รายงานผลการปฏิบัติการ
โครงการ สื่อการสอนการตัดต่อวิดีโอด้วยโปรแกรม Adobe PremierePro
CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ
เสนอ
นายวิทูล เยื่องอย่าง
จัดท าโดย
นายฐิติกร สุวรรณโชติ รหัสนักศึกษา 6032040011
นายพิชากร มีมาก รหัสนักศึกษา 6032040025
ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงชั้นปีที่ 2 กลุ่ม 1
สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
โครงการเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งในวิชาโครงการ รหัสวิชา (3204 – 8501)
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561
โครงการวิทยาลัยเทคนิคระยอง
1. ชื่อโครงการ สื่อการสอน โปรแกรมตัดต่อวีดีโอด้วยโปรแกรม Adobe Premierpro CS6 โดยใช้
โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ
2. ชื่อผู้รับผิดชอบโครงการ
2.1. นายฐิติกร สุวรรณโชติ เลขที่ 10 ระดับชั้น ปวส.2 กลุ่ม 1 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
2.2. นายพิชากร มีมาก เลขที่ 22 ระดับชั้น ปวส.2 กลุ่ม 1 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
3. ระยะเวลา
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2561 ถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562
4. หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบัน ได้มีการน าสื่อการเรียนการสอนในด้านสื่อสารสนเทศเข้ามาใช้มากขึ้น โดยเน้น
การเรียนรู้จากสื่อที่เพิ่มเข้ามาด้วย เช่น รูปภาพ การพูด หรือวิดีโอเป็นต้น การเรียนแบบสื่อจะมี
เนื้อหาที่สั้นได้ใจความจึงสรุปได้ง่ายและมีรูปภาพ วิดีโอเสียงประกอบท าให้เรียนรู้เข้าใจได้มากขึ้น
การน ารูปภาพเนื้อหาและวิดีโอมาประกอบเป็นสื่อการสอนนั้น จะต้องมีพื้นฐานด้านการตัดต่อวิดีโอ
เพื่อที่จะสร้างสื่อการสอน ในรูปแบบของมัลติมิเดียไว้ส าหรับการศึกษาของวิชาต่างๆ ด้วยการใส่
รูปภาพ วิดีโอ เสียงพูด ข้อความตัวหนังสือของเนื้อหาและการเปลี่ยน Effect Motion ก าหนดการ
เคลื่อนไหววัตถุต่างๆ จนไปถึงการจัดเรียงล าดับภาพของวิดีโอ โดยจะแนะน าการใช้งานโปรแกรม
Adobe Premierpro CS6 ส าหรับเบื้องต้นของการตัดต่อวิดีโอ
จากเหตุผลดังกล่าวผู้จัดท าจึงจัดท าโครงการสื่อการสอน โปรแกรมตัดต่อวีดีโอด้วยโปรแกรม
Adobe Premiepro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อนี้ขึ้นมา เพื่อเน้นให้
นักศึกษาได้เรียนรู้การตัดต่อวีดีโอขั้นพื้นฐานของโปรแกรม Adobe Premierpro CS6 และสามารถ
น าไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์ในการศึกษามากยิ่งขึ้น
5. วัตถุประสงค์
5.1 เพื่อสร้างสื่อการสอนโปรแกรมตัดต่อ Adobe Premierpro CS6
5.2 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาที่ได้ใช้สื่อการสอน โปรแกรมตัดต่อวีดีโอด้วยโปรแกรม
Adobe Premierpro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ
5.3 เพื่อเผยแพร่สื่อการสอนการตัดต่อวิดีโอขั้นพื้นฐานด้วยโปรแกรม Adobe Premierpro CS6
6. เป้าหมาย
6.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ
6.1.1 สื่อการสอนการตัดต่อโปรแกรมขั้นพื้นฐาน จ านวน 2 วิดีโอ
6.1.2 นักศึกษาสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ระดับชั้นปวส 1
จ านวน 32 คน
6.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ
6.2.1 ผลประเมินความพึงพอใจของผู้ที่ศึกษาการตัดต่อวิดีโอขั้นพื้นฐาน
อยู่ในระดับดี
7. สถานที่
ห้อง 926 อาคาร 9 ชั้น 2 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยเทคนิคระยอง
8. วิธีการด าเนินการ / ปฏิทินปฏิบัติงาน
การด าเนินการ ระยะเวลาด าเนินงาน
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561
รายงาน ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์
1. เสนอโครงการ
2. ขออนุมัติ
3. ด าเนินการ
4. ประเมินผล
9. ค่าใช้จ่าย
9.1 กระดาษ A4 160 บาท
9.2 ค่า Print สี 150 บาท
9.3 ค่า Print ขาวด า 125 บาท
9.4 เข้าเล่ม 150 บาท
รวมค่าใช้จ่าย 585 บาท
10. การติดตามและประเมินผล
ประเมินผลการปฎิบัติงาน โดยจัดท าแบบสอบถามความพึงพอใจ
11. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
11.1 ได้สร้างสื่อการสอนโปรแกรมตัดต่อ Adobe Premierpro CS6 ได้
11.2 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาการตัดต่อสื่อการสอนโปรแกรม
Adobe Premierpro CS6 อยู่ในขั้นระดับดี
11.3 ได้เผยแพร่สื่อการตัดต่อวิดีโอขันพื้นฐานโปรแกรม Adobe Premierepro CS6 ผ่านการ
ประกวดโครงงาน Project
ลงชื่อ….………………………………….ผู้เสนอโครงการ
(นายฐิติกร สุวรรณโชติ)
หัวหน้าโครงการ
12. ความคิดเห็นอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ………………………………………………………………………
(นายคณิศร แสนผูก)
อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ
13. ความคิดเห็นอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ……………………………………………………………..……….
(นายวิทูล เยื่องอย่าง)
อาจารย์ประจ าวิชา
14. ความคิดเห็นของหัวหน้าสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชื่อ….………………………..………………………………….........
(นางพรทิพา บ ารุงรัตน์)
หัวหน้าสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
ชื่อ : นายฐิติกร สุวรรณโชติ
: นายพิชากร มีมาก
ชื่อโครงการ : โครงการ สื่อการสอนการตัดต่อวิดีโอด้วยโปรแกรม
Adobe PremierePro CS6 โดยใช้โปรแกรม
Bandicam ในการสร้างสื่อ
สาขาวิชา : คอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยเทคนิคระยอง
อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ : นายคณิศร แสนผูก
ปีการศึกษา : 2561
บทคัดย่อ
การจัดท าโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่สื่อการสอนการตัดต่อวิดีโอขั้นพื้นฐาน
ด้วยโปรแกรม Adobe PremierePro CS6
ในการด าเนินงานนั้นนักศึกษาระดับชั้นปวส 1 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจวิทยาลัยเทคนิค
ระยอง โดยการด าเนินงานนั้นได้มีการเผยแพร่สื่อการสอนการตัดต่อวิดีโอขั้นพื้นฐานด้วยโปรแกรม
Adobe PremierePro CS6 ที่ท า ณ อาคาร 9 ชั้น 2 ห้อง 926 วิทยาลัยเทคนิคระยอง ใน
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561
ผลจากการส ารวจความพึงพอใจแบบสอบถามจ านวน 32 ชุดดังนี้ เพศชาย คิดเป็นร้อยละ
12 เพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 88 ของจ านวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด จ าแนกตามระดับชั้น ปวช
คิดเป็นร้อยละ 0 ปวส คิดเป็นร้อยละ 100 ของจ านวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด จ าแนกตามอายุ
15 – 18 ปี คิดเป็นร้อยละ 0 19-21 ปี คิดเป็นร้อยละ 100 ของจ านวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด
จ าแนกตามสถานะ นักเรียน-นักศึกษา คิดเป็นร้อยละ 100 ครู – อาจารย์ คิดเป็นร้อยละ 0 ของ
จ านวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด พบว่าการประเมินที่ได้จากการส ารวจมีผลสัมฤทธิ์อยู่ในระดับ
ความพึงพอใจมากที่สุด ด้านเนื้อหา ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( ̅ = 4.72) ด้านรูปแบบ ใน
ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( ̅ = 4.55) ด้านประโยชน์ที่ได้รับ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( ̅
= 4.49)
กิตติกรรมประกาศ
โครงการสื่อการสอนการตัดต่อวิดีโอด้วยโปรแกรม Adobe PremierePro CS6 โดยใช้
โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อนี้ส าเร็จลุล่วงไปได้อย่างดีก็ด้วยความกรุณาอย่างดียิ่งของท่าน
อาจารย์พรทิพา บ ารุงรัตน์ หัวหน้าสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ที่ให้การสนับสนุนการจัดท า
โครงการและได้ให้ค าแนะน าข้อคิดเห็นต่างๆ จึงขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้
ขอกราบขอบพระคุณท่าน อาจารย์คณิศร แสนผูก อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ ที่ให้
การสนับสนุนในการจัดท าโครงการ และแนะน าความคิดในการจัดท ารูปเล่มเอกสารโครงการในครั้งนี้
ขอกราบขอบพระคุณท่าน อาจารย์วิทูล เยื่องอย่าง อาจารย์ประจ ารายวิชา ที่ให้การสนับสนุน
ในการจัดท าโครงการ และแนะน าความคิดในการจัดท ารูปเล่มเอกสารโครงการรวมทั้งให้ค าปรึกษา
ในการด าเนินงานจนประสบผลส าเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์
คุณค่าและประโยชน์ของโครงการ สื่อการสอนการตัดต่อวิดีโอด้วยโปรแกรม Adobe
PremierePro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ ฉบับนี้คณะผู้จัดท าขอมอบเป็น
เครื่องบูชาพระคุณบิดา มารดา ครู อาจารย์ ตลอดจนผู้มีพระคุณทุกท่านที่ช่วยให้คณะผู้จัดท ามี
ความมานะพยายามประสบผลส าเร็จในการศึกษา ผู้จัดท ามีความซาบซึ้งใจความกรุณาอันดียิ่งจาก
ทุกท่านที่ได้กล่าวนาม และขอกราบขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้
คณะผู้จัดท า
ค าน า
รายงานเล่มนี้เป็นผลการด าเนินโครงการ สื่อการสอนการตัดต่อวิดีโอด้วยโปรแกรม Adobe
PremierePro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ ซึ่งการจัดท าโครงการนี้เพื่อศึกษา
ความพึงพอใจของผู้เข้าชมวิดีโอ สื่อการสอนตัดต่อวิดีโอ ที่ใช้โปรแกรม Adobe PremierePro CS6
และใช้โปรแกรม Bandicam ในการบันทึกภาพวิดีโอในการสอน
โครงการเล่มนี้มีผลการด าเนินงานส าเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีนั้น ก็เพราะได้รับความร่วมมืออันดี
เป็นอย่างยิ่งจากนักเรียน สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ และคณะผู้จัดท าโครงการ ขอขอบคุณทุกท่าน ณ
โอกาสนี้ด้วย
คณะผู้จัดท าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ต่อ นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์และ
ผู้สนใจทั่วไป สมดังเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้ หากมีข้อเสนอแนะประการใด คณะผู้จัดท าน้อมรับด้วยความ
ขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง
คณะผู้จัดท า
สารบัญ
เรื่อง หน้า
บทคัดย่อ ก
กิตติกรรมประกาศ ข
ค าน า ค
สารบัญ ง
สารบัญ(ต่อ) จ
สารบัญตาราง ฉ
สารบัญรูปภาพ ช
สารบัญรูปภาพ (ต่อ) ซ
บทที่ 1 บทน า
1.1 ความเป็นมาของการจัดท าโครงการ 1
1.2 วัตถุประสงค์ 1
1.3 ขอบเขตของการส ารวจ 1
1.4 เป้าหมาย 2
1.5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2
1.6 ค านิยามศัพท์เฉพาะ 2
บทที่ 2 เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
2.1 สื่อการสอน 3
2.2 โปรแกรม Adobe PremierePro CS6 6
2.3 PDCA 26
บทที่ 3 วิธีด าเนินโครงการ
3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 29
3.2 ตัวแปรที่ศึกษา 29
3.3 เครื่องมือใช้ในการวิจัย 29
3.4 วิธีการสร้างเครื่องมือ 30
3.5 การเก็บรวบรวมข้อมูล 31
3.6 การวิเคราะห์ข้อมูล 31
3.7 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 32
สารบัญ (ต่อ)
บทที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูล
4.1 ข้อมูลทั่วไป 33
4.2 ผลการด าเนินงาน 37
4.3 ข้อเสนอแนะ 41
บทที่ 5 สรุปผลการอภิปรายและข้อเสนอแนะ
5.1 สรุปประเมินผลการด าเนินงาน 42
5.2 สถานะภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบประเมิน 42
5.3 อภิปรายผลการประเมิน 42
5.4 ข้อเสนอแนะ 43
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
ก รูปโครงการ
ข แบบสอบถามความพึงพอใจ
ค ประวัติผู้จัดท า
สารบัญตาราง
ตารางที่ หน้า
4-1 แสดงเพศของผู้ตอบแบบประเมินที่เข้าร่วมโครงการคิดเป็นร้อยละจ าแนกตามเพศ 33
4-2 แสดงเพศของผู้ตอบแบบประเมินที่เข้าร่วมโครงการคิดเป็นร้อยละจ าแนกตามระดับชั้น 34
4-3 แสดงเพศของผู้ตอบแบบประเมินที่เข้าร่วมโครงการคิดเป็นร้อยละจ าแนกตามอายุ 35
4-4 แสดงเพศของผู้ตอบแบบประเมินที่เข้าร่วมโครงการคิดเป็นร้อยละจ าแนกตามสถานะ 36
4-5 ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการสื่อการสอน การตัดต่อวีดีโอด้วยโปรแกรม Adobe
