The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานlสรุปผลการดำเนินงานอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปีงบประมาณ 2567

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Pathchirana Chbysw, 2024-04-16 06:51:37

รายงานlสรุปผลการดำเนินงานอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปีงบประมาณ 2567

รายงานlสรุปผลการดำเนินงานอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปีงบประมาณ 2567

Keywords: กศน.ตำบลป่าหุ่ง,ศกร.ตำบลป่าหุ่ง,อัธยาศัย

+


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 2 คำนำ สรุปผลการจัด “โครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง ไตรมาส 1-2 ปีงบประมาณ 2567” มีกิจกรรมจำนวน 10 กิจกรรมดังนี้1.กิจกรรมส่งเสริมการอ่านในศูนย์การเรียนรู้ตำบล , 2.กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเคลื่อนที่ “อ่านดู รู้หลาย”, 3.กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านแหล่งเรียนรู้ชุมชน, 4.กิจกรรมส่งเสริมการอ่านผูกสัมพันธ์ครอบครัว , 5.กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเพิ่มความรู้ด้วย Qr Code, 6.กิจกรรม บ้านหนังสือชุมชน, 7.กิจกรรมอาสาสมัครรักการอ่าน, 8.กิจกรรมแหล่งเรียนรู้ในชุมชน, 9.กิจกรรมหนังสือยืมเรียน ,10.กิจกรรมห้องสมุดออนไลน์บนหน้า Website สถานที่ดำเนินการพื้นที่ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย จัดขึ้นตามแผนประจำปี 2567 ของศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง สังกัดศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอพาน โดยการ ประชุมและการสำรวจความต้องการของเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ทั้งนี้กิจกรรมนี้ได้ยืดหยุ่นตามสภาพใน การดำรงชีวิตของผู้ร่วมกิจกรรมได้เป็นอย่างดี ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมนี้ เยาวชนและประชาชนจะได้รับความรู้นำไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวัน หรือนำไปพัฒนาการอ่านของตนเอง สังคม ชุมชนได้เป็นอย่างดี หากมีข้อผิดพลาดประการใดขออภัย มา ณ ที่นี้ และขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกคน นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ ผู้จัดทำ


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 3 สารบัญ หน้า คำนำ ................................................................................................................................... ก สารบัญ ................................................................................................................................ ข แบบรายงานผลกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย...................................................................... 4 1. กิจกรรมส่งเสริมการอ่านในศูนย์กาเรียนรู้ตำบล 2. กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเคลื่อนที่“อ่านดู รู้หลาย” 3. กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านสื่อจากแหล่งเรียนรู้ชุมชน 4. กิจกรรมส่งเสริมการอ่านผูกสัมพันธ์ครอบครัว 5. กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเพิ่มความรู้ด้วย Qr Code 6. กิจกรรมบ้านหนังสือชุมชน 7. กิจกรรมอาสาสมัครรักการอ่าน 8. กิจกรรมจัดทำข้อมูลแหล่งเรียนรู้ในชุมชนออนไลน์ 9. กิจกรรมหนังสือยืมเรียนเพิ่มพูนความรู้ 10. กิจกรรมห้องสมุดออนไลน์บนหน้า Website ภาคผนวก ภาคผนวก ก จำนวนผู้รับบริการการศึกษาตามอัธยาศัย (แผนภูมิ) ทั้ง 10 กิจกรรม ภาคผนวก ข สถิติผู้รับบริการงานอัธยาศัย ภาคผนวก ค แบบสรุปความพึงพอใจในการให้บริการการศึกษาตามอัธยาศัย


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 4 ชื่อโครงการ “โครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง ไตรมาส 1-2 ปี 2567” กิจกรรม 1. กิจกรรมส่งเสริมการอ่านในศูนย์การเรียนรู้ตำบล 2. กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเคลื่อนที่“อ่านดู รู้หลาย” 3. กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านแหล่งเรียนรู้ชุมชน 4. กิจกรรมส่งเสริมการอ่านผูกสัมพันธ์ครอบครัว 5. กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเพิ่มความรู้ด้วย Qr Code 6. กิจกรรมบ้านหนังสือชุมชน 7. กิจกรรมอาสาสมัครรักการอ่าน 8. กิจกรรมจัดทำข้อมูลแหล่งเรียนรู้ในชุมชนออนไลน์ 9. กิจกรรมหนังสือยืมเรียนเพิ่มพูนความรู้ 10. กิจกรรมห้องสมุดออนไลน์บนหน้า Website สถานที่ดำเนินการ พื้นที่ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ประเภทกลุ่มเป้าหมาย นักศึกษา ,เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่ง งบประมาณ - บาท ผู้รับผิดชอบ นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ ครู กศน.ตำบล บทบาทหน้าที่ครู เป็นผู้ประสานและจัดกิจกรรม ผลที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม 1. นักศึกษา,เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่งตระหนักเห็นและความสำคัญของการ อ่าน การเขียน และการฟังมากยิ่งขึ้น 2. นักศึกษา,เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่งสามารถนำความรู้ที่ได้จากแหล่ง เรียนรู้ไปใช้ในการเรียนและในชีวิตประจำวัน 3. นักศึกษา,เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่งมีทักษะในการแสวงหาความรู้จาก แหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วยตนเองและเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นได้ 4. นักศึกษา,เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่งเห็นถึงความสำคัญและเข้าใช้บริการ ห้องสมุดมากยิ่งขึ้น รายงานผลจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย “โครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง ไตรมาส 1-2 ปี 2567” สังกัด ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอพาน


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 5 ลงชื่อ ....................................................ผู้รายงาน (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล ชื่อโครงการ “โครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง” กิจกรรม กิจกรรมส่งเสริมการอ่านในศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง สถานที่ดำเนินการ ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ระยะเวลา 1 ตุลาคม 2566 – 31 มีนาคม 2567 ประเภทกลุ่มเป้าหมาย นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง ,เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่ง งบประมาณ - บาท ผู้รับผิดชอบ นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ ครู กศน.ตำบล บทบาทหน้าที่ครู เป็นผู้ประสานและจัดกิจกรรม ผลที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม 1. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง,เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่งตระหนักเห็นและ ความสำคัญของการอ่าน การเขียน และการฟังมากยิ่งขึ้น 2. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง,เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่งสามารถนำความรู้ ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในการเรียนและในชีวิตประจำวัน 3. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง,เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่งมีทักษะในการ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วยตนเองและเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นได้ 4. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง,เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่งเห็นถึงความสำคัญ และเข้าใช้บริการห้องสมุดมากยิ่งขึ้น 1.รายงานผลจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมส่งเสริมการอ่านในศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง สังกัด ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอพาน


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 6 หลักการและเหตุผล การอ่านจัดเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคนในสังคมไทย การอ่านทำ ให้เกิดการพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถ พฤติกรรมและค่านิยมต่างๆ รวมทั้งช่วยในการเปลี่ยนแปลง การดำเนินชีวิตโดยพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์อย่างยิ่ง ๒ ประการ คือ ประการแรกสำคัญต่อชีวิตประจำวัน กล่าวคือ การอ่านเป็นการแสวงหาความรู้เพื่อนามาใช้ในการดำรงชีวิต ประจำวัน ประการที่สองมีความสำคัญต่อการเรียน เพราะการอ่านเป็นหัวใจของการจัดกิจกรรมทั้งหลายในการเรียน การสอน และมีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จ การสร้างนิสัยรักการอ่านให้แก่เด็กและเยาวชนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการอ่านเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับ การศึกษาหาความรู้ควบคู่กับทักษะอื่น การอ่านเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคน ในสังคม การอ่านทำให้เกิดการพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถพฤติกรรมและค่านิยมต่าง ๆ รวมทั้งช่วย ในการเปลี่ยนแปลงการดาเนินชีวิตพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อเด็กและเยาวชนเป็น อย่างยิ่ง ปัจจุบันการอ่านหนังสือของคนไทยเป็นกิจกรรมที่ไม่แพร่หลาย การอ่านหนังสือที่ดีและมีสาระยิ่งน้อยลงไป สาเหตุมีอยู่หลายประการ นับตั้งแต่การขาดแคลนหนังสือที่ดีและตรงกับความสนใจ การขาดแรงจูงใจและแรง กระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการอ่าน ตลอดจนนิสัยรักการอ่านทั้งในและนอกสถานที่ ดังนั้นการอ่านหนังสือจนเกิด เป็นนิสัย จำเป็นต้องมีการปลูกฝังและชักชวนให้เกิดความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรัก การอ่านเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการปฏิรูปการเรียนการสอนไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเร็วขึ้น โดยได้ดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่งเห็นความสำคัญและตระหนักถึงความสำคัญในการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและ การเรียนรู้จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในภาคเรียนนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับผู้เรียน ทุกระดับชั้นและประชาชนผู้สนใจ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาผู้เรียนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีนิสัยรักการอ่าน รักการค้นคว้า เกิดการใฝ่รู้ และนำไปสู่การ ปฏิบัติในชีวิตประจำวัน 2. เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะกระบวนการแสวงหาความรู้ รักการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง 3. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 4. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักเลือกอ่านหนังสือที่ดีมีประโยชน์อย่างหลากหลาย นำไปพัฒนาทักษะการเขียน บันทึกความรู้จากเรื่องที่อ่าน ตามความคิดของผู้เรียน 5. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลหาความรู้จากหนังสือในห้องสมุดและใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ต่อเนื่อง เป้าหมาย 1. ผู้เรียนร้อยละ 80 มีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อหาเหตุผล 2. ผู้เรียนร้อยละ 80 รู้จักแสวงหาความรู้จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆทั้งในและนอกสถานศึกษา 3. ผู้เกี่ยวข้องร้อยละ 80 มีความพึงพอใจในการดำเนินงานตามกิจกรรมของ ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง กิจกรรมส่งเสริมการอ่านในศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 7 วิธีดำเนินงาน กิจกรรม ระยะเวลา ผู้รับผิดชอบ 1. วางแผนออกแบบกิจกรรมตามนโยบายของ ศสกร.อำเภอ ตุลาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 2. ดำเนินงานกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 3. ประเมินความพึงพอใจเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 4. สรุปและรายงานผลการจัดกิจกรรม มีนาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ งบประมาณ จำนวน - บาท การติดตามและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ วิธีประเมิน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน 1. ร้อยละของนักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อ หาเหตุผล 1. ตรวจบันทึกการอ่าน 2. สำรวจจำนวนผู้เรียนจาก บันทึกสถิติการเข้าใช้บริการ กศน.ตำบล 1. แบบตรวจบันทึกการอ่าน 2. แบบบันทึกสถิติการเข้าใช้บริการ กศน.ตำบล 2.ร้อยละ ของผู้เรียน ที่แสวงหาความรู้ จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆทั้งในและ นอกสถานศึกษา ตรวจการบันทึกความรู้จาก สื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆ (ชิ้นงานผู้เรียน) แบบตรวจการบันทึกความรู้จากสื่อ และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ(ชิ้นงานผู้เรียน) 3. ร้อยละของ ผู้เกี่ยวข้อง มีความพึง พอใจในการดำเนินงานตามกิจกรรม ส่งเสริมการอ่าน ศูนย์การเรียนรู้ตำบล ป่าหุ่ง สอบถามความพึงพอใจ ความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง แบบสอบถาม ความพึงพอใจขอผู้เกี่ยวข้อง ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. ผู้เรียนตระหนักเห็นและความสำคัญของการอ่าน การเขียน และการฟังมากยิ่งขึ้น 2. ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในการเรียนและในชีวิตประจำวัน 3. ผู้เรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วยตนเองและเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นได้ 4. ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น 5. ผู้เรียนเห็นถึงความสำคัญและเข้าใช้บริการห้องสมุดมากยิ่งขึ้น ลงชื่อ (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ครู กศน.ตำบลป่าหุ่ง


