The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 การวัดปริมาณสาร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nattidapang2540, 2021-08-30 04:59:33

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 การวัดปริมาณสาร

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2

กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รหัส ว31221 รายวิชา เคมี 1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
เวลา 10 ช่ัวโมง
ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 ความปลอดภยั และทกั ษะในการปฏิบตั ิการเคมี เวลา 3 ชั่วโมง

เรอื่ งยอ่ ยที่ 2 เร่อื ง การวัดปรมิ าณสาร

ผู้สอน นางสาวณฐั ธิดา ดวงสมร

1. มาตรฐานการเรยี นรู้และทกั ษะกระบวนการ
มาตรฐาน ว 5.3 เข้าใจหลักการทำปฏบิ ัตกิ ารเคมี การวดั ปริมาณสาร หน่วยวดั และการเปลี่ยนหน่วย

การคำนวณปรมิ าณของสาร ความเข้มข้นของสารละลาย รวมท้งั การบรู ณาการความรแู้ ละทกั ษะในการอธิบาย
ปรากฏการณ์ในชวี ิตประจำวนั และการแกป้ ญั หาทางเคมี
2. ผลการเรยี นรู้

2. เลือกและใชอ้ ปุ กรณ์หรือเครือ่ งมือในการทำปฏบิ ัติการ และวัดปริมาณต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม
3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

ในปฏิบัติการเคมีจำเป็นต้องมีการชั่ง ตวง และวัดปริมาณสาร ซึ่งการชั่ง ตวง วัด มี
ความคลาดเคลอื่ นที่อาจเกดิ จากอุปกรณ์ที่ใช้ หรือผู้ทำปฏิบัตกิ าร ที่จะส่งผลใหผ้ ลการทดลองทีไ่ ด้มีค่ามากกว่า
หรือนอ้ ยกว่าค่าจรงิ
4. จดุ ประสงค์

4.1 มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการใชอ้ ุปกรณ์ และเคร่ืองมือในการทำปฏบิ ตั ิการ (K)
5. สาระการเรียนรู้

อปุ กรณ์วดั ปรมิ าตร
บกี เกอร์ เป็นเครื่องมอื ทางวิทยาศาสตรท์ ่ีใช้ในห้องปฏบิ ัติการเพอื่ บรรจุสารเคมีเพ่อื ให้ความร้อน ผสม
สาร หรือทำปฏกิ ิริยากนั มรี ูปรา่ งเปน็ ทรงกระบอกกน้ แบน ปากแบะออกเล็กน้อยและมีจะงอยเพื่อช่วยในการ
เทสาร ขนาดของบีกเกอรท์ ่ีพบได้โดยทั่วไปจะมตี งั้ แต่ 50 มิลลิลติ ร ไปจนถงึ 5 ลติ ร ซง่ึ มกั จะมขี ีดบอกปริมาตร
ไว้ดว้ ย แต่มไิ ด้มจี ดุ ประสงค์ไว้เพื่อการตวงของเหลวไดอ้ ย่างแม่นยำ บกี เกอร์ที่นิยมใชใ้ นหอ้ งปฏิบัติการทำจาก
แก้วทนไฟ และก็ยงั มีชนดิ ที่ทำดว้ ยพลาสติกที่ไมส่ ามารถตงั้ ไฟได้แตร่ าคาถกู กวา่

ขวดปรบั ปริมาตร ใชส้ ำหรับเตรยี มสารละลายให้มีปริมาตรทีแ่ น่นอน เมอ่ื ทราบปริมาตรที่แน่นอนจะ

ทำให้สามารถคำนวณปริมาณสารมีขีดบอกปรมิ าตรอยทู่ ี่คอขวด ตอ้ งปรับปรมิ าตรของสารละลายให้ถึงขีดบอก

ปริมาตรจงึ จะได้ปรมิ าตรที่ต้องการเนือ้ แกว้ หนา สามารถทนความร้อนได้ดี

ปเิ ปตต์ เป็นหลอดแก้วใส ยาว ปลายเปิด ใช้สำหรับถ่ายเทของเหลวตามปริมาตรที่ต้องการอย่าง

