The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย เรื่อง ต้นอ่อนถั่วเขียว โรงเรียนบ้านนาไค้ -

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

โครงงานบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย โรงเรียนบ้านนาไค้

โครงงานบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย เรื่อง ต้นอ่อนถั่วเขียว โรงเรียนบ้านนาไค้ -



โรงเรียนบ้านนาไค้ อาเภอนาน้อย จงั หวัดนา่ น
สานกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษานา่ น เขต 1

กระทรวงศึกษาธกิ าร



คานา

โครงงาน “ตน้ อ่อนถั่วเขียว” เปน็ โครงงานทเ่ี กดิ ขน้ึ จากความตั้งใจของเดก็ นักเรยี นช้นั อนบุ าลปีท่ี 2-3
โรงเรียนบ้านนาไค้ จากการท่ไี ดเ้ ข้าร่วมโครงการ “บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย แห่งประเทศไทย” เด็กนักเรียน
ไดค้ ดิ ตอ่ ยอดจากการสังเกตส่งิ ตา่ งๆ รอบตัว จึงทาให้มีโครงงานนี้เกิดขึ้น เป็นการนาความคิดไปสู่การทดลอง
เพ่อื ให้เดก็ นักเรยี นได้รจู้ ักกระบวนการคดิ การทดลอง ส่งเสริมทกั ษะทางด้านภาษา กระบวนการกลุ่มและการ
เรียนรูด้ ว้ ยการปฏิบตั จิ รงิ ตอบสนองความอยากรอู้ ยากเหน็ ของเดก็ นกั เรียน สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน
ในอนาคตภายภาคหนา้ ไดอ้ ยา่ งประสบความสาเรจ็ ยงิ่ ขึ้นไป

ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงงานวิทยาศาสตร์ “ต้นอ่อนถ่ัวเขียว” ฉบับน้ีจะมีประโยชน์ในการ
นาไ ปใช้ใน การจัดประ สบการณ์ให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้ เป็น อย่างดีไม่มากก็น้อย และหากรายง านฉบับนี้
ผิดพลาดประการใดผจู้ ดั ทา ก็ขออภยั มา ณ ทน่ี ด้ี ้วย

โรงเรียนบา้ นนาไค้
ผู้จดั ทา

สารบัญ ค

เรอ่ื ง หน้า
คานา ก
สารบญั ข
ชอ่ื โครงการต้นออ่ นถัว่ เขียว 1
ทมี่ าของโครงงาน 1
2
ขน้ั ที่ 1 ต้งั คาถาม
คาถามที่ 1 ตน้ อ่อนถ่วั เขยี วเจริญเติบโตในหิน ดนิ ทราย ได้ไหม 3
3
แลว้ มีลักษณะเป็นอยา่ งไร 4
ขน้ั ท่ี 2 รวบรวมความคดิ และข้อสันนษิ ฐาน 7
ขน้ั ท่ี 3 ทดลองและดาเนนิ การสืบเสาะ 9
ขนั้ ท่ี 4 สังเกตและบรรยาย 14
ขั้นที่ 5 บนั ทกึ ผล
ขั้นที่ 6 สรุปและอภปิ รายผล 15
ผลจากการทาโครงงานคาถามที่ 1 เด็กเกดิ การพัฒนาการดา้ นต่างๆ 16
การสง่ เสริมพัฒนาการความสามารถพื้นฐาน 4 ด้าน
17
การสง่ เสรมิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 17
17
คาถามท่ี 2 ต้นอ่อนถั่วเขียวท่ีรับแสงจากดวงอาทติ ย์กบั รบั แสงจากโคมไฟ 18
แบบไหนเจริญเตบิ โตได้ดกี วา่ กนั 21
23
ขั้นที่ 1 ตงั้ คาถาม 26
ข้นั ที่ 2 รวบรวมความคิดและขอ้ สนั นิษฐาน
ขั้นที่ 3 ทดลองและดาเนนิ การสบื เสาะ 27
ขั้นท่ี 4 สงั เกตและบรรยาย 28
ขน้ั ท่ี 5 บันทึกผล 29
ขั้นที่ 6 สรปุ และอภิปรายผล 29
ผลจากการทาโครงงานคาถามที่ 2 เดก็ เกดิ การพัฒนาการดา้ นต่างๆ
การสง่ เสรมิ พัฒนาการความสามารถพน้ื ฐาน 4 ดา้ น
การสง่ เสริมทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
สรปุ สง่ิ ทีไ่ ด้เรยี นรู้
ประโยชนท์ ี่ได้รับ
ภาคผนวก
แบบบันทกึ ตน้ ออ่ นถั่วเขยี ว
เกียรติบตั ร

1

ชอ่ื โครงงานวัฏจักรสบื เสาะ ตน้ ออ่ นถ่ัวเขียว

ผ้จู ดั ทาโครงงาน นกั เรยี นชนั้ อนบุ าลปที ่ี 3 โรงเรียนบ้านนาไค้ สพป.นา่ น เขต 1

ครทู ปี่ รกึ ษา นางสาวสพุ ิชญนนั ท์ เชียงทา

นางสาววราภรณ์ ยศกนั โท

ระยะเวลาในการจัดทา ตง้ั แตว่ ันท่ี 4 มกราคม 2565 – 1 กมุ ภาพันธ์ 2565

ทมี่ าของโครงงาน

(วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2565)

เรม่ิ จากการทเ่ี ดก็ ๆได้ไปรบั ประทานอาหารทีโ่ รงอาหารของโรงเรยี น ในขณะทีค่ รูให้เด็กๆดูในจาน
ขา้ วของตนเองว่ามอี ะไรในจานข้าว เด็กๆกส็ ังเกตและตอบคาถามครวู า่ “มแี ครอท มเี ลอื ดหมู มขี ้าว มีหมู
มีถั่วงอก ”แลว้ นอ้ งตอื เห็นว่าถั่วงอกมีใบสเี หลอื งน้อยๆออกมาจงึ มาบอกคณุ ครู แลว้ ถามครูวา่ กินไดไ้ หมคะ แม่
ครวั ทโ่ี รงเรียนกบ็ อกกบั นอ้ งตอื ว่ากนิ ได้ แล้วเด็กๆหลายคนก็บอกวา่ ถ่ัวงอกที่ตนเองเคยเห็นไมม่ ใี บ เด็กๆหลาย
คนไม่เคยเหน็ วา่ ถ่วั งอกมีใบ แมค่ รวั ทีโ่ รงเรียนจงึ อธบิ ายกับเดก็ ๆวา่ ถว่ั งอกทีเ่ ด็กๆรบั ประทานเกดิ จากเมล็ดถวั่
เขียว แล้วกโ็ ตมาเป็นถ่วั งอก แตม่ ันแชน่ า้ อยู่หลายวนั ไมไ่ ด้นามาทาอาหาร จึงเกดิ ใบเหลอื งๆขึ้นมา เดก็ ๆจงึ
บอกกบั คณุ ครวู า่ อยากรบั ประทานถัว่ งอก จึงทาให้เกิดคาถามขึ้นมาหลงั จากรบั ประทานอาหารกลางวนั เด็กๆ
กข็ อถว่ั งอกจากแม่ครัวเอามาดูและสงั เกตถวั่ งอก เดก็ ๆสนทนาเกยี่ วกับถว่ั งอกก่อนกลบั บา้ น

นอ้ งโอแปง : ถั่วงอกปลกู อยา่ งไรคะ
นอ้ งทับทมิ : ปลูกในโอง่ คะ่ หนูเคยเห็น
น้องออมสนิ : ปลกู ในกระถางต้นไมไ้ ด้ค่ะ หนูกลับไปจะไปกินถั่วงอกให้แมท่ ากับขา้ ว
นอ้ งสโนไวท์ : ถั่วงอกใช้เมลด็ ถ่ัวเขยี วปลูกใช่ไหมคะ หนเู คยเหน็ ในโทรทัศน์
น้องแสตมป์ : กินถว่ั งอกดิบๆได้ไหมครบั
นอ้ งสตงั ค์ : ถั่วงอกมใี บเล็กๆกินไดไ้ หมครับ
น้องแอปเป้ิล : ใบถวั่ งอกมีสีเหลอื งหรือสเี ขียวคะ
นอ้ งปยุ : ปยุ อยากกินถั่วงอกในต้เู ย็นทีบ่ ้านครบั

เด็กๆสนใจเกยี่ วกับเร่อื งของถว่ั งอกมาก ครจู ึงใหเ้ ดก็ ๆกลับบา้ นไปถามผปู้ กครองเก่ยี วกบั เรอื่ งถั่วงอกท่ี
เด็กๆอยากรู้

นที่ 1 ตง้ั คาถามเกี่ยวกับปรากฎการณ์ธรรมชาติ

2

ข้นั ท่ี 1 ตงั้ คาถามเกย่ี วกบั ปรากฏการณธ์ รรมชาติ (5 มกราคม พ.ศ.2565 )