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 8 1. รายงานผลจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมส่งเสริมการอ่านใน ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 9 ลงชื่อ ....................................................ผู้รายงาน (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล ชื่อโครงการ “โครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง” กิจกรรม กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเคลื่อนที่ “อ่านดู รู้หลาย” สถานที่ดำเนินการ วัดเหมืองหลวง ม.9และวัดป่าบงหลวง ม.3 ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ระยะเวลา 1 ตุลาคม 2566 – 31 มีนาคม 2567 ประเภทกลุ่มเป้าหมาย เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่ง งบประมาณ - บาท ผู้รับผิดชอบ นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ ครู กศน.ตำบล บทบาทหน้าที่ครู เป็นผู้ประสานและจัดกิจกรรม ผลที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม 1. เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่งตระหนักเห็นและความสำคัญของการอ่าน การเขียน และ การฟังมากยิ่งขึ้น 2. เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่งสามารถนำความรู้ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในการเรียน และในชีวิตประจำวัน 3. เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่งมีทักษะในการแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วย ตนเองและเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นได้ 4. เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่งเห็นถึงความสำคัญและเข้าใช้บริการห้องสมุดมากยิ่งขึ้น 2.รายงานผลจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเคลื่อนที่“อ่านดู รู้หลาย” สังกัด ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอพาน


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 10 หลักการและเหตุผล การอ่านจัดเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคนในสังคมไทย การอ่านทำให้เกิด การพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถ พฤติกรรมและค่านิยมต่างๆ รวมทั้งช่วยในการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิต โดยพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์อย่างยิ่ง ๒ ประการ คือ ประการแรกสำคัญต่อ ชีวิตประจำวัน กล่าวคือ การอ่านเป็นการแสวงหาความรู้เพื่อนามาใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน ประการที่สองมีความสำคัญ ต่อการเรียน เพราะการอ่านเป็นหัวใจของการจัดกิจกรรมทั้งหลายในการเรียนการสอน และมีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จ การสร้างนิสัยรักการอ่านให้แก่เยาวชนและประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการอ่านเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับ การศึกษาหาความรู้ควบคู่กับทักษะอื่น การอ่านเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคนในสังคม การอ่านทำให้เกิดการพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถพฤติกรรมและค่านิยมต่าง ๆ รวมทั้งช่วยในการ เปลี่ยนแปลงการดาเนินชีวิตพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อเด็กและเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบัน การอ่านหนังสือของคนไทยเป็นกิจกรรมที่ไม่แพร่หลาย การอ่านหนังสือที่ดีและมีสาระยิ่งน้อยลงไปสาเหตุมีอยู่หลาย ประการ นับตั้งแต่การขาดแคลนหนังสือที่ดีและตรงกับความสนใจ การขาดแรงจูงใจและแรงกระตุ้นให้เห็นความสำคัญ ของการอ่าน ตลอดจนนิสัยรักการอ่านทั้งในและนอกสถานที่ดังนั้นการอ่านหนังสือจนเกิดเป็นนิสัย จำเป็นต้องมีการปลูกฝัง และชักชวนให้เกิดความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อน การปฏิรูปการเรียนการสอนไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเร็วขึ้น โดยได้ดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน มาโดยตลอดอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง เห็นความสำคัญและตระหนักถึงความสำคัญในการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและการ เรียนรู้ จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านเคลื่อนที่ในภาคเรียนนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับเยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่ง วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีนิสัยรักการอ่าน รักการค้นคว้า เกิดการใฝ่รู้ และนำไปสู่การปฏิบัติในชีวิตประจำวัน 2. เพื่อพัฒนาเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ให้มีทักษะกระบวนการแสวงหาความรู้ รักการเรียนรู้และพัฒนา ตนเองอย่างต่อเนื่อง 3. เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 4. เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง รู้จักเลือกอ่านหนังสือที่ดีมีประโยชน์อย่างหลากหลาย นำไป พัฒนาทักษะการเขียนบันทึกความรู้จากเรื่องที่อ่าน ตามความคิดของเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง 5. เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง สืบค้นข้อมูลหาความรู้จากหนังสือในห้องสมุดและใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง เป้าหมาย 1. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่งร้อยละ 80 มีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อหา เหตุผล 2. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่งร้อยละ 80 รู้จักแสวงหาความรู้จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆทั้งในและนอก สถานศึกษา 3. ผู้เกี่ยวข้องร้อยละ 80 มีความพึงพอใจในการดำเนินงานตามกิจกรรมของ ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเคลื่อนที่“อ่านดู รู้หลาย”


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 11 วิธีดำเนินงาน กิจกรรม ระยะเวลา ผู้รับผิดชอบ 1. วางแผนออกแบบกิจกรรมตามนโยบายของ ศสกร.อำเภอ ตุลาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 2. ดำเนินงานกิจกรรมส่งเสริมการอ่านเคลื่อนที่ ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 3. ประเมินความพึงพอใจเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 4. สรุปและรายงานผลการจัดกิจกรรม มีนาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ งบประมาณ จำนวน - บาท การติดตามและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ วิธีประเมิน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน 1. ร้อยละของเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง มีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการฟัง รู้จักตั้งคำถาม เพื่อหาเหตุผล สำรวจจำนวนเยาวชน และประชาชนตำบล ป่าหุ่ง จากบันทึกสถิติ การเข้าใช้บริการ แบบบันทึกสถิติการเข้าใช้ บริการ 2.ร้อยละ ของเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ที่แสวงหาความรู้จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆทั้งใน และนอกสถานศึกษา จากการสอบถาม แบบสอบถาม 3. ร้อยละของ ผู้เกี่ยวข้อง มีความพึงพอใจในการ ดำเนินงานตามกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ศูนย์การ เรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง สอบถามความพึงพอใจ ความพึงพอใจของ ผู้เกี่ยวข้อง แบบสอบถามความพึงพอใจ ขอผู้เกี่ยวข้อง ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ตระหนักเห็นและความสำคัญของการอ่าน การเขียน และการฟังมาก ยิ่งขึ้น 2. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง สามารถนำความรู้ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในการเรียนและใน ชีวิตประจำวัน 3. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง มีทักษะในการแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วยตนเองและเรียนรู้ ร่วมกับผู้อื่นได้ 4.เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง เห็นถึงความสำคัญและเข้าใช้บริการการอ่านมากยิ่งขึ้น ลงชื่อ (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ครู กศน.ตำบลป่าหุ่ง


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 12 2. รายงานผลจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเคลื่อนที่“อ่านดู รู้หลาย”


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 13 ลงชื่อ ....................................................ผู้รายงาน (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล ชื่อโครงการ “โครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง” กิจกรรม กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านสื่อจากแหล่งเรียนรู้ชุมชน สถานที่ดำเนินการ ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ระยะเวลา 1 ตุลาคม 2566 – 31 มีนาคม 2567 ประเภทกลุ่มเป้าหมาย นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง ,เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่ง งบประมาณ - บาท ผู้รับผิดชอบ นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ ครู กศน.ตำบล บทบาทหน้าที่ครู เป็นผู้ประสานและจัดกิจกรรม ผลที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม 1. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง,เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่งตระหนักเห็นและ ความสำคัญของการอ่าน การเขียน และการฟังมากยิ่งขึ้น 2. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง,เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่งสามารถนำความรู้ ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในการเรียนและในชีวิตประจำวัน 3. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง,เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่งมีทักษะในการ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วยตนเองและเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นได้ 4. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง,เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่งเห็นถึงความสำคัญ และเข้าใช้บริการห้องสมุดมากยิ่งขึ้น รายงานผลจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านสื่อจากแหล่งเรียนรู้ชุมชน สังกัด ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอพาน


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 14 หลักการและเหตุผล การอ่านจัดเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคนในสังคมไทย การอ่านทำ ให้เกิดการพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถ พฤติกรรมและค่านิยมต่างๆ รวมทั้งช่วยในการเปลี่ยนแปลง การดำเนินชีวิตโดยพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์อย่างยิ่ง ๒ ประการ คือ ประการแรกสำคัญต่อชีวิตประจำวัน กล่าวคือ การอ่านเป็นการแสวงหาความรู้เพื่อนามาใช้ในการดำรงชีวิต ประจำวัน ประการที่สองมีความสำคัญต่อการเรียน เพราะการอ่านเป็นหัวใจของการจัดกิจกรรมทั้งหลายในการเรียน การสอน และมีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จ การสร้างนิสัยรักการอ่านให้แก่เด็กและเยาวชนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการอ่านเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับ การศึกษาหาความรู้ควบคู่กับทักษะอื่น การอ่านเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคน ในสังคม การอ่านทำให้เกิดการพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถพฤติกรรมและค่านิยมต่าง ๆ รวมทั้งช่วย ในการเปลี่ยนแปลงการดาเนินชีวิตพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อเด็กและเยาวชนเป็น อย่างยิ่ง ปัจจุบันการอ่านหนังสือของคนไทยเป็นกิจกรรมที่ไม่แพร่หลาย การอ่านหนังสือที่ดีและมีสาระยิ่งน้อยลงไป สาเหตุมีอยู่หลายประการ นับตั้งแต่การขาดแคลนหนังสือที่ดีและตรงกับความสนใจ การขาดแรงจูงใจและแรง กระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการอ่าน ตลอดจนนิสัยรักการอ่านทั้งในและนอกสถานที่ดังนั้นการอ่านหนังสือจนเกิด เป็นนิสัย จำเป็นต้องมีการปลูกฝังและชักชวนให้เกิดความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรัก การอ่านเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการปฏิรูปการเรียนการสอนไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเร็วขึ้น โดยได้ดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่งเห็นความสำคัญและตระหนักถึงความสำคัญในการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและ การเรียนรู้จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในภาคเรียนนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับผู้เรียน ทุกระดับชั้นและประชาชนผู้สนใจ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาผู้เรียนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีนิสัยรักการอ่าน รักการค้นคว้า เกิดการใฝ่รู้ และนำไปสู่การ ปฏิบัติในชีวิตประจำวัน 2. เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะกระบวนการแสวงหาความรู้ รักการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง 3. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 4. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักเลือกอ่านหนังสือที่ดีมีประโยชน์อย่างหลากหลาย นำไปพัฒนาทักษะการเขียน บันทึกความรู้จากเรื่องที่อ่าน ตามความคิดของผู้เรียน 5. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลหาความรู้จากหนังสือในห้องสมุดและใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ต่อเนื่อง เป้าหมาย 1. ผู้เรียนร้อยละ 80 มีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อหาเหตุผล 2. ผู้เรียนร้อยละ 80 รู้จักแสวงหาความรู้จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆทั้งในและนอกสถานศึกษา 3. ผู้เกี่ยวข้องร้อยละ 80 มีความพึงพอใจในการดำเนินงานตามกิจกรรมของ ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านสื่อจากแหล่งเรียนรู้ ชุมชน


