น้ำพริกมะพร้าวคั่วสมุนไพร

นำ้ พริกมะพรำ้ วควั่ สมนุ ไพร ๑

นำ้ พรกิ สมนุ ไพร กำ้ วไกลสอู่ ำชพี

“นำ้ พรกิ มะพรำ้ วควั่ สมนุ ไพร”
มะพรำ้ วกบั ชวี ติ

แนวความคดิ

การพัฒนาประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้าเพ่ือแก้ไขปัญหาหลายๆ ด้านที่สั่งสมมานานหลายปี
ท่ามกลางสถานการณ์ของโลกยุคโลกาภิวัฒน์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกัน
ทางด้านเศรษฐกิจ การพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด นับเป็นส่ิงท่ีประชาชน
คนไทยต้องเร่งพัฒนาตนเองให้ก้าวทันการดารงชีพในสถานการณ์ปัจจุบันท่ีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาตนเองในด้านการศึกษาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี การวิจัย การพัฒนานวัตกรรม
แต่ ณ ปัจจบุ ันคณุ ภาพของคนไทยยังมีข้อจากัดหลายด้าน เช่น แรงงานสว่ นใหญม่ ปี ัญหาทั้งในเร่ืององค์ความรู้
ทักษะ และทัศนคติ สังคมขาดคุณภาพ และมีความเหลื่อมล้าสูง ที่เป็นอุปสรรคต่อการยกระดับศักยภาพ
การพัฒนา จากเหตุปัจจัยดังกล่าวได้มีการประชุมร่วมองคมนตรีกับผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ
ประกอบด้วยพลเอกสรุ ยทุ ธ์ จุลานนท์ ศาสตราจารย์เกยี รติคุณ นายแพทยเ์ กษม วฒั นชยั และพลเอกดาว์พงษ์
รัตนสุวรรณ จึงได้น้อมนาพระราชกระแสรับสั่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร
รัชกาลท่ี ๑๐ เรอ่ื ง การศกึ ษามาแจ้งให้ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการทราบเม่ือวันท่ี ๒ กุมภาพันธ์

นำ้ พริกมะพรำ้ วค่ัวสมนุ ไพร ๒

พ.ศ.๒๕๖๐ โดยมีพระบรมราโชบายด้านการศึกษาว่าการศึกษาต้องม่งุ สร้างพ้ืนฐานให้แก่ผเู้ รียน ๓ ด้านสาคัญ
คือ หนึ่งสร้างทัศนคติท่ีถูกต้อง สองสร้างพ้ืนฐานชีวิตท่ีม่ันคงเข้มแข็ง และสามสร้างความรู้พ้ืนฐานด้านอาชีพ
สู่การมีงานทา โดยโรงเรียนควรจัดการเรียนการสอนทักษะชีวิต คือ สร้างความมีวินัย มารยาทไทย และจัด
การเรียนการสอนอาชีพอย่างเป็นระบบ พัฒนาการศึกษาให้สัมพันธ์กับชุมชน วัด โรงเรียน เพ่ือให้ชุมชนช่วย
ดแู ลในทุกระดับการศึกษา เพื่อสร้างความสมั พนั ธ์อันดรี ะหว่างชุมชน วดั โรงเรยี น ชุมชนสามารถจัดการเรียนรู้
ใหส้ อดคล้องต่อความต้องการได้ สรา้ งความตระหนัก ความภาคภมู ิใจในท้องถิ่นของตนเอง อันจะเปน็ รากฐาน
สาคัญในการพฒั นาประเทศชาตติ อ่ ไป

สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) ที่มี
หลักการสาคัญในการพัฒนา คือ ยึดคนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา มุ่งพัฒนาคนให้มีคุณภาพชีวิตและสุขภาวะ
ท่ีดี พัฒนาให้เป็นคนที่มีความเป็นคนที่สมบูรณ์มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มีความรู้ มีทักษะ มีความคิดสร้างสรรค์
มีทัศนคติท่ีดีรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงสร้างคนให้ใช้ประโยชน์และอยู่กับส่ิงแวดล้อมอย่างเกื้อกูล อนุรักษ์
ฟืน้ ฟู ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมไดอ้ ย่างเหมาะสม

