
25.30 ของราคาท่พี ่อคา้ ปลกี ไดร้ บั และ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 56.90 ของตน้ ทุนรวมท้งั หมด
(3) พ่อค้าต่างถ่ิน สามารถขายสับปะรดได้ตันละ 17,240.00 บาท หักต้นทุ น
การผลิตท้ังหมดตันละ 14,925.90 บาท ทาให้พ่อค้าต่างถิ่นมีกาไรเฉลี่ยตันละ 2,314.70 บาท คิดเป็นร้อยละ 10.95
ของราคาที่พ่อคา้ ปลีกไดร้ ับ และคิดเป็นร้อยละ 15.50 ของตน้ ทนุ รวมทั้งหมด
(4) พ่อค้าปลีก สามารถขายสับปะรดได้ตันละ 21,140.00 บาท หักต้นทุนการผลิตท้ังหมด
ตันละ 19,872.00 บาท ทาให้พ่อค้าปลีกมีกาไรเฉล่ียตันละ 1,268.00 บาท คิดเป็นร้อยละ 5.99 ของราคาที่พ่อค้าปลีกได้รับ
และคดิ เป็นร้อยละ 6.38 ของตน้ ทุนรวมท้งั หมด
เม่ือพิจารณากาไรที่พ่อค้าสับปะรดในระดับต่าง ๆ พบว่า พ่อค้ารวบรวมท้องถิ่นได้รับกาไร
มากที่สุด คือ 5,349.27 บาทต่อตัน รองลงมา ได้แก่ พ่อค้าต่างถ่ิน 2,314.10 บาทต่อตัน และพ่อค้าปลีก
มีกาไรน้อยที่สุด 1,268.00 บาทต่อตัน แต่เม่ือเปรียบเทียบกาไรสุทธิกับต้นทุนท้ังหมด พบว่า เกษตรกรมีกาไรสุทธิต่อ
ต้นทุนทั้งหมดสูงท่ีสุด ร้อยละ 286.75 และ พ่อค้าปลีกมีกาไรต่อต้นทุนท้ังหมดต่าท่ีสุด ร้อยละ 6.38 เนื่องจากพ่อค้า
ปลีกมีต้นทุนท้ังหมดสูงอีกทั้งยังแบกภาระในเรื่องของค่าขนส่งค่อนข้างสูง จึงทาให้ได้รับกาสุทธิต่อต้นทุนท้ังหมดน้อย
ทีส่ ดุ
ตารางที่ 4.13 ส่วนเหลื่อมการตลาดของสับปะรดบรโิ ภคสด ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือตอนบน
ของจงั หวดั ท่ีทาการศกึ ษา ปี 2558
รายการ บาท/ตัน รอ้ ยละของราคาที่ผูบ้ รโิ ภค
จา่ ย
ตน้ ทุนการผลิตของเกษตรกร 2,360.69 11.17
ราคาท่เี กษตรกรขายได้ 9,130.00 43.19
กาไรทเ่ี กษตรกรได้รับ 6,769.31 32.02
ราคาทพ่ี อ่ ค้ารวบรวมทอ้ งถ่นิ ได้รบั 14,750.00 69.77
ส่วนเหลื่อมการตลาด 5,620.00 26.58
ต้นทนุ การตลาด 270.73 1.28
11.46 0.05
- ค่าขนส่ง 190.25 0.90
- คา่ แรงงานและค่าใชจ้ า่ ยในการบรหิ ารจดั การ 69.02 0.33
- ค่าใชจ้ ่ายอื่น ๆ 5,349.27 25.30
กาไรทพ่ี ่อคา้ รวบรวมท้องถิ่นได้รับ 17,240.00 81.55
ราคาที่พอ่ ค้าตา่ งถิ่นไดร้ ับ 2,490.00 11.78
สว่ นเหลื่อมการตลาด 175.90 0.83
ตน้ ทุนการตลาด 20.56 0.10
- ค่าขนสง่ 113.89 0.54
- ค่าแรงงานและค่าใช้จา่ ยในการบริหารจดั การ 41.45 0.20
- คา่ ใชจ้ า่ ยอน่ื ๆ 2,314.10 10.95
กาไรทพี่ ่อค้าตา่ งถน่ิ ได้รับ 21,140.00 100.00
ราคาท่พี อ่ ค้าปลกี ได้รบั 3,900.00 18.45
สว่ นเหลือ่ มการตลาด 2,632.00 12.45
ตน้ ทุนการตลาด 250.00 1.18
- ค่าขนสง่ 1,430.00 6.76
- ค่าแรงงานและคา่ ใช้จา่ ยในการบริหารจดั การ 952.00 4.50
- คา่ ใช้จา่ ยอน่ื ๆ 1,268.00 6.00
