The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงาน 20 กิจกรรมบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย โรงเรียนบ้านน้ำพุ อ.นาน้อย - Aunyarat Sompanwang

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รายงานการทดลองกิจกรรมบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย

รายงาน 20 กิจกรรมบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย โรงเรียนบ้านน้ำพุ อ.นาน้อย - Aunyarat Sompanwang

๔๘

ผลกำรจดั กจิ กรรม
1. พัฒนำกำรควำมสำมำรถพนื ฐำน และพัฒนำกำรของเด็กปฐมวยั
1.1 ดำ้ นกำรเรยี นร/ู้ ด้ำนภำษำ/ดำ้ นสติปัญญำ
ดำ้ นกำรเรยี นรู้
- เดก็ ได้ลงมือทาและทดลองด้วยตนเอง
- เดก็ ได้เรยี นร้ใู นเรื่อง ทอรน์ าโดในขวด พบวา่ เม่ือพลิกขวดนา้ และต้ังไวเ้ ฉย ๆ น้าจะไมไ่ หลลงมา

ที่ขวดข้างลา่ งแสดงวา่ ภายในขวดท่ดี ูวา่ งเปลา่ จะมอี ากาศอยู่ เรามองเหน็ อากาศเหลา่ น้ีไดใ้ นรูปของฟองอากาศ แต่
พอบบี ขวดเปล่าด้านล่างจะสงั เกตเห็นฟองอากาศลอยขน้ึ ไปบนขวดน้าดา้ นบนพร้อมกบั มีน้าไหลลงมา เม่ือบีบขวด
น้าด้านลา่ งอากาศจะออกแรงผลกั ข้ึนไปยังขวดด้านบนทาให้ขวดดา้ นลา่ งมีพื้นที่ว่างน้าจึงไหลลงมาได้ สาหรับการ
เกิดทอรน์ าโดในขวด เกดิ จากการเคลื่อนตัวของอากาศผา่ น “ตา” ของนา้ วนขึน้ สดู่ ้านบนนา้ ทหี่ มนุ จะไหลผา่ น
ผวิ ดา้ นในขวดไปยังดา้ นล่าง จงึ จะเห็นลักษณะการหมุนของนา้ เหมือนทอร์นาโด

- เดก็ สามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้
ดำ้ นภำษำ

- เด็กสามารถบอกรายละเอียดเก่ียวกับอุปกรณ์การทดลองได้ โดยใช้คาพูดของตนเอง
- เดก็ พูดอธิบายถึงสง่ิ ท่ีพวกเขาสงั เกตเหน็ จากการทดลอง
- เด็กได้นาเสนอผลงานของตนเองให้เพ่ือนๆ ฟงั ได้
ดำ้ นสติปญั ญำ
- เด็กคดิ และรูจ้ ักการตง้ั คาถามในสิง่ ทต่ี นสงสัย
- เด็กไดม้ ีการพฒั นาสตปิ ัญญา โดยเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เชน่ การคาดคะเน
ทกั ษะการสังเกต การเปรยี บเทียบ เป็นต้น
1.2 ด้ำนสงั คม
- เด็กสามารถทางานร่วมกบั ผู้อนื่ ได้
- เด็กสามารถแสดงความคิดเหน็ ของตนเอง และยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อื่น
- เด็กเคารพกฎ กตกิ าของห้องเรียน และระหวา่ งปฏบิ ัติกจิ กรรม
1.3 ด้ำนอำรมณ์ – จิตใจ
- เดก็ ตื่นเต้นสนกุ สนานมีความสขุ ในการทดลองในขณะปฏิบัตกิ ิจกรรม
1.4 ด้ำนกำรเคล่ือนไหว/รำ่ งกำย
- เดก็ ได้พฒั นากลา้ มเน้ือมือและประสาทสัมผัสระหวา่ งมือกับตา
- เด็กเคลอื่ นไหวหยิบจบั อุปกรณ์ต่างๆ ในการทดลองได้อย่างคลอ่ งแคล่ว
- เด็กสามารถวาดภาพในกระดาษได้อยา่ งคล่องแคล่วและชัดเจน

๔๙

รำยงำนกำรดำเนินงำนกจิ กรรมบ้ำนนกั วทิ ยำศำสตร์น้อย
โรงเรียนบ้านน้าพุ สงั กัดสานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาน่านเขต 1

