44 3.6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ในการวิจัยครั้งนี้ใช้สถิติเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล ดังนี้ 3.6.1 สถิติที่ใช้ในการหาคุณภาพของเครื่องมือ 1. ค่าดัชนีค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) ใช้สูตรดังนี้(ไพศาล วรคำ, 2564, น.269) IOC = IOC = ∑ เมื่อ IOC แทน ดัชนีความสอดคล้อง R แทน คะแนนระดับความสอดคล้องที่ผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนประเมินในแต่ละข้อ n แทน จำนวนผู้เชี่ยวชาญ มีเกณฑ์พิจารณาให้คะแนน ดังนี้ ให้ 1 เมื่อแน่ใจว่าข้อคำถามนี้มีความสอดคล้องกับจุดประสงค์ 0 เมื่อไม่แน่ใจว่าข้อคำถามนี้มีความสอดคล้องกับจุดประสงค์ -1 เมื่อแน่ใจว่าข้อคำถามนี้มีความสอดคล้องกับจุดประสงค์ โดยกำหนดเกณฑ์การพิจารณาระดับค่าดัชนีความสอดคล้อง ของข้อคำถามที่ได้จาก การคำนวณจากสูตรที่จะมี ค่าระหว่าง 0.00 ถึง 1.00 มีรายละเอียดของเกณฑ์การพิจารณา ดังนี้ มีค่า IOC ตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไป คัดเลือกข้อสอบข้อนั้นไว้ใช้ได้ แต่ถ้าได้ค่า IOC ต่ำกว่า 0.5 ควรพิจารณาแก้ไข ปรับปรุง หรือตัดทิ้ง 2. การหาความเชื่อมั่น (Reliability) โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์ของความสมมูลกัน (Coefficient of Equivalence) = ∑ − ∑ ∑ √[ ∑ 2 − (∑ ) 2][ ∑ 2 − (∑ ) 2] เมื่อ แทน สัมประสิทธิ์ของความสมมูลกับของแบบทดสอบอิงกลุ่ม X แทน คะแนนจากแบบทดสอบฉบับที่ 1 Y แทน คะแนนจากแบบทดสอบฉบับที่ 2 n แทน จำนวนกลุ่มตัวอย่าง
45 3. การหาอำนาจจำแนก (Discrimination) โดยใช้สูตรดัชนีอำนาจจำแนก (item Discrimination index: r) เขียนสูตรได้ดังนี้ = − = 2(−) เมื่อ แทน อำนาจจำแนกของข้อสอบ แทน จำนวนคนในกลุ่มสูงที่ตอบถูก แทน จำนวนคนในกลุ่มต่ำที่ตอบถูก , แทน จำนวนคนในกลุ่มสูงและกลุ่มต่ำตามลำดับ แทน จำนวนผู้สอบทั้งหมด ( = + ) 3.6.2 สถิติพื้นฐานที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ 1. ค่าเฉลี่ย (Mean : X, ) มีสูตรดังนี้(ไพศาล วรคำ, 2564, น.323) สำหรับกลุ่มตัวอย่าง ̅ = ∑ =1 เมื่อ X แทน ค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง แทน คะแนนของคนที่ i แทน จำนวนสมาชิกของกลุ่มตัวอย่าง 2. ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ใช้สูตร ดังนี้ (ไพศาล วรคำ, 2564, น. 325) กรณีกลุ่มตัวอย่าง = √ ∑ (−̅) 2 =1 −1 เมื่อ S แทน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของกลุ่มตัวอย่าง ̅แทน ค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง แทน คะแนนของคนที่ i แทน จำนวนสมาชิกของกลุ่มตัวอย่าง
46 3.6.3 สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมุติฐานการวิจัย การทดสอบทีแบบกลุ่มอิสระ (Independent-samples t-test) โดยใช้กรณีความแปรปรวนเท่ากัน (Equal variances assumed หรือ Pooled variances) (ไพศาล วรคำ, 2564 น.351) มีสูตรคำนวณดังนี้ = ̅ 1 − ̅ 2 √ 1 1 + 1 2 โดย 2 = (1−1)1 2+(2−1)2 2 1+2−2 และ = 1 + 2 − 2 เมื่อ t แทน ค่าสถิติทดสอบที ̅ 1, ̅ 2 แทน ค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ตามลำดับ 1 2 , 2 2 แทน ความแปรปรวนของกลุ่มตัวอย่างกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ตามลำดับ 1, 2 แทน ขนาดของกลุ่มตัวอย่างกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ตามลำดับ
47 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้ แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ได้นำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1. สัญลักษณ์ที่ใช้ในการนำเสนอข้อมูลผลการวิจัย 2. การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ 3. ผลการวิจัย 4.1 สัญลักษณ์ที่ใช้ในการนำเสนอข้อมูลผลการวิจัย ในการนำเสนอข้อมูลเพื่อให้เข้าใจตรงกันในการแปลความหมายของข้อมูล ผู้วิจัยได้กำหนดสัญลักษณ์และ ความหมายของสัญลักษณ์ในการนำเสนอข้อมูล ดังนี้ ∑ 1 แทน ผลรวมของคะแนนแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลัง หน่วยการเรียนรู้ ∑ 2 แทน ผลรวมของคะแนนแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลัง หน่วยการเรียนรู้ N แทน จำนวนคนในกลุ่มตัวอย่าง X แทน ค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง S.D แทน ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แทน การทดสอบที(t-test) * แทน มีนัยสำคัญทางสถิติที 4.2 การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ ตอนที่ 1 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) ของนักเรียนระดับชั้น ประถมศึกษาปี ที่ 2/1 กลุ่มทดลอง ตอนที่ 2 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ กระตือรือร้น (Active Learning) ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/1
48 4.3 ผลการวิจัย ตอนที่ 1 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) ของนักเรียนระดับชั้น ประถมศึกษาปี ที่ 2/1 กลุ่มทดลอง ผู้วิจัยได้เสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล ตามลำดับ 4.3.1 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้ แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปี ที่ 2 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการ ทดสอบค่าที(t-test for Dependent Sample) ตารางที่ 4.1 แสดงการเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) ก่อนเรียนและ หลังเรียน ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เปรียบเทียบ Pretest Posttest ̅ S.D ̅ S.D t p คะแนน 3.92 0.942 7.46 1.651 9.29 1.99 * มีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 จากตารางที่ 2. พบว่าคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก วิชา วิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) ของนักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พบว่า ผลการเรียนรู้หลังเรียน (X = 7.46 , S.D. = 1.651) สูงกว่าก่อนเรียน (X = 3.92, S.D. = 0.942) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 1 และ ผลการเรียนรู้หลังเรียน พบว่ามีพัฒนาการสูงกว่าก่อนเรียน ที่ตั้งไว้ ซึ่งยอมรับสมมติฐานข้อที่ 1
49 ตอนที่ 2 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ กระตือรือร้น (Active Learning) ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/1 ตารางที่ 4.2 แสดงความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้การจัดการเรียนรู้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการ จัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/1 รายการประเมิน (̅) (S.D) แปล ความหมาย ลำดับ ด้านที่ 1 ด้านบรรยากาศการจัดการเรียนการสอน นักเรียนเกิดความสนุกสนานในการเรียน 2.00 0.7 มาก 9 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียน 2.28 0.67 มาก 7 การจัดบรรยากาศเอื้อต่อการเรียนการสอน 2.08 0.49 มาก 8 ครูส่งเสริมให้นักเรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และร่วมกัน อภิปราย 2.32 0.69 มาก 6 รวม 2.26 0.09 มาก 1 ด้านที่ 2 ด้านเนื้อหาและกิจกรรมการสอน เนื้อหามีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนการสอน 2.28 0.73 มาก 4 เนื้อหาเข้าใจง่าย น่าสนุกและน่าสนใจ 2.08 0.75 มาก 3 ครูมีความสามารถในการอธิบายและถ่ายทอดความรู้ 2.6 0.70 มาก 5 กิจกรรมสนุกและน่าสนใจ 2.6 0.70 มาก 5 รวม 2.39 0.02 มาก 2 ด้านที่ 3 ด้านเวลาและสถานที่ ระยะเวลาที่ใช้มีความเหมาะสมต่อการเรียนการสอน 2.08 0.86 มาก 1 สถานที่เหมาะกับการเรียนการสอน 2.12 0.83 มาก 2 รวม 2.1 0.02 มาก 2 รวมทุกด้าน 2.25 0.04 มาก
50 จากตารางที่ 3 การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาสารคาม จำนวน 25 คน หลังจากใช้การจัดการเรียนรู้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/1 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) อยู่ในระดับมาก (X = 2.25 S.D. = 0.04 ) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ ลำดับที่ 1 ด้านบรรยากาศการจัดการเรียนการ สอน (X = 2.26 S.D. = 0.09) ลำดับที่ 2 ด้านเนื้อหาและกิจกรรมการสอน (X = 2.39 S.D. = 0.02) และลำดับที่ 3 ด้านเวลาและสถานที่ (X = 2.1 S.D. = 0.02) เมื่อพิจารณาเป็น รายด้าน เรียงลำดับดังนี้ ด้านบรรยากาศการจัดการเรียนการสอนมีระดับความพึงพอใจของนักเรียนอยู่ที่ระดับมาก ได้แก่ นักเรียนเกิดความ สนุกสนานในการเรียน (X = 2.00 S.D. = 0.7) นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียน (X = 2.28 S.D. = 0.67) การจัด บรรยากาศเอื้อต่อการเรียนการสอน (X = 2.08 S.D. = 0.49) และครูส่งเสริมให้นักเรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และร่วมกันอภิปราย (X = 2.32 S.D. = 0.69) ด้านเนื้อหาและกิจกรรมการสอนมีระดับความพึงพอใจของนักเรียนอยู่ที่ระดับมาก ได้แก่ เนื้อหามีความ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนการสอน (X = 2.08 S.D. = 0.73) เนื้อหาเข้าใจง่าย น่าสนุกและน่าสนใจ (X = 2.08 S.D. = 0.75) ครูมีความสามารถในการอธิบายและถ่ายทอดความรู้(X = 2.6 S.D. = 0.70) และกิจกรรมสนุกและ น่าสนใจ (X = 2.6 S.D. = 0.70) ด้านเวลาและสถานที่มีระดับความพึงพอใจของนักเรียนอยู่ที่ระดับมาก ได้แก่ ระยะเวลาที่ใช้มีความเหมาะสมต่อ การเรียนการสอน (X = 2.08 S.D. = 0.86) และสถานที่เหมาะกับการเรียนการสอน (X = 2.12 S.D. = 0.83)
