The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รูปแบบการดำเนินชีวิตหรือวิธีคิดของผู้คนที่แตกต่างกัน สามารถเป็นชนวนที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของศาสนาและความเชื่อ เพราะมนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่ต้องการปัจจัยมากมายในการดำรงชีวิต และหนึ่งในนั้นคือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเพื่อยึดถือเป็นหลักดำเนินชีวิต เกิดเป็นศาสนาและลัทธิต่าง ๆ จากความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ถิ่นที่อยู่ และการดำเนินชีวิต

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Kamalas Phoowachanatipong, 2021-03-20 12:35:26

การพัฒนาหมู่บ้านต้นแบบสันติสุขตามหลักคำสอนทางศาสนาในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้

รูปแบบการดำเนินชีวิตหรือวิธีคิดของผู้คนที่แตกต่างกัน สามารถเป็นชนวนที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของศาสนาและความเชื่อ เพราะมนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่ต้องการปัจจัยมากมายในการดำรงชีวิต และหนึ่งในนั้นคือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเพื่อยึดถือเป็นหลักดำเนินชีวิต เกิดเป็นศาสนาและลัทธิต่าง ๆ จากความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ถิ่นที่อยู่ และการดำเนินชีวิต

Keywords: หมู่บ้านต้นแบบสันติสุข,หลักคำสอนศาสนา

48

โครงกำร สิ่งหน่ึงท่ีต้องกำรส่งเสริม คือ ต้องกำรส่งเสริมเยำวชนให้ทำ
กิจกรรมร่วมทั้ง 3 ศำสนำ ที่ส่ิงสำคัญอยำกให้มีกิจกรรมหน่ึงท่ีชำวพุทธไป
เรียนรู้วิถีปฏิบัติของชำวไทยมุสลิม ชำวไทยมุสลิมก็เรียนรู้วิถีชำวไทยพุทธ
จะทำให้เกิดกำรเรียนรู้ และเข้ำใจควำมแตกต่ำงของศำสนำ สะท้อนให้เห็น
ว่ำ ถงึ แม้วำ่ จะนบั ถือศำสนำตำ่ งกัน แต่ชุมชนกอ็ ำศัยอยู่รว่ มกันอย่ำงสันติสุข
คนในชุมชนมีควำมยึดเหนี่ยวน้ำใจกัน มีควำมเอ้ืออำทร แบ่งปันซ่ึงกันและ
กนั

ผลการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ องค์ประกอบกำรพัฒนำหมู่บ้ำน
ตน้ แบบตำมหลักคำสอนทำงศำสนำ สรุปได้ดงั นี้

1. ปัจจัยนาเข้า ได้แก่ คุณลักษณะหมู่บ้ำนต้นแบบสันติสุข
ประกอบด้วย 1) ควำมสัมพันธ์ของคนในชุมชน 2) กำรยึดหลักคำสอนทำง
ศำสนำ 3) แนวทำงกำรอยู่ร่วมกันอย่ำงสันติสุข และ 4) กำรรักษำวิถีชุมชน
เพื่อส่งเสริมจุดร่วมท่ีทำให้คนในชุมชนอยู่ร่วมกันอย่ำงมีควำมสุข ไม่ขัดแย้ง
ในควำมแตกต่ำงทำงวัฒนธรรมโดยคณะผู้วิจยั ได้ประยุกตใ์ ชห้ ลักธรรมสังคห
วัตถุ 4 เป็นตัววัดกำรรับร้ชู ุมชนสนั ตสิ ขุ

2. ปจั จัยกระบวนการ จำกกำรท่คี ณะผวู้ ิจัยได้ศึกษำพบว่ำ ปจั จยั
กระบวนกำรประกอบไปดว้ ย ดังนี้

1) โครงกำรหมู่บ้ำนสันติสุข ในพื้นท่ี ตำบลสำเภำล่ม จังหวัด
พระนครศรีอยุธยำ พบปัญหำท่ีประชำชนในพ้ืนท่ีให้ควำมสนใจ และอยำก
ให้เกิดกำรส่งเสริม คือ เร่ืองของกำรตระหนักถึงควำมสำคัญของบ้ำนเกิด
เช่น (1) เด็กนักเรียนในชุมชนไปศึกษำนอกพื้นที่ ทำให้ขำดควำมสัมพันธ์กับ

49

เพ่ือนในวัยเดียวกัน (2) สื่อออนไลน์ เกมส์ต่ำง ๆ ทำให้เด็กไม่ออกมำทำ
กิจกรรมร่วมกัน (3) พอโตขึ้นก็ออกไปทำงำนตำมโรงงำน หรือ ทำงำนใน
กรงุ เทพฯ จึงอยำกใหส้ ่งเสริมเร่ืองควำมรกั ควำมผูกพันของเยำวชน ปลกู ฝัง
สำนึกรักบ้ำนเกิด เห็นคุณค่ำของมรดกวฒั นธรรม สำหรับในพ้ืนที่ชุมชนบ้ำน
ตลำดแขก จังหวัดนครศรีธรรมรำช เนื่องจำกอยู่ในเขตเมือง ควำมสัมพันธ์
ของคนในชมุ ชนเหนียวแน่น กำรอยูร่ ว่ มกันในชมุ ชนมีมติ ิของควำมเมตตำต่อ
กันค่อนข้ำงชัดเจน ปัญหำท่ีคนในพ้ืนท่ีให้ควำมสนใจก็จะคล้ำย ๆ กัน คือ
เรื่องกำรตระหนักถึงควำมสำคัญของมรดกวัฒนธรรม มีศำสนสถำน ทั้ง 3
ศำสนำอย่รู ว่ มกนั

2) ร่วมคิด สร้ำงรูปแบบ และวิธีกำรพัฒนำ เพ่ือแก้ไขและลด
ปัญหำของชุมชนหรือเพื่อสร้ำงสรรค์สิ่งใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน หรือ
สนองควำมต้องกำรของชุมชน แนวคิดในกำรสร้ำงรูปแบบเพื่อสร้ำงสรรคส์ ิง่
ใหม่ ๆ ให้เยำวชนเกิดกำรเรียนรู้ ท้ังในส่วนของมุมมองของคุณค่ำของมรดก
วัฒนธรรมในพ้ืนที่ และในเรื่องเรียนรู้กำรทำงำนเป็นทีม กำรประชุมกลุ่ม
กำรยอมรับควำมคิดเห็นของเพ่ือนร่วมทีม กำรแบ่งงำน จัดสรรงำน กำร
เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ร่วมกัน จึงจัดโครงกำรสื่อสร้ำงสรรค์สันติสุขเล่ำเร่ืองรำว
ด้ำนพหุวัฒนธรรมของท้ัง 2 พื้นที่ เน่ืองจำกเล็งเห็นว่ำ กำรทำงำนส่งเสริม
กิจกรรมของชุมชนระหว่ำงต่ำงศำสนำเป็นส่วนหนึ่งท่ีจะช่วยสร้ำงสรรค์ให้
ชุมชนอยู่ร่วมกันอย่ำงสันติสุขได้ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งกำรพัฒนำชุมชนยั่งยืน
ต้องเผยแพร่จุดดีของชุมชน ผ่ำนกลุ่มเยำวชน เป็นกำรถ่ำยทอดจริยธรรม

50

คุณธรรมที่ดีงำมและปลูกจิตสำนึกในกำรอยู่ร่วมกันเพ่ือสร้ำงสันติสุขอย่ำง
ยงั่ ยืนตำมหลักคำสอนของศำสนำสบื ตอ่ ใหร้ ุ่นต่อไปได้

3) ร่วมวำงนโยบำย แผนงำน โครงกำร และกิจกรรม เพื่อขจัด
ปญั หำและแก้ไขปญั หำและสนองควำมต้องกำรของชมุ ชน ตวั แทนนักวจิ ัยใน
พ้ืนท่ีประสำนงำนกับเยำวชนท่ีสนใจส่งคลิปเข้ำประกวด โดยได้รับควำม
ร่วมมือจำกหน่วยงำนท่ีเก่ียวข้อง เพื่อขจัดปัญหำและแก้ไขปัญหำในระหวำ่ ง
กำรทำกจิ กรรม ดงั น้ี

ในพื้นท่ีตำบลสำเภำล่ม จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ ผู้
ประสำนงำนของคณะผู้วจิ ัย ประสำนกบั คณะครูโรงเรยี นวัดพุทไธศวรรย์ นำ
โดยคุณครูสดุ ำ สขุ จำรัส

ในพื้นที่ในชุมชนบ้ำนตลำดแขก จังหวัดนครศรีธรรมรำช
ผู้ดูแล คอื นำยรงั สรรค์ วฒั นำชัยวณิช และนำยวนั พระ สบื สกลุ จินดำ เปน็ ผู้
ประสำนงำน

4) ร่วมตัดสินใจกำรใช้ทรัพยำกรท่ีมีจำกัดให้เป็นประโยชน์ต่อ
ส่วนรวม ทั้ง 2 พ้ืนที่ เลอื กสถำนท่ี มรดกวัฒนธรรม รำยละเอียดดงั นี้ คือ

พ้ืนที่ตำบลสำเภำล่ม จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ เลือก
สถำนที่สำคัญ ดังน้ี มะดีนะตุสซอลิฮำติ มัสยิดอิสลำมวฒั นำ มัสยิดอำลียนิ นู
รอยน์ โบสถ์วัดนักบุญยอแซฟ หมู่บ้ำนโปรตุเกส วัดพุทไธศวรรย์ วัดนำงกุย
วัดบำงกะจะ และสินค้ำชุมชนที่มีชื่อเสียง คือกำรทำน้ำตำลสด กำรทำข้ำว
หมกไก่ และกำรทำโรตีมะตะบะ เป็นต้น

51

พื้นที่ในชุมชนบ้ำนตลำดแขก จังหวัดนครศรีธรรมรำช
เลือกสถำนที่สำคัญ ดังน้ี วัดมเหยงคณ์ คริสตจักรเบธเลเฮ็ม ศำลหลักเมือง
มสั ยิดท่ำชำ้ ง เปน็ ต้น

5) ร่วมจัดหรือปรับปรุงระบบบริหำรงำนพัฒนำให้มี
ประสิทธิภำพ และประสิทธิผล คณะผู้วิจัยในพ้ืนท่ีร่วมสนับสนุน โดยกำรลง
พ้ืนที่กับเยำวชน สนับสนุน และร่วมแก้ปัญหำระหว่ำงกำรทำสื่อสร้ำงสรรค์
สันติสุข จัดหำผู้เชี่ยวชำญด้ำนกำรคลิปวิดีโอมำอบรมให้เยำวชนได้เรียนรู้
พัฒนำทักษะ มีมุมมองในกำรถ่ำยทำ กำรทำเพลงประกอบ กำรตัดต่อ กำร
แทรกตัวหนงั สอื