ละเอยี ดและมีความถกู ต้องมากกว่ากระบอกตวง ปิเปตต์ ท่มี ีใชอ้ ย่ใู นห้องปฏิบัตกิ ารมอี ยู่ 2 แบบ คอื

1. ปิเปตต์แบบปรมิ าตร (volumetric pipette)

2. ปิเปตตแ์ บบใช้ตวง (graduated pipette)

ขวดรูปชมพู่ ทำดว้ ยแกว้ มีลักษณะเปน็ ทรงกรวย มสี เกลบอกปรมิ าตร มหี ลายขนาดด้วยกันแต่ท่ีนิยม

ใชใ้ นหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารเคมี มขี นาดความจุ 250 – 500 ml นิยมใช้ในการไทรเทรทสารละลาย

บวิ เรตต์ เป็นหลอดแก้วใสยาวปลายเปิด มขี ดี บอกปริมาตรตา่ งๆ กำกบั ไว้ และมกี ็อกสำหรับเปิด-ปิด

อยทู่ างปลายดา้ นล่างเพ่ือควบคมุ อัตราการไหลของสารละลาย นิยมใชใ้ นการไทเทรต (titration)

กระบอกตวง เป็นอุปกรณ์ใช้สำหรบั วดั ปรมิ าตรของเหลว หรือใช้ตวงสารละลาย ให้มีปริมาตรตามที่

ต้องการ ปริมาตรสารละลายที่ได้จากการวัดด้วยกระบอกตวงเป็นปริมาตรอย่างคร่าวๆเท่านั้น หากต้องการ

ความแม่นยำสูงต้องใช้อุปกรณ์ประเภทอื่น เช่น ปิเปต เป็นต้น กระบอกตวงมีท้ังแบบทำด้วยแก้วและทำด้วย

พลาสตกิ มหี ลายขนาดให้เลือกใช้ โดยมตี ้งั แต่ 5 มลิ ลิลติ ร ไปจนถึง 2 ลิตร

อุปกรณ์วดั มวล

- เคร่อื งช่งั สามคาน

- เครอื่ งชงั่ ไฟฟ้า

6. ทักษะ/กระบวนการ

6.1 ใช้อปุ กรณใ์ นการทำปฏิบตั กิ ารได้อยา่ งถกู ตอ้ ง (P)

7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน

 ความสามารถในการส่ือสาร  ความสามารถในการคดิ

 ความสามารถในการแก้ปญั หา  ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

8. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

 รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  อยู่อย่างพอเพียง  ซ่ือสัตย์สุจริต

 มุ่งมั่นในการทำงาน  มีวนิ ยั  รักความเป็นไทย

 ใฝ่เรียนรู้  มจี ติ สาธารณะ

9. หลักฐานการเรียนรู้

9.1 ช้นิ งาน/ภาระงาน

- ใบกจิ กรรมที่ 2 “ลองดซู ิ”

- เอกสารประกอบการเรยี น เร่อื ง การวดั ปริมาณสาร

10. กระบวนการจัดการเรียนรู้ : วิธีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E)
ข้นั ท่ี 1 ขนั้ สรา้ งความสนใจ
1. ครูถามนกั เรยี นเกย่ี วกบั อปุ กรณ์ทใี่ ชใ้ นห้องปฏบิ ตั ิการว่ามอี ะไรบา้ ง
ครู : นักเรยี นรจู้ ักอุปกรณ์ในหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารอะไรบ้าง?
(แนวคำตอบ บีกเกอร์ หลอดทดลอง ขวดรปู ชมพู่ กระบอกตวง หลอดหยด บิวเรตต์ ปิเปตต์