เด็กๆสังเกตเห็นใบออ่ นของถ่วั งอกในจานมันใบใหญข่ น้ึ มาจากตอนแรกจงึ มาบอกครู และเกดิ ความ
สงสัยวา่ มันคืออะไร คุณครจู งึ บอกว่ามันคอื “ตน้ ออ่ นถวั่ เขยี ว” และสนทนากันเกย่ี วกับต้นอ่อนถว่ั เขยี วว่า
เจรญิ เตบิ โตมาจากถ่วั เขียวและกลายไปเป็นถว่ั งอกเรม่ิ มใี บออกมาเด็กๆดภู าพตน้ ออ่ นถัว่ เขียวจากอนิ เทอรเ์ นต็
และดูยูทูปวา่ ต้นอ่อนถว่ั เขยี วปลกู ในตะกร้าได้ ตอ้ งรดน้าบ่อยๆ เดก็ ๆจงึ เกิดการสนทนากบั ครคู าถามและขอ้
สงสัยและเกิดคาถามดังนี้

คาถาม 1 นอ้ งโอแปง : ต้นออ่ นถ่ัวเขยี วปลกู ในหนิ ดิน ทราย ได้ไหมคะมันจะโตไหมคะ แล้วจะเปน็
อยา่ งไรคะ

คาถามท่ี 2 น้องทบั ทมิ : ตน้ อ่อนถัว่ เขยี วปลูกในจานไดไ้ หมคะ
คาถามท่ี 3 นอ้ งสตังค์ : ตน้ ออ่ นถว่ั เขียวมนั มีประโยชนไ์ หมครบั
คาถามที่ 4 นอ้ งแสตมป์ : ตน้ ออ่ นถ่ัวเขยี วกนิ ไดไ้ หมครบั
คาถามที่ 5 น้องสโนไวท์ : ต้นอ่อนถัว่ เขยี วจะกลายเปน็ สอี น่ื ไดไ้ หมคะ
คาถามท่ี 6 นอ้ งเกรช : ตน้ ออ่ นถว่ั เขียวปลูกในดินไดไ้ หมคะ

จากคาถามที่เด็กๆอยากรู้ 6 คาถาม เดก็ ๆร่วมกันเลือกคาถามที่เดก็ ๆอยากรู้ โดยเลือก
คาถามท่ี 1 คือ “ต้นอ่อนถ่วั เขยี วเจริญเติบโตในหนิ ดนิ ทราย ไดไ้ หมแลว้ มลี กั ษณะเปน็ อย่างไร”
คาถามทเ่ี ดก็ ๆอยากรู้ เด็กร่วมกนั สรุปคาถามท่ีเด็กๆอยากรู้มากท่ีสดุ

3

คาถามท่ี 1

“ต้นออ่ นถ่ัวเขยี วเจรญิ เตบิ โตในหิน ดิน ทราย ไดไ้ หมแล้วมีลักษณะ
เปน็ อยา่ งไร”

จดุ ประสงค์ 1. เพื่อใหเ้ ดก็ รูว้ ่าต้นออ่ นถัว่ เขียวเจริญเตบิ โตใน หนิ ดนิ ทราย ได้หรือไม่
ข้ันท่ี 2 รวบรวมความคดิ และขอ้ สันนิษฐาน (5 มกราคม พ.ศ.2565)
คณุ ครใู ชค้ าถามกระตุ้นว่า “เด็กๆคดิ วา่ ต้นออ่ นถว่ั เขยี วเจริญเติบโตในหนิ ดิน ทราย ได้ไหมแล้วมี
ลกั ษณะเป็นอย่างไร” เดก็ ๆรว่ มกนั คาดคะเนคาตอบเป็นการตรวจสอบประสบการณ์เดมิ ของเด็กคุณครูบนั ทึก
คาตอบของเดก็

นอ้ งโอแปงและน้องตอื : ปลูกในดนิ ไดค้ ่ะ
น้องสตังค์ : ปลูกใน หิน ดิน ทราย กไ็ ด้ครับ แต่ตอ้ งรดนา้
น้องแสตมป์ : รดนา้ ตอนเชา้ กลางวนั เย็น ครบั ต้นมนั จะโต
น้องนา้ ฝน : ต้นออ่ นถว่ั เขียวต้นมนั จะเลก็ ๆค่ะ จะมใี บงอกออกมาจากเมลด็
น้องแอปเปล้ิ : ถา้ ปลกู ในหินจะดีค่ะ เพราะหนิ มนั แขง็ คะ่
นอ้ งอัญปนั : ปลกู ในทรายนา้ จะไหลค่ะ นา้ แหง้ หมดค่ะ ตน้ จะไมโ่ ต
น้องทบั ทมิ : จะปลกู ในทรายตอ้ งเป็นกระบองเพชรค่ะ
นอ้ งออมสนิ : ถ้าปลกู ในรม่ มนั จะโตคะ่ ต้นสขี าวคะ่
นอ้ งโอแปง : ตน้ ออ่ นถัว่ เขยี วชอบหนิ คะ่ เพราะมันสวย
น้องปยุ : ปลูกไดห้ มดคะ่ แตป่ ลูกในทรายโตช้า เวลาต้นมนั งอกต้นมนั จะอ่อนๆ
คุณครู : ถา้ เดก็ ๆอยากรู้วา่ ตน้ ออ่ นถัว่ เขียวจะเจริญเติบโตใน หิน ดิน ทรายไดไ้ หมจะทาอย่างไรได้
บา้ งคะ

นอ้ งทับทิม : กลับบา้ นไปถามผปู้ กครองคะ่
นอ้ งโอแปง : ดใู นยูทูปค่ะ ดูทวี กี ไ็ ด้ใหแ้ มเ่ ปิดอินเทอรเ์ น็ต
น้องอัญปนั : ถามคนปลูก
น้องนา้ ฝน : ถามแม่ค้าท่ีขายผกั ค่ะ
น้องสตังค์ : อ่านหนังสือครบั
น้องตอื : ถามคุณครคู ะ่
น้องแสตมป์ : เราเอามาปลูกเองครบั

4

เด็กๆศึกษาจากแหลง่ ข้อมูลดงั ภาพ
ขน้ั ที่ 3 ทดสอบและปฏิบตั ิการสืบเสาะ( 6 มกราคม พ.ศ.2565 - 14 มกราคม พ.ศ.2565)

(6 มกราคม พ.ศ.2565)
เดก็ ๆได้หาคาตอบแล้วจากการค้นหาคาตอบจากแหล่งต่างๆและมาสนทนาโต้ตอบกบั ครูเก่ยี วกับการ

ปลกู ถัว่ งอกใหเ้ ป็นต้นออ่ นถั่วเขยี วใน หนิ ดิน ทรายวา่ จะเจริญเติบโตไดห้ รือไม่ และชวนเด็กๆหาวิธีการ
ทดลอง

คณุ ครู : เด็กๆกลับไปค้นหาคาตอบจากการถามผปู้ กครอง หาในอนิ เทอรเ์ น็ตแลว้ อา่ นจากหนงั สือ
แลว้ เดก็ ๆได้คาตอบอยา่ งไรบา้ งคะ

น้องทับทมิ : แม่บอกว่าปลกู ในหินมันไมโ่ ตค่ะ มนั ตาย
น้องสโนไวท์ : ปลกู ในดนิ กับในทรายไดค้ ะ่ ในหนิ มนั ตาย
น้องโอแปง : ปลูกในดนิ จะโตไวกวา่ ในทรายและในหินคะ่
นอ้ งอัญปนั : ตาบอกปลกู แลว้ มนั กจ็ ะโตขน้ึ ท้งั หนิ ดิน ทราย แตใ่ นหินตน้ มันจะเตี้ย
นอ้ งแอปเป้ลิ : แม่บอกมนั ปลกู ได้ทง้ั ในหนิ ดนิ ทราย แต่ตอนโตต้นจะไมเ่ ท่ากนั
น้องตอื : จะมีรากงอกออกมาตรงเมลด็ คะ่ รากเปน็ สขี าว แหลมๆ
น้องน้าฝน : มนั มใี บออกมา 2 ใบ ใบมันสีเหลืองทห่ี นูดใู นยทู ปู

