หนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา วรรณกรรมท้องถิ่น ท30202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยมีจุดประสงค์เพื่อศึกษา ความรู้เกี่ยวกับนิทานพื้นบ้านของไทยทีึ่ได้จากเรื่อง พิกุลทอง ซึ่งหนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรู้เกี่ยวกับเรื่องราว วัฒนธรรมของท้องถิ่นสมัยเก่าแก่ และนิทานตำ นานที่เล่า สืบสานกันมาจนถึงปัจจุบัน ผู้จัดทำ ได้เลือกหัวข้อนี้ในการจัดทำ หนังสือ เนื่องมาจากเป็น เรื่องราวที่น่าสนใจ และต้องขอบคุณ คุณครูรัชพร วิิทยประ พัฒน์ ผู้ให้ความรู้และเป็นที่ปรึกษาแนะนำ แนวทางการจัดทำ หนังสือเล่มนี้และให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด ผู้จัดทำ หวัง ว่าE-bookเล่มนี้จะให้ความรู้และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกๆท่าน คำ นำ
สารบับั บับั ญ ความเป็นมา เนื้อเรื่อง แนะนำ ตัวละคร วิเคราะห์ตัวละคร คุณค่าด้านวรรณศิลป์และคุณค่าด้านปัญญา คุณค่าด้านอารมณ์ สังคมและวัฒนธรรม 1 2-4 5-6 7 8 9
1 ความเป็ป็ป็ นป็ นมา เรื่องนางพิกุลทองนี้ เป็นละครนอก หนึ่งใน 14 เรื่อง ที่นิยมนำ มาเล่นกันตั้งแต่ส ต่ มัยอยุธยา ปัจจุบันมีต้นฉบับ หนังสือตัวเขียนที่เหลือรอดจากการถูกพม่าทำ ลายครั้ง เสียกรุง เก็บรักษาไว้อยู่ที่ห ที่ อสมุดแห่งชาติ สมบัติเดิมของ หอพระสมุดวชิรญาณ ซึ่งมีเนื้อความเริ่มตั้งแต่นางพิกุล ทองสรงน้ำ จนจบตอนท้ายคือปราบนางยักษ์กาขาวและ ยังไม่ได้รับตรวจสอบชำ ระฉบับที่เหลืออื่นๆ หรือตีพิมพ์ จากกรมศิลปากร ส่วนเรื่องนางพิกุลทองต่อจากสำ นวน เดิมที่เป็นการผจญภัยยืดยาวถึงรุ่นลูกนั้น มาจากกลอน อ่านสำ นวนของ " นายบุศย์ รจนา " จัดพิมพ์ตรงกับสมัย รัชกาลที่ 5 ซึ่งนายบุศย์ได้นำ มาแต่งสำ นวนใหม่เป็น " กลอนอ่าน " ตามเนื้อเรื่อง สำ นวนกลอนค่อนข้างจะ รวบรัดและไม่สละสลวยเท่าใดนัก จุดประสงค์เพียงไว้ สำ หรับเล่นละครเท่านั้น
2นางพิกุลทองเป็นธิดาของท้าวสันนุราชกับนางพิกุลจันทรา นางเป็นหญิงรูปงาม และมีผมหอม และเมื่อนางพูดจะมีดอกพิกุลทองร่วงจากปากทุกครั้ง วันหนึ่งนางลงสรงน้ำ ในแม่น้ำ เห็นพญาแร้งจิกกินสุนัขเน่าที่ลอยน้ำ มา จึงด่าว่า พญาแร้งด้วยความรังเกียจ ทำ ให้พญาแร้งอาฆาตนางพิกุลทอง จึงแปลงเป็นหนุ่ม รูปงามไปอาศัยอยู่กับตายายที่ชายป่า แล้วทำ อุบายเนรมิตเงินทองให้ตายายร่ำ รวย และให้ไปสู่ขอนางพิกุลทองแก่ตน ท้าวสันนุราชจะยกนางให้ แต่พญาแร้งจะต้อง สร้างสะพานทองจากบ้านมาถึงวังภายใน 3 วัน พญาแร้งจึงเรียกบริวารมาช่วย สร้างสะพาน นางพิกุลทองจึงต้องอภิเษกกับพญาแร้งแปลง แต่พญาแร้งก็ไม่ได้ร่วม อภิรมย์กับนาง