48
ภาพผลงานทสี่ า้ เร็จของเด็ก
ภำพผลงำนที่สำเรจ็ ของเด็ก
( จำนวน 1-2 ภำพ )
ผลท่ีเกดิ กับเด็ก ( ตำมจุดประสงค์ของกจิ กรรมพัฒนำกำรควำมสำมำรถพน้ื ฐำน 4 ดำ้ น และพัฒนำกำร 4 ดำ้ น )
1. ผลทเ่ี กิดขนึ ตามจดุ ประสงค์
1.1 เดก็ เรียนรู้และมคี วำมเขำ้ ใจในเร่อื งกำรลอยและกำรจม
1.2 เด็กปฏิบัตกิ ำรทดลองเรอื แบบใดบรรทุกนำ้ หนกั ได้มำกทีส่ ุด ร่วมสนทนำและตอบคำถำมได้
2. พฒั นาการความสามารถพนื ฐานและพฒั นาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ดา้ นการเรยี นรู้ / ดา้ นภาษา / สติปญั ญา
เด็กได้รู้ว่ำรูปแบบเร่ืองที่มีลักษณะท้องแบนและมีพื้นที่ผิวเรือที่สำมรถสัมผัสกับน้ำได้มำก จะลอยตัว
ในน้ำได้ดีท่ีสุด และบรรทุกลูกแก้วได้มำกท่ีสุด นอกจำกลักษณะของเรือแล้ว ยังมีปัจจัยเรื่องควำม
สมดุลในกำรวำงลกู แก้วดว้ ย
2.2 ด้านสังคม
1. เดก็ สำมำรถปฏบิ ตั ติ นในกำรทดลองตำมขอ้ ตกลงร่วมกับคนอ่นื ได้
2. เดก็ รู้จักกำรรอคอย กำรเป็นผู้ใหแ้ ละเปน็ ผรู้ บั
2.3 ดา้ นอารมณ์ - จติ ใจ
1. เด็กเขำ้ ร่วมกำรทดลองไดอ้ ยำ่ งมีควำมสขุ
2. เดก็ ชน่ื ชมยอมรับควำมสำมำรถและผลงำนของตนเองและของผอู้ ่นื
2.4 ดา้ นการเคล่ือนไหวรา่ งกาย
1. เด็กสำมำรถตรวจสอบกำรทดลองดว้ ยประสำทสมั ผสั ทัง้ 5
2. เด็กใชก้ ล้ำมเนื้อใหญแ่ ละกลำ้ มเน้ือเล็กในกำรทดลองอยำ่ งคลอ่ งแคล่ว
49
รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบา้ นนักวทิ ยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย
กจิ กรรมที่ 16 ชื่อกจิ กรรม ลูกขา่ งหลากสี
จุดประสงค์
1. เพ่อื ให้เด็กรู้และประดิษฐ์ลูกข่ำงไดแ้ ละบอกไดว้ ่ำทำไมเรำจึงมองไมเ่ ห็นสแี ละลำยบนลกู ข่ำง
ขณะทีห่ มนุ อยู่
2. เพอ่ื ให้เด็กสำมำรถปฏบิ ัติกำรทดลองลกู ขำ่ งหลำกสี
3. เพื่อให้เด็กสำมำรถแสดงควำมคิดเหน็ และตอบคำถำมได้
ขันตอนการจัดกจิ กรรม
1. ครูและเด็กสนทนำเก่ียวกับกำรหมุนของสิ่งต่ำงๆ ทำให้เรำไม่สำมำรถมองเห็นสีต่ำงๆ ได้ชัดเจน
เช่น กำรหมนุ ร่วมกนั แดด กำรเตะลกู ฟตุ บอล
2. ให้เด็กวำดวงกลมโดยแผ่นซีดีเป็นแบบและตัดออกมำ แล้วระบำยสีลงบนแผ่นกระดำษตำมใจ
ชอบ
3. ใชก้ ำวตดิ แผ่นซีดีกับแผน่ กระดำษวงกลมที่ระบำยสี
4. เจำะรูบนกระดำษให้ตรงกบั ตำแหนง่ ของรูบนแผน่ ซีดี
5. วำงลกู แก้วบนรูแผ่นซีดี ยึดใหแ้ น่นด้วยดินน้ำมนั
6. เดก็ ๆ หมุนลกู ข่ำงแผ่นซีดีกับพน้ื สังเกตลำยและสีบนลกู ขำ่ งมกี ำรเปลย่ี นแปลงอย่ำงไร บนั ทึกผล
กำรทดลอง
7. ครูและเด็กช่วยกันสรุปผลกำรทดลอง ตำของเรำไม่สำมำรถแยกสีกับภำพได้เมอ่ื หมุนลูกข่ำงดว้ ย
ควำมเร็วจึงมองเหน็ เป็นสผี สม
วัสดอุ ปุ กรณท์ ่ใี ช้ในการท้าการทดลอง
ภำพวัสดุ/อปุ กรณ์
ท่ใี ช้ในกำรทำกจิ กรรม
( จำนวน 1 ภำพ )
50
ภาพเด็กทา้ กิจกรรม
เด็กทำกิจกรรม
( จำนวน 2-3 ภำพ )
ภาพเด็กน้าเสนอผลงาน
ภำพเด็กนำเสนอผลงำน
( จำนวน 1-2 ภำพ )
51
ภาพผลงานที่ส้าเร็จของเดก็
ภำพผลงำนทสี่ ำเรจ็ ของเด็ก
( จำนวน 1-2 ภำพ )
ผลทเ่ี กดิ กบั เด็ก ( ตำมจุดประสงค์ของกิจกรรมพัฒนำกำรควำมสำมำรถพื้นฐำน 4 ดำ้ น และพัฒนำกำร 4 ดำ้ น )
1. ผลท่เี กดิ ขนึ ตามจดุ ประสงค์
1.1 เด็กสำมำรถบอกได้ว่ำทำไมตำเรำจึงไม่สำมำรถมองเห็นลำยและสีบนลูกข่ำงขณะท่ีหมุนเร็วได้
เพรำะเกิดเป็นภำพลวงตำขณะทล่ี กู ขำ่ งหมุนดว้ ยควำมเรว็ จงึ มองเหน็ เปน็ สีผสม
1.2 เด็กสำมำรถปฏิบตั ิกำรทดลองลกู ขำ่ งหลำกสไี ด้
1.3 เดก็ สำมำรถแสดงควำมคดิ เหน็ และตอบคำถำมได้
2. พฒั นาการความสามารถพืนฐานและพฒั นาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรยี นรู้ / ดา้ นภาษา / สติปัญญา
1. เด็กปฏิบัติกำรทดลองลูกข่ำงหลำกสีทำให้รู้ว่ำขณะท่ีลูกข่ำงกำลังหมุนทำให้เกิดกำร
เปล่ยี นแปลงสอี ย่ำงรวดเร็ว เซลลร์ บั สใี นตำของเรำจะไม่สำมำรถแยกแยะสีท่ีเปลีย่ นแปลงได้ทันที
จงึ เห็นสีต่ำงๆ ผสมกันเปน็ สเี ดียว
2.2 ด้านสงั คม
1. เดก็ สำมำรถปฏิบัตติ นในกำรทดลองตำมข้อตกลงรว่ มกบั คนอืน่ ได้
2. เดก็ รู้จักกำรรอคอย กำรเปน็ ผใู้ หแ้ ละเปน็ ผูร้ บั
2.3 ด้านอารมณ์ - จิตใจ
1. เดก็ เข้ำรว่ มกำรทดลองได้อย่ำงมีควำมสขุ
2. เด็กช่ืนชมยอมรบั ควำมสำมำรถและผลงำนของตนเองและของผ้อู ืน่
2.4 ด้านการเคล่อื นไหวร่างกาย
1. เด็กสำมำรถตรวจสอบกำรทดลองดว้ ยประสำทสัมผสั ทง้ั 5
2. เด็กใช้กล้ำมเนอื้ ใหญแ่ ละกล้ำมเนอื้ เล็กในกำรทดลองอย่ำงคล่องแคลว่
52
รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านนกั วทิ ยาศาสตรน์ อ้ ย ประเทศไทย
กิจกรรมที่ 17 ชอ่ื กิจกรรม ลมออ่ นๆ พัดผา่ นห้อง
จุดประสงค์
1. เพ่ือใหเ้ ดก็ มที ักษะกำรสงั เกต
2. เพอ่ื ใหเ้ ดก็ ไดเ้ รียนรู้เร่อื งอำกำศเคล่อื นไหวได้
3. เพอื่ ให้เดก็ ได้เรยี นรเู้ ร่อื งแรงลม
ขันตอนการจดั กจิ กรรม
1. ครชู วนเด็กสนทนำเกยี่ วกบั ลมพัดเด็กเคยพบเห็นว่ำเปน็ ไรบ้ำง
2. ครจู ะพำเดก็ ๆทำกิจกรรมลมออ่ นพดั ผ่ำนหอ้ ง โดยใหเ้ ด็กพับกระดำษให้เป็นพดั เพอื่ ใช้สร้ำง “ลม”
อ่อนๆ ในห้อง
3. ครูกระตนุ้ โดยใช้คำถำมถำ้ เรำจะทำลมออ่ นๆ ในห้องด้วยวิธีอนื่ อกี หรอื ไม่ โดยครมู ีอปุ กรณใ์ ห้ คือ
กลอ่ งกระดำษ ใหเ้ ดก็ ๆเจำะรทู ีก่ ล่องกระดำษ แล้วใชก้ ระดำษกำว ตดิ ขอบกลอ่ งกระดำษทุกด้ำนเพ่ือปอ้ งกนั
ไมใ่ ห้ลมผ่ำนออกไปได้
5. ให้เด็กสองคนนง่ั หนั หน้ำเข้ำหำกันแล้วให้เด็กคนหน่งึ ใช้มือตดี ้ำนขำ้ ง แลว้ ให้เด็กอกี คนหนึง่ สังเกต
วำ่ เกดิ อะไรข้ึนกับตัวเขำบ้ำง
6. จำกนนั้ ครูจุดเทยี นแล้ววำงกลอ่ งกระดำษท่มี ีรหู นั ไปหำเทยี น
7. เด็กใชม้ อื ตีขำ้ งของกลอ่ งกระดำษ เดก็ ๆสังเกตเห็นว่ำเกิดอะไรกบั เทียน
8. เดก็ นำลกู ปิงปองมำวำงแล้วใชม้ อื ตีขำ้ งกลอ่ งกระดำษ เดก็ ๆสงั เกตเหน็ ว่ำลูกปงิ ปองกลงิ้ ไปมำ
9. เด็กบนั ทึกผลกำรทดลอง
10. เดก็ นำเสนอผลงำน
11. เดก็ และครรู ว่ มกนั สรปุ เร่ืองอำกำศสำมำรถเคลอ่ื นทไ่ี ดแ้ ละเมื่ออำกำศเคลื่อนทจี่ ะทำใหเ้ กิดลม
เมอ่ื อำกำศเคลือ่ นท่เี รว็ และแรงจะทำใหเ้ กิดพำยุ นอกจำกน้ี พลงั ลมจะทำให้วัตถุลอยได้ เชน่ กระดำษปลวิ
ผ้ำปลวิ หรือว่ำว แรงลมจะมีกำลงั มำกหรอื นอ้ ยขนึ้ อย่กู บั ระยะทำงและทก่ี ระทำให้เกดิ ลมด้วย
วสั ดอุ ปุ กรณ์ท่ใี ช้ในการท้าการทดลอง
ภำพวัสดุ/อุปกรณ์
ที่ใช้ในกำรทำกจิ กรรม
( จำนวน 1 ภำพ )
53
ภาพเด็กทา้ กิจกรรม
เด็กทำกิจกรรม
( จำนวน 2-3 ภำพ )
ภาพเด็กน้าเสนอผลงาน
ภำพเด็กนำเสนอผลงำน
( จำนวน 1-2 ภำพ )
54
ภาพผลงานทส่ี า้ เรจ็ ของเด็ก
ภำพผลงำนที่สำเร็จของเด็ก
( จำนวน 1-2 ภำพ )
ผลท่ีเกิดกับเด็ก (ตำมจดุ ประสงคข์ องกจิ กรรม พฒั นำควำมสำมำรถพื้นฐำน 4 ดำ้ น และพัฒนำกำร 4 ดำ้ น)
1. ผลทีเ่ กิดขน้ึ ตำมจุดประสงค์
1.1 เด็กมที ักษะกำรสังเกตขณะทำกิจกรรมได้
1.2 เดก็ เขำ้ ใจเรอ่ื งอำกำศเคล่ือนไหวได้ เรียกว่ำ ลม
1.3 เดก็ สำมำรถนำวสั ดุมำทดลอง และเข้ำใจได้ว่ำแรงลมและระยะทำงว่ำมคี วำมแตกตำ่ งกัน
จะสง่ ผลต่อส่งิ กรีดขวำงไดต้ ่ำงกนั
1. พฒั นำกำรควำมสำมำรถพืน้ ฐำน และพฒั นำกำรของเดก็ ปฐมวยั
2.1 ดำ้ นกำรเรียนรู้ / ดำ้ นภำษำ / สติปญั ญำ
1. เดก็ ได้เรียนร้เู ร่อื ง ลมคืออำกำศเคล่ือนไหว พลงั ลมทำให้วตั ถเุ คล่อื นท่ีได้
ลมจะแรงหรือเบำขนึ้ อยกู่ บั แรงกระทำและระยะทำง สำมำรถทำให้เทียนดบั ได้
2. เด็กใช้ทักษะกำรฟังจำกส่ิงที่เพ่ือนสนทนำ ซักถำม โต้ตอบ ตอบคำถำม แสดงควำม
คิดเห็นจำกสง่ิ ทตี่ นเองคิด อธิบำยสิง่ ทีพ่ บเหน็ วำดภำพสอ่ื สำรส่งิ ไดเ้ รียนรู้จำกทำกิจกรรมไดช้ ดั เจน
3. เด็กสว่ นใหญส่ ำมำรถทำกำรทดลองและเชื่อมโยงสง่ิ ทีไ่ ด้เกดิ ข้ึนจำกกำรลงมือทำ
กิจกรรมดว้ ย ตนเอง เม่อื นำกล่องกระดำษมำเจำะรู และออกแรงตีกล่องเหมือนกำรตบมือ จะทำใหเ้ กดิ แรงลม
และทำใหเ้ ทียนดับได้ หรอื ทำใหล้ ูกบอลพลำสตกิ เคลอ่ื นท่ไี ด้
2.2 ดำ้ นสังคม
1. เด็กๆ ไดท้ ำกิจกรรมร่วมกบั เพอ่ื น รจู้ กั มำรยำทในกำรฟงั กำรพดู ยกมอื กอ่ นจะพูด
ควบคุม ตนเองปฏิบัติตำมข้อตกลงร่วมกันได้ เออื้ เฟอ้ื แบง่ ปนั รอคอยได้ รบั ฟงั ควำมคิดเห็นของผอู้ ื่น สนทนำ
แลกเปล่ยี นควำมคดิ เหน็ ระหว่ำงทำกิจกรรม
2.3 ด้ำนอำรมณ์ - จติ ใจ
1. แสดงออกทำ่ ทำงสีหน้ำย้ิมแย้ม แจ่มใส ต่นื เต้นกับส่ิงที่ได้ลงมอื ปฏบิ ตั ิ สนุกสนำนกับ
กิจกรรมกำรทดลอง
2.4 ดำ้ นกำรเคลอ่ื นไหว / รำ่ งกำย
1. เดก็ ได้ใช้กล้ำมเนื้อเล็ก - ใหญ่ ในกำรทำกิจกรรมไดอ้ ย่ำงคลอ่ งแคลว่ เชน่ กำรหยิบจับ
อุปกรณ์ ในกำรทำกิจกรรมไดอ้ ย่ำงคล่องแคล่ว
55
รายงานผลการจดั กิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านนกั วิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย
กิจกรรมท่ี 18 ช่อื กจิ กรรม รู้จักเหลีย่ มและมมุ
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เดก็ ทำกจิ กรรมรู้จักกบั เหลยี่ มและมุมได้อย่ำงสนกุ สนำน
2. เพ่ือใหเ้ ดก็ สำมำรถทำงำนรว่ มกนั เป็นกลุ่มได้
3. เพอ่ื ให้เดก็ ไดร้ ว่ มสนทนำโต้ - ตอบขณะทำกจิ กรรม
ขันตอนการจัดกิจกรรม
1. ครแู ละเดก็ รว่ มกันรอ้ งเพลง “นีค่ ือร่ำงกำย”
2. ครสู นทนำพูดคุยเก่ียวกับรูปร่ำงและรปู ทรงเพอ่ื นำเขำ้ สู่บทเรียนโดยใชค้ ำถำมดงั นี้
- นกั เรียนรจู้ กั รูปร่ำงและรูปทรงอะไรบำ้ ง
3. ครูสรำ้ งข้อตกลงกอ่ นทำกจิ กรรม ดังน้ี
- ตั้งใจฟังครูอธบิ ำย
- แบง่ อุปกรณ์ให้กับเพ่ือนๆดว้ ย
- ถำ้ สงสัยให้ยกมอื กอ่ นถำม
4. ครูแนะนำอุปกรณ์ สำธติ วธิ กี ำรทำกิจกรรมรูจ้ ักกบั เหลยี่ มและมุม ดังนี้
- ชว่ ยกันวำดรปู เรขำคณติ ต่ำงๆ เชน่ รปู สำมเหลย่ี ม รูปส่ีเหลย่ี ม และรูปหกเหลีย่ มลงบน
กระดำษแขง็ โดยให้ทกุ ด้ำนและทุกมุมเทำ่ กันแลว้ ตัดออก จำกนั้นถำมเด็กๆวำ่ รปู
เรขำคณติ ใดทีม่ มี มุ จำนวนมมุ ทเ่ี ห็นมอี ย่เู ทำ่ ไร
- ให้เดก็ ๆชว่ ยกันหำควำมสัมพนั ธ์ระหว่ำงจำนวนด้ำนและมุม เชน่ รปู สำมเหลี่ยมมี 3 ด้ำน ก็
จะมมี ุมภำยใน 3 มุม เป็นต้น
- นำรปู เรขำคณติ ท่ตี ดั ใสล่ งในกระเป๋ำหรอื ถุงทึบใหเ้ ท่ำกับจำนวนเดก็
- ครกู ำหนดใหเ้ ด็กสลับกนั ลว้ งรูปเรขำคณิตในถุงโดยไมต่ อ้ งมองและแสดงใหเ้ พื่อนดู
- จำกนนั้ ครแู ละเด็กช่วยกันหำส่ิงของในห้องเรียนท่มี ีลกั ษณะเปน็ รูปเหลี่ยม แลว้ ใหบ้ นั ทกึ ว่ำ
เจอรปู เรขำคณติ ชนดิ ใดบำ้ ง มจี ำนวนก่รี ูป เพ่อื ตรวจสอบดวู ่ำพบรปู เรขำคณิตใดมำกทส่ี ดุ
และนอ้ ยท่ีสดุ
- นำเชือกหรอื ไหมพรมหนง่ึ เส้น ผกู ปลำยทั้ง 2 ดำ้ นเขำ้ ด้วยกันเป็นห่วงเชอื ก จำกนั้นใหเ้ ด็ก
3 คน จบั เชือกคนละตำแหน่งดึงเชอื กให้ตงึ จนเป็นรูปสำมเหล่ียม
- หำวธิ ีสร้ำงรูปสำมเหล่ียมดำ้ นเท่ำจำกเชือก
- ให้เด็กอกี 1 คน เข้ำมำจับเชือกเพ่ิมจนได้รูปสเี่ หลยี่ ม
- หำวธิ สี ร้ำงรปู ส่เี หล่ยี มจตั ุรัส
- เพ่ิมจำนวนเด็กจบั เชอื กให้ด้ำนมำกขึ้นเรือ่ ยๆจนทำให้เกดิ รปู ห้ำเหลี่ยมด้ำนเท่ำ รูปหก
เหลย่ี มดำ้ นเท่ำ จนเกือบเป็นรูปวงกลม
- ให้เดก็ ๆสรำ้ งรูปทม่ี มี มุ ซับซ้อนขึ้น เชน่ ลกู ศร รูปดำว หรืออน่ื ๆ เป็นตน้ จำกนัน้ ให้เด็กๆนับ
จำนวนมมุ
56
5. ครูสังเกต แนะนำและบันทึกคำพูดเด็กที่ทำกจิ กรรมของตนเอง
6. ครแู ละเดก็ สรปุ กิจกรรมกำรสนทนำรว่ มกนั ดงั นี้
- เดก็ ๆไดเ้ รียนรู้ว่ำรอบตัวมสี ิง่ ท่ีประกอบด้วยรปู เรขำคณติ มำกมำย
- ส่วนกำรใช้เชือกสร้ำงรูปเรขำคณิต ทำให้ทรำบว่ำมีรูปเรขำคณิตอีกหลำกหลำยรูป
นอกจำกน้ันกำรเปล่ียนตำแหนง่ กำรจับเชือกจะทำใหร้ ู้ว่ำรปู เรขำคณิตชนิดเดียวกนั ก็ยงั มีอกี
หลำยแบบ ข้ึนอยู่กับควำมยำวด้ำนแต่จำนวนมุมเท่ำเดิม และเมื่อเด็กที่จับเชือกมีจำนวน
เพม่ิ ขึ้นจะทำใหร้ ูปเรขำคณิตมจี ำนวนด้ำนมุมเพมิ่ ขน้ึ จนเกือบจะเปน็ วงกลม
7. ครชู มเชยเด็กทีม่ ีควำมต้งั ใจในกำรทำกิจกรรม
8. เด็กและครชู ่วยกันเกบ็ อุปกรณ์และทำควำมสะอำดอุปกรณ์
วสั ดุอุปกรณ์ทใ่ี ช้ในการท้าการทดลอง
ภำพวัสด/ุ อปุ กรณ์
ทใ่ี ช้ในกำรทำกิจกรรม
( จำนวน 1 ภำพ )
ภาพเด็กทา้ กจิ กรรม
57
ภาพเด็กนา้ เสนอผลงาน
ภำพเดก็ นำเสนอผลงำน
( จำนวน 1-2 ภำพ )
ภาพผลงานทส่ี ้าเรจ็ ของเดก็
ภำพผลงำนท่สี ำเรจ็ ของเด็ก
( จำนวน 1-2 ภำพ )
ผลที่เกดิ กบั เดก็ ( ตำมจุดประสงคข์ องกจิ กรรมพัฒนำกำรควำมสำมำรถพน้ื ฐำน 4 ด้ำน และพฒั นำกำร 4 ดำ้ น )
1. ผลทีเ่ กิดขึนตามจดุ ประสงค์
1.1 เดก็ ทำกำรทดลองและบอกไดว้ ำ่ รปู เรขำคณติ จะมีจำนวนของดำ้ นเทำ่ กับจำนวนของมุมเสมอ
1.2 เด็กสำมำรถปฏิบัตกิ ำรทดลองรจู้ กั เหลยี่ มและมุม ทำงำนรว่ มกนั เปน็ กลุ่มได้
1.3 เดก็ สำมำรถรว่ มสนทนำโต้-ตอบขณะทำกิจกรรมได้
2. พัฒนาการความสามารถพืนฐานและพฒั นาการของเดก็ ปฐมวัย
2.1 ดา้ นการเรยี นรู้ / ดา้ นภาษา / สตปิ ญั ญา
1. เดก็ สำมำรถสรุปและอธิบำยตำมควำมคดิ ของตนเองในกำรทำกิจกรรมรจู้ กั เหลย่ี มและมุม
และร้จู กั ใช้ภำษำในกำรส่อื สำรให้ผู้อื่นเข้ำใจได้
2.2 ดา้ นสังคม
1. เด็กทำงำนรว่ มกนั อย่ำงมคี วำมสุข ยอมรับ และปฏบิ ตั ติ ำมขอ้ ตกลงเป็นผู้นำและผ้ตู ำมทีด่ ี
2.3 ดา้ นอารมณ์ - จติ ใจ
1. เด็กมคี วำมกระตือรอื ร้นในกำรทำกจิ กรรมกำรทดลอง มีควำมสขุ ในกำรทำกิจกรรม
2.4 ดา้ นการเคลือ่ นไหวรา่ งกาย
1. เดก็ ได้ใชก้ ลำ้ มเนอ้ื มอื ในกำรบงั คบั ให้ขงึ เชอื กคนละดำ้ น ใชม้ อื ดึงเชอื กใหต้ งึ เพ่ือใหเ้ ชือกทีไ่ ด้
เป็นรูปเรขำคณิตตำ่ งๆ
58
รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านนกั วทิ ยาศาสตร์นอ้ ย ประเทศไทย
กิจกรรมท่ี 19 ชื่อกจิ กรรม ทอรน์ าโดในขวด
จุดประสงค์
1. เพื่อใหเ้ ดก็ รแู้ ละเข้ำใจเรอ่ื งอำกำศมตี วั ตน
2. เพื่อใหเ้ ด็กสำมำรถปฏิบัติกำรทดลองทอรน์ ำโดในขวดได้
3. เพือ่ ใหเ้ ดก็ สำมำรถแสดงควำมคิดเห็นและตอบคำถำมได้
ขนั ตอนการจัดกจิ กรรม
1. ครูรว่ มสนทนำกับเด็กเก่ียวกับประสบกำรณ์เดิมท่เี ดก็ ๆเคยเห็นในชีวิตประจำวนั ขวดเปลำ่ น้ันว่ำง
เปล่ำจริงๆหรอื ไม่ มีอะไรซ่อนอยู่หลังจำกปล่อยให้นำ้ ไหลออกจำกอำ่ งอำบนำ้ และพำยุทอรน์ ำโด
เกยี่ วข้องกับเรอื่ งนี้อย่ำงไร
2. ให้เดก็ นง่ั รว่ มกันเปน็ กลมุ่ ใหญ่ซ่ึงสำมำรถมองเห็นกำรทดลอง กำรทดลองบนโตะ๊ ทตี่ ั้งอยู่กลำงห้อง
เพือ่ ให้เด็กๆ สังเกตกำรทดลองไดร้ อบโต๊ะ
3. ครูแนะนำอุปกรณ์กำรทดลอง ไดแ้ ก่ ขวด PET 2 ใบ ( ควำมจอุ ย่ำงน้อย 1 ลิตร ) ขอ้ ตอ่ เช่ือมขวด
สผี สมอำหำรหรือสีนำ้ นำ้ ยำล้ำงจำน
4. ใหเ้ ด็กสังเกตกำรณท์ ดลองโดย ครทู ดลองใหด้ กู อ่ น
5. ทำกำรทดลองบนโต๊ะ เพื่อให้เด็กๆ มองแก้วจำกด้ำนบนหรอื ดำ้ นขำ้ งได้สะดวก
6. ข้อต่อสำหรับเชื่อมขวดสำมำรถทำขึ้นเองได้ ด้วยกำรเจำะรูฝำขวด 2 ฝำ กว้ำง 8 มิลลิเมตร แล้ว
ยดึ กันด้วยกระดำษกำว หรอื จกุ ไม้กอ๊ กท่ีเจำะทะลกุ ไ็ ดเ้ ช่นกัน
7. เติมน้ำใสข่ วดใบหนึง่ ประมำณ 2/3 ส่วน และหยดสีผสมอำหำรลงไป
8. หมุนข้อต่อให้ติดแนน่ กับขวดใบที่เติมนำ้ แล้วนำขวดเปล่ำอีกใบวำงคล่ำลงด้ำนบนและหมุนปิดให้
แน่นเช่นกนั
9. ถำมเดก็ ๆ ว่ำจะเกดิ อะไรขน้ึ เม่ือพลิกขวดกลับด้ำน
10. พลกิ ขวดกลับดำ้ นให้ขวดเปลำ่ อยดู่ ำ้ นล่ำง
11. ทำไมนำ้ ในขวดบนจงึ ไม่ไหลลงมำในขวด “เปล่ำ” ลองช่วยกันคดิ หำวธิ ที ำให้น้ำไหลลงมำ
12. กระตุ้นให้เด็กๆ คิหสวิธีทำให้น้ำไหลจำกขวดบนลงขวดล่ำง กลุ่มใดสำมำรถทำให้น้ำไหลลงมำได้