Premierpro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ ด้านเนื้อหา 37
4-6 ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการสื่อการสอน การตัดต่อวีดีโอด้วยโปรแกรม Adobe
Premierpro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ ด้านรูปแบบ 38
4-7 ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการสื่อการสอน การตัดต่อวีดีโอด้วยโปรแกรม Adobe
Premierpro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ ด้านประโยชน์ที่ได้รับ 39
4-8 แสดงสถิติระดับความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถามที่เข้าร่วมโครงสื่อการสอนการตัดต่อ
วิดีโอ ด้วยโปรแกรม Adobe Premierpro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ 40
สารบัญภาพ
ภาพที่ หน้า
2-1 จุดเริ่มต้นของมาตรฐานมัลติมีเดียที่เรียกว่า มาตรฐานเอ็มพีซี 5
2-2 ระบบคอมพิวเตอร์ที่ต้องการในการลงโปรแกรม 6
2-3 เข้าโปรแกรม CS6 Master Collection เพื่อลงโปรแกรม Adobe 7
2-4 เลือก Adobe Premier pro ในการติดตั้ง ระบุไฟล์ลงให้เรียบร้อย 7
2-5 รอติดการติดการจนกว่าจะเสร็จ 8
2-6 เสร็จสิ้นการลงโปรแกรม 8
2-7 ค าสั่งและเครื่องมือต่างๆ ในโปรแกรม 9
2-8 แถบเมนู 9
2-9 แถบ Source ที่ไว้แสดงกับวิดีโอที่ท างานอยู่ 10
2-10 แถบ Effect Controls ที่ไว้ควบคุมการเคลื่อนไหวของวิดีโอ 11
2-11 แถบ Audio Mixer ที่เอาไว้ปรับเสียงวิดีโอที่ก าลังท างานอยู่ 11
2-12 แถบ Program monitor ใช้แสดงผลของวิดีโอที่ก าลังท างานเป็นหลัก 12
2-13 แถบ Project ไว้ใช้ระบุสิ่งที่ใช้ในโปรเจคที่ก าลังท างานอยู่ 12
2-14 แถบ Media Brower ที่ใช้ระบุ หรือลากไฟล์ที่เกี่ยวข้องของงานที่ก าลังท าอยู่ 13
2-15 แถบ Info ที่ใช้ระบุข้อมูลของและชนิด หรือความยาวของเสียงและวิดีโอ 13
2-16 แถบ Effects ไว้เก็บและใช้เอฟเฟคต่างๆที่มีอยู่ 14
2-17 แถบ Tools ที่ไว้ใช้ควบคุมวิดีโอใน Time line 14
2-18 แถบหน้าต่าง Time line ที่ใช้ในการเช็คและการตัดต่อวิดีโอ 15
2-19 แถบ Audio meters ที่ใช้วัดระดับเสียงของวีดีโอ 15
2-20 การสร้างโปรเจค 16
2-21 การน าไฟล์วิดีโอภาพและเสียงมาใช้ในโปรแกรม 18
2-22 การใช้ Effect และ Motion 20
2-23 การสร้างข้อความ Title 22
2-24 การ Export ให้เป็นวิดีโอ 24
4-1 แสดงเพศของผู้ตอบแบบสอบถาม 33
4-2 แสดงระดับชั้นของผู้ตอบแบบสอบถาม 34
4-3 แสดงอายุของผู้ตอบแบบสอบถาม 35
4-4 แสดงสถานะของผู้ตอบแบบสอบถาม 36
4-5 แสดงระดับความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถาม ด้านเนื้อหา 37
4-6 แสดงระดับความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถาม ด้านรูปแบบ 38
4-7 แสดงระดับความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถาม ด้านประโยชน์ที่ได้รับ 39
4-8 แสดงสถิติระดับความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ 41
สารบัญภาพ(ต่อ)
ภาพที่ หน้า
ก-1 ภาพน าเสนอ 44
ก-2 นักศึกษาระดับชั้นปวส.1/1 45
ก-3 นักศึกษาท าแบบสอบถามผู้ประเมินโดยสแกนแบบ Qr code 45
ก-4 ภาพตัววิดีโอ 46
ก-5 ภาพบรรยากาศในวิดีโอ 47
บทที่ 1 บทน า
บทที่ 1
บทน า
1.1 ความเป็นมาของการจัดท าโครงการ
ในปัจจุบัน ได้มีการน าสื่อการเรียนการสอนในด้านสื่อสารสนเทศเข้ามาใช้มากขึ้น โดยเน้น
การเรียนรู้จากสื่อที่เพิ่มเข้ามาด้วย เช่น รูปภาพ การพูด หรือวิดีโอเป็นต้น การเรียนแบบสื่อจะมี
เนื้อหาที่สั้นได้ใจความจึงสรุปได้ง่ายและมีรูปภาพ วิดีโอเสียงประกอบท าให้เรียนรู้เข้าใจได้มากขึ้น
การน ารูปภาพเนื้อหาและวิดีโอมาประกอบเป็นสื่อการสอนนั้น จะต้องมีพื้นฐานด้านการตัดต่อวิดีโอ
เพื่อที่จะสร้างสื่อการสอน ในรูปแบบของมัลติมิเดียไว้ส าหรับการศึกษาของวิชาต่างๆ ด้วยการใส่
รูปภาพ วิดีโอ เสียงพูด ข้อความตัวหนังสือของเนื้อหา และการเปลี่ยน Effect Motion ก าหนดการ
เคลื่อนไหววัตถุต่างๆ จนไปถึงการจัดเรียงล าดับภาพของวิดีโอ โดยจะแนะน าการใช้งานโปรแกรม
Adobe Premierpro CS6 ส าหรับเบื้องต้นของการตัดต่อวิดีโอ
จากเหตุผลดังกล่าวผู้จัดท าจึงจัดท าโครงการสื่อการสอน โปรแกรมตัดต่อวีดีโอด้วยโปรแกรม
Adobe Premiepro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อนี้ขึ้นมา เพื่อเน้นให้
นักศึกษาได้เรียนรู้การตัดต่อวีดีโอขั้นพื้นฐานของโปรแกรม Adobe Premierpro CS6 และสามารถ
น าไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์ในการศึกษามากยิ่งขึ้น
1.2 วัตถุประสงค์
1.2.1 เพื่อสร้างสื่อการสอนโปรแกรมตัดต่อ Adobe Premierpro CS6
1.2.2 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาที่ได้ใช้สื่อการสอน โปรแกรมตัดต่อวีดีโอด้วย
โปรแกรม Adobe Premierpro CS6
1.2.3 เพื่อเผยแพร่สื่อการสอนการตัดต่อวิดีโอขั้นพื้นฐานด้วยโปรแกรม
Adobe Premierpro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ
1.3 ขอบเขตของการส ารวจ
เนื่องจากวิทยาลัยเทคนิคระยองมีนักเรียนนักศึกษาทั้งระดับ ปวช. และ ปวส. จึงได้
จัดท าการสุ่ม เพื่อให้ได้ข้อมูลตาม วัตถุประสงค์จึงได้สุ่มนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 4
สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ จ านวน 32 คน
1.4 เป้าหมาย
1.4.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ
สื่อการสอนการตัดต่อโปรแกรมขั้นพื้นฐาน จ านวน 2 วิดีโอ
นักศึกษาสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ระดับชั้นปวส 1
จ านวน 32 คน
1.4.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ
ผลประเมินความพึงพอใจของผู้ที่ศึกษาการตัดต่อวิดีโอขั้นพื้นฐาน
อยู่ในระดับดี
1.5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.5.1 ได้สร้างสื่อการสอนโปรแกรมตัดต่อ Adobe Premierpro CS6 ได้
1.5.2 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาการตัดต่อสื่อการสอนโปรแกรม
Adobe Premierpro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ อยู่ขั้นระดับดี
