โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 97 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก) โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 97 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
98 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566
การตัดคะแนนและผลการตัดคะแนนความประพฤติ 1.ครูทุกท่าน มีสิทธิเสนอตัดคะแนนความประพฤตินักเรียน โดยแจ้งหรือเสนอที่หัวหน้าระดับชั้น หรืองานส่งเสริมวินัยนักเรียน กลุ่มบริหารงานบุคคล 2. นักเรียนที่ถูกตัดคะแนนความประพฤติทุกคน ใช้เกณฑ์เดียวกัน 3. เมื่อนักเรียนคนใดถูกตัดคะแนนรวมถึง 30 คะแนน หรือที่ระบุไว้ในแต่ละกรณี โรงเรียนจะเชิญผู้ปกครอง มาพบเพื่อรับทราบปัญหาและแก้ไขปัญหาร่วมกัน เว้นแต่ความผิดบางกรณีที่ก�ำหนดในมาตรการลงโทษ 4. เมื่อนักเรียนคนใดถูกตัดคะแนนถึง 50 คะแนน โรงเรียนจะเชิญผู้ปกครองมาท�ำทัณฑ์บนครั้งที่ 1 5. นักเรียนคนใดถูกตัดคะแนนถึง 80 คะแนน โรงเรียนจะเชิญผู้ปกครองมาท�ำทัณฑ์บนครั้งที่ 2 6. นักเรียนที่ถูกตัดคะแนนเกินกว่า 50 คะแนน โรงเรียนจะเชิญผู้ปกครองมาท�ำ “หนังสือยินยอม” หรือ “สัญญาของนักเรียนเป็นกรณีพิเศษ” 7. ถ้าถูกลงโทษตาม ข้อ 4 แล้ว หรือท�ำความผิดเดิมซ�้ำซ้อนไม่ปรับปรุงพฤติกรรม นักเรียนจะถูกตัดสิทธิ์ดังนี้ 7.1 การเป็นตัวแทนของโรงเรียนเพื่อสร้างหรือเผยแพร่ชื่อเสียง 7.2 การรับทุนทุกประเภท 7.3 การขอหนังสือ หรือใบรับรองความประพฤติ 8. ถ้าถูกลงโทษตาม ข้อ 6 แล้ว หรือท�ำความผิดเดิมซ�้ำซ้อนไม่ปรับปรุงพฤติกรรม นักเรียนจะถูกตัดสิทธื์ การได้รับโควตาการศึกษาต่อ 9. หากนักเรียนถูกตัดคะแนนตามเกณฑ์ที่ก�ำหนด นักเรียนต้องเข้าค่ายปรับพฤติกรรม โดยมีเกณฑ์ดังนี้ 9.1 ถูกตัดคะแนน ตั้งแต่ 50 - 79 คะแนน เข้าค่ายปรับพฤติกรรม จ�ำนวน 1 วัน (ค่ายที่ 1) 9.2 ถูกตัดคะแนน ตั้งแต่ 80 - 100 คะแนน เข้าค่ายปรับพฤติกรรม จ�ำนวน 2 วัน 1 คืน (ค่ายที่ 2) 9.3 ถูกตัดคะแนน ตั้งแต่ 101 - 120 คะแนน เข้าค่ายปรับพฤติกรรม จ�ำนวน 3 วัน 2 คืน (ค่ายที่ 3) ***** (เข้าค่ายปรับพฤติกรรมทุกกรณี ผู้ปกครองเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายเอง) หมายเหตุ 1. ถ้าถูกลงโทษ ท�ำกิจกรรมถึง 30 วัน ให้ด�ำเนินการเสนอผู้บริหาร เพื่อพิจารณา 2. ถ้านักเรียนฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการลงโทษดังกล่าว ให้ด�ำเนินการเสนอผู้บริหาร เพื่อพิจารณา โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 99 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
เกณฑ์ลงโทษและตัดคะแนนความประพฤติ ล�ำดับที่ รายการ ครั้งที่ การลงโทษ คะแนนที่ตัด หมายเหตุ หมวด 1 การเรียน 1 1.1 ไม่สแกนใบหน้า หรือ ลายนิ้วมือ หรือบัตร 1 - 5 ตักเตือน - ครั้งที่ 3-5 โทรแจ้งปกครอง (หากสแกนไม่ติดให้ติดต่อห้องกลุ่มบริหาร งานบุคคลหรือห้อง ประชาสัมพันธ์ทันที) 1.2 ไม่สแกนบ่อยครั้ง หลังโทรแจ้งผู้ปกครอง 6 - 10 ท�ำกิจกรรม 3 ครั้งที่ 6 เชิญผู้ปกครอง แล้วยังไม่แก้ไข ครั้งที่ 10 เชิญผู้ปกครอง ท�ำทัณฑ์บน 1 (เข้าค่าย 1) 2 มาสาย (โทรแจ้งปกครองทุกครั้งที่มาสายเว้นแต่นักเรียนมากับผู้ปกครอง) 2.1 มาสาย โดยไม่มีเหตุผลสมควร 1 - 5 ตักเตือน - ครั้งที่ 5 เชิญผู้ปกครอง (มาถึงหลังเวลา 08.00 แต่ไม่เกิน 8.30 น.) 6 - 10 ท�ำกิจกรรม 3 ครั้งที่ 8 เชิญผู้ปกครอง ครั้งที่ 10 เชิญผู้ปกครอง ท�ำทัณฑ์บน 2 (เข้าค่าย 1) 11 - 15 ท�ำกิจกรรม 5 ครั้งที่ 13 เชิญผู้ปกครอง ครั้งที่ 15 เชิญผู้ปกครอง ท�ำทัณฑ์บน 2 (เข้าค่าย 2) 2.2 มาสาย โดยไม่มีเหตุผลสมควร (มาถึง 3 ท�ำกิจกรรม 5 เชิญผู้ปกครองบันทึกพฤติกรรม หลังเวลา 08.30 น. เป็นต้นไป ผู้ปกครอง 5 ท�ำกิจกรรม 5 เชิญผู้ปกครองบันทึกพฤติกรรม ต้องลงชื่อส่งนักเรียนเข้าโรงเรียนทุกกรณี) 6 - 7 ท�ำกิจกรรม 5 8 ท�ำกิจกรรม 5 เชิญผู้ปกครองบันทึกพฤติกรรม 9 ท�ำกิจกรรม 5 3 มาสาย (ผู้ปกครองต้องลงชื่อส่งนักเรียน เข้าโรงเรียนทุกกรณี) ครั้งที่ 3 โทรแจ้งผู้ปกครอง 3.1 มาสาย โดยไม่มีเหตุผลสมควร 1 - 5 ตักเตือน - เชิญผู้ปกครอง (มาถึงหลังเวลา 08.00 แต่ไม่เกิน 8.30 น.) 6 - 10 ท�ำกิจกรรม 3 ครั้งที่ 10 เชิญผู้ปกครอง 11 - 15 ท�ำกิจกรรม 5 ครั้งที่ 11 เชิญผู้ปกครอง ท�ำทัณฑ์บน 1 (เข้าค่าย 1) ครั้งที่ 15 เชิญผู้ปกครอง ท�ำทัณฑ์บน 2 (เข้าค่าย 2) 16 ท�ำกิจกรรม 5 ครั้งที่ 18 เชิญผู้ปกครอง เป็นต้นไป (เข้าค่าย 3) 3.2 มาสาย โดยไม่มีเหตุผลสมควร 1 ตักเตือน - โทรแจ้งผู้ปกครอง (มาถึงโรงเรียนหลังเวลา 8.30 น. 2 ท�ำกิจกรรม 5 เป็นต้นไป) 3 ท�ำกิจกรรม 5 ครั้งที่ 3 เชิญผู้ปกครอง 4 ท�ำกิจกรรม 5 เชิญผู้ปกครองบันทึกพฤติกรรม มาสาย หลังจากเชิญผู้ปกครองมาพบแล้ว 5 - 6 ท�ำกิจกรรม 5 ยังไม่แก้ไข 7 ท�ำกิจกรรม 5 เชิญผู้ปกครองบันทึกพฤติกรรม 8 - 9 ท�ำกิจกรรม 5 10 ท�ำกิจกรรม 5 เชิญผู้ปกครอง ท�ำทัณฑ์บน 1 (เข้าค่าย 1) 11 - 15 ท�ำกิจกรรม 5 ครั้งที่ 15 เชิญผู้ปกครอง ท�ำทัณฑ์บน 2 (เข้าค่าย 2) 18 ท�ำกิจกรรม 5 เชิญผู้ปกครอง (เข้าค่าย 3) 100 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566
ล�ำดับที่ รายการ การลงโทษ คะแนนที่ตัด หมายเหตุ 4 ไม่เข้าแถวเคารพธงชาติ โดยไม่มีเหตุผล สมควร ท�ำกิจกรรม 5 5 หนีคาบเรียน หรือ มีส่วนชักชวน ช่วยเหลือ ท�ำกิจกรรม 10 แจ้งผู้ปกครอง 6 ไม่เข้าร่วมการอบรมคุณธรรมจริยธรรม หรือ ท�ำกิจกรรม 10 ไม่เข้าร่วมกิจกรรมของคณะสี และกิจกรรมอื่นๆ โดยไม่มีเหตุอันควร 7 หนีโรงเรียนทุกกรณี หรือ มีส่วนชักชวน ช่วยเหลือ ท�ำกิจกรรม 30 เชิญผู้ปกครอง 8 ฝากผู้อื่นสแกนบัตรหรือสแกนบัตรแทนผู้อื่น ท�ำกิจกรรม 10 ฝากผู้อื่นสแกนบัตรผิดทั้ง ผู้ฝากและผู้รับฝาก 9 ขาดเรียนติดต่อกัน ตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป โดยไม่มี ท�ำกิจกรรม 10 แจ้งผู้ปกครอง เหตุผลสมควร 10 ส่งเสียงรบกวน ขณะห้องอื่นก�ำลังเรียน วิ่งเล่น ท�ำกิจกรรม 5 หยอกล้อหรือเล่นกีฬาบนอาคารเรียน 11 ไม่สนใจการเรียน ไม่ท�ำงานตามที่ครูมอบหมาย ท�ำกิจกรรม 5 ไม่ส่งงานตามก�ำหนด หมวด 2 การแต่งกาย 1 แต่งกายผิดระเบียบของโรงเรียน 1.1 ไม่ปักชื่อ อักษรย่อโรงเรียนจุดคณะสี ท�ำกิจกรรม 5 ครั้งที่ 3 แจ้งผู้ปกครอง 1.2 เสื้อผิดระเบียบหรือต่อเติมลวดลาย ท�ำกิจกรรม 5 1.3 เข็มขัดผิดระเบียบหรือไม่คาดเข็มขัด ท�ำกิจกรรม 5 ยึด 1.4 กางเกงหรือกระโปรงผิดระเบียบ - ครั้งที่ 1 ท�ำกิจกรรม 5 ครั้งที่ 1 ยึด ผู้ปกครองรับคืน - ครั้งที่ 2 ท�ำกิจกรรม 5 ครั้งที่ 2 ยึด ผู้ปกครองรับคืน หลังจบการศึกษา - ครั้งที่ 3 ท�ำกิจกรรม 10 ครั้งที่ 3 เป็นต้นไป ยึด เชิญผู้ปกครอง รับคืนหลังจบการศึกษา 1.5 ถุงเท้าหรือรองเท้าผิดระเบียบ - ครั้งที่ 1 - 2 ท�ำกิจกรรม 5 ยึด - ครั้งที่ 3 ท�ำกิจกรรม 10 ครั้งที่ 3 ยึด เชิญผู้ปกครอง 1.6 สวมเสื้อบุคคลอื่น หรือให้คนอื่นสวมเสื้อตนเอง ท�ำกิจกรรม 5 หรือใส่เครื่องแบบผิดวัน 1.7 ซอยผม ดัดผม ท�ำสีผม ต่อผม เปียผม ท�ำกิจกรรม 15 เชิญผู้ปกครอง มีผมหน้าม้าไม่ติดกิ๊บเก็บให้เรียบร้อย หรือท�ำผมผิดระเบียบอื่น 1.8 ผมยาว (ไม่แก้ไข) หรือ ผมกึ่งสั้นกึ่งยาว ท�ำกิจกรรม 10 ไม่มาตรวจระเบียบประจ�ำเดือน ไม่มารายงานตัว การแก้ไข การตรวจระเบียบประจ�ำเดือน 1.9 มีเครื่องส�ำอางหรือใช้เครื่องส�ำอางทุกชนิด ท�ำกิจกรรม 5 ครั้งที่ 1 ยึด แต่งหน้า แต่งผม แต่งเล็บ ไว้เล็บ หรือ ผู้ปกครองรับคืน ใส่เครื่องประดับทุกชนิด ครั้งที่ 2 เป็นต้นไปยึด และ น�ำไปท�ำกิจกรรมเพื่อส่วนรวม โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 101 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
ล�ำดับที่ รายการ การลงโทษ คะแนนที่ตัด หมายเหตุ 1.10 ชายเสื้อออกนอกกางเกง, กระโปรง ท�ำกิจกรรม 5 ครั้งที่ 3 แจ้งผู้ปกครอง 1.11 นักเรียนหญิงไม่ใส่เสื้อซับใน ท�ำกิจกรรม 5 1.12 ใส่รองเท้าพลศึกษากับชุดนักเรียน ท�ำกิจกรรม 5 1.13 ใส่ คอนแทคเลนส์แฟชั่นหลากสี หรือ ท�ำกิจกรรม 10 ใส่แว่นตาแฟชั่นหลากสี 2 เป้หรือถุงหิ้วผิดระเบียบ, ไม่มีเป้หรือถุงหิ้ว ท�ำกิจกรรม 5 ยึด ผู้ปกครองรับคืน ถ้าไม่มารับ มาโรงเรียน เมื่อสิ้นเทอมจะยึด และน�ำไปท�ำ กิจกรรมเพื่อส่วนรวม 3 ท�ำรอยสักหรือคล้ายรอยสักในส่วนของร่างกายที่ ท�ำกิจกรรม 20 เชิญผู้ปกครองและให้ เปิดเผย เช่น สักคิ้ว สักสวดลายต่างๆ ด�ำเนินการแก้ไขรอยสัก ภายในเวลาที่ก�ำหนด หมวด 3 ความประพฤติ 1 แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ ไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ ตักเตือน 5 2 น�ำอาหารและเครื่องดื่มมาจ�ำหน่ายในโรงเรียน ท�ำกิจกรรม 10 ครั้งที่ 1 ยึด รับคืนหลังเลิกเรียน ครั้งที่ 2 ยึด ผู้ปกครองรับคืน ครั้งที่ 3 ยึด ไม่คืนให้ น�ำไปบริจาค ให้ผู้อื่น 3 น�ำอาหารมารับประทานนอกโรงอาหาร หรือ ท�ำกิจกรรม 10 นอกสถานที่ที่โรงเรียนจัดไว้ให้ 4 ซื้อหรือสั่งอาหารและเครื่องดื่มจากภายนอกโรงเรียน ท�ำกิจกรรม 10 ครั้งที่ 1 ยึด รับคืนหลังเลิกเรียน เข้ามาในโรงเรียน ครั้งที่ 2 ยึด ผู้ปกครองรับคืน ครั้งที่ 3 ยึด ไม่คืนให้ น�ำไป บริจาคให้ผู้อื่น 5 รับประทานอาหารก่อนเวลา หรือนอกเวลาที่ก�ำหนด ท�ำกิจกรรม 5 6 ใส่รองเท้าบนอาคารเรียน ท�ำกิจกรรม 5 7 ท�ำลายทรัพย์สินของโรงเรียน และของผู้อื่น - - ชดใช้ค่าเสียหาย โดยไม่เจตนา 8 ท�ำลายทรัพย์สินของโรงเรียน และของผู้อื่น ท�ำกิจกรรม 30 เชิญผู้ปกครองและ โดยเจตนา ชดใช้ค่าเสียหาย 9 ท�ำลายทรัพย์สินของครูโดยเจตนา ท�ำกิจกรรม 100 ชดใช้ค่าเสียหาย เชิญผู้ปกครอง เสนอผู้บริหาร ย้ายสถานศึกษา 10 ลักขโมย ยักยอก ฉ้อโกง ขู่กรรโชกทรัพย์ของผู้อื่น ท�ำกิจกรรม 50 ครั้งที่ 1 ท�ำทัณฑ์บน หรือร่วมมือหรือช่วยผู้กระท�ำผิด ครั้งที่ 2 เสนอผู้บริหาร 11 สูบหรือมีหรือชักชวนส่งเสริมให้สูบบุหรี่ สิ่งเทียมบุหรี่ ท�ำกิจกรรม 30 เชิญผู้ปกครอง หรือสิ่งอื่นใดที่มีลักษณะในการเสพหรือสูบเข้าไปใน แนวปฏิบัติหน้า 106 ลักษณะเดียวกันกับบุหรี่ไว้ในครอง เช่น บุหรี่ทุกชนิด บุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิด 12 มีหรือดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ทุกชนิด ท�ำกิจกรรม 30 เชิญผู้ปกครอง 13 เสพ หรือมี หรือชักชวนส่งเสริมให้เสพสารเสพติดทุกชนิด ท�ำกิจกรรม 50 เชิญผู้ปกครอง ท�ำทัณฑ์บน ไว้ในครอบครอง แนวปฏิบัติ หน้า 106 14 เล่นการพนัน หรือ การเล่นที่มีลักษณะคล้ายการพนัน ท�ำกิจกรรม 30 เชิญผู้ปกครอง หรืออยู่ในวงการพนันทุกชนิด 102 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566
ล�ำดับที่ รายการ การลงโทษ คะแนนที่ตัด หมายเหตุ 15 เข้าไปในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพความเป็นนักเรียน ท�ำกิจกรรม 30 ยกเว้นเป็นที่พักอาศัย (เว้นแต่เป็นผู้พักอาศัยอยู่ประจ�ำ) เช่น สถานที่ที่จ�ำหน่าย เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สถานที่การพนัน โรงรับจ�ำน�ำ สถานค้าประเวณี ผับ บาร์ ไนท์คลับ อาบอบนวด สถานเริงรมย์ บ่อนการพนัน ร้านคาราโอเกะ เป็นต้น 16 แสดงกิริยา/วาจา ขัดขืนไม่เชื่อฟังครู ท�ำกิจกรรม 20 แจ้งผู้ปกครอง 17 แสดงท่าทางกิริยา/วาจา/ก้าวร้าวต่อครูหรือ ท�ำกิจกรรม 30 เชิญผู้ปกครอง ผู้ปกครองตนเองและผู้อื่น 18 แสดงท่าทางกิริยา/วาจาก้าวร้าวลบหลู่ต่อครูหรือ ท�ำกิจกรรม 100 เชิญผู้ปกครอง ท�ำทัณฑ์บน ผู้ปกครองอย่างร้ายแรง เสนอผู้บริหารย้ายสถานศีกษา 19 ยุยงให้แตกความสามัคคีหรือต่อต้านระเบียบวินัย ท�ำกิจกรรม 30 เชิญผู้ปกครอง ของโรงเรียน 20 มีพฤติกรรมไปทางชู้สาว หรือลามกอนาจาร ท�ำกิจกรรม 30 เชิญผู้ปกครอง 21 มีพฤติกรรมชู้สาว หรือลามกอนาจารขั้นร้ายแรง ท�ำกิจกรรม 100 เชิญผู้ปกครอง ท�ำทัณฑ์บน เสนอผู้บริหาร ย้ายสถานศีกษา 22 กลั่นแกล้ง รังแก ข่มขู่ บีบบังคับ หรือกระท�ำอื่นใด ท�ำกิจกรรม 30 เชิญผู้ปกครอง ทั้งโดยวาจาและการกระท�ำต่อผู้อ่อนแอกว่า ด้วยตนเองหรือใช้ผู้อื่น 23 ท�ำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ท�ำกิจกรรม 30 เชิญผู้ปกครอง 24 ท�ำร้ายร่างกายต่อผู้อื่น ถึงขั้นบาดเจ็บสาหัส ท�ำกิจกรรม 100 เชิญผู้ปกครอง ท�ำทัณฑ์บน เสนอผู้บริหารย้ายสถานศึกษา 25 ทะเลาะวิวาทกับเพื่อนนักเรียนด้วยกันตัวต่อตัว ท�ำกิจกรรม 20 เชิญผู้ปกครอง ด้วยเหตุเฉพาะหน้า 26 ทะเลาะวิวาทกับเพื่อนนักเรียนด้วยกันเป็นหมู่พวก ท�ำกิจกรรม 30 เชิญผู้ปกครอง 27 ทะเลาะวิวาทกับเพื่อนนักเรียน หรือบุคคลภายนอก ท�ำกิจกรรม 50 เชิญผู้ปกครอง ท�ำทัณฑ์บน โรงเรียน ท�ำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงโรงเรียน 28 ทะเลาะวิวาท ท�ำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเกิด ท�ำกิจกรรม 50 - เชิญผู้ปกครอง ความเสียหายและบาดเจ็บทั้งตัวต่อตัว 15 วัน - ท�ำทัณฑ์บน และเป็นหมู่พวก - ชดใช้ค่าเสียหาย และ ค่ารักษาพยาบาล 29 ชักชวน ช่วยเหลือ หรือมีส่วนในการสนันสนุน ท�ำกิจกรรม 20 เชิญผู้ปกครอง หรืออยู่ในเหตุการณ์โดยเจตนาในการทะเลาะวิวาท หรือท�ำร้ายร่างกาย 30 ชักชวนบุคคลภายนอก ก่อการทะเลาะวิวาท ท�ำกิจกรรม 50 เชิญผู้ปกครอง ท�ำทัณฑ์บน ในโรงเรียนและนอกโรงเรียน 31 เที่ยวกลางคืนหลังเวลา 22.00 น. เว้นแต่ไปกับบิดามารดา ท�ำกิจกรรม 30 เชิญผู้ปกครอง หรือผู้ปกครอง 32 พักค้างที่อื่นโดยไม่แจ้งผู้ปกครอง ท�ำกิจกรรม 30 เชิญผู้ปกครอง 33 ปีนกันสาดหรือขึ้นลงทางหน้าต่างหรือ ท�ำกิจกรรม 10 แจ้งผู้ปกครอง ระเบียงโรงเรียน 34 เข้า - ออก ในโรงเรียนโดยการปีนรั้ว ท�ำกิจกรรม 30 เชิญผู้ปกครอง โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 103 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
ล�ำดับที่ รายการ การลงโทษ คะแนนที่ตัด หมายเหตุ 35 น�ำเครื่องมือสื่อสาร อุปกรณ์เครื่องใช้ที่ไม่เกี่ยวกับ ท�ำกิจกรรม 20 ยึด 3 วันท�ำการ ผู้ปกครอง การเรียนการสอน และทรัพย์สินที่มีค่ามาโรงเรียน รับคืน และไม่รับแจ้งของหาย เช่น เครื่องประดับที่ท�ำด้วยทองค�ำ เพชร พลอย กล้อง สเก็ตบอร์ด วัตถุที่มีความอันตรายวัตถุเทียบปืน ฯลฯ 36 ชาร์จไฟเครื่องมือสื่อสาร หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ ท�ำกิจกรรม 10 ยึด ผู้ปกครองรับคืนภายใน ที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนการสอน ภาคเรียนนั้น และไม่รับแจ้ง ของหาย 37 ใช้โทรศัพท์ในเวลาเรียน หรือ การประชุมต่างๆ ท�ำกิจกรรม 10 ยึด ผู้ปกครองรับคืน ทั้งในและนอกห้องเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต ภายใน 3 วันท�ำการ 38 ขับขี่รถทุกประเภทในโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต ท�ำกิจกรรม 10 ในเวลาเรียนหรือไม่จอดรถในสถานที่ ที่ทางโรงเรียน ก�ำหนดให้ หรือจอดนอกบริเวณโรงเรียน 39 ท�ำลาย เปลี่ยนแปลง ปลอมแปลง ลายมือชื่อบุคคลอื่น ท�ำกิจกรรม 30 เชิญผู้ปกครอง และผู้ปกครองในเอกสารของโรงเรียนหรือเอกสารของ ทางราชการ, ทุจริตในการสอบ ให้การเท็จ 40 มีหรือน�ำหนังสือหรือสื่อลามก อนาจารทุกประเภท ท�ำกิจกรรม 30 เชิญผู้ปกครอง มาโรงเรียน 41 บันทึกหรือเผยแพร่ภาพ คลิปวิดีโอ หรือวิดีโอ ท�ำกิจกรรม 50 เชิญผู้ปกครอง ที่ไม่เหมาะสม เช่น ทะเลาะวิวาท ลามกอนาจาร เป็นต้น 42 บันทึกภาพ เสียง บุคคลอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต (เว้นแต่ ท�ำกิจกรรม 30 เชิญผู้ปกครอง เพื่อเป็นหลักฐานให้ตนเองพ้นผิด) ส่งข้อความ คลิปวิดีโอ หรือภาพที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่เหมาะสมทางระบบสื่อสาร ต่างๆ ทุกระบบ 43 พกพาวัตถุหรืออาวุธ ที่ใช้ในการทะเลาะวิวาทหรือ ท�ำกิจกรรม 100 เชิญผู้ปกครอง ท�ำทัณฑ์บน ต่อสู้ท�ำร้ายร่างกาย เช่น มีดดาบ มีดโกน คัทเตอร์ สนับมือ เหล็กขูดชาร์ป วัตถุระเบิด ปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุที่มีความอันตราย วัตถุเทียบปืน ฯลฯ 44 น�ำรถยนต์มาจอดภายในโรงเรียน ท�ำกิจกรรม 20 เชิญผู้ปกครอง 45 ผู้ปกครองน�ำรถยนต์เข้ามาส่งนักเรียน ท�ำกิจกรรม 10 เชิญผู้ปกครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต 46 ไม่สวมหมวกนิรภัยและท�ำผิดระเบียบ - 5 การจราจรทุกประการ 47 ปล้นทรัพย์ หรือร่วมมือหรือช่วยผู้กระท�ำผิด - - เสนอผู้บริหาร 48 ต้องคดีอาญาและศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง - - เสนอผู้บริหาร 49 เล่นวัตถุที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สุขภาพอนามัย ท�ำกิจกรรม 20 ยึด และสิ่งแวดล้อม เช่น พลุ ประทัด สารเคมี ฯลฯ 50 มั่วสุมและก่อความเดือดร้อนอย่างหนึ่งอย่างใด ท�ำกิจกรรม 20 เชิญผู้ปกครอง 51 ไม่ส่งเอกสารหรือไม่แจ้งการนัดหมายของโรงเรียน ท�ำกิจกรรม 10 แจ้งผู้ปกครอง ให้ผู้ปกครอง 52 ไม่พกบัตรประจ�ำตัวนักเรียน และ บัตรขออนุญาต ท�ำกิจกรรม 10 104 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566
ล�ำดับที่ รายการ การลงโทษ คะแนนที่ตัด หมายเหตุ 53 ไม่พกบัตรประจ�ำตัวนักเรียน และ บัตรขออนุญาต ท�ำกิจกรรม 10 ออกนอกโรงเรียน 54 ประพฤติตนไม่เหมาะสมท�ำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ท�ำกิจกรรม 20 เชิญผู้ปกครอง ของโรงเรียน 55 น�ำบุคคลภายนอกเข้ามาในโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต ท�ำกิจกรรม 20 เชิญผู้ปกครอง หมวด 4 การรักษาความสะอาด 1 ก่อให้เกิดความสกปรกในโรงเรียน เช่น เศษกระดาษ ท�ำกิจกรรม 10 ถุงพลาสติก เศษขยะมูลฝอย ฯลฯ 2 ขีดเขียน หรือท�ำให้เกิดข้อความหรือรูปภาพตามโต๊ะ ท�ำกิจกรรม 10 เก้าอี้ ม้านั่ง ฝาผนัง หรือสิ่งก่อสร้างของโรงเรียน 3 ขีดเขียน (หรือท�ำให้เกิด) ข้อความหรือรูปภาพ ท�ำกิจกรรม 10 ต่างๆ ท�ำกิจกรรม ลงบนเครื่องแบบนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนของ นักเรียนเองหรือของ นักเรียนคนอื่นๆ 4 ไม่รักษาความสะอาดร่างกายและเครื่องแบบ ท�ำกิจกรรม 5 อุปกรณ์การเรียนต่างๆ ของตน 5 ไม่ดูและรับผิดชอบหน้าที่เวรท�ำความสะอาดประจ�ำ ท�ำกิจกรรม 10 ห้องเรียนที่ได้รับมอบหมาย หมวด 5 หมวดอื่นๆ ความผิดอื่นใดที่ไม่มีตามเกณฑ์นี้ ให้ด�ำเนินการโดยพิจารณาความผิดเปรียบเทียบ ตามความเหมาะสม โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 105 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
