1
การวเิ คราะห์อปุ สงคอ์ ปุ ทานและวถิ ีตลาดสินค้าเกษตรทส่ี าคัญ
จงั หวดั หนองคาย
โดย
สานกั วิจัยเศรษฐกิจการเกษตร
ร่วมกบั
สานักงานเศรษฐกิจการเกษตรท่ี 3
สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สงิ หาคม 2561
2
การวิเคราะห์อุปสงคอ์ ปุ ทานและวถิ ีตลาดสนิ ค้าเกษตรทสี่ าคญั
จงั หวัดหนองคาย
คณะผู้จัดทา สังกัด สนิ คา้ ท่รี บั ผดิ ชอบ
1. นางสาวภีสพรรณ เลาสุทแสน สานักวิจัยเศรษฐกจิ การเกษตร โคเน้อื
สานักวจิ ัยเศรษฐกิจการเกษตร ข้าวเหนียวนาปี
2. นายชัชวาลย์ เผา่ เพง็ สานักงานเศรษฐกจิ การเกษตรที่ 3 ยางพารา, พรกิ ขหี้ นู
สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตรที่ 3 ยางพารา, พรกิ ข้ีหนู
3. นางสาววิภาวี ศรีทาสร้อย
4. นายสุรสิทธ์ิ พรมรักษา
สานักงานเศรษฐกจิ การเกษตร
3ก
คานา
สานักงานเศรษฐกจิ การเกษตร ได้ดาเนินการโครงการบรหิ ารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกิจสินค้าเกษตรที่
สาคญั (Zoning) ปี 2560 โดยมกี ารบูรณาการภายในสานักงานเศรษฐกิจการเกษตร
สานักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร ร่วมกับ สานักงานเศรษฐกิจการเกษตรท่ี 3 ได้ทาการศึกษาวิเคราะห์
อุปสงค์อุปทานและวิถีตลาดสินค้าเกษตร จังหวัดหนองคาย ปี 2560 โดยทาการศึกษาสินค้าเกษตร
ที่สาคัญ 4 ชนิด คือ โคเนื้อ ข้าวเหนียวนาปี ยางพารา และพริกขี้หนู เพื่อเป็นข้อมูลในการกาหนดแนว
ทางการบริหารจดั การสนิ ค้าเกษตรในจงั หวดั หนองคายตอ่ ไป
ทั้งนี้ คณะผู้จัดทาขอขอบคุณเกษตรกร ผู้ประกอบการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน
ทใี่ ห้ความร่วมมือในการประสานงานและใหข้ ้อมลู เพื่อใชใ้ นการศกึ ษาครัง้ น้ีใหส้ าเร็จลุลว่ งไปไดด้ ้วยดี
สานักงานเศรษฐกจิ การเกษตร
สิงหาคม 2561
คำ
4
สารบัญ
หน้า
คานา......................................................................................................................................................................................... ก
สารบญั ตาราง.............................................................................................................................................................................ข
สารบญั ภาพ............................................................................................................................................................................... ค
สภาพทว่ั ไป ................................................................................................................................................................................1
บทท1่ี โคเนื้อ .............................................................................................................................................................................6
1.1 สถานการณก์ ารผลิต.....................................................................................................................................................6
1.2 สถานการณ์การตลาด...................................................................................................................................................7
1.3 การวเิ คราะหอ์ ุปสงค์และอุปทานโคเนอื้ ของจังหวัดหนองคาย................................................................................... 11
1.4 ปญั หาและอุปสรรค ................................................................................................................................................... 11
1.5 ขอ้ เสนอแนะ.............................................................................................................................................................. 11
บทท่2ี ข้าวเหนยี วนาปี ............................................................................................................................................................ 12
2.1 ข้อมลู ท่ัวไป................................................................................................................................................................ 12
2.2 สถานการณก์ ารผลิต.................................................................................................................................................. 13
2.3 สถานการณ์การตลาด................................................................................................................................................ 17
2.4 ผลผลิตและความตอ้ งการใชข้ า้ วเปลือกเหนยี วนาปขี องจงั หวัดหนองคาย ................................................................. 19
2.5 ปัญหาและอุปสรรค ................................................................................................................................................... 22
2.6 ข้อเสนอแนะ.............................................................................................................................................................. 22
บทท3่ี ยางพารา...................................................................................................................................................................... 24
3.1 สถานการณ์การผลิต.................................................................................................................................................. 24
3.2 สถานการณก์ ารตลาด................................................................................................................................................ 26
3.3 การวิเคราะห์บญั ชสี มดุลสนิ คา้ ยางพารา.................................................................................................................... 28
3.4 ปัญหาและอปุ สรรค ................................................................................................................................................... 30
3.5 ข้อเสนอแนะ.............................................................................................................................................................. 30
บทท่ี4 พรกิ ข้หี นู...................................................................................................................................................................... 31
4.1 สถานการณ์การผลิต.................................................................................................................................................. 31
4.2 สถานการณ์การตลาด................................................................................................................................................ 33
4.3 การวิเคราะห์บญั ชีสมดลุ สนิ คา้ พริกขีห้ นู.................................................................................................................... 34
4.4 ปัญหาและอุปสรรค ................................................................................................................................................... 36
4.5 ข้อเสนอแนะ.............................................................................................................................................................. 36
ข1
สารบัญตาราง
ตารางที่ หน้า
ตารางท่ี 1 จานวนเกษตรกรและโคเนอื้ แยกเป็นรายอาเภอในจังหวดั หนองคาย 7
ตารางที่ 2 การบริหารจัดการสนิ คา้ โคเนอื้ ในเชิงพืน้ ทจ่ี ังหวัดหนองคายปี 2560 10
ตารางที่ 3 พืน้ ทที่ าการเกษตรและครวั เรอื นเกษตรในจังหวดั หนองคาย 12
ตารางท่ี 4 พนื้ ทเี่ พาะปลูกขา้ วนาปีและนาปรังของจงั หวดั หนองคาย 13
ตารางที่ 5 ขอ้ มลู การผลติ ขา้ วเหนียวนาปขี องจังหวดั หนองคายและภาคตา่ งๆของไทย ปีเพาะปลกู 2559/60 14
ตารางท่ี 6 พน้ื ท่ปี ลูกข้าวของอาเภอในจังหวดั หนองคาย ปีเพาะปลูก 2559/60 15
ตารางท่ี 7 การประมาณผลผลิตและความต้องการใช้ขา้ วเปลือกเหนียวนาปขี องจงั หวัดหนองคาย 21
ตารางท่ี 8 เน้ือทย่ี นื ต้น เน้อื ท่ีกรีด และผลผลิตยางพาราของจงั หวดั หนองคาย ปี 2556 - 2560 24
ตารางที่ 9 เน้ือทย่ี นื ต้น เนือ้ ท่ีกรดี และผลผลติ ยางพาราของจงั หวดั หนองคาย แยกรายอาเภอ ปี 2559 25
ตารางที่ 10 ประมาณการร้อยละผลผลติ ยางพาราออกสู่ตลาดรายเดือนของจงั หวดั หนองคายปี 2559 25
ตารางที่ 11 การบรหิ ารจดั การสนิ คา้ ยางพาราระดับพืน้ ที่รายเดือนของจงั หวดั หนองคาย 29
ตารางท่ี 12 เนื้อที่ปลกู เนื้อท่ีเกบ็ เกีย่ ว และผลผลติ พริกข้ีหนขู องจงั หวดั หนองคาย ปี 2556 - 2560 31
ตารางที่ 13 เนื้อทป่ี ลูก เน้ือทเ่ี กบ็ เกย่ี ว และผลผลิตพริกขี้หนูของจังหวดั หนองคาย แยกรายอาเภอ ปี 2560 32
ตารางท่ี 14 ประมาณการร้อยละผลผลติ พรกิ ขี้หนูออกสตู่ ลาดรายเดือนของจงั หวดั หนองคายปี 2560 32
ตารางที่ 15 การบรหิ ารจดั การสินค้าพริกขีห้ นรู ะดบั พื้นท่รี ายเดอื นของจงั หวัดหนองคาย 35
สารบญั ภาพ 1ค
ภาพท่ี หน้า
แผนภาพท่ี 1 วิถีตลาดโคเนื้อของจังหวัดหนองคาย ปี 2560 9
แผนภาพที่ 2 พืน้ ท่ีเพาะปลกู ขา้ วนาปี 16
แผนภาพท่ี 3 ราคาขา้ วเปลอื กนาปี 16
แผนภาพที่ 4 วถิ ีตลาดขา้ วเปลอื กเหนียวนาปี 18
แผนภาพที่ 5 วถิ ีการตลาดสนิ ค้ายางพาราจังหวัดหนองคาย 27
แผนภาพที่ 6 วิถกี ารตลาดสนิ ค้าพริกขีห้ นูจังหวดั หนองคาย 33
1
จังหวดั หนองคาย
สภาพท่ัวไป
หนองคาย เป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนต้ังอยู่ในแอ่งสกลนครและอยู่ใน
กลมุ่ จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ตอนบน เป็นจงั หวัดชายแดนและเป็นจังหวดั ที่เงยี บสงบ นา่ อยู่และน่าท่องเทยี่ ว
มีพ้ืนท่ีส่วนใหญ่ติดฝ่ังแม่น้าโขง ตรงข้ามกับประเทศลาว มีพื้นท่ีแคบแต่ยาว มีชื่อเสียงด้านการท่องเท่ียว
โดยเฉพาะการชมบง้ั ไฟพญานาคในวันออกพรรษา
ท่ตี ั้งและอาณาเขต
จงั หวัดหนองคาย มเี น้ือที่ประมาณ 3,026.534 ตารางกโิ ลเมตร หรือประมาณ 1,891,583 ไร่ (นบั เป็น
จงั หวัดทมี่ ีขนาดเล็กท่ีสดุ ของภาคอีสาน โดยพ้นื ท่ีท้ังหมดก่อนที่จังหวัดบึงกาฬจะแยกตวั ไป มปี ระมาณ 7,332
ตารางกโิ ลเมตร ลกั ษณะเป็นรปู ยาวเรยี งทอดไปตามลาน้าโขง ซง่ึ เป็นเสน้ กนั้ เขตแดนกับประเทศลาว มีความ
ยาวทงั้ ส้ิน 195 กโิ ลเมตร ความกวา้ งของพื้นทท่ี ี่ทอดขนานไปตาม ลาน้าโขงโดยเฉลยี่ 20 - 25 กโิ ลเมตร
2
ห่างจากกรุงเทพมหานครตามทางหลวงแผ่นดินสาย 2 (มิตรภาพ) ประมาณ 615 กโิ ลเมตร และมอี าณาเขต
ติดตอ่ กับจงั หวดั ใกล้เคียงดังนี้
ทิศเหนอื ตดิ ต่อกับกาแพงนครเวยี งจันทน์ เขตเมืองหลวงของประเทศลาว โดยมีแมน่ ้าโขงเป็นแนว
พรมแดน
ทศิ ตะวนั ออก ตดิ ตอ่ กบั อาเภอปากคาด และอาเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ
ทศิ ใต้ ติดต่อกับอาเภอบา้ นม่วง จังหวัดสกลนคร อาเภอเพ็ญ อาเภอสรา้ งคอม อาเภอบ้านดุง อาเภอ
นายงู และอาเภอบ้านผือ จงั หวดั อุดรธานี
ทิศตะวนั ตก ติดต่อกับอาเภอปากชม จังหวดั เลย
ภมู ปิ ระเทศและภมู ิอากาศ
สภาพภูมปิ ระเทศของจงั หวัดหนองคายมีลักษณะทอดยาวตามลาน้าโขง จงั หวัดหนองคายเปน็ จังหวัด
ชายแดนทางภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ตอนบน มีอาณาเขตติดกับกรุงเวียงจนั ทน์ ซง่ึ เป็นเมืองหลวงของ
ประเทศลาว โดยมีแมน่ ้าโขงเป็นเส้นกั้นเขตแดน จังหวัดหนองคายเปน็ จังหวัดชายแดนทีม่ ีเอกลกั ษณพ์ ิเศษโดย
มีพ้นื ท่ที อดขนานยาวไปตามลานา้ โขง ความกว้างของพืน้ ท่ที อดขนานไปตามลาน้าโขงโดยเฉลี่ยประมาณ 20 – 25
กิโลเมตร ชว่ งท่กี ว้างท่สี ดุ อยู่ท่ีอาเภอเฝ้าไร่ และช่วงท่ีแคบทสี่ ดุ อยูท่ ี่อาเภอทา่ บ่อ จังหวดั หนองคายมีอาเภอท่ี
อยตู่ ิดกบั ลานา้ โขง 6 อาเภอ คอื อาเภอสังคม อาเภอท่าบอ่ อาเภอศรีเชียงใหม่ อาเภอเมือง อาเภอโพนพิสัย
และอาเภอรัตนวาปี และมีอาณาเขตติดตอ่ กบั ประเทศลาว คอื แขวงเวียงจันทน์ นครหลวงเวียงจันทน์ และ
แขวงบอลคิ าไซ
จังหวัดหนองคายมีจดุ ผ่านแดนไป ประเทศลาว รวม 6 จดุ เปน็ จดุ ผา่ นแดนถาวร 2 จดุ และจุด
ผอ่ นปรน 4 จดุ จุดผ่านแดนที่สาคญั และเปน็ สากล คือ ดา่ นสะพานมิตรภาพไทย - ลาว ซงึ่ รฐั บาลออสเตรเลีย-
ไทย-ประเทศลาว ร่วมมอื กนั สรา้ งและเปน็ ประตูไปสู่อนิ โดจีน
ลกั ษณะภูมปิ ระเทศโดยทว่ั ไปเป็นที่ราบสูง แยกไดเ้ ปน็ 4 บรเิ วณ คือ
พืน้ ทคี่ ่อนขา้ งราบ ได้แก่ เขตอาเภอเมอื งหนองคาย อาเภอท่าบ่อ และอาเภอศรีเชียงใหม่ ซง่ึ ใช้
ประโยชน์ในการทานา และปลูกพืชบรเิ วณรมิ นา้ โขง
พนื้ ทีเ่ ป็นคลนื่ ลอนลาด กระจายอยู่ทุกอาเภอเป็นหย่อมๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทที่ านาและปลูกพืชไร่ พชื สวน
และปา่ ธรรมชาติ
พื้นที่เปน็ คลน่ื ลอนชนั และเป็นเขาเปน็ ปา่ ธรรมชาติ เช่น ปา่ ไม้เตง็ รัง เบญจพรรณ พบในเขตอาเภอ
สังคม
3
สภาพพนื้ ท่เี ปน็ ภเู ขาที่มีความสงู ชนั จากระดบั น้าทะเลต้งั แต่ 200 เมตร เป็นบริเวณเทอื กเขาตา่ งๆ
ทางทศิ ตะวันตกในเขตอาเภอสังคม
เนือ่ งจากแมน่ ้าโขงไหลผ่านอาเภอต่างๆ เกือบทกุ อาเภอ จงึ ก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์ในการเกษตรกรรม
ราษฎรไดอ้ าศยั แม่น้าโขงเป็นแหลง่ นา้ ท่ใี ชเ้ พ่ือการเกษตรและอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะราษฎรที่อาศยั อยู่รมิ
แมน่ า้ โขง จะไดร้ ับประโยชนม์ ากกว่าราษฎรทีอ่ ยูล่ ึกเขา้ ไปจากแมน่ า้ โขง นอกจากน้ีสานักงานพลงั งานแห่งชาติ
ไดจ้ ดั ตัง้ สถานีสบู น้าดว้ ยไฟฟ้า ในพ้ืนท่ี 9 อาเภอ รวมทง้ั สิ้น 82 สถานี เพื่อทาการสูบนา้ จากแมน่ ้าโขงและ
แหล่งน้าอน่ื ๆ ขนึ้ มาใชเ้ พ่ือการเกษตรกรรม
ลกั ษณะอากาศจัดอยูใ่ นจาพวกฝนแถบร้อนและแห้งแล้ง (ธ.ค. - ม.ค.) ในฤดมู รสมุ ตะวันออกเฉยี งเหนือ
อุณหภูมิจะเริ่มลดในเดือนพฤศจิกายนและต่าสุดในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม ในช่วงเดือนมีนาคมถึง
พฤษภาคม เปน็ ชว่ งเปลี่ยนฤดู อุณหภมู จิ ะสงู ข้นึ อย่างรวดเรว็ ในเดอื นมนี าคม และร้อนจดั ในเดือนเมษายน ใน
ฤดูมรสุมตะวันออกเฉยี งใต้ (มิ.ย.- ก.ค.) อุณหภูมโิ ดยทวั่ ไปจะลดลง และในเดือนตุลาคมอณุ หภมู ิจะเร่ิมลดลง
จนอากาศหนาวเยน็ อุณหภูมิต่าสุดรายปีอยู่ที่ 9.50 องศาเซลเซยี ส อุณหภูมิสงู สุดรายปอี ยูท่ ่ี 40.60 องศา
เซลเซียสเฉลีย่ รายปีอยทู่ ่ี 26.46 องศาเซลเซยี ส ปริมาณน้าฝนท้ังปอี ยู่ท่ี 1,843.6 มิลลเิ มตรต่อปี
ข้อมลู ภูมอิ ากาศของจังหวัดหนองคาย
เดือน ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ท้งั ปี
อณุ หภูมิสงู สุดเฉลยี่ °C (°F) 29.3 31.6 34.3 35.7 33.7 32.5 32.0 31.4 31.6 31.3 30.1 28.6 31.84
(84.7) (88.9) (93.7) (96.3) (92.7) (90.5) (89.6) (88.5) (88.9) (88.3) (86.2) (83.5) (89.32)
อุณหภูมติ า่ สุดเฉลย่ี °C (°F) 16.2 18.6 21.4 23.8 24.3 24.7 24.5 24.3 24.0 22.7 19.4 15.9 21.65
(61.2) (65.5) (70.5) (74.8) (75.7) (76.5) (76.1) (75.7) (75.2) (72.9) (66.9) (60.6) (70.97)
หยาดนา้ ฟ้า มม (นิ้ว) 7.0 10.5 30.7 89.5 240.3 278.5 249.3 336.7 275.6 76.6 12.2 3.3 1,610.2
(0.276) (0.413) (1.209) (3.524) (9.461) (10.965) (9.815) (13.256) (10.85) (3.016) (0.48) (0.13) (63.394)
วันท่มี หี ยาดนา้ ฟ้าโดยเฉลี่ย 2 3 5 8 17 19 20 22 18 9 2 1 126
แหล่งทม่ี า: Thai Meteorological Department
4
ประชากรในจังหวดั
หมายถึงจานวนประชากรได้เพิ่มขึน้ เมอื่ เทยี บกบั ปีกอ่ น
หมายถึงจานวนประชากรได้ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน
อันดบั พ.ศ. พ.ศ. พ.ศ. พ.ศ. พ.ศ. พ.ศ. พ.ศ.