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 15 วิธีดำเนินงาน กิจกรรม ระยะเวลา ผู้รับผิดชอบ 1. วางแผนออกแบบกิจกรรมตามนโยบายของ ศสกร.อำเภอ ตุลาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 2. ดำเนินงานกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 3. ประเมินความพึงพอใจเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 4. สรุปและรายงานผลการจัดกิจกรรม มีนาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ งบประมาณ จำนวน - บาท การติดตามและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ วิธีประเมิน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน 1. ร้อยละของนักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อ หาเหตุผล 1. ตรวจบันทึกการอ่าน 1. แบบตรวจบันทึกการอ่าน 2.ร้อยละ ของผู้เรียน ที่แสวงหาความรู้ จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆทั้งในและ นอกสถานศึกษา ตรวจการบันทึกความรู้จาก สื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆ (ชิ้นงานผู้เรียน) แบบตรวจการบันทึกความรู้จากสื่อ และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ(ชิ้นงานผู้เรียน) 3. ร้อยละของ ผู้เกี่ยวข้อง มีความพึง พอใจในการดำเนินงานตามกิจกรรม ส่งเสริมการอ่าน ศูนย์การเรียนรู้ตำบล ป่าหุ่ง สอบถามความพึงพอใจ ความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง แบบสอบถาม ความพึงพอใจขอผู้เกี่ยวข้อง ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. ผู้เรียนตระหนักเห็นและความสำคัญของการอ่าน การเขียน และการฟังมากยิ่งขึ้น 2. ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในการเรียนและในชีวิตประจำวัน 3. ผู้เรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วยตนเองและเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นได้ 4. ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น 5. ผู้เรียนเห็นถึงความสำคัญและเข้าใช้บริการห้องสมุดมากยิ่งขึ้น ลงชื่อ (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ครู กศน.ตำบลป่าหุ่ง


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 16 3. รายงานผลจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านสื่อจากแหล่งเรียนรู้ชุมชน


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 17 ลงชื่อ ....................................................ผู้รายงาน (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล ชื่อโครงการ “โครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง” กิจกรรม กิจกรรมส่งเสริมการอ่านผูกสัมพันธ์ครอบครัว สถานที่ดำเนินการ พื้นที่ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ประเภทกลุ่มเป้าหมาย นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่ง งบประมาณ - บาท ผู้รับผิดชอบ นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ ครู กศน.ตำบล บทบาทหน้าที่ครู เป็นผู้ประสานและจัดกิจกรรม ผลที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม 1. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง,เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่งตระหนักเห็น และความสำคัญของการอ่าน การเขียน และการฟังมากยิ่งขึ้น 2. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง,เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่งสามารถนำ ความรู้ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในการเรียนและในชีวิตประจำวัน 3. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง,เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่งมีทักษะในการ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วยตนเองและเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นได้ 4. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง,เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่งเห็นถึง ความสำคัญและเข้าใช้บริการห้องสมุดมากยิ่งขึ้น 5. นักศึกษาและครอบครัวมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน รายงานผลจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมส่งเสริมการอ่านผูกสัมพันธ์ครอบครัว สังกัด ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอพาน


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 18 หลักการและเหตุผล การอ่านจัดเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคนในสังคมไทย การอ่านทำให้เกิด การพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถ พฤติกรรมและค่านิยมต่างๆ รวมทั้งช่วยในการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิต โดยพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์อย่างยิ่ง 2 ประการ คือ ประการแรกสำคัญต่อ ชีวิตประจำวัน กล่าวคือ การอ่านเป็นการแสวงหาความรู้เพื่อนามาใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน ประการที่สองมีความสำคัญ ต่อการเรียน เพราะการอ่านเป็นหัวใจของการจัดกิจกรรมทั้งหลายในการเรียนการสอน และมีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จ การสร้างนิสัยรักการอ่านให้แก่เยาวชนและประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการอ่านเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับ การศึกษาหาความรู้ควบคู่กับทักษะอื่น การอ่านเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคนในสังคม การอ่านทำให้เกิดการพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถพฤติกรรมและค่านิยมต่าง ๆ รวมทั้งช่วยในการ เปลี่ยนแปลงการดาเนินชีวิตพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อเด็กและเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบัน การอ่านหนังสือของคนไทยเป็นกิจกรรมที่ไม่แพร่หลาย การอ่านหนังสือที่ดีและมีสาระยิ่งน้อยลงไปสาเหตุมีอยู่หลาย ประการ นับตั้งแต่การขาดแคลนหนังสือที่ดีและตรงกับความสนใจ การขาดแรงจูงใจและแรงกระตุ้นให้เห็นความสำคัญ ของการอ่าน ตลอดจนนิสัยรักการอ่านทั้งในและนอกสถานที่ดังนั้นการอ่านหนังสือจนเกิดเป็นนิสัย จำเป็นต้องมีการปลูกฝัง และชักชวนให้เกิดความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อน การปฏิรูปการเรียนการสอนไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเร็วขึ้น โดยได้ดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน มาโดยตลอดอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง เห็นความสำคัญและตระหนักถึงความสำคัญในการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและการ เรียนรู้ จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในภาคเรียนนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับเยาวชนและ ประชาชนตำบลป่าหุ่ง วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีนิสัยรักการอ่าน รักการค้นคว้า เกิดการใฝ่รู้ และนำไปสู่การปฏิบัติในชีวิตประจำวัน 2. เพื่อพัฒนาเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ให้มีทักษะกระบวนการแสวงหาความรู้ รักการเรียนรู้และพัฒนา ตนเองอย่างต่อเนื่อง 3. เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 4. เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง รู้จักเลือกอ่านหนังสือที่ดีมีประโยชน์อย่างหลากหลาย นำไปพัฒนาทักษะการเขียนบันทึกความรู้จากเรื่องที่อ่าน ตามความคิดของเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง 5. เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง สืบค้นข้อมูลหาความรู้จากหนังสือในห้องสมุดและใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง เป้าหมาย 1. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่งร้อยละ 80 มีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อหา เหตุผล 2. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่งร้อยละ 80 รู้จักแสวงหาความรู้จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆทั้งในและนอก สถานศึกษา 3. ผู้เกี่ยวข้องร้อยละ 80 มีความพึงพอใจในการดำเนินงานตามกิจกรรมของ ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง กิจกรรมส่งเสริมการอ่านผูกสัมพันธ์ครอบครัว


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 19 วิธีดำเนินงาน กิจกรรม ระยะเวลา ผู้รับผิดชอบ 1. วางแผนออกแบบกิจกรรมตามนโยบายของ ศสกร.อำเภอ ตุลาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 2. ดำเนินงานกิจกรรมบรรณสัญจร ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 3. ประเมินความพึงพอใจเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 4. สรุปและรายงานผลการจัดกิจกรรม มีนาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ งบประมาณ จำนวน - บาท การติดตามและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ วิธีประเมิน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน 1. ร้อยละของเยาวชนและประชาชนตำบล ป่าหุ่งมีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการ ฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อหาเหตุผล สำรวจจำนวนเยาวชนและ ประชาชนตำบลป่าหุ่ง จากบันทึก สถิติการเข้าใช้บริการ แบ บ บั น ทึ กสถิติ การเข้าใช้ บริการ 2.ร้อยละ ของเยาวชนและประชาชนตำบล ป่าหุ่ง ที่แสวงหาความรู้จากสื่อและแหล่ง เรียนรู้ต่างๆทั้งในและนอกสถานศึกษา จากการสอบถาม แบบสอบถาม 3. ร้อยละของ ผู้เกี่ยวข้อง มีความพึงพอใจ ในการดำเนินงานตามกิจกรรมบรรณสัญจร ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง สอบถามความพึงพอใจ ความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง แบบสอบถามความพึงพอใจขอ ผู้เกี่ยวข้อง ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ตระหนักเห็นและความสำคัญของการอ่าน การเขียน และการฟังมาก ยิ่งขึ้น 2. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง สามารถนำความรู้ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในการเรียนและใน ชีวิตประจำวัน 3. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง มีทักษะในการแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วยตนเองและเรียนรู้ ร่วมกับผู้อื่นได้ 4. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง เห็นถึงความสำคัญและเข้าใช้บริการการอ่านมากยิ่งขึ้น 5. เพิ่มความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ครู กศน.ตำบลป่าหุ่ง


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 20 4.รายงานผลจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมส่งเสริมการอ่านในครอบครัว


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 21 ลงชื่อ ....................................................ผู้รายงาน (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล ชื่อโครงการ “โครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง” กิจกรรม กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเพิ่มความรู้ด้วย Qr Code สถานที่ดำเนินการ ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ระยะเวลา 1 ตุลาคม 2566 – 31 มีนาคม 2567 ประเภทกลุ่มเป้าหมาย นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง ,เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่ง งบประมาณ - บาท ผู้รับผิดชอบ นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ ครู กศน.ตำบล บทบาทหน้าที่ครู เป็นผู้ประสานและจัดกิจกรรม ผลที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม 1. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง,เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่งตระหนักเห็นและ ความสำคัญของการอ่าน การเขียน และการฟังมากยิ่งขึ้น 2. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง,เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่งสามารถนำความรู้ ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในการเรียนและในชีวิตประจำวัน 3. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง,เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่งมีทักษะในการ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วยตนเองและเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นได้ 4. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง,เยาวชน และประชาชนตำบลป่าหุ่งเห็นถึงความสำคัญ และเข้าใช้บริการห้องสมุดมากยิ่งขึ้น รายงานผลจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเพิ่มความรู้ด้วย Qr Code สังกัด ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอพาน


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 22 หลักการและเหตุผล การอ่านจัดเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคนในสังคมไทย การอ่านทำให้เกิด การพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถ พฤติกรรมและค่านิยมต่างๆ รวมทั้งช่วยในการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิต โดยพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์อย่างยิ่ง ๒ ประการ คือ ประการแรกสำคัญต่อ ชีวิตประจำวัน กล่าวคือ การอ่านเป็นการแสวงหาความรู้เพื่อนามาใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน ประการที่สองมีความสำคัญ ต่อการเรียน เพราะการอ่านเป็นหัวใจของการจัดกิจกรรมทั้งหลายในการเรียนการสอน และมีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จ การสร้างนิสัยรักการอ่านให้แก่เด็กและเยาวชนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการอ่านเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการศึกษา หาความรู้ควบคู่กับทักษะอื่น การอ่านเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคนในสังคม การอ่าน ทำให้เกิดการพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถพฤติกรรมและค่านิยมต่าง ๆ รวมทั้งช่วยในการเปลี่ยนแปลงการดา เนินชีวิตพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อเด็กและเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบันการอ่านหนังสือของ คนไทยเป็นกิจกรรมที่ไม่แพร่หลาย การอ่านหนังสือที่ดีและมีสาระยิ่งน้อยลงไปสาเหตุมีอยู่หลายประการ นับตั้งแต่การขาด แคลนหนังสือที่ดีและตรงกับความสนใจ การขาดแรงจูงใจและแรงกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการอ่าน ตลอดจนนิสัยรัก การอ่านทั้งในและนอกสถานที่ ดังนั้นการอ่านหนังสือจนเกิดเป็นนิสัย จำเป็นต้องมีการปลูกฝังและชักชวนให้เกิดความ สนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการปฏิรูปการเรียนการ สอนไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเร็วขึ้น โดยได้ดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านมาโดยตลอดอย่าง ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่งเห็นความสำคัญและตระหนักถึงความสำคัญในการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและการ เรียนรู้จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในภาคเรียนนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับผู้เรียนทุกระดับชั้น และประชาชนผู้สนใจ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาผู้เรียนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีนิสัยรักการอ่าน รักการค้นคว้า เกิดการใฝ่รู้ และนำไปสู่การปฏิบัติ ในชีวิตประจำวัน 2. เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะกระบวนการแสวงหาความรู้ รักการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง 3. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 4. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักเลือกอ่านหนังสือที่ดีมีประโยชน์อย่างหลากหลาย นำไปพัฒนาทักษะการเขียนบันทึก ความรู้จากเรื่องที่อ่าน ตามความคิดของผู้เรียน 5. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลหาความรู้จากหนังสือในห้องสมุดและใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง เป้าหมาย 1. ผู้เรียนร้อยละ 80 มีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อหาเหตุผล 2. ผู้เรียนร้อยละ 80 รู้จักแสวงหาความรู้จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆทั้งในและนอกสถานศึกษา 3. ผู้เกี่ยวข้องร้อยละ 80 มีความพึงพอใจในการดำเนินงานตามกิจกรรมของ ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเพิ่มความรู้ด้วย Qr Code


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 23 วิธีดำเนินงาน กิจกรรม ระยะเวลา ผู้รับผิดชอบ 1. วางแผนออกแบบกิจกรรมตามนโยบายของ ศสกร.อำเภอ ตุลาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 2. ดำเนินงานกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 3. ประเมินความพึงพอใจเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 4. สรุปและรายงานผลการจัดกิจกรรม มีนาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ งบประมาณ จำนวน - บาท การติดตามและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ วิธีประเมิน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน 1. ร้อยละของนักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อ หาเหตุผล 1. ตรวจบันทึกการอ่าน 2. สำรวจจำนวนผู้เรียนจาก บันทึกสถิติการเข้าใช้บริการ กศน.ตำบล 1. แบบตรวจบันทึกการอ่าน 2. แบบบันทึกสถิติการเข้าใช้บริการ กศน.ตำบล 2.ร้อยละ ของผู้เรียน ที่แสวงหาความรู้ จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆทั้งในและ นอกสถานศึกษา ตรวจการบันทึกความรู้จาก สื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆ (ชิ้นงานผู้เรียน) แบบตรวจการบันทึกความรู้จากสื่อ และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ(ชิ้นงานผู้เรียน) 3. ร้อยละของ ผู้เกี่ยวข้อง มีความพึง พอใจในการดำเนินงานตามกิจกรรม ส่งเสริมการอ่าน ศูนย์การเรียนรู้ตำบล ป่าหุ่ง สอบถามความพึงพอใจ ความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง แบบสอบถาม ความพึงพอใจขอผู้เกี่ยวข้อง ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. ผู้เรียนตระหนักเห็นและความสำคัญของการอ่าน การเขียน และการฟังมากยิ่งขึ้น 2. ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในการเรียนและในชีวิตประจำวัน 3. ผู้เรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วยตนเองและเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นได้ 4. ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น 5. ผู้เรียนเห็นถึงความสำคัญและเข้าใช้บริการห้องสมุดมากยิ่งขึ้น ลงชื่อ (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ครู กศน.ตำบลป่าหุ่ง


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 24 5.ภาพการกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเพิ่มความรู้ ด้วย Qr Code


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 25 ลงชื่อ ....................................................ผู้รายงาน (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล ชื่อโครงการ “โครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง ” กิจกรรม กิจกรรมบ้านหนังสือชุมฃน สถานที่ดำเนินการ บ้านป่าบงหลวง หมู่ที่ 9 ,บ้านเหมืองหิน ม.11 และบ้านศาลาวังโค้ง ม.14 ตำบล ป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย จำนวน 3 แห่ง ประเภทกลุ่มเป้าหมาย นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่ง งบประมาณ - บาท ผู้รับผิดชอบ นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ ครู กศน.ตำบล บทบาทหน้าที่ครู เป็นผู้ประสานและจัดกิจกรรม ผลที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม ๑. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่งตระหนักเห็นและ ความสำคัญของการอ่าน การเขียน และการฟังมากยิ่งขึ้น ๒. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่งสามารถนำ ความรู้ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในการเรียนและในชีวิตประจำวัน ๓. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่งมีทักษะในการ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วยตนเองและเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นได้ ๔. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่งเห็นถึง ความสำคัญและเข้าใช้บริการห้องสมุดมากยิ่งขึ้น รายงานผลจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมบ้านหนังสือชุมชน สังกัด ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอพาน


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 26 หลักการและเหตุผล การอ่านจัดเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคนในสังคมไทย การอ่านทำให้เกิด การพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถ พฤติกรรมและค่านิยมต่างๆ รวมทั้งช่วยในการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิต โดยพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์อย่างยิ่ง ๒ ประการ คือ ประการแรกสำคัญต่อ ชีวิตประจำวัน กล่าวคือ การอ่านเป็นการแสวงหาความรู้เพื่อนามาใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน ประการที่สองมีความสำคัญ ต่อการเรียน เพราะการอ่านเป็นหัวใจของการจัดกิจกรรมทั้งหลายในการเรียนการสอน และมีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จ การสร้างนิสัยรักการอ่านให้แก่เยาวชนและประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการอ่านเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับ การศึกษาหาความรู้ควบคู่กับทักษะอื่น การอ่านเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคนในสังคม การอ่านทำให้เกิดการพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถพฤติกรรมและค่านิยมต่าง ๆ รวมทั้งช่วยในการ เปลี่ยนแปลงการดาเนินชีวิตพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อเด็กและเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบัน การอ่านหนังสือของคนไทยเป็นกิจกรรมที่ไม่แพร่หลาย การอ่านหนังสือที่ดีและมีสาระยิ่งน้อยลงไปสาเหตุมีอยู่หลาย ประการ นับตั้งแต่การขาดแคลนหนังสือที่ดีและตรงกับความสนใจ การขาดแรงจูงใจและแรงกระตุ้นให้เห็นความสำคัญ ของการอ่าน ตลอดจนนิสัยรักการอ่านทั้งในและนอกสถานที่ดังนั้นการอ่านหนังสือจนเกิดเป็นนิสัย จำเป็นต้องมีการปลูกฝัง และชักชวนให้เกิดความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อน การปฏิรูปการเรียนการสอนไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเร็วขึ้น โดยได้ดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน มาโดยตลอดอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง เห็นความสำคัญและตระหนักถึงความสำคัญในการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและการ เรียนรู้จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในภาคเรียนนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับเยาวชนและ ประชาชนตำบลป่าหุ่ง วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีนิสัยรักการอ่าน รักการค้นคว้า เกิด การใฝ่รู้ และนำไปสู่การปฏิบัติในชีวิตประจำวัน 2. เพื่อพัฒนาเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ให้มีทักษะกระบวนการแสวงหาความรู้ รักการเรียนรู้และพัฒนา ตนเองอย่างต่อเนื่อง 3. เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 4. เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง รู้จักเลือกอ่านหนังสือที่ดีมีประโยชน์อย่างหลากหลาย นำไป พัฒนาทักษะการเขียนบันทึกความรู้จากเรื่องที่อ่าน ตามความคิดของเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง 5. เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง สืบค้นข้อมูลหาความรู้จากหนังสือในห้องสมุดและใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง เป้าหมาย 1. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่งร้อยละ 80 มีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อหา เหตุผล 2. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่งร้อยละ 80 รู้จักแสวงหาความรู้จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆทั้งในและนอก สถานศึกษา 3. ผู้เกี่ยวข้องร้อยละ 80 มีความพึงพอใจในการดำเนินงานตามกิจกรรมของ ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง กิจกรรมบ้านหนังสือชุมชน


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 27 วิธีดำเนินงาน กิจกรรม ระยะเวลา ผู้รับผิดชอบ 1. วางแผนออกแบบกิจกรรมตามนโยบายของ ศสกร.อำเภอ ตุลาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 2. ดำเนินงานกิจกรรมบ้านหนังสือชุมชน ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 3. ประเมินความพึงพอใจเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 4. สรุปและรายงานผลการจัดกิจกรรม มีนาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ งบประมาณ จำนวน - บาท การติดตามและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ วิธีประเมิน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน 1. ร้อยละของเยาวชนและประชาชนตำบล ป่าหุ่งมีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการ ฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อหาเหตุผล สำรวจจำนวนเยาวชนและ ประชาชนตำบลป่าหุ่ง จากบันทึก สถิติการเข้าใช้บริการ แบบบันทึกสถิติการเข้าใช้ บริการ 2.ร้อยละ ของเยาวชนและประชาชนตำบล ป่าหุ่ง ที่แสวงหาความรู้จากสื่อและแหล่ง เรียนรู้ต่างๆทั้งในและนอกสถานศึกษา จากการสอบถาม แบบสอบถาม 3. ร้อยละของ ผู้เกี่ยวข้อง มีความพึงพอใจ ในการดำเนินงานตามกิจกรรมส่งเสริมการ อ่าน ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง สอบถามความพึงพอใจ ความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง แบบสอบถาม ความพึงพอใจขอผู้เกี่ยวข้อง ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ตระหนักเห็นและความสำคัญของการอ่าน การเขียน และการฟังมาก ยิ่งขึ้น 2. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง สามารถนำความรู้ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในการเรียนและใน ชีวิตประจำวัน 3. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง มีทักษะในการแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วยตนเองและเรียนรู้ ร่วมกับผู้อื่นได้ 4.เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง เห็นถึงความสำคัญและเข้าใช้บริการการอ่านมากยิ่งขึ้น ลงชื่อ (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ครู กศน.ตำบลป่าหุ่ง


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 28 6.ภาพการกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมบ้านหนังสือชุมชน บ้านหนังสือชุมชน บ้านศาลาวังโค้ง หมู่ที่ 14 ผู้รับผิดชอบ......นางจันทร์เพ็ญ วงค์จันทร์มา บ้านหนังสือชุมชน บ้านเหมืองหลวง หมู่ที่ 11 ผู้รับผิดชอบ......นางสาวสุวีรา มหาวรรณ์ บ้านหนังสือชุมชน บ้านป่าบงหลวง หมู่ที่ 9 ผู้รับผิดชอบ......นางสาววาธิณี อุทัย


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 29 ลงชื่อ ....................................................ผู้รายงาน (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล ชื่อโครงการ “โครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง” กิจกรรม กิจกรรมอาสาสมัครรักการอ่านประจำปี 2567 สถานที่ดำเนินการ พื้นที่ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมปี 2567 จำนวน 2 คน ได้แก่............ 1. นายศรันย์ภัทร อินยาศรี 2. นายสุขแก้ว ดวงดี ประเภทกลุ่มเป้าหมาย นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่ง งบประมาณ - บาท ผู้รับผิดชอบ นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ ครู กศน.ตำบล บทบาทหน้าที่ครู เป็นผู้ประสานและจัดกิจกรรม ผลที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม 1. พัฒนาสภาวะจิตใจให้ดีขึ้น 2. ทำให้รู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่า มีประโยชน์ต่อสังคม 3. ได้เรียนรู้ทักษะการทำงานใหม่ๆ 4. ได้พบเพื่อนใหม่ ๆ 5. ได้รับความสนุกสนานท้าทาย 6. พัฒนาภาวะความเป็นผู้นำให้กับตนเอง 7. พัฒนาตนเองให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ รายงานผลจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมอาสาสมัครรักการอ่านประจำปี 2567 สังกัด ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอพาน


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 30 หลักการและเหตุผล “ร่วมกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต” ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา พัฒนาสังคม และช่วยเหลือชุมชนใน ลักษณะของการให้ที่ไม่หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ ซึ่งเรียกว่า “อาสาสมัคร” ดังนั้นอาสาสมัครจึงมีความสำคัญต่อการ พัฒนาประเทศ 1. ความหมายของอาสาสมัคร อาสาสมัคร (Volunteer) หมายถึง ผู้ที่ปฏิบัติงานที่ให้ความรับผิดชอบต่อสังคมโดยไม่หวังผลตอบแทนเป็น เงินทองและการกระทำที่ไม่ใช่ภาระงานที่ต้องทำตามหน้าที่ หรือบุคคลที่มุ่งหวังทำงานเพื่อการบริการ และอุทิศตน โดยไม่ต้องการรับค่าตอบแทนเป็นเงินทองจากการทำงานนั้น ๆ แต่อย่างใด องค์ประกอบของอาสาสมัคร มีดังนี้ 1. การเลือก (Choose) หมายถึงมีอิสระที่จะกระทำหรือไม่กระทำในงานนั้น เป็นการกระทำโดยสมัครใจ 2. มีความรับผิดชอบต่อสังคม (Social Responsibility) หมายถึงการกระทำที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น หรือ สังคมส่วนร่วม 3. ไม่หวังผลตอบแทนเป็นเงิน (Without Monetary Profit) หมายถึงการกระทำที่ไม่มุ่งหวังผลตอบแทนใน รูปของสินจ้างรางวัล และต้องถือหลักว่าไม่เป็นการจ้าง งานอาสาสมัครไม่ได้หวังผลรายได้ทางเศรษฐกิจ แต่ อาจรับเป็นรางวัลหรือค่าใช้จ่ายทดแทนที่ตนเองได้ใช้จ่ายไปแต่ไม่อาจเทียบได้กับสิ่งที่ได้กระทำไป 4. เป็นการอุทิศกำลังกาย กำลังใจและเวลาให้แก่ส่วนรวม (Altruism) ไม่ใช่การอุทิศกำลังทรัพย์ 5. งานที่ทำไม่ใช่ภาระงานที่ต้องทำตามหน้าที่ (Beyond Basic Obligations) 2. ปัจจัยที่นำไปสู่อาสาสมัคร จิตวิญญาณอาสาสมัคร(Spinrit of Voluntarism) คือการมีจิตใจที่เสียสละ ทำงานด้วยความสมัครใจ เพื่อ เห็นแก่ประโยชน์ของผู้อื่นและสังคม โดยไม่หวังผลตอบแทน ซึ่งตรงกับแนวคิด “จิตอาสา” หมายถึงจิตที่พร้อมจะ สละเวลา แรงกาย สติปัญญาเพื่อปฏิบัติงานที่เป็นสาธารณประโยชน์เพื่อร่วมแก้ไขปัญหา ความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นใน สังคม ชุมชน เป็นจิตแห่งการให้ ดังนั้น “อาสาสมัคร” และ”จิตอาสา” เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นควบคู่กันไป ผู้ที่เป็น อาสาสมัครจึงเป็นผู้ที่มีจิตอาสา 3. ประโยชน์ที่ อาสาสมัครได้รับจากการปฏิบัติงานอาสาสมัคร 1. พัฒนาสภาวะจิตใจให้ดีขึ้น 2. ทำให้รู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่า มีประโยชน์ต่อสังคม 3. ได้เรียนรู้ทักษะการทำงานใหม่ๆ 4. ได้พบเพื่อนใหม่ ๆ 5. ได้รับความสนุกสนานท้าทาย 6. พัฒนาภาวะความเป็นผู้นำให้กับตนเอง 7. พัฒนาตนเองให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 31 4. อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน (อสอ.) โครงการอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน เกิดขึ้นจากความร่วมมือของสำนักงาน กศน. และสำนักงานกองทุน สนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ(สสส.) โดยมุ่งหวังที่จะพัฒนาให้อาสาสมัครส่งเสริมการอ่านซึ่งเป็นคนในชุมชนเป็น ต้นแบบที่ดีของบุคคลที่มีนิสัยรักการอ่านเป็นผู้นำและทำงานร่วมกับชุมชนเพื่อพัฒนาวิธีการส่งเสริมให้คนในชุมชน เกิดความตระหนัก เห็นความสำคัญของการอ่านและเกิดการบ่มเพราะนิสัยรักการอ่านขึ้นต่อประชาชนในชุมชน ทั้งนี้ การดำเนินงานอาสาสมัครส่งเสริมการอ่านนี้เป็นการดำเนินงานในลักษณะเจาะลึกพื้นที่โดยทำงานประสานกับ กศน. ตำบล ห้องสมุดประชาชนและแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ในชุมชน 4.1 คุณสมบัติของอาสาสมัคร 1) อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี บริบูรณ์ 2) เป็นผู้มีจิตอาสาช่วยเหลืองานส่งเสริมการอ่านเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต 3) เป็นผู้มีภูมิลำเนาหรือมีถิ่นที่อยู่ประจำในหมู่บ้านหรือชุมชน 4) เป็นผู้รักหนังสือ รักการอ่าน สามารถสร้างสรรค์กิจกรรมส่งเสริมการอ่านให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ หลากหลายวัย 5) เป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากคนในชุนชน 4.2 ภารกิจของอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน 1) สร้างสรรค์ระบบ วิธีการ นำหนังสือหมุนเวียนเพื่อให้เข้าถึงประชาชนในชุมชนอย่างทั่วถึงทุกครัวเรือน 2) พัฒนาและดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นให้ชุมชนเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการอ่าน เพื่อสร้างนิสัยรักการอ่าน 3) สร้าง จัดกระบวนการและสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการอ่านให้มีความเหมาะสมกับบริบทของชุมชนนั้น 4) ประสานความร่วมมือกับสื่อทุกแขนงในชุมชน เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการอ่าน 4.3 แนวทางการดำเนินงานของอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน 1) แกนนำอาสาสมัครส่งเสริมการอ่านจะต้องดำเนินการขยายผลการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครในเขตพื้นที่ ชุมชนของตนเอง เพื่อดำเนินการจัดกิจกรรม กระบวนการส่งเสริมการอ่าน 2) ใช้ กศน. ตำบล เป็นศูนย์กลางในการปฏิบัติงาน การจัดประชุมเครือข่ายอาสาสมัคร การวางแผน การ บริหารจัดการด้านต่าง ๆ 3) ทำงานโดยประสานกับ อบต. ครู กศน. ครู ศรช. ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน พร้อมทั้งร่วมกัน ดำเนินการพัฒนาแนวทางการทำงานส่งเสริมการอ่านในชุมชน 4) ใช้ห้องสมุดประชาชน เป็นแหล่งทรัพยากรด้านข้อมูล รวมทั้งหนังสือเพื่อการส่งเสริมการอ่าน หรือการ ทำกิจกรรม 4.4 ความคาดหวัง ในการทำงานของอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน(อสอ.) 1) อสอ. ทำงานอาสาสมัครด้วยใจและมีความศัทธาในการทำงานอาสาสมัคร 2) อสอ. ทำงานเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น 3) อสอ. ทำงานโดยไม่หวังผลตอบแทนทางวัตถุ 4) การทำงานเป็นการพัฒนาให้เกิดเครือข่าย คือมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเครือข่าย อสอ. 5) อสอ. สามารถทำงานร่วมกับหน่วยงาน และบุคคลอื่นในพื้นที่ได้ 6) อสอ. เข้ารับการอบรม และพัฒนาตนเองให้เกิดทักษะการปฏิบัติงาน 7) สามารถจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์งานจิตอาสาในงานส่งเสริมการอ่าน 8) สร้างเครือข่ายความร่วมมือการพัฒนางานจิตอาสาในการส่งเสริมการอ่าน 9) เผยแพร่การดำเนินงานส่งเสริมการอ่านทางสื่อต่าง ๆ


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 32 วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อพัฒนาเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีนิสัยรักการอ่าน รักการค้นคว้า เกิดการใฝ่รู้ และนำไปสู่การปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ๒. เพื่อพัฒนาเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ให้มีทักษะกระบวนการแสวงหาความรู้ รักการเรียนรู้และ พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ๓. เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ๔. เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง รู้จักเลือกอ่านหนังสือที่ดีมีประโยชน์อย่างหลากหลาย นำไปพัฒนาทักษะการเขียนบันทึกความรู้จากเรื่องที่อ่าน ตามความคิดของเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ๕. เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง สืบค้นข้อมูลหาความรู้จากหนังสือในห้องสมุดและใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง เป้าหมาย 1. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่งร้อยละ 80 มีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อ หาเหตุผล 2. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่งร้อยละ 80 รู้จักแสวงหาความรู้จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆทั้งในและ นอกสถานศึกษา 3. ผู้เกี่ยวข้องร้อยละ 80 มีความพึงพอใจในการดำเนินงานตามกิจกรรมของ ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง วิธีดำเนินงาน กิจกรรม ระยะเวลา ผู้รับผิดชอบ 1. วางแผนออกแบบกิจกรรมตามนโยบายของ ศสกร.อำเภอ ตุลาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 2. ดำเนินงานกิจกรรมบรรณสัญจร ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 3. ประเมินความพึงพอใจเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 4. สรุปและรายงานผลการจัดกิจกรรม มีนาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ งบประมาณ จำนวน - บาท การติดตามและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ วิธีประเมิน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน 1. ร้อยละของเยาวชนและประชาชนตำบล ป่าหุ่งมีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการ ฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อหาเหตุผล สำรวจจำนวนเยาวชนและ ประชาชนตำบลป่าหุ่ง จากบันทึก สถิติการเข้าใช้บริการ แบบบันทึกสถิติการเข้าใช้ บริการ 2.ร้อยละ ของเยาวชนและประชาชนตำบล ป่าหุ่ง ที่แสวงหาความรู้จากสื่อและแหล่ง เรียนรู้ต่างๆทั้งในและนอกสถานศึกษา จากการสอบถาม แบบสอบถาม 3. ร้อยละของ ผู้เกี่ยวข้อง มีความพึงพอใจ ในการดำเนินงานตามกิจกรรมบรรณสัญจร ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง สอบถามความพึงพอใจ ความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง แบบสอบถาม ความพึงพอใจขอผู้เกี่ยวข้อง


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 33 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ตระหนักเห็นและความสำคัญของการอ่าน การเขียน และการฟังมาก ยิ่งขึ้น 2. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง สามารถนำความรู้ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในการเรียนและใน ชีวิตประจำวัน 3. เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง มีทักษะในการแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วยตนเองและเรียนรู้ ร่วมกับผู้อื่นได้ 4.เยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง เห็นถึงความสำคัญและเข้าใช้บริการการอ่านมากยิ่งขึ้น ลงชื่อ (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ครู กศน.ตำบลป่าหุ่ง


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 34 7.ภาพรายงานผลจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมอาสาสมัครรักการอ่าน


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 35 ลงชื่อ ....................................................ผู้รายงาน (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล ชื่อโครงการ “โครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง ปี 2567” กิจกรรม กิจกรรมการจัดทำข้อมูลแหล่งเรียนรู้ในชุมชนออนไลน์ สถานที่ดำเนินการ 1. พระธาตุสามดวง ม.1,11,14 ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย 2. ถ้ำผาโขง ม.6 ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย 3. วัดห้วยประสิทธิ์ ม.12 ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย 4. วัดป่าภาวนาวิเวกพัฒนาราม ม.10 ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน 5. วัดป่าเมตตาวนารามห้วยไร่(ธ) ม. 10 ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จำนวนที่จัดตั้ง จำนวน 5 แห่ง ประเภทกลุ่มเป้าหมาย นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่ง งบประมาณ - บาท ผู้รับผิดชอบ นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ ครู กศน.ตำบล บทบาทหน้าที่ครู เป็นผู้ประสานและจัดกิจกรรม ผลที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม 1. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่งตระหนักเห็น และความสำคัญของแหล่งเรียนรู้ในชุมชน 2. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่ง สามารถนำ ความรู้ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในการเรียนและในชีวิตประจำวัน 3. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง เยาวชนและประชาชน ตำบลป่าหุ่งมีทักษะในการ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วยตนเองและเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นได้ รายงานผลจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมการจัดทำข้อมูลแหล่งเรียนรู้ในชุมชนออนไลน์ สังกัด ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอพาน


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 36 หลักการและเหตุผล แหล่งเรียนรู้ หมายถึง แหล่งข้อมูลข่าวสาร สารสนเทศ และประสบการณ์ ที่สนับสนุนส่งเสริมให้ผู้เรียนใฝ่ เรียน ใฝ่รู้ แสวงหาความรู้และเรียนรู้ด้วยตนเองตามอัธยาศัย เพื่อเสริมสร้างให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ “แหล่งเรียนรู้” คือ ถิ่น ที่อยู่ บริเวณ บ่อเกิด แห่ง ที่หรือศูนย์ความรู้ที่ให้เข้าไปศึกษาหาความรู้ ความเข้าใจ และความชำนาญ ซึ่งแหล่งเรียนรู้จึงอาจเป็นไปได้ทั้งสิ่งที่เป็นธรรมชาติ หรือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เป็นได้ทั้งบุคคล สิ่งมีชีวิต และไม่มีชีวิต และแหล่งเรียนรู้อาจจะอยู่ในห้องเรียนในโรงเรียนหรือนอกโรงเรียนก็ได้ แหล่งเรียนรู้ตามมาตรา 25 ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้แก่ ห้องสมุดประชาชน พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ สวนสัตว์ สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร์ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศูนย์การกีฬา และนันทนาการ แหล่งข้อมูลและแหล่งการเรียนรู้อื่น ประเภทของแหล่งเรียนรู้ ประเภทของแหล่งเรียนรู้ สามารถจำแนกเป็นประเภทต่างๆ ได้ 4 ประเภท ดังนี้ แหล่งเรียนรู้ประเภทบุคคล ได้แก่ บุคคลทั่วไปที่อยู่ในชุมชนซึ่งสามารถถ่านทอดองค์ความรู้ให้กับผู้เรียนได้ เช่น ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ ช่างฝีมือ พ่อค้า นักธุรกิจ พนักงานบริษัท ข้าราชการ ภิกษุสงฆ์ ศิลปิน นักกีฬา แหล่งการเรียนรู้ประเภทสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น สถานที่สำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ โบราณสถาน สถานที่ราชการ สถาบันทางศาสนา พิพิธภัณฑ์ ตลอด ร้านค้า ห้างร้าน บริษัท ธนาคาร โรงมโหรสพ โรงงาน อุตสาหกรรม ห้องสมุด ถนน สะพาน เขื่อน ฝายทดน้ำ สวนสาธารณะ สนามกีฬา สนามบิน แหล่งการเรียนรู้ประเภททรัพยากรธรรมชาติ เช่น ภูเขา ป่าไม้ พืช ดิน หิน แร่ ทะเล เกาะ แม่น้ำ ห้วย หนอง คลอง บึง น้ำตก ทุ่งนา สัตว์ป่า สัตว์น้ำ แหล่งการเรียนรู้ประเภทกิจกรรมทางสังคม ประเพณี และความเชื่อ ได้แก่ ขนบธรรมเนียมประเพณี พื้นบ้าน การละเล่นพื้นบ้าน กีฬาพื้นบ้าน วรรณกรรมท้องถิ่น ศิลปะพื้นบ้าน ดนตรีพื้นบ้าน วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ประจำวัน แหล่งเรียนรู้หากแบ่งตามสถานที่ตั้ง ยังแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ แหล่งเรียนรู้ในสถานศึกษาและ แหล่งการเรียนรู้ในชุมชน ความสำคัญของแหล่งการเรียนรู้ สังคมปัจจุบันและอนาคตเป็นสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ (Knowledge-Based Economy) การเรียนรู้ ความรู้และ นวัตกรรม เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาส่งเสริม การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และเนื่องจากสภาพสังคมอยู่ในสภาวะที่โลก เปลี่ยนผ่าน (Transformation) จากเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (Industrial Economy) มาสู่สังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ ที่ระบุ ไว้ในแผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ.2545-2549) แสดงให้เห็นถึงสภาพสังคมที่ปรับเปลี่ยนไปตามกระแสแห่งโลก และสร้าง ความตระหนักให้ผู้เกี่ยวข้องทางการศึกษา ให้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดการศึกษาที่เน้นศักยภาพของคนไทย ให้เป็น ผู้มีความรอบรู้ และได้ระบุเป้าหมายสำคัญของการจัดการศึกษาไว้ชัดเจนว่า “การพัฒนาคนอย่างสมดุล สร้างสังคม คุณธรรม ภูมิปัญญาและการเรียนรู้ พัฒนาสภาพแวดล้อมและสังคม” ในส่วนของการพัฒนาบุคคล เป็นการพัฒนาคนตาม แนวหลักเศรษฐกิจพอเพียง นั่นคือการยึดคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา เพื่อให้คนไทยมีความสุข พึ่งตนเอง และก้าวทัน โลกโดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้ สามารถเลือกใช้ความรู้และเทคโนโลยีได้อย่างคุ้มค่าเหมาะสม มีระบบ กิจกรรมจัดทำข้อมูลแหล่งเรียนรู้ในชุมชนออนไลน์


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 37 ภูมิคุ้มกันที่ดี มีความยืดหยุ่นพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ควบคู่ไปกับการมีคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และพัฒนาชีวิตให้ เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เป็นคนเก่ง คนดี และมีความสุข สมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ สติปัญญา มีความรู้ ค่านิยมคุณธรรม และจริยธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ2545 : 4-6) พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2) พ.ศ. 2545 มีสาระสำคัญที่สร้างเสริมความรู้ การเรียนรู้ ความใฝ่รู้ การศึกษาค้นคว้า วิจัย อันนำไปสู่สังคมความรู้(Knowledge Society) และสังคมการ เรียนรู้(Learning Society) ซึ่งสะท้อนบทบาทของแหล่งการเรียนรู้ ในมาตรา ๒๕ รัฐต้องส่งเสริม การดำเนินงานและ การจัดตั้งแหล่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทุกรูปแบบ ได้แก่ ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ สวนสัตว์ สวนสาธารณะ สวน พฤกษศาสตร์ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศูนย์การศึกษา และนันทนาการ แหล่งข้อมูล และแหล่งการเรียนรู้อื่น อย่างพอเพียง และมีประสิทธิภาพ (สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา 2547a:a14) แนวการจัด การศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาชาติ กล่าวถึง การจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนต้องเห็น แบบอย่างที่ดี ได้ฝึก การคิด ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงที่หลากหลาย ตรงตามความต้องการ และมีความสุขในการ เรียนรู้ ครู คณาจารย์รู้จักผู้เรียนเป็นรายบุคคล เตรียมการสอนและใช้สื่อที่ผสมผสานความรู้สากลกับภูมิปัญญาไทย จัด บรรยากาศให้เอื้อต่อการเรียนรู้ จัดหาและพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย เพื่อพัฒนาความคิดของผู้เรียนอย่างเป็น ระบบและสร้างสรรค์(สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา 2548a: 3-9) เป้าหมายการจัดการเรียนรู้ต้องมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองเป็นสำคัญ เพื่อให้นักเรียนมีทักษะใน การแสวงหาความรู้จากแหล่งการเรียนรู้และสื่อต่างๆ อย่างกว้างขวาง สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้กับการเรียนรู้ในห้องเรียนและชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดีเกิดคุณลักษณะใฝ่รู้ ใฝ่เรียน เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้และรักการเรียนรู้ตลอดชีวิต การศึกษาค้นคว้าดังกล่าวสามารถศึกษาได้จาก แหล่งการเรียนรู้ทั้งในสถานศึกษาและท้องถิ่น ดังนั้นสถานศึกษาต้องจัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ทุกรูปแบบและหลากหลาย พร้อมทั้งแนะนำผู้เรียนให้ใช้แหล่งการเรียนรู้ ให้เกิดประโยชน์ การอ่านจัดเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคนในสังคมไทย การอ่านทำให้เกิดการ พัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถ พฤติกรรมและค่านิยมต่างๆ รวมทั้งช่วยในการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตโดย พัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์อย่างยิ่ง ๒ ประการ คือ ประการแรกสำคัญต่อ ชีวิตประจำวัน กล่าวคือ การอ่านเป็นการแสวงหาความรู้เพื่อนามาใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน ประการที่สองมีความสำคัญ ต่อการเรียน เพราะการอ่านเป็นหัวใจของการจัดกิจกรรมทั้งหลายในการเรียนการสอน และมีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จ การสร้างนิสัยรักการอ่านให้แก่เด็กและเยาวชนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการอ่านเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการศึกษาหาความรู้ ควบคู่กับทักษะอื่น การอ่านเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคนในสังคม การอ่านทำให้เกิด การพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถพฤติกรรมและค่านิยมต่าง ๆ รวมทั้งช่วยในการเปลี่ยนแปลงการดาเนินชีวิต พัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อเด็กและเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบันการอ่านหนังสือของคนไทย เป็นกิจกรรมที่ไม่แพร่หลาย การอ่านหนังสือที่ดีและมีสาระยิ่งน้อยลงไปสาเหตุมีอยู่หลายประการ นับตั้งแต่การขาดแคลน หนังสือที่ดีและตรงกับความสนใจ การขาดแรงจูงใจและแรงกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการอ่าน ตลอดจนนิสัยรักการ อ่านทั้งในและนอกสถานที่ ดังนั้นการอ่านหนังสือจนเกิดเป็นนิสัย จำเป็นต้องมีการปลูกฝังและชักชวนให้เกิดความ สนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อน การปฏิรูปการเรียนการสอนไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเร็วขึ้น โดยได้ดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรัก การอ่านมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่งเห็นความสำคัญและตระหนักถึงความสำคัญในการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและการ เรียนรู้จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในภาคเรียนนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับผู้เรียนทุกระดับชั้น และประชาชนผู้สนใจ


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 38 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาผู้เรียนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีนิสัยรักการอ่าน รักการค้นคว้า เกิดการใฝ่รู้ และนำไปสู่การ ปฏิบัติในชีวิตประจำวัน 2. เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะกระบวนการแสวงหาความรู้ รักการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง 3. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 4. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักเลือกอ่านหนังสือที่ดีมีประโยชน์อย่างหลากหลาย นำไปพัฒนาทักษะการเขียน บันทึกความรู้จากเรื่องที่อ่าน ตามความคิดของผู้เรียน 5. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลหาความรู้จากหนังสือในห้องสมุดและใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ต่อเนื่อง เป้าหมาย 1. ผู้เรียนร้อยละ 80 มีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อหาเหตุผล 2. ผู้เรียนร้อยละ 80 รู้จักแสวงหาความรู้จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆทั้งในและนอกสถานศึกษา 3. ผู้เกี่ยวข้องร้อยละ 80 มีความพึงพอใจในการดำเนินงานตามกิจกรรมของ ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง วิธีดำเนินงาน กิจกรรม ระยะเวลา ผู้รับผิดชอบ 1. วางแผนออกแบบกิจกรรมตามนโยบายของ กศน.อำเภอ ตุลาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 2. ดำเนินงานกิจกรรมส่งเสริมแหล่งเรียนรู้ในชุมชน ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 3. ประเมินความพึงพอใจเยาวชนและประชาชนตำบลป่าหุ่ง ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 4. สรุปและรายงานผลการจัดกิจกรรม มีนาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ งบประมาณ จำนวน - บาท การติดตามและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ วิธีประเมิน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน 1. ร้อยละของนักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อ หาเหตุผล 1. ตรวจบันทึกการอ่าน 2. สำรวจจำนวนผู้เรียนจาก บันทึกสถิติการเข้าใช้บริการ กศน.ตำบล 1. แบบตรวจบันทึกการอ่าน 2. แบบบันทึกสถิติการเข้าใช้บริการ กศน.ตำบล 2.ร้อยละ ของผู้เรียน ที่แสวงหาความรู้ จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆทั้งในและ นอกสถานศึกษา ตรวจการบันทึกความรู้จาก สื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆ (ชิ้นงานผู้เรียน) แบบตรวจการบันทึกความรู้จากสื่อ และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ(ชิ้นงานผู้เรียน) 3. ร้อยละของ ผู้เกี่ยวข้อง มีความพึง พอใจในการดำเนินงานตามกิจกรรม ส่งเสริมการอ่าน ศูนย์การเรียนรู้ตำบล ป่าหุ่ง สอบถามความพึงพอใจ ความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง แบบสอบถาม ความพึงพอใจขอผู้เกี่ยวข้อง


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 39 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. ผู้เรียนตระหนักเห็นและความสำคัญของการอ่าน การเขียน และการฟังมากยิ่งขึ้น 2. ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในการเรียนและในชีวิตประจำวัน 3. ผู้เรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วยตนเองและเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นได้ 4. ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น 5. ผู้เรียนเห็นถึงความสำคัญและเข้าใช้บริการห้องสมุดมากยิ่งขึ้น ลงชื่อ (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ครู กศน. ตำบลป่าหุ่ง


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 40 8.ภาพการเผยแพร่กิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมจัดทำข้อมูลแหล่งเรียนรู้ในชุมขนออนไลน์


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 41 ลงชื่อ ....................................................ผู้รายงาน (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล ชื่อโครงการ “โครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง ” กิจกรรม กิจกรรมหนังสือยืมเรียนเพิ่มพูนความรู้ สถานที่ดำเนินการ ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย จำนวนหนังสือ จำนวน 124 เล่ม ประเภทกลุ่มเป้าหมาย นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง งบประมาณ - บาท ผู้รับผิดชอบ นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ ครู กศน.ตำบล บทบาทหน้าที่ครู เป็นผู้ประสานและจัดกิจกรรม ผลที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม 1. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่งตระหนักเห็นและความสำคัญของการอ่าน การเขียน และการฟังมากยิ่งขึ้น 2. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่งสามารถนำความรู้ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในการ เรียนและในชีวิตประจำวัน 3. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่งมีทักษะในการแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ด้วยตนเองและเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นได้ 4. นักศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่งเห็นถึงความสำคัญและเข้าใช้บริการห้องสมุดมาก ยิ่งขึ้น รายงานผลจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมหนังสือยืมเรียนเพิ่มพูนความรู้ สังกัด ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอพาน


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 42 หลักการและเหตุผล การอ่านจัดเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคนในสังคมไทย การอ่านทำ ให้เกิดการพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถ พฤติกรรมและค่านิยมต่างๆ รวมทั้งช่วยในการเปลี่ยนแปลง การดำเนินชีวิตโดยพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์อย่างยิ่ง ๒ ประการ คือ ประการแรกสำคัญต่อชีวิตประจำวัน กล่าวคือ การอ่านเป็นการแสวงหาความรู้เพื่อนามาใช้ในการดำรงชีวิต ประจำวัน ประการที่สองมีความสำคัญต่อการเรียน เพราะการอ่านเป็นหัวใจของการจัดกิจกรรมทั้งหลายในการเรียน การสอน และมีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จ การสร้างนิสัยรักการอ่านให้แก่เด็กและเยาวชนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการอ่านเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับ การศึกษาหาความรู้ควบคู่กับทักษะอื่น การอ่านเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคน ในสังคม การอ่านทำให้เกิดการพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถพฤติกรรมและค่านิยมต่าง ๆ รวมทั้งช่วย ในการเปลี่ยนแปลงการดาเนินชีวิตพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อเด็กและเยาวชนเป็น อย่างยิ่ง ปัจจุบันการอ่านหนังสือของคนไทยเป็นกิจกรรมที่ไม่แพร่หลาย การอ่านหนังสือที่ดีและมีสาระยิ่งน้อยลงไป สาเหตุมีอยู่หลายประการ นับตั้งแต่การขาดแคลนหนังสือที่ดีและตรงกับความสนใจ การขาดแรงจูงใจและแรง กระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการอ่าน ตลอดจนนิสัยรักการอ่านทั้งในและนอกสถานที่ดังนั้นการอ่านหนังสือจนเกิด เป็นนิสัย จำเป็นต้องมีการปลูกฝังและชักชวนให้เกิดความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรัก การอ่านเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการปฏิรูปการเรียนการสอนไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเร็วขึ้น โดยได้ดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่งเห็นความสำคัญและตระหนักถึงความสำคัญในการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและ การเรียนรู้จึงได้จัดกิจกรรมหนังสือยืมเรียนในภาคเรียนนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับผู้เรียน ทุกระดับชั้น วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาผู้เรียนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีนิสัยรักการอ่าน รักการค้นคว้า เกิดการใฝ่รู้ และนำไปสู่การ ปฏิบัติในชีวิตประจำวัน 2. เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะกระบวนการแสวงหาความรู้ รักการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง 3. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 4. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักเลือกอ่านหนังสือที่ดีมีประโยชน์อย่างหลากหลาย นำไปพัฒนาทักษะการเขียน บันทึกความรู้จากเรื่องที่อ่าน ตามความคิดของผู้เรียน 5. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลหาความรู้จากหนังสือในห้องสมุดและใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ต่อเนื่อง กิจกรรมหนังสือยืมเรียนเพิ่มพูนความรู้ประจำภาคเรียนที่ 2/2566


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 43 เป้าหมาย 1. ผู้เรียนร้อยละ 80 มีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อหาเหตุผล 2. ผู้เรียนร้อยละ 80 รู้จักแสวงหาความรู้จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆทั้งในและนอกสถานศึกษา 3. ผู้เกี่ยวข้องร้อยละ 80 มีความพึงพอใจในการดำเนินงานตามกิจกรรมของ ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง วิธีดำเนินงาน กิจกรรม ระยะเวลา ผู้รับผิดชอบ 1. วางแผนออกแบบกิจกรรมตามนโยบายของ ศสกร.อำเภอ ตุลาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 2. ดำเนินงานกิจกรรมหนังสือยืมเรียน ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 3. ประเมินความพึงพอใจผู้เรียน ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 4. สรุปและรายงานผลการจัดกิจกรรม มีนาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ งบประมาณ จำนวน - บาท การติดตามและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ วิธีประเมิน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน 1. ร้อยละของนักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อ หาเหตุผล 1. ตรวจบันทึกการอ่าน 2. สำรวจจำนวนผู้เรียนจาก บันทึกสถิติการเข้าใช้บริการ กศน.ตำบล 1. แบบตรวจบันทึกการอ่าน 2. แบบบันทึกสถิติการเข้าใช้บริการ กศน.ตำบล 2.ร้อยละ ของผู้เรียน ที่แสวงหาความรู้ จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆทั้งในและ นอกสถานศึกษา ตรวจการบันทึกความรู้จาก สื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆ (ชิ้นงานผู้เรียน) แบบตรวจการบันทึกความรู้จากสื่อ และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ(ชิ้นงานผู้เรียน) 3. ร้อยละของ ผู้เกี่ยวข้อง มีความพึง พอใจในการดำเนินงานตามกิจกรรม ส่งเสริมการอ่าน ศูนย์การเรียนรู้ตำบล ป่าหุ่ง สอบถามความพึงพอใจ ความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง แบบสอบถาม ความพึงพอใจขอผู้เกี่ยวข้อง ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. ผู้เรียนตระหนักเห็นและความสำคัญของการอ่าน การเขียน และการฟังมากยิ่งขึ้น 2. ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในการเรียนและในชีวิตประจำวัน 3. ผู้เรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วยตนเองและเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นได้ 4. ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น 5. ผู้เรียนเห็นถึงความสำคัญและเข้าใช้บริการห้องสมุดมากยิ่งขึ้น ลงชื่อ (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ครู กศน.ตำบลป่าหุ่ง