กาไรทีพ่ ่อค้าปลกี ได้รบั 3,078.63 14.56
ต้นทนุ การตลาด 8,931.37 42.25
กาไรของพ่อคา้ ทกุ ระดบั 12,010.00 56.81
ส่วนเหลอ่ื มการตลาด
ท่มี า : จากการคานวณ
ตารางที่ 4.14 ราคาท่ีได้รับ ส่วนเหลื่อมการตลาด และต้นทุนของเกษตรกรและพ่อค้าแต่ละระดับได้รับของ
สับปะรดบริโภคสดภาคตะวันออกเฉยี งเหนือตอนบนของจังหวัดทที่ าการศกึ ษา ปี 2558
มลู คา่ : บาท/ตนั
รายการ ราคาทไี่ ด้รับ ส่วนเหลอื่ ม ตน้ ทนุ กาไรสทุ ธิ
การตลาด การตลาด
เกษตรกร 9,130.00 - 2,360.69 6,769.31
พอ่ คา้ รวบรวมท้องถนิ่ 14,750.00 5,620.00 270.73 5,349.27
พอ่ คา้ ต่างถิ่น 17,240.00 2,490.00 175.90 2,314.10
พ่อคา้ ปลีก 21,140.00 3,900.00 2,632.00 1,268.00
รวมต้นทุนและกาไรของพ่อค้า 12,010.00 5,439.32 15,700.68
รอ้ ยละของราคาขายปลกี หรือราคาทผี่ ้บู ริโภคจ่าย 56.81 25.73 74.27
ทีม่ า : จากการคานวณ
ตารางท่ี 4.15 ต้นทุนท้ังหมดและกาไรสุทธิที่เกษตรกรและพ่อค้าแต่ละระดับได้รับของสับปะรดบริโภคสด
ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือตอนบนของจังหวดั ที่ทาการศกึ ษา ปี 2558
มูลค่า : บาท/ตนั
รายการ ราคาที่ไดร้ บั ตน้ ทนุ กาไรสทุ ธิ กาไรสทุ ธิตอ่
การตลาด ตน้ ทนุ
ทง้ั หมด
(รอ้ ยละ)
เกษตรกร 9,130.00 2,360.69 6,769.31 286.75
พอ่ คา้ รวบรวมทอ้ งถน่ิ 14,750.00 270.73 5,349.27 56.90
พ่อค้าต่างถนิ่ 17,240.00 175.90 2,314.10 15.50
พอ่ ค้าปลกี 21,140.00 2,632.00 1,268.00 6.38
ท่มี า : จากการคานวณ
บทท่ี 5
สรุป และข้อเสนอแนะ
การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนการผลิตสับปะรดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้ทาการศึกษาในปี 2558
โดยศึกษา 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย จังหวัดบึงกาฬ และจังหวัดนครพนม มีวัตถุประสงค์เพื่อ
ศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนของการผลิต การตลาดสับปะรดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เพ่ือนาไปใช้เป็น
ข้อมูลพ้ืนฐานให้เกษตรกรใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงทุนผลิตสับปะรด และให้หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องใช้เป็นข้อมูล
ประกอบการวางแผนการพัฒนาการบริหารจัดการระบบการผลิตการตลาดสับปะรดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตอนบน เพ่ือให้ผลผลิตสับปะรดมีคุณภาพตรงความตอ้ งการของตลาด ซ่ึงจะเป็นทางเลือกสาหรบั เกษตรกรในการเพิ่ม
รายได้และลดความเสีย่ งด้านราคาจากการปลกู พืชเชงิ เด่ยี ว จากผลการศกึ ษาสามารถสรุปได้ดังนี้
5.1 สรุป
5.1.1 การผลิต จากการศึกษา พบว่า การปลูกสับปะรดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของจังหวัดเลย
หนองคาย บึงกาฬและนครพนมมีการปลูก 2 รูปแบบ ได้แก่ แบบเชิงเด่ียว และสวนผสม ซ่ึงการปลูกท้ัง 2 รูปแบบ
ดังกล่าว มที งั้ ปลูกสบั ปะรดเพ่อื เขา้ โรงงานแปรรูปและเพื่อบรโิ ภคผลสด โดยแยกต้นทุนและผลตอบแทนการผลิตได้ดังนี้
1) ต้นทุนการผลิตสับปะรดเฉลี่ยทุกอายุในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของจังหวัด
ท่ที าการศึกษา ปี 2558 จากการศกึ ษาพบว่า มีต้นทุนเฉล่ียทุกอายุ ไร่ละ 13,314.07 บาท โดยเป็นต้นทุนผันแปรมากท่ีสุด
คดิ เป็นรอ้ ยละ 92.21 ของต้นทนุ รวมท้ังหมด ซึ่งส่วนใหญจ่ ะเป็นคา่ วสั ดแุ ละปัจจัยตา่ ง ๆ คิดเปน็ รอ้ ยละ 50.95 ของต้นทุน
รวมทั้งหมด มีผลผลิตเฉลี่ยรวมทุกอายุ ไร่ละ 5,639.90 กิโลกรัม ต้นทุนรวมท้ังหมดต่อกิโลกรัมละ 2.36 บาท
ผลตอบแทนไร่ละ 51,492.32 บาท ผลตอบแทนสุทธิไร่ละ 38,178.25 บาท อัตราส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุนท้ังหมด
3.87 บาท
2) ต้ น ทุ น แ ล ะผ ลต อ บ แ ท น การผ ลิ ต สั บ ป ะรด ราย จังห วัด ท่ี ท าการศึ กษ า ปี 2558
จากการศึกษา พบว่า จังหวัดบึงกาฬมีต้นทุนรวมต่อไร่มากที่สุด รองลงมาได้แก่ จังหวัดนครพนม หนองคาย และจังหวัด
เลยมีต้นทุนรวมต่อไร่นอ้ ยท่ีสดุ ส่วนจงั หวัดท่ีมีตน้ ทุนต่อกิโลกรัมมากท่ีสุด ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ รองลงมาได้แก่ จังหวัด
นครพนม หนองคาย และจังหวัดเลยมีต้นทุนต่อกิโลกรัมต่าที่สุด สาหรับ จังหวัดที่มีผลตอบแทนสุทธิต่อไร่มากที่สุด
ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ รองลงมาได้แก่ จังหวัดนครพนม เลย และจังหวัดหนองคายมีผลตอบแทนสุทธิต่อไร่ต่าท่ีสุด และ
เมื่อเปรียบเทียบผลตอบแทนสุทธิต่อกิโลกรัม พบว่า จังหวัดบึงกาฬมีผลตอบแทนสุทธิต่อกิโลกรัมมาที่สุด รองลงมา
ไดแ้ ก่ จงั หวดั นครพนม เลย และจังหวัดหนองคาย มีผลตอบแทนต่อกิโลกรมั น้อยทส่ี ุด
3) ต้นทุนและผลตอบแทนการผลิตสับปะรดแยกตามอายุปีของจังหวัดท่ีทาการศึกษา
ปี 2558 พบว่า ต้นทุนรวมต่อไร่ ปี 1 จะมีต้นทุนรวมต่อไร่สูงที่สุด เนื่องจากเป็นการลงทุนในปีแรก ซึ่งประกอบด้วย
ค่าแรงงานในการเตรียมดิน การดูแลรักษา รวมถึงค่าวัสดุ โดยเฉพาะค่าพันธุ์ จนถึงค่าวัสดุสิ้นเปลือง ค่าอุปกรณ์การเกษตร
ทมี่ มี ูลคา่ สงู ทาให้มตี น้ ทุนสูงที่สุดเม่ือเทียบกับการผลิตสับปะรดใน ปี 2 และ ปี 3 ถงึ แมต้ น้ ทุนการผลิตจะสูงสดุ แตก่ ็ให้
ผลผลิตตอ่ ไร่สงู สุดเช่นเดยี วกัน จึงส่งผลให้ผลตอบแทนตอ่ ไร่และผลตอบแทนสุทธิในการผลติ สับปะรด ปี 1 สูงสุด เมื่อ
เปรียบเทียบกับสบั ปะรด ปี 2 และ ปี 3 และเปรียบเทียบ ณ ราคาขายที่เทา่ กัน ซึ่งการผลติ สบั ปะรดเมื่อสับปะรดมีอายุ
