The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เรื่องที่5 การใช้แหล่งเรียนรู้ผ่านอินเทอร์เน็ต

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by porneura532193, 2022-07-10 10:48:13

เรื่องที่5 การใช้แหล่งเรียนรู้ผ่านอินเทอร์เน็ต

เรื่องที่5 การใช้แหล่งเรียนรู้ผ่านอินเทอร์เน็ต

เร่ืองที่5 : การใช้แหล่งเรยี นรู้ผา่ นเครือข่ายอินเทอรเ์ นต็

มารจู้ กั อนิ เทอร์เนต็ กนั เถอะ
1. อินเทอร์เน็ต (Internet) คืออะไร ถ้าจะถามว่าอินเทอร์เน็ต (Internet) คืออะไร คงจะตอบได้ไม่

ชัดเจนว่า คือ 1) ระบบเครือข่าย คอมพิวเตอร์(Computer Network) ขนาดใหญ่ซ่ึงเกิดจากนําเอา
คอมพิวเตอร์และเครือข่ายคอมพิวเตอร์จาก ทั่วโลกมาเชื่อมต่อนักเป็นเครือข่ายเดียวกันโดยใช้ข้อตกลงในการ
ส่ือสารระหว่างคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย หรือใช้ภาษาสื่อสารหลัก (Protocol) เดียวกัน คือ TCP/IP
(Transmission Control Protocol/Internet Protocol) 2) เป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ ใช้เป็นเครื่องมือใน
การค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้เกือบทุกประเภท เป็นเครื่องมือสื่อสารของคนทุกชาติ ทุกภาษาท่ัวโลก และ 3)
เป็นส่อื (Media) เผยแพร่ขอ้ มลู ได้หลาย ประเภท เช่น สือ่ สง่ิ พิมพ์ , สื่อโทรทัศนส์ ือ่ วิทยสุ ื่อโทรศพั ท์ เป็นตน้

2. อินเทอร์เน็ตสําคัญอย่างไร เทคโนโลยีสนเทศ (Information Technology) หลายประเทศทั่วโลก
กําลังให้ความสําคัญ เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือเรียกโดยย่อว่า “ไอที(IT) ซ่ึงหมายถึงความรู้ในวิธีการ
ประมวลผล จัดเก็บ รวบรวม เรียกใช้และนําเสนอข้อมูลด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เครื่องมือท่ีจําเป็นต้อง
ใช้สําหรับงานไอที คือคอมพิวเตอร์อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็น
สายโทรศัพท์ ดาวเทียม หรือเคเบ้ิลใยแก้วนําแสง อินเทอร์เน็ตเป็นเคร่ืองมือสําคัญอย่างหน่ึงในการประยุกต์ใช้
ไอทีหาก เราจา เป็นต้องอาศัยข้อมูลข่าวสารในการทา งานประจาวัน อินเทอร์เน็ตจะเป็นช่องทางที่ทา ให้เรา
เข้าถึงข้อมูลข่าวสารหรือเหตุการณ์ความเป็นไปต่าง ๆ ทั่วโลกท่ีเกิดขึ้นได้ในเวลา อันรวดเร็ว ในปัจจุบัน
สามารถ สืบค้นข้อมูลได้ง่ายกว่าส่ืออื่น ๆ อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลแหล่งใหญ่ท่ีสุดของโลกและ
เป็นท่ี รวมท้ังบริการเครื่องมือสืบค้นข้อมูลหลายประเภท จนกระทั่งกล่าวได้ว่าอินเทอร์เน็ตเป็นเคร่ืองมือสําคัญ
อย่างหนงึ่ ในการประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศทัง้ ในระดับบุคคลและองค์กร
(อ้างอิงจาก http://www.montfort.ac.th/mcs/dept/computer/Internet/whatinet.html 7 มีนาคม
2552)

3. ความหมายของอินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ต (Internet) หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ที่
มีการเช่ือมต่อระหว่าง เครือข่ายหลาย ๆ เครือข่ายทั่วโลกโดยใช้ภาษาที่ใช้ส่ือกลางกันระหว่างคอมพิวเตอร์ท่ี
เรียกว่าโพรโทรคอล (Protocol) ผ่านเครือข่ายน้ีสามารถส่ือสารถึงกันได้ในหลายๆ ทางอาทิเช่น อีเมล์(E-
mail), เว็บบอร์ด (Web bord), แชทรูม (Chat room) การสืบค้นข้อมูลและข่าวสารต่าง ๆ รวมท้ังคัดลอก
แฟ้มข้อมูลและโปรแกรมมา ใช้ได(้ อ้างอิงจาก http : //th.wikipedai.org/wiki/) อินเทอร์เน็ตในลักษณะเป็น
แหล่งเรียนรู้สําคัญในโลกปัจจุบัน ถ้าจะพูดถึงว่าอินเทอร์เน็ตมีความจําเป็นและเป็นแหล่งเรียนรู้ท่ีสําคัญที่สุดคง
จะไม่ผิดกัน เพราะเราสามารถใช้ช่องทางนี้ทําอะไรได้มากมายโดยที่เราก็คาดไม่ถึง ซ่ึงพอสรุปความสําคัญได้
ดงั นี้
1. เหตุผลสาํ คัญท่ที าํ ใหแ้ หลง่ เรยี นร้ผู ่านเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ตได้รบั ความนิยมแพรห่ ลาย คอื

1. การส่ือสารบนอินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ไม่จํากัดระบบปฏิบัติการของเครื่องคอมพิวเตอร์ท่ี
ต่างระบบปฏิบตั กิ ารก็สามารถติดต่อส่อื สารกันได้

2. แหล่งเรียนรู้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไม่มีข้อจํากัดในเรื่องของระยะทาง ไม่ว่าจะอยู่ภายใน
อาคารเดียวกนั ห่างกนั คนละมุมโลกขอ้ มลู ก็สามารถสง่ ผา่ นถงึ กนั ได้ด้วยเวลารวดเรว็

3. อินเทอร์เน็ตไม่จํากัดรูปแบบของข้อมูลซึ่งมีไดท้ังมูลท่ีเป็นข้อความอย่างเดียว หรืออาจมี
ภาพประกอบ รวมไปถึงข้อมลู ชนิดมลั ตมิ ีเดียคือ มีทงั้ ภาพเคลอ่ื นไหวและมีเสียงประกอบดว้ ยได้
2. หน้าทแ่ี ละความสาํ คญั ของแหล่งเรยี นร้อู ินเทอร์เนต็

การส่ือสารในยุคปัจจุบันเป็นยุคไร้พรมแดน การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจํานวนมาก ๆ ได้ใน เวลา
อันรวดเร็วและใช้ต้นทุนในการลงทุนตํ่า เป็นสิ่งที่พึงปรารถนาของทุกหน่วยงาน และอินเทอร์เน็ตเป็น ส่ือที่
สามารถตอบสนองต่อความต้องการดังกล่าวได้ จึงเป็นความจําเป็นที่ทุกคนต้องให้ความสนใจและ ปรับตัวให้
เข้ากบั เทคโนโลยีใหมน่ ้ีเพ่ือจะได้ใชป้ ระโยชน์จากเทคโนโลยดี งั กลา่ วอย่างเตม็ ที่

อินเทอร์เน็ตถือเป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์สากลที่เช่ือมต่อเข้าด้วยกัน ภายใต้ มาตรฐานการ
สื่อสารเดียวกันเพ่ือใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารและสืบค้นสารสนเทศจากเครือข่ายต่าง ๆ ทั่วโลก ดังนั้น
อินเทอร์เน็ตจึงเป็นแหล่งรวมสารสนเทศจากทุกมุมโลก ทุกสาขาวิชา ทุกด้าน ทั้งบันเทิงและวิชาการ ตลอดจน
การประกอบธุรกิจต่าง ๆ (อ้างอิงจากhttp://www.srangfun.net/web/ Knowlage/BasicCom/09.htm)
3. ความสําคัญของแหลง่ เรยี นร้อู นิ เทอร์เน็ตกบั งานดา้ นตา่ ง ๆ

