48
ผลทเี่ กิดกับเดก (ตามจุดประสงค์ของกิจกรรม พฒนาความสามารถพนื้ ฐาน4 ด้าน และพฒนาการ 4 ดา้ น)
1. ผลท่เี กดิ ขน้ ตามจุดประสงค์
1.1 เด็กๆไดฝ้ กทกษะการสงเกตอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนกิ ส์ทใี่ ชใ้ นชีวิตประจาวน
1.2 เด็กๆไดเ้ รยี นรู้เร่ืองคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณอ์ เิ ล็กทรอนิกสใ์ นชวี ติ ประจาวน
1.3 เด็กๆไดส้ ารวจอปุ กรณ์ดจิ ิตอลท่มี รี ะบบคอมพวิ เตอร์ควบคุมการทางาน
1.4 เดก็ ๆไดร้ ู้วา่ ในชีวติ ประจาวนมคี วามเกี่ยวข้องกบวทิ ยาการคานวณอยตู่ ลอดเวลา
2. พฒนาการความสามารถพ้ืนฐานและพฒนาการของเดก็ ปฐมวย
2.1 ด้านการเรียนร/ู้ ดา้ นภาษา/สตปิ ัญญา
ดา้ นการเรียนรู้ เด็กๆไดเ้ รยี นรู้ว่า ในชีวิตประจาวนของเรามคี วามเกย่ี วขอ้ งกบวทิ ยาการคานวณอยู่
ตลอดเวลา เบอื้ งหลงระบบการทางานของอปุ กรณท์ เ่ี ราใช้ในชีวิตประจาวน เชน่ กล้องถา่ ยรปู ดจิ ิตอล
เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ สมารท์ โฟน แท็บเล็ต พซี ี ต่าง ๆ ระบบคอมพวิ เตอร์ที่คอบควบคุมสญญาณจราจร
และอนื่ ๆ ซ่งท้งหมดนน้ มีกระบวนการประมวลผลคาสง่ ทเ่ี ป็นระบบขน้ ตอนหรอื แบบอลกอริทม
(Algorith) และมลี าดบการทางานท่ีชดเจนหรอื ชุดคาส่ง ( Software )ในระบบปฏบิ ตกิ ารน้นเปน็ ส่งิ ท่ี
สาคญอย่างยิ่งในการทางาน
ด้านภาษา
- การฟงั เด็กใช้ทกษะการฟังจากสิ่งที่เพอื่ นสนทนาซกถาม โต้ตอบ
- การพดู ตอบคาถาม บอกเหตุจากสง่ิ ทต่ี นเองคิด อธบิ ายส่ิงทพี่ บเหน็
- การอา่ น อ่านตามใบกิจกรรมท่ีครอู า่ นใหฟ้ งั
- การเขยี น เด็กส่วนใหญ่วาดภาพสอ่ื สารส่งิ ไดเ้ รยี นรู้จากกจิ กรรมได้ชดเจน บางคนเขียน
คล้ายตวหนงสอื บางคนเขยี นลอกขอ้ ความได้ถกู ตอ้ ง
ดา้ นสติปัญญา
เดก็ ส่วนใหญ่สามารถเช่ือมโยงสิ่งทีไ่ ด้ทดลอง ลงมือทากจิ กรรมด้วยตนเองกบสง่ิ ทเ่ี กิดข้น
และเข้าใจวา่ ระบบคอมพวิ เตอร์ทค่ี อบควบคุมสญญาณจราจรและอ่ืน ๆ ซง่ ทง้ หมดน้นมกี ระบวนการประมวลผล
คาส่งทเี่ ปน็ ระบบขน้ ตอนหรือ แบบอลกอริทม(Algorith) และมลี าดบการทางานท่ีชดเจนหรอื ชุดคาส่ง (
Software )ในระบบปฏิบตกิ ารน้นเปน็ สงิ่ ที่สาคญอยา่ งยิง่ ในการทางาน
2.2 ด้านสงคม
เดก็ ๆ ไดท้ ากจิ กรรมร่วมกบเพือ่ น ๆ รจู้ กตนเอง มมี ารยาทในการฟงั พดู การควบคมุ ตนเอง
สามารถปฏิบติตามข้อตกลงร่วมกนได้ เอื้อเฟือ้ แบง่ ปัน รอคอยได้ รบฟงั ความคดิ เห็นของผ้อู นื่
2.3 ด้านอารมณ–์ จิตใจ