แนวปฏิบัติส�ำหรับนักเรียนที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับสารเสพติด โรงเรียนมีหลักปฏิบัติส�ำหรับนักเรียนที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับสิ่งเสพติด ดังนี้ 1. สารเสพติดทั่วไป 1. นักเรียนที่ตรวจพบ เสพสารเสพติด จัดเข้าคลินิกสุขภาพเด็กวัยรุ่นของโรงเรียน และจะต้องยอม ปฏิบัติตามแนวปฏิบัติของคลินิกทุกประการ 2. นักเรียนที่ตรวจพบเสพสารเสพติด ผู้ปกครองจะต้องน�ำนักเรียนเข้ารับการบ�ำบัดรักษาในสถานบ�ำบัด ของทางราชการ โดยให้นักเรียนหยุดพักการเรียนเพื่อบ�ำบัด และเมื่อบ�ำบัดรักษาหายเป็นปกติแล้ว จะต้อง น�ำใบรับรองแพทย์จากสถานบ�ำบัดนั้นมาแสดงต่อทางโรงเรียนด้วย 3. นักเรียนที่ตรวจพบเสพสารเสพติด และไม่ให้ความร่วมมือในการบ�ำบัดรักษา หรือเมื่อบ�ำบัดรักษา แล้วตรวจพบเสพสารเสพติดอีก นักเรียนต้องลาออกจากโรงเรียน 4. นักเรียนที่จ�ำหน่าย จ่ายแจกสารเสพติด ทางโรงเรียนจะให้นักเรียนนั้นลาออกจากโรงเรียน หรือ ด�ำเนินการตามกฎหมาย 5. นักเรียนที่มีสารเสพติดไว้ในครอบครอง ให้ด�ำเนินการตามดุลยพินิจของกลุ่มบริหารงานบุคคล (งานส่งเสริมวินัยนักเรียน) และหัวหน้าสถานศึกษา 2. บุหรี่ จะด�ำเนินการกับนักเรียนที่สูบบุหรี่ในโรงเรียน ดังนี้ 1. ด�ำเนินการตามเกณฑ์ลงโทษและตัดคะแนนความประพฤติ 2. ด�ำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย แนวปฏิบัติในการลงโทษนักเรียน ในกรณีที่นักเรียนประพฤติผิดระเบียบของโรงเรียน โรงเรียนได้ก�ำหนดบทลงโทษ ตามแนวระเบียบ กระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษา พ.ศ. 2548 ไว้ดังนี้ โทษการกระท�ำความผิดของนักเรียน มี 4 สถาน ดังนี้ 1. ว่ากล่าวตักเตือน 2. ตัดคะแนน 3. ท�ำทัณฑ์บน 4. ท�ำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 106 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566
โครงการคนดีศรียานุสรณ์ ความเป็นมาของโครงการ โรงเรียนศรียานุสรณ์มีนโยบายพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม เชิงรุกกับบุคลากรในโรงเรียน จึงริเริ่ม โครงการ คนดีศรียานุสรณ์ ในปีการศึกษา 2544 แต่การด�ำเนินโครงการเสร็จสิ้นสมบูรณ์ตามวัตถุประสงค์ในปี การศึกษา 2545 และได้ด�ำเนินการจนถึงปัจจุบัน วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. เพื่อพัฒนา คุณธรรม จริยธรรม นักเรียนให้เป็นคนดี มีความสุข และเป็นคนเก่ง โดยรูปธรรม คือ เป็นผู้มี มารยาทดี มีวินัย น�้ำใจงาม เป็นรากฐานในการพัฒนาศักยภาพของคนและสังคมต่อไป 2. เพื่อสร้างจิตส�ำนึก ในการเป็นคนดี และรักษาความดีอย่างยั่งยืน เกิดความภาคภูมิใจ มีการพัฒนา การท�ำความดีอย่างต่อเนื่องจนเป็นฐานคนดีมีคุณภาพในการพัฒนาประเทศต่อไป 3. เพื่อสนับสนุน ยกย่อง เผยแพร่ สร้างขวัญก�ำลังใจและเชิดชูเกียรตินักเรียนที่ท�ำความดี เกณฑ์การพิจารณา 1. ต้องปฏิบัติตนถูกต้องตามกฎระเบียบการแต่งกายของโรงเรียน 2. พฤติกรรมการแสดงออก 2.1 ปฏิบัติตนสุภาพ เรียบร้อยและถูกต้องตามกฎระเบียบของโรงเรียน 2.2 มีจิตสาธารณะช่วยเหลือกิจกรรมภายในห้องเรียนอย่างสม�่ำเสมอ 2.3 มีจิตอาสาช่วยเหลือกิจกรรมของโรงเรียนและชุมชน 2.4 เป็นผู้มีมารยาทที่ดีต่อเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง ครู และครอบครัว 2.5 มีพฤติกรรมที่เหมาะสมกับเพื่อนต่างเพศ 2.6 หากถูกตัดคะแนนความประพฤติ ต้องไม่เกิน 10 คะแนน 3. ผลการเรียน 3.1 ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน 3.2 ไม่ติด 0, ร, มส. ในทุกรายวิชา 3.3 ผลการเรียนเฉลี่ยต้องไม่ต�่ำกว่า 3.00 โรงเรียนจะพิจารณาคัดเลือกให้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีผลงานสะสม ย้อนหลัง 2 ปีการศึกษา การแบ่งประเภทคนดีศรียานุสรณ์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้ 1. ประเภทคุณธรรมจริยธรรม - ผลการเรียนเฉลี่ยไม่ต�่ำกว่า 3.00 - มีคุณสมบัติทั่วไปตามเกณฑ์ที่ก�ำหนด - มีผลงานด้านคุณธรรมและจริยธรรมภายในโรงเรียนหรือนอกโรงเรียนอย่างสม�่ำเสมอ ไม่น้อยกว่า 2 ปี 2. ประเภทกิจกรรม - ผลการเรียนเฉลี่ยไม่ต�่ำกว่า 3.00 - มีคุณสมบัติทั่วไปตามเกณฑ์ที่ก�ำหนด โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 107 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
- มีผลงานด้านกิจกรรมส่วนร่วมกับโรงเรียน และ/หรือ ชุมชน ในลักษณะจิตอาสาอย่างสม�่ำเสมอ ไม่น้อยกว่า 2 ปี - มีผลงานระดับชาติ (ได้รับรางวัลชนะเลิศ ระดับประเทศ ในการแข่งขันกิจกรรมต่างๆ ซึ่งมีผลการเรียน เฉลี่ยไม่ต�่ำกว่า 2.75) 3. ประเภทกีฬา - ผลการเรียนเฉลี่ยไม่ต�่ำกว่า 2.75 - มีคุณสมบัติทั่วไปตามเกณฑ์ที่ก�ำหนด - มีผลงานด้านกีฬาทั้งภายในและนอกโรงเรียนอย่างสม�่ำเสมอ ไม่น้อยกว่า 2 ปี ระยะเวลาในการพิจารณา เดือน พฤษภาคม - สิงหาคม การประกาศผล เดือน สิงหาคม รางวัลที่ได้รับ 1. เข็มเชิดชูเกียรติคนดีศรียานุสรณ์ 2. เกียรติบัตรเชิดชูเกียรติคนดีศรียานุสรณ์ 3. รางวัลยอดคนดีศรียานุสรณ์ (เทียบเคียงเกณฑ์รางวัลนักเรียนพระราชทาน) ขั้นตอนการพิจารณา แบ่งออกเป็น 4 รอบดังนี้ 1. คณะกรรมการภายในชั้นเรียนพิจารณาเลือกสรร 2. ครูที่ปรึกษาพิจารณาคัดเลือก ซึ่งอาจจะเพิ่มชื่อ หรือ คัดชื่อออกโดยพิจารณาตามเกณฑ์ 3. ครูที่ปรึกษาและหัวหน้าระดับคัดกรอง สามารถเพิ่มชื่อหรือคัดชื่อออกโดยพิจารณาตามเกณฑ์ และตามหลักฐานที่ตรวจสอบคือ - ตรวจสอบจากบันทึกพฤติกรรมของกลุ่มบริหารงานบุคคล (งานส่งเสริมวินัยนักเรียน) - ตรวจสอบผลการเรียนจากกลุ่มบริหารวิชาการ 4. คณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของโรงเรียน พิจารณาคัดเลือกเป็นครั้งสุดท้าย - ตรวจสอบจากบันทึกพฤติกรรมของกลุ่มบริหารงานบุคคล (งานส่งเสริมวินัยนักเรียน) - ตรวจสอบผลการเรียนจากกลุ่มบริหารวิชาการ - คณะกรรมการขอพบ และสัมภาษณ์ - สอบถามหัวหน้างานกิจกรรมนักเรียนในหลักสูตร ครูที่ปรึกษาชุมนุม หรือโครงงานที่เกี่ยวข้อง - จากหลักฐานอื่นๆ ที่ปรากฏ 108 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566
ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ผู้ปกครองนักเรียน นักศึกษา โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องผู้ปกครองนักเรียนให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ฉะนั้น อาศัยอ�ำนาจตามความในข้อ 23 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 216 ลงวันที่ 29 กันยายน 2515 จึงให้ยกเลิกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องผู้ปกครองนักเรียน ลงวันที่ 19 มกราคม พุทธศักราช 2503 และให้ ผู้ปกครองนักเรียนนักศึกษาที่ก�ำลังรับการศึกษาระดับต�่ำกว่าปริญญาตรี ในสถานศึกษาของ กระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติดังนี้ 1. “ผู้ปกครอง” หมายความว่า บุคคลซึ่งรับนักเรียนหรือนักศึกษาไว้ในความปกครองหรืออุปการะเลี้ยงดู หรือบุคคลที่นักเรียนหรือนักศึกษานั้นอาศัยอยู่ 2. ให้นักเรียน นักศึกษา ที่ก�ำลังรับการศึกษาในหลักสูตรระดับ ปวส., ป.กศ.สูง หรือเทียบเท่าลงมาใน สถานศึกษาในสังกัดหรือในความควบคุมดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ เว้นแต่การศึกษาผู้ใหญ่ มีผู้ปกครอง ตลอดระยะเวลาที่ศึกษาอยู่ 3. ในวันมอบตัวนักเรียน นักศึกษาใหม่ให้ผู้ปกครองมามอบตัวนักเรียน นักศึกษา ที่สถานศึกษา พร้อมกับส่ง หลักฐานเอกสารต่าง ๆ ตามที่สถานศึกษาก�ำหนด ถ้าผู้ปกครองไม่อาจมอบตัวนักเรียน นักศึกษาได้ตามก�ำหนด ให้ผู้ปกครองตกลงกับหัวหน้าสถานศึกษา ก�ำหนดวันมอบตัวนักเรียน นักศึกษาใหม่ 4. ผู้ปกครองจะต้องร่วมมือกับสถานศึกษาเพื่อควบคุมความประพฤติและการศึกษาเล่าเรียนโดยให้นักเรียน นักศึกษา แต่งกาย แต่งเครื่องแบบ และประพฤติตนตามระเบียบข้อบังคับหรือค�ำสั่งของสถานศึกษา และหรือ ของกระทรวงศึกษาธิการ หรือตามที่กฎหมายก�ำหนด 5. ผู้ปกครองควรติดต่อกับสถานศึกษาอยู่เสมอ เพื่อจะได้ทราบปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการศึกษาของนักเรียน นักศึกษา และจะได้ช่วยสถานศึกษาแก้ปัญหานั้น ๆ 6. เมื่อผู้ปกครองย้ายที่อยู่ หรือความเป็นผู้ปกครองสิ้นสุดลงด้วยประการใด ๆ ให้ผู้ปกครองแจ้งให้ สถานศึกษาทราบ 7. ส�ำหรับนักเรียน นักศึกษาที่รับการศึกษาอยู่ในสถานศึกษาแล้ว ให้สถานศึกษาตรวจสอบ ติดตาม หลักฐานการเป็นผู้ปกครองนักเรียน นักศึกษา หากเห็นว่านักเรียน นักศึกษาคนใดไม่มีผู้ปกครอง หรือ มี ผู้ปกครอง ไม่เหมาะสมก็ให้สถานศึกษาด�ำเนินการให้เป็นไปตามประกาศนี้ ประกาศ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522 (ลงชื่อ) ก่อ สวัสดิ์พาณิชย์ (นายก่อ สวัสดิ์พาณิชย์) รัฐมนตรีช่วยว่าการ ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 109 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
ค�ำแนะน�ำส�ำหรับผู้ปกครอง 1. ศึกษาระเบียบต่าง ๆ ของโรงเรียน เพื่อความเข้าใจอันดีระหว่างบ้านกับโรงเรียน 2. เมื่อไปขอพบนักเรียน หรือติดต่อกับทางโรงเรียน ควรรู้ว่านักเรียนอยู่ชั้น/ห้องใด, ชื่อครูที่ปรึกษา และ น�ำหลักฐานแสดงตนของผู้ปกครองไปด้วย 3. ควบคุมการมาเรียนและการกลับบ้านของนักเรียน 4. ดูแลการเรียนของนักเรียนให้ท�ำการบ้าน งาน และอ่านหนังสือ เพื่อเพิ่มความรู้ให้มากขึ้น 5. ดูแลการแต่งกายของนักเรียนให้ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับของโรงเรียน 6. ถ้านักเรียนขออนุญาตไปร่วมกิจกรรมของโรงเรียน ควรตรวจดูหนังสือขออนุญาตจากโรงเรียนพร้อมตรา ประทับสีแดงทุกครั้งและลงชื่อรับทราบแล้วส่งคืนทางโรงเรียน เพื่อท่านจะได้ทราบรายละเอียด 7. ควบคุมการเที่ยวเตร่ของนักเรียน อย่าให้เที่ยวจนดึกหรือบ่อยเกินไป 8. ไม่ควรพานักเรียนของท่านไปเที่ยวพักผ่อนในสถานที่ไม่เหมาะสม 9. เอาใจใส่ดูแลการคบเพื่อน ให้ถูกต้องเหมาะสมตามจารีตประเพณีและศีลธรรมอันดี 10. ควรอบรมสั่งสอนนักเรียนของท่านอยู่เสมอ ๆ เพราะนักเรียนจะเป็นคนดีมีอนาคต ต้องอาศัยความร่วมมือ ระหว่างบ้านกับโรงเรียน 11. ควรดูแลเอาใจใส่ผลการเรียนของนักเรียนในความปกครองของท่านในแต่ละภาคเรียนและท่านจะต้อง ลงความเห็นของผู้ปกครองด้วยตนเองทุกครั้ง พร้อมทั้งลงชื่อท้ายความเห็น 12. ควรดูแลและป้องกันนักเรียนของท่านในเรื่องการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา เสพของมึนเมาทุกชนิด สารระเหย และยาเสพติดให้โทษทุกชนิด 13. เมื่อมีความจ�ำเป็นต้องเปลี่ยนผู้ปกครองส�ำหรับนักเรียนของท่านใหม่ ท่านและผู้ปกครองคนใหม่ ที่จะท�ำหน้าที่แทนต้องไปแจ้งให้กลุ่มบริหารงานบุคคล (งานส่งเสริมวินัยนักเรียน) ทราบ เพื่อประโยชน์ ของนักเรียนเอง 14. ให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียน เมื่อได้รับเชิญให้ไปร่วมแก้ไข และป้องกันปัญหาของนักเรียนด้วยตนเอง 15. ถ้ามีข้อสงสัยประการใด ๆ โปรดติดต่อกับทางโรงเรียน เพื่อความเข้าใจอันดีและร่วมมือกัน S 110 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566