(ปี อาเภอ 2557 2556 2555 2554 2553[] 2552 2551
ล่าสุด)
1 เมอื ง 148,485 147,386 146,248 145,507 145,472 144,565 145,153
หนองคาย
2 โพนพิสัย 98,084 97,835 97,585 97,184 97,321 96,622 96,580
3 ท่าบอ่ 82,948 82,775 82,723 82,634 82,859 82,813 83,954
4 เฝา้ ไร่ 51,952 51,659 51,425 50,914 50,708 50,568 50,523
5 รัตนวาปี 38,599 38,352 38,199 37,897 37,602 37,345 37,301
6 ศรีเชียงใหม่ 30,687 30,691 30,579 30,599 30,749 30,735 31,031
7 สระใคร 26,426 26,284 26,067 25,926 25,838 25,675 25,559
8 สังคม 24,776 24,602 24,379 24,090 23,840 23,664 23,552
9 โพธติ์ าก 15,303 15,359 15,234 15,119 15,006 14,939 14,892
— รวม 517,260 514,943 512,439 509,870 509,395 506,926 508,545
5
เศรษฐกจิ
การเกษตร
ประชากรโดยสว่ นมากจะประกอบอาชพี ทางการเกษตร เช่น ทานา ทาสวน ทาไร่ ใช้ประโยชนท์ ่ีดิน
ส่วนใหญ่เพอ่ื การเกษตร คดิ เป็นร้อยละ 57.29 ของพ้ืนท่ีจังหวัด หรือ 2,625,441 ไร่ ซง่ึ พืชเศรษฐกจิ ท่สี าคญั
ได้แก่ ขา้ ว (นาปี) และยางพารา
นอกจากนั้น ยงั มกี ารเลี้ยงปศุสัตว์และการทาประมง โดยปศุสตั ว์ท่ีมมี ลู คา่ ผลผลิตมากทสี่ ุด คอื ไก่ไข่
สกุ ร โคพนื้ เมือง เปด็ ไข่ ไกเ่ น้ือ กระบือ เป็ดเน้ือ และโคพันธุ์ สว่ นด้านการประมงน้ัน มีทั้งการเลยี้ งสตั ว์นา้ ใน
บอ่ ดนิ บ่อซีเมนต์ กระชงั การจบั สตั ว์นา้ ในแหลง่ น้าธรรมชาติ การจับสัตว์น้าในแม่นา้ โขง และการจับสตั วน์ ้า
ในแหล่งน้าอ่นื ๆ
อตุ สาหกรรม
ทางดา้ นอตุ สาหกรรม อตุ สาหกรรมท่สี าคัญของจงั หวดั หนองคาย คือ โรงสขี า้ ว อุตสาหกรรมยางพารา
และอตุ สาหกรรมแปรูปไม้ นอกจากน้ียังมีอุตสาหกรรมอ่นื ๆ คอื อัดเศษโลหะ อดั เศษกระดาษและบดยอ่ ย
พลาสตกิ ซ่อมรถยนต์ ทานา้ แขง็ ก้อนเลก็ ห้องเย็นทาวงกบประตหู น้าต่าง และเครื่องเรือนเครอ่ื งใชจ้ ากไม้ และ
ในอนาคต จงั หวัดหนองคายยังได้ถูกให้พัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษในระยะท่ี 2 ซึง่ จะทาใหภ้ าคอุตสาหกรรม
นั้นเจรญิ เติบโตมากขึน้
6
ผลการศึกษา
อปุ สงค-์ อุปทาน (Demand & Supply)
สินค้าเกษตรสาคญั ของจังหวัดหนองคาย
บทท1่ี โคเน้ือ
1.1 สถานการณก์ ารผลติ
โคเน้ือ เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สาคัญของไทย ส่วนใหญ่เป็นการเล้ียงโดยเกษตรกรรายย่อยใน
ครัวเรือน โดยพ้ืนที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือถือว่าเป็นแหล่งสาคัญในการเลี้ยงโคเน้ือของไทย จังหวัด
หนองคายมีแหลง่ เล้ียงโคเนื้อที่สาคญั อยู่ในอาเภอเมืองหนองคาย โพนพิสัย ท่าบ่อ และรัตนวาปี โดยสว่ นใหญ่
จะเลี้ยงเป็นพันธ์ุลูกผสมพ้ืนเมือง นอกจากน้ี ในช่วง ปี 2559-2560 ได้มีการส่งเสริมให้เลี้ยงวัวแบบวากิวเพื่อ
เปน็ ทางเลอื กใหเ้ กษตรกรเพ่ิมขน้ึ โดยใน ปี 2562-2563 จะมผี ลผลิตววั วากิวประมาณ 100-200 ตวั
ปี 2558- 2560 จังหวดั หนองคายมแี นวโน้มการเล้ียงโคเน้อื ลดลงเฉลี่ยร้อยละ 12.19 ต่อปี โดยปี
2558 จังหวัดหนองคายเคยมีโคเนื้อจานวน 31,322 ตัว และลดลงเหลือ 22,740 ตัว ในปี 2560 ขณะที่
ครัวเรือนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเน้ือ มีแนวโน้มลดลงเฉลี่ยร้อยละ 2.07 ต่อปี จาก 5,361 ครัวเรือน ในปี 2558
เหลือ 4,188 ครัวเรือน ในปี 2560 โดยอาเภอท่ีมีการเล้ียงวัวมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อาเภอเมือง
หนองคาย จานวน 8,664 ตัว อาเภอโพนพิสัย จานวน 4,226 ตัว อาเภอท่าบ่อ จานวน 3,667 ตัว อาเภอ
รัตนวาปี จานวน 2,066 ตัว และศรีเชียงใหม่ จานวน 1,514 ตัว ขณะที่ครัวเรือนผู้เล้ียงโคเนื้อ 5 อันดับแรก
จะอยู่ในอาเภอเมืองหนองคาย จานวน 1,406 ครัวเรือน อาเภอโพนพิสยั จานวน 942 ครัวเรือน อาเภอทา่ บ่อ
จานวน 522 ครัวเรอื น อาเภอรัตนวาปี จานวน 518 ครวั เรือน และอาเภอศรีเชยี งใหม่ จานวน 300 ครัวเรือน
(ตารางท่ี 1)
สาหรับปี 2560 จังหวัดหนองคาย มีจานวนโคเน้ือรวมทั้งสิ้น 22,740 ตัว ลดลงจากปี 2558 คิด
เป็นร้อยละ 27.39
7
ตารางท่ี 1 จานวนเกษตรกรและโคเนอ้ื แยกเปน็ รายอาเภอในจังหวดั หนองคาย
2558 2559 2560 GR
โคเนอื้ เกษตรกร โคเนอื้ เกษตรกร
อำเภอ (ตัว) (รำย) (ตวั ) (รำย) โคเนอื้ เกษตรกร โคเนอื้ เกษตรกร
เมืองหนองคาย 11,252 1,735 9,147 1,416 (ตัว) (รำย) (ตวั ) (รำย)
ทา่ บ่อ 4,150 671 3,693 498
โพนพสิ ยั 8,610 1,475 6,244 931 8,664 1,406 -12.25 -9.98
ศรี เชี ยงใหม่ 1,277 263 1,379 297
สงั คม 2,431 407 3,667 522 -6.00 -11.80
สระใคร 1,226 255 242 20
เฝ้ าไร่ 1,146 203 1,506 275 4,226 942 -29.94 -20.08
รัตนวาปี
โพธ์ ิตาก 915 303 861 148 1,514 300 8.88 6.80
315 49 877 502
รวม 31,322 5,361 204 32 103 21 -79.42 -77.29
24,153 4,119
1,331 286 4.19 5.90
948 158 -9.05 -11.78
2,066 518 50.26 30.75
221 35 -16.24 -15.48
22,740 4,188 -12.19 -2.07
ท่มี า: สานกั งานปศุสัตว์จังหวัดหนองคาย
1.2 สถานการณ์การตลาด
1.2.1 โครงสร้างตลาด
โครงสร้างตลาดโคเน้ือ ประกอบด้วยผู้มีส่วนเก่ียวข้องหลายส่วน ได้แก่ เกษตรกรผู้เลี้ยง
โคเน้ือ พ่อค้ารวบรวมโคท้องที่/ท้องถ่ิน ตลาดนัดโคกระบือ โรงฆ่าสัตว์ พ่อค้าขายส่ง/ขายปลีกโคเนื้อ โดยมี
รายละเอยี ดดงั น้ี
1) เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเน้ือ ส่วนใหญ่เป็นผู้เลี้ยงรายย่อย โดยเล้ียงเฉลี่ยรายละ 5- 10 ตัว
โดยส่วนใหญ่เป็นการเล้ียงแบบโคฝูง คือปล่อยให้ไปกินหญ้าตามทุ่งหญ้า ทุ่งนา (ในพื้นที่ของเกษตรกรผู้เล้ียง)
หรอื พื้นทส่ี าธารณะท่ไี ด้รับอนุญาต เนื่องจากโคอาจทาใหแ้ ปลงเกษตรอื่นเสียหายได้ แต่ในฤดูฝนอาจจะต้องตัด
หญ้ามาให้โคกินเนื่องจากไม่เหมาะสมในการปล่อยโคออกไปกินเอง ส่วนอีกประเภท คือ การเลี้ยงโคคุณภาพ
หรือโคขนุ โดยจะเล้ียงแบบขังคอก มีอาหารหลักคืออาหารข้น และตัดหญ้าให้โคกิน ซ่ึงเกษตรกรจะมีการปลูก
หญา้ เนเปยี รห์ รอื รซู ี่เพอื่ เสรมิ ให้โคมอี าหารท่เี พียงพอ
2) พ่อค้ารวบรวมโคท้องท่ี/ท้องถิ่น ทาหน้าที่เป็นนายหน้าในการรับซ้ือโคเน้ือจาก
เกษตรกรเพื่อนาไปส่งต่อให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุน หรือนาไปขายต่อยังตลาดนัดโคกระบือ หรือพ่อค้าท่ีซ้ือ
โคเน้ือเพื่อเข้าโรงฆ่า โดยจะต้องตระเวนรับซื้อโคเน้ือตามหมู่บ้านในอาเภอต่างๆ และได้รับค่านายหน้า เฉล่ียตัวละ
100-300 บาท หรือแลว้ แตต่ ามทต่ี กลงกับลกู คา้
8
3) ตลาดนัดโคกระบือ เป็นสถานที่ท่ีแลกเปลี่ยนซ้ือขายกันระหว่างเกษตรกร พ่อค้า โดยมี
ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายนาโคเนื้อมาขายและซ้ือกลับไปเลี้ยงต่อ หรือเข้าโรงฆ่า ตลาดนัดโคกระบือในจังหวัด
หนองคายมีจานวนทงั้ หมด 5 แหง่ คือ
3.1) ตลาดนัดโคกระบือสมบัติเจริญ อาเภอเฝ้าไร่ ทุกวันศุกร์ สถานท่ีต้ัง 101 หมู่ 4
บ้านโนนสมบูรณ์ ตาบลหนองหลวง อาเภอเฝ้าไร่ จังหวัดหนองคาย จานวนสัตว์ที่เข้าตลาดโดยเฉลี่ย โคเนื้อ 30
ตวั และกระบือ 10 ตวั
3.2) ตลาดนัดโคกระบือบ้านเด่ือ อาเภอท่าบ่อ ทุกวันพฤหัสบดี สถานที่ตั้ง 68 หมู่ 6
บ้านกดุ บง ตาบลบ้านเดอื่ อาเภอท่าบอ่ จงั หวัดหนองคาย จานวนสัตว์ท่เี ข้าตลาดโดยเฉล่ีย โคเน้ือ 20 ตวั และ
กระบอื 3-5 ตวั
3.3) ตลาดนัดโคกระบือบ้านดงบัว อาเภอโพนพิสัย ทุกวนั อังคารและวันเสาร์ สถานท่ีต้ัง
หมู่ 6 บา้ นดงบัว ตาบลกุดบง อาเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย จานวนสัตว์ท่ีเข้าตลาดโดยเฉล่ีย โคเน้ือ 50-100
ตวั และกระบอื 10-20 ตวั
3.4) ตลาดนัดโคกระบือบา้ นเสียว อาเภอศรีเชียงใหม่ ทุกวันเสาร์ สถานทต่ี ้งั 83 หมู่ 7
