The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by suvapon.007, 2021-03-25 21:43:20

ภาพสะท้อนวิถีชีวิตของชาวเหนือผ่านนวนิยายของมาลา คำจันทร์

สัมมนา(1)

ด้านที่อย่อู าศยั

“หญ้าคามัดเป็นดุ้นวางขวางบนขื่อ เก่ียวมาไว้แต่หัวแล้ง
เย็บไพมุงกระท่อมก็แล้ว มุงผามมองก็ไม่หมด มุงคอกหมูก็ยัง
เหลอื ”

(บ้านไร่ชายดง, ๒๕๓๔: ๗๙)

“หมบู่ า้ นอาบ
จนั ทร”์

ด้านวิถีชีวิตที่อย่อู าศยั

สงู ขนึ้ ไปคอื โคง้ ฟา้ ตา่ ลงมาคือหบุ ห้วย หมู่บา้ นหลา่ เกวคีตัง้ อยู่ระหว่างฟา้ กบั น้า
โดยมีทวิ เขาสลับซับซอ้ นเป็นราวรั้วรอบด้าน หมบู่ ้านไมใ่ หญน่ ัก มีสกั ยส่ี ิบหลังคาเรือน
เหน็ จะได้

(หมู่บ้านอาบจันทร,์ ๒๕๒๓: ๔๘)

ด้านวิถีชีวิตท่ีอย่อู าศยั

หมบู่ า้ นออกนั อยู่เปน็ กระจกุ ถา้ มองจากที่สูงจะเห็นหลงั คาเกา่ คร่ารูปทรง
สามเหลยี่ มเบียดชิดกันแนน่ ดูเกะกะรกรุงรงั ไม่เปน็ ระเบยี บ ผู้เฒา่ ผแู้ ก่เล่าว่า สาเหตุที่
ต้องปลกู กระทอ่ มเบียดชิดกนั เพราะแต่กอ่ นนั้น ดงดอยรอบดา้ นอดุ มไผดว้ ยสัตว์รา้ ย
นานา

(หมู่บ้านอาบจันทร์, ๒๕๒๓: ๔๙)

ด้านวิถีชีวิตการใช้ภาษา

ทานา
“เจ๊อะโหมว่ ซะสอ่ ยบือเดอนาเจ?๋ ” นุโพบอกแมว่ ่าจะตาขา้ วดว้ ยไหม

(หมู่บ้านอาบจันทร์, ๒๕๒๓: ๔๒)

ด้านวิถีชีวิตการใช้ภาษา

ทานา

“ข้ามองเหน็ ขา้ มองเหน็ ลกู หลาน...ข้าเหน็ ปาเกอะยอจากไปทีละกล่มุ
ๆ ข้าเหน็ ลกู หลานผหี ลวงกลืนหายไปในหมโู่ ซว*”

(หมูบ่ ้านอาบจนั ทร์,๒๕๒๓: ๖๔)

ด้านวิถีชีวิตการใช้ภาษา

“เตน่าโพนสึ อ่ ม้ือแล เดเซอะสอ่ื เลอะพอกี่แม
ปกวาเหมเ่ ต่เดอหม่อื เดอควา เจ๊อะเกอ่ ตอ่ื โซแผละเตอะกา
หนอ่ โทะดอเจา๊ ะหมา่ ลอนา คีกาอ่อทีเตอ่ โกลคา
แกวะ๊ ลิเด่อแซลิแมะปรู๊ เนอะเหม่โปมาซะจ”ู
(หม่บู ้านอาบจนั ทร์, ๒๕๒๓: ๕๔)

ด้านวิถีชีวิตการใช้ภาษา

“อาจจะสองปหี รือสามปขี ้างหน้า ข้าตอ้ งเก็บเงินให้ได้กอ่ น ขา้ เองกไ็ มร่ ู้
วา่ เมื่อไรถงึ จะพอทาพธิ ีอ่อมุ – ทอปกวา*”

(หมบู่ ้านอาบจนั ทร์, ๒๕๒๓: ๑๒๐)

ด้านวิถีชีวิตการประกอบอาชีพ

“ชว่ งนีแ้ หละ เป็นเดือนท่ีทรมานท่ีสดุ ของพวกเรา...” “หวงั วา่ มนั คงไมน่ านนกั ”
ท่าทีเซือ่ งซึมและหดหู่ทดทอ้ ปรากฏอย่ทู กุ ใบหน้า ผ้คู นที่ไม่มีอะไรจะทาจับกลมุ่ คยุ กนั
เป็นแหง่ ๆ ก็จะไปทาอะไรได้ ร้อนออกอยา่ งน้ีแม้แตห่ มหู มายงั หดหวั เข้ารม่ หนงั คนไม่ได้
หนาอยา่ งหนงั ควาย งานไรง่ านนาทเ่ี สร็จก็เสรจ็ ไปแล้ว ฤดดู านาหนา้ ใหมก่ ็ยังมาไม่ถึง
“ไม่รู้มนั จะแลง้ ไปถงึ ไหน อาหารการกินฝืดเคืองไมเ่ คยพบ”