จากแนวทางจัดการเรยี นการสอนขา้ งต้นสอดคล้องกับพระราชบญั ญัติการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒
แกไ้ ขเพิ่มเตมิ (ฉบบั ที่ ๓ ) พ.ศ.๒๕๕๓ ในมาตราที่ ๔ ไดก้ ล่าวถงึ ความหมายของการศึกษา ว่าเป็นกระบวนการ
เรียนรู้เพ่ือความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคม โดยการถ่ายทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสาน
ทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจาก
สภาพแวดล้อม สังคม การเรียนรู้และปัจจัยเก้ือหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต และมาตรา ๗
กล่าวว่า ในกระบวนการเรียนรู้ต้องมุ่งปลูกฝังจิตสานึกท่ีถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รู้จักรักษาและส่งเสริมสิทธิ หน้าที่ เสรีภาพ ความเคารพ
กฎหมาย ความเสมอภาค และศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย รู้จักรักษา
ผลประโยชน์ส่วนรวมและของประเทศชาติ รวมทั้งส่งเสริมศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมของชาติ การ กีฬา
ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ภูมิปัญญาไทย และความรู้อันเป็นสากล ตลอดจนอนุรักษ์ทรัพยากรธรร มชาติและ
สิ่งแวดล้อม มีความสามารถในการประกอบอาชีพ รู้จักพ่ึงตนเอง มีความริเร่ิมสร้างสรรค์ ใฝ่รู้และเรียนรู้ด้วย
ตนเองอยา่ งต่อเนื่อง

ปัจจุบันมีการพัฒนาด้านการศึกษาอย่างหลากหลายรัฐบาลมีการขับเคลื่อนโดยกาหนดนโยบายต่างๆ
เพ่อื พฒั นาคนในชาตอิ ยา่ งตอ่ เนอ่ื งซงึ่ นโยบายสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ไดก้ าหนดนโยบาย
ด้านการศึกษาไว้อย่างชัดเจนภายใต้วิสัยทัศน์ท่ีว่า การศึกษาข้ันพื้นฐานของประเทศไทย มีคุณภาพมาตรฐาน
ระดับสากล บนพื้นฐานของความเป็นไทย มีเป้าหมาย คือ ผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกคนจะต้องมี
พัฒนาการเหมาะสมกับวัย มีคุณภาพและทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ส่งเสรมิ ให้มกี ารปรับปรุงหลักสูตร

นำ้ พริกมะพรำ้ วคั่วสมนุ ไพร ๓

และนาหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประสิทธิภาพ และจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับหลักสูตร ตามความ
จาเป็นและ ความต้องการของผู้เรียน ชุมชน ท้องถิ่น และสังคม ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ท่ีให้ผู้เรียนได้เรยี นรู้
ผ่านกิจกรรมการปฏิบัติจริง (Active Learning) เน้นทักษะกระบวนการ ให้เกิดทักษะการคิดวิเคราะห์
คิดแก้ปัญหา และคิดสร้างสรรค์ ในทุกกลุ่ม สาระการเรียนรู้ ทั้งในและนอกห้องเรียนให้ผู้เรียนมีทักษะ
การเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ส่งเสริมสนับสนุนการจัดกิจกรรมแนะแนวเพ่ือการศึกษาต่อและการประกอบ
อาชีพ อยา่ งเข้มแข็งตอ่ เนอื่ งและเป็นรูปธรรม