แสดงออกทางสีหนา้ ยิม้ แย้ม แจ่มใส สนกุ สนานดีใจ ตื่นเตน้
2.4 ดา้ นการเคลอื่ นไหว
เด็กได้ใช้กลา้ มเนือ้ เล็ก- ใหญ่ ในการทากจิ กรรมได้อย่างคลอ่ งแคล่ว เช่น ใช้สายตาและมอื ในการ
การทดลองอย่างคลอ่ งแคล่ว เป็นต้น
49
สรุปกิจกรรมการทดลอง 20 กิจกรรม
กจิ กรรมท่ี 11 ปมั้ ขวดและลิฟตเ์ ทียน
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กสามารถอธิบายการเคลือ่ นที่ของอากาศได้
2. เพื่อใหเ้ ด็กร้จู กสงเกต เปรียบเทียบ ความรอ้ น ความเยน็ ของน้าได้
3. เพอ่ื ใหเ้ ดก็ สามารถอธบิ ายและรบรู้ความรอ้ นและความเยน็ ได้
ขน้ั ตอนการจัดกิจกรรม
1. เด็กและครรู ว่ มสนทนากนเกี่ยว อากาศรอ้ น อากาศหนาว และน้าเย็น น้ารอ้ นว่ามีผลต่อรา่ งกาย
อย่างไรบา้ ง
2. ครูใช้คาถามกระต้นุ การคิดเด็กเกยี่ วกบอากาศต่อสภาพรา่ งกาย ดงน้ี
- เด็กๆคิดวา่ อากาศหนาว ร่างกายจะเปน็ อย่างไรคะ เดก็ ส่วนใหญบ่ อกว่า ร่างกายจะต้องการความอบอุน่
3. ครูให้เดก็ ๆไปยืนตากแดด 1 นาที แล้วให้อธิบายความรู้สกว่าเปน็ อย่างไรบา้ ง เดก็ ส่วนใหญ่บอกว่า
ร้อน และสงเกตคนข้างๆว่าเร่มิ เหง่อื ไหล
4. ครูอธิบายอุปกรณก์ ารทดลอง คือ น้าเย็น น้าร้อน ขวดพลาสตกิ สีผสมอาหาร จานพลาสตกิ
5. ครูสาธิตเบ้ืองตนและอธิบายขน้ ตอนการทดลองและให้เด็กๆ ทดลองโดยมคี รูดแู ลอย่างใกล้ชิด
ดงน้ี
5.1 ให้เด็กๆ ผสมสแี ล้วเทลงบนจานพลาสตกิ
5.2 ครูเติมน้ารอ้ นลงในขวดประมาณครง่ ขวดและปดิ ฝา
5.3 ให้เด็กผลดกนเขย่าจนกระทง่ รสู้ กวา่ ผิวของขวดร้อน
5.4 ให้เด็กเทน้ารอ้ นในขวดออกและคว่าปากขวดลงบนจานที่มนี า้ สที นที
5.5 รอสกครู่และให้เด็กๆ สงเกตการณ์เปลี่ยนแปลงท่เี กิดข้น
6. ใหเ้ ด็ก ๆ บนทกผลการทดลองท่เี กิดขน้
7. เดก็ ออกมานา้ เสนอผลการทดลองของตนเองให้เพื่อนๆและครฟู ัง
8. เดก็ และครูร่วมกนสรุป ว่าอากาศร้อนจะขยายตวจงต้องการทอ่ี ยเู่ พ่มิ ขน้ อากาศเยน็ จะหดตวจง
ตอ้ งการท่ีอยูน่ อ้ ยลง เม่ือตง้ ขวดไว้บนจานจะสงเกตเห็นว่าน้าถกู ดูดเข้าไปในขวด ระดบนา้ ในขวดจะ
เพ่ิมขน้ ในชว่ งระยะเวลาหนง่ เมอื่ แตะขวดจะร้สู กว่าอุณหภมู ขิ องขวดลดลงตลอดเวลา จนกระท่งอากาศใน
ขวดมอี ุณหภมู ิเทา่ กบอุณหภมู ิห้อง
50
ภาพกิจกรรม การทดลองเร่อง ป้มั ขวดและลิฟต์เทียน
วสดุ-อุปกรณ์ ครูอธบิ ายอปุ กรณแ์ ละข้นตอนการทดลอง
เด็กๆรว่ มกนแสดงความคิดเห็นขณะทดลอง เดก็ ๆ ทาการทดลอง
เด็กนาเสนอผลงาน ภาพผลงานทส่ี าเรจ็ ของเด็ก
51
ผลทเี่ กิดกับเดก (ตามจุดประสงค์ของกจิ กรรม พฒนาความสามารถพนื้ ฐาน4 ด้าน และพฒนาการ 4 ดา้ น)