อ่ืนๆ)
ครู : นักเรียนอุปกรณ์วัดปริมาตร ใชว้ ัดสารแบบใด
(แนวคำตอบ : สารละลาย สารท่เี ปน็ ของเหลว)
ครู : นกั เรยี นลองบอกอุปกรณว์ ดั ปรมิ าตร มีอะไรบา้ ง?
(แนวคำตอบ : บีกเกอร์ ขวดวัดปรมิ าตร ปิเปตต์ ขวดรูปชมพู่ บวิ เรตต์ และกระบอกตวง)
2. ครูใหน้ กั เรียนพจิ ารณาคา่ ท่ีวัดได้จากการทดลองในรูป 1.6 แล้วต้ังคำถามวา่ “ข้อมลู ชุดใด

มีความน่าเชือ่ ถอื มากที่สุด เพราะเหตุใด” เพื่อให้ไดข้ ้อสรุปว่า ความน่าเชื่อถือของข้อมูลสามารถพิจารณาได้
จาก 2 ส่วนด้วยกัน คอื ความเที่ยงและความแมน่ โดยความเทย่ี ง คือ ความใกล้เคียงกันของค่าทีไ่ ด้จากการวัด
ซ้ำ ส่วนความแม่น คือ ความใกล้เคียงของค่าเฉลี่ยจากการวัดซ้ำเทียบกับค่าจริงดังนั้นข้อมูลชุด ง มีความ
นา่ เชอื่ ถือมากทีส่ ดุ เนือ่ งจากมีความเทยี่ งและความแม่นสงู ท่ีสุด

3. ครูใช้คำถามนำว่า “ถ้าจะแบ่งกลุ่มอุปกรณ์วัดปริมาตร ได้แก่ บีกเกอร์ ขวดรูปกรวย
กระบอกตวง ปิเปตต์ บิวเรตต์ และขวดกำหนดปริมาตร โดยใช้ความแม่นเปน็ เกณฑ์ จะสามารถแบ่งไดเ้ ป็นก่ี
กลุม่ และอุปกรณ์ในแต่ละกลุม่ มีอะไรบ้าง” โดยครูอาจแสดงรูปอุปกรณ์ประกอบ เพ่อื นำเข้าสู่เร่ืองอุปกรณ์วัด
ปริมาตร

ขน้ั ท่ี 2 ข้ันสำรวจและคน้ หา
4. ครูให้นักเรียนจับคูก่ ันทำกิจกรรม “ลองดูสิ” แจกใบกิจกรรมที่ 2 “ลองดูสิ” ให้นักเรียน

บันทึกผลการทำกิจกรรม
5. ครูอธิบายขน้ั ตอนการทำกิจกรรมให้นกั เรียน ให้นักเรยี นอ่านค่า โดยทำตามคำส่ังต่อไปนี้
1. มองในระดับสายตาอย่เู หนือส่วนโค้งเวา้ ต่ำสุดของของเหลว
2. มองในสายตาอยรู่ ะดบั เดียวกบั ส่วนโค้งเว้าต่ำสดุ ของของเหลว
3. มองในระดับสายตาอยูต่ ่ำกว่าสว่ นโคง้ เว้าตำ่ สดุ ของของเหลว

6. นักเรยี นแตล่ ะคมู่ ารับอปุ กรณ์ ดังน้ี
1. บีกเกอร์ ขนาด 100 ml
2. กระบอกตวง ขนาด 10 ml
3. นำ้ กล่ัน

7. ใหน้ กั เรียนทำกจิ กรรมที่ 2 “ลองดสู ิ” และบนั ทึกผลลงในใบกจิ กรรม
8. หลังจากทำกิจกรรมเรียบร้อย ครสู ุ่มนักเรยี นแต่ละคู่ออกมาอภิปรายผลการทำกจิ กรรม
ขนั้ ท่ี 3 ขนั้ อธิบายและลงขอ้ สรปุ
9. ครูสาธิตและอธิบายการใช้งานอุปกรณ์วัดปริมาตร อุปกรณ์วัดมวล บางชนิดที่มีใน
ห้องเรียน
10. ครใู ห้ความรู้เพ่มิ เติมว่า อุปกรณแ์ ตล่ ะชนิดมีความละเอยี ดไมเ่ ท่ากนั โดยชใ้ี หเ้ ห็นตัวเลขที่
ปรากฏบนอุปกรณ์ที่นำมาให้นักเรียนดู เช่น ค่าความคลาดเคลื่อนของกระบอกตวงและปิเปตต์ขนาด 25
มลิ ลิลติ ร เทา่ กบั ±0.40 และ ±0.10 ตามลำดบั ดงั รูป