บ้านเสียว ตาบลหนองปลาปาก อาเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย จานวนสัตว์ท่ีเข้าตลาดโดยเฉล่ีย โคเนื้อ
10 ตวั และกระบอื 3-5 ตวั
3.5) ตลาดนัดนาฮี-ดอนกอก อาเภอเมืองหนองคาย ทุกวันจันทร์ สถานท่ีต้ัง หมู่ 9
บ้านดอนกอก ตาบลค่ายบกหวาน อาเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย จานวนสัตว์ท่ีเข้าตลาดโดยเฉล่ีย
โคเนอื้ 10 ตวั และกระบอื 3-5 ตวั
4) โรงฆ่าสัตว์ มจี านวนโรงฆ่าโคกระบือของเทศบาลและเอกชนจานวน 7 แห่ง โดยมี โค
เน้อื เขา้ ฆา่ เฉลย่ี 10 ตวั ต่อวนั
5) พ่อค้าขายส่ง/ขายปลีกเน้ือโคชาแหละ เป็นผู้ท่ีไปซ้ือโคมีชีวิตจากตลาดนัดโคกระบือ
หรือพ่อค้ารวบรวมโคมีชีวิต หรือเกษตรกร เพื่อนาโคเน้ือเข้าโรงฆ่าเอกชน และนามาขายยังตลาดสด เพ่ือ
จาหน่ายใหก้ ับผูบ้ รโิ ภคในทอ้ งถนิ่ โดยจะมเี ขียงเน้ือเป็นจานวนมากในพ้นื ที่ มีตั้งขายทั้งขา้ งถนนและในตลาดสด
1.2.2 วิถตี ลาด
เกษตรกรผู้เล้ียงโคเน้ือส่วนใหญ่จะเป็นรายย่อย โดยจะมีทั้งการเล้ียงโคฝูงและโคขุน โดย
แบ่งออกเป็นเกษตรกรที่เลี้ยงโคฝูง และ เกษตรกรผู้เล้ียงโคขุนคุณภาพ ซึ่งเกษตรกรที่เลี้ยงโคฝูงจะนาโคเน้ือ
เข้าขายในตลาดนัดโคกระบือโดยตรง และขายให้แก่พ่อค้ารวบรวมโคเนื้อท้องถิน่ /ท้องที่ ซึ่งมีจานวนเท่าๆ กัน
ซ่ึงในตลาดนัดโคกระบือ น้ัน จะมีเกษตรกรที่มาซ้ือเพ่ือนาไปเล้ียงต่อ แล้วนากลับมาขายต่อท่ีตลาดนัดโค
กระบือหรือขายตอ่ ให้พ่อค้าขายส่ง/ขายปลีกเนอ้ื โคชาแหละ และพอ่ คา้ ขายส่ง/ขายปลกี เน้ือโคชาแหละซ้ือเพ่ือ
9
ไปเข้าโรงฆ่า ก่อนที่จะนาไปขายต่อในตลาดสด หรือนาไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้แก่ แหนม ไส้กรอก
เป็นต้น (แผนภาพท่ี 1)
แผนภาพที่ 1 วิถตี ลาดโคเน้อื ของจังหวดั หนองคาย ปี 2560
นาเข้า เกษตรกร/ฟารม์ ทั่วไป เกษตรกร/ฟารม์ เลยี้ งโคคุณภาพ
โคมีชีวิต พ่อคา้ รวบรวมโคทอ้ งที่
พ่อคา้ รวบรวมโคทอ้ งถิน่ ส่งออก
ตลาดนดั โค-กระบอื โคมีชีวติ
เกษตรกร/ฟารม์ พ่อคา้ ขายสง่
ซื้อไปเลยี้ งต่อ เนือ้ โคชาแหละ
โรงฆ่าสตั ว์เทศบาล/สหกรณ์/เอกชน
ตลาดสด/ห้างคา้ ปลกี /โรงงานแปรรูป
ผ้บู ริโภค
ทม่ี า : จากการสารวจ
ตารางที่ 2 การบรหิ ารจดั การสนิ คา้ โคเน้อื ในเชงิ พน้ื ท่ีจงั หวัดหนองคายปี 2560
รายการ ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ
1,123 1,010 1,337 935
1. ผลผลิต (Supply)
1.1 ผลผลิตของจงั หวดั ปี2560 713 713 713 713
1.2 นำเขำ้ จำกจงั หวดั อน่ื ป2ี 560 410 297 624 222
1.3 นำเขำ้ จำกต่ำงประเทศ
591 520 517 540
2. ความตอ้ งการใช้ (Demand) 531 460 457 480
2.1 กำรใชข้ องจังหวดั
(เข้ำโรงฆ่ำ) (สำรวจ) 60 60 60 60
2.2 ส่งออกไปจังหวดั อน่ื (สำรวจ)
2.3 ส่งออกไปต่ำงประเทศ 532 490 820 395
3. ผลผลิต ส่วนเกิน/ส่วนขาด
ทม่ี า : จากการสารวจ และ กรมปศสุ ัตวจ์ ังหวัดหนองคาย
หมายเหตุ : ขอ้ มลู ผลผลิต การยา้ ยโคเนือ้ เข้า-ออกของจงั หวัดเป็นข้อมูลรายปี จึง
10
หน่วย : ตวั
ปี 2560
พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. รวม
1,089 986 873 882 970 984 1,068 1,051 12,308
713 713 713 713 713 713 713 713 8,556
376 273 160 169 257 271 355 338 3,752
542 591 653 547 516 564 573 504 6,658
482 531 593 487 456 504 513 444 5,938
60 60 60 60 60 60 60 60 720
547 395 220 335 454 420 495 547 5,650
งได้นามาหารเฉลี่ยให้เป็นรายเดือน
10
11
1.3 การวิเคราะห์อปุ สงค์และอุปทานโคเนื้อของจังหวัดหนองคาย
ปี 2560 ผลผลิตโคเน้ือจังหวัดหนองคาย มีจานวน 8,556 ตัว โดยมีการนาเข้ามาจากจังหวดั อ่ืน
3,752 ตัว ทาให้มีจานวนโคเน้ือในจังหวัดหนองคายรวมท้ังส้ิน 12,308 ตัว ขณะท่ีโรงชาแหละท่ีต้ังอยู่ใน
จังหวัดหนองคาย มีความต้องการโคเน้ือรวม 5,938 ตัว และมีการส่งออกโคมีชีวิตไปจังหวัดอ่ืนๆ ประมาณ
720 ตัว สง่ ผลให้ในปี 2560 มีความต้องการโคเนื้อในจังหวัดหนองคายรวมทัง้ สิ้น 6,658 ตัว ดังนั้นจึงมีผลผลิต
โคเนอ้ื ส่วนเกนิ รวม 5,650 ตวั ซึ่งเปน็ ผลผลติ โคเนือ้ ทสี่ ามารถนาไปชาแหละในปีตอ่ ไป (ตารางท่ี 2)
1.4 ปัญหาและอปุ สรรค
1.4.1 ดา้ นการผลติ
1) วตั ถุดิบอาหารสัตว์ราคาแพง ส่งผลใหเ้ กษตรกรมตี ้นทนุ การผลติ โคเนือ้ ที่เพม่ิ ขึ้น
2) อาหารหยาบขาดแคลนและมีไม่เพยี งพอ เชน่ หญา้ และตน้ ข้าวโพด
3) การเปล่ียนพ่อแม่พันธุ์ค่อนข้างมีน้อย ส่วนใหญ่เกษตรกรปล่อยให้โคเน้ือท่ีเล้ียงไว้ผสม
พันธกุ์ นั ในรุ่นเดิมๆ ทาใหไ้ ดโ้ คเนือ้ ทมี่ คี ุณภาพตา่ ในร่นุ ตอ่ ๆมา
4) พ้ืนท่ีท่ีใช้เล้ียงโคเน้ือแบบปล่อยมีน้อยลง เน่ืองจากมีความหลากหลายทางการเกษตร
เขา้ มาในพน้ื ท่ี ทาให้ความนยิ มเล้ียงโคเนื้อลดลง
3.4.2 ด้านการตลาด
1) ตลาดกลางซอ้ื ขายโค ยงั ไม่มีมาตรฐานของตลาดท่ีกาหนดไว้อย่างชัดเจน ทาให้สถานที่
และวิธีการซือ้ ขาย แตกต่างกันในแต่ละท้องที่ และไม่มีมาตรฐานราคากลางกาหนด ราคาจึงขึ้นอยู่กับความพึง
พอใจของผู้ซอ้ื และผู้ขาย
2) โคเน้ือพันธ์ุพ้ืนเมืองจะขายได้ราคาต่ากว่าโคเน้ือพันธุ์ผสม เน่ืองจากตัวจะเล็กกว่า แต่
โคเนื้อพนั ธุพ์ ้ืนเมืองจะไดร้ บั ความนยิ มบรโิ ภคจากคนท้องถ่นิ เพราะเนื้อแน่นกวา่ โคขุน
1.5 ข้อเสนอแนะ
1) แนะแนวทางการเล้ียงแบบลดต้นทุนการผลติ โคเน้ือ
2) ภาครฐั ควรสง่ เสรมิ ใหเ้ กษตรกรปลกู หญา้ เนเปียรห์ รอื หญ้ารูซ่ี หรือข้าวโพดหวานหรือขา้ วโพด
เล้ียงสัตว์ เพอ่ื เป็นการสารองอาหารสาหรับโคไวใ้ ช้ในยามขาดแคลนและฤดแู ลง้
3) ส่งเสริมให้เจา้ หนา้ ท่จี ากกรมปศสุ ัตว์ ลงพ้นื ท่เี ขา้ มาชว่ ยดูแลใหค้ าปรึกษามากขนึ้ ทง้ั ในเรือ่ ง
การเปลยี่ นพ่อแม่พนั ธเุ์ พ่ือให้ได้ลกู ทีม่ ลี ักษณะสมบรู ณ์
4) ส่งเสริมใหเ้ ลีย้ งโคพันธท์ุ ตี่ ลาดมีความต้องการ
12
บทท2่ี ขา้ วเหนียวนาปี
2.1 ข้อมูลท่ัวไป
จังหวัดหนองคายแบ่งการปกครองออกเป็น 9 อาเภอ ได้แก่ เมืองหนองคาย โพนพิสัย ท่าบ่อ ศรี
เชียงใหม่ สังคม รัตนวาปี เฝ้าไร่ โพธ์ิตาก และสระใคร จังหวัดหนองคายมีพื้นท่ีทาการเกษตร 1,148,163 ไร่
คิดเป็นร้อยละ 66 ของพ้ืนที่ท้ังจังหวัด พื้นท่ีทาการเกษตรส่วนใหญ่ใช้ทานาข้าว รองลงมาเป็นพ้ืนท่ีปลูก
ยางพารา จานวนครัวเรือนเกษตรกรของจังหวัดมี 55,003 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 33 ของครัวเรือนท้ังหมด
โดยมูลคา่ ผลติ ภัณฑม์ วลรวมจังหวัด (GPP) ร้อยละ 27 มาจากภาคเกษตร1 แสดงรายละเอียดในตารางที่ 3
ตารางที่ 3 พ้นื ทท่ี าการเกษตรและครวั เรอื นเกษตรในจงั หวัดหนองคาย
พื้นท่ีทาการเกษตร (ไร่) ครวั เรือนท่ีไดร้ บั ประโยชน์ (ครัวเรอื น)
อาเภอ ในเขต นอกเขต รวม ในเขต นอกเขต รวม
ชลประทาน ชลประทาน ชลประทาน ชลประทาน
เมืองหนองคาย 67,292 75,425 142,717 2,851 7,254 10,105
โพนพิสัย 55,444 86,729 142,173 3,055 1,159 4,214
ท่าบ่อ 71,443 243,548 314,991 4,668 3,567 8,235
ศรเี ชียงใหม่ 31,110 22,914 54,024 1,978 11,264 13,242
สงั คม 4,873 195,670 200,543 120 2,259 2,379
รัตนวาปี 35,792 28,188 63,980 1,754 3,825 5,579
เฝ้าไร่ 1,436 146,544 147,980 85 5,974 6,059
โพธ์ิตาก 19,212 7,837 27,049 1,209 730 1,939
สระใคร 0 54,706 54,706 0 3,252 3,252
1,148,16
รวม 286,602 861,561 3 15,719 39,284 55,003
ทมี่ า: สานักงานเกษตรจงั หวัดหนองคาย/ โครงการชลประทานหนองคาย ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี 30 กันยายน 2560
ข้อมลู พน้ื ฐานพืชเศรษฐกิจสาคญั และขอ้ มลู องคก์ ร ปี 2560 ของสานกั งานเกษตรจังหวดั หนองคาย
1 ขอ้ มูลพน้ื ฐานพืชเศรษฐกิจสาคญั และขอ้ มลู องค์กร ปี 2560 สานกั งานเกษตรจงั หวดั หนองคาย
13
จังหวัดหนองคายมีพ้ืนทท่ี าการเกษตรในเขตน้าฝนเป็นส่วนใหญ่ มีเพยี งรอ้ ยละ 25 ของพื้นท่ีเท่านั้นท่ี
