การพิจารณาคัดเลอื กดอกไมป้ ระจาจงั หวัดสงิ ห์บรุ ี
ขอ้ มูลประกอบการพจิ ารณาคัดเลอื กดอกไมป้ ระจาจงั หวัดสิงห์บุรี
ภูมภิ าค จานวน มีต้นไมป้ ระจา มดี อกไมป้ ระจา ไม่มดี อกไม้ประจา
จงั หวดั จังหวดั จงั หวัด จังหวัด
เหนือ 17 17
กลาง 17 9 63
ตะวนั ออกเฉียงเหนอื 9 20 20
ตะวนั ออก 20 9 9
9 62
14
ตะวันตก 88 72 5
ใต้ 14 14
รวม 77 77
**แบ่งภมู ภิ าคตามคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ
ขอ้ มลู ประกอบการพิจารณาคัดเลือกดอกไมป้ ระจาจงั หวัดสิงหบ์ ุรี
• จังหวัดที่มดี อกไม้ประจาจงั หวดั จานวน 72
จังหวดั
• ดอกไมจ้ านวน 49 ชนิดพนั ธุ์ เนอ่ื งจากบาง
จงั หวดั มีการใชด้ อกไมซ้ าชนิดกัน
• จังหวดั ท่ีไม่ใชด้ อกไมซ้ ากับจังหวดั ใดเลย มี
จานวน 39 จังหวดั 39 ชนิดพนั ธุ์
• จังหวดั ที่ใช้ดอกไม้ซากันจานวน 33 จงั หวดั
10 ชนิดพันธ์ุ
ข้อมลู ประกอบการพจิ ารณาคดั เลือกดอกไม้ประจาจงั หวดั สิงห์บรุ ี
จงั หวดั ทใ่ี ชด้ อกไม้ซากนั จานวน 33 จงั หวดั 10 ชนิดพันธ์ุ ได้แก่
1) ดอกบัวหลวง 5 จังหวดั ไดแ้ ก่ จงั หวดั ปทุมธานี จงั หวดั พจิ ติ ร จังหวดั
สุโขทยั จังหวดั อุบลราชธานี จงั หวดั หนองบัวลาภู
2) ดอกสุพรรณกิ าร์ 5 จังหวัด ไดแ้ ก่ จังหวดั สพุ รรณบุรี จังหวัดนครนายก
จงั หวดั อุทัยธานี จังหวดั สระบรุ ี จังหวัดบรุ ีรมั ย์
3) ดอกทองกวาว 4 จังหวดั ได้แก่ จังหวดั เชียงใหม่ จังหวดั ลาพูน จงั หวดั
อุดรธานี จงั หวัดอานาจเจรญิ
4) ดอกประดู่ 4 จังหวัด ไดแ้ ก่ จังหวดั ชลบุรี จงั หวัดระยอง จังหวัดร้อยเอ็ด
จงั หวัดอุตรดิตถ์
5) ดอกพิกลุ 3 จงั หวดั ได้แก่ จงั หวัดกาแพงเพชร จงั หวัดลพบรุ ี จงั หวัดยะลา
ขอ้ มลู ประกอบการพิจารณาคดั เลอื กดอกไมป้ ระจาจังหวดั สิงหบ์ รุ ี
จังหวดั ทใ่ี ช้ดอกไม้ซากนั จานวน 33 จังหวดั 10 ชนดิ พันธ์ุ ได้แก่
6) ดอกกันเกรา 3 จงั หวัด ไดแ้ ก่ จังหวัดนครพนม จงั หวัดสกลนคร และจังหวัด
สุรินทร์
7) ดอกนนทรี 3 จงั หวัด ได้แก่ จงั หวดั พิษณโุ ลก จงั หวัดนนทบรุ ี จงั หวดั
ฉะเชิงเทรา
8) ดอกเสียวดอกขาว 2 จังหวัด ไดแ้ ก่ จังหวดั ตาก และจังหวัดน่าน
9) ดอกพะยอม 2 จังหวดั ไดแ้ ก่ จังหวัดพัทลงุ จังหวดั กาฬสินธ์ุ
10) ดอกราชพฤกษ์ 2 จังหวดั ได้แก่ จังหวดั ขอนแก่น จังหวัดนครศรีธรรมราช
ขอ้ มูลประกอบการพจิ ารณาคดั เลือกดอกไม้ประจาจังหวดั สิงหบ์ ุรี
จากข้อมูลพบว่าดอกไม้ และต้นไมป้ ระจาจงั หวัด ไม่มคี วามเกยี่ วข้องสมั พนั ธก์ ัน
อย่างมนี ยั ยะสาคัญ
มี 56 จังหวัด ทด่ี อกไม้ และตน้ ไมป้ ระจาจังหวัดทไี่ มม่ คี วามเก่ยี วขอ้ งสัมพันธก์ นั
มีเพยี ง 21 จงั หวัดทใ่ี ช้ดอกไม้ และตน้ ไม้ประจาจังหวัดเป็นชนดิ เดยี วกัน โดย
แบ่งเป็น
ภาค จานวน จงั หวดั
เหนอื 5 เชียงใหม่ พะเยา แพร่ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์
ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 5 นครพนม นครราชสมี า มุกดาหาร ศรีสะเกษ หนองคาย
กลาง 2 นนทบรุ ี ลพบรุ ี
ตะวนั ตก 3 นครปฐม สมทุ รสาคร ประจวบครี ีขนั ธ์
ตะวันออก 2 นครนายก ชลบุรี
ใต้ 4 กระบ่ี ตรงั พทั ลงุ สงขลา
ข้อมลู ประกอบการพิจารณาคัดเลือกดอกไม้ประจาจังหวัดสิงหบ์ ุรี
ดอกไม้ประจาจังหวัดหลายจังหวัดไม่ได้เป็นพรรณไม้ดังเดิมของไทย แต่
มีถ่ินกาเนิดจากต่างประเทศ เช่น สุพรรณิการ์ ศรีตรัง พวงแสด ธรรม
รักษา มีถิ่นกาเนิดแถบทวีปอเมริกาใต้ บัวตองมีถิ่นกาเนิดแถบทวีป
อเมริกากลาง และพทุ ธรักษามีถิน่ กาเนิดในประเทศอินเดยี เป็นต้น
ขอ้ มลู ประกอบการพจิ ารณาคดั เลือกดอกไมป้ ระจาจังหวัดสิงหบ์ ุรี
ประเภทพรรณไม้ทใ่ี หด้ อก จานวน
จังหวัด ชนดิ พันธ์ุ
ประเภทพรรณไม้
50 31
ไม้ยนื ตน้ 62
ไมน้ ้า 55
ไมด้ อก 55
ไมพ้ มุ่ 22
ไมเ้ ลือย 33
กลว้ ยไม้ 11
กาฝาก 72 49
รวม
ขอ้ มลู ประกอบการพิจารณาคัดเลือกดอกไม้ประจาจงั หวัดสิงห์บุรี
เฉดสขี องดอกไม้ประจาจังหวัด จานวน ตัวอยา่ งพรรณไม้
จงั หวัด ชนิดพันธุ์
ท่ี สขี องดอกไม้ ทุ้งฟา้ กาญจนิกา ปีบ
18 15 กัลปพฤกษ์
1 ขาว 11 เสยี วขาว ชิงชัน
2 ขาวอมชมพู 32 กฤษณา
3 ขาวอมมว่ ง 11 ชยั พฤกษ์ บัวหลวง
4 เขยี วอมเหลอื ง 62 ชบา บวั แดง
5 ชมพู 22 ศรตี รงั เสลา
6 แดง 22 สริ นิ ธรวลั ลี พวงแสด
7 มว่ ง 22 ยมหิน ราชพฤกษ์ บวั ตอง
8 แสด 27 15 บวั ผดุ ธรรมรักษา ทองกวาว
9 เหลือง 85 กระเจียว เฟอ่ื งฟา้
10 เหลืองแดงแสด 22
11 หลากสี
72 49
รวม
ขอ้ มลู ประกอบการพจิ ารณาคัดเลือกดอกไม้ประจาจงั หวัดสิงห์บรุ ี
สรปุ ผลจากขอ้ มูล
1) ดอกไม้ประจาจังหวัด สามารถคัดเลือกจากพรรณไม้ได้ทุกประเภท ทุก
เฉดสี
2) ดอกไม้ประจาจังหวัด ไม่จาเป็นต้องมีความสัมพันธ์ หรือพ้องกับต้นไม้
พระราชทานประจาจังหวัด
3) ดอกไม้ประจาจังหวัด ไม่จาเป็นต้องเป็นพรรณไม้ดังเดิมของไทย อาจ
เป็นพรรณไม้จากต่างประเทศที่นาพันธุ์เข้ามาปลูกในประเทศไทยใน
ระยะเวลานานพอสมควรแล้ว
4) ดอกไม้ประจาจังหวัดใดๆ อาจใชซ้ ากับดอกไม้ประจาจังหวัดอ่นื ๆ ได้
ขอ้ มลู ประกอบการพจิ ารณาคัดเลอื กดอกไม้ประจาจงั หวดั สิงหบ์ ุรี
เสน้ ทาง / จุดสารวจ
ขอ้ มลู ประกอบการพจิ ารณาคัดเลือกดอกไม้ประจาจงั หวัดสิงห์บรุ ี
เส้นทาง / จุดสารวจ
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 311 สายลพบุรี - ชัยนาท และทางหลวงชนบท
สห 3034 เข้าสู่ถนนรอบลาแม่ลา เส้นทาง วัดแหลมคาง ตาบลแม่ลา อาเภอ
บางระจัน อทุ ยานแมล่ ามหาราชานุสรณ์ ตาบลทบั ยา อาเภออินทร์บุรี ฝายนา
ล้น หมู่ที่ 7 ตาบลบางกระบือ อาเภอเมืองสิงห์บุรี วัดสะเดา ตาบลแม่ลา
อาเภอบางระจัน (16.6 กโิ ลเมตร)
พรรณไม้ที่พบ
ยคู าลปิ ตสั หางนกยูง สะเดา ขีเหล็ก ทองอไุ ร ชมพูพันธุ์ทิพย์ ราชพฤกษ์
กัลปพฤกษ์ ฯลฯ
ขอ้ มลู ประกอบการพจิ ารณาคัดเลอื กดอกไม้ประจาจงั หวดั สิงหบ์ ุรี
เสน้ ทาง / จุดสารวจ
ขอ้ มูลประกอบการพิจารณาคดั เลอื กดอกไม้ประจาจงั หวดั สิงห์บุรี
เสน้ ทาง / จดุ สารวจ
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3032 สายบุ้งก๋ี - นางบวช วัดพระนอนจักสีห์
วรวิหาร (18.1 กโิ ลเมตร)
พรรณไม้ทพี่ บ
ยูคาลิปตัส หางนกยูง สะเดา ขีเหล็ก หางนกยูง ทองอุไร ราชพฤกษ์
สาละลังกา ฯลฯ
ขอ้ มลู ประกอบการพจิ ารณาคัดเลอื กดอกไม้ประจาจงั หวดั สิงหบ์ ุรี
เสน้ ทาง / จุดสารวจ
ข้อมลู ประกอบการพิจารณาคัดเลือกดอกไมป้ ระจาจงั หวัดสิงห์บรุ ี
เสน้ ทาง / จุดสารวจ
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3032 สายบุ้งกี๋ - นางบวช อุทยานวีรชนค่าย
บางระจัน และวัดโพธิ์เก้าต้น (12.6 กิโลเมตร)
พรรณไม้ท่ีพบ
โพธ์ิ หางนกยูง สะเดา ขีเหล็ก หางนกยูง ทองอุไร ราชพฤกษ์ สาละ
ลังกา ฯลฯ
ขอ้ มลู ประกอบการพจิ ารณาคัดเลอื กดอกไม้ประจาจงั หวดั สิงหบ์ ุรี
เสน้ ทาง / จุดสารวจ
ข้อมูลประกอบการพจิ ารณาคัดเลือกดอกไมป้ ระจาจังหวดั สิงห์บรุ ี
เสน้ ทาง / จุดสารวจ
ทางหลวงชนบท สห 3008 (แยกวัดพิกุลทอง - วัดพิกุลทอง) วัดพิกุลทอง
และทางหลวงชนบท สห 3027 (วัดพิกุลทอง - แยกหลวงพ่อแพ) (19.9
กิโลเมตร)
พรรณไมท้ ีพ่ บ
โพธิ์ พิกุล หางนกยูง สะเดา ขีเหล็ก หางนกยูง ทองอุไร ราชพฤกษ์
เหลอื งปรีดียาธร ฯลฯ
ขอ้ มูลประกอบการพิจารณาคัดเลือกดอกไมป้ ระจาจังหวัดสิงห์บุรี
สรุปผลเสน้ ทางสารวจ
จากเส้นทางเส้นทางสารวจ และจุดสารวจ พบว่ามีพรรณไม้หลากหลายชนิด
ไม่ค่อยพบพรรณไม้ชนิดดังเดิมที่เจริญเติบโตเองจานวนมากจนเป็นจุดสังเกต
มากนัก ส่วนใหญ่เป็นพรรณไม้ท่ีมีการส่งเสริมการปลูกบริเวณริมถนน วัด
สถานท่ีราชการ ฯลฯ
ข้อมูลประกอบการพจิ ารณาคดั เลอื กดอกไมป้ ระจาจังหวัดสิงห์บุรี
คณุ ลักษณะของพรรณไมท้ สี่ มควรเสนอเปน็ ดอกไม้ประจาจงั หวดั สงิ ห์บรุ ี
สานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสิงห์บุรี จึงใช้ข้อมูลต่างๆ ทังข้อมูลจาก
การสารวจในจังหวัดบนเส้นทาง จุดท่องเที่ยวข้างต้น และข้อมูลพรรณไม้ของ
จงั หวัดอน่ื ๆ มาประกอบ และสรปุ คณุ ลกั ษณะของพรรณไม้ที่สมควรเสนอเป็น
ดอกไมป้ ระจาจังหวัดสิงหบ์ รุ คี วรมีคณุ ลักษณะ ดังนี
ขอ้ มูลประกอบการพจิ ารณาคดั เลอื กดอกไม้ประจาจงั หวดั สิงหบ์ รุ ี
คณุ ลักษณะของพรรณไม้ท่สี มควรเสนอเปน็ ดอกไม้ประจาจงั หวัดสงิ ห์บุรี
1. ควรเป็นไม้ยืนต้น เน่ืองจากมีอายุยืนยาว ระบบรากมีความแข็งแรงกว่า
ไม้ล้มลุก ไม่จาเป็นต้องปลูกทดแทนบ่อย หากินเก่ง ไม่จาเป็นต้องบารุงรักษา
ดว้ ยการใสป่ ุ๋ย ทนทานต่อแมลงศตั รูพืช อัตราการรอดตายสงู
2. ออกดอกจานวนมากตลอดทังปี หรือออกดอกมากในฤดูกาล สามารถสร้างจุด
ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวสนใจเกิดเป็นกระแส Soft Power จนสามารถก่อให้เกิด
รายได้ขนึ ในท้องถ่ินได้
ข้อมูลประกอบการพิจารณาคัดเลอื กดอกไม้ประจาจงั หวดั สิงห์บุรี
คณุ ลักษณะของพรรณไมท้ ่สี มควรเสนอเป็นดอกไมป้ ระจาจงั หวัดสิงห์บรุ ี
3. โตเร็ว ดูแลบารุงรักษาง่าย เติบโตได้ในดินทุกสภาพ ทนแล้งได้ดี ไม่เป็นไม้
เศรษฐกิจ ซึ่งจากการสืบค้นข้อมูล พบว่าบางจังหวัดท่ีใช้ดอกไม้ประจาจังหวัด
จากไม้เศรษฐกิจ จะโตช้า และออกดอกยาก หรือมีจานวนดอกน้อยจนไม่เป็นท่ี
ดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น พะยอม กฤษณา กันเกรา เป็นต้น และเม่ือต้นไม้ขาดการ
ดูแลจะพบการทาลายจากศัตรูพืช เช่น ด้วง หนอนเจาะลาต้น ด้วงหนวดยาว เป็น
ต้น และการทาลายจากประชาชนในพืนที่ เนื่องจากเป็นไม้เศรษฐกิจท่ีมีประโยชน์
ในเชิงพาณิชย์ ส่งผลให้ต้นไม้มีพุ่มที่ไม่สวยงาม หรือยืนต้นตาย จนต้นไม้ท่ีโตเต็ม
วัยที่ให้ดอกแล้วมีจานวนน้อยลง ทาให้ต้องปลูกซ่อมแซมบ่อย สินเปลือง
งบประมาณ และตอ้ งใชเ้ วลาอกี นานกว่าทีต่ น้ ไมท้ ่ีปลูกเพมิ่ ใหม่เหล่านันจะให้ดอก
ขอ้ มลู ประกอบการพจิ ารณาคัดเลือกดอกไมป้ ระจาจังหวัดสิงห์บรุ ี
คณุ ลักษณะของพรรณไมท้ ี่สมควรเสนอเปน็ ดอกไม้ประจาจังหวดั สงิ ห์บุรี
4. เป็นต้นไม้ท่ีมีแพร่หลาย มีราคาไม่สูง ส่วนราชการสามารถซือปลูกได้โดยไม่ใช้
งบประมาณจานวนมากนัก ประชาชนทั่วไปเข้าถึง ก็จะสามารถซือปลูกเองได้
เป็นการเพิ่มจานวนพรรณไม้
5. เป็นร่มเงาได้ เพื่อสร้างบรรยากาศ และต่อยอดการท่องเท่ียวชนิดอื่นๆ ได้
นอกเหนือจากการเป็นจุดชมทัศนียภาพ ถ่ายภาพ ซึ่งจะเป็นเพียงการท่องเท่ียว
ในระยะเวลาสันๆ เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ - ป่ันจักยาน วิ่ง การ
ท่องเที่ยวพักแรม - ลองสเตย์ และโฮมสเตย์ เป็นต้น ซ่ึงจะเป็นการท่องเท่ียวใน
ระยะยาว เกิดผลตอ่ เศรษฐกิจของจงั หวดั มากกวา่
ขอ้ มูลประกอบการพิจารณาคดั เลอื กดอกไมป้ ระจาจังหวดั สิงหบ์ ุรี
คณุ ลกั ษณะของพรรณไมท้ ีส่ มควรเสนอเปน็ ดอกไมป้ ระจาจงั หวดั สิงห์บุรี
6. เป็นต้นไม้ที่ไม่สร้างผลกระทบให้กับระบบนิเวศเดิม เกิดผลกระทบเชิงลบใน
พืนท่ีน้อย เช่น ต้องมีความแข็งแรง ไม่หักโค่นง่าย ดอกไม่มกี ลิ่นไม่พึงประสงค์
ไม่มีลักษณะเป็นกาฝากท่ีทาลายต้นไม้อื่นรอบข้าง ไม่ทาลายคุณภาพดิน และ
นา เปน็ ตน้
ขอ้ มลู ประกอบการพจิ ารณาคดั เลอื กดอกไม้ประจาจงั หวัดสิงหบ์ รุ ี
พรรณไมท้ ี่เสนอเป็นดอกไมป้ ระจาจงั หวดั สงิ ห์บุรี
1. ทองอไุ ร
2. สาละลงั กา
3. หางนกยงู
4. ราชพฤกษ์ หรอื คูน
5. เหลืองปรดี ยี าธร
6. ชมพูพนั ธ์ทุ ิพย์
ขอ้ มลู ประกอบการพิจารณาคัดเลือกดอกไมป้ ระจาจงั หวัดสิงห์บรุ ี
ทองอไุ ร
ต้นทองอุไร พบกระจายทั่วไปตามเส้นทางสารวจ ซ่ึงได้รับความนิยมในการปลูกในช่วงที่ผ่าน
มาเพื่อถวายเปน็ พระราชกุศลเน่อื งในโอกาสวนั เฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหา
วชิราลงกรณบดนิ ทรเทพวรางกูร ปัจจุบันยงั ไมไ่ ดบ้ รรจุเป็นดอกไมป้ ระจาจังหวดั ใด
ลกั ษณะ เปน็ ไม้พมุ่ สงู 2-4 เมตร ไม่ผลัดใบ พ่มุ เรือนยอดทรงกลมหรือรูปไข่ เปลือกต้นสีนาตาลอ่อน
ดอกสีเหลือง ออกเป็นชอ่ กระจายท่ีปลายกิ่ง ทรงระฆัง กลีบดอกบาง ร่วงง่าย ออกดอกตลอดทงั ปี
ขอ้ มลู ประกอบการพิจารณาคดั เลอื กดอกไมป้ ระจาจังหวัดสิงห์บุรี
การใชป้ ระโยชน์ เปน็ ไม้ประดับ มสี รรพคณุ ทางสมนุ ไพร
การปลูก การดูแลรักษา ปลูกเลียงง่าย ทนแล้งได้ดี เจริญเติบโตเร็ว เติบโตได้ในดินทุกสภาพ
ชอบแสงแดดปานกลางถงึ แดดจดั ขยายพนั ธง์ุ ่ายด้วยการเพาะเมล็ดและตอนกงิ่
ความเช่ือ ทองอุไร เป็นไม้มงคลอีกชนิดหนึ่ง ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ รูปทรงเป็นช่อเป็นรวงงดงาม
และทนแดดได้ดคี นโบราณเชื่อวา่ ทองอุไรจะเสริมโชคชะตาของผู้ปลูก ให้มีความเจริญรุ่งเรือง
มีเงินทองร่ารวยมั่งค่ัง สมดั่งช่ือทองอุไรและอีกช่ือหนึ่งของทองอุไรก็คือ “ดอกสร้อยทอง” ซงึ่ ก็
ถือว่า เป็นมงคลนามด้วยเช่นกัน นอกจากความเช่ือในเรื่องของเงินๆ ทองๆ ตามช่ือแล้ว ยัง
เช่ือกันว่า ทองอุไร จะเสริมวาสนาบารมี ช่วยให้ผู้ปลูกไม้นีได้มีเกียรติมีลาภยศสูงส่งอีกด้วย
นอกจากนยี งั เปน็ ไม้มงคลประจาคนทีเ่ กดิ วนั พธุ ดว้ ย
ถิน่ กาเนดิ สหรัฐอเมริกา เมก็ ซิโก ทางเหนอื ของอารเ์ จนตนิ า และแถบหมู่เกาะอินดีสตะวันตก
ข้อมูลประกอบการพจิ ารณาคดั เลือกดอกไมป้ ระจาจังหวดั สิงหบ์ ุรี
จุดแข็ง / โอกาส จุดออ่ น / อุปสรรค
1) เป็นไม้พุ่มยืนต้นอายุค่อนข้างยืนยาว หากปลูก 1) เป็นไม้พุ่มยืนต้นขนาดเล็ก สูง 2-4 เมตร ไม่
กลางแจ้งจะมีรูปทรงท่ีสวยงาม ไม่มีความ สามารถสรา้ งรม่ เงาได้มากนกั
จาเปน็ ต้องตดั แตง่ ทรงพุม่ 2) ไม่สามารถสังเกตเห็นได้จากที่ไกล หากถูกบดบัง
2) ออกดอกสีเหลืองสวยงามตลอดทังปี มีกล่ินหอม ด้วยต้นไมอ้ ่นื ทมี่ ขี นาดใหญก่ ว่า
ออ่ นๆ 3) ไม่ทนต่อนาท่วมขัง และไม่ควรปลูกในพืนที่ที่มี
3) เตบิ โตได้ในดินทุกสภาพ ไม่ผลัดใบ ดูแลรักษาง่าย ระดบั นาใตด้ นิ สงู
ทนแล้ง เจรญิ เติบโตเรว็ 4) กลบี ดอกบาง ร่วงชาง่าย
4) ไม่สร้างผลกระทบให้กับระบบนิเวศเดิม เกิดผล
กระทบเชิงลบในพนื ท่ีนอ้ ย
5) เปน็ หนง่ึ ในไม้มงคล ช่ือมีความหมายดี
6) มสี รรพคุณทางสมนุ ไพร ดอกสามารถรับประทาน
ได้
7) หาซอื ไดง้ า่ ย ราคาไมแ่ พง ขยายพนั ธไุ์ ด้งา่ ย
ข้อมลู ประกอบการพิจารณาคดั เลือกดอกไมป้ ระจาจังหวัดสิงห์บุรี
สาละลังกา
ต้นสาละลังกา พบมากบริเวณวัดพระนอนจักสีห์วรวิหาร ปัจจุบันยังไม่ได้บรรจุเป็นดอกไม้
ประจาจังหวัดใด
ลักษณะ ไมย้ ืนตน้ ขนาดกลางถึงใหญ่ ผลัดใบ ความสูง 15 – 25 เมตร ทรงพุ่มกลม เปลือกตน้ สีนาตาลแกม
เทา แตกเป็นร่อง และเป็นสะเก็ด ออกดอกเป็นช่อขนาดใหญ่ตามลาต้น ช่อดอกยาว ปลายช่อดอกโน้มลง
เส้นผา่ นศูนยก์ ลางดอก 5 – 10 เซนติเมตร กลบี ดอกหนา 4 – 6 กลบี สีชมพอู มเหลืองหรือแดง ด้านในสีม่วง
ออ่ นอมชมพู ทยอยบานจากโคนชอ่ ไปหาปลายช่อ สีชมพูแกมเหลือง ออกดอกเกอื บตลอดปี ผลแหง้ ทรงกลม
ใหญ่ ขนาด 10 - 20 เซนตเิ มตร เปลอื กแข็งสีนาตาลปนแดง ผลสุกมีกลิน่ เหม็น มเี มลด็ รปู ไข่จานวนมาก
ขอ้ มูลประกอบการพิจารณาคดั เลือกดอกไม้ประจาจงั หวดั สิงห์บรุ ี
การใช้ประโยชน์ ดอกมลี กั ษณะสวย และมกี ล่นิ หอมนาไปถวายพระได้ ผลกนิ ได้แต่ไม่เป็นท่ีนิยม
เน่ืองจากมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ แต่มีการนาไปใช้ในการเลียงสัตว์ เช่น หมู ไก่ ไม้มีเนือแข็งใช้
สร้างบ้านเรือน ต่อเรือ หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ นามันที่ได้จากเมล็ดนามาทาอาหาร เช่น ทาเนย
และใช้เป็นนามันตะเกียง รวมทังใช้ทาสบู่ สรรพคุณด้านสมุนไพร ยางใช้เป็นยาสมานแผล ยา
ห้ามเลือด ใช้แก้โรคผิวหนัง ตุ่มพุพอง โรคซิฟิลิส โกโนเรีย วัณโรค โรคท้องร่วง บิด โรคหู
อักเสบ เปน็ ตน้ สว่ นผลของตน้ ใช้แกโ้ รคทอ้ งเสีย ท้องรว่ ง
การปลูก การดูแลรักษา เจริญเติบโตช้า ต้องการนาปานกลาง เติบโตได้ในดินทุกสภาพ ชอบ
แสงแดดปานกลางถงึ แดดจัด ขยายพนั ธ์ุดว้ ยการเพาะเมล็ด
ขอ้ มูลประกอบการพจิ ารณาคัดเลือกดอกไมป้ ระจาจังหวดั สิงหบ์ รุ ี
ความเชื่อ ต้นสาละลังกาหรือต้นลูกปืนใหญ่ไม่ได้เก่ียวข้องกับพุทธประวัติแต่อย่างใด สาละท่ี
เกี่ยวข้องกับพุทธประวัติคือ สาละใหญ่ หรือ มหาสาละ หรือ สาละอินเดีย เป็นไม้วงศ์ยางที่มี
ความสาคัญเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าโดยตรง ทังตอนประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ในปี
พ.ศ.2424 สวนพฤกษศาสตร์ศรีลังกาได้นาเข้าต้นลูกปืนใหญ่จากตรินิแดด และโตเบโก ต่อมาได้
ขยายพันธุ์ไปทั่วศรีลังกา กระท่ังมีการนาจากศรีลังกาเข้ามาปลูกในประเทศไทย ชาวศรีลังกาเรียก
ตน้ ลูกปืนใหญ่นีว่า ซาล (Sal) โดยไม่ปรากฏเหตุผล และไม่ทราบความเป็นมาของตน้ ลูกปืนใหญ่
ส่วนมากอ้างว่านามาจากอินเดีย จึงได้มีการจาแนกช่ือท่ีพ้องกันเพื่อเรียกให้ถูกต้องว่าต้นสาละ
(Sal Tree) หรือสาละอินเดยี (Sal of India) และตน้ ลูกปืนใหญ่ (Cannon Ball Tree) หรือสาละ
ลังกา (เรียกเฉพาะในไทย) แต่ด้วยความไม่รู้ความเป็นมา และช่ือเดิม ชาวไทยจึงนิยมเรียกแยกว่า
สาละอินเดียกบั สาละลงั กา และเชอ่ื วา่ เป็นต้นไม้ท่เี กยี่ วข้องกับพทุ ธประวัติ
ถิ่นกาเนิด แถบทวปี อเมริกาใตใ้ นประเทศเปรู โคลัมเบีย บราซิล และประเทศใกลเ้ คียง
ขอ้ มลู ประกอบการพิจารณาคัดเลือกดอกไมป้ ระจาจังหวดั สิงห์บรุ ี
จุดแข็ง / โอกาส จดุ ออ่ น / อุปสรรค
1) เปน็ ไมย้ ืนต้นขนาดใหญ่ อายยุ นื ยาว สร้างร่มเงา 1) ผลของต้นสาละลังกามีเปลือกแข็ง ขนาดส้มโอ
2) เติบโตได้ในดินทุกสภาพ ทนแล้ง ทนทานต่อดิน ย่อมๆ หากตกใส่ก็อาจทาให้บาดเจ็บได้ จึงไม่
ฟ้าอากาศ ทนนาทว่ มขงั ได้ เหมาะแก่การนัง่ พกั หรอื ทากิจกรรมใต้ตน้ ไม้
3) ออกดอก ผลตลอดปี ดอกใหญ่สวยงาม กลีบหนา 2) เจริญเตบิ โตชา้
กล่ินหอมทน 3) ใช้เวลาหลายปกี วา่ จะเรม่ิ ออกดอก
4) ไม่สร้างผลกระทบให้กับระบบนิเวศเดิม เกิดผล
กระทบเชงิ ลบในพนื ทีน่ อ้ ย
5) เนือไม้ใช้ประโยชน์ด้านการก่อสร้าง ผลเป็น
อาหารสัตว์ เมล็ดหีบนามันใช้ประโยชน์ได้ มี
สรรพคุณทางสมุนไพร
6) หาซือไดง้ ่าย ต้นกล้ามรี าคาไม่แพง
7) เป็นไม้ประดับเชิงการค้า ต้นท่ีโตแล้ว สามารถ
ขายเป็นไมล้ อ้ มได้ มรี าคาสูง
ข้อมูลประกอบการพิจารณาคัดเลือกดอกไมป้ ระจาจงั หวัดสิงหบ์ ุรี
หางนกยงู ฝรั่ง
ต้นหางนกยูงฝรัง่ พบการกระจายพันธ์ุทว่ั ไปในจงั หวดั สิงห์บุรี มากกว่าหางนกยูงไทย แต่ไม่ได้มี
จานวนมาก หรือเปน็ แนวยาว ปจั จบุ นั ยังไมไ่ ด้บรรจุเป็นดอกไมป้ ระจาจังหวัดใด
ลักษณะ ไม้ยืนต้นขนาดกลาง วงศ์ถ่ัว ผลัดใบ ความสูง 10 - 15 เมตร ทรงพุ่มรูปร่ม ลาต้นเกลียง เปลือก
ต้นเรียบสีนาตาลอ่อนถึงสีนาตาลเข้ม โคนต้นเป็นพูพอน มักมีรากโผล่พ้นดินออกโดยรอบเมื่อโตเต็มที่
ระบบรากแข็งแรง ดอกเป็นช่อเชิงหล่ันขนาดใหญ่ ออกท่ีปลายก่ิงหรือก่ิงข้าง กลีบดอก 5 กลีบ ขนาดไม่
เทา่ กนั ออกดอกได้ตลอดทงั ปี แต่จะออกดอกมากในช่วงเดอื นเมษายน - พฤษภาคม
ข้อมลู ประกอบการพิจารณาคัดเลอื กดอกไมป้ ระจาจังหวัดสิงห์บุรี
การใชป้ ระโยชน์ นิยมปลูกเป็นไม้ประดบั มีสรรพคุณทางด้านสมุนไพร เมล็ดอ่อนของหางนกยูง
ฝร่ังนามากนิ สดๆ ได้ มีรสหวานมันเลก็ นอ้ ย สาหรับเมล็ดแก่ตอ้ งนามาทาให้สุกเสียก่อนจึงจะใช้
กินได้ เพราะมสี ารประกอบบางชนิดทเี่ ป็นพษิ ดอกสามารถนามาไลแ่ มลงหวไ่ี ด้
การปลูก การดูแลรักษา เจริญเติบโตเร็ว ทนแล้งได้ดี ต้องการนาปานกลาง เติบโตได้ในดินทุก
สภาพ ชอบแสงแดดปานกลางถึงแดดจัด ขยายพันธุ์งา่ ยด้วยการเพาะเมล็ด ปักชา ตอนกิ่ง และ
เสยี บยอด
ความเช่ือ ตน้ หางนกยูง (ไม่แยกว่าเป็นหางนกยูงฝร่ัง หรือหางนกยูงไทย) นันเป็นไม้มงคลชนิด
หน่ึงที่ถูกใช้ประกอบพิธีกรรมศักด์ิสิทธิ์ทางภาคเหนือ ด้วยเชื่อว่าเป็นต้นไม้ท่ีจะนาความ
เจริญรุ่งเรือง และนาข่าวดีมาให้ นอกจากนีต้นหางนกยูงยังเป็นไม้มงคลประจาคนที่เกิดวัน
อาทิตย์ ช่วยส่งเสริมอานาจ และบารมีที่มีต่อบริวาร แต่ต้องปลูกในทิศตะวันออกหรือ
ตะวนั ออกเฉียงเหนือของตัวบ้าน
ถิ่นกาเนดิ เกาะมาดากสั การ์ และทวปี แอฟริกา
ข้อมูลประกอบการพิจารณาคดั เลือกดอกไม้ประจาจงั หวดั สิงห์บุรี
จดุ แขง็ / โอกาส จดุ ออ่ น / อุปสรรค
1) เป็นไม้ยืนต้นอายุยืนยาว พุ่มแผ่กว้าง สร้างร่มเงา 1) ทรงพุ่มแผก่ วา้ ง แต่ไม่สวยงาม
ได้ดี 2) ไม่ทนตอ่ นาท่วมขงั
2) ออกดอกสีแสดสวยงาม ตลอดทังปี 3) ระยะเวลาออกดอกกินระยะเวลาเพยี งประมาณ 1
3) เป็นไม้วงศ์ถ่ัว สามารถยึดไนโตรเจนในดินได้ดี ใบ เดือน
ที่ร่วงเปน็ อาหารสาหรบั พืช และสัตวไ์ ด้ 4) ระบบรากอาจส่งผลตอ่ สง่ิ กอ่ สรา้ งใกลเ้ คียงได้
4) เติบโตได้ในดินทุกสภาพ ดูแลรักษาง่าย ทนแล้ง
เจรญิ เตบิ โตเร็ว
5) ไม่สร้างผลกระทบให้กับระบบนิเวศเดิม เกิดผล
กระทบเชิงลบในพืนทีน่ ้อย
6) เปน็ หนง่ึ ในไม้มงคล ชื่อมคี วามหมายดี
7) มีสรรพคุณทางสมนุ ไพร สามารถรับประทานได้
8) หาซือได้ง่าย ราคาไม่แพง ขยายพันธุ์ได้ง่ายด้วย
การเพาะเมลด็
ข้อมูลประกอบการพจิ ารณาคัดเลอื กดอกไม้ประจาจังหวัดสิงห์บรุ ี
ราชพฤกษ์
ตน้ หางนกยูงฝรั่ง พบการกระจายพันธุ์ท่ัวไปในจังหวดั สิงห์บุรี ริมถนนเป็นแนวยาว เป็นดอกไม้
ประจาจงั หวัดขอนแกน่ และจงั หวดั นครศรีธรรมราช
ลักษณะ ไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลัดใบ มีความสูง 10–20 เมตร ดอกเป็นช่อยาว 20–40 เซนติเมตร แต่ละ
ดอกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4–7 เซนติเมตร มีกลีบดอกสีเหลืองขนาดเท่ากัน 5 กลีบ ผลยาว 30 - 62
เซนติเมตร และกว้าง 1.5 - 2.5 เซนติเมตร มีกลิ่นฉุน และมีเมล็ดท่ีมีพิษเป็นจานวนมาก ออกดอกระหว่าง
เดือนกุมภาพันธ์ - เดือนพฤษภาคม
ขอ้ มูลประกอบการพจิ ารณาคดั เลือกดอกไม้ประจาจังหวัดสิงห์บรุ ี
การใชป้ ระโยชน์ ใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ทังในการก่อสร้าง การปรับภูมิทัศน์ และสรรพคุณเป็น
สมุนไพร
การปลูก การดูแลรักษา ต้นราชพฤกษ์จะเจริญเติบโตได้ช้าในระยะเวลาประมาณ 1 - 3 ปีแรก
หลังจากนันต้นราชพฤกษ์จะเจริญเติบโตเร็วขึน เปลือกจะเป็นสีนาตาลเรียบ มีรากแก้วยาวสี
เหลือง และมีรากแขนงเป็นจานวนมาก เม่ือตน้ ราชพฤกษม์ ีอายุ 4 – 5 ปี จึงออกดอก และมี
เมล็ดเพ่ือเจริญเติบโตต่อไป ต้องการนาปานกลาง เติบโตได้ในดินทุกสภาพ ชอบแสงแดดปาน
กลางถึงแดดจัด ขยายพันธดุ์ ้วยการเพาะเมล็ด
ความเชื่อ ต้นราชพฤกษ์เป็นต้นไม้มงคลนิยมใช้ประกอบพิธีที่สาคัญ เช่น พิธีเสาไม้หลักเมือง
เป็นส่วนประกอบในการทาไม้คฑาจอมพล และยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร ทาพิธีปลูก
บ้าน ฯลฯ เป็นสัญลกั ษณ์ประจาชาตไิ ทย
ถนิ่ กาเนิด แถบเอเชียใต้ เอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้
ข้อมูลประกอบการพิจารณาคดั เลอื กดอกไม้ประจาจงั หวัดสิงหบ์ ุรี
จุดแขง็ / โอกาส จดุ ออ่ น / อปุ สรรค
1) เป็นไม้ยนื ต้นอายุยืนยาว พุ่มแผก่ ว้าง สร้างรม่ เงา 1) โตช้าในช่วงแรก จาเป็นต้องให้นาบ่อยในช่วง 3 -
2) ออกดอกสีเหลืองเป็นช่อสวยงาม โดยมีสี และ 4 ปี แรกปลูก จึงจะสามารถทนต่อสภาพ
ช่วงเวลาเดียวกันกบั วันมาฆบูชา ธรรมชาติได้ดี
3) เติบโตได้ในดินทุกสภาพ ดูแลรักษาง่าย ทนแล้ง 2) แม้ไมค่ อ่ ยมปี ัญหาเรอื่ งโรค เพราะเป็นไม้ที่ทนทาน
ทนทานตอ่ ดินฟา้ อากาศ ทนนาท่วมขงั ได้ ต่อสภาพธรรมชาติพอสมควร แต่ถ้ามีแมลงเข้า
4) ไม่สร้างผลกระทบให้กับระบบนิเวศเดิม เกิดผล ทาลายอาจยนื ต้นตายทงั กลมุ่
กระทบเชงิ ลบในพืนทีน่ อ้ ย 3) ผลของต้นราชพฤกษ์มีขนาดยาวเปลือกแข็ง แก่
5) ระยะเวลาออกดอกกินระยะเวลาประมาณ 3 ประมาณเดือนตุลาคม - เดือนธันวาคม หากตกใส่
เดือน กอ็ าจทาใหบ้ าดเจบ็ ได้ ในชว่ งดังกล่าวจึงไม่เหมาะ
6) เป็นหน่งึ ในไมม้ งคล ชื่อมคี วามหมายดี แก่การนัง่ พกั ผอ่ น หรือทากจิ กรรมใตต้ ้นไม้
7) ใช้ประโยชน์ไดท้ ุกส่วน มีสรรพคณุ ทางสมนุ ไพร
8) หาซือไดง้ า่ ย ราคาไม่แพง ขยายพันธ์ุไดง้ า่ ย
ข้อมลู ประกอบการพจิ ารณาคัดเลอื กดอกไมป้ ระจาจังหวดั สิงหบ์ ุรี
ต้นเหลืองปรีดียาธร
ต้นเหลืองปรีดยี าธร พบการกระจายพันธุท์ ่วั ไปในจังหวัดสิงห์บุรีริมถนน มักปลูกแซมกับต้นราช
พฤกษ์ ปจั จุบนั ยงั ไมไ่ ด้บรรจเุ ป็นดอกไมป้ ระจาจงั หวัดใด
ลักษณะ ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ผลัดใบ ความสูงไม่เกิน 8 เมตร ใบเป็นใบประกอบแบบนิวมือที่มี
5 ใบย่อย เรียงตัวแบบตรงข้ามสลับตังฉาก ใบรูปรี ขอบเรียบ ช่อดอกแบบช่อกระจุก สมบูรณ์
เพศ สมมาตรด้านข้าง กลีบเลียง 5 กลีบ เชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็นแฉก กลีบดอก 5 กลีบ
เชอื่ มติดกันเป็นรูปแตร สีเหลอื ง ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์ - มนี าคม
ข้อมลู ประกอบการพิจารณาคัดเลือกดอกไม้ประจาจังหวดั สิงหบ์ รุ ี
การใชป้ ระโยชน์ เป็นไมป้ ระธานสาหรบั ตกแต่งสวน ใชใ้ นงานด้านภมู ทิ ศั น์
การปลูก การดูแลรักษา โตช้า เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วน ระบายนาดี ตน้ เจริญเติบโตได้แม้ใน
สภาวะแห้งแล้ง ชอบแสงแดดจัด ขยายพนั ธ์ุด้วยการเพาะเมล็ด และการตอนก่ิง ซงึ่ ปัจจุบันถือ
ว่าเป็นไม้ประดับเชิงการค้า โดยนิยมขยายพันธุ์แบบการตอนมากกว่า เพราะจะโตเร็วกว่าการ
เพาะเมล็ด
ความเชื่อ ต้นเหลืองปรีดียาธร เป็นพันธุ์ไม้นอกนาเข้ามาปลูกในประเทศไทยมาจากประเทศ
อินโดนีเซีย โดยหม่อมราชวงศ์พนั ธทุ์ พิ ย์ บรพิ ัตร ชายาในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏ
พงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต เป็นไม้มงคลประจาชาติของประเทศเอลซัลวาดอร์
การนาเข้ามาปลูกในประเทศไทยถูกเปลี่ยนนามเรียกขานทัง 9 สายพันธุ์ตามนามของหม่อม
ราชวงศ์ต่างๆ (หม่อมราชวงศ์ปรีดียาธร เทวกุล) เชื่อว่าเป็นต้นไม้มงคลที่สามารถช่วยให้เกิด
ความเจริญเจรญิ รงุ่ เรอื งแกผ่ ู้ปลูก เป็นไม้ประดับทีม่ ที งั ความงาม และคณุ คา่ ทางจิตใจ
ถน่ิ กาเนดิ แถบทวีปอเมรกิ ากลาง และอเมรกิ าใต้
ข้อมลู ประกอบการพิจารณาคัดเลือกดอกไม้ประจาจงั หวดั สิงหบ์ ุรี
จดุ แขง็ / โอกาส จุดออ่ น / อปุ สรรค
1) เป็นไมย้ นื ตน้ อายุยนื ยาว สร้างรม่ เงาได้ 1) ไม่ทนต่อนาท่วมขัง และไม่ควรปลูกในพืนท่ีท่ีมี
2) ออกดอกสีเหลอื งเต็มตน้ สวยงาม ระดบั นาใต้ดนิ สงู เพราะจะทาใหไ้ มค่ อ่ ยออกดอก
3) เตบิ โตไดใ้ นดินทุกสภาพ ดูแลรักษาง่าย ทนแล้ง 2) เจรญิ เติบโตชา้
4) ไม่สร้างผลกระทบให้กับระบบนิเวศเดิม เกิดผล 3) ระยะเวลาออกดอกกินระยะเวลาเพียงประมาณ 1
กระทบเชิงลบในพนื ทนี่ ้อย เดือน
5) ชือ่ มคี วามหมายดี เป็นมงคล 4) กลีบดอกบาง ร่วงชาง่าย
6) หาซือได้ง่าย ราคาไม่แพง ขยายพันธุ์ได้ง่ายด้วย
การเพาะเมล็ด และการตอนกง่ิ
7) เป็นไม้ประดับเชิงการค้า ต้นท่ีโตแล้ว สามารถ
ขายเป็นไม้ล้อมได้ มรี าคาสูง
ข้อมลู ประกอบการพิจารณาคัดเลอื กดอกไมป้ ระจาจงั หวดั สิงหบ์ ุรี
ชมพูพันธท์ุ ิพย์
ตน้ ชมพูพันธุท์ ิพย์ พบการกระจายพันธ์ุท่ัวไปในจังหวดั สิงห์บุรี แต่ไม่ได้มีจานวนมาก หรือเป็น
แนวยาว ปัจจุบนั ยังไม่ไดบ้ รรจุเปน็ ดอกไม้ประจาจังหวัดใด
ลักษณะ ไม้ยืนต้น ขนาดกลางถึงใหญ่ ผลัดใบ เรือนยอดรูปไข่หรือทรงกลม แผ่กว้างเป็นชัน เปลือกต้น
เรียบสเี ทาหรือสีนาตาล แตกเป็นรอ่ ง กงิ่ เปราะหกั ง่าย ใบประกอบรูปนิวมือ ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบ
ใบเรียบหนาเขียวเข้ม ดอกสีชมพูอ่อน เป็นช่อกระจุกที่ปลายกิ่งจานวนมากติดกัน ปลายแยกเป็น 5 แฉก
คล้ายรูปแตร มักบานพร้อมกัน ร่วงง่าย ผลแห้งเป็นฝักกลม เมล็ดแบนสีนาตาลมีปีก ขยายพันธุ์ด้วยการ
เพาะเมลด็ หรอื ตอนก่ิง ทยอยออกดอกตังแต่ช่วงปลายเดอื นธันวาคม และออกดอกเตม็ ท่ชี ว่ งเดือนมนี าคม
ข้อมลู ประกอบการพจิ ารณาคัดเลอื กดอกไมป้ ระจาจังหวดั สิงห์บรุ ี
การใช้ประโยชน์ ปลูกเป็นไม้ประดับเน่ืองจากมีสีดอกที่สวยงาม ใช้ในงานด้านภูมิทัศน์ และมี
สรรพคณุ เปน็ สมุนไพร
การปลูก การดแู ลรกั ษา เจรญิ เตบิ โตเรว็ ระบบรากแข็งแรง ดแู ลรักษาง่าย ทนแล้งไดด้ ี ทนทาน
ตอ่ ดนิ ฟ้าอากาศ ทนนาท่วมขัง และโรคแมลง เติบโตไดใ้ นดนิ ทุกสภาพ ชอบแสงแดดปานกลาง
ถึงแดดจัด ขยายพันธุ์ง่ายมากด้วยการเพาะเมลด็ ปกั ชา ตอนกง่ิ และเสียบยอด
ความเช่ือ เป็นต้นไม้สกุลเดียวกับเหลืองปรีดียาธร (ตะเบบูญ่า/Tabebuia) เชื่อว่าเป็นต้นไม้ที่
เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก สื่อถึงความปรารถนาดี ระหว่างผู้คนในสังคม และช่วยเช่ือมโยงให้
มนุษย์เข้าถึงธรรมชาติได้อย่างลงตัว ได้รับการขนานนามว่า “ซากุระเมืองไทย” อีกชนิดหน่ึง
ผูน้ าเข้ามาปลูกในประเทศไทยคือ หม่อมราชวงศ์พันธ์ุทิพย์ บริพัตร ชายาในพระเจ้าวรวงศ์เธอ
พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต เม่ือปี 2500 จึงได้ตังชื่อต้นไม้
ชนิดนีตอ่ มาวา่ ชมพูพันธ์ทุ ิพย์ เพอ่ื เป็นเกียรติแกบ่ คุ คลทน่ี าเข้ามาครงั แรกในประเทศไทย
ถนิ่ กาเนดิ แถบทวีปอเมริกากลาง และอเมรกิ าใต้
ขอ้ มลู ประกอบการพิจารณาคัดเลอื กดอกไมป้ ระจาจังหวัดสิงหบ์ รุ ี
จดุ แข็ง / โอกาส จดุ อ่อน / อปุ สรรค
1) เป็นไม้ยืนต้นอายุยืนยาว พุ่มแผ่กว้าง สร้างร่มเงาได้ดี หากปลูก 1) ก่ิงค่อนข้างเปราะ และระบบรากที่แข็งแรง อาจ
กลางแจง้ จะไดพ้ ่มุ ทีส่ วยงาม
สง่ ผลตอ่ สิ่งกอ่ สร้างใกล้เคยี งได้
2) ออกดอกสีชมพูอ่อนเต็มต้นสวยงาม โดยมีสี ความเชื่อ และ
ชว่ งเวลาเดยี วกันกับเทศกาลวันแหง่ ความรกั (Valentine day) 2) กลีบดอกบาง รว่ งชางา่ ย
3) เจริญเตบิ โตเรว็ มีระบบราก และรากแก้วแขง็ แรง
4) เติบโตได้ในดินทุกสภาพ ดูแลรักษาง่าย ทนแล้ง ทนทานต่อดิน
ฟา้ อากาศ ทนนาทว่ มขงั และโรคแมลง
5) ไม่สร้างผลกระทบให้กับระบบนิเวศเดิม เกิดผลกระทบเชิงลบใน
พนื ท่นี ้อย
6) ระยะเวลาออกดอกกนิ ระยะเวลาประมาณ 3 เดอื น
7) ช่อื มคี วามหมายดี เป็นมงคล
8) ลาตน้ และเย่อื ไมน้ าไปใชท้ ากระดาษได้ มสี รรพคณุ ทางสมนุ ไพร
9) หาซือได้ง่าย ราคาไม่แพง ขยายพันธุ์ได้ง่ายมาก ด้วยการเพาะ
เมลด็ และการตอนกิ่ง เมล็ดของต้นชมพูพันธ์ุทิพย์ที่ร่วงหล่นบน
พืนสามารถงอก และเจรญิ เติบโตเป็นตน้ กลา้ เองได้
ข้อมูลประกอบการพจิ ารณาคดั เลือกดอกไม้ประจาจังหวดั สิงห์บุรี
เปรยี บเทยี บจดุ แข็ง / โอกาส ของพรรณไมท้ ่ีเสนอชือ่ เป็นดอกไมป้ ระจาจังหวัดสิงหบ์ รุ ี
จดุ แขง็ / โอกาส ทองอไุ ร สาละลงั กา หางนกยูงฝรง่ั ราชพฤกษ์ เหลืองปรีดยี าธร ชมพูพนั ธุท์ พิ ย์
1) เป็นไม้ยนื ต้นอายยุ ืนยาว
2) สร้างร่มเงาได้
3) มดี อกสวยงาม
4) ออกดอกตลอดปี
5) มีกลน่ิ หอม
6) ช่วงระยะเวลาออกดอกยาวนาน
7) เจรญิ เติบโตเรว็
8) ทนแลง้
9) ทนนาท่วมขัง
10) เตบิ โตได้ในดินทุกสภาพ
11) มีเกิดผลกระทบเชงิ ลบในพืนทีน่ ้อย
12) ขยายพันธงุ์ า่ ย
13) ช่อื มคี วามหมายดี เปน็ มงคล
14) ใชป้ ระโยชน์ไดน้ อกเหนือความสวยงาม
15) หางา่ ย ราคาไม่แพง
ขอ้ มลู ประกอบการพจิ ารณาคดั เลือกดอกไมป้ ระจาจังหวัดสิงหบ์ ุรี
เปรียบเทียบจดุ ออ่ น / อปุ สรรค ของพรรณไม้ท่เี สนอช่อื เป็นดอกไมป้ ระจาจังหวัดสิงหบ์ ุรี
จดุ แขง็ / โอกาส ทองอุไร สาละลงั กา หางนกยงู ฝรง่ั ราชพฤกษ์ เหลอื งปรดี ยี าธร ชมพพู ันธ์ุทพิ ย์
1) กลีบดอกบาง ร่วงชาง่าย
2) ผลกระทบต่อมนุษยท์ อี่ ยู่ใกลเ้ คียง
3) ผลกระทบต่อสิง่ กอ่ สร้างใกลเ้ คยี ง
4) เป็นอปุ สรรคในทางสญั จร
5) เจรญิ เตบิ โตชา้
6) ไม่ทนต่อนาท่วมขงั
7) ช่วงระยะเวลาออกดอกสัน
8) ปญั หาเรื่องโรค แมลง