The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Naddanai Gomala, 2021-03-18 00:25:46

ครูณัฐดนัย โกมาลา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563

ครูณัฐดนัย โกมาลา

บันทึกข้อความ

สว่ นราชการ โรงเรยี นวดั นำ้ รอบ

ที่ ………/2564 วนั ท่ี 11 เดอื น มีนำคม พ.ศ. 2564

เรือ่ ง ขอส่งแผนพัฒนำตนเองของขำ้ รำชกำรครู

เรียน ผอู้ ้ำนวยกำรโรงเรียนวดั น้ำรอบ
สิง่ ท่ีส่งมาด้วย แผนพัฒนำตนเองของขำ้ รำชกำรครู

+
.

ด้วยข้ำพเจ้ำนำยณัฐดนัย โกมำลำ ต้ำแหน่ง ครู โรงเรียนวัดน้ำรอบ ต้ำบลลำนสกำ อ้ำเภอ
ลำนสกำ จังหวัดนครศรีธรรมรำช สังกัดส้ำนักงำนเขตพืนท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำ นครศรีธรรมรำช
เขต 1 ได้จัดท้ำแผนพัฒนำตนเอง เพื่อเป็นกำรพัฒนำที่ตอบสนองควำมต้องกำรของแต่ละบุคคล
สนองควำมสนใจรูปแบบวธิ ีกำรพฒั นำ ทำ้ ใหก้ ำรปฏิบัติหนำ้ ท่ีมีควำมสมบรู ณ์ มีประสิทธภิ ำพและเกิด
ประสทิ ธิผลในกำรปฏิบัติงำน อันน้ำไปส่กู ำรพฒั นำใหเ้ ป็นครมู ืออำชีพท่ีมีมำตรฐำนอย่ำงแทจ้ รงิ ซ่ึงได้
จดั ท้ำเปน็ ทเี่ รียบร้อยแล้ว

จึงเรยี นมำเพ่ือโปรดพิจำรณำ

ลงชอ่ื
(นำยณัฐดนยั โกมำลำ)

ตำ้ แหนง่ ครผู ชู้ ่วย โรงเรียนวดั นำ้ รอบ

ความเห็นของผู้อานวยการ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชื่อ...................................................
(นำยสันตต์ ิ เกรำะแก้ว)

ต้ำแหน่ง ผ้อู ำ้ นวยกำรโรงเรียนวดั นำ้ รอบ ลำนสกำ

คำนำ

ตามที่ ก.ค.ศ.ได้กาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาตนเองและวิชาชีพครู (ว22/2560) เม่ือ
วันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 ข้อ 1. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ต้องได้รับการพัฒนาอย่าง
ต่อเน่อื งทุกปี โดยใหป้ ระเมินตนเองตามแบบ ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด พรอ้ มท้งั จดั ทาแผนการพัฒนาตนเอง
เปน็ รายปี ตามแบบทสี่ ่วนราชการกาหนด และเข้ารับการพัฒนาตามแผนอย่างเป็นระบบ และตอ่ เนื่อง
ฉะนนั้ ก่อนจะเลอื กหลกั สูตรคูปอง ครจู ะตอ้ งประเมินตนเอง จัดทาแผนพฒั นาตนเอง เพอ่ื ใหผ้ ู้บริหาร
อนุมัตหิ ลักสูตร ตาม ID Plan

กระทรวงศึกษาธิการ มุ่งเน้นให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา พัฒนาตนเองโดยยึดหลักการ
ประเมินสมรรถนะ (Competency Based Approach) จะทาให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถรู้จุดเด่น จุด
ด้อยของความสามารถในการปฏิบัติงานของตน และสามารถพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับความ
ต้องการจาเป็น ของของหนว่ ยงาน และของตนเองอยา่ งแท้จริง

ท้ังนี้ ครูจะต้องมีการวางแผนการพัฒนาตนเองในการจัดห้องเรียนที่มีคุณภาพ (Individual
Development Planning : IDP) เพ่ือเป็นการพัฒนาท่ีสนองตอบความต้องการแต่ละบุคคล สนอง
ความสนใจในรปู แบบวิธีการพัฒนา ก็จะส่งผลต่อสมรรถนะในการปฏบิ ัติหน้าที่ที่มีประสิทธิภาพตอ่ ไป
และเป็นการพัฒนาท่ีต่อเน่ืองจนทาให้การปฏิบัติหน้าท่ีมีความสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและเกิด
ประสิทธิผล ในการปฏิบัติงาน อันนาไปสู่การพัฒนาตนเองให้เป็นครูมืออาชีพที่มีมาตรฐานในการ
ปฏบิ ตั งิ านอยา่ งแท้จรงิ สามารถตรวจสอบได้ และพฒั นาสคู่ วามเปน็ วิชาชพี ตอ่ ไป

ณฐั ดนยั โกมาลา

สำรบญั หนำ้

คานา ข
สารบญั 1
ส่วนท่ี 1 บทนา 10
ส่วนที่ 2 ผลการประเมนิ ตนเอง 13
ส่วนท่ี 3 แผนการพฒั นาตนเอง 18
ส่วนท่ี 4 ความตอ้ งการในการพฒั นา

แผนพฒั นาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 1

สว่ นที่ 1
บทนำ

ควำมหมำยของแผนพัฒนำตนเอง
Individaul DevelopmentPlan = ID – Plan เปน็ แผนทีบ่ ุคคลไดก้ าหนดข้ึนใชเ้ ป็นแนวทาง

ในการเสริมสร้าง หรือเพ่ิมพูนสมรรถนะ คุณลักษณะที่จาเป็นในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมุ่งสู่
คุณภาพ ระดับสูง และบรรลุเปา้ หมายวิชาชพี ของตน

Individual Development Plan (ID Plan) สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากร
ทางการศึกษา ได้ให้ความหมายของ Individual Development Plan (ID Plan) หมายถึง การ
พัฒนาบุคลากรโดยยึดหลักการประเมินสมรรถนะ (Competency Based Approach) จะทาให้
ผู้ปฏิบัติงานสามารถรู้จุดเด่น จุดด้อยของความสามารถในการปฏิบัติงานของตนและสามารถพัฒนา
ตนเองให้สอดคล้องกับความตอ้ งการจาเป็นของหน่วยงานและของตนเองอย่างแทจ้ ริง อกี ท้งั จะทาให้
การพฒั นาครูดาเนินไปอยา่ งประหยดั และสอดคลอ้ งกับนโยบายของรฐั บาล

การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษามุ่งเน้นให้มีสมรรถนะตามมาตรฐานตาแหน่งและ
มาตรฐานวิชาชีพ ท้ังสมรรถนะหลัก (Core Competency) สมรรถนะการปฏิบัติงานในหน้าที่ หรือ
สมรรถนะประจาสายงาน (Functional Competency) และสมรรถนะเฉพาะตามกลุ่มสาระ
(Specificational Competency) ตามที่ ก.ค.ศ.กาหนด โดยยึดหลักการประเมินสมรรถนะ
(Competency Based Approach) เพราะจะทาให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถรู้จุดเด่นจุดด้อยของ
ความสามารถในการปฏิบัติงานของตนและสามารถพฒั นาตนเองใหส้ อดคล้องกับความต้องการจาเป็น
ของตนเอง และหน่วยงาน

ระบบการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน ได้
มุ่งเน้นให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา พัฒนาตนเองตามแนวทางดังกล่าว โดยเริ่มต้นจากการ
ประเมินสมรรถนะ การจัดทาแผนพัฒนาตนเองและดาเนินการพัฒนาตามแผนพัฒนาตนเองจนมี
สมรรถนะตามความต้องการของหน่วยงาน เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาสามารถดาเนินการ
พัฒนาตนเองตามระบบการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาได้อย่างถู กต้องตามกระบวนการ
สามารถพัฒนาสมรรถนะของตนเองเพิ่มข้ึนและส่งผลต่อผู้เรียนที่รับผิดชอบ (สถาบันพัฒนาครู
คณาจารย์ และบุคลากรทางการศกึ ษา. 2551)