อยู่ในเขตชลประทานและเขตพื้นที่รับบริการจากสถานีสูบน้าด้วยไฟฟ้า อย่างไรก็ตามด้วยลักษณะภูมิประเทศ
เปน็ แนวยาวตามลานา้ โขงและมคี วามเหมาะสมในการเพาะปลกู พืชไดห้ ลากหลายชนดิ 2
ข้าวเหนียวนาปีมีสัดส่วนมูลค่าผลผลิตพืชเศรษฐกิจของจังหวัดหนองคายสูงที่สุด3 และมีพ้ืนท่ี
เพาะปลูกมากกว่าร้อยละ 50 ของพื้นท่ีเพาะปลูกข้าวทงั้ หมดของจังหวัดหนองคาย เนอื่ งจากประชากรในพื้นท่ี
ดังกล่าวนิยมบริโภคข้าวเหนียวเป็นหลัก แม้ว่าในพ้ืนที่เขตชลประทานสามารถทานาได้ท้ังนาปีและนาปรัง
อยา่ งไรก็ตามพืน้ ที่เพาะปลูกขา้ วโดยสว่ นใหญเ่ ป็นขา้ วนาปี แสดงรายละเอยี ดในตารางท่ี 4
พันธุ์ข้าวเหนียวที่ใช้ปลูกฤดูทานาปีในจังหวัดหนองคายคือ กข.6, ซิวแม่จัน พันธุ์ข้าวเหนียวที่ใช้ปลูก
ฤดูทานาปรังคือ กข.10 และ กข.12 4 นอกจากนี้ยังพบพันธุ์อ่ืนๆที่ใช้ เช่น กข.22 และสันป่าตอง 1 รวมถึง
พันธุ์พืน้ เมืองอย่างเชน่ พันธุ์อเี ตย้ี
ตารางที่ 4 พ้นื ท่ีเพาะปลูกขา้ วนาปแี ละนาปรังของจังหวัดหนองคาย
ปีเพาะปลกู ข้าวนาปี ขา้ วนาปรงั
ขา้ วเจ้า (ไร)่ ข้าวเหนียว (ไร)่ รวม (ไร่) ข้าวเจ้า (ไร่) ข้าวเหนียว (ไร)่ รวม (ไร่)
2555/56 92,562 476,040 568,602 15,738 82,545 98,283
12,485 81,042 93,527
2556/57 80,471 413,073 493,544 14,822 78,426 93,248
15,005 56,566 71,571
2557/58 76,564 434,609 511,173 8,838 58,560 67,398
2558/59 151,935 313,765 465,700
2559/60 152,152 367,418 519,570
ทมี่ า: ศนู ย์สารสนเทศการเกษตร สานักงานเศรษฐกจิ การเกษตร
2.2 สถานการณ์การผลติ
การปลูกข้าวเหนียวนาปีส่วนใหญ่จะเป็นนาดา ขณะท่ีข้าวเหนียวนาปรังจะเป็นนาหวา่ น ผลผลิตจาก
การเพาะปลูกข้าวเหนียวนาปีของเกษตรกรส่วนมากจะเก็บไว้เพ่ือบริโภคในครัวเรือนเป็นความมั่นคงทาง
อาหารของครัวเรือนก่อน ผลผลติ ส่วนทีเ่ หลือจะเกบ็ ไว้เปน็ พนั ธุ์และเก็บไวเ้ พ่ือรอขายในชว่ งที่ราคาสงู หรือขาย
ชว่ งเกบ็ เก่ยี วผลผลติ เนอ่ื งจากตอ้ งการบรโิ ภคขา้ วจากผลผลติ ในปีเพาะปลูกใหม่แทนขา้ วท่ีเก็บไว้
2, 4 ขอ้ มูลพื้นฐานพืชเศรษฐกจิ สาคญั และขอ้ มลู องคก์ ร ปี 2560 สานักงานเกษตรจังหวัดหนองคาย
3 ข้อมูลพนื้ ฐานพืชเศรษฐกจิ สาคญั ประกอบการจดั ทาแผนพฒั นาการเกษตร ปี 2559 ของสานักงานเกษตรจังหวดั หนองคาย
14
ตารางท่ี 5 แสดงผลผลิตข้าวเหนียวนาปี ในปีเพาะปลูก 2559/60 ของจังหวัดหนองคายและภาค
ต่างๆของไทย จังหวัดหนองคายมีพ้ืนที่ปลูกข้าวเหนียวนาปี 367,418 ไร่ ผลผลิตอยู่ที่ 132,258 ตัน และมี
ผลผลิตต่อพื้นท่ีเก็บเก่ียวเท่ากับ 367 กิโลกรัมต่อไร่ เม่ือพิจารณาถึงการมีอาหารเพียงพอ (Food
availability) ในจังหวัดซ่ึงมีประชากร 521,886 คน5 คิดเป็น 244 กิโลกรัมต่อคน ในที่นี้ไม่นับรวมการเก็บ
ผลผลิตไว้เป็นเมล็ดพันธ์ุและการขายเปน็ พันธขุ์ ยาย
แ ม้ ว่ า ผ ล ผ ลิ ต ต่ อ ไ ร่ ข อ ง ข้ า ว เห นี ย ว น า ปี ข อ ง จั ง ห วั ด ห น อ ง ค า ย สู ง ก ว่ า ผ ล ผ ลิ ต ต่ อ ไร่ ข อ ง ภ า ค
ตะวันออกเฉียงเหนือซ่ึงเป็นภูมภิ าคเดียวกัน อย่างไรก็ตามผลผลิตต่อไร่ของจงั หวัดหนองคายยังต่ากว่าผลผลิต
ตอ่ ไรข่ องภาคอ่นื ๆและของระดบั ประเทศ
ตารางที่ 5 ข้อมูลการผลิตข้าวเหนียวนาปีของจังหวัดหนองคายและภาคต่างๆของไทย ปีเพาะปลูก
2559/60
ภาค/จงั หวดั เนอื้ ที่เพาะปลูก เน้อื ทเ่ี ก็บเก่ยี ว ผลผลติ ผลผลติ ตอ่ ไร่ (กก.)
(ไร่) (ไร)่ (ตนั ) ปลกู เก็บ
รวมท้ังประเทศ 16,015,513 15,555,013 6,161,403 385 396
1,450,720 540 549
ภาคเหนือ 2,688,244 2,640,757 4,694,156 353 365
16,346 425 451
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13,288,369 12,877,618 402 445
181 360 367
ภาคกลาง 38,450 36,231 132,258
ภาคใต้ 450 407
จังหวัดหนองคาย 367,418 360,493
ทีม่ า: ศูนยส์ ารสนเทศการเกษตร สานักงานเศรษฐกจิ การเกษตร
ตารางที่ 6 แสดงข้อมูลพื้นที่เพาะปลูกข้าวของอาเภอในจังหวัดหนองคาย ในปีเพาะปลูก 2559/60
ในทุกอาเภอมีพ้ืนท่ีปลูกข้าวเหนียวนาปีมากกว่านาปรัง อาเภอโพนพิสัยมีพ้ืนท่ีเพาะปลูกข้าวเหนียวนาปีมาก
ท่ีสุด รองลงมาคืออาเภอเมืองหนองคายและอาเภอท่าบ่อ ตามลาดับ นอกจากน้ีสังเกตได้ว่าท้ังสามอาเภอ
ดังกล่าวมีพ้ืนท่ีเพาะปลูกข้าวเหนียวนาปรังมากกว่าอาเภออ่ืนๆด้วย เน่ืองจากมีพื้นท่ีทาการเกษตรอยู่ในเขต
ชลประทานมากที่สุดเปน็ สามอันดบั แรกของจังหวัดหนองคาย
5 ขอ้ มลู ประชากรในจงั หวดั หนองคาย ปี 2560 จากระบบสถติ ิทางการทะเบียน ส่วนบริหารและพัฒนาเทคโนโลยกี าร
ทะเบยี น สานักบริหารการทะเบยี น กรมการปกครอง สบื คน้ เมื่อ 17 มกราคม 2561
15
ตารางท่ี 6 พื้นท่ีปลูกข้าวของอาเภอในจังหวัดหนองคาย ปีเพาะปลูก 2559/60
ข้าวนาปี ขา้ วนาปรงั
อาเภอ จานวน พนื้ ทเ่ี พาะปลูก (ไร่) จานวน พนื้ ทเ่ี พาะปลูก (ไร่)
เกษตรกร
เมอื งหนองคาย ข้าวเจ้า ขา้ วเหนียว รวม เกษตรกร ขา้ วเจ้า ขา้ วเหนียว รวม
ท่าบอ่ (ราย) (ราย)
โพนพิสยั
ศรีเชยี งใหม่ 9,095 15,919 76,050 91,969 2,563 648 28,324 28,972
สงั คม 7,565
สระใคร 11,803 23,686 61,178 84,864 1,495 7,108 12,488 19,596
เฝ้าไร่ 2,001
รัตนวาปี 1,971 47,383 103,188 150,571 1,882 489 30,711 31,200
โพธิต์ าก 3,458
4,742 3,102 18,624 21,726 762 0 9,670 9,670
4,190
1,264 835 14,544 15,379 8 0 16 16
21,436 19,057 40,493 0 0 542 542
5,920 50,872 56,792 88 48 788 836
9,471 35,976 45,447 408 0 3,047 3,047
2,516 9,813 12,329 82 0 5,480 5,480
ทม่ี า: ระบบจัดเก็บและรายงานขอ้ มลู ภาวการณ์ผลิตพชื ของกรมสง่ เสริมการเกษตร และขอ้ มูลเอกภาพด้าน
การเกษตร ของสานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร อ้างถงึ ในข้อมูลพ้ืนฐานพชื เศรษฐกิจสาคัญและข้อมูลองค์กร ปี
2560 สานักงานเกษตรจงั หวดั หนองคาย
ราคาข้าวในแต่ละปีจะมีผลต่อการตัดสินใจแบ่งพ้ืนท่ีนาเพื่อใช้เพาะปลูกข้าวเหนียวหรือข้าวเจ้าของ
เกษตรกรในปีเพาะปลูกถัดไป อย่างไรก็ตามเกษตรกรจะยังคงเลือกใชพ้ ้ืนที่นาในการเพาะปลูกข้าวเหนียวเป็น
หลักเนื่องจากใช้บริโภคในครัวเรือน อีกท้ังยังให้คุณค่าในเชิงวัฒนธรรมและมองว่าเป็นวิถีชีวิต เม่ือพิจารณา
อย่างง่ายจากแผนภาพที่ 2-3 สังเกตได้ว่าพ้ืนท่ีเพาะปลูกข้าวเหนียวนาปีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปีเพาะปลูก
2559/60 ซึ่งสอดคล้องกับราคาข้าวเปลือกนาปีที่เกษตรกรขายได้ที่แท้จริงของข้าวเหนียวเมล็ดยาวท่ีสูงกว่า
ข้าวเจ้าหอมมะลิในปี 25596 ในท่ีนี้ราคาถูกปรับเป็นราคาที่แท้จริงด้วยดัชนีราคาผู้บริโภคจังหวัดหนองคาย7
(2558=100) เพ่ือลดผลของเงินเฟอ้
6 ข้อมลู ราคาเกษตรกรขายได้ ณ ไรน่ า มาจากศนู ยส์ ารสนเทศการเกษตร สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร กระทรวงเกษตรและ
สหกรณ์
7 ขอ้ มลู จากกองสารสนเทศและดชั นีเศรษฐกจิ การคา้ สานกั งานนโยบายและยทุ ธศาสตรก์ ารคา้ กระทรวงพาณิชย์
16
ในช่วงราคาข้าวตกต่าเกษตรกรจะคาดหวังการช่วยเหลือจากภาครัฐเป็นหลัก นอกจากน้ีพบว่ามีการ
จัดการความเสี่ยงด้วยตนเองด้วยการเป ล่ียนพื้น ท่ีนาบางส่วนไปป ลูกพืช อ่ืนๆเสริมที่มองว่ามีโอกาสทาง
การตลาด ปัจจบุ นั มกี ารใช้เครือ่ งจักรในการผลิตโดยเฉพาะเคร่ืองเก่ียวข้าวแทนแรงงานดา้ นการเกษตรที่ลดลง
แม้จะลดเวลาและต้นทุนในการเก็บเก่ียว แต่ก็มกั จะทาให้เกิดปัญหาการปนของพันธุ์ข้าวจากการเก่ียวข้าวจาก
ท่ีนาอ่ืนทาให้ขายได้ราคาต่าลง ท้ังน้ีเกษตรกรยังไม่สามารถรวมกลุ่มในการลงทุนและจัดการร่วมกันในการใช้
เครื่องจกั รทางการเกษตรได้
ไ ่ร 600,000 พน้ื ท่เี พาะปลูกข้าวนาปี ขา้ วเจา้
500,000 ข้าวเหนยี ว
400,000 2554 2555 2556 2557 2558 2559
300,000