ดา้ นการศกึ ษา
1. สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการเมือง ด้าน
การแพทยแ์ ละอืน่ ๆ ที่น่าสนใจ
2.ระบบเครอื ข่ายอินเทอร์เน็ตจะทําหนา้ ทีเ่ สมือนเป็นห้องสมดุ ขนาดใหญ่
3. ผู้ใช้สามารถใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับแหล่งเรียนรู้อ่ืน ๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กําลังศึกษาอยู่ได้ท้ังที่
ขอ้ มลู ทเี่ ป็นข้อความเสยี ง ภาพเคล่อื นไหวต่าง ๆ เปน็ ต้น
ด้านธรุ กจิ และการพาณิชย์
1. ในการดา เนนิ งานทางธรุ กิจ สามารถคน้ หาขอ้ มลู ตา่ ง ๆ เพ่ือช่วยในการตัดสนิ ใจทางธรุ กจิ
2. สามารถซ้อื ขายสินคา้ ผ่านระบบเครือขา่ ยอินเทอร์เนต็
3. บริษัทหรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการและสนับสนุนลูกค้าของตนผ่านระบบเครือข่าย
อินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คําแนะนํา สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้าแจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้
(Shareware) หรอื โปรแกรมแจกฟรี (Freeware) เปน็ ตน้
ดา้ นการบันเทิง
1. การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านนระบบเครือข่าย
อินเทอร์เน็ต ที่ เรียกว่า Magazine Online รวมท้ังหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่น ๆ โดยมีภาพประกอบที่
จอคอมพิวเตอร์ เหมอื นกบั วารสารตามรา้ นหนงั สือท่ัว ๆ ไป
2. สามารถฟังวิทยุผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้อินเทอร์เน็ตได้นํามาใช้เครื่องมือท่ีจําเป็นสําหรับ
งานไอทีทําให้เกิดช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลท่ีรวดเร็ว ช่วยในการตัดสินใจและบริหารงาน ทั้งระดับบุคคล
และองคก์ ร (อ้างอิงจากhttp://www.geocities.com/edtecthno251/nuntiya/6thml) 115

3.ความสาํ คัญของแหล่งเรียนรู้ผา่ นเครือขา่ ยอนิ เทอร์เนต็
ความสาํ คัญของข้อมลู แหล่งเรยี นรผู้ า่ นเครือข่ายอินเทอร์เนต็ เป็นสิ่งทต่ี ระหนกั กันอยเู่ สมอ
1. การจัดเก็บข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ได้ง่ายและส่ือสารได้รวดเร็ว การ

จัดเก็บข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งอยู่ในรูปแบบของสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ ผู้เรียน

สามารถจัดเก็บไว้ในแผ่นบันทึกข้อมูล สามารถบันทึกได้มากกว่า 1 ล้านตัวอักษร สําหรับการส่ือสารข้อมูล

จากแหล่งเรียนรู้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตน้ันข้อมูลสามารถส่งผ่านสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ ได้ด้วยอัตรา 120
ตัวอักษรต่อวินาทีและสามารถส่งข้อมูล 200 หน้า ได้ในเวลาเพียง 40 นาทีโดยท่ีผู้เรียนไม่ต้องเสียเวลาน่ังป้อน

ข้อมูลเหลา่ น้นั ใชใ้ หมอ่ กี
2. ความถูกต้องของข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยปกติมีการส่งข้อมูลด้วย

สัญญาณอิเล็กทรอนิกส์จากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งด้วยระบบดิจิตอล วิธีการรับส่งข้อมูลจะมีการตรวจสอบ

สภาพของข้อมูล หากข้อมูลผิดพลาดก็มีการรับรู้และพยายามหาวิธีแก้ไขให้ข้อมูลท่ีได้รับมีความถูกต้อง โดย

อาจใหท้ าํ การส่งใหม่กรณที ผี่ ดิ พลาดไม่มากผรู้ ับอาจใชโ้ ปรแกรมของตนแกไ้ ขขอ้ มูลให้ถกู ตอ้ งไดด้ ว้ ยตนเอง
3. ความรวดเร็วของการท างานจากแหล่งเรียนรู้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยปกติสัญญาณทาง

ไฟฟ้าจะเดินทางด้วยความเร็วเท่าแสง ทําให้การส่งผ่านข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจาก
ซีกโลกหนึ่งสามารถทําได้รวดเร็ว ถึงแม้ว่าข้อมูลจากฐานข้อมูลของแหล่งเรียนรู้น้ันจะมีขนาดใหญ่ก็ตาม ความ

รวดเร็วของระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจะทําให้ผู้เรียนสะดวกสบายอย่างยิ่ง เช่น การทําบัตรประจําตัว

ประชาชน ผู้รับบริการสามารถทําที่ใดก็ได้เพราะระบบฐานข้อมูลจะเช่ือมต่อถึงกันได้ทุกท่ีทั่วประเทศ ทําให้
เกดิ ความสะดวกกับประชาชนผูร้ ับบริการ

4. แหล่งเรียนรู้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีต้นทุนประหยัด การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้าหากันเป็น
เครือข่ายเพื่อรับและส่งหรือสําเนาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทําให้ราคาต้นทุนของ การ

ใช้ข้อมูลประหยัดมาก เม่ือเปรียบเทียบกับการจัดส่งแบบอ่ืน ซึ่งผู้เรียนสามารถรับและส่งข้อมูลจากแหล่ง
เรยี นรใู้ ห้ระหว่างกันผา่ นทางสญั ญาณอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ไดส้ ะดวก รวดเร็วและถกู ตอ้ ง

5. ชื่อและเลขท่ีอยู่ไอพีของแหล่งเรียนรู้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องท่ีต่ออยู่
บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจะมีเลขที่อยู่ไอพี (IP address) และแต่ละ เครื่องท่ัวโลกจะต้องมีเลขที่อยู่ไอพีไม่ซํ้า

หันเลขท่ีอยู่ไอพีน้ีจะได้รับการกําหนดเป็นกฎเกณฑ์ให้แต่ละ องค์กรนําไปปฏิบัติเพื่อให้ระบบปฏิบัติการ

เรียกชื่อง่ายและการบริหารจัดการเครือข่ายทําได้ดีจึงกําหนดชื่อ แทนเลขท่ีอยู่ไอพีเรียกว่าโดเมน โดยจะมี

การตั้งช่ือสําหรับเคร่ืองคอมพิวเตอร์แต่ละเคร่ืองที่อยู่บนเครือข่าย เช่น nfe.go.th ซึ่งใช้แทนเลขท่ีอยู่ไอพี
203.172.142.0

บรกิ ารจากอนิ เทอรเ์ นต็
1. การสืบค้นข้อมูลความรู้จากเว็บไซต์ต่าง ๆ เพียงแต่พิมพ์คําสําคัญจากเนื้อหา หรือเร่ืองที่ต้องการ

ค้นคว้าก็จะได้ชื่อเว็บไซต์จํานวนมากผู้เรียนสามารถเลือกหาอ่านได้ตามความต้องการ เช่น กล้วยไม้ สัตว์
สงวน ข่าวด่วนวันนี้ ราคาทองคํา อุณหภูมิวันนี้ อัตราแลกเปล่ียนเงิน ฯลฯ (ผู้เรียนสามารถฝึกการใช้
อนิ เทอรเ์ นต็ จากหอ้ งสมุดประชาชน หรือเรียนรดู้ ว้ ยตนเองจากหนงั สือ)

2. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) หรือท่ีเรียกกันว่า อีเมล์ เป็นการติดต่อสื่อสารด้วยตัวหนังสือแบบ
ใหมแ่ ทนจดหมายบนกระดาษ สามารถรับส่งขอ้ มลู ระหวา่ งกันไดอ้ ย่างรวดเรว็ เปน็ ที่นยิ มในปัจจบุ นั

3. การสนทนาหรือห้องสนทนา (Chat room) เป็นการสนทนาผ่านอินเทอร์เน็ต สามารถโต้ตอบ กัน
ไดท้ นั ทแี ลกเปลย่ี นเรยี นรถู้ ามตอบปญั หาไดห้ ลาย ๆ คนในเวลาเดียวกัน

4. กระดานข่าว (Web Board) ผู้ใช้สามารถแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ การให้ข้อเสนอ
ข้อคิดเห็น อภิปรายโต้ตอบ ทุกคนสามารถเข้าไปให้ข้อคิดเห็นได้โดยผู้ให้บริการเป็นผู้ตรวจสอบเนื้อหา และ
สามารถลบออกจากขอ้ มลู ได้