1.5.3 ได้เผยแพร่สื่อการตัดต่อวิดีโอขันพื้นฐานโปรแกรม Adobe Premierepro CS6 ได้
1.6 ค านิยามศัพท์เฉพาะ
สื่อการสอน คือ เป็นตัวกลางข้อมูลส่งผ่านจากผู้ส่งหรือแหล่งส่งไปยังผู้รับเพื่อให้ผู้ส่งและผู้รับ
สามารถสื่อสารกันได้ตรงตามวัตถุประสงค์ ใดก็ตามไม่ว่าจะเป็นเทปบันทึกเสียง สไลด์
วิทยุ โทรทัศน์ วีดิทัศน์ แผนภูมิ รูปภาพ ฯลฯ ซึ่งเป็นวัสดุบรรจุเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียนการ
สอน หรือเป็นอุปกรณ์เพื่อถ่ายทอดเนื้อหาสิ่งเหล่านี้เป็นวัสดุอุปกรณ์ทางกายภาพที่น ามาใช้
วีดีโอ คือ มัลติมีเดียที่สามารถแสดงภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงบรรยายได้ การน า เสนอวิดีโอมี
หลายรูปแบบ เช่น วิดีโอเพื่อ การศึกษา วิดีโอ เพื่อความบันเทิง ประโยชน์ ของวิดีโอมีมากมาย
นอกจากให้ความรู้ ให้ ความบันเทิง ยังสามารถ สร้างรายได้ให้กับผู้ ใช้งาน เช่น วิดีโอน าเสนอสินค้า
ผลิตภัณฑ์ ต่างๆ
โปรแกรม คือ ชุกค าส่งที่เป็นระบบขั้นตอนสั่งงานให้คอมพิวเตอร์ ท างาน ซึ่งโปรแกรมที่จะ
ใช้สั่งงานคอมพิวเตอร์ได้นั้นจะต้องเขียนด้วยภาษาที่ คอมพิวเตอร์เข้าใจและสามารถปฏิบัติตามได้
ภาษาคอมพิวเตอร์โดยผลลัพธ์จะได้ ตามความต้องการ ซึ่งกฎเกณฑ์ต่างๆที่ควบคุมการเขียน
โปรแกรม คือ ภาษาโปรแกรม (Programming Language)
บทที่ 2
เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2
เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
2.1 สื่อการสอน
2.1.1 ความหมายสื่อการสอน
สื่อการสอน คือ เป็นตัวกลางข้อมูลส่งผ่านจากผู้ส่งหรือแหล่งส่งไปยังผู้รับเพื่อให้ผู้
ส่งและผู้รับสามารถสื่อสารกันได้ตรงตามวัตถุประสงค์ ใดก็ตามไม่ว่าจะเป็นเทปบันทึกเสียง สไลด์
วิทยุ โทรทัศน์ วีดิทัศน์ แผนภูมิ รูปภาพ ฯลฯ ซึ่งเป็นวัสดุบรรจุเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียนการ
สอน หรือเป็นอุปกรณ์เพื่อถ่ายทอดเนื้อหาสิ่งเหล่านี้เป็นวัสดุอุปกรณ์ทางกายภาพที่น ามาใช้
มัลติมีเดียที่สามารถแสดงภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงบรรยายได้ การน า เสนอวิดีโอมีหลายรูปแบบ
เช่น วิดีโอเพื่อ การศึกษา วิดีโอ เพื่อความบันเทิง ประโยชน์ ของวิดีโอมีมากมาย นอกจากให้ความรู้
ให้ ความบันเทิง ยังสามารถ สร้างรายได้ให้กับผู้ ใช้งาน เช่น วิดีโอน าเสนอสินค้า ผลิตภัณฑ์ ต่างๆ
2.1.2 ความหมายของสื่อมัลติมีเดีย
การใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกับโปรแกรมซอฟต์แวร์ในการสื่อความหมายโดยการ
ผสมผสานสื่อหลายชนิด เช่น ข้อความ กราฟิก (Graphic) ภาพเคลื่อนไหว (Animation) เสียง
(Sound) และวีดิทัศน์ (Video) เป็นต้น และถ้าผู้ใช้สามารถที่จะควบคุมสื่อให้น าเสนอออกมาตาม
ต้องการได้จะเรียกว่า สื่อมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ (Interactive Multimedia) การปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้
สามารถจะกระท าได้โดยผ่านทางคีย์บอร์ด (Keyboard) เมาส์ (Mouse) หรือตัวชี้ (Pointer) เป็นต้น
การใช้สื่อมัลติมีเดียในลักษณะปฏิสัมพันธ์ก็เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียนรู้หรือท ากิจกรรม รวมถึงดูสื่อ
ต่างๆ ด้วยตนเองได้สื่อต่างๆ ที่น ามารวมไว้ในสื่อมัลติมีเดีย เช่น ภาพ เสียง วีดิทัศน์ จะช่วยให้เกิด
ความหลากหลายในการใช้คอมพิวเตอร์อันเป็นเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในแนวทางใหม่ที่ท าให้การใช้
คอมพิวเตอร์น่าสนใจ
2.1.3 ประเภทและชนิดของสื่อมัลติมีเดีย
2.1.3.1 มัลติมีเดียเพื่อการศึกษา (Education multimedia) เป็นโปรแกรมมัลติมีเดีย
ที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนเริ่มได้รับความนิยมและน ามาใช้ในการฝึกอบรมเฉพาะงาน
ก่อนที่จะน ามาใช้ในระบบชั้นเรียนอย่างจริงจัง เช่น โปรแกรมเพิ่มประสิทธิภาพการท างานโปรแกรม
พัฒนาภาษา
2.1.3.2 มัลติมีเดียเพื่อการฝึกอบรม (Training multimedia) เป็นโปรแกรมมัลติมีเดีย
ที่ผลิตขึ้นเพื่อการฝึกอบรมช่วยพัฒนาประสิทธิภาพของบุคคลด้านทักษะการท างาน เจตคติต่อการ
ท างานในหน่วยงาน
2.1.3.3 มัลติมีเดียเพื่อความบันเทิง (Entertainment multimedia) เป็นโปรแกรม
มัลติมีเดียที่ผลิตขึ้นเพื่อความบันเทิง เช่น ภาพยนตร์ การ์ตูน เพลง
2.1.3.4 มัลติมีเดียเพื่องานด้านข่าวสาร (Information access multimedia) เป็น
โปรแกรมมัลติมีเดียที่รวบรวมข้อมูลใช้เฉพาะงานจะเก็บไว้ในรูปแผ่นบันทึกข้อมูล (CD-ROM) หรือ
มัลติมีเดียเพื่อช่วยในการรับส่งข่าวสารใช้เพิ่มประสิทธิภาพการรับส่งข่าวสารการประชาสัมพันธ์ไปยัง
กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ
2.1.3.5 มัลติมีเดียเพื่องานขายและการตลาด (Sales and market multimedia)
เป็นมัลติมีเดียเพื่อการน าเสนอและส่งข่าวสารเป็นการน าเสนอ และส่งข่าวสารในรูปแบบวิธีการที่
น่าสนใจจะประกอบด้วยสื่อหลายอย่างประกอบการน าเสนอ เช่น ด้านการตลาด รวบรวมข้อมูลการ
ซื้อขายแหล่งซื้อขายสินค้าต่าง ๆ น าเสนอข่าวสารด้านการซื้อขายทุกด้าน ผู้ที่สนใจยังสามารถสั่งซื้อ
สินค้าหรือขอค าอธิบายเพิ่มเติมในเรื่องนั้น ๆ ได้ทันที
2.1.3.6 มัลติมีเดียเพื่อการค้นคว้า (Book adaptation multimedia) เป็นโปรแกรม
มัลติมีเดียที่รวบรวมความรู้ต่าง ๆ เช่น แผนที่ แผนผัง ภูมิประเทศของประเทศต่าง ๆ ท าให้การ
ค้นคว้าเป็นไปอย่างสนุกสนานมีรูปแบบเป็นฐานข้อมูลมัลติมีเดีย โดยผ่านโครงสร้างไฮเปอร์เท็กซ์ เช่น
สารานุกรมต่าง ๆ
2.1.3.7 มัลติมีเดียเพื่อช่วยงานวางแผน (Multimedia as a planning aid) เป็น
กระบวนการสร้างและการน าเสนองานแต่ละชนิดให้มีความเหมือนจริงมี 3 มิติ เช่น การออกแบบ
ทางด้านสถาปัตยกรรมและภูมิศาสตร์หรือน าไปใช้ในด้านการแพทย์การทหารการเดินทาง โดยสร้าง
สถานการณ์จ าลอง เพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสเหมือนอยู่ในสถานการณ์จริง ซึ่งบางครั้งไม่สามารถจะไปอยู่ใน
สถานการณ์จริงได้