(หม่บู ้านอาบจนั ทร,์ ๒๕๒๓: ๗๘)

ด้านวิถีชีวิตการประกอบอาชีพ

...เปละโพกระทุ้งไมเ้ สีย้ มปักดนิ ฉึก ๆ หน่อแปเชอหยอดเมลด็ ข้าวไล่หลังแลว้
เกลีย่ ดนิ กลบด้วยองุ้ เทา้ ไรก่ วา้ งกลางปกี เขารายล้อมแรงงานในครอบครวั ทเี ท่ามดต่าง
ขนกันมาหมด...

(หมู่บา้ นอาบจนั ทร,์ ๒๕๒๓: ๑๑๒-๑๑๓)

ด้านวิถีชีวิตการประกอบอาชีพ

แดดจา้ ฟ้าโลง่ โล่งจนถงึ ลิบลิ่วเป็นสคี รามเขม้ นาในหุบเขาเก็บเกีย่ วแลว้ ฟอ่ น
ขา้ วขนาดการวบลูกกอ่ ซอ้ น ๆ กนั เป็นกาแพง ขา้ งในกองล้อมมีเส่อื ผืนใหญ่ มคี น และ
รางไมส้ าหรบั รองรบั มดั ข้าวถูกฟาดรางฮับ ๆ เม็ดขา้ วไหลลงรวมกนั บนเส่อื ฟ่อนใด
ฟาดเสรจ็ กถ็ ูกเหวยี่ งออกนอกกาแพง นาข้าวถูกเก็บเกี่ยวแลว้ นาข้ันบันไดว่างโหวง
เหลอื แตต่ อฟางกับควายก้มหนา้ งดุ ๆ เล็มหนอ่ ขา้ ว

(หมู่บา้ นอาบจันทร,์ ๒๕๒๓: ๑๔๐)

ด้านวิถีชีวิตการแต่งกาย

หม่อเงพอก้มหน้าเอามดี ขูดเลบ็ ตีนดงั แกรกๆ นางหน่อทคี าขยับหนงั กวางให้
กระชับแล้วเร่ิมลงมอื กระทงุ้ ไมต้ ุก ๆ นานแลว้ ทนี่ างไมไ่ ด้จบั กระสวยยจบั เสน้ ด้าย
เพราะไม่มเี งนิ ซอ้ื ฝ้าย ปนี ี้หมอ่ เงพอโตแล้ว มันเป็นหนุม่ แล้วนางตั้งใจว่าจะทอเช-กวอ*
ตัวสวยท่ีสดุ ใหม้ ัน...

(หมู่บา้ นอาบจันทร,์ ๒๕๒๓: ๑๔๓)

ด้านวิถีชีวิตอาหาร

หมอกเหมยยังหม่ ตัวอย่บู างเบา เม่อื หน่อแปเชอยกสารับออกมา สารับขา้ ว
เรยี กวา่ เซอะบิ ในเซอะบิมขี้ า้ วสวยหงุ เขละ ๆ จบั เป็นกอ้ นจุอยู่เตม็ กลางข้าวแขวะเป็น
ทวี่ า่ งนิดหนึง่ สาหรบั วางกับ วันนม้ี ีมุสะโตถ่ ว้ ยหนง่ึ มุสะโตค่ ือน้าพริก เป็นอาหารหลัก
สาหรับคนทน่ี ี่ นุโพค้นุ เคยมันมาแตเ่ ลก็ ๆ แล้ว และบางชว่ งเวลาทอี่ าหารฝืดเคืองอยา่
วา่ แตน่ า้ พริกเลย ขอเพียงมีพริกหรือเกลอื อย่างใดอยา่ งหน่ึงมันกพ็ าข้าวกลนื ไดค้ ลอ่ งคอ
เชน่ กนั

(หมูบ่ า้ นอาบจันทร,์ ๒๕๒๓: ๔๓)