5

เด็กๆดวู ิธีการปลกู ต้นอ่อนถว่ั เขียวและการเจรญิ เตบิ โตของต้นอ่อนถั่วเขยี วจากยทู ปู
หลงั จากท่ีเด็กๆ ไปค้นหาวธิ ีการทดสอบแลว้ เดก็ ๆก็มาร่วมกนั สนทนาถงึ วธิ กี ารปฏบิ ัตกิ ารทดลอง โดย
ชว่ ยกันคิดว่าจะปลกู อยา่ งไรกอ่ น
คณุ ครู : เดก็ ๆจะหาวิธปี ลูกตน้ ออ่ นถ่ัวเขยี วอย่างไรคะ
น้องสโนไวท์ : ตอ้ งหากระถางมาคะ่ ตะกร้ากไ็ ดค้ ะ่ เหมือนในยูทูป
นอ้ งแอปเปลิ้ : บา้ นหนมู ดี ินค่ะ แมเ่ อาไว้ปลกู ต้นผกั กาดปา่
นอ้ งนา้ ฝน : หนจู ะไปเกบ็ หินท่ีหน้าหอ้ งโรงคดั แยกขยะ
น้องโอแปง : หนูจะไปเอาทรายที่สนามเด็กเลน่ หน้าห้องเรานีเ้ องคะ่
นอ้ งทับทิม : ถ้ารดนา้ ตน้ อ่อนตอ้ งใช้สเปยค์ ะ่ ตาบอกมนั จะได้ไมต่ ายค่ะ ห้ามรดน้าแรงเดี๋ยวตาย
น้องตือ : ตอ้ งใส่ปยุ๋ คะ่ มันจะโตไวๆค่ะ
นอ้ งเกรช : ตอ้ งรดน้าทุกวันดว้ ยคะ่
น้องสตงั ค์ : ถ้ารดนา้ เยอะ ตน้ มนั จะตายครับ มันเนา่
น้องแสตมป์ : ผมจะเอาท่ีฉดี นา้ มาครบั
นอ้ งเกรช : หนูจะเอาเมล็ดมาค่ะ ตาหนมู เี มล็ดถั่วเขียว
น้องโอแปง : แมบ่ อกว่า ไมใ่ ห้เมล็ดโดนแสง 3 วันค่ะ เด๋ยี วเมลด็ แห้ง หนใู หแ้ มอ่ ่านในหนังสอื คะ่
น้องสตังค์ : ต้องแชน่ า้ กอ่ นครับมนั จะได้มีรากสีขาวออกมา
(6 มกราคม พ.ศ.2565)
เดก็ ๆศกึ ษาคน้ คว้าขอ้ มลู จากแหลง่ ต่างๆ

เด็กๆนาหนังสือการเพาะถ่ัวงอกมาจากหอ้ งสมุดเดก็ ๆเปดิ ดเู อกสารหนงั สอื ดูวธิ กี ารปลกู ในรปู แบบต่างๆ

6

เด็กๆชว่ ยกนั หาและเตรยี มอุปกรณ์ และนา หิน ดนิ ทราย มาสังเกต

เกบ็ หนิ จากท่ีโรงคัดแยกขยะ เกบ็ ดนิ จากหน้าหอ้ งเรยี นพป่ี ระถม เกบ็ ทรายจากสนามเด็กเล่น

(11 มกราคม พ.ศ.2565)
เด็กๆเตรียมอปุ กรณ์เพ่ือมาปฎิบตั กิ ารทดสอบอย่างสนุกสนาน เด็กๆลงมอื ปฎบิ ตั ิจรงิ ตามขนั้ ตอนดังน้ี

1.เตรียมอุปกรณใ์ นการทา ได้แก่

หนิ ดนิ ทราย ตะกร้า 3 ใบ เมลด็ ถ่ัวเขยี ว

ถุงดา กระปกุ แชเ่ มลด็ ถ่วั เขยี ว 3 กระปกุ แชไ่ ว้ 1 คนื ถังฉดี นา้
2.เตรียมตะกร้าใส่ถุงดาเพ่อื ปอ้ งกนั ไม้ให้ หนิ ดนิ ทราย ทะลุลงตะกร้า

7

3.ใส่ หนิ ดิน ทราย ลงในตะกร้า โดยแบง่ เดก็ ทาเป็น 3 กล่มุ

กลมุ่ ทราย กลุ่มหิน กลุ่มดิน

4.เดก็ ๆ ใช้สเปย์ฉีดรดลงไปในหิน ดนิ ทราย ให้เปียกหมาดๆ และรดน้าทกุ ๆวัน วันละ 3 เวลา (เชา้ กลางวัน
และเยน็ ) โดยรดน้าในปรมิ าณท่ีเท่ากนั

ทราย หิน ดนิ

5.ใสเ่ มล็ดถวั่ เขยี วท่ีแช่ไว้ 1 คนื นามาเรยี งปลูกในตะกรา้ ทีม่ ี หนิ ดนิ ทราย เดก็ ๆช่วยกนั ฉีดสเปย์นา้ อกี คร้งั เม่อื
ปลกู เสรจ็ กน็ าเข้าในมท่ีร่ม เพราะเมลด็ ถวั่ เขยี วยังอ่อนอยู่

ทราย หนิ ดิน

เด็กๆตัง้ ใจกนั วางเมล็ดถั่วเขยี วอย่างเบามือ

ขัน้ ที่ 4 สงั เกตและบรรยาย (18 มกราคม พ.ศ.2565 - 1 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.2565)

เดก็ ๆสงั เกตโดยใช้ประสาทสมั ผัสท้งั 5 และจดบนั ทกึ การเจรญิ เติบโตของต้นอ่อนถั่วเขียวท้งั 5 วนั
และออกมาเลา่ เรือ่ งสง่ิ ทีต่ นเองได้สังเกตจากการเห็นการเปลี่ยนแปลงของต้นอ่อนถ่วั เขยี วท่ีปลูกในหิน ดนิ
ทราย ในแต่ละวนั ว่าตน้ ออ่ นถ่ัวเขยี วมกี ารเปล่ียนแปลงไหมในแตล่ ะตะกร้า และเจริญเติบโตเป็นอย่างไร

8

ครแู ละเด็กสนทนากันเกย่ี วกับการเจรญิ เติบโตของตน้ ออ่ นถวั่ เขียวในแตล่ ะตะกร้า
คุณครู : จากการทดลองท่ีเด็กๆอยากรูว้ า่ หิน ดิน ทราย สามารถปลูกต้นอ่อนถ่วั เขยี วไดไ้ หม ตกลง

ปลูกได้ไหมคะ
นอ้ งสตังค์ : ปลกู ในหิน ดิน ทราย ไดห้ มดเลยครบั
น้องแอปเป้ลิ : แตว่ า่ มนั จะโตไมเ่ หมือนกันคะ่
น้องน้าฝน : ปลูกในดนิ จะโตไวกวา่ คะ่
น้องเกรช : ปลกู ในหินก็โตค่ะ แต่จะโตช้า
นอ้ งออมสนิ : ต้นอ่อนถว่ั เขยี วโตง่ายมากค่ะ
นอ้ งแสตมป์ : ตน้ ออ่ นถัว่ เขยี วชอบนา้ ครบั ไมต่ ้องใส่ปุ๋ยเลยครบั
นอ้ งสตังค์ : ตอนตน้ มนั โตจะมีใบสองใบเล็กๆงอกออกมาครับ
นอ้ งตอื : ต้นจะมีสขี าว ใบสีเขยี วออ่ นคะ่
น้องสโนไวท์ : ถ้าปลูก 5 วนั เอามากนิ ได้ค่ะ
คุณครู : แลว้ การปลูกในหนิ เปน็ อยา่ งไรคะ
น้องตอื : ตน้ จะโตจากเมล็ดช้าคะ่
น้องโอแปง : ตน้ จะแคระ และเตีย้ คะ่
คุณครู : แล้วการปลูกในดินเปน็ อยา่ งไรคะ
น้องเกรช : ต้นโตสงู
นอ้ งสโนไวท์ : จะมใี บใหญ่ ต้นโตไวค่ะ
น้องอัญปนั : รากจะยาวคะ่ ลาตน้ สขี าว ใบเขยี วอ่อน
นอ้ งทับทมิ : ตน้ จะตงั้ ตรงในวันที่ 5 มีขนอ่อนๆตรงต้นในวันที่ 5
คณุ ครู : แลว้ การปลกู ในทรายเปน็ อย่างไรคะ
นอ้ งสตังค์ : ตน้ สงู ครับ
น้องแสตมป์ : ใบเล้ียงหลดุ ออกไวครับ
นอ้ งโอแปง : ตน้ จะเอนลงในวนั ท่ี 5
นอ้ งออมสิน : ตน้ จะอ่อนคะ่
นอ้ งปยุ : รากจะยาวในวนั ท่ี 2 มาก

9

เด็กๆสงั เกตและบนั ทกึ ผลการเจริญเตบิ โตในแตล่ ะวัน
ขน้ั ที่ 5 บันทกึ ผล (18 มกราคม พ.ศ.2565 – 27 มกราคม พ.ศ.2565)
เด็กๆ ร่วมกนั สนทนาและอภปิ รายถงึ วิธีการบนั ทึกผลและการนาเสนอผลงานใหผ้ ู้อน่ื ไดร้ ับความรู้ได้

โดยการวาดรูปการเจริญเตบิ โตของต้นอ่อนถั่วเขยี วในทุกๆวนั ทงั้ 5 วนั ตามภาพ พร้อมทั้งออกมาเลา่ ส่ิงที่
เปล่ียนแปลงในแต่ละวัน เดก็ ๆร่วมกนั สังเกตสิ่งที่เกดิ ขน้ึ และเปลี่ยนแปลงกบั ต้นอ่อนถวั่ เขียวในแต่ละวนั

