The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทที่ 4 การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนตามระดับการศึกษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sinsuphayensai2546, 2023-06-11 23:00:23

บทที่ 4 การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนตามระดับการศึกษา

บทที่ 4 การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนตามระดับการศึกษา

คำนำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์(E-book) เล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนรายวิชา PR 64604 สื่อ แหล่งเรียนรู้ และนวัตกรรมสำหรับครูประถมศึกษา จัดอยู่ในกลุ่มวิชาชีพครู ตามหลักสูตรมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง . พุทธศักราช 2564 เปิดสอนสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี เนื้อหาของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์(E-book) เล่มนี้ประกอบไปด้วย เนื้อหาดังต่อไปนี้ ความหมายของสื่อการ เรียนการสอน การจำแนกสื่อการเรียนการสอน คุณสมบัติของสื่อการเรียนการสอน คุณค่าของสื่อการเรียนการ สอน หลักการเลือกสื่อการเรียนการสอน ความหมายของการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน แนวทางการพัฒนาสื่อ การเรียนการสอน สื่อการเรียนการสอนราคาเยา ความหมายของสื่อการเรียนการสอนราคาเยา หลักการออกแบบ และการสร้างสื่อการเรียนการสอนราคาเยา ข้อสนับสนุนในการใช้สื่อการเรียนการสอนราคาเยา การพัฒนาสื่อการ เรียนการสอนเฉพาะตามระดับการศึกษา สื่อการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา ตัวอย่างสื่อการ เรียนการสอนของนักเรียนระดับประถมศึกษา สื่อการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและ ตอนปลาย วันที่ 10 มิถุนายน 2566 ก


สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข สารบัญภาพ ค บทที่1 การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนตามระดับการศึกษา - ความหมายของสื่อการเรียนการสอน 2 - การจำแนกสื่อการเรียนการสอน 3 - คุณสมบัติของสื่อการเรียนการสอน 6 - คุณค่าของสื่อการเรียนการสอน 6 - หลักการเลือกสื่อการเรียนการสอน 8 - ความหมายของการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน 11 - แนวทางการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน 11 - สื่อการเรียนการสอนราคาเยา 13 - ความหมายของสื่อการเรียนการสอนราคาเยา 13 - หลักการออกแบบและการสร้างสื่อการเรียนการสอนราคาเยา 15 - ข้อสนับสนุนในการใช้สื่อการเรียนการสอนราคาเยา 16 - การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนเฉพาะตามระดับการศึกษา 17 - สื่อการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา 18 - ตัวอย่างสื่อการเรียนการสอนของนักเรียนระดับประถมศึกษา 19 - สื่อการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย 29 - บทสรุป 35 - คำถามทบทวน 36 บรรณานุกรม ง ข


สารบัญภาพ ภาพประกอบที่ หน้า 1 สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Rooms in the house ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 19 2 สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Food ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 19 3 สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Tenses ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 20 4 สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Classroom Objects ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 20 5 สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Animals ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 21 6 สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง คำกริยา 3 ช่อง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 21 7 สื่อการสอนทำมือ วิชา สังคมศึกษา เรื่อง วันสำคัญทางศาสนา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 22 8 สื่อการสอนทำมือ วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง การบอกเวลา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 22 9 สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาไทย เรื่อง การประสมคำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 23 10 สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาไทย เรื่อง ไตรยางศ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 23 11 สื่อการสอนทำมือ วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง เรขาคณิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 24 12 สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Words ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 24 13 สื่อการสอนทำมือ วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง เรขาคณิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 25 14 สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง รูปร่าง (Shapes) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 25 15 สื่อการสอนทำมือ วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 26 16 สื่อการสอนทำมือ วิชา สังคมศึกษา เรื่อง ทวีป ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 26 17 สื่อการสอนทำมือ วิชา การงานอาชีพ เรื่อง งานประดิษฐ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 27 18 สื่อการสอนทำมือ วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง การเปรียบเทียบค่าตัวเลขชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 27 19 สื่อการสอนทำมือ วิชา ศิลปะ (นาฏศิลป์) เรื่อง หลักการชมการแสดง ระดับชั้นมัธยมศึกษา 29 ค


สารบัญภาพ(ต่อ) ภาพประกอบที่ หน้า 20 สื่อการสอนทำมือ วิชา ศิลปะ (นาฏศิลป์) เรื่อง หลักการชมการแสดง ระดับชั้นมัธยมศึกษา 29 21 สื่อการสอนทำมือ วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวประกอบ ระดับชั้นมัธยมศึกษา 30 22 สื่อการสอนทำมือ วิชา สังคมศึกษา เรื่อง กฎหมายแพ่งและอาญา ระดับชั้นมัธยมศึกษา 30 23 สื่อการสอน วิชา สังคมศึกษา เรื่อง 10 รัชกาลของไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษา 31 24 สื่อการสอนทำมือ วิชา สังคมศึกษา เรื่อง ภาษีนิติบุคคล ระดับชั้นมัธยมศึกษา 31 25 สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิชา วิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบประสาท ระดับชั้นมัธยมศึกษา 32 26 สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิชา วิทยาศาสตร์ เรื่อง วงจรไฟฟ้า ระดับชั้นมัธยมศึกษา 32 27 สื่อการสอน วิชา วิทยาศาสตร์ เรื่อง เซลล์ของสิ่งมีชีวิต ระดับชั้นมัธยมศึกษา 33 28 สื่อการสอน วิชา การงานอาชีพ เรื่อง เกษตรทฤษฎีใหม่ ระดับชั้นมัธยมศึกษา 34 29 สื่อการสอน วิชา ฟิสิกส์ เรื่อง Black Box ระดับชั้นมัธยมศึกษา 34 ค


บทที่ 4 การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนตามระดับการศึกษา กระบวนการเรียนการสอนมีลักษณะเช่นเดียวกับกระบวนการสื่อสาร (Communication Process) ที่มี การถ่ายทอดเนื้อหาสาระจากฝ่ายส่งไปยังฝ่ายรับ และการสื่อสารที่ดีนั้นควรจะเป็นการสื่อสารแบบสองทาง (Twoway Communication) ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยสื่อที่ช่วยให้เกิดการสื่อสารกันได้ใน 2 ทิศทางด้วย เช่น โทรศัพท์ Email การประชุม การอภิปราย และการบรรยาย เป็นต้น แต่ถ้าสื่อที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกัน ไม่อำนวยให้โต้ตอบ กันได้ ก็จะเกิดการติดต่อสื่อสารในลักษณะที่เรียกว่าการสื่อสารแบบทางเดียว (One-way communication) ซึ่ง สื่อที่ใช้ในการติดต่อกัน ได้แก่ หนังสือพิมพ์ แผ่นพับ โปสเตอร์ วิทยุ โทรทัศน์ และการบรรยาย เป็นต้น ใน กระบวนการเรียนการสอนระดับอุดมศึกษาเราใช้การติดต่อสื่อสารทั้ง 2 ลักษณะดังกล่าวควบคู่กันไป ขึ้นอยู่กับ จุดประสงค์การสอน เนื้อหาและวิธีการสอนในแต่ละครั้งอย่างไรก็ตามการเรียนการสอนที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียน ได้รับความรู้และประสบการณ์ในสาขาวิชาที่เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ควรจะมีลักษณะที่เป็นการสื่อสาร แบบสอง ทางดังนี้ ผู้สอน สื่อการเรียนการสอน ผู้เรียน รูปแบบการสื่อสารเพื่อการศึกษา รูปแบบการสื่อสารเพื่อการศึกษา จะเห็นได้ว่า ทั้งกระบวนการสื่อสารและกระบวนการเรียนการสอน จำเป็นต้องอาศัยสื่อในการถ่ายทอดหรือติดต่อกันระหว่างบุคคล ถ้าขาดสื่อแล้ว การติดต่อกันหรือการเรียนการ สอนไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย (ไพศาล สุวรรณน้อย, 2553)


ความหมายของสื่อการเรียนการสอน สื่อนับเป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการสอนตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากเป็นตัวกลางที่ ช่วยให้การสื่อสารระหว่างผู้สอนและผู้เรียนดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจความหมายของ เนื้อหาบทเรียนให้ตรงกับผู้สอนต้องการ ไม่ว่าสื่อนั้นจะอยู่ในรูปแบบใดก็ตามล้วนแต่เป็นทรัพยากรที่สามารถ อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ได้ทั้งสิ้น และคำว่า สื่อ (medium, pl.media) เป็นคำมาจากภาษาลาตินว่า “ระหว่าง” สิ่งใดก็ตามที่บรรจุข้อมูลสารสนเทศหรือเป็นตัวกลางข้อมูลส่งผ่านจากผู้ส่งหรือแหล่งส่งไปยังผู้รับ เพื่อให้ผู้ส่งและผู้รับสามารถสื่อสารกันได้ตรงตามวัตถุประสงค์ (กิดานันท์ มลิทอง, 2553) ในการเรียน เมื่อผู้สอนนำสื่อมาใช้ประกอบการสอนเรียกว่า “สื่อการสอน” และเมื่อนำมาให้ผู้เรียนใช้ เรียกว่า “สื่อการเรียน” โดยเรียกรวมกันว่า “สื่อการเรียนการสอน” หรืออาจจะเรียกสั้นๆ ว่า “สื่อการสอน” สื่อการสอน (Instructional Media) หมายถึง สิ่งต่างๆ ที่ใช้เป็นเครื่องมือ หรือช่องทางสำหรับทำให้ การสอนของครูไปถึงผู้เรียน และทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ตามจุดประสงค์ หรือจุดมุ่งหมายที่วางไว้เป็นอย่างดี สื่อที่ใช้ ในการสอนนี้ อาจจะเป็นวัตถุสิ่งของที่มีตัวตนหรือไม่มีตัวตนก็ได้ เช่น วัตถุสิ่งของตามธรรมชาติ ปรากฎการณ์ตาม ธรรมชาติ วัตถุสิ่งของที่คิดประดิษฐ์หรือสร้างขึ้นสำหรับการสอน คำพูดท่าทาง วัสดุและเครื่องมือสื่อสาร กิจกรรม หรือกระบวนการถ่ายทอดความรู้ต่างๆ ความหมาย ความสำคัญของสื่อการสอน และประเภทของสื่อการสอน นักวิชาการในวงการเทคโนโลยีทาง การศึกษา โสตทัศนศึกษา และวงการการศึกษา ได้ให้คำจำกัดความของ “สื่อการสอน” ไว้อย่างหลากหลาย เช่น ชอร์ส กล่าวว่า เครื่องมือที่ช่วยสื่อความหมายจัดขึ้นโดยครูและนักเรียน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ เครื่องมือ การสอนทุกชนิดจัดเป็นสื่อการสอน เช่น หนังสือในห้องสมุด โสตทัศนวัสดุต่างๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ สไลด์ ฟิล์ม สตริป รูปภาพ แผนที่ ของจริง และทรัพยากรจากแหล่งชุมชน บราวน์ และคณะ กล่าวว่า จำพวกอุปกรณ์ทั้งหลายที่สามารถช่วยเสนอความรู้ให้แก่ผู้เรียนจนเกิดผลการ เรียนที่ดี ทั้งนี้รวมถึง กิจกรรมต่างๆ ที่ไม่เฉพาะแต่สิ่งที่เป็นวัตถุหรือเครื่องมือเท่านั้น เช่น การศึกษานอกสถานที่ การแสดง บทบาทนาฏการ การสาธิต การทดลอง ตลอดจนการสัมภาษณ์และการสำรวจ เป็นต้น เปรื่อง กุมุท กล่าวว่า สื่อการสอน หมายถึงสิ่งต่างๆ ที่ใช้เป็นเครื่องมือหรือช่องทางสำหรับทำให้การสอน ของครูถึงผู้เรียนและทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์หรือจุดมุ่งหมายที่ครูวางไว้ได้เป็นอย่างดี ชัยยงค์ พรหมวงศ์ ให้ความหมาย สื่อการสอนว่า วัสดุอุปกรณ์และวิธีการประกอบการสอนเพื่อใช้เป็น สื่อกลางในการสื่อความหมายที่ผู้สอนประสงค์จะส่ง หรือถ่ายทอดไปยังผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีคำอื่นๆ ที่มีความหมายใกล้เคียงกับสื่อการสอน เป็นต้นว่า สื่อการเรียน หมายถึง เครื่องมือ ตลอดจนเทคนิคต่างๆ ที่จะมาสนับสนุนการเรียนการสอน เร้าความสนใจ ผู้เรียนรู้ให้เกิดการเรียนรู้ เกิดความเข้าใจดีขึ้น อย่างรวดเร็ว 2