กอ่ น เด็กๆ จะพยำยำมเอียง เขย่ำ หรอื กดขวดทั้งสองใบ
13. ลองกดขวดทงั้ สองใบทงั้ ดำ้ นบนและด้ำนลำ่ งแลว้ สงั เกตเห็นอะไรบ้ำง
14. ต้ังหัวข้อสนทนำว่ำก่อนอื่นตอ้ งมีพ้ืนท่ีว่ำงเพอ่ื ให้น้ำไหลลงข้ำงล่ำงและอำกำศเคลื่อนท่ีข้ึนด้ำนบน
ได้ เมื่อเพิ่มแรงดันด้วยกำรบีบขวดใบล่ำง ฟองอำกำศจะเคล่ือนท่ีข้ึนด้ำนบน ด้ำนล่ำงจึงมีพ้ืนท่ี
ว่ำงและรับนำ้ เขำ้ มำแทนที่
15. สร้ำง “พำยุทอร์นำโด” โดยใช้มือข้ำงหนึ่งจับขวดล่ำงส่วนมืออีกข้ำงจับขวดด้ำนบนและหมุนคลำย
เกลียวอย่ำงรวดเร็ว เด็กบำงคนอำจจะทำไม่ได้ทันทีแต่กำรฝึกฝนจะทำให้ชำนำญข้ึนและเกิดควำม
สนุกสำนำ
16. เด็กและครูร่วมกันสรุปผลกำรทดลองเรื่อง ทอร์นำโดในขวด ซ่ึงจำกกำรสังเกตกำรณ์ทดลองพบวำ่
ในตอนแรกน้ำจะไหลจำกขวดบนลงขวดล่ำง แต่เม่อื ใชม้ ือบีบขวดล่ำง จะสังเกตเหน็ ฟองอำกำศลอย
ขน้ึ ดำ้ นบน และน้ำปริมำตรเท่ำกันจะไหลลงขวดล่ำงเมอื่ ปล่อยมือ เมือ่ บีบขวดบน น้ำจะพุ่งเป็นสำย
ลงด้ำนล่ำง เมอ่ื หยุดสร้ำงแรงดนั ฟองอำกำศปรมิ ำตรเท่ำกนั จะลอยขนึ้ ดำ้ นบน เมือ่ หมุนขวดจะเกิด
59
สมดุลของนำ้ และอำกำศข้นึ พร้อมๆ กนั อำกำศจะเคล่ือนตัวผ่ำน “ตำ” น้ำวนไปด้ำนบน และทำให้
น้ำไหลผ่ำนผิวด้ำนขำ้ งขวดลงดำ้ นล่ำง
17. ให้เดก็ บนั ทึกผลกำรทดลองเร่ือง ทอร์นำโดในขวด โดยกำรวำดภำพแล้วระบำยสีให้สวยงำม
วสั ดอุ ุปกรณ์ท่ีใช้ในการทา้ การทดลอง
ภำพวสั ด/ุ อปุ กรณ์
ที่ใช้ในกำรทำกิจกรรม
( จำนวน 1 ภำพ )
ภาพเด็กท้ากจิ กรรม
ภาพเด็กนา้ เสนอผลงาน
ภำพเดก็ นำเสนอผลงำน
( จำนวน 1-2 ภำพ )
60
ภาพผลงานท่สี า้ เรจ็ ของเดก็
ภำพผลงำนที่สำเรจ็ ของเด็ก
( จำนวน 1-2 ภำพ )
ผลทเี่ กิดกับเดก็ ( ตำมจุดประสงคข์ องกจิ กรรมพฒั นำกำรควำมสำมำรถพนื้ ฐำน 4 ด้ำน และพัฒนำกำร 4 ด้ำน )
1. ผลทเ่ี กิดขนึ ตามจุดประสงค์
1.1 เดก็ สำมำรถเรยี นรู้และเขำ้ ใจเรือ่ งอำกำศมตี วั ตน
1.2 เด็กสำมำรถปฏิบตั กิ ำรทดลองทอร์นำโดในขวดได้
1.3 เดก็ สำมำรถแสดงควำมคิดเห็นและตอบคำถำมได้
2. พัฒนาการความสามารถพืนฐานและพัฒนาการของเดก็ ปฐมวยั
2.1 ดา้ นการเรยี นรู้ / ดา้ นภาษา / สตปิ ญั ญา
1. เดก็ ปฏบิ ตั ิกำรทดลองทำใหร้ วู้ ่ำอำกำศมีตวั ตน อำกำศต้องกำรทอ่ี ยแู่ ละของทั้งสองสงิ่
( น้ำกับอำกำศ ) ไม่สำมำรถอยูใ่ นท่เี ดียวกนั ณ เวลำเดยี วกันได้
2.2 ด้านสงั คม
1. เด็กสำมำรถปฏบิ ัตติ นในกำรทดลองตำมข้อตกลงร่วมกบั คนอน่ื ได้
2. เดก็ รู้จักกำรรอคอย กำรเป็นผู้ใหแ้ ละเปน็ ผูร้ ับ
2.3 ด้านอารมณ์ - จติ ใจ
1. เด็กเขำ้ รว่ มกำรทดลองไดอ้ ยำ่ งมีควำมสุข
2. เดก็ ชนื่ ชมยอมรบั ควำมสำมำรถและผลงำนของตนเองและของผู้อ่ืน
2.4 ดา้ นการเคลอ่ื นไหวร่างกาย
1. เด็กสำมำรถตรวจสอบกำรทดลองด้วยประสำทสัมผัสทง้ั 5
2. เดก็ ใชก้ ล้ำมเนอ้ื ใหญแ่ ละกล้ำมเนอ้ื เลก็ ในกำรทดลองอย่ำงคลอ่ งแคล่ว
61
รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง ตามโครงการบ้านนักวทิ ยาศาสตร์นอ้ ย ประเทศไทย
กจิ กรรมที่ 20 ช่ือกจิ กรรม สถานเี ตมิ ลม