6) ร่วมกำรลงทุนในกิจกรรมโครงกำรของชุมชนตำมขีด
ควำมสำมำรถของตนเองและของหน่วยงำน คณะผู้วิจัย จัดหำงบประมำณ
เพ่ือสนับสนุนและให้กำลังใจเยำวชน ด้วยกำรมอบเสื้อยืด ทีมหมู่บ้ำนสันติ
สุข เพ่อื แสดงเอกลักษณ์ และกำรเป็นทีมเดยี วกัน

7) ร่วมปฏิบัติตำม โครงกำร และกิจกรรมให้บรรลุตำม
เป้ำหมำยทวี่ ำงไว้ คณะผวู้ จิ ัยเข้ำร่วมตดั สินผู้ชนะเลิศ โดยรับฟังกำรนำเสนอ
จำกเยำวชน

8) ร่วมควบคุม ติดตำม ประเมินผล และร่วมบำรุงรักษำ
โครงกำรและกิจกรรมท่ีได้ทำไว้ มีกำรประเมินผล โดยคณะผู้วิจัยได้
ประยุกตใ์ ชห้ ลกั ธรรมสังคหวตั ถุ 4 เปน็ ตัววัดกำรรับรู้ชุมชนสันติสขุ

52

3. ปัจจัยบริบท ประกอบด้วย 1) ควำมร่วมมือของหน่วยงำน
รำชกำร เช่น วัฒนธรรมจังหวัด องค์กำรบริหำรส่วนตำบล โรงเรียน 2) คน
ในพ้นื ท่ี 3) เยำวชนในพ้นื ท่ี

4. ปัจจัยผลลัพธ์ ประกอบด้วย ควำมร่วมมือกันในกำรแสดง
ควำมคิดเห็น และเยำวชนให้ควำมสำคัญและสนใจในกำรทำคลิปสื่อ
สร้ำงสรรคส์ ันติสขุ สะท้อนมรดกทำงวัฒนธรรม เยำวชนเกดิ กำรตระหนักถึง
กำรอนุรักษ์มรดกทำงวัฒนธรรม และท่ีสำคัญ เกิดควำมร่วมมือกันของกลุ่ม
งำนที่แม้จะต่ำงศำสนำ หรือลงพื้นที่ในศำสนำอ่ืน ทำให้เกิดกำรเรียนรู้ใน
วธิ ีกำรปฏบิ ตั ติ นในศำสนสถำนน้ันๆ

ผลสรปุ การวจิ ัยเชิงปริมาณพบว่า

1. ผลวเิ คราะห์แบบสารวจการรบั รู้ชุมชนสนั ตสิ ุขเยาวชน

1.1 ผลวิเครำะห์แบบสำรวจกำรรับรู้ชุมชนสันติสุขเยำวชนใน
พ้ืนที่ชมุ ชนบำ้ นตลำดแขก จังหวัดนครศรีธรรมรำช

ผลกำรวิเครำะห์ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่ำงชุมชนบ้ำนตลำด
แขก พบว่ำ กลุ่มตัวอย่ำงส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ
68.00 กลุ่มตัวอย่ำงส่วนใหญ่อยู่ระหว่ำงอำยุ 18 - 21 ปี มีจำนวน 20 คน คิด
เป็นร้อยละ 80.00 และกลุ่มตัวอย่ำงส่วนใหญ่อยู่ในระดับกำรศึกมัธยมศึกษำ
ตอนปลำย มีจำนวน 22 คน คิดเปน็ ร้อยละ 88.00 ตำมลำดับ

ผลวิเครำะห์แบบสำรวจกำรรับรู้ชุมชนสันติสุขเยำวชน พบว่ำ
กำรรับรู้ชุมชนสันติสุข โดยรวมและรำยดำ้ นของกลุ่มตวั อยำ่ งอยู่ระดับสูง โดย

53

มีคะแนนเฉล่ีย 4.60 ส่วนเบ่ียงเบนมำตรฐำน 0.34 (x = 4.60, SD= 0.34)
สำหรับด้ำนท่ีมีค่ำเฉล่ียมำกที่สุดคือด้ำนอัตถจริยำ (x = 4.57, SD = 0.33)
รองลงมำคอื ดำ้ นอัตถจริยำ (x = 4.57, SD = 0.33)

1.2 ผลวิเครำะห์แบบสำรวจกำรรับรู้ชุมชนสันติสุขเยำวชนใน
พนื้ ทีช่ ุมชนสำเภำลม่ จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยำ

ผลกำรวิเครำะห์ข้อมูลท่ัวไปของกลุ่มตัวอย่ำงจำกเยำวชน
ตำบลสำเภำล่ม จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ ผู้ตอบแบบสอบถำม จำนวน 30
คน จำแนกตำม เพศ อำยุ และระดับกำรศึกษำ พบว่ำ กลุ่มตัวอย่ำงส่วนใหญ่
เป็นเพศหญิง จำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 53.33 กลุ่มตัวอย่ำงส่วนใหญ่อยู่
ระหวำ่ งอำยุ 12 - 14 ปี มจี ำนวน 23 คน คดิ เป็นร้อยละ 76.67 มีระดบั กำรศกึ ษำ
ท้ังหมด 3 ระดับ คือมัธยมศึกษำปีท่ี 1 มัธยมศึกษำปีที่ 2 และมัธยมศึกษำปีที่ 3
มกี ลุ่มตวั อย่ำงจำนวนเทำ่ กนั มีจำนวน 10 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 33.33 ตำมลำดับ

2. ผลวิเคราะหส์ ารวจการรับรชู้ ุมชนสันตสิ ุขเยาวชน

พบว่ำ กำรรับรู้ชุมชนสันติสุข โดยรวมและรำยด้ำนของกลุ่ม
ตัวอย่ำงอยู่ในระดบั สูง โดย คะแนนเฉลี่ย 4.19 สว่ นเบ่ียงเบนมำตรฐำน 0.57
(x = 4.19, SD= 0.57) สำหรับด้ำนที่มีค่ำเฉลี่ยมำกท่ีสุดคือด้ำนทำน (x =
4.33, SD = 0.42) รองลงมำคือดำ้ นอัตถจรยิ ำ (x = 4.23, SD = 0.57)

3. ผลวิเคราะห์ผลประเมินความพึงพอใจของการเข้าร่วม
สัมมนา

ขอ้ มลู ท่ัวไปของกลุม่ ตวั อยำ่ ง

54

ผู้เข้ำร่วมสัมมนำประกอบด้วย กลุ่มผู้นำชุมชน 3 ศำสนำ ตัวแทน
สถำบันกำรศึกษำในพ้ืนท่ี วัฒนธรรมจังหวัด ตัวแทนประชำชน เยำวชนใน
พ้ืนที่ นิสิต นักศึกษำ ร่วมเสวนำในพ้ืนที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ จำนวน
50 คน มผี ลดังนี้

ความคิดเห็นต่อการเข้าร่วมสัมมนา พบว่ำ กลุ่มตัวอย่ำงส่วนใหญ่
เป็นเพศชำย จำนวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 62.00 กลุ่มตัวอย่ำงส่วนใหญ่อยู่
ระหว่ำงอำยุ 36-45 ปี มีจำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 34.00 กลุ่มตัวอย่ำงสว่ น
ใหญ่มีระดับกำรศึกษำ ระดับปริญญำตรี จำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 32.00
กล่มุ ตัวอยำ่ งสว่ นใหญป่ ระกอบอำชพี ครู/อำจำรย์ จำนวน 13 คน คดิ เปน็ ร้อยละ
26.00 และกลุ่มตัวอย่ำงส่วนใหญน่ ับถือศำสนำพุทธ จำนวน 29 คน คิดเป็นร้อย
ละ 58.00

สรปุ ผลกำรวเิ ครำะหค์ วำมคดิ เห็นในกำรเข้ำรว่ มเสวนำกลมุ่ ย่อย “แนว
ทำงกำรส่งเสริมกิจกรรมชุมชนพหุวฒั นธรรมเพื่อพัฒนำหมู่บ้ำนต้นแบบสันติสขุ
ตำมหลักคำสอนศำสนำ” จำนวน 50 คน พบผลวิเครำะห์ดังต่อไปน้ีพบว่ำ
คะแนนเฉล่ียโดยรวมมีค่ำเท่ำกับ 4.66 มีระดับควำมคิดเห็นอยู่ในระดับมำก
ท่ีสุด เม่ือพิจำรณำรำยข้อพบว่ำ ควำมชัดเจนในกำรตอบคำถำมของ
คณะผู้วิจัยมีคะแนนเฉลี่ยสูงท่ีสุดเท่ำกับ 4.80 ส่วนเบ่ียงเบนมำตรฐำน
เท่ำกับ .404 รองลงมำ ประเด็นหัวข้อในกำรเสวนำ ระยะเวลำในกำรเสวนำ
ฯ และอำหำรและเคร่ืองดื่มมีคะแนนเฉลี่ยเท่ำกับ 4.78 ส่วนเบี่ยงเบน
มำตรฐำนเท่ำกับ .418 และ สำมำรถนำไปประยุกต์ใช้กับชุมชนหรือ
สถำนศึกษำของท่ำน และสถำนท่ีในกำรจัดเสวนำ มีคะแนนเฉลี่ยเท่ำกับ

55

4.42 (ส่วนเบ่ียงเบนมำตรฐำนเท่ำกับ .499 และ .609 ตำมลำดับ ซ่งึ ทกุ ข้อมี
ระดับควำมคิดเห็นในระดับมำกท่สี ดุ เป็นตน้

จำกผลวิเครำะห์เชิงปริมำณ หลังกำรเข้ำร่วมกิจกรรมของ
เยำวชน พบว่ำเยำวชนมีกำรรับรู้กำรอยู่ร่วมกันในระดับมำก ถึงมำกท่ีสุด
โดยเยำวชนบ้ำนตลำดบ้ำนแขก จังหวัดนครศรีธรรมรำช มีกำรรับรู้ชุมชน
สนั ตสิ ขุ ในภำพรวมมีระดับมำกทส่ี ุด โดยพบว่ำ 1) ด้ำนทำน พบวำ่ มคี ำ่ เฉลี่ย
อยู่ในระดับมำกท่ีสุด คือ พ่ึงพำช่วยเหลือกัน ไม่แบ่งแยกศำสนำ 2) ด้ำนปิย
วำจำ พบวำ่ ค่ำเฉลยี่ อยูใ่ นระดบั มำกท่ีสุด คอื กำรแสดงออกทำงคำพดู แสดง
ถึงควำมรักควำมสำมัคคีในชุมชน และ พูดคุย สนทนำกับผู้คนท่ีพบเจอด้วย
คำพูดสุภำพย้ิมแย้ม จริงใจต่อกัน 3) ด้ำนอัตถจริยำ พบว่ำ ค่ำเฉล่ียอยู่ใน
ระดบั มำกทสี่ ดุ คือ ทำกิจกรรมบำเพญ็ ประโยชนใ์ นชุมชน ไมแ่ บง่ แยกศำสนำ
และตระหนักควำมรับผิดชอบต่อครอบครัวและชุมชนตำมหลักคำสอนทำง
ศำสนำ 4) ด้ำนสมำนัตตตำ พบว่ำมีคำ่ เฉลีย่ อยู่ในระดับมำกท่ีสดุ คือ กำรเขำ้
ร่วมกิจกรรมอนุรักษ์ วัฒนธรรม ประเพณีของชุมชนสม่ำเสมอ พบว่ำมี
ค่ำเฉลี่ยอยู่ในระดับมำกที่สุด และ ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ร่วมแก้ไข ปัญหำควำม
ขัดแยง้ ในชมุ ชนสมำ่ เสมอ