วันหนึ่งพญาแร้งทำ อุบายชวนนางพิกุลทองเดินทางทางเรือไปบ้านเมืองของตน ระหว่างจอดเรือหยุดพัก พญาแร้งบินไปเรียกบริวารมากินคนบนเรือ ส่วนนางพิกุล ทองนั้นพญาแร้งตั้งใจจะกินเอง แม่ย่านางประจำ เรือสงสารนางพิกุลทอง จึงแยกเสา กระโดงเรือให้นางพิกุลทองซ่อนตัวจนพ้นภัย เมื่อนางพิกุลทองออกมาสรงน้ำ และสาง ผมอยู่ที่บันไดเรือ ผมเส้นหนึ่งหลุดติดมือมา นางจึงใส่ผอบและจารึกที่ฝาผอบเป็น เรื่องราวแต่หนหลัง อธิษฐานว่าถ้าผู้ใดเป็นคู่ครองของนางขอให้พบผอบนี้และให้ตาม มาช่วยแล้วลอยผอบไป เสากระโดงเรือ = เป็นเสาที่อยู่บริเวณกลางลำ เรือ มักใช้ในการติดผ้าใบเพื่อให้เรือใบเคลื่อนที่ นอกจากนี้ในอดีต ยังมีการซ่อนทรัพย์สิน ของมีค่าไว้ใต้เสากระโดงเรืออีกด้วย ในปัจจุบันเรือกล ไม่ใช้ใบเรือในการเคลื่อนที่แล้ว แต่ ยังมีการติดเสากระโดงไว้เพื่อติดตั้งเรดาห์ และเสาวิทยุ ผอบ = ภาชนะสำ หรับใส่ของ มีเชิง ฝาครอบมียอด มักทำ ด้วยโลหะหรือไม้กลึง เนื้นื้ นื้นื้ อเรื่รื่ รื่รื่ องพิพิ พิพิ กุกุ กุกุ ลทอง
หลายปีต่อมานางพิกุลทองมีโอรสกับพระพิไชยมงกุฎ 2 องค์ ชื่อรักและยม วันหนึ่งนางพิกุลทองกับสวามีและ โอรสไปประพาสทุ่ง นางยักษ์กาขาวซึ่งลอบมาซ่อนตัวใน ป่าเนรมิตดอกบัวดอกใหญ่ขึ้นและแอบอยู่ในน้ำ ตามเรือ ไป เมื่อนางพิกุลทองเอื้อมเด็ดดอกบัว ก็ถูกนางยักษ์ฉุด ลงไปในน้ำ แล้วสาปให้เป็นชะนี ฝ่ายนางยักษ์ก็แปลง เป็นนางพิกุลทองแทน พระพิไชยมงกุฎฉุดนางยักษ์แปลงขึ้นเรือ รักและยม บอกพระพิไชยมงกุฎว่านางผู้นี้ไม่ใช่มารดา ส่วนมารดา ที่แท้จริงคือชะนีที่เดินร้องไห้ตามมาริมน้ำ พระพิไชย มงกุฎกริ้วจึงไล่โอรสทั้งสองขึ้นฝั่งแล้วพานางยักษ์แปลง กลับวัง 3 พระพิไชยมงกุฎโอรสท้าวสังข์ศิลป์ไชยกับนางสุพรรณเก็บผอบได้ เมื่อเห็นผมหอมและข้อความที่จารึกไว้ก็ออกตามหาเจ้าของ ระหว่าง ทางพบนางยักษ์กาขาวแปลงกายเป็นสาวงามมาลวงว่านางเป็น เจ้าของผมหอม พระพิไชยมงกุฎหลงเชื่อจึงอยู่กับนางในเมืองเนรมิต และได้นางเป็นชายา ต่อมาพระพิไชยมงกุฎสงสัยว่านางเป็นยักษ์จึง ใช้มนตร์สะกดไว้แล้วเดินทางต่อไปจนพบนางพิกุลทอง เมื่อพญา แร้งบินมากินคนที่หาดทราย พระพิไชยมงกุฎจึงสังหาร และพานาง พิกุลทองไปเป็นชายาอยู่ที่เมืองของตน ประพาส = ไปต่างถิ่นหรือต่างแดน เนื้นื้ นื้นื้ อเรื่รื่ รื่รื่ องพิพิ พิพิ กุกุ กุกุ ลทอง