ประสิทธิภาพประสิทธิผลของงานขึ้นอยู่กับคุณภาพของคนหรือบุคคล ในการปฏิบัติงานถ้า
บุคคลใดเป็นบุคคลที่มีคุณภาพหรือทางการ(วิชาการ)จะเรียกว่า มีสมรรถนะ (Competency)
(ความสามารถของบุคคลในทุก ๆ ด้านท้ังด้านความรู้ ความคิดความสามารถ ทักษะและคุณลักษณะ
คุณธรรมท่ีจาเป็นต่อการปฏิบัติงานให้บรรลุได้อย่างมีประสิทธิภาพ) ที่สูงย่อมส่งผลต่อคุณภาพของ
งานในหน้าที่ท่ีได้รับมอบหมายปัจจุบันในวงราชการก็ได้นาสมรรถนะเป็นตัวช้ีวัดความสามารถของ
บุคคลซึ่งสมรรถนะโดยทว่ั ไปจะแบ่งเป็น 2 สมรรถนะ คอื

1. สมรรถนะหลัก (Core Competency) หมายถึง สมรรถนะที่ทุกคนต้องมีหรือปฏิบัติได้
เป็นคุณลักษณะร่วมกันของบุคคลทุกตาแหน่งตัวอย่างสมรรถนะหลักของครูและบุคลากรทางการ
ศึกษาประกอบดว้ ย การมงุ่ ผลสมั ฤทธิก์ ารบริการท่ดี ี การพัฒนาตนเอง การทางานเปน็ ทีม

แผนพัฒนาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 2

2. สมรรถนะประจำสำยงำน (Functional Competency) เปน็ สมรรถนะทก่ี าหนดเฉพาะ
สาหรับแต่ละตาแหน่งเพ่ือให้บุคคลท่ีดารงตาแหน่งน้ันแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสมกับหน้าท่ีและ
สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ดีย่ิงข้ึนตัวอย่าง สมรรถนะประจาสายงานของครูประกอบด้วย การจัดการ
เรียนรู้การพัฒนาผู้เรียน การบริหารจัดการช้ันเรียน การวิเคราะห์ สังเคราะห์และการวิจัยการสร้าง
ความร่วมมือกับชุมชนตัวอย่างสมรรถนะหลักของบุคลากรทางการศึกษาประกอบด้วย การวิเคราะห์
สงั เคราะหแ์ ละการวิจยั การส่อื สารและการจูงใจ การพัฒนาศกั ยภาพบคุ คลการมีวิสยั ทัศน์

สาหรบั การพัฒนาบุคคลในอดตี ท่ผี ่านมาเป็นการพฒั นาแบบเหมารวมหรอื ยกเข่ง หมายความ
วา่ เม่อื เรอื่ งใดทีห่ นว่ ยงานต้องการพฒั นากจ็ ะพัฒนาแบบปพู รม คือพฒั นาทุกคนไม่รวู้ า่ มีความรูห้ รือไม่
มี ต้องการหรือไม่ต้องการเป็นปัญหาหรือไม่เป็นปัญหา แต่จะพัฒนาหมดสิ่งที่เป็นปัญหาของการ
พัฒนารูปแบบนี้ก็คือความไม่คุ้มค่าคือผู้เข้าร่วมพัฒนาจะสนใจเฉพาะบุคคลท่ีต้องการ อยากรู้ อยาก
ทราบเท่าน้ันสาหรับกลุ่มคนท่ีเหลือเป็นกลุ่มบุคคลที่ไม่ต้องการ ก็จะไม่ให้ความสาคัญ ไม่สนใจทาให้
เป็นอุปสรรคในการพัฒนา

ทางแก้ท่ีคิดว่าน่าจะเป็นไปได้คือ การพัฒนาบุคคลตามแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล
(Individual Development Plan: ID PLAN)โดยจะต้องผ่านกระบวนการประเมินสมรรถนะ ที่
ประกอบด้วย การประเมินตนเองร่วมกับเพื่อนร่วมงานหรือผู้บังคับบัญชาร่วมประเมิน นาผลสรุปผล
ว่าสมรรถนะใดท่ีจาเป็นต้องพัฒนาและสมรรถนะใด ท่ีไม่จาเป็นต้องพัฒนาต่อจากน้ันนามาจัดอันดับ
สมรรถนะท่ีจาเป็นต้องพัฒนา พร้อมให้เหตุผลประกอบว่าการพัฒนาสมรรถนะดังกล่าวจะส่งผลต่อ
อะไร ต่อใคร เช่น จะส่งผลต่อคุณภาพของนักเรียนหน่วยงาน ชุมชน วงการวิชาชีพ หรือตนเอง เป็น
ต้น หลักการจัดอันดับความสาคัญสมรรถนะท่ีจาเป็นเร่งด่วนในการพัฒนาของครู คือ ส่งผลต่อ
คณุ ภาพของนักเรียนเป็นหลกั สาหรบั ต่อตนเองควรเป็นอนั ดบั สุดท้าย

จากน้ันนาไปสู่การเขียนแผนพัฒนาตนเองรายบุคคลโดยให้นาเสนอรูปแบบ วิธีการพัฒนาใน
แต่ละสมรรถนะ หลาย ๆรูปแบบเพื่อเป็นทางเลือกในการพัฒนา พร้อมกับกาหนดช่วงระยะเวลาทจี่ ะ
พัฒนา(เร่ิมต้นและส้ินสดุ )และหนว่ ยงานหรือองคก์ รทจ่ี ะขอรบั การสนบั สนนุ ในการพัฒนา

ซึ่งจะเห็นว่าการพัฒนา โดยใช้ ID-PLAN จะเป็นการพัฒนาที่สนองตอบความต้องการแต่ละ
บุคคล สนองความสนใจในรูปแบบวิธีการพัฒนาก็จะส่งผลต่อสมรรถนะในการปฏิบัติหน้าที่ท่ีมี
ประสิทธิภาพต่อไปและจะเป็นจรการพัฒนาที่ต่อเน่ืองจนทาให้การปฏิบัติหน้าท่ีมีความสมบูรณ์มี
ประสิทธิภาพและประสิทธิผล และเปน็ ขา้ ราชการทด่ี ีตอ่ ไป ( ยืนยง ราชวงษ์, 2551)

แผนพัฒนาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 3

เครือข่ายที่ 5
โรงเรยี นวดั น้ารอบ

แผนพัฒนำตนเองของข้ำรำชกำรครู

(ID Plan: Individual Development Plan)
************

ข้อมลู ส่วนบุคคล

1. ชือ่ นาย ณฐั ดนัย โกมาลา
2. ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ -
3. เกดิ เมื่อวันที่ 27 เดือน กันยายน พ.ศ. 2536 อายุ 27 ปี 5 เดอื น
4. บรรจุเมือ่ วนั ท่ี 2 เดือน ตลุ าคม พ.ศ. 2560 อายุราชการ 3 ปี 5 เดอื น
5. เงินเดือน 19,420 บาท
6. ระดับการศึกษา

O ปริญญาตรีหรือเทียบเทา่ วุฒิ ค.บ. วิชาเอก คอมพิวเตอร์
O ปริญญาโทหรอื เทยี บเท่า วฒุ ิ - วิชาเอก -
O ปริญญาเอกหรือเทียบเท่า วุฒิ - วชิ าเอก -
O อ่ืน ๆ (ระบ)ุ ..........................................................................................................