(ส�ำเนา) กฎกระทรวง ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 294 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2515 อาศัยตามความในข้อ 1 และ ข้อ 2 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 294 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2515 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ดังนี้ การประพฤติตนไม่สมควร แก่วัย คือ การประพฤติตน ดังต่อไปนี้ 1. ประพฤติตนไปในทางเกเรหรือเที่ยวเตร่เร่ร่อนไปในที่สาธารณะ 2. มั่วสุมและก่อความเดือดร้อนร�ำคาญแก่ชาวบ้านและผู้สัญจรไปมา 3. ขอทานหรือกระท�ำส่อไปทางขอทาน 4. เล่นการพนันหรือมั่วสุมในวงการพนัน 5. เสพสุรา สูบบุหรี่ หรือยาเสพติดให้โทษหรือของมึนเมาอย่างอื่น หรือเข้าไปในสถานที่จ�ำหน่ายสุรา เพื่อเสพหรือซื้อสุรา 6. เข้าไปในโรงรับจ�ำน�ำ สถานบริการค้าประเวณี เว้นแต่เป็นผู้อยู่อาศัย 7. ประพฤติตนท�ำนองชู้สาวในที่สาธารณะ 8. ไม่เรียนอยู่ในโรงเรียนประถมศึกษาว่าด้วยการประถมศึกษา 9. เที่ยวเตร่ในเวลากลางคืน ระหว่างเวลา 22.00 นาฬิกา ถึงเวลา 04.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่ ไปกับบิดามารดาหรือผู้ปกครอง 10. หลบหนีจากสถานแรกรับเด็ก หรือสถานสงเคราะห์เด็ก ให้ไว้ ณ วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2515 (ลงชื่อ) พ่วง สุวรรณรัฐ (นายพ่วง สุวรรณรัฐ) ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ใช้อำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 89 ตอนที่ 190 วันที่ 13 ธ.ค. 2531) โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 111 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
112 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566
โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 113 ปญฺญา โลกสมึ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
กลุ่มบริหารทั่วไป กลุ่มบริหารทั่วไป ท�ำหน้าที่ดูแลความสะอาดของอาคาร สถานที่ สิ่งแวดล้อม อ�ำนวยความสะดวก ด้านสาธารณูปโภค จัดสวัสดิการ ส่งเสริมสนับสนุนการเรียน การสอน ให้ครูได้ปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยความสะดวก ราบรื่น ประสานหน่วยงานสาธารณสุข ในการตรวจตราความสะอาดของอาหาร น�้ำดื่ม ภาชนะ ตลอดจน สารปนเปื้อนในอาหาร อีกทั้งการตรวจสุขภาพของคณะครู นักการภารโรง ผู้จ�ำหน่ายอาหารในโรงเรียน การปฐมพยาบาล การส่งต่อโรงพยาบาล ในกรณีนักเรียนบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย อีกทั้งการอ�ำนวยความสะดวก แก่ผู้ปกครองที่มาขอพบนักเรียนเมื่อมีกิจธุระจ�ำเป็น ที่มีเป้าหมายในการพัฒนานักเรียนด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และสังคมในการเป็นพลเมืองดีของประเทศสืบต่อไป งานอาคารสถานที่ ข้อปฏิบัติของนักเรียนในการใช้อาคารและสถานที่ โรงเรียนเป็นสมบัติของส่วนรวม เสมือนนักเรียนเป็นเจ้าของ นักเรียนทุกคนต้องระลึกไว้เสมอว่าโรงเรียน เป็นบ้านที่ 2 ของนักเรียน จึงต้องมีหน้าที่ที่จะต้องให้ความร่วมมือในการรักษาทรัพย์สินและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในโรงเรียน ให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า ไม่ช�ำรุดเสียหายก่อนเวลาอันควร โดยปฏิบัติตนดังนี้ 1. ช่วยกันดูแลรักษาและท�ำความสะอาดบริเวณโรงเรียน เมื่อพบสิ่งที่ไม่เหมาะสมต้องช่วยกัน แก้ไขทันที ถ้าเกินความสามารถให้แจ้งครูอาจารย์ หรือนักการภารโรงทราบ 2. ท�ำความสะอาดห้องเรียนของตนให้สะอาดอยู่เสมอ 3. เมื่อได้รับหน้าที่รักษาความสะอาดในบริเวณใดของโรงเรียน ต้องรับผิดชอบให้เต็มความสามารถ ท�ำให้บริเวณนั้นสะอาดสวยงามอยู่เสมอ 4. เมื่อนักเรียนขึ้นบนอาคารเรียน ต้องถอดรองเท้าก่อนขึ้นอาคาร 5. ไม่น�ำอาหาร และเครื่องดื่มทุกประเภทไปรับประทานบนอาคารเรียน 6. ช่วยกันปิดประตู หน้าต่าง ห้องเรียนก่อนกลับบ้านหลังเลิกเรียนทุกวัน 7. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า พัดลม เมื่อเสร็จจากการใช้งาน 8. เวลาเปิด - ปิด เครื่องปรับอากาศ เปิด 09.00 น. ปิด 15.30 น. (หากไม่มีการใช้งานห้องเรียนเกิน 1 ชั่วโมง ให้ปิดเครื่องปรับอากาศ) 9. ไม่ท�ำลายทรัพย์สินของโรงเรียน 10. ปิดน�้ำ ไฟฟ้า หลังใช้งานทุกครั้ง 114 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566
งานอนามัยโรงเรียน งานอนามัยโรงเรียนเป็นบริการด้านส่งเสริม ป้องกัน และแก้ไขปัญหา สุขภาพกาย สุขภาพจิต สารเสพติด และโรคไข้เลือดออก ให้แก่นักเรียนให้อยู่ในสภาพปกติ ปราศจากโรคอันเป็นอุปสรรคในการศึกษาเล่าเรียน และเจริญเติบโตตามวัย โรงเรียนจัดห้องพยาบาล ส�ำหรับบริการด้านการปฐมพยาบาลดูแลรักษาอาการเบื้องต้น ให้ค�ำปรึกษา แนะน�ำ และจัดเตียงแยกชาย – หญิง ส�ำหรับนักเรียนพักฟื้น เมื่อนักเรียนไม่สบายระหว่างเรียน นักเรียนจะต้องแจ้งให้อาจารย์ผู้สอนทราบก่อน และขออนุญาตไปพบพยาบาลเพื่อแจ้งอาการป่วย ระเบียบการใช้ห้องพยาบาล 1. ขออนุญาตก่อนเข้าห้องพยาบาล 2. แจ้งอาการเจ็บป่วย 3. บันทึกในใบการใช้บริการห้องพยาบาล 4. ห้ามหยิบยารับประทานเอง 5. เมื่อรับประทานยาแล้ว ล้างแก้วยาทุกครั้ง 6. ขออนุญาตก่อนนอนพักฟื้น 7. เมื่อลุกจากเตียงจัดที่นอนให้เรียบร้อย 8. กรณีพบแพทย์ หรือกลับบ้าน เจ้าหน้าที่พยาบาลจะเป็นผู้ติดต่อผู้ปกครอง 9. เมื่อป่วยมาจากบ้านจะต้องรักษาต่อเนื่อง ให้นักเรียนน�ำยาตามแพทย์สั่งมาด้วย การสร้างสุขนิสัยที่ดีของนักเรียน เนื่องจากมีโรคติดต่อบางชนิด เช่น โรคไวรัสตับอักเสบบี และ โรคหวัด ที่ติดต่อได้จากการใช้ภาชนะในการรับ ประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งเราสามารถป้องกัน และหลีกเลี่ยงได้ด้วยการปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการทั้ง ยังเป็นการเสริมสร้างสุขนิสัยส่วนบุคคลที่ดีให้กับตนเอง ฉะนั้น นักเรียนทุกคนต้องจัดหาอุปกรณ์ในการรับประทานอาหาร มาใช้เป็นของส่วนตัว ในโรงเรียน คือ ช้อน ส้อม และแก้วน�้ำ โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 115 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
แนวปฏิบัติของนักเรียน ครู และบุคลากร เพื่อป้องกันโรคโควิด – 19 ของโรงเรียนศรียานุสรณ์ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) นั้น ทางโรงเรียนศรียานุสรณ์ มีการก�ำหนดมาตรการ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดภาคเรียน ดังนี้ 1. ก่อนเข้าโรงเรียน - นักเรียนทุกคนจะต้องพกเจลแอลกอฮอล์ติดตัวอยู่เสมอ เพื่อใช้ระหว่างเดินทาง และระหว่างวัน - เมื่อนักเรียนมาถึงหน้าโรงเรียนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคน เดินเป็นแถวโดยเว้นระยะห่าง ผ่านจุดคัดกรอง โดยมีเครื่องวัดอุณหภูมิอัตโนมัติ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ และผ่านอุโมงค์ฆ่าเชื้อ ตามล�ำดับ จากนั้น สแกนใบหน้าเพื่อบันทึกเวลาเข้าโรงเรียน หากนักเรียนมีไข้ หรือมีโอกาสที่จะติดเชื้อไวรัส ให้แยกตัว นักเรียนออกมาที่ห้อง School Isolation และด�ำเนินการติดต่อผู้ปกครอง หรือแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อรับการรักษาต่อไป 2. การจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียน - การท�ำความสะอาดห้องเรียน โต๊ะเรียน เก้าอี้ ทุกครั้ง ด้วยน�้ำยาฆ่าเชื้อ ทั้งก่อนเรียน พักกลางวัน และหลังเลิกเรียน โดยมีการบันทึกข้อมูลอย่างเคร่งครัด 3. การให้บริการเจลแอลกอฮอล์และหน้ากากอนามัย - จัดให้มีจุดบริหารแอลกอฮอล์ และอ่างล้างมือทุกอาคาร เพื่อให้นักเรียนล้างมือก่อนเข้าห้องเรียน เพื่อฆ่าเชื้อโรค - โรงเรียนมีบริการหน้ากากอนามัยส�ำหรับนักเรียน ในกรณีช�ำรุด สูญหาย หรือปนเปื้อนในระหว่างวัน 4. ห้องเรียน - ครูผู้สอน และนักเรียนทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และหลีกเลี่ยงการยืมอุปกรณ์ การเรียนต่าง ๆ จากเพื่อน งดสัมผัสร่างกายโดยไม่จ�ำเป็น - ภายในห้องเรียนทุกห้อง มีอุปกรณ์ท�ำความสะอาดและฆ่าเชื้อ ส�ำหรับให้นักเรียนฆ่าเชื้ออุปกรณ์ และพื้นผิวสัมผัสต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง ในระหว่างวัน - มีการท�ำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวสัมผัสภายในห้องเรียน เป็นประจ�ำ S 116 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566
5. การรับประทานอาหารกลางวัน เพื่อลดความแออัดของนักเรียน - จัดให้มีการเหลื่อมเวลาในการรับประทานอาหาร โดยแบ่งเป็นนักเรียนชั้น ม.ต้น พักกลางวัน เวลา 11.00 น. – 11.50 น. และนักเรียนชั้น ม.ปลาย เวลา 11.50 น. – 12.40 น. - แม่ค้าทุกคน สวมหน้ากากอนามัย คลุมผม และสวมถุงมือ ตลอดเวลาในการปฏิบัติงาน และมีเจลแอลกอฮอล์บริการหน้าร้านค้าทุกร้าน - นักเรียนทุกคนจะต้องมี ช้อนส้อม และแก้วน�้ำส่วนตัว งดการพูดคุยกันขณะรับประทานอาหาร - ก่อนเข้าโรงอาหาร นักเรียนจะต้องล้างมือให้เรียบร้อย 6. การใช้ห้องน�้ำโรงเรียน - บริเวณหน้าห้องน�้ำจะมีจุดเว้นระยะห่าง ก�ำหนดไว้อย่างชัดเจน งดการเข้าห้องน�้ำพร้อมกันหลาย ๆ คน เพื่อลดความแออัด - เมื่อปฏิบัติภารกิจเสร็จแล้ว ให้ล้างมือ ท�ำความสะอาด และฆ่าเชื้อให้เรียบร้อย - การท�ำความสะอาด แม่บ้านจะด�ำเนินการท�ำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคเป็นประจ�ำ โดยก�ำหนดช่วงเวลา เป็นช่วงเช้า ก่อนนักเรียนพักกลางวัน หลังนักเรียนพักกลางวัน และช่วงเย็นก่อนกลับบ้าน การรับประทานอาหารของนักเรียน 1. การแบ่งช่วงเวลาพักกลางวัน นักเรียนชั้น ม.ต้น เวลา 11.00 น. – 11.50 น. นักเรียนชั้น ม.ปลาย เวลา 11.50 น. – 12.40 น. 2. ก่อนเข้าโรงอาหารนักเรียนจะต้องล้างมือให้สะอาด เรียบร้อย 3. การเข้าแถวซื้ออาหาร ต้องเว้นระยะห่าง และเข้าแถวให้เป็นระเบียบ 4. นั่งรับประทานอาหาร งดการพูดคุย และหยอกล้อกัน ขณะรับประทานอาหาร 5. เมื่อรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นักเรียนท�ำความสะอาดช้อนส้อม และแก้วน�้ำ 6. แม่บ้านจะด�ำเนินการท�ำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคภายในโรงอาหารทุกวัน หมายเหตุ ** ให้นักเรียนน�ำอาหารจากที่บ้านมารับประทานที่โรงเรียนได้ แต่ต้องน�ำไปรับประทานที่โรงอาหาร ไม่อนุญาตให้น�ำไปรับประทานบนห้องเรียน นักเรียนต้องใช้ช้อนส้อม และ แก้วน�้ำส่วนตัว ** โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 117 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
ประกันอุบัติเหตุโรงเรียนศรียานุสรณ์ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (เก็บคนละ 350 บาท) - ค่ารักษาพยาบาลต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง 10,000 บาท - ค่าชดเชยรักษาพยาบาล (อุบัติเหตุ) ในฐานะคนไข้ วันละ 500 บาท - สูญเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ ส่วนใดส่วนหนึ่ง 60,000 บาท - เสียชีวิต ทุพพลภาพถาวร สูญเสียอวัยวะ 2 ส่วน จากอุบัติเหตุ 100,000 บาท ขั้นตอนการเข้ารับการรักษา ในกรณีนักเรียนได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ในกรณีนักเรียนได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ 1. ให้นักเรียนเข้ารับการรักษาพยาบาลกับทางโรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี และโรงพยาบาล สิริเวช โดยไม่ต้องช�ำระเงิน เพียงแสดงบัตรประจ�ำตัวผู้เอาประกันภัยการประกันอุบัติเหตุไปยื่น 2. ให้นักเรียนเข้ารับการรักษาพยาบาลกับทางโรงพยาบาล , คลินิก , สถานีอนามัย ใกล้บ้านได้ทุกแห่ง โดยส�ำรองจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ โดยขอใบเสร็จรับเงิน (ต้นฉบับ) และใบรับรองแพทย์ประกอบ หลักฐานเพื่อเบิกค่ารักษาพยาบาล ขั้นตอนการวิธีการเบิกเงินจากประกัน 1. ในกรณีผู้เอาประกันภัยได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ สามารถเข้ารักษาพยาบาลกับโรงพยาบาล ประจ�ำอ�ำเภอและจังหวัดได้ทุกแห่ง และโรงพยาบาลสิริเวช จันทบุรีได้โดยไม่ต้องช�ำระเงิน (ในวงเงินรักษาพยาบาล ที่ก�ำหนด หากเกินวงเงิน ผู้เอาประกันจะต้องช�ำระส่วนเกินกับทางโรงพยาบาลเอง และใบเสร็จส่วนเกินนั้น จะไม่สามารถน�ำมาเบิกกับบริษัทได้อีก) โดยแสดงบัตรประจ�ำตัวผู้เอาประกันที่บริษัทฯ ออกให้ หรือแบบฟอร์ม หนังสือส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ให้ไว้กับโรงเรียน (กรณีที่โรงเรียนออกหนังสือส่งตัวให้กับนักเรียนไปรับ การรักษาที่โรงพยาบาล กรุณาตรวจสอบรายชื่อนักเรียนให้แน่ใจว่า นักเรียนคนดังกล่าวได้ท�ำประกันกับบริษัท) 2. หากผู้เอาประกันประสงค์จะเข้ารักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลเอกชนอื่น , คลินิก หรือ สถานีอนามัย ใกล้บ้าน ก็สามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกแห่ง โดยส�ำรองเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุไปก่อน และเก็บ ใบเสร็จรับเงินตัวจริง และใบรับรองแพทย์มาส่งครูที่รับผิดชอบ เพื่อด�ำเนินการเบิกค่าสินไหมกับทางบริษัทฯ ต่อไป 3. ในกรณีที่ผู้เอาประกันอุบัติเหตุจราจร ทางโรงพยาบาลจะให้ท�ำการเบิกค่ารักษาจาก พ.ร.บ.ก่อน (วงเงินเบื้องต้น 30,000 บาท) หากผู้เอาประกันไม่ประสงค์จะใช้ พ.ร.บ. หรือ ไม่มี พ.ร.บ. จะต้องส�ำรองจ่ายก่อน ทุกกรณี และน�ำใบเสร็จรับเงินตัวจริง และใบรับรองแพทย์ มาส่งเบิกต่อไป (กรณีที่ผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ หรือเกิดอุบัติเหตุโดยไม่มีคู่กรณี เช่น หักรถหลบสุนัข หรือโดนรถเฉี่ยวชน แล้วหนี ก็สามารถเบิก พ.ร.บ.ได้ เพียงแต่ ไปแจ้งความที่สถานีต�ำรวจก่อนเท่านั้น 118 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566
4. ในกรณีที่อุบัติเหตุ แล้วบาดเจ็บเกี่ยวกับฟัน ทางโรงพยาบาลให้ส�ำรองจ่ายก่อนทุกกรณี และบริษัทฯ จะให้ความคุ้มครองส�ำหรับการรักษาบาดแผล เช่น การเย็บเหงือก ถอนฟัน และการรักษาฟันเบื้องต้น ภายใน 7 วัน หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุเท่านั้น ไม่คุ้มครองค่าบริการทันตกรรมประดิษฐ์ เช่น การกรอฟัน ขูดหินปูน จัดฟัน อุดฟัน รวมถึงค่ารักษาพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับฟันหลังจาก 7 วันไปแล้วทั้งหมด **กรณีที่ไม่สามารถเบิกประกันอุบัติเหตุได้ 1. กรณีทะเลาะวิวาท 2. เคล็ดขัดยอก จากการเล่นกีฬา ** หมายเหตุ นักเรียนต้องน�ำบัตรประกันอุบัติเหตุติดตัวเสมอ** งานประกันอุบัติเหตุ ครูเบญจมาส เข็มพงษ์ (ห้องบริหารทั่วไป) 039-311225 ต่อ 106 มีข้อสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ คุณบุญยง เอมซ์บุตร โทร 081 – 864 – 8086 หรือ น.ส.ขนิษฐา เอมซ์บุตร โทร. 095 - 0593624 เอกสารที่ต้องน�ำมา 1. ใบรับรองแพทย์ (เฉพาะครั้งแรกที่แจ้งการเกิดอุบัติเหตุนั้น ๆ) 2. ใบเสร็จรับเงิน (ต้นฉบับ) 3. ส�ำเนาบัตรประจ�ำตัวประชาชน พร้อมรับรองส�ำเนา 4. กรอกแบบฟอร์มขอรับเงินค่าสินไหม ที่ห้องบริหารทั่วไป ในการเบิกเงิน ประกันให้นักเรียนระบุห้อง ชั้นเรียน และเบอร์โทรติดต่อให้ชัดเจน โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 119 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
งานประชาสัมพันธ์ ระเบียบปฏิบัติการให้บริการประชาสัมพันธ์ 1. ผู้ปกครองมาขอพบนักเรียน 1.1 แจ้งความประสงค์ต่อยาม แล้วติดต่อเจ้าหน้าที่ห้องประชาสัมพันธ์ อาคาร 3 1.2 บันทึกข้อมูลลงในแบบฟอร์มที่ห้องประชาสัมพันธ์ แล้วนั่งพักที่ห้องรับแขก 1.3 หากผู้ปกครองประสงค์รับนักเรียนออกนอกโรงเรียน เจ้าหน้าที่จะเชิญไปห้องฝ่ายกิจการนักเรียน 1.4 หากเป็นการขอพบครู หรือบุคลากรอื่น เจ้าหน้าที่จะประสานงานและติดต่อให้ 1.5 การพบนักเรียน อนุญาตเฉพาะช่วงเวลาเปลี่ยนคาบเรียน ยกเว้นกรณีเร่งด่วน จะพิจารณา ด�ำเนินการตามความจ�ำเป็น 1.6 กรณีติดต่อเพื่อน ให้บันทึกฝากข้อความเพื่อน�ำส่งเพื่อนคนนั้นต่อไป 2. การใช้บริการเสียงตามสาย 2.1 กรอกข้อความที่ต้องการประกาศลงในแบบที่ก�ำหนด 2.2 ช่วงเวลาประกาศข้อความ - ก่อนเข้าแถวเคารพธงชาติ - ก่อนเรียนคาบที่ 1 - หมดเวลาเรียนคาบที่ 3 (ม.ต้น) - หมดเวลาเรียนคาบที่ 4 (ม.ปลาย) - หมดเวลาเรียนคาบเรียนสุดท้าย 2.3 กรณีที่เป็นเรื่องเร่งด่วน หรือเหตุฉุกเฉิน จะพิจารณาตามความส�ำคัญจ�ำเป็น งานโสตทัศนศึกษา บริการโสตทัศนูปกรณ์ – โสตทัศนวัสดุ ประกอบการเรียนการสอนและกิจกรรมนักเรียน ระเบียบการใช้ห้อง 1. ครูที่ต้องการใช้บริการโสตทัศนศึกษาให้ติดต่อจองห้องล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน 2. ผู้ขอใช้สื่อ IT ต้องเขียนรายละเอียดในแบบฟอร์มการใช้บริการให้ชัดเจน 3. ถ้านักเรียนต้องการยืมโสตทัศนูปกรณ์ – โสตทัศนวัสดุไปใช้ที่ห้องอื่น ให้เขียนรายการยืมและส่งคืน ตามก�ำหนด 4. นักเรียนต้องรักษาระเบียบวินัย ดังนี้ - แต่งกายสุภาพ ส�ำรวมกิริยามารยาท - รักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบของห้องโสตทัศนศึกษา - ห้ามน�ำอาหาร และเครื่องดื่มเข้ามาในห้องโสตทัศนศึกษา - ห้ามขีดเขียน หรือท�ำลายอุปกรณ์และสภาพห้องให้สกปรกเสียหาย 120 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566
ประกาศโรงเรียนศรียานุสรณ์ เรื่อง นโยบายโรงเรียนปลอดขยะ นโยบายสู่โรงเรียนปลอดขยะ มีดังนี้ 1. ห้ามน�ำโฟม ถุงพลาสติก ทุกประเภท และไม่น�ำวัสดุที่ไม่สามารถ Recycle ได้เข้ามาในสถานศึกษา 2. ครูและบุคลากร บูรณาการความรู้ที่เกี่ยวกับการจัดการขยะในการจัดการเรียนการสอน หรือกิจกรรม ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ โดยใช้หลัก 3RS ได้แก่ Reduce ใช้น้อย Reuse ใช้ซ�้ำ และ Recycle น�ำกลับ มาใช้ใหม่ 3. ครูและบุคลากร นักเรียน ผู้ประกอบการร้านค้า ผู้บริโภค ลด ละ เลิก การใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร ในสถานศึกษา และส่งเสริมสนับสนุนวัสดุธรรมชาติ 4. ทุกฝ่ายประสาน ร่วมมือเพื่อเป็น “โรงเรียนปลอดขยะ” โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 121 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
122 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566
สิทธิและหน้าที่การจัดการศึกษาของพ่อแม่ผู้ปกครอง เป็นที่รับรู้และเข้าใจกันทั่วไปว่า พ่อแม่ผู้ปกครองมีสิทธิและหน้าที่ตามธรรมชาติที่จะต้องเลี้ยงดู อบรมให้ การศึกษา และปกป้องคุ้มครองลูกหลาน หรือเด็กในความปกครองของตนให้พ้นไปจากการใช้ความรุนแรง และภัยอันตรายทั้งปวง นี่คือสิทธิและหน้าที่ที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่อาจละเว้นได้ และนี่เป็นหลักการพื้นฐานแห่งสิทธิมนุษยชน อันเด็กพึงได้รับจากพ่อแม่ผู้ปกครอง อย่างไรก็ดี รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ฉบับที่เป็นของประชาชนชาว ไทยทั้งปวง ได้มีการบัญญัติรับรองสิทธิและหน้าที่ของบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดูแลบุตรไว้อย่างชัดเจน แจ่มแจ้ง และกว้างขวางกว่าที่เคยเป็นมา ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองจึงตระหนักรู้และยึดถือให้มั่น พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 หมวด 2 สิทธิและหน้าที่ทางการศึกษา มาตรา 11 บิดา มารดา หรือผู้ปกครอง มีหน้าที่จัดให้ บุตร หรือ บุคคล ซึ่ง อยู่ในความดูแลได้รับการศึกษา ภาคบังคับ ตามมาตรา 17 และตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนให้ได้รับการศึกษา นอกเหนือจากการศึกษาภาคบังคับ ตามความพร้อม ของครอบครัว ฯลฯ หมวด 3 ระบบการศึกษา มาตรา 17 ให้มี การศึกษาภาคบังคับ จ�ำนวนเก้าปี โดยให้เด็ก ซึ่งมีอายุ ย่างเข้าปีที่เจ็ด เข้าเรียน ในสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน จนอายุย่างเข้าปีที่สิบหก เว้นแต่ สอบได้ชั้นปีที่เก้า ของการศึกษาภาคบังคับ หลักเกณฑ์ และวิธี การนับอายุ ให้เป็นไปตามที่ก�ำหนดในกฎกระทรวง ฯลฯ หมวด 3 ส่วนที่ 8 ว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพในการศึกษา มาตรา 49 บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับการศึกษาไม่น้อยกว่าสิบสองปีที่รัฐจะต้องจัดให้อย่าง ทั่วถึง และมีคุณภาพ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้อยู่ในสภาวะยากล�ำบาก ต้องได้รับสิทธิตามวรรคหนึ่งและ การสนับสนุน จากรัฐเพื่อให้ได้รับการศึกษาโดยทัดเทียมกับบุคคลอื่น การจัดการศึกษาอบรมขององค์กรวิชาชีพหรือเอกชน การศึกษาทางเลือกของประชาชน การเรียนรู้ด้วยตนเอง และการเรียนรู้ตลอดชีวิต ย่อมได้รับความคุ้มครองและส่งเสริมที่เหมาะสมจากรัฐ มาตรา 50 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในทางวิชาการ การศึกษาอบรม การเรียนการสอน การวิจัย และการเผยแพร่งานวิจัยตามหลักวิชาการย่อมได้รับ ความคุ้มครอง ทั้งนี้ เท่าที่ไม่ขัดต่อหน้าที่ของพลเมืองหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน S โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 123 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
สิทธิและหน้าที่ของพ่อแม่ผู้ปกครอง ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 นอกเหนือจากสิทธิและหน้าที่ของผู้ปกครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน ดังกล่าวมา ข้างต้นแล้ว พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มีสาระส�ำคัญที่สอดรับกับบทบัญญัติ ใน มาตรา 81 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และเป็นหลักการส�ำคัญในเรื่องการศึกษาพัฒนาเด็กหรือผู้เรียน 3 ประการ คือ • หลักการมีส่วนร่วม เปิดโอกาสให้พ่อแม่ผู้ปกครองและภาคเอกชนเข้ามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของรัฐอย่าง กว้างขวาง เช่น ก�ำหนดให้พ่อแม่ผู้ปกครองและภาคเอกชนเข้าร่วมในคณะกรรมการการศึกษาทุกระดับตั้งแต่ ส่วนกลาง ส่วนท้องถิ่น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในคณะกรรมการสถานศึกษา • หลักการกระจายอ�ำนาจ เน้นกระจายอ�ำนาจจากส่วนกลาง เปิดโอกาสให้ส่วนท้องถิ่น ตลอดจนชุมชนมีสิทธิในการจัดการศึกษา ได้อย่างอิสระ พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถใช้สิทธิของตนผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือองค์กรชุมชน ในการจัด การศึกษาให้แก่ท้องถิ่นหรือชุมชนของตนเองได้ หรือแม้แต่จัดการศึกษาให้แก่บุตรหลานของตน ด้วยตนเองก็ได้ • หลักการแห่งความเป็นเอกภาพในเชิงนโยบาย แต่หลากหลายในเชิงปฏิบัติ ก�ำหนดรูปแบบการศึกษาโดยค�ำนึงถึงความแตกต่างหลากหลายระหว่างบุคคล หรือ กลุ่มชน โดย ก�ำหนดให้ มีการจัดการศึกษา 3 รูปแบบ ได้แก่ การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตาม อัธยาศัย พ่อแม่ ผู้ปกครองสามารถใช้สิทธิในการเลือกรูปแบบการศึกษา ให้แก่บุตรหรือผู้อยู่ในการปกครองของ ตนได้ตาม ความเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นพิเศษส�ำหรับคนพิการหรือบุคคลที่มี ความบกพร่อง ทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม การสื่อสาร และการเรียนรู้ รวมทั้งต้อง จัดการศึกษา ด้วยรูปแบบ ที่เหมาะสมส�ำหรับบุคคลที่มีความสามารถพิเศษอีกด้วย นอกจากหลักในการจัดการศึกษา ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ทั้ง 3 ประการ ที่กล่าวมาแล้ว พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติยังได้รับรองสิทธิและหน้าที่ของพ่อแม่ผู้ปกครองไว้อย่างกว้างขวาง อีกหลายประการ ทั้งนี้เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถเข้ามีส่วนร่วมในการดูแลและพัฒนาลูกหลาน ของตนได้อย่าง เต็มที่ ได้แก่ • สิทธิของพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะได้รับการอบรมในเรื่องวิธีการเลี้ยงดูและให้การศึกษาเตรียมความพร้อม แก่บุตรและผู้อยู่ในการปกครองตั้งแต่แรกเกิดจนถึงก่อนประถมศึกษา • สิทธิได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐส�ำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐานของบุตรหรือผู้อยู่ในการปกครองสิทธิ ได้รับ การลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีส�ำหรับค่าใช้จ่ายในการศึกษา • สิทธิและหน้าที่ในการอบรมบ่มนิสัยและจัดให้บุตรหรือผู้อยู่ในการปกครองได้รับการศึกษา กฎหมายว่าด้วย การศึกษาขั้นพื้นฐาน จากสิทธิและหน้าที่ของพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีต่อบุตรหรือผู้อยู่ในการปกครองตามกฎหมายที่กล่าวมา ทั้งหมด ข้างต้น ท่านในฐานะพ่อแม่ผู้ปกครองคงจะเห็นได้ว่า ท่านสามารถแสดวบทบาทต่อการจัดการศึกษาของลูกหลาน ของท่านได้มากมาย พอสรุปได้ดังนี้ 124 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566
ประการที่หนึ่ง บทบาทในการให้การเลี้ยงดูอบรมให้ลูกหลานเจริญเติบโตพร้อมทุกด้านทั้งร่างกาย อารมณ์ และสังคม เตรียมความพร้อม ทางด้านการศึกษาเรียนรู้ และจัดให้ได้รับการศึกษาตามกฎหมาย ความพร้อม ของครอบครัว และตามศักยภาพของเด็กแม้ลูกหลานของท่านจะเป็นเด็กที่มีความบกพร่อง ทางร่างกายหรือสมอง หรือเป็นเด็กที่มีความสามารถเป็นพิเศษ หรือด้อยโอกาสก็ตาม ประการที่สอง บทบาทในฐานะตัวแทนขององค์กรผู้ปกครองเข้าร่วมในคณะกรรมการการศึกษาระดับต่าง ๆ เพื่อมีส่วนร่วมคิด ร่วมวางแผน และวางนโยบายจัดการศึกษาให้แก่เด็กทั้งในชุมชนในท้องถิ่นหรือแม้แต่ ระดับประเทศ ประการที่สาม บทบาทใช้สิทธิใช้เสียง ร่วมเป็นคณะกรรมการโรงเรียนหรือสถานศึกษา เพื่อก�ำหนด นโยบาย การบริหารจัดการศึกษาในสถานศึกษา ตลอดจนก�ำกับดูแลและประเมินผลสถานศึกษานั้น ในด้านต่าง ๆ ประการที่สี่ บทบาทในการส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดความก้าวหน้าในสถานศึกษาในทุก ๆ ด้าน เช่น ด้านวิชาการ ด้านเทคโนโลยี หรือการประสานงานกับชุมชน ฯลฯ ไม่ใช่เฉพาะการสนับสนุน ด้วยการบริจาคเงิน ดังที่มักเป็นมา ในอดีต พ่อแม่ผู้ปกครองมีบทบาทที่จะต้องให้ความร่วมมือกับสถานศึกษา จนถึงครูผู้สอน เพื่อร่วมกันรับผิดชอบ น�ำพาการศึกษาของลูกหลานให้ผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปสู่ความส�ำเร็จจนได้ ประการที่ห้า บทบาทในการปกป้อง คุ้มครองลูกหลานจากการใช้ความรุนแรงใด ๆ การละเมิดทั้งทางร่างกาย ทางจิตใจ ทางเพศ ตลอดจนการปฏิบัติอันไม่เป็นธรรมทั้งหลายทั้งปวง ไม่ว่าที่เกิดขึ้น ในสถานศึกษาหรือที่อื่นใด ประการที่หก บทบาทในการคุ้มครองให้ลูกหลานได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ตามที่กฎหมายก�ำหนดไว้ จะเห็น ได้ว่า กฎหมายทั้งที่เป็นแม่บท คือ รัฐธรรมนูญ และกฎหมายการศึกษา คือพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ล้วนได้รับรองสิทธิและหน้าที่ของพ่อแม่ผู้ปกครองไว้อย่างชัดแจ้ง พ่อแม่ผู้ปกครอง จึงพึงตระหนักในสิทธิและหน้าที่ เหล่านี้ และใช้สิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายเหล่านี้ เป็นหลักประกันใน การสรรค์สร้าง ความเจริญเติบโตที่พร้อม ทุกด้านแก่ลูกหลานของเรา เพื่อให้เขาบรรลุสู่ความดีงาม ความสุข และความรู้ความสามารถตามศักยภาพแห่งชีวิต ของเขาอย่างแท้จริง โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 125 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