ด้านวิถีชีวิตอาหาร

เดก็ ๆ ในดงกว้างวา่ งงานแลว้ นาในหุบเขาทาแลว้ ยงั รอแต่การเก็บเกี่ยวเทา่ นัน้
เด็ก ๆ จงึ มกั ชกั ชวนกนั สะพายย่ามไปเกบ็ ลูกก่อ บางทีก็ไมม่ แี ตเ่ ดก็ ๆ เทา่ นัน้ ผูใ้ หญ่ก็
เก็บกันมากเพราะลกู กอ่ คอื พชื เงินพืชทอง บางครอบครวั ที่เกบ็ กันจรงิ ๆ จัง ๆ ก็ขน
พริกไป ขนเกลือไป ขา้ วสารอาจจะตดิ ไปสักสามสลี่ ติ ร ไปนอนคา้ งอา้ งแรมกันในป่า
โน่น วนั สองวันกลับมาพร้อมกับลูกกอ่ เป็นกระสอบ ๆ สาหรบั เดก็ ๆ มักจะเกบ็
ฉาบฉวยแถวรอบ ๆ หม่บู า้ น ไมจ่ ริงไมจ่ งั นัก

(หมบู่ า้ นอาบจนั ทร์, ๒๕๒๓: ๑๒๓)

ด้านวิถีชีวิตประเพณี วฒั นธรรม ความ
ดนตรี เครอื่ งดนตรี เช่ือ

...นุโพน่งั เหลาแกวอยู่ใกล้แม่ แกว คือเครอื่ งเปา่ ทีท่ าจากไม้สองชิ้นประกบกัน
เกลารูปให้เหมอื นเขาควายแล้วควกั ตรงกลางให้กลวงเปลา่ แกวไมม่ รี ะดับเสียงสงู ต่า
อยา่ งเตนา่ ความไพเราะของมันอยทู่ ี่การกกั เสียงสน้ั ยาวท่รี ปู ล่อยเสยี ง มนั ไมใ่ ช่เพลง
หรอก แตเ่ ปา่ แลว้ ครม้ึ อกคร้มึ ใจดี

(หมบู่ ้านอาบจันทร,์ ๒๕๒๓: ๑๓๗-๑๓๘)

ด้านวิถีชีวิตประเพณี วฒั นธรรม ความ
ดนตรี เคร่อื งดนตรี เช่ือ

...ลมพัดมาหววิ ในเสียงหวีดหววิ นั้น มีกังวานของเตนา่ *ล่องลอยอยู่แผ่ว
บาง...

(หมู่บา้ นอาบจันทร์, ๒๕๒๓: ๕๔)

ด้านวิถีชีวิตประเพณี วฒั นธรรม ความ
ดนตรี เครอ่ื งดนตรี เช่ือ

หมอ่ เงพอนอนแผอ่ ยู่ริมห้วยลาเล็กท่ีไหลผ่านบ้านไมไ่ กลนกั หนุ่มรุ่นพ่ขี ับลานา
อื่อทา*ดังจากบ้านใดบ้านหน่งึ ...

(หมู่บา้ นอาบจันทร์, ๒๕๒๓: ๑๐๐)

ด้านวิถีชีวิตประเพณี วฒั นธรรม ความ
พธิ แี ตง่ งาน เชื่อ

“ไมร่ ซู้ .ี .” หมอ่ เงพอล้มตัวนอนยาวเหยยี ด “อาจจะสองปหี รอื สามปขี ้างหนา้
ขา้ ตอ้ งเก็บเงนิ ให้ได้ก่อน ขา้ เองกไ็ มร่ วู้ ่าเมอื่ ไรถงึ จะพอทาพธิ ีออ่ มุ – ทอปกวา”

(หมบู่ า้ นอาบจันทร์, ๒๕๒๓: ๑๒๐)

ด้านวิถีชีวิตประเพณี วฒั นธรรม ความ
กฎการมสี ามีและภรรเยชา่ือคนเดยี ว

“เมอ่ื ไรแมจ่ ะเอาผัวใหม”่ “แกถามทาไม” “ตงั้ แต่พอ่ ตายแม่ลาบากนกั ขา้ สงสารแม่ สงสารนอ้ ง พวก
มนั ไมเ่ คยไดก้ ินอิ่มกนิ เตม็ ” “เงพอเอ๋ย...” นางยม้ิ กบั ลกู แต่ชา่ งเป็นยิ้มท่ีขดั ความรู้สกึ ยิง่ นัก “ไม่ดหี รอกหมอ่ เงพอ
หญิงหมา้ ยไม่ควรมผี วั ใหม่ปาเกอะยอเรายึดถืออยา่ งนน้ั ” “หน่อลเู ซยี ยงั เอาได้ มนั ก็เปน็ หม้ายอย่างแม่” “ไมด่ ี
หรอก” นางตอบเนอื ย ๆ “ถ้าพ่อแกเป็นขี้เหล้าขีฝ้ นิ่ อยา่ งผัวหนอ่ ลเู ซียกไ็ ปอีกอย่าง แตพ่ อ่ แกไม่เปน็ อย่างน้ัน มนั
เป็นคนดี แม่ไมอ่ ยากให้มนั ร้องไห้ในโลกมืด”