ความหมายของสื่อการเรียนการสอน(ต่อ) สื่อการศึกษา คือ ระบบการนำวัสดุและวิธีการมาเป็นตัวกลางในการให้การศึกษาความรู้แก่ผู้เรียน โดยทั่วไป โสตทัศนูปกรณ์ หมายถึง วัสดุทั้งหลายที่นำมาใช้ในห้องเรียน หรือนำมาประกอบการสอนใดๆ ก็ตาม เพื่อ ช่วยให้การเขียน การพูด การอภิปรายนั้นเข้าใจแจ่มแจ้งยิ่งขึ้น การจำแนกสื่อการเรียนการสอน สื่อต่างๆ ที่เป็นตัวกลางในการส่งผ่านข้อมูลสารสนเทศจากผู้สอนไปยังผู้เรียน หรือเป็นสิ่งที่ผู้เรียนใช้ศึกษา ความรู้ด้วยตนเอง นักวิชาการได้จำแนกสื่อการสอนตามประเภท ลักษณะ และวิธีการใช้ ดังนี้ สื่อโสตทัศน์สื่อที่บรรจุหรือถ่ายทอดข้อมูลเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยการได้ยินเสียงและเห็นภาพ โรเบิร์ต อี. เดอ คีฟเฟอร์ (Robert E. de Kieffer) (De Kieffer, 1965:9-64) ได้แบ่งสื่อการสอน ออกเป็น 3 ประเภท 1. สื่อไม่ใช้เครื่องฉาย (non-projected materials) เป็นสื่อที่ใช้ในการสื่อสารทางทัศนะโดยไม่ต้องใช้ เครื่องฉายร่วมด้วย แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ สื่อภาพ (illustrative materials) ถ่ายทอดเนื้อหาได้ด้วย ตัวเองเช่น ภาพกราฟิก กราฟ แผนภาพ แผนที่ ของจริง ของจำลอง ฯลฯ กระดานสาธิต (demonstration boards) ใช้ในการนำเสนอเนื้อหา เช่น กระดานชอล์ก กระดานนิเทศ กระดานแม่เหล็ก กระดานผ้าสำลี ฯลฯ และ กิจกรรม (activities) เป็นเทคนิควิธีการเพื่อการเรียนรู้ เช่น การศึกษานอกสถานที่ การจัดนิทรรศการ 2. สื่อใช้เครื่องฉาย (projected materials and equipment) เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อการสื่อสาร ด้วยภาพหรือทั้งภาพและเสียงปรากฏขึ้นบนจอภาพ เช่น เครื่องฉายภาพข้ามศีรษะใช้กับแผ่นโปร่งใส เครื่องฉาย สไลด์ใช้กับแผ่นฟิล์มสไลด์ หรือให้ทั้งภาพและเสียง เช่น เครื่องฉายภาพยนตร์ใช้กับฟิล์มภาพยนตร์ เครื่องเล่นดีวีดี ใช้กับแผ่น วีซีดี และดีวีดี 3. สื่อเสียง (audio materials and equipment) เป็นวัสดุและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อการสื่อสาร ด้วยเสียง เช่น เครื่องเล่นซีดีใช้กับแผ่นซีดี เครื่องเล่น/บันทึกเทปใช้กับเทปเสียง หรืออาจเป็นอุปกรณ์ในการ ถ่ายทอดสัญญาณเสียงดังเช่นวิทยุที่รับสัญญาณเสียงจากแหล่งส่งโดยไม่ต้องใช้วัสดุใดๆ ในการนำเสนอ เสียง สื่อแบ่งตามประสบการณ์การเรียนรู้รูปแบบการเรียนรู้ของคนเราแบ่งเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ การฟัง การ ดู และการกระทำโดยแบ่งเป็นขั้นตอนต่างๆ ดังนี้ - ประสบการณ์ตรง เป็นการให้ประสบการณ์ที่เป็นจริงมากที่สุด ด้วยการเห็น สัมผัสจับต้อง ลิ้มรส ได้ยิน และได้กลิ่น เพื่อให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมโดยตรง เช่น สัมผัสขนสัตว์เพื่อรับรู้ความอ่อนนุ่ม รับประทานมะนาวเพื่อรับรู้ 3


การจำแนกสื่อการเรียนการสอน(ต่อ) รสเปรี้ยว ฯลฯ อยู่ในสถานการณ์จริง เช่น อยู่ใต้ดินโดยเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน ฯลฯ หรือด้วยการกระทำของ ตนเอง เช่น การจัดดอกไม้ ทำกับข้าว เหล่านี้เป็นต้น - ประสบการณ์รอง เป็นการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนเรียนจากสิ่งที่ใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุด เช่น ตึกระฟ้า เรือดำน้ำ หอไอเฟล หรือเป็นสื่อที่อยู่ภายในสิ่งมีชีวิตหรือวัตถุที่ไม่สามารถผ่าออกดูได้ ในกรณีนี้จะใช้ของจำลอง แทน เช่นโครงกระดูก กล้องถ่ายรูป หรือหากไม่สามารถไปในสถานที่จริงหรืออยู่ในสถานการณ์จริงได้จะใช้การ จำลองก็ได้ เช่น การลงบัตรเลือกตั้ง การนั่งในห้องนักบินจำลอง ฯลฯ - ประสบการณ์นาฏกรรมหรือการแสดง เป็นการแสดงบทบาทสมมุติหรือการแสดงละคร ด้วยยุคสมัย เวลา และสถานที่ เช่นเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์หรือเรื่องราวที่เป็นนามธรรม โดยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมเพื่อเรียนรู้ จากการสวมบทบาทสมมติในการแสดงนั้น - การสาธิต เป็นการแสดงหรือกระทำประกอบคำอธิบายของความจริง แนวคิดหรือกระบวนการ เช่น การ ตัดเย็บเสื้อผ้า การปรุงอาหาร - การศึกษานอกสถานที่ เป็นการให้ผู้เรียนพบเห็นและเรียนรู้จากประสบการณ์ภายนอกสถานที่เรียน เช่น เยี่ยมชมอุทยานประวัติศาสตร์เพื่อดูวัตถุและสถานที่โบราณ ไปสวนสัตว์เพื่อดูสัตว์นานาชนิด - นิทรรศการ เป็นการจัดแสดงสิ่งของต่างๆ การจัดป้ายนิเทศ ฯลฯ เพื่อให้สารประโยชน์และความรู้แก่ ผู้เรียน เช่น ในการจัดนิทรรศการวันเข้าพรรษา อาจมีการใช้ภาพกราฟิกทั้งภาพถ่าย ภาพวาดประกอบข้อความ ตัวอักษร เสนอภาพเคลื่อนไหวด้วยแผ่นวีซีดี - โทรทัศน์โดยใช้ทั้งโทรทัศน์การศึกษาและโทรทัศน์การสอนเพื่อให้ข้อมูลความรู้แก่ผู้เรียนหรือผู้ชมที่อยู่ ทางบ้าน การสอนอาจจะเป็นการสอนสดหรือบันทึกลงวีดิทัศน์ก็ได้ - ภาพยนตร์เป็นภาพเคลื่อนไหวและเสียงที่บันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ลงบนฟิล์ม (ปัจจุบันเป็นการใช้แผ่น วีซีดี / ดีวีดี) เพื่อให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ทั้งภาพและเสียง - การบันทึกเสียง วิทยุ ภาพนิ่ง สื่อเสียงและภาพอาจใช้ได้ทั้งการเรียนรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม สื่อใน ขั้นตอนนี้จะให้ประสบการณ์น้อยกว่าสื่อโสตทัศน์ - ทัศนสัญลักษณ์สื่อในขั้นตอนนี้เป็นการนำเสนอสัญลักษณ์ทางทัศนะ เช่น แผนที่ แผนภูมิ แผนภาพ กราฟ หรือเครื่องหมายซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์แทนความเป็นจริง - วจนสัญลักษณ์เป็นขั้นจุดยอดซึ่งนำเสนอประสบการณ์ขั้นที่เป็นนามธรรมที่สุดในลักษณะสัญลักษณ์ ทางวาจาหรือกิริยาซึ่งจะไม่เกี่ยวข้องกับลักษณะทางกายภาพ เมื่อประมวลสื่อที่ใช้ในประสบการณ์ของเดล ทำให้ สามารถจำแนกสื่อการสอนออกเป็น 3 ประเภท คือ 4