51 บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเพื่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก วิชา วิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) ของนักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ผู้วิจัยได้สรุปผลของการวิจัยหลังจากที่ได้ทำ การวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้ 1. วัตถุประสงค์การวิจัย 2. สรุปผล 3. อภิปรายผล 4. ข้อเสนอแนะ 5.1 วัตถุประสงค์การวิจัย 1. เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบจำลอง เป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้ แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) ก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 3. เพื่อให้นักเรียนจัดกระทำและสื่อความหมายของข้อมูล เรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 4. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบจำลองเป็นฐาน ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) 5.2 สรุปผล จากการดำเนินการตามขั้นตอน และนำผลการวิจัยมาวิเคราะห์ ผู้วิจัยสามารถสรุป ผลการวิจัยได้ ดังนี้ 5.2.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบจำลองเป็นฐาน ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 1
52 5.2.2 นักเรียนกลุ่มทดลองชั้นประถมศึกษา ปีที่ 2/1 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยแบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการ จัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐาน 5.3 อภิปรายผล การวิจัยเพื่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้ แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม สามารถอภิปรายผลการวิจัยได้ดังนี้ เมื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/1 ก่อนและหลังการ จัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) พบว่านักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 2/1 หลังได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) มีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้แสดงว่าการสอนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานทำให้นักเรียนมี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นทั้งนี้อาดเพราะว่านักเรียนได้ทำกิจกรรมเพื่อฝึกกระบวนกาวเรียนรู้โดยใช้แบบจำสองเป็น ฐานด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสคงออกทุกกิจกรรมในแผนการจัดการเรียนรู้จึงทำให้นักเรียนมี ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทั้งกระบวนการที่ใช้ในการแสวงหาข้อมูล กระบวนการที่ใช้ในการจัดกระทำและสื่อ ความหมายข้อมูล กระบวนที่ใช้ในการพิสูจน์ ตรวจสอบขัดมูลเองจึงส่งผลให้นักเวียนสามารถทำแบบทดสอบในเนื้อหาที่ กำหนดนี้ได้ดี 5.4 และข้อเสนอแนะ 5.4.1 ข้อเสนอแนะเพื่อนำผลการวิจัยไปใช้ 1. ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ครูผู้สอนไม่ควรปิดกั้นหรือกำหนดรูปแบบของแบบจำลองที่นักเรียนสร้าง ขึ้น 2. ควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนก่อนที่จะให้นักเรียนสร้างแบบจำลองเพื่อให้นักเรียนได้ความรู้และ เกิดทักษะต่างๆที่จะทำให้นักเรียนสามารถสร้างแบบจำลองออกมาได้ดี 5.4.2 ข้อเสนอแนะเพื่อการทำวิจัยครั้งต่อไป 1. ควรใช้เวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้มากขึ้นโดยครูอาจจะขยายเวลาในการจัดกิจกรรม การทำแบบจำลองให้มากขึ้นเพื่อให้นักเรียนสามารถใช้เวลาในการศึกษาออกแบบรวมถึงวิเคราะห์บทเรียนนั้นๆเพื่อที่จะ สร้างเพื่อที่จะทำให้แบบจำลองที่สร้างขึ้นสมบูรณ์ที่สุด
53 บรรณนุกรม กรมวิชาการ. (2545). คู่มือการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์. กรุงเทพฯ: กรมฯ. กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. พิชิต ฤทธิ์จรูญ. (2545). การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้: ปฏิบัติการวิจัยในชั้นเรียน. (พิมพ์ครั้งที่ 3 ). กรุงเทพฯ : ครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร. บุญชุม ศรีสะอาด.(2545). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 7) : กรุงเทพมหานคร ไพศาล วรคำ. (2564). การวิจัยทางการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 12) .มหาสารคาม : ตักสิลาการพิมพ์ ปรีญานันต์ นวลจันทร์ (2563). ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐาน ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิทยาศาสตร์และความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. รัชนี รอดถนน (2561). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการ เรียนรู้ เรื่อง ระบบสุริยะ ด้วยการเรียนรู้แบบ Active Learning โรงเรียนเทศบาล 4 (วัดมัชฌิมภูมิ). สถาพร พฤฑฒิกุล (2559, น. 49). ความหมายของการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning). สุรัสวดี ปะกิระเค (2561). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐาน เรื่อง ปรากฏการณ์ของ โลกและเทคโนโลยีอวกาศ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. ศักดา ไชกิจภิญโญ. (2548). สอนอย่างไรให้ Active Learning. วารสารนวัตกรรมการเรียนการสอน. กรุงเทพฯ
54 ภาคผนวก
55 ภาคผนวก ก เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล - แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ กระตือรือร้น (Active Learning) - แผนการจัดการเรียนรู้แบบปกติ - แบบสอบถามความพึงพอใจ - แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อน – หลังเรียน - แบบจำลองต้นแบบเมื่อผู้เรียนสร้างขึ้น จากการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ แบบจำลองเป็นฐาน (ขั้นที่ 2 และขั้นที่ 3)
56 แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐาน ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว 12101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แสงและชีวิตพืช เรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก เวลา 3 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวสุทัตตา สมพร สาระสำคัญ พืชดอกมีหลายชนิด ซึ่งดอกของพืชแต่ละชนิดมีลักษณะแตกต่างกัน โดยทั่วไปดอกของพืชประกอบด้วย ส่วนต่างๆ 4 ส่วน คือ กลีบดอก กลีบเลี้ยง เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมีย มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์การทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของ โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็น ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมี จริยธรรม ตัวชี้วัด ป.1/1 ระบุชื่อ บรรยายลักษณะและบอกหน้าที่ของ ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์สัตว์และพืช รวมทั้งบรรยาย การทำหน้าที่ร่วมกันของ ส่วนต่างๆของร่างกายมนุษย์ในการทำกิจกรรมต่างๆ จากข้อมูลที่รวบรวมได้ ป.2/3 สร้างแบบจำลองที่บรรยายวัฏจักรชีวิตของพืชดอก จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายและระบุหน้าที่ของส่วนประกอบของพืชดอกได้ (K) 2. นักเรียนสามารถสังเกตโครงสร้างภายนอกของพืชดอกได้ (P) 3. นักเรียนสามารถลงความคิดเห็น จัดกระทำและสื่อความหมายของข้อมูลของโครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก ได้ (P) 4. นักเรียนสามารถสร้างแบบจำลองของพืชดอกจากการวาดภาพและจากการปั้นดินน้ำมันได้ส่วนประกอบแต่ละ ส่วนของดอกได้(P)
57 5. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์และนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้(A) สาระการเรียนรู้ พืชมีส่วนต่าง ๆ ที่มีลักษณะและหน้าที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมในการดำรงชีวิตโดยทั่วไป รากมีลักษณะ เรียวยาว และแตกแขนงเป็นรากเล็ก ๆ ทำหน้าที่ดูดน้ำ ลำต้นมีลักษณะเป็นทรงกระบอกตั้งตรงและมีกิ่งก้าน ทำหน้าที่ชู กิ่งก้าน ใบ และดอก ใบมีลักษณะเป็นแผ่นแบน ทำหน้าที่สร้างอาหาร นอกจากนี้พืชหลายชนิด อาจมีดอก ที่มีสีรูปร่างต่าง ๆ ทำหน้าที่สืบพันธุ์รวมทั้งมีผล ที่มีเปลือก มีเนื้อห่อหุ้มเมล็ด และมีเมล็ดซึ่งสามารถงอกเป็นต้นใหม่ได้ พืชดอกเมื่อเจริญเติบโตและมีดอก ดอกจะมีการสืบพันธุ์เปลี่ยนแปลงไปเป็นผล ภายในผลมีเมล็ดเมื่อเมล็ด งอก ต้นอ่อนที่อยู่ภายในเมล็ดจะเจริญ เติบโตเป็นพืชต้นใหม่ พืชต้นใหม่จะเจริญเติบโตออกดอกเพื่อสืบพันธุ์มีผลต่อไปได้ อีกหมุนเวียน ต่อเนื่องเป็นวัฏจักรชีวิตของพืชดอก ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1. การสังเกต 2. การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล 3. การลงความเห็นจากข้อมูล 4. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป 5. การสร้างแบบจำลอง ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 1.ความร่วมมือ 2.การสื่อสาร 3.การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสาร คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. อยู่อย่างพอเพียง 4. มุ่งมั่นในการทำงาน 5. มีจิตสาธารณะ
