แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 6
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รหสั ว31221 รายวชิ า เคมี 1 ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4
เวลา 28 ช่ัวโมง
ชื่อหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 อะตอมและสมบัติของธาตุ เวลา 4 ช่วั โมง
เร่อื งย่อยที่ 3 เรอ่ื ง การจัดเรยี งอิเลก็ ตรอนในอะตอม
ผ้สู อน นางสาวณัฐธดิ า ดวงสมร
1. มาตรฐานการเรยี นรู้และทักษะกระบวนการ
มาตรฐาน ว 5.1 เข้าใจโครงสร้างอะตอม การจดั เรียงธาตใุ นตารางธาตุ สมบตั ขิ องธาตุ พันธะเคมีและ
สมบตั ิของสาร แกส๊ และสมบตั ขิ องแก๊ส ประเภทและสมบตั ิของสารประกอบอนิ ทรียแ์ ละพอลเิ มอร์ รวมทั้งการ
นำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์
2. ผลการเรยี นรู้
3. อธิบายและเขียนการจัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลังงานหลักและระดับพลังงานย่อย เมื่อทราบ
เลขอะตอมของธาตุ
3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การจัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลังงาน คือ จำนวนอิเล็กตรอนมากที่สุดที่มีได้ในแต่ละในระดับ
พลังงานจะมีคา่ เทา่ กับ 2n2 เมื่อ n คอื ตัวเลขแสดงระดับพลงั งาน ระดับพลงั งานต้ังแต่ 1-7 คือ K L M N O P
Q ซึ่งอิเล็กตรอนในระดับพลังงานชั้นนอกสุดเรียกวา่ เวเลนซ์อิเล็กตรอนมีได้ไม่เกิน 8 อนุภาค จำนวนระดับ
พลังงานบอกเลขที่คาบ จำนวนเวเลนซ์อิเล็กตรอนบอกเลขที่หมู่ แต่ละระดับพลังงาน ประกอบด้วยพลังงาน
ย่อยใช้ตัวอกั ษร s p d f ตามลำดบั ระดับพลงั งานยอ่ ย s มี 1 ออร์บทิ ัล 2 อเิ ลก็ ตรอน ระดบั พลงั งานยอ่ ย p มี
3 ออร์บิทัล 6 อิเล็กตรอน ระดับพลังงานย่อย d มี 5 ออร์บิทัล 10 อิเล็กตรอน ระดับพลังงานย่อย f มี
7 ออร์บทิ ลั 14 อิเลก็ ตรอน
4. จุดประสงค์
4.1 บอกความแตกต่างของระดับพลงั งานหลัก พลงั งานยอ่ ย และออร์บิทัล (K)
5. สาระการเรียนรู้
อิเล็กตรอนทีอ่ ยู่ในอะตอมหนึ่ง ๆ นั้นจะอยู่รอบนิวเคลียสเปน็ ชั้นๆ ตามแบบจำลองอะตอม
ของโบรใ์ นการบรรจอุ เิ ลก็ ตรอนนั้นจะบรรจุลงในระดบั พลังงานทีต่ ่ำท่สี ุดกอ่ นจนเต็มแล้วจึงจะบรรจุลงในระดับ
พลงั งานท่สี ูงข้นึ ไปโดยระดบั พลังงานนอกสดุ จะมจี ำนวนอิเลก็ ตรอนไดม้ ากทสี่ ดุ 8 ตัวและจำนวนอเิ ลก็ ตรอนใน
แตล่ ะระดับพลงั งานมรี ายละเอียดดังน้ี
ระดับพลังงานท่ี 1 บรรจไุ ด้ไม่เกิน 2 ตัว
ระดับพลังงานที่ 2 บรรจุไดไ้ ม่เกิน 8 ตวั
ระดบั พลังงานที่ 3 บรรจุได้ไมเ่ กิน 18 ตัว
ระดับพลังงานท่ี 4 บรรจไุ ดไ้ มเ่ กิน 32 ตัว
ระดบั พลงั งานที่ 5 บรรจุไดไ้ มเ่ กิน 32 ตัว
ระดบั พลังงานท่ี 6 บรรจุไดไ้ มเ่ กิน 18 ตัว
ระดับพลังงานที่ 7 บรรจุไดไ้ ม่เกิน 8 ตวั
6. ทักษะ/กระบวนการ
6.1 จัดเรียงอิเล็กตรอนในอะตอมได้ เมื่อทราบเลขอะตอมของธาตุ พร้อมทั้งระบุ หมู่ คาบ และกลุ่ม
ของธาตใุ นตารางธาตุ (P)