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กรแู้ ละเข้ำใจอำกำศมตี ัวตนและอำกำศต้องกำรท่ีอยู่
2. เพอื่ ให้เดก็ สำมำรถปฏบิ ัติกำรทดลองสถำนีเติมลมได้
3. เพอื่ ให้เด็กสำมำรถแสดงควำมคิดเหน็ และตอบคำถำมได้
ขันตอนการจดั กิจกรรม
1. ครูร่วมสนทนำกับเด็กเกี่ยวกับประสบกำรณ์เดิมท่ีเด็กๆเคยเห็นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่ำจะเป็น
ทรำย นำ้ หรือน้ำผลไม้ เรำสำมำรถถ่ำยเทจำกภำชนะหนึง่ ไปยงั ภำชนะอ่ืนได้ และมองเห็นได้
ว่ำเกิดอะไรข้ึน แล้วอำกำศที่เรำมองไม่เห็นล่ะเป็นอย่ำงไร เรำต้องกำรอำกำศเพื่ออะไร และ
ระฆังดำนำ้ ของนกั ดำน้ำทำงำนอย่ำงไร
2. ให้เด็กนั่งร่วมกันเป็นกลุ่มใหญ่ซ่ึงสำมำรถมองเห็นกำรทดลอง กำรทดลองบนโต๊ะท่ีตั้งอยู่กลำง
ห้อง เพอ่ื ใหเ้ ดก็ ๆ สงั เกตกำรทดลองได้รอบโต๊ะ
3. ครแู นะนำอุปกรณ์กำรทดลอง มีอ่ำงแกว้ สีผสมอำหำร แกว้ น้ำ ผ้ำเชด็ มือ นำ้ หลอดดูดแบบ
งอได้ ถว้ ยเทยี น เจลลี่รูปหมี
4. ใหเ้ ดก็ สังเกตกำรณท์ ดลองโดย ครูทดลองใหด้ กู ่อน
5. เติมน้ำลงไปในอ่ำงและใช้หลอดดูดเป่ำอำกำศลงไปในน้ำ เด็กๆ สังเกตเห็นอะไรบ้ำง
ฟองอำกำศเกิดข้ึนไดอ้ ยำ่ งไร และมลี กั ษณะอย่ำงไร
6. เติมนำ้ ให้สงู ¾ ส่วนของอำ่ งและเตมิ สผี สมอหำรลงไป นำแก้วมำ 1 ใบ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ำ
ภำยในแกว้ แห้ง คว่ำแกว้ ลงและคอ่ ยๆ กดแกว้ ลงไปในน้ำใหต้ ้ังฉำกกบั ผิวน้ำ
7. เดก็ ๆ ต้องออกแรงกดแก้วเพม่ิ ขนึ้ เป็นพิเศษหรอื ไม่ แก้วสำมำรถลอยอยู่ในนำ้ ได้เองหรือไม่
8. ค่อยๆ ดงึ แก้วออกจำกน้ำ สังเกตผิวด้ำนในของแก้ววำ่ เปยี กหรือแห้ง หลงั จำกน้นั ให้ควำ่ แกว้ ลง
เหมือนเหมือนเดิมและกดแก้วลงไปในแนวดิ่งจนแก้วจมมิดลงไปใต้น้ำ จำกน้ันให้เอียงแก้ว
เลก็ นอ้ ย สงั เกตเกดิ อะไรขึ้น มีอะไรผดุ ออกมำจำกแก้ว
9. นำแก้วขนึ้ จำกนำ้ ภำยในแก้วยงั คงแห้งอยู่เหมือนเดมิ หรอื ไม่
10. เด็กๆ มีวิธีดกั จบั ฟองอำกำศท่ผี ดุ ออกมำจำกแก้วท่ีเอยี งได้หรือไม่ ลองทำตำมวิธดี ังตอ่ ไปนี้
11. ขั้นแรก วำงแกว้ ใบเลก็ หงำยลงในอ่ำงแล้วเตมิ นำ้ ลงไปในอ่ำงจนทว่ มแกว้ จำกน้นั จงึ จบั แกว้ คว่ำ
ลง
12. ค่อยๆ ดึงแก้วข้ึนมำเล็กน้อย โดยให้ปำกแก้วยังคงอยู่ใต้น้ำ ใช้มืออีกข้ำงหน่ึงดันแก้วขนำดก
ลำงลงในน้ำ โดยควำ่ แก้วลง ไมใ่ ห้ฟองอำกำศผุดออกมำได้
13. เด็กๆ สำมำรถกดแก้วขนำดกลำงลงในน้ำและเอียงแก้วเพ่ือดักจับฟองอำกำศด้วยแก้วใบเล็กไป
พร้อมกนั ไดห้ รือไม่ ถ้ำทำไดใ้ หเ้ ดก็ ๆ ถำ่ ยฟองอำกำศจำกแกว้ ขนำดกลำงไปยังแกว้ ใบเลก็
14. เดก็ และครรู ว่ มกนั สรุปผลกำรทดลองเรอ่ื ง สถำนีเตมิ ลม อำกำศเกิดจำกอนุภำคขนำดเลก็ ซึง่ เรำไม่
สำมำรถมองเหน็ และอำกำศก็ตอ้ งกำรทีอ่ ยู่เช่นเดยี วกัน ดังนนั้ แมเ้ รำจะมองไม่เหน็ อำกำศแต่ใน
แกว้ น้ำกไ็ มไ่ ดว้ ำ่ งเปล่ำ เพรำะมอี ำกำศอยูเ่ ตม็ แก้ว
15. ใหเ้ ด็กบันทกึ ผลกำรทดลองเร่ือง สถำนเี ติมลม โดยกำรวำดภำพแลว้ ระบำยสใี หส้ วยงำม