ส่วนพ้ืนที่จังหวัดอยุธยำ ชุมชนสำเภำล่ม พบว่ำ กำรรับรู้ชุมชน
สนั ตสิ ขุ โดยภำพรวมอยใู่ นระดับมำก โดยพบวำ่ 1) ดำ้ นทำน มคี ่ำเฉล่ยี อยใู่ น
ระดับมำกที่สุด คือ พ่ึงพำช่วยเหลือกัน ไม่แบ่งแยกศำสนำ และ กำรให้คำ
ชี้แนะ ให้ควำมรู้ และส่ังสอนคนในชุมชน 2) ด้ำนปิยวำจำ พบว่ำมีค่ำเฉลี่ย
อยู่ในระดับมำก 3) สำหรับด้ำนปิยวำจำข้อคำถำมท่ีมีค่ำเฉล่ียสูงท่ีสุดคือ

56

กำรแสดงออกทำงคำพูดแสดงถึงควำมรักควำมสำมัคคีในชุมชน และ
รองลงมำคือ กำร ใช้คำพูดสุภำพ อ่อนโยน ทำให้เกิดควำมรักใคร่นับถือกัน
ในชุมชน ด้ำนอัตถจริยำ พบว่ำมีค่ำเฉล่ียอยู่ในระดับมำกที่สุด ทำกิจกรรม
บำเพญ็ ประโยชน์ในชุมชน ไม่แบง่ แยกศำสนำ รองลงมำคือข้อคำถำม มสี ว่ น
ร่วมในกำรคิด แก้ปญั หำพฒั นำชมุ ชนร่วมกนั และ 4) ด้ำนสมำนตั ตตำ พบวำ่
มีค่ำเฉล่ียอยู่ในระดับมำก ได้แก่ กำรร่วมทุกข์ ร่วมสุข ร่วมแก้ไข ปัญหำ
ควำมขัดแย้งในชุมชนสม่ำเสมอ รองลงมำคือ กำรร่วมกันปลูกฝังจริยธรรม
เยำวชนตำมหลกั คำสอนของศำสนำสมำ่ เสมอ

สะทอ้ นใหเ้ ห็นว่ำกำรเปิดโอกำสให้เยำวชนได้รว่ มทำกจิ กรรมกับ
ชุมชน ทำให้เรียนรู้วิถีชีวิต วิถีวัฒนธรรม ได้รับกำรบอกเล่ำประสบกำรณ์
จำกผู้ใหญ่ โดยได้รับกำรเกื้อกูล โดยมิได้มีกำรแบ่งแยกกันทำงศำสนำ ทำให้
เยำวชนเกิดกำรรับรพู้ ึ่งพำช่วยเหลอื กัน ไม่แบง่ แยกศำสนำ มกี จิ กรรมปฏิบัติ
ดีต่อกันอย่ำงสม่ำเสมอตนเสมอปลำย บนพ้ืนฐำนหลักคำสอนของศำสนำ
ฉะน้ันกำรส่งเสริมให้คนพ้ืนที่เห็นควำมสำคัญของกำรอยู่ร่วมกันอย่ำงสันติ
สุขต้องส่งกระบวนกำรคิด กำรปลูกฝังค่ำนิยมอันดีงำม มรดกทำงวัฒนธรรม
กำรอยู่ร่วมกัน ส่งผ่ำนต่อสู่เยำวชนรุ่นหลัง เพ่ือส่งเสริม สืบสำน วัฒนธรรม
อันดงี ำมของกำรอยู่อยำ่ งสันตสิ ุขแบบย่ังยืน

ประเมินผลควำมพึงพอในจำกเข้ำร่วมกำรเสวนำแนวทำงกำร
ส่งเสริมกิจกรรมพหุวัฒนธรรม เพ่ือพัฒนำหมู่บ้ำนสันติสุขตำมหลักคำสอน
ศำสนำ มีระดับควำมพึงพอใจมำกถึงมำกท่ีสุด พบว่ำ ผู้นำชุมชน 3 ศำสนำ
รวมถึงผู้เกี่ยวข้องในพ้ืนที่ มีกำรรับรู้ และกำรถ่ำยทอด กำรับรู้ เห็นด้วยกับ

57

กิจกรรมที่คณะผู้วิจัยจะลงพ้ืนที่ เห็นด้วยและสนับสนุนกำรทำกิจกรรม
รว่ มกัน

ผลสรุปองค์ประกอบการพัฒนาหมู่บ้านต้นแบบตามหลักคาสอน
ทางศาสนาในพน้ื ท่ีภาคกลางและภาคใต้

องค์ประกอบกำรพัฒนำหมู่บ้ำนต้นแบบตำมหลักคำสอนทำง
ศำสนำ ดังน้ี

1. ปัจจัยนาเข้า ได้แก่ คุณลักษณะหมู่บ้ำนต้นแบบสันติสุข ตำม
หลักภำวนำ 4 ประกอบด้วย 1) ควำมสัมพันธ์ของคนในชุมชน 2) กำรยึด
หลักคำสอนทำงศำสนำ 3) แนวทำงกำรอยู่ร่วมกันอย่ำงงสันติสุข และ 4)
กำรรักษำวถิ ชี มุ ชน

1) ด้านกาย - ความสัมพันธ์ของคนในชุมชน แม้ทั้ง 2 พื้นที่
จะเปน็ ชมุ ชนทมี่ ีควำมแตกตำ่ งกันในกำรนับถือศำสนำ แต่สำมำรถอยูร่ ่วมกัน
อย่ำงสันติสุข บนพ้ืนฐำนกำรดำเนินชีวิตแบบพหุวัฒนธรรม หมำยถึง กำรท่ี
มนุษย์มำอยู่ร่วมกันเป็นสังคมสำมำรถปฏิบัติตำมกฎเกณฑ์กำรอยู่ร่วมกันใน
รูปของกฎระเบียบหรือกฎหมำยและมีคุณธรรมจริยธรรมในกำรช่วยเหลือ
เก้ือกูลกัน ส่วนร่วมในกิจกรรมต่ำง ๆ ของสังคม เช่น กำรมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมกำรเมืองกำรปกครองของรัฐซึง่ กนั และกนั ไมแ่ สดงกิริยำและวำจำดู
หม่ินผู้อ่ืน และกำรปฏิบัติตำมคุณธรรมของกำรอยู่ร่วมกันตำมหลักศำสนำที่
ตนเองนบั ถือประชำชนสำมำรถอยูร่ ่วมกันอย่ำงสันติสขุ

58

โดยกำรประยุกต์หลักธรรมสังคหวัตถุ 4 ธรรมท่ีเครื่องยึด
เหน่ียวใจบุคคล และประสำนมวลชนไว้ในสำมัคคี ได้แก่ 1) กำรให้ เกื้อกูล
เผ่ือแผ่เสียสละแบ่งปันช่วยเหลือกันด้วยส่ิงของตลอดถึงให้ควำมรู้และ
แนะนำสั่งสอน เช่น กำรช่วยงำนแต่งงำน กำรทำบุญงำนศพ สำมำรถทำได้
โดยไม่ขัดแย้งหลักศำสนำของตน 2) กำรพูดจำดีต่อกัน ไม่ด่ำทอ ไม่พูดจำดู
ถูกศำสนำอื่น 3) กำรประพฤติตนเป็นประโยชน์ต่อชุมชน ช่วยเหลือบำเพ็ญ
สำธำรณประโยชน์แก้ไขปรับปรุงส่งเสริมในทำงจริยธรรม และ 4) ทำตน
เสมอต้นเสมอปลำย ปฏิบตั สิ ม่ำเสมอกนั ในทุกคนในทุกศำสนำ

2) ดา้ นจิต - การยดึ หลกั คาสอนทางศาสนา ศำสนำ หมำยถึง
ควำมเชื่อ หลักกำรปฏิบัติและพิธีกรรม โดยมีจุดประสงค์ท่ีจะช่วยให้มนุษย์
ดำเนินชีวิตอย่ำงมีควำมสุขและมีควำมเข้มแข็งในกำรขจัดอุปสรรคต่ำง ๆ
เช่น ควำมกลัว ควำมทุกข์ ฯลฯ ทำหน้ำที่ในด้ำนกำรควบคุมสภำพจิตใจ
มนุษย์ให้อยู่บรรทัดฐำนและสำนึกร่วมของสังคมกำรอยู่ร่วมกันเป็นสังคม
ปฏบิ ตั ติ ำมกฎเกณฑ์กำรอยู่รว่ มกันในรูปของกฎระเบยี บหรือกฎหมำย และมี
คุณธรรม กำรปฏิบัติตำมคุณธรรมของกำรอยู่ร่วมกันตำมหลักศำสนำที่
ตนเองนับถือ ทำให้ประชำชนอยู่ร่วมกันอย่ำงสันติสุข คุณธรรมของกำรอยู่
ร่วมกันตำมหลักศำสนำท่ีบุคคลนับถือ หลักธรรมที่เน้นกำรอยู่ร่วมกันอย่ำง
สันติของศำสนำตำ่ ง ๆ ประกอบไปด้วย

(1) หลกั คำสอนของศำสนำพุทธ มหี ลกั ธรรมทีส่ ำคัญที่หล่อ
หลอมให้เป็นคนรักสันติ รักอิสระเสรี มีนิสัยโอบอ้อมอำรี มีเมตตำกรุณำต่อ
กัน ได้แก่ 1) หลักสังคหวัตถุ 4 คือ หลักธรรมสำหรับสงเครำะห์หรือเป็น