7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
ความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแกป้ ญั หา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
8. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยู่อย่างพอเพียง ซ่อื สัตยส์ ุจริต
มงุ่ มน่ั ในการทำงาน มวี ินยั รกั ความเปน็ ไทย
ใฝ่เรียนรู้ มจี ิตสาธารณะ
9. หลกั ฐานการเรียนรู้
9.1 ชนิ้ งาน/ภาระงาน
- กจิ กรรมคน้ หาการจัดเรียงอิเล็กตรอน
- เอกสารประกอบการเรยี น เรือ่ ง การจดั เรยี งอเิ ล็กตรอนในอะตอม
10. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ : วิธสี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E)
ข้นั ท่ี 1 ขัน้ สรา้ งความสนใจ
ชั่วโมงที่ 1-2
1. ครูตั้งคำถามเพื่อนำเข้าสู่บทเรียนเกี่ยวกับการจัดเรียงอิเล็กตรอน โดยการตั้งคำถาม
กระตุ้นความคดิ ดงั น้ี
- “จากการศึกษาของโบร์ ได้เสนอแบบจำลองอะตอมว่ามีลักษณะอย่างไร” แล้วให้นักเรยี น
ตวั แทนออกมาเขียนแบบจำลองบนกระดานดำและอธิบายลกั ษณะของแบบจำลองหน้าช้ันเรียน
2. ครูยกตัวอย่างธาตมุ า 1 ชนดิ แลว้ ถามคำถาม ดงั น้ี
- “จากธาตทุ ก่ี ำหนดให้ นกั เรียนคิดว่า มอี นุภาคมลู ฐานอย่างไร”
- “หากเป็นไปตามแบบจำลองอะตอมของโบร์ อิเลก็ ตรอนของธาตุท่ีกำหนดให้มีการจัดเรียง
ตวั อยา่ งไร”
3. ครูให้นักเรียนศึกษาข้อมูลในตาราง 2.5 จากนั้นถามนักเรียนว่า “ในระดับพลังงานที่ 1
และ 2 มีจำนวนอิเลก็ ตรอนสงู สดุ เทา่ ใด” (แนวคำตอบ 2 และ 8 ตามลำดับ)
4. ครูถามคำถามเพิ่มเติมว่า “ถ้าในระดับพลังงานท่ี 3 มีจำนวนอิเล็กตรอนสูงสุด 18
อิเล็กตรอน ระดับพลังงานกับจำนวนอิเล็กตรอนสูงสุดในแต่ละระดับพลังงานมีความสัมพันธ์กันหรือไม่
อย่างไร” (แนวคำตอบ จำนวนอเิ ล็กตรอนสงู สดุ กบั ระดับพลังงานมคี วามสัมพนั ธ์ดงั น้ี คอื 2n2 เมื่อ n คือตวั เลข
แสดงระดับพลังงาน)
5. ครูแสดงจำนวนอิเล็กตรอนในแต่ละระดับพลังงานของธาตุ K (2 8 8 1) และ Ca (2 8 8
2) จากนน้ั ตงั้ คำถามว่า “จากสูตร 2n2 จำนวนอเิ ลก็ ตรอนสูงสุดในระดับพลังงานที่ 3 ควรเป็น 18 อิเล็กตรอน
แตเ่ พราะเหตใุ ดอิเล็กตรอนในระดบั พลังงานท่ี 3 ของธาตุ K และ Ca จงึ มีเพยี ง 8 อิเล็กตรอน”
ข้นั ท่ี 2 ขั้นสำรวจและคน้ หา
6. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนและให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมารับการ์ดธาตุ กลุ่มละ 5
การด์ พร้อมบอกว่ากล่มุ ตนเองได้ธาตุอะไรบา้ ง
7. ครูให้นักเรียนเล่นกิจกรรมค้นหาการจัดเรียงอิเล็กตรอน โดยให้นักเรียนใช้ Application
Rapp Chemistry ที่ครไู ด้ให้นักเรยี นไปโหลด โดยครอู ธบิ ายวิธีการใชก้ อ่ นเลน่ กิจกรรม
8. ครูสาธิตให้นักเรียนดูการใช้ Application Rapp Chemistry ส่องไปยังการ์ดธาตุ แล้ว
สังเกตส่วนประกอบท่ีปรากฏขึน้ จากหนา้ จอโทรศพั ทท์ ี่นักเรียนเห็น และดูว่ามกี ารจัดเรยี งอิเล็กตรอนหรอื ไม่