58 กิจกรรมการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นตอบสนองต่องานที่ได้รับ 1. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก จำนวน 20 ข้อ 2. ครูนำเข้าสู่บทเรียนโดยการให้นักเรียนเล่นเกม แข่งขันทายชื่อดอกไม้จากบัตรภาพที่ครูติดไว้บนกระดาษ ดังนี้ 2. ครูถามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า • นักเรียนคิดว่า ดอกไม้แต่ละชนิดมีส่วนประกอบและหน้าที่เหมือนกันทุกส่วนหรือไม่ และแต่ละส่วนมีหน้าที่ อะไรบ้าง (โดยครูให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นในการตอบคำถามได้อย่างอิสระ) 3. ครูเปิดคลิปวิดีโอ เรื่องโครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก ให้นักเรียนดู(ประมาณ 2 นาที) ขั้นนำ ดอกกุหลาบ ดอกชบา ดอกกระดังงา ดอกบัว ดอกทานตะวัน ดอกมะละกอ พืชดอกชนิดต่าง ๆ ชั่วโมงที่ 1
59 4. นักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทำกิจกรรม จนสรุปได้ว่า ดอกของพืชมีส่วนประกอบ คือ เกสรเพศเมีย เกสร เพศผู้ กลีบเลี้ยง และกลีบดอก ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจว่าส่วนประกอบแต่ละส่วนมีหน้าที่แตกต่างกันดังนี้ กลีบเลี้ยง มีหน้าที่ห่อหุ้มส่วนของดอกในขณะที่ยังตูมอยู่ เพื่อป้องกันอันตรายจากแมลง กลีบดอก มีหน้าที่ห่อหุ้มเกสรขณะที่เกสรยังอ่อนอยู่ และกลีบดอกยังมีกลิ่นหอมเพื่อช่วยล่อ แมลงให้มาผสมเกสร เกสรเพศผู้ มีหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ เกสรเพศเมีย มีหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย 5. ครูแบ่งกลุ่มให้นักเรียน กลุ่มละ 5 คน 5 กลุ่ม จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มไปศึกษาค้นคว้า หรือสืบค้น อินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับส่วนประกอบและหน้าที่ของพืชดอกที่ครูกำหนดให้ แล้ววาดลงในสมุดเป็นการบ้านนำมาชั่วโมงถัดไป 6. ครูให้นักเรียนเตรียมสีและดินน้ำมันมาในชั่วโมงต่อต่อไป ขั้นที่ 2 ขั้นสร้างแบบจำลองเริ่มต้น 1. ครูยกตัวอย่างดอกไม้ของนักเรียนมา 1 ดอก จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันสังเกตส่วนประกอบของดอกไม้ที่ครู ยกตัวอย่างมา แล้วร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า ดอกไม้ที่นักเรียนสังเกตมีส่วนประกอบและหน้าที่อะไรบ้าง 2. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม (กลุ่มเดิม) ปฏิบัติกิจกรรมการสร้างแบบจำลองโครงสร้างของพืชดอกตามขั้นตอน ที่วางแผนไว้ 2.1 คนที่ 1 และ 2 ทำหน้าที่วาดแบบจำลองที่เป็นแผนภาพที่แสดงโครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก 2.2 คนที่ 3 4 และ 5 ทำหน้าที่ปั้นแบบจำลองโครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอกจากดินน้ำมัน 3. ครูทำสลากชื่อดอกไม้ที่มีส่วนประกอบของดอกครบ 4 ส่วน จากนั้นให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมาสุ่มหยิบ สลากกลุ่มละ 1 ใบ 4. ครูแจกกระดาษ A 4 เพื่อให้นักเรียนร่วมกันศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับโครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก จากสื่อ หนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ป. 2 5. ให้รักเรียนร่วมกันระดมความคิดสร้างแบบจำลองที่เป็นภาพวาดที่แสดงโครงสร้างของพืชดอกที่จับสลากได้ ลงในกระดาษ A4 ตามที่กลุ่มจับสลากได้ 6. ครูใช้สื่อตรวจสอบแบบจำลองภาพวาดที่นักเรียนสร้างขึ้น เมื่อตรวจผ่านแล้วให้นักเรียนนำไปปฏิบัติขั้น ต่อไป ขั้นที่ 3 ขั้นนำไปใช้และประเมิน 1. ให้นักเรียนนำแบบจำลองภาพวาดที่ตรวจผ่านแล้ว นำมาปั้นเป็นแบบจำลองที่แสดงโครงสร้างและ หน้าที่ของพืชดอก 2. ครูใช้สื่อตรวจสอบแบบจำลองการปั้น เมื่อตรวจผ่านแล้วให้นำไปปฏิบัติในขั้นต่อไป ขั้นสอน ชั่วโมงที่ 2
60 ขั้นที่ 4 ขั้นปฏิเสธแบบจำลองและปรับปรุงแบบจำลอง 1. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอแบบจำลองที่นักเรียนสร้างขึ้นทั้งแบบจำลองที่เป็นแผนภาพ และ แบบจำลองการปั้นจากดินเบา โดยให้นักเรียนอธิบายถึงโครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอกของกลุ่มที่ได้รับผิดชอบ 2. เพื่อนร่วมห้องและครูร่วมกันตั้งข้อคำถาม เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของผู้นำเสนอต่อพืชดอกนั้นๆ (คำถามปลายเปิด) 3. ครูใช้สื่อตรวจสอบการนำเสนอ (แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม) 4. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มพิจารณาว่า แบบจำลองที่สร้างขึ้นจากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างที่ยังไม่เข้าใจหรือยังมีข้อสงสัย ถ้ามีครูช่วยอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจ ขั้นที่ 5 ขั้นขยายแบบจำลอง 1. ครูและสมาชิกในห้องร่วมกันสรุปกิจกรรม จนสรุปได้ว่า ดอกของพืชมีส่วนประกอบสำคัญ คือ เกสรเพศ เมีย เกสรเพศผู้ กลีบเลี้ยง และกลีบดอก จากนั้นครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน โดยใช้คำถามดังนี้ • โครงสร้างของพืชดอกมีส่วนประกอบอะไรบ้าง • นักเรียนคิดว่าหน้าที่ของส่วนประกอบต่าง ๆ ของพืชดอกมีหน้าที่เหมือนกันหรือไม่ 2. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก จำนวน 20 ข้อ สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ป. 2 สสวท. เล่ม 2 2. บัตรภาพดอกไม้ 3. สมุดประจำตัวนักเรียน 4. สลากชื่อดอกไม้ 5. กระดาษ A4 6. คลิปวิดีโอเรื่องโครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก 7. ห้องสมุด 8. อินเทอร์เน็ต (www.Google.com หรือ www.Youtube.com ) 9. แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก จำนวน 20 ข้อ 10. แบบทดสอบหลังเรียนเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก จำนวน 20 ข้อ ขั้นสรุป ชั่วโมงที่ 3
61 การวัดการประเมินผล การประเมิน วิธีการประเมิน เครื่องมือวัดและ ประเมินผล เกณฑ์การประเมิน 1. ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถอธิบายและ ระบุหน้าที่ของส่วนประกอบ ของพืชดอกได้ (K) - การทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียน - แบบทดสอบเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของ พืชดอก นักเรียนสามารถทำ แบบทดสอบ ได้ ถูกต้องไม่ต่ำกว่า 70 % 2. ด้านทักษะกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถสังเกต โครงสร้างภายนอกของพืชดอก ได้ (P) - นักเรียนสามารถลงความ คิดเห็น จัดกระทำและสื่อ ความหมายของข้อมูลของ โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ดอกได้ (P) - นักเรียนสามารถสร้าง แบบจำลองของพืชดอกจากการ วาดภาพและจากการปั้นดิน น้ำมันได้ส่วนประกอบแต่ละ ส่วนของดอกได้(P) - การสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - การตรวจสอบ แบบจำลองแสดง โครงสร้างและหน้าที่ของ พืชดอก - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - แบบจำลองแสดง โครงสร้างและหน้าที่ของ พืชดอก - นักเรียนต้องผ่าน เกณฑ์ระดับดีขึ้นไป (ประเมินรายกลุ่ม) - นักเรียนร้อยละ 70% สามารถเขียน แบบจำลองโครงสร้าง และหน้าที่ของพืชดอก ได้อย่างถูกต้อง 3. ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) - นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชา วิทยาศาสตร์และนำไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ (A) - สังเกตความมีวินัย ใฝ่ เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการ ทำงาน - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ - นักเรียนต้องผ่าน เกณฑ์ระดับดีขึ้นไป
62 บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. .............................. ................... ................................................................................................................ .............................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 2. ปัญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................. . ................................................ ...................................................................................................................................................... ........................ .......................................................................................................... ................... ................................................. 3. แนวทางการแก้ปัญหา ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ .................................................. ผู้สอน (...........................................) วันที่ ............../..................../............. ข้อเสนอแนะผู้บริหาร/ครูพี่เลี้ยง ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................. ................. .................................................................................................................. .......... .................................................. ลงชื่อ................................................ผู้ประเมิน (...............................................................) วันที่.........../.........../...............