1. วัสดุ (software) หมายถึง สิ่งที่เก็บความรู้อยู่ในตัวเองซึ่งจำแนกย่อยได้เป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ วัสดุประเภทที่ สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ด้วยตนเองโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยอุปกรณ์ช่วย เช่น แผนที่ ลูกโลก รูปภาพ การจำแนกสื่อการเรียนการสอน(ต่อ) หุ่นจำลอง ฯลฯ วัสดุประเภทที่ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ด้วยตนเอง จำเป็นจะต้องอาศัยอุปกรณ์อื่น ช่วย เช่น แผ่นซีดี ฟิล์มภาพยนตร์ สไลด์ ฯลฯ 2. อุปกรณ์ (hardware) หมายถึง สิ่งที่เป็นตัวกลางหรือตัวผ่านทำให้ข้อมูลหรือความรู้ที่บันทึกในวัสดุ สามารถถ่ายทอดออกมาให้เห็นภาพหรือได้ยินเสียง เช่น เครื่องฉายสไลด์ เครื่องฉายแผ่นโปร่งใส เครื่องฉาย ภาพยนตร์ เครื่องเล่นแผ่นซีดี เป็นต้น 3. เทคนิคและวิธีการ (techniques and methods) หมายถึง สื่อที่มีลักษณะเป็นแนวความคิดหรือ รูปแบบขั้นตอนในการเรียนการสอน โดยสามารถนำสื่อวัสดุและอุปกรณ์ใช้ช่วยในการสอนได้ เช่น เกมและการ จำลอง การสอนแบบจุลภาค การสาธิต เป็นต้น นักจิตวิทยาท่านหนึ่ง คือ เจโรม บรุนเนอร์ (Jerome Bruner) ได้ ออกแบบโครงสร้างของกิจกรรมการสอนไว้ โดยประกอบด้วยมโนทัศน์ด้านการกระทำโดยตรง (enactive) การ เรียนรู้ด้วยภาพ (iconic) และการเรียนรู้ด้วยนามธรรม (abstract) เมื่อเปรียบเทียบกรวยประสบการณ์ของเดลมี ลักษณะที่ใกล้เคียงและเป็นคู่ขนานกัน เมื่อพิจารณาจากกรวยประสบการณ์ของเดลจากฐานของกรวยขึ้นไป ดังนี้ ขั้นที่ 1-6 ผู้เรียนเรียนโดยได้รับประสบการณ์ด้วยตนเองจากการกระทำ การมีส่วนร่วมในรูปแบบต่างๆ ของประสบการณ์ที่เป็นจริง และการสังเกตจากของจริงหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเปรียบเทียบได้กับการเรียนรู้ ด้วยการกระทบ ขั้นที่ 7-9 ผู้เรียนสังเกตเหตุการณ์หรือรับประสบการณ์จากการถ่ายทอดโดยสื่อประเภทภาพและเสียง เช่น โทรทัศน์ วิทยุ ภาพนิ่ง เสมือนเป็นการเรียนรู้ด้วยภาพขั้นที่ 10-11 ผู้เรียนได้รับประสบการณ์จากสัญลักษณ์ในรูปแบบของตัวอักษรเครื่องหมายหรือคำพูด ซึ่งมี ลักษณะเป็นนามธรรมมากที่สุด สื่อแบ่งตามทรัพยากรการเรียนรู้ ทรัพยากร หมายถึง สิ่งทั้งปวงอันมีค่า ทรัพยากรการเรียนรู้ (learning resources) จึงหมายรวมถึงทุกสิ่ง ที่มีอยู่ในโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เกิดเองโดยธรรมชาติหรือสิ่งที่คนประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อนำมาใช้ในการเรียนรู้ - คน (people) ในทางการศึกษาโดยตรงนั้น หมายถึง บุคลากรที่อยู่ในระบบของโรงเรียน ได้แก่ ครู ผู้บริหาร ผู้แนะนำการศึกษา ผู้ช่วยสอน หรือผู้ที่อำนวยความสะดวกด้าน “ผู้เชี่ยวชาญ” ซึ่งถึงแม้จะมิใช่นัก การศึกษา แต่สามารถจะช่วยอำนวยความสะดวกหรือเชิญมาเป็นวิทยากรเพื่อเสริมการเรียนรู้ได้ในการให้ความรู้ แต่ละด้าน อาทิเช่น ศิลปิน นักการเมือง นักธุรกิจ ช่างซ่อมรถยนต์ ฯลฯ - วัสดุ (materials) วัสดุในการศึกษาโดยตรงจะเป็นประเภทที่บรรจุเนื้อหาบทเรียน 5


- อาคารสถานที่ (setting) หมายถึง ตัวตึก ที่ว่าง สิ่งแวดล้อม เช่น ห้องประชุม ห้องโถง ฯลฯ การจำแนกสื่อการเรียนการสอน(ต่อ) - เครื่องมือและอุปกรณ์ (tools and equipment) เป็นทรัพยากรทางการเรียนรู้เพื่อช่วยในการผลิต หรือใช้ร่วมกับทรัพยากรอื่นๆ - กิจกรรม (activities) โดยทั่วไปกิจกรรมที่ใช้ในการเรียนการสอนมักเป็นการดำเนินงานที่จัดขึ้นเพื่อ กระทำร่วมกับทรัพยากรอื่นๆ หรือเป็นเทคนิควิธีการพิเศษเพื่อการเรียนการสอน เช่น เกม การสัมม นา การจัด ทัศนศึกษา ฯลฯ คุณสมบัติของสื่อการเรียนการสอน สื่อการสอนมีคุณสมบัติพิเศษ 3 ประการ คือ 1. สามารถจัดยึดประสบการณ์กิจกรรมและการกระทำต่างๆ ไว้ได้อย่างคงทนถาวร ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ ในอดีตหรือปัจจุบัน ทั้งในลักษณะของรูปภาพ เสียง และสัญลักษณ์ต่างๆ สามารถนำไปใช้ได้ตามความต้องการ 2. สามารถจัดแจงจัดการและปรุงแต่งประสบการณ์ต่างๆ ให้ใช้ได้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการเรียน การสอนเพราะสื่อการสอนบางชนิด สามารถใช้เทคนิคพิเศษเพื่อเอาชนะข้อจำกัดในด้านขนาด ระยะทาง เวลา และความเป็นนามธรรมของประสบการณ์ตามธรรมชาติได้ 3. สามารถแจกจ่ายและขยายของข่าวสารออกเป็นหลายๆ ฉบับเพื่อเผยแพร่สู่คนจำนวนมาก และสามารถ ใช้ซ้ำๆ ได้หลายๆ ครั้ง ทำให้สามารถแก้ปัญหาในด้านการเรียนการสอนต่างๆ ทั้งการศึกษาในระบบโรงเรียนและ นอกระบบโรงเรียนได้เป็นอย่างดี คุณค่าของสื่อการเรียนการสอน สื่อการสอนนับว่าเป็นสื่อสำคัญในการเรียนรู้ เนื่องจากเป็นตัวกลางในการถ่ายทอด เนื้อหาจากผู้สอนไปยัง ผู้เรียน หรือเป็นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ดังนั้น สื่อการสอนจึงนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งกับผู้เรียนและผู้สอน ดังนี้ สื่อกับผู้เรียน สื่อการเรียนการสอนมีความสำคัญและคุณค่าต่อผู้เรียน ดังนี้ - เป็นสิ่งช่วยให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะช่วยให้ผู้เรียนสามารถ เข้าใจเนื้อหาบทเรียนที่ ยุ่งยากซับซ้อนได้ง่ายขึ้นในระยะเวลาอันสั้น และช่วยให้เกิดความคิดรวบยอดในเรื่องนั้นได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว 6


- สื่อจะช่วยกระตุ้นและสร้างความเข้าใจให้กับผู้เรียน ทำให้เกิดความรู้สนุกสนานและไม่รู้สึกเบื่อหน่ายการ เรียน ผู้เรียนมีความเข้าใจตรงกันหากเป็นเรื่องของนามธรรมและยากต่อความเข้าใจ และช่วยให้เกิดประสบการณ์ ร่วมกันในวิชาที่เรียน คุณค่าของสื่อการเรียนการสอน(ต่อ) - สื่อช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียน ทำให้เกิดมนุษยสัมพันธ์อันดี ในระหว่างผู้เรียนด้วย กันเองและกับผู้สอนด้วย - สร้างเสริมลักษณะที่ดีในการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความคิด สร้างสรรค์ และช่วย แก้ปัญหาเรื่องของความแตกต่างระหว่างบุคคล จากการใช้สื่อรายบุคคล สื่อกับผู้สอน สื่อการเรียนการสอนมีความสำคัญและคุณค่าต่อผู้สอนดังนี้ - การใช้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ประกอบการเรียนการสอน เป็นการช่วยให้บรรยากาศในการสอนน่าสนใจ ยิ่งขึ้น ทำให้ผู้สอนมีความกระตือรือร้นในการสอนมากกว่าวิธีการที่เคยใช้การบรรยายแต่เพียงอย่างเดียว และเป็น การสร้างความเชื่อมั่นในตัวเองให้เพิ่มขึ้นด้วย - ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้สอนในด้านการเตรียมเนื้อหาเพราะสามารถนำสื่อมาใช้ซ้ำได้ และบางทีอาจให้ นักเรียนศึกษาเนื้อหาจากสื่อได้เอง - เป็นการกระตุ้นให้ผู้สอนตื่นตัวอยู่เสมอในการเตรียมและผลิตวัสดุและเรื่องราวใหม่ๆ เพื่อใช้เป็นสื่อการ สอน ตลอดจนคิดค้นเทคนิควิธีการต่างๆ เพื่อให้การเรียนรู้น่าสนใจยิ่งขึ้น (กิดานัน มลิทอง, 2553) นอกจากนี้ คุณค่าของสื่อการเรียนการสอนสามารถจำแนกได้ 3 ด้าน คือ 1. คุณค่าด้านวิชาการ 1.1 ทำให้ผู้เรียนเกิดประสบการณ์ตรง 1.2 ทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ดีกว่าและมากกว่าไม่ใช้สื่อการสอน 1.3 ลักษณะที่เป็นรูปธรรมของสื่อการสอน ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจความหมายของสิ่งต่างๆ ได้กว้างขวางและ เป็นแนวทางให้เข้าใจสิ่งนั้นๆ ได้ดียิ่งขึ้น 1.4 ส่วนเสริมด้านความคิดและการแก้ปัญหา 1.5 ช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ถูกต้อง และจำเรื่องราวได้มากและได้นาน 1.6 สื่อการสอนบางชนิด ช่วยเร่งทักษะในการเรียนรู้ เช่น ภาพยนตร์ ภาพนิ่ง เป็นต้น 2. คุณค่าด้านจิตวิทยาการเรียนรู้ 2.1 ทำให้เกิดความสนใจ และต้องเรียนรู้ในสิ่งต่างๆ มากขึ้น 2.2 ทำให้เกิดความคิดรวบยอดเพียงอย่างเดียว 7