59

เครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจของคนในสังคมให้อยู่ร่วมกัน ประกอบด้วย (1) ทำน
คือ กำรให้ แบ่งปัน เสียสละ เผื่อแผ่ (2) ปิยวำจำ คือ กำรกล่ำววำจำสุภำพ
อ่อนหวำน (3) อัตถจริยำ คือ กำรกระทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและ
ผู้อ่ืน ขวนขวำยช่วยเหลือกิจกำร บำเพ็ญสำธำรณประโยชน์แก้ไขปรับปรุง
ส่งเสริมในทำงจริยธรรม และ (4) สมำนัตตตำ คือ กำรวำงตัวเหมำะสม
เสมอต้น เสมอปลำย 2) หลักสำรำณียธรรม 6 คือหลักธรรมแห่งควำม
สำมัคคี ประกอบด้วย (1) เมตตำกำยกรรม (2) เมตตำวจีกรรม (3) เมตตำ
มโนธรรม (4) แบ่งปันผลประโยชน์ที่ได้มำด้วยควำมชอบธรรม (5) รักษำ
ควำมประพฤติ (ศีล) เสมอกัน และ (6) มีควำมเห็นร่วมกัน 3) หลักพรหม
วิหำร 4 หมำยถึง ธรรมประจำใจท่ีทำให้เป็นพรหม หรือให้เสมอด้วยพรหม
ในทำงปฏิบัติ หมำยถึงคุณธรรมของผู้ใหญ่ ซึ่งต้องมีประจำในอยู่ตลอดเวลำ
เป็นหลักของกำรอยู่ร่วมกัน ท้งั ในครอบครัว ชุมชน และสงั คม ประกอบด้วย
4 ประกำร ได้แก่ (1) เมตตำ คือ ควำมปรำรถนำดีต่อผู้อ่ืน ปรำรถนำให้ผู้อ่ืน
มีควำมสุข (2) กรุณำ คือ ควำมสงสำร มีควำมปรำรถนำช่วยผูอ้ ื่นหรือสัตว์ที่
ประสบควำมทุกข์ ให้พ้นทุกข์ (3) มทุ ิตำ คอื ควำมยินดเี มื่อผ้อู ืน่ ไดด้ ี และ (4)
อุเบกขำ คือ ควำมวำงเฉย หรือควำมรู้สึกเป็นกลำง ๆ ไม่ดีใจ ไม่เสียใจเม่ือ
เห็นผู้อน่ื ประสบควำมสุข

(2) หลักคำสอนของศำสนำคริสต์ ที่หล่อหลอมให้
คริสต์ศำสนิกชนมีจิตเมตตำ มีควำมรักเพ่ือนมนุษย์เหมือนรักตัวเอง
ประกอบด้วย 1) หลักบัญญัติ 10 ประกำร ได้แก่ (1) อย่ำมีพระเจ้ำอื่น
นอกจำกเรำ (2) อย่ำทำรูปเคำรพสำหรับตนหรือกรำบไว้รูปเหล่ำนั้น (3)

60

อย่ำเอ่ยพระนำมของพระเจ้ำโดยไม่สมเหตุ (4) จงถือวันอำทิตย์เป็นวัน
ศักดิ์สิทธ์ิ( 5) จงนับถือบิดำมำรดำ (6) อย่ำฆ่ำคน (7) อย่ำผิดประเวณี (8)
อย่ำลักทรัพย์ (9) อย่ำคิดมิชอบ (10) อย่ำโลภสิ่งใดของผู้อ่ืน 2) หลัก
อำณำจักรพระเจ้ำ เป็นหลักคำสอนท่ีเน้นให้มนุษย์สร้ำงศรัทธำให้เกิดข้ึนใน
จิตใจ รู้จักกำรเตรียมตัวรับฟังคำสั่งสอน เพ่ือจะได้นำไปปฏิบัติได้ถูกต้อง 3)
หลักคำสอนที่สำคัญอื่น ๆ ได้แก่ หลักตรีเอกำนุภำพ และหลักควำมรัก
ศำสนำคริสต์ได้ช่ือว่ำเป็นศำสนำแห่งควำมรัก พระเยซูคริสต์ทรงสอนให้รัก
เพอ่ื น มนุษยเ์ หมอื นรกั ตัวเอง ใหร้ กั แม้กระท่ังศตั รู

(3) หลักคำสอนของศำสนำอิสลำม เป็นศำสนำแห่ง
ธรรมชำติ กล่ำวคือ ศำสนำที่ไม่ฝืนต่อสภำพควำมเป็นจรงิ ตำมธรรมชำติของ
มนุษย์ พระผู้เป็นเจ้ำได้ทรงประทำนให้มนุษยชำติโดยผ่ำนศำสดำตำมยุค
ตำมสมัย ยงั ถอื ว่ำทุก ๆ ประชำชำติน้นั มศี ำสดำผู้เทศนำสงั่ สอน ฉะนน้ั กำรมี
หลักคำสอนว่ำมุสลิมต้องศรัทธำในบรรดำศำสดำท้ังหลำย จึงเป็นหลักท่ี
อิสลำมได้ให้ไว้อย่ำงกว้ำงขวำงที่สุด อิสลำมจึงเป็นศำสนำแห่งสันติภำพและ
ใฝ่หำควำมสงบสุข เพรำะตำมหลักกำรน้ีเท่ำกับสอนให้ดำรงไว้ซึ่งสันติภำพ
กับทุกศำสนำในโลก โดยมีหลักคำสอนสำคัญ 3 หมวด คือ 1) หลักกำร
ศรัทธำ สติปัญญำและสำมัญสำนึก 2) หลักจริยธรรม และ 3) หลักกำร
ปฏิบัติ ในกำรปฏิบัติพิธีกรรมทำงศำสนำของ ศำสนำอิสลำม จะปฏิบัติใน
สถำนท่ีที่เรียกวำ่ “มัสยิด” หรือ “สุเหร่ำ” ชำวมุสลิมจะต้องปฏิบัติศำสนกจิ
ให้พร้อมทง้ั 3 ทำง คอื กำย วำจำ และใจ

61

โดยกำรนำหลักศรัทธำมำประยุกต์ใช้ในชีวิต ควำมศรัทธำ
ในหลักคำสอนของแต่ละศำสนำ ย่อมทำให้มีจิตท่ียึดมั่นในควำมดี ในทำง
พระพุทธศำสนำ ศรัทธำก็มีบทบำทสำคัญเหมือนกันแต่ถือว่ำศรัทธำต้องมี
ปัญญำคอยกำกับอยู่เสมอ ศรัทธำในทำงพระพุทธศำสนำมีเครื่องวัด คือ
ตัดสินว่ำถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง อยู่ท่ีกำรกระทำ ส่วนหลักศรัทธำที่เป็นหลัก
พื้นฐำนของอิสลำมอำจกล่ำวได้ว่ำเป็นหัวใจที่จะนำไปสู่เป้ำหมำยสูงสุด คือ
พระอัลเลำะห์ เพรำะถ้ำขำดศรัทธำแล้ว กำรปฏิบัติไม่เป็นไปตำมแนวทำง
ของพระอัลเลำะห์ เปรียบเหมอื นเรือที่ขำดหำงเสือ มีแต่จะถกู กระแสน้ำ พดั
พำเปะปะไร้ทิศทำง และหลักศรัทธำของศำสนำคริสต์ คือ ศำสนิกชนต้องมี
ควำมศรัทธำในพระเยซูสูงสุดในชีวิต และจงรักเพื่อนบ้ำน เพ่ือนมนุษย์
เหมือนรักตัวเอง โดยมีหลักธรรมคำสอน ได้แก่ หลักบัญญัติ 10 ประกำร
หลักตรีเอกำนุภำพ และหลักควำมรัก คำสอนเร่ืองควำมรักในศำสนำคริสต์
คือ กำรปรำรถนำให้ผู้อื่นมีควำมสุข มีควำมเมตตำกรุณำ ให้อภัยซึ่งกันและ
กนั และยนิ ดีเมอื่ เห็นผู้อนื่ ไดด้ ี

3) ด้านสังคม - แนวทางการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
เนื่องจำกชุมชนทั้ง 2 แห่งน้ีประกอบด้วยประชำชนที่นับถือศำสนำต่ำงกัน 3
กลุ่ม คือ ศำสนำพุทธ ศำสนำคริสต์ และศำสนำอิสลำม แม้จะมีควำม
แตกต่ำงกันทำงศำสนำและวัฒนธรรม แตก่ ็อยู่ในพนื้ ฐำนทม่ี ีกำรปฏบิ ตั ิที่ดีต่อ
กัน ได้แก่ 1) กำรให้ควำมรัก และควำมผูกพันที่มีต่อกัน 2) กำรเคำรพให้
เกยี รติซง่ึ กันและกนั 3) กำรใหค้ วำมเมตตำ ชว่ ยเหลอื เกื้อกูลกนั 4) กำรสรำ้ ง
ควำมสำมคั คี เอือ้ เฟ้ือเผือ่ แผ่ช่วยเหลือกัน และมีกำรทำกจิ กรรมร่วมกนั

62

สำมำรถประยุกต์ใช้หลักธรรมพรหมวิหำร 4 เพ่ือให้เกิดแนว
ทำงกำรอยู่ร่วมกันอย่ำงสันติสุข ท้ังในครอบครัว ชุมชน และสังคม
ประกอบด้วย 4 ประกำร ไดแ้ ก่ 1) เมตตำ คอื ควำมรกั ใคร่ ปรำรถนำดีอย่ำง
ให้เพื่อนมนุษยม์ ีควำมสุข 2) กรุณำ คอื ควำมสงสำร คิดชว่ ยใหพ้ น้ ทุกข์ ใฝ่ใจ
ในอันท่ีจะปลดเปลื้องบำบัดควำมทุกข์ยำกเดือดร้อนของเพื่อนมนุษย์และ
สรรพสัตว์ทั้งหลำย 3) มุทิตำ คือ ควำมยินดี ในเม่ือผู้อ่ืนอยู่ดีมีสุข มีจิตใจ
ผ่องใสบันเทิง ประกอบด้วยอำกำรแช่มช่ืนเบิกบำนอยู่เสมอ ต่อมนุษย์และ
สตั วท์ ้งั หลำยผดู้ ำรงอยู่ปกติสุข 4) อุเบกขำ คอื ควำมวำงใจเป็นกลำง มีจติ ใจ
เทย่ี งตรง ไมเ่ อนเอียง ไม่เกิดอคติตอ่ เพ่ือนมนุษยแ์ ละสตั ว์ทง้ั หลำย รวมถงึ สำ
รำณียธรรม 6 หลักธรรมแห่งควำมสำมัคคี เป็นที่ตั้งแห่งควำมให้ระลึกถึง มี
ควำมปรำรถนำดีต่อกัน เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ประกอบด้วย 1) กำรอยู่ด้วยกัน
ด้วยกำรกระทำดีต่อกัน ไม่เบียดเบียนทำร้ำยกัน เพื่อควำมผำสุกของมวล
มนุษย์ เป็นต้น 2) ใช้หลักกำรเจรจำให้เข้ำใจกัน ไม่กล่ำวร้ำยเสียดสีกัน 3)
กำรไม่คิดทำร้ำยซึ่งกันและกัน มีควำมซื่อสัตย์เคำรพในควำมคิดเห็นซ่ึงกัน
และกัน มีจิตเมตตำต่อกัน 4) กำรแบ่งปันช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน ท้ังในด้ำน
อำหำร เคร่ืองอุปโภคบริโภคเครื่องมือกำรเกษตร ตลอดจนวิทยำกำรควำมรู้
ต่ำง ๆ ให้แก่เพื่อนมนุษย์รวมตลอดถึงกำรรจู้ ักใช้ทรพั ยำกรธรรมชำติรว่ มกนั
เป็นต้น 5) กำรดำเนินนโยบำยต่ำง ๆ ต้องเป็นไปในทิศทำงเดียวกันกับมติ
ของชุมชน และ 6) มีควำมเห็นร่วมกัน ไม่วิวำทเพรำะมีควำมเห็นผิดกัน ไม่
เอำรัดเอำเปรียบกันหรือขม่ เหงกีดกันผอู้ ืน่ มีแตจ่ ะสร้ำงควำมเดือดร้อนให้แก่
ตนเองและสงั คมท่ตี นอำศัยอยูด่ ้วย