และธาตุที่ครใู ห้แตล่ ะกลุม่ มกี ารจัดเรยี งอเิ ลก็ ตรอนอย่างไร
ช่ัวโมงที่ 3
ขน้ั ท่ี 3 ข้นั อธิบายและลงขอ้ สรุป
9. ครูสุ่มเลขที่ของนักเรียน นักเรียนที่อยู่ในกลุ่มนัน้ และสมาชิกในกลุ่มต้องช่วยกันบอกว่า
จากที่เล่นกิจกรรมไปนักเรียนเห็นส่วนประกอบอะไรบ้าง (แนวคำตอบ เช่น ธาตุ 6C จะเห็นการจัดเรียง
อิเล็กตรอนแบบหลัก ชื่อธาตุ การย่อการจัดเรียงอิเล็กตรอน มวล อะตอม ภาพสามมิติของการจัดเรียง
อิเลก็ ตรอน)
10. ครใู ห้ความรู้ในเร่ืองระดับพลงั งานหลักและระดับพลังงานย่อยของอิเล็กตรอนในอะตอม
ซึ่งควรได้สาระสำคัญดังนี้
- ในระดับพลังงานหลกั แบง่ เปน็ ระดบั พลงั งานย่อย คอื s p d f ตามลำดับ
- ในระดับพลังงานหลกั ท่ี 1–4 มีจำนวนระดบั พลังงานยอ่ ยตา่ ง ๆ ดังนี้
พลังงานหลักท่ี 1 มีระดบั พลังงานย่อยคือ 1s
พลงั งานหลกั ที่ 2 มรี ะดับพลงั งานยอ่ ยคอื 2s 2p
พลงั งานหลักที่ 3 มีระดบั พลังงานย่อยคอื 3s 3p 3d
พลงั งานหลกั ท่ี 4 มรี ะดบั พลังงานยอ่ ยคือ 4s 4p 4d 4f
- ระดับพลงั งานย่อยในระดบั พลังงานหลักเดยี วกนั มีค่าพลังงานแตกต่างกนั
เชน่ 2p มพี ลังงานมากกว่า 2s
- ลำดบั ระดับพลงั งานที่บรรจอุ เิ ล็กตรอนไม่จำเป็นต้องเรียงตามพลงั งานหลักเสมอ
เชน่ 4s มีพลังงานต่ำกวา่ 3d ดังนัน้ จงึ บรรจุอิเลก็ ตรอนใน 4s ก่อน 3d
11. ครูใหค้ วามรู้เพม่ิ เตมิ วา่ การจดั เรยี งอเิ ล็กตรอนในอะตอมอาจเขียนแบบย่อ โดยแทนการ
จดั เรยี งอเิ ล็กตรอนบางสว่ นดว้ ยแกนแก๊สมีสกุล (noble gas core) ซ่ึงใชส้ ญั ลกั ษณ์ของแก๊สมีสกุลที่อยู่ในคาบ
ก่อนหน้าไว้ในวงเล็บเหลี่ยม ตามด้วยสัญลักษณ์แสดงการบรรจุอิเล็กตรอนในระดับพลังงานย่อยที่อยู่ชั้นถดั
ออกไป
12. ครูตั้งคำถามว่า การที่ธาตุเกิดเป็นไอออน มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนอนุภาคชนิดใดของ
อะตอม (แนวคำตอบวา่ อเิ ล็กตรอน ซงึ่ ไอออนลบเกิดจากอะตอมรับอเิ ลก็ ตรอนเพมิ่ เขา้ มา สว่ นไอออนบวกเกดิ
จากอะตอมเสียอเิ ล็กตรอนออกไป)
ชวั่ โมงท่ี 4
ขั้นท่ี 4 ข้ันขยายความรู้
13. ใหค้ วามรู้เพ่ิมเตมิ เกยี่ วกับการจัดเรยี งอิเล็กตรอน ดังน้ี
- กรณีที่ธาตุไดร้ ับอเิ ล็กตรอน ให้บรรจุอิเลก็ ตรอนปกติรวมกับอเิ ลก็ ตรอนทร่ี ับเข้ามา
ตามลำดับระดบั พลงั งานโดยอาศัยแผนภาพตามหลกั เอาฟบาว เช่น
- กรณีทธ่ี าตุเสียอเิ ล็กตรอน ใหบ้ รรจุอิเลก็ ตรอนตามปกตกิ ่อน จากนั้นจึงนำ
อิเล็กตรอนทีอ่ ยูช่ ั้นนอกสุดออก เชน่
ข้นั ที่ 5 ขั้นประเมนิ ผล
14. ใหน้ กั เรยี นทำโจทยใ์ นเอกสารประกอบการเรียนเรอ่ื ง การจดั เรียงอิเลก็ ตรอนในอะตอม
10. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
10.1 เอกสารประกอบการเรยี น เรอ่ื ง การจัดเรียงอเิ ล็กตรอนในอะตอม
10.2 ส่อื การสอน PowerPoint
10.3 Application Rapp Chemistry
10.4 หนังสือเรยี นรายวิชาเพ่มิ เติมวิทยาศาสตร์ เคมีเล่ม 1 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4