กิจกรรมท่ี 17 งเู ต้นระบา
วันท่ี 25 เดอื น มกราคม พ.ศ. 2565

จุดประสงค์ของกิจกรรม
1. ใช้ประสาทสัมผัสท้งั ห้าในการหาคาตอบได้
2. เดก็ สามารถปฏิบัติการทดลองเพ่ือพสิ จู น์สมมตฐิ านทตี่ ้งั ไว้ได้
3. เดก็ สามารถบันทึกผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ขันตอนกำรทำกจิ กรรม
1. เด็กและครูรว่ มกันเตรียมวัสดอุ ปุ กรณ์ให้เดก็ ดวู ่ามอี ะไรบ้าง (โคมไฟ กรรไกรตัดกระดาษ กระดาษ)
2. เด็กวาดวงกลมตามแบบลงบนกระดาษและใชก้ รรไกรตดั ออกมา หลงั จากนั้นวาดงลู งบนกระดาษและใช้

ปากกาเคมีในการระบายสีเพ่ือใหเ้ สน้ คมชดั และตดั กระดาษตามเส้นทีว่ าดไว้ (ครดู ูแลการใชก้ รรไกรอย่างใกลช้ ดิ )
3. เด็กนารว้ิ กระดาษทตี่ ดั ไวไ้ ปแขวนไวเ้ หนือโคมไฟทเี่ ปดิ สวซิ ต์ไฟไว้
4. เด็กสงั เกตถึงการเปลี่ยนแปลงของริว้ กระดาษว่าเกดิ การเปลย่ี นแปลงอย่างไร
5. เด็กและครรู ่วมกันสรุปผลท่ีเกดิ ขน้ึ ของกจิ กรรมงูเต้นรา คอื เมื่อเด็กนาร้ิวกระดาษไปแขวนเหนอื โคมไฟที่

ปดิ ไฟไวร้ วิ้ กระดาษไมเ่ กิดการเปลี่ยนแปลง แตเ่ มอ่ื เปิดสวซิ ต์ไฟข้ึนความร้อนท่ีออกจากโคมไฟทาใหร้ ิว้ กระดาษเกิด
การเปล่ียนแปลงสามารถเคลื่อนที่ขยบั ไปมาได้

6. เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพและระบายสลี งบนกระดาษบันทึกกจิ กรรม

๕๐

ภำพบรรยำกำศในกำรทำกิจกรรม

1. ขันตอนกำรทำกิจกรรม 2. วสั ดอุ ุปกรณ์

3. เด็กปฏิบตั กิ ิจกรรม 4. กำรนำเสนองำน

5. ผลงำนของเดก็

๕๑

ผลกำรจดั กิจกรรม
1. พฒั นำกำรควำมสำมำรถพืนฐำน และพัฒนำกำรของเดก็ ปฐมวยั
1.1 ด้ำนกำรเรียนรู้/ดำ้ นภำษำ/ดำ้ นสติปัญญำ
ดำ้ นกำรเรยี นรู้
- เดก็ ได้ลงมือทาและทดลองด้วยตนเอง
- เดก็ ได้เรียนรู้ในเร่ือง งูเตน้ ระบา พบวา่ อากาศร้อนขยายตวั เคล่อื นทเ่ี ร็วและมนี ้าหนกั เบา

อากาศรอ้ นจงึ เคลอ่ื นท่ีลอยข้ึนดา้ นบน สว่ นอากาศเยน็ จะหนักกว่าจะหดตวั เคลอ่ื นที่ช้าจะลอยต่าลง
- เดก็ สามารถบนั ทึกผลการทดลอง สรปุ ผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ด้ำนภำษำ
- เดก็ สามารถบอกรายละเอียดเกีย่ วกับอุปกรณ์การทดลองได้ โดยใช้คาพดู ของตนเอง
- เด็กพดู อธบิ ายถงึ สงิ่ ที่พวกเขาสงั เกตเห็นจากการทดลอง
- เด็กไดน้ าเสนอผลงานของตนเองให้เพือ่ นๆ ฟังได้

ดำ้ นสติปญั ญำ
- เดก็ คิดและร้จู ักการตัง้ คาถามในส่ิงท่ตี นสงสยั
- เด็กไดม้ ีการพัฒนาสตปิ ัญญา โดยเกดิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เชน่ การคาดคะเน