200,000
100,000
0
แผนภาพที่ 2 พน้ื ที่เพาะปลูกขา้ วนาปี
แผนภาพที่ 3 ราคาขา้ วเปลือกนาปี
17
สาหรับเกษตรกรท่ีเพาะปลูกข้าวเหนียวนาปีเพ่ือเป็นพันธ์ุขยายจะซื้อเมล็ดพันธุ์มาจากศูนย์เมล็ดพันธ์ุ
ข้าวอุดรธานีและขายคืนให้กับศูนย์ฯหลังจากเก็บเกี่ยวซึ่งจะมีการกาหนดโควตาและวิธีการเพาะปลูก
เกษตรกรจะระวังในเรื่องการปะปนของพันธุ์ข้าวเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นเกณฑ์ในการรับซ้ือของศูนย์ฯ กลุ่ม
เกษตรกรทีท่ านาเพื่อเปน็ พนั ธุ์ขยายอยูใ่ นอาเภอเมอื งหนองคายและสระใคร
2.3 สถานการณ์การตลาด
2.3.1 วถิ ีการตลาดขา้ วเปลอื กเหนียวนาปี
ข้าวเหนียวนาปีมีช่วงเก็บเกี่ยวอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม ในแต่ละเดือนจะมีพ้ืนท่ีเก็บเก่ียว
ประมาณร้อยละ 10, 75 และ 15 ของพ้ืนท่ีเก็บเกี่ยวทั้งหมดในจังหวัด ตามลาดับ ซึ่งผลผลิตจะออกสู่ตลาด
มากในชว่ งเวลาดงั กล่าว แผนภาพท่ี 4 แสดงวิถตี ลาดข้าวเปลอื กเหนียวนาปี
เกษตรกรนิยมเก็บข้าวเหนียวนาปีไว้บริโภคในครัวเรือนมากกว่าข้าวเหนียวนาปรัง ข้าวเหนียวนาปี
หลังการเก็บเก่ียวจะถูกเกษตรกรเก็บไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือนคิดเป็นร้อยละ 27 ของผลผลิตท้ังหมดใน
จังหวัด แบ่งเป็น 3 ลักษณะคือ 1) เก็บไว้สาหรับบริโภคในครัวเรือน (ร้อยละ 19) 8 2) เก็บไว้เป็นเมล็ดพันธุ์
โดยเฉลีย่ ใช้ 10 กิโลกรัมต่อไร่ (ร้อยละ 3) และ 3) เก็บสารองฉุกเฉิน (ร้อยละ 5) โดยเก็บสารองไว้สาหรับการ
บริโภคหรือรอจาหน่ายในช่วงเก็บเก่ียวผลผลิตใหม่ หรือรอจาหน่ายสาหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ซ้ือปัจจัยการ
ผลิตและค่าใชจ้ า่ ยในการศกึ ษาของบตุ ร
ในสว่ นของผลผลติ ท่ีเปน็ พันธข์ุ ยายคิดเปน็ ประมาณร้อยละ 1 ของผลผลิตทั้งหมด เกษตรกรจะขายคืน
ให้กับศนู ย์เมลด็ พันธขุ์ า้ วอุดรธานีตามเงื่อนไข และศนู ย์ฯจะนาไปจาหนา่ ยให้เกษตรกรต่อไป
ผลผลิตส่วนที่เหลือจากการเก็บไว้ใช้ประโยชน์ของเกษตรกรจะถูกขายออกไปสู่ตลาดมากในช่วงเดือน
เก็บเก่ียวผลผลิต หลังจากนั้นเกษตรกรจะทยอยขายผลผลิตซ่ึงการตัดสินใจขายจะขึ้นอยู่กับราคาและความ
8 จากเอกสารข้อมูลพื้นฐานพืชเศรษฐกิจสาคัญ ประกอบการจัดทาแผนพัฒนาการเกษตร ปี 2559 ของ
สานักงานเกษตรจังหวัดหนองคาย อ้างถึงอัตราการบริโภคข้าวสารของภาคตะวันออกเฉียงเหนือเท่ากับ 142
กิโลกรัมต่อคนต่อปี เกษตรกรจังหวัดหนองคายร้อยละ 90 นิยมบริโภคข้าวเหนียวเป็นหลัก ใช้อัตราข้าวสาร
หนึ่งกิโลกรัมเป็นข้าวเปลือก 1.5 กิโลกรัม และครัวเรือนเกษตรมีจานวนสมาชิกเฉล่ีย 3.5 คนต่อครัวเรือน
ข้อมูลจากศูนย์สารสนเทศการเกษตร สานักงานเศรษฐกิจการเกษตร ในปี 2558 ครัวเรือนเกษตรท่ีปลูกข้าว
นาปีมีจานวน 37,955 ครัวเรือน ดังนั้นเกษตรกรจะเก็บข้าวเหนียวนาปีไว้บริโภคประมาณ 25,466 ตันต่อปี
หรอื ร้อยละ 15 ของผลผลิตท้งั หมดในจงั หวัด
18
ต้องการเงินสดเพอ่ื ใช้จ่ายของครัวเรอื น เกษตรกรจะขายผลผลิตโดยตรงใหก้ บั โรงสเี พือ่ แปรสภาพเป็นข้าวสาร
เป็นส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 51 ของผลผลิตทั้งหมดในจังหวัด ผลผลิตบางส่วนขายให้กับท่าข้าว/ฉางข้าวเก็บ
ข้าวเปลือกและพ่อค้าท่ีมารวบรวมผลผลิต เป็นร้อยละ 17 และร้อยละ 3 ของผลผลิตท้ังหมดในจังหวัด
ตามลาดับ ซ่ึงผลผลิตจะถูกนาไปขายต่อให้กับโรงสี นอกจากน้ีสถาบันเกษตรกรที่มีโครงการชะลอผลผลิต
ขา้ วเปลือกออกสู่ตลาดพร้อมกัน ในทนี่ ้ีคือสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธกส. (สกต.) จะมีเกษตรกร
นาผลผลติ ไปขาย รอ้ ยละ 1 ของผลผลิตทง้ั หมดในจังหวดั ซง่ึ สกต.จะเปิดประมูลเพื่อจาหนา่ ยต่อให้กบั โรงสี
1% 1% ศูนยเ์ มลด็ พนั ธข์ุ ้าว
สถาบนั เกษตรกร อดุ รธานี
ผลผลติ จากการเก็บเก่ยี ว
3% 100% 27%
พ่อค้ารวบรวม
เกษตรกรเก็บไว้
17% 1. บรโิ ภคในครัวเรือน (19%)
ท่าข้าว/ฉางเกบ็ 2. เป็นเมลด็ พนั ธ์ุ (3%)
ขา้ วเปลือก 51% 3. สารองฉกุ เฉนิ (5%)
โรงสี
36% แปรสภาพเป็น 36%
ภายในจงั หวดั หนองคาย ขา้ วสาร
ส่งออกไปนอกจังหวดั
แผนภาพที่ 4 วถิ ตี ลาดข้าวเปลือกเหนียวนาปี
ทม่ี า: จากการสารวจ
19
2.3.2 ผู้ประกอบการคา้ ขา้ วในจงั หวัดหนองคาย
จากข้อมูลในระบบสารสนเทศโครงการกากับดูแลสินค้าเกษตร ของกรมการค้าภายใน กระทรวง
พาณิชย์ พบรายช่ือผู้ประกอบการโรงสีข้าวในจังหวัดหนองคาย 7 ราย เป็นโรงสีข้าวท่ีมีกาลังการผลิตมากว่า
100 ตันต่อวันจานวน 5 ราย และเป็นโรงสีข้าวขนาดเล็กที่มีกาลังการผลิตไม่เกิน 10 ตัน จานวน 2 ราย ซ่ึง
เนน้ บริการสีข้าวใหก้ ับชมุ ชนเปน็ หลัก มรี ายชือ่ ดังน้ี
1. หจก.โรงสไี ฟชยั ธนาสินเจรญิ อาเภอเมืองหนองคาย กาลังการผลติ 150 ตันต่อวัน
2. บริษัทโรงสไี ทยง้วนเฮง อาเภอโพนพสิ ัย กาลงั การผลิต 120 ตนั ต่อวัน
3. หจก.โรงสีข้าวบุญสนอง อาเภอท่าบ่อ กาลงั การผลติ กาลงั การผลิต 120 ตันต่อวนั
4. หจก.โรงสีข้าวบุญสนอง สาขา 1 อาเภอทา่ บ่อ กาลงั การผลติ 120 ตนั ตอ่ วัน
5. โรงสขี ้าวพิสยั พาณชิ ย์ อาเภอโพนพิสยั กาลงั การผลิต 120 ตนั ตอ่ วนั
6. โรงสีข้าวศรรี งุ่ เรืองพาณชิ ย์ อาเภอทา่ บ่อ กาลงั การผลติ 10 ตันตอ่ วัน
7. โรงสขี า้ วชาวนา อาเภอสระใคร กาลงั การผลิต 6 ตันต่อวนั
สาหรับรายชื่อท่าข้าว/ฉางข้าวท่ีรับซ้อข้าวเปลือกในจังหวัดหนองคาย จากเอกสารข้อมูลพ้ืนฐานพืช
เศรษฐกิจสาคัญ ประกอบการจัดทาแผนพัฒนาการเกษตร ปี 2559 ของสานักงานเกษตรจังหวัดหนองคาย มี
จานวน 5 ราย ดังนี้
1. ฉางข้าวดวงเจริญ อาเภอเมอื งหนองคาย
2. ฉางขา้ วเทียนชัย อาเภอเฝ้าไร่
3. ท่าข้าวโชคเจรญิ ทรัพย์ อาเภอทา่ บอ่
4. ทา่ ขา้ วดงเจริญพชื ผล อาเภอเมอื ง
5. ท่าข้าวศุภชยั พชื ผล อาเภอศรเี ชยี งใหม่
2.4 ผลผลติ และความต้องการใช้ข้าวเปลือกเหนยี วนาปีของจังหวดั หนองคาย
ตางรางที่ 7 แสดงการประมาณผลผลิตและความต้องการใช้ข้าวเปลือกเหนียวนาปีของจังหวัด
หนองคาย ในปีเพาะปลกู 2559/60 มีผลผลิตข้าวเหนียวนาปี 132,258 ตันข้าวเปลือก ซึ่งมีช่วงเก็บเกี่ยวใน
เดือนตุลาคม-ธันวาคม ผลผลิตจึงออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม จากนั้นผลผลิตจะมี
ลักษณะทยอยออกสู่ตลาด เน่ืองจากเกษตรกรจะเก็บผลผลิตข้าวเหนียวนาปีไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือนเป็น
20
หลักและขายผลผลิตเม่ือเห็นว่าราคาดีหรือมีความจาเป็นจากคา่ ใช้จ่ายของครัวเรือน อีกทั้งมีโครงการสง่ เสริม
การชะลอผลผลิตออกสู่ตลาดพรอ้ มกัน
ความต้องการใช้ความเหนียวนาปีของจังหวัดหนองคายคิดเป็น 109,076 ตันข้าวเปลือก เป็นการ
ประมาณการจากผลรวมของการใช้เป็นเมล็ดพันธุ์ 4,997 ตันข้าวเปลือก การเก็บไว้บรโิ ภคในครัวเรือนและรอ
จาหน่ายของเกษตรกร 32,079 ตันข้าวเปลือกและการขายให้โรงสีเพื่อแปรสภาพ 72,000 ตันข้าวเปลือก
ข้าวเปลือกท่ีถูกแปรสภาพเป็นข้าวสารจากโรงสีจะส่งไปตลาดข้าวสารภายในจังหวัดหนองคายและส่งออกไป
กรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง เช่น อุดรและขอนแก่น ซ่ึงข้าวท่ีเกษตรกรขายให้โรงสีจะเป็นข้าวเหนียวนา
ปรังมากกวา่ ข้าวนาปเี น่อื งจากเกษตรกรมกั เก็บข้าวเหนยี วนาปีไวส้ าหรับบริโภคในครัวเรอื น
เม่ือเทียบผลผลิตกับความต้องการใช้ภายในจังหวัด พบว่า มีผลผลิตส่วนเกิน 23,182 ตันข้าวเปลือก
แสดงให้เห็นว่าผลผลิตข้าวเหนียวนาปีมีปริมาณมากเกินกว่าความต้องการใช้ภายในจังหวัด อย่างไรก็ตาม
สังเกตได้ว่ามีบางช่วงที่ผลผลิตไม่เพียงพอซึ่งโรงสีในจังหวัดห นองคายจะมีการรั บซื้อผลผลิตจากจังห วัด
ใกลเ้ คยี ง
ตารางที่ 7 การประมาณผลผลติ และความต้องการใช้ข้าวเปลอื กเหนียวนาปีของจัง
รายการ ปี 2559
ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.
