ของพืช การเจริญเติบโต
ของพืช การเจริญเติบโต ฮอร์โมนพืช การตอบสนองต่อภาวะเครียด การตอบสนองของพืชในลักษณะการเคลื่อนไหว ปัจจัยที่มีผลต่อการงอกของเมล็ด
ฮอร์โมนพืช กระบวนการตอบสนองของพืชต่อสิ่งเร้า สิ่งเร้าภายนอก และ สิ่งเร้าภายใน ตัวรับสัญญาณ การถ่ายโอนสัญญาณภายในเซลล์ การส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ การตอบสนอง น ้า
ฮอร์โมนพืช ฮอร์โมนพืช จิบเบอเรลลิน/กรดแอบไซซิก ออกซิน จิบเบอเรลลิน และไซโทไคนิน ออกซิน ออกซินและไซโทไคนิน กรดแอบไซซิก เอทิลีน ออกซิน การงอก/การพักตัวของเมล็ด การเจริญของปลายยอดเข้าหาแสง การเจริญของปลายรากเข้าหา แรงโน้มถ่วงของโลก การแย่งเซลล์ การยืดตัวของเซลล์ การพัฒนาและเปลี่ยนสภาพของเซลล์ ออกซินและไซโทไคนิน การสร้างดอก การเจริญของตาข้าง การปิดปากใบในภาวะขาดน ้า การร่วงของใบ ดอก ผล การชะลอการเลื่อมตามอายุของใบ
ฮอร์โมนพืช ฮอร์โมนพืช โคลีออพไทล์ต้น B มีการโค้งงอ เพราะสามารถสร้างออกซินได้จาก ปลายยอด และเมื่อถูกกระตุ้นด้วยแสงในฝั่งเดียวส่งผลท้าให้ต้น B โค้ง งอเข้าหาแสงเพราะออกซินถูกล้าเลียงฝั่งที่ไม่มีแสง ท้าให้เซลล์ฝั่งนั น ยืดยาวกว่าอีกฝั่ง โคลีออพไทล์ต้น B จะมีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ทั ง 2 ข้าง เซลล์ฝั่งที่ ไม่ได้รับแสงจะยืดยาวกว่าฝั่งที่ได้รับแสง ส่งผลให้ต้น B โค้งเข้าหาแสง แต่เซลล์ทั ง 2 ฝั่งของต้น C จะยืดยาวเท่ากันเพราะไม่มีแสงมากระตุ้น ส่งผลให้ต้น C ไม่โค้งงอ ผลการทดลอง โคลีออพไทล์ต้น A และต้น D จะมีการเจริญเติบโตที่คล้ายคลึงกัน คือ พืชจะเจริญขึ นในแนวตรง ไม่โค้งงอต่างกันมาก เพราะทั ง 2 ถูกตัด แหล่งสร้างออกซินออก แต่อาจจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยเนื่องจาก ปัจจัยเรื่องแสงที่พืชได้รับ ชุดที่ 1 : ตั งไว้ริมหน้าต่าง ชุดที่ 2 : เอาไว้ในห้องมืด ไม่มีแสง A B C D การทดลองการเจริญเติบโตของโคลีออพไทล์ของข้าวโพด
ฮอร์โมนพืช ออกซิน ท้าให้ปลายยอดโค้งงอเข้าหาแสง ปลายรากเข้าหา แรงโน้มถ่วงของโลก ยับยั งการเจริญของตาข้าง ส่งผลให้ได้ผลที่ไม่มีเมล็ด ส่งผลให้เกิดการเจริญเติบโตโดยท้าให้เซลล์ยืดขยาย - เนื อเยื่อเจริญปลายยอด - ใบอ่อน - ผลอ่อน แหล่งสร้าง สมบัติของฮอร์โมน
ฮอร์โมนพืช ออกซิน
ฮอร์โมนพืช ไซโทไคนิน กระตุ้นการแบ่งเซลล์ และการเปลี่ยนสภาพเซลล์ เร่งการงอกของราก ชักน้าให้เกิดยอดในการเพาะเลี ยงเนื อเยื่อ - เนื อเยื่อเจริญที่ราก - บริเวณที่มีการแบ่งเซลล์ แหล่งสร้าง สมบัติของฮอร์โมน กระตุ้นการเจริญของตาข้าง ท้าให้เกิดกิ่งก้านค่อนข้างเยอะ การเพาะเลี ยงเนื อเยื่อ กระตุ้นการเจริญเติบโตของเอ็มบริโอ