2.3 เร้าความสนใจ ทำให้เกิดความพึงพอใจ และยั่วยุให้กระทำกิจกรรมด้วยตนเอง 3. คุณค่าด้านเศรษฐกิจการศึกษา 3.1 ช่วยให้ผู้เรียนที่เรียนช้า เรียนได้เร็วและมากขึ้น 3.2 ประหยัดเวลาในการทำความเข้าใจเนื้อหาต่างๆ คุณค่าของสื่อการเรียนการสอน(ต่อ) 3.3 ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้เหมือนกันครั้งละหลายๆ คน 3.4 ช่วยขจัดปัญหาเรื่องเวลา สถานที่ ขนาด และระยะทาง อย่างไรก็ตาม สื่อการสอนจะมีคุณค่าต่อเมื่อผู้สอนได้นำไปใช้อย่างเหมาะสมและถูกวิธี ดังนั้น ก่อนที่จะนำ สื่อแต่ละอย่างไปใช้ ผู้สอนควรจะศึกษาถึงลักษณะและคุณสมบัติของสื่อการสอน ข้อดีและข้อจำกัดอันเกี่ยวเนื่อง กับตัวสื่อและการใช้สื่อแต่ละอย่าง ตลอดจนการผลิตและการใช้สื่อให้เหมาะสมกับสภาพการเรียนการสอนด้วย ทั้งนี้เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนบรรลุผลตามจุดมุ่งหมายและวัตถุประสงค์ที่วางไว้ หลักการเลือกสื่อการเรียนการสอน การเลือกสื่อการสอนเพื่อนำมาใช้ประกอบการสอน เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง โดยผู้สอนจะต้องตั้งวัตถุประสงค์นั้นเป็นตัวชี้นำในการเลือกสื่อการสอนที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังมีหลักการอื่นๆ เพื่อประกอบการพิจารณา คือ 1. เลือกสื่อการสอนที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ผู้สอนควรศึกษาถึงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ที่ หลักสูตรกำหนดไว้ วัตถุประสงค์ในที่นี้ หมายถึงวัตถุประสงค์เฉพาะในแต่ละส่วนของเนื้อหาย่อย ไม่ใช่วัตถุประสงค์ ในภาพรวมของหลักสูตร เช่น หลักสูตรกำหนดวัตถุประสงค์ไว้ว่า หลังการเรียนผู้เรียนควรจำแนกรสเปรี้ยวและรส หวานได้ดังนั้น งานการเรียนรู้ควรเป็นประสบการณ์ตรง ผู้สอนควรพิจารณาว่าสื่อการสอนที่เหมาะสมจะใช้กับการ ให้ประสบการณ์ตรงได้แก่ อะไรบ้าง ซึ่งจากตัวอย่าง อาจเลือกใช้ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว กับขนมหวานให้ผู้เรียนได้ชิมรส ด้วยตนเอง เป็นต้น 2. เลือกสื่อการสอนที่ตรงกับลักษณะของเนื้อหาของบทเรียน เนื้อหาของบทเรียนอาจมีลักษณะแตกต่าง กันไป เช่น เป็นข้อความ เป็นแนวคิด เป็นภาพนิ่ง / ภาพเคลื่อนไหว เป็นเสียง เป็นสี ซึ่งการเลือกสื่อการสอนควร เลือกให้เหมาะสมกับลักษณะของเนื้อหา ตัวอย่างเช่น การสอนเรื่องสีต่างๆ สื่อก็ควรจะเป็นสิ่งที่แสดงออกได้ถึง ลักษณะของสีต่างๆ ตามที่สอนดังนั้นควรเลือกสื่อการสอนที่ให้เนื้อหาสาระครอบคลุมตามเนื้อหาที่จะสอน มีการให้ ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และมีรายละเอียดมากเพียงพอที่จะให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ 3. เลือกสื่อการสอนให้เหมาะสมกับลักษณะของผู้เรียน ลักษณะเฉพาะตัวต่างๆ ของผู้เรียนเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อ การรับรู้สื่อการสอน ในการเลือกสื่อการสอนต้องพิจารณาลักษณะต่างๆ ของผู้เรียน เช่น อายุ เพศ ความถนัด ความสนใจ ระดับสติปัญญา วัฒนธรรมและประสบการณ์เดิม ตัวอย่างเช่น การสอนผู้เรียนที่เป็น 8


นักเรียนระดับประถมศึกษาควรใช้เป็นภาพการ์ตูนมีสีสันสดใส ในขณะที่การสอนนักเรียนระดับมัธยมศึกษาอาจใช้ เป็นภาพเหมือนจริงได้ ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกสื่อให้เหมาะสมกับลักษณะผู้เรียนนั้นควรศึกษาจากผลงานวิจัย 4. เลือกสื่อการสอนให้เหมาะสมกับจำนวนของผู้เรียน และกิจกรรมการเรียนการสอนในการสอนแต่ละ ครั้งจำนวนของผู้เรียนและกิจกรรมที่ใช้ในการเรียนสอน ในห้องก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาควบคู่กันในการ หลักการเลือกสื่อการเรียนการสอน(ต่อ) ใช้สื่อการสอน เช่น การสอนผู้เรียนจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้วิธีการสอนแบบบรรยาย ซึ่งสื่อการสอนที่นำมาใช้อาจ เป็นเครื่องฉายต่างๆ และเครื่องเสียง เพื่อให้ผู้เรียนมองเห็นและได้ยินอย่างทั่วถึง ส่วนการสอนผู้เรียนเป็น รายบุคคล อาจเลือกใช้วิธีการสอนแบบค้นคว้าสื่อการสอนอาจเป็นหนังสือบทเรียนแบบโปรแกรม หรือ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นต้น 5. เลือกสื่อการสอนที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อมในที่นี้อาจได้แก่ อาคาร สถานที่ ขนาด พื้นที่ แสงไฟฟ้า เสียงรบกวน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกหรือบรรยากาศ สิ่งเหล่านี้ควรนำมาประกอบการ พิจารณาเลือกใช้สื่อการสอน ตัวอย่างเช่น การสอนผู้เรียนจำนวนมากซึ่งควรจะใช้เครื่องฉายและเครื่องเสียง แต่ สถานที่สอนเป็นลานโล่ง มีหลังคา ไม่มีผนังห้อง มีแสงสว่างจากภายนอกส่องเข้ามาถึง ดังนั้นการใช้เครื่องฉายที่ ต้องใช้ความมืดในการฉาย ก็ต้องหลีกเลี่ยงมาเป็นเครื่องฉายประเภทที่สามารถฉายโดยมีแสงสว่างได้ เป็นต้น 6. เลือกสื่อการสอนที่มีลักษณะน่าสนใจและดึงดูดความสนใจ ควรเลือกใช้สื่อการสอนที่มีลักษณะ น่าสนใจและดึงดูดความสนใจผู้เรียนได้ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของเสียงสีสัน รูปทรง ขนาด ตลอดจนการออกแบบและ การผลิตด้วยความประณีตสิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้สื่อการสอนมีความน่าสนใจและดึงดูดความสนใจของผู้เรียนได้ อาจก่อให้เกิดบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกสนาน น่าสนใจ หรือสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้เรียน 7. เลือกสื่อการสอนที่มีวิธีการใช้งาน เก็บรักษา และบำรุงรักษาได้สะดวก ในประเด็นสุดท้ายของการ พิจารณา ควรเลือกสื่อการสอนที่มีวิธีการใช้งานได้สะดวก ไม่ยุ่งยาก และหลังใช้งานควรเก็บรักษาได้ง่ายๆ ตลอดจนไม่ต้องใช้วิธีการบำรุงรักษาที่สลับซับซ้อนหรือมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูง แนวคิดการเลือกสื่อการสอนของโรมิสซอว์สกี้(Romiszowski) Romiszowski (1999) ได้เสนอแนวทางอย่างง่ายในการพิจารณาเลือกใช้สื่อการสอนไว้ว่า ในการเลือกสื่อ การสอนนั้นมีปัจจัยหลายอย่างที่มีผลต่อการเลือกสื่อที่จำเป็นต้องนำมาพิจารณาปัจจัยเหล่านั้น ได้แก่ 1. วิธีการสอน (Instructional Method) การเลือกวิธีการสอนเป็นปัจจัยแรกที่ควบคุมการเลือกสื่อ หรือ อย่างน้อยที่สุดก็เป็นสิ่งที่จำกัดทางเลือกของการใช้สื่อการสอนในการนำเสนอ เช่น ถ้าเลือกใช้วิธีการสอนแบบ อภิปรายกลุ่ม (Group Discussion) เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ซึ่งกันและกันระหว่าง 2. งานการเรียนรู้ (Learning Task) สิ่งที่มีอิทธิพลต่อทางเลือกในการเลือกสื่อการสอนอีกประการหนึ่งคือ งานการเรียนรู้สำหรับผู้เรียน เพราะสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่จำกัดหรือควบคุมการเลือกวิธีการสอน เช่น การฝึกอบรม ผู้ตรวจการ หรือทักษะการบริหารงาน 9


3. ลักษณะของผู้เรียน (Learner Characteristics) ลักษณะพิเศษเฉพาะของผู้เรียนก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่มี อิทธิพลโดยตรงต่อการเลือกสื่อการสอน ตัวอย่างเช่น การสอนผู้เรียนที่เรียนรู้ได้ช้า โดยการใช้หนังสือหรือเอกสาร เป็นสื่อการสอน จะเป็นสิ่งที่ยิ่งทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาในกระบวนการเรียนการสอน ผู้เรียนกลุ่มนี้ควรเรียนรู้ จากสื่ออื่นๆ ที่ทำการรับรู้และเรียนรู้ได้ง่ายกว่านั้น หลักการเลือกสื่อการเรียนการสอน(ต่อ) 4. ข้อจำกัดในทางปฏิบัติ (Practical Constrain) ข้อจำกัดในทางปฏิบัติในที่นี้หมายถึง ข้อจำกัดทั้ง ทางด้านการจัดการ และทางด้านเศรษฐศาสตร์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อทางเลือกในการเลือกใช้วิธีการสอนและ สื่อการสอน เช่น สถานที่ใช้สื่อการสอน สิ่งอำนวยความสะดวก ขนาดพื้นที่ งบประมาณ เป็นต้น 5. ผู้สอนหรือครู (Teacher) สื่อการสอนแต่ละชนิดไม่ว่าจะมีข้อดีอย่างไร แต่อาจไม่ถูกนำไปใช้เพียงเพราะ ผู้สอนไม่มีทักษะในการใช้สื่อนั้นๆ นอกจากประเด็นในเรื่องทักษะของผู้สอนแล้ว ประเด็นในเรื่องทัศนคติของผู้สอน ก็เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการเลือกสื่อการสอนเช่นกัน แนวคิดการเลือกสื่อการสอนของเคมพ์และสเมลไล (Jerrold E. Kemp และ Don C. Smelle) Jerrold E. Kemp และ Don C. Smelle (1989) เสนอว่า นอกจากงานการเรียนรู้หรือสถานการณ์การ เรียนรู้ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่กำหนดถึงสื่อที่จะเลือกใช้แล้ว สิ่งสำคัญประการต่อมาในการพิจารณาเลือกใช้สื่อการสอน คือ คุณลักษณะของสื่อ ซึ่งผู้สอนควรศึกษาคุณลักษณะของสื่อแต่ละชนิดประกอบในการเลือกสื่อการสอนด้วย คุณลักษณะของสื่อ (Media Attributes) หมายถึง ศักยภาพของสื่อในการแสดงออกซึ่งลักษณะต่างๆ เช่น การ เคลื่อนไหว สี และเสียง เป็นต้น หลักการใช้สื่อการเรียนการสอน 1. เตรียมตัวผู้สอน เป็นการเตรียมความพร้อมของตัวผู้สอนในการใช้สื่อการสอน โดยการทำความเข้าใจ ในเนื้อหาที่มีในสื่อ ขั้นตอนและวิธีการใช้สื่อ เป็นต้น 2. เตรียมจัดสภาพแวดล้อม เช่น สถานที่ ห้องเรียน ห้อง Lab วัสดุอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือ และสิ่ง อำนวยความสะดวกต่างๆ 3. เตรียมตัวผู้เรียน เพื่อให้มีความพร้อมที่จะเรียน อาจมีการทดสอบ มีการอธิบายวิธีการใช้สื่อ อุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ บอกวัตถุประสงค์ แนะนำหรือให้ความคิดรวบยอดของเนื้อหาในสื่อนั้นๆ เป็นต้น 4. การใช้สื่อให้เหมาะกับขั้นตอนและวิธีการตามที่ได้เตรียมไว้แล้ว และควบคุมการนำเสนอสื่อ เพื่อให้ การเรียนการสอนเป็นไปอย่างราบรื่น 5. การติดตามผล (Follow Up) หลังจากการใช้สื่อการสอนแล้ว ควรมีการติดตามผลเพื่อเป็นการ ทดสอบว่า ผู้เรียนเข้าใจบทเรียน และเรียนรู้จากสื่อที่นำเสนอไปนั้นอย่างถูกต้องหรือไม่ เช่น การให้ผู้เรียนต 10