63

4) ด้านปัญญา - การรักษาวิถีชุมชน กำรจัดกิจกรรมท่ีใช้
หลักคำสอนทำงศำสนำมำถ่ำยทอดวิถีกำรปลูกจิตสำนึกในกำรอยู่ร่วมกัน
ผ่ำนกลุ่มเยำวชน ศรัทธำในหลักคำสอนตำมแต่ละศำสนำ เห็นคุณค่ำมรดก
วัฒนธรรมของชุมชน นำไปสู่กำรเสริมสร้ำงปลูกจิตสำนึก มีกำรปรับตัวให้
เข้ำกับกำรเปลี่ยนแปลงโดยยงั คงรักษำวถิ ีชุมชนเดิมไวไ้ ด้ และมีควำมมุ่งหวงั
ท่ีจะส่งต่อถ่ำยทอด และปลูกฝังสู่เยำวชนรุ่นต่อไป เพ่ือสืบสำนรักษำมรดก
ทำงวัฒนธรรม กำรอยู่ร่วมกันอย่ำงสันติสุข และร่วมกันพัฒนำวิถีชุมชน
ต่อไปให้ยัง่ ยืน

กำรใช้ปัญญำในกำรประกอบคุณงำมควำมดี ควำมกตญั ญู กำร
ใหอ้ ภัย กำรให้ทำน กำรช่วยเหลือซึ่งกนั และกันโดยไมม่ กี ำรแบง่ แยก มุมมอง
ควำมแตกต่ำงระหว่ำงศำสนำเชื่อวำ่ ทุกคนเป็นพีน่ ้องกัน เปน็ กำรประยุกต์ให้
เกดิ กำรอยรู่ ่วมกนั อยำ่ งมสี ตเิ พ่อื ควำมสนั ตสิ ุข

64

ภาพที่ 5 แสดงกำรประยุกต์หลักธรรมเพ่ือสรำ้ งคณุ ลักษณะหมู่บ้ำนตน้ แบบ
สันติสุข ตำมหลักภำวนำ 4

2. ปจั จัยกระบวนการ จำกกำรทค่ี ณะผวู้ ิจัยได้ศึกษำพบว่ำ ปัจจัย
กระบวนกำรประกอบไปด้วย ดังน้ี

1) โครงกำรหมู่บ้ำนสันติสุข ในพื้นที่ตำบลสำเภำล่ม จังหวัด
พระนครศรีอยุธยำ พบปัญหำที่ประชำชนในพ้ืนที่ให้ควำมสนใจ และอยำก

65

ให้เกิดกำรส่งเสริม คือ เรื่องของกำรตระหนักถึงควำมสำคัญของบ้ำนเกิด
เช่น เด็กนักเรียนในชุมชนไปศึกษำนอกพ้ืนที่ ทำให้ขำดควำมสัมพันธ์กับ
เพอ่ื นในวัยเดียวกัน สื่อออนไลน์ เกมส์ต่ำง ๆ ทำใหเ้ ด็กไมอ่ อกมำทำกจิ กรรม
ร่วมกัน, พอโตข้ึนก็ออกไปทำงำนตำมโรงงำน หรือ ทำงำนในกรุงเทพฯ จึง
อยำกใหส้ ่งเสริมเร่ืองควำมรัก ควำมผูกพนั ของเยำวชน ปลกู ฝังสำนกึ รักบ้ำน
เกดิ เห็นคุณคำ่ ของมรดกวัฒนธรรม

ส่วนในพ้ืนท่ีในชุมชนบ้ำนตลำดแขก จังหวัดนครศรีธรรมรำช
เนื่องจำกอยู่ในเขตเมือง ควำมสัมพันธ์ของคนในชุมชนเหนียวแน่น กำรอยู่
ร่วมกันในชุมชนมีมิติของควำมเมตตำตอ่ กันค่อนข้ำงชัดเจน สังเกตได้จำกำร
เดินตำม ทำ่ นเจ้ำคณุ พระพิสิฏฐ์วนิ ัยกำร วัดมเหยงคณ์ นครศรีธรรมรำช เดิน
บิณฑบำต ในช่วงเช้ำ พบว่ำ ท่ำนเจ้ำคุณฯ และประชำชนในพื้นท่ี ย้ิมแย้ม
ทักทำย ร่วมทำบุญ แม้แต่ชำวอิสลำม ก็จะวำงอำหำรไว้ให้ท่ำน โดยไม่เป็น
กำรผิดต่อหลักศำสนำ เพรำะทำด้วยควำมเมตตำ ท่ำนเจ้ำคุณฯ ก็เมตตำ
หยิบใส่บำตรด้วยตัวท่ำนเอง ปัญหำที่คนในพ้ืนที่ให้ควำมสนใจก็จะคล้ำย ๆ
กัน คือ เร่อื งกำรตระหนักถึงควำมสำคญั ของมรดกวฒั นธรรม ซง่ึ ก็มกี จิ กรรม
จัดอยู่อย่ำงต่อเน่ืองแต่จะจัดในพื้นที่ท้ังจังหวัด ไม่ได้เฉพำะเจำะจงอยู่ในเขต
ชมุ ชนบ้ำนตลำดแขก ซึ่งกม็ ศี ำสนสถำน ทัง้ 3 ศำสนำ อย่รู ่วมกัน

2) ร่วมคิด สร้ำงรูปแบบ และวิธีกำรพัฒนำ เพื่อแก้ไขและลด
ปัญหำของชุมชนหรือเพ่ือสร้ำงสรรค์สิ่งใหม่ท่ีเป็นประโยชน์ต่อชุมชน หรือ
สนองควำมต้องกำรของชุมชน แนวคิดในกำรสร้ำงรูปแบบเพ่ือสร้ำงสรรคส์ ิ่ง
ใหม่ ๆ ให้เยำวชนเกิดกำรเรียนรู้ ทั้งในส่วนของมุมมองของคุณค่ำของมรดก

66

วัฒนธรรมในพ้ืนท่ี และในเรื่องเรียนรู้กำรทำงำนเป็นทีม กำรประชุมกลุ่ม
กำรยอมรับควำมคิดเห็นของเพ่ือนร่วมทีม กำรแบ่งงำน จัดสรรงำน กำร
เรยี นรสู้ ิ่งใหม่ ๆ รว่ มกนั จงึ ร่วมจดั โครงกำรสือ่ สร้ำงสรรคส์ นั ติสขุ เลำ่ เรอื่ งรำวดำ้ น
พหุวฒั นธรรมของทงั้ 2 พ้ืนที่ เนอื่ งจำกเล็งเห็นว่ำ กำรทำงำนสง่ เสริมกจิ กรรมของ
ชุมชนระหว่ำงต่ำงศำสนำเป็นส่วนหน่ึงท่ีจะช่วยสร้ำงสรรค์ให้ชุมชนอยู่ร่วมกัน
อย่ำงสันติสุขได้ โดยเฉพำะอย่ำงย่ิงกำรพัฒนำชุมชนยั่งยืน ต้องเผยแพร่จุดดีของ
ชุมชน ผ่ำนกลุ่มเยำวชน เป็นกำรถ่ำยทอดจริยธรรมคุณธรรมที่ดีงำมและปลูก
จิตสำนึกในกำรอยู่ร่วมกันเพ่ือสร้ำงสันติสุขอย่ำงยั่งยืนตำมหลักคำสอนของ
ศำสนำสืบตอ่ ให้รุน่ ต่อไปได้

“สำเภำล่มรำลกึ ชมุ ชนพหวุ ัฒนธรรมสันติสขุ ”

“นครบันทึก มรดกวัฒนธรรม ชมุ ชนบำ้ นตลำดแขกสันติสขุ ”

3) ร่วมวำงนโยบำย แผนงำน โครงกำร และกิจกรรม เพ่ือขจัด
ปญั หำและแก้ไขปัญหำและสนองควำมต้องกำรของชมุ ชน

ตัวแทนนักวิจัยในพ้ืนที่ประสำนงำนกับเยำวชนท่ีสนใจส่งคลิป
เข้ำประกวด โดยได้รับควำมร่วมมือจำกหน่วยงำนท่ีเก่ียวข้อง เพ่ือขจัด
ปญั หำและแก้ไขปญั หำในระหวำ่ งกำรทำกจิ กรรม

ในพื้นที่ ตำบลสำเภำล่ม จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ ผู้
ประสำนงำนของคณะผู้วิจัย คือ ผศ.ดร กมลำศ ภูวชนำธิพงศ์ และ นำงสำว
ทพิ ย์ธดิ ำ ณ นคร ประสำนกบั คณะครโู รงเรยี นวัดพุทไธศวรรย์ นำโดยคุณครู
สดุ ำ สขุ จำรสั

67

ในพื้นที่ในชุมชนบ้ำนตลำดแขก จังหวัดนครศรีธรรมรำช
ผดู้ ูแล คอื นำยรงั สรรค์ วฒั นำชยั วณิช และนำยวนั พระ สืบสกุลจินดำ เปน็ ผู้
ประสำนงำน