(ฉบับปรงั ปรุง พ.ศ.2560)
11. การวัดและประเมินผล
เปา้ หมาย วิธีวัด เคร่อื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ
ด้านความรู้
บอกความแตกต่างของ การอภิปรายระหวา่ งเรียน เอกสารประกอบการเรยี น ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 60
ระดบั พลังงานหลกั พลังงาน และตรวจเอกสาร
ยอ่ ย และออร์บทิ ลั (K) ประกอบการเรยี น
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ
จัดเร ียง อิเล็กตรอนใน ตรวจเอกสารประกอบการ เอกสารประกอบการเรยี น ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60
อะตอมได้ เมื่อทราบเลข เรยี น
อะตอมของธาตุ พร้อมท้ัง
ระบุ หมู่ คาบ และกลุ่มของ
ธาตุในตารางธาตุ (P)
ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ
ประสงค์
ใฝ่เรียนรู้ 1. ประเมนิ จากการสังเกต 1. แบบประเมนิ พฤตกิ รรม ระดบั คณุ ภาพพอใชข้ ้ึนไป
พฤติกรรมในช้ันเรียน ในช้ันเรยี น (ผ่านเกณฑ์)
เป้าหมาย วิธวี ดั เครือ่ งมือวัด เกณฑ์การประเมิน
มงุ่ ม่ันในการทำงาน 1. ประเมนิ จากการสังเกต
มวี นิ ยั พฤติกรรมในชน้ั เรียน 1. แบบประเมนิ พฤติกรรม ระดบั คุณภาพพอใชข้ น้ึ ไป
ด้านสมรรถนะสำคัญของ 1. ประเมินจากการสงั เกต
ผ้เู รียน พฤติกรรมในช้ันเรยี น ในช้นั เรียน (ผา่ นเกณฑ์)
ความสามารถในการส่อื สาร
1. ประเมนิ จากแบบ 1. แบบประเมนิ พฤติกรรม ระดับคณุ ภาพพอใชข้ ึ้นไป
ความสามารถในการคิด ประเมนิ สมรรถนะ ด้าน
ความสามารถในการ ในชนั้ เรียน (ผา่ นเกณฑ์)
ความสามารถในการใช้ ส่อื สาร
ทกั ษะชวี ติ 1. ประเมนิ จากแบบ 1. แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพพอใชข้ ึน้ ไป
ประเมินสมรรถนะ
ความสามารถในการ ความสามารถในการคิด สำคญั ของผู้เรยี น (ผ่านเกณฑ์)
แกป้ ญั หา 1. ประเมินจากแบบ
ประเมินสมรรถนะ 1. แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคุณภาพพอใช้ขน้ึ ไป
ความสามารถในการใช้ ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี ทกั ษะชวี ติ สำคัญของผู้เรยี น (ผา่ นเกณฑ์)
1. ประเมินจากแบบ
ประเมินสมรรถนะ 1. แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คุณภาพพอใชข้ น้ึ ไป
ความสามารถในการ
แกป้ ัญหา สำคัญของผเู้ รียน (ผ่านเกณฑ์)
1. ประเมนิ จากแบบ
ประเมินสมรรถนะ 1. แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคณุ ภาพพอใช้ขน้ึ ไป
ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี สำคญั ของผเู้ รียน (ผ่านเกณฑ์)
1. แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพพอใช้ขนึ้ ไป
สำคญั ของผ้เู รียน (ผ่านเกณฑ์)
บันทึกหลังสอน
1. ผลการสอน
⬜ สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้
⬜ สอนไมไ่ ดต้ ามแผนการจดั การเรยี นรู้ เนอ่ื งจาก .................................................................