พระพิไชยมงกุฎจึงถามวิธีการแก้คำ สาปจากนางชะนีพิกุลทอง ชะนีพิกุลทองจึง บอกว่าต้องใช้เลือดนางยักษ์กาขาวมาอาบร่าง พระพิไชยมงกุฎจึงให้เสนาบดีนำ นางยักษ์แปลงมาที่อุทยาน และออกอุบายให้นางนอนหลับ ตกดึกก็สั่งให้ เพชฌฆาตไปฟันนางยักษ์กาขาว แล้วนำ เลือดไปรดร่างชะนี นางพิกุลทองจึง กลับเป็นมนุษย์ดังเดิม 4 รักและยมนึกถึงนางชะนีตนนั้นที่วิ่งตามเรือมา จึงแอบหนีออกจากวังไปตาม หาชะนีพิกุลทองจนพบ และอยู่ด้วยกันในป่า รักและยมก็เก็บดอกพิกุลทองที่ ร่วงจากปากนางไปแลกอาหารที่ตลาด ได้อาหารมามากมายก็มาแบ่งกินกับนาง ชะนีพิกุล พวกขุนนางและเสนาบดีพบเห็นสองกุมารจึงไปทูลบอกกับพระพิไชย มงกุฎ เมื่อพระพิไชยมงกูฎรู้ความจริงแล้วพระพิไชยมงกุฎจึงไปตามหาโอรสใน ป่าเพื่อจะไปหานางชะนีพิกุล และหาวิธีแก้คำ สาป เนื้นื้ นื้นื้ อเรื่รื่ รื่รื่ องพิพิ พิพิ กุกุ กุกุ ลทอง
แนะนำนำนำนำตัตั ตัตั วละคร 5 พระพิไชยมงกุฎ นางพิกุลทอง นางยักษ์กาขาว รัก ยม
ท้าวสันนุราช แนะนำนำนำนำตัตั ตัตั วละคร 6 พญาแร้ง ตา ยาย
วิวิ วิวิ เคราะห์ห์ ห์ห์ตัตั ตัตั วละคร 7 เจ้าหญิงแสนสวยแห่งเมืองสัณนุราช ผู้มีจิตใจงดงาม ยามพูดจะมีพิกุลทองลอยออกมา นางยักษ์ผู้มีอาคม หลงรักเจ้าชายพิชัยมงกุฎจนอยากจะได้ เป็นพระสวามีโดยไม่สนใจคำ ทัดทานของใครทั้งสิ้น พระโอรสพิชัยมงกุฏ โอรสของเหนือหัว สังข์ศิลปัชัย ผู้เก็บผอบของนางพิกุลทองไว้ได้ จึงอยากออกไปตาม หานาง
8 คุคุ คุ ณ คุ ณค่ค่ ค่ า ค่ าวรรณศิศิ ศิ ล ศิ ลป์ป์ป์ป์ คือความพิถีพิถันในการใช้คำ อย่างประณีตทำ ให้เกิด ความงาม ความไพเราะในการใช้ภาษา ผู้อ่าน สามารถได้รับความไพเราะของเสียง และซาบซึ้งใน ความหมาย อารมณ์และความนคกคิดต่างๆที่ผู้แต่ง ถ่ายทอดออกมาได้ เช่น การพรรณนาฉากภาพของ นางสนมกำ นัลชมดอกบัว เก็บดอกบัว สนุกสนาน คุคุ คุ ณ คุ ณค่ค่ ค่ า ค่ าด้ด้ ด้ า ด้ านปัปัปั ญ ปั ญญา ผู้อ่านได้รับความรู้ ความคิดเพิ่มขึ้น ทำ ให้มีปัญญา แตกฉานทั้งด้านความรู้รอบตัว ความรู้เท่าทันคน
9 คุคุ คุ ณ คุ ณค่ค่ ค่ า ค่ าด้ด้ ด้ า ด้ านอารมณ์ณ์ ณ์ณ์ นางพิกุลทองถูกสาปให้เป็นชะนี เมื่อพระสวามีถูก ยักษ์ใช้มนตร์เสน่ห์ ทำ ให้พระโอรสทั้งสองต้อง ลำ บากอยู่ในป่า คุคุ คุ ณ คุ ณค่ค่ ค่ า ค่ าด้ด้ ด้ า ด้ านสัสั สั ง สั งคม และวัวั วั ฒ วั ฒนธรรม นางพิกุลทองได้รับพรคือ พูดแล้วดอกพิกุลทอง ร่วงออกมาจากปาก หรือสุดท้ายนางก็ได้อยู่กับ ครอบครัวอย่างมีความสุข
จัดทำ โดย นาย เตชิต ชำ นาญวงศ์ เลขที่ 4 นางสาว กันต์กมล มีสงค์ เลขที่ 16 นางสาว ขวัญชนก แสงสว่าง เลขที่ 19 นางสาว ณัฏฐา ตั้งตระกูล เลขที่ 20 นางสาว ณัฐธยาน์ ประจะเนย์ เลขที่ 24 นางสาว นิชนันท์ บาเรือน เลขที่ 25 นางสาว อัฐสิริ ทัศนาลักษณ์ เลขที่ 29 นางสาว ณัฏฐธิดา ธนวรโชติ เลขที่ 36 นางสาว ธัญชนก แสงวงค์ทอง เลขที่ 44 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 / 10 โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล