รปู แบบการพฒั นาหลักสูตรของทาบา (Hilda Taba)
ทาบา (Taba) ได้เขยี นหนังสือชอื่ “Curriculum Development: Theory and Practice” เมื่อปี
ค.ศ. 1962 โดยได้นาเสนอสาระสาคัญ ของการพฒั นาหลักสูตรและการเรยี นการสอนไวอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ โดยที่
ทาบาได้นาเสนอสาระสาคัญเก่ียวกับข้อมูลพื้นฐานสาหรับการพัฒนาหลักสูตร กระบวนการวางแผนหลกั สูตร
การออกแบบหลกั สตู ร การออกแบบหลักสตู ร และยุทธศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงหลักสูตร
การศกึ ษาข้อมลู พน้ื ฐานสาหรบั การพัฒนาหลักสูตร เปน็ การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เชน่ บทบาทหน้าท่ี
ของโรงเรยี น การวิเคราะห์สังคม การวิเคราะหว์ ัฒนธรรม การวเิ คราะห์ทฤษฎีการเรียนรู้ พัฒนาการทาง
สติปญั ญาการถ่ายโยงการเรียนรูก้ ารเรียนรู้ทางสังคมและวัฒนธรรมเปน็ ต้นสาหรบั การวางแผนหลกั สูตร ทาบา
ไดใ้ ห้ความสาคัญกับความเป็นระบบ (system approach) ท่ีจาเป็นสาหรบั การพฒั นาหลักสตู ร ประกอบดว้ ย
การกาหนดเปา้ ประสงคท์ างการศึกษา การวนิ จิ ฉยั ปจั จบุ ัน ทีเ่ กี่ยวข้องกับการพัฒนาหลักสูตรการคดั เลอื ก
ประสบการณ์การเรยี นรู้การจัดระบบเน้ือหาสาระและกระบวนการเรียนร้กู ารประเมินผลการใชห้ ลักสตู รและ
การพัฒนาหน่วยการเรยี นการสอน(Teaching – Learning Unit)
สาหรบั การออกแบบหลักสูตรมีประเดน็ สาคัญ ประกอบดว้ ยรปู แบบหลักสูตรประเภทต่างๆ และ
กรอบความคิดรวบยอดสาหรับการพฒั นาหลักสูตร และยุทธศาสตร์การเปล่ียนแปลง หลักสตู รมีจดุ เนน้ สาคัญ
อยู่ทก่ี ารเปลีย่ นแปลงหลักสตู ร โดยทีมทางานหรือคณะกรรมการ
ทาบามีแนวคดิ ว่าหลักสตู ร คือ แผนสาหรบั การเรียนรู้ (plan for learning) ทจ่ี ะเป็น เครื่องมือ
สาหรับการพัฒนาผู้เรียนใหเ้ ป็นสมาชกิ ท่ดี ีของสังคม โดยทาบาได้เสนอข้ันตอนการพัฒนาหลักสูตรไว้ 7ขั้นตอน
ดังน้ี(Taba.1962:12)
1. การวิเคราะหค์ วามต้องการ
2. การกาหนดวัตถุประสงค์
3.การคดั เลือกเน้ือหาสาระ
4.การจัดระบบเนื้อหาสาระ
5.การคดั เลือกประสบการณ์การเรียนรู้
6.การจัดกิจกรรมและประสบการณ์การเรียนรู้
7. การประเมินผลเพอื่ ตรวจสอบคุณภาพของกจิ กรรมและประสบการณ์การเรยี นรู้วา่ บรรลุจุดมุ่งหมายหรอื ไม่
โดยการกาหนดสงิ่ ทีต่ ้องประเมนิ และวิธกี ารประเมิน
เปรียบเทียบการพัฒนาหลักสตู รปี พ.ศ. 2544 กับ พ.ศ. 2551 สอดคลอ้ งกบั การพฒั นาหลักสูตรของ
ทาบา ( TABA)
หลักสูตรปี 2544 หลักสตู รปี 2551 การพฒั นาหลักสูตรของทาบา
การกาหนดวสิ ยั ทัศน์ การพฒั นาหลกั สตู รและการเรยี น
หลักสูตรไม่ได้กาหนดวิสัยทัศน์ของ ก า ห น ด วิ สั ย ทั ศ น์ ข อ ง ห ลั ก สู ต ร การสอนไว้อย่างเป็นระบบ โดยท่ี
หลักสูตร สมรรถนะที่สาคัญของผู้เรียน สมรรถนะที่สาคัญของผู้เรียน และ ทาบาได้นาเสนอสาระสาคญั
และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ แต่ได้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์เพื่อเป็น เก่ยี วกบั ข้อมลู พ้ืนฐานสาหรบั การ
กาหนดเป็นแนวทางไว้ในเอกสาร แนว ภาพรวมในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนท่ี
ทางการจัดทาหลักสูตรสถานศึกษาให้ มี ค ว า ม ชั ด เ จ น ม า ก ขึ้ น ส า ห รั บ พฒั นาหลกั สตู ร
สถานศึกษากาหนดคณุ ลกั ษณะอัน สถานศึกษาทุกแห่งใช้เป็นกรอบทิศทาง
พงึ ประสงค์ตามบริบทของสถานศึกษา ในการออกแบบหลักสูตรและการ
จัดการเรยี นรู้ใหบ้ รรลุตามมาตรฐานการ
เรียนรูท้ ี่หลักสตู รแกนกลางได้กาหนดไว้
การกาหนดหลกั การของหลกั สูตร
กาหนดหลกั การของหลักสตู ร ดงั น้ี ปรับปรงุ หลักการของหลักสูตร เพ่ือให้มี บทบาทหน้าทีข่ องโรงเรยี น การ
1) เป็นการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพ ความชัดเจน สมบูรณ์ย่ิงขึ้น โดยปรับ วเิ คราะหส์ งั คม การวิเคราะหว์ ฒั นธรรม
ของชาติ มุ่งเน้นความเป็นไทยควบ จากเดิม 5 ขอ้ เป็น 6 ขอ้ ดังนี้ การวเิ คราะหท์ ฤษฎีการเรยี นรู้
คู่ความเป็นสากล 1) เปน็ หลกั สตู รการศึกษาเพอ่ื ความเป็น พฒั นาการทางสตปิ ญั ญาการถา่ ยโยง
2) เป็นการศึกษาเพ่ือปวงชน ท่ี เอกภาพของชาติ มมี าตรฐานการเรียนรู้ การเรยี นรกู้ ารเรยี นรทู้ างสังคมและ
ประชาชนทุกคนจะได้รับการศึกษา เปน็ เป้าหมายสาหรับพัฒนาเยาวชน ให้ วฒั นธรรมเปน็ ต้นสาหรับการวางแผน
อย่างเสมอภาพ และเท่าเทียมกัน โดย มีความรู้และคุณธรรมบนพื้นฐานความ หลักสตู ร
สงั คมมสี ่วนรว่ มในการจดั การศึกษา เป็นไทย ควบคูก่ ับความเป็นสากล
3) ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาและ 2) เปน็ หลกั สูตรการศึกษาเพื่อปวงชน ที่
เรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเน่ืองตลอด ป ร ะ ช า ช น ทุ ก ค น มี โ อ ก า ส ไ ด้ รั บ
ชีวติ โดยถือวา่ ผเู้ รียนมีความสาคัญที่สุด การศึกษาอย่างเสมอภาค
สามารถพัฒนาตามธรรมชาติ และเต็ม และมคี ณุ ภาพอย่างเทา่ เทยี มกนั
ตามศักยภาพ 3) เป็นหลักสูตรการศึกษาท่ีตอบสนอง
4) เป็นหลักสูตรท่ีมีโครงสร้างยืดหยุ่น การกระจายอานาจให้สังคมมีส่วนร่วม
ทั้งด้านสาระ เวลา และการจัดการ ในการจัดการศึกษา ให้สอดคล้องกับ
เรยี นรู้ สภาพ และ ความตอ้ งการของทอ้ งถ่นิ
5) เป็นหลักสูตรที่จัดการศึกษาได้ทุก 4) เป็นหลกั สูตรการศึกษาท่ีมีโครงสร้าง
รูปแบบครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ยืดหยุ่นทั้งด้านสาระการเรียนรู้ เวลา
สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้และ และการจัดการเรยี นรู้
ประสบการณ์ 5) เปน็ หลกั สูตรการศกึ ษาท่เี นน้ ผเู้ รยี นมี
ความสาคัญทสี่ ดุ
6 ) เ ป็ น ห ลั ก สู ต ร ก า ร ศึ ก ษ า ที่ จั ด
การศึกษาได้ทุกรูปแบบ ครอบคลุมทุก
กลมุ่ เป้าหมายสามารถเทียบโอนผลการ