11. ครูให้นักเรียนพิจารณารูป 1.15 จากนั้นตั้งคำถามว่า “อุณหภูมิที่อ่านได้จากเทอร์มอ
มเิ ตอรท์ ั้งสองมีคา่ เท่าใด” ซง่ึ นกั เรยี นอาจตอบวา่ อ่านค่าได้ 26.22 และ 26.0 องศาเซลเซยี ส ตามลำดับ เพื่อ
นำเข้าสู่การอธิบายความหมายของเลขนัยสำคัญ

12. ครูอธิบายเกยี่ วกบั หลกั การนับเลขนัยสำคญั การปดั เศษ และเลขนยั สำคญั ของผลลัพธ์ที่
ไดจ้ ากการคำนวณ ทั้งนค้ี รใู หน้ กั เรยี นตอบคำถามเพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจระหวา่ งการให้ความร้แู ตล่ ะข้นั

ข้ันท่ี 4 ข้นั ขยายความรู้
13. ครูและนักเรียนอภิปรายและสรปุ บทเรยี นรว่ มกันเกี่ยวกบั วัตถปุ ระสงค์ เทคนิค วธิ ีการใช้

งาน รวมทง้ั ข้อควรระวังในการใชแ้ ละการดแู ลอุปกรณ์และเครื่องมือในการทำปฏิบตั กิ ารเคมี และเลขนัยสำคัญ

ขน้ั ท่ี 5 ข้นั ประเมินผล
14. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะคนเลือกใชอ้ ุปกรณ์คนละอย่าง โดยให้นักเรยี นบอกช่อื อปุ กรณ์ สาธิต

การใช้ บอกคณุ สมบตั ิ และอา่ นคา่ ปริมาณ/ปริมาตรของสาร การเกบ็ รักษา
15. ครูให้นักเรยี นทำเอกสารประกอบการเรยี น เร่ือง การวัดปริมาณสาร

10. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้

10.1 ใบกิจกรรมท่ี 2 “ลองดสู ิ”

10.2 เอกสารประกอบการเรยี น เร่อื ง การวดั ปริมาณสาร

10.3 ส่อื การสอน Powerpoint

10.4 หนงั สือเรยี นรายวชิ าเพมิ่ เติมวิทยาศาสตร์ เคมีเลม่ 1 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4

(ฉบบั ปรงั ปรุง พ.ศ.2560)

11. การวัดและประเมินผล

เป้าหมาย วิธวี ัด เคร่ืองมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ

ด้านความรู้

มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ตรวจเอกสารประกอบการ เอกสารประกอบการเรยี น ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 60

เกี่ยวกับการใชอ้ ปุ กรณ์ และ เรียน

เครื่องมือในการทำ

ปฏิบตั กิ าร (K)

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ

ใช้อุปกรณใ์ นการทำ สังเกตการสาธิตการใช้ แบบสงั เกต ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60

ปฏิบตั กิ ารได้อย่างถูกตอ้ ง อุปกรณ์

(P)

ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ

ประสงค์

ใฝเ่ รียนรู้ 1. ประเมินจากการสังเกต 1. แบบประเมินพฤตกิ รรม ระดับคณุ ภาพพอใชข้ นึ้ ไป

พฤติกรรมในชัน้ เรียน ในชน้ั เรียน (ผา่ นเกณฑ์)

มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 1. ประเมินจากการสงั เกต 1. แบบประเมินพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพพอใชข้ ้นึ ไป

พฤติกรรมในชั้นเรียน ในชั้นเรยี น (ผา่ นเกณฑ์)

มวี นิ ยั 1. ประเมินจากการสงั เกต 1. แบบประเมินพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพพอใช้ขน้ึ ไป

พฤติกรรมในชั้นเรียน ในชนั้ เรียน (ผา่ นเกณฑ์)

ด้านสมรรถนะสำคญั ของ

ผเู้ รยี น

ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. ประเมนิ จากแบบ 1. แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึ้นไป

ประเมนิ สมรรถนะ ดา้ น สำคญั ของผเู้ รียน (ผา่ นเกณฑ์)

ความสามารถในการ

สอ่ื สาร

เป้าหมาย วธิ วี ดั เครื่องมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ
ความสามารถในการคิด 1. ประเมนิ จากแบบ
ประเมนิ สมรรถนะ 1. แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพพอใชข้ น้ึ ไป
ความสามารถในการใช้ ความสามารถในการคิด
ทักษะชีวติ 1. ประเมินจากแบบ สำคัญของผู้เรียน (ผา่ นเกณฑ์)
ประเมินสมรรถนะ
ความสามารถในการ ความสามารถในการใช้ 1. แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คุณภาพพอใชข้ ้ึนไป
แกป้ ญั หา ทกั ษะชวี ติ
1. ประเมนิ จากแบบ สำคญั ของผ้เู รยี น (ผา่ นเกณฑ์)
ประเมินสมรรถนะ
ความสามารถในการ 1. แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพพอใชข้ น้ึ ไป
แกป้ ัญหา
สำคญั ของผูเ้ รียน (ผ่านเกณฑ์)

บันทึกหลังสอน

1. ผลการสอน

⬜ สอนได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้

⬜ สอนไมไ่ ด้ตามแผนการจดั การเรยี นรู้ เนอ่ื งจาก .................................................................
................................................................................................................................................................................

2. ผลการเรียนของนกั เรยี น

⬜ จำนวนนักเรียนที่ผ่านการประเมิน .......................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ .........................

⬜ จำนวนนกั เรยี นท่ไี มผ่ ่านการประเมิน ....................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ........................

⬜ อ่ืนๆ .................................................................................................................................
3. ปัญหาและอปุ สรรค

⬜ กิจกรรมการจดั การเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกบั เวลา

⬜ มีนักเรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ ันตามกำหนดเวลา

⬜ มนี ักเรียนทีไ่ มส่ นใจเรยี น

⬜ อื่นๆ ...................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข

⬜ ควรนำแผนไปปรบั ปรุง เรื่อง ............................................................................................
...............................................................................................................................................................................

⬜ แนวทางแกไ้ ขนกั เรยี นทไี่ มผ่ ่านการประเมิน .....................................................................
................................................................................................................................................................................

⬜ ไมม่ ีขอ้ เสนอแนะ
ลงช่อื ...................................................... ผู้บนั ทึก
(นางสาวณัฐธิดา ดวงสมร)
ครูผ้สู อน

บันทึกหลังการสอน ตามแผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้ ได้รับการพิจารณาจากแผนกวิชาและฝ่าย
วชิ าการแล้ว

ลงช่อื ......................................................
(นางสาวอกั ษรวดี มณีพรหม)
กลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ

ลงชอ่ื ....................................................
(นายพรศกั ด์ิ ทวรี ส)

ผู้อำนวยการโรงเรยี นตะกัว่ ทงุ่ งานทวีวิทยาคม

ใบกจิ กรรม เรอื่ ง “ลองดูซิ”
ชอ่ื ……………...............................นามสกุล...................................เลขที.่ ...........ห้อง.............
ช่อื ……………...............................นามสกุล...................................เลขท.ี่ ...........ห้อง.............

ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามต่อไหนน้ี แบบเท่ากันหรือไม่
1.ปรมิ าตรของน้ำที่อา่ นโดยวธิ ี 3

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.แต่ละแบบอา่ นได้คา่ ปรมิ าตรเท่าไร และสรปุ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ใบกิจกรรม เรอ่ื ง “ลองดูซิ”
ช่อื ……………...............................นามสกลุ ...................................เลขท.่ี ...........หอ้ ง.............
ชื่อ……………...............................นามสกุล...................................เลขท.่ี ...........หอ้ ง.............

ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไหนนี้ แบบเท่ากนั หรอื ไม่
1.ปรมิ าตรของน้ำท่ีอ่านโดยวธิ ี 3

ไม่เท่ากนั

2. แตล่ ะแบบอ่านได้ค่าปรมิ าตรเทา่ ไร และสรุป
ถ้าระดับสายตาอยู่เหนือสว่ นโค้งเว้าตำ่ สุดของของเหลว ปริมาตรทอ่ี ่านจะมากกว่าปริมาตรจริง
ถ้าระดับสายตาอย่รู ะดับเดยี วกบั ส่วนโคง้ เวา้ ต่ำสดุ ของของเหลว ปรมิ าตรที่อ่านจะมคี ่าถกู ต้อง
ถ้าระดบั สายตาอยตู่ ่ำกว่าสว่ นโค้งเวา้ ตำ่ สุดของของเหลว ปริมาตรทอี่ ่านจะนอ้ ยกว่าปรมิ าตรจริง

แบบสังเกต

การสาธิตการใชอ้ ุปกรณ์

คำชแี้ จง : ให้ผู้สอนทำการสงั เกตและบนั ทึกโดยทำเครือ่ งหมาย ✓ลงในหอ้ งทีต่ รงกับการสังเกต

ช่ือ-สกลุ ช่อื อปุ กรณ์ คุณสมบัติ สาธติ การใช้ การอา่ นค่า การเก็บ รวม 5
รักษา คะแนน

ลงชอ่ื .....................................................ผูป้ ระเมิน

()

เกณฑ์การประเมิน

พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชดั เจนให้ทำเครอ่ื งหมาย ✓

พฤตกิ รรมสมบูรณ์ไม่สมบรู ณ์ใหท้ ำเคร่อื งหมาย 

เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ

5 ดี

3 - 4 พอใช้

ตำ่ กว่า 3 ปรบั ปรงุ

3 คะแนนขนึ้ ไป ผ่านเกณฑ์

แบบประเมินพฤตกิ รรมในชัน้ เรยี น
วิชา ......................................... แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ .............................................................................
ภาคเรยี นท.่ี ...............................ปีการศึกษา.....................................ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี................................
ครผู ้สู อน……….......………..…………………………………..........................วนั ทป่ี ระเมนิ ………........……………………

คำชี้แจง : ใหค้ รูบันทกึ โดยใชเ้ ครื่องหมาย ✓ = แสดงพฤติกรรมทพ่ี ึงประสงค์ตามคาดหวัง  = ไมแ่ สดง
พฤติกรรมที่พึงประสงคต์ ามคาดหวัง

มุ่งม่ันใน

เลขท่ี ชื่อ-สกุล ใฝ่เรียนรู้ การ มวี นิ ยั รวมคะแนน(9)
ทำงาน

123123123

ลงชอื่ .....................................................ผปู้ ระเมนิ
()

เกณฑก์ ารประเมนิ

พฤติกรรมสมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 3 คะแนน

พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องบางสว่ น ให้ 2 คะแนน

พฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

7 - 9 ดี

4 - 6 พอใช้

ต่ำกวา่ 4 ปรับปรงุ

4 คะแนนขนึ้ ไป ผา่ นเกณฑ์

แบบการประเมินสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
วิชา ......................................... แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี .............................................................................
ภาคเรียนท่.ี ...............................ปีการศึกษา.....................................ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี................................
ครผู ูส้ อน……….......………..…………………………………..........................วนั ทปี่ ระเมนิ ………........……………………

