The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การเตรียมความพร้อมก่อนสมัครเข้าทำงาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ดร.ณัฐพงษ์ เพ็ชร, 2022-07-08 08:36:23

การเตรียมความพร้อมก่อนสมัครเข้าทำงาน

การเตรียมความพร้อมก่อนสมัครเข้าทำงาน

การเตรียมความพร้อม ดร.ณัฐพงษ์ เพชรละออ
ก่อนเข้าทำงาน

การเตรียมตัวหางานที่เหมาะสมกับเรา?
การเตรียมตัวเพื่อสมัครงาน?

RESUME?

มันคืออะไร?
มีความสำคัญอย่างไร?
องค์ประกอบอย่างไร?
วิธีเขียนอย่างไรให้น่าสนใจ?

การเตรียมตัวสัมภาษณ์ ?
การเตรียมตัวเพื่อการทำงาน

-คำคม-

ขั้นตอนที่ 1
การเตรียมตัวหางานที่เหมาะสมกับเรา?

ลักษณะงานที่เหมาะสมกับเรา?

ต้องพิจารณาถึงงานต้องการคนที่มีคุณสมบัติอย่างไร?
มีความรู้ ทักษะอย่างไร ?

เช่น งานนั้นต้องการคนที่มีทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ ในระดับดี เราต้องมา

ดูว่าเราทำได้แค่ไหน ถ้าทำได้เราก็สมัครงานนี้ได้

องค์กร / บริษัท

-งานที่มีความมั่นคง สามารถจ้างงานเราได้นานแค่ไหน สามารถให้เราเป็นพนักงาน

ประจำได้ไหม ถ้าให้ในสิ่งที่เราได้ก็น่าจะสมัคร
-การเข้ากันได้ ระหว่างเรากับองค์กร ถ้าเข้ากันได้ก็จะมีความสุขในการทำงาน และ

สามารถทำได้ในระยะยาว

ขั้นตอนที่ 2

การเตรียมตัวเพื่อสมัครงาน




การจัดการ โซเชียลมีเดีย ?

จัดการทางโซเชียลมีเดียให้พร้อมใน

การสมัครงาน ควรปรับปรุงประวัติที่

สนับสนุนส่งเสริมที่เกี่ยวข้องกับงาน

หรือประสบการณ์ต่าง ๆ ใบประกาศนีย

บัตรฯ ส่วนที่เราได้ลงไว้ ข้อความไม่

เหมาะสมต่างๆ ควรไปลบหรือไปปิดกั้น

การมองเห็น เพราะเราไม่รู้ว่า คนเรียก

เราสัมภาษณ์คิดอย่างไร

ขั้นตอนที่ 2

การเตรียมตัวเพื่อสมัครงาน




เขียนประวัติส่วนตัวอย่างย่อ RESUME

การสร้าง RESUME เป็นการให้ข้อมูล

กับฝ่ายทรัพยากรบุคคล ควรเขียนให้

ทันสมัย เขียนโชว์ความรู้ ทักษะ ความ

สำเร็จ ที่เป็นประโยชน์กับบริษัทที่จะ

สมัครงาน

ขั้นตอนที่ 2
การเตรียมตัวเพื่อสมัครงาน


เขียนประวัติส่วนตัวอย่างย่อ RESUME

ขั้นตอนที่ 2

การเตรียมตัวเพื่อสมัครงาน




เขียนประวัติส่วนตัวอย่างย่อ RESUME

คำว่า RESUME กับ

คำว่า CV ต่างกันอย่างไร?

คือคำว่า RESUME กับคำว่า CV ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร

CV ก็คือการเขียนประวัติของเรานั่นเอง
เหมือนกับ RESUME หลาย ๆ คน ก็จะใช้ CV กับ RESUME สลับกันไป
- บางบริษัทก็อาจจะบอกว่า ให้นักศึกษาเขียน CV ส่งมา
- บางบริษัทก็อาจจะบอกว่าให้เขียน RESUME ส่งมา
แต่ CV มีการใช้มากในวงวิชาการ เช่น ถ้านักศึกษาอยากจะไปสมัครงาน
ที่เป็นเชิงวิชาการ หรือนักศึกษาอยากจะไปสอบชิงทุนในรายละเอียดก็อาจจะบอกว่าส่ง CV มา แต่ก็ไม่ต้อง

ตกใจเพราะว่า CV กับ RESUME ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก เพียงแต่ CV จะเน้นในเชิงวิชาการมาก เน้นเรื่องของ

ประวัติการศึกษาของนักศึกษา

ส่วน CV นั้นย่อมาจาก CURRICULUM VITAE ซึ่ง CV จะมีรายละเอียดมากกว่าและยาวกว่า RESUME

โดยจะเน้นประสบการณ์การทำงาน,ความสำเร็จในการทำงาน, ประสบการณ์การอบรมจากสถาบันต่าง ๆ

หรือ ผลงานต่าง ๆ มีอะไรบ้าง โดยการเขียน CV นั้นต้องเรียงลำดับ เหตุการณ์ของผลงาน
หรือความสำเร็จในการงานต่าง ๆ เพื่อให้บริษัทพิจารณาได้ง่ายและดูเป็นมืออาชีพ

THE WORLD IS CHANGING
VERY FAST?

- เราอยู่ในโลกยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงมาก ซึ่งภาษาอังกฤษ (THE WORLD IS
CHANGING VERY FAST) และก็โลกของเราก็จะเป็นโลกไร้พรหมแดน

- โลกของเราก็จะเป็นโลกยุคโลกาภิวัฒน์ เพราะฉะนั้นพอโลกเราเป็นแบบนี้จะทำให้
การสมัครงานของเรายากยิ่งขึ้น เพราะว่าคนชาติอื่นก็มาทำงานที่ประเทศไทยได้
คนไทยเองก็มีโอกาสที่จะไปทำงานในประเทศต่าง ๆ ได้

-เราสามารถไปทำงานในประเทศอาเชียนหรือในยุโรปได้หมด แต่ว่าสิ่งสำคัญก็คือเรามีคุณลักษณะ

ที่โลกต้องการไหม

โลกของเราต้องการ
คนที่มีคุณลักษณะ ?

โลกของเราต้องการคนที่มีคุณลักษณะ 2 แบบ

แบบที่ 1 ก็คือ ต้องมีความรู้ในศาสตร์ของตัวเอง

เช่น เป็นวิศวกรก็ต้องมีความรู้ทางวิศวกรรมศาสตร์อย่างโดดเด่น
เป็นแพทย์ก็ต้องรู้ศาสตร์ด้านแพทย์อย่างโดดเด่น
เป็นพยาบาลก็ต้องรู้ศาสตร์ด้านพยาบาลโดนเด่น
อาจารย์สอนภาษาอังกฤษก็ต้องโดนเด่นในศาสตร์ของตัวเอง

สิ่งที่เขาเห็นว่าเป็นตัวบ่งชี้เรื่องของศาสตร์ความรู้ของเราก็คือปริญญาฯ ที่เรามี

เพราะฉะนั้นทุกคนถึงต้องเรียนให้ได้ปริญญาฯ เพื่อจะเป็นตัวบ่งบอกว่า
คุณมีความรู้ในเรื่องนี้

คุณลักษณะของ

ความเป็นบุคคลของเรา ?