62
วสั ดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทา้ การทดลอง
ภำพวัสด/ุ อปุ กรณ์
ทใ่ี ช้ในกำรทำกิจกรรม
( จำนวน 1 ภำพ )
ภาพเด็กท้ากิจกรรม
ภาพเดก็ นา้ เสนอผลงาน
ภำพเดก็ นำเสนอผลงำน
( จำนวน 1-2 ภำพ )
63
ภาพผลงานทสี่ ้าเร็จของเดก็
ภำพผลงำนทส่ี ำเร็จของเด็ก
( จำนวน 1-2 ภำพ )
ผลท่ีเกิดกับเดก็ ( ตำมจุดประสงค์ของกจิ กรรมพฒั นำกำรควำมสำมำรถพื้นฐำน 4 ดำ้ น และพฒั นำกำร 4 ดำ้ น )
1. ผลทีเ่ กิดขึนตามจุดประสงค์
1.1 เดก็ สำมำรถเรยี นรแู้ ละเข้ำใจอำกำศมตี วั ตนและอำกำศต้องกำรทอี่ ยู่
1.2 เดก็ สำมำรถปฏิบัตกิ ำรทดลองสถำนีเตมิ ลมได้
1.3 เดก็ สำมำรถแสดงควำมคิดเห็นและตอบคำถำมได้
2. พัฒนาการความสามารถพืนฐานและพัฒนาการของเดก็ ปฐมวัย
2.1 ดา้ นการเรียนรู้ / ดา้ นภาษา / สติปญั ญา
1. เดก็ ปฏบิ ัติกำรทดลองทำให้รวู้ ่ำอำกำศมีตัวตนและอำกำศตอ้ งกำรที่อยู่ โดยอำศยั อำกำศ
มนี ้ำหนกั เบำกว่ำนำ้ อำกำศจึงลอยขึ้นด้ำนบนผวิ นำ้ และจะเคลอื่ นทข่ี ึน้ เปน็ แนวเส้นตรงเสมอ
2.2 ดา้ นสังคม
1. เดก็ สำมำรถปฏบิ ัติตนในกำรทดลองตำมขอ้ ตกลงรว่ มกับคนอ่นื ได้
2. เด็กรจู้ ักกำรรอคอย กำรเป็นผู้ใหแ้ ละเป็นผ้รู ับ
2.3 ด้านอารมณ์ - จิตใจ
1. เดก็ เขำ้ ร่วมกำรทดลองได้อย่ำงมคี วำมสขุ
2. เด็กชน่ื ชมยอมรบั ควำมสำมำรถและผลงำนของตนเองและของผู้อืน่
2.4 ดา้ นการเคล่อื นไหวรา่ งกาย
1. เด็กสำมำรถตรวจสอบกำรทดลองด้วยประสำทสมั ผสั ทัง้ 5
2. เด็กใช้กล้ำมเนอื้ ใหญ่และกล้ำมเน้ือเล็กในกำรทดลองอย่ำงคลอ่ งแคล่ว
64
ภาคผนวก
65
รำยชื่อนกั เรียนชน้ั อนุบำลปที ่ี 2 ปกี ำรศกึ ษำ 2564
ลา้ ดบั ท่ี ชือ่ – นามสกุล
1. เดก็ ชายณภทั ร คาภิระ
2. เด็กชายเทวกฤต ต๊ิบตุ้ย
3. เด็กชายธราธิป กองสอน
4. เดก็ ชายธีรภัทร อรยิ ะวงค์
5. เดก็ ชายนนั ทพิ ัฒน์ ไชยทะมาตร
6. เดก็ ชายภูมิมินทร์ พุม่ สระ
7. เด็กชายอดริ ัตน์ คาสุรนั ทร์
8. เด็กชายอัครวฒั น์ เชษฐ์สิริพฒั
9. เดก็ หญิงกานตพ์ ิชชา ต๊ะตบิ๊
10. เดก็ หญิงจฑุ าลกั ษณ์ ใจฝ้นั
11. เด็กหญงิ ณัฐณิชา ทานะ
12. เดก็ หญิงณัฐรนิ ีย์ วงคศ์ รี
13. เดก็ หญงิ พิชญาภคั คุ้มแสง
14 เด็กหญิงรวิภา สิทธิกา
15 เด็กหญงิ อภสิ รา ปาปะสี
16 เด็กหญิงอรปรยี า สดี าโชติ
17 เดก็ หญงิ กมลชนก สิทธิบรู ณ์
66
รำยชือ่ นกั เรียนชน้ั อนุบำลปีที่ 3 ปีกำรศึกษำ 2564
ล้าดบั ท่ี ชอื่ – นามสกลุ
1. เดก็ ชายกนกพล สใุ จ
2. เด็กชายกฤติเดช ใหม่ตา
3. เด็กชายณัฐสิทธิ์ ขันต๊ะ
4. เดก็ ชายนธั ทวฒั น์ แสงสวา่ ง
5. เด็กชายพิชิตชยั ปั้นเหล็ก
6. เดก็ ชายภาคิน พรมภริ ะ
7. เด็กชายวรปรัชญ์ ธติ า
8. เด็กชายศิวกร มายะ
9. เดก็ ชายศุภชยั พงษ์ ยะเสน
10. เด็กชายธรี ภทั ร เก็งวินิจกลุ
11. เด็กชายศภุ ณัฐ ใจทะมาตร์
12. เด็กหญิงบุญญาดา ศรีนรคดุ
13. เด็กหญิงวรารัตน์ ยาแกว้
14 เด็กหญงิ วริศรา ใจบุญมา
15 เดก็ หญิงอภชิ ญา ปนั นิตย์
16 เดก็ หญิงอารดา เชียงสา
17 เด็กชายธนกร มีเพ็ชร
18 เดก็ ชายฐิตพิ งษ์ วารี
67