เรียนรู้ และ ประสบการณ์
การกาหนดจุดหมายของหลักสตู ร
กาหนดจุดหมายของหลักสูตร ดังนี้ ปรับจุดหมายของหลักสูตร เพื่อให้มี ขั้นท่ี 1 วิเคราะหส์ ภาพปัญหา สารวจ
1) เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยใน ความชัดเจน สมบูรณ์ยิ่งข้ึน โดยจาก ความต้องการและความจาเปน็ ตา่ งๆ
ตนเอง ปฏิบัติตามหลักธรรมของ จุดหมาย 9 ขอ้ เป็น 5 ขอ้ ดงั น้ี ของสังคม ศึกษาพัฒนาการของผเู้ รียน
พระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาท่ีตนนบั ถอื 1) มีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่ กระบวนการเรียนรู้ และธรรมชาตขิ อง
มีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่พึง พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ การเรยี นรู้ ซ่งึ เปน็ แนวทางที่สาคญั ใน
ประสงค์ พอเพยี ง การกาหนดจดุ มงุ่ หมายของหลักสตู ร
2) มีความคิดสร้างสรรค์ ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน เห็นคุณค่าของตนเองมีวินัยและปฏิบัติ ขั้นที่ 2 การกาหนดจดุ มุ่งหมายของ
รักการอ่าน รักการเขียน และรักการ ตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา หลักสตู ร โดยอาศัยขอ้ มลู ทไี่ ดจ้ ากขั้นท่ี
ค้นควา้ หรอื ศาสนาท่ตี นนบั ถอื 1 เปน็ หลัก ควรเป็นสิ่งท่ปี ฏบิ ตั ไิ ดจ้ ริง
3) มีความรู้อันสากล รู้เท่าทันการ 2) มีความรู้อันเป็นสากล มที กั ษะในการ และเป็นแนวทางในการเลอื กและจัด
เปล่ียนแปลงและความเจริญก้าวหน้า จัดการทักษะกระบวนการคิด ทักษะใน ประสบการณก์ ารเรยี นรู้
ทางวทิ ยาการ การดาเนนิ ชวี ิตทักษะในการส่ือสารและ
มีทักษะและศักยภาพในการจัดการการ การใชเ้ ทคโนโลยี
ส่ือสาร และการใช้เทคโนโลยี ปรับ 3) มีสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิตที่ดี มสี ุข
วิธกี ารคดิ วธิ กี ารทางานไดเ้ หมาะสมกับ นสิ ยั และ รกั การออกกาลงั กาย
สถานการณ์ 4) มีจิตสานึกในการเป็นพลเมืองไทย
4) มีทักษะและกระบวนการโดยเฉพาะ และพลโลก ยึดม่ันในวิถีชีวิตและการ
ทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ทักษะ ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมี
การคิด การสร้างปัญญา และทักษะใน พระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข
การดาเนินชวี ิต 5)มีจิตสานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรม
5) รักการออกกาลังกาย ดูแลตนเองให้ และภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และ
มสี ุขภาพและบุคลกิ ภาพที่ดี พัฒนาสิ่งแวดล้อม มีจิตสาธารณะที่มุ่ง
6) มีประสิทธิภาพในการผลิต และการ ทาประโยชน์ และสร้างส่ิงที่ดีงามและ
บริโภคมีค่านิยมเป็นผู้ผลติมากกว่าเป็น อยู่รว่ มกันในสังคมอย่างมีความสขุ
ผ้บู ริโภค
7) เข้าใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย
ภมู ิใจในความเป็นไทย เปน็ พลเมืองดียึด
มั่นในวิถีชีวิตและการปกครองในระบบ
ประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง
เปน็ ประมุข
8) มีจิตสานึกในการอนุรักษ์ภาษาไทย
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี กีฬา ภูมิ
ปัญญาไทย ทรัพยากรธรรมชาติ และ
พฒั นาส่ิงแวดลอ้ ม
9) รักประเทศชาติและท้องถิ่น มุ่งทา
ประโยชน์และสร้างสง่ิ ท่ดี งี ามให้สงั คม
โครงสร้างหลกั สูตร
โครงสร้างหลักสูตรกาหนดเป็น 4 ช่วง โครงสรา้ งหลกั สตู รกาหนดเป็น 3 ระดับ ข้ันท่ี 4 การจดั รวบรวมเน้ือหาสาระ
ช้นั ดังน้ี ดังน้ี พจิ ารณาถงึ ความเหมาะสมในการท่ีจะ
ช่วงชั้นท่ี 1 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1-3 1) ระดบั ประถมศึกษา (ป.1-6) ให้ผเู้ รยี นไดร้ ับความร้ใู ดก่อนหลงั ซ่ึง
ช่วงชน้ั ท่ี 2 ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4-6 2) ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น (ม.1-3) จะต้องมคี วามต่อเนือ่ งและเป็นลาดับ
ชว่ งชนั้ ท่ี 3 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1-3 3) ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-6) ขนั้ ตอน
ชว่ งชน้ั ท่ี 4 ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4-6 กาหนดเวลาเรียนขั้นต่าของ 8 กลุ่ม
กาหนดเวลาเรียนของ 8 กลุ่มสาระการ สาระการเรียนรู้ในแต่ล่ะชั้นปี และให้
เรียนรู้ เป็นเวลารวมไว้เป็นช่วงกว้างๆ สถานศึกษาเพิ่มเติมได้ตามความพร้อม
ในแตล่ ะช่วงชั้น เช่น และจุดเน้น เช่นกาหนดเวลาเรียนกลุ่ม
ชว่ งชั้นที่ 1 (ป.1-3) สารการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ัน ป.1
กาหนดเวลาเรียนทั้ง 8 กลุ่ม ปีละ จานวน 200 ชว่ั โมง
ประมาณ 800-1000 ช่ัวโมง โดยให้
สถานศกึ ษากาหนดเวลาเรยี น
ข อ ง แ ต่ ล ะ ก ลุ่ ม ส า ร ะ เ อ ง ต า ม ค ว า ม
เหมาะสม
กาหนดมาตรฐานการเรยี นรู้
กาหนดมาตรฐานการเรยี นรู้ /มาตรฐาน ปรับปรุงมาตรฐานการเรียนรู้และ ข้นั ท่ี 3 การเลือกเนือ้ หาสาระ ตอ้ งให้
การเรยี นรชู้ ว่ งชนั้ กาหนดตวั ช้ีวดั ชนั้ ปี / ชว่ งช้นั สอดคล้องกบั จดุ มุ่งหมายทก่ี าหนดไว้
1. กาหนดมาตรฐานการเรียนรู้ 76 1. ปรับปรุงมาตรฐานการเรียนรู้ให้มี เนื้อหาทค่ี ัดเลอื กบรรจุลงในหลักสตู ร
มาตรฐาน ความชัดเจน ลดความซ้าซ้อน โดย จะตอ้ งมีความสาคญั และถูกตอ้ ง
2. กาหนดมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ปรับปรุงจาก 76 มาตรฐาน ลดลงเหลือ
โดยกาหนดไวเ้ ปน็ ช่วงๆ ละ 3 ปี ซ่ึงเป็น 67 มาตรฐาน
คณุ ภาพของผเู้ รียนเมื่อจบชัน้ ป.3 2. กาหนดตัวชีวดิ ช้ันปีสาหรับการศึกษา
ซ่ึงเป็นคุณภาพของผูเ้ รียนเมอื่ จบชัน้ ภาคบังคับ (ป.1- ม.3) และตัวชี้วัดช่วง
ป. 3 ป.6 ม.3 ม.6 และให้สถานศึกษา ชน้ั สาหรับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย (ม. 4-