ฮอร์โมนพืช จิบเบอเรลลิน แหล่งสร้าง สมบัติของฮอร์โมน ส่งผลให้ขนาดของเซลล์บริเวณผลของพืชยืดยาว เช่น ผลองุ่น กระตุ้นการงอกของเมล็ด เร่งการย่อยแป้ง เก็บสะสมอยู่ในเมล็ดให้เป็นน ้าตาล - เมล็ดที่ก้าลังเจริญ - เมล็ดที่ก้าลังงอก - เนื อเยื่อเจริญปลายยอด ปลายราก - อับเรณู - ผล ใช้เป็นแหล่งพลังงานส้าหรับการงอกในพืชใบเลี ยงเดี่ยว ทดแทนอุณหภูมิ ส้าหรับพืชที่ต้องการอุณหภูมิต่้าเพื่อกระตุ้น การออกดอก เช่น พืชพวกกะหล่้าปลี แครอท
ฮอร์โมนพืช เอทิลีน แหล่งสร้าง สมบัติของฮอร์โมน - เกิดจากกระบวนการเมแทบอลิซึมของพืช - สร้างได้เกือบทุกส่วนของพืช - เนื อเยื่อพืชที่เข้าสู่การเลื่อมตามอายุ - เนื อเยื่อที่ตอบสนองต่อภาวะเครียด เช่น น ้าท่วม /แห้งแล้ง/การเข้าท้าลายของ จุลินทรีย์ก่อโรค กระตุ้นการสุกของผลไม้ที่สามารถบ่มให้สุกได้ กระตุ้นการขยายตัวของเซลล์ด้านข้าง ส่งเสริมใบและดอกเข้าสู่การเลื่อมตามอายุ กระตุ้นให้เกิดการร่วงของใบ ดอก และผล กระตุ้นการงอกของเมล็ด กระตุ้นการออกดอกของพืชบางชนิด เช่น สับปะรด กระตุ้นการเกิดขนราก ยับยั งการแตกแขนงของราก
ฮอร์โมนพืช กรดแอบไซซิก แหล่งสร้าง สมบัติของฮอร์โมน - สร้างได้จากเซลล์ต่าง ๆ ที่มี คลอโรพลาสต์หรืออะไมโลพลาสต์ - ปริมาณจะเปลี่ยนแปลงไปตาม ระยะการพัฒนาของพืชและ ผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม ถูกสร้างเมื่อพืชเข้าสู่สภาวะเครียด (ขาดน ้า) เหมาะแก่การน้ามาใช้เพื่อป้องกันการเหี่ยวเฉาของต้นไม้ ส่งผลให้เมล็ดไม่งอก ลดการคายน ้าโดยกระตุ้นให้ปากใบปิด ควบคุมเมล็ด และตา ให้เกิดการพักตัว กระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนที่สะสมในเมล็ด ยับยั งการท้างานของจิบเบอเรลลิน ส่งเสริมให้เกิดการเสื่อมตามอายุ ยับยั งการเจริญและการยืดตัวของเซลล์ การพักตัวของเมล็ด
ฮอร์โมนพืช ฮอร์โมนสังเคราะห์ สมบัติคล้าย ออกซิน (2,4-D) (IBA) 2,4-dichlorophenoxy acetic acid Indole butyric acid Naphthalene acetic acid (NAA) น้ามาใช้เพื่อเร่งการเกิดรากของกิ่งตอนหรือกิ่งปักช้า น้ามาใช้เพื่อการพัฒนาของรากแขนง การพัฒนาและเปลี่ยนสภาพของรากในการเพาะเลี ยงเนื อเยื่อพืช กระตุ้นให้พืชบางชนิดติดผลโดยไม่ต้องมีการปฏิสนธิ (parthenocarpic fruit) เช่น องุ่น แตงโม สตรอเบอรี มะเขือเทศ (ผลไม่มีเมล็ด) คุณสมบัติ