2.1.3.8 มัลติมีเดียเพื่อเป็นสถานีข่าวสาร (Information terminals) จะพบเห็นในงาน
บริการข้อมูลข่าวสารในงานธุรกิจจะติดตั้งอยู่ส่วนหน้าของหน่วยงาน เพื่อบริหารลูกค้า โดยลูกค้า
สามารถเข้าสู่ระบบบริหารของหน่วยงานนั้นด้วยตนเองสามารถใช้บริการต่าง ๆ ที่น าเสนอไว้โดยผ่าน
หน้าจอคอมพิวเตอร์สะดวกทั้งผู้ใช้บริการ และผู้ให้บริการมีลักษณะเป็นป้ายหรือจออิเล็กทรอนิกส์
ขนาดใหญ่ติดตามก าแพงเสนอภาพ เสียง ข้อความต่าง ๆ ที่น่าสนใจ
2.1.3.9 ระบบเครือข่ายมัลติมีเดีย (Networking with multimedia)คอมพิวเตอร์ที่ใช้
อยู่ในปัจจุบันมีอยู่หลายประเภทคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียทางการศึกษา
2.1.5 ต้นก าเนิดสื่อมัลติมีเดีย
สื่อมัลติมีเดียเริ่มต้นในราว ๆ ต้นปี พ.ศ. 2534 พร้อมๆ กับการใช้ระบบปฏิบัติการ
วินโดวส์ 3.0 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้ส าหรับเครื่องพีซี (PC) และมันก็เป็นระบบปฏิบัติการที่เรียก
ง่ายๆกันว่า กราฟิกยูซเซอร์อิเทอร์เฟท (Graphic User Interface) หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า GUI ส าหรับ
GUI เป็นอินเทอร์เฟทที่สามารถแสดงได้ทั้งข้อความ (Text) และกราฟิก (Graphic) ซึ่งง่ายต่อการใช้
งานต่อมาในราว ๆ ต้นปี พ.ศ.2535 บริษัทไมโครซอฟต์ด้พัฒนาโปรแกรมมัลติมีเดียเวอร์ชั่น 1.0 ที่ใช้
ร่วมกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 3.0 ท าให้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์มีศักยภาพเพิ่มขึ้นในเรื่องของ
ภาพและเสียง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของมาตรฐานมัลติมีเดียที่เรียกว่า มาตรฐานเอ็มพีซี MPC
หรือ ( Multimedia Personal Computer ) ซึ่งมาตรฐานนี้จะเป็นสิ่งก าหนดระบบพื้นฐานที่จ าเป็น
ส าหรับมัลติมีเดียวที่เล่นบนระบบ ปฏิบัติการวินโดวส์ การเริ่มน าเอาวินโดวส์ 3.1 เข้ามาแทนวินโดวส์
3.0 ในราว ๆ ต้นเดือนมีนาคม พ.ศ.2536 ท าให้การใช้มัลติมีเดียกว้างขวางยิ่งขึ้น โดยเฉพาะมี
ศักยภาพในการเล่นไฟล์เสียง (Wave) ไฟล์มีดี (MIDI) ไฟล์ภาพเคลื่อนไหว (Animation) และ
ภาพยนตร์จากแผ่นซีดีรอม (CD-ROM) จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของมัลติมีเดียที่ใช้กับเครื่อง
คอมพิวเตอร์พีซีจนถึงปัจจุบัน
ภาพที่ 2-1 จุดเริ่มต้นของมาตรฐานมัลติมีเดียที่เรียกว่า มาตรฐานเอ็มพีซี
2.2 โปรแกรม Adobe Premierpro cs6
เป็นซอฟแวร์โปรแกรมที่ใช้ในงานตัดต่อวิดีโอและบันทึกตัดต่อเสียงที่แพร่หลายที่สุด สามารถ
ผลิตผลงานได้ในระดับมืออาชีพ จนถึงการน าไปออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ (Broadcasting
System ) มีการท างานที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนมากนัก สามารถจับภาพและเสียงมาวาง (Drag &
Drop) ลงบนไทม์ไลน์ (Time line) เคลื่อนย้ายได้อิสระโดยไม่จ ากัดจ านวนครั้ง และไม่มีการสูญเสีย
ของสัญญาณภาพและเสียง เพียงผู้ผลิตรายการ ต้องมีทักษะที่ดีในการใช้โปรแกรมกับความคิด
สร้างสรรค์เท่านั้น Adobe Permiere Pro เป็นโปรแกรม ที่ใช้ตัดต่อภาพ ทั้งภาพนิ่งและ
ภาพเคลื่อนไหว ซึ่งเป็น รวมไปถึงวิดีโอ แม้กระทั่งการท างาน เกี่ยวกับเสียง ข้อความ หรือหากมีข้อมูล
รูปภาพจากกล้อง ดิจิตอลอยู่แล้ว ก็สามารถน าภาพที่ได้ถ่ายไว้มาตัดต่อ เพื่อสร้างเป็นภาพยนตร์
ส าหรับส่วนตัวได้ความสามารถในการปรับและตรวจสอบค่าสี โทนสี ความสว่างและแสงเงา ของไฟล์
วีดิโอได้มากขึ้น โดยสามารถแทนที่ค่าสีแล้วเปรียบเทียบกับไฟล์เดิมได้ในหน้าต่างเดียวกัน และยัง
สามารถตัดต่อเกี่ยวกับระบบเสียงได้มากขึ้นAdobe Premiere Pro เพิ่มขีดความสามารถในการสร้าง
เอ็ฟเฟ็ครูปแบบต่าง ๆให้กับเสียง อีกทั้งยังเพิ่มการปรับแต่งเสียง ในระบบ 5.1 Channelนอกจากนั้น
ยังสามารถสร้างเสียงคุณภาพสูงได้ด้วย Audio Mixer สนับสนุนการท างานบนมาตรฐานอุตสาหกรรม
อื่น ๆAdobe Premiere Pro สามารถผลิตงานคุณภาพสูงได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการสร้างไฟล์คุณภาพ
เช่น MPEG 2 หรือแปลงไฟล์ให้ได้รูปแบบสื่อวีดิโอที่หลากหลาย คุณสมบัติต่างๆ
2.2.1 ระบบคอมพิวเตอร์ที่ต้องการในการลงโปรแกรม
ภาพที่ 2-2 ระบบคอมพิวเตอร์ที่ต้องการในการลงโปรแกรม
2.2.2 การติดตั้งโปรแกรม
2.2.2.1 ภาพเข้าโปรแกรม CS6 Master Collection เพื่อเลือกโปรแกรม Adobe
จะลง
ภาพที่ 2-3 เข้าโปรแกรม CS6 Master Collection เพื่อลงโปรแกรม Adobe
2.2.2.2 ท าการเลือก Adobe Premier pro CS6 เพื่อติดตั้ง และระบุไฟล์ลงไว้ให้
เรียบร้อย
ภาพ 2-4 เลือก Adobe Premier pro ในการติดตั้ง ระบุไฟล์ลงให้เรียบร้อย
2.2.2.3 รอติดตั้งจนกว่าจะเสร็จ
ภาพที่ 2-5 รอติดการติดการจนกว่าจะเสร็จ
2.2.2.4 เสร็จสิ้นการลงโปรแกรม
ภาพที่ 2-6 เสร็จสิ้นการลงโปรแกรม
2.2.3 ค าสั่งและเครื่องมือต่าง ๆ ในโปรแกรม Adobe Premier pro CS6
2.2.3.1 UI (User lnterface)
ภาพที่ 2-7 ค าสั่งและเครื่องมือต่างๆ ในโปรแกรม
1) หมายเลข 1 แถบเมนู
ภาพที่ 2-8 แถบเมนู
File ( ไฟล์ ) คือ ใช้ในการเปิดโปรเจค เปิดไฟล์งาน และบันทึกไฟล์งาน
Edit ( แก้ไข ) คือ ใช้ในการแก้ไขงาน คัดลอก หรือวางงาน
Project ( โปรเจค ) คือ ใช้ในการตั้งค่าส่วนของโปรเจคงาน
Clip ( คลิป ) คือ ใช้ในการตั้งค่าและควบคุมที่เกี่ยวข้องกับ วิดีโอ
Sequence ( ล าดับส่วนของวิดีโอ ) คือ ใช้ในการคุม Time line วิดีโอและเสียง
Marker ( ก าหนุดจุดวิดีโอ ) คือ ใช้ในการก าหนดจุดเฉพาะของวิดีโอ
Title ( ไตเติ้ล ) คือ ใช้ในการสร้างและก าหนดหรือที่เกี่ยวข้องกับข้อความ
Window ( หน้าต่างพาเนล ) คือ ใช้ในการเรียกพาเนลส่วนต่างๆเพื่มมาได้
2) หมายเลข 2 แถบ Source ของวิดีโอ
ภาพที่ 2-9 แถบ Source ที่ไว้แสดงกับวิดีโอที่ท างานอยู่
A คือ ส่วน Source ข้อมูลส าหรับวิดีโอ
B คือ หน้าจอแสดงผลของ Source
C คือ ระยะเวลาและความยาวของวีดีโอใน Source
D คือ ตัวแสดงผลของหน้าจอแสดงผลในอีกรูปแบบหนึ่ง
E คือ ตัวขั้นของความยาววิดีโอเพื่อให้รู้ว่าต าแหน่งเวลาในขณะกดเล่นวิดีโอ