1. ผลท่เี กิดขน้ ตามจุดประสงค์
1.1 เดก็ สามารถอธบิ ายการเคล่อื นทขี่ องอากาศได้
1.2 เดก็ ๆ สามารถเปรยี บเทยี บ ความร้อน ความเยน็ สามารถจาแนกลกษณะของความร้อนความ
เย็นได้
2. ด้านการเรยี นร/ู้ ด้านภาษา สตปิ ัญญา
2.1 ด้านการเรียนรู้ เด็กๆ พบวา่ เม่ือต้งขวดไวบ้ นจานจะสงเกตเห็นวา่ นา้ ถกู ดูดเข้าไปในขวด ระดบ
นา้ ในขวดจะเพ่ิมขน้ ในช่วงระยะเวลาหน่ง เมือ่ แตะขวดจะรูส้ กว่าอุณหภูมิของขวดลดลงตลอดเวลา
จนกระทง่ อากาศในขวดมอี ุณหภูมเิ ท่ากบอุณหภูมิห้อง
ภาษา
- การฟัง เด็กใช้ทกษะการฟังเสียง จากการสนทนาซกถาม โต้ตอบ
- การพูด ตอบคาถาม บอกเหตุจากสิ่งที่ตนเองคดิ อธบิ ายส่งิ ทพ่ี บเหน็
- การอ่าน อา่ นตามใบกิจกรรมท่ีครูอา่ นให้ฟงั
- การเขยี น เด็กสว่ นใหญ่วาดภาพสอื่ สารสง่ิ ได้เรยี นรู้จากกิจกรรมได้ชดเจน บางคนเขยี น
สือ่ สารคล้ายตวหนงสอื บางคนเขียนลอกขอ้ ความไดถ้ กู ตอ้ ง
ด้านสติปัญญา
เดก็ ส่วนใหญ่สามารถเช่ือมโยงสิง่ ทีไ่ ด้ทดลอง ลงมือทากิจกรรมดว้ ยตนเองกบสง่ิ ท่เี กิดข้น
เช่น การผสมสี การเขย่าขวด การถอื ปากขวดให้จุ่มลงในนา้ สีเพ่ือดกู ารเปล่ียนแปลง การเคล่อื นที่ของนา้ ในขวด
2.2 ด้านสงคม
เดก็ ๆได้ทากจิ กรรมร่วมกบเพ่ือน รู้จกมารยาทในการฟัง การพดู ควบคมุ ตนเอง ปฏิบติตาม
ขอ้ ตกลงรว่ มกนได้ เออ้ื เฟ้อื แบ่งปนั รอคอยได้ รบฟังความคิดเห็นของผูอ้ ืน่
2.3 ดา้ นอารมณ์–จิตใจ
แสดงออกทางสีหน้ายมิ้ แย้ม แจม่ ใส สนุกสนานดีใจ ตนื่ เต้น
2.4 ดา้ นการเคล่อื นไหว
เด็กได้ใช้กล้ามเน้ือเล็ก- ใหญ่ ในการทากจิ กรรมไดอ้ ย่างคลอ่ งแคลว่
52
สรุปกิจกรรมการทดลอง 20 กจิ กรรม
กิจกรรมท่ี 18 โลกของสีสนั และลวดลายพศิ วง
จุดประสงค์
1. เพอ่ื ใหเ้ ด็กได้ทดสอบการเปล่ียนแปลงของสีจากภาพทมี่ องเหน็
2. เพื่อใหเ้ ดก็ ได้สงเกตการเปลี่ยนแปลงของสีที่เกดิ ข้นผา่ นแผ่นพลาสตกิ ใสหลากสีสน
ข้นตอนการจดกิจกรรม
1. ครู สนทนาเกยี่ วกบกจิ วตรประจาวนเม่อื ใส่แว่นตากนแดด จะมองเหน็ ภาพเปน็ อย่างไรบ้าง สีเหมือนกบ
ตอนท่ีไม่ใสแ่ ว่นตาหรือไม่อยา่ งไร และทาไมจงเกดิ ปรากฎการณ์เชน่ นน้ และนาเขา้ สู่ข้นตอนการทดลอง
วนน้ี
2. ครูแนะนาอุปกรณ์ในการทดลอง ดงนี้ กระดาษสีขาว แผ่นพลาสติกใสสตี ่าง ๆ เชน่ แดง เขียว นา้ เงิน
เหลอื ง
3. เริม่ การทดลองโดยให้เด็ก ๆ รบแผน่ พลาสติกใส คนละ 1 ใบและมองผา่ นแผ่นพลาสติกใสไปรอบๆ และ
ถามเดก็ ๆ วา่ วตถรุ อบตวจะมกี ารเปลยี่ นแปลงอย่างไร ใหส้ งเกตความแตกต่างเมอื่ มองผ่านแผ่นพลาสติก