ฮอร์โมนพืช ฮอร์โมนสังเคราะห์ สมบัติคล้าย ไซโทไคนิน 6-benzylamino purine (BA) Tetrahydropyranyl benzyladenine (TDZ) ช่วยเร่งการแตกตาข้างของพืช น้าความรู้เกี่ยวกับการท้างานร่วมกันของออกซินและไซโทไคนินมาใช้ใน การตัดแต่งกิ่งเพื่อควบคุมทรงพุ่มของไม้ดอก ไม่ประดับ และผลบางชนิด ใส่ในอาหารเพาะเลี ยงเนื อเยื่อพืช เพื่อกระตุ้นการสร้างตาใหม่ กระตุ้นการสร้างยอด คุณสมบัติ
ฮอร์โมนพืช ฮอร์โมนสังเคราะห์ ช่วยยืดช่อผลผงุ่นให้ยาวและท้าให้ผลขยายขนาดใหญ่ขึ นได้ (ไม่มีเมล็ด) คุณสมบัติ สมบัติคล้าย จิบเบอเรลลิน GA3 องุ่นที่ใช้สาร GA3 องุ่นที่ไม่ใช้สาร GA3 เร่งการสุกของผลไม้ให้สุกพร้อมกัน สมบัติคล้าย เอทิลีน Ethephon Calcium carbide น้าไปใช้เพื่อช่วยชะลอการเหี่ยวเฉาของพืชและไม้ดอกในขณะขนส่ง สารสังเคราะห์ที่มีสมบัติคล้าย กรดแอบไซซิก ท้าให้รูปากใบแคบลงหรือรูปากใบปิด เพื่อลดการสูญเสียน ้าของพืช แต่ไม่เป็นที่นิยมเพราะมีราคาแพง คุณสมบัติ คุณสมบัติ
สาเหตุและวิธีการท้าลายสภาพพักตัวของเมล็ด ปัจจัยที่มีผลต่อการงอกของเมล็ด สาเหตุการพักตัวของเมล็ด ส่วนห่อหุ้มเมล็ดมีความหนาหรือแข็ง เปลือกเมล็ดมีสารจ้าพวกไข คิวทิน ลิกนิน ซูเบอริน สะสมอยู่ที่ ผนังเซลล์ของเปลือกเมล็ด เปลือกเมล็ดไม่ยอมให้แก๊สออกซิเจนแพร่ผ่าน ท้าให้เกิดสภาพพักตัวในระยะสั น ๆ เปลือกเมล็ดมีสารเคมีบางชนิดที่มีผลยับยั งการงอกของเมล็ด จึงเกิดสภาพพักตัวของเมล็ด ในเมล็ดพืชบางชนิด เอ็มบริโอยังไม่เจริญเต็มที่
สาเหตุและวิธีการท้าลายสภาพพักตัวของเมล็ด ปัจจัยที่มีผลต่อการงอกของเมล็ด การท้าลายสภาพพักตัวของเมล็ด ส่วนห่อหุ้มเมล็ดมีความหนาหรือแข็ง การย่อยสลายของจุลินทรีย์ในดิน การย่อยอาหารของสัตว์เลี ยงลูกด้วยนมหรือนก และการถ่ายมูลออกมา การถูกไฟเผาท้าให้เปลือกเมล็ดแตกออก การแช่เมล็ดในน ้าร้อน หรือสารละลายกรด การปาด/ การเฉือน/ การกะเทาะเปลือก/ การเผา หรือลนไฟ Ex. เมล็ดมะม่วง เมล็ดปาล์ม Ex. เมล็ดโพธิ์ เมล็ดไทร เมล็ดตะขบ Ex. เมล็ดพืชวงหญ้า เมล็ดพืชวงศ์ไผ่ เมล็ดตะเคียน เมล็ดสัก
สาเหตุและวิธีการท้าลายสภาพพักตัวของเมล็ด ปัจจัยที่มีผลต่อการงอกของเมล็ด การท้าลายสภาพพักตัวของเมล็ด ใช้การแช่เมล็ดในน ้า น ้าจะเข้าสู่เมล็ดพืชทางไมโครไพล์ท้าให้เมล็ดพองและเปลือกเมล็ดแตก เก็บเมล็ดไว้สักระยะหนึ่งก็สามารถน้าไปเพาะได้ หรือใช้วิธีการทุบเพื่อให้เปลือกเมล็ดแตก Ex. เมล็ดถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วแดง แตงโม Ex. เมล็ดพืชวงศ์หญ้าบางชนิด เปลือกเมล็ดมีสารจ้าพวกไข คิวทิน ลิกนิน ซูเบอริน สะสมอยู่ที่ ผนังเซลล์ของเปลือกเมล็ด เปลือกเมล็ดไม่ยอมให้แก๊สออกซิเจนแพร่ผ่าน ท้าให้เกิดสภาพพักตัวในระยะสั น ๆ