คำถาม อภิปราย ทำรายงาน เป็นต้น เพื่อผู้สอนจะได้ทราบจุดบกพร่อง สามารถ นำมาแก้ไขปรับปรุง สำหรับการสอนในครั้งต่อไป ความหมายของการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน การพัฒนา คือ การทำให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เจริญขึ้น การพัฒนา คือ การทำให้เปลี่ยนแปลง การพัฒนา คือ การทำให้ดีขึ้น การพัฒนา คือ ทำให้เจริญขึ้น (นิพัฒน์ ชัยวรมุขกุล, 2555) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมายของ “พัฒนา” ว่าคือ “ทำให้เจริญ” ดังนั้น การพัฒนาจึงหมายถึง การทำให้เจริญ “การพัฒนา” หมายถึง ความเจริญก้าวหน้าโดยทั่วๆ ไป เช่น การพัฒนาชุมชน พัฒนาประเทศ คือ การทำสิ่งเหล่านั้นให้ดีขึ้น เจริญขึ้น สนองความต้องการของ ประชาชนส่วนใหญ่ให้ได้ดียิ่งขึ้น หรืออาจกล่าวได้ว่า “การพัฒนา” เป็นกระบวนการของการเคลื่อนไหวจากสภาพ ที่ไม่น่าพอใจไปสู่สภาพที่น่าพอใจ การพัฒนาเป็นกระบวนการที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ไม่หยุดนิ่ง การพัฒนามีความสัมพันธ์โดยตรงกับความ เปลี่ยนแปลง กล่าวคือ การพัฒนา หมายถึง กระบวนการของการเปลี่ยนแปลงที่มีการวางแผนไว้แล้ว คือการทำให้ ลักษณะเดิมเปลี่ยนไป โดยมุ่งหมายว่า ลักษณะใหม่ที่เข้ามาแทนที่นั้นจะดีกว่าลักษณะเก่า แต่โดยธรรมชาติแล้ว การเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดปัญหาในตัวมันเอง เพียงแต่ว่าจะมีปัญหามาก หรือปัญหาน้อย ดังนั้น การพัฒนาสื่อการเรียนการสอน จึงหมายถึง การทำให้สิ่งต่างๆ ที่ใช้เป็นเครื่องมือ หรือช่องทาง สำหรับทำให้การสอนของครูไปถึงผู้เรียนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เจริญขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผู้เรียนเรียนรู้ตาม จุดประสงค์หรือจุดมุ่งหมายที่วางไว้เป็นอย่างดี แนวทางการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน ในปัจจุบันเป็นยุคของการแข่งขันอย่างเสรี จากพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้เปิด โอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรมในการผลิตสื่อการเรียนการสอนทุกประเภท ทุกสาระการเรียนรู้และ ทุกช่วงชั้น อาจกล่าวได้ว่าเป็นหนทางที่จะนำไปสู่การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ผู้ผลิต รายใหญ่มักจะได้เปรียบในการแข่งขันทางการตลาดมากกว่าผู้ผลิตรายย่อย ดังนั้น ถึงมีการเปิดโอกาสให้มีการ แข่งขันเสรีแต่ก็ไม่ใช่แนวทางในการพัฒนาเนื้อหาสาระของสื่อได้อย่างแท้จริง สิ่งสำคัญคือ การกำหนดนโยบายเพื่อ ควบคุมคุณภาพและราคาให้ชัดเจน รวมทั้งการนำนโยบายไปปฏิบัติใช้อย่างถูกต้องเหมาะสมและเคร่งครัด เพื่อการ พัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้เกิดความก้าวหน้าต่อการศึกษาไทยอย่างแท้จริง 11


ในการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนเพื่อใช้ในการดำเนินการจัดการศึกษาในสถานศึกษาขึ้นใช้เองโดย ครูผู้สอนนั้น นับเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะครูผู้สอนจะเป็นผู้ที่สามารถวิเคราะห์ถึงความยากง่าย ความเหมาะสมต่อ การเรียนรู้ของผู้เรียน แต่การที่จะพัฒนาสื่อให้มีประสิทธิภาพต่อการเรียนรู้นั้นจะต้องมีกระบวนการที่มีขั้นตอน แนวทางการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน(ต่อ) และมีระบบ เพื่อให้สื่อการเรียนการสอนนั้นมีคุณค่าต่อการศึกษาสูงสุด ดังนั้น ครูผู้สอนจึงควรพิจารณาปัจจัยเพื่อ การพัฒนาสื่อดังต่อไปนี้ ปัจจัยทางด้านเนื้อหา - สาระเนื้อหามีความซับซ้อน ผู้เรียนมีความเข้าใจแตกต่างกัน - สาระเนื้อหาไม่สามารถอธิบายให้เกิดรูปธรรมได้ - สาระเนื้อหาวิชานั้นมีขั้นตอน มีกระบวนการที่ใช้เวลานาน - สาระเนื้อหาวิชานั้นมีขั้นตอน มีกระบวนการที่ใช้เวลารวดเร็วเกินไป - สาระเนื้อหาวิชานั้นต้องสอดคล้องกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมของบทเรียนที่ผู้เรียน เมื่อเรียนรู้แล้วมี ความสามารถอะไรบ้าง ปัจจัยทางด้านการผลิต - เลือกประเภทหรือรูปแบบของสื่อที่จะผลิต : อาทิ ชุดการสอน บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิดีทัศน์ - ความพร้อมด้านสาระเนื้อหา - ความพร้อมด้านเครื่องมือ และเทคโนโลยี - ความพร้อมด้านผู้ผลิต / พัฒนา : อาทิ ผู้เชี่ยวชาญเนื้อหา ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ นักวัดผล ช่างเทคนิค - ความพร้อมด้านแผนการผลิต : ความเหมาะสมต่อวัยของการเรียนรู้ ลำดับขั้นตอนการสร้าง กระบวนการถ่ายทอดเนื้อหา การตรึงพฤติกรรม กิจกรรมการเรียนรู้ - ความพร้อมด้านงบประมาณ ปัจจัยด้านการนำไปใช้งาน - ความพร้อมของเครื่องมือ และเทคโนโลยีในการเรียนรู้ อุปกรณ์ เครื่องมือที่นำมาใช้ประกอบการ เรียนรู้ - ความพร้อมของสภาพแวดล้อม เสียง แสง - ความพร้อมของผู้เรียนและครูผู้สอน ปัจจัยทางด้านการเรียนรู้ - ลักษณะเฉพาะการเรียนรู้ของตัวสื่อ เรียนรู้ด้วยตนเอง หรือควบคุมพฤติกรรม / ลำดับเนื้อหาโดย ครูผู้สอน - วิธีการใช้งาน ความ ยาก ง่าย การใช้ประกอบกับเครื่องมือหรืออุปกรณ์อื่นของการใช้สื่อ 12


อุปกรณ์อื่นของการใช้สื่อ - กระบวนการเรียนรู้ การเข้าถึงและการถ่ายทอดเนื้อหา - การซึมซับความรู้ - การตรึงพฤติกรรมต่อการเรียนรู้ แนวทางการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน(ต่อ) นอกจากนี้ ครูผู้สอนควรจะได้ประเมินการใช้สื่อประกอบการเรียนรู้ว่า มีข้อบกพร่อง หรือส่วนใดที่ควร ปรับปรุงแก้ไข เพื่อใจได้ดำเนินการวางแผนการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นต่อไป สื่อการเรียนการสอนราคาเยา มีสื่อการเรียนการสอนอยู่หลายชนิดที่เราสามารถจัดหามาให้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือเสียค่าใช้จ่าย เพียงเล็กน้อย สื่อลักษณะนี้ได้แก่จำพวกจุลสาร แผ่นปลิว หนังสือ โปสเตอร์ รายงาน สถิติ แผนภูมิ ภาพนิ่ง แผ่น ภาพการ์ตูน ฯลฯ โดยมีหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล เอกชน สมาคมและองค์กรต่างๆ เป็นผู้ผลิตขึ้น โรงเรียน สามารถขอใช้สื่อเหล่านี้มาประกอบการเรียนการสอนได้ แต่หากผู้สอนต้องการผลิตสื่อการเรียนการสอนเอง โดยมี งบประมาณจำกัดหรือมีข้อจำกัดในเรื่องอื่นๆ ก็สามารถที่จะผลิตสื่อราคาเยาได้เอง โดยมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก และ เหมาะสมกับผู้สอนที่มีเวลาจำกัด ความหมายของสื่อการเรียนการสอนราคาเยา สื่อราคาเยา หมายถึง วัสดุทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้สอนหามาประกอบการสอน โดยเป็นสิ่งที่หาง่าย อยู่รอบตัว และมักจะพบเห็นเสมอ เช่น กรวด หิน ดิน ทราย ใบไม้ ดอกไม้ เป็นต้น สื่อราคาเยาไม่ใช่ความคิดใหม่ เป็นความคิดที่มีกันมานานแล้ว แต่กระบวนการผลิตและการนำมาใช้ได้ทำ เป็นลำดับขั้นตอนที่ชัดเจนและมีแนวปฏิบัติเพิ่มมากขึ้น ความได้เปรียบของสื่อราคาเยาจะอยู่ที่การช่วยให้การจัด กิจกรรมการเรียนการสอนนั้นง่ายขึ้น เพราะสื่อเหล่านี้ผู้สอนและผู้เรียนพบเห็นในท้องถิ่นแล้ว สื่อราคาเยานอกจากจะหมายถึง สื่อที่มีราคาถูกแล้วยังหมายถึงสื่อต่างๆ ที่มีอยู่ตามธรรมชาติไม่ต้องซื้อหา ด้วยราคาแพง สิ่งที่ครูคิดประดิษฐ์ขึ้นด้วยวัสดุราคาถูก หรือหาได้ง่าย รวมถึงสื่อสิ่งของได้เปล่าจากการแจกจ่าย เผยแพร่ของหน่วยงาน ซึ่งสื่อราคาเยามีหลายประเภท ดังนี้ 1. สิ่งที่มีอยู่แล้วในท้องถิ่น สิ่งธรรมชาติสามารถนำใช้ประกอบการเรียนการสอนในรูปของของจริง ใช้ได้โดยไม่ต้องดัดแปลงปรุงแต่ง เช่น ดิน หิน ทราย ต้นไม้ ใบไม้ แม่น้ำ ผลไม้ สนามหญ้า แม่น้ำ ป้าย ฯลฯ ซึ่ง จำแนกได้เป็น 13