1. ผลผลิต (Supply)1 4,950 31,700 39,600 17,500 11,3
1.1 ผลผลิตของจังหวดั 4,950 31,700 39,600 17,500 11,3
1.2 นาเข้าจากตา่ งจังหวดั
2. ความต้องการใช้ (Demand) 9,224 16,221 11,224 11,224 9,2
2.1 การใช้ขา้ วเปลอื กของจงั หวดั 9,224 16,221 11,224 11,224 9,2
1) ใช้เป็นเมลด็ พันธ2ุ์ 4,997
2) เกษตรกรเกบ็ ไวบ้ รโิ ภคและรอขาย3 3,224 3,224 3,224 3,224 3,2
3) เข้าโรงส4ี 6,000 8,000 8,000 8,000 6,0
2.2 ส่งออกนอกจงั หวดั
3. ผลผลิตสว่ นเกินหรือส่วนขาด -4,274 15,479 28,376 6,276 2,1
หมายเหตุ: หนว่ ยเปน็ ตนั
1 จากสานักงานเกษตรจงั หวดั หนองคาย ผลผลติ ท่ีออกสู่ตลาดในแต่ละเดือนเปน็ คาดกา
2 คานวณจากการขายพนั ธุ์ขยายและการเกบ็ ไวเ้ ปน็ เมล็ดพันธุ์ของเกษตรกร
3 คานวณจากการเก็บไว้บรโิ ภคและสารองฉกุ เฉนิ ของเกษตรกร
4 จากการสารวจ
21
งหวัดหนองคาย
ปี 2560
.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. รวม
325 7,600 7,600 3,140 2,586 1,494 1,261 3,502 132,258
325 7,600 7,600 3,140 2,586 1,494 1,261 3,502 132,258
224 9,224 7,122 7,122 7,122 7,122 7,122 7,122 109,076
224 9,224 7,122 7,122 7,122 7,122 7,122 7,122 109,076
4,997
224 3,224 2,122 2,122 2,122 2,122 2,122 2,122 32,079
000 6,000 5,000 5,000 5,000 5,000 5,000 5,000 72,000
100 -1,624 478 -3,982 -4,536 -5,628 -5,861 -3,620 23,182
ารณโ์ ดยใช้สดั ส่วนเดียวกับการประมาณผลผลิตท่ีจาหนา่ ยในปี 2558/59
21
22
2.5 ปัญหาและอุปสรรค
1. แรงงานหายากและค่าจ้างแรงงานสูงขึ้น ขณะที่การใช้เทคโนโลยีทดแทนของเกษตรกรในการ
เพาะปลูกและเก็บเก่ียวยังมีข้อจากัดทั้งการเข้าถึงและความประณีตซ่ึงยังทาไม่ได้เช่นเดียวกับการใช้แรงงาน
สง่ ผลต่อคุณภาพของผลผลติ ท่ีเก็บเกี่ยว เช่น การปะปนพันธ์ุข้าวท่ีเกิดจากการใช้เครือ่ งเก่ียวข้าวติดต่อกันจาก
หลายท่ีนา
2. ปัจจัยการผลิตมีราคาแพง ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจะทาให้ผลตอบแทนสุทธิของเกษตรกรยิ่ง
นอ้ ยลง
3. เกษตรกรใชพ้ ันธ์ุข้าวไม่ตรงตามความต้องการของโรงสี ซึ่งต้องการพันธ์ุ กข.6 แตเ่ น่ืองจากเปน็ พนั ธ์ุ
ทไี่ วตอ่ แสงและลม้ งา่ ย เกษตรกรนยิ มขายข้าวนาปรงั มากกวา่ จงึ เลอื กท่จี ะใช้พนั ธ์อุ ื่นแทน กข.6
4. แนวโนม้ ราคาข้าวเหนียวยงั คงตกต่า เน่ืองจากในปี 2559 ราคาขา้ วเหนียวสงู กวา่ ราคาข้าวเจ้าหอม
มะลิ ส่งผลให้เกษตรกรใช้พนื้ ที่ปลกู ข้าวเหนียวเพ่ิมข้นึ การตัดสนิ ใจใชพ้ ืน้ ทีป่ ลกู ของเกษตรกรจะข้ึนอย่กู ับราคา
ข้าวแต่ละชนิดของปีท่ีผ่านมา ดังน้ันการแทรกแซงกลไกราคาในตลาดของภาครัฐที่สร้างอุปสงค์เทียมจะส่งผล
ให้ผลผลิตของข้าวเหนียวและข้าวจ้าวไม่สะท้อนความต้องการที่แท้จริงของตลาด ราคาข้าวเจ้าหอมมะลิตกต่า
ลงอย่างมากส่วนหนึ่งเป็นผลจากโครงการรับจานาข้าวท่ีจูงใจให้เกษตรกรเพ่ิมพื้นที่ปลูกมากข้ึน ซึ่งภาครัฐได้
ยกเลิกโครงการดังกล่าวในปี 2557 ในอีกแง่หน่ึงสะท้อนการจัดการฟาร์มของเกษตรกรท่ียังไม่สามารถวาง
แผนการผลิตจากการคาดการณ์สถานการณ์ในตลาดและไม่มีการจัดการความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา
ได้ด้วยตนเอง
2.6 ข้อเสนอแนะ
1. ภาครัฐควรส่งเสริมและให้ความรใู้ นการลดต้นทุนและการเพ่ิมประสิทธภิ าพการผลิต ทั้งการจัดหา
ปัจจัยการผลิตราคาถูกหรือการฝึกอบรมให้เกษตรกรทาได้เอง การใช้ปัจจัยการผลิตท่ีเหมาะสมและการบารุง
ดิน นอกจากน้ภี าครฐั ควรสนับสนนุ โครงสรา้ งพ้ืนฐานโดยเฉพาะการพัฒนาในด้านชลประทาน
2. ส่งเสริมให้เกษตรกรท่ีทานาเชิงพาณิชย์เรียนรู้การจัดการฟาร์มและมีการวางแผนการผลิตล่วงหน้า
ส่งเสริมการรวมกลุ่มของเกษตรกรท้ังในแง่การสร้างอานาจต่อรองและเพื่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีการ
ผลติ
3. ควรส่งเสริมการปรับปรุงพันธ์ุข้าวตามความต้องการของตลาด โดยพิจารณาคุณลักษณะท้ังในด้าน
ผลผลิตต่อไร่ ความต้านทานโรค ความนุ่ม ความหอม ความแกร่งของแกนข้าว ความแข็งแรงของต้น ความไว
ของแสงที่ทาให้ปลูกได้ทั้งนาปรังและนาปี นอกจากน้ีภาครัฐควรมีพันธุ์หลักท่ีจะส่งเสริมในการทาตลาด
23
สาหรับกลุ่มเกษตรกรท่ีทานาในเชิงพาณิชย์หรือเป็นเกษตรเชิงเดี่ยว ควบคู่ไปกับการส่งเสริมเรื่องความ
หลากหลายทางชวี ภาพของพันธุ์ข้าวในท้องถิ่นให้กบั เกษตรกรท่ีทาการเกษตรทางเลือก
4. การแทรกแซงกลไกตลาดหรือการสร้างอุปสงค์เทียมของภาครัฐจะทาให้ผลผลิตไม่สอดคล้องกับ
ความต้องการที่แท้จริงของตลาดและเป็นการสร้างภาระทางการคลังที่สูงเกินไป ภาครัฐควรพิจารณานโยบาย
อื่นๆ เช่น การประกันรายได้เกษตรกรซึ่งมีแนวคิดมาจากหลักประกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา
(Put option) และการพัฒนาหลักประกันภัยพืชผลเกษตร (Crop insurance) เพ่ือเป็นทางเลือกให้เกษตรกร
ในการลดความเสย่ี งจากท้ังในดา้ นการผลิตและการตลาด
24
บทท่ี3 ยางพารา
3.1 สถานการณ์การผลติ
ปี 2560 จังหวัดหนองคายมีผลผลิตยางพาราเป็นอันดับท่ี 25 ของประเทศ เม่ือเปรียบเทียบ
ระหว่างปี 2556 กับปี 2560 พบว่า เน้ือที่ยืนต้นเพ่ิมข้ึนจาก 239,669 ไร่ เป็น 268,916 ไร่ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ
12.2 มีเนื้อท่ีกรีดเพ่ิมข้ึนจาก 142,595 ไร่ เป็น 238,413 ไร่ หรือเพิ่มข้ึนร้อยละ 67.2 ต่อปี มีผลผลิตเพิ่มขึ้นจาก
51,235 ตัน เป็น 56,742 ตัน หรือเพิ่มข้ึนร้อยละ 10.74 และมีผลผลิตต่อไร่เพ่ิมขึ้นจาก 234 กิโลกรัมต่อไร่
เป็น 238 กิโลกรัมต่อไร่ หรือเพ่ิมข้ึนร้อยละ 1.71 เน่ืองจากยางพาราที่ปลูกปี 2554 ทยอยเปิดกรีดได้
ประกอบกับปริมาณน้าฝนเพียงพอต้นยางมีการเจริญเติบโตเต็มที่ ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตและผลผลิตต่อไร่
เพ่มิ ขน้ึ แสดงรายละเอยี ดดงั ตารางท่ี 8
ตารางท่ี 8 เน้ือท่ียืนต้น เน้ือท่ีกรีด และผลผลิตยางพาราของจังหวดั หนองคาย ปี 2556 - 2560
ปี เนือ้ ทย่ี นื ตน้ (ไร)่ เนอื้ ที่กรดี (ไร่) ผลผลติ (ตนั ) ผลผลติ ต่อไร่ (กก.)
2556 239,669 142,595 51,235 234
2557 246,257 166,166 30,915 186
2558 270,334 210,602 45,283 215
2559 269,910 220,198 48,615 221
2560(f) 268,916 238,413 56,742 238
อตั รา (%) 12.20 67.20 10.74 1.71
ทม่ี า : สานักงานเศรษฐกจิ การเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เมื่อพิจารณาเป็นรายอาเภอ ปี 2560 จังหวัดหนองคาย มีแหล่งปลูกท่ีสาคัญ 3 ลาดับแรก คือ
อาเภอสังคม อาเภอเฝ้าไร่ และอาเภอรัตนวาปี ซึ่งมีเนื้อท่ียืนต้นรวมกัน 179,025 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ
66.33 ของเน้ือท่ียืนต้นท้ังหมด เม่ือพิจารณาปริมาณผลผลิตเฉล่ียต่อไร่ พบว่า อาเภอสังคม ปริมาณผลผลิต
เฉล่ียต่อไร่มากที่สุด เท่ากับ 246 กิโลกรัมต่อไร่ รองลงมาคือ อาเภอโพนพิสัย 229 กิโลกรัมต่อไร่ และอาเภอ
รตั นวาปี 219 กิโลกรัมตอ่ ไร่แสดงรายละเอียดดังตารางที่ 9
25
ตารางท่ี 9 เนือ้ ท่ียืนต้น เนื้อทกี่ รีด และผลผลติ ยางพาราของจังหวัดหนองคาย แยกรายอาเภอ ปี 2559
ลาดับท่ี อาเภอ พื้นทยี่ นื ตน้ พนื้ ท่ีกรดี ผลผลิตรวม ผลผลิตเฉลย่ี
(ไร่) (ไร่) (ตนั ) (กก./ไร่)
181
1 เมอื ง 2,340 1,471 266 178
229
2 ทา่ บ่อ 5,200 3,317 590 188
246
3 โพนพสิ ยั 48,971 38,789 8,883 181
216
4 ศรเี ชยี งใหม่ 10,121 8,174 1,537 219
187
5 สังคม 63,284 47,328 11,643 221
6 สระใคร 3,992 2,162 391
7 เฝา้ ไร่ 61,583 49,731 10,742
8 รัตนวาปี 54,158 50,542 11,069
9 โพธิ์ตาก 20,261 18,684 3,494
รวม 269,910 220,198 48,615
ท่ีมา: ศูนยส์ ารสาสนเทศการเกษตร สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร
หมายเหตุ *ผลผลิตเปน็ ยางแผน่ ดบิ
ผลผลิตยางพาราในจังหวัดหนองคาย ได้แก่ ยางก้อนถ้วย น้ายางสด และยางแผ่นดิบ เกษตรกร
จังหวัดหนองคาย โดยเกษตรกรส่วนใหญ่จะเร่ิมกรีดยางตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - กุมภาพันธ์ของปีถัดไป
ชว่ งเวลาที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากตั้งแต่ เดือนตุลาคม – ธันวาคม และผลผลิตจะเร่ิมลดลงตัง้ แต่เดือนมีนาคม –
เมษายน เกษตรกรส่วนใหญ่จะหยุดกรีดยางในช่วงน้ี เนื่องจากเป็นช่วงยางพลัดใบ แต่มีส่วนน้อยที่เกษตรกรยังคง
กรีดยางในเดือนมีนาคมและเมษายน เน่ืองจากเป็นพ้ืนที่ติดริมฝั่งแม่น้าโขงทาให้ดินมีความชุ่มช้ืนตลอดปี
เกษตรกรส่วนใหญ่กรีดยาง 2 วัน หยุด 1 วัน และจะเก็บผลผลิตขายเมื่อกรีดยางครบ 7- 8 มีด หรือขาย 2
ครง้ั ตอ่ เดือน แสดงรายละเอยี ดดังตารางที่ 10
ตารางที่ 10 ประมาณการรอ้ ยละผลผลติ ยางพาราออกสตู่ ลาดรายเดือนของจังหวดั หนองคายปี 2559
เดอื น ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
รอ้ ยละ 8.97 4.15 0.83 0.65 3.45 6.51 9.00 10.50 12.46 14.27 15.19 14.02
ทม่ี า: สานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร
26
3.2 สถานการณก์ ารตลาด
3.2.1 โครงสร้างตลาด
1) เกษตรกร/กลุ่มเกษตรกร เป็นผู้ผลิตยางพาราในจังหวัดหนองคาย โดยผลิตในรูปยางก้อนถ้วย
ยางแผ่นดบิ และนา้ ยางสด ให้กับผรู้ วบรวมหรอื โรงงานยางทัง้ ในและนอกจังหวดั
2) ผู้รวบรวม มีภูมิลาเนาทั้งในพ้ืนที่เดียวกับแหล่งผลิตและนอกพ้ืนที่ ได้แก่ สหกรณ์ ลานรับซ้ือ
ผู้ประกอบการรวบรวมยาง ย่ีปวั่ โดยจะรวบรวมและรบั ซือ้ ยางพารา แล้วนาไปจาหนา่ ยทงั้ ในและนอกจังหวดั
3) ตลาดกลางยางพาราจังหวัดหนองคาย เป็นหน่วยกลางประสานการซ้ือขายระหว่างเกษตรกร/
กลุ่มเกษตรกรในจงั หวดั หนองคายกับพ่อค้าคนกลางท้งั ในและนอกจงั หวดั
4) โรงงานยางแท่งในจังหวัดหนองคายมี 1 แห่ง คือ บริษัท ถาวรอุตสาหกรรมยางพารา (อีสาน)
จากดั ท่ีตงั้ อยู่ท่ีอาเภอเมือง จังหวัดหนองคาย รับซ้ือยางก้อนถ้วย เพ่ือผลิตยางแท่ง เอสทีอาร์ 20 มีกาลังการผลิต
10 ตันตอ่ ชัว่ โมง และยางผสม มีกาลังการผลิต 12 ตันตอ่ ชวั่ โมง
5) โรงงานนอกจังหวัด ได้แก่ โรงงานยางแท่ง โรงงานน้ายางสด และโรงงานยางแผ่นรมควัน/
ยางแผ่นพง่ึ แหง้ ท่รี ับซอื้ ยางพาราจากจังหวดั หนองคาย
3.2.2 วิถีตลาด (Marketing Channel)
เกษตรกรยางพาราจังหวัดหนองคาย ส่วนใหญ่ผลิตยางก้อนถ้วยคิดเป็นร้อยละ 98 น้ายางสด
ร้อยละ 1 และยางแผ่นดิบร้อยละ 1 จะส่งออกนอกจังหวัด ซึ่งน้ายางสดและยางแผ่นดิบจะส่งออกนอกจังหวัด
เน่ืองจากในจังหวัดไม่มีโรงงานรับซ้ือ โดยน้ายางสดจะมีโรงงานน้ายางสดจังหวัดหนองบัวลาภูมารับซื้อในพ้ืนท่ี