ใสสีต่าง ๆ
นอ้ งววิ : สีของตน้ ไม้เปลย่ี นไปจากท่เี คยมองเหน็ ค่ะ มที ้งสเี ขยี ว ฟา้ แดง เหลอื ง คะ่
4. ใหน้ กเรยี นวาดภาพตามใจตนเองดว้ ยหมกสนี า้ เงินและหมกสีเขียว จากนน้ ให้วางแผน่ พลาสตกิ และขยบไป
มาบนภาพ ชา้ ๆ และถามกระตุ้นเด็กๆวา่ มกี ารเปลีย่ นแปลงอะไรเกดิ ขน้ กบภาพเหลา่ นบ้ี า้ ง
น้องปีใหม่ : รปู ภาพของผมมองผ่านแผ่นพลาสติกสีเหลอื งจากสนี ้าเงนิ กลายเป็นสเี ขียวครบ
น้องแพรวา : รูปภาพของหนมู องผา่ นแผน่ พลาสติกสีแดงจากสีเขียวกลายเปน็ สีดาค่ะ
5. เดก็ ๆสงเกตเห็นอะไรบ้างคะถ้าเราวางแผ่นพลาสติกสีเพมิ่ ลงไปทบแผน่ แรกท่ีเราใช้ทดลองค่ะ
น้องออมสนิ : สีเข้มมากขน้ คะ่ และสีเปลี่ยนไปค่ะ
6. เดก็ ๆ ทดลองและบนทกผลการทดลอง
7. เด็กๆ นาเสนอผลการทดลองและสรปุ อภิปรายผลการทดลองรว่ มกบครู สรปุ ผลไดด้ งนี้ เมอ่ื เราใชว้ สดุ
กรองสี เชน่ แผน่ พลาสติกสี วสดุเหล่าน้นจะดดู กลืนแสงสว่ นหนงท่สี ะท้อนวตถไุ ว้ และปลอ่ ยแสงส่วนอื่น
ๆ ออกมา ดงน้นเราจงมองเห็นสขี องวตถตุ า่ ง ๆ เปลี่ยนไป เชน่ เมอื่ มองสีน้าเงินผ่านแผ่นพลาสตกิ สีเหลือง
เราจะเหน็ วตถุเป็นสเี ขียว ถา้ วตถุสะทอ้ นเฉพาะแสงสีเขียวออกมา ในขณะทเ่ี รามองวตถผุ ่านแผ่นพลาสตกิ
สแี ดง แสงสีเขียวจะถกู ดดู กลืนไว้ทาให้ไมม่ ีแสงสะทอ้ นจากวตถมุ าเข้าตาเราจงเหน็ วตถุเป็นสีดาหรอื ไมม่ สี ี
น่นเอง เรามองเหน็ วตุได้เพราะสีของวตถุตดกบสีของสงิ่ รอบข้างเม่ือแสงจากสง่ิ รอบข้างสะท้อนเข้าสตู่ า
เราจะมองเห็นสีของวตถุตา่ ง ๆ
53
ภาพกจิ กรรมการทดลองโลกของสีสนั และลวดลายพิศวง
อปุ กรณ์การทดลอง เดก็ ๆ ทดลอง
เดก็ ๆ ทาการทดลอง
การนาเสนอผลการทดลองและสรุปรว่ มกน ภาพความสาเร็จ
54
ผลที่เกิดกับเดก (ตามจุดประสงคข์ องกิจกรรม พฒนาความสามารถพนื้ ฐาน4 ด้าน และพฒนาการ 4 ดา้ น)
1. ผลทเ่ี กดิ ข้นตามจุดประสงค์
1.1 เดก็ ทราบว่าน้าจืดไมไ่ ดม้ รี สหวานนา้ เคม็ กไ็ มไ่ ด้เค็มมาก
1.2 เด็กไดเ้ รยี นรู้วา่ ไขไ่ กด่ ิบจะลอยในน้าเคม็ และจมในนา้ จืด
2. พฒนาการความสามารถพน้ื ฐานและพฒนาการของเด็กปฐมวย
2.1 ด้านการเรยี นร/ู้ ด้านภาษา สตปิ ัญญา
ดา้ นการเรยี นรู้ เดก็ เรียนรู้ว่า เมือ่ เราใช้วสดุกรองสี เช่น แผน่ พลาสตกิ สี วสดุเหล่านน้ จะดดู กลืนแสงสว่ น
หน่งทีส่ ะท้อนวตถไุ ว้ และปลอ่ ยแสงส่วนอ่นื ๆ ออกมา ดงน้นเราจงมองเหน็ สีของวตถตุ า่ ง ๆ เปลยี่ นไป เชน่ เมื่อ
มองสนี ้าเงินผา่ นแผน่ พลาสติกสีเหลืองเราจะเหน็ วตถุเปน็ สีเขียว ถ้าวตถุสะท้อนเฉพาะแสงสีเขียวออกมา ในขณะที่