จ ากเ ห ตุ ผ ล ดั งกล่ าว ข้ าง ต้ น ส่ ง ผ ล ให้ ปั จ จุ บั น โ ร ง เ รี ย น เ มธี ชุ ณห ะวั ณวิ ท ย าลั ย ไ ด้ น า กร ะ บ ว น ก า ร
จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทาง Active Learning มาใช้ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระ
เพื่อเปิดโอกาสให้ครู และผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ร่วมกัน ผู้เรียนสามารถแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง
รู้จักกระบวนการกลุ่ม เกิดเป็นความรู้ความเข้าใจที่คงทน สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่าหรือ
สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ และพัฒนาตนเองเต็มความสามารถสอดคล้องกับปฏิญญาว่าด้วยการจัดการศึกษาของ
UNESCO ประการแรก คือ การเรียนเพื่อให้มีความรู้ในส่ิงต่างๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อไป เช่น การรู้จัก
แสวงหาความรู้ การต่อยอดความรู้ที่มีอยู่ การสร้างความรู้ข้ึนใหม่ (Learning to know) ประการท่ีสอง คือ
การเรียนเพ่ือปฏิบัติลงมือทา นาไปสู่การประกอบอาชีพจากความรู้ที่ได้มา และการสร้างประโยชน์แก่สังคม
(Learning to do) ประการที่สาม คือการเรียนรู้เพื่อการดาเนินชีวิตอยู่ร่วมกับคนอ่ืนได้อย่างมีความสุข เช่น
การเรียน ครอบครวั สงั คมและการทางาน (Learning to live together ) ประการสุดทา้ ย คือ การเรยี นรู้เพื่อ
รู้จักตนเองอย่างถ่องแท้ รู้ถึงศักยภาพ ความถนัดและความสนใจของตนเอง และสามารถวางแผนชีวิตให้แก่
ตนเองได้ (Learning to be) เพอ่ื นาไปสู่การปรับตัวในการพฒั นาทักษะอาชีพเพ่ือการก้าวเขา้ สู่ศตวรรษที่ ๒๑
อย่างมั่นคงและยั่งยืน

ความเป็นมา

น้าพริกตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง อาหารชนิดหน่ึง ปรุงด้วย กะปิ กระเทียม
พรกิ ขีห้ นู มะนาว เป็นต้น ใช้เปน็ เคร่ืองจมิ้ หรือคลุกข้าวกิน ใชน้ ้าปลาหรอื น้าปลาร้าแทนกะปิก็มี ใช้ของเปรี้ยว
อืน่ ๆ เช่น มะขาม มะดนั มะมว่ ง แทนมะนาวก็มี เรียกช่ือต่างกนั ไปตามเคร่ืองปรงุ เชน่ น้าพริกปลารา้ นา้ พริก
ปลาย่าง น้าพริกมะขาม น้าพริกมะดัน น้าพริกมะม่วง เครื่องปรุงแกงเผ็ด แกงค่ัว หรือแกงส้ม อาหารคาว
อย่างหน่ึงลักษณะอย่างแกงมี ๓ รส แต่ค่อนข้างหวานทาด้วยถ่ัวเขียวโขลกกับเครื่องปรุงกินกับผักบางอย่าง
เป็นเหมอื ด ใช้คลกุ กินกับขนมจนี คูก่ ับ น้ายา

นอกจากนี้โรงเรียนเมธชี ุณหะวณั วทิ ยาลัย ตัง้ อยเู่ ลขท่ี 52 หมู่ท่ี 5 ตาบลบางนกแขวก อาเภอบางคนที
จังหวดั สมทุ รสงคราม ดว้ ยสภาพทางภมู ิศาสตร์ของจังหวัดสมุทรสงครามมแี มน่ ้าสายสาคัญไหลผ่าน คือ แมน่ ้า

นำ้ พรกิ มะพรำ้ วคัว่ สมนุ ไพร ๔

แม่กลองไหลผ่านทั้ง ๓ อาเภอในจังหวัดสมุทรสงคราม คือ อาเภอบางคนที อาเภออัมพวา และไหลลงสู่
อ่าวไทยอาเภอเมืองสมุทรสงคราม ด้วยสภาพท่ีตั้งของจังหวดั ทมี่ ีแม่น้าไหลผา่ น และติดกับทะเลอ่าวไทยทาให้
ดินในจังหวัดสมุทรสงครามมีลักษณะค่อนข้างเค็ม เหมาะแก่การปลูกมะพร้าว ซ่ึงมะพร้าว เป็นพืชยืนต้น
ชนิดหนึ่งอยู่ในตระกูลปาล์ม เจริญเติบโตได้ดีบริเวณที่ดินค่อนข้างเค็ม มีน้าจืดท่วมถึง จึงสามารถพบมะพร้าว
ได้มากในจังหวัดสมุทรสงคราม ปัจจุบันถือได้ว่ามะพร้าวเป็นพืชเศรษฐกิจหลักอันดับหนึ่งของเกษตรกร
ชาวจังหวัดสมุทรสงครามอีกด้วย มะพร้าวเป็นพืชที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ในหลายทาง เช่น น้าและ
เน้ือมะพร้าวอ่อนใช้รับประทาน เน้ือในผลแก่นาไปขูดและคั้นทากะทิ กะลานาไปประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ เช่น
กระบวย โคมไฟ ฯลฯ นอกจากนี้มะพร้าวจัดเป็นพรรณไม้มงคลชนิดหน่ึงตามตาราพรหมชาติฉบับหลวง
ไดก้ าหนดให้ปลกู มะพร้าวไวท้ างทศิ ตะวันออกของบ้านเพ่อื ความเป็นสิรมิ งคลอีกด้วย

ในการน้ีชุมชนบางนกแขวกซ่ึงเป็นชุมชนเล็กๆ ชุมชนหน่ึงต้ังอยู่ในพื้นที่ของอาเภอบางคนที จังหวัด
สมุทรสงครามมีมะพร้าวเป็นพืชเศรษฐกิจท่ีมีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของชาวชุมชนบางนกแขวก และจังหวัด
สมุทรสงครามมาช้านาน โรงเรียนเมธีชุณหะวัณวิทยาลัยซ่ึงเป็นโรงเรียนมัธยมขนาดเลก็ จึงเห็นประโยชน์ของ
การสร้างทักษะด้านอาชพี ให้กับนักเรียนเพื่อที่จะสามารถนาไปสร้างรายได้เสรมิ ระหวา่ งเรียน และเป็นพ้ืนฐาน
ในการสร้างงานสร้างรายได้ในอนาคต จึงเกิดแนวความคิดท่ีจะนาผลผลิตทางการเกษตรท่ีมีจานวนมาก
ในท้องถิ่นมาพัฒนาจนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ก่อให้เกิดมูลค่าเพ่ิม และเป็นการวางพ้ืนฐานในการสร้างทักษะ
ทางอาชีพของตนเองควบคู่กับการพัฒนาท้องถิ่นอย่างสมดุลตามหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงท่ีเป็นหนึ่งใน
หลักการของศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช บรมนาถบพิตร

จุดเริ่มต้นของน้าพริกมะพร้าวคั่วสมุนไพร เกิดจากการประยุกต์ความรู้พ้ืนฐานการตาน้าพริกกะปิ
แบบโบราณโดยนาวัตถุดิบท่ีมีในท้องถ่ิน อันได้แก่ มะพร้าว และกะปิคลองโคลนท่ีมีช่ือเสียงของจังหวัด
สมทุ รสงครามมาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนผ์ สมผสานกับสมุนไพรชนิดต่างๆ ที่มีสรรพคุณทางยา สามารถปอ้ งกันและ
รกั ษาโรคบางชนิดได้ มกี ารปรับปรงุ พัฒนาจนเกิดเปน็ สูตรลับเฉพาะที่สามารถเปิดเผยได้ ภายใต้แนวความคิด
“น้าพริกสมุนไพร ก้าวไกลสู่อาชพี ”