สาเหตุและวิธีการท้าลายสภาพพักตัวของเมล็ด ปัจจัยที่มีผลต่อการงอกของเมล็ด การท้าลายสภาพพักตัวของเมล็ด เมื่อฝนตกลงมาชะล้างสารเคลือบที่เปลือกเมล็ดออก ท้าให้เมล็ดสามารถงอกได้ รอระยะเวลาให้เอ็มบริโอของเมล็ดเจริญพัฒนาเต็มที่ Ex. เมล็ดมะเขือเทศ Ex. มะพร้าว หมาก ปาล์มน ้ามัน เปลือกเมล็ดมีสารเคมีบางชนิดที่มีผลยับยั งการงอกของเมล็ด จึงเกิดสภาพพักตัวของเมล็ด ในเมล็ดพืชบางชนิด เอ็มบริโอยังไม่เจริญเต็มที่ มนุษย์ล้างสารเคลือบเมล็ดออก และผึ่งให้แห้ง จากนั นน้าไปเพาะ
การตรวจสอบคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ ปัจจัยที่มีผลต่อการงอกของเมล็ด ปัจจัยที่มีผลต่อความส้าเร็จในการปลูกพืชคือ คุณภาพของเมล็ดพันธุ์ ตรวจสอบความสามารถในการงอก ตรวจสอบความแข็งแรงของเมล็ดพันธุ์ ความบริสุทธิ์ของเมล็ดพันธุ์ ความชื นของเมล็ดพันธุ์ สูตร ดัชนีการงอกของเมล็ด = ผลบวกของ จ้านวนต้นกล้าที่งอกในแต่ละวัน จ้านวนวันหลังจากเพาะเมล็ด
การตรวจสอบคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ ปัจจัยที่มีผลต่อการงอกของเมล็ด การงอกของเมล็ดพืช เมล็ดแห้งรับน ้าเข้าไปท้าให้เกิดแรงดัน เปลือกเมล็ดแตกออก เกิดกระบวนการแมแทบอลิซึม เกิดการขยายตัวของเอ็มบริโอ แรดิเคิลแทงออกจากเปลือกเมล็ดในพืชใบเลี ยงเดี่ยว เอ็มบริโอสร้างจิบเบอเรลลินไปกระตุ้นการสร้างเอ็นไซม์ย่อยแป้ง ที่เก็บสะสมอยู่ในเมล็ดให้เป็นน ้าตาล เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานส้าหรับการเจริญของต้นกล้าต่อไป
การตอบสนองของพืชในลักษณะการเคลื่อนไหว ทิศทางการตอบสนองสัมพันธ์กับทิศทางของสิ่งเร้าภายนอก เรียกว่า การเบนหรือทรอพิซึม (tropism) การตอบสนองที่มีทิศทางไม่สัมพันธ์กับทิศทางของสิ่งเร้าภายนอก เรียกว่า แนสติกมูฟเมนต์(nastic movement) การโค้งเข้าหาแสงของยอดพืช การหุบและการบานของดอกบัวสายสีขาว
การตอบสนองของพืชในลักษณะการเคลื่อนไหว การเบนเข้าหาสิ่งเร้า (positive tropism) การเบนเข้าหาแสง (phototropism) การเบนออกจากสิ่งเร้า (negative tropism) การเบนเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก (gravitropism) positive gravitropism negative gravitropism ทรอพิซึม การตอบสนองของพืชต่อสิ่งแวดล้อมที่มีทิศทางสัมพันธ์กับสิ่งเร้าภายนอก
การตอบสนองของพืชในลักษณะการเคลื่อนไหว การตอบสนองต่อสารเคมี (chemotropism) การตอบสนองต่อน ้า (chemotropism) การตอบสนองต่อการสัมผัส (thigmotropism) ทรอพิซึม การตอบสนองของพืชต่อสิ่งแวดล้อมที่มีทิศทางสัมพันธ์กับสิ่งเร้าภายนอก