สิ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรทราบ การสื่อสารพูดคุยอย่างมีคุณภาพ การสื่อสารพูดคุย เป็นวิธีการที่มีคุณค่าวิธีการหนึ่งที่จะท�ำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน แต่จะต้องรู้จักเลือกใช้ ค�ำพูดที่เหมาะสม ปัญหาของลูกหลานที่เกิดจากการสื่อสารที่ไม่ดีในครอบครัว ที่พบบ่อยได้แก่ 1. มีความขัดแย้งบ่อย ๆ ภายในครอบครัว จะส่งผลท�ำให้เกิดความไม่เข้าใจกันระหว่างลูกหลานและผู้อื่น 2. ลูกหลานมองตนเองด้านลบ ขาดความภูมิใจ ขาดความสุข มีความไม่แน่ใจกับสิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะไม่แน่ใจ ในความรักของพ่อแม่ผู้ปกครอง 3. ลูกหลานขาดความสามารถในการสื่อสารกับผู้อื่น มีโอกาสท�ำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่าย วิธีเพิ่มคุณภาพในการสื่อสาร ควรฝึกให้ลูกหลานได้เรียนรู้ถึงการพูดที่ถูกจังหวะ เวลา และสถานที่ มีวิธีการดังนี้ 1. แสดงความรักอย่างตรงไปตรงมา ชัดเจน สม�่ำเสมอ อย่าใช้ความรักเป็นเครื่องต่อรองกับการฝึกฝนลูกหลาน ไม่ใช้ค�ำพูดว่า “จะไม่รักอีกแล้ว” เมื่อลูกหลานท�ำผิดพลาด 2. สร้างความรู้สึกกับลูกหลานให้ชัดเจนว่า “พ่อแม่กับลูกสามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง” มากกว่า “พ่อแม่สามารถ สั่งลูกได้ทุกเรื่อง” 3. พยายามหลีกเลี่ยงการพร�่ำสอน ตําหนิ ดุด่าว่ากล่าว หรือการบอกตรง ๆ ว่าเขาคิดผิด ตัดสินใจผิด หรือ กระท�ำผิด เพราะจะท�ำลายบรรยากาศในการพูดคุย ไม่ควรถามซ�้ำๆ หรือใช้ค�ำพูดซ�้ำ ๆ เช่น ถามเฉพาะ เรื่องการเรียน หรือการบ้านว่าท�ำเสร็จหรือยัง ทุกวันซ�้ำ ๆ หรือใช้ค�ำว่า “ท�ำไม” อยู่บ่อย ๆ ควรปรับเปลี่ยน ค�ำพูด ท่าทาง วิธีการให้น่าสนุกที่จะคุยต่อไป 4. ควรใช้ท่าทีที่สงบขณะที่เกิดความขัดแย้ง พยายามหาข้อมูล รับฟัง ยอมรับ ในความแตกต่างของ ความคิด และความรู้สึก หลีกเลี่ยงการใช้อ�ำนาจมากที่สุด การใช้ความเงียบหรือความเย็นชาเพื่อแสดงว่า ก�ำลังโกรธ จะไม่ช่วยท�ำให้เกิดความเข้าใจกัน 5. เป็นตัวแบบที่ดีในเรื่องการสื่อสารพูดคุยในครอบครัวให้เด็กรับรู้ได้และยอมรับเป็นแบบอย่าง การฝึกให้ แก้ปัญหาเป็น การฝึกลูกหลานให้แก้ปัญหาเป็น ชีวิตทุกคนประสบกับปัญหาต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลาทักษะในการแก้ปัญหาจึงมีความส�ำคัญและสัมพันธ์ กับความ ส�ำเร็จในชีวิตเป็นอย่างยิ่ง การหนีปัญหา นอกจากจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แล้ว หลายครั้งยังท�ำให้เกิดโทษตามมา อีกด้วย ลูกหลานที่แก้ปัญหาไม่ดี มักมีสาเหตุมาจาก 1. มีตัวแบบที่แก้ปัญหาต่าง ๆ ไม่ดี เช่น มีต้นแบบที่แก้ปัญหาไปตามอารมณ์มากกว่าใช้เหตุผลหรือไม่สู้ปัญหา หรือแก้ปัญหาเพียงแต่ท�ำเฉพาะหน้าไม่มองไปในระยะยาว เป็นต้น S 126 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566
2. ขาดการฝึกฝน การเลี้ยงดูที่พ่อแม่ผู้ปกครองท�ำแทนลูกหลานมากเกินไป ส่งผลท�ำให้ลูกหลาน เคยชินกับ การพึ่งพาผู้อื่น รอคอยให้คนอื่นมาช่วยคิดและแก้ปัญหาแทน หรือหลายครั้งที่เกิดจากการที่ผู้ใหญ่ตระเตรียม สิ่งต่างๆ พร้อมจนลูกหลานไม่เคยพบอุปสรรคใดๆ เป็นต้น วิธีฝึกให้แก้ปัญหาเป็น 1. ผู้ฝึกต้องเข้าใจระดับความสามารถที่จ�ำกัดของลูกหลาน ให้โอกาสและคอยให้ค�ำแนะนํา ให้กําลังใจ เป็นระยะ ๆ และต้องยอมรับว่าการฝึกใด ๆ ก็ตามจะต้องใช้เวลา 2. ให้ลูกหลานมีโอกาสเห็นวิธีการแก้ปัญหาที่หลากหลาย พูดคุยถึงข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธี เปิดโอกาสให้ท�ำ โดยเข้าไปช่วยเสริมบ้าง เพื่อให้ลูกหลานประสบกับความส�ำเร็จเป็นระยะ เพื่อเป็นการให้กําลังใจ แสดงความชื่นชม พูดคุย ให้โอกาสท�ำซ�้ำและให้กําลังใจถ้าลูกหลานยังท�ำไม่ได้ 3. เพิ่มระดับความยากของปัญหาจากเรื่องเล็กไปสู่เรื่องใหญ่ จากเรื่องส่วนตัวไปสู่เรื่องส่วนรวม จากปัญหา ภายในบ้านไปสู่ปัญหานอกบ้าน พ่อแม่ผู้ปกครองอาจเล่าเหตุการณ์สมมุติเพื่อให้ลูกหลานแยกแยะ ปัญหาและลองคิดแก้ปัญหาก็ได้ การเสริมสร้างความภาคภูมิใจ ความภาคภูมิใจ คือ การรับรู้ความรู้สึกนึกคิดที่บุคคลมีต่อตนเอง เห็นและยอมรับความสามารถ เห็นคุณค่า ของตน รู้ว่าตนเป็นที่รักของคนอื่น และแสดงออกเป็นความมั่นใจในการท�ำสิ่งต่างๆ อย่างมีความสุข เป็นประโยชน์ ต่อตนเองและผู้อื่น มิได้เกิดจากการที่ถูกตามใจหรือเอาแต่ใจตัวเอง ความภาคภูมิใจของเด็ก มีความส�ำคัญต่อ การสร้างบุคลิกภาพของเขาเป็นอย่างมาก ลักษณะของปัญหาการขาดความภูมิใจในตนเองที่มักพบ เช่น 1. ไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าคิดหรือตัดสินใจท�ำ ท�ำให้ขาดโอกาสฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ต่อไป 2. มองตนเองและผู้อื่นด้านลบ รับฟังค�ำแนะนาจากผู้อื่นได้ยาก มีอารมณ์ซึมเศร้าอยู่เนือง ๆ ซึ่งอาจ แสดงออก ํ มาเป็นปัญหาพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ออกนอกกฎเกณฑ์ หนีเรียนติดสารเสพติดได้ 3. มีผลการเรียนต�่ำกว่าความสามารถที่แท้จริง วิธีการเสริมสร้างความภาคภูมิใจ 1. เป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกหลานเห็น ชี้ชวนให้เห็นความดีของผู้คนที่พบในด้านต่าง ๆ 2. ให้โอกาสได้ท�ำดีโดยเริ่มให้ท�ำจากสิ่งเล็ก ๆ เรื่องราวส่วนตัวเมื่อท�ำได้ให้เพิ่มปริมาณและคุณภาพ โดยให้มี ส่วนร่วมในการแสดงออก ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน ให้เรียนรู้ถูกผิดผ่านการกระท�ำ 3. ควรชื่นชมข้อดีให้ชัดเจน เพื่อให้ลูกหลานเห็นจุดดีในตนชัดเจนขึ้น เช่น ความตั้งใจ ความอดทน ความสามารถ ด้านภาษา การอ่านหนังสือ การค�ำนวณ ความมีน�้ำใจ ความเสียสละ เป็นต้น เมื่อลูกหลาน ยังท�ำไม่ได้ อย่าต�ำหนิลูกหลานว่าเป็นคนไม่ดี หรือขี้เกียจ 4. ต้องท�ำอยู่สม�่ำเสมอและใช้ระยะเวลานาน โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 127 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
การช่วยเหลือด้านการเรียน สาเหตุของปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเด็ก มีรากฐานที่ส�ำคัญมาจากการที่ไม่ประสบความส�ำเร็จในการเรียน สาเหตุการเรียนอ่อนของลูกหลาน ที่พบบ่อย ได้แก่ 1. การเลี้ยงดูที่ไม่เอื้อต่อการเรียน เช่น ขาดการมีวินัย ขาดความยับยั้งใจ ขาดความอดทนมุมานะ ขาดความ รับผิดชอบ เป็นต้น และยิ่งพ่อแม่เร่งรัดด้านการเรียนจะท�ำให้ลูกหลานรู้สึกเบื่อหน่าย ท้อแท้ ไม่สนุกกับ การเรียน 2. มีความบกพร่องในการท�ำงานของระบบประสาท เช่น ภาวะปัญญาอ่อน พบได้ร้อยละ 1 - 3 โรคสมาธิสั้น พบได้ร้อยละ 5 - 10 โรคของความบกพร่องในทักษะการเรียน เช่น บกพร่องในการอ่านหนังสือ เขียนหนังสือ หรือการค�ำนวณ พบได้ร้อยละ 1 โรคเหล่านี้ถ้าไม่ได้รับการวินิจฉัยจะท�ำให้ลูกหลานขาดโอกาส ที่จะได้รับ ความช่วยเหลือทางการแพทย์และการศึกษา 3. ความสามารถของลูกหลานไม่เหมาะสมกับระดับการเรียน ท�ำให้ลูกหลานไม่สามารถเรียนต่อได้ วิธีการช่วยเหลือด้านการเรียน 1. หาสาเหตุและแก้ไขไปตามสาเหตุพื้นฐาน 2. ให้กําลังใจลูกหลานเป็นระยะ อย่าประณาม เน้นการปรับปรุงตนเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป 3. ปรับพื้นฐานความรู้ให้ทันการเรียนการสอน 4. สร้างทักษะด้านอื่น เพื่อเพิ่มความภาคภูมิใจให้ลูกหลาน การช่วยลูกหลานปรับตัว เด็กที่ปรับตัวยากมักจะแสดงความวิตกกังวล มีอารมณ์ตอบสนองมากกว่าปกติเมื่อต้องเผชิญกับ สถานการณ์ใหม่ ๆ มักไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง มักไม่ชอบเข้าสังคมที่ไม่คุ้นเคย สาเหตุที่ท�ำให้ลูกหลานปรับตัวยาก ที่พบบ่อย ได้แก่ 1. การเลี้ยงดูที่ทะนุถนอมหรือปกป้องมากเกินไป 2. ให้ความรักหรือความเข้าใจน้อย หรือแสดงความรักออกมาอย่างไม่สม�่ำเสมอท�ำให้ลูกหลาน มีอารมณ์ แปรปรวนง่าย ท�ำให้ไม่มั่นใจในตัวเอง 3. ขาดประสบการณ์หรือขาดโอกาสพัฒนาตนเองในด้านต่าง ๆ หรือเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อน วิธีช่วยลูกหลานปรับตัว 1. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกหลานกับพ่อแม่ผู้ปกครอง ชักชวนให้ท�ำสิ่งต่าง ๆ เป็นระยะ ๆ และคอย ให้กําลังใจ 2 เริ่มต้นควรจะเน้นที่ความสามารถตามความถนัดของลูกหลานที่มีอยู่และขยายให้แสดงออก เพิ่มขึ้น ในสถานการณ์ต่าง ๆ 3. ถ้าต้องเผชิญกับสถานการณ์ใหม่ ๆ ให้ซักซ้อมความเข้าใจและพูดคุยหาทางออกเพื่อแก้ไขปัญหาที่อาจ เกิดขึ้นเพื่อให้ลูกหลานได้เตรียมพร้อมล่วงหน้า ซึ่งจะช่วยท�ำให้เกิดความมั่นใจและท�ำให้ปรับตัวได้ดีขึ้น 4. ไม่ตําหนิหรือลงโทษ หากลูกหลานมีท่าทีว่าไม่พร้อมที่จะเผชิญสิ่งใหม่ต่าง ๆ 5. เพิ่มทักษะในการสื่อสาร การเล่น การกีฬา ฯลฯ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ 128 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566
การป้องกันความก้าวร้าว คนเราอาจแสดงความก้าวร้าวโดยการพูด การท�ำเสียงดัง หรือแสดงพฤติกรรมที่รุนแรง เช่น ชกต่อย ขว้างปาสิ่งของ ท�ำร้ายผู้อื่น เป็นต้น บางครั้งเด็กก็อาจแสดงความก้าวร้าวซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่จะเป็นปัญหา ก็ต่อเมื่อได้ท�ำบ่อย ๆ ในสถานการณ์ต่าง ๆ หรือท�ำต่อเนื่องเป็นประจ�ำ จนถึงตั้งแก๊งข่มขู่นักเรียนคนอื่น ๆ อันเป็น ปัญหาที่ครูและพ่อแม่จะต้องร่วมมือกันระงับและป้องกัน สาเหตุที่ท�ำให้ลูกหลานเป็นคนก้าวร้าว 1. เห็นตัวอย่างของความรุนแรงภายในและภายนอกบ้าน หรือทางสื่อต่าง ๆ เช่น หนังสือการ์ตูน วีดิทัศน์ โทรทัศน์ 2. ขาดความอบอุ่น ขาดคนสั่งสอน อบรม หรือแนะนํา 3. การเลี้ยงดูที่ปล่อยให้ลูกหลานอาละวาดได้เมื่อมีสิ่งขัดใจ โดยพ่อแม่มิได้หยุดยั้งพฤติกรรม หรือ มิได้ห้ามปราม อย่างสม�่ำเสมอ ปล่อยลูกหลานแสดงความก้าวร้าวจนติดเป็นนิสัย ความก้าวร้าวในลักษณะนี้ มักพบร่วมกับ การเอาแต่ใจตัวเอง ขาดการยับยั้งอารมณ์ ขาดระเบียบวินัย 4. ลูกหลานถูกกลั่นแกล้ง ถูกทารุณ หรืออยู่ในสภาพที่คับแค้น พ่อแม่ไม่รัก 5. ลูกหลานมีความไม่สบายใจหรือเครียด และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ วิธีป้องกันความก้าวร้าว 1. เลี้ยงลูกถูกวิธีและเหมาะสม หลีกเลี่ยงการตามใจหรือบีบบังคับมากเกินไป เป็นตัวอย่างที่ดีไม่แสดง ความก้าวร้าวต่อหน้าลูก รวมทั้งคอยสังเกตพฤติกรรมการแสดงออกของลูกหลานอย่างใกล้ชิดว่า มีความสุขหรือไม่เมื่อต้องไปโรงเรียนหรือหนีเรียน 2. ฝึกให้ช่วยตัวเองมากที่สุดเพื่อเพิ่มทักษะในการแก้ปัญหา คอยให้กําลังใจและชื่นชมความ สามารถที่ เพิ่มมากขึ้น 3. ขณะเกิดปัญหา พ่อแม่ผู้ปกครองควรอยู่ในอาการสงบ รับฟังเรื่องที่เกิดขึ้นโดยไม่ด่วนสรุป หาทางให้ ลูกหลานได้ระบายความโกรธแค้นในทางที่เหมาะสมและถูกต้อง พฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม ปัจจุบันพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสมในหมู่วัยรุ่นเกิดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อการเรียนอย่างมาก พ่อแม่ผู้ปกครองควรมีความรู้และเข้าใจธรรมชาติและลักษณะต่าง ๆ ของลูกหลานและหาทางออกเพื่อป้องกันแต่ เนิ่น ๆ สาเหตุที่วัยรุ่นแสดงพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม 1. เป็นเรื่องธรรมชาติ เด็กรุ่นใหม่เข้าสู่วัยหนุ่มสาวเร็วขึ้นและยังอยู่ในช่วงของการเรียนรู้จัก เพศตรงข้าม แต่ยังขาดประสบการณ์ในการวางตัวให้เหมาะสม การคบหาระหว่างเพื่อนต่างเพศเป็นเรื่องปกติ จึงควรส่งเสริมให้ท�ำกิจกรรมด้วยกัน เพื่อที่เด็กจะได้เรียนรู้ลักษณะนิสัยในการท�ำงานของแต่ละคน 2. ตาม “แฟชั่น” วัยรุ่นต้องการได้รับการยอมรับจากกลุ่มเพื่อน เด็กกลุ่มนี้มักจะขาดความภาคภูมิใจใน ความสามารถของตัวเอง จนต้องเอาการ “มีแฟน” มาสร้างความเป็นที่ยอมรับของกลุ่มเพื่อน 3. มีสื่อหรือสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นความรู้สึกทางเพศไม่เหมาะสม เช่น จากหนังสือ ภาพยนตร์การ์ตูน หรือเคย เห็นเหตุการณ์ที่กระตุ้นความรู้สึก ฯลฯ 4. เคยมีประสบการณ์ทางเพศอย่างไม่เหมาะสม เช่น เคยเห็นหรือเคยถูกท�ำร้ายทางเพศมาก่อน โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 129 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
5. เหงา ขาดความใกล้ชิดจากผู้ปกครอง ขาดความอบอุ่น ขาดคนเข้าใจ 6. ขาดความยั้งคิด ขาดการยับยั้งตนเอง หรือไม่มีประสบการณ์ไม่เข้าใจชีวิตไม่เคยเรียนรู้ ไม่รู้ถึงเหตุที่น�ำไป สู่การมีเพศสัมพันธ์ วิธีการป้องกันการมีพฤติกรรมทางเพศไม่เหมาะสม 1. พ่อแม่ผู้ปกครองควรพูดคุยหรือสอนเพศศึกษาแก่ลูกหลาน เพราะเป็นผู้ใกล้ชิด สามารถปลูกฝัง เจตคติ ที่ถูกต้องได้ตามความเหมาะสมกับวัยของลูกหลาน ควรพูดคุยให้เข้าใจธรรมชาติการเปลี่ยนแปลง ของร่างกายและจิตใจ ความต้องการทางเพศ ทางออกที่เหมาะสม ปลอดภัย ไม่ท�ำความเสียหายกับตนเอง และเพศตรงข้าม 2. พ่อแม่ผู้ปกครองควรเข้าใจว่าการคบหาระหว่างเพื่อนต่างเพศเป็นเรื่องปกติ จึงควรเสริมให้ท�ำกิจกรรม ด้วยกัน เพื่อที่เด็กจะได้เรียนรู้ลักษณะนิสัยในการท�ำงานของแต่ละคน 3. พ่อแม่ผู้ปกครองควรเรียนรู้ถึงพัฒนาการทางเพศของเด็กแต่ละช่วงวัยและวิธีตอบสนอง ความอยากรู้ อยากเห็นของเด็กอย่างเหมาะสม อย่าท�ำให้เป็นเรื่องลึกลับ สอนและท�ำตัวอย่างให้เด็กเรียนรู้ ถึงบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้ชายและผู้หญิง การวางตัว การให้เกียรติเพศตรงข้าม ขอบเขตของการ ให้ความสนิทสนม ผลการกระท�ำที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ฯลฯ 4. ฝึกทักษะต่าง ๆ ที่ช่วยป้องกันปัญหา เช่น ทักษะการยับยั้งตนเอง การฝึกความรับผิดชอบ การรู้จักคาดการณ์ ล่วงหน้าถึงผลที่ตามมาหลังการกระท�ำ 5. ให้เด็กภูมิใจในคุณค่าของตัวเองโดยไม่จ�ำเป็นต้องเอาการ “มีแฟน” มาท�ำให้เพื่อนยอมรับและ ผลของการ ฝึกฝนการท�ำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเรียน การกีฬา การดนตรี การเข้าสังคม จะท�ำให้เด็กรู้จัก ยับยั้งอารมณ์ รู้จักการรอคอย และรู้จักการระบายความรู้สึกทางเพศในทางที่เหมาะสม 6. ฝึกลูกหลานให้ท�ำกิจกรรมต่าง ๆ ให้สนุกกับการเรียน ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ อยู่กับคนอื่น ก็สนุกได้ และอยู่คนเดียวตามล�ำพังก็ไม่เหงา เข้ากับเพื่อนได้หลายกลุ่มทั้งสองเพศ แต่ยังคงรักษาความเป็นตัวของ ตัวเองได้ 7. ให้ความใกล้ชิด สอนให้เรียนรู้เรื่องราวรอบตัวทั้งด้านดีและด้านไม่ดี ฝึกให้เด็กรู้สึกสบายใจ ในการพูดคุย เรื่องราวต่าง ๆ กับพ่อแม่ผู้ปกครอง ปกป้องอันตรายทางเพศที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะสื่อหรือสิ่งที่เร้าความรู้สึกทางเพศ หลักในการสอนเรื่องเพศกับลูกหลาน 1. อย่าคิดว่าการสอนเรื่องเพศเป็นการกระตุ้นให้ลูกมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น เพราะมีการวิจัยแล้วพบว่าเด็กที่ได้รับ ความรู้เรื่องเพศจากพ่อแม่ผู้ปกครองหรือครู จะมีเพศสัมพันธ์ช้ากว่าเด็กที่ไม่ได้รับความรู้เรื่องนี้ 2. ไม่ดุว่าเมื่อลูกหลานถามเรื่องเพศ ให้ลูกหลานรู้สึกว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องปกติที่สามารถถามและ พูดคุยกับ พ่อแม่ได้ 3. ตั้งใจฟังค�ำถามของลูกหลาน และตอบตามความเป็นจริงด้วยกิริยาท่าทางปกติเหมือนกับ การพูดคุยในเรื่อง ทั่วไป 4. หาโอกาสสอนหรือพูดคุยกับลูกหลานเรื่องเพศจากประสบการณ์ในชีวิตประจ�ำวัน เช่น หนังสือพิมพ์ ภาพยนตร์ โทรทัศน์ นิตยสาร ฯลฯ โดยถามความคิดเห็นของลูกหลาน และสอดแทรกการสอนหรือค�ำแนะน�ำ ตามความเหมาะสม 130 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566
สารเสพติด สารที่เสพเข้าสู่ร่างกายโดยวิธีการใดก็ตามจะส่งผลต่อสภาพร่างกายและจิตใจ และท�ำให้เกิด ความต้องการ ที่จะเพิ่มขนาดของการเสพขึ้นเรื่อย ๆ มีอาการอยากเมื่อไม่ได้เสพ สุขภาพทั่วไปจะทรุดโทรม เหม่อลอย ไม่มีสมาธิ ในการเรียน ขาดความรับผิดชอบ ขาดเรียน ใช้เงินเปลือง และเป็นเหตุให้ต้องไปหาเงินในทางมิชอบ เพื่อซื้อ สารเสพติดนั้นเสพต่อไป สาเหตุที่เด็กติดสารเสพติด (เรียงจากสาเหตุที่พบบ่อย) 1. ไม่ฉลาด ขาดความรู้ ขาดความเข้าใจอย่างแท้จริงในพิษภัยของสารเสพติด ดังนั้นเมื่อถูกชักชวน หรือรู้เท่า ไม่ถึงการณ์ อยากลอง อยากรู้ คิดผิดว่าตนจะไม่มีทางติดยา หรือต้องการให้กลุ่มเพื่อนยอมรับว่าตัวเอง ไม่กลัว แต่ผลที่ตามมาคือ เด็กจะติดสารเสพติดอย่างรวดเร็วหลังจากที่ลองเสพเพียงครั้งหรือสองครั้งเท่านั้น 2. อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่คนรอบข้างติดหรือรับจ�ำหน่ายสารเสพติด 3. ปัญหาทางเศรษฐกิจ ต้องท�ำงานหนัก จึงใช้สารกระตุ้นเพื่อจะท�ำงานได้มากขึ้น ซึ่งจะท�ำรายได้เพิ่มขึ้น 90 4. ถูกหลอกว่าเป็นยาขยัน จะท�ำให้คะแนนสอบดีขึ้น หรือในทางตรงข้ามอาจเกิดจากความเบื่อ ในการเรียน หนังสือ จึงมั่วสุมและถูกชักชวนให้เสพยา 5. ขาดความรัก ความอบอุ่นในครอบครัว ท�ำให้ว้าเหว่ ติดเพื่อน และถูกชักน�ำไปสู่การเสพ เพราะเชื่อว่า อาจช่วยท�ำให้สบายใจหรือลืมความทุกข์ได้ วิธีการป้องกันปัญหาการติดสารเสพติด 1. พ่อแม่ ผู้ปกครองควรจะอบรมสั่งสอนให้ลูกหลานเข้าใจพิษภัยของสารเสพติด ให้เห็นผลกระทบ ต่อสภาพ ร่างกาย อารมณ์ การเข้าสังคม รวมทั้งปัญหาต่ออนาคตของชาติ ฯลฯ ให้รู้เท่าทันและมีทักษะ ในการปฏิเสธ และป้องกันตนเองจากการใช้สารเสพติดทุกชนิด 2. ให้ความรัก ความอบอุ่น และท�ำให้ลูกหลานไว้วางใจที่จะขอค�ำแนะนา ปรึกษาในปัญหาพื้นฐาน เช่น ปัญหา ํ การเรียน ปัญหาระหว่างเพื่อน และการสร้างความรู้สึกยอมรับผู้ที่เลิกสารเสพติดให้กลับเข้ามา ในสังคม เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ มิให้กลับไปติดสารเสพติดซ�้ำอีก 3. ส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ โดยท�ำกิจกรรม ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน 4. พ่อแม่ ผู้ปกครองควรท�ำความรู้จักกลุ่มเพื่อนของลูก ใช้หลักเพื่อนช่วยเพื่อน สอดส่องดูแลชักจูง ในทาง ที่เหมาะสม ถ้าเด็กอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่ติดสารเสพติด ให้ปรับเปลี่ยนกลุ่มเพื่อน 5. เมื่อเกิดปัญหาขึ้นกับลูกหลาน พ่อแม่ ผู้ปกครองควรร่วมมืออย่างจริงจังกับครูเพื่อช่วยกันแก้ไข ปัญหาด้วย การพาไปบ�ำบัดรักษา และฟื้นฟูสภาพให้กลับเข้ามาสู่สังคมใหม่ได้ โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 131 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
คณะกรรมการจัดท�ำคู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566 นายสมพงษ์ เปรมปิยศรี ประธานกรรมการ นางสาวสุรภา เอื้อนไธสง รองประธานกรรมการ นายสมหมาย โอภาษี กรรมการ นางปิยะวดี ใจคง กรรมการ นางสาวณัชชา สร้อยศรี กรรมการ นางสินีพรรณ วานิชเจริญธรรม กรรมการ นายสุเทพ เอกปัจชา กรรมการ นางสุจิตรา เมฆเวียน กรรมการ นางเบญจมาส เข็มพงษ์ กรรมการ นายพงษ์พิพัฒน์ นิลผาย กรรมการ นายพิสุทธิ์ เฮมสกุล กรรมการ นายสมพร พ่อเพียโคตร กรรมการ นางรัศมี เนตรสมานนท์ กรรมการ นางสาวเพชรประภาร์ ชุมสาย กรรมการ นางสาวภาริณี จันทร์แสง กรรมการ นางศศินิภา ทองใบ กรรมการ นายธีรยุทธ์ นิจสุข กรรมการและเลขานุการ นางสาวศศิวัณย์ ยินดีเจริญ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ 132 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566
โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 133 ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งโลก)
พิมพ์ที่ บริษัทจามจุรีโปรดักส์ จำกัด 26 ถ.พระรามสอง ซอย 83 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150 โทร/แฟกซ์ 02-415-8321 E-mail : [email protected] 134 คู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2566