แบบที่ 2 คือ คุณลักษณะอีกประการหนึ่ง ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเรียน ก็คือคุณลักษณะของ
ความเป็นบุคคลของเรา ซึ่งโลกต้องการมาก และโลกอาจจะต้องการมากไม่ต่างจาก
ปริญญาของเรา เพราะว่ามันจะช่วยให้ทำงานได้ประสบความสำเร็จ

เช่น
เราจะต้องมีความสามารถในการบริหารจัดการตัวเอง
เราจะต้องมีความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
เราจะต้องมีความสามารถในการ วางแผนการทำงาน
เราจะต้องแก้ปัญหาที่เกิดจากการทำงาน

งานไม่ใช่เป็นงานที่เราทำไปได้เรื่อย ๆ โดยไม่มีปัญหา เพราะฉะนั้นคนที่สถานประกอบการต้องการ

มากที่สุด ก็คือคนที่แก้ไขปัญหาได้เก่ง โดยเฉพาะโลกในยุคนี้ มันจะมีปัญหามากมาย
เพราะฉะนั้นนักศึกษาก็ต้องตระหนักไว้ว่าโลกเขาต้องการคนแบบนี้

คุณลักษณะแบบไหน
ที่ใส่ใน RESUME ?

เราก็ต้องเอาคุณลักษณะแบบนี้ไปใส่ใน RESUME ของเราให้ได้
ให้เขาเห็น แต่เราคงจะไม่บอกตรง ๆ ว่าฉันเก่งเรื่องนี้
ฉันเป็นคนที่ทำงานกับผู้อื่นได้ดี / ฉันมีความสามารถด้านนี้

บอกไม่ได้โดยตรง แต่ต้องบอกผ่านกิจกรรมที่เราทำให้เขาเห็นว่าเราเป็นคน
ที่มีความสามารถ ความซื่อสัตย์ ความอดทน ความขยันหมั่นเพียร ความตรงต่อเวลา
ความสามารถในการทำงานเข้ากับผู้อื่นได้ ความสุภาพ นักศึกษาก็จะบอกคุณลักษณะพวกนี้ทั้งหมด

ทำอย่างไรที่เราจะถอดคุณลักษณะพวกนี้ไปใส่ใน RESUME ของเราให้ได้เพื่อจะให้เห็นว่าเราเป็นคน

ที่มีคุณลักษณะแบบนั้น บริษัทเลือกเราได้นะ ไปทำงาน เราเป็นคนที่จะไม่ทำให้สถานประกอบการผิดหวัง

ทักษะที่จำเป็น

ในศตวรรษที่ 21 ?

เพราะฉะนั้น นักศึกษาให้เวลาเขียน RESUME ก็อย่าเขียนเฉพาะว่าเราเคยทำ
อะไรมา เราจบอันนี้มาแค่นั้น เราก็ควรจะต้องใส่จุดที่โดดเด่น ที่เมื่อตอนต้นบอกไปแล้ว
ว่า RESUME ของเราต้องไม่เหมือนใคร เพราะฉะนั้นอะไรที่เป็นตัวโดดเด่นของเราก็เอามา
ใส่ได้หมด

ทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ที่เคยกล่าวในบทเรียนก่อนหน้านี้ นักศึกษาจะต้องมีความสามารถ

ในการปรับตัว ซึ่งภาษาอังกฤษจะเรียกว่า ADAPTABILITY ความสามารถในการปรับตัว เราก็อาจจะต้อง

ย้ายสถานประกอบการ ไปตรงนั้นตรงนี้

ตอนนี้ก็ไปตั้งสาขาอยู่ที่ประเทศต่าง ๆ เพราะฉะนั้นเราต้องสามารถที่จะไปอยู่ประเทศต่าง ๆ เหล่า

นั้นได้ เช่น ปตท. หรือซีพี ฯ เขาก็ไปตั้งสถานประกอบการในต่างประเทศ เราก็ควรจะไม่ยึดติดกับการ

อยู่เฉพาะเพียงในประเทศไทย

COMPLEX AND COMMUNICATION


SOCIAL SKILLS ?

ประเด็นที่สอง ก็คือ คนสมัยใหม่ต้องมี COMPLEX AND COMMUNICATION SOCIAL SKILLS
แปลว่า เราจะต้องมีทักษะ ความสามารถในการสื่อสารที่เก่ง
ประเด็นที่สาม ก็คือ ทักษะการแก้ปัญหาที่ไม่เคยเผชิญมาก่อน เรียกเป็นภาษาอังกฤษ
NON-ROUTINE PROBLEM SOLVING SKILLS เช่น การเกิดโรคระบาด โควิด 19
ตอนเริ่มต้น คุณหมอทั้งหลายไม่เคยรู้เลยว่าโรคโควิด 19 นี่มันเกิดอย่างไร
มันจะแก้ไขยังไงมีคนตายไปเยอะแยะ แต่คุณหมอในประเทศ สงสัยมันจะแพร่เชื้อทางอากาศ หรือเปล่าแล้ว

เขาก็ทำการศึกษาค้นคว้า ในที่สุดเขาก็หยุดยั้งการแพร่กระจายของโรคโควิด 19 ได้ดีขึ้น

อันนี้ เป็นคุณลักษณะที่เราจะต้องแสดงไว้ใน RESUMEว่าเราแก้ปัญหาได้ เราเป็นคนที่ไม่กลัวกับการ

เผชิญสิ่งใหม่ ๆ

SYSTEMS THINKING ?

ประเด็นที่สี่ ก็คือ ความสามารถในการบริหารจัดการตนเอง เราต้องบริหารจัดการตนเอง
ให้ได้ โลกทุกวันนี้วุ่นวายมากขึ้น ตื่นเช้าขึ้นมาก็ต้องไปทำงาน ไปเจรจาธุรกิจทำหลายอย่าง

บางคนสมัยใหม่นี้ต้องทำได้หลาย ๆ อย่าง ในเวลาเดียวกัน (MULTI-TASKING)
เราเองก็ต้องแสดงใน RESUME ว่าเราก็มีความสามารถอย่างนั้น
ประเด็นสุดท้าย ก็คือ เราจะต้องคิดแบบเป็นระบบภาษาอังกฤษก็จะเรียกว่า SYSTEMS THINKING
คิดอย่างเป็นระบบ

เราก็ต้องไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ตามใจชอบ
เราแสดงด้วยกิจกรรมอะไรไหม ที่ว่าเราจะสามารถจัดระบบได้
เราสามารถทำงานได้อย่างดี มีประสิทธิภาพ

RESPONSIBLE ORGANIZED


AND HARD WORKING ?

ในประกาศรับสมัครงานเราจะเห็นว่าจริง ๆ แล้วเค้าใส่รายละเอียดมาให้เราหมดแล้ว
ซึ่งเราสามารถจะใช้เนื้อหาจากใบประกาศรับสมัครงานนั้นนะ มาเขียนในเรซูเม่ของเรา
ขอยกตัวอย่างน เช่น อันนี้ได้มาจากบริษัทหนึ่ง บอกว่าคนที่เค้าต้องการ

คนที่ RESPONSIBLE ORGANIZED AND HARD WORKING แปลว่า บอกคุณลักษณะที่
ไม่ใช่เรื่องศาสตร์ความรู้ที่เราเพียงอย่างเดียว
ต้องการ

RESPONSIBLE ความรับผิดชอบนี่คือสิ่งที่บริษัททุกบริษัทต้องการคนที่รับผิดชอบ
ORGANIZED ต้องเป็นคนที่มีระบบระเบียบในการจัดการงานให้เรียบร้อย และ
HARD WORKING ต้องการคนที่ขยัน

ในโลกแห่งความเป็นจริง คนที่ทำงานอย่างมีระบบ คนที่รับผิดชอบ
และคนที่ขยันเป็นสิ่งที่สถานประกอบการต้องการ

BE ABLE TO WORK WELL BOTH

INDEPENDENTLY AND AS WELL AS A


GOOD TEAM PLAYER ?