5. การโฆษณาประชาสัมพันธ์หน่วยงานต่าง ๆ จะมีเว็บไซต์ให้บริการข้อมูลและ ประชาสัมพันธ์
องค์กรหรือหน่วยงาน เราสามารถเข้าไปใช้บริการ เช่น สถานท่ีต้ังของห้องสมุด บทบาท ภารกิจของ
พพิ ธิ ภณั ฑ์สวนสัตวอ์ ยู่ทใ่ี ดบ้าง แหล่งเรียนรมู้ ที ่ีใดบา้ ง ตารางสอบของนกั ศกึ ษา กศน. เปน็ ต้น

6. การอ่านข่าว มีเว็บไซต์บริการข่าวเช่น CNN New York Time ตลอดจนข่าวจาก หนังสือพิมพ์
ต่าง ๆ ในประเทศไทย 7. การอ่านหนังสือ วารสาร และนิตยสาร มีบริษัทท่ีผลิตส่ือส่ิงพิมพ์จํานวนมากจัดทํา
เป็น นติ ยสารออนไลน์ เชน่ นิตยสาร MaxPC นิตยสารInterment ToDay นติ ยสารดฉิ ัน เปน็ ต้น

8. การส่งการ์ดอวยพร สามารถส่งการ์ดอวยพรอิเล็กทรอนิกส์หรือ E-Card ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยไม่
เสยี ค่าใชจ้ า่ ย สะดวกรวดเรว็

9. การซ้ือสินค้าและบริการเป็นการซ้ือสินค้าออนไลน์ โดยสามารถเลือกดูสินค้าพร้อมทั้งคุณสมบัติ
ของสินค้าและสั่งซื้อสินค้าพร้อมชําระเงินด้วยบัตรเครดิตในทันที บริษัทต่าง ๆ จึงมีการ โฆษณา ขายสินค้า
ผา่ นเทอร์เนต็ เป็นการใช้อนิ เทอรเ์ น็ตเชิงพาณิชยซ์ งึ่ ไดร้ บั ความนิยมในตา่ งประเทศมาก

10. สถานีวิทยุและโทรทัศน์บนเครือข่าย ปัจจุบันสถานีวิทยุบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีหลายร้อย
สถานี ผู้ใช้สามารถเลือกสถานีและได้ยินเสียงเหมือนการเปิดฟังวิทยุ ขณะเดียวกันก็มีการส่งกระจายภาพ
วีดีโอบนเครือข่ายด้วย แต่ยังมีปัญหาตรงที่ความเร็วของเครือข่ายท่ียังไม่สามารถรองรับการส่งข้อมูลจํานวน
มากทาํ ให้คุณภาพของภาพไม่ต่อเนอื่ ง
ประโยชนโ์ ทษ และมารยาทในการใชอ้ ินเทอร์เนต็ เป็นแหล่งเรยี นรู้

1. ประโยชน์ของแหล่งเรียนรูผ้ ่านเครือข่ายอินเทอร์เนต็
อินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนชุมชนเมืองแห่งใหม่ของโลก เป็นชุมชนของคนท่ัวมุมโลก จึงมี บริการ

ตา่ ง ๆ เกดิ ขึน้ ใหมต่ ลอดเวลา ในท่ีน้จี ะกลา่ วถงึ ประโยชนข์ องอนิ เทอร์เน็ตหลัก ๆ ดังนี้
1.1 ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic mail) หรือ E-mail เป็นการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ผ่าน

เครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยผู้ส่งจะต้องส่งข้อความไปยังที่อยู่ของผู้รับ ซึ่งเป็นท่ีอยู่ในรูปแบบของอีเมล์ เม่ือผู้ส่ง

เขียนจดหมาย 1 ฉบับ แล้วส่งไปยังที่อยู่นั้น ผู้รับจะได้รับจดหมายภายในเวลาไม่ก่ีวินาที แม้จะอยู่ ห่างกันคน
ละซกี โลกก็ตาม นอกจากนย้ี งั สามารถส่งแฟม้ ขอ้ มลู หรอื ไฟล์แนบไปกบั อเี มลไ์ ดด้ ้วย

1.2 การขอเข้าระบบจากระยะไกลหรือเทลเน็ต (Telnet) เป็นการบริการอินเทอร์เน็ตรูปแบบ หน่ึง
โดยที่เราสามารถเข้าไปใช้งานคอมพิวเตอร์อีกเคร่ืองหน่ึงท่ีอยู่ไกล ๆ ได้ด้วยตนเอง เช่น ถ้าเราอยู่ท่ีโรงเรียน ทา
งานโดยใช้อินเทอร์เน็ตของโรงเรียนแล้วกลับไปท่ีบ้าน เรามีคอมพิวเตอร์ท่ีบ้านและต่อ อินเทอร์เน็ตไว้ เรา
สามารถเรียกข้อมูลจากทีโ่ รงเรยี นมาทา ทบี่ ้านได้ เสมอื นกับเราทาํ งานที่โรงเรียนนนั่ เอง

1.3 การโอนถ่ายข้อมูล (File Transfer Protocol หรือ FTP) เป็นการบริการอีกรูปแบบหนึ่ง ของ
ระบบอินเทอร์เน็ต เราสามารถค้นหาและเรียกข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ มาเก็บไว้ในเคร่ืองของเราได้ทั้งข้อมูล
ประเภทตัวหนังสือ รปู ภาพ และเสยี ง

1.4 การสืบค้นข้อมูล (Gopher, Archie, World wide Web) หมายถึง การใช้เครือข่าย อินเทอร์เน็ต
ในการค้นหาข่าวสารท่ีมีอยู่มากมายแล้วช่วยจัดเรียงข้อมูลข่าวสารหัวข้ออย่างมีระบบ เป็นเมนูทา ให้เราหา
ขอ้ มลู ได้งา่ ยหรอื สะดวกมากข้นึ

1.5 การแลกเปล่ียนข่าวสารและความคิดเห็น (Usenet) เป็นการให้บริการแลกเปล่ียนข่าวสารและ
แสดงความคิดเห็นท่ีผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลกสามารถพบปะกัน แสดงความคิดเห็นของตน โดยมีการ
จัดการผู้ใช้เป็นกลุ่มหรือนิวกรุ๊ป (New Group) แลกเปล่ียนความคิดเห็นกันเป็นหัวข้อต่าง ๆ เช่นเรื่อง หนังสือ
เรื่องการเล้ียงสัตว์ ต้นไม้ คอมพิวเตอร์ และการเมือง เป็นต้น ปัจจุบันมี Usenet มากกว่า 15,000 กลุ่ม
นับเป็นเวทขี นาดใหญใ่ ห้ทุกคนจากท่วั มมุ โลกแสดงความคดิ เห็นอย่างกว้างขวาง

1.6 การสื่อสารด้วยข้อความ (Chat, IRC-Internet Relay Chat) เป็นการพูดคุยระหว่างผู้ใช้
อินเทอร์เน็ตโดยพิมพ์ข้อความตอบกัน ซึ่งเป็นวิธีการส่ือสารท่ีได้รับความนิยมมากอีกวิธีหน่ึง การสนทนา กัน
ผ่านอินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนเรานั่งอยู่ในห้องสนทนาเดียวกัน แต่ละคนก็พิมพ์ข้อความโต้ตอบกันไป มาได้ใน
เ ว ล า เ ดี ย ว กั น แ ม้ จ ะ อ ยู่ ค น ล ะ ป ร ะ เ ท ศ ห รื อ ค น ล ะ ซี ก โ ล ก ก็ ต า ม (อ้ า ง อิ ง จ า ก
http://www.geocities.com/useng_9/33.htm 9 มนี าคม 2522)

1.7 การซื้อขายสินค้าและบริการ (E-Commerce = Electronic Commerce) เป็นการจับจ่ายซ้ือ
สินค้าและบริการ เช่น ขายหนังสือ คอมพิวเตอร์ การท่องเท่ียว เป็นต้น ปัจจุบันมีบริษัทท่ีใช้ อินเทอร์เน็ต ใน
การทําธุรกิจและให้บริการลูกค้าตลอด 24 ช่ัวโมง ในปี พ.ศ. 2540 การค้าขายบนอินเทอร์เน็ตมีมูลค่าสูงถึง 1
แสนล้านบาท และจะเพ่ิมเป็น 1 ล้านล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นโอกาสธุรกิจแบบใหม่ที่น่าสนใจ และ
เปดิ ทางให้ทุกคนเขา้ มาทําธรุ กรรมไมม่ ากนกั