นำ้ พริกมะพรำ้ วควั่ สมนุ ไพร ๕

เคร่ืองปรุงรส

- กะปหิ ่อใบตองเผาไฟ ๑๐๐ กรมั

- กระเทียมค่วั ๕๐ กรมั
- หวั หอมแดงคั่ว ๕๐ กรัม
- พริกข้ีหนหู อมคั่ว ๕๐ กรัม
- ตะไคร้ซอยโขลกพกั ไว้ ๑๐๐ กรัม
- มะพรา้ วคว่ั ๑๐๐ กรัม
- ปลากรอบป่น ๕๐ กรมั
- น้ามะนาว ๑๐๐ กรัม
- น้าปลา ๕๐ กรัม
- น้าตาลปีบ (น้าตาลมะพร้าว) ๑๐๐ กรัม
- ใบมะกรูดหั่นฝอย ๑๐ ใบ

วิธที า

๑. โขลกกะปิ กระเทยี ม และหอมแดงให้ละเอยี ด
๒. ใส่พรกิ ขห้ี นู โขลกให้ละเอียด ใส่ตะไคร้โขลกใหเ้ ข้ากนั
๓. ใส่ปลาปน่ โขลกให้เขา้ กัน
๔. ใสม่ ะพรา้ วควั่ โขลกให้เขา้ กัน
๕. ปรุงรสด้วยน้ามะนาว นา้ ปลา นา้ ตาลปบี คลุกเคล้าใหเ้ ข้ากัน ชมิ รสตามชอบ โรยใบมะกรดู หน่ั ฝอย
๖. รับประทานกับผักสด เช่น ถ่ัวพู ถั่งฝักยาว แตงกวา มะเขือเปราะ มะเขือม่วง มะเขือขาว ยอด
กระถิน มะระขี้นก (มะระตงุ้ ตงิ้ ) แครอท มะเขอื จาปี กะหลา่ ปลี ขม้นิ ขาว เปน็ ต้น
๗. เครอื่ งจดั แนมกับนา้ พริก คือ ปลาทูทอด หมูทอด หรอื หมูสะบัดงา

นำ้ พริกมะพรำ้ วควั่ สมนุ ไพร ๖

เคลด็ ลับความอรอ่ ย

๑. กะปิ ควรเป็นกะปิคลองโคน เพราะทาตากตวั เคย หอ่ ใบตองปงิ้ จะทาให้มกี ล่ินหอม
๒. พริกขีห้ นู ควรเปน็ พริกข้หี นูสวนแท้ ๆ หากใช้พรกิ อืน่ จะไม่หอม จะไมห่ อม
๓. มะนาว ควรใช้มะนาวแป้นเนื่องจากมีเปลือกบาง ผิวสดสีเขียว มีกลิ่นหอม ไม่ควรใช้มะนาวสุก
(ผิวเหลอื ง)
๔. น้าตาลปีบ ควรใช้นา้ ตาลบางช้าง จงั หวัดสมทุ รสงคราม เพราะเป็นนา้ ตาลมะพร้าวแท้

ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั

ประโยชนต์ อ่ นกั เรียน ครู และโรงเรียน
๑. มีการปฏบิ ัตใิ นสภาพจรงิ ก่อใหเ้ กิดทักษะการเรียนรทู้ ี่คงทน
๒. ส่งเสรมิ การพัฒนาคณุ ธรรมจรยิ ธรรมทั้งตนเองและกลุม่
๓. พฒั นาทกั ษะอาชพี เพ่ือการก้าวเขา้ สศู่ ตวรรษท่ี ๒๑ อย่างมนั่ คงและยั่งยนื
๔. มีส่วนรว่ มในการเรียนรู้ อนรุ กั ษ์และพฒั นาทอ้ งถ่นิ
๕. สามารถนามาประยุกต์วัตถุดิบจนเกิดเป็นอาหารอ่ืนที่มีความหลากหลายเป็นการต่อยอดความรู้
ทีม่ ีอยู่
ประโยชนต์ ่อชมุ ชน
๑. สามารถนามะพร้าวซึ่งเป็นพืชท่ีมีจานวนมากมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ เป็นองค์ความรู้ใหม่ท่ี
เกิดขนึ้ ในชมุ ชน
๒. เปน็ การสร้างมูลค่าเพ่ิมใหก้ ับมะพร้าวในขณะทปี่ จั จุบันมะพร้าวมีราคาตกตา่
๓. เปน็ ทางเลอื กในการสรา้ งอาชพี ให้กับชาวบา้ นในชุมชนต่อการดารงชพี ในปัจจุบันมากข้นึ

เป้าหมายในอนาคต

๑. พฒั นาใหน้ ้าพริกสามารถเก็บรกั ษาได้นานมากขน้ึ ไม่บูดและเสียงา่ ย
๒. พฒั นารูปแบบผลิตภัณฑใ์ หจ้ ูงใจต่อผ้บู รโิ ภคมากย่งิ ขึน้
๓. ส่งเสริมให้น้าพริกมะพร้าวคั่วสมุนไพรเป็นอีกหน่ึงทางเลือกในการสร้างรายได้เสริมให้กับนักเรียน
โรงเรียนเมธีชณุ หะวณั วิทยาลัย

ราคาต้นทนุ การผลิต นำ้ พริกมะพรำ้ วค่วั สมนุ ไพร ๗

๑. กะปิ ๕ บาท
๒. กระเทยี ม ๕ บาท
๓. หอมแดง ๕ บาท
๔. พรกิ ขี้หนูหอม ๕ บาท
๕. ตะไคร้ ๕ บาท
๖. มะนาว ๖ บาท
๗. นา้ ปลาดี ๑ บาท
๘. นา้ ตาลปีบ ๑ บาท
๙. มะพร้าวคั่ว ๑ บาท
๑๐. ปลากรอบปน่ ๓ บาท
๑๑. ใบมะกรดู ๑ บาท
๓๘ บาท
- น้าพรกิ สตู รน้ีราคา ๑๙ บาท
จดั ทาได้ ๒ ชดุ ๆ ละ ๑๕ บาท
- ปลาทูทอด ๑๐ บาท
- เครื่องเคยี ง ๔๔ บาท
รวมราคาตน้ ทนุ ชดุ ละ ๖๐ บาท
จดั จาหน่ายชดุ ละ ๑๖ บาท
จะได้กาไรชุดละ

นำ้ พริกมะพรำ้ วควั่ สมนุ ไพร ๘

สรรพคุณของสว่ นประกอบตา่ งๆ ในนาพริกมะพรา้ วคัว่ สมุนไพร

 กะปิ บารุงกระดกู แก้โรคโลหิตจาง แก้โรคโลหติ จาง อดุ มไปด้วยโอเมก้า ๓ บารุงสายตา และ
พิชติ โรคหัวใจ

 กระเทียม ลดไขมัน ลดความเส่ียงของโรคหัวใจ บรรเทาอาการหวัด ลดอาการแน่นท้อง
จกุ เสยี ดแน่น

 หอมแดง บารุงหัวใจ บารุงโลหติ ชว่ ยทาใหร้ า่ งกายอบอนุ่ ช่วยลดระดบั คอเลสเตอรอล
 พรกิ หอม ขบั ลมในลาไส้และเปน็ ยาขบั ปัสสาวะ
 ตะไคร้ ยบั ยั้งแบคทเี รยี ในชอ่ งปาก ช่วยแกอ้ าการเบ่อื อาหาร เปน็ ยาบารงุ ธาตไุ ฟใหเ้ จรญิ
 น้าตาลมะพรา้ ว โปแตสเซียมมีบทบาทในการลดความดันโลหติ ควบคมุ ระดับนา้ ตาลในเลือด