เดก็ ๆบันทกึ ผลการทดลองทัง้ 5 วนั โดยการวาดรปู

คาถามท่ี 1 “ตน้ อ่อนถั่วเขยี วเจรญิ เตบิ โตใ

ชนดิ วนั ท่ี 1 วนั ท่ี 2

ในหิน ดิน ทราย ได้ไหมแลว้ มลี ักษณะเปน็ อยา่ งไร” 10
วันที่ 3 วนั ที่ 4
วันที่ 5

สรปุ ผลการเปลีย่ นแปลงและลักษณะในแต่ละวันของคาถามท่ี 1 “ต

ชนิด วันท่ี 1 วนั ที่ 2

หนิ

สรปุ ผลการ -มีรากสีขาวงอกออกมา -รากยาวข้ึนแต่ยาวไมเ่ ทา่ กนั
เปลีย่ นแปลงและ
ลกั ษณะในแต่ละวนั จากเมล็ดถั่วเขยี วประมาณ ในแต่ละต้น
ของเมลด็ ถัว่ เขยี วที่
ปลกู กับหนิ 2 มิลลเิ มตร -บางต้นยาวมาก บางต้นยาว

น้อย

-มีบางตน้ มใี บงอกออกมา 2
ใบ มีหลายตน้ ใบยงั ไมง่ อก

11

ตน้ ออ่ นถวั่ เขียวเจรญิ เติบโตในหนิ ดนิ ทราย ได้ไหมแล้วมีลกั ษณะเป็นอยา่ งไร”

วันท่ี 3 วันที่ 4 วนั ที่ 5

-รากค่อยๆยาวข้ึนในบางตน้ -รากไมย่ าวขนึ้ ไม่ยดึ กบั -ต้นออ่ นถว่ั เขยี วแห้ง ลาตน้
หนิ ไมแ่ ขง็ แรง ลาตน้ เล็กและ
-มีเมล็ดหลายเมล็ดท่ีรากไม่ ยาว เหีย่ วเฉา และตาย
งอกขึ้นอีก บางเมลด็ ตาย -ต้นอ่อนถ่วั เขยี วแคระแก
รน ตน้ เตี้ย เลก็ -รากเหลอื ง
-ตน้ ออ่ นถั่วเขยี วมลี าตน้ ไม่
แข็งแรง ต้นเอนไปมา ราก -ใบสีเขียวซดี
ไม่ยึดติดกับหิน

-สีของใบซีด

ชนิด วนั ที่ 1 วนั ที่ 2

ดนิ

สรปุ ผลการ -มีรากสีขาวงอกออกมา -รากยาวข้นึ มากทกุ ต้นและ
เปลีย่ นแปลงและ
ลกั ษณะในแต่ละวัน จากเมล็ดถัว่ เขยี วประมาณ รากจมดนิ
ของเมลด็ ถว่ั เขียวที่
ปลกู กบั ดิน 2 มลิ ลิเมตร -ใบเริ่มงอกในหลายๆต้น

12

วันที่ 3 วนั ที่ 4 วนั ที่ 5

-รากยาวข้นึ มากทุกต้น ราก -รากยดึ ติดกับดนิ มาข้นึ -ต้นออ่ นถั่วเขยี ว ลาต้นยาว
ขึน้ มาก ลาต้นเอนเลก็ น้อย
มสี ีขาวและเรม่ิ มีรากฝอยข้ึน -ใบเลีย้ งหลุดออกจากลา ลาตน้ ขาว
ตามรากแก้ว ตน้
-มีใบสีเขยี วออ่ นสด
-ต้นอ่อนถัว่ เขียวมีลาตน้ -ลาตน้ เอียงเอนเล็กนอ้ ย
แขง็ แรง ลาตน้ ตัง้ ตรง ราก -รากแก้ว สขี าวรากฝอย
เจรญิ เติบโตใหญม่ ากข้นึ
ยดึ ตดิ กบั ดิน

-สีของใบมีสเี ขียวออ่ น

ชนดิ วันท่ี 1 วันท่ี 2

ทราย

สรปุ ผลการ -มีรากสขี าวงอกออกมา -รากยาวข้ึนทกุ ต้นอยา่ ง
เปลี่ยนแปลงและ
ลกั ษณะในแตล่ ะวัน จากเมล็ดถัว่ เขียวประมาณ สมา่ เสมอกัน รากใหญข่ ึน้
ของเมล็ดถ่ัวเขียวที่
ปลูกกับทราย 2 มิลลเิ มตร มาก

-ใบงอกออกมา 2 ใบจาก
เมล็ดในหลายๆตน้ และ
สมา่ เสมอกัน

13

วนั ท่ี 3 วันที่ 4 วันท่ี 5

-รากยาวขึน้ มากทุกต้น ราก -รากยดึ ตดิ กบั ทรายมาข้นึ -ตน้ อ่อนถั่วเขยี ว ลาตน้ ยาว
ข้นึ มาก ลาต้นเอียงเอนมาก
มสี ีขาวและเริม่ มรี ากฝอยขึ้น -ใบเลยี้ งเร่มิ หลดุ ออกจาก ลาต้นขาว
ตามรากแกว้ ลาต้น
-มีใบสีเขียวออ่ นสด
-ต้นอ่อนถ่วั เขียวมีลาตน้ -ลาตน้ จะเอียงเอนมาก
แข็งแรง ลาตน้ เอนเล็กน้อย -รากแกว้ สขี าวรากฝอย
เจริญเติบโตใหญม่ ากข้นึ
รากยดึ ตดิ กับทราย

-สขี องใบมีสีเขียวออ่ น

14

หลังจากทเ่ี ดก็ ๆสังเกตและบนั ทกึ ผลการทดลองต้นอ่อนถ่วั เขยี วเจริญเตบิ โตในหิน ดนิ ทราย แลว้ มี
ลกั ษณะเป็นดังนี้ จากคาถามของเดก็ ๆสรปุ ได้ดงั ตาราง

ชนิด ผลการทดลอง

-เจริญเติบโตในหินได้แต่ไม่ดี
ต้นอ่อนถวั่ เขียว -ต้นอ่อนถั่วเขยี วแหง้ ลาตน้ ไมแ่ ขง็ แรง ลาต้นเลก็ และยาว เหี่ยวเฉา และตาย
ทเี่ จริญเติบโต -รากเหลือง

ในหนิ

ต้นออ่ นถว่ั เขียว -เจริญเติบโตในดนิ ได้ดี
ทเ่ี จรญิ เตบิ โต -ต้นอ่อนถว่ั เขยี ว ลาตน้ ยาวขึ้นมาก ลาต้นเอนเลก็ น้อย ลาต้นขาว
-มีใบสีเขยี วอ่อนสด
ในดนิ -รากแก้ว สีขาวรากฝอยเจรญิ เตบิ โตใหญ่มากขึ้น

ตน้ ออ่ นถั่วเขียว -เจริญเตบิ โตในทรายได้ดี
ทเ่ี จรญิ เติบโต -ต้นออ่ นถั่วเขยี ว ลาตน้ ยาวขนึ้ มาก ลาต้นเอยี งเอนมากลาตน้ ขาว
-มีใบสีเขียวออ่ นสด
ในทราย -รากแกว้ สีขาวรากฝอยเจริญเติบโตใหญ่มากข้นึ

ข้ันท่ี 6 สรุปและอภปิ รายผล

เด็กๆร่วมกนั สรปุ และอภปิ รายจากคาถามที่เด็กอยากรู้ คือ“ต้นอ่อนถว่ั เขียวเจริญเติบโตในหนิ ดิน
ทราย ไดไ้ หมแล้วจะมลี กั ษณะอยา่ งไร”

ครูนาตน้ ออ่ นถว่ั เขยี วทั้ง 3 ตะกรา้ มาให้เดก็ ๆสรปุ วา่ “ตน้ อ่อนถ่ัวเขียวเจริญเตบิ โตในหิน ดิน ทราย
ได้ไหมแล้วจะมีลักษณะอยา่ งไร”

คณุ ครู : ตน้ ออ่ นถว่ั เขยี วเจริญเติบโตในตะกรา้ ใดบา้ งคะ
น้องแสตมป์ : ในตะกรา้ ของดนิ ครับ
นอ้ งโอแปง : ในตะกรา้ ทราย กบั ดินกโ็ ตคะ่
นอ้ งสตังค์ : โตทั้งใน 3 ตะกรา้ เลยครบั แตต่ อนโต ตน้ มนั ไม่เท่ากัน
เจรญิ เติบโตในหิน
น้องแสตมป์ : เจรญิ เตบิ โตในหินได้ครบั แตโ่ ตช้าครับ
น้องทับทิม : ตน้ มนั เล็กค่ะ
นอ้ งเกรช : ใบสเี ขียวค่ะ ลาต้นสขี าว รากมนั งอกออกมาก่อนใบ ตน้ มันสน้ั ๆค่ะ
น้องอญั ปนั : มันจะตายไวค่ะ

15

เจริญเตบิ โตในดิน
น้องน้าฝน : โตไว ตน้ สูง
น้องออมสนิ : ใบสองใบใหญ่สีเขียว รากยาว รายฝอยเล็กๆเต็มเลย

เจรญิ เติบโตในทราย
น้องสโนไวท์ : โตไว สูงตน้ สีขาว
น้องเกรช : พอตน้ สงู ข้ึนต้นจะออ่ น

เมล็ดถว่ั เขียวเจริญเตบิ โตได้ในท้งั หนิ ดิน ทราย และลกั ษณะการเจรญิ เติบโตเปน็ ดงั น้ี

ผลการพัฒนาความสามารถของเด็กปฐมวยั

1. ผลการพัฒนาความสามารถพ้นื ฐานท้ัง 4 ด้าน
1.1 ด้านการเรยี นรู้
- เดก็ ๆ สามารถเล่าบอกวิธกี ารหาคาตอบของตนเองได้
- เด็กๆ ไดเ้ รยี นรู้วิธีการปลูกตน้ ออ่ นถ่วั เขยี วในหนิ ดิน ทราย
- เดก็ ๆ ไดเ้ รยี นรู้การใช้ประสาทสมั ผสั ทง้ั 5 และลงมอื กระทาดว้ ยตนเอง
- เด็กไดเ้ ห็นถึงความแตกตา่ งของการปลูกในหิน ดิน ทราย
1.2 ดา้ นภาษา
- เดก็ ๆ มีพฒั นาการดา้ นภาษาจากการสนทนาโต้ตอบและแสดงความคดิ เหน็
- เดก็ ๆ มีทกั ษะการพดู การสนทนาแลกเปลยี่ นความคดิ เห็น การบรรยายผลการทดลอง การ

เล่าสง่ิ ที่ตนเองสงั เกตเหน็ ไดจ้ ากการทดลอง การสอบถามครูและผปู้ กครองในส่งิ ท่ีเด็กๆ สงสยั และอยากรู้
- เด็กๆ เดก็ ๆเขยี นวาดภาพจากการบนั ทึกผลท่เี ด็กๆสังเกตลงบนใบกิจกรรม

16

1.3 ด้านสังคม
- เดก็ ๆ ได้ฝึกการทางานร่วมกับผ้อู ื่น
- เดก็ ๆ แสดงความคดิ เหน็ ของตนเองและยอมรับฟงั ความคดิ เห็นของผูอ้ ่นื
- เดก็ ๆร้จู กั การเป็นผ้นู าและผตู้ ามท่ีดี
- เด็กๆ มีความเคารพความคิดของตนเองและผู้อน่ื
- เดก็ ๆรจู้ ักการรอคอย และแบง่ ปันผอู้ ืน่

1.4 ด้านการเคลอ่ื นไหวและทักษะการรบั รูป้ ระสาทสมั ผสั
- เดก็ ๆ ใชม้ อื เคลื่อนไหวหยิบ จับ วสั ดุอุปกรณ์ต่างๆ ท่ีใชใ้ นการทากิจกรรม
- เด็กๆ ใชต้ าในการสังเกตการปลกู ต้นออ่ นถว่ั เขยี วในแบบต่างๆ
- เดก็ ๆ ใชจ้ มกู ดมกลน่ิ เวลาตน้ ออ่ นถว่ั เขยี วเปลี่ยนแปลงไป
- เดก็ ๆ ชิมรสชาตขิ องเมลด็ ถั่วเขียว

2. ผลการพฒั นาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
2.1 ทักษะการสังเกต
- เดก็ ๆ สงั เกตการณเ์ จรญิ เตบิ โตของตน้ อ่อนถว่ั เขยี วในแต่ละวัน
- เดก็ ๆบอกถึงลกั ษณะของวสั ดุทน่ี ามาใช้ได้
- เดก็ ๆ สังเกตต้นออ่ นถัว่ เขยี วที่เจรญิ เตบิ โตโดยใชป้ ระสาทสัมผัสทงั้ 5 ได้
2.2 ทักษะการจาแนกประเภท
- เด็กๆ จาแนกประเภทของส่งิ ท่ใี ช้ปลูกต้นออ่ นถั่วเขยี ว
2.3 ทักษะการวดั
- เด็ก ๆ วัดความสูงของตน้ ออ่ นถั่วเขยี วโดยใชไ้ ม้บรรทัด และการใชต้ าสงั เกต
2.4 ทักษะการพยากรณห์ รือการคาดคะเนคาตอบ
- เด็กๆ คาดคะเนคาตอบจากคาถาม
- เด็กๆ อธบิ ายการคาดคะเนคาตอบได้วา่ เพราะอะไรจึงคาดคะเนแบบนั้น
2.5 ทกั ษะการจัดกระทาและส่อื ความหมาย
- เด็กๆ สามารถสรุปกิจกรรมท่ที าไดด้ ้วยการวาดภาพ และนาเสนอหน้าชน้ั เรียนได้
- นาเสนอผลงานทีเ่ ด็กๆได้ลงมือปฎิบตั ิในรูปแบบทเี่ ขา้ ใจไดง้ า่ ย
2.6 ทกั ษะการลงความคดิ เห็นจากขอ้ มูล

- เดก็ ๆ สามารถใหค้ วามเห็นในกระบวนการทดลองไดด้ ้วยประสบการณ์เดมิ หรอื ความเห็น
สว่ นตัวของเดก็ ๆ

- เดก็ ๆ ต่อยอดความคิดเหน็ ไปสู่คาถามอกี คาถามหน่ึงได้

17

คาถามที่ 2
“ตน้ ออ่ นถว่ั เขียวที่รับแสงจากดวงอาทติ ยก์ บั รับแสงจากโคมไฟแบบไหน
เจริญเติบโตได้ดีกวา่ กนั ”

จดุ ประสงค์ 1. เพอ่ื ให้เดก็ เปรียบเทยี บว่าตน้ อ่อนถัว่ เขยี วทร่ี บั แสงอาทติ ยก์ ับรบั แสงโคมไฟแบบไหน
เจรญิ เตบิ โตได้ดกี ว่า

ข้นั ท่ี 1 ตั้งคาถามเกยี่ วกบั ปรากฏการณธ์ รรมชาติ (17 มกราคม พ.ศ.2565 )
ครูและเด็กๆรว่ มกนั สนทนาเกยี่ วกับการเจริญเติบโตของต้นอ่อนถว่ั เขยี วท่ที าการทดลองไปแลว้

คุณครู : เดก็ ๆคิดวา่ อะไรทที่ าใหต้ น้ อ่อนถั่วเขยี วเจรญิ เติบโตบ้างคะ เพราะอะไร
น้องแสตมป์ : นา้ ครบั ตอ้ งรดน้าเช้า กลางวนั เย็น เพราะต้นถว่ั ชอบน้า
น้องปุย : หิน ดิน ทราย ค่ะ ไมอ่ ย่างนัน้ ตน้ จะเอยี งคะ่
นอ้ งโอแปง : อากาศต้องดคี ่ะ
นอ้ งแอปเปิ้ล : แสงแดดค่ะ ถา้ ตน้ มันยงั เล็กอยกู่ ็โดนแดดไดแ้ ค่ตอนเช้าค่ะ
น้องสตงั ค์ : ผมอยากร้วู า่ ถา้ โดนแสงจากโคมไฟจะเป็นอย่างไรครับ
น้องเกรช : หนูอยากร้วู า่ ถา้ ต้นออ่ นถวั่ เขียวท่ีรบั แสงแดดกับรับแสงจากโคมไฟแบบไหน
เจรญิ เติบโตไดด้ กี ว่ากนั คะ
น้องออมสนิ : แลว้ ถา้ มนั รบั แสงจากดวงอาทติ ยเ์ ยอะขึ้นจะเป็นอย่างไรคะ

จากคาถามทเี่ ด็กๆตอ่ ยอดและอยากรู้ 3 คาถาม เด็กๆรว่ มกนั เลอื กคาถามท่ีจะนามาศกึ ษา โดยการ
โหวต เด็กๆเลอื ก คาถามท่ี 1 คือ “ต้นอ่อนถวั่ เขยี วที่รบั แสงจากดวงอาทติ ย์กับรบั แสงจากโคมไฟแบบไหน
เจริญเติบโตไดด้ กี ว่ากันคะ”

ข้นั ท่ี 2 รวบรวมความคดิ และขอ้ สันนิษฐาน (17 มกราคม พ.ศ.2565)
คณุ ครใู ช้คาถามกระต้นุ วา่ “เดก็ ๆคิดวา่ ตน้ ออ่ นถว่ั เขยี วท่ปี ลูกโดยรบั แสงแดดหรอื รับแสงจากโคม
ไฟจะดกี วา่ กัน” เด็กๆร่วมกนั คาดคะเนคาตอบเป็นการตรวจสอบประสบการณ์เดิมของเด็กคุณครูบันทึก

18

คาตอบของเดก็
น้องสตังค์ : ปลกู โดนแสงแดดดกี วา่ ครับ
น้องแสตมป์ : ปลกู โดนแสงโคมไฟดีกว่าครบั
น้องตือ : ปลูกโดนทัง้ สองแสงโตไวเหมือนกัน
นอ้ งออมสิน : โตเหมือนกนั คะ่ เพราะเป็นแสงเหมอื นกนั
คณุ ครู : แล้วทาไมเด็กๆถึงคิดว่าโดนแสงแดดจะเจริญเตบิ โตไดด้ กี วา่
นอ้ งโอแปง : เพราะดวงอาทิตย์ดวงใหญ่กวา่ แสงโคมไฟ
น้องทับทมิ : แม่หนูเคยบอกว่าแสงแดดดกี ว่า
น้องนา้ ฝน : แสงแดดทาใหพ้ ืชโตไวค่ะ ทาใหไ้ ด้กนิ ต้นถัว่ เขยี วไวคะ่
คณุ ครู : แลว้ ทาไมเด็กๆถงึ คิดวา่ โดนแสงจากโคมไฟจะเจริญเตบิ โตได้ดีกว่า
น้องเกรช : เพราะแสงจากดวงอาทิตย์ทาให้น้าแหง้
น้องแอปเปิ้ล : แสงจากโคมไฟสวยกว่าแสงจากดวงอาทติ ย์
น้องปุย : ต้นอ่อนถวั่ เขียวชอบแสงสวยๆจากโคมไฟเลยโตไวคะ่
คณุ ครู : ถา้ เด็กๆอยากรจู้ ะทาอยา่ งไรได้บา้ งคะ
นอ้ งสโนไวท์ : กลับบา้ นไปถามผู้ปกครองค่ะ
นอ้ งอนั ปนั : ดูในยทู ปู คะ่ ดูทีวกี ็ได้
นอ้ งนา้ ฝน : ถามคนปลูก
น้องตอื : ถามแม่คา้ ท่ีขายผักค่ะ
น้องสตงั ค์ : อ่านหนังสือครับ
น้องออมสนิ : ถามคุณครูค่ะ
น้องแสตมป์ : เราเอามาปลกู เองครบั

ข้ันที่ 3 ทดสอบและปฏิบตั ิการสบื เสาะ(18 มกราคม พ.ศ.2565 - 27 มกราคม พ.ศ.2565)
หลังจากเดก็ ๆ ไปค้นหาวิธกี ารการทดสอบจากแหล่งต่างๆแล้ว เดก็ ๆกม็ ารว่ มกนั สนทนาถงึ วิธีการ
ปฏิบตั กิ ารทดลอง โดยช่วยกนั คดิ ว่าจะทาการปลูกแบบคาถามท่ี 1 แต่จะใช้แสงแดดและแสงจากโคมไฟมาเปน็
ตวั ทดลอง
นอ้ งเกรช : หนจู ะเอาตน้ ท่ปี ลกู ในหนิ ดิน ทราย ไปรบั แสงแดดคะ่
น้องนา้ ฝน : แสงแดดมันร้อนค่ะ ตน้ ออ่ นถว่ั เขยี วจะตาย
น้องโอแปง : ใช้โคมไฟแคอ่ นั เดียวค่ะ เดี๋ยวต้นอ่อนถว่ั เขียวร้อน
น้องสตงั ค์ : รดน้าเช้า กลางวัน เย็นครบั รดนา้ ใหม้ นั เท่าๆกนั ทุกตะกรา้ ครบั
คุณครู : แลว้ เดก็ ๆจะทาการทดลองเร่อื งแสงอย่างไรต่อไปคะ
นอ้ งแสตมป์ : เอาโคมไฟมาทดลองครับ ให้ยายเอามาจากบ้าน
นอ้ งแอปเปิล้ : หนจู ะปลกู แล้วเอาต้นไปถกู กบั แสงแดดค่ะ

19

(18 มกราคม พ.ศ.2565)
เด็กๆศกึ ษาค้นคว้าและเตรียมอปุ กรณ์เพอ่ื มาปฎบิ ัตกิ ารทดสอบอย่างสนุกสนาน เดก็ ๆหาขอ้ มูล
เกี่ยวกบั แสงอาทติ ยแ์ ละโคมไฟ และออกไปหาอปุ กรณใ์ นการทดลองได้เองโดยอาศยั จากการทดลองทไ่ี ดท้ า
การทดลองไปแล้ว

ดวู ิธกี ารปลกู จากยทู ูป

เก็บหนิ เก็บดิน เก็บทราย

เตรียมอุปกรณม์ าเพือ่ จะแชเ่ มล็ดถ่ัวเขียว เตรียมแชเ่ มล็ดไว้ 1 คนื

20

(20 มกราคม พ.ศ.2565)
เดก็ ๆลงมอื ปฎบิ ัตจิ รงิ ตามขั้นตอนดงั นี้

1.เตรียมอุปกรณ์

อปุ กรณ์การทดลอง

เด็กแตล่ ะกลุม่ จะเตรียมตะกรา้ ใสถ่ งุ ดาเพอ่ื ไมใ่ หถ้ ุงทะลุ เด็กๆสนกุ สนานกบั การเตรยี มอปุ กรณ์
2.ใส่ หนิ ดนิ ทราย ลงในตะกร้า อย่างละ 2 ตะกรา้ โดยทาเปน็ กลมุ่

21

3.เด็กๆทุกกลุ่มช่วยกันฉีดน้าใส่ในตะกร้าทุกตะกร้าใหช้ ุ่มฉา่ กอ่ นปลกู เมลด็ ถวั่ เขียวลงไป

4.ใสเ่ มล็ดถ่ัวเขยี วที่แชไ่ ว้ 1 คืนนามาเรยี งปลูกใน หิน ดิน ทราย

5.เดก็ ๆฉดี สเปย์น้าอกี ครงั้ เมอื่ ปลูกเสร็จ ก็นาเข้าในรม่ ทันทีเพราะเมล็ดถ่ัวเขยี วยังออ่ นอยู่ และแดดร้อนในตอน
กลางวนั

ขน้ั ที่ 4 สงั เกตและบรรยาย (20 มกราคม พ.ศ.2565 - 25 มกราคมพ.ศ.2565)
เด็กๆสงั เกตโดยใช้ประสาทสัมผัสทงั้ 5 ในการเจริญเติบโตของตน้ ออ่ นถ่วั เขียวท้งั 6 วนั และออกมา
เลา่ เร่ืองสง่ิ ท่ีตนเองได้สังเกตจากการเจริญเติบโตของ ตน้ อ่อนถว่ั เขียวท่ีปลกู ในหนิ ดิน ทราย ท่ีโดน
แสงอาทติ ย์ และโดนแสงจากโคมไฟ วา่ เหมอื นหรือแตกต่างกนั อยา่ งไร ตะกร้าไหนทีม่ กี ารเจรญิ เติบโตดี

คณุ ครู : เด็กๆเหน็ อะไรเกิดขึน้ บา้ งของการเจรญิ เติบโตของตน้ ออ่ นถวั่ เขยี วในแต่ละตะกรา้
น้องสตงั ค์ : ตน้ ท่ปี ลกู โดนแสงอาทิตยจ์ ะต้นสูงกว่าถ่ัวท่ีโดนแสงจากโคมไฟครับ
นอ้ งแอปเปิ้ล : ต้นทป่ี ลูกในหนิ แลว้ โดนแสงดวงอาทติ ยก์ ับแสงจากโคมไฟโตชา้
น้องน้าฝน : ถว่ั ทป่ี ลูกในดินแล้วกโ็ ดนแสงจากดวงอาทิตย์ต้นจะสูงกว่าต้นอื่นๆ
น้องทับทิม : ต้นที่ปลูกโดนแสงจากโคมไฟวนั ที่ 6 จะตายหมดเลยค่ะ มันเห่ียวค่ะ
นอ้ งออมสนิ : ต้นแสงท่ีปลูกโดนแสงอาทิตย์จะโตมากกว่าต้นทโี่ ดนแสงจากโคมไฟ

22

น้องเกรช : ตน้ ทีป่ ลกู ในหนิ แลว้ โดนแสงโคมไฟ จะตายไว
นอ้ งโอแปง : ตอนต้นมนั โตจะมีใบสองใบ มีใบเลี้ยง

เด็กๆสังเกตและบันทกึ ผลเปรยี บเทยี บทั้ง 6 ตะกร้า

สงั เกต และ เปรียบเทยี บท้ัง 6 ตะกร้า ใชไ้ ม้บรรทดั วัดความยาวของพืช

ให้เดก็ ๆแต่ละกลมุ่ หิน กลุ่มดนิ กลุ่มทราย ออกมาเลา่ เรอ่ื งและบรรยายสิ่งทพี่ บเหน็

23

ขั้นที่ 5 บันทึกผล
เดก็ ๆ รว่ มกนั สนทนาและอภปิ รายถงึ วิธกี ารบนั ทกึ ผลและการนาเสนอผลงานให้ผ้อู ่นื ไดร้ บั ความร้ไู ด้
โดยการวาดภาพการเจรญิ เตบิ โตของตน้ ออ่ นถั่วเขียวในทุกๆวนั ท้ัง 6 วัน ตามภาพ

ผลการสงั เกตและบันทึกผล คาถามท่ี 2 “ตน้ ออ่ นถ

ลาดับ ชนิด วนั ที่ 1 วันท่ี 2

1

2
3
4

5

6

24

ถ่วั เขียวทีร่ ับแสงอาทติ ย์กบั รบั แสงโคมไฟแบบไหนเจรญิ เตบิ โตได้ดกี ว่ากนั ”
วนั ที่ 3 วนั ที่ 4 วนั ที่ 5 วันที่ 6

สรุปผลการเจรญิ เตบิ โตของต้นอ่อนถ่ัวเขียว คาถามท่ี 2 “ตน้

ลาดบั ชนิด วันท่ี 1 วนั ท่ี 2

-รากเรม่ิ งอกออกจาก -รากงอกขึ้นมา

1 เมล็ดถวั่ เขยี ว ประมาณ 3

มลิ ลเิ มตร

-รากเริ่มงอกออกจาก -รากงอกยาวขึน้ มาก

2 เมลด็ ถ่วั เขียว -ใบงอกออกมาและ

ลาต้นสูงข้ึนสีขาว

เหลอื ง

-รากเร่มิ งอกออกจาก -รากงอกยาวขึ้นมาก

3 เมลด็ ถัว่ เขยี ว -ใบงอกออกมาและ

ลาตน้ สูงข้ึนสขี าว

เหลือง

-รากเริ่มงอกออกจาก -เมลด็ ถั่วเขียวเร่มิ มีสี

4 เมล็ดถ่ัวเขยี ว เหลือง

-รากสีเหลอื ง

-รากเริ่มงอกออกจาก -ใบงอก 2 ใบ

5 เมลด็ ถ่ัวเขยี ว -ลาต้นสูงและเริ่มตัง้

ตรง

-รากเรม่ิ งอกออกจาก -ใบงอก 2 ใบ

6 เมล็ดถั่วเขยี ว -ลาตน้ สูงขึน้ เอียงเอน

นออ่ นถ่ัวเขียวที่รับแสงอาทติ ย์กบั รบั แสงโคมไฟแบบไหนเจรญิ เติบโตได้ดกี วา่ กัน” 25

วันที่ 3 วนั ท่ี 4 วนั ท่ี 5 วนั ที่ 6

-รากยาวขึ้นมาก -มีใบงอกออกมาจาก -ลาตน้ สูงข้ึน -ลาต้นเตี้ย
-ใบและลาต้นมสี ี -ใบสเี ขยี วสด
-ลาต้นเจริญเตบิ โตชา้ เมล็ด เขยี วอ่อน -เจรญิ เตบิ โตช้า

-ลาต้นไมส่ ูงมาก สี -ใบและลาตน้ สเี ขียว -ลาตน้ สูงตั้งตรง
-ลาตน้ อวบ -ใบสเี ขียวสด
ขาวเหลอื ง -ลาตน้ สีเขียวสด
-ใบและลาต้นสเี ขียว
-รากยาวขนึ้ -ใบและลาตน้ สเี ขียว -ลาต้นอวบ -ลาตน้ เอียงเอนบา้ ง
-ใบสีเขยี วสด
-ลาตน้ สงู ขึน้ ออ่ น -ตน้ ออ่ นถั่วเขยี ว -ลาต้นสเี ขียวสด
เหย่ี วแห้งและเรม่ิ
-ใบและลาต้นสีเขยี ว ตาย -ต้นออ่ นถั่วเขียว
เหี่ยวแหง้ และตาย
ออ่ น

-รากยาวข้นึ -ใบและลาต้นสีเขียว

-ลาต้นสงู ขึ้น ออ่ น

-ใบและลาตน้ สีเขยี ว

ออ่ น

-เร่มิ มใี บเหลืองงอก -ตน้ อ่อนถวั่ เขียว

ออกมา แคระแกรน ลาต้น

-ลาต้นเหลอื ง เตยี้

-ใบเหลอื ง ลาตน้ -ต้นออ่ นถ่วั เขียว -ตน้ อ่อนถ่วั เขยี ว -ตน้ อ่อนถว่ั เขียว
เหลอื ง แคระแกรน ลาตน้ เหีย่ วแห้งและเรม่ิ เหย่ี วแหง้ และตาย
-ลาตน้ สงู และตัง้ ตรง เตย้ี ตาย

-ใบเหลอื ง ลาตน้ -ต้นอ่อนถั่วเขยี ว -ตน้ อ่อนถั่วเขยี ว -ตน้ อ่อนถวั่ เขยี ว
เหลือง แคระแกรน ลาต้น เหี่ยวแหง้ และเร่มิ เหีย่ วแห้งและตาย
-ลาตน้ สูงและตั้งตรง เต้ยี ตาย

26

หลังจากที่เดก็ ๆสงั เกตและบันทกึ ผลการทดลองต้นอ่อนถั่วเขยี วที่รับแสงอาทติ ย์กบั รบั แสงโคมไฟแบบ
ไหนเจรญิ เติบโตได้ดีกวา่ กัน จากคาถามของเด็กๆสรปุ ไดด้ งั ตาราง

ชนดิ ผลการทดลอง

ต้นอ่อนถวั่ เขยี ว -เจรญิ เติบโตได้ดี
ทีเ่ จริญเตบิ โต -ใบมีสีเขียวสด ลาตน้ มสี ีเขยี วออ่ น
ในหิน ดิน -ลาตน้ เอนเข้าหาแสง อย่างเปน็ ระเบยี บ
ทราย ทร่ี บั แสง -ใบใหญ่
จากดวงอาทิตย์
ต้นออ่ นถว่ั เขยี ว -เจริญเติบโตได้ไม่ดี
ที่เจริญเตบิ โต -ใบและลาต้นเหลอิ ง ใบซดี เห่ียวแหง้ และตาย
ในหิน ดิน -ลาตน้ เอนไปมา ไมเ่ ปน็ ระเบยี บ
ทราย ทีร่ บั แสง -ใบเลก็ แกร็น
จากโคมไฟ

ขน้ั ท่ี 6 สรุปและอภิปรายผล

เดก็ ๆรว่ มกนั สนทนาและอภปิ รายจากคาถามท่ีเด็กอยากรู้ คอื “เด็กๆคิดว่าตน้ อ่อนถั่วเขียวท่ีปลูกโดย
โดนแสงอาทติ ยห์ รือแสงจากโคมไฟจะดกี วา่ กัน”

คุณครู : ผลการทดลองการปลูกตน้ อ่อนถว่ั เขียวท่รี บั แสงจากดวงอาทิตยแ์ ละรบั แสงจากโคมไฟแบบ
ไหนดกี วา่ กันคะ

นอ้ งแสตมป์ : โดนแสงจากดวงอาทติ ย์ดกี ว่าครบั
น้องโอแปง นอ้ งออมสิน : รบั แสงจากดวงอาทิตยด์ กี ว่าค่ะ
นอ้ งตือ : ถา้ รับแสงจากดวงอาทิตยต์ ้นจะสีเขียวคะ่ ไม่สเี หลือง
น้องทับทมิ : รับแสงจากโคมไฟไมด่ ีเลยคะ่ มนั เหย่ี ว ตน้ ส้ัน ๆ
น้องสตงั ค์ : รบั แสงจากโคมไฟ ตน้ จะตายครบั ตายหมดเลยสามตะกร้า
น้องสโนไวท์ : ต้นอ่อนถ่วั เขียวท่รี บั แสงจากดวงอาทิตยท์ งั้ สามตะกร้ามันจะโตเหมือนทเ่ี ราทดลอง
เลยค่ะ

ตน้ ออ่ นถ่วั เขียวทีโ่ ดนแสงจากดวงอาทติ ย์ จะเจริญเติบโตไดด้ กี วา่ ต้นอ่อนถั่วเขยี วท่โี ดนแสงจากโคม
ไฟ ตน้ ออ่ นถวั่ เขยี วที่โดนแสงจากดวงอาทติ ย์และปลูกในดนิ จะเจริญเติบโตไดด้ ที ี่สุด ตน้ ออ่ นถว่ั เขียวทีโ่ ดนแสง
จากโคมไฟจะเจรญิ เตบิ โตช้าที่สุด ต้นอ่อนถั่วเขยี วทโี่ ดนแสงจากโคมไฟจะมีส่วนสงู น้อยกว่าตน้ ออ่ นถวั่ เขยี วท่ี
โดนแสงจากดวงอาทติ ย์ ต้นอ่อนถว่ั เขียวทีโ่ ดนแสงจากโคมไฟจะแคระแกรน และมสี เี หลอื ง บางต้นก็ตาย

27

บางเมลด็ กไ็ มง่ อก ต้นอ่อนถั่วเขียวทป่ี ลกู ใน หนิ ดิน ทราย ที่ไดร้ ับแสงจากดวงอาทิตย์จะมใี บสีเขยี วสดลาต้นสี
เขียวอ่อน ในขณะทต่ี น้ ออ่ นถวั่ เขยี วทไ่ี ด้รับแสงจากโคมไฟ มใี บและลาต้นเหลอื ง และตายในท่ีสดุ

ผลการพฒั นาความสามารถของเด็กปฐมวยั
1. ผลการพัฒนาความสามารถพื้นฐานทง้ั 4 ดา้ น

1.1 ดา้ นการเรยี นรู้
- เดก็ ๆ สามารถเล่าบอกวิธกี ารหาคาตอบของตนเองได้
- เดก็ ๆ ได้เรยี นรู้เปรียบเทยี บเกย่ี วกบั ต้นอ่อนถ่วั เขยี วทีโ่ ดนแสงแดดกบั แสงจากโคมไฟ
- เด็กๆ ได้เรียนรกู้ ารเจริญเตบิ โตของต้นอ่อนถวั่ เขียว
- เดก็ ๆ ไดเ้ รยี นรู้การใชป้ ระสาทสัมผัสทงั้ 5
- เด็กๆ ไดเ้ รยี นรู้และลงมือกระทาการทดลองดว้ ยตนเอง

1.2 ด้านภาษา
- เดก็ ๆ มีพัฒนาการด้านภาษาจากการสนทนาโต้ตอบและแสดงความคดิ เหน็
- เด็กๆ มีทกั ษะการพูด การสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การบรรยายผลการทดลอง การเล่าสง่ิ ที่

ตนเองสังเกตเหน็ ไดจ้ ากการทดลอง การสอบถามครแู ละผปู้ กครองในสิง่ ทเี่ ดก็ ๆ สงสัยและอยากรู้
- เดก็ ๆ เด็กๆเขียนวาดภาพจากการบันทึกผลท่เี ด็กๆสงั เกตลงบนใบกิจกรรม

1.3 ด้านสังคม
- เด็กๆ ได้ฝกึ การทางานร่วมกบั ผู้อื่น
- เดก็ ๆ แสดงความคิดเหน็ ของตนเองและยอมรับฟังความคิดเหน็ ของผ้อู ่ืน

28

- เดก็ ๆรจู้ ักการเป็นผนู้ าและผู้ตามที่ดี
- เด็กๆ มีความเคารพความคดิ ของตนเองและผู้อื่น
- เดก็ ๆรู้จกั การรอคอย และแบง่ ปนั ผอู้ ่นื
1.4 ด้านการเคล่ือนไหวและทกั ษะการรับรปู้ ระสาทสัมผสั
- เดก็ ๆ ใชม้ อื เคล่ือนไหวหยิบ จบั วสั ดุอปุ กรณ์ตา่ งๆ ทใี่ ชใ้ นการทากิจกรรม
- เด็กๆ ใชต้ าในการสังเกตการณ์เปลย่ี นแปลงของต้นอ่อนถั่วเขยี ว
- เดก็ ๆ ใชจ้ มูกดมกลนิ่ เวลาตน้ อ่อนถวั่ เขียวเปลยี่ นแปลงไป
- เด็กๆ ชมิ รสชาตขิ องต้นอ่อนถวั่ เขยี วในตะกรา้ ท่ีเจรญิ เติบโตไดด้ ที ี่สดุ
- เดก็ ๆ เคลอื่ นไหวร่างกายทาทา่ ทางประกอบเพลง “เมล็ดถ่ัวเขียว”
2. ผลการพัฒนาทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
2.1 ทกั ษะการสังเกต
- เด็กๆ สามารถสงั เกตการเจริญเติบโตของต้นออ่ นถว่ั เขยี วในแต่ละตะกร้าทโี่ ดนแสงแดดกบั แสงจาก
โคมไฟได้
- เดก็ ๆบอกถึงลกั ษณะของวสั ดุทน่ี ามาใช้ได้
- เดก็ ๆ สังเกตตน้ ออ่ นถ่วั เขียวทเี่ จรญิ เตบิ โตโดยใช้ประสาทสมั ผัสทง้ั 5 ได้
2.2 ทักษะการจาแนกประเภท
- เดก็ ๆเล่นเกมเรยี งลาดับการเจรญิ เตบิ โตของตน้ อ่อนถั่วเขยี ว
2.3 ทกั ษะการวดั
- เด็ก ๆ วัดความสูงของต้นออ่ นถว่ั เขียวโดยใช้ไมบ้ รรทดั และการใชต้ าสงั เกต
2.4 ทกั ษะการพยากรณห์ รือการคาดคะเนคาตอบ
- เด็กๆ คาดคะเนคาตอบจากคาถาม
- เด็กๆ อธบิ ายการคาดคะเนคาตอบไดว้ ่าเพราะอะไรจงึ คาดคะเนแบบน้นั
2.5 ทักษะการจัดกระทาและสือ่ ความหมาย
- เดก็ ๆ สามารถสรปุ กิจกรรมทท่ี าไดด้ ้วยการวาดภาพ และนาเสนอหน้าช้นั เรียนได้
- นาเสนอผลงานทเี่ ดก็ ๆไดล้ งมอื ปฎบิ ตั ิในรปู แบบทีเ่ ขา้ ใจได้งา่ ย
2.6 ทกั ษะการลงความคดิ เห็นจากข้อมูล
- เด็กๆ สามารถให้ความเหน็ ในกระบวนการทดลองได้ดว้ ยประสบการณ์เดมิ หรอื ความเหน็ สว่ นตวั
- เดก็ ๆ ตอ่ ยอดความคดิ เห็นไปสู่คาถามอกี คาถามหนงึ่ ได้
2.7 การหาความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสเปสกับสเปส และสเปสกับเวลา
- เด็กบอกได้ว่าการปลกู ตน้ อ่อนถั่วเขยี วใชแ้ สงอาทติ ยก์ บั แสงจากโคมไฟได้ผลท่ีแตกต่างกันอยา่ งไร

29

สรปุ สง่ิ ทไี่ ด้เรยี นรู้

1.ต้นอ่อนถวั่ เขยี วทโ่ี ดนแสงจากดวงอาทิตย์ จะเจรญิ เตบิ โตได้ดกี วา่ ตน้ อ่อนถ่วั เขียวท่โี ดนแสงจาก
โคมไฟ

2.ตน้ อ่อนถ่ัวเขยี วทโี่ ดนแสงจากดวงอาทติ ยแ์ ละปลูกในดนิ จะเจริญเติบโตไดด้ ีท่สี ุด ตน้ ออ่ นถว่ั เขียวท่ี
โดนแสงจากโคมไฟจะเจริญเตบิ โตช้าที่สดุ

3.ต้นอ่อนถั่วเขียวทโ่ี ดนแสงจากโคมไฟจะมีส่วนสูงน้อยกวา่ ต้นออ่ นถว่ั เขยี วท่ีโดนแสงจากดวงอาทติ ย์
4.ต้นอ่อนถว่ั เขยี วทโ่ี ดนแสงจากโคมไฟจะแคระแกรน และมีสเี หลอื ง บางตน้ กต็ าย บางเมลด็ ก็ไม่งอก
5.ต้นออ่ นถว่ั เขียวที่ปลกู ใน หนิ ดนิ ทราย ท่ีได้รับแสงจากดวงอาทิตย์จะมีใบสเี ขียวสดลาต้นสีเขียว
อ่อน ในขณะที่ต้นอ่อนถั่วเขยี วทีไ่ ดร้ ับแสงจากโคมไฟ มใี บและลาต้นเหลือง และตายในท่สี ุด

ประโยชนท์ ไ่ี ด้รับ

1. เพ่ือใหเ้ ด็กรู้วา่ ตน้ อ่อนถัว่ เขียวเจรญิ เตบิ โตใน หนิ ดิน ทราย ได้หรอื ไม่
2. เพอื่ ใหเ้ ดก็ เปรยี บเทยี บวา่ ต้นอ่อนถว่ั เขียวท่ีรบั แสงอาทิตยก์ ับรับแสงโคมไฟแบบไหน
เจรญิ เตบิ โตไดด้ กี ว่า
3. เพ่อื ให้เดก็ สามารถเล่าบอกวธิ ีการหาคาตอบของตนเองได้
4. เพื่อใหเ้ ด็กไดเ้ รยี นรูเ้ ปรยี บเทียบเก่ยี วกบั ตน้ อ่อนถั่วเขียวทโี่ ดนแสงแดดกับแสงจากโคมไฟ
5. เพือ่ ให้เด็กได้เรียนรู้การเจริญเตบิ โตของต้นออ่ นถ่ัวเขยี ว
6. เพื่อให้เด็กได้เรยี นรกู้ ารใช้ประสาทสมั ผสั ท้งั 5
7. เพอ่ื ให้เดก็ ไดเ้ รยี นรแู้ ละลงมอื กระทาการทดลองด้วยตนเอง

ภาคผนวก

แบบบนั ทกึ ตน้ ออ่ นถั่วเขยี ว

แบบบนั ทกึ ตน้ ออ่ นถั่วเขยี ว

แบบบนั ทกึ ตน้ ออ่ นถั่วเขยี ว

แบบบนั ทกึ ตน้ ออ่ นถั่วเขยี ว

เกยี รตบิ ตั ร

เกยี รตบิ ตั ร

เกยี รตบิ ตั ร

เกยี รตบิ ตั ร


Click to View FlipBook Version