อีกข้อความหนึ่งที่น่าสนใจมาก ๆ เลย เวลานักศึกษาไป อ่านใบประกาศรับสมัครงาน
ก็คือ BE ABLE TO WORK WELL BOTH INDEPENDENTLY AND AS WELL AS A GOOD TEAM
PLAYER แปลว่าไร คนซึ่งสามารถทำงานได้คนเดียวอย่างโดดเด่น และในขณะเดียวกันก็
ต้องทำงานเป็นทีมได้ เพราะฉะนั้นเราทุกคนก็จะต้องมาร่วมมือกันเพื่อจะทำงานนั้นให้สำเร็จ

ความสามารถด้านภาษา /IT SKILLS ?

ใบประกาศรับสมัครงานมักระบุก็คือความสามารถสองด้าน ก็คือ
- ความสามารถด้านภาษา

ภาษาอังกฤษ จีน ก็ถือว่าเป็นภาษาที่ได้รับความนิยม ควรได้ใส่ลงไปในเรซูเม่ของเราเลยว่า
ฉันพูดคล่องนะ ฉันใช้ภาษาได้
- อีกประเด็นนึงก็คือ IT SKILLS
IT SKILLS เนี่ยพลาดไม่ได้เลย เพราะว่าคนในยุคใหม่ ต้องมีความสามารถเชิงไอทีอย่างโดดเด่นมาก ๆ
เพราะฉะนั้นนักศึกษามีความรู้เรื่องไอทีอะไรบ้างต้องใส่ลงไปให้ละเอียด ในเรซูเม่เพื่อผู้ที่เค้าคัดเลือกใบเรซูเม่

อยู่ได้รู้ว่า คนนี้นะเหมาะกับบริษัท

AN INDEPENDENT THINKER ?

นอกจากจะบอกว่าต้องเก่งภาษา ต้องเก่งไอทีแล้ว ยังบอกว่า เราคิดเป็นเอง
AN INDEPENDENT THINKER คือเค้าในยุคนี้เค้าจะเน้นในเรื่องของคนที่ต้องคิดวิเคราะห์

สังเคราะห์ได้เก่งด้วยและก็ PROBLEM SOLVER คือ ต้องเป็นคนที่สามารถแก้ปัญหาได้

อย่างดี เราเองต้องเป็นคนที่จัดการแก้ปัญหาให้ได้

อีกประเด็นหนึ่งก็คือ HAVE A BIG SMILE ต้องยิ้ม ต้องเป็นคนที่ยิ้ม
และก็ต้องเป็นคนที่ GREAT ATTITUDE นี่คือ มีทัศนะคติที่ดี และก็มี A CAN DO SPIRIT
ต้องแสดงให้เค้าเห็นว่า เราเป็นคนที่มีความเชื่อมันในตัวเอง ว่าเราจะทำงานให้สำเร็จได้ใน

โลกยุคนี้

จะไม่มีใครที่จะชอบจ้างคนที่ พอสั่งงานแล้ว ทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องแสดงความ

มั่นใจให้เค้าเห็นผ่าน CV หรือ RESUME ของเรา

COVER LETTER ?

RESUME มันก็เขียนยากถ้ามันเป็นอะไรที่เราต้องใส่รายละเอียดตามที่กล่าวไว้ลงไป
เพราะฉะนั้นนักศึกษาต้องให้ความใส่ใจ เรียบเรียงว่าเราควรจะสื่อสาร ว่าเรามีความ

สามารถนี้อย่างไร

ประกาศรับสมัครงาน ในตอนท้าย ก็จะบอกให้เราส่ง RESUME หรือ CV ไป
ซึ่งถ้าเป็นประกาศรับสมัครงานภาษาอังกฤษก็จะเขียนว่า SENT YOUR RESUME AND A

COVER LETTER TO บริษัทนี้

COVER LETTER เป็นจดหมายปะหน้า เป็นสิ่งที่เราจะต้องส่งไปเพื่อจะบอก แสดงเจต

จำนงค์ว่าเราต้องการสมัครงานนี้
COVER LETTERนี่เขียนง่าย คือโดยปกติจะแบ่งออกเป็น สามย่อหน้า
ย่อหน้าที่หนึ่ง ก็จะบอกเค้าไปว่าเราเห็นประกาศรับสมัครงานนี้จากไหน
อันที่สอง คือ เรามีคุณสมบัตินี้ที่ตรงกับประกาศรับสมัครงาน
อันที่สาม ก็คือ บริษัทสามารถจะติดต่อเราเพื่อเรียกเราไปสัมภาษณ์ได้ที่ ADDRESS นี้

เพราะปกติเราก็จะให้เบอร์โทรศัพท์ หรือไม่ก็ E-MAIL

หลักการเขียน RESUME ให้ประทับใจ

คือ KISS ?

เราต้องเขียน RESUME เพื่อให้ประทับใจผู้ที่จะคัดเราเข้าไปทำงานเป็นงานที่ยาก
เพราะฉะนั้น มาดูกันว่าหลักการเขียน RESUME มีอะไรบ้าง
หลักกว้างมากก็คือให้คิดถึงคำว่า KISS (เค ไอ ดับเบิ้ล เอส) แปลว่าไร

K แปลว่า KEEP
I แปลว่า IT
S ตัวที่หนึ่งก็คือ SHORT
S ตัวที่สองก็คือ SIMPLE
เพราะฉะนั้นรวมกันแล้วก็เป็น KEEP IT SHORT SIMPLE
การเขียน RESUME ต้องนึกถึงหลักนี้ตลอด ก็คือ ต้องเขียนอย่างง่าย อ่านได้เข้าใจ

รวดเร็ว แล้วก็สั้น กะทัดรัด แบบเนี่ยคือหลักของ RESUME

หัวข้อของRESUME ที่สำคัญ ?

หลายคนก็จะบอกว่าเขียนในเรซูเม่ ประโยคยาว ๆ ได้มั๊ย เราจะเขียนสักเป็นย่อหน้า

ย่อหน้า เพื่อจะให้เค้าประทับใจเรา

คำตอบก็คือไม่ได้ เพราะ RESUME ต้องสั้น ต้องกระทัดรัดไม่ ใช้เวลาแค่ 30 วินาทีต่อ

RESUMEหนึ่งชิ้น ในการแสกนอ่านประวัติของเรา

เพราะฉะนั้นถ้าเค้าถูกใจ RESUME นี้เค้าก็จะเลือกไว้ ถ้าเค้าไม่ถูกใจเค้าจะดูแป๊บเดียว

เค้าจะโยนทิ้งไปเลย โดยเราจะไม่มีโอกาสได้ถูกเรียกมาสัมภาษณ์ อย่าลืม KISS (KEEP, IT,

SHORT AND SIMPLE)

หัวข้อของRESUME ที่สำคัญ
อันดับแรก ก็คือ ชื่อ มีคำถามเสมอบางคนมีตำแหน่ง
อะอย่างอาจารย์ ดร. อย่างนี้ใส่มั้ย คำตอบคือไม่ใส่ ใส่ชื่อกับนามสกุลเท่านั้น
เพราะฉะนั้นสำหรับ RESUME ของอาจารย์ ก็จะมีเพียง ณัฐพงษ์ และนามสกุล เพชรละออ

เท่านั้น

หัวข้อของRESUME ที่สำคัญ ?

อันที่สอง ที่อยู่ ควรบ้านที่เราอยู่ตลอดเวลา หลายคนก็มีที่อยู่หลากหลายมากมาย มีที่

ติดต่อมากมายเพราะฉะนั้นจะเขียนยังไง มีบางคนก็บอกว่าฉันมีที่อยู่หลายแห่ง เพื่อจะให้

เค้าติดต่อเราได้ อาจจะพูดถึงที่อยู่ถาวรของเราที่เป็นบ้านที่เราอยู่ตลอดเวลา เราจะไม่ไป

ไหน

เช่น อย่างนักศึกษาบางคนก็มาอยู่หอพักของมหาวิทยาลัยก็จะมีที่อยู่ที่เป็นที่อยู่

ปัจจุบัน ก็ต้องให้ไปทั้งสองเลยเพื่อเค้าจะได้ติดต่อเราได้ ทีนี้ในโลกยุคสมัยใหม่มันก็จะมี

E-MAIL ก็ต้องให้ E-MAIL ไปด้วย หรือบางคนบอกมี WEBSITE เป็นของตัวเองก็ให้ไป

ด้วย แต่ไม่แนะนะให้บอกเฟสบุ๊ค เพราะอะไร เพราะการแสดงความคิดเห็นของเราในบาง

เรื่องอาจไม่ถูกใจผู้คัดเลือกเข้าทำงาน ถ้าจะใส่ไปต้องควรเป็นเฟสบุ๊คทางการ แสดงผล

งานของเราเท่านั้น ควรเป็น E-MAIL และโทรศัพท์ดีที่สุดเลยเพราะว่าเป็นการต่อถึงตัว

เราทันที

หัวข้อของRESUME ที่สำคัญ ?

อันที่สาม เรื่องของ การศึกษา มีสิ่งที่เราจะต้องพิจารณาเหมือนกัน
ว่าเราจะต้องใส่ ไม่ใส่อย่างไร สำหรับนักศึกษาที่อยู่ในระดับปริญญาตรี
ก็จะเห็นว่าเราก็เรียนมาตั้งแต่อนุบาล ประถม มัธยม และก็ปริญญาตรี
อืมฉันเอามาใส่หมดมั้ย คำถามคือฉันเอามาใส่หมดมั้ย
คำตอบ ก็คือไม่ต้องเอามาหมด เอาเฉพาะที่สำคัญจริงใส่แค่ปริญญาตรีก็พอแล้ว ใส่ไปเลย

ว่าชื่อปริญญาอะไร ถ้าเราจบแล้วเราก็ใส่ปีที่เราจบ
ถ้าเราได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ก็ใส่เพิ่มไป เพื่อให้รู้ว่าเราเรียนดี ถ้านักศึกษาอยากใส่ไม่

เป็นไร พราะว่าจริง ๆ แล้ว สมัยนี้เค้าก็ไม่ได้มองหาที่เรียนเก่งอย่างเดียว ผู้ประกอบการจะ

ดูสิ่งอื่น ๆ ของ RESUME ด้วย

ถ้ายังเรียนไม่จบ ใส่อย่างไร ?

ถ้ายังเรียนไม่จบละอาจารย์แล้วเราจะใส่ว่ายังไง ?
เราก็ต้องใส่ว่า คาดว่าจะจบ สมมุติว่าเราคาดว่าเราจะจบปี 2566