ทีม่ ากขึ้นย่ิงทาใหต้ ้นทนุ การผลิตลดลง เน่ืองจากตน้ ทนุ ค่าแรงงานเกย่ี วกบั การไถและการปลูกไมม่ ี รวมถึงค่าวสั ดผุ ันแปร
เช่น ค่าพันธ์ุไม่มี ถงึ แม้ว่าผลผลิตต่อไร่จะไม่สูงเท่าสับปะรดปีแรก แต่จากการท่ีต้นทุนการผลติ ที่ต่ากว่า จึงทาใหอ้ ัตรา
ผลตอบแทนต่อต้นทนุ ท้งั หมดอยู่ในระดบั สงู
5.1.2 ปัจจัยที่มีผลต่อการผลิตสับปะรดในภาคตะวันออเฉียงเหนือตอนบนของจังหวัดท่ีทาการศึกษา ปี
2558 พบว่า ปัจจยั ท่มี ผี ลตอ่ การปลกู สับปะรดของเกษตรกรมากที่สุด ได้แก่ ราคาสับปะรด จงู ใจ รองลงมา ได้แก่ พืน้ ที่
เหมาะสม และการปลูกตามเพ่ือนบ้าน ทั้งนี้ เกษตรกรส่วนใหญ่จะอาศัยความรู้จากประสบการณ์ของตนเองมากท่ีสุด
โดยจะเป็นการปลกู เพอ่ื การจาหน่ายในรปู บรโิ ภคผลสด และสง่ โรงงานแปรรูป
5.1.3 การตลาด
1) การซ้ือ/การขายและรวบรวมผลผลิต การซ้ือและรวบรวมผลผลิตของพ่อค้ารวบรวม จะซื้อจาก
เกษตรกรโดยตรงเพียงอย่างเดียว ทั้งน้ี ในกรณีพ่อค้าท่ีซ้ือส่งโรงงานแปรรูปจะรับซ้ือสับปะรดท่ีไม่มีขั้วผลและไม่มีจุก
รวมท้ังไม่มีการตรวจวัดสารไนเตรท แต่จะมีวธิ ีการคัดขนาดผลสับปะรดแทน ทั้งน้ี เกษตรกรจะนาผลผลิตมาขายพ่อค้า
รวบรวมโดยตรง เน่ืองจากเกษตรกรไม่มีโควตาขายให้โรงงานเพื่อลดความย่งุ ยากและไมต่ ้องรอคิว ในกรณีท่ีพ่อค้ารับซื้อ
เพ่ือบริโภคสดจะซ้ือจากไร่ของเกษตรกรโดยตรง และรับซ้ือท่ีแผงซึ่งจะมีการคัดขนาดผลออกเป็น 2 ขนาด โดยผล
สับปะรดจะมีท้ังข้ัวผลและจุก สาหรับการขายผลผลิตของเกษตรกร มี 2 รูปแบบ ได้แก่ การขายสับปะรดแบบอิสระ
และต้ังแผงขายเองตามตลาดระดับท้องถ่นิ
2) วถิ ีการตลาด เกษตรกรจะขายให้พ่อค้าผู้รวบรวมท้องถ่ินมากท่ีสุด รองลงมา ได้แก่ ตัวแทน
บริษัท/โรงงาน พอ่ ค้าตา่ งถิ่น และเกษตรกรนาไปขายเองท่ีตลาด ทง้ั นี้ พ่อค้าต่างถนิ่ จะขายให้กบั พ่อคา้ ปลีก และพ่อค้า
ปลกี จะขายให้กบั ผบู้ รโิ ภค ส่วนพ่อคา้ ผูร้ วบรวมท้องถ่นิ จะขายให้ตัวแทนบริษัท/โรงงาน บางส่วนขายใหพ้ ่อค้าปลีก และ
บางส่วนขายให้โรงงานแปรรูปโดยตรง สว่ นตัวแทนบริษัท/โรงงานจะขายให้โรงงานแปรรปู ทัง้ หมด
3) ต้นทุนการตลาดและส่วนเหล่ือมการตลาด เม่ือพิจารณาต้นทุนของผู้ประกอบการสับปะรดภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของจังหวัดที่ทาการศึกษา ปี 2558 พบว่า ต้นทุนค่าแรงงาน เป็นค่าใช้จ่ายมากท่ีสุด
รองลงมา ไดแ้ ก่ คา่ นา้ มันเชือ้ เพลิง ค่าไฟฟ้า และค่าใช้จา่ ยอื่น ๆ ส่วนกาไรท่ีพอ่ ค้าสบั ปะรดในระดับตา่ ง ๆ ไดร้ ับ พบว่า
พ่อค้ารวบรวมท้องถิ่นได้รับกาไรมากท่ีสุด รองลงมา ได้แก่ พ่อค้าต่างถ่ิน ส่วนพ่อค้าปลีกมีกาไรน้อยที่สุด แต่เมื่อ
