The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษา 64

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by laddawan.chaiworn, 2022-04-06 04:26:02

หลักสูตรสถานศึกษา 64

หลักสูตรสถานศึกษา 64

๑๔๗

แสดงและเข้าร่วมกจิ กรรมทางดนตรใี นท้องถิ่น
มุ่งหวังใหผ้ เู้ รยี นแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกบั ดนตรี เสียงขบั รอ้ งของตนเอง มสี ่วนรว่ มกบั กิจกรรมดนตรี

ในชวี ติ ประจาวนั รู้และเข้าใจดนตรีในทอ้ งถ่ิน สง่ เสริมให้ผเู้ รียนมีความเช่ือมนั่ ในตนเอง รักความเป็นไทย
กลา้ แสดงออก และค่านิยมทเ่ี หมาะสม
รหสั ตัวชี้วัด
ศ ๒.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ป.๑/๔ ป.๑/๕
ศ ๒.๒ ป.๑/๑ ป.๑/๒
รวมทง้ั สิน้ ๗ ตัวช้ีวดั

สำระท่ี ๓ นำฏศิลป์
รแู้ ละเข้าใจการเคลอ่ื นไหวลกั ษณะตา่ งๆ การเลยี นแบบธรรมชาติ การเลยี นแบบคน สัตว์ สง่ิ ของ

การใชภ้ าษาทา่ และการประดิษฐ์ทา่ ประกอบเพลง การแสดงประกอบเพลงท่ีเกีย่ วกบั ธรรมชาตสิ ัตว์ การเปน็
ผชู้ มท่ีดี การละเล่นของเดก็ ไทย วธิ ีการเลน่ กติกา การแสดงนาฏศลิ ป์

โดยเลียนแบบการเคล่อื นไหว แสดงทา่ ทางง่าย ๆ เพอ่ื สือ่ ความหมาย แทนคาพดู บอกสิ่งท่ีตนเองชอบ
จากการดูหรอื ร่วมการแสดง ระบุ และเล่นการละเลน่ ของเดก็ ไทย บอกสิ่งทตี่ นเองชอบในการแสดงนาฏศิลป์

มุง่ หวงั ใหผ้ เู้ รียนสรา้ งสรรคก์ ารเคล่ือนไหวรูปแบบตา่ ง ๆ แสดงท่าทางประกอบจงั หวะเพลง มีมารยาท
ในการชมการแสดง ช่ืนชอบและภูมิใจในการละเล่นพื้นบ้าน สามารถเชื่อมโยงสิ่งทพี่ บเห็นในการละเล่นพ้ืนบา้ น
กับการดารงชีวติ ของคนไทย บอกลกั ษณะเดน่ และเอกลักษณ์ของนาฏศิลป์ไทยตลอดจนความสาคัญของ
การแสดงนาฏศิลป์ไทยได้ สง่ เสรมิ ให้ผู้เรยี นมีความเชอื่ ม่นั ในตนเอง รกั ความเป็นไทย กล้าแสดงออก และ
ค่านยิ มท่เี หมาะสม

รหัสตัวชี้วัด
ศ ๓.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓
ศ ๓.๒ ป.๑/๑ ป.๑/๒
รวมท้ังสิ้น ๕ ตวั ชี้วัด

๑๔๘

คำอธิบำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน

ศ ๑๒๑๐๑ รำยวชิ ำ ทศั นศลิ ป์ กลุม่ สำระกำรเรยี นรศู้ ิลปะ

ชั้นประถมศกึ ษำปีที่ ๒ เวลำเรียน ๔๐ ช่ัวโมง/ปี จำนวน ๑ หนว่ ยกิต

*********************************************************************************

สำระท่ี ๑ ทศั นศลิ ป์

รู้และเขา้ ใจรูปร่าง รูปทรงในธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม เส้น สี รปู ร่าง รูปทรงในส่งิ แวดลอ้ ม และ

งานทศั นศิลปป์ ระเภทต่าง ๆ เสน้ รปู ร่างในงานทัศนศิลปป์ ระเภทต่าง ๆ การใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ สร้างงาน

ทศั นศลิ ป์ ๓ มิติ ภาพปะติดจากกระดาษ การวาดภาพถา่ ยทอดเร่ืองราว เนอื้ หาเรื่องราวในงานทศั นศลิ ป์

งานโครงสรา้ งเคลอื่ นไหว ความสาคัญของงานทศั นศิลป์ในชวี ติ ประจาวัน งานทศั นศลิ ป์ในทอ้ งถน่ิ

โดยบรรยายรปู ร่าง รูปทรงท่พี บในธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม ระบทุ ศั นธาตุท่ีอยู่ในส่ิงแวดล้อม และ

งานทศั นศิลป์ โดยเน้นเร่ืองเส้น สี รปู ร่าง และรปู ทรง สรา้ งงานทัศนศิลปต์ ่าง ๆ โดยใชท้ ัศนธาตุทเ่ี นน้ เสน้

รปู รา่ ง มีทกั ษะพ้นื ฐานในการใช้วัสดุ อปุ กรณ์ สร้างงานทัศนศลิ ป์ ๓ มิติ สรา้ งภาพปะติดโดยการตัดหรอื ฉกี

กระดาษ วาดภาพเพอ่ื ถ่ายทอดเร่ืองราวเก่ยี วกับครอบครวั ของตนเองและเพอื่ นบา้ น เลอื กงานทศั นศิลป์ และ

บรรยายถงึ ส่งิ ทม่ี องเหน็ รวมถึงเนอื้ หาเรือ่ งราว สรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลป์เป็นรูปแบบงานโครงสรา้ งเคล่ือนไหว

บอกความสาคัญของงานทัศนศิลปท์ พ่ี บเห็นในชวี ิตประจาวัน อภปิ รายเก่ยี วกบั งานทศั นศลิ ป์ประเภทต่าง ๆ

ในท้องถนิ่ โดยเน้นถงึ วธิ ีการสรา้ งงานและวสั ดุอปุ กรณ์ ท่ีใช้

มงุ่ หวงั ให้ผเู้ รยี นมีความคิดรเิ รม่ิ สร้างสรรค์ มีจนิ ตนาการทางศลิ ปะ ชืน่ ชมความงาม มีสุนทรียภาพ

ความมคี ณุ ค่า ซ่งึ มีผลตอ่ คุณภาพชวี ติ มนุษย์ กจิ กรรมทางศิลปะชว่ ยพัฒนาผเู้ รยี นทั้งดา้ นร่างกาย จิตใจ

สตปิ ัญญา อารมณ์ สังคม ตลอดจน การนาไปสู่การพฒั นาสง่ิ แวดล้อมส่งเสรมิ ให้ผู้เรียนมีความเช่ือมั่นในตนเอง

รักความเปน็ ไทย กลา้ แสดงออก และค่านยิ มท่เี หมาะสม

รหัสตัวช้ีวัด
ศ ๑.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔ ป.๒/๕ ป.๒/๖ ป.๒/๗ ป.๒/๘
ศ ๑.๒ ป.๒/๑ ป.๒/๒
รวมทัง้ ส้นิ ๑๐ ตัวช้วี ัด

สำระท่ี ๒ ดนตรี
รแู้ ละเข้าใจ สีสันของเสยี งเคร่ืองดนตรี สสี ันของเสยี งมนษุ ย์การฝึกโสตประสาท การจาแนกเสียง

สูง-ตา่ ดัง-เบา ยาว-ส้ัน การเคลือ่ นไหวประกอบเนื้อหาในบทเพลง การเลน่ เคร่อื งดนตรีประกอบเพลง
การขับรอ้ ง ความหมายและความสาคัญของเพลงท่ีได้ยิน เพลงปลุกใจ เพลงสอนใจ บทเพลงในทอ้ งถน่ิ
ลกั ษณะของเสียงร้องในบทเพลง ลกั ษณะของเสียงเครือ่ งดนตรที ี่ใช้ในบทเพลง กิจกรรมดนตรีในโอกาสพเิ ศษ

โดยจาแนกแหลง่ กาเนิด ของเสียงทไ่ี ดย้ ิน จาแนกคณุ สมบตั ิของเสยี ง สงู - ต่า , ดัง-เบา ยาว-ส้ัน ของ
ดนตรีเคาะจงั หวะหรือเคลื่อนไหวรา่ งกายให้สอดคลอ้ งกับเนือ้ หาของเพลง รอ้ งเพลงง่าย ๆ ท่ีเหมาะสมกบั วัย

๑๔๙

บอกความหมายและความสาคัญของเพลงทีไ่ ดย้ ิน บอกความสัมพันธ์ของเสียงรอ้ งเสยี งเครื่องดนตรใี นเพลง
ท้องถน่ิ โดยใช้คาง่าย ๆ แสดงและเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางดนตรใี นทอ้ งถ่ิน

มงุ่ หวังให้ผู้เรียนเขา้ ใจบทบาทหนา้ ท่ี ความหมาย ความสาคัญของบทเพลงใกล้ตัวที่ได้ยนิ แสดงความ
คิดเหน็ เกย่ี วกับดนตรี เสียงขับร้องของตนเอง ร้แู ละเข้าใจเอกลักษณ์ของดนตรใี นท้องถ่ิน มีความช่ืนชอบ เหน็
ความสาคญั และประโยชนข์ องดนตรีตอ่ การดาเนินชีวิตของคนในท้องถิ่น สง่ เสริมให้ผู้เรียนมคี วามเชอื่ มั่นใน
ตนเอง รักความเป็นไทย กล้าแสดงออก และคา่ นิยมทเ่ี หมาะสม

รหสั ตัวชี้วดั
ศ ๒.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔ ป.๒/๕
ศ ๒.๒ ป.๒/๑ ป.๒/๒
รวมท้งั สน้ิ ๗ ตัวช้ีวดั

สำระท่ี ๓ นำฏศลิ ป์
รู้และเข้าใจการเคล่อื นไหวอยา่ งมีรูปแบบ การนงั่ การยนื การเดิน การประดิษฐท์ ่าจากการเคล่อื นไหว

อยา่ งมรี ูปแบบ เพลงท่ีเกี่ยวกับสิง่ แวดลอ้ ม หลักและวธิ ีการปฏิบัตนิ าฏศิลป์ การฝึกภาษาทา่ สื่อความหมายแทน
อากปั กริ ิยา การฝึกนาฏยศพั ท์ในส่วนลาตัว การใช้ภาษาท่าและนาฏยศัพท์ประกอบจงั หวะ มารยาทในการชม
การแสดง การเขา้ ชมหรือมีส่วนร่วม การละเล่นพน้ื บ้าน วธิ ีการเลน่ กตกิ า ทีม่ าของการละเลน่ พน้ื บา้ น
การละเล่นพื้นบ้าน

โดยเคล่อื นไหวขณะอยู่กับทีแ่ ละเคล่ือนท่ี แสดงการเคลอื่ นไหวที่สะท้อนอารมณข์ องตนเองอยา่ งอสิ ระ
แสดงท่าทาง เพอ่ื สอ่ื ความหมายแทนคาพดู แสดงท่าทางประกอบจังหวะอย่างสรา้ งสรรค์ ระบมุ ารยาทใน
การชมการแสดง ระบแุ ละเล่นการละเลน่ พืน้ บ้าน เชื่อมโยงสิ่งท่ีพบเห็นในการละเลน่ พน้ื บ้านกับสง่ิ ที่พบเหน็ ใน
การดารงชีวิตของคนไทย ระบสุ ิ่งทชี่ ่นื ชอบและภาคภมู ิใจในการละเลน่ พน้ื บ้าน

ม่งุ หวังให้ผูเ้ รยี นสรา้ งสรรคก์ ารเคลื่อนไหวรปู แบบต่างๆ แสดงทา่ ทางประกอบจงั หวะเพลง ช่นื ชอบ
และภูมิใจในการละเลน่ พ้นื บ้าน สามารถเชอ่ื มโยงส่งิ ทพ่ี บเหน็ ในการละเลน่ พืน้ บ้านกบั การดารงชวี ิตของคนไทย
บอกลกั ษณะเดน่ และเอกลักษณข์ องนาฏศลิ ปไ์ ทยตลอดจนความสาคญั ของการแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทยได้ สง่ เสริม
ให้ผเู้ รยี นมีความเช่อื มัน่ ในตนเอง รกั ความเป็นไทย กล้าแสดงออก และค่านยิ มที่เหมาะสม

รหสั ตัวช้ีวดั
ศ ๓.๑ ป๒/๑ , ป๒/๒ , ป๒/๓ ,ป๒/๔ ,ป๒/๕
ค ๓.๒ ป๒/๑ ,ป๒/๒ , ป๒/๓
รวมท้งั หมด ๘ ตัวช้ีวัด

๑๕๐

คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

ศ ๑๓๑๐๑ รำยวิชำ ทัศนศิลป์ กลุ่มสำระกำรเรียนรูศ้ ิลปะ

ชัน้ ประถมศึกษำปที ่ี ๓ เวลำเรยี น ๔๐ ชว่ั โมง/ปี จำนวน ๑ หน่วยกติ

**********************************************************************************

สำระที่ ๑ ทัศนศลิ ป์

รแู้ ละเขา้ ใจรปู ร่าง รปู ทรงในธรรมชาติสง่ิ แวดล้อมและงานทศั นศิลป์ วัสดุ อปุ กรณ์ท่ีใชส้ ร้างงาน

ทศั นศิลปป์ ระเภทงานวาด งานป้ัน งานพมิ พภ์ าพ เส้น สี รูปร่าง รปู ทรง พื้นผิว ในธรรมชาตสิ ง่ิ แวดล้อมและ

งานทัศนศลิ ป์ การวาดภาพระบายสี สง่ิ ของรอบตัวด้วยสีเทียน ดนิ สอสี และสโี ปสเตอร์ การใช้วสั ดอุ ุปกรณใ์ น

งานปน้ั การใชเ้ สน้ รปู ร่าง รปู ทรง สี และพืน้ ผวิ วาดภาพถ่ายทอดความคดิ ความร้สู กึ วสั ดุ อปุ กรณ์ เทคนคิ วิธี

การในการสรา้ งงานทัศนศิลป์ การแสดงความคิดเห็นในงานทัศนศลิ ป์ของตนเอง การจดั กล่มุ ของภาพตาม

ทัศนธาตุ รูปร่าง รูปทรง ในงานออกแบบ ทมี่ าของงานทศั นศิลปใ์ นท้องถนิ่ วสั ดุ อุปกรณ์ และวิธีการสร้างงาน

ทศั นศลิ ปใ์ นทอ้ งถ่ิน

โดยบรรยาย รูปรา่ ง รปู ทรงในธรรมชาตสิ ง่ิ แวดลอ้ ม และงานทศั นศลิ ป์ ระบุ วัสดุ อุปกรณ์ท่ีใช้สร้าง

ผลงานเม่อื ชมงานทัศนศิลป์ จาแนกทัศนธาตขุ องสง่ิ ต่าง ๆ ในธรรมชาติส่งิ แวดลอ้ มและงานทัศนศิลป์ โดยเน้น

เรอื่ ง เสน้ สี รูปรา่ ง รปู ทรง พนื้ ผวิ วาดภาพ ระบายสสี งิ่ ของรอบตวั มีทักษะพืน้ ฐาน ในการใชว้ ัสดุอปุ กรณ์

สรา้ งสรรคง์ านปั้น วาดภาพถา่ ยทอดความคดิ ความรู้สึกจากเหตุการณช์ วี ติ จริง โดยใชเ้ ส้น รปู ร่าง รูปทรง สี

พื้นผวิ บรรยายเหตผุ ล วธิ ีการในการสร้างงานทศั นศิลป์ โดยเน้นถึงเทคนิคและวัสดุ อุปกรณ์ ระบุส่ิงที่ชนื่ ชม

สงิ่ ที่ควรปรับปรุงในงานทัศนศลิ ป์ของตนเองระบุ และจดั กลุ่มของภาพตามทัศนธาตุทเี่ นน้ ในงานทศั นศิลป์นั้น ๆ

บรรยายลักษณะรูปรา่ ง รปู ทรง ในงานการออกแบบส่งิ ตา่ ง ๆ ที่มีในบ้านและโรงเรยี น เล่าถึงทีม่ าของงาน

ทัศนศิลป์ในท้องถิน่ อธบิ ายเกย่ี วกบั วัสดอุ ุปกรณ์และวิธกี ารสรา้ งงานทัศนศลิ ปใ์ นทอ้ งถ่ิน

ม่งุ หวังให้ผ้เู รียนมีความคดิ ริเรมิ่ สรา้ งสรรค์ มีจนิ ตนาการทางศิลปะ ชื่นชมความงาม มสี ุนทรียภาพ

ความมคี ณุ คา่ ซึ่งมีผลต่อคุณภาพชีวติ มนษุ ย์ กจิ กรรมทางศิลปะชว่ ยพฒั นาผเู้ รียนทง้ั ด้านรา่ งกาย จติ ใจ

สติปัญญา อารมณ์ สงั คม ตลอดจน การนาไปสกู่ ารพฒั นาส่ิงแวดล้อมสง่ เสริมให้ผูเ้ รยี นมคี วามเชื่อมั่นในตนเอง

รกั ความเปน็ ไทย กลา้ แสดงออก และค่านยิ มท่ีเหมาะสม

รหสั ตวั ชี้วัด
ศ ๑.๑ ป๓/๑ ,ป๓/๒ ,ป๓/๓ ,ป๓/๔ ,ป๓/๕ ,ป๓/๖ ,ป๓/๗,ป๓/๘ ,ป๓/๙ ,ป๓/๑๐
ศ ๑.๒ ป๓/๑ ,ป๓/๒
รวมทงั้ หมด ๑๒ ตัวชี้วดั

๑๕๑

สำระท่ี ๒ ดนตรี
รแู้ ละเขา้ ใจ รปู ร่างลักษณะของเครอ่ื งดนตรี เสียงของเคร่อื งดนตรี สญั ลักษณ์แทนคุณสมบัติของเสียง

(สูง-ต่า ดงั -เบา ยาว-ส้นั ) สัญลกั ษณ์แทนรูปแบบจังหวะ บทบาทหน้าที่ของบทเพลงสาคญั เพลงชาติ เพลง
สรรเสริญพระบารมี เพลงประจาโรงเรียน การขับรอ้ งเด่ยี วและหมู่ การบรรเลงเครอ่ื งดนตรีประกอบเพลง
การเคลือ่ นไหวตามอารมณ์ของบทเพลง การแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั เสียงร้องและเสียงดนตรี คณุ ภาพเสียง
รอ้ ง คุณภาพเสียงดนตรี การใช้ดนตรีในโอกาสพิเศษ ดนตรใี นงานร่ืนเรงิ ดนตรใี นการฉลองวันสาคญั ของชาติ
บทเพลงในทอ้ งถิ่นลักษณะของเสียงร้องในบทเพลง ลักษณะของเสียงเครื่องดนตรีท่ีใช้ในบทเพลง กิจกรรมดนตรี
ในโอกาสพเิ ศษดนตรกี บั โอกาสสาคัญในโรงเรยี น ดนตรกี ับวนั สาคญั ของชาติ เอกลักษณข์ องดนตรีในท้องถิ่น
ลักษณะเสยี งร้องของดนตรีในท้องถ่ิน ภาษาและเนื้อหาในบทรอ้ งของดนตรีในท้องถนิ่ เครอ่ื งดนตรแี ละวงดนตรี
ในท้องถิ่น ดนตรีกบั การดาเนินชวี ติ ในท้องถ่นิ ดนตรใี นชวี ติ ประจาวนั ดนตรีในวาระสาคญั

โดยระบรุ ูปรา่ งลกั ษณะของเครอ่ื งดนตรที ่ีเห็นและได้ยินในชีวิตประจาวัน ใชร้ ูปภาพหรอื สัญลักษณ์
แทนเสยี ง จังหวะเคาะ บอกบทบาทหนา้ ทข่ี องเพลงทีไ่ ดย้ ิน ขับร้อง บรรเลงดนตรงี า่ ย ๆ เคล่ือนไหวทา่ ทาง
สอดคล้องกับอารมณ์ของเพลงทีฟ่ ัง แสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกบั เสยี งดนตรี เสียงขับร้องของตนเองและผอู้ ่นื
นาดนตรีไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันหรอื โอกาสต่าง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม ระบลุ ักษณะเด่นและเอกลักษณ์ของดนตรี
ในทอ้ งถ่นิ ระบุความสาคญั และประโยชนข์ องดนตรีต่อการดาเนนิ ชีวิตของคนในทอ้ งถิ่น

ม่งุ หวงั ให้ผ้เู รียนเข้าใจบทบาทหน้าที่ ความหมาย ความสาคัญของบทเพลงใกล้ตวั ท่ีไดย้ ิน แสดงความ
คดิ เห็นเกย่ี วกบั ดนตรี เสียงขบั รอ้ งของตนเอง รู้และเข้าใจเอกลกั ษณ์ของดนตรีในท้องถนิ่ มีความชื่นชอบ
เห็นความสาคัญ และประโยชนข์ องดนตรีตอ่ การดาเนนิ ชวี ติ ของคนในทอ้ งถิน่ สง่ เสริมใหผ้ ู้เรียนมีความเชื่อม่ัน
ในตนเอง รักความเปน็ ไทย กล้าแสดงออก และค่านยิ มท่เี หมาะสม

รหัสตัวชี้วดั
ศ ๒.๑ ป๓/๑ ,ป๓/๒ ,ป๓/๓ ,ป๓/๔ ,ป๓/๕ ,ป๓/๖ ,ป๓/๗
ศ ๒.๒ ป๓/๑ ,ป๓/๒
รวมท้งั หมด ๑๐ ตวั ช้ีวดั

๑๕๒

สำระท่ี ๓ นำฏศลิ ป์
รู้และเขา้ ใจ การเคลื่อนไหวในรูปแบบตา่ ง ๆ ราวงมาตรฐาน เพลงพระราชนิพนธ์ สถานการณ์สัน้ ๆ

สถานการณ์ทก่ี าหนดให้ หลักและวิธีการปฏิบัตนิ าฏศลิ ป์ การฝึกภาษาทา่ ส่ืออารมณ์ของมนษุ ย์ การฝึก
นาฎยศัพท์ ในสว่ นขา หลกั ในการชมการแสดง ผู้แสดง ผู้ชม การมีสว่ นรว่ มการบูรณาการนาฏศิลป์กับสาระ
การเรียนรูอ้ ื่น ๆ การแสดงนาฏศลิ ปพ์ ื้นบา้ นหรือท้องถน่ิ ของตน การแสดงนาฏศลิ ปล์ กั ษณะ เอกลักษณ์ ที่มา
ของการแสดงนาฏศิลป์ ส่ิงทีเ่ คารพ

โดยสร้างสรรค์การเคลอื่ นไหวในรปู แบบตา่ ง ๆ ในสถานการณ์ส้นั ๆ แสดงท่าทางประกอบเพลงตาม
รปู แบบนาฏศิลป์ เปรียบเทียบบทบาทหน้าท่ีของผู้แสดงและผู้ชม มสี ่วนร่วมในกิจกรรมการแสดงทเ่ี หมาะสมกับ
วัย บอกประโยชนข์ องการแสดงนาฏศลิ ป์ในชวี ิตประจาวนั เล่าการแสดงนาฏศิลปท์ ่ีเคยเห็นในทอ้ งถน่ิ ระบุสงิ่ ท่ี
เป็นลกั ษณะเดน่ และเอกลกั ษณข์ องการแสดงนาฏศลิ ป์ อธบิ ายความสาคญั ของการแสดงนาฏศลิ ป์

ม่งุ หวังใหผ้ เู้ รยี นสรา้ งสรรคก์ ารเคลอ่ื นไหวรูปแบบตา่ งๆ แสดงท่าทางประกอบจงั หวะเพลง สามารถ
แสดงท่าทางประกอบจังหวะเพลงตามรปู แบบนาฏศลิ ป์ ชื่นชอบและภูมิใจในการละเลน่ พื้นบา้ น สามารถ
เช่ือมโยงส่ิงทพ่ี บเหน็ ในการละเลน่ พ้นื บา้ นกับการดารงชีวิตของคนไทย บอกลักษณะเด่นและเอกลกั ษณ์ของ
นาฏศลิ ป์ไทยตลอดจนความสาคัญของการแสดงนาฏศิลป์ไทยได้ สง่ เสริมให้ผ้เู รยี นมคี วามเช่อื มน่ั ในตนเอง
รกั ความเปน็ ไทย กล้าแสดงออก และค่านิยมท่เี หมาะสม เช่ือมโยงทักษะความร้ตู ามหลกั เศรษฐกจิ พอเพียง

รหสั ตวั ชี้วัด
ศ ๓.๑ ป๓/๑, ป๓/๒ ,ป๓/๓ , ป๓/๔ ,ป๓/๕
ศ ๓.๒ ป๓/๑, ป๓/๒ ,ป๓/๓
รวมทงั้ หมด ๘ ตัวชีว้ ัด

๑๕๓

คำอธิบำยรำยวิชำพนื้ ฐำน

ศ ๑๔๑๐๑ รำยวชิ ำ ทัศนศิลป์ กล่มุ สำระกำรเรยี นรูศ้ ิลปะ

ช้ันประถมศกึ ษำปที ่ี ๔ เวลำเรียน ๔๐ ช่ัวโมง/ปี จำนวน ๑ หนว่ ยกิต

*******************************************************************************

สำระที่ ๑ ทศั นศิลป์

รูแ้ ละเข้าใจ รูปรา่ ง รปู ทรง ในธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและงานทศั นศิลป์ อิทธพิ ลของสี วรรณะอนุ่ และ

วรรณะเย็น เส้น สี รูปรา่ ง รูปทรง พืน้ ผิว พืน้ ทว่ี ่างในธรรมชาตสิ ่งิ แวดลอ้ มและงานทศั นศลิ ป์ การใช้วสั ดุ

อุปกรณ์สร้างงานพิมพ์ภาพ การใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ในการวาดภาพระบายสี การจัดระยะความลึก น้าหนักและแสง

เงา ในการวาดภาพ การใชส้ วี รรณะอุ่นและใช้สีวรรณะเยน็ วาดภาพถ่ายทอดความร้สู ึกและจินตนาการ

ความเหมอื นและความแตกตา่ งในงานทศั นศลิ ปค์ วามคิดความรู้สึกทีถ่ า่ ยทอดในงานทัศนศิลป์ การเลอื กใช้

วรรณะสเี พือ่ ถ่ายทอดอารมณ์ ความรสู้ ึก

โดยเปรยี บเทยี บรูปลักษณะของรปู รา่ ง รปู ทรงในธรรมชาติ ส่ิงแวดลอ้ มและงานทัศนศลิ ป์

อภปิ รายเกี่ยวกับอิทธิพลของสีวรรณะอ่นุ และสีวรรณะเยน็ ทมี่ ีต่ออารมณข์ องมนษุ ย์ จาแนกทัศนธาตขุ องส่งิ

ตา่ ง ๆ ในธรรมชาติสิง่ แวดล้อมและงานทศั นศลิ ป์โดยเนน้ เรือ่ งเส้น สี รปู รา่ ง รูปทรงพ้นื ผิว และพน้ื ท่ีวา่ ง

มที กั ษะพ้นื ฐานในการใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์สรา้ งสรรคง์ านพมิ พ์ภาพ มีทกั ษะพ้นื ฐานในการใช้วสั ดุ อปุ กรณ์

สรา้ งสรรค์งานวาดภาพระบายสี บรรยายลกั ษณะของภาพโดยเน้น เรื่องการจัดระยะ ความลกึ นา้ หนักและแสง

เงาในภาพวาดภาพระบายสี โดยใช้สวี รรณะอุน่ และสีวรรณะเย็น ถ่ายทอดความรสู้ ึกและจนิ ตนาการ

เปรียบเทียบความคิดความรู้สึก ที่ถ่ายทอดผ่านงานทศั นศลิ ป์ของตนเองและบุคคลอ่ืน เลือกใช้วรรณะสี

เพ่อื ถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สกึ ในการสร้างงานทัศนศิลป์ ระบุ และอภปิ รายเกย่ี วกับงานทศั นศิลป์ ในเหตุการณ์

และงานเฉลมิ ฉลองของวัฒนธรรมในทอ้ งถน่ิ บรรยายเก่ยี วกบั งานทศั นศิลป์ท่ีมาจากวัฒนธรรมตา่ ง ๆ

มงุ่ หวงั ให้ผูเ้ รยี นมีความคิดริเร่มิ สร้างสรรค์ มีจนิ ตนาการทางศลิ ปะ ช่ืนชมความงาม มสี ุนทรยี ภาพ

ความมีคุณคา่ ซ่งึ มผี ลต่อคุณภาพชวี ิตมนษุ ย์ กิจกรรมทางศิลปะช่วยพฒั นาผเู้ รียนทง้ั ด้านรา่ งกาย จติ ใจ

สตปิ ญั ญา อารมณ์ สังคม ตลอดจน การนาไปสกู่ ารพฒั นาสิ่งแวดล้อม สง่ เสรมิ ให้ผู้เรยี นมคี วามเชื่อมั่นในตนเอง

รักความเป็นไทย กล้าแสดงออก และค่านิยมทเ่ี หมาะสม อนั เปน็ พน้ื ฐาน ในการศึกษาต่อหรอื ประกอบอาชพี ได้

ในการศึกษาต่อหรอื ประกอบอาชพี ได้ รแู้ ละเข้าใจคณุ ค่าของทศั นศิลปท์ ่ีมีผลตอ่ ชวี ิตของคนในสงั คม

รหัสตัวช้ีวดั

ศ ๑.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓ ป.๔/๔ ป.๔/๕ ป.๔/๖ ป.๔/๗ ป.๔/๘ ป.๔/๙

ศ ๑.๒ ป.๔/๑ ป.๔/๒

รวมท้ังสิ้น ๑๑ ตัวช้ีวัด

ขา้ ใจ การกาเนิดของเสยี งเสียงจากธรรมชาตแิ หลง่ กาเนดิ ของเสียงสสี ันของเสียง ดัง-เบา (กลอนประกอบจงั หวะ

๑๕๔

สำระที่ ๒ ดนตรี
รู้และเขา้ ใจ โครงสร้างของบทเพลง ความหมายของประโยคเพลง การแบง่ ประโยคเพลง

ประเภทของเครอ่ื งดนตรี เสียงของเครื่องดนตรีแตล่ ะประเภท การเคลอ่ื นท่ขี นึ้ – ลงของทานอง รูปแบบจังหวะ
ของทานองจังหวะ รปู แบบจงั หวะ ความช้า – เร็วของจังหวะ เครื่องหมายและสัญลกั ษณ์ทางดนตรี กุญแจ
ประจาหลัก บรรทดั หา้ เส้น โน้ตและเคร่ืองหมายหยุด เสน้ กัน้ หอ้ งโครงสรา้ งโน้ตเพลงไทย การแบ่งห้อง
การแบ่งจังหวะการขบั รอ้ งเพลงในบนั ไดเสยี งทเี่ หมาะสมกบั ตนเอง การใช้และการดูแลรกั ษาเครอื่ งดนตรี
ของตน ความหมายของเนือ้ หาในบทเพลง ความสัมพนั ธ์ของวถิ ีชวี ิตกับผลงานดนตรี เนื้อหาเรอื่ งราวในบทเพลง
กับวถิ ชี วี ิต โอกาสในการบรรเลงดนตรี การอนุรักษว์ ัฒนธรรมทางดนตรีความสาคัญและความจาเป็นใน
การอนุรักษแ์ นวทางในการอนุรกั ษ์

บอกประโยคเพลงอยา่ งง่าย จาแนกประเภทของเคร่อื งดนตรที ใ่ี ชใ้ นเพลงที่ฟงั ระบทุ ศิ ทางการเคลื่อนท่ี
ขึ้นลงงา่ ย ๆ ของทานอง รูปแบบจงั หวะและความเร็ว ของจงั หวะในเพลงท่ีฟงั อา่ น เขียนโน้ตดนตรไี ทยและ
สากล ร้องเพลงโดยใชช้ ่วงเสยี งท่ีเหมาะสมกบั ตนเอง ใชแ้ ละเกบ็ เครอ่ื งดนตรีอย่างถกู ต้องและปลอดภยั
ระบุว่าดนตรสี ามารถใช้ในการส่ือเรื่องราว บอกแหลง่ ทมี่ าแลความสัมพันธข์ องวิถีชวี ิตไทยที่สะทอ้ นในดนตรี
และเพลงทอ้ งถิ่น ระบุความสาคญั ในการอนรุ ักษส์ ่งเสรมิ วฒั นธรรมทางดนตรี

มุ่งหวังใหผ้ ู้เรียนแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับองคป์ ระกอบของดนตรี ถ่ายทอดความรสู้ กึ ของบทเพลงท่ี
ฟัง เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งดนตรกี บั วิถีชวี ิต ประเพณี วฒั นธรรมไทย และวฒั นธรรมตา่ ง ๆ แสดงออกทาง
ดนตรีอยา่ งสรา้ งสรรค์ รู้คณุ ค่าดนตรที มี่ าจากวฒั นธรรมต่างกนั เห็นความสาคัญในการอนรุ ักษ์ สง่ เสรมิ ให้
ผู้เรยี นมคี วามเชอื่ ม่ันในตนเอง รักความเป็นไทย กลา้ แสดงออก และค่านยิ มที่เหมาะสม

รหสั ตวั ช้ีวดั
ศ ๒.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓ ป.๔/๔ ป.๔/๕ ป.๔/๖ ป.๔/๗
ศ ๒.๒ ป.๔/๑ ป.๔/๒
รวมท้ังสนิ้ ๙ ตัวชี้วดั

๑๕๕

สำระที่ ๓ นำฏศลิ ป์
รแู้ ละเขา้ ใจหลกั และวิธกี ารปฏบิ ตั นิ าฏศิลป์ การฝึกภาษาทา่ การฝกึ นาฏยศัพท์ การใช้ภาษาท่า

และนาฏยศัพทป์ ระกอบเพลงปลุกใจและเพลงพระราชนิพนธ์ การใช้ศพั ท์ทางการละครในการถา่ ยทอด
เรื่องราว การประดษิ ฐ์ทา่ ทางหรือท่าราประกอบจังหวะพนื้ เมือง การแสดงนาฏศิลป์ ประเภทคู่และหมู่ ราวง
มาตรฐาน ระบา การเล่าเรื่อง จุดสาคัญ ลกั ษณะเดน่ ของตัวละคร ความเป็นมาของนาฏศิลป์ ทมี่ าของชุด
การแสดง การชมการแสดงนาฏศิลป์ การแสดงของทอ้ งถนิ่ ความเปน็ มาของนาฏศลิ ป์ การทาความเคารพก่อน
เรียนและกอ่ นแสดง ความเปน็ มาของนาฏศลิ ป์ คุณค่า

โดยระบุทักษะพ้ืนฐานทางนาฏศิลปแ์ ละ การละครทใ่ี ชส้ อ่ื ความหมายและอารมณใ์ ชภ้ าษาท่า
และนาฏยศพั ท์หรือศพั ท์ทางการละครงา่ ย ๆ ในการถา่ ยทอดเรอ่ื งราวแสดง การเคลอื่ นไหวในจงั หวะตา่ ง ๆ
ตามความคิดของตน แสดงนาฏศิลป์เปน็ คู่ และหมู่ เลา่ สิ่งท่ชี ่นื ชอบในการแสดงโดยเนน้ จดุ สาคัญของเรือ่ งและ
ลกั ษณะเด่นของตวั ละคร อธิบายประวัติความเป็นมาของนาฏศิลป์ หรือชดุ การแสดงอยา่ งง่าย ๆ เปรยี บเทียบ
การแสดงนาฏศลิ ป์กับการแสดงทม่ี าจากวัฒนธรรมอืน่ อธบิ ายความสาคญั ของการแสดงความเคารพใน
การเรยี นและการแสดงนาฏศลิ ป์ ระบเุ หตุผลท่คี วรรกั ษา และสืบทอดการแสดงนาฏศิลป์

มุง่ หวังใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรู้ความเข้าใจองค์ประกอบนาฏศลิ ป์ แสดงออกทางนาฏศลิ ปอ์ ยา่ ง
สร้างสรรค์ สามารถแสดงภาษาท่า นาฏยศพั ทพ์ ื้นฐาน สร้างสรรค์การเคล่อื นไหวและการแสดงนาฏศิลป์ และ
การละครง่าย ๆ เห็นความสาคญั ในการอนุรักษ์ ส่งเสริมใหผ้ ู้เรียนมคี วามเช่ือมัน่ ในตนเอง รกั ความเป็นไทย
กลา้ แสดงออก และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งนาฏศลิ ปก์ ับประวตั ศิ าสตร์ วฒั นธรรม
เห็นคุณค่าของนาฏศิลป์ที่เป็นมรดกทางวฒั นธรรม
รหัสตัวช้ีวัด
ศ ๓.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓ ป.๔/๔ ป.๔/๕
ศ ๓.๒ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓ ป.๔/๔
รวมท้ังสนิ้ ๙ ตวั ชีว้ ัด

๑๕๖

คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

ศ ๑๕๑๐๑ รำยวิชำ ทศั นศลิ ป์ กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ

ชน้ั ประถมศึกษำปที ่ี ๕ เวลำเรยี น ๔๐ ช่ัวโมง/ปี จำนวน ๑ หน่วยกิต

*******************************************************************************

สำระที่ ๑ ทัศนศลิ ป์

รูแ้ ละเข้าใจ จงั หวะ ตาแหน่งของสิ่งต่าง ๆ ในสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ ความแตกต่างระหว่างงาน

ทศั นศลิ ป์ แสงเงา น้าหนัก และวรรณะสี การสรา้ งงานป้ันเพื่อถา่ ยทอดจนิ ตนาการดว้ ยการใช้ดนิ นา้ มนั หรอื

ดินเหนยี ว การจดั ภาพในงานพิมพ์ภาพ การจัดองค์ประกอบศิลป์และการสอื่ ความหมาย ในงานทัศนศลิ ป์

ประโยชน์และคณุ ค่าของงานทศั นศลิ ป์ ลกั ษณะรปู แบบของงานทัศนศลิ ป์ งานทศั นศิลป์ท่ีสะท้อนวัฒนธรรม

และภมู ิปญั ญาในท้องถ่นิ

โดยบรรยายเกย่ี วกบั จังหวะตาแหนง่ ของสิ่งตา่ ง ๆ ท่ีปรากฏในสงิ่ แวดล้อม และงานทศั นศิลป์

เปรียบเทยี บความแตกต่างระหวา่ งงานทศั นศิลป์ ทส่ี ร้างสรรค์ด้วยวัสดุอุปกรณ์และวิธกี ารที่ตา่ งกนั

วาดภาพ โดยใช้เทคนคิ ของแสงเงา นา้ หนกั และวรรณะสี สร้างสรรค์งานป้ันจาก ดินนา้ มัน หรอื ดนิ เหนยี ว

เน้นการถา่ ยทอดจินตนาการ สรา้ งสรรคง์ านพิมพ์ภาพ โดยเน้น การจดั วางตาแหนง่ ของสงิ่ ตา่ ง ๆ ในภาพ ระบุ

ปัญหา ในการจัดองค์ประกอบศิลป์ และการสือ่ ความหมายในงานทัศนศิลป์ของตนเอง และบอกวิธกี ารปรบั ปรงุ

งานใหด้ ขี น้ึ บรรยายประโยชน์และคณุ ค่าของงานทัศนศลิ ป์ที่มผี ลต่อชีวติ ของคนในสงั คม ระบุ และบรรยาย

เกีย่ วกบั ลกั ษณะรูปแบบของงานทัศนศิลป์ในแหล่งเรียนรู้หรือนิทรรศการศลิ ปะ อภิปรายเกย่ี วกบั งานทศั นศลิ ป์

ท่สี ะทอ้ นวฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาในทอ้ งถ่ิน

มงุ่ หวังใหผ้ ้เู รียนมคี วามคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ มีจินตนาการ ชื่นชมความงาม มีสุนทรยี ภาพ ความมีคุณค่า

ซง่ึ มีผลตอ่ มนษุ ยซ์ ึ่งมผี ลต่อคุณภาพชีวิตมนุษย์ กจิ กรรมทางศิลปะช่วยพฒั นาผู้เรียนทง้ั ดา้ นร่างกาย จิตใจ

สติปัญญา อารมณ์ สังคม ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความเชอื่ มัน่ ในตนเอง รกั ความเปน็ ไทย กล้าแสดงออก และ

คา่ นิยมทีเ่ หมาะสม อนั เป็นพนื้ ฐาน ในการศกึ ษาต่อหรือประกอบอาชีพได้ ในการ ศึกษาต่อหรือประกอบอาชีพ

ได้ ร้แู ละเข้าใจคณุ ค่าของทัศนศลิ ป์ท่มี ีผลต่อชีวิตของคนในสงั คม

รหสั ตวั ช้ีวัด
ศ ๑.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕ ป.๕/๖ ป.๕/๗
ศ ๑.๒ ป.๕/๑ ป.๕/๒
รวมท้ังสิ้น ๙ ตัวชว้ี ดั

๑๕๗

สำระท่ี ๒ ดนตรี
รู้และเขา้ ใจลักษณะของเสยี งนักรอ้ งกลุ่มต่าง ๆ ลักษณะเสียงของวงดนตรีประเภทตา่ ง ๆ

เครอ่ื งหมายและสญั ลักษณ์ทางดนตรี บนั ไดเสียง ๕ เสียง Pentatonic scale โน้ตเพลงในบันไดเสยี ง ๕ เสียง
Pentatonic scale การบรรเลงเครื่องประกอบจังหวะ การบรรเลงทานองด้วยเคร่ืองดนตรี การรอ้ งเพลงไทย
ในอัตราจังหวะสองชนั้ การรอ้ งเพลงสากล หรอื ไทยสากล การรอ้ งเพลงประสานเสยี งแบบ Canon Round
การสร้างสรรคป์ ระโยคเพลงถาม-ตอบ การบรรเลงดนตรีประกอบกจิ กรรมนาฏศลิ ป์ การสรา้ งสรรค์เสยี ง
ประกอบการเลา่ เรอ่ื ง ดนตรกี บั งานประเพณี บทเพลงในงานประเพณใี นท้องถ่ิน บทบาทของดนตรใี นแต่ละ
ประเพณี คุณคา่ ของดนตรีจากแหล่งวัฒนธรรม คณุ คา่ ทางสังคม คุณค่าทางประวตั ศิ าสตร์

โดยระบุองค์ประกอบดนตรีในเพลงท่ใี ช้ในการสอื่ อารมณ์ จาแนกลักษณะของเสยี งขบั ร้องและเคร่ือง
ดนตรที อ่ี ยู่ในวงดนตรีประเภทต่าง ๆ อา่ น เขยี นโนต้ ดนตรไี ทยและสากล ๕ ระดับเสียง ใช้เครื่องดนตรบี รรเลง
จงั หวะ และทานอง ร้องเพลงไทยหรอื เพลงสากลหรอื เพลงไทยสากลที่เหมาะสมกบั วัย ดน้ สดงา่ ย ๆ โดยใช้
ประโยคเพลงแบบถามตอบ ใช้ดนตรรี ่วมกับกจิ กรรมในการแสดงออกตามจนิ ตนาการ อธิบายความสมั พนั ธ์
ระหว่างดนตรีกับประเพณใี นวฒั นธรรมตา่ ง ๆ อธิบายคณุ ค่าของดนตรที ม่ี าจากวฒั นธรรมที่ต่างกัน

มุง่ หวังให้ผเู้ รียนแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั องคป์ ระกอบดนตรี ถ่ายทอดความรสู้ กึ ของบทเพลงที่ฟัง
เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหว่างดนตรีกับวถิ ีชีวิต ประเพณี วฒั นธรรมไทย และวัฒนธรรมตา่ งๆ แสดงออกทาง
ดนตรอี ยา่ งสร้างสรรค์ รู้คณุ ค่าดนตรีท่มี าจากวัฒนธรรมต่างกนั เหน็ ความสาคญั ในการอนุรกั ษ์ สง่ เสริมให้
ผู้เรยี นมคี วามเชื่อมน่ั ในตนเอง รักความเป็นไทย กลา้ แสดงออก และคา่ นิยมทเี่ หมาะสม

รหสั ตวั ช้ีวดั
ศ ๒.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕ ป.๕/๖ ป.๕/๗
ศ ๒.๒ ป.๕/๑ ป.๕/๒
รวมทั้งสน้ิ ๙ ตัวช้ีวัด

๑๕๘

สำระที่ ๓ นำฏศลิ ป์
รูแ้ ละเข้าใจองค์ประกอบของนาฏศิลป์ จังหวะ ทานอง คารอ้ ง ภาษาท่า นาฏยศัพท์ อุปกรณ์

การประดษิ ฐท์ า่ ทางประกอบเพลงหรือท่าทางประกอบเร่อื งราว การแสดงนาฏศิลป์ ระบา ฟ้อน ราวงมาตรฐาน
องคป์ ระกอบของละคร การเลือกและเขียนเคา้ โครงเร่อื ง บทละครสนั้ ๆ ท่มี าของการแสดงนาฏศิลป์ชุดต่างๆ
หลกั การชมการแสดง การถ่ายทอดความรู้สึกและคุณค่าของการแสดง การแสดงนาฏศลิ ป์ประเภทตา่ ง ๆ
การแสดงพ้ืนบ้าน การแสดงนาฏศลิ ปป์ ระเภทตา่ ง ๆการแสดงพนื้ บ้าน

โดยบรรยายองค์ประกอบนาฏศิลป์ แสดงท่าทางประกอบเพลงหรือเรื่องราวตามความคดิ ของตน
แสดงนาฏศลิ ป์ โดยเนน้ การใชภ้ าษาท่าและนาฏยศพั ทใ์ นการส่อื ความหมายและการแสดงออก มสี ว่ นรว่ มใน
กลุ่มกับการเขียนเคา้ โครงเร่ืองหรอื บทละครส้ัน ๆ เปรียบเทยี บการแสดงนาฏศิลป์ชุดต่าง ๆ บอกประโยชน์ท่ี
ได้รับจากการชมการแสดง เปรียบเทยี บการแสดงประเภทต่าง ๆ ของไทย ในแต่ละทอ้ งถิ่น ระบุหรือแสดง
นาฏศลิ ป์ นาฏศลิ ปพ์ ื้นบ้านที่สะทอ้ นถึงวัฒนธรรมและประเพณี

ม่งุ หวงั ใหผ้ ูเ้ รยี นมคี วามรคู้ วามเข้าใจองคป์ ระกอบนาฏศิลป์ แสดงออกทางนาฏศิลปอ์ ย่างสร้างสรรค์
สามารถแสดงภาษาท่า นาฏยศพั ทพ์ ้ืนฐาน สรา้ งสรรคก์ ารเคลอ่ื นไหวและการแสดงนาฏศิลป์ และการละคร
งา่ ย ๆ เหน็ ความสาคัญในการอนรุ กั ษ์ ส่งเสริมให้ผู้เรยี นมคี วามเชอ่ื มน่ั ในตนเอง รักความเปน็ ไทย
กล้าแสดงออก และค่านยิ มทีเ่ หมาะสม เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหวา่ งนาฏศิลป์กบั ประวตั ศิ าสตร์ วัฒนธรรม
เห็นคณุ ค่าของนาฏศลิ ป์ทเ่ี ป็นมรดกทางวัฒนธรรม

รหัสตวั ช้ีวดั
ศ ๓.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕ ป.๕/๖
ศ ๓.๒ ป.๕/๑ ป.๕/๒
รวมทงั้ สน้ิ ๘ ตัวชว้ี ัด

๑๕๙

คำอธบิ ำยรำยวิชำพนื้ ฐำน

ศ ๑๖๑๐๑ รำยวชิ ำ ทัศนศิลป์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศิลปะ

ชนั้ ประถมศกึ ษำปีที่ ๖ เวลำเรยี น ๔๐ ช่ัวโมง/ปี จำนวน ๑ หนว่ ยกติ

**********************************************************************************

รู้และเขา้ ใจวงสีธรรมชาติ และสีคูต่ รงข้าม หลกั การจัดขนาด สดั สว่ นความสมดลุ ในงานทศั นศลิ ป์

งานทัศนศิลป์รูปแบบ ๒ มติ ิ และ ๓ มิติ การใช้หลกั การเพ่มิ และลดในการสร้างสรรค์งานป้ัน รปู และพ้ืนท่วี า่ ง

ในงานทศั นศิลป์ การสรา้ งสรรค์งานทัศนศิลป์โดยใช้สีค่ตู รงขา้ ม หลักการจัดขนาด สัดสว่ นและความสมดุล

การสร้างงานทัศนศิลปเ์ ปน็ แผนภาพ แผนผัง และภาพประกอบ บรรยายบทบาทของงานทศั นศิลป์ที่สะท้อน

ชีวติ และสงั คม อภปิ รายเกยี่ วกับอิทธพิ ลของ ความเชอ่ื ความศรัทธาในศาสนาทม่ี ีผลต่องานทัศนศลิ ปใ์ นท้องถิ่น

ระบุ และบรรยายอิทธิพลทางวัฒนธรรมในท้องถิน่ ท่ีมีผลตอ่ การสร้างงานทัศนศลิ ปข์ องบุคคล

โดย ระบสุ คี ตู่ รงข้าม อภิปรายเกี่ยวกบั การใช้สคี ู่ตรงข้ามในการถ่ายทอดความคิดและอารมณ์

อธิบายหลักการจัดขนาดสัดส่วนความสมดุลในการสรา้ งงานทัศนศลิ ป์ สร้างงานทศั นศลิ ปจ์ ากรปู แบบ ๒ มติ ิ

เป็น๓ มติ ิ โดยใชห้ ลกั การของแสงเงา นา้ หนกั งานปั้นโดยใช้หลักการเพ่มิ และลด สร้างสรรค์งานทัศนศลิ ปโ์ ดย

ใช้หลกั การ ของรูปและพื้นทีว่ ่าง งานทัศนศลิ ป์โดยใช้สีคตู่ รงขา้ มหลกั การจัดขนาดสดั สว่ น ความสมดุล สร้าง

งานทศั นศิลป์เปน็ แผนภาพ แผนผัง ภาพประกอบ ถา่ ยทอดความคิดหรือเร่อื งราวเกี่ยวกับเหตกุ ารณ์ต่าง

บรรยายบทบาทของงานทศั นศลิ ป์ที่สะท้อนชีวิตและสังคม อภปิ รายเก่ียวกับอิทธิพลของความเชอื่ ความศรทั ธา

ในศาสนาท่ีมีผลต่องานทศั นศลิ ปใ์ นท้องถ่ิน

มงุ่ หวังใหผ้ ู้เรยี นมคี วามคดิ รเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ มีจินตนาการ สรา้ งแผนภาพ แผนผัง และภาพประกอบ

เพอื่ ถ่ายทอดความคดิ จนิ ตนาการเปน็ เรอ่ื งราวเก่ียวกับเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ และสามารถเปรยี บเทยี บความแตกต่าง

ระหว่างงานทศั นศลิ ปท์ ่ีสรา้ งสรรค์ ด้วยวสั ดุอุปกรณ์และวธิ กี ารท่ีแตกตา่ งกนั การสือ่ ความหมายในงาน

ทศั นศลิ ป์ของตน รู้วิธีการปรับปรงุ งานใหด้ ีขึน้ ตลอดจน รู้และเข้าใจคุณค่าของงานทัศนศิลป์ที่มผี ลตอ่ ชีวติ ของ

คนในสงั คมซ่งึ มีผลตอ่ มนษุ ย์ซึง่ มผี ลตอ่ คุณภาพชีวิตมนษุ ย์ สง่ เสริมให้ผู้เรยี นมีความเชือ่ มั่นในตนเอง

รักความเป็นไทย กลา้ แสดงออก และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม อนั เป็นพน้ื ฐาน ในการศกึ ษาต่อหรอื ประกอบอาชีพได้

ในการศึกษาตอ่ หรอื ประกอบอาชีพได้ รูแ้ ละเข้าใจคณุ ค่าของทศั นศิลปท์ ่มี ีผลต่อชวี ติ ของคนในสังคม

รหสั ตัวชี้วัด
ศ ๑.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ ป.๖/๕ ป.๖/๖ ป.๖/๗
ศ ๑.๒ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓
รวมท้งั สิ้น ๑๐ ตวั ชีว้ ัด

๑๖๐

สำระที่ ๒ ดนตรี
รู้และเขา้ ใจองค์ประกอบดนตรีและศัพท์สังคีต เครอื่ งดนตรไี ทยแตล่ ะภาค บทบาทและหนา้ ที่ของ

เคร่อื งดนตรี ประเภทของเครอื่ งดนตรีสากล เครอื่ งหมายและสัญลักษณท์ างดนตรี โน้ตบทเพลงไทย อตั รา
จงั หวะสองช้นั โน้ตบทเพลงสากลในบันไดเสยี ง C Major การร้องเพลงประกอบดนตรี การสรา้ งสรรค์รูปแบบ
จงั หวะและทานองดว้ ยเครือ่ งดนตรี การบรรยายความรูส้ กึ และแสดงความคิดเหน็ ท่มี ีตอ่ บทเพลง เนื้อหาในบท
เพลง องคป์ ระกอบ ในบทเพลง คุณภาพเสยี งในบทเพลง ดนตรไี ทยในประวัติศาสตร์ ดนตรีในเหตกุ ารณส์ าคญั
ทางประวตั ศิ าสตร์ ดนตรใี นยุคสมัยต่างๆ อิทธิพลของวฒั นธรรมที่มตี อ่ ดนตรี

โดยบรรยายเพลงทีฟ่ งั โดยอาศยั องค์ประกอบดนตรี ศพั ท์สังคตี จาแนกประเภท บทบาทหนา้ ท่ีเคร่อื ง
ดนตรไี ทย เครือ่ งดนตรที ่ีมาจากวัฒนธรรมตา่ ง ๆ อา่ น เขยี นโน้ตไทย โน้ตสากลทานองงา่ ย ๆ ใชเ้ ครอ่ื งดนตรี
บรรเลงประกอบการรอ้ งเพลง ดน้ สด ที่มีจงั หวะและทานองง่าย ๆ บรรยายความรู้สึกท่มี ตี ่อดนตรี แสดง
ความคิดเห็นเกย่ี วกบั ทานอง จงั หวะการประสานเสยี ง และคุณภาพเสยี งของเพลงทีฟ่ งั อธบิ ายเรอื่ งราวของ
ดนตรไี ทย ในประวตั ศิ าสตร์ จาแนกดนตรที ม่ี าจากยคุ สมัยทต่ี ่างกนั อภปิ รายอิทธิพลของวฒั นธรรมต่อดนตรใี น
ท้องถ่นิ

มงุ่ หวงั ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจองคป์ ระกอบดนตรแี สดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์
วิพากษ์ วิจารณค์ ุณค่าดนตรี ถา่ ยทอดความร้สู ึก ทางดนตรอี ยา่ งอิสระ ถา่ ยทอดความรู้สึกของบทเพลงที่ฟัง
เขา้ ใจเร่ืองราวดนตรีในประวัตศิ าสตร์ความสัมพันธร์ ะหว่างดนตรกี บั วิถชี ีวติ ประเพณี วฒั นธรรมไทย และ
วฒั นธรรมต่าง ๆ รคู้ ุณคา่ ดนตรีทมี่ าจากวัฒนธรรมตา่ งกัน เห็นความสาคัญในการอนรุ ักษ์ สง่ เสรมิ ให้ผเู้ รียนมี
ความเช่ือม่นั ในตนเอง รกั ความเปน็ ไทย กล้าแสดงออก และคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม

รหัสตัวชี้วดั
ศ ๒.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ ป.๖/๕ ป.๖/๖
ศ ๒.๒ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓
รวมท้ังสิน้ ๙ ตวั ชีว้ ดั

๑๖๑

สำระท่ี ๓ นำฏศลิ ป์
รู้และเข้าใจ การประดษิ ฐท์ ่าทางประกอบเพลงปลุกใจหรอื เพลงพนื้ เมืองหรอื ทอ้ งถ่ินเนน้ ลีลาหรืออารมณ์

การออกแบบสร้างสรรค์ เครอื่ งแต่งกาย อุปกรณ์ ฉากประกอบการแสดง การแสดงนาฏศิลป์และการแสดง
ละคร ราวงมาตรฐาน ระบา ฟอ้ น ละครสร้างสรรค์ บทบาทและหนา้ ทีใ่ นงานนาฏศิลป์และการละคร หลกั การ
ชมการแสดง การวิเคราะห์ ความร้สู กึ ช่นื ชม องค์ประกอบทางนาฏศลิ ปแ์ ละการละคร ความหมาย
ความเปน็ มา ความสาคัญ ของนาฏศลิ ป์และละคร บคุ คลสาคัญ คุณคา่ การแสดงนาฏศิลปแ์ ละละครในวัน
สาคัญของโรงเรียน

โดยสรา้ งสรรค์การเคลอื่ นไหวการแสดงโดยเนน้ การถ่ายทอดลีลาหรอื อารมณ์ ออกแบบเคร่ืองแต่งกาย
หรืออปุ กรณ์ประกอบการแสดงอยา่ งง่าย ๆ แสดงนาฏศลิ ป์และละครง่าย ๆ บรรยายความรสู้ ึกของตนเองท่มี ี
ตอ่ งานนาฏศิลป์และการละครอย่างสร้างสรรค์ แสดงความคิดเห็นในการชมการแสดง อธิบายความสมั พันธ์
ระหว่างนาฏศิลป์ การละคร กับสงิ่ ที่ประสบในชวี ิตประจาวนั อธบิ ายส่ิงทีม่ คี วามสาคัญต่อการแสดงนาฏศิลป์
และละคร ระบุประโยชนท์ ีไ่ ด้รบั จากการแสดงหรือการชมการแสดงนาฏศลิ ป์และละคร

มุ่งหวังให้ผ้เู รียนมีความร้คู วามเขา้ ใจองค์ประกอบนาฏศลิ ป์ แสดงออกทางนาฏศลิ ป์อย่าง
สร้างสรรค์ สามารถแสดงภาษาท่า นาฏยศพั ท์พืน้ ฐาน สร้างสรรค์การเคล่อื นไหวและการแสดงนาฏศิลป์ และ
การละครงา่ ย ๆ เหน็ ความสาคญั ในการอนุรกั ษ์ ส่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นมีความเชอ่ื มั่นในตนเอง รักความเป็นไทย
กล้าแสดงออก และคา่ นิยมท่ีเหมาะสม เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งนาฏศิลป์กบั ประวตั ศิ าสตร์ วัฒนธรรม เหน็
คณุ ค่าของนาฏศลิ ป์ที่เปน็ มรดกทางวฒั นธรรม
รหสั ตัวช้ีวดั
ศ ๓.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ ป.๖/๕ ป.๖/๖
ศ ๓.๒ ป.๖/๑ ป.๖/๒
รวมท้งั ส้ิน ๘ ตัวชว้ี ดั

๑๖๒

รำยวชิ ำพนื้ ฐำน กลมุ่ สำระกำรเรียนร้ศู ิลปะ
ระดับมัธยมศกึ ษำตอนตน้

รำยวิชำพนื้ ฐำน จานวน ๔๐ ชัว่ โมง
ศ ๒๑๑๐๑ ทศั นศิลป์ จานวน ๒๐ ชั่วโมง
ศ ๒๑๑๐๒ ดนตรี จานวน ๒๐ ชัว่ โมง
ศ ๒๒๑๐๒ นาฎศลิ ป์ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง
ศ ๒๒๑๐๑ ทศั นศิลป์ จานวน ๒๐ ชั่วโมง
ศ ๒๒๑๐๑ ดนตรี จานวน ๒๐ ชัว่ โมง
ศ ๒๒๑๐๒ นาฎศลิ ป์ จานวน ๔๐ ชั่วโมง
ศ ๒๓๑๐๑ ทศั นศิลป์ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง
ศ ๒๓๑๐๒ ดนตรี จานวน ๒๐ ชั่วโมง
ศ ๒๓๑๐๑ นาฎศลิ ป์

๑๖๓

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน

ศ ๒๑๑๐๑ รำยวชิ ำ ทัศนศิลป์ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ศลิ ปะ

ชนั้ มัธยมศึกษำปีที่ ๑ เวลำเรียน ๔๐ ช่วั โมง/ภำคเรยี น จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ

*********************************************************************************

ความแตกตา่ งและความคล้ายคลงึ กันของทศั นธาตใุ นงานทัศนศิลปแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ความเปน็ เอกภาพ

ความกลมกลนื ความสมดุล หลักการวาดภาพแสดงทศั นียภาพ เอกภาพความกลมกลนื ของเร่ืองราวในงานปนั้ หรือ

งานสื่อผสม การออกแบบรปู ภาพ สญั ลกั ษณ์ หรืองานกราฟิกการประเมนิ งานทัศนศลิ ป์ ลกั ษณะ รูปแบบงาน

ทศั นศลิ ป์ของชาตแิ ละทอ้ งถิ่นงานทัศนศิลปภ์ าคต่าง ๆ ในประเทศไทย ความแตกตา่ งของงานทัศนศิลป์

ในวัฒนธรรมไทยและสากล

โดยบรรยายความแตกต่างความคล้ายคลงึ กันของงานทศั นศิลปแ์ ละสิ่งแวดลอ้ มซงึ่ ใชค้ วามรเู้ ร่อื งทัศนธาตุ

ระบุ บรรยายหลกั การออกแบบงานทัศนศิลป์ ที่เน้นความเป็นเอกภาพความกลมกลนื ความสมดุล

สามารถวาดภาพทัศนยี ภาพแสดงให้เหน็ ระยะไกลใกล้ เปน็ 3 มิติ รวบรวมงานปั้นหรอื สอ่ื ผสมมาสร้างเป็น

เร่อื งราว 3 มิติ โดยเน้นความเปน็ เอกภาพ ความกลมกลนื การสือ่ ถงึ เร่ืองราวของงาน ออกแบบรูปภาพ สญั ลักษณ์

หรอื กราฟิกอน่ื ๆ ในการนาเสนอความคิดและข้อมลู ประเมินงานทศั นศิลป์ และบรรยายถึงวิธีการปรบั ปรุงงาน

ของตนเองและผู้อ่นื โดยใชเ้ กณฑท์ ่ีกาหนดให้

มงุ่ หวงั ให้ผเู้ รยี นมีความคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรค์ มีจินตนาการทางศลิ ปะ ชื่นชมความงาม มีสนุ ทรยี ภาพ

ความมีคณุ คา่ ซง่ึ มีผลต่อคุณภาพชีวิตมนุษย์ กจิ กรรมทางศลิ ปะชว่ ยพฒั นาผ้เู รียนทั้งดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ

สตปิ ญั ญา อารมณ์ สงั คม ตลอดจนการนาไปสกู่ ารพัฒนาสิ่งแวดล้อมและใชท้ รพั ยากรอย่างคมุ้ คา่ ส่งเสริมให้

ผเู้ รียนมีความเช่อื มน่ั ในตนเอง รกั ความเปน็ ไทย กล้าแสดงออก และคา่ นิยมที่เหมาะสม อนั เป็นพน้ื ฐาน

ในการศึกษาต่อหรือประกอบอาชพี ได้

รหัสตัวชี้วดั
ศ ๑.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖
ศ ๑/๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๒
รวมทงั้ หมด ๙ ตวั ชีว้ ดั

๑๖๔

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

ศ ๒๑๑๐๒ รำยวชิ ำ ดนตรี กลมุ่ สำระกำรเรยี นรศู้ ิลปะ

ช้นั มัธยมศกึ ษำปีที่ ๑ เวลำเรยี น ๒๐ ชวั่ โมง/ภำคเรยี น

**********************************************************************************

เครอ่ื งหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรีโน้ตบทเพลงไทย อัตราจงั หวะสองชน้ั โนต้ สากล ในกญุ แจซอล

และฟา เสยี งร้องและเสียงของเครือ่ งดนตรใี นบทเพลงจากวัฒนธรรมตา่ ง ๆ การร้องและการบรรเลงเครือ่ งดนตรี

ประกอบการรอ้ ง วงดนตรพี ้นื เมอื ง วงดนตรไี ทย วงดนตรสี ากล การถา่ ยทอดอารมณ์ของบทเพลง จงั หวะกับ

อารมณเ์ พลง ความดงั -เบากับอารมณ์เพลง ความแตกตา่ งของอารมณ์เพลง การนาเสนอบทเพลงที่ตนสนใจ

การประเมินคุณภาพของบทเพลง คุณภาพดา้ นเน้ือหา คุณภาพดา้ นองค์ประกอบดนตรี การใช้และบารงุ รักษา

เครือ่ งดนตรีของตน บทบาทและอทิ ธิพลของดนตรีและองค์ประกอบของดนตรีในแต่ละวฒั นธรรม

โดย อ่าน เขียน ร้องโนต้ ไทย โนต้ สากล เปรยี บเทียบเสยี งร้องกบั เสยี งของเคร่อื งดนตรที ่ีมาจาก

วัฒนธรรมที่ตา่ งกนั รอ้ งเพลงและใช้เครอ่ื งดนตรีบรรเลงประกอบการร้องเพลงดว้ ยบทเพลง ที่หลากหลาย

รูปแบบ จดั ประเภทของวงดนตรีไทยและวงดนตรที มี่ าจากวัฒนธรรมต่างๆ แสดงความคิดเหน็ ที่มีต่ออารมณ์

ของบทเพลงที่มคี วามเรว็ ของจังหวะ และความดงั - เบา แตกต่างกนั เปรยี บเทยี บอารมณ์ ความรู้สึกในการฟงั

ดนตรีแต่ละประเภท นาเสนอตวั อยา่ งเพลงท่ีตนเองชืน่ ชอบ และอภปิ รายลกั ษณะเด่นทท่ี าให้งานน้นั น่าชน่ื ชม

ใชเ้ กณฑ์สาหรับประเมนิ คณุ ภาพงานดนตรหี รอื เพลงที่ฟัง ร้จู กั การใชแ้ ละบารงุ รักษาเครอื่ งดนตรีอย่าง

ระมดั ระวงั อธบิ ายบทบาทความสัมพันธแ์ ละอิทธิพลของดนตรที ่ีมีต่อสังคมไทย ระบุความหลากหลายของ

องคป์ ระกอบดนตรีในวัฒนธรรมต่างกนั

มงุ่ หวังใหผ้ เู้ รยี นมีความคดิ รเิ ริม่ สร้างสรรค์ มีจนิ ตนาการทางศิลปะ ชืน่ ชมความงาม มสี ุนทรยี ภาพ

ความมคี ณุ ค่า ซง่ึ มผี ลต่อคุณภาพชีวติ มนษุ ย์ กจิ กรรมทางศลิ ปะชว่ ยพัฒนาผเู้ รยี นท้ังด้านร่างกาย จติ ใจ

สตปิ ัญญา อารมณ์ สงั คม ตลอดจนการนาไปสู่การพฒั นาสิ่งแวดลอ้ มและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มคา่ ส่งเสรมิ ให้

ผเู้ รียนมีความเชอื่ มน่ั ในตนเอง รกั ความเปน็ ไทย กล้าแสดงออก และค่านยิ มทีเ่ หมาะสม อนั เปน็ พน้ื ฐาน

ในการศึกษาต่อหรอื ประกอบอาชพี ได้

รหสั ตัวชี้วัด
ศ ๒.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๗ ม.๑/๘ ม.๑/๙
ศ ๒/๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒
รวมท้งั หมด ๑๑ ตัวช้ีวัด

๑๖๕

คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

ศ ๒๑๑๐๒ รำยวชิ ำ นำฏศิลป์ กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ศิลปะ

ชั้นมัธยมศกึ ษำปีท่ี ๑ เวลำเรียน ๒๐ ช่ัวโมง/ภำคเรียน

*********************************************************************************

การปฏิบตั ขิ องผแู้ สดงและผชู้ ม ประวัตินักแสดงที่ชนื่ ชอบ การพัฒนารูปแบบของการแสดง อทิ ธพิ ล

ของนักแสดงท่มี ีผลต่อพฤตกิ รรมของผ้ชู ม นาฏยศัพท์หรอื ศพั ท์ทางการละครในการแสดง ภาษาทา่ และการตี

บท ท่าทางเคลือ่ นไหวทแ่ี สดงส่อื ทางอารมณ์ ระบาเบด็ เตลด็ รูปแบบการแสดงนาฏศิลป์ บทบาทและหนา้ ท่ี

ของฝ่ายตา่ ง ๆ ในการจัดการแสดง การสรา้ งสรรค์กิจกรรมการแสดงท่สี นใจ โดยแบง่ ฝ่ายและหน้าทีใ่ หช้ ัดเจน

หลกั ในการชมการแสดง ปจั จัยที่มีผลตอ่ การเปล่ียนแปลงของนาฏศลิ ป์ นาฏศิลปพ์ ้ืนบา้ น ละครไทย และละคร

พ้ืนบา้ น ประเภทของละครไทยในแตล่ ะยุคสมัย

โดยอธิบายอทิ ธิพลของนักแสดงช่อื ดังท่ีมีผลต่อการโนม้ นา้ วอารมณ์หรอื ความคดิ ของผ้ชู ม ปฏบิ ัติ

นาฏยศพั ท์หรอื ศพั ท์ทางการละครในการแสดง แสดงนาฏศิลป์และละครในรูปแบบงา่ ย ๆ มีทักษะการทางาน

เปน็ กลมุ่ ในกระบวนการผลติ การแสดง ใชเ้ กณฑง์ ่ายๆ ทก่ี าหนดใหใ้ นการพจิ ารณาคณุ ภาพการแสดงทช่ี มโดย

เนน้ เรื่องการใช้เสียงการแสดงทา่ และการเคล่ือนไหว ระบปุ จั จยั ที่มีผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงของนาฏศิลป์

นาฏศิลปพ์ น้ื บ้าน ละครไทยและละครพ้นื บ้าน บรรยายประเภทของละครไทยในแต่ละยุคสมยั

มุ่งหวงั ให้ผ้เู รียนมีความร้คู วามเขา้ ใจองค์ประกอบนาฏศลิ ป์ แสดงออกทางนาฏศิลป์ อย่างสรา้ งสรรค์

ใช้ศพั ท์เบ้ืองต้นทางนาฏศิลป์ ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ มีจินตนาการทางศิลปะ ชืน่ ชมความงาม มีสุนทรยี ภาพ

ความมคี ุณคา่ ซึ่งมีผลต่อคุณภาพชวี ิตมนษุ ย์ ตลอดจนการนาไปสกู่ ารพฒั นาสิง่ แวดล้อมและใชท้ รพั ยากรอยา่ ง

คุ้มค่า ส่งเสรมิ ให้ผเู้ รียนมคี วามเชือ่ มัน่ ในตนเอง กลา้ แสดงออก รักความเปน็ ไทย เห็นคุณค่าของนาฏศลิ ป์ทเ่ี ป็น

มรดกทางวฒั นธรรม และค่านิยมท่เี หมาะสม อันเปน็ พ้นื ฐาน ในการศึกษาตอ่ หรือประกอบอาชพี ได้

รหสั ตัวชี้วดั
ศ ๓.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕
ศ ๓.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓
รวมทัง้ หมด ๘ ตวั ชว้ี ัด

๑๖๖

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

ศ ๒๒๑๐๑ รำยวิชำ ทศั นศลิ ป์ กลมุ่ สำระกำรเรียนร้ศู ิลปะ

ช้ันมธั ยมศึกษำปีท่ี ๒ เวลำเรียน ๔๐ ช่วั โมง/ภำคเรยี น

**********************************************************************************

รูปแบบของทัศนธาตุและแนวคดิ ในงานทัศนศิลป์ ความเหมือนและความแตกต่างของรปู แบบการใช้

วสั ดุ อุปกรณใ์ นงานทัศนศิลป์ของศิลปิน เทคนคิ ในการวาดภาพสอื่ ความหมาย การประเมนิ และวิจารณ์งาน

ทัศนศิลป์ การพัฒนางานทัศนศลิ ป์ การวาดภาพถา่ ยทอดบุคลกิ ลกั ษณะของตัวละคร งานทศั นศลิ ป์ในการ

โฆษณา วัฒนธรรมทีส่ ะทอ้ นในงานทัศนศิลปป์ จั จุบนั งานทัศนศิลป์ของไทยในแต่ละยคุ สมยั การออกแบบงาน

ทศั นศิลป์ในวัฒนธรรมไทยและสากล

โดยอภิปรายเกย่ี วกบั ทัศนธาตุในด้านรปู แบบแนวคิดของงานทัศนศลิ ปท์ เ่ี ลอื กมา บรรยายเกยี่ วกับ

ความเหมือนและความแตกตา่ งของรูปแบบการใช้วสั ดุอุปกรณ์ในงานทศั นศิลปข์ องศลิ ปิน วาดภาพด้วยเทคนคิ

ที่หลากหลาย ในการสือ่ ความหมายและเรือ่ งราวตา่ ง ๆ สรา้ งเกณฑ์ในการประเมิน และวจิ ารณ์งานทศั นศิลป์

นาผลการวิจารณ์ไปปรบั ปรงุ แก้ไขพัฒนางาน วาดภาพแสดงบคุ ลิกลกั ษณะของตวั ละคร อธบิ ายวธิ ีการใชง้ าน

ทศั นศลิ ปใ์ นการโฆษณาเพ่ือโน้มน้าวใจและนาเสนอตัวอย่างประกอบระบุ และบรรยายเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่าง ๆ

ทีส่ ะทอ้ นถงึ งานทัศนศิลป์ในปจั จุบนั บรรยายถึงการเปลย่ี นแปลงของงานทัศนศลิ ป์ของไทยในแตล่ ะยุคสมยั โดย

เนน้ ถึงแนวคิดและเนื้อหาของงานเปรยี บเทียบแนวคดิ ในการออกแบบงานทัศนศิลป์ทม่ี าจากวฒั นธรรมไทยและ

สากล

ม่งุ หวงั ใหผ้ ู้เรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจองค์ประกอบศลิ ป์ ทศั นธาตุ สรา้ งและนาเสนอผลงานทาง

ทศั นศิลป์จากจินตนาการ โดยสามารถใชอ้ ุปกรณ์ทเ่ี หมาะสม รวมทัง้ สามารถใชเ้ ทคนคิ วิธีการ ของศิลปนิ ใน

การสร้างงานได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ สามารถเลอื กงานทัศนศลิ ป์โดยใชเ้ กณฑ์ทก่ี าหนดข้นึ อย่างเหมาะสม

ความคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์ มจี นิ ตนาการทางศิลปะ ช่นื ชมความงาม มีสุนทรยี ภาพ ความมีคุณค่า ซง่ึ มผี ลตอ่

คณุ ภาพชีวิตมนุษย์ ตลอดจนการนาไปสูก่ ารพัฒนาสงิ่ แวดล้อมและใช้ทรพั ยากรอยา่ งคุ้มค่า ส่งเสริมใหผ้ ู้เรยี น

มีความเช่ือมน่ั ในตนเอง รักความเปน็ ไทย กล้าแสดงออก เหน็ คณุ ค่าของนาฏศลิ ป์ทีเ่ ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม

และค่านิยมทเี่ หมาะสม อันเปน็ พ้ืนฐาน ในการศึกษาตอ่ หรอื ประกอบอาชพี ได้

รหสั ตวั ชี้วดั
ศ ๑.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ม.๒/๕ ม.๒/๖ ม.๒/๗
ศ ๑/๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓
รวมทัง้ หมด ๑๐ ตัวชี้วดั

๑๖๗

คำอธบิ ำยรำยวิชำพนื้ ฐำน

ศ ๒๒๑๐๑ รำยวิชำ ดนตรี กล่มุ สำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ

ช้นั มธั ยมศึกษำปที ่ี ๒ เวลำเรยี น ๒๐ ชั่วโมง/ภำคเรียน

**********************************************************************************

องคป์ ระกอบของดนตรจี ากแหล่งวัฒนธรรมตา่ งๆ เครอื่ งหมายและสัญลกั ษณท์ างดนตรี ปัจจยั ใน

การสร้างสรรค์บทเพลง เทคนคิ การรอ้ งและบรรเลงดนตรี การบรรยายอารมณแ์ ละความรู้สึกในบทเพลง

การประเมินความสามารถทางดนตรี ความถกู ต้องในการบรรเลง ความแม่นยาในการอ่านเคร่ืองหมายและ

สญั ลักษณ์ การควบคมุ คุณภาพเสยี งในการรอ้ งและบรรเลง อาชพี ทางดา้ นดนตรี บทบาทของดนตรีในธุรกจิ

บนั เทิง

โดยอธิบายเปรียบเทยี บการใชอ้ งคป์ ระกอบดนตรที ่มี าจากวฒั นธรรมต่างกัน อา่ น เขยี นรอ้ งโนต้ ไทย

โน้ตสากลทม่ี ีเครื่องหมายแปลงเสยี ง ระบปุ ัจจัยสาคัญทม่ี ีอิทธิพลตอ่ การสรา้ งสรรค์งานดนตรี ร้องเพลงเล่น

ดนตรเี ด่ียวและรวมวง บรรยายอารมณแ์ ละความรู้สกึ ทม่ี ตี อ่ บทเพลงทฟี่ ัง ประเมินพฒั นาการทกั ษะทางดนตรี

ของตนเองหลงั จากการฝกึ ปฏบิ ัติ ระบงุ านอาชีพต่าง ๆ ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับดนตรแี ละบทบาทของดนตรีในธรุ กจิ

บันเทิง บรรยายบทบาท และอิทธพิ ลของดนตรใี นวัฒนธรรมของประเทศตา่ ง ๆ แสดงความคิดเกี่ยวกับอิทธพิ ล

ของวัฒนธรรมและเหตุการณ์ในประวตั ศิ าสตร์ที่มีตอ่ รูปแบบของดนตรีในประเทศไทย

ม่งุ หวงั ใหผ้ เู้ รียนมคี วามรู้ความเข้าใจองคป์ ระกอบดนตรีแสดงออกทางดนตรอี ย่างสร้างสรรค์ วเิ คราะห์

วพิ ากษ์ วิจารณค์ ุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรูส้ กึ ทางดนตรอี ยา่ งอสิ ระ ชนื่ ชมและประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวนั

แสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับเสยี งดนตรี แสดงความรู้สกึ ท่ีมตี ่อดนตรีในเชงิ สุนทรียะ เข้าใจความสมั พันธ์ระหวา่ ง

ดนตรีกับประเพณีวฒั นธรรม กจิ กรรมทางศิลปะช่วยพฒั นาผเู้ รียนทัง้ ด้านรา่ งกาย จิตใจ สตปิ ญั ญา อารมณ์

สงั คม ตลอดจนการนาไปสู่การพฒั นาสง่ิ แวดลอ้ มและใชท้ รพั ยากรอยา่ งคุ้มค่า สง่ เสริมให้ผู้เรยี นมคี วามเชือ่ มั่น

ในตนเอง รกั ความเปน็ ไทย กล้าแสดงออก และมีค่านิยมทเ่ี หมาะสม อันเปน็ พืน้ ฐาน ในการศึกษาต่อหรอื

ประกอบอาชีพได้

รหสั ตวั ชี้วัด
ศ ๒.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ม.๒/๕ ม.๒/๖ ม.๒/๗
ศ ๒.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒
รวมทง้ั หมด ๙ ตวั ชว้ี ัด

๑๖๘

คำอธิบำยรำยวิชำพน้ื ฐำน

ศ ๒๒๑๐๒ รำยวิชำ นำฏศิลป์ กลมุ่ สำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ

ช้นั มธั ยมศกึ ษำปที ่ี ๒ เวลำเรยี น ๒๐ ชัว่ โมง/ภำคเรียน

**********************************************************************************

ศลิ ปะแขนงอื่น ๆ กบั การแสดง หลักและวิธกี ารสรา้ งสรรค์การแสดง โดยใชอ้ งค์ประกอบนาฏศิลป์และ

การละคร หลกั และวิธีการวเิ คราะห์การแสดง วิธีการวิเคราะห์ วิจารณ์การแสดง นาฏศิลป์ และการละคร

ราวงมาตรฐาน ความสมั พันธข์ องนาฏศลิ ป์หรือ การละครกบั สาระการเรยี นร้อู ื่น ๆ นาฏศลิ ปพ์ ้ืนเมือง

รูปแบบการแสดงประเภทต่าง ๆ การละครสมัยตา่ ง ๆ

โดยอธบิ ายการบูรณาการศลิ ปะแขนงอน่ื ๆกับการแสดง สร้างสรรคก์ ารแสดงโดยใช้องคป์ ระกอบ

นาฏศลิ ป์และการละคร วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคิดเหน็ การแสดงของตนเองและผอู้ น่ื ปฏบิ ัตนิ าฏยศพั ท์หรือ

ศพั ท์ทางการละครท่ีเหมาะสม เสนอข้อคิดเห็นในการปรับปรุงการแสดง เชือ่ มโยงการเรียนร้รู ะหวา่ งนาฏศิลป์

และการละครกับสาระการเรยี นรอู้ นื่ ๆ อภปิ รายเปรยี บเทยี บลักษณะเฉพาะของการแสดงนาฏศลิ ป์จาก

วัฒนธรรมต่าง ๆ ระบหุ รือแสดงนาฏศิลป์ นาฏศลิ ป์พน้ื บ้าน ละครไทย ละครพืน้ บ้าน หรือมหรสพอื่นทเ่ี คยนิยม

กันในอดตี อธบิ ายอิทธพิ ลของวัฒนธรรมท่ีมีผลต่อเน้ือหาของละคร

มุ่งหวงั ให้ผ้เู รียนมคี วามร้คู วามเข้าใจองคป์ ระกอบนาฏศิลป์ แสดงออกทางนาฏศิลป์อยา่ งสร้างสรรค์

ใช้ศัพท์เบื้องตน้ ทางนาฏศลิ ป์ สรา้ งสรรค์การเคลอื่ นไหวในรปู แบบต่าง ๆ มีจินตนาการทางศลิ ปะ ชื่นชม

ความงาม มสี นุ ทรียภาพ ความมคี ุณค่า ซง่ึ มผี ลต่อคุณภาพชีวิตมนษุ ย์ ตลอดจนการนาไปสู่การพัฒนา

สิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรอย่างค้มุ ค่า สง่ เสริมใหผ้ ู้เรยี นมีความเชอื่ ม่ันในตนเอง กลา้ แสดงออก รักความเป็น

ไทย มคี ่านยิ มท่เี หมาะสม เหน็ คุณค่าของนาฏศิลป์ท่ีเปน็ มรดกทางวฒั นธรรม อนั เป็นพนื้ ฐาน ในการศกึ ษาตอ่

หรือประกอบอาชีพได้

รหัสตวั ชี้วัด
ศ ๓.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ม.๓/๖ ม.๓/๗
ศ ๓.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓
รวมท้งั หมด ๑๐ ตัวช้ีวดั

๑๖๙

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

ศ ๒๓๑๐๑ รำยวชิ ำ ทศั นศลิ ป์ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ศิลปะ

ช้นั มัธยมศึกษำปที ี่ ๓ เวลำเรยี น ๔๐ ชว่ั โมง /ภำคเรียน จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต

**********************************************************************************

ทัศนธาตุ หลักการออกแบบในส่งิ แวดล้อมและงานทศั นศลิ ป์ เทคนิควธิ ีการของศิลปินในการสรา้ งงาน

ทัศนศิลป์ วิธีการใช้ทัศนธาตุและหลกั การออกแบบในการสร้างงานทศั นศลิ ป์ การสร้างงานทศั นศิลป์ท้ังไทย

และสากล การใช้หลกั การออกแบบในการสรา้ งงานส่ือผสม การสร้างงานทัศนศลิ ปแ์ บบ2 มติ ิ และ 3 มิติ เพอื่

ถา่ ยทอดประสบการณ์ และจนิ ตนาการ การประยกุ ต์ใชท้ ัศนธาตุและหลักการออกแบบสร้างงานทศั นศิลป์

การวเิ คราะห์ รปู แบบ เนอื้ หา และคุณค่าในงานทัศนศลิ ป์ การใชเ้ ทคนิค วธิ ีการทหี่ ลากหลาย สร้างงาน

ทศั นศิลปเ์ พอ่ื ส่ือความหมาย การประกอบอาชพี ทางทัศนศลิ ป์ การจัดนิทรรศการ งานทัศนศลิ ปก์ บั การสะทอ้ น

คุณค่าของวัฒนธรรม ความแตกตา่ งของงานทศั นศิลป์ในแตล่ ะยคุ สมยั ของวฒั นธรรมไทยและสากล

โดยบรรยายสงิ่ แวดล้อม และงานทัศนศลิ ป์ท่เี ลือกมาโดยใช้ความรเู้ รอ่ื งทัศนธาตุ หลักการออกแบบ

ระบเุ ทคนิค วิธกี าร ของศิลปินในการสร้างงาน ทัศนศลิ ป์ วิเคราะห์ วิธีการใช้ ทัศนธาตุ หลกั การออกแบบใน

การสรา้ งงานทศั นศลิ ปข์ องตนเองใหม้ ีคุณภาพ มีทักษะในการสรา้ งงานทศั นศลิ ปอ์ ย่างน้อย 3 ประเภท รวมถึง

การผสมผสานวสั ดุต่างๆ ในการสร้างงานทศั นศิลป์โดยใช้หลักการออกแบบทศั นศลิ ป์ ทงั้ 2 มติ ิ และ 3 มิติ เพอ่ื

ถ่ายทอดประสบการณ์และจนิ ตนาการ สรา้ งสรรค์งานทศั นศิลป์สื่อความหมายเป็นเร่อื งราว โดยประยุกต์ใช้

ทัศนธาตุ และหลกั การออกแบบ วเิ คราะห์ อภปิ รายรูปแบบ เน้ือหาและคุณค่าในงานทศั นศลิ ป์ของตนเองและ

ผู้อน่ื หรอื ของศิลปนิ สร้างสรรคง์ านทัศนศลิ ป์เพ่ือบรรยาย เหตุการณ์ตา่ ง ๆ ใชเ้ ทคนิคทห่ี ลากหลาย ระบอุ าชีพ

ทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั งานทศั นศิลป์และทักษะทจี่ าเป็นในการประกอบอาชพี น้ัน ๆ เลอื กงานทัศนศลิ ป์โดยใชเ้ กณฑท์ ่ี

กาหนดข้นึ อย่างเหมาะสม จดั นทิ รรศการ ศึกษา อภปิ รายเก่ยี วกบั งานทศั นศิลป์ ท่สี ะท้อนคุณค่าของวฒั นธรรม

เปรยี บเทยี บความแตกต่างของงานทัศนศลิ ป์ในแต่ละยุคสมัยของวฒั นธรรมไทยและสากล

มุ่งหวังใหผ้ ู้เรียนมีความรคู้ วามเข้าใจองค์ประกอบศิลป์ ทศั นธาตุ สร้างและนาเสนอผลงานทาง

ทศั นศลิ ป์จากจนิ ตนาการ โดยสามารถใชอ้ ุปกรณ์ทเี่ หมาะสม รวมท้งั สามารถใช้เทคนิค วิธกี าร ของศลิ ปนิ ใน

การสรา้ งงานได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ สามารถเลือกงานทัศนศลิ ป์โดยใชเ้ กณฑ์ทกี่ าหนดข้ึนอยา่ งเหมาะสม

ความคดิ รเิ รม่ิ สร้างสรรค์ มีจินตนาการทางศิลปะ ชืน่ ชมความงาม มีสุนทรียภาพ ความมีคุณค่า ซง่ึ มีผลตอ่

คณุ ภาพชีวิตมนษุ ย์ ตลอดจนการนาไปส่กู ารพัฒนาส่งิ แวดลอ้ มและใช้ทรัพยากรอย่างคมุ้ ค่า รักความเปน็ ไทย

เห็นคุณค่าของงานที่เป็นมรดกทางวฒั นธรรมเชอ่ื ม่ันในตนเองกล้าแสดงออก และมีค่านยิ มที่เหมาะสม อนั เป็น

พน้ื ฐาน ในการศกึ ษาต่อหรอื ประกอบอาชพี ได้

รหัสตัวช้ีวัด
ศ ๑.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ม.๓/๖ ม.๓/๗ ม.๓/๘ ม.๓/๙ ม.๓/๑๐ ม.๓/๑๑
ศ ๑.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒
รวมตัวช้วี ัด ๑๓ ตวั ชวี้ ดั

๑๗๐

คำอธิบำยรำยวิชำพน้ื ฐำน

ศ ๒๓๑๐๒ รำยวชิ ำ ดนตรี กลมุ่ สำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ

ช้นั มธั ยมศึกษำปที ี่ ๓ เวลำเรียน ๒๐ ช่วั โมง/ภำคเรียน

**********************************************************************************

การเปรียบเทยี บองคป์ ระกอบในงานศิลปะ การใช้องคป์ ระกอบในการสรา้ งสรรค์งานดนตรีและศลิ ปะ

แขนงอน่ื เทคนิคท่ีใชใ้ นการสรา้ งสรรคง์ านดนตรแี ละศิลปะแขนงอนื่ เทคนิคและการแสดงออกในการขับร้อง

และบรรเลงดนตรีเด่ยี วและรวมวง อัตราจังหวะ การประพนั ธเ์ พลงในอัตราจังหวะท่ีกาหนด การเลอื กใช้

องค์ประกอบในการสรา้ งสรรคบ์ ทเพลง การเปรยี บเทียบความแตกต่างของบทเพลง อิทธิพลของดนตรี

การจดั การแสดงดนตรใี นวาระต่าง ๆ ประวตั ิดนตรีไทยยคุ สมยั ต่าง ๆ ประวัติดนตรตี ะวนั ตกยคุ สมยั ต่าง ๆ

ปจั จยั ที่ทาให้งานดนตรีไดร้ บั การยอมรบั

โดยเปรยี บเทียบองค์ประกอบที่ใช้ในงานดนตรแี ละงานศลิ ปะอืน่ ร้องเพลง เล่นดนตรเี ดี่ยว และรวมวง

ที่เน้นเทคนคิ การรอ้ ง การเล่น การแสดงออก และคุณภาพสียง แตง่ เพลงส้ัน ๆ จังหวะงา่ ย ๆ อธบิ ายเหตุผลใน

การเลือกใชอ้ งค์ประกอบดนตรใี นการสรา้ งสรรค์งานดนตรขี องตนเอง ระบคุ วามแตกตา่ งระหวา่ งงานดนตรี

ของตนเองและผ้อู ่ืน อธิบายเก่ยี วกบั อทิ ธพิ ลของดนตรที มี่ ตี ่อบคุ คลและสังคม นาเสนอหรอื จัดการแสดงดนตรี

ที่เหมาะสมโดยการบูรณาการกบั สาระ การเรยี นรู้อืน่ ในกลุ่มศิลปะ บรรยายววิ ัฒนาการของดนตรีแต่ละยคุ สมัย

อภิปรายลักษณะเด่นที่ทาให้งานดนตรนี ัน้ ไดร้ บั การยอมรับ

ม่งุ หวงั ใหผ้ ู้เรียนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจองค์ประกอบดนตรแี สดงออกทางดนตรอี ยา่ งสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์

วิพากษ์ วจิ ารณค์ ุณคา่ ดนตรี ถา่ ยทอดความรู้สึก ทางดนตรอี ยา่ งอสิ ระ ช่ืนชมและประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวนั

แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับเสียงดนตรี แสดงความรสู้ ึกท่มี ีตอ่ ดนตรีในเชงิ สุนทรียะ เข้าใจความสัมพันธ์ระหวา่ ง

ดนตรกี บั ประเพณีวัฒนธรรม กจิ กรรมทางศลิ ปะช่วยพฒั นาผ้เู รียนท้ังดา้ นร่างกาย จติ ใจ สติปัญญา อารมณ์

สังคม ตลอดจนการนาไปสู่การพฒั นาสง่ิ แวดลอ้ มและใชท้ รัพยากรอย่างคมุ้ ค่า ส่งเสริมใหผ้ ู้เรียนมีความเชอ่ื มนั่

ในตนเอง รกั ความเปน็ ไทย กลา้ แสดงออก และมีค่านยิ มที่เหมาะสม อนั เปน็ พนื้ ฐาน ในการศกึ ษาต่อหรอื

ประกอบอาชีพได้

รหสั ตัวชี้วดั
ศ ๒.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ม.๓/๖ ม.๓/๗
ศ ๒.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒
รวมท้ังหมด ๙ ตัวชี้วัด

๑๗๑

คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

ศ ๒๓๑๐๑ รำยวชิ ำ นำฏศลิ ป์ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ

ช้นั มัธยมศึกษำปีท่ี ๓ เวลำเรียน ๒๐ ชัว่ โมง/ภำคเรยี น

**********************************************************************************

องค์ประกอบของบทละคร ภาษาท่าหรอื ภาษาทางนาฏศลิ ป์ รูปแบบการแสดง การประดิษฐ์ทา่ ราและ

ทา่ ทางประกอบการแสดง องค์ประกอบนาฏศิลป์ วิธีการเลือกการแสดง ละครกับชวี ติ การออกแบบและ

สร้างสรรคอ์ ุปกรณแ์ ละเคร่ืองแตง่ กายเพ่ือการแสดงนาฏศลิ ป์ ความสาคัญและบทบาทของนาฏศิลป์ และ

การละครในชวี ติ ประจาวัน การอนรุ ักษ์นาฏศิลป์

โดยระบโุ ครงสร้างของบทละครโดยใช้ศพั ทท์ างการละคร ปฏบิ ัตนิ าฏยศพั ท์หรือศพั ท์ทางการละคร

ทเ่ี หมาะสมบรรยายเปรยี บเทียบการแสดงอากปั กิริยาของผู้คนในชวี ติ ประจาวันและในการแสดง มีทักษะใน

การใชค้ วามคดิ ในการพฒั นารปู แบบการแสดงและการแปลความการสือ่ สารผ่านการแสดง วจิ ารณ์เปรียบเทยี บ

งานนาฏศลิ ป์ทีม่ คี วามแตกตา่ งกันโดยใช้ความร้เู ร่ืององคป์ ระกอบนาฏศิลป์ จดั งานการแสดงในบทบาทหน้าที่

ตา่ ง ๆ เสนอแนวคดิ จากเนอื้ เรื่องของการแสดงทส่ี ามารถนาไปปรบั ใช้ในชีวติ ประจาวนั ออกแบบ และ

สรา้ งสรรค์อุปกรณแ์ ละเครอื่ งแต่งกาย เพ่อื แสดงนาฏศลิ ป์และละคร ทม่ี าจากวัฒนธรรมตา่ ง ๆ อธบิ าย

ความสาคัญและบทบาทของนาฏศิลป์และการละครในชวี ติ ประจาวนั

มุ่งหวังใหผ้ ูเ้ รียนมีความรคู้ วามเขา้ ใจองค์ประกอบนาฏศิลป์ แสดงออกทางนาฏศิลป์ อย่างสร้างสรรค์

ใชศ้ ัพท์เบอื้ งตน้ ทางนาฏศิลป์ ความคิดรเิ ร่ิมสร้างสรรค์ มจี ินตนาการทางศิลปะ ชนื่ ชมความงาม มีสนุ ทรยี ภาพ

ความมคี ุณค่า ซึ่งมผี ลต่อคุณภาพชีวติ มนุษย์ ตลอดจนการนาไปสกู่ ารพฒั นาสิง่ แวดล้อมและใช้ทรพั ยากรอยา่ ง

ค้มุ ค่า สง่ เสริมให้ผ้เู รียนมีความเชอ่ื มัน่ ในตนเอง กล้าแสดงออก รักความเปน็ ไทย เหน็ คุณค่าของนาฏศลิ ป์ทเี่ ป็น

มรดกทางวฒั นธรรม และค่านยิ มที่เหมาะสม อนั เปน็ พื้นฐาน ในการศกึ ษาต่อหรือประกอบอาชพี ได้

รหัสตวั ชี้วดั
ศ ๓.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ม.๓/๖ ม.๓/๗
ศ ๓.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓
รวมทัง้ ส้นิ ๑๐ ตวั ชวี้ ัด

๑๗๒

รายวิชาพ้นื ฐานกลุม่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพ
ระดบั ประถมศึกษา

รายวชิ าพ้ืนฐาน จานวน ๔๐ ชว่ั โมง
ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง
ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชพี จานวน ๔๐ ชั่วโมง
ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน ๔๐ ชัว่ โมง
ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน ๔๐ ช่วั โมง
ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน ๔๐ ชั่วโมง
ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชพี

๑๗๓

คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน

ง ๑๑๑๐๑ รายวิชาการงานอาชพี กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ

ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง

************************************************************************************************

ศกึ ษาวิธีการทางานเพ่ือชว่ ยเหลอื ตนเองในเร่ืองการแตง่ กาย ใช้วัสดุ อปุ กรณ์ และเคร่อื งมือ

ง่ายๆ ในการทางานอยา่ งปลอดภัย เพอื่ ช่วยเหลือตนเองตนเอง การเก็บของใช้ การหยิบจบั และใช้

ของใช้สว่ นตัว การจัดโตะ๊ ตู้ชั้น รจู้ กั ใชว้ ัสดุอปุ กรณ์เครื่องมอื งา่ ยๆ ในการทางานอยา่ งปลอดภยั เช่น การทา

ความคนุ้ เคย กับการใช้เครือ่ งมอื การรดนา้ ตน้ ไม้ การถอนและเก็บวชั พืช การพับกระดาษเป็นของเล่น

โดยฝกึ ทกั ษะวธิ กี ารช่วยเหลอื ตนเอง และทกั ษะกระบวนการทางานรว่ มกัน ฝกึ การใช้อปุ กรณ์

และเครื่องมือตา่ งๆในการทางานอย่างปลอดภยั เพ่ือใหม้ ีความรู้ความเข้าใจกระบวนการทางานกลุม่ ร่วมกัน

มที ักษะการแสวงหาความรู้ มที ักษะกระบวนการแก้ปญั หา

มีลักษณะนิสยั การทางาน ทเี่ สยี สละ มคี ณุ ธรรม ตดั สินใจอยา่ งมเี หตผุ ลและถูกต้อง

และมีจิตสานกึ ในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากรและอนรุ ักษส์ ิ่งแวดล้อมอย่างประหยัดและคุ้มค่า

รหัสตัวชี้วัด
ง ๑.๑ ป. ๑/๑ ป. ๑/๒ ป. ๑/๓

รวมทง้ั หมด ๓ ตัวช้วี ดั

๑๗๔

คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน

ง ๑๒๑๐๑ รายวชิ าการงานอาชพี กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพ

ช้นั ประถมศกึ ษาปี ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง

************************************************************************************************

ศึกษาค้นคว้า -วิธีการและประโยชน์การทางาน เพื่อช่วยเหลือตนเองและครอบครัว ค้นคว้าวิธีการ

และประโยชน์ในการทางาน ใช้วัสดุ อปุ กรณ์ และเคร่อื งมือ ในการทางานอยา่ งเหมาะสม เพื่อชว่ ยเหลือตนเอง

และครอบครัวอย่างปลอดภัย ประโยชน์ของส่ิงของเครื่องใช้ในชีวิตประจาวัน การใช้อุปกรณ์ เคร่ืองมือ

ทถ่ี กู วิธีไปประยุกต์ใช้ใน การสร้างของเล่นของใชอ้ ย่างง่าย มีความคิดสร้างสรรค์ อยา่ งน้อย ๑ ลักษณในการ

แก้ปัญหา หรือสนองความต้องการ ประโยชน์ของข้อมูลและรวบรวมข้อมูลท่ีสนใจจากแหล่งข้อมูลต่างๆ

ที่เชอื่ ถอื ได้

โดยกาหนดปัญหาหรือความต้องการ รวบรวมข้อมูล ออกแบบ โดยถ่ายทอดความคิด

เปน็ ภาพร่าง ๒ มติ ิ ลงมือสร้าง และประเมินผลเพื่อให้เขา้ ใจกระบวนการทางานทมี่ ปี ระสิทธิภาพ

ใช้กระบวนการกลุ่มในการทางาน มีทักษะการแสวงหาความรู้ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหาและทักษะ

การจดั การ

มีลักษณะนิสัยการทางาน ที่เสียสละ มีคุณธรรม ตัดสินใจอย่างมีเหตุผลและถูกต้อง และมีจิตสานึก

ในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากรและอนรุ กั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ มอยา่ งประหยดั และคุม้ คา่

รหสั ตวั ชี้วดั
ง ๑.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๒ ป. ๒/๓

รวมทัง้ หมด ๓ ตวั ช้วี ัด

๑๗๕

คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

ง ๑๓๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี

ชัน้ ประถมศึกษาปี ๓ เวลา ๔๐ ช่วั โมง

************************************************************************************************

ศึกษาค้นคว้าวิธีการและประโยชน์การทางาน เพ่ือช่วยเหลือ ตนเอง ครอบครัวและส่วนรวม

การใช้วัสดุ อปุ กรณ์ และเครอ่ื งมือตรงกบั ลกั ษณะงาน ขน้ั ตอนกระบวนการทางาน การสรา้ งของเล่นของใช้อย่างง่าย

อยา่ งถกู ต้องและปลอดภัย

โดยถ่ายทอดความคิดเป็นภาพร่าง ๒ มิติ ลงมือสร้าง และประเมินผล เลือกใช้สิ่งของเคร่ืองใช้

ในชีวิตประจาวันอย่างสร้างสรรค์ มีการจัดการส่ิงของเคร่ืองใช้ด้วยการนากลับมาใช้ซ้า เพื่อให้เข้าใจวิธีการ

ทางาน กระบวนการทางานที่มีประสิทธิภาพ ใช้กระบวนการกลุ่มในการทางาน มีทักษะการแสวงหาความรู้

ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหาและทักษะ การจัดการ เข้าใจประโยชน์ของสิ่งของเครื่องใช้ใน

ชีวิตประจาวัน โดยกาหนด ปัญหาหรือความต้องการ รวบรวมข้อมูล ออกแบบมีความคิด

ในการแก้ปญั หาหรือสนองความตอ้ งการอยา่ งมีความคิดสรา้ งสรรค์ มที กั ษะในการสร้างของเลน่

มีลักษณะนิสัยการทางาน ที่เสียสละ มีคุณธรรม ตัดสินใจอย่างมีเหตุผลและถูกต้อง และมีจิตสานึก

ในการใช้พลงั งาน ทรพั ยากรและอนรุ กั ษ์สงิ่ แวดล้อมอยา่ งประหยัดและคมุ้ คา่

รหัสตัวช้ีวัด ง ๑.๑ ป. ๓/๑ ป. ๓/๒ ป. ๓/๓
รวมทัง้ หมด ๓ ตัวชว้ี ดั

๑๗๖

คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

ง ๑๔๑๐๑ กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี

ช้นั ประถมศกึ ษาปี ๔ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง

************************************************************************************************

ศึกษาค้นควา้ อธบิ ายความหมาย ความสาคัญ และประโยชนใ์ นการทางานสามารถทางาน

ตามข้นั ตอน ในการดแู ลของใช้ ส่วนตวั การจัดตเู้ สอื้ ผา้ การจดั โต๊ะ และกระเปา๋ นักเรยี น การปลกู พชื

ประเภทไม้ดอก ไม้ประดบั การซ่อมแซม เคร่ืองมอื เคร่ืองใชก้ ารประดษิ ฐ์ของใช้ของตกแต่งจากใบตอง

และกระดาษ มารยาทในการรับแขก การรบั ประทาน อาหาร การใช้หอ้ งเรยี น ห้องนา้ หอ้ งสว้ ม

โดยมคี วามคดิ รเิ รมิ่ ในการทางาน มคี วามรบั ผิดชอบ มจี ิตใจในการใชพ้ ลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ
และสงิ่ แวดลอ้ มได้อย่างถูกวิธีสามารถวางแผนดาเนินงาน ปฏิบัติตามแผนกาหนดแนวทางฝึกทางาน

เพื่อให้มีความต้ังใจและเอาใจใส่ตอ่ การทางาน ฝึกปฏิบตั ใิ นฐานะผ้นู า สรา้ งสัมพันธภาพทดี่ ีมีนิสยั
รกั การทางาน สังเกตการปฏบิ ัตงิ านและนาผลงานมาอธบิ ายหาขอ้ บกพรอ่ ง ปรบั ปรงุ แก้ไข ให้งานอาชพี ที่สุจรติ

รหสั ตัวชี้วัด ง ๑.๑ ป. ๔/๑ ป. ๔/๒ ป. ๔/๓ ป. ๔/๔
รวมทง้ั หมด ๔ ตัวชวี้ ดั

๑๗๗

คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน

ง ๑๕๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี

ชน้ั ประถมศกึ ษาปี ๕ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง

************************************************************************************************

ศึกษาความหมาย ความสาคัญประโยชน์และฝึกการทางาน สามารถทางานตามขัน้ ตอน

ของการจัดตกแต่งบา้ น และจัดหอ้ งต่างๆภายในบ้าน กาหนดรายการอาหาร การเตรยี มอาหาร การจัดเก็บ

อาหารใหเ้ ปน็ หมวดหมู่ การเลือกใช้เส้อื ผา้ และอปุ กรณ์การซอ่ มแซมเสื้อผ้า การขยายพันธุ์พืช การปลูกพชื

ต่างๆ การจัดเก็บเอกสารตา่ งๆ และดแู ลรักษาของใช้สว่ นตวั และสว่ นรวม

โดยมคี วามคิดรเิ รม่ิ ในการทางาน ทางานด้วยความรบั ผิดชอบ สามารถใช้พลงั งานธรรมชาติ
และสิง่ แวดล้อมไดอ้ ยา่ งถูกวธิ ีสามารถวิเคราะห์วางแผนดาเนินงาน ปฏิบัติตามแผนกาหนดแนวทางฝกึ ทางาน
การค้นคว้ารวบรวม เก่ียวกบั การทางานจากแหล่งความรู้

เพื่อให้เกิดความต้งั ใจและเอาใจใส่ตอ่ งาน ฝึกปฏบิ ัติในฐานะผูน้ า สรา้ งสมั พนั ธภาพทดี่ ี มีนิสัย
รกั การทางานสังเกตการปฏิบัตงิ านและนาผลงานมาอภิปรายหาขอ้ บกพรอ่ ง ปรบั ปรุงแก้ไข นาแนวทาง
เทคโนโลยมี าใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ในการพฒั นาอาชีพสุจริต

รหัสตวั ช้ีวัด ป. ๕/๑ ป. ๕/๒ ป. ๕/๓ ป. ๕/๔
ง ๑.๑ ป. ๕/๑ ป. ๕/๒
ง ๒.๑ ๖ ตวั ชว้ี ดั

รวมทั้งหมด

๑๗๘

คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน

ง ๑๖๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี

ชั้นประถมศกึ ษาปี ๖ เวลา ๔๐ ชั่วโมง

************************************************************************************************

ศกึ ษาความหมาย ความสาคัญ ประโยชน์และฝึกการทางาน สามารถทางานตามขนั้ ตอน

ของการจัดตกแตง่ บริเวณบ้าน การปรุงอาหารอยางถกู หลกั โภชนาการ การถนอมอาหาร การดูแลเส้อื ผา้

อยา่ งประหยัด การซ่อมแซม เส้ือผ้า การประดษิ ฐ์ของใช้จากเศษวสั ดุเครื่องมอื การเกษตร การปลูกดอกไม้

ไมป้ ระดบั หรือการปลกู ผัก และการเล้ียงสัตว์โดยใชว้ สั ดุต่างๆ ทเ่ี หลอื ใช้และการเก็บรกั ษาเคร่อื งมอื เครอ่ื งใช้

อย่างถูกวิธี

โดยมีความคิดริเรม่ิ ในการทางาน ทางานด้วยความรับผดิ ชอบ สามารถใช้พลงั งานธรรมชาติ

และสิ่งแวดล้อมได้ อย่างถูกวธิ ีสามารถวิเคราะหว์ างแผนดาเนินงาน ปฏบิ ัติตามแผนกาหนดแนวทางฝกึ ทางาน

การคน้ คว้ารวบรวม เกีย่ วกบการทางานจากแหล่งความรู้

เพ่อื ให้มีความตั้งใจและเอาใจใสต่ ่องาน ฝกึ ปฏบิ ตั ิในฐานผู้นาสรา้ งสมั พันธภาพทด่ี ีมีนสิ ัย

รกั การทางาน สงั เกตการปฏิบตั งิ านและนาผลงานมาอภปิ รายหาขอ้ บกพร่อง ปรบั ปรุงแก้ไข ในการพัฒนางาน

อาชพี สุจริต

รหัสตัวชี้วดั

ง ๑.๑ ป. ๖/๑ ป. ๖/๒ ป. ๖/๓

ง ๒.๑ ป. ๖/๑ ป. ๖/๒

รวมทง้ั หมด ๕ ตัวช้วี ัด

๑๗๙

_

รายวชิ าพืน้ ฐานกลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี
ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น

รายวิชาพน้ื ฐาน หน่วยกิต เวลา
ง ๒๑๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน ๑ ๔๐ ชั่วโมง
ง ๒๑๑๐๒ การงานอาชพี จานวน ๑ ๔๐ ชัว่ โมง
ง ๒๒๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน ๑ ๔๐ ชัว่ โมง
ง ๒๒๑๐๒ การงานอาชพี จานวน ๑ ๔๐ ชวั่ โมง
ง ๒๓๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน ๑ ๔๐ ชวั่ โมง
ง ๒๓๑๐๒ การงานอาชพี จานวน ๑ ๔๐ ช่วั โมง

๑๘๐

คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน

ง ๒๑๑๐๑ รายวิชาการงานอาชพี กลมุ่ สาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชพี

ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จานวน ๑ หน่วยกิต

**********************************************************************************

เขา้ ในกระบวนการทางานท่มี ปี ระสิทธภิ าพ ใชก้ ระบวนการกลุ่มในการทางาน มที ักษะการแสวงหา

ความรู้ การปฏบิ ตั ิงานตามทกั ษะกระบวนการทว่ี างแผนไว้ การวางแผน กาหนดเป้าหมาย แบ่งงานตาม

ความสามารถ ตามบทบาทหน้าที่ ประเมินผลและปรับปรงุ งาน การแสวงหาความรู้ กระบวนการแกป้ ญั หา

ทักษะการจดั การมีลกั ษณะนิสัยการทางานที่เสียสละ มคี ุณธรรม ตัดสนิ ใจอย่างมีเหตผุ ลและถูกต้อง

ซงึ่ ช่วยอานวยความสะดวกในการดาเนนิ กิจกรรมตา่ ง ๆ และตอบสนองความตอ้ งการเฉพาะบุคคล

และสังคมมากขึ้น เพื่อการทางานและอาชีพ การผลิตพืช การประดิษฐ์ของเลน่ ส่งิ ของเคร่ืองใช้ เคร่อื งประดบั

เครอ่ื งตกแตง่ การจัดผลผลิต การใช้ การบารงุ รักษา การตดิ ต้ัง ประกอบ ซอ่ มแซมผลผลิต

มีนสิ ัยรักการทางาน มีสมั พนั ธภาพในการอย่รู ว่ มกบั ผู้อ่นื มีความซ่ือสัตยส์ ุจริต มพี ืน้ ฐาน

ในการดารงชวี ิต และปฏิบตั ิงานด้วยความภาคภมู ิใจ อยู่ในสังคมอย่างมีความสขุ

รหัสตวั ชี้วดั
ง.๑.๑ , ม.๑/๑ , ม.๑/๒ , ม.๑/๓
ง.๒.๑ , -
ง.๓.๑ , -
รวมทัง้ หมด ๓ ตัวชี้วัด

๑๘๑

คาอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน

ง ๒๑๑๐๒ รายวิชาการงานอาชพี กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ

ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จานวน ๑ หน่วยกติ

**********************************************************************************

ศึกษาค้นควา้ มีความรู้ ความเข้าใจ หลักการ ทกั ษะกระบวนการทางาน วางแผน จดั การปฏิบัตงิ าน

ตามลาดบั ข้ันตอนทว่ี างแผนไว้ วธิ ีการทางานตามกระบวนการกลมุ่ กาหนดเป้าหมาย วางแผน แบ่งงาน

ตามความสามารถ ปฏิบตั ิตามบทบาทหน้าท่ี ประเมนิ ผลและปรบั ปรุงงาน การตัดสินใจแก้ปัญหาการทางาน

อย่างมเี หตุผล มคี วามเสยี สละซงึ่ เป็นลักษณะนิสัยในการทางาน สามารถแก้ปญั หาในการทางานเพอ่ื ให้เกดิ

ความคดิ หาวีการแกป้ ัญหาตา่ ง ๆ มีทกั ษะในการแสวงหาความรู้ ประกอบด้วยการ ศึกษา ค้นควา้ รวบรวม

สังเกต สารวจ และบันทกึ เพือ่ ใช้ในการพัฒนาการทางาน การใชท้ ักษะกระบวนการแกป้ ัญหาในการทางาน

มีขัน้ ตอน คอื การสงั เกต วเิ คราะห์ สรา้ งทางเลอื ก และประเมนิ ทางเลือก

สร้างส่ิงของเครอ่ื งใช้หรือวิธีการตามกระบวนการเทคโนโลยีอย่างปลอดภยั ออกแบบโดยถา่ ยทอด

ความคดิ ทักษะ กระบวนการแก้ปัญหาในการทางาน การสงั เกต และการวิเคราะห์ มีความคิดสรา้ งสรรค์

ในการแกป้ ัญหาหรือสนองความต้องการในงานทผี่ ลติ เอง เลือกใช้เทคโนโลยอี ยา่ งสรา้ งสรรคต์ ่อชวี ิต สงั คม

สงิ่ แวดลอ้ ม ดว้ ยการลดการใช้ทรพั ยากร ทไ่ี ม่มผี ลกระทบ ต่อส่ิงแวดลอ้ ม

การมจี ิตสานึกและใช้ทรพั ยากรอยา่ งประหยัดและคมุ้ คา่ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม มที กั ษะพน้ื ฐาน

ทีจ่ าเปน็ สาหรบั การประกอบอาชีพและประสบการณต์ ่ออาชพี ท่ีสนใจ และประเมินทางเลอื กในการประกอบ

อาชีพทีส่ อดคลอ้ งกับความรู้ ความถนัด และความสนใจ

รหสั ตัวช้ีวัด
ง.๑.๑ ม.๑/๑ , ม.๑/๒ , ม.๑/๓
ง.๒.๑ ม.๑/๑ , ม.๑/๒ , ม.๑/๓, ม.๑/๔
ง.๔.๑ ม.๑/๑ , ม.๑/๒ , ม.๑/๓
รวมทัง้ หมด ๑๐ ตัวช้ีวัด

๑๘๒

คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

ง ๒๒๑๐๑ การงานอาชพี กลุม่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี

ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จานวน ๑ หน่วยกติ

**********************************************************************************

เขา้ ในกระบวนการทางานทีม่ ปี ระสิทธิภาพ ใช้กระบวนการกลุม่ ในการทางาน มีทักษะการแสวงหา

ความรู้ การปฏิบตั ิงานตามทักษะกระบวนการที่วางแผนไว้ การวางแผน กาหนดเปา้ หมาย แบง่ งานตาม

ความสามารถ ตามบทบาทหนา้ ท่ี ประเมนิ ผลและปรับปรุงงาน การแสวงหาความรู้ กระบวนการแกป้ ญั หา

ทกั ษะการจดั การมลี ักษณะนสิ ัยการทางานทเ่ี สยี สละ มคี ณุ ธรรม ตัดสนิ ใจอย่างมเี หตผุ ลและถกู ต้อง

กระบวนการทางาน ความคดิ สรา้ งสรรค์ในการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ สรา้ งสิง่ ของเครอื่ งใช้

หรอื วิธีการตามกระบวนการอย่างถูกตอ้ งและปลอดภัยการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวสั ดุ

ในทอ้ งถ่นิ

การเลอื กใชว้ ัสดุ อยา่ งสรา้ งสรรค์ต่อชวี ิต สังคม ส่ิงแวดล้อม เขา้ ใจหลกั การทางาน ที่ชว่ ยอานวย

ความสะดวกในการดาเนินกจิ กรรมต่าง ๆ และตอบสนองความต้องการเฉพาะบคุ คลและสงั คมมากขน้ึ

การออกแบบการทางานและอาชีพ การประดษิ ฐ์ของเล่น สงิ่ ของเครื่องใช้ เครือ่ งประดบั เคร่ืองตกแตง่ การจดั

ผลผลิต การใช้ การบารุงรักษา การติดตัง้ ประกอบ ซอ่ มแซมผลผลติ

มีนิสยั รกั การทางาน มสี มั พนั ธภาพในการอยรู่ ว่ มกบั ผู้อนื่ มีความซอ่ื สัตยส์ จุ ริต มีพนื้ ฐาน

ในการดารงชวี ิต และปฏบิ ตั ิงานดว้ ยความภาคภูมิใจ อย่ใู นสงั คมอย่างมีความสขุ

รหสั ตัวชี้วัด
ง.๑.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓
ง.๒.๑ -
ง.๓.๑ -
ง.๔.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓
รวมทง้ั หมด ๖ ตวั ช้ีวัด

๑๘๓

คาอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน

ง ๒๒๑๐๒ การงานอาชพี กลุ่มสาระการเรยี นร้กู ารงานอาชีพ

ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๒ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จานวน ๑ หน่วยกิต

**********************************************************************************

ศกึ ษาค้นคว้า มีความรู้ ความเข้าใจ หลักการ ทักษะกระบวนการทางาน วางแผน จดั การปฏบิ ตั ิงาน

ตามลาดบั ขั้นตอนทว่ี างแผนไว้ วิธีการทางานตามกระบวนการกลมุ่ กาหนดเป้าหมาย วางแผน แบง่ งาน

ตามความสามารถ ปฏบิ ัติตามบทบาทหนา้ ท่ี ประเมนิ ผลและปรบั ปรุงงาน การตัดสินใจแก้ปญั หาการทางาน

อย่างมเี หตุผล มคี วามเสียสละซึ่งเป็นลักษณะนิสยั ในการทางาน สามารถแก้ปัญหาในการทางานเพ่อื ให้เกดิ

ความคดิ หาวกี ารแกป้ ญั หาต่าง ๆ มีทักษะในการแสวงหาความรู้ ประกอบดว้ ยการ ศกึ ษา ค้นควา้ รวบรวม

สังเกต สารวจ และบันทกึ เพอ่ื ใชใ้ นการพัฒนาการทางาน การใช้ทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทางาน

มีขนั้ ตอน คอื การสังเกต วิเคราะห์ สร้างทางเลอื ก และประเมนิ ทางเลอื ก

สรา้ งส่งิ ของเคร่อื งใช้หรอื วธิ ีการตามกระบวนการเทคโนโลยอี ยา่ งปลอดภยั ออกแบบโดยถา่ ยทอด

ความคิด ทักษะ กระบวนการแก้ปัญหาในการทางาน การสังเกต และการวิเคราะห์ มีความคิดสร้างสรรค์

ในการแกป้ ัญหาหรือสนองความต้องการในงานทผี่ ลิตเอง ดว้ ยการลดการใชท้ รัพยากร ที่ไม่มีผลกระทบ

ต่อสิง่ แวดล้อม

การมจี ิตสานกึ และใช้ทรพั ยากรอย่างประหยัดและคุ้มค่า มคี ุณธรรม จริยธรรม มที ักษะพนื้ ฐาน

ทจ่ี าเปน็ สาหรบั การประกอบอาชพี และประสบการณ์ต่ออาชีพที่สนใจ และประเมนิ ทางเลือกในการประกอบ

อาชพี ท่สี อดคลอ้ งกับความรู้ ความถนดั และความสนใจ

รหสั ตวั ชี้วัด
ง.๑.๑ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓
ง.๒.๑ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓, ม.๒/๔
ง.๔.๑ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓
รวมทั้งหมด ๑๐ ตวั ชี้วัด

๑๘๔

รำยวชิ ำพ้นื ฐำนและเพิ่มเติม กลุ่มสำระกำรเรียนรูภ้ ำษำตำ่ งประเทศ (ภำษำองั กฤษ)
ระดับประถมศกึ ษำ

รำยวิชำพื้นฐำน ภำษำอังกฤษ จำนวน ๑๒๐ ช่ัวโมง
อ ๑๑๑๐๑ ภำษำอังกฤษ จำนวน ๑๒๐ ชว่ั โมง
อ ๑๒๑๐๑ ภำษำองั กฤษ จำนวน ๑๒๐ ช่วั โมง
อ ๑๓๑๐๑ ภำษำอังกฤษ จำนวน ๑๒๐ ชั่วโมง
อ ๑๔๑๐๑ ภำษำอังกฤษ จำนวน ๑๒๐ ชั่วโมง
อ ๑๕๑๐๑ ภำษำองั กฤษ จำนวน ๑๒๐ ชั่วโมง
อ ๑๖๑๐๑
จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
รำยวชิ ำเพมิ่ เติม จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง
จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง
อ ๑๑๒๐๑ ภำษำอังกฤษเพือ่ กำรส่ือสำร ๑ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง
อ ๑๒๒๐๑ ภำษำองั กฤษเพ่อื กำรสือ่ สำร ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
อ ๑๓๒๐๑ ภำษำอังกฤษเพอ่ื กำรส่อื สำร ๓ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
อ ๑๔๒๐๑ ภำษำอังกฤษเพอื่ กำรสื่อสำร ๔
อ ๑๕๒๐๑ ภำษำองั กฤษเพ่อื กำรส่อื สำร ๕
อ ๑๖๒๐๑ ภำษำอังกฤษเพ่ือกำรสือ่ สำร ๖

๑๘๕

คำอธบิ ำยรำยวิชำพน้ื ฐำน

อ ๑๑๑๐๑ ภำษำองั กฤษพ้นื ฐำน กลุม่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำต่ำงประเทศ(รำยวชิ ำภำษำองั กฤษ)

ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ ๑ ภำคเรยี นท่ี ๑ เวลำ ๑๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๓ หนว่ ยกติ

**********************************************************************************

ความรู้ ความเขา้ ใจคาศัพท์ท่ีเป็นรปู ธรรมในวงคาศพั ท์ประมาณ ๑๕๐ –๒๐๐ คา ท่เี กยี่ วกบั คาส่ังท่ใี ช้
ในห้องเรยี น ตวั อกั ษร เสยี ง การสะกดคา หลักการอา่ นออกเสียง ประโยค คา กลมุ่ คา ความหมาย เกีย่ วกับ
ตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น สิง่ แวดลอ้ มใกลต้ วั อาหาร เคร่ืองด่มื และนนั ทนาการ บทอา่ นเกีย่ วกบั เรื่องใกล้ตัว
นิทานทีม่ ภี าพประกอบประโยคคาถามและคาตอบ บทสนทนาทใ่ี ชใ้ นการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ
ประโยค/ขอ้ ความทีใ่ ช้แนะนาตนเอง คาศพั ท์ สานวน ประโยคท่ใี ช้บอกความตอ้ งการ ขอและให้ขอ้ มลู เกยี่ วกับ
ตนเอง บุคคล เรือ่ งใกล้ตวั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา คาศพั ท์เกี่ยวกับเทศกาลสาคัญของเจา้ ของภาษา
กิจกรรมทางภาษา และวฒั นธรรม ตวั อกั ษร เสียงตัวอักษรของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทยคาศัพท์ที่
เกย่ี วขอ้ งกบั เรือ่ งใกล้ตัว สื่อต่าง ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่ืน การใช้ภาษาในการฟัง/พดู ใน
สถานการณง์ า่ ย ๆ ท่ีเกดิ ขึน้ ในหอ้ งเรยี น

โดยปฏิบัติตามคาส่งั งา่ ย ๆ ท่ใี ช้ในชัน้ เรียน ระบุ อ่านออกเสียงตวั อกั ษรภาษาอังกฤษ และภาษาไทย

สะกดคาไดถ้ กู ต้องตามหลกั การอา่ น เลือกภาพให้ตรงกบั ความหมายของคาศพั ท์ ความหมายของคา กลุม่ คาท่ี
ฟัง ตอบคาถามเกย่ี วกับตนเอง ครอบครวั โรงเรียน รวบรวมคาศพั ท์ทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่นื ท่ี
เกี่ยวข้องใกลต้ ัว พดู โต้ตอบดว้ ยคาสน้ั ๆ ที่ใช้ในการทกั ทาย กล่าวลา ขอบคณุ ขอโทษและประโยคข้อความท่ี
ใชแ้ นะนาตนเองใชค้ าสง่ั บอกความตอ้ งการ ขอและให้ข้อมลู งา่ ยๆ เกี่ยวกบั ตนเอง พูดและทาทา่ ประกอบตาม
วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เขา้ รว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมที่เหมาะสมกบั วัยถกู ต้องตามกาลเทศะ
ฟัง/พูด ในสถานการณ์ง่าย ๆ ทีเ่ กิดข้ึนในห้องเรยี น

มงุ่ หวังใหผ้ ู้เรียนมเี จตคติท่ีดตี ่อภาษาต่างประเทศ เข้าใจวฒั นธรรมอนั หลากหลายของประชาคมโลก
ตระหนักถึงความหลากหลายทางวฒั นธรรมและมมุ มองของสงั คมโลก นามาซึ่งมิตรไมตรี และความรว่ มมือ
เข้าใจตนเองและผอู้ นื่ ดีขึ้น เขา้ ใจความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนยี มประเพณี มเี จตคติ
ท่ีดตี อ่ การใช้ภาษาองั กฤษ มีวสิ ัยทัศน์ในการดาเนินชีวติ มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ รักความเปน็ ไทย ซอื่ สัตย์ รับผิดชอบ
รักการทางานและการอยู่อยา่ งพอเพียง

๑๘๖

รหสั ตัวช้ีวดั ต ๑.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔
ต ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔ ต ๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓
ต ๑.๓ ป.๑/๑ ต ๓.๑ ป.๑/๑
ต ๒.๒ ป.๑/๑ ต ๔.๒ ป.๑/๑
ต ๔.๑ ป.๑/๑
รวมทง้ั หมด ๑๖ ตวั ชวี้ ัด

๑๘๗

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพ้นื ฐำน

อ ๑๒๑๐๑ ภำษำองั กฤษพ้ืนฐำน กล่มุ สำระกำรเรียนรูภ้ ำษำต่ำงประเทศ(รำยวชิ ำภำษำองั กฤษ)

ช้ันประถมศึกษำปที ่ี ๒ เวลำ ๑๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๓ หน่วยกติ

**********************************************************************************

มคี วามรู้และความเข้าใจคาสง่ั คาขอร้องง่ายๆท่ใี ช้ในห้องเรียน การระบตุ ัวอกั ษร เสยี งตวั อักษร

ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย เสียงสระ การสะกดคา การอา่ นประโยคง่ายๆ ตามหลักการอ่านออกเสียง

ศึกษาวงคาศัพท์ทีเ่ ป็นรปู ธรรม ประมาณ ๒๕๐ – ๓๐๐ คาเกยี่ วกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สง่ิ แวดล้อม

ใกลต้ วั อาหาร เครือ่ งดม่ื และนันทนาการ การตอบคาถามจากการฟงั ประโยคสนทนา หรอื นทิ านง่าย ๆ ที่มี

ภาพประกอบ การพูดโต้ตอบดว้ ยคาตอบส้นั ๆ ง่าย ๆ การส่ือสารระหวา่ งบุคคล การกลา่ วทกั ทาย กลา่ วลา

ขอบคุณ ขอโทษ การใช้คาศพั ท์ สานวนภาษาและประโยค หรอื ขอ้ ความที่ใชแ้ นะนาตนเองบอกความต้องการ

การพดู ขอ และใหข้ ้อมูลงา่ ยๆ เก่ียวกบั ตวั เองและเรื่องใกล้ตัว

โดยปฏบิ ัติตามคาสงั่ คาขอร้องงา่ ยๆทีฟ่ งั และนาไปใชไ้ ด้ ระบุตวั อกั ษรและเสียงตัวอกั ษรของ

ภาษาองั กฤษและภาษาไทย อ่านออกเสียงคา สะกดคา อา่ นประโยคง่ายๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น เลอื กภาพ

ตรงตามความหมายของคา กลมุ่ คา และประโยคทฟ่ี ัง ตอบคาถามจากการฟงั ประโยค บทสนทนา นทิ านงา่ ย ๆ

ท่มี ภี าพประกอบ ใช้คาขอร้องงา่ ยๆ เพอื่ บอกความต้องการของตนเอง พดู ขอและให้ขอ้ มลู ในการสื่อสาร

ระหว่างบุคคลเก่ยี วกบั ตนเองและเรือ่ งใกลต้ ัวในสถานการณง์ ่ายๆท่ีเกิดขึ้นในห้องเรยี น พร้อมท้ังทาทา่ ทาง

ประกอบตามวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา บอกคาศัพทท์ ี่เก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื ตอบคาถาม

เรื่องใกลต้ วั เกย่ี วกับเทศกาลสาคัญ และเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเี่ หมาะสมกบั วัยถูกต้องตาม

กาลเทศะ มนี ิสยั ใฝ่เรยี นรู้ รกั ความเป็นไทย รกั การทางาน และการอยู่อย่างพอเพยี ง

มงุ่ หวงั ใหผ้ เู้ รียนมเี จตคติท่ดี ตี ่อภาษาต่างประเทศ เขา้ ใจวัฒนธรรมอนั หลากหลายของ ประชาคมโลก

ตระหนกั ถึงความหลากหลายทางวฒั นธรรมและมมุ มองของสังคมโลก นามาซึง่ มิตรไมตรี และความรว่ มมือ

เขา้ ใจตนเอง และผู้อื่นดีขนึ้ เข้าใจความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนยี มประเพณี มเี จตคติทดี่ ี

ต่อการใช้ภาษาอังกฤษ มวี ิสัยทัศนใ์ นการดาเนินชีวติ มวี นิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ รักความเป็นไทย ซ่ือสัตย์ รับผิดชอบ รกั

การทางานและการอยอู่ ย่างพอเพยี ง

รหัสตัวชี้วดั

ต ๑.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔ ต ๑.๒ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔

ต ๑.๓ ป.๒/๑ ต ๒.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓

ต ๒.๒ ป.๒/๑ ต ๓.๑ ป.๒/๑

ต ๔.๑ ป.๒/๑ ต ๔.๒ ป.๒/๑

รวมทง้ั หมด ๑๖ ตัวชี้วดั

๑๘๘

คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้ืนฐำน

อ ๑๓๑๐๑ ภำษำองั กฤษพนื้ ฐำน กล่มุ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำต่ำงประเทศ(รำยวิชำภำษำอังกฤษ)

ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ เวลำ ๑๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๓ หน่วยกติ

**********************************************************************************

มคี วามรูค้ วามเข้าใจคาสง่ั คาขอรอ้ ง คาแนะนา ทใี่ ชใ้ นหอ้ งเรียน คา กลุ่มคา ประโยคบทพดู เข้าจงั หวะ
การสะกดคา การใช้พจนานกุ รม การออกเสียงพยัญชนะตน้ คา ท้ายคา เสียงเนน้ หนกั -เบา ในคาระดับเสยี งสูง-
ตา่ ในประโยค ความหมายเกี่ยวกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิง่ แวดลอ้ มใกล้ตวั อาหาร เคร่ืองด่ืม
นันทนาการ เป็นวงคาศัพทท์ ่ีเปน็ รูปธรรมประมาณ ๓๕๐ - ๔๕๐ คา ประโยค บทสนทนา นทิ าน ที่มี
ภาพประกอบ ประโยคคาถามคาตอบ บทสนทนาท่ีใช้ในการทกั ทาย กลา่ วลา ขอบคุณ ขอโทษ การแนะนา
ตนเอง คาศัพท์ สานวน ประโยคทใ่ี ช้บอกความต้องการ แสดงความรสู้ ึก ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพอ่ื น
บุคคล และเรอ่ื งใกลต้ ัว ระบคุ วามสมั พนั ธข์ องภาพกับคา กลมุ่ คา โดยใชภ้ าพ แผนภูมิ แผนภาพ แผนผงั
การใช้สีหนา้ ท่าทางประกอบ การพดู ตามมารยาททางสงั คม วัฒนธรรม การแสดงอาการตอบรบั หรือปฏเิ สธ
คาศัพท์เกย่ี วกับเทศกาล วันสาคญั งานฉลองชีวิตความเปน็ อยู่ของเจา้ ของภาษา กจิ กรรมทางภาษาและ
วฒั นธรรม การเลา่ นิทานประกอบทา่ ทาง บอกความแตกต่างของเสียงตัวอกั ษร คา กล่มุ คา ประโยคของ
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย คาศัพทท์ เี่ กยี่ วข้องกบั กลุ่มสาระการเรียนรูอ้ ื่น การใช้ภาษาในการฟังพูด
ในสถานการณง์ ่าย ๆ ทเี่ กดิ ข้นึ ในห้องเรียน การใช้ภาษาต่างประเทศในการรวบรวมคาศัพทท์ ีเ่ กี่ยวข้องใกล้ตัว
จากสือ่ ต่าง ๆ

โดยปฏิบตั ติ ามและใชค้ าสั่ง คาขอรอ้ งงา่ ยๆ ตามแบบทฟ่ี ัง หรืออ่าน ระบุตวั อกั ษร บอกความแตกตา่ ง

เสยี งตัวอักษรของภาษาอังกฤษและภาษาไทย อา่ นออกเสียง สะกดคา อ่านกลุ่มคา ประโยคและบทพูด

เขา้ จงั หวะ เลือกหรือระบภุ าพหรอื สัญลักษณ์ตรงตามความหมาย ของกลุ่มคาและประโยคที่ฟงั ปฏิบัติตาม

คาส่ังและคาขอรอ้ ง บอกความรู้สึก ความตอ้ งการงา่ ยๆ ของตนเอง พดู ขอและให้ขอ้ มลู ในการส่ือสารระหว่าง

บคุ คลเกี่ยวกบั ตนเอง เพ่อื นและเร่ืองใกล้ตัวในสถานการณง์ า่ ย ๆ หรอื กจิ กรรมตา่ งๆ พรอ้ มท้งั ทาท่าประกอบ

ตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ตอบคาถามจากการฟังหรืออา่ นประโยค บทสนทนา หรอื นทิ านง่าย ๆ

บอกชอื่ รวบรวมคาศพั ท์ จัดหมวดหมคู่ า พร้อมท้ังบอกความแตกตา่ งของคาตามประเภทเกยี่ วกับเรื่องใกล้ตวั

เชอื่ มโยงความรูก้ บั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ น่ื และเทศกาล วันสาคญั ของเจา้ ของภาษา ตลอดจนเขา้ ร่วมกิจกรรม

ทางภาษาและวฒั นธรรม ที่เหมาะสมกบั วยั ถกู ต้องตามกาลเทศะ

มงุ่ หวังให้ผู้เรยี นมเี จตคติทด่ี ีตอ่ ภาษาตา่ งประเทศ เข้าใจวฒั นธรรมอนั หลากหลายของประชาคมโลก
ตระหนกั ถงึ ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมมุ มองของสังคมโลกนามาซึง่ มิตรไมตรี และความรว่ มมือ
เข้าใจตนเองและผู้อนื่ ดขี ้ึน เข้าใจความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี มเี จตคติทด่ี ี
ตอ่ การใชภ้ าษาองั กฤษ มวี ิสัยทัศน์ในการดาเนินชีวิต มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย ซื่อสตั ย์ รับผดิ ชอบ
รกั การทางาน การอยู่อย่างพอเพียงและภมู ใิ จในท้องถ่ินของตน

๑๘๙

รหัสตวั ช้ีวดั

ต ๑.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔
ต ๑.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔, ป.๓/๕
ต ๑.๓ ป.๓/๑ , ป.๓/๒
ต ๒.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ต ๒.๒ ป.๓/๑
ต ๓.๑ ป.๓/๑
ต ๔.๑ ป.๓/๑
ต ๔.๒ ป.๓/๑

รวมท้งั หมด ๑๘ ตวั ชีว้ ดั

๑๙๐

คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน

อ ๑๔๑๐๑ ภำษำองั กฤษพื้นฐำน กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ(รำยวิชำภำษำอังกฤษ)

ช้นั ประถมศกึ ษำปที ี่ ๔ เวลำ ๑๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๓ หน่วยกิต

**********************************************************************************

มีความรคู้ วามเข้าใจคาสง่ั คาขอรอ้ ง คาแนะนา คาขออนญุ าตทีใ่ ช้ในหอ้ งเรยี น คาศัพท์ สานวน
ประโยคแสดงความต้องการ ขอความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ การออกเสยี งพยญั ชนะตน้ คาทา้ ยคา
เสยี งเน้นหนัก - เบา ในคา กลุม่ คา ระดบั เสียงสงู - ตา่ ในประโยค กลุ่มคา สญั ลักษณ์ เครือ่ งหมาย และ
ความหมาย เกยี่ วกับตนเอง ครอบครวั สง่ิ แวดล้อมใกลต้ ัว เป็นวงคาศพั ท์ที่เปน็ รปู ธรรมประมาณ ๕๕๐-๗๐๐
คา ประโยค บทสนทนา นิทานทมี่ ภี าพประกอบ คาถามคาตอบเกยี่ วกับบทสนทนาท่ีใช้แนะนาตนเอง เพอื่ น
และบคุ คลใกล้ตัว คา ประโยคที่ใชแ้ สดงความรสู้ ึก ขอหรอื ใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกับตนเอง เร่อื งใกล้ตัว การใช้
เคร่ืองหมายวรรคตอน การระบคุ วามสัมพนั ธโ์ ดยใชภ้ าพ แผนภูมิ แผนภาพ แผนผัง ประโยคแสดง
ความคิดเหน็ เกยี่ วกับเรอื่ งตา่ ง ๆ ใกลต้ ัว มารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของ คาศพั ท์ และข้อมูล
เก่ียวกบั เทศกาล วิถีชวี ิตของเจา้ ของภาษา กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม ความเหมอื น ความแตกตา่ ง
ของเสียงตวั อกั ษร คา กลุม่ คา ประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย การค้นควา้ รวบรวม นาเสนอ
คาศัพท์ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับกลุม่ สาระการเรยี นร้อู น่ื การใช้ภาษาในการฟงั พูด อ่านในสถานการณท์ ่ีเกดิ ขึ้น
ในห้องเรียน การใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื ค้นและการรวบรวมคาศัพทท์ ีเ่ กยี่ วขอ้ งใกลต้ วั จากสื่อและ
แหลง่ การเรยี นรู้ตา่ ง ๆ

โดยปฏบิ ตั ติ ามและใชค้ าสัง่ คาขอรอ้ ง คาแนะนา คาขออนุญาต พดู แสดงความต้องการของตนเองเพอ่ื
ขอความช่วยเหลอื ในสถานการณ์ง่ายๆ รวมถงึ การให้ขอ้ มลู แสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับตนเองตลอดจนแสดง
ความสัมพันธ์ของสง่ิ ต่างๆ ใกลต้ ัว อา่ นออกเสียงคา กลุ่มคา ประโยคขอ้ ความสน้ั ๆ บทพูดเข้าจังหวะถูกต้องตาม
หลกั การอา่ น สนทนาโต้ตอบในสถานการณท์ ่เี กดิ ขึ้นในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา ใชภ้ าษาได้สภุ าพตามมารยาท
ทางสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เปรยี บเทยี บ อธบิ ายความแตกต่างระหว่างภาษาไทยกบั
ภาษาองั กฤษในเร่อื งของเสยี งอักษร คา กลมุ่ คา ประโยค ข้อความ เทศกาล งานฉลองและชีวิตความเปน็ อยู่
มที ักษะในการสบื ค้นรวบรวมขอ้ มลู นาเสนอคาศัพท์ทเี่ กยี่ วข้องกับกล่มุ สาระการเรียนร้อู นื่ มีความสามารถ
ในการถ่ายโอนขอ้ มลู นาเสนอเป็นภาพวาด หรอื สัญลกั ษณต์ ่างๆ อย่างเปน็ ระบบ สนใจเขา้ ร่วมกจิ กรรม
ทางวัฒนธรรมที่เหมาะสมกับวยั

มุง่ หวงั ใหผ้ เู้ รยี นมีเจตคติท่ดี ตี ่อภาษาตา่ งประเทศ เขา้ ใจวัฒนธรรมอันหลากหลายของประชาคมโลก
ตระหนกั ถึงความหลากหลายทางวฒั นธรรมและมมุ มองของสังคมโลก นามาซึง่ มติ รไมตรี และความรว่ มมือ
เขา้ ใจตนเองและผู้อื่นดขี น้ึ เข้าใจความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี มเี จตคติทีด่ ี

๑๙๑

ต่อการใชภ้ าษาอังกฤษ มีวสิ ัยทัศน์ในการดาเนนิ ชวี ิต มวี ินัย ใฝเ่ รียนรู้ ม่งุ มนั่ ในการทางาน อย่อู ยา่ งพอเพยี ง
ภมู ิใจในทอ้ งถ่ินของตน และดารงไวซ้ ่ึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยในสงั คมโลก

รหสั ตัวช้ีวดั
ต ๑.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔
ต ๑.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕
ต ๑.๓ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓
ต ๒.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓
ต ๒.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒
ต ๓.๑ ป.๔/๑
ต ๔.๑ ป.๔/๑
ต ๔.๒ ป.๔/๑
รวมท้ังหมด ๒๐ ตวั ชว้ี ัด

๑๙๒

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

อ ๑๕๑๐๑ ภำษำอังกฤษพ้ืนฐำน กลุม่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ(รำยวิชำภำษำอังกฤษ)

ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ่ี ๕ เวลำ ๑๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๓ หน่วยกติ

**********************************************************************************

มคี วามรคู้ วามเข้าใจคาสั่ง คาขอรอ้ ง คาแนะนาท่ีใชใ้ นหอ้ งเรยี น ภาษาท่าทาง คาศัพท์ สานวน
ประโยคบอกความตอ้ งการ ขอความชว่ ยเหลือ ตอบรบั ปฏเิ สธการใหค้ วามช่วยเหลือ หลักการอ่านออกเสยี ง
พยญั ชนะต้นคา ท้ายคา เสยี งเนน้ หนัก-เบา ในคา ระดบั เสยี งสงู -ต่า เสียงเชอ่ื มโยงในข้อความ ประโยค
การออกเสียงบทกลอนตามจังหวะ การถาม ตอบ ประโยค บทสนทนา นิทาน หรือเร่อื งสนั้ ๆ การใชค้ าศัพท์
สานวน ประโยคใชแ้ สดงความรู้สึก ขอและให้ข้อมลู แสดงความคิดเห็น เกย่ี วกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และ
เร่อื งต่าง ๆ ใกล้ตวั การศึกษาคาศัพท์ท่ีเปน็ รปู ธรรม ประมาณ ๗๕๐-๙๕๐ การบอกความหมายของเรื่องตา่ ง ๆ
ภาพ แผนผัง แผนภูมิ ตาราง การใช้ถอ้ ยคา นา้ เสียง และกิริยาท่าทางตามมารยาทสงั คมวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษา การเข้าร่วมกิจกรรมทางและวัฒนธรรม ความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิด
ตา่ ง ๆ ของเจา้ ของภาษากับของไทย การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และการลาดับคาตามโครงสร้างประโยค
เทศกาล งานฉลองของภาษาตา่ งประเทศและของ การค้นคว้า การรวบรวม นาเสนอคาศพั ทท์ ี่เกยี่ วขอ้ งกบั กลมุ่
สาระการเรียนร้อู ่ืน การใชภ้ าษาในการฟงั พูด อา่ น/เขียนในสถานการณต์ า่ งๆ ท่เี กดิ ข้ึนในห้องเรยี น การใช้
ภาษาต่างประเทศในการสบื ค้นและการรวบรวมคาศพั ทท์ ี่เกย่ี วขอ้ งใกลต้ วั จากส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ต่าง ๆ

โดยปฏิบตั ติ ามคาสัง่ คาขอร้อง คาแนะนาง่าย ๆ ฟัง พดู โต้ตอบ เขียน ขอหรือให้ข้อมูลในการส่ือสาร
ระหว่างบคุ คลเก่ยี วกบั คาขอร้อง คาขออนญุ าต คาแนะนางา่ ย ๆ บอกความต้องการ ขอความช่วยเหลือ โดยใช้
การตอบรับและปฏเิ สธในสถานการณ์ตา่ ง ๆ บอกความร้สู กึ ของตนเอง แสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกบั ข้อมูล
ทีเ่ กยี่ วกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครัว เรอ่ื งตา่ ง ๆ ใกลต้ ัว กจิ กรรมต่าง ๆ สถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกิดขน้ึ ในห้องเรียน
สถานศกึ ษาและท้องถิน่ ใชถ้ ้อยคา น้าเสยี ง กริ ิยาทา่ ทางอย่างสภุ าพ ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของ
เจ้าของภาษา ตอบคาถาม บอกความสาคญั ความเหมือนและความแตกต่างของเทศกาลวนั สาคัญงานฉลอง
และชวี ติ ความเปน็ อยู่ง่าย ๆ ของเจ้าของภาษา เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม ตามความสนใจ
อา่ นออกเสยี งประโยค ขอ้ ความ บทกลอนสั้น ๆ บทสนทนา และนทิ านง่าย ๆ เรอ่ื งสน้ั แล้วบอกใจความสาคัญ
ตอบคาถามจากการฟังและอ่าน บอกความเหมอื น ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนดิ ต่าง ๆ
การใช้เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดบั คาตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาตา่ งประเทศกับภาษาไทย ระบุ
วาดภาพ สัญลกั ษณ์หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค ขอ้ ความสนั้ ๆ เขียนภาพ แผนผัง
และแผนภมู ิ ขอ้ มูลตา่ ง ๆ คน้ คว้า รวบรวม นาเสนอ คาศัพท์ทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อื่น

๑๙๓

มงุ่ หวังให้ผู้เรยี นมเี จตคติท่ีดีตอ่ ภาษาตา่ งประเทศ เขา้ ใจวฒั นธรรมอันหลากหลายของประชาคมโลก
ตระหนักถึงความหลากหลายทางวฒั นธรรมและมมุ มองของสงั คมโลก นามาซง่ึ มิตรไมตรี และความรว่ มมือ
เข้าใจตนเองและผู้อนื่ ดีขน้ึ เข้าใจความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี มเี จตคตทิ ด่ี ี
ต่อการใชภ้ าษาองั กฤษ มีวสิ ยั ทัศน์ในการดาเนินชีวิต มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน มีจติ สาธารณะ
รกั การอยู่อย่างพอเพยี งภูมิใจในทอ้ งถ่นิ ของตน และดารงไว้ซง่ึ เอกลักษณ์ของความเปน็ ไทยในสงั คมโลก

รหสั ตัวชี้วัด
ต ๑.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔
ต ๑.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔ , ป๕/๕
ต ๑.๓ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
ต ๒.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
ต ๒.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒
ต ๓.๑ ป.๕/๑
ต ๔.๑ ป.๕/๑
ต ๔.๒ ป.๕/๑
รวมท้งั หมด ๒๐ ตวั ชี้วัด

๑๙๔

คำอธบิ ำยรำยวิชำพื้นฐำน

อ ๑๖๑๐๑ ภำษำอังกฤษพน้ื ฐำน กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำตำ่ งประเทศ(รำยวิชำภำษำองั กฤษ)

ช้ันประถมศกึ ษำปที ่ี ๖ เวลำ ๑๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๓ หน่วยกิต

**********************************************************************************

มีความรู้ความเข้าใจ คาสั่ง คาขอร้อง คาแนะนาท่ีใช้ในหอ้ งเรียน การใช้พจนานุกรม หลักการอ่าน
ออกเสยี งพยญั ชนะต้นคา ทา้ ยคา เสียงเนน้ หนัก - เบา ในคา ระดับเสยี งสงู -ต่า ในประโยค เสยี งเชื่อมโยง
การออกเสียงบทกลอนตามจังหวะ ขอ้ ความ สญั ลักษณ์ เคร่อื งหมาย ความหมายเกย่ี วกับตนเอง ครอบครัว
เร่ืองต่าง ๆ ใกล้ตัว ในวงคาศพั ทป์ ระมาณ ๑,๐๕๐ - ๑,๒๐๐ คา คาศัพท์ สานวน ประโยคบอกความตอ้ งการ
ขอความชว่ ยเหลอื ตอบรับ ปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลอื ขอและให้ข้อมูล แสดงความร้สู ึก ความคิดเห็น
ให้เหตุผลเก่ียวกับตนเอง เพ่ือน ครอบครัว ส่งิ แวดล้อม เรอ่ื งใกลต้ วั ทิศทางงา่ ยๆ สภาพดนิ ฟา้ อากาศ
เคร่ืองหมายวรรคตอน คา กลมุ่ คา ประโยคทมี่ คี วามหมายสัมพนั ธก์ บั ภาพ แผนผงั แผนภูมิ และตาราง การใช้
ถอ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทาง ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เทศกาล งานฉลอง
และชวี ติ ความเปน็ อยขู่ องเจ้าของภาษา ความเหมือนความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา่ งๆ
การใช้เครอื่ งหมายวรรคตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยค ความแตกต่างระหวา่ งเทศกาล
งานฉลอง และประเพณีของเจา้ ของภาษากบั ของไทย การค้นคว้า การรวบรวม การนาเสนอคาศัพท์ท่ี
เกีย่ วขอ้ งกับกล่มุ สาระการเรยี นรูอ้ น่ื การใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์ต่างๆทีเ่ กิดข้ึนในห้องเรยี นและ
สถานศึกษา การใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบค้น และการรวบรวมคาศพั ทท์ ีเ่ กีย่ วขอ้ งใกล้ตวั จากส่อื และ
แหลง่ การเรยี นร้ตู า่ ง ๆ

โดยปฏบิ ตั ติ ามและใชค้ าสัง่ คาขอร้อง คาแนะนาทีฟ่ ังและอา่ น อา่ นออกเสียงประโยค ข้อความ นิทาน
บทกลอนสั้น ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น ระบปุ ระโยค ข้อความตรงตามความหมายของสัญลักษณ์ หรือ
เครือ่ งหมายทอี่ ่าน บอกใจความสาคญั ตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นทิ านง่าย ๆ เร่ืองเล่า
พดู เขียน โตต้ อบ ในการสอ่ื สารระหวา่ งบคุ คลในสถานการณต์ า่ ง ๆ ใช้คาอนุญาต ให้คาแนะนา เพือ่ แสดง
ความตอ้ งการ ขอความช่วยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธ การให้ความชว่ ยเหลือ พดู ขอและให้ขอ้ มูล แสดง
ความรูส้ ึก ความคิดเหน็ ใหเ้ หตผุ ลประกอบเกี่ยวกับตนเอง เพอ่ื น ครอบครัว ส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ ัว หรือกจิ กรรม
ต่าง ๆ เขยี นภาพ แผนผัง แผนภูมิ และตารางแสดงข้อมูลต่าง ๆ ทฟ่ี ังและอา่ น ใชถ้ ้อยคา น้าเสียง กริ ยิ าทา่ ทาง
อย่างสภุ าพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ใหข้ อ้ มูลเกีย่ วกบั เทศกาล ชีวิต
ความเปน็ อยู่ ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
บอกความเหมอื น ความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี งประโยค การใชเ้ ครือ่ งหมายวรรคตอน การลาดับคา
ตามโครงสร้างประโยคเทศกาล งานฉลอง และประเพณขี องเจ้าของภาษากบั ของไทย ค้นคว้า รวบรวมคาศพั ท์

๑๙๕

ที่เกยี่ วขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรยี นร้อู ่นื จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอด้วยการพูด การเขียน ใชภ้ าษา
ตา่ งประเทศ ในการสืบค้นและรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ มที กั ษะการใชภ้ าษาต่างประเทศ (เน้นการฟัง-พดู -อา่ น-
เขยี น) สือ่ สารตามหวั เรอื่ งเกย่ี วกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น สิ่งแวดล้อม อาหาร เครื่องดืม่ เวลาวา่ ง และ
นนั ทนาการ สขุ ภาพ และสวัสดิการ การซือ้ -ขาย และลมฟ้าอากาศ ภายในวงคาศัพทป์ ระมาณ ๑,๐๕๐-๑,๒๐๐ คา
ใช้ประโยคเด่ยี ว และประโยคผสม สอ่ื ความหมายตามบรบิ ทต่าง ๆ

มุ่งหวังให้ผเู้ รียนมีเจตคติที่ดตี ่อภาษาตา่ งประเทศ เข้าใจวัฒนธรรมอนั หลากหลายของประชาคมโลก
ตระหนกั ถงึ ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมมุ มองของสังคมโลก นามาซง่ึ มิตรไมตรี และความร่วมมือ
เข้าใจตนเองและผอู้ น่ื ดีข้ึน เข้าใจความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนยี มประเพณี มเี จตคติ
ทีด่ ตี อ่ การใช้ภาษาอังกฤษ มวี สิ ัยทัศนใ์ นการดาเนินชีวิต มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ ม่ันในการทางาน มีความรกั ชาติ
ศาสน์ กษตั ริย์ ซอื่ สัตย์สุจริต มีจิตสาธารณ รักความเปน็ ไทย มีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มุ่งมน่ั ในการ
ทางาน ส่ือสารได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

รหสั ตัวช้ีวดั
ต ๑.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔
ต ๑.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป.๖/๕
ต ๑.๓ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓
ต ๒.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓
ต ๒.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒
ต ๓.๑ ป.๖/๑
ต ๔.๑ ป.๖/๑
ต ๔.๒ ป.๖/๑
รวมท้งั หมด ๒๐ ตวั ชว้ี ัด

๑๙๖

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพ่ิมเติม

อ ๑๑๒๐๑ ภำษำองั กฤษเพอ่ื กำรสือ่ สำร ๑ กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ

ช้นั ประถมศกึ ษำปีที่ ๑ เวลำ ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑ หนว่ ยกิต

**********************************************************************************

พัฒนาการใชค้ าส่งั ในห้องเรยี น การสะกดคา หลักการอ่านออกเสยี ง บทอา่ นเกย่ี วกับเรอ่ื งใกล้ตัว
หรอื นิทานท่ีมภี าพประกอบ บทสนทนาที่ใช้ในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ และประโยคหรือขอ้ ความ
ท่ีใชแ้ นะนาตนเอง บอกคาและประโยคทีใ่ ช้ในการพดู ใหข้ ้อมูลเก่ียวกับตนเอง บคุ คลใกล้ตัว และเร่อื งใกล้ตัว
การใชภ้ าษาในการฟงั พูดในสถานการณ์งา่ ยๆ ทีเ่ กดิ ขน้ึ ในห้องเรยี น

โดยปฏิบัติตามคาส่ังง่ายๆ ที่ฟัง ระบุตัวอักษรและเสียง อ่านออกเสียงและสะกดคาง่ายๆให้ถูกต้อง
ตามหลักการอ่าน ตอบคาถามจากการฟังเรื่อง ใกล้ตัว พูดโต้ตอบด้วยคาส้ันๆ ง่ายๆ ในการสื่อสารระหว่าง
บุคคลตามแบบที่ฟัง พูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว ฟัง/พูดในสถานการณ์ง่ายๆ ที่เกิดข้ึน
ในหอ้ งเรยี น

เพ่ือให้นักเรียนมีความสามารถในการอ่าน ฝึกทกั ษะกระบวนการคดิ การแก้ปัญหา การใช้ทักษะชีวิต
เทคโนโลยี มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ มุง่ ม่ันในการทางาน และมเี จตคตทิ ่ดี ตี ่อการเรียนภาษาองั กฤษ

ผลกำรเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นสามารถอา่ นออกเสยี งคาศัพท์ถกู ตอ้ งตามหลักการอา่ น
๒. นกั เรียนออกเสียงคาศพั ท์ ประโยคคาสัง่ ทใี่ ชใ้ นห้องเรียนได้
๓. นักเรียนสามารถพดู ใหข้ ้อมูลเกยี่ วกับตนเอง บุคคลใกลต้ ัว และเรือ่ งใกลต้ ัวได้

รวมผลกำรเรียนรู้ ๓ ขอ้


Click to View FlipBook Version