กำรปฏบิ ัติงำนในโรงเรยี น

1. กำรสอน
1.1 กลมุ่ สาระทส่ี อน
1.1.1 กลุม่ สาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ)
ชั้น. ป.1-6 จานวน 6 คาบ/สัปดาห์
1.1.2. กลุ่มสาระสขุ ศึกษาและพลศึกษา รายวิชาสขุ ศึกษาและพลศึกษา
ชัน้ ป.4-ป.6 จานวน 6 คาบ/สัปดาห์
1.1.3. กลุม่ สาระสงั คมศึกษา รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชั้น ป.5-ป.6 จานวน 4 คาบ/สัปดาห์
1.1.4. กลมุ่ สาระสงั คมศกึ ษา รายวชิ าประวัตศิ าสตร์
ช้ัน ป.5-ป.6 จานวน 2 คาบ/สัปดาห์
1.1.5. กลุ่มสาระสงั คมศึกษา รายวชิ าหน้าท่พี ลเมือง
ชนั้ ป.4 จานวน 1 คาบ/สัปดาห์
1.1.6. พฒั นาผูเ้ รียน กิจกรรมแนะแนว…
ชน้ั ป.4 จานวน 1 คาบ/สปั ดาห์
1.1.7. พัฒนาผ้เู รียน ชุมนุม STEM นา่ รู้
ชน้ั ป.3-ป.6 จานวน.....1...คาบ/สปั ดาห์
1.2 ปฏิบตั ิหน้าที่ครูประจาชัน้ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4

แผนพัฒนาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 4

2. งำนที่ได้รบั มอบหมำย
- ครเู วรวันศกุ ร์
- หวั หน้าฝ่ายวิชาการ
- ที่ปรกึ ษานักเรยี นชั้น ป.4
- หัวหน้าฝ่ายพฒั นาหลกั สตู ร
- หวั หน้าฝา่ ยวดั และประเมินผล
- ผชู้ ่วยฝ่ายงานวจิ ยั เพื่อพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาในระดบั ประถมศกึ ษา
- หวั หน้าฝ่ายส่อื นวตั กรรมและเทคโนโลยที างการศึกษา
- เลขานกุ ารฝ่ายนเิ ทศการศึกษา
- หวั หน้างานพฒั นาระบบประกนั คุณภาพภายในฝา่ ยประถมศกึ ษา
- คณะทางานในงานสง่ เสรมิ ความรดู้ ้านวิชาการแก่ชุมชน
- ผ้ชู ่วยงานประสานรว่ มมือพัฒนาวิชาการกบั สถานศึกษาอื่น
- หวั หนา้ ฝ่ายประชาสัมพนั ธ์งานการศึกษา
- หัวหน้างานพฒั นาระบบเครือข่ายเทคโนโลยสี ารสนเทศ
- หวั หน้างานอาคารสถานที่
- หัวหนา้ งานส่งเสรมิ ประชาธปิ ไตย
- ผชู้ ว่ ยงานส่งเสริมกิจกรรมวันสาคัญ
- หัวหน้างานสง่ เสรมิ ความสามารถด้านกฬี า
- ครอู บรมทักษะชีวิตทุกวันศุกร์ 1 ชัว่ โมง (หมุนเวยี นกนั ตามเวรประจาวัน)
- กิจกรรมการใชส้ ื่อ
- โครงการพัฒนาหลกั สูตรสถานศึกษา หลกั สูตรท้องถิน่
- โครงการประกนั คุณภาพภายใน
- กจิ กรรมส่งเสรมิ ประชาธิปไตย
- กจิ กรรมส่งเสริม ICT
- โครงการพฒั นาสงิ่ แวดล้อม ภูมทิ ัศนแ์ ละแหลง่ เรียนรู้ภายในโรงเรียน
- กิจกรรมปรับปรุงสงิ่ แวดล้อม/ภมู ิทศั น์

3. จำนวนชัว่ โมงกำรปฏิบัติงำน 960 ชั่วโมง
3.1 ชวั่ โมงสอนตามตารางสอน 75 ชั่วโมง
3.2 ชวั่ โมงสนบั สนนุ การจัดการเรยี นรู้ 80 ชั่วโมง
3.3 ชวั่ โมงการมีส่วนรว่ มในชุมชนการเรียนรูท้ างวิชาชพี (PLC) 60 ชว่ั โมง
3.4 ชัว่ โมงงานตอบสนองนโยบายและจุดเนน้ 1,175 ชัว่ โมง
จานวนชวั่ โมงการปฏิบตั งิ าน รวมทัง้ ส้ิน

แผนพฒั นาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 5

ผลงำนทเ่ี กดิ จำกกำรปฏิบตั หิ น้ำทใ่ี นตำแหนง่ ปจั จุบัน (ย้อนหลงั 3 ป)ี

1. ผลที่เกิดจำกกำรจัดกำรเรียนรู้
1.1 กำรออกแบบกำรเรยี นรู้
ตามท่ีข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้รับผดิ ชอบและปฏบิ ัติการสอนกลุม่ สาระวิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์) กลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มสาระสังคมศึกษา ระดับชั้น
ประถมศึกษา ข้าพเจ้าได้นาความรู้จากการศึกษา ค้นคว้า การอบรม ประชุม สัมมนา ประชุมเชิง
ปฏิบัติการท่ีจัดข้ึนท้ังภายในกลุ่มโรงเรียนและระดับเขตพื้นที่การศึกษา นามาประยุกต์ใช้ในการ
จดั การเรียนการสอน ดงั น้ี

1.1.1 การวางแผนการสอน
ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 หลักสูตรแกนกลาง

พุทธศักราช 2551 ได้กาหนดไว้อย่างชัดเจนว่า การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมี
ความสามารถเรียนรู้ และพัฒนาตนเองได้ถือว่าผู้เรียนมีความสาคัญท่ีสุดและในหมวด 4 มาตรา 30
ให้สถานศกึ ษาพฒั นากระบวนการเรียนการสอนท่มี ีประสิทธิภาพ รวมทง้ั การสง่ เสริมให้ผสู้ อนสามารถ
วิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียนในแต่ละระดับการศึกษา จากสาระในพระราชบัญญัติ
ดังกล่าว ข้าพเจ้าในฐานะผู้สอน การท่ีจะทาให้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนบรรลุเป้าหมายของ
หลักสูตรหรือไม่เพียงใดน้ัน ขึ้นอยู่กับการวางแผนการจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนโดยการศึกษา
วิเคราะห์องค์ประกอบและปัจจัยต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการจัดการเรียนรู้ เช่น การกาหนดขั้นตอนใน
การดาเนินการสอน หากมีการกาหนดข้ันตอนต่างๆ ของการสอนไว้อย่างรอบคอบ มีการเตรียมการ
เป็นอย่างดี และดาเนินการสอนตามขั้นตอนที่ได้กาหนดไว้นั้นจะทาให้การสอนประสบผลสาเร็จ
บรรลุเป้าหมายท่ีกาหนด ในการวางแผนการจัดการเรียนการสอน ข้าพเจ้าได้พิจารณาถึงส่ิงสาคัญ 4
ประการกอ่ นท่จี ะดาเนินการวางแผนการจัดการเรยี นรู้ คอื

1. การวเิ คราะหม์ าตรฐานการเรียนรู้เพอ่ื กาหนด ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวงั ในรายวชิ า
2. กาหนดขอบขา่ ยเนอ้ื หาสาระการเรียนรู้ที่จะใช้ในการสอน
3. กาหนดการสอนและแผนการจดั การการเรยี นรู้ การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน
4. การวัดและประเมินผล
จากการท่ีขา้ พเจ้าพจิ ารณาสง่ิ สาคัญ 4 ประการดงั กล่าว ขา้ พเจา้ ได้นามาใชเ้ ปน็ แนวทางในการ
วางแผนการสอนดังน้ี
ขนั้ ที่ 1 ศกึ ษาและวิเคราะห์ คาอธบิ ายรายวิชา
ขน้ั ท่ี 2 จัดทาตารางวเิ คราะห์ คาอธิบายรายวิชา เพอื่ กาหนดขอบขา่ ยเนอ้ื หา
ขั้นที่ 3 จดั ทากาหนดการสอน
ขั้นท่ี 4 เขียนแผนการจดั การเรยี นรู้
ขน้ั ที่ 5 ศึกษาวิธีทาสอ่ื และผลติ สอื่ ประกอบการสอน
1.1.2 การวิจยั หรือการแก้ปญั หาในชน้ั เรยี น