1.1 พืช ใช้เป็นสื่อการสอนได้มากมายทั้งในการสอนที่เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับพืชโดยตรง หรือใช้ส่วนของพืช หรือสร้างความเข้าใจในการสอนเรื่องอื่น เป็นของจริงที่หาง่ายที่สุด แต่มักจะถูกมองข้าม ตัวอย่างที่พบเห็นได้ เช่น ครูต้องสอนให้นักเรียนทราบและเข้าใจถึงรูปร่าง ลักษณะ หน้าที่ส่วนประกอบต่างๆ ของต้นไม้ อันได้แก่ ราก ลำ ต้น กิ่ง ใบ ดอก ผล แทนที่ครูจะให้นักเรียนได้ศึกษาจากต้นไม้จริงๆ ซึ่งมีอยู่ทั่วไปในโรงเรียน ครูกลับใช้วิธีเขียนรูป ความหมายของสื่อการเรียนการสอนราคาเยา(ต่อ) ต้นไม้บนกระดานชอล์ค เพื่อใช้อธิบายส่วนประกอบ ในขณะที่บริเวณโรงเรียน หรือแม้แต่ข้างห้องเรียนที่กำลังสอน อยู่ มีต้นไม้เป็นจำนวนมาก ที่เปิดโอกาสให้ครูนำเด็กออกไปสัมผัสกับต้นไม้จริง ซึ่งจะทำให้บรรยากาศของการเรียน ดีกว่าการนั่งในห้อง ส่วนของพืชที่จะใช้ประกอบการสอนได้นั้นน่าจะใช้ได้ทุกส่วน นับตั้งแต่ รากแบบต่างๆ ลำต้น กิ่ง ก้าน ใบ ดอก ผล เมล็ด เส้นใย ขึ้นอยู่กับครูผู้สอนจะพิจารณาเลือกให้เหมาะสม เช่น ต้นกล้วยและก้านกล้วย 1.2 สัตว์อาจเป็นส่วนของสัตว์ เช่น เปลือกหอย ปะการัง หนังสัตว์ เขาสัตว์ งา ขน เกล็ด หรือ แม้แต่สัตว์ ทั้งตัวที่หาง่ายและไม่เป็นอันตราย ไก่ ปลา ปู กบ นก ก็สามาถนำมาใช้เป็นของจริงประกอบการสอนได้ทั้งสิ้น 1.3 แร่ธาตุเช่น หิน ดิน ทราย สินแร่ ในธรรมชาติ โดยเฉพาะดิน หิน มักจะมีอยู่ทั่วไป ครูอาจนำเข้ามา ในห้องเรียนหรือนำนักเรียนออกไปศึกษาก็ได้ 1.4 ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติเช่น แสงแดด กระแสลม กระแสน้ำ ฝนเมฆหมอก 2. สื่อราคาเยาที่ครูคิดประดิษฐ์ขึ้นวัสดุจากธรรมชาติที่หาได้ง่าย วัสดุเหลือใช้เศษวัสดุ หรือวัสดุราคา ถูก เช่น ขวดเปล่า กระป๋อง เศษผ้า ถุงเท้า หลอดไฟฟ้า หลอดกาแฟ กระดาษหนังสือพิมพ์ วัสดุจากต้นไม้ สิ่ง เหล่านี้ครูสามารถนำมาปรุงแต่ง ดัดแปลง ให้เป็นสื่อการเรียนการสอนที่มีคุณค่าได้ โดยอาศัยทักษะงานฝีมือ เพียง เล็กน้อยสื่อการเรียนการสอนที่ประดิษฐ์มาจากวัสดุราคาเยาจะมีคุณภาพหรือมีคุณค่าต่อการเรียนการสอนมาก น้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับตัวครูผู้ผลิตและผู้ใช้เป็นสำคัญว่าจะมีคุณสมบัติ มีความสามารถดีเพียงใด คุณสมบัติของ ครู หรือผู้ประดิษฐ์และใช้วัสดุราคาเยาดี มีดังนี้ 2.1 เป็นผู้มีความคิดสร้างสรรค์ 2.2 มีทักษะในงานช่างและงานฝีมือ เพราะการประดิษฐ์เศษวัสดุ ย่อมต้องอาศัยทักษะความรู้ความ ชำนาญทางช่างหรือการฝีมือที่ละเอียดอ่อนอยู่บ้าง 2.3 มีความรักและตั้งใจที่จะทำ 2.4 มีความรู้ความเข้าใจหลักสูตรเนื้อหาวิชา และจิตวิทยา การเรียนรู้เป็นอย่างดี 2.5 รู้จักสภาพธรรมชาติของท้องถิ่น เพื่อที่จะให้สามารถแสวงหาวัสดุจากสถานที่ต่างๆ ในท้องถิ่นมาใช้ได้ มากที่สุด 14


3. สื่อการสอนได้เปล่าหน่วยงาน องค์การหลายแห่งทั้งภาครัฐบาล และเอกชน ได้จัดทำสื่อเพื่อการ เผยแพร่ ความรู้ต่างๆ เช่น โปสเตอร์ รูปภาพ แผ่นปลิว จุลสาร หรือแม้วัสดุอุปกรณ์ที่มีราคาสูงเช่น เทปเสียง เทป ภาพภาพสไลด์ ออกเผยแพร่แจกจ่าย เช่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล สถานีอนามัย ไปรษณีย์ บริษัท ห้างร้าน สถานทูต สถานกงสุลแนวปฏิบัติในการผลิตและจัดหาสื่อจากท้องถิ่น หลักการออกแบบและการสร้างสื่อการเรียนการสอนราคาเยา ตัวอย่างการเลือกสื่อการสอนที่พบเห็นได้เสมอ เช่น ครูสอนคณิตศาสตร์เกี่ยวกับการนับจำนวน การบวก การลบ และต้องการวัสดุเป็นชิ้นๆ ก้อนๆ จำนวนหนึ่ง เพื่อให้นักเรียนได้ลงมือนับจำนวน แทนที่ครูจะนึกถึงก้อน ดิน หิน หรือวัสดุอื่นอีกมาก ที่หาได้ไม่ยากในท้องถิ่น มาให้นักเรียนนับ แต่ครูกลับนึกถึงก้อนแม่เหล็กเป็นอันดับ แรก และพยายามเรียกร้องให้มีการจัดซื้อกระดานแม่เหล็กมาใช้สอนนับจำนวน กรณีเช่นนี้ เราได้นับจำนวนก้อน หินดูจะก่อให้เกิดการเรียนรู้ได้มากกว่าการนับชิ้นส่วนบนกระดานแม่เหล็กเสียอีก ถ้าก้อนหินหาได้ง่ายนักเรียนทุก คนสามารถหามาได้ง่าย เปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ โดยมีหลักการดังนี้ 1. มีการศึกษาสำรวจสภาพท้องถิ่นล่วงหน้า เพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแหล่งวัสดุต่าง ในเรื่องชนิด จำนวน วิธีการได้มา 2. เปิดโอกาสนักเรียนตลอดจนถึงผู้ปกครองนักเรียน มีส่วนในการนำวัสดุอุปกรณ์จากท้องถิ่นมาใช้ให้เกิด ประโยชน์ต่อการเรียนการสอน 3. พิจารณาประเมินคุณค่า ของสื่อวัสดุที่นำมาใช้ เปรียบเทียบกับการใช้สื่อในลักษณะอื่น เพื่อหาทาง เลือกที่เหมาะสมในการใช้สื่อประกอบการสอนเนื้อหานั้นๆ ในครั้งต่อไป 4. พิจารณาให้เหมาะสม ในเรื่องการนำสื่อ จากท้องถิ่นเข้ามาใช้ห้องเรียนกับการนำนักเรียนออกไปศึกษา นอกห้องเรียนว่าจะคุ้มค่า เสี่ยงอันตรายหรือไม่ วัสดุกับเทคนิคการออกแบบ วัสดุการสอน หมายถึง วัสดุทุกสิ่งทุกอย่างที่ครูพึงหามาใช้ประกอบการเรียน การสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น ซึ่งครูผู้สอนส่วนหนึ่งมักจะมองข้ามไป เมื่อนึกถึงวัสดุอุปกรณ์ ที่ใช้สำหรับการเรียนการสอนสักเรื่องหนึ่ง ก็มักจะนึกถึงเฉพาะสื่อสำเร็จรูป จำพวกรูปภาพ แผนภูมิสไลด์ ที่มีผลิต ขายเป็นธุรกิจการค้า ราคาค่อนข้างสูง สิ่งของที่หาได้ง่ายสำหรับการสอนบางเนื้อหา เช่น ใบไม้ ก้อนหิน ดิน ทราย บางครั้งมีคุณค่ายิ่งกว่าสื่อข้างต้นเสียอีก ถ้ารู้จักนำมาใช้อย่างเหมาะสมเพราะสิ่งเหล่านี้เป็นของจริง ซึ่งเรายอมรับ กันว่ามีคุณค่าสูงสุด สำหรับการเรียนการสอน 15


ข้อสนับสนุนในการใช้สื่อการเรียนการสอนราคาเยา ผู้สอนมีความจำเป็นในการจัดหาสื่อการเรียนการสอนราคาเยามาประกอบการเรียนการสอนเนื่องจาก 1. ความจำเป็นด้านเศรษฐกิจของชาติในข้อนี้นักศึกษาตลอดถึงครูผู้สอน ผู้บริหารการศึกษาทั้งหลาย ย่อมทราบและตระหนักกันอยู่แล้วว่าประเทศของเรา เป็นประเทศกำลังพัฒนาหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการลงทุน เพื่อการพัฒนาไปเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ ต้องกู้เงินจาก ต่างประเทศปีละมากๆ ต้องจ่ายเงินกลับให้ต่างชาติรวมเงินต้นและดอกเบี้ยในแต่ละปีเป็นจำนวนเงินมหาศาล ใน ด้านการศึกษาเองก็มีโครงการที่กู้เงินจากต่างประเทศมาดำเนินการอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย เมื่อสภาพการณ์ เป็น เช่นนี้ การพิจารณาจัดหาสื่อหรือเทคโนโลยีการศึกษามาใช้จึงควรคำนึงถึงเรื่องการประหยัดไว้ให้มาก 2. ฐานะการเงินของโรงเรียน การพัฒนาด้านเทคโนโลยีการศึกษา ได้ก่อให้เกิดสิ่งประดิษฐ์ในรูปวัสดุ เครื่องมือประกอบการสอนใหม่ๆ อย่างมากมายเป็นที่สนใจของครูผู้สอน และผู้บริหารการศึกษาทั่วไป มีความ พยายามที่จะจัดซื้อจัดหาเทคโนโลยีหลายรูปแบบ ก่อให้เกิดปัญหาทั้งในโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีงบประมาณดำเนิน มาก และโรงเรียนขนาดเล็กที่งบประมาณมีอย่างจำกัดในโรงเรียนขนาดใหญ่ เช่น โรงเรียนในตัวเมืองมีนักเรียนมาก มีงบประมาณมากพอที่จะจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่ทันสมัย เข้ามาไว้ในโรงเรียน แต่เทคโนโลยีด้านวัสดุ และเครื่องมือ ต่างมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาประกอบกับความต้องการที่ดูจะไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้โรงเรียนเห็นว่า ยัง ขาดแคลนวัสดุ อุปกรณ์ที่ทันสมัยอยู่ตลอดไป งบประมาณที่ว่ามีมากแล้วก็กลับไม่เพียงพอสำหรับการจัดซื้อ อุปกรณ์บางอย่างซื้อไม่ได้ด้วยเงินบำรุงการศึกษาหรืองบประมาณแผ่นดิน โรงเรียนบางแห่งก็มีวิธีการหาเงินจาก แหล่งอื่นมาจัดซื้อ เช่น เรียกร้องให้มีการบริจาค จากผู้ปกครองของนักเรียน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ปกครองที่ มีฐานะยากจนกันอยู่ทั่วไปในโรงเรียนขนาดเล็กงบประมาณมีจำกัด ก็มีความพยายามเช่นเดียวกัน ที่จะจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์ที่ทันสมัยให้ทัดเทียมกับโรงเรียนขนาดใหญ่ บางแห่งขาดการวางแผนที่ชัดเจนว่า จะซื้อวัสดุอุปกรณ์นั้นๆ มาเพื่ออะไร คุ้มค่าหรือไม่ มีค่าใช้จ่ายในการใช้และการบำรุงรักษาตามมามากน้อยเพียงใด เมื่อซื้อมาแล้วใช้ไม่ คุ้มค่าเก็บไว้นานก็เสื่อมสภาพ เนื่องจากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี เช่น โรงเรียนบางแห่งพยายามหาทุนจัดซื้อ เครื่องฉายภาพยนตร์ 16 ม.ม. แต่เมื่อซื้อมาแล้วมีโอกาสใช้เพียง 2 - 3 ครั้งต่อปี เนื่องจากมีปัญหาการจัดหาหรือ ยืมฟิล์มมาฉาย 3. วัสดุอุปกรณ์สำเร็จรูปมีราคาสูง ตัวอย่างราคาวัสดุอุปกรณ์ในปี พ.ศ.2537 ราคาสไลด์ การศึกษา ขนาด 2"x 2" เรื่องหนึ่งจำนวน 30 ภาพ ราคาขายสำหรับสไลด์ที่ผลิตขึ้นโดยหน่วยงานภายในประเทศประมาณ 400-600 บาท ถ้าผลิตมาจากต่างประเทศ ราคาจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แม้ว่าครูผู้สอนจะสามารถผลิตสไลด์เอง ค่าใช้จ่ายก็จะใกล้เคียงกับที่ซื้อสำเร็จรูป เนื่องจากวัตถุดิบ เช่นฟิล์มและค่าล้างฟิล์ม มีราคาสูง เครื่องฉายสไลด์มี ราคาตั้งแต่ 8,000 - 30,000 บาท วิดีโอเทป รายการทางการศึกษา 1 ม้วน ราคาตั้งแต่ 250-1,200 บาท เครื่อง เล่นวิดีโดเทปราคาตั้งแต่ 8,000 บาท ถึงหลายหมื่นบาท สื่ออื่นๆ เช่น แผนที่ ลูกโลก หุ่นจำลอง ล้วนแต่ราคาสูงๆ 16


ข้อสนับสนุนในการใช้สื่อการเรียนการสอนราคาเยา(ต่อ) ทั้งสิ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจึงควรหันมาพิจารณาสื่อราคาเยา ที่สามารถผลิตหรือหาได้ง่ายจากท้องถิ่นแทนที่จะ เรียกร้องหาวัสดุอุปกรณ์อันทันสมัยอย่างเดียว 4. สื่อสำเร็จรูปไม่สอดคล้องกับสภาพชีวิตและสังคม สื่อสำเร็จรูปที่ผลิตจำหน่าย อาจใช้วิธีการสื่อ ความหมายบนพื้นฐานของประเพณีวัฒนธรรมและสภาวะแวดล้อมทางกายภาพที่แตกต่างไปจากสภาพชีวิตและ สังคมของนักเรียนในห้อง การสื่อความหมายอาจไม่ได้ผลเท่าที่ควร ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเช่น การใช้ภาพยนตร์ การศึกษาที่ผลิตจากต่างประเทศ 5. คุณสมบัติของสื่อที่จะส่งผลต่อการเรียนรู้สื่อสำเร็จรูปทั้งหลายเป็นเพียงประสบการณ์จำลองเท่านั้น คุณค่าด้านการเรียนรู้จึงมีข้อจำกัด ส่วนสื่อราคาเยาที่หาได้ในท้องถิ่นนั้น เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ ตรงอย่างกว้างขวางเพราะมีโอกาสที่จะใช้สื่อที่เป็นของจริงได้มาก การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนเฉพาะตามระดับการศึกษา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดระดับการศึกษาออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้ 1. ระดับประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6) การศึกษาระดับนี้เป็นการศึกษาช่วงแรกของภาคบังคับ มุ่งเน้นทักษะพื้นฐานด้านการอ่าน การเขียน การ คิดคำนวณ ทักษะการคิดพื้นฐาน การติดต่อสื่อสาร กระบวนการเรียนรู้ทางสังคม และพื้นฐานความเป็นมนุษย์ การ พัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างสมบูรณ์ และสมดุลทั้งในด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และวัฒนธรรม โดยเน้น การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ 2. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3) เป็นช่วงสุดท้ายของการศึกษาภาคบังคับ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้สำรวจความถนัดและความสนใจของตนเอง ส่งเสริมการพัฒนาบุคลิกภาพส่วนตน มีทักษะในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ คิดสร้างสรรค์ และการคิดแก้ปัญหา มี ทักษะในการดำเนินชีวิต มีทักษะการใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ ตลอดจนใช้เป็นพื้นฐานในการ ประกอบอาชีพและการศึกษาต่อ 3. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6) การศึกษาในระดับนี้เน้นการเพิ่มพูนความรู้และทักษะเฉพาะด้าน สนองตอบความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียนแต่ละคนทั้งด้านวิชาการและวิชาชีพ มีทักษะในการใช้วิทยาการและเทคโนโลยี ทักษะ กระบวนการคิดขั้นสูง สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพ มุ่ง พัฒนาตนและประเทศตามบทบาทของตน สามารถเป็นผู้นำและผู้ให้บริการชุมชนในด้านต่างๆ 17


การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนเฉพาะตามระดับการศึกษา(ต่อ) เนื่องจากการศึกษาแต่ละระดับมีการมุ่งเน้นผู้เรียนในด้านที่แตกต่างกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดแก่ตัว ผู้เรียน และผู้เรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ในอนาคต ดังนั้น การผลิตและพัฒนาสื่อการเรียน การสอนให้เหมาะสมกับการศึกษาในแต่ละระดับชั้น จึงสำคัญต่อการพัฒนาด้านการจัดการเรียนการรู้เป็นอย่างยิ่ง สื่อการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา สื่อการเรียนการสอนมีบทบาทต่อการเรียนของนักเรียนระดับประถมศึกษา (ชัยยงค์ พรหมวงศ์, 2525 : 24 – 25) ดังต่อไปนี้ 1. สื่อการสอนเป็นตัวกระตุ้นความสนใจของเด็กต่อเรื่องที่จะเรียน เมื่อเด็กเกิดความสนใจก็จะเกิดความ พยายามเรียนรู้เรื่องนั้นขึ้นมาเอง โดยครูไม่ต้องเสียเวลาพูดหรืออธิบายมากมายนัก 2. สื่อการสอนเป็นเครื่องมือที่จะให้เด็กได้เรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติ โดยที่เด็กจะเรียนรู้ได้ดีที่สุดด้วยการ ลงมือทำ หากไม่มีสื่อการสอนให้เป็นเครื่องมือ เด็กก็ไม่ทราบว่าจะทำอะไร เพราะการบอกให้เด็กลงมือทำกิจกรรม นั้นเพียงแต่การบอกให้ทำโดยไม่มีเครื่องมือช่วย ย่อมเป็นเรื่องยาก 3. สื่อการสอนช่วยให้ประสบการณ์รูปธรรมแก่เด็ก เพราะสื่อการสอนจะช่วยให้เด็กเห็นภาพ ได้ยินเสียง หรือทั้งสองอย่างเห็นการเคลื่อนไหว มีโอกาสเห็นของจริง หรือจำลอง และบางครั้งอาจได้รับประสบการณ์ตรง เกี่ยวกับสิ่งที่เรียน 4. ในการเรียนแนวคิดบางอย่าง นักเรียนจะเรียนได้ดีจากการดูตัวอย่างหรือตัวแบบ สื่อการสอนจึงมี บทบาทเป็นตัวแบบที่ดีสำหรับการเรียนของเด็กและสามารถทำให้เด็กเรียนได้รวดเร็วขึ้น หากไม่มีสื่อการสอนเป็น ตัวแบบ จะทำให้ครูเสียเวลาอธิบาย เนื่องจากนักเรียนไม่เข้าใจ 5. สื่อการสอนในรูปของกิจกรรมหรือวิธีการต่างๆ จะทำให้เกิดบรรยากาศของความเป็นกันเอง โดยครูมี เวลาสังเกตและใกล้ชิดกับนักเรียนที่ต้องการครูมากขึ้น เพราะครูไม่จำเป็นต้องสอนโดยการพูด หรืออธิบาย ตลอดเวลา ครูจะไม่เหนื่อย แต่จะรู้สึกสนุกสนานไปกับการเรียนของเด็ก ครูจะมีความสุข บรรยากาศในห้องก็จะดี ขึ้น 6. สื่อการสอนช่วยสร้างสภาพการณ์ที่เปิดกว้างต่อการเรียนรู้ของเด็ก โดยการจัดสื่อในรูปของชุดการสอน ที่มีการเตรียมการล่วงหน้า ครูจึงเปิดโอกาสให้เด็กได้เกิดการเรียนรู้ ได้ซักถามคิดค้นสิ่งใหม่ๆ โดยที่ครูไม่ต้องเกรง ว่าจะสอนเด็ก และตอบคำถามเด็กไม่ได้ เพราะสื่อการสอนทุกชนิดจะมีคำตอบ และวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ ไว้แล้ว สื่อการเรียนการสอนมีบทบาทต่อการเรียนรู้ของเด็กประถมศึกษา ในด้านต่างๆ สื่อเป็นแม่แบบที่สำคัญ สำหรับการเรียนของผู้เรียนโดยเฉพาะด้านการกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน เป็นเครื่องมือที่ให้เด็กได้เรียนรู้จาก การลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง สื่อยังสามารถสร้างบรรยากาศในการเรียนให้มีความอบอุ่นเป็นกันเอง 18


ตัวอย่างสื่อการเรียนการสอนของนักเรียนระดับประถมศึกษา สื่อการเรียนการสอนทั่วไป ภาพประกอบที่ 1 สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Rooms in the house ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนทำมือ by ครูปลา”) ภาพประกอบที่ 2สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Food ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนทำมือ by ครูปลา”) 19


ภาพประกอบที่ 3สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Tenses ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนทำมือ by ครูปลา”) ภาพประกอบที่ 4 สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Classroom Objects ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนทำมือ by ครูปลา”) 20