เรามองวตถผุ า่ นแผ่นพลาสติกสแี ดง แสงสเี ขยี วจะถูกดูดกลนื ไว้ทาใหไ้ ม่มแี สงสะทอ้ นจากวตถมุ าเข้าตาเราจงเหน็
วตถเุ ป็นสดี าหรือไมม่ ีสนี น่ เอง เรามองเห็นวตุได้เพราะสขี องวตถุตดกบสีของสง่ิ รอบข้างเมือ่ แสงจากสง่ิ รอบข้าง
สะท้อนเขา้ สู่ตา เราจะมองเหน็ สีของวตถตุ า่ ง ๆ
ด้านภาษา
- การฟงั เด็กใช้ทกษะการฟังจากสง่ิ ทเี่ พื่อนสนทนาซกถาม โต้ตอบ
- การพดู ตอบคาถาม แสดงความคิดเห็นจากส่ิงท่ตี นเองคิด อธิบายส่ิงท่ีพบเห็น
- การอ่านอา่ นตามใบกจิ กรรมท่ีครอู ่านใหฟ้ ัง อา่ นบตรคำ ชื่ออปุ กรณ์
- การเขยี น เดก็ สว่ นใหญ่วาดภาพสือ่ สารส่ิงได้เรียนรู้จากทากิจกรรมได้ชดเจน
ด้านสตปิ ัญญา
เดก็ ส่วนใหญ่สามารถทาการทดลองดว้ ยตนเอง และร้วู ่าเมอ่ื เราใช้วสดกุ รองสี เช่น แผน่ พลาสตกิ สี
วสดุเหล่าน้นจะดดู กลืนแสงสว่ นหน่งทสี่ ะทอ้ นวตถุไว้ และปลอ่ ยแสงสว่ นอนื่ ๆ ออกมา ดงน้นเราจงมองเหน็ สี
ของวตถตุ า่ ง ๆ เปลีย่ นไป เรามองเหน็ วตุได้เพราะสีของวตถุตดกบสีของสิ่งรอบข้างเม่อื แสงจากส่ิงรอบขา้ ง
สะท้อนเข้าสู่ตา เราจะมองเหน็ สขี องวตถตุ า่ ง ๆ
2.2 ดา้ นสงคม
เด็กๆได้ทากิจกรรมรว่ มกบเพ่ือน รู้จกมารยาทในการฟงั การพูด ควบคมุ ตนเอง ปฏบิ ติตาม
ข้อตกลงร่วมกนได้ เอ้อื เฟ้อื แบ่งปัน รอคอยได้ รบฟังความคิดเห็นของผอู้ ื่น
2.3 ดา้ นอารมณ์–จิตใจ
แสดงออกทางสหี น้ายม้ิ แยม้ แจม่ ใส สนกุ สนาน ดีใจ ต่นื เต้น
2.4 ด้านการเคลื่อนไหว
เดก็ ได้ใช้กล้ามเน้อื เล็ก- ใหญ่ ในการทากิจกรรมได้อย่างคล่องแคลว่ เชน่ การหยิบจบ
วสดุ อปุ กรณ์ในการทดลอง เป็นต้น
55
สรุปกจิ กรรมการทดลอง 20 กิจกรรม
กจิ กรรมท่ี 19 ไหลแรงหรอไหลค่อย
จดุ ประสงค์
1. เพ่ือใหเ้ ดก็ ไดเ้ รียนรูเ้ ร่อื งแรงดนของน้า สามารถเข้าใจและอธิบายได้
2. เพ่ือให้เดก็ ไดใ้ ช้ทกษะฝกึ การสงเกตในการทดลองดว้ ยตนเอง
ขั้นตอนการจดั กิจกรรม
1. ครูสนทนากบเด็กเก่ียวกบน้าด่ืม นา้ สะอาด น้าคลอง วา่ สามารถใช้นาแบบไหนมาด่ืมได้บา้ ง สงเกตจาก
ไหนวา่ น้านน้ สะอาด สามารถดื่มได้ และนา้ ประปาในหมู่บา้ น บา้ นใครไหลแรง บ้านใครไหลคอ่ ยบา้ ง เดก็ ๆ
คิดวา่ เกดิ ข้นเพราะอะไร
2. เด็กๆ ตอบวา่ น้าท่ดี มื่ ได้คือน้าทใี่ ส ไม่มี รส ไม่มีกลิ่น
3. ครูแนะนาวสดุ อปุ กรณ์การทดลอง คอื เทปกาวใส กรรไกรปลายมน ปากกาเมจิกกนน้า ตะปูตวเล็ก
กะละมงพลาสตกิ กรวยกรองน้า น้าเปลา่ ผสมสเี ขียว และนา้ เปล่าผสมสแี ดง
4. ครชู วนเดก็ ทากิจกรรม เร่อื งไหลแรงหรือค่อย
- ครถู ามเดก็ วา่ น้าตรงรไู หนจะไหลแรงหรอื ไหลค่อยกวา่ กนให้ชว่ ยกนสงเกตจากการทดลอง
นอ้ งก้อง : รูดา้ นบนสดุ ตอ้ งไหลแรงสุดครบ
นอ้ งวิว : รดู า้ นล่างสดุ ค่ะ
5. ให้ตวแทนเด็กออกมาทาการทดลองแล้วให้สงเกตการเปล่ียนแปลง
6. ให้เด็กบนทกผลการทดลอง
7. ให้เดก็ นาเสนอผลงาน
8. เด็กและครูรว่ มกนสรุป พบว่า แรงดนน้าที่มคี วามดนเพิ่มข้น เมือ่ เด็ก ๆ เจาะรขู วดพลาสติกท่บี รรจนุ า้
อยเู่ ตม็ ถา้ เจาะรใู กลก้ ้นขวดมาก จะทาใหน้ า้ ยง่ิ ไหลแรงและนา้ จะไหลออกรทู ี่เจาะไว้กต็ ่อเมื่อมีอากาศเข้ามา
แทนท่ีน้าในเวลาเดยี วกน การทจ่ี ะทาใหค้ วามดนอากาศภายในขวดมากกวา่ ภายนอกน้นตอ้ งใหอ้ ากาศแทรก
เขา้ มาในขวดเพื่อแทนที่นา้ ซง่ จะผา่ นเข้ามาทางรดู ้านบนของขวด เนอ่ื งจากมแี รงดนน้าตา่ กวา่ บรเิ วณรู
ดา้ นลา่ ง เมอื่ อากาศเข้ามาในขวดได้ น้าจะไหลออกจากรูดา้ นลา่ งอกี คร้ง
56
ภาพกจิ กรรม การทดลองเร่องไหลแรงหรอคอ่ ย
วสดอุ ปุ กรณ์ท่ีใช้ ครูอธบิ ายอุปกรณ์และขน้ ตอนการทดลอง
เด็กๆ ทาการทดลองและสงเกตุผลการทดลอง
เดก็ นาเสนอและร่วมกนสรุป ผลงานทส่ี าเร็จ
57
ผลท่ีเกิดกบเดก็ (ตามจดุ ประสงค์ของกิจกรรม พฒนาความสามารถพืน้ ฐาน4 ดา้ น และพฒนาการ 4 ด้าน)
1. ผลท่ีเกิดขน้ ตามจดุ ประสงค์
1.1 เด็กๆ ได้เรยี นร้เู รอ่ื งแรงดนนา้ และสามารถเข้าใจได้งา่ ย
1.2 เด็กๆ รูจ้ กการเปรียบเทยี บขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ความแรงของนา้ ที่ไหนออกจากขวดทง้ สองใบ
2. พฒนาการความสามารถพ้นื ฐานและพฒนาการของเดก็ ปฐมวย
2.1 ดา้ นการเรยี นร/ู้ ดา้ นภาษา/สติปัญญา
ดา้ นการเรยี นรู้ เดก็ ไดเ้ รยี นรูเ้ รื่องแรงดนน้าท่มี ีความดนเพิม่ ข้น เมือ่ เด็ก ๆ เจาะรขู วดพลาสตกิ ทบี่ รรจนุ ้าอยู่
เต็ม ถา้ เจาะรูใกลก้ น้ ขวดมาก จะทาให้น้ายง่ิ ไหลแรงและน้าจะไหลออกรทู เี่ จาะไว้ก็ต่อเม่อื มีอากาศเขา้ มา
แทนทน่ี ้าในเวลาเดยี วกน
ด้านภาษา
- การฟัง เด็กใช้ทกษะการฟงั จากส่ิงที่เพ่ือนสนทนาซกถาม โต้ตอบ
- การพดู ตอบคาถาม บอกเหตุจากส่ิงทตี่ นเองคิด อธบิ ายสิ่งท่พี บเหน็
- การอ่าน อ่านตามใบกจิ กรรมที่ครูอ่านให้ฟงั
- การเขียน เด็กสว่ นใหญ่วาดภาพส่อื สารส่ิงได้เรียนร้จู ากกิจกรรมได้ชดเจน บางคนเขยี น สือ่ สารคลา้ ย
ตวหนงสอื บางคนเขยี นลอกขอ้ ความได้ถูกต้อง
ด้านสตปิ ญั ญา
เดก็ สว่ นใหญส่ ามารถเชือ่ มโยงส่ิงทไ่ี ดท้ ดลอง ลงมอื ทากจิ กรรมด้วยตนเองกบสงิ่ ท่ีเกิดขน้