F คือ ปุ่มควบคุมต่างๆ ของวิดีโอใน Source
หมายเลข 2 แถบ Effect Controls
ภาพที่ 2-10 แถบ Effect Controls ที่ไว้ควบคุมการเคลื่อนไหวของวิดีโอ
A คือ Sequence ของวิดีโอ ที่เกี่ยวกับการตกแต่งใส่ Effect
B คือ Video Effect ในการตกแต่งของ วิดีโอ เช่น การเคลื่อนย้าย ก าหนด Effect
C คือ ช่อง Time line ของวิดีโอที่เอาไว้ใช้ดูการใส่ Effect ของการ Key frame
D คือ ตัว Key frame ที่ไว้ใช้ก าหนด Key ของ Effect
หมายเลข 2 แถบ Audio Mixer
ภาพที่ 2-11 แถบ Audio Mixer ที่เอาไว้ปรับเสียงวิดีโอที่ก าลังท างานอยู่
ไว้ควบคุมเสียงหรือปรับเสียงของวิดีโอ
3) หมายเลข 3 แถบ Program monitor หน้าจอแสดงผลของวิดีโอ
ภาพที่ 2-12 แถบ Program monitor ใช้แสดงผลของวิดีโอที่ก าลังท างานเป็นหลัก
เป็นช่องหน้าจอแสดงผล แบบไม่แยกที่เหมือนกับหมายเลข 2.1 ใช้ตัวนี้ในการดูวิดีโอหลัก
4) หมายเลข 4 แถบ Project ไฟล์งานส าหรับโปรเจค
ภาพที่ 2-13 แถบ Project ไว้ใช้ระบุสิ่งที่ใช้ในโปรเจคที่ก าลังท างานอยู่
A คือ ชื่อโปรเจค
B คือ ค้นหาไฟล์
C คือ ระบุไฟล์ที่อยู่ในโปรเจคที่ก าหนดไว้
D คือ ตัวไฟล์ที่ท างานอยู่ของโปรเจคที่ท าในขณะนี้ เช่น มีวิดีโอ Time line
E คือ ก าหนดรูปแบบช่องโปรเจค ใช้ย่อขยาย หรือเปลี่ยนรูปแบบใหม่
หมายเลข 4 แถบ Media Brower
ภาพที่ 2-14 แถบ Media Brower ที่ใช้ระบุ หรือลากไฟล์ที่เกี่ยวข้องของงานที่ก าลังท าอยู่
A คือ รวมระบุ ไดรว์
B คือ รวมไฟล์ชนิดที่ Supported ใน Media Browser
C คือ ภาพรวมเอาไว้ใช้ดูไฟล์ที่เก็บไว้ใน Media Browser
หมายเลข 4 แถบ Info
ภาพที่ 2-15 แถบ Info ที่ใช้ระบุข้อมูลของและชนิด หรือความยาวของเสียงและวิดีโอ
A คือ ระบุไฟล์ต่างๆที่ท างานในขณะนี้เพื่อบอกประเภท เสียงของวิดีโอที่ท า
B คือ ระบุ Track วิดีโอ
หมายเลข 4 แถบ Effects
ภาพที่ 2-16 แถบ Effects ไว้เก็บและใช้เอฟเฟคต่างๆที่มีอยู่
A คือ ใช้ค้นหา Effect ที่มีอยู่
B คือ โฟลเดอร์ของ Effect แต่ละประเภท
C คือ ปุ่มแยกประเภท Plugin ของ Effect
5) หมายเลข 5 แถบ Tools ของ Time line วิดีโอ
ภาพที่ 2-17 แถบ Tools ที่ไว้ใช้ควบคุมวิดีโอใน Time line
Selection Tool : เลือกคลิปที่ต้องการท างานหรือ คุมการย้ายวิดีโอ
Track Select Tool : เลือกทุกคลิปที่อยู่ใน Track เดียวกัน
Ripple Edit Tool : ยึดหรือลด Frame ที่แสดง โดยมีผลต่อเวลาในการแสดง
Rolling Edit Tool : ยึดหรือลด Frame ที่แสดง โดยไม่มีผลต่อเวลาในการแสดง
Rate Stretch Tool : ปรับความเร็วในการแสดงคลิปนั้น
Razor : ส าหรับตัดคลิปเป็นส่วนๆ
Slip Tool : เลื่อนคลิปที่อยู่ติดกัน โดยเลื่อน Frame ให้ซ่อนบางส่วน
Slide Tool : เลื่อนคลิปที่อยู่ติดกันซึ่งจะมีผลตามความยาวในการแสดงคลิป
Pen Tool : ปรับลายละเอียดระดับของ Key frame
Hand Tool : เลื่อน เพื่อดูคลิปที่มีความยาวมาก
Zoom Tool : ย่อหรือขยายขนาดเพื่อดูรายละเอียดของ Frame และภาพรวมชิ้นงาน
6) หมายเลข 6 แถบ หน้าต่าง Time line ของวิดีโอ
ภาพที่ 2-18 แถบหน้าต่าง Time line ที่ใช้ในการเช็คและการตัดต่อวิดีโอ
A คือ ส่วนการท างานของ Track วิดีโอและเสียงที่ไว้ใช้ปิดเปิดของวิดีโอ เสียง
B คือ Time line บอกระยะความยาวคลิป
7) หมายเลข 7 แถบ Audio meters
ภาพที่ 2-19 แถบ Audio meters ที่ใช้วัดระดับเสียงของวีดีโอเพื่อดูระดับเสียงได้ง่ายขึ้น
เป็นส่วนที่ไว้แสดงผลของเสียง เมื่อวิดีโอแสดงการท างาน
2.2.4 ขั้นตอนการใช้โปรแกรม
2.2.4.1 การสร้างโปรเจค
1
1) เมื่อเข้าโปรแกรม Adobe Propremier CS6 แล้วจะมีหน้าลักษณะดังใน
ภาพให้ท าการคลิกที่ New Project
2
3
2) จะขึ้นหน้าต่างที่ชื่อว่า New Project คลิกค าว่า Brows เป็นการระบุ
ไฟล์ไว้เก็บที่ท า
3) เปลี่ยนชื่อโปรเจคให้เรียบร้อยแล้วคลิก ok
4
1) จะขึ้นหน้าต่าง New sequence มันจะตั้งค่าการก าหนดไฟล์วิดีโอตั้งแต่
เข้าครั้งแรกแล้วเลยไม่จ าเป็นต้องไปก าหนดมันอีก ให้เปลี่ยนชื่อของ
Sequence แต่ไม่เป็นต้องเปลี่ยนก็ได้ แล้วคลิก ok ก็ขึ้นหน้า User
Interface เป็นอันเสร็จการสร้างโปรเจค
ภาพที่ 2-20 การสร้างโปรเจค
2.2.4.2 การน าไฟล์ทรัพยากรมาใช้กับโปรเจค
1.
1) น าไฟล์ภาพเสียง หรือวิดีโอที่เตรียมไว้มาลากไฟล์เหล่านั้นมาวางในช่อง
โปรเจค
2.
2) ดึงไฟล์วิดีโอมาวางไว้ช่อง Time line
3.
3) จะมีหน้าต่างขึ้นมาให้กด Keep exiting setting เป็นอันเสร็จ การน าไฟล์
วิดีโอมาใช้
ภาพที่ 2-21 การน าไฟล์วิดีโอภาพและเสียงมาใช้ในโปรแกรม
2.2.4.3 การใส่ Effect และการใช้ Motion เคลื่อนไหว
1.
1) ไปที่ช่อง Effect และเข้าโฟลเดอร์ที่ชื่อว่า Video และดึงไฟล์ Effect ที่
เลือกไว้ ลากมาไว้ในช่อง Time line
2.
ผลลัพ
ธ์
2) ไปที่ช่อง Effect control และไปที่ Effect ที่เลือกไว้ กดที่รูปนาฬิกาจับ
เวลา ที่เรียกว่า Key frame และจะมีรูป สี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ปรากฏอยู่
ช่อง Key frame และท าการก าหนดค่าที่กด Key frame แล้วผลลัพธ์ที่
ได้ก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามที่ก าหนดค่ามัน
3.
ภาพที่ 2-22 การใช้ Effect และ Motion
3) ลากไฟล์ภาพมาไว้ในช่อง Time line แล้วไปที่ช่อง Effect control
เลือก Motion กดลูกศรลงมาจะมีค าว่า Position ( ต าแหน่ง ) Scale ( ขยาย ) โดย
Position จะมีอยู่สองค่าคือ ไปซ้ายขวา และ ขึ้นบนลงล่าง ให้ก าหนด Key frame
ทั้งสองเป็นอันเสร็จ การใช้ Effect และ Motion
2.2.4.4 การสร้างข้อความ Title Text
1.
1) คลิกที่แถบ Title เลือก New Titile และเลือก Default Still จะปรากฏ
หน้าต่างของ New Title ขึ้นมา ให้เปลี่ยนชื่อ Title ให้เรียบร้อย แล้วกด
Ok จากนั้นจะขึ้นหน้าต่าง สร้าง Title ข้อความ
2.
ภาพที่ 2-23 การสร้างข้อความ Title
2) คลิกที่ภาพบริเวณที่จะพิมพ์ และพิมพ์ข้อความลงไป เลือกที่ Color เปลี่ยน
สี ข้อความตามใจชอบ ( ถ้าจะให้ดีควรเปลี่ยนสีข้อความให้เหมาะและสะดวก
ต่อการอ่าน ) เป็นอันเสร็จการสร้าง Titile ข้อความ
2.2.5 การ Export media วิดีโอ
1.
ภาพที่ 2-24 การ Export ให้เป็นวิดีโอ
1) คลิก Edit เลือก Export เข้า Media จะปรากฏหน้าต่าง Export Setting ไป
ที่ Format เลือกจากเดิมเป็น AVI ( ไฟล์จะมีขนาดใหญ่ ) ให้เป็น FLV ( เพราะ
จะได้ไฟล์จากการ Export ที่มีขนาดเล็ก ) และไปที่ Presents เลือกอันแรกแล้ว
กด Export รอไฟล์ท าการ Export จนเสร็จ เป็นอันเสร็จการ Export ไฟล์วิดีโอ
2.3 PDCA
PDCA คือ วงจรการบริหารงานคุณภาพ ย่อมาจาก 4 ค า ได้แก่ Plan (วางแผน), Do
(ปฏิบัติ) Check (ตรวจสอบ) และ Act (การด าเนินการให้เหมาะสม) ซึ่งวงจร PDCA สามารถ
ประยุกต์ใช้ได้กับทุกๆ เรื่อง นับตั้งแต่กิจกรรมส่วนตัว เช่น การปรุงอาหาร การเดินทางไปท างานใน
แต่ละวัน การตั้งเป้าหมายชีวิต และการด าเนินงานในระดับบริษัท ซึ่งรายละเอียดในแต่ละขั้นตอนมี
ดังนี้
P = Plan ( ขั้นตอนการวางแผน )
ขั้นตอนการวางแผนครอบคลุมถึงการก าหนดกรอบหัวข้อที่ต้องการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ซึ่ง
รวมถึงการพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน ฯลฯ พร้อมกับพิจารณาว่ามี
ความจ าเป็นต้องใช้ข้อมูลใดบ้างเพื่อการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนั้น โดยระบุวิธีการเก็บข้อมูลและ
ก าหนดทางเลือกในการปรับปรุงให้ชัดเจน ซึ่งการวางแผนจะช่วยให้กิจการสามารถคาดการณ์สิ่งที่
เกิดขึ้นในอนาคต และช่วยลดความสูญเสียต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งในด้านแรงงาน วัตถุดิบ ชั่วโมง
การท างาน เงิน และเวลา
D = Do ขั้นตอนการปฏิบัติ ( ขั้นตอนการปฏิบัติ )
ขั้นตอนการปฏิบัติ คือ การลงมือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามทางเลือกที่ได้ก าหนดไว้ในขั้นตอน
การวางแผน ซึ่งในขั้นตอนนี้ต้องมีการตรวจสอบระหว่างการปฏิบัติด้วยว่าได้ด าเนินไปในทิศทางที่
ตั้งใจหรือไม่ เพื่อท าการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เป็นไปตามแผนการที่ได้วางไว้
C = Check ( ขั้นตอนการตรวจสอบ )
ขั้นตอนการตรวจสอบ คือ การประเมินผลที่ได้รับจากการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ทราบ
ว่า ในขั้นตอนการปฏิบัติงานสามารถบรรลุเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่ได้ก าหนดไว้หรือไม่ แต่สิ่ง
ส าคัญก็คือ ต้องรู้ว่าจะตรวจสอบอะไรบ้างและบ่อยครั้งแค่ไหน เพื่อให้ข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบ
เป็นประโยชน์ส าหรับขั้นตอนถัดไป
A = Action
ขั้นตอนการด าเนินงานให้เหมาะสม ( ขั้นตอนการด าเนินงานให้เหมาะสม )
ขั้นตอนการด าเนินงานให้เหมาะสมจะพิจารณาผลที่ได้จากการตรวจสอบ ซึ่งมีอยู่ 2 กรณี คือ ผลที่
เกิดขึ้นเป็นไปตามแผนที่วางไว้ หรือไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ หากเป็นกรณีแรก ก็ให้น าแนวทางหรือ
กระบวนการปฏิบัตินั้นมาจัดท าให้เป็นมาตรฐาน พร้อมทั้งหาวิธีการที่จะปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ซึ่ง
อาจหมายถึงสามารถบรรลุเป้าหมายได้เร็วกว่าเดิม หรือเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเดิม หรือท าให้คุณภาพ
ดียิ่งขึ้นก็ได้แต่ถ้าหากเป็นกรณีที่สอง คือ ผลที่ได้ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่วางไว้ ควรน าข้อมูลที่
รวบรวมไว้มาวิเคราะห์และพิจารณาว่าควรจะด าเนินการอย่างไร เช่น มองหาทางเลือกใหม่ที่น่าจะ
เป็นไปได้ ใช้ความพยายามให้มากขึ้นกว่าเดิม ขอความช่วยเหลือจากผู้รู้ หรือเปลี่ยนเป้าหมายใหม่
เป็นต้น
ประโยชน์ของ PDCA
1. การวางแผนงานก่อนการปฏิบัติงาน ( Plan )
จะท าให้เกิดความพร้อมเมื่อได้ปฏิบัติงานจริงการวางแผนงานควรวางให้ครบ 4 ขั้นดังนี้
1.1 ขั้นการศึกษา คือ การวางแผนศึกษาข้อมูล วิธีการ ความต้องการของตลาด ข้อมูลด้าน
วัตถุดิบ ด้านทรัพยากรที่มีอยู่หรือเงินทุน
1.2 ขั้นเตรียมงาน คือ การวางแผนการเตรียมงานด้านสถานที่ การออกแบบผลิตภัณฑ์
ความพร้อมของพนักงาน อุปกรณ์ เครื่องจักร วัตถุดิบ
1.3 ขั้นด าเนินงาน คือ การวางแนวทางการปฏิบัติงานของแต่ละส่วนแต่ละฝ่าย เช่น ฝ่าย
ผลิต ฝ่ายขาย
1.4 ขั้นการประเมินผล คือ การวางแผนหรือเตรียมการประเมินผลงานอย่างเป็นระบบ เช่น
ประเมินจากยอดการจ าหน่าย ประเมินจากการติชมของลูกค้า เพื่อให้ผลที่ได้จากการประเมินเกิดการ
เที่ยงตรง
2. การปฏิบัติตามแผนงาน ( Do )
ท าให้ทราบขั้นตอน วิธีการ และสามารถเตรียมงานล่วงหน้าหรือทราบอุปสรรคล่วงหน้าด้วย
ดังนั้น การปฏิบัติงานก็จะเกิดความราบรื่น และเรียนร้อย น าไปสู่เป้าหมายที่ได้ก าหนดไว้
3. การตรวจสอบ ให้ได้ผลที่เที่ยงตรงเชื่อถือได้ ( Check )
ประกอบด้วย
3.1 ตรวจสอบจากเป้าหมายที่ได้ก าหนดไว้
3.2 มีเครื่องมือที่เชื่อถือได้
3.3 มีเกณฑ์การตรวจสอบที่ชัดเจน
3.4 มีก าหนดเวลาการตรวจที่แน่นอน
3.5 บุคลากรที่ท าการตรวจสอบต้องได้รับการยอมรับจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อการ
ตรวจสอบได้รับการยอมรับ การปฏิบัติงานขั้นต่อไปก็ด าเนินงานต่อไปได้
4. การปรับปรุงแก้ไข ( Action )
ข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนใดก็ตาม เมื่อมีการปรับปรุงแก้ไขคุณภาพก็
จะเกิดขึ้น ดังนั้น วงจร PDAC จึงเรียกว่า วงจรบริหารงานคุณภาพ
บทที่ 3
วิธีการด าเนินงาน
บทที่ 3
วิธีการด าเนินการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสื่อการสอน เรื่องการตัดต่อวีดิโอด้วยโปรแกรม Adobe
Premierepro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ ของนักศึกษาระดับ ปวส. 1
จ านวน 32 คน สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยเทคนิคระยอง เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการ
วิจัย ผู้วิจัยได้ก าหนดวิธีการด าเนินการวิจัย ไว้อย่างมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
3.1.1 ประชากร
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักศึกษาระดับ ปวส. 1 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
วิทยาลัยเทคนิคระยอง ที่ลงทะเบียนเรียนในภาคที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จ านวน 32 คน
3.1.2 กลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักศึกษาระดับ ปวส. 1 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
วิทยาลัยเทคนิคระยอง ที่ลงทะเบียนเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จ านวน 32 คน
3.2 ตัวแปรที่ศึกษา
ตัวแปรที่ศึกษาได้แก่ สื่อการเรียนการสอนเรื่องการตัดต่อวีดิโอ ด้วยโปรแกรม
Adobe Premierepro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ
3.3 เครื่องมือใช้ในการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ แบบสอบถาม สร้างสื่อการเรียนการสอนเรื่องการตัดต่อวีดิโอ
ด้วยโปรแกรม Adobe Premierepro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ ของ
นักเรียนระดับปวส. 1 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยเทคนิคระยอง ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วนดังนี้
3.3.1 ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป แบบสอบถาม สร้างสื่อการสอนเรื่องการตัดต่อวิดีโอ ด้วยโปรแกรม
Adobe Premierepro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ ของนักเรียนระดับปวส.
1 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยเทคนิคระยอง ประกอบด้วย เพศ อายุ ระดับชั้น
3.3.2 ส่วนที่ 2 ข้อมูลการสร้างสื่อการเรียนการสอนเรื่องการตัดต่อวิดีโอด้วยโปรแกรม Adobe
Premierepro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ ของนักเรียนระดับ ปวส.1 สาขา
คอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยเทคนิคระยอง แบ่งออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่
3.3.2.1 ด้านเนื้อหาสาระ
3.3.2.2 ด้านรูปแบบ
3.3.2.3 ด้านประโยชน์ที่ได้รับ
ลักษณะค าถามเป็นข้อค าถามแบบเลือกตอบและอธิบายโดยให้ผู้ตอบแบบสอบถามเลือกตอบให้ตรง
กับที่ปฏิบัติจริงมากที่สุด
3.3.3 ส่วนที่ 3 ส่วนที่ให้ผู้ตอบแบบสอบถามแสดงข้อเสนอแนะที่มีต่อการสร้างสื่อการเรียน
การสอนเรื่องการตัดต่อวิดีโอ ด้วยโปรแกรม Adobe Premierepro CS6 โดยใช้โปรแกรม
Bandicam ในการสร้างสื่อ ของนักเรียนระดับ ปวส. 1 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยเทคนิค
ระยอง
3.4 วิธีการสร้างเครื่องมือ
การสร้างแบบสอบถามในงานวิจัยมีขั้นตอนดังนี้
3.4.1 ศึกษาวัตถุประสงค์ของงานวิจัย
3.4.2 ก าหนดหัวข้อประเด็น และตัวบ่งชี้ที่ต้องการถามตามวัตถุประสงค์
3.4.3 รวบรวมข้อค าถาม ข้อความ หรือพฤติกรรมจากตัวบ่งชี้ที่ก าหนดไว้ให้มากที่สุด
3.4.4 พิจารณาแต่ละข้อค าถามว่ามีความเป็นปรนัยหรือความชัดเจนทางภาษา เหมาะที่จะใช้
กับกลุ่มตัวอย่าง/ผู้ให้ข้อมูลที่จะไปสอบถามหรือไม่
3.4.5 ก าหนดสเกล หรือค าตอบที่เหมาะสม
3.4.6 น าข้อค าถาม/ข้อความ ไปหาความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของค าถาม โดยน าไปให้
ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นตรวจสอบว่า ข้อค าถาม/ข้อความแต่ละข้อ วัดได้ตรงกับ ประเด็น/ตัวบ่งชี้ที่เรา
ต้องการศึกษา และข้อค าถาม/ข้อความทั้งหมดวัดได้ครอบคลุมสิ่งที่ต้องการศึกษาทั้งหมดหรือยัง
3.4.7 ปรับข้อค าถาม/ข้อความตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะน า
3.4.8 น าแบบสอบถามไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่างที่มีลักษณะใกล้เคียงกันกับ กลุ่มตัวอย่างใน
การวิจัย เพื่อหาคุณภาพแบบสอบถาม เช่น หาค่าความเชื่อมั่นค่าอ านาจจ าแนก
3.4.9 วิเคราะห์ผลการทดลองใช้
3.4.10 ปรับปรุงข้อความ และเลือกเฉพาะข้อที่ดีไว้
3.4.11 จัดพิมพ์แบบสอบถามฉบับสมบูรณ์
3.5 การเก็บรวมรวมข้อมูล
3.5.1 ผู้ศึกษาได้เก็บรวมรวบข้อมูลด้วยแบบสอบถามกับกลุ่มประชากรจากนักเรียนระดับชั้น
ปวส. 1 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ จ านวน 32 คน
3.5.2 ระหว่างเก็บรวบรวมข้อมูลผู้วิจัยตรวจสอบความครบถ้วนสมบูรณ์ของแบบสอบถามความ
เรียบร้อยของแบบสอบถามทั้งหมดอีกครั้ง และเก็บรวบรวม เพื่อน ามาวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป
3.6 การวิเคราะห์ข้อมูล
3.6.1 พิจารณาจากคะแนนตามเกณฑ์
เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบสอบถามเพื่อสอบถามถึงความพึงพอใจของ
ผู้ดูสื่อการสอนของนักเรียนระดับชั้น ปวส. 1 สาขาคอมพิวเตอร์ จ านวน 32 คน กลุ่มตัวอย่าง
งานวิจัยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
สร้างแบบสอบถามซึ่งมีมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ
5 หมายถึง มากที่สุด
4 หมายถึง มาก
3 หมายถึง ปานกลาง
2 หมายถึง น้อย
1 หมายถึง น้อยที่สุด
การวิเคราะห์แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนเรื่อง สร้างสื่อการเรียนการสอนเรื่องการตัด
ต่อวิดีโอ ด้วยโปรแกรม Adobe Premiere CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ
ของนักเรียนระดับ ปวส. 1 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ก าหนดช่วงของค่าเฉลี่ยตามแนวของ จอห์น
ดับบลิว เบสท์ และ เจมส์ วีคาห์น (Best John W. & Kahn james V. , 1993,PP.181-182) ดังนี้
3.6.2 เกณฑ์การประเมินค่าความพึงพอใจก าหนดค่าคะแนนออกเป็น 5 ระดับ ดังนี้
ค่าเฉลี่ย ความหมาย
4.50 – 5.00 หมายถึง มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด
3.50 – 4.49 หมายถึง มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก
2.50 – 3.49 หมายถึง มีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง
1.50 – 2.49 หมายถึง มีความคิดเห็นอยู่ในระดับน้อย
0.00 – 1.49 หมายถึง มีความคิดเห็นอยู่ในระดับน้อยที่สุด
3.7 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
3.7.1 ค่าสถิติร้อยละ (Percentage) มีสูตรดังนี้
สูตร
เมื่อก าหนดให้
P แทน ค่าร้อยละ
F แทน จ านวนหรือความถี่ที่ต้องหาค่าร้อยละ
N แทน จ านวนข้อมูลทั้งหมด
3.7.2 การหาค่าเฉลี่ย ( ̅)
∑
สูตร ̅ =
เมื่อก าหนดให้
̅ แทน คะแนนตัวกลางเลขคณิต
∑ แทน ผลรวมทั้งหมดของคะแนน
แทน จ านวนคะแนนในข้อมูลนั้น
3.7.3 การหาค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D. Standard Deviation)
√ ∑ (∑ )
สูตร
( )
เมื่อก าหนดให้
คือ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของกลุ่มตัวอย่าง
∑ คือ ผลรวมยกก าลังสองของคะแนนจ านวน
( ∑ ) คือ ผลรวมคะแนนทุกจ านวนยกก าลังสอง
คือ จ านวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด
บทที่ 4
การวิเคราะห์ข้อมูล
บทที่ 4
การวิเคราะห์ข้อมูล
การวิเคราะห์ข้อมูลของโครงการสื่อการสอน โปรแกรมตัดต่อวีดีโอด้วยโปรแกรม Adobe
Premierpro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ การติดตามประเมินผลของผู้
ประเมินด าเนินการวิเคราะห์ข้อมูลและแปรความหมายของล าดับ ได้แก่ ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของ
ผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 ความพึงพอใจในด้านต่างๆ ของโครงการ ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะ ผู้ตอบ
แบบสอบถาม จ านวน 32 คน ผลดังตารางที่ 4-1
4.1 ข้อมูลทั่วไป
ตารางที่ 4-1 การวิเคราะห์ข้อมูลจ านวนของผู้ตอบแบบสอบถามที่เข้าร่วมโครงการสื่อการ
สอน การตัดต่อวีดีโอด้วยโปรแกรม Adobe Premierpro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการ
สร้างสื่อ จ าแนกตามเพศ
ล าดับที่ เพศ จ านวน(คน) ร้อยละ
1 ชาย 4 13
2 หญิง 28 87
รวมทั้งสิ้น 32 100
จากตารางที่ 4-1 พบว่า จ านวนร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามจ าแนกตามเพศ ที่เข้าร่วม
โครงการสื่อการสอน โปรแกรมตัดต่อวีดีโอด้วยโปรแกรม Adobe Premierpro CS6 โดยใช้
โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ และส่งแบบสอบถามกลับคืนดังนี้ เพศชาย คิดเป็นร้อยละ 12
เพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 88 ของจ านวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด
สื่อการสอน โปรแกรมตัดต่อวีดีโอด้วยโปรแกรม Adobe Premierpro
CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ
28%
ชาย
หญิง
72%
ภาพที่ 4-1 แผนภูมิแสดงเพศของผู้เข้าร่วมโครงการสื่อการสอน โปรแกรมตัดต่อวีดีโอด้วยโปรแกรม
Adobe Premierpro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ จ าแนกตามเพศ
ตารางที่ 4-2 การวิเคราะห์ข้อมูลจ านวนของผู้ตอบแบบสอบถามที่เข้าร่วมโครงการสื่อการสอน การ
ตัดต่อวีดีโอด้วยโปรแกรม Adobe Premierpro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ
จ าแนกตามระดับชั้น
ล าดับที่ ระดับชั้น จ านวน(คน) ร้อยละ
1 ปวช. 0 0
2 ปวส. 32 100
รวมทั้งสิ้น 32 100
จากตารางที่ 4-2 พบว่า จ านวนร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามจ าแนกตามระดับชั้น ที่เข้า
ร่วมโครงการสื่อการสอน โปรแกรมตัดต่อวีดีโอด้วยโปรแกรม Adobe Premierpro CS6 โดยใช้
โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ และส่งแบบสอบถามกลับคืนดังนี้ ปวช. คิดเป็นร้อยละ 0 ปวส.
คิดเป็นร้อยละ 100 ของจ านวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด
สื่อการสอน โปรแกรมตัดต่อวีดีโอด้วยโปรแกรม Adobe Premierpro
CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ
0%
ปวช
ปวส
100%
ภาพที่ 4-2 แผนภูมิแสดงระดับชั้นของผู้เข้าร่วมโครงการสื่อการสอน โปรแกรมตัดต่อวีดีโอด้วย
โปรแกรม Adobe Premierpro CS6 โดยใช้โปรแกรม Bandicam ในการสร้างสื่อ จ าแนกตาม
ระดับชั้น