(หมูบ่ ้านอาบจันทร์, ๒๕๒๓: ๘๕-๘๖)

ด้านวิถีชีวิตประเพณี วฒั นธรรม ความ
ความเช่อื เรื่องผี เชื่อ

...หลงั จากผหี ลวงสร้างแผ่นดนิ เสร็จกส็ ร้างปาเกอะยอจากขา้ วสารเจ็ดเมด็
ต่อมาเมือ่ คนมีมากขน้ึ การแย่งและการทะเลาเบาะแว้งก็ตามมา ผีหลวงบนิ ลงฟา้ มา
สรา้ งกฎสร้างเกณฑใ์ ห้ หากใครไม่ทาตามกฎผีหลวงจะลงโทษ

(หมู่บา้ นอาบจนั ทร,์ ๒๕๒๓: ๖๕)

ด้านวิถีชีวิตประเพณี วฒั นธรรม ความ
ศาสนา เช่ือ

ยอดดอยถ้ามแี ผน่ ดนิ ราบเรียบเป็นปรมิ ณฑลราวสส่ี บิ ศอก บนยอดดอยมเี จดยี ์องคห์ นง่ึ เจดีย์พงั แลว้
อิฐกอ้ นโตกวา่ ฝ่ามือยงั กองอยู่กระจัดกระจาย เจดียน์ ไ้ี มใ่ ช่ฝีมือปาเกอะยอเปน็ แน่ เพราะปาเกอะยอไมเ่ คยสร้าง
สงิ่ ก่อสรา้ งใด ๆ ดว้ ยอฐิ ใกล้กบั ฐานเจดียม์ กี ระท่อมหลังหน่ึง เด็ก ๆ ร้จู กั กนั ในนาม “ตพุ๊ ระอะเดอ๊ ะ” (กระทอ่ ม
ของพระ) บนดอยน้ีถือเป็นอาศรมสญั จรของพระธรรมจาริก

(หมบู่ า้ นอาบจนั ทร์, ๒๕๒๓: ๗๓)

ด้านวิถีชีวิตประเพณี วฒั นธรรม ความ
ความเช่อื เรือ่ งการรกั ษเชา ่ือ

เปละโพหว่านล้อมอยู่นาน จนพ่อหมอคลายทิษฐิลง แกยันตัวกระย่องกระแย่ง เอื้อมหยิบย่ามแดงเก่า
ครา่ ประจาตวั ลงมาจากหงิ้ “เอาล่ะ ข้าจะถามผีกระดูกไก่ดู” แกหว่านโปรยกระดูกไก่ดาเกรียมลงกับผ้าแดงเปื้อน
น้าหมาก แกขมวดค้ิวอ้าอึ้งอยู่นาน สีหน้าหนักอึ้ง “นุโพเป็นอะไรพ่อเฒ่า?” “หนะที” “หนะที?” เปละโพอุทาน
หน้าซีดเผือด “ไอ้นุโพมันถูกหนะที ถูกคืนแรมเสียด้วย” หนะที! หนะที! เปละโพพึมพา หนะทีคือผีหว้ ยน้าซึ่งเป็น
ผีชั่วร้ายคอยรังควานคน พ่อหมอนั่งอ่านสีหน้าของผู้มาขอความช่วยเหลืออยู่นาน สองคนต่างเงียบงันไม่พูดไม่จา
“จะทาอยา่ งไรดีพ่อเฒ่า?” “คืนแรมผีมันแรง..” พ่อหมอลูบคางหรอมแหรม “แต่เอาเถอะ เห็นแก่หน้าพาดิโพพ่อ
แก..ข้าจะจัดการให้แกหาไขค่ า้ งรงั มาสิ ไข่คา้ งรังกบั หมเู ผอื กหนงึ่ ตัว เหล้าหนึง่ ไห..”