4) ร่วมตัดสินใจกำรใช้ทรัพยำกรท่ีมีจำกัดให้เป็นประโยชน์ต่อ
ส่วนรวม

ทั้ง 2 พื้นท่ี เลือกสถำนที่ มรดกวัฒนธรรม รำยละเอียดดังนี้
คือ

พื้นที่ตำบลสำเภำล่ม พระนครศรีอยุธยำจังหวัด เลือกสถำนที่
สำคัญ ดังนี้ มะดีนะตุสซอลิฮำติ มัสยิดอิสลำมวัฒนำ มัสยิดอำลียินนูรอยน์
โบสถ์วัดนักบุญยอแซฟ หมู่บ้ำนโปรตุเกส วัดพุทไธศวรรย์ วัดนำงกุย วัดบำง
กะจะ และสินค้ำชุมชนที่มีชื่อเสียง คือกำรทำน้ำตำลสด กำรทำข้ำวหมกไก่
และกำรทำโรตีมะตะบะ เปน็ ตน้

พื้นที่ในชุมชนบ้ำนตลำดแขก จังหวัดนครศรีธรรมรำช เลือก
สถำนท่ีสำคัญ ดังนี้ วัดมเหยงคณ์ คริสตจักรเบธเลเฮ็ม ศำลหลักเมือง มัสยิด
ทำ่ ช้ำง เปน็ ต้น

5) ร่วมจัด หรือปรับปรุงระบบบริหำรงำนพัฒนำให้มี
ประสทิ ธิภำพและประสทิ ธิผล คณะผ้วู จิ ัยในพนื้ ท่รี ่วมสนับสนนุ โดยกำรลงพื้นท่ี
กับเยำวชน สนับสนุน และร่วมแก้ปัญหำระหว่ำงกำรทำสื่อสร้ำงสรรค์สันติสุข
จัดหำผู้เช่ียวชำญด้ำนกำรคลิปวิดีโอมำอบรมให้เยำวชนได้เรียนรู้พัฒนำทักษะ มี
มุมมองในกำรถ่ำยทำ กำรทำเพลงประกอบ กำรตัดต่อ กำรแทรกตัวหนังสอื

68

6) ร่วมกำรลงทนุ ในกจิ กรรมโครงกำรของชมุ ชนตำมขีดควำมสำมำรถ
ของตนเองและของหน่วยงำน จัดหำงบประมำณเพื่อสนับสนุนและให้กำลังใจ
เยำวชน ด้วยกำรมอบเส้ือยืด ทีมหมู่บ้ำนสัติสุข เพ่ือแสดงเอกลักษณ์ และ
กำรเปน็ ทมี เดยี วกัน

7) ร่วมปฏิบัติตำม โครงกำร และกิจกรรมให้บรรลุตำม
เปำ้ หมำยท่ีวำงไว้ คณะผ้วู ิจยั เข้ำรว่ มตดั สนิ ผชู้ นะเลิศ โดยรับฟังกำรนำเสนอ
จำกเยำวชน

8) ร่วมควบคุม ติดตำม ประเมินผล และร่วมบำรุงรักษำ
โครงกำรและกิจกรรมท่ีได้ทำไว้ มีกำรประเมินผล โดยประยุกต์ใช้หลักธรรม
สงั คหวัตถุ 4 เป็นตัววดั กำรรบั รูช้ มุ ชนสันติสขุ

จำกข้ันตอนกระบวนกำร สำมำรถสรุปเป็นแผนกำรควบคุมและ
พัฒนำกระบวนกำรอย่ำงต่อเนื่อง โดยใช้หลักกำร PDCA (Plan Do Check Act
Loop) เร่ิมจำกขั้นตอนกำรวำงแผน ขั้นตอนกำรดำเนินกำรหรือนำแผนไปปฏิบัติ
ข้ันตอนกำรตรวจสอบประเมินผลกำรปฏิบัติที่เกิดข้ึนจริง และจบลงด้วยขั้นตอน
กำรนำผลกำรประเมินและ บทเรียนที่ได้รับจำกกำรปฏิบัติมำทบทวนแก้ไข
ปรับปรุงกระบวนกำรหรือผลผลิตท่ียังมีข้อบกพร่องไม่สมบูรณ์ หรือยังไม่มี
ประสิทธิภำพเท่ำทีค่ วร เมอ่ื ไดท้ บทวนแก้ไขปรบั ปรงุ แลว้ จงึ เรมิ่ เข้ำสู่วงรอบ PDCA
ใหม่อกี ครงั้ หนง่ึ กำรดำเนินกำรตำมวงรอบ PDCA อยำ่ งตอ่ เนื่องเปรยี บเสมือนกำร
นำวงรอบ PDCA หลำยวงมำเรียงตอ่ กนั จนกว่ำจะบรรลุเปำ้ หมำยหรือแก้ปัญหำได้
สำเร็จ

69

ภาพท่ี 6 แผนกำรควบคุมและพัฒนำกระบวนกำรอยำ่ งตอ่ เนื่อง PDCA
จำกภำพแผนกำรควบคุมและพัฒนำกระบวนกำรแบบมีส่วนร่วมอย่ำง

ต่อเนื่อง PDCA แสดงให้เห็นกระบวนกำรเร่ิมต้นด้วยกำรวำงแผนลงพื้นท่ีเพื่อถอด
บทเรียนชุมชน สำรวจควำมคิดเห็นร่วมคิด ด้วยกำรกำรสัมภำษณ์เชิงลึก กำรจัด
สัมมนำกล่มุ ย่อย และกำรกำรเสวนำ โดยพบวำ่ เสยี งสะท้อนสว่ นใหญต่ รงกนั ว่ำ ทั้ง
2 ชุมชนอยู่ร่วมกันอย่ำงสันติสุข แต่สิ่งท่ีกังวลใจคือ เรื่องกำรส่งผ่ำนกำรอยู่
รว่ มกันแบบพหวุ ฒั นธรรม และมรดกวัฒนธรรมสเู่ ยำวชนรนุ่ ใหม่อย่ำงไร จึงมีสร้ำง
รูปแบบ และวิธีกำรพัฒนำกำรจัดกิจกรรมสื่อสร้ำงสรรค์ให้กับเยำวชน โดยได้รับ

70

ควำมร่วมมือจำกเครือข่ำยภำยในและภำยนอกชุมชน มีกำรตรวจสอบโดยกำรใช้
แบบสอบถำมสำรวจกำรรับรู้ สำรวจควำมคิดเห็น สัมภำษณ์เยำวชนถึงควำมรู้สึก
ในกำรเข้ำรว่ มกิจกรรมสอ่ื สรำ้ งสรรค์ผลท่ไี ดร้ บั จำกกจิ กรรมสอื่ สร้ำงสรรคส์ นั ติ คือ
เยำวชนเริ่มเหน็ ควำมสำคัญของกำรอย่รู ว่ มกนั ของชุมชน เข้ำใจวถิ กี ำรดำเนินชีวิต
แบบพหุวัฒนธรรมท่ีต่ำงศำสนำแต่ไม่แตกแยก ศรัทธำในคำสอนตำมหลักศำสนำ
จำกกำรเข้ำสัมผัสและร่วมกิจกรรมทำงศำสนำ ท้ังที่ วัด โบสถ์ และมัสยิด เข้ำใจ
ควำมสำคัญเห็นคุณค่ำของมรดกวัฒนธรรม และต้ังใจรักษำมรดกวัฒนธรรมและ
สังคมชุมชน 3 ศำสนำต่อไปอย่ำงยั่งยืน ทำให้เห็นว่ำจำกกำรถอดบทเรียนแนวคดิ
สร้ำงเครือข่ำยชุมชน สร้ำงกำรตระหนักรู้และปลูกฝังแก่เยำวชนอย่ำงย่ังยืน ถ้ำ
หำกชุมชนยังดำเนินกิจกรรมต่อไป ก็จะสำมำรถถ่ำยทอดควำมรักและควำมหวง
แหนชุมชนให้แก่เยำวชนต่อไปและขยำยแนวคิดนี้ไปสู่ชุมชนอื่น ๆ ก็จะส่งผลให้
ทุกชมุ ชนอยรู่ ว่ มกันอย่ำงสนั ติสุขแบบย่งั ยืน

3. ปัจจัยบริบท ประกอบด้วย 1) ควำมร่วมมือของหน่วยงำน
รำชกำร เช่น วฒั นธรรมจังหวัด องคก์ ำรบรหิ ำรส่วนตำบล โรงเรียน 2) ควำม
ร่วมมอื ของเครอื ขำ่ ยชมุ ชนในพน้ื ที่ 3) ควำมร่วมมอื ของเยำวชนในพนื้ ที่

4. ปัจจัยผลลัพธ์ ประกอบด้วย ควำมร่วมมือกันในกำรแสดงควำม
คิดเห็น และเยำวชนให้ควำมสำคัญและสนใจในกำรทำคลิปสื่อสรำ้ งสรรค์สันตสิ ขุ
สะท้อนมรดกทำงวัฒนธรรม เยำวชนเกิดกำรตระหนักถึงกำรอนุรักษ์มรดกทำง
วัฒนธรรม และท่ีสำคัญเกิดควำมร่วมมือกันของกลุ่มงำนที่แม้จะต่ำงศำสนำ หรือ
ลงพ้ืนที่ในศำสนำอนื่ ทำใหเ้ กดิ กำรเรียนรูใ้ นวิธีกำรปฏิบัตติ นในศำสนสถำนนนั้ ๆ

71

คณะผู้วิจัยสรุปองค์ประกอบกำรพัฒนำหมู่บ้ำนต้นแบบตำมหลักคำ
สอนทำงศำสนำ ได้ตำมแผนภมู ดิ ังนี้

ภาพท่ี 7 องคป์ ระกอบกำรพัฒนำหม่บู ำ้ นต้นแบบตำมหลกั คำสอนทำง
ศำสนำ

72

สรุปองคค์ วามรใู้ นการวจิ ัย

คณะผ้วู จิ ัยได้สรุปองคค์ วำมรู้ท่ไี ดจ้ ำกกำรศึกษำหมูบ่ ้ำนตน้ แบบ
สนั ติสขุ ตำมหลักคำสอนของศำสนำ ดงั นี้

ภาพที่ 8 องคค์ วำมรู้กำรพัฒนำหม่บู ำ้ นต้นแบบสนั ตสิ ขุ ตำมหลกั คำสอน
ของศำสนำ

สรุปองค์ควำมรู้กำรพฒั นำหมู่บ้ำนต้นแบบสันติสขุ ตำมหลกั คำ
สอนของ ประกอบดว้ ย 3 องคป์ ระกอบ คือ

1. กำรประสำนเครือข่ำย หมำยถึง กำรสร้ำงควำมร่วมมือของ
ชุมชน โดยผู้นำชุมชนต้องเป็นผู้ประสำน เช่ือมภำยในและภำยนอกของคน
ในและคนนอกพื้นท่ี ได้แก่ ผู้นำศำสนำ องค์กำรปกครองส่วนท้องถ่ิน ผู้นำ