ส่วนยางแผ่นดิบเกษตรกรนาไปจาหน่ายผ่านตลาดการยางพาราหนองคาย โดยการประมูลราคา ซ่ึงผู้รวบรวม
มาจากนอกจังหวัด ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดสกลนคร สาหรับยางพารามีช่องทางการขาย
ในจงั หวัด มี 3 เส้นทาง คือ
1) เกษตรกร/กลุ่มเกษตรกร ขายยางก้อนถ้วยโดยตรงไปยังโรงงานยางแท่งในจังหวัด ซึ่ง
เกษตรกรขายผลผลิตยางก้อนถ้วยร้อยละ 4.90 ของผลผลิตยางพาราทั้งจังหวัด สาหรับน้ายางสดร้อยละ 1.00
ของผลผลิตยางพาราทั้งจังหวัด จะขายโดยตรงไปโรงงานน้ายางสดในจังหวัดหนองบัวลาภู ซ่ึงเจ้าหน้าที่โรงงาน
จะเดินทางมารบั ซ้ือถึงบ้านเกษตรกร
2) เกษตรกร/กลุ่มเกษตรกร ขายยางก้อนถ้วยผ่านผู้รวบรวม ได้แก่ สหกรณ์ ลานรับซ้ือ
ผูป้ ระกอบการรวบรวมยาง ซ่ึงมีเกษตรกรขายยางก้อนถ้วยร้อยละ 83.30 ของผลผลิตยางพาราท้ังจังหวัด โดยส่งไป
เป็นวัตถุดิบโรงงานแท่งในจังหวัดร้อยละ 5.00 ส่งออกโรงงานยางแท่งนอกจังหวัดร้อยละ 78.30 โดยผู้รวบรวม
จะขับรถยนต์ขนาด 4 ล้อข้ึนไป เข้ามารับซ้ือผลผลิตในแหล่งผลิตหรือจุดรวบรวมประมาณ 2 คร้ังต่อเดือน
ผู้รวบรวมรับซ้ือยางก้อนถ้วยอายุ 15 วันขึ้นไป การซื้อขายส่วนใหญ่ใช้การประมูลราคา คิดเป็นร้อยละ 72.45
ท่ีเหลือขายตามน้าหนัก โดยผู้รวบรวมจะอาศัยราคาจากตลาดกลางยางพาราจังหวัดหนองคายมาอ้างอิงในการ
กาหนดราคาประมูล และจะกระจายผลผลติ ต่อไปยังโรงงานในจงั หวัด และส่งออกไปนอกจงั หวดั
27
3) เกษตรกร/กลุ่มเกษตรกร ขายผ่านตลาดกลางยางพาราจังหวัดหนองคาย ซ่ึงทาหน้าท่ีเป็น
หน่วยกลางประสานการซ้ือขายระหว่างเกษตรกรกับพ่อค้า เกษตรกรขายผลผลิตยางก้อนถ้วยร้อยละ 10.8 ของ
ผลผลิตยางพาราท้ังจังหวัด และยางแผ่นดิบร้อยละ 1.00 ของผลผลิตยางพาราทั้งจังหวัด เกษตรกร/กลุ่ม
เกษตรกรและพ่อค้าที่จะซ้ือขายต้องเป็นสมาชิกกับตลาดกลางยางพารา โดยจะนัดหมายการรวบรวมยางก้อนถ้วย
จากสมาชิกเฉลี่ย 2 ครั้งต่อเดือน ณ ลานรวบรวมสานักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดหนองคาย ตาบลพระบาทนา
สิงห์ อาเภอรัตนวาปี เทือ่ ถึงเวลานัดหมายเจ้าหน้าที่ผ้รู ับผิดชอบประจาตลาดกลางยางพาราจะตดิ ตอ่ พอ่ คา้ เพ่ือให้
เสนอราคาประมูล ยางก้อนถ้วยจะส่งไปยังโรงงานแท่งในจังหวัดร้อยละ 5.00 และส่งออกโรงงานแท่งนอกจังหวัด
ร้อยละ 4.80 สาหรับยางแผน่ ดิบ จะสง่ ไปยงั โรงงานแผ่นรมควนั หรือยางผงึ่ แห้งนอกจังหวดั ร้อยละ 1.00
ภาพรวมผลผลิตยางพาราจังหวัดหนองคายประมาณร้อยละ 85.1 จะส่งออกนอกจังหวัด เพ่ือเป็น
วัตถุดิบของโรงงานยางแท่ง โรงงานน้ายาง และโรงงานยางแผ่นรมควัน/ยางแผ่นผ่ึงแห้ง ที่เหลือประมาณร้อยละ
14.9 จะเป็นวัตถดุ บิ โรงงานยางแท่งในจังหวัดหนองคาย แสดงดงั ภาพที่ 5
ในจงั หวดั
นอกจงั หวดั 1.00 % 1.00 % โรงงานน้ายางสด
78.30 % (1.00 %)
เกษตรกร/กลมุ่ เกษตรกร 83.30 % (14.90 %)
.3 %
(85ย.น1าา้ งย0แาผง%สน่ ดด)ิบ 1% 4.90 % ผ้รู วบรวม 5.00 %
1% (83.30 %)
4.90 %
ยางกอ้ นถว้ ย 98 % 5.00 % โรงงานยางแทง่
ในจงั หวดั
9.80 % ตลาดกลางยางพารา (14.9 %) โรงงานยางแทง่
1.3.00%% (10.80 %) (83.10 %)
4.80 %
.3 % โรงงาน
1.00 % ยางแผน่ รมควัน/
.3 % ยางผึ่งแห้ง
(1.00 %)
แผนภาพท่ี 5 วถิ กี ารตลาดสินค้ายางพาราจงั หวดั หนองคาย
28
3.3 การวเิ คราะห์บญั ชีสมดลุ สินคา้ ยางพารา
จากการวิเคราะห์บัญชีสมดุลสินค้ายางพารา โดยใช้อัตราแปลงผลผลิตยางพาราท้ังหมด
ให้เป็นผลผลิตยางแห้ง พบว่า ด้านซัพพลาย (Supply) ปี 2560 จังหวัดหนองคายมีผลผลิตยางแห้ง 53,904.9
ตัน ขณะเดียวกันมีการนาเข้าผลผลิตมาจากจังหวัดอื่น 46,934.01 ตัน เม่ือรวมผลผลิจากเกษตรกรในจังหวัด
กับผลผลิตที่นาเข้ามาจากจังหวัดอ่ืนทาให้ด้านซัพพลายมีผลผลิต 100,838.91 ตัน สาหรับความต้องการใช้
(Demand) ปี 2560 ความต้องการใช้ยางพาราในจังหวัด 52,148.9 ตัน โดยใช้เป็นวัตถุดิบโรงงานยางแท่ง
52,148.91 ตัน และส่งออกไปจังหวัดอื่น 48,690 ตัน ผลรวมความต้องการใช้ท้ังสิ้น 100,838.91 ตัน ส่งผล
ให้ด้านซพั พลาย (Supply) มปี ริมาณยางแห้งเท่ากับดา้ นดีมานต์ (Demand)
ดงั นัน้ จึงสรปุ ได้ว่ายางพาราของจงั หวดั หนองคาย มีผลผลติ สมดุลกบั ความต้องการใช้ เนื่องจาก
โรงงานมีการผลิตตามคาส่ังซอ้ื ลว่ งหน้า ซ่ึงในบางช่วงยางในจังหวัดไม่เพียงพอจาเปน็ ตอ้ งนาเขา้ จากต่างจังหวัด
ได้แก่ บงึ กาฬ อุดรธานี และสกลนคร ในขณะเดยี วกันยางพาราในแหล่งปลูกหลกั ได้แก่ อาเภอสงั คม อาเภอเฝ้าไร่
และอาเภอรัตนวาปี มปี ริมาณมากแต่จะส่งออกนอกจงั หวัด ไดแ้ ก่ จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดเลย จังหวัดอุดรธานี
จังหวัดชลบรุ ี จังหวัดสงขลา ทาใหภ้ าพรวมผลผลิตยางพาราทั้งจังหวัดมีผลผลติ สมดลุ ดงั ตารางท่ี 11
ตารางที่ 11 การบรหิ ารจดั การสนิ คา้ ยางพาราระดับพน้ื ที่รายเดอื นของจังหวัดหนอ
รายการ ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค.
1. ด้านซัพพลาย (Supply) 6,963.62 4,773.68 3,141.46 2,717.95 3,894.04
1.1 ผลผลติ ยางพาราในจงั หวัด 4,835.27 2,237.05 447.41 350.38 1,859.72
1.2 การนาเข้า/ซอ้ื จากจังหวัดอื่น 2,128.35 2,536.63 2,694.05 2,367.57 2,034.32
2. ความตอ้ งการใช้ (Demand) 6,732.33 4,839.12 3,397.52 2,947.11 3,940.17
2.1 การใช้ของจังหวัด 2,364.84 2,818.48 2,993.39 2,630.63 2,260.36
- โรงงานยางแทง่ 2,364.84 2,818.48 2,993.39 2,630.63 2,260.36
2.2 สง่ ออกไปนอกจงั หวดั 4,367.49 2,020.64 404.13 316.48 1,679.81
3.ผลผลติ ส่วนเกิน/สว่ นขาด
(3) = (1) – (2) 231.29 -65.44 -256.06 -229.16 -46.13
ทีม่ า: จากการสารวจ
หมายเหตุ: อตั ราแปลง ยางแหง้ ยางพาราก้อนถว้ ย ตอ่ ยางพาราแหง้ เท่ากับ 1 กิโลก
ยางพาราแผน่ ดบิ ตอ่ ยางพาราแห้ง เทา่ กบั 1 กโิ ลก
นา้ ยางสด ต่อ ยางพาราแหง้ เทา่ กับ 1 กโิ ลก
29
องคาย
ปี 2560 ส.ค. ก.ย. ต.ค. หนว่ ย: ตนั ยางแหง้
มิ.ย. ก.ค. 9,595.91 10,649.82 15,117.88
5,698.48 8,116.54 5,660.01 6,716.55 7,692.23 พ.ย. ธ.ค. รวม
3,509.21 4,851.44 3,935.90 3,933.27 7,425.65 15,648.07 14,521.46 100,838.91
2,189.27 3,265.10 9,485.67 10,437.08 15,198.79 8,188.15 7,557.47 53,904.90
5,602.24 8,009.99 4,373.22 4,370.30 8,250.72 7,459.92 6,963.99 46,934.01
2,432.52 3,627.89 4,373.22 4,370.30 8,250.72 15,684.81 14,564.10 100,838.91
2,432.52 3,627.89 5,112.45 6,066.78 6,948.07 8,288.80 7,737.76 52,148.91
3,169.72 4,382.10 8,288.80 7,737.76 52,148.91
7,396.01 6,826.34 48,690.00
96.24 106.55 110.24 212.74 -80.91 -36.74 -42.64 0.00
กรัม ตอ่ 0.65 กิโลกรัม
กรัม ตอ่ 0.95 กิโลกรมั
กรมั ต่อ 0.35 กโิ ลกรัม
29
30
3.4 ปัญหาและอปุ สรรค
3.4.1 ดา้ นการผลิต
1) ปัจจยั การผลิตราคาสูง ได้แก่ คา่ เมลด็ พันธ์ุ คา่ ปุ๋ย และคา่ ยา
2) ค่าจ้างแรงงานสูง โดยเฉพาะค่ากรีด ซ่ึงส่วนใหญ่แบ่งในสัดส่วน 40 : 60 หรือ 50 : 50 ของ
ราคาขาย
2) ในบางช่วงผลผลติ ออกนอ้ ย หรือหน้ายางตาย
3) โรคและแมลงศตั รพู ชื เชน่ โรคเช้ือรา
4) ไม่มสี ถานที่จดั เกบ็ ผลผลิตยางก้อนถ้วยเพื่อรอขาย
3.4.2 ด้านการแปรรปู
1) เกษตรกรยังไมม่ กี ารแปรรูปเป็นผลิตภณั ฑ์ชนิดอื่น
2) โรงงานในจงั หวัดรบั ซือ้ เฉพาะยางก้อนถ้วย
3.4.3 ด้านการตลาด
1) ราคายางพาราตกต่า โดยเฉพาะในชว่ งท่ีผลผลิตออกสู่ตลาดมาก
2) การจากัดปรมิ าณการส่งออกยางพารา สง่ ผลให้โรงงานรับซื้อยางพาราลดลง
3) การรับซ้ือยางก้อนถ้วยโดยการประมูลราคา ไม่มีการแข็งขันประมูลอย่างแท้จริง ทาให้
ราคาไมเ่ ปน็ ธรรม
4) ระบบการจ่ายเงินล่าชา้
3.5 ข้อเสนอแนะ
3.5.1 การจัดระเบียบการรับซื้อยางก้อนถ้วยโดยวิธีประมูล ให้มีการแข็งขันประมูลอย่างแท้จริง เช่น
การกาหนดราคาข้นั ต่าโดยยึดจากราคาตลาดกลางยางพารา เป็นตน้
3.5.2 สนับสนนุ เงนิ ทุนซ้อื ปัจจัยการผลิตในระยะก่อนให้ผลผลติ
3.5.3 ส่งเสริมการปลูกพชื อนื่ ๆ ในระยะก่อนใหผ้ ลผลิต หรือการปลกู พืชผสมผสานในสวนยาง
3.5.4 จัดอบรม ถ่ายทอดองค์ความรู้ เก่ียวกับเทคโนโลยีในการผลิตยางพาราท่ีถูกต้องตามหลัก
วชิ าการให้แก่เกษตรกร พรอ้ มทั้งติดตามใหก้ ารชว่ ยเหลือเปน็ ระยะ
3.5.5 สนับสนุนให้เกษตรกรแปรรปู ยางพารา เพอ่ื สรา้ งมูลค่าเพิ่มให้กบั ผลผลิต
3.5.6 สนับสนุนให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มในการจาหน่ายผลผลิต และมีสถานที่จัดเก็บยางก้อนถ้วย
เพื่อสรา้ งอานาจต่อรองทางการตลาดกับพ่อคา้ คนกลาง
31
บทท่4ี พริกขี้หนู
4.1 สถานการณก์ ารผลติ
จังหวัดหนองคายจัดเป็นแหล่งปลูกพริกที่สาคัญอีกแห่งหน่ึงของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกษตรกร
จะปลูกพริก 3 สายพันธุ์ คือ พริกขี้หนู พริกใหญ่ และพริกหยวก พันธพ์ุ ริกขี้หนูท่ีนิยมปลูก คอื พริกขี้หนูสวน
และพริกซุปเปอร์ฮอต (Superhot) มีแหล่งปลูกที่สาคัญ ได้แก่ อาเภอท่าบ่อ อาเภอเมือง อาเภอศรีเชียงใหม่
และอาเภอสังคม พื้นที่ปลูกส่วนใหญ่เป็นพื้นท่ีค่อนข้างราบ ซ่ึงเหมาะสาหรับการทานา และปลูกพืชสวน
บริเวณริมแม่น้าโขง ลักษณะการปลูกพริกแบบสวน มีการไถ่ยกร่อง โดยจะเร่ิมปลูกต้ังแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม
ถึงสิงหาคม และเก็บเก่ียวผลผลิตในระหว่างเดือนพฤศจิกายน – เมษายน ปี 2560 จังหวัดหนองคายมี
เกษตรกรทปี่ ลูกพรกิ ขีห้ นู รวมทัง้ ส้ิน 692 ราย
เม่ือเปรียบเทียบระหว่างปี 2556 กับ 2560 พบว่า เนื้อท่ีปลูก เน้ือที่เก็บเก่ียว และผลผลิตพริกขี้หนู
ของจังหวัดหนองคายมีแนวโน้มลดลง โดยเน้ือที่ปลูกและเนื้อที่เก็บเกี่ยว ลดลงจาก 5,499 ไร่ เป็น 2,538 หรือ
ลดลงร้อยละ 46.15 และผลผลิตรวมลดลงจาก 5,457 ตัน เป็น 3,076 ตัน หรือลดลงร้อยละ 48.73
เนื่องจากเกษตรกรประสบปัญหาเร่ืองราคาผลผลิตตกต่า รวมท้ังโรคและแมลงศัตรูพืชรบกวน ซึ่งส่งผลให้
เกษตรกรลดเนื้อที่ปลูกและผลผลิตให้ได้รับความเสียหาย สาหรับผลผลิตต่อไร่เพ่ิมขึ้นจาก 1,048 กิโลกรัม
ต่อไร่ เป็น 1,212 กิโลกรัมต่อไร่ เนื่องจากเกษตรก็มีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีการผลิตพริกข้ีหนูเพ่ิมข้ึน
แสดงรายละเอียดดังตารางที่ 12
ตารางที่ 12 เน้อื ที่ปลูก เนื้อทเี่ ก็บเก่ียว และผลผลิตพรกิ ขหี้ นูของจงั หวดั หนองคาย ปี 2556 - 2560
ปี เนือ้ ทป่ี ลูก (ไร่) เน้ือทเ่ี กบ็ เก่ยี ว (ไร)่ ผลผลติ รวม (ตัน) ผลผลิตตอ่ ไร่ (กก.)
2556 5,499 5,208 5,457 1,048
2557 5,032 4,779 4,786 1,002
2558 4,518 3,948 5,795 1,468
2559 2,977 2,957 3,849 1,302
2560 2,538 2,538 3,076 1,212
อตั รา (%) - 46.15 - 48.73 - 56.37 15.65
ทม่ี า: สานกั งานเกษตรจังหวัดหนองคาย (2560)
เมื่อพิจารณาเป็นรายอาเภอ ปี 2560 จงั หวัดหนองคายมแี หล่งปลกู พรกิ ข้ีหนู ไดแ้ ก่ อาเภอท่าบ่อ
อาเภอเมือง อาเภอศรีเชียงใหม่ และอาเภอสังคม ด้านผลผลิตรวมมากที่สุด คือ อาเภอท่าบ่อ 2,319 ตัน
รองลงมาคือ อาเภอเมือง 586 ตัน และอาเภอศรีเชียงใหม่ 160 ตัน สาหรับผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่มากที่สุด
32
คือ อาเภอศรีเชียงใหม่ 2,000 กโิ ลกรัมต่อไร่ รองลงมาคอื อาเภอท่าบ่อ 1,222 กิโลกรมั ต่อไร่ และอาเภอเมือง
1,066 กโิ ลกรมั ต่อไร่ แสดงรายละเอียดดังตารางที่ 13
ตารางท่ี 13 เน้ือที่ปลูก เน้ือที่เก็บเก่ียว และผลผลิตพริกขี้หนูของจังหวัดหนองคาย แยกรายอาเภอ ปี 2560
ลาดบั ที่ อาเภอ พื้นท่ปี ลูก พ้ืนทีเ่ ก็บเกี่ยว ผลผลิตรวม ผลผลิตเฉล่ยี
(ไร)่ (ไร่) (ตัน) (กก./ไร่)
1 เมอื ง 550 550 586 1,066
2 ทา่ บ่อ 1,898 1,898 2,319 1,222
3 โพนพสิ ยั - -- -
4 ศรีเชียงใหม่ 80
5 สงั คม 10 80 160 2,000
6 สระใคร -
7 เฝ้าไร่ - 10 11 1,100
-- -
-- -
8 รตั นวาปี - - - -
9 โพธติ์ าก - - - -
รวม 2,538 2,538 3,076 1,212
ทม่ี า: สานักงานเกษตรจังหวดั หนองคาย (2560)
พริกขี้หนูในจังหวัดหนองคายจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้หลังจากท่ีเกษตรกรมีการปลูกในแปลงแล้ว
ประมาณ 3 – 4 เดือน สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทุก ๆ 7 วัน หรือประมาณ 4 ครั้งต่อเดือน ในช่วงเร่ิมแรก
จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ปริมาณค่อนข้างน้อย แล้วทยอยเพ่ิมข้ึนตามลาดับ ซ่ึงผลผลิตท่ีเก็บเกี่ยวได้แต่ละครั้ง
ประมาณ 100 – 200 กิโลกรัมต่อไร่ จังหวัดหนองคายปลูกพริกข้ีหนูในฤดูแล้ง ซึ่งผลผลิตจะออกสู่ตลาดตั้งแต่
เดอื นพฤศจิกายน - เมษายน แสดงรายละเอียดตารางท่ี 14
ตารางท่ี 14 ประมาณการรอ้ ยละผลผลิตพริกขี้หนอู อกสตู่ ลาดรายเดือนของจังหวดั หนองคายปี 2560
เดอื น ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
ร้อยละ 19.64 41.07 16.96 8.93 - - - - - - 4.46 8.93
ท่มี า: จากการสารวจ
33
4.2 สถานการณ์การตลาด
4.2.1 โครงสรา้ งตลาด
1) เกษตรกร ผู้ปลูกพริกส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่เป็นรายย่อย โดยจะจาหน่ายผลผลิตในรูปพริกสด
ให้กับผูร้ วบรวมท้องถิ่น พรกิ สดทเี่ กษตรกรจาหน่ายจะมกี ารคัดเกรดดว้ ยสายตาก่อนจาหน่าย
2) ผู้รวบรวมท้องถ่นิ ผูร้ วบรวมสว่ นใหญ่มีภมู ิลาเนาอยูใ่ นพืน้ ท่ีเดียวกบั แหลง่ ผลิต จะรับซอ้ื ผลผลิต
จากเกษตรกรสปั ดาหล์ ะประมาณ 1 ครงั้ ซ่ึงการซอ้ื ขายไม่มีการทาสญั ญาระหว่างกนั แตผ่ ู้รวบรวมจะอาศยั ราคาจาก
ตลาดปลายทางมาใช้อ้างอิงในการกาหนดราคารับซ้ือจากเกษตรกร และกระจายผลผลิตต่อไปยังพ่อค้าส่งในจงั หวัด
และส่งออกไปจงั หวัดอ่นื
3) พ่อค้าส่งในจังหวดั จะรับซือ้ ผลผลิตในรปู พริกสดจากผ้รู วบรวมท้องถน่ิ เพอ่ื นามาจาหนา่ ยใหก้ ับ
พอ่ คา้ ปลีกในจังหวดั และสง่ ออกไปยังต่างจงั หวดั
4) พ่อค้าปลีกในจังหวัด จะรับซื้อผลผลิตในรูปพริกสดจากพ่อค้าส่งในจังหวัด เพื่อนามาจาหน่าย
โดยตรงให้กบั ผบู้ รโิ ภคในจงั หวดั
4.2.2 วิถกี ารตลาด
จากการสารวจวิถีการตลาดสินค้าพริกข้ีหนู พบว่าเกษตรกรจะจาหน่ายผลผลิตให้กับผู้รวบรวม
ท้องถิ่นมากที่สุด ร้อยละ 95.00 ของผลผลิตทั้งหมด ผู้รวบรวมจะส่งผลผลิตออกไปจังหวัดอื่น ร้อยละ 90.00
และจาหน่ายให้กับพ่อค้าส่งในจังหวัด ร้อยละ 5.00 ของผลผลิตท่ีรับซ้ือ ในขณะที่เกษตรกรบางรายจาหน่าย
ให้กบั พอ่ คา้ ส่งในจังหวัดโดยตรง ร้อยละ 5.00 ของผลผลิตทั้งหมด พอ่ คา้ ส่งในจังหวัดจะจาหน่ายผลผลิตให้กับ
พอ่ ค้าปลีกในจังหวดั รอ้ ยละ 10.00 ของผลผลิตที่รบั ซ้ือ และพ่อค้าปลีกในจงั หวัดจะจาหนา่ ยให้กับผ้บู ริโภคใน
จงั หวดั รอ้ ยละ 10.00 ของผลผลิตที่รบั ซ้อื แสดงดังภาพที่ 6
95.00 % ผูร้ วบรวมท้องถ่นิ 90.00 % สง่ ออกจงั หวดั
(95 %) อื่น
ผ้บู ริโภค (90%)
5.00%
เกษตรกร พอ่ ค้าปลกี ในจังหวดั
(100%) 5.00 % พอ่ ค้าสง่
ในจังหวดั (10%)
ในจังหวดั
(10%)
(10%)
(ผลผลิต แผนภาพท่ี 6 วิถกี ารตลาดสินคา้ พรกิ ข้ีหนูจงั หวัดหนองคาย
34
4.3 การวเิ คราะห์บญั ชสี มดลุ สินค้าพรกิ ข้ีหนู
จากการวิเคราะห์บัญชีสมดุลสินค้าพริกข้ีหนู โดยใช้อัตราแปลงผลผลิตพริกขี้หนูท้ังหมด
ให้เป็นผลผลิตพริกข้ีหนูสด พบว่า ด้านซัพพลาย (Supply) ปี 2560 คาดว่าจังหวัดหนองคายมีผลผลิต
พริกข้ีหนูสด 3,075.69 ตัน ขณะเดียวกันมีการนาเข้าผลผลิตมาจากจังหวดั อื่น 25.60 ตัน เม่ือรวมผลผลิตจาก
เกษตรกรในจังหวัดกับผลผลิตที่นาเข้ามาจากจังหวัดอ่ืนทาให้ด้านซัพพลายมีผลผลิต 3,101.29 ตัน สาหรับ
ด้านดีมานต์ (Demand) หรือความต้องการใช้ ปี 2560 ความต้องการใช้พริกขี้หนูสาหรับการบริโภคและขาย
ในจังหวัด 307.57 ตัน และส่งออกไปจังหวัดอื่น 2,768.12 ตัน รวมด้านดีมานต์ 3,101.29 ตัน ส่งผลให้
ดา้ นซัพพลาย (Supply) มปี ริมาณพรกิ ข้ีหนเู ทา่ กับดา้ นดีมานต์ (Demand)
ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าพริกขี้หนูของจังหวัดหนองคาย มีผลผลิตสมดุลกับความต้องการใช้ใน
จังหวัด ถึงแม้ว่าเดือนพฤษภาคม - ตุลาคม ไม่มีผลผลิตพริกขี้หนูของจังหวัดหนองคาย แต่ผู้บริโภคยังมีความ
ต้องการอย่างต่อเน่ือง ทาให้พ่อค้าในจังหวัดหนองคายต้องนาเข้าพริกขี้หนูมาจากจังหวัดอื่น ได้แก่ จังหวัด
สกลนคร จังหวัดนครพนม จังหวัดอุบลราชธานี และประเทศเวียดนาม ในราคาจึงค่อนข้างสูงเฉลี่ย 50 - 100
บาทต่อกิโลกรัม โดยส่วนใหญ่พ่อค้าซื้อพริกมาจากตลาดอุดรเมืองทอง จังหวัดอุดรธานี ซ่ึงเป็นตลาดค้าส่ง
ผักผลไม้ท่ีใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทาให้ภาพรวม ปี 2560 ผลผลิตท้ังจังหวัดสมดุลกับ
ความต้องการใช้ แสดงรายละเอียดดังตารางที่ 15
ตารางที่ 15 การบรหิ ารจัดการสนิ ค้าพริกข้หี นรู ะดบั พ้นื ท่ีรายเดอื นของจังหวัดหนอ
รายการ ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค.
4.30
1. ด้านซัพพลาย (Supply) 604.13 1,263.31 521.69 274.69
-
1.1 ผลผลติ ในจงั หวัด 604.13 1,263.31 521.69 274.69 4.30
4.30
1.2 นาเขา้ ผลผลิต - --- 4.30
4.30
2. ด้านดีมานต์ (Demand) 604.13 1,263.31 521.69 274.69 0.00
0.00
2.1 ความต้องการใชใ้ นจังหวดั 60.41 126.33 52.17 27.47
- บริโภคและขายในจงั หวัด 60.41 126.33 52.17 27.47
2.2 ส่งออกไปจงั หวดั อ่ืน 543.73 1,136.98 469.52 247.22
3. ผลผลติ สว่ นเกนิ /ขาด (3=1–2) 0.00 0.00 0.00 0.00
ท่ีมา: จากการสารวจ
35
องคาย
หน่วย: ตันสด
ปี 2560
ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. รวม
4.20 4.30 4.30 4.20 4.30 137.19 274.69 3,101.29
- - - - - 137.19 274.69 3,075.69
4.20 4.30 4.30 4.20 4.30 - - 25.60
4.20 4.30 4.30 4.20 4.30 137.19 274.69 3,101.29
4.20 4.30 4.30 4.20 4.30 13.72 27.47 333.17
4.20 4.30 4.30 4.20 4.30 13.72 27.47 307.57
0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 123.47 247.22 2,768.12
0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00
35
36
4.4. ปญั หาและอุปสรรค
4.4.1 ด้านการผลิต
1) ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงข้ึน โดยเฉพาะค่าจ้างแรงงานเก็บเก่ียวผลผลิตและค่าปัจจัยการผลิตท่ีมี
ราคาสูง ไดแ้ ก่ คา่ เมลด็ พันธ์ุ ค่าป๋ยุ และคา่ เชื้อเพลงิ เป็นต้น
2) พนั ธ์ุพริกข้หี นูไมท่ นทานตอ่ โรคและแมลงศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคแอนแทคโนส (Anthracnose)
หรอื โรคกุ้งแหง้ ระบาด โรครา เพล้ยี ไฟ โรคเหี่ยว และหนอนเจาะผล
3) พนื้ ท่ที าการเพาะปลกู ประสบกบั อทุ กภัยในฤดฝู น
4) ขาดการรวมกลมุ่ เพื่อจาหน่ายผลผลิต
4.4.2 ด้านการแปรรูป
ขาดการแปรรปู เปน็ ผลติ ภณั ฑช์ นดิ อน่ื
4.4.3 ด้านการตลาด
1) ราคาพรกิ ตกต่าเปน็ ประจาทุกปี โดยเฉพาะในชว่ งทีผ่ ลผลติ ออกส่ตู ลาดมาก
2) เกษตรกรขาดอานาจต่อรองทางการตลาดกบั พอ่ คา้ คนกลาง
3) ขาดการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ เนื่องจากผลผลิตพริกจากหนองคายส่วนใหญ่จะถูก
รวบรวมไปส่งที่ตลาดอดุ รเมืองทอง จังหวัดอุดรธานี แล้วนากลับมาขายให้ผู้บริโภคในจังหวดั หนองคาย ทาให้
ราคาที่ผู้บริโภคซ้ือสงู
4.5 ข้อเสนอแนะ
4.5.1 สนับสนนุ ใหม้ ีการวจิ ัยและพัฒนาพนั ธ์พุ ริกท่ีมีคุณภาพ ทนต่อโรคและแมลงศตั รูพชื
4.5.2 สนบั สนุนให้มีการวางแผนการผลิตที่สอดคลอ้ งกบั ความต้องการของตลาด
4.5.3 จัดอบรมและถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีในการผลิตพริกท่ีถูกต้องตามหลักวิชาการ
ใหแ้ ก่เกษตรกร เพ่ือใช้เปน็ แนวทางในการลดตน้ ทุนการผลิต เชน่ การผลิตพรกิ แบบ GAP เปน็ ต้น
4.5.4 สนับสนุนให้เกษตรกรแปรรปู พริกข้ีหนสู ด ได้แก่ พรกิ แห้ง พริกแกง นา้ พรกิ เพ่ือสร้างมูลค่าเพิ่ม
ใหก้ บั ผลผลติ
4.5.5 สนับสนุนให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มในการผลิต การแปรรูปและจาหน่าย เพ่ือสร้างอานาจ
ต่อรองทางการตลาดกบั พอ่ ค้าคนกลาง
4.5.6 สนบั สนุนให้มกี ารควบคุมหรอื การประกนั ราคารบั ซ้ือขัน้ ต่าพริกข้หี นสู ด