................................................................................................................................................................................
2. ผลการเรยี นของนกั เรยี น
⬜ จำนวนนักเรียนทผ่ี า่ นการประเมิน .......................... คน คิดเป็นร้อยละ .........................
⬜ จำนวนนกั เรยี นทไี่ มผ่ ่านการประเมิน ....................... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ........................
⬜ อ่ืนๆ .................................................................................................................................
3. ปัญหาและอปุ สรรค
⬜ กิจกรรมการจดั การเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา
⬜ มีนักเรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ ันตามกำหนดเวลา
⬜ มนี ักเรียนทีไ่ ม่สนใจเรยี น
⬜ อ่ืนๆ ...................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
⬜ ควรนำแผนไปปรบั ปรุง เรื่อง ............................................................................................
...............................................................................................................................................................................
⬜ แนวทางแกไ้ ขนกั เรยี นท่ีไมผ่ ่านการประเมนิ .....................................................................
................................................................................................................................................................................
⬜ ไมม่ ีข้อเสนอแนะ
ลงช่อื ...................................................... ผู้บันทึก
(นางสาวณฐั ธดิ า ดวงสมร)
ครผู สู้ อน
บันทึกหลังการสอน ตามแผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้ ได้รับการพิจารณาจากแผนกวิชาและฝ่าย
วชิ าการแล้ว
ลงช่อื ......................................................
(นางสาวอกั ษรวดี มณีพรหม)
กลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ
ลงชอ่ื ....................................................
(นายพรศกั ดิ์ ทวรี ส)
ผู้อำนวยการโรงเรยี นตะกั่วทงุ่ งานทวีวิทยาคม
แบบประเมินพฤตกิ รรมในชัน้ เรยี น
วิชา ......................................... แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ .............................................................................
ภาคเรยี นท.่ี ...............................ปีการศึกษา.....................................ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี................................
ครผู ้สู อน……….......………..…………………………………..........................วนั ทป่ี ระเมนิ ………........……………………
คำชี้แจง : ใหค้ รูบันทกึ โดยใชเ้ ครื่องหมาย ✓ = แสดงพฤติกรรมทพ่ี ึงประสงค์ตามคาดหวัง = ไมแ่ สดง
พฤติกรรมที่พึงประสงคต์ ามคาดหวัง
มุ่งม่ันใน
เลขท่ี ชื่อ-สกุล ใฝ่เรียนรู้ การ มวี นิ ยั รวมคะแนน (9)
ทำงาน
123123123
ลงชอื่ .....................................................ผ้ปู ระเมนิ
()
เกณฑก์ ารประเมนิ
พฤติกรรมสมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 3 คะแนน
พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องบางสว่ น ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
7 - 9 ดี
4 - 6 พอใช้
ต่ำกวา่ 4 ปรับปรงุ
4 คะแนนขนึ้ ไป ผา่ นเกณฑ์
แบบการประเมินสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
วิชา ......................................... แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ .............................................................................
ภาคเรียนท่.ี ...............................ปีการศึกษา.....................................ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี................................