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 44 9. ภาพรายงานผลจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมหนังสือยืมเรียนเพิ่มพูนความรู้


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 45 ลงชื่อ ....................................................ผู้รายงาน (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล ชื่อโครงการ “โครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง ” กิจกรรม กิจกรรมห้องสมุดออนไลน์บนหน้า Website ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง สถานที่ดำเนินการ หน้า Website ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง ประเภทกลุ่มเป้าหมาย นักศึกษา กศน.ตำบล ,เยาวชน และประชาชนทั่วไป งบประมาณ - บาท ผู้รับผิดชอบ นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ ครู กศน.ตำบล บทบาทหน้าที่ครู เป็นผู้ประสานและจัดกิจกรรม ผลที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม 1. นักศึกษา กศน.ตำบล ,เยาวชน และประชาชนทั่วไปตระหนักเห็นและความสำคัญของการ อ่าน การเขียน และการฟังมากยิ่งขึ้น 2. นักศึกษา กศน.ตำบล ,เยาวชน และประชาชนทั่วไปสามารถนำความรู้ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ ไปใช้ในการเรียนและในชีวิตประจำวัน 3. นักศึกษา กศน.ตำบล ,เยาวชน และประชาชนทั่วไปมีทักษะในการแสวงหาความรู้จากแหล่ง เรียนรู้ต่างๆด้วยตนเองและเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นได้ 4. นักศึกษา กศน.ตำบล ,เยาวชน และประชาชนทั่วไปเห็นถึงความสำคัญและเข้าใช้บริการ ห้องสมุดมากยิ่งขึ้น รายงานผลจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย “กิจกรรมห้องสมุดออนไลน์บนหน้า Website ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง ” สังกัด ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอพาน


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 46 หลักการและเหตุผล การอ่านจัดเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคนในสังคมไทย การอ่านทำ ให้เกิดการพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถ พฤติกรรมและค่านิยมต่างๆ รวมทั้งช่วยในการเปลี่ยนแปลง การดำเนินชีวิตโดยพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์อย่างยิ่ง ๒ ประการ คือ ประการแรกสำคัญต่อชีวิตประจำวัน กล่าวคือ การอ่านเป็นการแสวงหาความรู้เพื่อนามาใช้ในการดำรงชีวิต ประจำวัน ประการที่สองมีความสำคัญต่อการเรียน เพราะการอ่านเป็นหัวใจของการจัดกิจกรรมทั้งหลายในการเรียน การสอน และมีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จ การสร้างนิสัยรักการอ่านให้แก่เด็กและเยาวชนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการอ่านเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับ การศึกษาหาความรู้ควบคู่กับทักษะอื่น การอ่านเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคน ในสังคม การอ่านทำให้เกิดการพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถพฤติกรรมและค่านิยมต่าง ๆ รวมทั้งช่วย ในการเปลี่ยนแปลงการดาเนินชีวิตพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อเด็กและเยาวชนเป็น อย่างยิ่ง ปัจจุบันการอ่านหนังสือของคนไทยเป็นกิจกรรมที่ไม่แพร่หลาย การอ่านหนังสือที่ดีและมีสาระยิ่งน้อยลงไป สาเหตุมีอยู่หลายประการ นับตั้งแต่การขาดแคลนหนังสือที่ดีและตรงกับความสนใจ การขาดแรงจูงใจและแรง กระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการอ่าน ตลอดจนนิสัยรักการอ่านทั้งในและนอกสถานที่ ดังนั้นการอ่านหนังสือจนเกิด เป็นนิสัย จำเป็นต้องมีการปลูกฝังและชักชวนให้เกิดความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรัก การอ่านเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการปฏิรูปการเรียนการสอนไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเร็วขึ้น โดยได้ดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่งเห็นความสำคัญและตระหนักถึงความสำคัญในการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและ การเรียนรู้จึงได้จัดกิจกรรมห้องสมุดออนไลน์บนหน้า Website ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง ในภาคเรียนนี้โดยมี เป้าหมายเพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับผู้เรียนทุกระดับชั้นและประชาชนที่สนใจ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาผู้เรียนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีนิสัยรักการอ่าน รักการค้นคว้า เกิดการใฝ่รู้ และนำไปสู่การ ปฏิบัติในชีวิตประจำวัน 2. เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะกระบวนการแสวงหาความรู้ รักการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง 3. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 4. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักเลือกอ่านหนังสือที่ดีมีประโยชน์อย่างหลากหลาย นำไปพัฒนาทักษะการเขียน บันทึกความรู้จากเรื่องที่อ่าน ตามความคิดของผู้เรียน 5. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลหาความรู้จากหนังสือในห้องสมุดและใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ต่อเนื่อง เป้าหมาย 1. ผู้เรียนร้อยละ 80 มีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อหาเหตุผล 2. ผู้เรียนร้อยละ 80 รู้จักแสวงหาความรู้จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆทั้งในและนอกสถานศึกษา 3. ผู้เกี่ยวข้องร้อยละ 80 มีความพึงพอใจในการดำเนินงานตามกิจกรรมของ ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง กิจกรรมห้องสมุดออนไลน์บนหน้า Website ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 47 วิธีดำเนินงาน กิจกรรม ระยะเวลา ผู้รับผิดชอบ 1. วางแผนออกแบบกิจกรรมตามนโยบายของ ศสกร.อำเภอ ตุลาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 2. ดำเนินงานกิจกรรมห้องสมุดออนไลน์บนหน้า Website ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 3. ประเมินความพึงพอใจผู้เรียน ตุลาคม-กันยายน ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ 4. สรุปและรายงานผลการจัดกิจกรรม มีนาคม ปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์ งบประมาณ จำนวน - บาท การติดตามและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ วิธีประเมิน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน 1. ร้อยละของนักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน การเขียนและการฟัง รู้จักตั้งคำถามเพื่อ หาเหตุผล 1. ตรวจบันทึกการอ่าน 2. สำรวจจำนวนผู้เรียนจาก บันทึกสถิติการเข้าใช้บริการ กศน.ตำบล 1. แบบตรวจบันทึกการอ่าน 2. แบบบันทึกสถิติการเข้าใช้บริการ กศน.ตำบล 2.ร้อยละ ของผู้เรียน ที่แสวงหาความรู้ จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆทั้งในและ นอกสถานศึกษา ตรวจการบันทึกความรู้จาก สื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆ (ชิ้นงานผู้เรียน) แบบตรวจการบันทึกความรู้จากสื่อ และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ(ชิ้นงานผู้เรียน) 3. ร้อยละของ ผู้เกี่ยวข้อง มีความพึง พอใจในการดำเนินงานตามกิจกรรม ส่งเสริมการอ่าน ศูนย์การเรียนรู้ตำบล ป่าหุ่ง สอบถามความพึงพอใจ ความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง แบบสอบถาม ความพึงพอใจขอผู้เกี่ยวข้อง ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. ผู้เรียนตระหนักเห็นและความสำคัญของการอ่าน การเขียน และการฟังมากยิ่งขึ้น 2. ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในการเรียนและในชีวิตประจำวัน 3. ผู้เรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วยตนเองและเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นได้ 4. ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น 5. ผู้เรียนเห็นถึงความสำคัญและเข้าใช้บริการห้องสมุดมากยิ่งขึ้น ลงชื่อ (นางสาวปัณณทัษข์ โชคบุญญะสวัสดิ์) ครู กศน.ตำบลป่าหุ่ง


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 48 10.ภาพการเผยแพร่กิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย “กิจกรรมห้องสมุดออนไลน์ บนหน้า Website ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง ”


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 49 ภาคผนวก


รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาส 1-2 ปี 2567 ศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าหุ่ง หน้า 50 ที่ โครงการ/กิจกรรม ค่าเป้าหมายตาม แผน(คน) ผลการ ดำเนินงาน(คน) 1 กิจกรรมส่งเสริมการอ่านในศูนย์การเรียนรู้ตำบล 300 42 2 กิจกรรมบ้านหนังสือชุมชน 168 3 กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านสื่อจากแหล่งเรียนรู้ชุมชน 20 4 กิจกรรมส่งเสริมการอ่านผูกสัมพันธ์ครอบครัว 23 5 กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเพิ่มความรู้ด้วย Qr Code 21 กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเคลื่อนที่“อ่านดู รู้หลาย” 19 7 กิจกรรมอาสาสมัครรักการอ่าน 2 8 กิจกรรมจัดทำข้อมูลแหล่งเรียนรู้ในชุมชนออนไลน์ 2* 9 กิจกรรมหนังสือยืมเรียนเพิ่มพูนความรู้ 48 10 กิจกรรมห้องสมุดออนไลน์บนหน้า Website 37 300 380 กิจกรรม ส่งเสริมการ อ่านในศูนย์ การเรียนรู้ ต าบล กิจกรรม ส่งเสริมการ อ่านเคลื่อนที่ “อ่านดู รู้ หลาย” กิจกรรม ส่งเสริมการ เรียนรู้ผ่าน แหล่งเรียนรู้ ชุมชน กิจกรรม ส่งเสริมการ อ่านผูก สัมพันธ์ ครอบครัว กิจกรรม ส่งเสริมการ อ่านเพิ่ม ความรู้ด้วย Qr Code กิจกรรมบ้าน หนังสือ ชุมชน กิจกรรม อาสาสมัคร รักการอ่าน กิจกรรม จัดท าข้อมูล แหล่งเรียนรู้ ในชุมชน ออนไลน์ กิจกรรม หนังสือยืม เรียนเพิ่มพูน ความรู้ กิจกรรม ห้องสมุด ออนไลน์บน หน้า Website จ านวน (คน/แห่ง/ครั ้ง) 42 19 20 23 21 168 2 2 48 37 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 จำ นวนผู้รับบริกำรกำรศึกษำตำมอัธยำศัย ไตรมำส 1-2 ปี งบประมำณ 2567 (คน/แห่ง/ครั้ง) จำนวนผู้รับบริการการศึกษาตามอัธยาศัย ไตรมาสที่ 1-2 ปีงบประมาณ 2567


Click to View FlipBook Version