ทักษะการสงั เกต การเปรียบเทียบ เปน็ ตน้
1.2 ดำ้ นสงั คม
- เดก็ สามารถทางานร่วมกับผู้อนื่ ได้
- เดก็ สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเอง และยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน
- เดก็ เคารพกฎ กตกิ าของห้องเรยี น และระหวา่ งปฏิบัติกจิ กรรม
1.3 ดำ้ นอำรมณ์ – จติ ใจ
- เด็กตืน่ เต้นสนกุ สนานมีความสุขในการทดลองในขณะปฏิบัติกจิ กรรม
1.4 ดำ้ นกำรเคล่ือนไหว/ร่ำงกำย
- เด็กเคลื่อนไหวหยบิ จับอุปกรณ์ตา่ งๆ ในการทดลองได้อย่างคลอ่ งแคล่ว
- เด็กสามารถวาดภาพระบายสใี นกระดาษได้อย่างคลอ่ งแคล่วและชัดเจน

๕๒

รำยงำนกำรดำเนินงำนกจิ กรรมบ้ำนนักวทิ ยำศำสตรน์ ้อย
โรงเรยี นบา้ นน้าพุ สงั กัดสานกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาน่านเขต 1

กจิ กรรมท่ี 18 การสรา้ งกระแสลม
วนั ท่ี 26 เดือน มกราคม พ.ศ. 2565

จดุ ประสงค์ของกจิ กรรม
1. เดก็ สามารถใช้มือหยิบ-จบั หลอดกาแฟ แลว้ เปา่ สีให้ไหลกระจายไปในทิศทางต่าง ๆ จนทัว่ แผน่ กระดาษ

ได้
2. เด็กสามารถบอกหรือเลา่ เร่อื งราวเกี่ยวกบั ผลงานท่ีตนเองทาได้
3. เดก็ สามารถทากจิ กรรมได้อย่างสนกุ สนาน

ขันตอนกำรทำกิจกรรม
1. ครถู ามเด็ก ๆ วา่ เราจะรู้ได้อยา่ งไรว่าอากาศกาลังเคลื่อนทอี่ ยู่ ครูลองนาขนนกมาผกู ติดกบั ปลายเชอื ก

ดา้ นหนงึ่ เพ่อื ทาเปน็ “อุปกรณต์ รวจสอบลมอยา่ งง่าย” นาไปแขวนที่ช่องประตู สงั เกตว่ามีลมเกิดขน้ึ หรือไม่ เด็ก ๆ
จะเหน็ ว่าขนนกแกว่งเมื่อมลี มพัด

2. ครูให้เดก็ สร้างกระแสลมขึ้นเองด้วยอุปกรณง์ ่าย ๆ โดยใชก้ ระดาษพดั สังเกตเม่ือลมมาสัมผสั ผิวหนงั และ
เสน้ ผม ใหท้ ดลองเป่าลมใส่หลอดดดู เปา่ ลูกปิงปอง เป่าตุ๊กตากระดาษให้ขยับเคลื่อนที่ เดก็ จะเห็นวา่ เราทาให้เกิดลม
ได้ โดยการพดั โบก เป่า เรารับสมั ผัสลมทเี่ กิดข้ึนทางผวิ หนงั และใช้ลมทาให้ส่งิ ของเคลื่อนท่ไี ด้

3. ครใู ชก้ รรไกรเจาะช่อง ที่ดา้ นขา้ งของกลอ่ งกระดาษ ใช้กระดาษกาวปดิ รอบกล่อง เพ่ือปอ้ งกนั อากาศ
เขา้ ใหเ้ ด็กใชม้ ือทั้ง 2 ขา้ งตบด้านขา้ งกล่อง แล้วใหเ้ ด็กคนอนื่ ลองสมั ผัสกับลมที่กระโชกออกมาจากชอ่ งท่ีเจาะไว้ ให้
เด็กลองถือผา้ ไวท้ ห่ี นา้ ชอ่ ง เว้นระยะหา่ งเล็กน้อย สังเกตว่าลมทาใหผ้ า้ เคลื่อนไหวอย่างไร ทดลองถือผ้าในระยะ
ตา่ งกัน เพื่อดูว่าระยะใดท่ีลมยังทาใหผ้ า้ โบกสะบัดอยู่