1.8 การให้ความบันเทิง (Entertain) ในอินเทอร์เน็ตมีบริการด้านความบันเทิงในทุกรูปแบบต่าง ๆ
เช่น เกม เพลง รายการโทรทัศน์ รายการวิทยุ เป็นต้น เราสามารถเลือกใช้ บริการเพ่ือความบันเทิง ได้ตลอด
24 ชวั่ โมง และจากแหล่งต่าง ๆ ทัว่ ทุกมมุ โลก ทงั้ ประเทศไทย อเมริกา ยโุ รป และ ออสเตรเลีย เปน็ ต้น

2. โทษของแหลง่ เรยี นรผู้ า่ นเครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ นต็
ทุกสรรพส่ิงในโลกย่อมมีทั้งด้านท่ีเป็นคุณประโยชน์และด้านที่เป็นโทษ เปรียบเสมือน เหรียญท่ีมี 2

ด้านเสมอ ข้ึนอยู่กับว่าเราจะเลือกใช้อย่างไรให้เกิดผลดีต่อเรา ขอยกตัวอย่างโทษที่อาจจะเกิดขึ้นได้จาก การใช้
งานอนิ เทอร์เน็ต ดังนี้

2.1 โรคติดอินเทอร์เน็ต (Webaholic) ถ้าจะถามว่าอินเทอร์เน็ตก็เป็นสิ่งเสพติดหรือ ก็คงไม่ใช่ แต่ ถ้า
เปรยี บเทียบกนั แลว้ กค็ งไมแ่ ตกต่าง หากการเลน่ อนิ เทอรเ์ นต็ ทาํ ใหค้ ุณเสียงานหรอื แมแ้ ตท่ ําลายสุขภาพ

2.2 อินเทอร์เน็ตทําให้รู้สึกหมกมุ่น มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น ไม่สามารถ
ควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตได้ รู้สึกหงุดหงิดเม่ือต้องใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลงหรือหยุดใช้ อินเทอร์เน็ตเป็นวิธี ใน
การหลีกเลี่ยงปัญหาหรือคิดว่าการใช้อินเทอร์เน็ตทําให้ตนเองรู้สึกดีข้ึน หลอกคนในครอบครัวหรือเพื่อน เรื่อง
การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ของตัวเอง การใช้อินเทอรเ์ นต็ ทําให้เกิดการเสีย่ งต่อการสูญเสยี งาน การเรยี น และ
ความสัมพันธ์ ยังใช้อินเทอร์เน็ตถึงแม้ว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก มีอาการผิดปกติ อย่างเช่น หดหู่ กระวน
กระวายเม่ือเลกิ ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ต ใชเ้ วลาในการใช้เวลาอนิ เทอร์เน็ตนานกวา่ ทีต่ ัวเองไดต้ ั้งใจไว้

2.3 เรื่องอนาจารผิดศีลธรรม เรื่องของข้อมูลต่าง ๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางขัดต่อศีลธรรม ลามก อนาจาร
หรือรวมถึงภาพโป๊เปลือยต่าง ๆ นั้นเป็นเร่ืองท่ีมีมานานพอสมควรแล้วบนโลกอินเทอร์เน็ต แต่ไม่ โจ่งแจ้ง
เน่ืองจากสมัยก่อนเป็นยุคท่ี www ยังไม่พัฒนามากนัก ทําให้ไม่มีภาพออกมา แต่ในปัจจุบันภาพ เหล่าน้ีเป็นท่ี
โจ่งแจ้งบนอินเทอร์เน็ต และสิ่งเหล่าน้ีสามารถเข้าสู่เด็กและเยาวชนได้ง่าย โดยผู้ปกครองไม่ สามารถที่จะให้
ความดูแลได้เต็มท่ี เพราะว่าอินเทอร์เน็ตน้ันเป็นโลกที่ไร้พรมแดน และเปิดกว้างทา ให้ส่ือ เหล่านี้สามารถ
เผยแพรไ่ ปได้รวดเร็ว จนเราไมส่ ามารถจบั กมุ หรอื เอาผดิ ผทู้ ท่ี าํ ส่ิงเหลา่ นี้ข้ึนมา

2.4 ไวรัส ม้าโทรจันหนอนอินเทอร์เน็ต และระเบิดเวลา ทําให้ข้อมูลท่ีเก็บไว้ถูกทําลายหมด ไวรัส
เป็นโปรแกรมอิสระซ่ึงจะสืบพันธ์ุโดยการจําลองตัวเองให้มากข้ึนเร่ือย ๆ เพื่อที่จะทําลายข้อมูล หรือ อาจทํา
ให้เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ทํางานชา้ ลง โดยการแอบใชส้ อยหนว่ ยความจําหรือพนื้ ทว่ี า่ งบนดสิ ก์ โดยพลการ

หนอนอินเทอร์เน็ต ถูกสร้างข้ึนโดย Robert Morris, Jr. จนดังกระฉ่อนไปท่ัวโลก มันคือ โปรแกรมที่
จะสบื พันธโุ์ ดยการจาํ ลองตัวเองมากข้ึนเรอ่ื ย ๆ จากระบบหน่งึ ครอบครองทรัพยากร และทา ให้ ระบบช้าลง

ระเบิดเวลา คือ รหัสซ่ึงจะทําหน้าท่ีเป็นตัวกระตุ้นรูปแบบเฉพาะของการโจมตีน้ัน ๆ ทํางาน เมื่อ
สภาพการโจมตีนัน้ ๆ มาถึง เชน่ ระเบิดเวลาจะทาํ ลายไฟล์ทง้ั หมดในวันท่ี 31 กรกฎาคม 2542
สว่ นโทษเฉพาะทเ่ี ป็นภยั ตอ่ เดก็ มอี ยู่ 7 ประการ บนอนิ เทอร์เนต็ สามารถจาํ แนกออกได้ ดงั น้ี

1. การแพร่ส่ือลามก มีทัง้ ทเ่ี ผยแพรภ่ าพลามกอนาจาร ภาพการสมสู่ ภาพตัดต่อลามก
2. การล่อล่วง โดยปล่อยให้เด็กและเยาวชนเข้าไปพูดคุยกันใน Chat จนเกิดการล่อลวง นัดหมายไป
ข่มขนื หรอื ทาํ ในส่งิ ทเี่ ลวรา้ ย
3. การคา้ ประเวณี มีการโฆษณาเพอ่ื ขายบรกิ าร รวมทงั้ ชักชวนใหเ้ ขา้ มาสมคั รขายบรกิ าร
4. การขายสินคา้ อันตราย มีต้งั แต่ยาสลบ ยาปลุกเซก็ ซ์ ปืน เคร่ืองชอ็ ตไฟฟ้า
5. การเผยแพร่การทาํ ระเบิด โดยอธิบายข้ันตอนการท างานอย่างละเอียด
6. การพนันมีใหเ้ ขา้ ไปเล่นได้ในหลายรปู แบบ

7. การเลม่ เกม มีท้ังเกมทร่ี นุ แรงไลฆ่ า่ ฟนั และเกมละเมิดทางเพศ
3. มารยาทในการใช้อนิ เทอรเ์ น็ตเปน็ แหล่งเรียนรู้

ทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทและส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ในแทบ ทุก
ด้าน รวมท้ังได้ก่อให้เกิดประเด็นปัญหาขึ้นในสังคม ไม่ว่าในเรื่องความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย เสรีภาพของ
การพูดอ่านเขียน ความซ่ือสัตย์ รวมถึงความตระหนักในเร่ืองพฤติกรรมท่ีเราปฏิบัติต่อกันและ กันในสังคม
อินเทอร์เน็ต ในเร่ืองมารยาท หรือจรรยามารยาทบนอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นพ้ืนที่ท่ีเปิดโอกาสให้ ผู้คนเข้ามา
แลกเปลี่ยน ส่ือสาร และทํากิจกรรมร่วมกัน ชุมชนใหญ่บ้างเล็กบ้างบนอินเทอร์เน็ตนั้นก็ไม่ต่าง จากสังคมบน
โลกแห่งความเป็นจริงท่ีจําเป็นต้องมีกฎกติกา (Codes of Conducr) เพื่อใช้เป็นกลไกสําหรับ การกํากับดูแล
พฤติกรรมและการปฏิสมั พนั ธ์ของสมาชิก


Click to View FlipBook Version