ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้
วชิ าชีววิทยา รหสั ว31221 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4
เรื่อง การหายใจระดับเซลล์
ชุดท่ี 2 การสลายสารอาหารแบบไม่ใชอ้ อกซเิ จน
นางกุลธิดา สาบวั ครูชานาญการพิเศษ
โรงเรียนคลองหาดพิทยาคม อาเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว
สานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษาสระแกว้
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 2 เรื่อง การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซเิ จน ก
คานา
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ือง การหายใจระดับเซลล์ รายวิชาชวี วทิ ยา รหสั วชิ า ว31221 ช้นั มธั ยมศกึ ษา
ปีท่ี 4 จดั ทาข้ึนดว้ ยเนื้อหาตามหนังสือเรยี น รายวิชาชีววิทยา เล่ม 1 ของสถาบันการสอนวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี (สสวท.) ตามกรอบหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ท่ีเน้นผู้เรยี นเป็น
สาคญั โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสบื ค้นข้อมลู และ
การอภปิ ราย เพื่อให้ผเู้ รยี นเกิดความรคู้ วามเขา้ ใจ สามารถส่ือสารสิ่งทีเ่ รียนรู้ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ
และมจี ิตวิทยาศาสตร์
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่อื ง การหายใจระดบั เซลล์ รายวิชาชีววิทยา รหัสวชิ า ว31221 ชนั้ มัธยมศึกษา
ปีท่ี 4 ประกอบด้วยชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ จานวน 2 ชุด ไดแ้ ก่
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชุดท่ี 1 เรอ่ื ง การสลายสารอาหารแบบใชอ้ อกซเิ จน
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ชุดท่ี 2 เรือ่ ง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซิเจน
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชดุ น้ี เปน็ ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ชดุ ท่ี 2 เรือ่ ง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้
ออกซเิ จน ใช้เวลาในการจัดกิจกรรม จานวน 4 ช่ัวโมง ผู้จดั ทาหวงั เปน็ อยา่ งย่ิงว่าชดุ กิจกรรมการเรียนรู้
เร่ือง การหายใจระดับเซลล์ รายวิชาชีววทิ ยา รหัสวิชา ว31221 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 จะเปน็ ประโยชนต์ ่อการ
พฒั นาการเรยี นรู้ของผู้เรยี นและให้ครผู ู้สอนสามารถใช้พัฒนาการเรียนการสอนให้เกิดคุณภาพยิง่ ขนึ้ และ
ขอขอบคุณคณะครโู รงเรียนคลองหาดพิทยาคม ตลอดจนผู้เช่ียวชาญทกุ ทา่ นท่ใี ห้ความรู้ และชีแ้ นะ
ข้อบกพร่องเพ่ือนาไปปรับปรุงแก้ไขในการจัดทาชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ณ โอกาสนี้
กลุ ธดิ า สาบวั
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ชดุ ที่ 2 เร่ือง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซเิ จน ข
สารบัญ
เรอื่ ง หน้า
คานา ก
สารบญั ข
คาชแ้ี จง 1
บทบาทครู 2
บทบาทนกั เรยี น 4
ขัน้ ตอนการใชช้ ดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ 5
สาระ และตัวช้ีวดั 6
สาระสาคญั และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 7
8
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 11
ใบความรทู้ ่ี 2.1 เร่ือง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซิเจน 13
กิจกรรมที่ 2.1 เรอ่ื ง การหมกั ของยีสต์ 16
กิจกรรมท่ี 2.2 เรื่อง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ชอ้ อกซเิ จน 17
กจิ กรรมท่ี 2.3 เรือ่ ง ปฏิกิรยิ าการสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซเิ จน 18
แบบทดสอบหลังเรียน 21
บรรณานกุ รม 22
ภาคผนวก 23
เฉลยแบบทดสอบ 24
แนวคาตอบกิจกรรมที่ 2.1 เรื่อง การหมักของยีสต์ 27
แนวคาตอบกิจกรรมท่ี 2.2 เรอ่ื ง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ชอ้ อกซิเจน 28
แนวคาตอบกิจกรรมที่ 2.3 เรือ่ ง ปฏกิ ริ ิยาการสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซเิ จน 29
แบบบนั ทกึ กิจกรรม
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ชดุ ที่ 2 เรอ่ื ง การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซิเจน 1
คาชี้แจง
ชดุ กิจกรมการเรยี นรู้ เร่ือง การหายใจระดับเซลล์ รายวชิ าชวี วทิ ยา รหสั วชิ า ว31221 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปี
ท่ี 4 จัดทาข้นึ เพอ่ื ใช้ประกอบการเรยี นการสอน เพ่ือให้นักเรียนสามารถศึกษาได้ดว้ ยตนเอง โดยการอา่ น
คาแนะนาและปฏิบตั ติ ามแต่ละขัน้ ตอนตั้งแต่ต้นจนจบ นกั เรียนสามารถนาไปศึกษาไดต้ ลอดเวลาทง้ั ในเวลา
เรียนและนอกเวลาเรียน เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจในการปฏิบตั ิจริงอยา่ งถูกต้องครบถ้วนตาม
กระบวนการพฤติกรรมการเรียนรู้ โดยใชก้ ารเรยี นรู้ด้วยกระบวนการกลุ่มและรายบุคคล มคี รเู ป็นท่ปี รึกษา
และให้คาแนะนาชว่ ยแก้ปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ ระหว่างการเรยี นการสอน
สาหรับชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ รายวชิ าชวี วทิ ยา รหสั วชิ า ว31221 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 4 เป็นชุด
กจิ กรรมการเรียนรู้ ชดุ ท่ี 2 เรอื่ ง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซฺ เิ จน มีการจดั การเรียนการสอน ดังน้ี
1. การเรียนรดู้ ้วยกระบวนการกลมุ่
- ศกึ ษาใบความรทู้ ี่ 2.1 เรื่อง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ชอ้ อกซิเจน
- ปฏบิ ตั ิกิจกรรมท่ี 2.1 เร่อื ง การหมกั ของยสี ต์
2. การเรียนร้รู ายบุคคล
- ปฏิบตั ิกจิ กรรมที่ 2.2 เรอ่ื ง การสลายสารอาหารแบบไม่ใชอ้ อกซเิ จน
- ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมที่ 2.3 เรือ่ ง ปฏิกิรยิ าการสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซเิ จน
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ชุดที่ 2 เรือ่ ง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซเิ จน 2
บทบาทครู
กอ่ นดาเนนิ การสอน
ครคู วรศึกษาการใช้ชุดกจิ กรมการเรียนรู้ รื่อง การหายใจระดับเซลล์ รายวิชาชีววทิ ยา รหัสวชิ า ว
31221 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 เพื่อเป็นการทบทวนเนอ้ื หา จัดลาดับการใช้ส่ือ ศึกษากิจกรรมในการจัดการเรียน
การสอน ตรวจสอบวิธกี ารวัดและประเมินผลการเรยี นรตู้ า่ งๆ ตามแบบประเมินทปี่ รากฏ ดังนี้
1. ศึกษาเนื้อหาท่ตี ้องสอนอย่างเข้าใจ
2. ศึกษาชดุ กจิ กรรมการเรียนรแู้ ละแผนการจดั การเรียนรอู้ ย่างละเอียด
3. จัดเตรียมอปุ กรณ์ สือ่ การสอน และตรวจสอบอปุ กรณต์ า่ งๆ ให้มีความเรยี บร้อยสมบูรณพ์ ร้อม
ใช้งานก่อนที่จะดาเนินการสอน
4. เตรยี มเอกสารทต่ี อ้ งใชร้ วมทง้ั เรียงลาดับก่อนหลังให้ถกู ต้อง และใหค้ รบตามจานวนนักเรยี น
5. ศกึ ษารายละเอยี ดของจดุ ประสงค์การเรียนรู้ เน้ือหา กิจกรรม และวธิ ีการวัดและประเมินผล
6. ศึกษากิจกรรมทน่ี กั เรียนต้องปฏบิ ตั ิ
7. ช้ีแจงใหน้ กั เรียนทราบว่ากิจกรรมการเรยี นรจู้ ะดาเนนิ การเป็นกลมุ่ ตามข้อตกลงระหวา่ งครูและ
นกั เรยี น จานวน 8 กลมุ่ กลมุ่ ละ 4-5 คน และชี้แจงบทบาทหนา้ ท่ีของสมาชกิ ภายในกลุ่ม
ขณะดาเนินการสอน
1. จดั กลุม่ นกั เรียนโดยคละความสามารถ เก่ง ปานกลาง อ่อน ในอัตราส่วน 1:2:1
2. กาหนดบทบาทใหส้ มาชกิ ในกลุ่มเขา้ ใจถึงการปฏิบัติตนตามบทบาทตา่ งๆ ดังน้ี
2.1 ประธาน มหี นา้ ทีค่ วบคุมการทางานของกลุ่ม
2.2 รองประธาน มีหน้าท่อี า่ นขอ้ มูล/อธิบายปญั หาใหส้ มาชิกในกลุ่มเขา้ ใจ
2.3 เลขานกุ าร มหี นา้ ทจี่ ดบันทกึ ข้อมูลความคิดเห็นของสมาชกิ ภายในกล่มุ
2.4 สมาชิก มีหน้าท่เี สนอความคดิ เห็นจากขอ้ มลู ท่ไี ด้ทากิจกรรม
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชุดท่ี 2 เรอ่ื ง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซิเจน 3
บทบาทครู (ต่อ)
3. ดาเนินการจัดกิจกรรมตามแผนการจดั การเรียนรู้ ดังน้ี
3.1 แจกเอกสารต่างๆ ไดแ้ ก่ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ และส่ือตา่ งๆ ที่ใช้ประกอบกิจกรรม
การเรยี นการสอน
3.2 ก่อนเรม่ิ เรยี นชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ให้นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียนแบบปรนยั
4 ตวั เลอื ก จานวน 10 ข้อ ลงในกระดาษคาตอบ
3.3 ชแี้ จงจุดประสงค์การเรียนรู้ และลักษณะการเรยี นรู้
3.4 ให้นกั เรยี นปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการเรยี นที่กาหนด โดยครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนมีปฏิสมั พันธ์
ภายในกล่มุ ของตนและต่างกลุ่ม เช่น การอภปิ รายซักถาม เสนอแนะความคิดเห็น
ซง่ึ กนั และกนั แลกเปล่ยี นความรู้และทักษะดา้ นต่างๆ เพื่อให้ไดม้ าซงึ่ ข้อสรปุ ของกลุ่มตนเอง
3.5 หลังจากเรียนจบชุดกิจกรรมการเรียนรู้แตล่ ะเลม่ ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น
แบบปรนยั 4 ตัวเลอื ก จานวน 10 ข้อ ลงในกระดาษคาตอบ
4. ครใู ห้คาแนะนาและเป็นท่ีปรกึ ษาในขณะที่นักเรียนกาลังศึกษาดว้ ยตนเอง
5. ครูตรวจสอบการทางานของนักเรยี นระหว่างปฏบิ ัติกจิ กรรม
6. ครูประเมนิ พฤติกรรมนักเรียนในด้านต่างๆ ตามแบบประเมนิ
7. หลงั เสรจ็ สน้ิ แตล่ ะกิจกรรมในแต่ละชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ครคู วรสรปุ บทเรียนเพื่อให้นกั เรยี นมี
ความรู้ความเขา้ ใจในบทเรียนมากยิ่งขึ้น
หลังดาเนินการสอน
หลังจากทีน่ กั เรยี นได้เรยี นรู้ผ่านชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ครูตอ้ งประเมนิ ผลทีเ่ กิดจากการจดั
กิจกรรมการเรยี นการสอน ดงั น้ี
1. ตรวจสอบผลสาเร็จของแต่ละกจิ กรรม
2. บนั ทึกผลการให้คะแนนตามเกณฑ์การประเมิน
3. บันทกึ คะแนนแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น เปรยี บเทยี บความกา้ วหน้าของผเู้ รียน
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชุดท่ี 2 เร่อื ง การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซเิ จน 4
บทบาทนกั เรยี น
ชดุ กจิ กรมการเรียนรู้ เรือ่ ง ระบบย่อยอาหารและการสลายสารอาหารระดบั เซลล์ รายวิชาชวี วทิ ยา รหัส
วิชา ว31221 ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 จัดทาข้นึ เพื่อใช้ประกอบการเรยี นการสอน โดยใชก้ ระบวนการแบบสบื
เสาะหาความรู้ (5E)
1. กอ่ นเรยี นนกั เรยี นต้องศึกษาข้ันตอนการจดั กิจกรรมการเรียนรใู้ ห้เข้าใจ
2. ขณะเรียนนักเรยี นต้องปฏิบัตกิ ิจกรรมการเรียนตามลาดับ ดังนี้
2.1 แบ่งกลมุ่ ตามท่ีครูและนักเรียนตกลงร่วมกัน
2.2 เลือกประธานกลุ่ม รองประธาน และเลขานุการ อย่างละ 1 คน
ประธาน มหี น้าท่ีควบคุมการทางานของกลมุ่
รองประธาน มหี น้าที่อ่านขอ้ มูล/อธิบายปัญหาให้สมาชิกในกลมุ่ เข้าใจ
เลขานุการ มีหนา้ ท่ีจดบนั ทกึ ข้อมูลความคิดเหน็ ของสมาชกิ ภายในกลุ่ม
สมาชิก หนา้ ทเ่ี สนอความคิดเห็นจากข้อมูลท่ีได้ทากจิ กรรม
2.3 ศกึ ษาคาชีแ้ จงชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง ระบบย่อยอาหารและการสลายสารอาหารระดบั
เซลล์ ชุดที่ 6 เรื่อง การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซิเจน
2.4 ทาแบบทดสอบก่อนเรียน แบบปรนยั 4 ตัวเลือก จานวน 10 ขอ้ ลงในกระดาษคาตอบ
2.5 ศึกษาชุดกจิ กรรมการเรียนรจู้ ากใบความรู้ที่ครจู ดั เตรียมไวด้ ้วยความตง้ั ใจ
โดยปฏบิ ตั ติ ามขัน้ ตอนทก่ี าหนดไวใ้ นลาดับข้ันการเรยี นรู้
2.6 เมือ่ นกั เรยี นศกึ ษาใบความรเู้ สรจ็ เรียบรอ้ ยแล้วให้นักเรียนทาใบกิจกรรม
ท่ีครจู ดั เตรียมไว้ให้ หากนักเรยี นยังไม่เข้าใจใบความร้ใู ดให้กลับไปศึกษาอกี ครง้ั เพื่อใหเ้ กิดความเข้าใจมากยง่ิ ขึ้น
2.7 ทาแบบทดสอบหลังเรยี น แบบปรนยั 4 ตัวเลอื ก จานวน 10 ข้อ ลงในกระดาษคาตอบ
เพอ่ื เปรยี บเทียบความก้าวหน้าในการเรยี นของนักเรียน
3. นกั เรียนแตล่ ะคนตอ้ งมีความซือ่ สัตยต์ ่อตนเองไมเ่ ปดิ ดูเฉลยแบบทดสอบและแนวคาตอบกจิ กรรม
ก่อนทีจ่ ะปฏิบตั ิครบตามขั้นตอนลาดับขั้นการเรยี นรู้
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชดุ ที่ 2 เรื่อง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซเิ จน 5
ข้นั ตอนการใชช้ ุดกจิ กรรมการเรยี นรู้
ไม่เขา้ ใจเน้ือหา ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น
ศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้
ทาใบกจิ กรรม
ทาแบบทดสอบหลังเรยี น
ประเมินผล
ผา่ นเกณฑ์ ไม่ผา่ น
ทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชุดที่ 2 เร่ือง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซิเจน 6
สาระ มาตรฐาน และผลการเรยี นรู้
สาระท่ี 4 ชีววิทยา
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องสง่ิ มชี วี ิต การศกึ ษาชวี วทิ ยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ สารที่
เป็นองคป์ ระกอบของสง่ิ มีชวี ติ ปฏิกิริยาเคมใี นเซลลข์ องสิง่ มีชวี ิต กล้องจลุ ทรรศน์ โครงสรา้ งและหน้าที่ของ
เซลล์ การลาเลยี งสารเขา้ และออกจากเซลล์ การแบง่ เซลล์ และการหายใจระดบั เซลล์
ตัวชีว้ ัด
ว 4.1 ม 4/17 อธิบาย เปรียบเทียบ และสรุปข้ันตอน การหายใจระดับเซลล์ในภาวะท่ีมีออกซิเจน
เพยี งพอ และภาวะทีม่ ีออกซิเจนไม่เพียงพอ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 2 เรื่อง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซิเจน 7
สาระสาคัญ และจุดประสงค์การเรียนรู้
สาระสาคัญ
ในสภาวะทีข่ าดออกซเิ จน ยีสต์สามารถสลายกลูโคส โดยใช้กระบวนการไกลโคลซิ ิสและเข้าสกู่ ระบวนการ
หมัก ได้ ATP จานวน 2 โมเลกลุ แอลกอฮอล์ และแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ ส่วนในสภาวะทกี่ ล้ามเน้ือลายขาด
ออกซเิ จน จะมกี ารสลายกลูโคส ได้ ATP จานวน 2 โมเลกุล และกรดแลกติก 2 โมเลกลุ
เวลาทใ่ี ชใ้ นการทากจิ กรรม ด้านความรู้ (Knowledge)
2 ชว่ั โมง 1. อธิบายและสรุปกระบวนการสลายสารอาหารแบบไม่ใช้
ออกซเิ จนของยีสต์และกล้ามเน้ือลาย
ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process)
1. สงั เกต และวเิ คราะหป์ ฏิกิริยากระบวนการสลายสารอาหาร
แบบไม่ใช้ออกซิเจนของยีสต์
2. กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude)
มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ ได้แก่ ซอ่ื สัตยส์ จุ ริต มวี นิ ัย ใฝ่หาความรู้ และ
มงุ่ มน่ั ในการทางาน
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 2 เร่ือง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซิเจน 8
แบบทดสอบกอ่ นเรียน
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 2 เร่ือง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ชอ้ อกซิเจน
รายวิชาชีววิทยา รหัสวชิ า ว31221 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4
คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว โดยทาเคร่อื งหมาย ลงในกระดาษคาตอบ
1. การสลายกลูโคสในสภาวะท่ไี ม่มอี อกซิเจนของยีสต์ ซงึ่ เกดิ กระบวนการหมักแอลกอฮอล์ จะได้ผลิตภณั ฑเ์ ป็น
สารใดบ้าง
ก. ATP 2 โมเลกลุ และกรดแลกตกิ 2 โมเลกุล
ข. ATP 2 โมเลกลุ และเอทิลแอลกอฮอล์ 2 โมเลกุล
ค. ATP 1 โมเลกุล แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ 1 โมเลกลุ และเอทลิ แอลกอฮอล์ 1 โมเลกลุ
ง. ATP 2 โมเลกุล แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ 2 โมเลกุล และเอทิลแอลกอฮอล์ 2 โมเลกลุ
2. การสลายกลูโคสในสภาวะที่ไม่มอี อกซิเจนของยีสต์ สารใดทาหน้าท่ีเป็นตัวรับอิเลก็ ตรอนตัวสุดทา้ ย
ก. NAD+
ข. ออกซเิ จน
ค. กรดไพรูวิก
ง. แอซติ ัลดีไฮด์
3. การสลายกลโู คสในสภาวะท่ีไม่มอี อกซเิ จนของกลา้ มเนื้อ ซึ่งเกดิ กระบวนการหมักกรดแลกติก จะได้ผลิตภัณฑ์
เป็นสารใดบา้ ง
ก. ATP 2 โมเลกลุ และกรดแลกตกิ 2 โมเลกลุ
ข. ATP 2 โมเลกลุ และเอทลิ แอลกอฮอล์ 2 โมเลกุล
ค. ATP 36 โมเลกลุ และแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ 6 โมเลกลุ
ง. ATP 2 โมเลกลุ กรดแลกติก 2 โมเลกลุ และแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ 2 โมเลกุล
4. พืชท่ีอย่ใู นภาวะน้าทว่ ม เซลลท์ ร่ี ากพชื จะสลายกลูโคส 1 โมเลกลุ ได้ ATP กโี่ มเลกลุ
ก. 1 ATP
ข. 2 ATP
ค. 36 ATP
ง. 38 ATP
5. การสลายกลูโคสในสภาวะท่ไี ม่มอี อกซเิ จนของกล้ามเน้ือ สารใดทาหนา้ ทเ่ี ปน็ ตวั รบั อเิ ล็กตรอนตัวสดุ ทา้ ย
ก. NAD+
ข. ออกซิเจน
ค. กรดไพรูวกิ
ง. แอซิตลั ดไี ฮด์
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชุดท่ี 2 เรื่อง การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซิเจน 9
6. เพราะเหตุใดเซลลก์ ล้ามเนื้อขณะออกกาลังกาย จงึ มกี ารสลายสารอาหารแบบไมใ่ ชอ้ ออกซเิ จน
ก. มี NAD+ สะสมในเซลลม์ าก
ข. เพราะมแี กส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์สะสมในรา่ งกายเป็นจานวนมาก
ค. เพราะ ATP ลดลงอยา่ งรวดเรว็ และเลือดลาเลียงแก๊สออกซิเจนใหไ้ มท่ นั
ง. การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้อออกซิเจนเป็นการสลายสารอาหารแบบปกติของกลา้ มเนื้อลาย
7. เม่ือออกกาลังกายหนักๆ จะมีการสะสมกรดแลกติกท่ีกล้ามเน้ือ ร่างกายจะมีกระบวนการอย่างไร ในการ
กาจดั กรดแลกติกน้ี
ก. ลาเลยี งไปตามกระแสเลือดไปยงั ผิวหนงั สามารถขับออกไดท้ างเหงือ่
ข. มกี ารลาเลยี งออกจากเซลล์กลา้ มเน้ือไปยังไต เพือ่ ขบั ออกทางปสั สาวะ
ค. มกี ารลาเลยี งออกจากเซลลก์ ลา้ มเน้อื ไปยงั ตับ เพอื่ สังเคราะห์กลบั ไปเปน็ กลโู คส
ง. นากลับเขา้ ส่เู มทริกซ์ของไมโทคอนเดรยี เพอื่ เข้าสู่วัฏจักรเครบสแ์ ละสลายสารอาหารตอ่ ไป
8. ไมโทคอนเดรียมีความจาเป็นตอ่ กระบวนการสลายกลูโคสแบบไมใ่ ชอ้ อกซเิ จนหรือไม่ เพราะเหตุใด
ก. จาเป็น เพราะการสลายสารอาหารตอ้ งเกดิ ทไ่ี มโทคอนเดรยี เท่านัน้
ข. ไมจ่ าเป็น เพราะ การเปล่ยี นแปลงท่เี กิดขึ้นจะเกิดเฉพาะบรเิ วณไซโทซอล
ค. จาเปน็ เพราะทุกกระบวนการต่างๆ ในเซลลจ์ าเป็นต้องอาศัยไมโทคอนเดรีย
ง. ไมจ่ าเปน็ เพราะ การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซิเจนเกดิ ขึน้ ไดห้ ลายบริเวณในเซลล์
9. การสลายสารอาหารแบบไม่ใชอ้ อกซเิ จนของยีสต์และกล้ามเนือ้ ลายเป็นการสลายสารอาหารที่สมบูรณ์หรือไม่
เพราะเหตใุ ด
ก. สมบรู ณ์ เพราะไดพ้ ลังงานจานวนมาก
ข. ไม่สมบรู ณ์ เพราะยงั เหลือพลงั งานแฝงอยจู่ านวนมาก
ค. สมบรู ณ์ เพราะมกี ารปลดปลอ่ ยแก๊สคารบ์ อนไดออกไซดจ์ านวนมาก
ง. สมบูรณ์ เพราะมกี ารถ่ายทอดอเิ ล็กตรอนไปยงั ตัวรับอิเล็กตรอนเป็นทอดๆ
10. ในการหมกั ไวน์ ผหู้ มักจะตอ้ งปอ้ งกันไมใ่ หอ้ ากาศผ่านเขา้ ไปในขวดหมักเพราะเหตุใด
ก. ปอ้ งกันการตดิ เช้ือจุลินทรยี อ์ นื่ ๆ ที่อย่ใู นอากาศ
ข. การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมจะมผี ลทาใหย้ ีสต์อ่อนแอลง
ค. กรดไพรวู ิกจะถกู ดึงเข้าสวู่ ฏั จกั รเครบส์ แทนทีจ่ ะเปล่ียนไปเป็นแอลกอฮอล์
ง. กรดไพรวู ิกจะทาปฏิกิริยากับไฮโดรเจนได้เปน็ กรดแลกติกแทนที่จะได้แอลกอฮอล์
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 2 เรอ่ื ง การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซิเจน 10
กระดาษคาตอบ
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ชดุ ที่ 2 เรื่อง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ชอ้ อกซิเจน
รายวชิ าชีววิทยา รหัสวิชา ว31221 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4
ช่อื -สกลุ .............................................................ชนั้ ...................เลขท.่ี ..........................
คะแนน
ขอ้ ก ข ค ง
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชดุ ท่ี 2 เรอ่ื ง การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซิเจน 11
ใบความรู้ท่ี 2.1 การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซเิ จน
การสลายโมเลกุลของสารแบบไมใ่ ชอ้ อกซิเจน (Anaerobic respiration)
ในสภาวะทมี่ แี ก๊สออกซิเจนหรือมีแก๊สออกซเิ จนไม่เพยี งพอจะทาให้ NADH และ FADH2 ไมส่ ามารถ
ถ่ายทอดอเิ ล็กตรอนใหก้ ับตัวรับอิเล็กตรอนตา่ งๆ ท่ฝี งั อย่ทู ี่เย่ือหุ้มชนั้ ในของไมโทคอนเดรยี ได้ เน่อื งจากขาด
ออกซเิ จนซง่ึ เป็นตวั รับอเิ ลก็ ตรอนตัวสดุ ท้ายจึงไมส่ ามารถสรา้ ง ATP ได้ และมีการสะสม NADH และ FADH2
มากขึ้น ทาให้ขาดแคลน NAD+ และ FAD มีผลให้ปฏกิ ริ ิยาในไกลโคลิซิส วัฏจกั รเครบส์ และการถา่ ยทอด
อเิ ลก็ ตรอนดาเนนิ ไปไม่ได้ และยงั ทาใหเ้ ซลล์ขาด ATP เซลล์จึงมีกระบวนการผันกลบั ให้ NADH กลายเปน็
NAD+ เพอ่ื ให้กระบวนการไกลโคลิซสิ ไมห่ ยุดซะงัก และสามารถสรา้ ง ATP ต่อไปได้ กระบวนการน้ีเรยี กวา่
กระบวนการหมัก (Fermentation) ซ่ึงการสลายโมเลกุลของสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซิเจน มี 2 รปู แบบ คอื
กระบวนการหมกั กรดแลกติก (Lactic acid fermentation) และกระบวนการหมักแอลกอฮอล์ (Alcoholic
fermentation)
การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซิเจนของกล้ามเนือ้
ในกรณีท่ีเซลลร์ า่ งกายของคนมคี วามต้องการ ATP เปน็ จานวนมาก ในระยะเวลาอันสนั้ เชน่ เซลล์
กลา้ มเนอื้ ขณะออกกาลังกาย ATP ลดลงอย่างรวดเร็ว และเลือดลาเลยี งแก๊สออกซเิ จนให้ไม่ทัน เซลล์จะมีการ
สลายสารอาหารโดยไม่ใช้ออกซเิ จน กระบวนการนี้คลา้ ยกับการสลายสารอาหารของยสี ต์ แต่ NADH จะเปลี่ยน
กลบั เป็น NAD+ โดยการถา่ ยทอดอเิ ลก็ ตรอนใหก้ ับกรดไพรูวกิ เกดิ เปน็ กรดแลกติก
กรดแลกติกท่ีเกดิ จากกระบวนการหมกั จะมีการลาเลยี งออกจากเซลล์กล้ามเนอื้ ไปยังตับ เพือ่ สังเคราะห์
กลับไปเป็นกลูโคส ซง่ึ ร่างกายสามารถนาไปใชต้ ่อไปได้ สว่ นในกรณีการปวดเม่ือยของกล้ามเนือ้ ท่ีเกิดข้นึ พบว่า
เปน็ ผลมาจากการสะสมของกรดต่างๆ ท่เี กิดขึ้นในกระบวนการไกลโคลิซสิ ดังนัน้ ถ้าร่างกายสามารถรักษาสมดุล
ของกรดไว้ไดก้ จ็ ะไมม่ อี าการปวดเมื่อยของกล้ามเน้ือถึงแม้ว่าจะมีความเข้มขน้ ของกรดแลกติกสงู
ภาพที่ 1 การสลายกลูโคสในสภาวะทไี่ ม่มีออกซิเจนของเซลล์กลา้ มเนื้อ
ทมี่ า: https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/originals/db/f5/5b/
dbf55bba27871858fa0e6330267899ce.jpg
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชดุ ที่ 2 เร่ือง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซเิ จน 12
กระบวนการหมกั กรดแลกติกนอกจากพบในเซลล์กล้ามเนื้อแลว้ ยังพบในจุลนิ ทรีย์บางชนิด ทาให้มนษุ ย์
นาประโยชน์จากกระบวนการหมักเหล่านมี้ าใช้ในอุตสาหกรรมดา้ นอาหาร ไดแ้ ก่ การผลติ เต้าเจ้ยี ว เตา้ ห้ยู ้ี
นมเปรย้ี ว โยเกิร์ต การดองผักและผลไมต้ ่างๆ
การสลายสารอาหารแบบไม่ใชอ้ อกซเิ จนของยสี ต์
ในสภาวะท่ไี ม่มีแก๊สออกซเิ จนจะเกดิ กระบวนการไกลโคลซิ ิสในเซลล์ของยีสต์ หากมกี ลโู คสเปน็ สาร
ตั้งตน้ จะทาใหไ้ ด้กรดไพรูวกิ 2 โมเลกุล ได้ ATP 2 โมเลกุล และ NADH อีก 2 โมเลกลุ จากนนั้ กรดไพรวู ิก
จะปล่อยคาร์บอนออกมาในรูป CO2 และเปล่ียนเป็นแอซิตัลดีไฮด์แล้วมาเป็นตัวรับอิเล็กตรอนจาก NADH
กลายเป็นเอทิลแอลกอฮอล์ จากปฏิกิริยานี้ทาให้มีการเปลี่ยนแปลงกลับของ NADH เป็น NAD+ ซึ่งสามารถ
กลับไปรบั อเิ ล็กตรอนในกระบวนการไกลโคลิซสิ ได้ใหม่
ภาพที่ 2 การสลายกลโู คสในสภาวะท่ไี ม่มีออกซิเจนของยีสต์
ทีม่ า: https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/originals/c0/b9/ae/
c0b9ae47de113e72d5b6ce34c67bee29.jpg
การหมกั แอลกอฮอล์ ถูกนามาใช้ประโยชนใ์ นการผลิตเครื่องด่มื ทม่ี ีแอลกอฮอล์ เช่น เบยี ร์ สุรา ไวนช์ นดิ
ตา่ งๆ ซ่ึงมีกรรมวิธแี ตกตา่ งกันไป ในปัจจบุ ันมีกานาความรู้น้ีไปใช้ผลติ แอลกอฮอล์จากของเหลอื ใช้ เชน่ การ
ผลติ แอลกอฮอล์จากกากน้าตาล เป็นต้น
การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซิเจนทั้ง 2 แบบดงั กล่าว เป็นการสลายสารอาหารที่ไมส่ มบรู ณ์ เพราะ
เอทลิ แอลกอฮอลแ์ ละกรดแลกตกิ ทเี่ ป็นผลติ ภัณฑข์ องกระบวนการสลายสารอาหารยังมีพลงั งานแฝงอยู่จานวน
มาก ซ่งึ การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซิเจนของส่งิ มชี วี ิต จึงไดพ้ ลงั งานนอ้ ยมากและน้อยกว่าการสลาย
สารอาหารแบบใช้ออกซิเจนถึง 18-19 เทา่ การสลายสารอาหารแบบใช้ออกซิเจนจึงมคี วามสาคัญต่อสง่ิ มีชวี ิต
มาก เพราะเป็นตวั ให้พลงั งานส่วนใหญ่ท่นี าไปใช้ในกจิ กรรมต่างๆ ของเซลล์ส่ิงมชี วี ิต เอทานอลที่เกิดขน้ึ จากการ
สลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซเิ จนของยีสต์ถ้ามมี ากจะเป็นอนั ตรายต่อเซลล์ของยีสต์ และในคนท่ีดื่มสรุ าได้รบั
เอทานอลเข้าสู่รา่ งกาย ซึง่ เอทานอลเปน็ พิษแกเ่ ซลล์ของร่างกายโดยเฉพาะอย่างย่ิงเซลลต์ บั โดยรา่ งกายของคน
จะมกี ระบวนการในการเปลย่ี นเอทานอลใหเ้ ป็นสารอื่นๆ ซึ่งไมเ่ ป็นอนั ตรายต่อเซลลแ์ ละขับออกจากร่างกายได้
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชดุ ที่ 2 เร่อื ง การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซเิ จน 13
ใบกิจกรรมท่ี 2.1 การหมกั ของยีสต์
วันท.่ี ................/................./.................
รายช่ือสมาชิกในกลมุ่
1………………………………………………………………………2………………………………………………………………………
3………………………………………………………………………4………………………………………………………………………
5………………………………………………………………………
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. สังเกต และวิเคราะหป์ ฏกิ ิรยิ ากระบวนการสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซเิ จนของยีสต์
วสั ด/ุ อุปกรณ์
1. ยีสต์ 2. นา้ แตงโม
3. น้ามนั พืช 4. สารละลายบรอมไทมอลบลู
5. น้ากลนั่ 6. หลอดทดลอง
7. จุกปดิ หลอดทดลอง 8. สายยางขนาดเส้นผา่ นศนู ยก์ ลาง 0.2 เซนตเิ มตร
วิธีการทากจิ กรรม
1. นาแตงโมมาคน้ั แลว้ กรองเอาเฉพาะสว่ นทเ่ี ป็นของเหลว
2. นานา้ แตงโมใส่ในหลอดทดลอง จานวน 5 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร
3. นายีสต์ 2 ชอ้ น เบอร์ 2 ใสใ่ นหลอดทดลองท่มี นี ้าแตงโม ผสมใหเ้ ขา้ กัน
4. คอ่ ยๆ เตมิ น้ามันพชื 1 ลกู บาศก์เซนตเิ มตร ลงในหลอดทดลอง ให้น้ามันลอยอยบู่ นผวิ หนา้
สารละลาย
5. ใสส่ ารละลายบรอมไทมอลบลูลงในหลอดทดลอง จานวน 3 ลูกบาศก์เซนติเมตร
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชุดท่ี 2 เรื่อง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซิเจน 14
6. ปิดหลอดทดลองท้งั 2 หลอดด้วยจุกยาง ใสห่ ลอดนาแก๊สและสายยางลงไปท้งั 2 หลอด
7. นาหลอดทดลองท่มี ีน้าแตงโมและยีสตไ์ ปจุ่มในบีกเกอร์ที่มีนา้ อุน่ แล้วสังเกตผลการทดลอง
8. ทาการทดลองซา้ เช่นเดียวกนั น้ีอีก 2 ชุด โดยชุดหน่ึงในหลอดทดลองใส่ยีสตก์ บั นา้ กล่ันและอีกชดุ หน่ึง
ใสน่ า้ แตงโมกับน้ากลั่น ทัง้ 2 ชดุ มีการเติมนา้ มันพืชลงในสารละลายและมหี ลอดนา้ แก๊สไปยังหลอดทดลองที่มี
สารละลายบรอมไทมอลบลู สังเกตผลการทดลองและบนั ทึกผลลงในแบบบันทึกผลการศึกษา
บนั ทึกผลการทากิจกรรม
การทดลอง สารละลายบรอมไทมอลบลู การเกิดฟอง กลน่ิ
น้าแตงโม + ยสี ต์
นา้ กลน่ั + ยีสต์
นา้ แตงโม + น้ากล่นั
สรุปผลการทากิจกรรม
............................................................................................................................. ...................................................
............................................................................................................................. ...................................................
............................................................................................................................. ...................................................
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
............................................................................................................................. ...................................................
นกั เรยี นตง้ั ใจทากจิ กรรมด้วยนะ
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ชุดที่ 2 เรื่อง การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซเิ จน 15
คาถามหลังกจิ กรรม
1. ทาไมจึงต้องมีการทดลองชุดท่ี 2 ทม่ี ีน้ากล่ันกบั ยีสต์ และชดุ ที่ 3 ท่ีมีนา้ แตงโมกบั น้ากลน่ั
ตอบ............................................................................................................................. ...................................
........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
2. การทดลองทง้ั 3 ชุด ควรมีการควบคุมอะไรใหเ้ หมอื นกนั
ตอบ............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
3. ฟองแกส๊ ท่เี กดิ ขึน้ เปน็ แก๊สอะไร ทราบไดอ้ ยา่ งไร
ตอบ............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
4. เพราะเหตใุ ดจงึ ตอ้ งนาหลอดทดลองไปจมุ่ ในน้าอุ่น
ตอบ............................................................................................................................. ...................................
........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
5. ถ้าทาการทดลองเช่นเดียวกันนี้แต่ใช้น้าผลไม้ชนิดอ่ืนๆ ผลการทดลองท่ีได้จะเหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่
อยา่ งไร
ตอบ............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชุดท่ี 2 เรอื่ ง การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซเิ จน 16
ใบกจิ กรรมที่ 2.2 การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ชอ้ อกซิเจน
คาช้ีแจง ให้นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปน้ีให้ถกู ต้อง (10 คะแนน)
1. เพราะเหตใุ ดเซลลก์ ลา้ มเนื้อขณะออกกาลังกาย จึงมีการสลายสารอาหารแบบไม่ใช้อออกซิเจน
ตอบ............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
2. เมื่อออกกาลังกายหนักๆ จะมกี ารสะสมกรดแลกติกที่กล้ามเนอ้ื ร่างกายจะมีกระบวนการอยา่ งไร ในการ
กาจดั กรดแลกตกิ นี้
ตอบ............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................ ............................................
............................................................................................................................. ...........................................
3. การสลายกลโู คสในสภาวะที่ไม่มีออกซเิ จนของกลา้ มเน้ือ สารใดทาหน้าท่เี ปน็ ตัวรับอิเล็กตรอนตัวสดุ ทา้ ย
ตอบ............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
4. เมื่อหมักยีสต์กับแป้งทาขนมปงั ทาไมขนมปงั จึงฟู
ตอบ............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
5. ยีสต์สามารถสลายสารอาหารได้ทง้ั ในสภาพแวดลอ้ มที่มีออกซเิ จนและไม่มอี อกซิเจน นกั เรยี นคดิ วา่
ในสภาพแวดลอ้ มเช่นไรยสี ต์จึงจะเจริญเตบิ โตได้ดี เพราะเหตุใด
ตอบ............................................................................................................................. ...................................
........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชดุ ท่ี 2 เรือ่ ง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซิเจน 17
ใบกจิ กรรมที่ 2.3 ปฏกิ ริ ิยาการสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซเิ จน
คาชี้แจง ให้นกั เรียนเตมิ ข้อมูลลงในชอ่ งว่างให้ถูกต้องสมบรู ณ์ (10 คะแนน)
12 1………………………………………………….
34 2………………………………………………….
5 3………………………………………………….
4………………………………………………….
5………………………………………………….
7 6 6………………………………………………….
8 9 7………………………………………………….
8………………………………………………….
9………………………………………………….
10………………………………………………..
10
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ ชุดท่ี 2 เร่ือง การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซเิ จน 18
แบบทดสอบหลังเรยี น
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชุดท่ี 2 เรือ่ ง การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซเิ จน
รายวชิ าชีววิทยา รหัสวชิ า ว31221 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4
คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเลอื กคาตอบที่ถูกต้องทส่ี ุดเพียงข้อเดียว โดยทาเคร่อื งหมาย ลงในกระดาษคาตอบ
1. การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซเิ จนของยีสตแ์ ละกลา้ มเน้อื ลายเป็นการสลายสารอาหารที่สมบูรณ์หรือไม่
เพราะเหตใุ ด
ก. สมบรู ณ์ เพราะไดพ้ ลังงานจานวนมาก
ข. ไมส่ มบรู ณ์ เพราะยงั เหลือพลังงานแฝงอยจู่ านวนมาก
ค. สมบรู ณ์ เพราะมีการปลดปล่อยแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดจ์ านวนมาก
ง. สมบูรณ์ เพราะมีการถา่ ยทอดอเิ ลก็ ตรอนไปยงั ตัวรับอิเล็กตรอนเปน็ ทอดๆ
2. การสลายกลูโคสในสภาวะท่ีไม่มีออกซเิ จนของยสี ต์ ซึง่ เกดิ กระบวนการหมักแอลกอฮอล์ จะไดผ้ ลติ ภัณฑเ์ ปน็
สารใดบ้าง
ก. ATP 2 โมเลกลุ และเอทลิ แอลกอฮอล์ 2 โมเลกุล
ข. ATP 2 โมเลกลุ และกรดแลกตกิ 2 โมเลกุล
ค. ATP 1 โมเลกลุ แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ 1 โมเลกลุ และเอทิลแอลกอฮอล์ 1 โมเลกุล
ง. ATP 2 โมเลกลุ แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ 2 โมเลกุล และเอทิลแอลกอฮอล์ 2 โมเลกุล
3. การสลายกลโู คสในสภาวะทีไ่ มม่ อี อกซเิ จนของกลา้ มเนอ้ื สารใดทาหน้าท่ีเปน็ ตัวรับอิเล็กตรอนตวั สุดทา้ ย
ก. NAD+
ข. ออกซิเจน
ค. กรดไพรูวิก
ง. แอซิตลั ดีไฮด์
4. การสลายกลโู คสในสภาวะที่ไมม่ ีออกซิเจนของยสี ต์ สารใดทาหนา้ ที่เป็นตัวรบั อิเล็กตรอนตวั สดุ ท้าย
ก. NAD+
ข. ออกซิเจน
ค. กรดไพรวู กิ
ง. แอซติ ัลดีไฮด์
5. พชื ทอี่ ยใู่ นภาวะน้าทว่ ม เซลลท์ ีร่ ากพืชจะสลายกลโู คส 1 โมเลกลุ ได้ ATP ก่ีโมเลกุล
ก. 1 ATP
ข. 2 ATP
ค. 36 ATP
ง. 38 ATP
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 2 เร่ือง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซิเจน 19
6. เพราะเหตุใดเซลล์กลา้ มเน้ือขณะออกกาลังกาย จึงมีการสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้อออกซเิ จน
ก. มี NAD+ สะสมในเซลล์มาก
ข. เพราะมแี กส๊ คาร์บอนไดออกไซด์สะสมในร่างกายเปน็ จานวนมาก
ค. เพราะ ATP ลดลงอย่างรวดเรว็ และเลือดลาเลียงแกส๊ ออกซิเจนใหไ้ มท่ ัน
ง. การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ชอ้ ออกซเิ จนเปน็ การสลายสารอาหารแบบปกติของกล้ามเน้ือลาย
7. ไมโทคอนเดรียมคี วามจาเปน็ ตอ่ กระบวนการสลายกลูโคสแบบไมใ่ ชอ้ อกซเิ จนหรอื ไม่ เพราะเหตุใด
ก. จาเป็น เพราะการสลายสารอาหารตอ้ งเกิดทีไ่ มโทคอนเดรยี เทา่ นั้น
ข. ไม่จาเปน็ เพราะ การเปลี่ยนแปลงทเ่ี กิดขึน้ จะเกดิ เฉพาะบริเวณไซโทซอล
ค. จาเป็น เพราะทุกกระบวนการต่างๆ ในเซลล์จาเปน็ ต้องอาศัยไมโทคอนเดรีย
ง. ไม่จาเปน็ เพราะ การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซิเจนเกดิ ข้ึนได้หลายบรเิ วณในเซลล์
8. การสลายกลูโคสในสภาวะทไ่ี มม่ อี อกซเิ จนของกลา้ มเน้ือ ซ่งึ เกดิ กระบวนการหมักกรดแลกติก จะได้ผลิตภัณฑ์
เปน็ สารใดบ้าง
ก. ATP 2 โมเลกลุ และกรดแลกตกิ 2 โมเลกุล
ข. ATP 2 โมเลกุล และเอทลิ แอลกอฮอล์ 2 โมเลกลุ
ค. ATP 36 โมเลกลุ และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ 6 โมเลกุล
ง. ATP 2 โมเลกุล กรดแลกตกิ 2 โมเลกุล และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ 2 โมเลกลุ
9. เมื่อออกกาลังกายหนักๆ จะมีการสะสมกรดแลกติกที่กล้ามเน้ือ ร่างกายจะมีกระบวนการอย่างไร ในการ
กาจดั กรดแลกติกนี้
ก. ลาเลียงไปตามกระแสเลอื ดไปยงั ผิวหนัง สามารถขบั ออกได้ทางเหงื่อ
ข. มีการลาเลียงออกจากเซลลก์ ลา้ มเน้ือไปยงั ไต เพือ่ ขบั ออกทางปัสสาวะ
ค. มีการลาเลยี งออกจากเซลลก์ ลา้ มเนื้อไปยงั ตับ เพ่ือสังเคราะหก์ ลับไปเป็นกลโู คส
ง. นากลับเข้าสเู่ มทรกิ ซ์ของไมโทคอนเดรยี เพื่อเขา้ สวู่ ัฏจกั รเครบสแ์ ละสลายสารอาหารต่อไป
10. ในการหมักไวน์ ผู้หมักจะต้องป้องกันไม่ให้อากาศผา่ นเขา้ ไปในขวดหมักเพราะเหตุใด
ก. ปอ้ งกนั การติดเชอ้ื จลุ นิ ทรยี ์อื่นๆ ท่อี ยู่ในอากาศ
ข. การเปล่ยี นแปลงสภาพแวดลอ้ มจะมีผลทาให้ยีสตอ์ อ่ นแอลง
ค. กรดไพรวู กิ จะถูกดงึ เขา้ สู่วัฏจักรเครบส์ แทนทจ่ี ะเปลีย่ นไปเป็นแอลกอฮอล์
ง. กรดไพรวู กิ จะทาปฏิกิริยากับไฮโดรเจนไดเ้ ป็นกรดแลกติกแทนที่จะได้แอลกอฮอล์
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 2 เรอ่ื ง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซเิ จน 20
กระดาษคาตอบ
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 2 เรื่อง การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซิเจน
รายวชิ าชีววิทยา รหัสวชิ า ว31221 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4
ชือ่ -สกุล.............................................................ชน้ั ...................เลขท.ี่ ..........................
คะแนน
ขอ้ ก ข ค ง
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 2 เรือ่ ง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซเิ จน 21
บรรณานกุ รม
กระทรวงศึกษาธิการ. (2544). สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ใน
หลักสตู รการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2544. กรุงเทพฯ: องค์การรับสง่ สนิ ค้าและพสั ดุภณั ฑ์
(รสพ.).
จรสั ย์ เจนพาณชิ ย์. (2554). Biology for High School Students. (พมิ พค์ ร้งั ที่ 9). กรุงเทพฯ:
บมู คัลเลอร์ไลน.์
ประสงค์ หลาสะอาด และจิตเกษม หลาสะอาด. (2549). ค่มู ือเตรียมสอบสาระการเรียนรู้พน้ื ฐานและ
เพ่มิ เตมิ ชีววิทยา ม.4 เล่ม 2. กรงุ เทพฯ: สานักพมิ พ์ พ.ศ. พฒั นา จากัด.
สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีกระทรวงศึกษาธกิ าร. (2553). คูม่ ือครู รายวชิ า
เพิ่มเตมิ ชีววทิ ยา เล่ม 1 ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4–6 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ตาม
หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551. (พิมพค์ ร้ังท่ี 1). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์
สกสค. ลาดพรา้ ว.
. (2558). หนงั สอื เรียน รายวิชาเพ่มิ เติม ชีววทิ ยา เลม่ 1 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4–6 กลุ่ม
สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551.
(พิมพ์ครง้ั ท่ี 8). กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว.
Jane, B.R., Lisa, A.U., Michael, L.C, Steven, A.W., Peter, V.M. & Robert, B.J. (2014).
Campbell Biology. (10 edition). Boston: Benjamin Cummings.
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ชดุ ที่ 2 เรื่อง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซเิ จน 22
.
ภาคผนวก
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ชุดท่ี 2 เรื่อง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซเิ จน 23
เฉลยแบบทดสอบ
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ชดุ ที่ 2 เรอื่ ง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซเิ จน
รายวชิ าชีววิทยา รหัสวชิ า ว31221 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4
แบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบหลงั เรียน
ขอ้ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10
นกั เรียนต้องผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 80
(ทาถูก 8 ข้อข้นึ ไป)
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชดุ ท่ี 2 เรอื่ ง การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซเิ จน 24
ใบกิจกรรมท่ี 2.1 การหมักของยีสต์
วนั ที.่ ................/................./................. แนวคาตอบ
รายชือ่ สมาชกิ ในกลุ่ม
1………………………………………………………………………2………………………………………………………………………
3………………………………………………………………………4………………………………………………………………………
5………………………………………………………………………
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. สงั เกต และวิเคราะหป์ ฏกิ ริ ยิ ากระบวนการสลายสารอาหารแบบไมใ่ ชอ้ อกซิเจนของยสี ต์
วสั ดุ/อุปกรณ์
1. ยีสต์ 2. นา้ แตงโม
3. น้ามนั พืช 4. สารละลายบรอมไทมอลบลู
5. น้ากลน่ั 6. หลอดทดลอง
7. จกุ ปิดหลอดทดลอง 8. สายยางขนาดเสน้ ผา่ นศนู ย์กลาง 0.2 เซนตเิ มตร
วธิ ีการทากิจกรรม
1. นาแตงโมมาคนั้ แลว้ กรองเอาเฉพาะสว่ นทเี่ ป็นของเหลว
2. นานา้ แตงโมใส่ในหลอดทดลอง จานวน 5 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร
3. นายีสต์ 2 ช้อน เบอร์ 2 ใสใ่ นหลอดทดลองทีม่ นี า้ แตงโม ผสมให้เขา้ กัน
4. คอ่ ยๆ เตมิ นา้ มนั พชื 1 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร ลงในหลอดทดลอง ใหน้ า้ มนั ลอยอยบู่ นผวิ หนา้
สารละลาย
5. ใสส่ ารละลายบรอมไทมอลบลูลงในหลอดทดลอง จานวน 3 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 2 เรอ่ื ง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซิเจน 25
6. ปิดหลอดทดลองท้งั 2 หลอดดว้ ยจุกยาง ใสห่ ลอดนาแก๊สและสายยางลงไปทงั้ 2 หลอด
7. นาหลอดทดลองท่มี ีน้าแตงโมและยีสตไ์ ปจ่มุ ในบกี เกอร์ที่มนี ้าอนุ่ แล้วสงั เกตผลการทดลอง
8. ทาการทดลองซา้ เชน่ เดียวกนั น้อี ีก 2 ชุด โดยชุดหนึง่ ในหลอดทดลองใส่ยีสต์กับน้ากล่ันและอีกชดุ หนึง่
ใสน่ ้าแตงโมกบั น้ากลั่น ทง้ั 2 ชุด มกี ารเติมน้ามนั พืชลงในสารละลายและมีหลอดน้าแกส๊ ไปยังหลอดทดลองท่ีมี
สารละลายบรอมไทมอลบลู สงั เกตผลการทดลองและบนั ทึกผลลงในแบบบันทึกผลการศึกษา
บนั ทึกผลการทากจิ กรรม
การทดลอง สารละลายบรอมไทมอลบลู การเกดิ ฟอง กลน่ิ
นา้ แตงโม + ยีสต์ สีเหลืองอมส้ม เกดิ กลน่ิ แอลกอฮอล์
น้ากลน่ั + ยสี ต์ ไมเ่ ปลีย่ นแปลง ไมเ่ กิด
นา้ แตงโม + นา้ กล่ัน ไม่เปล่ยี นแปลง ไมเ่ กิด ไมม่ ีกลิ่น
ไม่มีกลิ่น
สรปุ ผลการทากิจกรรม
ในสภาวะทีข่ าดออกซเิ จน เมื่อเตมิ ยีสตล์ งไปในน้าแตงโมจะเกดิ ปฏิกิรยิ าได้แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์
และเอทลิ แอลกอฮอล์
นกั เรยี นตง้ั ใจทากจิ กรรมด้วยนะ
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชดุ ที่ 2 เรอ่ื ง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซเิ จน 26
คาถามหลงั กิจกรรม
1. ทาไมจงึ ต้องมีการทดลองชุดที่ 2 ท่ีมนี า้ กลัน่ กับยีสต์ และชุดที่ 3 ท่ีมนี ้าแตงโมกบั นา้ กล่ัน
ตอบ เพ่ือเปน็ ชดุ ควบคุม และใช้ยนื ยันผลการทดลองในชดุ ที่ 1 วา่ การเปล่ียนแปลงทเี่ กิดขึน้ นนั้ เปน็ ปฏกิ ริ ิยา
ท่ีเกดิ จากเซลล์ของยสี ตแ์ ละน้าแตงโมจรงิ
2. การทดลองทง้ั 3 ชุด ควรมีการควบคุมอะไรใหเ้ หมือนกัน
ตอบ 1. ปริมาณนา้ แตงโมในชุดที่ 1 และ 3 ตอ้ งมีปริมาณเทา่ กนั
2. ปรมิ าณน้ากลั่นในชุดท่ี 2 และ 3 ตอ้ งมีปริมาณเทา่ กัน
3. ปรมิ าณยีสต์ในชุดที่ 1 และ 2 ต้องมีปริมาณเท่ากัน
4. ขนาดของหลอดทดลอง ต้องใช้ขนาดเดยี วกนั
5. ความยาวของสายยาง ตอ้ งยาวเท่ากัน
3. ฟองแกส๊ ทีเ่ กดิ ขนึ้ เป็นแกส๊ อะไร ทราบได้อย่างไร
ตอบ ฟองแก๊สทีเ่ กิดขน้ึ เปน็ แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ เพราะสีของสารละลายบรอมไทมอลบลเู ปลี่ยนสจี ากสี
ฟ้าเปน็ สีเหลืองอมส้ม
4. เพราะเหตุใดจงึ ต้องนาหลอดทดลองไปจมุ่ ในน้าอุ่น
ตอบ การนาหลอดทดลองไปจุม่ ในน้าอนุ่ จะทาใหอ้ ุณหภูมิของหลอดทดลองเพิ่มข้ึน ปฏิกิรยิ าจะเกิดมากขึ้น
เนอ่ื งจากอณุ หภูมเิ หมาะสมต่อการทางานของเอนไซมข์ องยสี ต์ จงึ ทาใหม้ ีแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์เกดิ มากข้ึน
5. ถ้าทาการทดลองเช่นเดียวกันน้ีแต่ใช้น้าผลไม้ชนิดอื่นๆ ผลการทดลองที่ได้จะเหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่
อยา่ งไร
ตอบ น่าจะไดผ้ ลใกลเ้ คยี งกนั แต่ท้ังน้ีขนึ้ อยูก่ ับสภาพความเป็นกรด-เบสของสารละลายและปรมิ าณน้าตาล
ซึ่งเป็นสารให้พลงั งานของน้าผลไม้น้ันๆ ดว้ ย
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชุดที่ 2 เรอ่ื ง การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซเิ จน 27
ใบกจิ กรรมที่ 2.2 การสลายสารอาหารแบบไม่ใชอ้ อกซเิ จน
คาชแี้ จง ให้นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ใหถ้ กู ต้อง (10 คะแนน) แนวคาตอบ
1. เพราะเหตุใดเซลลก์ ล้ามเนื้อขณะออกกาลงั กาย จึงมีการสลายสารอาหารแบบไม่ใช้อออกซิเจน
ตอบ เพราะ ATP ลดลงอย่างรวดเร็ว และเลอื ดลาเลียงแก๊สออกซเิ จนใหไ้ มท่ นั
2. เมอื่ ออกกาลังกายหนกั ๆ จะมกี ารสะสมกรดแลกติกท่ีกลา้ มเนือ้ รา่ งกายจะมีกระบวนการอย่างไร ในการ
กาจัดกรดแลกติกน้ี
ตอบ กรดแลกติกท่เี กิดจากกระบวนการหมักจะมกี ารลาเลยี งออกจากเซลล์กล้ามเนื้อไปยังตับ เพอื่ สังเคราะห์
กลบั ไปเปน็ กลูโคส ซง่ึ รา่ งกายสามารถนาไปใช้ต่อไปได้
3. การสลายกลูโคสในสภาวะท่ีไม่มีออกซเิ จนของกล้ามเน้ือ สารใดทาหน้าท่เี ปน็ ตวั รับอิเลก็ ตรอนตวั สดุ ท้าย
ตอบ กรดไพรูวกิ เปน็ ตวั รบั อเิ ลก็ ตรอนตัวสดุ ทา้ ยแลว้ กลายเป็นกรดแลกติก
4. เมอ่ื หมักยสี ต์กบั แปง้ ทาขนมปงั ทาไมขนมปงั จงึ ฟู
ตอบ เพราะกระบวนการหมกั ยสี ต์ทาให้เกดิ แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ แกส๊ ทเี่ กิดขึ้นจงึ ดนั ให้ขนมปงั เกิดการ
พองตวั
5. ยสี ตส์ ามารถสลายสารอาหารได้ท้ังในสภาพแวดล้อมที่มอี อกซเิ จนและไม่มอี อกซิเจน นกั เรียนคิดวา่
ในสภาพแวดล้อมเชน่ ไรยีสต์จึงจะเจรญิ เติบโตไดด้ ี เพราะเหตใุ ด
ตอบ สภาพแวดล้อมทย่ี ีสตจ์ ะเจริญเติบโตได้ดี คือ บริเวณท่ีมแี ก๊สออกซิเจน เพราะยีสต์สามารถนาออกซิเจน
ไปใช้ในการสลายสารอาหารเพอื่ ให้ได้พลังงาน ทาให้ได้พลังงานจานวนมากกวา่ สภาพแวดลอ้ มท่ีไม่มีแก๊ส
ออกซิเจน ซ่งึ ยสี ตจ์ ะนาพลงั งานไปใช้ในกระบวนการเมแทบอลซิ มึ ของเซลล์และการแบ่งเซลลต์ ่อไป
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชดุ ท่ี 2 เรื่อง การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซิเจน 28
ใบกจิ กรรมท่ี 2.3 ปฏกิ ิรยิ าการสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซิเจน
คาชแ้ี จง ให้นักเรียนเติมข้อมูลลงในชอ่ งว่างให้ถูกต้องสมบรู ณ์ (10 คะแนน) แนวคาตอบ
12 1. 2 ADP
34 2. 2 ATP
5 3. 2 NAD+
4. 2 Pyruvate
5. 2 Lactate
7 6 6. 2 ATP
8 9 7. 2 NAD+
8. 2 Ethanol
9. Acetylaldehyde
10. 2 CO2
10
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชดุ ท่ี 2 เร่ือง การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ออกซิเจน 29
แบบบันทกึ คะแนน
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชุดท่ี 2 เรือ่ ง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ช้ออกซิเจน
รายวชิ าชีววิทยา รหัสวิชา ว31221 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4
ชอื่ -สกลุ .............................................................ชัน้ ...................เลขท่ี...........................
ก่อนเรียน หลังเรียน
คะแนนที่ได้ คะแนนทไ่ี ด้
กจิ กรรมการเรยี นรู้ คะแนน ผลการประเมนิ
เตม็ ได้ ผา่ น ไม่ผา่ น
กจิ กรรมท่ี 2.1 เรื่อง การหมักของยสี ต์
กิจกรรมที่ 2.2 เรื่อง การสลายสารอาหารแบบไมใ่ ชอ้ อกซเิ จน 10
กิจกรรมท่ี 2.3 เรอ่ื ง ปฏกิ ริ ิยาการสลายสารอาหารแบบไม่ใช้ 10
ออกซเิ จน 10
รวมคะแนนทงั้ หมด 30
เกณฑ์การผา่ นชดุ กิจกรรม ได้คะแนนตั้งแต่
รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป (24 คะแนนขนึ้ ไป)