นาไปเป็นกาหนดผลการเรียนรู้ท่ี 6 ) เพ่ือช่วยให้การจัดการเรียนรู้และ
คาดหวังเพ่ือใช้เป็นเป้าหมายในการ การวัดและประเมินผลมีเป้าหมายท่ี
จดั การเรียนรู้ของแต่ละกลุ่มสาระในแต่ ชั ด เ จ นใ นแ ต่ ล ะ ร ะ ดั บ ชั้ นร ว ม ทั้ ง
ล่ะช้ันปีเอง ซ่ึงทาให้ขาดเอกภาพและมี ครูผู้สอนสาม ารถนา ไปใช้ ในกา ร
ปัญหาใน การเทียบโอนผลการเรยี นรู้ ออกแบบหน่วยการเรียนรู้ได้เลยซึ่งเป็น
การชว่ ยลดภาระของครู
การกาหนดกิจกรรม ปรบั ปรงุ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน ขัน้ ที่ 4 การจัดรวบรวมเนอื้ หาสาระ
กาหนดกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน แบง่ เปน็
2 ลกั ษณะ คือ โดย เพ่ิมกิจ กร รมเ พ่ือสังค ม แล ะ พิจารณาถงึ ความเหมาะสมในการที่จะ
1. กจิ กรรมแนะแนว
2. กิจกรรมนกั เรยี น สาธารณประโยชน์ท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนทุก ให้ผู้เรยี นไดร้ ับความรใู้ ดก่อนหลงั ซง่ึ
การวดั ประเมินผลและการจบ คนทั้งในร ะดับประถมศึกษาแล ะ จะต้องมคี วามตอ่ เนือ่ งและเป็นลาดบั
หลักสูตร
การวัดและประเมินผล และการจบ มัธยมศึกษา ได้ทากิจกรรมที่เป็ น ข้นั ตอน
หลกั สตู ร
1. หลกั สตู รกาหลดให้สถานศกึ ษา ป ร ะ โ ย ช น์ เ พ่ื อ ส่ ว น ร ว ม ซ่ึ ง เ ป็ น ก า ร
กาหนดเกณฑ์การจบหลกั สตู รเอง
รวมท้ังจัดทาแนวทางการวดั และ ปลูกฝังให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึง
ประเมินผลตามเกณฑ์ ท่ีสถานศกึ ษา
กาหนด ป ร ะ ส งค์ ที่ ก า ห น ด คื อ กา ร มี จิ ต
2. การตัดสินผลการเรยี น
- ระดบั ประถมศึกษา และมธั ยมศกึ ษา สาธารณะ อันจะช่วยให้สังคมเกิดสันติ
ตอนต้น ตดั สนิ ผลการเรียนเปน็ รายปี
- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ตดั สนิ สุข อยู่รว่ มกนั อยา่ งมีความสขุ ดงั นั้น ใน
ผลการเรยี นเป็นรายภาค
หลักสูตรแกนกลางฯ จึงได้กาหนด
กิจกรรมผู้เรียน เปน็ 3 ลกั ษณะดงั นี้
1) กจิ กรรมแนะแนว
2) กิจกรรมนักเรยี น
3) กจิ กรรมเพ่อื นสังคมและสาธารณ-
ประโยชน์
การวัดและประเมินผล และการจบ ขั้นท่ี 7 การประเมินผล เปน็ การ
หลักสูตร พิจารณาว่าหลกั สตู รประสบผลสาเรจ็
1. หลักสูตรแกนกลางฯ กาหนดเกณฑ์ มากนอ้ ยเพียงใด มปี ญั หาหรือ
กลางการจบหลกั สูตร การตัดสินผลการ ข้อบกพรอ่ งในขนั้ ตอนใด เพ่อื จะไดท้ า
เรียนการให้ระดับผลการเรียน การ การปรับปรุงแกไ้ ขตอ่ ไป
รายงานผลการเรียน และเอกสาร
หลกั ฐานการศึกษาทก่ี ระทรวงควบคุม
เพือ่ ใหส้ ถานศึกษาจัดทาแนวปฏิบัติการ
วดั และประเมนิ ผลการเรยี นที่สอดคล้อง
กั บ ห ลั ก เ ก ณ ฑ์ ท่ี ห ลั ก สู ต ร แ ก น ก ล า ง
กาหนด
2. การตัดสินผลการเรยี น
- ระดบั ประถมศกึ ษา ตดั สนิ ผลการเรยี น
เป็นรายปี
- ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและ ตอน
ปลาย ตดั สนิ ผลการเรียนเปน็ รายภาค