เปรียบเทียบกาไรสุทธิกับต้นทุนทั้งหมด พบว่า เกษตรกรมีกาไรสุทธิต่อต้นทุนท้ังหมดสูงที่สุด และพ่อค้าปลีกมีกาไรต่อ
ตน้ ทนุ ท้ังหมดต่าที่สุด เน่ืองจากพอ่ ค้าปลีกมตี ้นทนุ ทั้งหมดสูงอีกทัง้ ยงั แบกภาระในเร่ืองของค่าขนส่งค่อนขา้ งสูง จงึ ทาให้
ได้รับกาสุทธิต่อต้นทุนทั้งหมดน้อยที่สุด ท้ังนี้ราคาสับปะรดท่ีนามาคิดต้นทุนการผลิตของจังหวัดเลย และจังหวัด
หนองคายเป็นราคาสบั ปะรดโรงงานทีเ่ กษตรกรขายได้ ณ ไร่นา ในขณะท่ีจังหวดั นครพนมและจังหวัดบงึ กาฬ เป็นราคา
สับปะรดบริโภคสดท่ีเกษตรกรขายได้ ณ ไรน่ า จึงทาใหผ้ ลตอบแทนสทุ ธิต่อไร่ และผลตอบแทนสทุ ธิต่อกิโลกรมั น้อยกว่า
2 จังหวดั ดงั กลา่ ว
5.2 ข้อเสนอแนะ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนถึงแม้จะมีศักยภาพเพียงพอในการผลิตสับปะรดและเป็นฐานการผลิตสับปะรด
เพื่อการบริโภคสดภายในประเทศ ซึ่งตลาดมีความต้องการอย่างต่อเน่ือง มีพ่อค้าคนกลางมารับซ้ือถึงไร่ รวมทั้งเป็นพืช
ทางเลือกที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร แต่ยังประสบปัญหาในด้านการผลิต และการตลาด เน่ืองจากการผลิตสับปะรดใน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเกษตรกรใชเ้ วลาปลูกนานถึง 18 เดือนจงึ จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ซง่ึ เกษตรกร
อาศัยน้าฝนเพยี งอยา่ งเดยี ว ไม่มรี ะบบการให้นา้ ในไร่ ทาให้ผลผลิตบางสว่ นไมม่ คี ุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด
ขายได้ในราคาต่า นอกจากน้ีการแปรรูปผลผลิตเพ่ือเพ่ิมมูลค่ายังมีน้อย รวมท้ังเกษตรกรบางส่วนยังขาดแคลนเงินทุน
หมนุ เวียนเพ่ือใชใ้ นการผลติ ดงั น้นั หน่วยงานที่เกย่ี วข้องควรให้ความรู้เกษตรกรในเรือ่ งตา่ ง ๆ ดังนี้
5.2.1 ด้านการผลติ
- ส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกสบั ปะรดโดยใช้นา้ นอ้ ย เช่น ระบบนา้ หยด หรอื สปริงเกอรใ์ หน้ ้าจะทา
ให้ย่นระยะเวลาปลกู ไดม้ าก
5.2.2 ดา้ นการตลาด
1) ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรจาหน่ายผ ลผลิตในลักษณะแบ่งเกรดแทนการขาย
แบบคละซง่ึ ไดร้ าคาตา่
2) ส่งเสริมและสนับสนุนให้ความรู้เรื่องการแปรรูปสินค้า เพ่ือเพ่ิมมูลค่า เช่น สับปะรดกวน ทาน้า
สับปะรด ขนม แยม เป็นต้น เพ่ือเพ่ิมรายได้ให้เกษตรกรและเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้คนในท้องถ่ิน ลดปัญหา
ความยากจน ปญั หาการวา่ งงานในชมุ ชนไดเ้ ป็นอย่างดี
บรรณานกุ รม
โชติ รว้ิ ทอง. (2548). การผลติ และการตลาดสบั ปะรดของสมาชกิ กลุม่ เกษตรกรผู้ปลูกสบั ปะรด อาเภอสนามชยั เขต
จงั หวดั ฉะเชิงเทรา. วทิ ยานพิ นธเ์ กษตรศาสตรมหาบัณฑติ , มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช.
ธนาภรณ์ อธิปญั ญากลุ . (2554). การวิเคราะหป์ ระสทิ ธิภาพทางเศรษฐกจิ ของเกษตรกรผู้ปลูกสบั ปะรดโรงงาน ปีการ
เพาะปลูก 2552/2553 : กรณีศึกษา ตาบลหนองปลาปาก อาเภอศรเี ชยี งใหม่ จงั หวัดหนองคาย. วารสาร
แกน่ เกษตร 39 หนา้ 241-245.
ธัญญ์พิชชา เถระรัชชานนท์. (2550). การศึกษาเศรษฐกิจการผลิตสับปะรดของเกษตรกรในจังหวัดอุทัยธานี
ปกี ารเพาะปลูก 2547. พิษณุโลก: เอกสารวิชาการสานักงานเศรษฐกจิ การเกษตรเขต 2
บนั ลือ คาวชริ พทิ กั ษ.์ (2543). เศรษฐศาสตร์การตลาดการเกษตร. กรุงเทพฯ: สานักพมิ พ์มหาวิทยาลัย รามคาแหง,
ภาควชิ าเศรษฐศาสตร์การเกษตร, คณะเศรษฐศาสตร,์ มหาวทิ ยาลัยรามคาแหง.
พรเทพ อานรรฆกิตตกิ ลุ . (2546). การวิเคราะหก์ ารตอบสนองอุปทานสับปะรดในประเทศไทย. วทิ ยานพิ นธ์
วทิ ยาศาสตรมหาบัณฑติ สาขาเศรษฐศาสตร์เกษตร, มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์.
วรพงษ์ กลางประพันธ์. (2550). ความต้องการเทคโนโลยีการปรับปรุงผลผลิตสับปะรดของเกษตรกรในพ้ืนท่ีตาบล
แม่น้าคู้ อาเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑติ (เกษตรศาสตร์) สาขาส่งเสริม
การเกษตร, มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์.
ว่าที่ร้อยโทอวยชัย หาญเวช. (2555). ศึกษาการผลิตและการตลาดสับปะรดของเกษตรกรในอาเภอเมือง จังหวัด
ชัยภูม.ิ ออนไลน์, เข้าถึงได้จาก: http://www.qmis.stou.ac.th (วนั ทส่ี ืบค้นขอ้ มูล : 16 พฤศจกิ ายน 2558).
สมคิด ทักษิณาวิสุทธ์ิ. (2546). หลักการตลาดสินค้าเกษตร. กรุงเทพฯ: ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรและทรัพยากร,
คณะเศรษฐศาสตร,์ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร.์
สุกฤต คาภา. (2550). การวิเคราะห์การส่งผา่ นราคาและความแปรปรวนของราคาสับปะรด. วิทยานิพนธศ์ ิลปะศาสตรมหา
บณั ฑิต (ธุรกจิ การเกษตร) สาขาธรุ กจิ การเกษตร,มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์.
สานักงานเศรษฐกิจการเกษตร. (2545). การศึกษาแบบจาลองสินค้าเกษตรกรรม กรณีศึกษาแบบจาลองสับปะรด.
กรงุ เทพฯ: สานกั วจิ ัยเศรษฐกิจการเกษตร.
สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตรที่ 3. (2557). ปริมาณการผลิตสบั ปะรด. ออนไลน์, เข้าถงึ ไดจ้ าก:
http://www2.oae.go.th/zone3/ (วันทส่ี ืบค้นขอ้ มลู :16 พฤศจิกายน 2558 ).