เช่น รจู้ กการเปรียบเทยี บขนาดใหญแ่ ละขนาดเล็ก ความแรงของนา้ ทีไ่ หลออกจากขวดทง้ สองใบ การสงเกต
การไหลของน้า
2.2 ดา้ นสงคม
เด็กๆได้ทากิจกรรมรว่ มกบเพอ่ื น รู้จกมารยาทในการฟัง การพดู ควบคมุ ตนเอง ปฏิบตติ าม ขอ้ ตกลงรว่ มกน
ได้ เออื้ เฟ้อื แบง่ ปนั รอคอยได้ รบฟังความคิดเหน็ ของผูอ้ นื่
2.3 ด้านอารมณ์ – จิตใจ
แสดงออกทางสีหนา้ ยมิ้ แย้ม แจ่มใส สนุกสนานดีใจ ตื่นเตน้
2.4 ด้านการเคลื่อนไหว
เด็กได้ใชก้ ล้ามเนือ้ เล็ก- ใหญ่ ในการทากิจกรรมได้อยา่ งคล่องแคล่ว เช่น การหยบิ จบอปุ กรณ์ การทา
กิจกรรมไหลแรงหรอื ค่อย การเทนา้ ลงในขวด การตดิ เทปใส การเจาะรูและการทาเครอื่ งหมายบนขวด
58
สรปุ กิจกรรมการทดลอง 20 กจิ กรรม
กิจกรรมท่ี 20 ภเู ขาไฟระเบดิ
จดุ ประสงค์
1. เพือ่ ให้เด็กๆ มีทกษะการสงเกตเปรยี บเทยี บการเกิดภูเขาไฟระเบิด
2. เพ่ือให้เดก็ ๆ รู้จกคุณสมบตขิ องก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (กรดและเบกก้งิ โซดา)
ขนั้ ตอนการจัดกจิ กรรม
1. ครูชวนเดก็ สนทนาเกยี่ วกบภเู ขาไฟระเบดิ เป็นอย่างไร และให้ดูสารคดีเกีย่ วกบภเู ขาไฟระเบดิ
2. ครแู นะนาอปุ กรณ์ในการทากิจกรรมภเู ขาไฟระเบิด
3. ครูใช้คาถามกระตุน้ เดก็ การคิดเก่ยี วกบภูเขาไฟระเบิด ดงนี้
- เด็กๆ คิดวา่ ถ้าคุณครูจะทาภูเขาไฟระเบิดและมีอุปกรณ์ทม่ี ีอยู่เด็กๆ จะมวี ิธีทาอย่างไร จะใส่
อะไร กอ่ น – หลง
- ทาไมถงคิดว่าเปน็ เช่นนน้
- ถา้ ใส่น้าสม้ ชายชูลงไป คิดว่าจะเป็นอย่างไรคะ
4. เดก็ และครูร่วมกนคาดคะเนการทดลองภเู ขาไฟระเบดิ
5. เดก็ ๆรว่ มกนทดลองทากจิ กรรมตามวิธีของกล่มุ ตนเอง ให้ทาทีละกล่มุ และสงเกตเปรียบเทยี บผล
ของการทดลองของแต่ละกลมุ่ ว่าเป็นอยา่ งไร
6. เดก็ บนทกการทดลองกจิ กรรมภเู ขาไฟระเบดิ
7. เดก็ นาเสนอผลงานให้เพอ่ื นฟังทีละกลุ่ม
8. เดก็ และครูร่วมกนสรปุ กิจกรรมภเู ขาไฟระเบิด พบว่า ภูเขาไฟจาลองมีลาวาไหลออกมา ซง่ เกดิ จาก
เบกกิง้ โซดาผสมของเหลวทเี่ ป็นกรดเกิดเปน็ ก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ข้น โดยมีน้ายาล้างจาน สีผสมอาหาร
ชว่ ยใหส้ งเกตฟองก๊าซทเี่ กิดข้นไดช้ ดเจนมากขน้ โดยก๊าซนจี้ ะถูกกกไว้ในฟอง จงตอ้ งการพนื้ ท่มี ากกว่า
ปกติ และฟองจะพวยพุ่งออกมาจากภูเขาไฟจาลองเหมือนลาวา
59
ภาพกจิ กรรม การทดลองเร่อง ภเู ขาไฟระเบิด
วสดอุ ุปกรณ์ท่ีใช้ทำกิจกรรม ครูอธิบายอุปกรณ์และข้นตอนการทดลอง
เด็กๆแต่ละกลุ่มทาภูเขาไฟตามข้นตอนของตนเอง
เดก็ ๆร่วมกนสรุปและนาเสนอผลการทดลอง ผลงานท่ีสาเร็จ
60
ทเ่ี กิดกับเดก (ตามจุดประสงค์ของกจิ กรรม พฒนาความสามารถพน้ื ฐาน 4 ด้าน และพฒนาการ 4 ด้าน)
1. ผลทเี่ กดิ ข้นตามจุดประสงค์
1.1 เด็กๆมีทกษะการสงเกต เปรียบเทียบการทดลอง การเกิดปรากฎการณ์ภูเขาไฟระเบดิ
1.2 เด็กๆไดเ้ รยี นรู้เร่ืองคุณสมบตขิ องเบกก้ิงโซดา กบกรด จะมรี สเปรี้ยวเมอ่ื ผสมกบน้า
จะเกิดฟองซ่งเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
2. พฒนาการความสามารถพ้ืนฐานและพฒนาการของเด็กปฐมวย
2.1 ดา้ นการเรียนร/ู้ ด้านภาษา/สติปัญญา
ดา้ นการเรยี นรู้ เด็กได้เรยี นรู้การทดลองกิจกรรมภูเขาไฟระเบดิ โดยใส่สารต่างๆตามวิธีของตนเอง
ว่าจะใส่สารอะไรก่อนหลง เช่น ใสเ่ บกกิ้งโซดา น้ายาล้างจาน สีผสมอาหาร จะทาให้เกิดฟองไหลออกมาจาก
ปลอ่ งภูเขาคล้ายลาวา ในลาวาทไ่ี หลออกมาเกิดจากเบกก้ิงโซดาผสมกบของเหลวจนเกิดเป็นกา๊ ซ
คาร์บอนไดออกไซด์ มนี ้ายาล้างจาน สีผสมอาหารช่วยใหส้ งเกตฟองก๊าซทเี่ กิดข้นได้ชดเจนมากข้น โดย
กา๊ ซนีจ้ ะถกู กกไว้ในฟอง จงตอ้ งการพน้ื ทมี่ ากกวา่ ปกติ และฟองจะพวยพงุ่ ออกมาจากภเู ขาไฟจาลอง
เหมอื นลาวา
ดา้ นภาษา
- การฟัง เดก็ ใช้ทกษะการฟังจากสิง่ ที่เพอื่ นสนทนาซกถาม โต้ตอบ
- การพดู ตอบคาถาม แสดงความคิดเห็นจากสิ่งทต่ี นเองคิด อธบิ ายสิ่งท่ีพบเหน็
- การอ่าน อ่านตามใบกิจกรรมที่ครอู ่านให้ฟงั อา่ นบตรคำ ชือ่ อุปกรณ์
- การเขยี น เดก็ ส่วนใหญว่ าดภาพสือ่ สารสงิ่ ไดเ้ รยี นรู้จากทากจิ กรรมได้ชดเจน
ด้านสติปญั ญา
เด็กส่วนใหญ่สามารถทาการทดลองและเชื่อมโยงส่ิงทไี่ ดเ้ กดิ ขน้ จากการลงมอื ทากิจกรรมด้วย
ตนเอง เม่อื นาเบกกง้ิ โซดา น้ายาล้างจาน สีผสมอาหาร จะทาให้เกิดฟองไหลออกมาจากปล่องภูเขาคล้ายลาวา
มีการวางแผนในการแกป้ ัญหา เมอื่ ทากจิ กรรมแล้วไมป่ ระสบผลสาเร็จ
2.2 ด้านสงคม
เด็กๆ ได้ทากจิ กรรมร่วมกบเพื่อน รู้จกมารยาทในการฟัง การพูดยกมือก่อนจะพดู ควบคุม
ตนเอง ปฏิบติตามข้อตกลงรว่ มกนได้ เอือ้ เฟื้อแบ่งปนั รอคอยได้ รบฟังความคิดเห็นของผอู้ นื่ สนทนา
แลกเปลยี่ นความคิดเห็นระหว่างกลุ่มยอ่ ย
2.3 ดา้ นอารมณ์ – จิตใจ
แสดงออกทางสหี นา้ ย้ิมแยม้ แจ่มใส สนุกสนาน ต่นื เต้นกบส่ิงทไี่ ด้ลงมือปฏิบติ มีสมาธิจดจ่อ
กบกจิ กรรมการทดลอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหว
เด็กๆได้ใช้กล้ามเน้ือเล็ก- ใหญ่ ในการทากิจกรรมไดอ้ ยา่ งคล่องแคล่ว เช่นการ ป้ันดนิ นา้ มนเป็น
ภูเขาไฟจาลอง การหยดสาร เทสาร ลงในภเู ขาไฟจาลอง เปน็ ต้น