63 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานของกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน เลขที่ ชื่อ–สกุล ของนักเรียน การมีส่วน ร่วมในการ ทำงาน มีความคิด สร้างสรรค์ การเชื่อมโยง ความรู้ การนำเสนอ ผลงาน ความถูกต้อง ของผลงาน รวม 10 คะแนน 2 1 0 2 1 0 2 1 0 2 1 0 2 1 0 1 เด็กชายตินภพ กึกก้อง 2 เด็กชายภาณุวิชญ์ ชมภู 3 เด็กหญิงกัลยรัตน์ แฝงทรัพย์ 4 เด็กชายธีรวัฒน์ มาศเลือง 5 เด็กชายภคนันท์ เครือวรรณ 6 เด็กชายวราวิทย์ ศรีมนตรี 7 เด็กชายสุนันต์ พลสา 8 เด็กหญิงธันยชนก ไพรงาม 9 เด็กหญิงณัฐวรา พหรมยศ 10 เด็กหญิงญาดา โตนชัยภูมิ 11 เด็กหญิงณัฐนิชา ตอนโพธิ์ 12 เด็กชายกฤตณัฐ อ่อนตา 13 เด็กชายสรนันท์ พิริยะพงศ์ศักดิ์ 14 เด็กหญิงณิชา ชววิภาคชัย 15 เด็กหญิงพลอยนพัสสร ไชยเยศ 16 เด็กหญิงวลัยพรรณ สุทธิแพทย์ 17 เด็กชายปรินทร์ ไชยอินมงคล 18 เด็กชายปฐวี ศรีมาตย์ 19 เด็กชายจักรพงษ์ เทียวกว่า 20 เด็กชายจุฑารัตน์ นาสมใจ 21 เด็กชายธนภัทร สีเทา 22 เด็กหญิงนภนัฐ ตริสกุล 23 เด็กชายธนัญชัย ล.ว่าพรรค 24 เด็กชายภาณุวิชญ์ วะหาโรง 25 เด็กหญิงสรวีย์ สีดาพรม
64 เกณฑ์ให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ (100%) ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง (70%) ให้ 1 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง (50%) ให้ 0 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8-10 ดีมาก 6-7 ดี 5 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง หมายเหตุ นักเรียนที่ได้ระดับดีขึ้นไป ผ่านการประเมิน ลงชื่อ.............................................ผู้ประเมิน (........................................................) ครูผู้สอน .............../............./..............
65 เกณฑ์การให้คะแนนพฤติกรรมการปฏิบัติงาน ประเมิน ระดับคุณภาพ/คะแนน ดี(2) พอใช้(1) ปรับปรุง(0) 1. การมีส่วนร่วมในการ ทำงาน มีส่วนร่วมในการทำงานกับ เพื่อนด้วยความตั้งใจอย่าง สม่ำเสมอ มีส่วนร่วมในการทำงานกับ เพื่อนเป็นส่วนใหญ่ สามารถให้ความร่วมมือในการ ทำงานร่วมกับเพื่อนเป็น บางครั้ง 2. มีความคิดสร้างสรรค์ ผลงานมีควาสวยงาม ไม่ซ้ำแบบใคร และโดดเด่น ผลงานมีความสวยงาม ไม่ ซ้ำแบบใคร แต่ไม่ โดดเด่น ผลงานมีความสวยงาม แต่ คล้ายคลึงกับผลงานของผู้อื่น 3. การเชื่อมโยงความรู้ที่ เรียนมา เข้ากับการทำ ผลงาน สามารถอธิบายความรู้ที่ เรียนมาเชื่อมโยงกับการทำ ผลงานได้ตรงประเด็น สามารถอธิบายความรู้ที่เรียน มาเชื่อมโยงกับการทำผลงาน ได้ตรงประเด็นเป็นส่วนใหญ่ สามารถอธิบายความรู้ที่เรียน มาเชื่อมโยงกับการทำผลงาน ได้ตรงประเด็นบางส่วน 4. การนำเสนอผลงาน พูดเสียงดัง ชัดเจน และใช้ มีความเข้าใจในเนื้อหาที่ นำเสนอ พูดเสียงดัง ชัดเจน และใช้ ท่าทางประกอบการนำเสนอ เป็นส่วนใหญ่ พูดเสียงเบา ไม่ชัดเจน และไม่ มีการใช้ท่าทางประกอบ การ นำเสนอ 5. ความถูกต้องของผลงาน ผลงานของนักเรียนถูกต้อง ตามวัตถุประสงค์ของงาน ครบถ้วน ผลงานของนักเรียนถูกต้อง ตามวัตถุประสงค์ของงาน เป็นส่วนใหญ่ ผลงานของนักเรียนถูกต้อง ตามวัตถุประสงค์ของงาน บางส่วน
66 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) คำชี้แจง: ให้ลงคะแนนในช่องประเด็นการประเมินตามความเป็นจริงของนักเรียน เลขที่ ชื่อ-สกุล มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ รวม คะแนน 2 2 2 2 2 10 1 เด็กชายตินภพ กึกก้อง 2 เด็กชายภาณุวิชญ์ ชมภู 3 เด็กหญิงกัลยรัตน์ แฝงทรัพย์ 4 เด็กชายธีรวัฒน์ มาศเลือง 5 เด็กชายภคนันท์ เครือวรรณ 6 เด็กชายวราวิทย์ ศรีมนตรี 7 เด็กชายสุนันต์ พลสา 8 เด็กหญิงธันยชนก ไพรงาม 9 เด็กหญิงณัฐวรา พหรมยศ 10 เด็กหญิงญาดา โตนชัยภูมิ 11 เด็กหญิงณัฐนิชา ตอนโพธิ์ 12 เด็กชายกฤตณัฐ อ่อนตา 13 เด็กชายสรนันท์ พิริยะพงศ์ศักดิ์ 14 เด็กหญิงณิชา ชววิภาคชัย 15 เด็กหญิงพลอยนพัสสร ไชยเยศ 16 เด็กหญิงวลัยพรรณ สุทธิแพทย์ 17 เด็กชายปรินทร์ ไชยอินมงคล 18 เด็กชายปฐวี ศรีมาตย์ 19 เด็กชายจักรพงศ์ เทียบหว้า 20 เด็กชายจุฑาวัฒน์ นาสมใจ
67 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์(ต่อ) เลขที่ ชื่อ-สกุล มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ รวม คะแนน 2 2 2 2 2 10 21 เด็กชายธนภัทร สีเทา 22 เด็กหญิงนภนัฐ ตริสกุล 23 เด็กชายธนัญชัย ล.ว่าพรรค 24 เด็กชายภาณุวิชญ์ วะหาโรง 25 เด็กหญิงสรวีย์ สีดาพรม ลงชื่อ.............................................ผู้ประเมิน (........................................................) ครูผู้สอน .............../............./.............. เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ = ดีมาก ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง = ดี ให้ 1 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง = พอใช้ ให้ 0 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8-10 ดีมาก 6-7 ดี 5 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง หมายเหตุ นักเรียนที่ได้ระดับดีขึ้นไป ผ่านการประเมิน
68 เกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ประเมิน ระดับคุณภาพ/คะแนน ดี(2) พอใช้(1) ปรับปรุง(0) 1. มีวินัย ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ของครอบครัวและ โรงเรียนมีความตรงต่อเวลาใน การปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวันแลรับผิดชอบใน การทำงาน ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ของ ครอบครัวและโรงเรียน บ้างบางครั้ง ค่อนข้าง ความตรงต่อเวลาในการ ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวัน ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ของ ครอบครัวและโรงเรียนไม่ตรง ต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 2. ใฝ่เรียนรู้ เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และมีความเพียร พยายามในการเรียนรู้ มีส่วน ร่วมในการเรียนรู้และเข้าร่วม กิจกรรมต่าง ๆ ทั้งภายในและ ภายนอกโรงเรียนบ่อยครั้ง เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ เรียน เอาใจใส่ และมีความ เพียรพยายามในการ เรียนรู้ มีส่วนร่วมในการ เรียนรู้และเข้าร่วม กิจกรรมต่าง ๆ บางครั้ง ไม่มีความสนใจ ตั้งใจเรียน และขาดความเพียรพยายาม ในการเรียนรู้ ไม่มีส่วนร่วมใน การเรียนรู้และไม่ให้ความ ร่วมมือในการเข้าร่วมกิจกรรม ต่าง ๆ 3. อยู่อย่าง พอเพียง ใช้เงิน ของใช้ส่วนตัวและของ ส่วนรวมอย่างประหยัด มี เหตุผล และเก็บรักษา ดูแล อย่างดี ใช้เงิน ของใช้ส่วนตัวและ ของส่วนรวมอย่าง ประหยัด และเก็บรักษา ใช้เงิน ของใช้ส่วนตัวและของ ส่วนรวมเกินความจำเป็น และ ไม่เก็บรักษา 4. มุ่งมั่นใน การทำงาน ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ให้สำเร็จ มีการปรับปรุงและ พัฒนาการทำงานให้ดีขึ้น ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับ มอบหมายให้สำเร็จ ไม่มีความรับผิดชอบและไม่ สนใจในการปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมาย 5. มีจิต สาธารณะ ช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครองและครู ทำงาน อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำและแบ่งปันสิ่งของให้ ผู้อื่นด้วยความเต็มใจ ช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครองและ ครู ทำงาน อาสาทำงาน ช่วยคิดช่วยทำบ้างบางครั้ง ไม่มีน้ำใจ ไม่ช่วยเหลือและ แบ่งปันให้ผู้อื่น