แนสติกมูฟเมนต์ การตอบสนองของพืชในลักษณะการเคลื่อนไหว การตอบสนองของพืชต่อสิ่งแวดล้อมโดยมีทิศทางไม่สัมพันธ์กับสิ่งเร้าภายนอก การตอบสนองอาจเป็นการเจริญเติบโต ไม่เท่ากันของส่วนต่าง ๆ Ex. การบานของดอกกุหลาบ การเปลี่ยนแปลงปริมาณน ้าภายในเซลล์ ท้าให้เกิดแรงดันเต่ง(turgor pressure) Ex. การบานของดอกกุหลาบ ดอกบัวบาน เกิดจากกลุ่มเซลล์ด้านในของ กลีบดอกขยายขนาดมากว่าด้านนอก ดอกบัวหุบ เกิดจากกลุ่มเซลล์ด้านนอกของ กลีบดอกขยายขนาดมากว่าด้านใน
แนสติกมูฟเมนต์ การตอบสนองของพืชในลักษณะการเคลื่อนไหว การตอบสนองของพืชต่อสิ่งแวดล้อมโดยมีทิศทางไม่สัมพันธ์กับสิ่งเร้าภายนอก Ex. การหุบของใบไมยราบ การเปลี่ยนแปลงปริมาณน ้าภายในเซลล์ ท้าให้เกิดแรงดันเต่ง (turgor pressure) พัลไวนัส กางใบ ใบย่อย วาสคิวลาร์บันเดิล โคนใบไมยราบมี พัลไวนัส ที่มีความไวสูงต่อสิ่งเร้าที่มากระตุ้น เช่น การสัมผัส (แรงดันเต่งของเซลล์กลุ่มนี เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว) เซลล์สูญเสียน ้าให้กับเซลล์ข้างเคียง ใบจึงหุบทันที เมื่อเวลาผ่านไปน ้าจากเซลล์ข้างเคียงจะแพร่กลับเข้ามาในเซลล์อีกครั งหนึ่ง ท้าให้เซลล์เต่ง และ ใบกางออกดังเดิม
แนสติกมูฟเมนต์ การตอบสนองของพืชในลักษณะการเคลื่อนไหว การตอบสนองของพืชต่อสิ่งแวดล้อมโดยมีทิศทางไม่สัมพันธ์กับสิ่งเร้าภายนอก Ex. กาบหอยแครง Ex. หม้อข้าวหม้อแกงลิง ขน บริเวณด้านในของใบจะมีขนที่มีความไวต่อการสัมผัส
การตอบสนองต่อภาวะเครียด ภาวะเครียดจากสิ่งเร้าทางกายภาพ ท้าให้ช่องว่างในดินเต็มไปด้วยน ้า ไม่มีช่องว่างส้าหรับแก๊สออกซิเจนเพื่อใช้ในการหายใจในระดับเซลล์ รากพืชหายใจแบบไม่ใช้ออกซิเจนและได้เอทานอน เมื่ออยู่ในสภาวะนี นาน ๆ : ใบเหลือง, ใบ ดอก และผล เกิดการหลุดร่วง และตายในที่สุด น ้าท่วมขัง น ้า การปรับตัวของพืชบางชนิด การสร้างโพรงอากาศในราก ช่วยในการถ่ายเทอากาศที่ราก
การตอบสนองต่อภาวะเครียด ภาวะเครียดจากสิ่งเร้าทางกายภาพ เมื่อพืชขาดน ้า จะท้าให้แรงดันเต่งลดลง น ้า ขาดน ้า ข้าวจะเกิดการม้วนใบ เพื่อลดพื นที่ผิวด้านที่มีปากใบที่สัมผัสกับอากาศ สร้างขนเพิ่มขึ น และมีคิวทิเคิลหนาขึ น เพื่อช่วยลดการคายน ้า พืชมีการสร้างและสะสมสารอินทรีย์บางชนิดในไซโทซอล เพื่อปรับชลศักย์ ของเซลล์ให้ต่้าลงท้าให้น ้าเข้าสู่เซลล์ได้ เกิดการกระตุ้นให้สร้างกรดแอบไซซิก ซึ่งมีผลท้าให้ปากใบปิดเพื่อลดการสูญเสียน ้า กระตุ้นการท้างานของโปรตีนชนิดต่าง ๆ ที่ท้าให้พืชทนทานต่อภาวะขาดน ้าได้ การปรับตัวของพืชบางชนิด Ex. สับปะรด เมื่ออยู่สภาวะขาดน ้าจะเปลี่ยนกลไกการตรึงคาร์บอน แบบพืช C3 เป็นแบบพืช CAM ท้าให้ประสิทธิภาพในการใช้น ้าดีขึ น