ระดบั โคเลสเตอรอลและนา้ หนักตวั
 มะนาว บารงุ สายตา บารุงผวิ พรรณ ชว่ ยเร่งการผลัดเซลล์ผวิ ทีเ่ ส่ือมได้
 นา้ ปลา มีโปรตีน กรดอะมิโน วิตามนิ บี ๑๒ สูง ช่วยลดความเส่ยี งของโรคต่าง ๆ ได้
 ปลาป่น มีโอเมก้า 3 ซ่งึ เปน็ กรดไขมนั บารุงสมองและร่างกาย
 มะพร้าวค่ัว บารุงผิวพรรณให้สดใส กระตุ้นการเจริญเติบโตและการแบ่งเซลล์ มีวิตามินซี

วิตามินบี กรดอะมิโน ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุโพแทสเซียม
ธาตุเหล็ก และยงั มไี ขมันท่ีเป็นประโยชน์ตอ่ ร่างกายอกี ดว้ ย

นำ้ พริกมะพรำ้ วค่วั สมนุ ไพร ๙

บทสัมภาษณ์พิเศษ

คุณครูสมศรี ใจชนื่
อดตี ครโู รงเรียนเมธชี ุณหะวัณวิทยาลัย
ผชู้ แี นะครูผฝู้ กึ สอนและผูร้ ่วมฝกึ สอนนกั เรียนตลอดกจิ กรรม

นำ้ พริกมะพรำ้ วค่ัวสมนุ ไพร ๑๐

องค์ความรู้ที่ได้รบั จากคุณครูสมศรี ใจชื่น ได้แก่
๑. การเลือกสรรวตั ถุดิบในการทานา้ พริกควรสดใหม่ เป็นวัตถดุ บิ ทห่ี าไดง้ า่ ยในทอ้ งถ่นิ เช่น
 กะปิควรเลือกใช้กะปิคลองโคลน จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งทาจากเคยรสชาติจะอร่อยและ
ไม่เค็มจดั
 น้าตาลควรใช้น้าตาลมะพร้าวของจังหวัดสมุทรสงคราม ซ่ึงเป็นน้าตาลมะพร้าวแท้ท่ีได้
ความหวานหอมจากธรรมชาติ
๒. การจดั วางควรเหมาะสมกบั น้าพริก เชน่ จดั วางในถาดใบตองสดซึ่งประดิษฐ์จากใบตองท่ีหาง่ายใน

ทอ้ งถ่นิ ไม่มสี ารเคมีเจอื ปน ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
๓. พรกิ ควรใช่พริกขหี้ นสู วนแท้ เพราะจะไดค้ วามเผ็ดและความหอมจากพรกิ
๔. เครอื่ งแนมควรเป็นปลาทแู ม่กลอง เพราะเนอื้ จะมนั รับประทานกบั น้าพริกแล้วอรอ่ ย
๕. ผักเคยี งควรเป็นผดั สดๆ และเปน็ ผักทีห่ าไดจากทอ้ งถนิ่ เชน่ ผักหวานบา้ น ดอกชมจันทร์ กระเจยี๊ บ

เปน็ ต้น เพราะจะปลอดสารพิษ ไม่เปน็ อนั ตรายต่อผบู้ ริโภค และยงั เป็นการสร้างรายได้ให้กบั ชาวสวนในชุมชน
อกี ด้วย

นำ้ พริกมะพรำ้ วค่วั สมนุ ไพร ๑๑
คณุ ยายสาลี นมิ มานทุ ย์
ปราชญช์ าวบา้ นผ้มู ีความรู้เรื่องมะพร้าว

องค์ความรทู้ ่ีไดร้ บั จากคณุ ยายสาลี นิมมานุทย์ ได้แก่
๑. การเลือกมะพร้าวควรเลือกมะพร้าวของจงั หวดั สมุทรสงครามเพราะพน้ื ทก่ี ารปลูกเหมาะสมต่อการ