69 แผนการจัดการเรียนรู้แบบปกติ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว 12101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แสงและชีวิตพืช เรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดดอก เวลา 3 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวสุทัตตา สมพร สาระสำคัญ พืชดอกมีหลายชนิด ซึ่งดอกของพืชแต่ละชนิดมีลักษณะแตกต่างกัน โดยทั่วไปดอกของพืชประกอบด้วย ส่วนต่างๆ 4 ส่วน คือ กลีบดอก กลีบเลี้ยง เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมีย มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ความสัมพันธ์ ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ทำงานสัมพันธ์กันความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ป.1/1 ระบุชื่อ บรรยายลักษณะและบอกหน้าที่ของ ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์สัตว์และพืช รวมทั้งบรรยาย การทำหน้าที่ร่วมกันของ ส่วนต่างๆของร่างกายมนุษย์ในการทำกิจกรรมต่างๆ จากข้อมูลที่รวบรวมได้ ป.2/3 สร้างแบบจำลองที่บรรยายวัฏจักรชีวิตของพืชดอก จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายและระบุหน้าที่ของส่วนประกอบของพืชดอกได้ (K) 2. นักเรียนสามารถสังเกตโครงสร้างภายนอกของพืชดอกได้ (P) 3. นักเรียนสามารถลงความคิดเห็น จัดกระทำและสื่อความหมายของข้อมูลของโครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก ได้ (P) 4. นักเรียนสามารถสร้างแบบจำลองของพืชดอกจากการวาดภาพและจากการปั้นดินน้ำมันได้ส่วนประกอบแต่ละ ส่วนของดอกได้(P) 5. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์และนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้(A)
70 สาระการเรียนรู้ พืชมีส่วนต่าง ๆ ที่มีลักษณะและหน้าที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมในการดำรงชีวิตโดยทั่วไป รากมีลักษณะ เรียวยาว และแตกแขนงเป็นรากเล็ก ๆ ทำหน้าที่ดูดน้ำ ลำต้นมีลักษณะเป็นทรงกระบอกตั้งตรงและมีกิ่งก้าน ทำหน้าที่ชู กิ่งก้าน ใบ และดอก ใบมีลักษณะเป็นแผ่นแบน ทำหน้าที่สร้างอาหาร นอกจากนี้พืชหลายชนิด อาจมีดอก ที่มีสีรูปร่างต่าง ๆ ทำหน้าที่สืบพันธุ์รวมทั้งมีผล ที่มีเปลือก มีเนื้อห่อหุ้มเมล็ด และมีเมล็ดซึ่งสามารถงอกเป็นต้นใหม่ได้ พืชดอกเมื่อเจริญเติบโตและมีดอก ดอกจะมีการสืบพันธุ์เปลี่ยนแปลงไปเป็นผล ภายในผลมีเมล็ดเมื่อเมล็ด งอก ต้นอ่อนที่อยู่ภายในเมล็ดจะเจริญ เติบโตเป็นพืชต้นใหม่ พืชต้นใหม่จะเจริญเติบโตออกดอกเพื่อสืบพันธุ์มีผลต่อไปได้ อีกหมุนเวียน ต่อเนื่องเป็นวัฏจักรชีวิตของพืชดอก ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1. การสังเกต 2. การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล 3. การลงความเห็นจากข้อมูล 4. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป 5. การสร้างแบบจำลอง ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 1. ความร่วมมือ 2. การสื่อสาร 3. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสาร คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. อยู่อย่างพอเพียง 4. มุ่งมั่นในการทำงาน 5. มีจิตสาธารณะ
71 กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) โดยเน้น ผู้เรียนเป็นสำคัญ ดำเนินการเรียนการสอนดังต่อไปนี้ 1. ขั้นสร้างความสนใจ (engagement) 1. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก จำนวน 20 ข้อ 2. ครูนำเข้าสู่บทเรียนโดยการให้นักเรียนเล่นเกม แข่งขันทายชื่อดอกไม้จากบัตรภาพที่ครูติดไว้บนกระดาษ ดังนี้ 2. ครูถามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า • นักเรียนคิดว่า ดอกไม้แต่ละชนิดมีส่วนประกอบและหน้าที่เหมือนกันทุกส่วนหรือไม่ (โดยครูให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นในการตอบคำถามได้อย่างอิสระ) 3. ครูเปิดคลิปวิดีโอ เรื่องโครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก ให้นักเรียนดู(ประมาณ 2 นาที) 4. นักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทำกิจกรรม จนสรุปได้ว่า ดอกของพืชมีส่วนประกอบ คือ เกสรเพศเมีย เกสร เพศผู้ กลีบเลี้ยง และกลีบดอก ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจว่าส่วนประกอบแต่ละส่วนมีหน้าที่แตกต่างกันดังนี้ ขั้นนำ ดอกกุหลาบ ดอกชบา ดอกกระดังงา ดอกบัว ดอกทานตะวัน ดอกมะละกอ พืชดอกชนิดต่าง ๆ ชั่วโมงที่ 1
72 กลีบเลี้ยง มีหน้าที่ห่อหุ้มส่วนของดอกในขณะที่ยังตูมอยู่ เพื่อป้องกันอันตรายจากแมลง กลีบดอก มีหน้าที่ห่อหุ้มเกสรขณะที่เกสรยังอ่อนอยู่ และกลีบดอกยังมีกลิ่นหอมเพื่อช่วยล่อ แมลงให้มาผสมเกสร เกสรเพศผู้ มีหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ เกสรเพศเมีย มีหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย 2. ขั้นสำรวจและค้นหา(exploration) 1. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน โดยคละความสามารถ (เก่ง ปานกลาง อ่อน) 2. ครูนำตัวอย่างดอกไม้ที่มีส่วนประกอบของดอกครบ 4 ส่วน มาให้นักเรียนสังเกตสังเกต 3. ให้นักเรียนช่วยกันสังเกตส่วนประกอบของดอกไม้ที่ครูเตรียมมา แล้วร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า ดอกไม้ที่ นักเรียนสังเกตมีส่วนประกอบและหน้าที่อะไรบ้าง วาดแผนภาพและบันทึกผลส่วนประกอบและหน้าที่ของดอกไม้แต่ละ ชนิดลงในกระดาษ A4 ที่ครูแจกให้ 3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (explanation) 1. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมหน้าชั้นเรียน 2. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลการทำกิจกรรม จนสรุปได้ว่า ดอกของพืชมีส่วนประกอบ คือ เกสรเพศ เมีย เกสรเพศผู้ กลีบเลี้ยง และกลีบดอก ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจว่าส่วนประกอบแต่ละส่วนมีหน้าที่แตกต่าง กันดังนี้ กลีบเลี้ยง มีหน้าที่ห่อหุ้มส่วนของดอกในขณะที่ยังตูมอยู่ เพื่อป้องกันอันตรายจากแมลง กลีบดอก มีหน้าที่ห่อหุ้มเกสรขณะที่เกสรยังอ่อนอยู่ และกลีบดอกยังมีกลิ่นหอมเพื่อช่วยล่อ แมลงให้มาผสมเกสร เกสรเพศผู้ มีหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ เกสรเพศเมีย มีหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย 4. ขั้นขยายความรู้(elaboration) 1. ครูทำสลากชื่อดอกไม้ จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาสุ่มหยิบสลากกลุ่มละ 1 ใบ 2. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันระบุส่วนประกอบของดอกไม้ที่จับสลากได้ จากนั้นออกไปเขียนชื่อ ดอกไม้ พร้อมระบุส่วนประกอบของดอกไม้บนกระดานดำหน้าชั้นเรียน ขั้นสอน ชั่วโมงที่ 2 ชั่วโมงที่ 3
73 3. นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้จากการเรียนเกี่ยวกับส่วนประกอบของดอกไม้ร่วมกันว่า ดอกไม้มี ส่วนประกอบอะไรบ้าง 5. ขั้นประเมิน(evaluation) 1. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก จำนวน 20 ข้อ 2. ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนดังนี้ สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะทำงานร่วมกัน สังเกตการณ์ ตอบคำถามของนักเรียนในชั้นเรียน โดยใช้แบบประเมินตามสภาพจริง สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ป. 2 สสวท. เล่ม 2 2. บัตรภาพดอกไม้ 3. สมุดประจำตัวนักเรียน 4. สลากชื่อดอกไม้ 5. กระดาษ A4 6. คลิปวิดีโอ เรื่องโครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก 7. แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก จำนวน 20 ข้อ 8. แบบทดสอบหลังเรียนเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก จำนวน 20 ข้อ ขั้นสรุป