คำชี้แจง : ให้ครูสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน และเขียนคะแนน 3, 2, 1 ลงในช่องสมรรถนะสำคัญของ

ผเู้ รยี น

สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน

ความสามารถใน รวม
การ ่ืสอสาร
เลขท่ี ช่อื -นามสกลุ คะแนน
ความสามารถใน
การ ิคด (12)

ความสามารถใน
การใ ้ช ัทกษะ ีชวิต
ความสามารถใน
การแก้ ัปญหา

ลงช่อื .....................................................ผู้ประเมนิ
()

เกณฑ์การประเมิน 3 ระดบั คะแนน 1
สมรรถนะสำคัญของ มีการรบั -ส่งสาร การ 2 มีการรบั -สง่ สาร แต่ใช้ภาษา
ผูเ้ รยี น ถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ในการถา่ ยทอดความรู้
โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม มกี ารรับ-ส่งสาร การ ความคิด และเลอื กวธิ ีการ
ความสามารถในการ และเลอื กวิธกี ารสื่อสารที่ ถ่ายทอดความรู้ ความคดิ สื่อสารท่ีไมเ่ หมาะสม
สือ่ สาร เหมาะสม โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม
สามารถคิดวิเคราะห์ แตเ่ ลอื กวิธีการส่ือสารยังไม่ สามารถคิดวเิ คราะห์
ความสามารถในการคิด สังเคราะห์ มีการคดิ นอก เหมาะสม สังเคราะห์ คิดอย่างมี
กรอบอย่างสร้างสรรค์ คิด สามารถคิดวเิ คราะห์ วิจารณญาณ แตไ่ มม่ กี ารคดิ
ความสามารถในการใช้ อย่างมีวจิ ารณญาณ สงั เคราะห์ มีการคดิ นอก นอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์
ทักษะชีวิต และมีความสามารถสรา้ ง กรอบอย่างสร้างสรรค์ คดิ และขาดความสามารถใน
องค์ความรู้ อยา่ งมวี ิจารณญาณ การสร้างองคค์ วามรู้
ความสามารถในการ เรียนรูด้ ้วยตนเองได้ดี แตย่ ังไม่สามารถสรา้ งองค์ เรียนรดู้ ้วยตนเองไดด้ ี
แกป้ ญั หา สามารถทำงานกลมุ่ ร่วมกับ ความรู้ได้ สามารถทำงานกล่มุ ร่วมกบั
ผู้อ่ืนได้ และจัดการปัญหา เรยี นรู้ด้วยตนเองไดด้ ี ผ้อู น่ื ได้ แตจ่ ัดการปัญหา
ความขดั แย้งไดเ้ หมาะสม สามารถทำงานกลุ่มร่วมกับ ความขดั แยง้ ไมไ่ ด้
สามารถแกป้ ัญหาและ ผู้อ่ืนได้ แต่จดั การปัญหา สามารถแก้ปัญหาและ
อปุ สรรคต่างๆ ได้ มกี าร ความขดั แย้งไดไ้ มเ่ หมาะสม อปุ สรรคต่างๆ ได้ แต่ขาด
แสวงหาความรู้มาใช้ในการ สามารถแก้ปัญหาและ การแสวงหาความรู้มาใช้ใน
แกไ้ ขปัญหา และสามารถ อปุ สรรคตา่ งๆ ได้ มีการ การแก้ไขปัญหา และไม่
ตัดสินใจได้เหมาะสม แสวงหาความรู้มาใชใ้ นการ สามารถตัดสินใจได้
แกไ้ ขปญั หา แต่ขาดการ เหมาะสม
ตัดสนิ ใจที่เหมาะสม

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ระดบั คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ดี
9 - 12 พอใช้
5-8 ปรับปรงุ
ต่ำกวา่ 5 ผา่ นเกณฑ์
5 คะแนนข้ึนไป


Click to View FlipBook Version