73

ชุมชน โรงเรียนและคณะครู ในกำรลงพ้ืนท่ี ได้รับควำมร่วมมืออย่ำงดีจำก
ผูน้ ำชุมชน อบต. สำเภำลม่ ในกำรใหข้ อ้ มูล ประสำนกับฝำ่ ยต่ำง ๆ ในชมุ ชน
กำรจัดเสวนำมีผู้เข้ำร่วมเสวนำจำนวนมำก เพ่ือแสดงจุดร่วมท่ีโดดเด่นของ
ชุมชน ควำมคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ และแสดงควำมภำคภูมิใจในสังคมพหุ
วัฒนธรรมของสำเภำล่ม ท่ีมีมำยำวนำนกว่ำ 400 ปี ทำงด้ำนชุมชนสี่แยก
บ้ำนตลำดแขก ได้รับควำมร่วมมือจำกเครือข่ำยเยำวชนในพื้นท่ี ติดต่อกับ
ชุมชน สมั ภำษณ์เชิงลึกเพือ่ เก็บข้อมลู ครอบครัวกลุม่ ตัวอย่ำง และจดั สนทนำ
กลุม่ ยอ่ ยโดยใช้พื้นท่ีในครสิ ตจักรเบธเลเฮม ทำใหต้ ้งั ขอ้ สังเกตว่ำ ชุมชนนี้อยู่
ร่วมกันอย่ำงสันติสุข ทุกศำสนำอยู่ร่วมกัน โดยไม่มีกำรแบ่งแยก มีกำรจัด
กจิ กรรมร่วมกนั อยู่เสมอ

2. สร้ำงควำมร่วมมือ หมำยถึง กำรส่งเสริม ร่วมมือ วำงแผน
แลกเปล่ียนเรียนรู้ ช่วยกันส่งเสริมสร้ำงกิจกรรม ผ่ำนกำรปลูกจิตสำนึกกำร
อย่รู ว่ มกันอย่ำงสันติสุข และรว่ มอนรุ ักษม์ รดกวัฒนธรรมของเยำวชน โดยใช้
พลังควำมร่วมมือจำกทุกภำคส่วน จำกกำรลงพ้ืนท่ีทั้ง 2 ชุมชน ทำให้เกิด
กำรสร้ำงกิจกรรมจำกเสียงสะท้อนของชุมชน คือ ควำมต้องกำรสืบทอดวิถี
กำรดำเนินชีวติ กำรอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมในชมุ ชนไปส่เู ยำวชนรุ่นใหม่ จึง
มีควำมร่วมมือกัน ที่ อบต. สำเภำล่ม ได้รับควำมร่วมมือจำก คณะครูและ
นักเรียนโรงเรียนวัดพุทไธศวรรย์ ในกำรจัดทำคลิปวีดิทัศน์ส่ือสร้ำงสรรค์ใน
นักเรียนระดับมัธยมศึกษำตอนต้อน ซ่ึงเปิดประสบกำรณ์ด้ำนกำรถ่ำยทำ
คลิปวีดิทัศน์ ไปชมศำสนสถำนในชุมชน และกำรเข้ำไปสนทนำกับผู้นำ
ศำสนำ หรือปรำชญ์ชำวบ้ำน กำรเข้ำร่วมกิจกรรม ทำให้นักเรียนได้มีโอกำส

74

เข้ำไปเรียนรู้วิถีชีวิต วิถีวัฒนธรรมของชุมชนมำกข้ึน สำหรับชุมชนส่ีแยก
บ้ำนแขก เป็นกลุ่มเยำวชนมัธยมศึกษำตอนปลำยและอำชีวศึกษำ ได้มี
โอกำสได้ถำ่ ยทำคลปิ ในชมุ ชนทีต่ นอำศยั หรอื เรยี นในโรงเรียนบริเวณนนั้ ทำ
ใหไ้ ด้เรียนรู้ เขำ้ ใจ สงั คมพหวุ ัฒนธรรม ได้มีโอกำสเข้ำไปสัมภำษณ์พูดคุยกับ
ผู้นำศำสนำ ผู้นำชุมชน เล่ำเรื่องรำวประวัติ ควำมเป็นมำของชุมชน และ
สถำนที่สำคัญต่ำง ๆ ได้ร่วมติดตำมท่ำนเจ้ำอำวำสวัดมเหยงคณ์ บิณฑบำต
ทำให้ได้ประสบกำรณ์ ซึมซับบรรยำกำศกำรอยู่ร่วมกันด้วยควำมเมตตำ
กรุณำ สะทอ้ นถึงควำมรกั เกื้อกูล แบง่ ปันกันในชมุ ชน

3. เสริมพลังเยำวชน หมำยถึง กำรปลูกจิตสำนึกให้เยำวชนได้มี
โอกำสได้เข้ำใจ รับรู้ เรียนรู้ เห็นคุณค่ำของมรดกวัฒนธรรม วิถีชีวิต วิถี
ชุมชน ที่อยู่ร่วมกันอย่ำงสันติสุข โดยให้เริ่มทำกิจกรรมด้วยตนเอง และเปิด
โอกำสให้เยำวชนลงพน้ื ท่จี รงิ และใหน้ ำเสนอเร่ืองรำว สะท้อนควำมคดิ ผ่ำน
มุมมองของเยำวชนตำมแนวทำงโดยใช้แนวทำง UFAS คือ Understand
สร้ำงควำมเข้ำใจ Faith สร้ำงศรัทธำ Appreciate กำรเห็นคุณค่ำ
Sustainable พฒั นำอยำ่ งย่ังยนื เพ่ือปลกู สำนกึ สเู่ ยำวชน

Understand สร้างความเข้าใจ เกี่ยวกับวิถีกำรดำเนินชีวติ แบบ
พหุวัฒนธรรม กำรอยู่ร่วมกัน 3 ศำสนำ กำรอยู่ด้วยควำมรัก ควำมเข้ำใจ
ควำมเมตตำ ควำมสำมัคคี ช่วยเหลือกัน ซึ่งสิ่งเหล่ำนีถ้ ูกหลอ่ หลอมจำกรุน่ สู่
รุ่น กำรรักษำวัฒนธรรมกำรอยู่ร่วมกันอย่ำงสันติสุขเป็นส่ิงท่ีเยำวชนรุ่นใหม่
ควรรักษำ และสบื สำนต่อไป

75

Faith สร้างศรัทธา หลักคำสอนในทำงศำสนำทุกศำสนำ สอนให้
คนอย่รู ่วมกันอย่ำงสนั ติสุข มเี มตตำ กรุณำ รกั ใคร่กัน สำมคั คีกนั ไมว่ ่ำคนใน
ชุมชนจะนับถือศำสนำอะไร ถ้ำยึดม่ันในคำสอนในศำสนำของตน ก็จะ
สำมำรถอยู่ร่วมกันได้ ดังนั้นผู้นำชุมชน และผู้ใหญ่ในชุมชน ร่วมสอนและให้
เยำวชนได้เรียนรู้ เข้ำปฏิบัติศำสนกิจอย่ำงสม่ำเสมอ เข้ำใจหลักคำสอนทำง
ศำสนำ ก็จะเป็นกำรปลูกฝังควำมศรัทธำในศำสนำให้กับเยำวชน ศำสนำ
และยึดถือเป็นแนวทำงในกำรดำเนินชีวิต ฉะน้ันหำกเยำวชนในชุมชนมี
ควำมรู้ ควำมเข้ำใจในหลักคำสอนตำมศำสนำของตน ปฏิบัติตนตำมหลัก
ศำสนำ กจ็ ะสำมำรถอยรู่ ่วมกนั ไดอ้ ยำ่ งสันตติ อ่ ไปในอนำคต

Appreciate การเห็นคุณค่ามรดกวัฒนธรรมของชุมชน กำร
ส่งเสริมกิจกรรมเพื่อกำรเรียนรู้ประวัติควำมเป็นมำ ควำมสำคัญ และได้เข้ำ
เย่ียมชมมรดกวัฒนธรรมท่ีต้ังอยู่ในชุมชน จะทำให้เกิดควำมภำคภูมิใจกับ
ประวัติควำมเป็นมำอันยำวนำน ห่วงแหน และจะช่วยกันทำนุบำรุงดูแล
รักษำมรดกวัฒนธรรมนั้นสืบตอ่ ไป กำรจัดกิจกรรมที่ให้เยำวชนได้ทำรว่ มกัน
อำจเป็นกำรเข้ำไปร่วมกันดแู ลและภูมิทัศน์รอบ ๆ มรดกวัฒนธรรมน้ัน หรือ
เผยแพรเ่ ลำ่ เรอ่ื งรำวผำ่ นส่อื บอกเล่ำวฒั นธรรมของชุมชนทต่ี นอำศยั อยู่

Sustainable การพัฒนาอย่างย่ังยืน กำรส่งเสริมกิจกรรมจำก
ผู้ใหญ่ในชุมชน สู่เยำวชนควรเป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่อง เพ่ือกำรพัฒนำ และ
ปลกู สำนกึ ส่เู ยำวชนอย่ำงยั่งยนื ดว้ ยควำมรว่ มมอื จำกทุกภำคสว่ นในชมุ ชน

76

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะนโยบาย

จำกผลกำรวิจัยพบว่ำ ประชำชนและผู้นำชุมชนในพ้ืนท่ีมีควำม
ต้องกำรส่งเสริมกิจกรรมกำรอยู่ร่วมกันอย่ำงสันติสุขตำมหลักคำสอนทำง
ศำสนำ ทำให้เกิดควำมร่วมมือทุกภำคส่วนในพ้ืนที่ เช่น ผู้นำชุมชน
ประชำชน หนว่ ยงำนท้องถิ่น และหนว่ ยงำนภำครัฐในพื้นท่ี ดงั นัน้ หนว่ ยงำน
ภำครัฐท่เี กีย่ วขอ้ ง เช่น กระทรวงวัฒนธรรม สถำบนั กำรศึกษำ

1) หน่วยงำนท่ีเก่ียวข้องกับพัฒนำชุมชน ควรขับเคล่ือนในเชิง
นโยบำย ตำมแผนยุทธศำสตร์ชำติ กำรพัฒนำประเทศให้มั่นคง มั่งคั่ง และ
ยั่งยืน กำรพัฒนำชุมชนรำกฐำน ในมิติต่ำง ๆ เช่น กำรอยู่ร่วมกัน กำร
ส่งเสริมเศรษฐกิจทำงวัฒนธรรม กำรสร้ำงควำมเข้มแข็งของชุมชน กำร
ส่งเสริมกิจกรรมให้เกิดชุมชนสันติสุข เพื่อยกระดับคุณภำพชีวิตของคนใน
ประเทศ

2) กำรสร้ำงควำมรว่ มมือภำคเอกชน และสถำบันกำรศึกษำมสี ่วน
ร่วมเข้ำไปพัฒนำระดับชุมชน และปลูกจิตสำนึกกำรรักษ์วัฒนธรรมชุมชน
ผ่ำนเยำวชน และภำคสถำบันกำรศึกษำท่ีมีพันธกิจในกำรให้บริกำรวิชำกำร
แกส่ ังคม ควรทำโครงกำรสรำ้ งควำมรว่ มมือกับหน่วยงำนรำชกำรในพื้นที่ที่มี
จุดมุ่งหมำยร่วมสร้ำงควำมรับผิดชอบทำงสังคมร่วมกัน และร่วมสนับสนุน
กิจกรรมของโรงเรียนที่ด้อยโอกำส ท้ังด้ำนงบประมำณ อุปกรณ์กำรทำงำน

77

เพื่อผลิตส่ือประชำสัมพันธ์มรดกทำงวัฒนธรรมที่ดีของชุมชนในพ้ืนท่ีให้
แพร่หลำยออกไป

3) หน่วยงำนภำครัฐ ควรสนับสนุนสินค้ำวัฒนธรรมชุมชน ที่
สะท้อนอัตลักษณ์ของกำรอยู่ร่วมกันสันติสุข เพ่ือเพ่ิมมูลค่ำเพ่ิมและส่งเสริม
กำรทอ่ งเทีย่ วชุมชน สรำ้ งควำมเขม้ แขง็ ของชมุ ชน

4) องค์กำรบริหำรสว่ นตำบล อบต. ผู้บรหิ ำร ผ้นู ำชุมชน 3 ศำสนำ
มีแผนพัฒนำตำบลมีกลไกขับเคล่ือนกำรอยู่ร่วมกันอย่ำงสันติสุข โดยสร้ำง
ตัวชวี้ ดั ชุมชนตน้ แบบสันตสิ ุขในชุมชน และเปิดโอกำสให้ประชำชนในพ้ืนท่ีมี
ร่วมกนั ในทำกิจกรรมและออกแบบกิจกรรมกำรอย่รู ่วมกันอย่ำงสันตสิ ุข

ข้อเสนอแนะเพ่อื การนาผลวจิ ัยไปใช้

1) จำกผลกำรวิจัยพบว่ำ กำรนำผลกำรวิจัยส่ือสร้ำงสรรค์สันติสุข
ไปเผยแพร่และนำไปปฏิบัติในพ้ืนท่ี เพ่ือให้เกิดกำรสร้ำงจิตสำนึกในกำร
ร่วมกันอนุรักษ์มรดกทำงวัฒนธรรม นำไปสู่กำรพัฒนำ ต่อยอด องค์ควำมรู้
อย่ำงย่ังยนื ให้กบั ชุมชน

2) กำรสร้ำงเครือข่ำยต้นแบบกำรอยู่ร่วมกันสันติสุขผ่ำนกิจกรรม
เยำวชน ในรูปแบบกิจกรรมส่ือสร้ำงสรรค์สันติสุขอย่ำงต่อเนื่อง เชื่อมโยง
เครือขำ่ ยในชุมชนและเครือขำ่ ยภำยนอกชุมชน เพอื่ ชปู ระเดน็ ชุมชนต้นแบบ
กำรอยูร่ ว่ มกันอย่ำงสนั ตสิ ุข

78

ข้อเสนอแนะในการวจิ ยั ครง้ั ตอ่ ไป
1) วิจัยประเด็นกำรส่งเสริมกำรอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม กำร
ถ่ำยทอดเรื่องรำวในชุมชน ของดีประจำพ้ืนท่ีในเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม เพื่อ
เปน็ แหลง่ กำรเรียนรู้ สรำ้ งรำยได้ และควำมสขุ ในกำรทำงำนรว่ มกันในพน้ื ท่ี
2) วิจัยปฏิบัติกำรเชิงพ้ืนที่เกี่ยวกับยกระดับสินค้ำท้องถิ่น เป็นภูมิ
ปญั ญำของชุมชน 3 ศำสนำ
3) กำรวิจัยปฏิบัติกำรเชิงพื้นที่เก่ียวกับกำรปลูกจิตสำนึกเยำวชนรักษ์
ถิน่ มรดกเชิงวฒั นธรรม

79

บรรณานุกรม

ขันทอง วฒั นะประดิษฐ.์ ชุมชนสนั ติสุขในพุทธศตวรรษท่ี 26 : ถอดบทเรียน
ชุมชนสันตสิ ุขในพ้ืนท่ีท่ีมีควำมขัดแยง้ . รายงานวิจัย. สำขำสันติ
ศึกษำ. บัณฑิตวิทยำลัย: มหำวิทยำลัยมหำจุฬำลงกรณรำช
วทิ ยำลยั , 2559.

พระมหำขวญั ชยั กติ ฺติเมธี (เหมประไพ). ปรชั ญำกำรศึกษำ: Philosophy of
Education. ในบทวิจารณ์หนังสือ. (พระมหำหรรษำ ธมฺมหำ
โ ส ) . ว ำ ร ส ำ ร สัน ติ ศึ ก ษ ำป ริท ร รศ น์ ม จ ร . ฉ บั บ ท่ี 2 .
กรุงเทพมหำนคร: แดเน็กซ์ อินเตอร์คอร์ปอเรชั่น, 2561: 416-
429.

พระมหำหรรษำ ธมฺมหำโส (นธิ บิ ณุ ยำกร). “รปู แบบกำรจดั กำรควำมขัดแย้ง
โดยพุทธสันติวิธี:ศึกษำวิเครำะห์ กรณีลุ่มน้ำแม่ตำช้ำง จ.
เชียงใหม่”. พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยำลัย:
มหำวทิ ยำลยั มหำจฬุ ำลงกรณรำชวิทยำลัย, 2547.

ศรีสุรำงค์ พูลทรัพย์. สุนทรียธรรม: หลักธรรมเพื่อการอยู่ร่วมโลกเดียวกัน
อ ย่ า ง สั น ติ สุ ข ค ริ ส ต์ พุ ท ธ ยู ด า ห์ อิ ส ล า ม ฮิ น ดู ,
กรงุ เทพมหำนคร: คบไฟ, 2550.

หัจยีประยูร วทำนยกุล และสุพจน์ ด่ำนตระกูล. สู่สันติภาพถาวร “ผ่าน
พุทธ คริสต์และอิสลามถึง มาร์ซิสม์และเลนินิสม์ ”.
กรงุ เทพมหำนคร: โรงพมิ พบ์ ริษัท ตถำตำพบั ลเิ คชนั่ , 2548.

80

Easwaran, Eknath. Nonviolent Soldier of Islam: Badsha Khan. A
Man to Math His Mountains. California: Nilgiri Press,
2002.

Phra Brahmagunabhorn ( P. A. Payutto) . Sustainable
Development. 6th ed. Bangkok: Sahadhammigga, 2007.

81

ภาคผนวก

82

รปู ภาพกจิ กรรมดาเนินการวจิ ัย

83

ภาพการจดั กจิ กรรมเสวนา จงั หวัดพระนครศรีอยุธยา

84

ภาพงานเสวนา เยย่ี มเยียนชุมชนและโรงเรียน
ในพ้นื ท่ีจงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา

85

86

ภาพกจิ กรรมลงพ้ืนท่ีชุมชนบา้ นตลาดแขก จงั หวัดนครศรธี รรมราช

87

88

คณะทางาน

ผศ.ดร.กมลาศ ภูวชนาธิพงศ์ หวั หน้ำโครงกำรวจิ ัย
คณะมนุษยศำสตร์ มหำวิทยำลัยมหำจุฬำลง
กรณรำชวิทยำลัย เลขที่ 79 หมู่ 1 ตำบลลำ
ไทร อำเภอวังนอ้ ย จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยำ
รหัสไปรษณีย์ 13170
โทรศัพท์: 035 248000
มอื ถือ: 095 596 8864
E-mail: [email protected]

รศ.ดร.อานาจ บวั ศิริ ผรู้ ่วมวจิ ัย
อำจำรย์พิเศษ สอนวิชำระเบียบวิธีวิจัยขั้นสูง
ระดับมหำบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต และ
หลักสูตรนำนำชำติ มหำวิทยำลัยมหำจุฬำลง
กรณรำชวิทยำลัย และมหำวิทยำลัยมหำมกุฎ
รำชวิทยำลยั
มือถือ: 098 825 1588
E-mail: [email protected]

89

พระมหานนั ทวิทย์ ธีรภทโฺ ท,ดร. (แก้วบตุ รดี) ผู้ร่วมวจิ ัย
นักวิจัย สถำบันวิจัยพุทธศำสตร์ มหำวิทยำลัย
มหำจฬุ ำลงกรณรำชวิทยำลยั
สถำบนั วิจัยพุทธศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั มหำจุฬำ
ลงกรณรำชวิทยำลัย เลขที่ 79 หมู่ที่ 1 หลัก
กิโลเมตรท่ี 55 ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย
จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยำ
รหสั ไปรษณยี ์ 13170
E-mail: [email protected]

ดร.อุดม จันทิมา ผูร้ ว่ มวิจัย
บัณฑิตวิทยำ มหำวิทยำลัยมหำจุฬำลงกรณ
รำชวิทยำลัย เลขท่ี 79 หมู่ 1 ตำบลลำไทร
อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ
รหสั ไปรษณยี ์ 13170
มือถือ: 099 348 2992
E-mail: [email protected]

ดร.ภทั ธิดา แรงทน 90

ผู้ร่วมวิจยั
ศูนย์พุทธศำสตร์ศึกษำ DCI เลขท่ี 75 หมู่ 1
ตำบลไทรน้อย อำเภอบำงบำล จังหวัด
พระนครศรีอยุธยำ
รหัสไปรษณีย์ 13250
มอื ถือ: 095 665 5355
E-mail: [email protected]

นายรังสรรค์ วฒั นาชยั วณชิ ผรู้ ว่ มวิจัย
มหำวิทยำลัยมหำจุฬำลงกรณรำชวิทยำลัย
วทิ ยำลยั สงฆป์ ัตตำนี ถนนสำมคั คสี ำย ข ซอย
10 ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัด
ปัตตำนี
โทรศัพท์: 073 450071
โทรสาร: 073 450074
มือถือ: 085 782 3020
E-mail: [email protected]

91

นางสาวทพิ ย์ธิดา ณ นคร ผู้รว่ มวจิ ยั
นิสิตปรญิ ญำเอก สำขำวชิ ำพุทธจติ วทิ ยำ
คณะมนุษยศำสตร์ มหำวิทยำลัยมหำจุฬำลง
กรณรำชวทิ ยำลยั
มือถือ: 083 614 4495
E-mail: [email protected]


Click to View FlipBook Version