74 การวัดการประเมินผล การประเมิน วิธีการประเมิน เครื่องมือวัดและ ประเมินผล เกณฑ์การประเมิน 1. ด้านความรู้ (K) - นักเรียนสามารถอธิบายและ ระบุหน้าที่ของส่วนประกอบ ของพืชดอกได้ (K) - การทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียน - แบบทดสอบเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของ พืชดอก นักเรียนสามารถทำ แบบทดสอบ ได้ ถูกต้องไม่ต่ำกว่า 70 % 2. ด้านทักษะกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถสังเกต โครงสร้างภายนอกของพืชดอก ได้ (P) - นักเรียนสามารถลงความ คิดเห็น จัดกระทำและสื่อ ความหมายของข้อมูลของ โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ดอกได้ (P) - นักเรียนสามารถสร้าง แบบจำลองของพืชดอกจากการ วาดภาพและจากการปั้นดิน น้ำมันได้ส่วนประกอบแต่ละ ส่วนของดอกได้(P) - การสังเกตพฤติกรรม การเรียนและพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การเรียนและพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - นักเรียนต้องผ่าน เกณฑ์ระดับดีขึ้นไป (ประเมินรายกลุ่ม) 3. ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) - นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชา วิทยาศาสตร์และนำไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ (A) - สังเกตความมีวินัย ใฝ่ เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการ ทำงาน - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ - นักเรียนต้องผ่าน เกณฑ์ระดับดีขึ้นไป
75 บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. .............................. ................... ................................................................................................................ .............................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 2. ปัญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................. . ................................................ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 3. แนวทางการแก้ปัญหา ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ .................................................. ผู้สอน (...........................................) วันที่ ............../..................../............. ข้อเสนอแนะผู้บริหาร/ครูพี่เลี้ยง ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................ ................. .................................................................................................................. .......... .................................................. ลงชื่อ................................................ผู้ประเมิน (...............................................................) วันที่.........../.........../...............
76 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานของกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน เลขที่ ชื่อ–สกุล ของนักเรียน การมีส่วน ร่วมในการ ทำงาน มีความคิด สร้างสรรค์ การเชื่อมโยง ความรู้ การนำเสนอ ผลงาน ความถูกต้อง ของผลงาน รวม 10 คะแนน 2 1 0 2 1 0 2 1 0 2 1 0 2 1 0 1 เด็กชายตินภพ กึกก้อง 2 เด็กชายภาณุวิชญ์ ชมภู 3 เด็กหญิงกัลยรัตน์ แฝงทรัพย์ 4 เด็กชายธีรวัฒน์ มาศเลือง 5 เด็กชายภคนันท์ เครือวรรณ 6 เด็กชายวราวิทย์ ศรีมนตรี 7 เด็กชายสุนันต์ พลสา 8 เด็กหญิงธันยชนก ไพรงาม 9 เด็กหญิงณัฐวรา พหรมยศ 10 เด็กหญิงญาดา โตนชัยภูมิ 11 เด็กหญิงณัฐนิชา ตอนโพธิ์ 12 เด็กชายกฤตณัฐ อ่อนตา 13 เด็กชายสรนันท์ พิริยะพงศ์ศักดิ์ 14 เด็กหญิงณิชา ชววิภาคชัย 15 เด็กหญิงพลอยนพัสสร ไชยเยศ 16 เด็กหญิงวลัยพรรณ สุทธิแพทย์ 17 เด็กชายปรินทร์ ไชยอินมงคล 18 เด็กชายปฐวี ศรีมาตย์ 19 เด็กชายจักรพงษ์ เทียวกว่า 20 เด็กชายจุฑารัตน์ นาสมใจ 21 เด็กชายธนภัทร สีเทา 22 เด็กหญิงนภนัฐ ตริสกุล 23 เด็กชายธนัญชัย ล.ว่าพรรค 24 เด็กชายภาณุวิชญ์ วะหาโรง 25 เด็กหญิงสรวีย์ สีดาพรม
77 เกณฑ์ให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ (100%) ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง (70%) ให้ 1 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง (50%) ให้ 0 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8-10 ดีมาก 6-7 ดี 5 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง หมายเหตุ นักเรียนที่ได้ระดับดีขึ้นไป ผ่านการประเมิน ลงชื่อ.............................................ผู้ประเมิน (........................................................) ครูผู้สอน .............../............./..............
78 เกณฑ์การให้คะแนนพฤติกรรมการปฏิบัติงาน ประเมิน ระดับคุณภาพ/คะแนน ดี(2) พอใช้(1) ปรับปรุง(0) 1. การมีส่วนร่วมในการ ทำงาน มีส่วนร่วมในการ ทำงานกับเพื่อนด้วย ความตั้งใจอย่าง สม่ำเสมอ มีส่วนร่วมในการทำงาน กับเพื่อนเป็นส่วนใหญ่ สามารถให้ความร่วมมือ ในการทำงานร่วมกับ เพื่อนเป็นบางครั้ง 2.มีความคิดสร้างสรรค์ ผลงานมีควาสวยงาม ไม่ซ้ำแบบใคร และโดด เด่น ผลงานมีความสวยงาม ไม่ซ้ำแบบใคร แต่ไม่ โดดเด่น ผลงานมีความสวยงาม แต่คล้ายคลึงกับผลงาน ของผู้อื่น 3. การเชื่อมโยงความรู้ ที่เรียนมา เข้ากับการ ทำผลงาน สามารถอธิบายความรู้ ที่เรียนมาเชื่อมโยงกับ การทำผลงานได้ตรง ประเด็น สามารถอธิบายความรู้ที่ เรียนมาเชื่อมโยงกับการ ทำผลงานได้ตรงประเด็น เป็นส่วนใหญ่ สามารถอธิบายความรู้ที่ เรียนมาเชื่อมโยงกับการ ทำผลงานได้ตรงประเด็น บางส่วน 4. การนำเสนอผลงาน พูดเสียงดัง ชัดเจน และใช้ท่าทาง ประกอบการนำเสนอ สม่ำเสมอ พูดเสียงดัง ชัดเจน และ ใช้ท่าทางประกอบการ นำเสนอเป็นส่วนใหญ่ พูดเสียงเบา ไม่ชัดเจน และไม่มีการใช้ท่าทาง ประกอบ การนำเสนอ 5. ความถูกต้องของ ผลงาน ผลงานของนักเรียน ถูกต้องตาม วัตถุประสงค์ของงาน ครบถ้วน ผลงานของนักเรียน ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ ของงานเป็นส่วนใหญ่ ผลงานของนักเรียน ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ ของงานบางส่วน
79 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) คำชี้แจง: ให้ลงคะแนนในช่องประเด็นการประเมินตามความเป็นจริงของนักเรียน เลขที่ ชื่อ-สกุล มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ รวม คะแนน 2 2 2 2 2 10 1 เด็กชายตินภพ กึกก้อง 2 เด็กชายภาณุวิชญ์ ชมภู 3 เด็กหญิงกัลยรัตน์ แฝงทรัพย์ 4 เด็กชายธีรวัฒน์ มาศเลือง 5 เด็กชายภคนันท์ เครือวรรณ 6 เด็กชายวราวิทย์ ศรีมนตรี 7 เด็กชายสุนันต์ พลสา 8 เด็กหญิงธันยชนก ไพรงาม 9 เด็กหญิงณัฐวรา พหรมยศ 10 เด็กหญิงญาดา โตนชัยภูมิ 11 เด็กหญิงณัฐนิชา ตอนโพธิ์ 12 เด็กชายกฤตณัฐ อ่อนตา 13 เด็กชายสรนันท์ พิริยะพงศ์ศักดิ์ 14 เด็กหญิงณิชา ชววิภาคชัย 15 เด็กหญิงพลอยนพัสสร ไชยเยศ 16 เด็กหญิงวลัยพรรณ สุทธิแพทย์ 17 เด็กชายปรินทร์ ไชยอินมงคล 18 เด็กชายปฐวี ศรีมาตย์ 19 เด็กชายจักรพงศ์ เทียบหว้า 20 เด็กชายจุฑาวัฒน์ นาสมใจ
80 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์(ต่อ) เลขที่ ชื่อ-สกุล มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ รวม คะแนน 2 2 2 2 2 10 21 เด็กชายธนภัทร สีเทา 22 เด็กหญิงนภนัฐ ตริสกุล 23 เด็กชายธนัญชัย ล.ว่าพรรค 24 เด็กชายภาณุวิชญ์ วะหาโรง 25 เด็กหญิงสรวีย์ สีดาพรม ลงชื่อ.............................................ผู้ประเมิน (........................................................) ครูผู้สอน .............../............./.............. เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ = ดีมาก ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง = ดี ให้ 1 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง = พอใช้ ให้ 0 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8-10 ดีมาก 6-7 ดี 5 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง หมายเหตุ นักเรียนที่ได้ระดับดีขึ้นไป ผ่านการประเมิน