เพือ่ ใหก้ ารปฏิบตั ิหน้าท่กี ารจัดการเรยี นการสอนเปน็ ไปอย่างมีประสทิ ธิภาพ และ
บรรลุผลตามแนวปฏิรูปการศึกษา ข้าพเจ้าได้มีการพัฒนาตนเองโดยการศึกษาเอกสาร เข้ารับการ

แผนพฒั นาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 6

พัฒนาโดยการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ และแลกเปล่ียนเรียนรู้กับคณะครูในโรงเรียนในเรื่องการ
วิจัยหรือการแก้ปัญหาในชั้นเรียนทาให้มีความรู้ ความเข้าใจและได้รับประสบการณ์ในเร่ืองการวิจัย
หรอื การแก้ปญั หาในชัน้ เรียนในระดับดี

ข้าพเจา้ ได้นาความรู้และประสบการณม์ าใชใ้ นการปฏบิ ตั ิหน้าท่ีการจดั การเรยี นการสอน
ตามแนวปฏิรูปการศึกษาอย่างเป็นระบบ คือก่อนดาเนินการวิจัยหรือการแก้ปัญหาในช้ันเรียน ได้
ทาการศึกษาหลักสูตรในเรื่องสาระการเรียนรู้ท่ีคาดหวังที่มีปัญหาเช่นเน้ือหายากซึ่งนักเรียนส่วนมาก
ไม่สามารถมีองค์ความรู้และมีพฤติกรรมตามท่ีหลักสูตรกาหนด ได้ศึกษาข้อมูลเด็กรายบุคคลในเรื่อง
ต่างๆ เช่น ข้อมูลทางด้านครอบครัว ข้อมูลด้านความต้องการ วิธีเรียนที่เด็กชอบ ปัญหาที่เด็กประสบ
อยู่ เป็นต้น แล้วนาข้อมูลทุกด้านมาประมวลผลและวางแผนให้ความช่วยเหลือเก่ียวกับปัญหาท่ีเด็ก
ประสบอย่ซู งึ่ ได้ดาเนนิ การมาโดยตลอด

1.1.3 การวดั ประเมนิ ผล และการรายงานผลการเรยี นรู้
จากการปฏิบัติหน้าท่ีในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน นอกจากจะออกแบบ

การสอนอย่างเหมาะสมกับผู้เรียนแล้ว เพ่ือให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการปฏิบัติงานสอน ประเมิน
เพ่ือตัดสินผลการเรียน ซึ่งในการประเมินได้ใช้วิธีการประเมินอย่างหลากหลาย คือ การสังเกต การ
สัมภาษณ์ การทดสอบ การตรวจผลงาน โดยเนน้ การประเมินสภาพจริง และได้ใช้เครื่องมือประเมินท่ี
มีคุณภาพอย่างหลากหลาย เช่น แบบทดสอบ แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกการ
ตรวจผลงาน ฯลฯ สามารถวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง มีการรายงานผลการ
เรียนให้ผู้เกี่ยวข้องทราบทุกปี โดยจัดทาเป็นเอกสารรายงานผลการปฏิบัติงานประจาทุกปี และได้
จัดทาสรุปผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน รายงานที่ให้ผู้บริหาร นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษา และ
ผปู้ กครองนกั เรยี นทราบทกุ ปี

2. ผลทเ่ี กดิ จำกกำรพัฒนำวิชำกำร
2.1 กำรพัฒนำสื่อ นวตั กรรมในกำรจัดกำรเรยี นรู้
ข้าพเจ้ายังได้พัฒนาส่ือนวัตกรรมมาใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ซึ่งสื่อ

นวตั กรรม การเรียนการสอนท่ีผลิตขึน้ ไดเ้ น้นสื่อทีม่ ีประโยชน์ ประหยัดและมปี ระสทิ ธภิ าพ ในปที ี่ผา่ น
มา ไดผ้ ลิตสอื่ นวตั กรรมประกอบการสอนหลายรายการ ได้แก่

1. สือ่ การสอน ได้แกใ่ บความรู้ ใบงาน ใบกิจกรรม แบบฝกึ ทักษะ
2. การจดั ทาหนงั สือเล่มเลก็ ( ผลงานนกั เรียน )
3. การบนั ทกึ และสรา้ งองค์ความรู้ ( ผลงานนักเรียน )
จากการนาสื่อนวัตกรรมที่ผลิต และพัฒนาข้ึนมาใช้ประกอบการจัดการเรียนการสอน
ช่วยใหน้ กั เรยี นได้เรยี นรู้อย่างมคี วามสุข มีผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนร้สู งู ขนึ้ ถึงเกณฑ์ท่โี รงเรยี นกาหนด

1.2.2 การพัฒนาและใช้แหล่งเรยี นรู้ และภูมปิ ญั ญาท้องถ่ิน
เพ่ือส่งเสริมและพัฒนานกั เรยี นให้ได้เรยี นรู้เรอื่ งราวเก่ียวกับท้องถ่ิน และเรียนรู้เรื่องภูมิ
ปัญญาท้องถิ่นของตนเอง อันจะนาไปสู่การปลูกฝังให้นักเรียนเห็นคุณค่า รัก หวงแหน และภาคภูมใิ จ
ในทอ้ งถิ่นของตน ดว้ ยการใช้แหล่งเรียนรู้ ภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน ทอ่ี ยใู่ นแหล่งชุมชน ไดแ้ ก่ วดั น้ารอบ ซง่ึ
ไดร้ ับการสนับสนุนจากชมุ ชนอยา่ งดีย่ิง

แผนพฒั นาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 7

3. ผลท่ีเกิดกับผเู้ รยี น
จากการพัฒนานักเรียนโดยใช้กระบวนการจัดการเรียนการสอนท่ียึดผู้เรียนเป็นสาคัญตาม

แนวปฏิรูปการศึกษาท่นี าเสนอดังกลา่ ว ส่งผลให้ สามารถพัฒนานักเรียนในความรบั ผิดชอบ ไดร้ ับการ
พฒั นาทกุ ดา้ น ดงั น้ี

3.1 ด้ำนผูเ้ รียนเปน็ คนดี
• ผู้เรียนมีการพัฒนาคุณลักษณะ ด้านคุณธรรม จริยธรรมที่พึงประสงค์ในด้านความ

มุ่งมน่ั ขยนั หม่นั เพียร ประหยดั อดออมและซอ่ื สตั ย์ต่อตนเองและผู้อ่นื
• ผเู้ รยี นมพี ฒั นาการดา้ นการปฏิบัตติ ามหลกั ธรรมของศาสนา
• ผู้เรียนมีพัฒนาการด้านความเข้าใจพ้ืนฐานเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบ

ประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตริยเ์ ปน็ ประมุข
• ผู้เรยี นมีระเบียบวินยั
• ผู้เรียนมีพัฒนาการ การเห็นคุณค่าและความภูมิใจในภูมิปัญญาไทย ศิลปะและ

วัฒนธรรมท่ดี ีงามของไทย
• ผเู้ รียนมีความเคารพในสิทธิหนา้ ท่ี และศกั ดศิ์ รีความเปน็ มนษุ ย์
• ผเู้ รยี นมีส่วนร่วมในการรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม
• ผเู้ รยี นมีสว่ นรว่ มในการอนรุ กั ษแ์ ละพัฒนาสง่ิ แวดล้อม
• ผเู้ รียนมีความรักสถานศึกษา ทอ้ งถน่ิ และประเทศชาติ