การตอบสนองต่อภาวะเครียด อุณหภูมิ ภาวะเครียดจากสิ่งเร้าทางกายภาพ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ น พืชจะมีอัตราการคายน ้าเพิ่มขึ น เพื่อรักษาสภาพการท้างานของเซลล์ให้เป็นปกติ พืชสามารถป้องกันการเสียสภาพของโปรตีนในเซลล์โดยการท้างานของ ฮีทช็อคโปรตีน (heat-shock protein) แต่หากได้รับอุณหภูมิสูงเกินไป ซึ่งจะถูกกระตุ้นเมื่อพืชได้รับความร้อน โดยจะช่วยรักษาโครงสร้างโปรตีนชนิดอื่นให้สามารถท้างานได้
การตอบสนองต่อภาวะเครียด อุณหภูมิ ภาวะเครียดจากสิ่งเร้าทางกายภาพ เมื่ออุณหภูมิต่้าลง จะท้าให้เยื่อหุ้มเซลล์สูญเสียสมบัติการเป็นของไหล เยื่อหุ้มเซลล์ให้มีสัดส่วนของกรดไขมันอิ่มตัวมากขึ น พืชจะมีการปรับโครงสร้าง เพื่อป้องกันและลดการเกิดผลึกภายในเซลล์ พืชจะสร้าง แอนทีฟริซโปรตีน (antifreeze protein) ท้าให้เยื่อหุ้มเซลล์ยังคงมีสมบัติในการเป็นของไหลอยู่ เมื่ออุณหภูมิต่้าลงจนน ้าภายในเซลล์กลายเป็นผลึก
การตอบสนองต่อภาวะเครียด ภาวะเครียดจากสิ่งเร้าทางกายภาพ เมื่อพืชอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเค็มสูง ท้าให้พืชขาดน ้า เนื่องจากสารละลายในดินมีปริมาณเกลือมากจึงมีความเข็มข้น สูงกว่าสารละลายภายในเซลล์ราก ท้าให้ชลศักย์ในดินต่้ากว่าชลศักย์ในราก น ้าจึงเคลื่อนที่ออกจากรากสู่ดิน มีกลไกลดการน้าโซเดียมไอออนจากดินเข้าสู่ราก มีการกระตุ้นให้โปรตีนบางชนิดขับเกลือออกจากเซลล์เก็บไว้ในแวคิวโอล พืชจะมีการปรับโครงสร้าง ยกเว้น พืชทนเค็ม (halophyte) Ex. แสม ชะคราม ผักบุ้งทะเล
ภาวะเครียดจากสิ่งเร้าทางชีวภาพ การตอบสนองต่อภาวะเครียด การป้องกันเชิงกล วิธีการป้องกันจากการถูกสัตว์กัดกินหรือจุลินทรีย์ก่อโรคเข้าท้าลาย ท้าให้ยากต่อการเข้าท้าลายจากสัตว์ การมีขนบนใบและล้าต้น การมีหนาม ผนังเซลล์มีซิลิกา ท้าให้เนื อเยื่อพืชมีความแข็งแรงทนต่อการกัดกินของแมลง ภายในเซลล์มีผลึกแคลเซียมออกซาเลตในแวคิวโอล ท้าให้เกิดการระคายเคืองต่อหลอดอาหารของสัตว์กินพืช
ภาวะเครียดจากสิ่งเร้าทางชีวภาพ การตอบสนองต่อภาวะเครียด การป้องกันเคมี วิธีการป้องกันจากการถูกสัตว์กัดกินหรือจุลินทรีย์ก่อโรคเข้าท้าลาย ช่วยป้องกันการเข้าท้าลายของสัตว์กินพืช คาเฟอีน ในต้นชาหรือกาแฟ น ้ายางพารา ยับยั งการเจริญของจุลินทรีย์ พืชบางชนิดเมื่อถูกสัตว์หรือจุลินทรีย์ก่อโรคเข้าท้าลาย จะกระตุ้นให้พืชสร้างโปรตีนบางชนิดที่มีผลยับยั งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ หรือยับยั งการท้างานของเอนไซม์ของสัตว์กินพืชชนิดนั น