ปลูกมะพร้าว ดนิ เค็มพอเหมาะ มีน้าจดื ไหลผ่าน มะพรา้ วสามารถเจริญเตบิ โตได้ดี มคี ณุ ภาพ
๒. มะพร้าวท่ีนามาค่ัวควรเลือกมะพรา้ วที่แกจ่ ดั เพราะจะทาใหม้ ะพรา้ วค่ัวหอม หวานมนั
๓. การขูดมะพร้าว ควรใช้กระต่ายขูดด้วยวิธีแบบโบราญเพราะจะทาให้มะพร้าวเป็นผงละเอียด และ

ไมค่ วรใช้แรงกดมากเกนิ ไปจะทาใหม้ ะพรา้ วเป็นผงไมเ่ ทา่ กันเวลาไปคั่วจะทาใหม้ ะพร้าวเหลืองไมพ่ ร้อมกัน
๔. การคั่วเรม่ิ แรกให้ใช้ไฟกลางคว่ั จนเหลืองแลว้ ใชไ้ ฟอ่อนค่อยๆ ค่ัวไปเรื่อยๆ จนมะพรา้ วหอมได้ท่ี
๕. เมื่อคั่วมะพร้าวได้ที่แล้วให้ตามะพร้าวในครกหินทันทีในขณะท่ีมะพร้าวกาลังร้อนอยู่เพ่ือให้

มะพรา้ วละเอียด เวลาไปตานา้ พรกิ จะได้ไมห่ ยาบ

นำ้ พรกิ มะพรำ้ วค่วั สมนุ ไพร ๑๒

นักเรยี นทเี่ ขา้ แขง่ ขัน

๑. เดก็ หญงิ ชมพนู ุช ชัยวิชติ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓
๒. เดก็ หญิงชลณีย์ เงนิ วลิ ัย ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓
๓. เดก็ หญิงพชิ ญานนิ ชยั วชิ ติ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒

ครูทป่ี รกึ ษา

๑. นางสาวดวงสุดา ผาตอิ ภนิ ันท์
๒. นางสาวพณิ ทกานต์ นิมมานุทย์

นำ้ พริกมะพรำ้ วคัว่ สมนุ ไพร ๑๓

เอกสารอา้ งอิง

บุญฑรกิ า ใจกระจ่าง. สถานการณก์ ารปลกู รายได้ ตน้ ทุนและผลตอบแทนในการปลูกมะพรา้ วแกง ในเขต
อาเภอเมือง จงั หวดั สรุ าษฎร์ธาน.ี มหาวิทยาลยัสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสรุ าษฎร์ธาน.ี สุราษฎร์ธานี,
๒๕๖๐

สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแหง่ ชาติ
ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๖๔). สานกั นายกรัฐมนตรี. กทม, ๒๕๖๐

สานักบริหารงานการมธั ยมศึกษาตอนปลาย. กระบวนการจัดการเรียนรู้แนวใหม่ในศตวรรษท่ี ๒๑. สานกั งาน
คณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน. กทม, ๒๕๖๐

การสืบคน้ ออนไลน์
https://dictionary.sanook.com สืบคน้ เมอื่ วนั ท่ี ๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๑
http://kanchanapisek.or.th สบื คน้ เมือ่ วันที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๑
https://medthai.com สืบคน้ เมอ่ื วันที่ ๗ ตลุ าคม พ.ศ.๒๕๖๑
www.pobpad.com สบื คน้ เมอื่ วันที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๑
http://www.rspg.or.th สบื คน้ เมอื่ วนั ท่ี ๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๑
www.wongnai.com สบื คน้ เม่ือวนั ท่ี ๗ ตลุ าคม พ.ศ.๒๕๖๑

การสัมภาษณ์
คณุ ครสู มศรี ใจช่ืน
เลขที่ ๕๒ หมทู่ ี่ ๕ ตาบลบางนกแขวก อาเภอบางคนที จงั หวัดสมทุ รสงคราม ๗๕๑๒๐
คุณยายสาลี นิมมานุทย์
เลขที่ ๓๘ หมู่ท่ี ๔ ตาบลโรงหบี อาเภอบางคนที จังหวดั สมุทรสงคราม ๗๕๑๒๐