4. ครทู ดลองนากลว้ ยที่ปอกเปลอื กไปวางท่ีมุมหอ้ ง ใหเ้ ด็กลองคาดคะเนวา่ กล่นิ กล้วยจะไปถงึ อกี มุมหนง่ึ
ของห้องหรือไม่ และลองใชก้ ระดาษแขง็ พัดกลว้ ย เปรยี บเทียบผลการทดลอง หากเราทาให้อากาศเคล่ือนท่ี กลิ่น
หอมก็จะเคล่ือนท่ีไปด้วย ในห้องท่มี ิดชดิ เราจะไดก้ ลิ่นหอมนาน แตห่ ากอยู่นอกอาคารกล่ินหอมจะกระจายไปอย่าง
รวดเร็วจนเราแทบจะไมไ่ ด้กล่ิน

5. เด็ก ๆ ร้สู ึกถึงกระแสลมและไดใ้ ช้อุปกรณ์ตรวจสอบลมอยา่ งงา่ ย ไดล้ องพดั เปา่ ลม ทาให้สงิ่ ของหรอื
กลนิ่ เคลอื่ นที่ และได้นากล่องมาสร้างกระแสลมดว้ ยตัวเอง

๕๓

ภำพบรรยำกำศในกำรทำกิจกรรม

1. ขันตอนกำรทำกิจกรรม 2. วสั ดอุ ุปกรณ์

3. เด็กปฏิบตั กิ ิจกรรม 4. กำรนำเสนองำน

5. ผลงำนของเดก็

๕๔

ผลกำรจัดกิจกรรม
1. พัฒนำกำรควำมสำมำรถพนื ฐำน และพฒั นำกำรของเดก็ ปฐมวัย
1.1 ด้ำนกำรเรียนร/ู้ ดำ้ นภำษำ/ดำ้ นสติปัญญำ
ด้ำนกำรเรยี นรู้
- เด็กได้ลงมือทาและทดลองด้วยตนเอง
- เดก็ ไดเ้ รยี นรูใ้ นสิ่งท่เี กิดขน้ึ จากการทดลอง การเคลอื่ นไหวของสีไปท่วั จาน จากปฏิกิริยาของ

นา้ ยาล้างจานกบั ไขมนั ในนา้ นมเมือ่ สหี ยดุ วิ่ง เราสามารถหยดน้ายาล้างจานลงไปซ้าไดเ้ ร่ือยๆจนกวา่ น้าสจี ะผสมกัน
จนกลายเป็นสหี ม่นๆ

- เด็กสามารถบนั ทึกผลการทดลอง สรปุ ผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้
ด้ำนภำษำ

- เดก็ สามารถบอกรายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์การทดลองได้ โดยใช้คาพูดของตนเอง
- เดก็ พูดอธิบายถึงสงิ่ ท่ีพวกเขาสงั เกตเหน็ จากการทดลอง
- เด็กได้นาเสนอผลงานของตนเองให้เพอ่ื นๆ ฟังได้
ดำ้ นสติปญั ญำ
- เดก็ คดิ และรู้จักการตงั้ คาถามในส่ิงท่ตี นสงสยั
- เดก็ ไดม้ ีการพฒั นาสติปัญญา โดยเกิดทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น การคาดคะเน
ทกั ษะการสงั เกต การเปรียบเทียบ เป็นตน้
1.2 ดำ้ นสังคม
- เด็กสามารถทางานร่วมกับผู้อืน่ ได้
- เด็กสามารถแสดงความคิดเหน็ ของตนเอง และยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผู้อน่ื
- เดก็ เคารพกฎ กตกิ าของห้องเรยี น และระหวา่ งปฏบิ ัติกจิ กรรม
1.3 ดำ้ นอำรมณ์ – จติ ใจ
- เด็กตนื่ เตน้ สนกุ สนานมีความสขุ ในการทดลองในขณะปฏิบัตกิ ิจกรรม
1.4 ด้ำนกำรเคลื่อนไหว/รำ่ งกำย
- เด็กเคลอื่ นไหวหยิบจบั อปุ กรณ์ตา่ งๆ ในการทดลองได้อย่างคล่องแคลว่
- เด็กมีการเคล่ือนไหวร่างกายขณะทดลอง
- เดก็ ไดใ้ ช้กล้ามเน้ือมัดเลก็ ในการหยบิ จบั อปุ กรณใ์ นการทดลอง

๕๕

รำยงำนกำรดำเนินงำนกิจกรรมบ้ำนนักวทิ ยำศำสตร์นอ้ ย
โรงเรยี นบา้ นน้าพุ สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษานา่ นเขต 1

กิจกรรมที่ 19 เรือแบบใดบรรทุกน้าหนักไดม้ ากที่สดุ
วนั ที่ 26 เดอื น มกราคม พ.ศ. 2565

จุดประสงคข์ องกจิ กรรม
1. เพอื่ ให้เดก็ บอกได้วา่ การจมการลอยขน้ึ อยู่กับนา้ หนักและขนาดของวตั ถุ
2. เพ่ือให้เด็กร้จู ักการสักเกตและการเปรียบเทยี บขนาดและนา้ หนักของวัตถุทีท่ าใหจ้ มหรือลอย

ขนั ตอนกำรทำกิจกรรม
1. ครูแนะนาอปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการทดลองการจมการลอย
- อ่างพลาสตกิ ใบใหญ่
- ลูกแก้ว
- ดนิ น้ามนั
- คลปิ หนีบกระดาษ
- น้าเปลา่
- เหรียญ
2. เดก็ และครูรว่ มกนั เตรยี มวัสดอุ ปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ท่ีใชใ้ นการทดลอง
3. เด็กๆทุกคนไดส้ ัมผสั อปุ กรณ์ครบทุกคน
4. ครูสาธิตการใช้อปุ กรณ์ในการทดลองการจมการลอยให้เด็กดู
5. ครูให้เด็กแบง่ กลุ่มและแจกอุปกรณท์ ีจ่ ะให้เด็กทุกคนลงมือทดลองกิจกรรมการจมการลอยดว้ ยตนเอง
6. จากการทดลองผลที่ได้และการสังเกตท่แี ตกต่างกัน เรอื ชนิดใดบรรทุกเหรียญไดม้ ากท่ีสดุ และ การจม

การลอยของวตั ถุขน้ึ อยู่กับน้าหนกั และขนาดของวัตถุ เม่ือใส่วตั ถลุ งในเรอื นา้ จะมีแรงพยุงตวั ทาใหว้ ตั ถุท่ีมีนา้ หนัก
น้อยลอยตัวไดโ้ ดยไมจ่ ม แต่ถ้าวตั ถุมนี า้ หนกั มากแรงพยงุ ตัวของนา้ ไม่สามารถชว่ ยพยุงวตั ถใุ หล้ อยนา้ ไดว้ ัตถนุ ั้นกจ็ ะ
จมลง

๕๖

ภำพบรรยำกำศในกำรทำกิจกรรม

1. ขันตอนกำรทำกิจกรรม 2. วสั ดอุ ุปกรณ์

3. เด็กปฏิบตั กิ ิจกรรม 4. กำรนำเสนองำน

5. ผลงำนของเดก็

๕๗

ผลกำรจัดกจิ กรรม
1. พฒั นำกำรควำมสำมำรถพืนฐำน และพฒั นำกำรของเดก็ ปฐมวยั
1.1 ดำ้ นกำรเรยี นร้/ู ดำ้ นภำษำ/ด้ำนสติปญั ญำ
ด้ำนกำรเรียนรู้
- เดก็ ไดล้ งมือทาและทดลองด้วยตนเอง
- เด็กได้เรียนรใู้ นเรื่อง เรือจะจมหรอื จะลอยขึ้นอยกู่ ับนา้ หนกั และขนาดของวตั ถุท่อี ยใู่ นเรอื ถา้ เรอื

มนี า้ หนักหรือบรรทกุ สิ่งของมาก เรือกจ็ ะจมเรว็ แต่ถา้ เรอื มีนา้ หนักเบาหรอื บรรทกุ ส่ิงของไมม่ ากเรือก็จะไม่จม
- เดก็ สามารถบันทึกผลการทดลอง สรปุ ผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ด้ำนภำษำ
- เดก็ สามารถบอกรายละเอยี ดเก่ยี วกบั อุปกรณ์การทดลองได้ โดยใช้คาพูดของตนเอง
- เด็กพูดอธิบายถงึ ส่ิงที่พวกเขาสังเกตเห็นจากการทดลอง
- เดก็ ได้นาเสนอผลงานของตนเองใหเ้ พอื่ นๆ ฟงั ได้

ดำ้ นสตปิ ัญญำ
- เด็กคิดและรูจ้ ักการตงั้ คาถามในสิง่ ท่ีตนสงสัย
- เด็กได้มีการพฒั นาสตปิ ัญญา โดยเกดิ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เช่น การคาดคะเน

ทักษะการสงั เกต การเปรยี บเทยี บ เป็นตน้
1.2 ดำ้ นสงั คม
- เด็กสามารถทางานร่วมกบั ผู้อนื่ ได้
- เดก็ สามารถแสดงความคิดเหน็ ของตนเอง และยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อน่ื
- เด็กเคารพกฎ กตกิ าของห้องเรียน และระหวา่ งปฏบิ ตั ิกิจกรรม
1.3 ด้ำนอำรมณ์ – จติ ใจ
- เด็กต่ืนเต้นสนกุ สนานมีความสขุ ในการทดลองในขณะปฏิบัติกจิ กรรม
1.4 ดำ้ นกำรเคลือ่ นไหว/รำ่ งกำย
- เดก็ เคล่ือนไหวหยิบจบั อปุ กรณ์ต่างๆ ในการทดลองได้อย่างคลอ่ งแคล่ว
- เดก็ มีการเคล่อื นไหวร่างกายขณะทดลอง
- เด็กไดใ้ ช้กลา้ มเนือ้ มดั เลก็ ในการหยบิ จับอปุ กรณใ์ นการทดลอง

๕๘

รำยงำนกำรดำเนนิ งำนกิจกรรมบ้ำนนักวิทยำศำสตร์นอ้ ย
โรงเรยี นบา้ นน้าพุ สังกัดสานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษานา่ นเขต 1

กจิ กรรมที่ 20 ภาพพกิ เซล
วันที่ 1 เดอื น กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2565

จดุ ประสงค์ของกิจกรรม
๑. เพ่อื ใหเ้ ดก็ มีทักษะการสังเกตรายละเอยี ดจากภาพเลก็ ไปส่ภู าพ
๒. เพื่อใหเ้ ด็กไดเ้ รยี นรเู้ กีย่ วกับตวั เลข 0 และตวั เลข 1
๓. เพื่อใหเ้ ดก็ ไดม้ ีทักษะกระบวนการในการสงั เกตและการคาดคะเนคาตอบ

ขนั ตอนกำรทำกจิ กรรม
1. ครูใหเ้ ด็กๆ ดูภาพท่ีขยายขนาดใหญม่ ากๆ เพื่อเด็กๆ จะสามารถมองเห็นพิกเซลได้ชดั เจน (ตัวอยา่ งภาพ

บนซา้ ยของใบกจิ กรรม) เริ่มต้นจากให้เด็กๆ ดูรูปจากระยะไกลๆ แลว้ คอ่ ยมาดใู กลๆ้ จากนั้นถามว่าเด็กๆ เหน็
อะไร ให้เด็กๆ ได้ตอบตามสงิ่ ทีเ่ ห็นอย่างหลากหลาย กอ่ นที่คณุ ครจู ะอธบิ ายใหฟ้ ังวา่ ภาพที่เราเหน็ ประกอบด้วย
พิกเซล เล็กๆ มากมายทน่ี ามาต่อกนั

2. ครแู จกตารางชอ่ งสเี หลี่ยมจตุรสั แล้วใหน้ ักเรยี นวางบล็อก สร้างภาพ ตามความคดิ ของตนเอง เด็กๆ
จะเรียนรูว้ ่าไมใ่ ช่เรื่องงา่ ยท่จี ะสรา้ งภาพ จากเส้นทแยงมมุ

3. จากนน้ั ครแู จกแผน่ ตารางท่มี ี เลข 0 และ 1 โดยใหน้ ักเรียนวางบลอ็ กลงในช่องหมายเลข 1 ทุกช่อง
และช่องท่ีมีเลข 0 ให้ปลอ่ ยวา่ งไว้

4. คณุ ครูควรกระต้นุ ให้เดก็ ๆ สงั เกต เหน็ อะไรจากกิจกรรมน้ี
5. เดก็ ๆ จะพบว่าจากแมแ่ บบตารางท่มี ี เลข 0 และ 1 เรียงกันอยู่อยา่ งย่งุ เหยงิ น้ัน ตอนนีเ้ กิดเปน็ ภาพ
ขนึ้ มา และเม่ือนาตารางของทกุ คนมาประกอบกัน ก็สามารถให้เปน็ รปู ภาพท่มี ขี นาดใหญข่ ึน้ ได้
6. เดก็ และครรู ว่ มสรปุ ผลการทดลอง พบว่า ภาพทเ่ี ราเหน็ อยู่ทั่วไป ล้วนเกิดจากการรวมตวั กนั ของพิกเซล
เลก็ ๆ จานวนมาก ยิง่ เราขยายใหม้ ีขนาดใหญ่ขนึ้ จะสามารถมองเหน็ พิกเซลน้นั ชดั เจน แตร่ ปู ภาพที่เหน็ จะไมช่ ัด แต่
ถ้าพิกเซลเล็กๆ ท่เี รยี งกัน มีขนาดเลก็ เรากลับมองเหน็ ภาพรวมได้ชดั เจนกวา่

๕๙

ภำพบรรยำกำศในกำรทำกิจกรรม

1. ขันตอนกำรทำกิจกรรม 2. วสั ดอุ ุปกรณ์

3. เด็กปฏิบตั กิ ิจกรรม 4. กำรนำเสนองำน

5. ผลงำนของเดก็

๖๐

ผลกำรจัดกจิ กรรม
1. พัฒนำกำรควำมสำมำรถพืนฐำน และพฒั นำกำรของเดก็ ปฐมวัย
1.1 ด้ำนกำรเรียนรู้/ดำ้ นภำษำ/ด้ำนสติปญั ญำ
ด้ำนกำรเรยี นรู้
- เดก็ ได้ลงมือทาและทดลองด้วยตนเอง
- เด็กได้เรียนร้ใู นสง่ิ ที่เกดิ ขึน้ จากการทดลอง กิจกรรมเก่ียวกับภาพที่เกดิ ขน้ึ มาจากช้ินส่วนหลาย ๆ

ชิน้ มารวมกนั ทาใหเ้ กิดเป็นภาพโดยรวมขนาดใหญ่ อย่างเช่น ภาพทีเ่ ราเหน็ ในจอโทรทศั น์ จอโทรศพั ท์ เปน็ ต้น
- เด็กสามารถบนั ทึกผลการทดลอง สรปุ ผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ดำ้ นภำษำ
- เดก็ สามารถบอกรายละเอียดเก่ียวกับอุปกรณ์การทดลองได้ โดยใช้คาพูดของตนเอง
- เดก็ พดู อธบิ ายถึงส่งิ ที่พวกเขาสงั เกตเห็นจากการทดลอง
- เด็กไดน้ าเสนอผลงานของตนเองใหเ้ พอ่ื นๆ ฟังได้

ดำ้ นสติปญั ญำ
- เดก็ คดิ และร้จู ักการตงั้ คาถามในสิ่งทีต่ นสงสยั
- เดก็ ไดม้ ีการพัฒนาสตปิ ญั ญา โดยเกิดทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เช่น การคาดคะเน

ทักษะการสงั เกต การเปรยี บเทยี บ เป็นตน้
1.2 ด้ำนสงั คม
- เดก็ สามารถทางานร่วมกับผู้อื่นได้
- เด็กสามารถแสดงความคิดเหน็ ของตนเอง และยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อน่ื
- เด็กเคารพกฎ กติกาของหอ้ งเรียน และระหว่างปฏบิ ตั ิกจิ กรรม
1.3 ด้ำนอำรมณ์ – จติ ใจ
- เด็กต่ืนเตน้ สนกุ สนานมีความสุขในการทดลองในขณะปฏิบัติกิจกรรม
1.4 ด้ำนกำรเคล่อื นไหว/ร่ำงกำย
- เด็กเคลอื่ นไหวหยบิ จบั อปุ กรณ์ตา่ งๆ ในการทดลองได้อย่างคลอ่ งแคลว่
- เด็กมีการเคลอื่ นไหวร่างกายขณะทดลอง
- เด็กไดใ้ ชก้ ลา้ มเนอ้ื มัดเล็กในการหยบิ จับอุปกรณ์ในการทดลอง


Click to View FlipBook Version