3.2 ผู้เรยี นเปน็ คนเกง่
• ผู้เรยี นมีผลสัมฤทธ์ิทางเรียนดี
• ผเู้ รียนเป็นผใู้ ฝร่ ู้ใฝเ่ รียน
• ผู้เรยี นมีทกั ษะในการคิด การจดั การ การแก้ปัญหา
• ผู้เรยี นมที กั ษะและนิสัยรกั การทางาน
• ผเู้ รียนมพี ัฒนาการด้านทกั ษะในการส่อื สารและการใช้ภาษาไทย

3.3 ผเู้ รียนมีควำมสุข
• ผเู้ รียนมีสขุ ภาพจิตดี
• ผเู้ รียนเรยี นรอู้ ย่างมคี วามสุข
• ผ้เู รยี นมีสขุ ภาพกายและสุขนิสยั ที่ดี
• ผเู้ รียนมบี ุคลิกภาพทด่ี ี

แผนพฒั นาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 8

4. ผลท่ีเกดิ กับโรงเรียน
ช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงเรียนและชุมชน ชุมชนได้เข้า

มารว่ มพัฒนาการศึกษา โดยใหก้ ารสนบั สนุนทั้งวัสดุ อปุ กรณ์และเงินทุนเป็นจานวนมาก สง่ ผลให้การ
จัดการศกึ ษาของโรงเรียนประสบผลสาเร็จ ตรงตามความตอ้ งการของนักเรียนและชุมชน (ผลจากการ
ประเมินภายนอก สมศ. ) และมีแหล่งเรียนรู้อย่างหลากหลาย มีวิทยากรภายนอกมาช่วยจัดกิจกรรม
การเรียนการสอน นักเรียนได้รับให้มีความรู้และประสบการณ์ที่จาเป็นในการดารงชีวิตที่มีคุณค่า
สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างเป็นสุข นอกจากน้ันสถานศึกษายังได้รับการยอมรับจาก
ผู้ปกครองและชุมชนในด้านการดูแลเอาใจใส่ของครูท่ีมีต่อนักเรียนในด้านการจัดกิจกรรมการเรียน
การสอน การดูแลด้านพฤติกรรม คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ด้านกิริยา มารยาท ความมีวินัยในตนเอง
ความรบั ผิดชอบ

5. ผลทเ่ี กดิ กับชุมชน
1. โรงเรียนเป็นศูนย์กลางของชุมชนในการให้บริการทางด้านวิชาการและข่าวสาร ข้อมูล

แหล่งความรแู้ ละกิจกรรมตา่ งๆ ตลอดจนให้บรกิ ารดา้ นอาคารสถานที่และสื่ออปุ กรณ์ เช่น เครอ่ื งถ่าย
เอกสาร คอมพิวเตอร์ อนเุ คราะห์สถานท่ใี นการจดั งานต่าง ๆ

2. ชุมชนและองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนเห็นความสาคัญในการมีส่วนร่วมในการจัด
การศึกษามากขน้ึ

3. ชุมชนให้ความร่วมมือกับโรงเรียนในการทากิจกรรมต่างๆ เต็มความสามารถ เช่น การ
ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา การประชุมผู้ปกครอง กิจกรรมวันแม่ กิจกรรมวันพ่อ กิจกรรมวัน
ขึ้นปีใหม่ การส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถ่ิน จนทาให้เกิดความรว่ มมือ ความเข้าใจท่ีดีต่อกัน เกิดความรัก
และความภาคภมู ใิ จในโรงเรยี นและท้องถ่ินการจัดกิจกรรมวันสาคัญต่างๆ

4. โรงเรียนมีส่วนร่วมกับชุมชน ในกิจกรรมต่างๆ ตลอดปีการศึกษา โดยเฉพาะกิจกรรมที่
เก่ียวกับวัฒนธรรม ประเพณี และพิธีกรรมทางศาสนา เช่น ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ประเพณี
ลอยกระทง ประเพณีวันสารทเดอื นสบิ เป็นตน้

แผนพัฒนาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 9

สว่ นที่ 2
ผลกำรประเมนิ ตนเอง

ตอนท่ี 1 ผลกำรประเมนิ ตนเองตำมกรอบของ กคศ.

ด้ำนท่ี 1 ความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานในหน้าท่ี

รำยกำรพจิ ำรณำตนเอง ระดับควำมรู้

มมี ำก ปำน มนี อ้ ย
กลำง

1. เน้อื หา ในรายวชิ า/กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ทสี่ อน 

2. วธิ ีสอน ถ่ายทอดความรเู้ ชิงเน้อื หา กจิ กรรม บริบท เป้าหมายการ 

เรียนรู้ ความรู้พ้นื ฐาน การปรับพื้นฐาน และอุปสรรคการเรียนรูข้ องผ้เู รยี น

3. หลักการสอน และกระบวนการเรียนรู้ 

4. หลักสตู ร การออกแบบ วางแผนการใช้ ประเมิน และแนวทางการ 

เรยี นรู้ในแต่ละเน้ือหา

5. พื้นฐานการศึกษา หลกั การศกึ ษา ปรชั ญาการศึกษา จิตวิทยาสังคม 

นโยบายการศึกษา จดุ มุง่ หมายการจัดการศึกษาตง้ั แตร่ ะดับชาติจนถึง

ระดับหลักสตู ร

6. การจัดการศึกษาแบบรวม และการตอบสนองต่อความหลากหลายของ 

ผูเ้ รยี น

7. ทฤษฎีการเรยี นรู้ และจิตวิทยาการเรียนรู้ 

8. การใช้เทคโนโลยี และสอื่ นวตั กรรมเพ่ือการเรยี นรู้ 

9. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 

ดำ้ นท่ี 2 ทกั ษะการปฏิบตั งิ าน ระดบั ควำมสำมำรถ

รำยกำรพิจำรณำตนเอง ทำไดด้ ี พอใช้ ไม่คอ่ ย
ได้ทำ
1.การสร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร
2. การออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ 
3. การจดั ทาแผนการจัดการเรียนรู้
4. กลยุทธใ์ นการจัดการเรยี นรู้ 
5. การสร้างและการพฒั นาสื่อ นวตั กรรม เทคโนโลยีทางการศกึ ษา
และแหล่งเรียนรู้ 
6. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้






แผนพัฒนาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 10

ดำ้ นท่ี 3 ความเปน็ ครู ระดับควำมเป็นครู

รำยกำรพจิ ำรณำตนเอง สูงมำก ปำนกลำง ยังตอ้ ง
ปรับปรงุ
1. ยึดมั่น ผูกพนั ศรัทธาในวชิ าชีพ และทุ่มเทเพอ่ื การเรียนรู้ของผู้เรยี น
2. มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และปฏิบตั ิตนเปน็ แบบอยา่ งท่ีดีแก่ผูเ้ รยี น ทงั้ 
กาย วาจา และจติ ใจ ดารงตนใหเ้ ปน็ ที่เคารพ ศรัทธา และน่าเชอ่ื ถือท้งั
ใน และนอกสถานศึกษา 
3. ปฏบิ ัติตนตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู
4. มีวินยั และการรกั ษาวินยั 
5. เป็นบุคคลแหง่ การเรียนรู้ ปรับปรงุ และพฒั นาตนเองอย่างตอ่ เน่ือง 
ใหม้ คี วามร้คู วามชานาญในวิชาชีพ เพิ่มข้นึ 
6. ปฏบิ ัติตนโดยนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้
7. มที ศั นคติที่ดตี ่อบา้ นเมือง 


ตอนท่ี 2 ผลกำรประเมนิ ศกั ยภำพของผ้เู รยี นในสถำนศกึ ษำตำมจุดเน้นของสพฐ.

รำยกำรศักยภำพผเู้ รียนตำมจดุ เนน้ ระดบั ศักยภำพ
1. ดา้ นอ่านออก อา่ นคล่อง เขยี นได้ เขยี นคล่อง
สงู มำก ปำนกลำง ยังต้อง
ปรบั ปรงุ



2. ด้านคิดเลขเปน็ คิดเลขคล่อง 

3. ด้านการคิดข้ันพ้นื ฐาน 

4. ดา้ นการคดิ ขนั้ สูง 

5. ด้านการสือ่ สารอย่างสรา้ งสรรค์ตามชว่ งวยั

6. ดา้ นการใช้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 

7. ด้านการใช้เทคโนโลยีเพ่ือการเรยี นรู้ 

8. ดา้ นการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง 

9. ดา้ นใฝ่เรยี นรู้ 

10. ดา้ นใฝ่ดี 

11. ด้านทกั ษะชีวิต 

12. ดา้ นอยู่อย่างพอเพยี ง มุ่งมั่นในการศกึ ษาและการทางาน 

แผนพฒั นาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 11

ตอนท่ี 3 ผลกำรประเมนิ ศำสตร์กำรสอน ตำมกรอบแนวคิดของหลกั สตู รของสถำบนั ครุ ุพัฒนำ

รำยกำรศักยภำพผู้เรยี นตำมจุดเน้น ระดบั ศักยภำพ

สูงมำก ปำนกลำง ยงั ต้อง
ปรบั ปรุง

1 การสอนในศตวรรษที่ 21 

2 การแกปญหาผูเรยี น 

3 จติ วทิ ยาการแนะแนว/จิตวทิ ยาการจัดการเรยี นรู้ 

4 การจดั การชนั้ เรยี น 

5 การวิจัยพัฒนาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแหง่ การเรียนรูทางวชิ าชีพ 

6 การพัฒนาหลักสูตร 

7 สะเตม็ ศึกษา (STEM Education) 

8 การใช้สื่อและเทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู 

9 การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู 

10 การออกแบบการเรยี นรู 

แผนพัฒนาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 12

ส่วนที่ 3
แผนกำรพัฒนำตนเอง

1. อนั ดับควำมสำคญั / สมรรถนะที่จะพัฒนำ
(ใหใ้ สห่ มายเลขเรยี งตามลาดบั ความสาคญั ของสมรรถนะที่จะพัฒนา
() การสอนในศตวรรษที่ 21
() การแกปญหาผูเรียน
( ) จติ วทิ ยาการแนะแนว/จิตวทิ ยาการจดั การเรียนรู้
( ) การจดั การช้ันเรยี น
() การวิจัยพฒั นาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนรูทางวิชาชพี
() การพฒั นาหลกั สูตร
() สะเต็มศึกษา (STEM Education)
() วิทยาการคานวณ (Coding Education)
() การใช้สอื่ และเทคโนโลยีในการจดั การเรยี นรู
( ) การวดั และประเมินผลการเรียนรู
( ) การออกแบบการเรยี นรู

2. วิธกี ำร /รปู แบบกำรพัฒนำ
วิธีการที่ 1 ภาควิชาการ ซ่ึงจะเปน็ การศึกษาหาความรู้ในเนื้อหาทจ่ี ะไดใ้ ช้ในห้องเรียนจริงๆ

โดยยึดหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐานเป็นหลัก เปน็ ความรูใ้ หม่ทเ่ี กิดจากการประยุกต์ความรู้
เชิงวิชาการสู่การปฏิบัติจริงในห้องเรียน ประเด็นในการพัฒนาครอบคลุมทั้งเร่ือง หลักสูตร การเรียน
การสอน ส่ือ การวัดผล และการวจิ ัย เชอ่ื มโยงยทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ปี และเปา้ หมายผเู้ รยี นในศตวรรษ
ที่ 21 หรอื แผนการศึกษา พ.ศ. 2560-2579

วิธีการท่ี 2 ภาคปฏิบัติการ จะเน้นให้ได้รับการสร้างความเข้าใจแบบเข้ม การเรียนรู้ที่เกิด
จากการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ คิดขั้นสูง ด้วยการทบทวนความรู้ (Review) การสะท้อนคิด
(Reflection) และการถอดบทเรียน (AAR) ด้วยกิจกรรมการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูท่ีเข้ารับการ
พฒั นาและกบั คณะวทิ ยากร เปน็ กลุ่มยอ่ ย มวี ิทยากรประจากลมุ่ ทุกกลุ่ม ซงึ่ จะดแู ลผู้เข้ารบั การพัฒนา
ให้ได้ฝกึ ทักษะการออกแบบเสน้ ทางคุณภาพผู้เรียนสอดคล้องกบั หลักสตู ร/เป้าหมายศตวรรษท่ี 21 ได้
ออกแบบเส้นทางกระบวนการเรียนรอู้ ย่างไรก่อนสร้างนวัตกรรม และแสดงถึงมีวิธีการวดั ผล/สะทอ้ น
ผลหลังจากนาไปใช้กับผู้เรียนเพื่อย้อนกลับนามาปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับ
ผเู้ รยี นต่อไป

วธิ กี ารที่ 3 ภาคนิทรรศการ จะเป็นการศกึ ษาจากกรณีตัวอย่างการปฏบิ ัต/ิ ส่อื -นวัตกรรมท่ีดี
ท่ีผ่านการบูรณาการทฤษฎีและการปฏิบัติสู่การพัฒนานักเรียนจริง มีการสาธิตแนวปฏิบัติ/สื่อ-
นวัตกรรมท่ีดี และฝึกนาสื่อ/วิธีปฏิบัติ/นวัตกรรมตัวอย่าง ไปวิเคราะห์ สังเคราะห์ ถอดบทเรียน เพ่ือ
ประกอบการเขียนเค้าโครงการพัฒนากระบวนการ/สื่อ/นวัตกรรมนั้นๆ ท่ีจะแสดงให้เห็นว่าจะมี
ผลสาเรจ็ อยา่ งย่งั ยนื

แผนพฒั นาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 13

วิธีการท่ี 4 การสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ – ได้ร่วมสร้างการเรียนรู้ในระหว่างการ
ฝึกอบรมด้วยการเรียนรู้จากคู่พัฒนา (Buddy) การแลกเปล่ียนเรียนรู้ (Share and Learn) ในกลุ่ม
ย่อย การสะท้อนคิด (Reflection) การถอดบทเรียน (AAR) และการ Coaching & Mentoring จาก
Mentor/Expert เพื่อให้สามารถสร้างสรรค์ สรุปองค์ความรู้ที่ผสมผสานระหว่างองค์ความรู้จาก
ทฤษฎี และองค์ความรู้จากประสบการณ์สู่การปฏิบัติในชั้นเรียนได้ โดยทางานร่วมกับคณะวิทยากร
หลงั การอบรมผา่ นระบบออนไลน์ ด้วยกระบวนการชุมชนการเรียนร้วู ิชาชีพ (PLC) อยา่ งตอ่ เนือ่ ง

3. ระยะเวลำในกำรพฒั นำ
เรมิ่ ตน้ 16 พฤษภาคม 2564 สิน้ สดุ 31 มนี าคม 2565

4. กำรขอรบั กำรสนับสนุนจำกหน่วยงำน
-

5. ประโยชนท์ ีค่ ำดว่ำจะไดร้ ับ
5.1 ผลลัพธ์ทคี่ ำดหวงั
ด้านความรู้ : เกิดการเรยี นรู้ นาผลการพัฒนาสู่การเปล่ยี นแปลงผเู้ รียน และนาประสบการณ์

เข้าแลกเปล่ียนเรียนรู้แก่เพ่ือนร่วมวิชาชีพ จนเกิดองค์ความรู้ท่ีไดจ้ ากการเข้าร่วมชมุ ชนการเรยี นรู้ทาง
วิชาชีพไปใช้ในการจัดการเรยี นการสอน

ทักษะ : มีความสามารถบูรณาการความรู้สู่การปฏิบัติ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผู้เรียนได้เต็ม
ตามศักยภาพ สร้างนวัตกรรมจากการปฏิบัติที่ส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียน และสร้างนวัตกรรมที่ได้
จากการเขา้ รว่ มในชมุ ชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพและพฒั นานวตั กรรมให้เปน็ ต้นแบบการเรยี นรู้แก่เพ่ือน
ร่วมวชิ าชพี

ความเป็นครู : เข้าร่วมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สร้างเครือข่ายชุมชนการเรียนรู้ทาง
วิชาชีพ สรา้ งวฒั นธรรมทางการเรียนรใู้ นสถานศึกษา และเปน็ ผู้นาการเปลี่ยนแปลงต่อวงวชิ าชพี

5.2 ผลกำรนำไปใช้ในกำรพัฒนำงำน
คือการนาความร้แู ละทักษะที่ไดร้ ับการพฒั นาระหว่างการฝึกอบรมไปประยุกต์ใช้ในการ

ปฏบิ ัติงานจริงในหอ้ งเรยี นของตนเอง ดงั น้ี
(1) นาเสนอแผนการจัดกิจกรรมแบบคู่พัฒนา (Buddy) 1 แผน จัดให้เพ่ือนครู หรือ

หัวหน้าฝ่ายวิชาการ หรือรองผู้อานวยการโรงเรียน ให้ข้อเสนอแนะ (Comment) แล้วนาไปปรับปรุง
แผนการจัดกิจกรรมใหม่ จากนัน้ จึงรายงานผา่ นไลนก์ ลุม่ ของโรงเรียน

(2) นาแผนการจัดกิจกรรมท่ีปรับใหม่แล้ว ไปสอนจริงในห้องเรียน โดยมีเพื่อนครู หรือ
หัวหน้าฝ่ายวิชาการ ไปเย่ียมชั้นเรียน ถ่ายภาพ หรือคลิปการสอน ที่เห็นภาพการเย่ียมชั้นเรียน ภาพ
การจัดกิจกรรมตามขั้นตอนในแผนการจัดกิจกรรม และภาพผลงานการเรียนรู้ของผู้เรียน จากน้ัน
นามาถอดบทเรยี นรว่ มกบั ผ้เู ย่ียมช้นั เรียน สง่ ข้อมูลผา่ นระบบออนไลน์ (Line/ facebook)

แผนพัฒนาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 14

6. ประวัตกิ ำรเขำ้ รับกำรพฒั นำทสี่ ำคัญ (ในรอบ 3 ปีทผี่ ่ำนมำ)

ลำดบั วัน/เดือน/ปี รำยกำรปฏบิ ตั ิ หน่วยงำนท่จี ัด จำนวน เอกสำรอ้ำงองิ
ท่ี ช่วั โมง

1 15 ก.พ. 61 การประชุมอบรมเชิง สพป.นศ. เขต 1 8 ภาพถา่ ย

ปฏบิ ัตกิ ารสาหรบั ครผู ู้

ปฏบิ ัติหนา้ ท่พี ัสดุโรงเรยี น

2 3-5 พ.ค. 61 ประชุมเชงิ ปฏิบัตกิ ารเพื่อ สานักงาน 33 ภาพถา่ ย/
เกียรตบิ ตั ร
เสรมิ สรา้ งจติ สานกึ การมี ก.ค.ศ. 7
19 ภาพถา่ ย/
วินยั ทางการเงนิ และการ 19 เกยี รติบตั ร
17
ดาเนนิ ชวี ติ ตามหลักปรัชญา 12 ภาพถ่าย/
8 เกยี รติบัตร
เศรษฐกิจพอเพยี งให้กบั
ภาพถ่าย/
ข้าราชการครู เกยี รตบิ ัตร

3 9 พ.ค. 61 การอบรมการจดั การศึกษา สพฐ./มูลนิธิ ภาพถา่ ย/
เกียรตบิ ัตร
ทางไกลผ่านดาวเทยี ม การศึกษาทางไกล เกยี รตบิ ัตร

รปู แบบใหม่ NEW DLTV ผ่านดาวเทยี มใน ภาพถ่าย/
เกยี รตบิ ัตร
พระบรม

ราชูปถัมภ์

4 19-21 พ.ค. การอบรมครตู ามแนวทางสะ สพฐ./สสวท.

61 เต็มศกึ ษา (STEM

Education) ระดับ

ประถมศกึ ษาตอนปลาย

5 26-28 พ.ค. การอบรมครูตามแนวทางสะ สพฐ./สสวท.

61 เต็มศึกษา (STEM

Education) ระดบั

ประถมศกึ ษาตอนต้น

6 18-19 ส.ค. โครงการพฒั นาครเู พื่อ สกอ.

61 พฒั นาท้องถ่นิ ระยะการเข้า

ส่วู ชิ าชพี รุ่นปี พ.ศ.2560

7 26 ส.ค. 61 การอบรมในหลกั สตู ร “การ บรษิ ัท เลริ น์ เอ็ด

จดั การเรยี นการสอน ดเู คช่ัน จากดั

เทคนคิ ดารสอนโปรแกรม

Scratch งา่ ยๆให้ได้ใจ

นกั เรยี น ระดับประถม”

8 21 ก.ค. 61 โครงการสัมมนา สพป.นศ. เขต 1

ผูบ้ งั คับบัญชาลูกเสือใน

สถานศึกษา ปี 2561

แผนพฒั นาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 15

ลำดบั วนั /เดอื น/ปี รำยกำรปฏบิ ตั ิ หนว่ ยงำนท่จี ัด จำนวน เอกสำรอ้ำงองิ
ท่ี สพป.นศ. เขต 1 ช่วั โมง

9 7 ก.ค. 61 การประชมุ สัมมนายกระดับ 8 ภาพถา่ ย/

ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น เกียรตบิ ตั ร

เครือข่ายโรงเรยี นที่ 5

(อาเภอลานสกา)

10 23 ก.ย. 61 ประชุมเชงิ ปฏบิ ัติการเรื่อง สพป.นศ. เขต 1 16 เอกสาร
และ การวดั และประเมินผลการ ประกอบการ
30 ก.ย. 61 เรียนรู้ เพอ่ื ยกระดบั คณุ ภาพ ประชมุ เชงิ
การศกึ ษา ปฏิบัตกิ าร

11 18-24 ต.ค. การอบรมหลักสตู ร “พัฒนา สพฐ.-สสวท. 61 ภาพถ่าย/
61 ครูผูช้ ่วยโครงการผลติ ครเู พื่อ เกียรตบิ ตั ร
พัฒนาท้องถิน่ วิทยาศาสตร์
คณติ ศาสตร์ และเทคโนโลยี
ปี พ.ศ. 2560”

12 7-8 ก.พ. 62 ประชุมสมั มนาเชงิ ปฏิบัติการ สพป.นศ. 1 12 ภาพถ่าย
เสรมิ สรา้ งความรู้ความเข้าใจ
เก่ยี วกับการประกันคุณภาพ 6 ภาพถ่าย
การศกึ ษาแนวใหม่
6 ภาพถา่ ย/
13 15 พ.ค. 62 อบรมโครงการเสริมสร้าง สพฟ.นศ.1 เกียรตบิ ตั ร
คณุ ธรรม จริยธรรมและ
ธรรมาภิบาลในสถานศกึ ษา
(กิจกรรมขบั เคล่ือนหลักสตู ร
ต้านทจุ ริตศึกษา)

14 27 พ.ค. 62 การอบรมโครงการส่งเสริม สมศ.
สถานศึกษาและประสาน
ความรว่ มมือกบั หนว่ ยงาน
ต้นสงั กดั เพื่อสรา้ งความรู้
ความเข้าใจเก่ียวกับกรอแนว
ทางการประเมินคุณภาพ
ภายนอกของ สมศ.

แผนพัฒนาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 16

ลำดบั วัน/เดือน/ปี รำยกำรปฏิบัติ หน่วยงำนทีจ่ ดั จำนวน เอกสำรอ้ำงอิง
ท่ี ชวั่ โมง

15 19-23 ก.ค. การอบรมเชงิ ปฏิบัตกิ าร ม.ราชภัฏภเู กต็ / 30 ภาพถา่ ย/

62 พฒั นาครูในโครงการผลติ ครู สกอ. เกียรติบัตร

เพื่อพฒั นาท้องถนิ่ ระยะการ

เข้าส่วู ชิ าชีพเครอื ข่ายสถาบัน

ผลติ ครูภาคใต้ตอนบน

16 14 พ.ค. 63 การพัฒนาหลกั สตู ร ชมรมวิจยั ทาง 6 เกยี รติบตั ร

สถานศึกษา หลักสูตรและการ

สอนแห่งประเทศ

ไทย

17 22 ม.ี ค. 63 การวิจัยเพือ่ พัฒนาการ ชมรมวจิ ยั ทาง 15 เกยี รตบิ ัตร
เรยี นรู้ หลักสูตรและการ

สอนแห่งประเทศ

ไทย

18 16 มี.ค. 63 สจุ ริตไทยสาหรบั ข้าราชการ เครือข่ายสจุ ริต เกยี รตบิ ัตร

ไทย

19 6 พ.ค. 63 การลดความเส่ยี งภยั พิบัติ สพฐ. ร่วมกับ 20 เกยี รติบตั ร

ธรรมชาติ และการปรบั ตัว มูลนธิ ศิ ภุ นมิ ิต
รบั การเปล่ยี นแปลงสภาพ แห่งประประเทศ
ภมู ิอากาศ
รหสั 62037 ไทย

20 16 พ.ค. 63 หลกั สูตรอบรมออนไลนก์ าร สพฐ. ร่วมกบั 12 เกยี รติบตั ร

จดั การเรียนรูว้ ทิ ยาการ สสวท.

คานวณสาหรับครู

ประถมศึกษาปีท่ี ๑-๓

Coding Online for Grade

๑-๓ Teacher (C๔T–๖)

รหัส ๖๓๐๒๓

21 27 พ.ค. 63 หลกั สูตรอบรมออนไลน์การ สพฐ. ร่วมกบั 12 เกียรตบิ ัตร

จดั การเรียนรูว้ ทิ ยาการ สสวท.

คานวณสาหรับครู

ประถมศึกษาปีท่ี ๔ - ๖

Coding Online for Grade

๔-๖ Teacher (C๔T – ๗)

รหสั ๖๓๐๒๔

แผนพัฒนาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 17

ลำดบั วนั /เดือน/ปี รำยกำรปฏิบตั ิ หนว่ ยงำนทีจ่ ัด จำนวน เอกสำรอำ้ งองิ
ท่ี สพฐ. รว่ มกบั ชั่วโมง

22 27 พ.ค. 63 อบรมออนไลน์การจัดการ สสวท. 20 เกียรติบตั ร

เรียนรวู้ ิทยาการคานวณ สพฐ. รว่ มกบั
สสวท.
สาหรับครมู ธั ยมศึกษาปีที่
สพป.นศ. เขต 1
๑-๓ Coding Online for

Grade ๗-๙ Teacher (C๔

T – ๘) รหัส ๖๓๐๒๕

23 27 พ.ค. 63 หลกั สูตรอบรมออนไลนก์ าร 20 เกยี รตบิ ตั ร

จดั การเรยี นรวู้ ิทยาการ

คานวณสาหรับครู

มธั ยมศึกษาปที ่ี ๔-๖

Coding Online Grade

๑๐-๑๒ Teacher (C๔T-๙)

รหสั ๖๓๐๒๖

24 31 ส.ค. 63 อบรมเชงิ ปฏิบัติการ การ ภาพถา่ ย

ขับเคลอ่ื นหลักสตู รต้าน

ทจุ ริตศึกษา

แผนพฒั นาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 18

ส่วนท่ี 4
ควำมต้องกำรในกำรพฒั นำ

หลกั สูตรใดทที่ ่ำนตอ้ งกำรพัฒนำ

ลำดับท่ี รหสั หลกั สตู ร ชื่อหลักสูตร
6
IPST-63023 รุ่นท่ี 2 หลักสตู รอบรมออนไลน์การจัดการเรยี นรวู้ ิทยาการคานวณ
7
สาหรับครูประถมศึกษาปที ี่ 1-3 Coding Online for Grade 1-3
8
Teacher (C4T–6)
9
IPST-63024 ร่นุ ท่ี 2 หลกั สตู รอบรมออนไลนก์ ารจดั การเรยี นรู้วทิ ยาการคานวณ

สาหรบั ครูประถมศกึ ษาปีท่ี 4 - 6 Coding Online for Grade 4-6

Teacher (C4T – 7)

IPST-63025 รุ่นที่ 2 หลักสูตรอบรมออนไลน์การจดั การเรยี นรูว้ ทิ ยาการคานวณ

สาหรบั ครูมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 - 3 Coding Online for Grade 7-9

Teacher (C4T – 8)

IPST-63026 รุ่นที่ 2 หลักสูตรอบรมออนไลนก์ ารจัดการเรียนร้วู ทิ ยาการคานวณ

สาหรบั ครมู ัธยมศกึ ษาปที ่ี 4-6 Coding Online Grade 10-12

Teacher (C4T-9)

เพรำะเหตใุ ดทำ่ นจงึ ตอ้ งกำรเขำ้ รบั กำรพฒั นำในหลกั สูตรนี้

กรอบยทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ปี, แผนการศึกษาชาติ, นโยบายศธ. และนโยบาย สพฐ.
ยุทธศาสตร์ท่ี 2 ปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางฯ สู่การปฏิบัติ ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะการ
เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ปลูกฝังทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ส่งเสริมการ
เรยี นรู้สะเต็มศกึ ษา (STEM Education) เพ่ือพัฒนากระบวนการคดิ
ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาฯ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
(PLC) การเรียนรู้ผ่านกิจกรรมการปฏิบัติจริง (Active Learning) การพัฒนาครูท้ังระบบที่เช่ือมโยง
กับการเล่อื นวิทยฐานะ

ทำ่ นคำดหวงั ส่งิ ใดจำกกำรเข้ำรบั กำรพฒั นำในหลักสตู รน้ี

1) เขา้ ใจการทาหลกั สูตรสถานศกึ ษาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2560 (ฉบับปรับปรงุ
พ.ศ. 2563)

2) ออกแบบกจิ กรรมการเรียนรู้วทิ ยาการคานวณ
3) เพอื่ พัฒนาผู้เรยี นให้สามารถบรู ณาการความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวนการ
ทางวศิ วกรรม และคณติ ศาสตร์ไปใชใ้ นการเชือ่ มโยงและแก้ปญั หาในชวี ิตจริง
4) จะได้จดั ทาแผนพัฒนาตนเอง, สรา้ งกรอบแนวคิดการพัฒนาผเู้ รยี น

แผนพัฒนาตนเองของข้าราชการครู ID Plan :[ 19

ท่ำนจะนำควำมรจู้ ำกหลักสตู รไปพัฒนำกำรสอนของท่ำนอย่ำงไร

นาความรู้และทักษะท่ีได้รับการพัฒนาระหว่างการฝึกอบรมไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน
จริงในห้องเรียนของตนเอง โดยเสนอผลปฏิบัติตามแผนการจัดกจิ กรรม เพอ่ื รว่ มแลกเปล่ยี นเรียนรู้กับ
เพอื่ นร่วมวชิ าชีพในอนั ท่ีจะปรับปรงุ การเรยี นรู้ และการปฏิบตั งิ านอยา่ งตอ่ เนือ่ งตอ่ ไป

ลงช่ือ.....................................................
(นายณัฐดนยั โกมาลา)
ตาแหนง่ ครู
ผู้จัดทาแผนพฒั นาตนเอง

ควำมเห็นผู้บงั คบั บญั ชำ
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………

(ลงชอ่ื )...........................................................
(นายสนั ต์ติ เกราะแก้ว)

ผ้อู านวยการโรงเรยี นวัดน้ารอบ
วันท่ี เดือน มนี าคม พ.ศ. 2564


Click to View FlipBook Version