(หม่บู ้านอาบจันทร์, ๒๕๒๓: ๑๒๙-๑๓๐)

ด้านวิถีชีวิตการประพฤติคณุ ลกั ษณะ
นิ สยั

“แกยงั ดนี ะ มพี อ่ มีปืน แตข่ ้าสไิ ม่มีอะไรเลย พอ่ กไ็ มม่ ”ี “ถ้าพอ่ แบ่งได้ ขา้ จะ
แบ่งให้แก” “แกดีแตข่ ้าเสมอนะนโุ พ” “ไมเ่ ป็นไร เราเพอื่ นกนั ” นโุ พยิม้ ให้เพือ่ น “พ่อ
สอนข้าว่าปาเกอะยอด้วยกันต้องช่วยกัน ถา้ เราไมช่ ว่ ยกันแลว้ ใครจะมาชว่ ยเรา”

(หมู่บ้านอาบจนั ทร,์ ๒๕๒๓: ๕๐)

สรปุ

วิถีชีวิตของชาวปาเกอะยอถูกเขียนสอดแทรกผ่านเรื่องราวในนวนิยายเร่ือง “หมู่บ้านอาบจันทร์” ของ
มาลา คาจนั ทร์ ซ่ึงเป็นประสบการณช์ วี ิตของมาลา คาจนั ทรท์ ี่ไดเ้ คยเข้าไปอาศัยอยู่ร่วมกับหมู่บ้านชาวปาเกอะยอ
มาช่วงหน่งึ ในชีวิต และในเรื่องได้ปรากฏวิถีชีวิตต่าง ๆ ของชาวปาเกอะยออยหู่ ลายด้าน เช่น การสร้างท่ีอยูอ่ าศัย
บนดอยสงู โดยสร้างกระท่อมติดกันเน่ืองจากในป่ามีสัตว์ร้ายชุกชุม วิถีชีวิตที่อาศัยอย่กู ับธรรมชาติเป็นหลักและจะ
อยู่ร่วมกันเฉพาะกลุ่ม มีภาษา มีวิถีชีวิตแบบแผน มีกฎต่าง ๆ เป็นของตนเอง แต่ถึงแม้ชาวปาเกอะยอจะมีการ
ดารงชีวิตเฉพาะกลุ่มแต่ยุคสมัยและการเวลาได้เปลี่ยนแปลงไปจึงทาให้ต้องมีการติดต่อส่ือสารกับคนพ้ืนราบหรือ
คนในตัวเมืองจึงทาให้ชาวปาเกอะยอต้องเรียนรู้ภาษาไทย ทุกคนในหมู่บ้านมีความดิ้นรนที่จะเรียนรู้เสมอจึงได้ส่ง
ลูกหลานของตนเองไปเรียนหนังสือเพ่ือท่ีจะได้มีความรู้และดารงชีวิตต่อไปได้ และจากการที่ชาวปาเกอะยอได้
อพยพมาตั้งรกรากท่ีประเทศไทยมาเป็นเวลายาวนานจึงทาให้รับอิทธิพลวัฒนธรรมของประเทศไทยไปด้วยแต่ก็
ยังคงดารงรักษาแบบแผนวถิ ชี ีวิตและวฒั นธรรมอนั เปน็ เอกลักษณ์เฉพาะท้องถ่นิ ของชาวปาเกอะยอไว้อยู่

ด้านวิถีชีวิตการประพฤติคณุ ลกั ษณะ
นิ สยั

...ถา้ อา่ นหนงั สือได้กค็ งเหมอื นเดินกลางดงคนเดยี วได้ ไมต่ ้องเทยี่ วถามใครเวลา
พบเห็นในรูปภาพในกระดาษห่อยาสูบว่าน่อี ะไร เขาทาอะไร พอ่ เองกพ็ ดู วา่ รุ่นนุโพใคร
ไม่รู้หนงั สอื ไทยจะลาบาก เพราะว่าป่าดบิ ดงกวา้ งถูกเปิดออกทุกที ปาเกอะยอไม่อาจปิด
ขงั ตวั เองโดดเดย่ี วอีกตอ่ ไปแล้ว “ขอ้ หา้ มข้อประกาศอนั ใดทอ่ี าเภอสั่งมากเ็ ปน็ หนังสอื
ไทย จะซ้อื ควายขายควายกท็ าสัญญา จะเกิดจะตายกต็ ้องแจ้งกานนั ปาเกอะยอกบั โลก
ภายนอกตอ้ งเกยี่ วขอ้ งกนั มากขึ้น พอ่ ว่านุโพรูห้ นงั สือไทยไว้ก็ดี”...

(หมบู่ ้านอาบจนั ทร์, ๒๕๒๓: ๑๓๖-๑๓๗)

ทรรศนะของมาลา คา
จนั ทร์

สรปุ สมมติฐาน


Click to View FlipBook Version