ครผู ูส้ อน……….......………..…………………………………..........................วันทป่ี ระเมนิ ………........……………………
คำชี้แจง : ให้ครูสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน และเขียนคะแนน 3, 2, 1 ลงในช่องสมรรถนะสำคัญของ
ผเู้ รยี น
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
เลขท่ี ชือ่ -นามสกลุ ความสามารถใน รวมคะแนน
การ ่ืสอสาร (15)
ความสามารถใน
การ ิคด
ความสามารถใน
การใ ้ช ัทกษะ ีชวิต
ความสามารถใน
การแก้ ัปญหา
ความสามารถใน
การใ ้ชเทคโนโล ีย
ลงช่อื .....................................................ผู้ประเมนิ
()
เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คะแนน
สมรรถนะสำคญั ของ
ผเู้ รยี น 32 1
มีการรบั -สง่ สาร แต่ใช้ภาษา
ความสามารถในการ มีการรบั -สง่ สาร การ มกี ารรบั -สง่ สาร การ ในการถา่ ยทอดความรู้
สื่อสาร ความคิด และเลือกวธิ ีการ
ถ่ายทอดความรู้ ความคิด ถ่ายทอดความรู้ ความคิด ส่อื สารที่ไม่เหมาะสม
ความสามารถในการคดิ
โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม สามารถคิดวิเคราะห์
ความสามารถในการใช้ สงั เคราะห์ คิดอย่างมี
ทักษะชวี ิต และเลอื กวิธีการสอื่ สารท่ี แตเ่ ลือกวธิ กี ารสอ่ื สารยงั ไม่ วจิ ารณญาณ แต่ไมม่ ีการคดิ
นอกกรอบอย่างสร้างสรรค์
ความสามารถในการ เหมาะสม เหมาะสม และขาดความสามารถใน
แก้ปญั หา การสร้างองค์ความรู้
สามารถคิดวิเคราะห์ สามารถคิดวิเคราะห์ เรียนรดู้ ว้ ยตนเองไดด้ ี
ความสามารถในการใช้ สามารถทำงานกลุ่มรว่ มกบั
เทคโนโลยี สังเคราะห์ มกี ารคดิ นอก สังเคราะห์ มกี ารคดิ นอก ผู้อืน่ ได้ แตจ่ ดั การปัญหา
ความขดั แย้งไมไ่ ด้
กรอบอยา่ งสรา้ งสรรค์ คิด กรอบอยา่ งสรา้ งสรรค์ คดิ สามารถแกป้ ัญหาและ
อปุ สรรคต่างๆ ได้ แต่ขาด
อย่างมีวจิ ารณญาณ อยา่ งมีวิจารณญาณ การแสวงหาความรู้มาใช้ใน
การแกไ้ ขปัญหา และไม่
และมีความสามารถสร้าง แตย่ งั ไม่สามารถสรา้ งองค์ สามารถตัดสินใจได้
เหมาะสม
องค์ความรู้ ความรู้ได้ เลือกและใช้เทคโนโลยีได้
เหมาะสม แตม่ ีทกั ษะ
เรยี นรดู้ ้วยตนเองได้ดี เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองได้ดี กระบวนการทางเทคโนโลยี
นอ้ ย และขาดคุณธรรม
สามารถทำงานกลมุ่ ร่วมกบั สามารถทำงานกล่มุ ร่วมกบั จรยิ ธรรมในการใช้
เทคโนโลยี
ผ้อู น่ื ได้ และจดั การปัญหา ผอู้ ่ืนได้ แต่จดั การปัญหา
ความขดั แยง้ ได้เหมาะสม ความขดั แยง้ ได้ไมเ่ หมาะสม
สามารถแกป้ ญั หาและ สามารถแกป้ ญั หาและ
อปุ สรรคตา่ งๆ ได้ มีการ อุปสรรคตา่ งๆ ได้ มกี าร
แสวงหาความรู้มาใช้ในการ แสวงหาความรู้มาใชใ้ นการ
แกไ้ ขปัญหา และสามารถ แกไ้ ขปัญหา แต่ขาดการ
ตัดสินใจได้เหมาะสม ตัดสินใจที่เหมาะสม
เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยีได้ เลอื กและใช้เทคโนโลยีได้
เหมาะสม มีทกั ษะ เหมาะสม มีทักษะ
กระบวนการทางเทคโนโลยี กระบวนการทางเทคโนโลยี
และมีคุณธรรม จริยธรรม แตข่ าดคุณธรรม จรยิ ธรรม
ในการใช้เทคโนโลยี ในการใช้เทคโนโลยี
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ระดับคุณภาพ
ช่วงคะแนน ดี
10 - 15 พอใช้
4-9 ปรบั ปรุง
ตำ่ กว่า 4 ผ่านเกณฑ์
4 คะแนนข้นึ ไป