ภาพประกอบที่ 5 สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Animals ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนทำมือ by ครูปลา”) ภาพประกอบที่ 6 สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง คำกริยา 3 ช่อง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ภาพจาก “สื่อการสอนทำมือ by ครูปลา”) 21


ภาพประกอบที่ 7สื่อการสอนทำมือ วิชา สังคมศึกษา เรื่อง วันสำคัญทางศาสนา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนทำมือ by ครูปลา”) ภาพประกอบที่ 8 สื่อการสอนทำมือ วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง การบอกเวลา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนทำมือ by ครูปลา”) 22


ภาพประกอบที่ 9 สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาไทย เรื่อง การประสมคำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “สื่อการสอนทำมือ by ครูปลา”) ภาพประกอบที่ 10สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาไทย เรื่อง ไตรยางศ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “คลังสื่อทำมือ by ครูพิมพ์ชนก”) 23


ภาพประกอบที่ 11 สื่อการสอนทำมือ วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง เรขาคณิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 (ภาพจาก “ครูประถม.คอม”) ภาพประกอบที่ 12 สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง Words ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “p-ject.com ไอเดียสื่อการสอนภาษาอังกฤษ”) ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ “ฝาขวดน้ำ” 24


สื่อการเรียนการสอนราคาเยา ภาพประกอบที่ 13สื่อการสอนทำมือ วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง เรขาคณิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 (ภาพจาก “p-ject.com ไอเดียสื่อการสอนคณิตศาสตร์”) ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ “ไม้ไอศกรีม ภาพประกอบที่ 14สื่อการสอนทำมือ วิชา ภาษาอังกฤษ เรื่อง รูปร่าง (Shapes) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “p-ject.com ไอเดียสื่อการสอนภาษาอังกฤษ”) 25


” ภาพประกอบที่ 15 สื่อการสอนทำมือ วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 (ภาพจาก “p-ject.com ไอเดียสื่อการสอนคณิตศาสตร์”) ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ “จานกระดาษ” ภาพประกอบที่ 16 สื่อการสอนทำมือ วิชา สังคมศึกษา เรื่อง ทวีป ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 (ภาพจาก “p-ject.com ไอเดียสื่อการสอนสังคมศึกษา”) ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ “เศษกระดาษ 26


ภาพประกอบที่ 17 สื่อการสอนทำมือ วิชา การงานอาชีพ เรื่อง งานประดิษฐ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 (ภาพจาก “p-ject.com ไอเดียสื่อการสอนงานประดิษฐ์”) ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ “กล่องนม” ภาพประกอบที่ 18 สื่อการสอนทำมือ วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง การเปรียบเทียบค่าตัวเลข ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 (ภาพจาก “p-ject.com ไอเดียสื่อการสอนคณิตศาสตร์”) ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ “เศษกระดาษ กล่องกระดาษใช้แล้ว” 27


สื่อการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย สื่อการเรียนการสอนที่ดีสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย มีดังนี้ 1. เนื้อหาสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดของหลักสูตรแกนกลาง 2. เนื้อหาถูกต้องตามหลักวิชาทันสมัย ยากง่ายเหมาะสมกับวัยและระดับชั้น ไม่ขัดต่อความมั่นคงและ ความสงบเรียบร้อยของชาติ 3. ภาษาถูกต้องเหมาะสม ชัดเจน สื่อความหมายให้เข้าใจได้ง่าย 4. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนสอดคล้องกับจุดประสงค์ของบทเรียน ดึงดูดความสนใจของผู้เรียน ส่งเสริม กระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ แก้ปัญหา สรุปหลักความคิด สร้างองค์ความรู้ 5. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ส่งเสริมให้คิดทบทวนความเข้าใจในบทเรียน ชัดเจน ปฏิบัติได้ 6. มีผังมโนทัศน์ของหน่วย คำศัพท์สำคัญ เรื่องน่ารู้ ประโยชน์จากการเรียนรู้ และคำถามประกอบ กิจกรรม เพื่อช่วยให้เรียนรู้ได้เร็ว เข้าใจชัดเจนขึ้น และนำไปใช้ได้จริง 7. มีภาพ ตาราง แผนภูมิ แผนผังความคิดประกอบเนื้อหา ช่วยให้เกิดความเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น 8. มีบทสรุปและอภิธานศัพท์ เพื่อช่วยการเรียนรู้ให้รวดเร็วและถูกต้อง 9. มีการใช้วิทยาการและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้เรียนเกิดทักษะกระบวนการคิดขั้นสูง สามารถนำ ความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพ 9. มีการประเมินทั้งด้านเนื้อหา กระบวนการ คุณธรรม จริยธรมเป็นระยะๆ ทุกหน่วย และเมื่อจบรายวิชา เพื่อให้นักเรียนได้ทบทวนความรู้และตรวจสอบผลสัมฤทธิ์ของตนเองได้ 28


ตัวอย่างสื่อการเรียนการสอนของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย สื่อการเรียนการสอนทั่วไป ภาพประกอบที่ 19 สื่อการสอนทำมือ วิชา ศิลปะ (นาฏศิลป์) เรื่อง หลักการชมการแสดง ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “สื่อการสอน by ครูเล็ก อรวรรณ”) ภาพประกอบที่ 20สื่อการสอนทำมือ วิชา ศิลปะ (นาฏศิลป์) เรื่อง หลักการชมการแสดง ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “สื่อการสอน by ครูเล็ก อรวรรณ”) 29


ภาพประกอบที่ 21 สื่อการสอนทำมือ วิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวประกอบ ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “สื่อการสอน by Sunisa”) ภาพประกอบที่ 22 สื่อการสอนทำมือ วิชา สังคมศึกษา เรื่อง กฎหมายแพ่งและอาญา ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “สื่อทำมือ by เขมจ้า”) 30


ภาพประกอบที่ 23 สื่อการสอน วิชา สังคมศึกษา เรื่อง 10 รัชกาลของไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “สื่อการสอน ครูนเรศ เพื่อการศึกษา” ภาพประกอบที่ 24 สื่อการสอนทำมือ วิชา สังคมศึกษา เรื่อง ภาษีนิติบุคคล ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “สื่อการสอนทำมือ by ครูปลา”) 31


ภาพประกอบที่ 25สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิชา วิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบประสาท ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “สื่อการสอน by ครูโอ๋”) ภาพประกอบที่ 26 สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิชา วิทยาศาสตร์ เรื่อง วงจรไฟฟ้า ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “สื่อการสอน by ครูโอ๋”) 32


ภาพประกอบที่ 27 สื่อการสอน วิชา วิทยาศาสตร์ เรื่อง เซลล์ของสิ่งมีชีวิต ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “รักษ์ศักดิ์ สิทธิวิไล NSTDA”) ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ “ไม้จิ้มฟัน / เยลลี่ / เศษกระดาษ” 33


ภาพประกอบที่ 28 สื่อการสอน วิชา การงานอาชีพ เรื่อง เกษตรทฤษฎีใหม่ ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “เจนจิรา”) ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ “ทราย / ต้นใบ / ใบไม้ / เศษไม้” ภาพประกอบที่ 29 สื่อการสอน วิชา ฟิสิกส์ เรื่อง Black Box ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ภาพจาก “ครูสุรศักดิ์ ศรีสุวงศ์ โรงเรียนเกษมสีมาวิทยาคาร จ.อุบลราชธานี”) ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ “กล่องขนม / เชือก 34


บทสรุป กล่าวโดยสรุปคือ สื่อเป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการสอนตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากเป็นตัวกลางที่ช่วยให้การสื่อสารระหว่างผู้สอนและผู้เรียนดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ ผู้เรียนเข้าใจความหมายของเนื้อหาบทเรียนให้ตรงกับผู้สอนต้องการ ไม่ว่าสื่อนั้นจะอยู่ในรูปแบบใดก็ตามล้วน แต่เป็นทรัพยากรที่สามารถอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ได้ทั้งสิ้น เพื่อให้ผู้ส่งและผู้รับสามารถสื่อสารกัน ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ และโดยเฉพาะในปัจจุบันเป็นยุคของการแข่งขันอย่างเสรี จากพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรมในการผลิตสื่อการเรียน การสอนทุกประเภท ทุกสาระการเรียนรู้และทุกช่วงชั้น อาจกล่าวได้ว่าเป็นหนทางที่จะนำไปสู่การพัฒนาสื่อ การเรียนการสอนให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ผู้ผลิตรายใหญ่มักจะได้เปรียบในการแข่งขันทางการตลาด มากกว่าผู้ผลิตรายย่อย ดังนั้น ถึงมีการเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันเสรีแต่ก็ไม่ใช่แนวทางในการพัฒนาเนื้อหา สาระของสื่อได้อย่างแท้จริง สิ่งสำคัญคือ การกำหนดนโยบายเพื่อควบคุมคุณภาพและราคาให้ชัดเจน รวมทั้ง การนำนโยบายไปปฏิบัติใช้อย่างถูกต้องเหมาะสมและเคร่งครัด เพื่อการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้เกิด ความก้าวหน้าต่อการศึกษาไทยอย่างแท้จริง 35


คำถามทบทวน 1.คุณค่าของสื่อการเรียนการสอนสามารถจำแนกได้กี่ด้าน มีอะไรบ้าง 2.หลักการเลือกสื่อการเรียนการสอนมีอะไรบ้าง 3.ข้อสนับสนุนในการใช้สื่อการเรียนการสอนราคาเยา มีอะไรบ้าง 4.หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดระดับการศึกษาออกเป็นกี่ระดับ 5.คุณค่าของสื่อการเรียนการสอนต่อการศึกษามีอะไรบ้าง 36


บรรณานุกรม กรมสุขภาพจิต. (2550). บทความด้านสุขภาพจิต:นวัตกรรมวิทยาศาสตร์สมอง. [ระบบออนไลน์].แหล่งที่มา https://www.dmh.go.th/news/view.asp?id=1051. (26 ธันวาคม 2562). กิดานันท์ มะลิทอง. (2543). เทคโนโลยีการศึกษาและนวัตกรรม. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ อรุณการ เกริก ท่วมกลาง และจินตนา ท่วมกลาง.(2555). การพัฒนาสื่อนวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อเลื่อนวิทยฐานะ. กรุงเทพฯ: สถาพรบุ๊ค. ไกรยส ภัทราวาท. (2558). 10 เป้าหมายการศึกษาโลก ปี 2030 เมื่อเป้าหมายการจัดการศึกษาไม่ได้หยุดแค่ใน รั้วโรงเรียนอีกต่อไป. วารสารจดหมายถึงเพื่อนสมาชิก. ขัณธ์ชัย อธิเกียรติ และธนารักษ์ สารเถื่อนแก้ว. (2561). การสอนแบบทันสมัยและเทคนิควิธีสอนแนวใหม่. [ระบบออนไลน์].แหล่งที่มาhttp://regis.skru.ac.th/RegisWeb/ datafiledownload/25590714- 15.pdf. (23 ธันวาคม 2562). ง


Click to View FlipBook Version