81 เกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ประเมิน ระดับคุณภาพ/คะแนน ดี(2) พอใช้(1) ปรับปรุง(0) 1. มีวินัย ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ของครอบครัวและ โรงเรียนมีความตรงต่อเวลาใน การปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวันแลรับผิดชอบใน การทำงาน ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ของ ครอบครัวและโรงเรียน บ้างบางครั้ง ค่อนข้าง ความตรงต่อเวลาในการ ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวัน ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ของ ครอบครัวและโรงเรียนไม่ตรง ต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 2. ใฝ่เรียนรู้ เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และมีความเพียร พยายามในการเรียนรู้ มีส่วน ร่วมในการเรียนรู้และเข้าร่วม กิจกรรมต่าง ๆ ทั้งภายในและ ภายนอกโรงเรียนบ่อยครั้ง เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ เรียน เอาใจใส่ และมีความ เพียรพยายามในการ เรียนรู้ มีส่วนร่วมในการ เรียนรู้และเข้าร่วม กิจกรรมต่าง ๆ บางครั้ง ไม่มีความสนใจ ตั้งใจเรียน และขาดความเพียรพยายาม ในการเรียนรู้ ไม่มีส่วนร่วมใน การเรียนรู้และไม่ให้ความ ร่วมมือในการเข้าร่วมกิจกรรม ต่าง ๆ 3. อยู่อย่าง พอเพียง ใช้เงิน ของใช้ส่วนตัวและของ ส่วนรวมอย่างประหยัด มี เหตุผล และเก็บรักษา ดูแล อย่างดี ใช้เงิน ของใช้ส่วนตัวและ ของส่วนรวมอย่าง ประหยัด และเก็บรักษา ใช้เงิน ของใช้ส่วนตัวและของ ส่วนรวมเกินความจำเป็น และ ไม่เก็บรักษา 4. มุ่งมั่นใน การทำงาน ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ให้สำเร็จ มีการปรับปรุงและ พัฒนาการทำงานให้ดีขึ้น ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับ มอบหมายให้สำเร็จ ไม่มีความรับผิดชอบและไม่ สนใจในการปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมาย 5. มีจิต สาธารณะ ช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครองและครู ทำงาน อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำและแบ่งปันสิ่งของให้ ผู้อื่นด้วยความเต็มใจ ช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครองและ ครู ทำงาน อาสาทำงาน ช่วยคิดช่วยทำบ้างบางครั้ง ไม่มีน้ำใจ ไม่ช่วยเหลือและ แบ่งปันให้ผู้อื่น
82 แบบสอบถามความพึงพอใจการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบจ าลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) ของนักเรียนระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม *************************************************************************** 1. ข้อมูลทั่วไป เพศ ชาย หญิง สถานะภาพ ครู นักเรียน อื่นๆ …………………………………. 2. ความพึงพอใจและความรู้ที่ได้รับจากการเรียน ให้นักเรียนประเมินความพึงพอใจต่อการเรียนรู้เรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก โดยใช้แบบจ าลองเป็นฐาน ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) เขียนเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องระดับความพึงพอใจของ แต่ละรายการประเมิน ระดับการประเมิน มี 3 ระดับ ดังนี้ ระดับ 3 หมายถึง มาก ระดับ 2 หมายถึง ปานกลาง ระดับ 2 หมายถึง น้อย ที่ รายการประเมิน ระดับการประเมิน 3 2 1 ด้านที่ 1 ด้านบรรยากาศการจัดการเรียนการสอน 1 นักเรียนเกิดความสนุกสนานในการเรียน 2 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียน 3 การจัดบรรยากาศเอื้อต่อการเรียนการสอน 4 ครูส่งเสริมให้นักเรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และร่วมกันอภิปราย ด้านที่ 2 ด้านเนื้อหาและกิจกรรมการสอน 5 เนื้อหามีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนการสอน 6 เนื้อหาเข้าใจง่าย น่าสนุกและน่าสนใจ 7 ครูมีความสามารถในการอธิบายและถ่ายทอดความรู้ 8 กิจกรรมสนุกและน่าสนใจ ด้านที่ 3 ด้านเวลาและสถานที่ 9 ระยะเวลาที่ใช้มีความเหมาะสมต่อการเรียนการสอน 10 สถานที่เหมาะกับการเรียนการสอน รวม/สรุปผลได้ระดับคุณภาพ
83 แบบทดสอบก่อน - หลังเรียน วิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว 12101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 /2565 จำวนวน 20 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เวลา 10 นาที ชื่อ-สกุล ชั้น เลขที่ คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนเครื่องหมาย × ทับตัวอักษรหน้าคำตอบที่ถูกต้องที่สุด 1. ข้อใดเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของดอกไม้ ก. ก้านดอก กลีบดอก กลีบเลี้ยง เกสรเพศเมีย ข. กลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรเพศผู้ เกสรเพศเมีย ค. ก้านดอก ริ้วประดับ เกสรเพศผู้ เกสรเพศเมีย 5. ส่วนใดของเกสรเพศผู้ที่ทำหน้าที่เป็นเซลล์ สืบพันธุ์ ก. รังไข่ ข. อับเรณู ค. ละอองเรณู 2. ส่วนใดที่มีหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์ของพืช ก. ใบ ข. ดอก ค. เมล็ด 6. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับส่วนประกอบ ของพืชดอก ก. รังไข่ทำให้เกิดกลิ่นหอมของดอก ข. เซลล์ไข่เป็นเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย ค. ออวุลอยู่บนส่วนปลายสุดของเกสรเพศเมีย 3. ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบของเกสรเพศเมีย ก. รังไข่ ข. ออวุล ค. ละอองเรณู 7. ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบของเกสรเพศผู้ ก. ออวุล ข. ละอองเรณู ค. อับละอองเรณู 4. กลีบดอกมีประโยชน์อย่างไร ก. สร้างละอองเรณู ข. มีสีสวยเพื่อล่อแมลงมาผสมเกสร ค. ใช้ในการสังเคราะห์ด้วยแสง 8. ส่วนประกอบใดของดอกใช้ในการล่อแมลง ก. กลีบเลี้ยง ข. กลีบดอก ค. เกสรเพศผู้
84 9. ดอกเปรียบเสมือนอวัยวะใดของร่างกายคน ก. ตา ข. ปาก ค.อวัยวะสืบพันธุ์ 13. ส่วนประกอบใดของพืชดอกที่เกี่ยวข้องกับการ สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศโดยตรง ก. เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมีย ข. เกสรเพศเมีย และกลีบเลี้ยง ค. เกสรเพศเมีย และกลีบดอก 10. ลักษณะสำคัญของยอดเกสรเพศเมียคือข้อใด ก. เป็นส่วนที่อยู่บริเวณโคนดอก ข. เป็นเป็นปุ่ม มียางเหนียว รสหวาน ค. เป็นส่วนที่อยู่ด้านในสุด มองเห็นเด่นชัด จากแผนภาพใช้ตอบคำถามข้อ 14-16 14. จากภาพส่วนประกอบของดอก ภาพหมายเลข 1 และ 3 คือข้อใดตามลำดับ ก. อับเรณู, กลีบดอก ข. กลีบเลี้ยง , กลีบดอก ค. ก้านชูอับเรณู, กลีบดอก 11. กลีบเลี้ยงมีประโยชน์อย่างไร ก. สร้างเซลล์สืบพันธ์ ข. ใช้ในการสังเคราะห์แสง ค. ป้องกันอันตรายจากแมลง 15. จากภาพ หมายเลขใดที่ทำหน้าที่สร้างละออง เรณู ก. หมายเลข 1 ข. หมายเลข 2 ค. หมายเลข 3 12. ลักษณะของดอกในข้อใดที่แมลงมีโอกาสมา ช่วยผสมเกสรมากที่สุด ก. มีจำนวนเกสรเพศผู้มาก ข. กลีบเลี้ยงเรียงตัวเป็นชั้นสวยงาม ค. กลีบดอกมีสีสันสวยงามและมีน้ำหวาน 16. จากภาพ หมายเลขใดที่ทำหน้าที่ป้องกัน อันตรายจากแมลง ก. หมายเลข 4 ข. หมายเลข 5 ค. หมายเลข 6
85 17. ข้อใดคือหน้าที่ของดอกไม้ ก. ทำให้เกิดผลและเมล็ด หรือใช้สำหรับเพื่อ สืบพันธุ์ ข. ป้องกันเกสรในขณะที่ดอกยังอ่อนอยู่ ค. ป้องกัน ส่วนอื่นๆของดอกไม้ 19. ดอกสมบูรณ์คือดอกที่มีส่วนประกอบของดอก กี่ส่วน ก. 2 ส่วน ข. 4 ส่วน ค. 6 ส่วน 18. กำหนดให้ ก = เกสรเพศเมีย ข = เกสรเพศผู้ ค = กลีบดอก ง = กลีบเลี้ยง จงเรียงลำดับ ส่วนประกอบของดอกไม้จากข้างในมาข้างนอก ก. ก ข ค ง ข. ข ก ค ง ค. ก ข ง ค 20. ส่วนประกอบของดอกในข้อใดที่สำคัญที่สุด ถ้า ขาดแล้วไม่สามารถเจริญพัฒนาไปเป็นผลและเมล็ด เพื่อสืบพันธุ์ได้ ก. เกสรเพศผู้ ข. เกสรเพศเมีย ค. ถูกทั้งข้อ ก และ ข ถูก
86 แบบจำลองต้นแบบเมื่อผู้เรียนสร้างขึ้นจากการใช้แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐาน (ขั้นที่ 2 และขั้นที่ 3) แบบจำลองขั้นที่ 2 ขั้นสร้างแบบจำลองเริ่มต้น( แผนภาพ)
87 แบบจำลองขั้นที่ 3 ขั้นนำไปใช้และประเมิน (แบบจำลองการปั้นจากดินเบา)
88 ภาคผนวก ข คุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
89 ตารางที่ ข 1 ผลแสดงตะแนนการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการ เรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน รายการประเมิน รวม ค่าเฉลี่ย แปลความหมาย 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ครบถ้วนสมบูรณ์ 14 4.66 เหมาะสมมากที่สุด 2. แผนการจัดการเรียนรู้สอดคล้องสัมพันธ์กับหน่วยการเรียนรู้ที่กำหนด ไว้ 14 4.66 เหมาะสมมากที่สุด 3. สาระสำคัญ ตัวชี้วัด วัตถุประสงค์การเรียนรู้ และสาระการเรียนรู้ มีความสอดคล้องกัน 14 4.66 เหมาะสมมากที่สุด 4. สมรรถนะสำคัญสอดคล้องกับกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ 12 4 เหมาะสมมากที่สุด 5. การจัดกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐาน 13 4.33 เหมาะสมมากที่สุด 6. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เน้นให้นักเรียนเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง 14 4.66 เหมาะสมมากที่สุด 7. มีการวัดและการประเมินผลที่สอดคล้องกับจุดประสงค์การจัดการ เรียนรู้ 14 4.66 เหมาะสมมากที่สุด 8. จัดสื่อและแหล่งการเรียนรู้มีความเหมาะสม 14 4.66 เหมาะสมมากที่สุด 9. นักเรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ที่คงทนได้จากการลงมือปฏิบัติจริง 12 4 เหมาะสมมากที่สุด 10. สื่อตรวจสอบแบบจำลองในขั้นที่ 2 และ 3 (แบบจำลองแบบ แผนภาพและการปั้นจากดินน้ำมัน)ที่ครูสร้างขึ้นสอดคล้องกับจุดประสงค์ การเรียนรู้ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ของนักเรียน 14 4.66 เหมาะสมมากที่สุด เฉลี่ยรวมทั้งหมด 135 4.5 เหมาะสมมากที่สุด จากตารางสรุปได้ว่า ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 3 ท่าน ได้ประเมินแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับ การจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active learning) ทั้งหมดจำนวน 1 แผนการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.5 หมายความว่าแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น active learning มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
90 ตารางที่ ข 2 ผลแสดงคะแนนการแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนโดยใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการ จัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน รายการประเมิน รวม ค่าเฉลี่ย แปลความหมาย 1. ข้อความสื่อสารเข้าใจง่าย 14 7 เหมาะสมมากที่สุด 2. การใช้ภาษาถูกต้อง 13 6.5 เหมาะสมมากที่สุด 3. ใช้ข้อความได้กระชับ 14 7 เหมาะสมมากที่สุด 4. ข้อคำถามครอบคลุมเนื้อหา 14 7 เหมาะสมมากที่สุด 5. ระยะเวลาในการทำแบบสอบถามเหมาะสม 14 7 เหมาะสมมากที่สุด 6. แบบสอบถามสามารถวัดความรู้ความเข้าใจได้ 13 6.5 เหมาะสมมากที่สุด 7. แบบสอบถามมีปริมาณเหมาะสมกับวัยของนักเรียน 12 6 เหมาะสมมากที่สุด 8. แบบสอบถามสอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนการสอน 14 7 เหมาะสมมากที่สุด 9. ข้อความที่ใช้ชัดเจนและตรงประเด็น 14 7 เหมาะสมมากที่สุด 10. ระดับคะแนนของแบบสอบถามมีความเหมาะสม 14 7 เหมาะสมมากที่สุด เฉลี่ยรวมทั้งหมด 136 6.8 เหมาะสมมากที่สุด จากตารางสรุปได้ว่า ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 3 ท่าน ได้ประเมินความพึงพอใจโดยใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการ จัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active learning) มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 6.8 หมายความว่าแบบประเมินความพึงพอใจของ นักเรียนโดยใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น active learning มีความเหมาะสมอยู่ใน ระดับมากที่สุด
91 ตารางที่ ข 3 ผลแสดงคะแนนการแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้แบบจำลองเป็นฐาน ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน รายการประเมิน รวม ค่าเฉลี่ย แปลความหมาย 1. เนื้อหาครอบคลุมกับมาตรฐานการเรียนรู้ 3 1 เหมาะสมมากที่สุด 2. เนื้อหาสอดคล้องตามจุดประสงค์ของแผนการจัดการเรียนรู้ 3 1 เหมาะสมมากที่สุด 3. ประโยคถูกต้องสมบูรณ์ 2 0.66 เหมาะสมมากที่สุด 4. เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน 3 1 เหมาะสมมากที่สุด 5. จำนวนข้อของแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีความเหมาะสม 2 0.66 เหมาะสมมากที่สุด 6. มีความชัดเจนของคำชี้แจงของแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3 1 เหมาะสมมากที่สุด 7. ข้อคำถามและคำตอบมีความเป็นปรนัยสามารถวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน 3 1 เหมาะสมมากที่สุด 8. ระยะเวลาในการทำแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีความ เหมาะสม 2 0.66 เหมาะสมมากที่สุด 9. มีเกณฑ์การวัดและการประเมินผลที่ชัดเจน 3 1 เหมาะสมมากที่สุด 10. แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีคุณภาพ 3 1 เหมาะสมมากที่สุด เฉลี่ยรวมทั้งหมด 27 0.9 เหมาะสมมากที่สุด จากตารางสรุปได้ว่า ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 3 ท่าน ได้ประเมินแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการสอน วิทยาศาสตร์ใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active learning) มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.9 หมายความว่าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการจัดการ เรียนรู้แบบกระตือรือร้น active learning มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
92 รายนามผู้เชี่ยวชาญ ชื่อ-สกุล นางสาววารินทิพย์ ศรีกุลา วุฒิการศึกษา ปริญญาตรี การศึกษาบัณฑิต การแนะแนว ปริญญาโท การศึกษาปฐมวัย ตำแหน่ง อาจารย์ประจำสาขาวิชาการประถมศึกษา สถานที่ทำงาน มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ชื่อ-สกุล อาจารย์สุกัญญา นนทมาตย์ วุฒิการศึกษา ปริญญาตรี วิทยาศาสตร์ ตำแหน่ง อาจารย์ผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สถานที่ทำงาน โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ชื่อ-สกุล อาจารย์กวินทรา ภูแพงคำ วุฒิการศึกษา ปริญญาตรี ครุศาสตรบัณฑิต สาขาฟิสิกส์ ตำแหน่ง อาจารย์ผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สถานที่ทำงาน มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
93 ประวัติย่อผู้วิจัย ชื่อ – สกุล: นางสาวสุทัตตา สมพร วันเดือนปีเกิด: 18 มิถุนายน พ.ศ. 2542 สถานที่เกิด: อุบลราชธานี E-mail : [email protected] โทรศัพท์: 0982044600 ประวัติการศึกษา: พ.ศ. 2549-2554 ประถมศึกษาปีที่ 1-6 โรงเรียนบ้านค้อ จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. 2555-2557 มัธยมศึกษาปีที่ 1-3 โรงเรียนบ้านค้อ จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ.2558-2560 มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนน้ำยืนวิทยา จังหวัดอุบลราชธานี ปัจจุบัน: กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาการประถมศึกษา ชั้นปีที่ 5 ตำบลตลาด อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสาร