โรงเรียนบุญเรอื งวิทยาคม
แบบทดสอบตามตัวช้ีวัด รายวชิ าวิทยาศาสตรพ์ ้ืนฐาน6 ว23102 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 3 ปกี ารศึกษา 2563
1. ข้อใดกลา่ วไดถ้ ูกต้อง
ก. กระแสไฟฟ้าไหลจากบรเิ วณที่มีความตา้ นทานสูงไปหาบรเิ วณที่มีความต้านทานตำ่
ข. ลวดตวั นำทม่ี คี วามต้านทานสงู จะยอมใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลผา่ นน้อย
ค. เมอื่ บริเวณสองบรเิ วณมีความต่างศักย์มากจะทำให้กระแสไฟฟ้าไหลไดน้ อ้ ยลง
ง. ในวงจรไฟฟ้า เมอ่ื เพม่ิ จำนวนแหล่งกำเนิดไฟฟ้าจะทำให้ความต้านทานรวมในวงจรลดลง
2. เม่อื อุณหภมู ิคงท่ี ปริมาณกระแสไฟฟา้ ในตวั นำไฟฟ้าจะเปน็ อย่างไร
ก. แปรผนั ตรงกับความต้านทาน
ข. แปรผกผนั กับพลังงานไฟฟ้า
ค. แปรผกผันกบั กำลงั ไฟฟา้
ง. แปรผันตรงกับความต่างศกั ย์
3. ฉลากของอุปกรณ์ไฟฟ้าระบุไว้วา่ 220 โวลต์ 5 แอมแปร์ ความตา้ นทานของอปุ กรณ์ไฟฟ้านีเ้ ปน็ เทา่ ไร
ก. 40 โอห์ม ข. 44 โอหม์
ค. 47 โอหม์ ง. 55 โอห์ม
4. พิจารณากราฟความสมั พนั ธร์ ะหว่างกระแสไฟฟา้ และความต่างศักยไ์ ฟฟา้ ของวงจรไฟฟา้ หนงึ่
ความต้านทานไฟฟ้าในวงจรน้ีมีค่าก่โี อหม์
ก. 2 โอห์ม ข. 5 โอห์ม
ค. 7 โอห์ม ง. 10 โอห์ม
5. วงจรไฟฟา้ หน่ึงมตี ัวตา้ นทาน 2 ตัว คือ X และ Y ถ้าต้องการวัดกระแสไฟฟา้ ทีไ่ หลผ่านตัวต้านทาน Y
จะต้องตอ่ แอมมเิ ตอรใ์ นวงจรไฟฟ้าตามข้อใด
ก. ข.
ค. ง.
6. กำหนดใหต้ วั ต้านทานทุกตัวมีความต้านทานเทา่ กัน ถ้าแหล่งกำเนดิ ไฟฟ้ามีแรงเคลื่อนไฟฟา้ เท่ากัน
วงจรไฟฟ้าในข้อใดมีกระแสไฟฟ้าไหลผา่ นนอ้ ยทส่ี ดุ
ก. ข.
ค. ง.
พิจารณาวงจรไฟฟา้ ใชต้ อบคำถามข้อ 7. - 8.
7. จากแผนภาพวงจรไฟฟา้ ข้อใดกลา่ วไดถ้ ูกต้อง
ก. กระแสไฟฟ้าที่ไหลในวงจรมคี ่า 10 แอมแปร์
ข. กระแสไฟฟ้าที่ไหลผา่ นตัวต้านทาน 10 โอหม์ มากกว่ากระแสไฟฟ้าทีไ่ หลผา่ นตัวตา้ นทาน 30 โอหม์
ค. กระแสไฟฟา้ ที่ไหลผ่านตัวต้านทาน 10 โอห์ม มีค่าเท่ากับกระแสไฟฟา้ ที่ไหลผ่านตัวต้านทาน 20 โอหม์
ง. กระแสไฟฟ้าทไ่ี หลผ่านตวั ต้านทาน 20 โอห์ม มีคา่ น้อยกว่ากระแสไฟฟา้ ท่ีไหลผ่านตวั ต้านทาน
30 โอหม์
8. ถ้าตอ้ งการใหม้ ีกระแสไฟฟ้าในวงจร 1 แอมแปร์ โดยการตอ่ ตวั ต้านทาน 5 โอห์ม เพ่ิมเข้าไปในวงจร
จะต้องต่อตวั ตา้ น 5 โอห์ม อย่างไร
ก. ตอ่ ตัวตา้ นทาน 5 โอห์ม อนกุ รมกบั วงจร
ข. ตอ่ ตัวตา้ นทาน 5 โอหม์ อนุกรมกับตัวต้านทาน 30 Ω
ค. ต่อตวั ตา้ นทาน 5 โอห์ม ขนานกับตัวต้านทาน 30 Ω
ง. ต่อตัวต้านทาน 5 โอห์ม อนกุ รมกบั ตวั ต้านทาน 20 Ω
9. พิจารณาวงจรไฟฟา้ ข้อใดกลา่ วได้ถกู ต้อง
ก. ตวั ต้านทาน A ตอ่ ขนานกับตัวตา้ นทาน B
ข. ตัวต้านทาน B ตอ่ อนกุ รมกับตวั ตา้ นทาน C
ค. ตวั ต้านทาน C ตอ่ ขนานกบั ตัวตา้ นทาน D
ง. ตวั ตา้ นทาน D ตอ่ ขนานกบั ตัวต้านทาน B
10. ตองต้องการทำป้ายไฟกระพริบเพือ่ นำไปเชียรเ์ พ่อื นทเี่ ขา้ ประกวดรอ้ งเพลง ตองควรเลอื กใช้อุปกรณ์
อิเล็กทรอนกิ ส์ในขอ้ ใด เพอ่ื สามารถประกอบเปน็ ข้อความได้
ก. ทรานซิสเตอร์ ข. ตวั เก็บประจุ
ค. ไดโอด ง. ไดโอดเปลง่ แสง
11. วงจรไฟฟ้าประกอบดว้ ยแบตเตอรขี่ นาด 1.5 โวลต์ 3 ก้อน ทรานซสิ เตอร์ และหลอดไฟที่มคี วามต่างศักย์
5 โวลต์ และมีแบตเตอรี่ 0.5 โวลต์ ตอ่ ท่ีขาเบส ทำใหห้ ลอดไฟสวา่ ง ข้อใดคอื แผนภาพของวงจรน้ี
ก. ข.
ค. ง.
12. อปุ กรณ์ไฟฟา้ ในข้อใดใช้พลงั งานไฟฟ้ามากท่สี ุด
ก. ใชอ้ ุปกรณ์ A 2,000 วตั ต์ เปน็ เวลา 5 นาที
ข. ใช้อปุ กรณ์ B 50 วตั ต์ เปน็ เวลา 1 ชว่ั โมง
ค. ใชอ้ ปุ กรณ์ C 150 วัตต์ เปน็ เวลาครึง่ ช่วั โมง
ง. ใช้อุปกรณ์ D 1,500 วัตต์ เป็นเวลา 10 นาที
13. ห้องเช่าแหง่ หน่งึ มีการใช้อุปกรณ์ไฟฟา้ ดงั นี้
หลอดไฟ 50 วัตต์ 2 ดวง ใชง้ าน 10 ชั่วโมงตอ่ วัน
โทรทศั น์ 200 วัตต์ 1 เครื่อง ใช้งาน 2 ชว่ั โมงต่อวัน
ตู้เย็น 150 วตั ต์ 1 เคร่ือง ใชง้ าน 24 ช่ัวโมงต่อวนั
ถา้ คา่ ไฟฟา้ ผันแปร -11.60 สตางคต์ ่อหนว่ ย และมีค่าบริการรายเดือน 38.22 บาท และคา่ ไฟฟ้าฐาน
หนว่ ยละ 2.5 บาท เจา้ ของห้องเชา้ แหง่ นตี้ ้องเสียค่าไฟฟ้าในเดือนกันยายนก่บี าท
ก. 350.65 บาท ข. 381.21 บาท
ค. 423.52 บาท ง. 472.5 บาท
14. ใครใช้เครื่องใชไ้ ฟฟ้าได้อย่างเหมาะสม
ก. หญงิ นำโจก๊ ท่เี พิ่งต้มเสร็จเข้าตเู้ ยน็ เพ่ือเกบ็ ไว้รบั ประทานในวนั รงุ่ ข้ึน
ข. หมวยรีดชุดนกั เรยี นของตนเองและของนอ้ งทจี่ ะใช้ตลอดทั้งอาทิตย์ในคราวเดยี วกัน
ค. แมนเปิดวทิ ยุก่อนนอนแล้วจึงลุกขน้ึ มาปดิ วิทยเุ มื่อถงึ เวลาตืน่ นอน
ง. ไม้ถอดปลั๊กตเู้ ยน็ ทกุ ครั้งก่อนออกจากบ้าน
15. การกระทำในขอ้ ใดทำให้เกดิ คลื่นกล
ก. ฉายไฟฉายผ่านอากาศ
ข. เผาไมฟ้ นื เพ่ือการหงุ ต้ม
ค. ออกแรงดึงปลายเชือกสองขา้ งดว้ ยแรงไม่เทา่ กนั
ง. การดึงสปรงิ ทม่ี ีปลายดา้ นหนึ่งยดึ ตดิ กับกำแพงเขา้ ออกเป็นจังหวะ
พจิ ารณารปู ส่วนประกอบของคลน่ื ใช้ตอบคำถามข้อ 16.-17.
16. ขอ้ ใดกล่าวได้ถูกต้อง
ก. จุด A และ จุด E เรยี กว่าสันคลื่น
ข. ระยะทางจากจุด B ถึง จดุ D เรียกว่าความยาวคลนื่
ค. คล่ืนขบวนน้มี แี อมพลจิ ูด 40 เซนติเมตร
ง. จำนวนลูกคล่นื ที่เกิดขึน้ คือ 2.5 ลกู
17. จากรูป ถ้าความถขี่ องคล่ืนขบวนนคี้ อื 5 เฮิรตซ์ คลืน่ ขบวนนมี้ คี วามเรว็ ก่เี มตรต่อวินาที
ก. 1 เมตรตอ่ วนิ าที ข. 1.5 เมตรต่อวินาที
ค. 20 เมตรต่อวนิ าที ง. 100 เมตรต่อวินาที
18. ขอ้ ใดจดั เป็นคลน่ื แม่เหล็กไฟฟา้ ข. คลน่ื นำ้
ก. คลืน่ เสยี ง ง. คลืน่ ในสปรงิ
ค. คล่นื วทิ ยุ
19. คลน่ื กลและคลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าตา่ งกนั อย่างไร
ก. ลักษณะการสัน่ ของอนภุ าคตัวกลางแตกต่างกนั
ข. ทศิ ทางการเคล่ือนทขี่ องคลนื่ แตกตา่ งกัน
ค. ความหลากหลายของชนิดคลื่นแตกตา่ งกนั
ง. ตวั กลางในการเคล่ือนทแ่ี ตกต่างกัน
20. คลนื่ แม่เหล็กไฟฟ้าในข้อใดนิยมนำมาใชเ้ พือ่ ตรวจวินจิ ฉัยทางการแพทย์
ก. คล่ืนวิทยุ ข. คลน่ื ไมโครเวฟ
ค. รงั สอี ินฟราเรด ง. รังสเี อกซ์
21. ต่อกล่องแสงทำให้เกดิ ลำแสงออกจากช่องวา่ งตามแนวลำแสง X ส่องไปตกกระทบแผน่ สงั กะสรี าบเรียบ
ทีจ่ ุด O ดังภาพ
รังสสี ะทอ้ นของลำแสง X จะอย่ใู นแนวใด
ก.
ข.
ค.
ง.
22. ข้อใดแสดงรงั สีของแสงท่ีทำใหเ้ กดิ ภาพตน้ ไม้จากกระจกเงาราบไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. ข.
ค. ง.
23. พจิ ารณาแผนภาพแสดงการเกิดภาพจากกระจกเงาโคง้ เวา้ ตอ่ ไปน้ี
ขอ้ ใดกล่าวได้ถกู ต้อง ข. ระยะภาพน้อยกว่าระยะวัตถุ
ก. ภาพท่ีเกิดข้นึ เปน็ ภาพเสมือน ง. ภาพเกิดขน้ึ ที่ตำแหน่งจดุ ศูนย์กลางความโคง้
ค. ขนาดภาพใหญ่กว่าขนาดวัตถุ
24. ชาวบา้ นกำลังจับปลาโดยใชฉ้ มวก เขายนื นง่ิ อยกู่ ลางลำธารและมองเห็นปลาว่ายอยดู่ ้านหน้า เขาควรพ่งุ
ฉมวกไปอยา่ งไรจึงจะมโี อกาสจับปลาได้
ก. พุ่งฉมวกให้ลึกกว่าตำแหนง่ ปลาทมี่ องเหน็ ข. พงุ่ ฉมวกให้ตน้ื กว่าตำแหน่งปลาท่ีมองเห็น
ค. พุ่งฉมวกใหต้ รงกบั ตำแหน่งปลาที่มองเห็น ง. พุ่งฉมวกไปด้านข้างของตำแหนง่ ปลาทม่ี องเห็น
25. ข้อใดแสดงทิศทางการเคลอ่ื นทีข่ องแสงผา่ นเลนส์เวา้ ไดถ้ กู ต้อง
ก.
ข.
ค.
ง.
26. ข้อใดกล่าวไม่ถูกตอ้ ง
ก. ภาพทเ่ี กิดจากวตั ถุวางหน้าเลนส์เวา้ โดยมีระยะวัตถุเทา่ กบั ความยาวโฟกัสจะเกิดภาพเสมอื นขนาดเลก็
กวา่ วัตถุ
ข. ภาพท่ีเกิดจากวตั ถุวางหน้าเลนส์นูน โดยมรี ะยะวัตถนุ ้อยกวา่ ความยาวโฟกัสจะเกดิ ภาพจรงิ ขนาดเล็ก
กว่าวตั ถุ
ค. ภาพทเี่ กดิ จากวตั ถวุ างหน้าเลนสเ์ วา้ โดยมรี ะยะวตั ถุมากกว่าความยาวโฟกัสจะเกดิ ภาพเสมือนขนาดเล็ก
กว่าวตั ถุ
ง. ภาพท่ีเกิดจากวัตถุวางหน้าเลนสน์ ูน โดยมรี ะยะวัตถุอยู่ระหว่างจดุ โฟกสั และจดุ ศนู ย์กลางความโค้ง
จะเกิดภาพจรงิ ขนาดใหญ่กว่าวตั ถุ
27. หลังจากฝนตกมาตลอดช่วงบา่ ย ยทุ ธสงั เกตเหน็ รุ้งกนิ น้ำบนทอ้ งฟ้า โดยมองเหน็ แถบสีแดงอยดู่ า้ นบน
ชัดเจนและมแี ถบสีมว่ งอยู่ด้านลา่ ง ข้อใดกล่าวถึงปรากฏการณท์ ี่เกิดข้ึนไดถ้ ูกต้อง
ก. รุง้ กินน้ำท่ยี ุทธมองเหน็ เป็นรุ้งทตุ ิยภูมิ
ข. รงุ้ ปฐมภูมิและรงุ้ ทุตยิ ภูมิจะเกดิ ขึ้นในช่วงเวลาท่ีตา่ งกนั
ค. ในขณะที่ยทุ ธมองเห็นรุ้งกินนำ้ ยุทธกำลังหันหน้าไปทางทิศตะวันตก
ง. แถบสีท่ยี ทุ ธมองเหน็ เกิดจากแสงอาทติ ยต์ กกระทบดา้ นบนของหยดน้ำในอากาศแล้วเกดิ การหักเห
และสะท้อนกลับหมด
28. ชายคนหนง่ึ สามารถมองเห็นวัตถทุ ีอ่ ยใู่ นระยะไกลตาได้ชดั เจน แตไ่ มส่ ามารถมองวัตถุท่ีอยู่ในระยะใกลต้ า
ได้ ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ผ้มู คี วามผิดปกตทิ างสายตาดังกลา่ วได้ถูกต้อง
ก. เปน็ ลกั ษณะของผู้ที่มสี ายตาส้ัน
ข. บุคคลดังกล่าวจะสามารถอ่านหนังสือทีว่ างไวไ้ กลอย่างนอ้ ย 3 เมตรได้ชัดเจน
ค. จะตอ้ งใสแ่ วน่ ตาทีท่ ำจากเลนสเ์ ว้าเพื่อช่วยกระจายแสง ทำให้แสงที่หักเหผ่านเลนสต์ ามารวมกันใกลข้ ึ้น
ง. จะตอ้ งใสแ่ วน่ ตาทีท่ ำจากเลนสน์ ูนเพื่อช่วยรวมแสง ทำใหแ้ สงทีห่ ักเหผา่ นเลนส์ตามารวมกันใกลข้ ึน้
29. ขอ้ ใดแสดงแผนภาพการเคลือ่ นท่ีของแสงผ่านเลนส์ตาของผู้มสี ายตาส้นั และทัศนอุปกรณท์ ี่ต้องใช้
ได้ถูกต้อง
ก.
แสงที่ผ่านเลนส์ตาของผู้มีสายตาสน้ั แสงทผ่ี า่ นทศั นอุปกรณ์ท่ีแก้ปญั หาผู้มีสายตาสน้ั
ข.
แสงที่ผ่านเลนสต์ าของผมู้ สี ายตาสั้น แสงท่ผี า่ นทศั นอุปกรณ์ที่แก้ปัญหาผู้มสี ายตาส้นั
ค.
แสงทผ่ี ่านเลนสต์ าของผมู้ สี ายตาสัน้ แสงทผ่ี า่ นทัศนอุปกรณ์ท่ีแก้ปัญหาผู้มีสายตาสั้น
ง.
แสงทผ่ี า่ นเลนส์ตาของผมู้ ีสายตาส้ัน แสงที่ผา่ นทศั นอุปกรณ์ท่แี ก้ปัญหาผู้มีสายตาส้ัน
30. หมวิ สังเกตลกั ษณะดวงตาของลูกหมีในขณะทีฉ่ ายไฟฉายผ่านดวงตาของลูกหมี จะสังเกตเหน็ ดวงตาของ
ลูกหมมี กี ารเปลยี่ นแปลงอย่างไร
ก. สขี องม่านตาจะเข้มข้ึน ข. กระจกตาจะนนู มากขน้ึ
ค. รูม่านตาจะหดตวั ง. ขนาดของม่านตาจะใหญ่ขึ้น
31. มาตรวดั ความสว่างสามารถวดั ความสวา่ งในหน่วยใด
ก. จลู ข. วัตต์
ค. ลกั ซ์ ง. เทสลา
32. ใครปฏบิ ัติตนในการถนอมสายตาได้เหมาะสมที่สุด
ก. บูมมกั จะอ่านหนงั สือบนรถในขณะเดินทาง
ข. บอยมกั จะใส่แว่นตากันแดดทกุ คร้ังก่อนออกจากบา้ น
ค. บิก๊ ทำงานผ่านหน้าจอคอมพิวเตอรท์ ั้งวนั ทุกวนั
ง. บอมเปดิ ดูโพสในสื่อสงั คมออนไลน์ในโทรศัพทม์ ือถือก่อนนอนหลงั ปดิ ไฟทกุ คนื
33. ข้อใดกล่าวได้ถกู ต้อง
ก. แรงท่ีทำให้ดวงจันทรโ์ คจรรอบโลกเปน็ แรงประเภทเดียวกับแรงท่ีทำใหโ้ ลกโคจรรอบดวงอาทิตย์
ข. แรงโนม้ ถว่ งทดี่ วงอาทติ ย์กระทำต่อดาวองั คารมากกวา่ แรงโนม้ ถว่ งที่ดวงอาทิตย์กระทำตอ่ โลก
ค. แรงโนม้ ถ่วงระหวา่ งมวลจะมคี ่าแปรผนั ตรงกับระยะทางระหว่างวัตถุ
ง. โลกและดวงจนั ทรม์ ีแรงดึงดดู ระหวา่ งกนั โดยทีแ่ รงทโี่ ลกกระทำต่อดวงจันทรม์ ากกว่าแรงท่ี
ดวงจันทร์กระทำต่อโลก
34. โลกมมี วล 5.97 1024 กิโลกรมั และดวงจันทร์มีมวล 7.35 1022 กโิ ลกรัม ในขณะท่เี กิดปรากฏการณ์
ซเู ปอร์ฟูลมนู ดวงจนั ทรอ์ ยู่ห่างจากโลกเพยี ง 3.57 105 กโิ ลเมตร ขณะนนั้ จะเกดิ แรงโน้มถ่วงระหวา่ งโลกและ
ดวงจันทร์เท่าไร กำหนดให้คา่ คงตัวความโน้มถ่วงสากลเทา่ กับ 6.674 10-11 นวิ ตัน เมตร2/กิโลกรัม2
ก. 22.97 1025 นิวตัน ข. 30.45 1025 นวิ ตนั
ค. 42.51 1025 นิวตนั ง. 58.75 1025 นวิ ตนั
35. พิจารณาภาพต่อไปน้ี
ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง
ก. เป็นชว่ งทป่ี ระเทศในแถบขัว้ โลกเหนอื จะมีเวลากลางวนั และกลางคืนยาวนานเท่ากนั
ข. ในชว่ งน้ดี วงอาทิตยจ์ ะขึ้นตรงทางทิศตะวันออกและตกตรงทางทิศตะวันตกพอดี
ค. ในช่วงดังกล่าว ประเทศไทยจะอยู่ในช่วงฤดหู นาว
ง. ตำแหน่งของโลกดังกลา่ วอย่ใู นช่วงเดอื นมิถุนายน
36. เพราะเหตุใดเราจงึ มองเห็นดวงอาทิตย์ข้นึ ทางทิศตะวนั ออกและตกทางทศิ ตะวนั ตก
ก. เพราะโลกหมนุ รอบตวั เองในทิศทวนเข็มนาฬกิ าเมือ่ มองข้ัวโลกเหนอื จากนอกโลก
ข. เพราะโลกหมุนรอบตัวเองในทิศตามเข็มนาฬิกาเม่ือมองขวั้ โลกเหนอื จากนอกโลก
ค. เพราะโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ในทิศทวนเขม็ นาฬิกาเมื่อมองจากด้านบน
ง. เพราะโลกโคจรรอบดวงอาทติ ย์ในทิศตามเข็มนาฬิกาเม่ือมองจากด้านบน
พจิ ารณาขอ้ มลู ต่อไปน้ีใช้ตอบคำถามข้อ 17 – 18
โบวป์ ระกอบอปุ กรณท์ ่จี ำลองการเปล่ียนแปลงรูปรา่ งของดวงจนั ทร์ ซึ่งประกอบดว้ ยปรซิ ึม
ฐานแปดเหลีย่ มที่ทำจากกระดาษแข็งสดี ำ โฟมทรงกลมพรอ้ มฐาน และชดุ หลอดไฟฟ้า ดังภาพท่ี 1
โฟมทรงกลม
เม่ือนำฝามาปดิ และเปิดสวติ ชห์ ลอดไฟฟ้า จากน้นั ส่องดโู ฟมทรงกลมภายในผา่ นรหู มายเลข 1 – 8
37. จากข้อมูล ถ้าสังเกตโฟมทรงกลมภายในผ่านรหู มายเลข 4 จะเห็นโฟมทรงกลมในลักษณะใด
ก. ข.
ค. ง.
38. จากขอ้ 17 ลักษณะของโฟมทรงกลมท่ีสงั เกตเห็นคลา้ ยกับลักษณะของดวงจนั ทรท์ เ่ี รามองเห็นในวนั ใด
ก. วันแรม 8 คำ่ ข. วันแรม 15 ค่ำ
ค. วนั ขนึ้ 8 ค่ำ ง. วันขนึ้ 15 ค่ำ
39. การท่ดี วงจันทร์ใช้เวลาในการโคจรรอบโลกนานกวา่ เวลาทโ่ี ลกหมุนรอบตวั เองทำใหเกิดสงิ่ ใด
ก. เรามองเห็นดวงจนั ทร์เพยี งดา้ นเดยี ว
ข. เรามองเหน็ ดวงจนั ทร์ขน้ึ จากขอบฟ้าช้าลงในแต่ละคืน
ค. เรามองเห็นดวงจนั ทรม์ ีรปู รา่ งเปลย่ี นไปในแต่ละคืน
ง. เรามองเหน็ ขนาดของดวงจนั ทรเ์ ปล่ียนไปในแตล่ ะคนื
40. ดาวเทียมในข้อใดมีวตั ถปุ ระสงคใ์ นการใช้ประโยชนแ์ ตกตา่ งจากพวก
ก. ไทยคม ข. อนิ เทลแซต
ค. สปตุ นกิ ง. ธอี อส
ตอนที่ 2 ใหน้ ักเรียนตอบคำถาม เขยี นคำตอบ หรอื แสดงวิธที ำ ลงในกระดาษคำตอบ
1.ให้นักเรียนอธบิ ายความหมายของคำหรือขอ้ ความต่อไปน้ี
1.1 คาบ
1.2 ความถ่ี
2.ใหน้ ักเรียน วาดรูปคลนื่ โดยใหร้ ะบตุ ำแหน่งของ เส้นแนวปกติ สันคลน่ื ท้องคล่นื ความยาวคล่ืนและแอมพจิ ูด
3.ให้นักเรยี นบอกชอื่ กลุ่มดาวท่นี กั เรียนร้จู ักและบอกชอ่ื ดาวที่สา่ งที่สดุ ในกลมุ่ ดาว จำนวน 3 กลุม่ ดาว เช่น
กล่มุ ดาวหมเี ล็ก มีดาวสว่างคือ ดาวโพลารีสหรือดาวเหนอื เป็นตน้