ส่วนการอบรม มีการอบรมเยอะมาก เพื่อที่จะไปเรียนรู้การใช้โปรแกรม ก็เอาไปใส่ได้

เพราะถือว่าเป็นการแสดงถึงขีดความสามารถของเรา อันนี้ที่อาจารย์ บอกว่าสำคัญต้องมี

ก็เพราะว่าคนทั่วไปก็จะทำงานหลายแห่ง ก็ต้องเขียนออกมาให้หมดว่าที่ทำก่อนหน้านี้

ที่ไหนบ้าง

ใส่สั้น ๆ ว่าทำงานที่ไหน ตำแหน่งอะไร แล้วก็มีปีบอกด้วย ว่าปีนี้ถึงปีนี้

แล้วเขียนเรียงลำดับอบรมยังไง ?
เรียงจากการอบรมหรือทำงานล่าสุดถอยลงไป

LANGUAGE SKILLS / IT SKILLS

สำหรับนักศึกษา LANGUAGE SKILLS / IT SKILLS สำคัญมาก ๆ ใส่ไปเลยให้ชัดเจน

ว่าเราทำโปรแกรมอะไรเป็น ภาษาถ้าเราพูดได้มากกว่าหนึ่งภาษา ภาษาอังกฤษแน่นอนทุก

คนคาดหวังว่าให้เราต้องใช้ได้

บางคนก็พูดถึงภาษาอื่น เช่น ภาษาจีน ซึ่งเป็นยอดนิยมอยู่ ณ ปัจจุบัน
หรือภาษาเพื่อนบ้านก็คือภาษามาเล เราสามารถใช้ภาษาได้ดีเราก็ใส่ลงไป
เพราะการรู้หลายภาษาเป็นข้อได้เปรียบของเรา

AWARDS ก็คือรางวัล
รางวัลก็คือนักศึกษาก็คงต้องได้รางวัลกันมาเยอะแยะแล้ว ได้รางวัลเรียนดีของ


มหาวิทยาลัยไปแข่งชนะอะไร ได้รางวัลก็ใส่ว่าเราไปประกวดอะไร ได้รางวัลมา

ผู้อ้างอิง บุคคลผู้อ้างอิง ?

หัวข้อสุดท้าย คือ ผู้อ้างอิง บุคคลผู้อ้างอิงของเราจะต้องเป็นบุคคลที่รู้จักเราเป็นอย่าง

ดี สำหรับนักศึกษาแน่นอนต้องเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา หรือเป็นอาจารย์ท่านอื่น
หรือเป็นพี่ ๆ ที่เราไปรู้จักที่สหกิจ หรือที่ในสถานประกอบการ มีคำถามว่าแล้วผมจะเอา

เพื่อน พ่อแม่ พี่น้อง ได้มั้ย

ตอบ ไม่ได้ครับ ผู้อ้างอิง ของเราจะต้องมีความสำคัญในการที่จะบอกว่า เราเป็นใคร

เรามีคุณลักษณะอย่างไร สมควรจะจ้างเรา ควรใส่ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาฯ สถานที่ทำงาน

เบอร์ติดต่อ E-MAIL แต่ถ้าใส่ชื่อใคร ไปขออนุญาติเจ้าตัวก่อนนะครับ เพื่อที่อาจารย์เขาจะ

ได้รับรู้ ว่าเราให้เขาเป็นผู้อ้างอิงเพื่อได้เตรียมรายละเอียดตอบได้อย่างครบถ้วน

องค์ประกอบ RESUMA ?

ประกอบด้วย
1.NAME
2.ADDRESS
3.EDUCATION
4.PROFESSIONAL TRAINING
5. WORK EXPERIENCE อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้
6.LANGUAGE SKILL 7.ITSKILL
8.AWARDS
9. REFERENCES

อาจจะมีคำถาม จากนักศึกษาว่าอาจารย์แล้วผมเรียงยังไงอะ ผมเอา REFERENCES

ขึ้นก่อนได้มั้ย ก็ปกติไม่เคยมีใครทำมันค่อนข้างจะชัด คือ ขึ้นต้นด้วย 1.NAME ก่อน

2.ADDRESS 3.EDUCATION อันนั้นคือสาระสำคัญของตัวเรา

การเตรียมตัวสัมภาษณ์ ?

-การเตรียมตัวสัมภาษณ์ ต้องทำความรู้จักองค์การบริษัท มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ใน

ระหว่างการสัมภาษณ์ อาจถูกถามว่าบริษัททำเกี่ยวกับอะไร ถ้าตอบได้จะแสดงว่าเราสนใจ

ในงานจริงๆ สร้างภาพที่ดีในการสัมภาษณ์
-การตรงต่อเวลาในการไปสัมภาษณ์มีผลค่อนข้างมากในทางจิตวิทยา ตอบคำถามให้

ตรง มั่นใจ ซื่อสัตย์
-หลังสัมภาษณ์เสร็จเราต้องสำรวจความรู้สึกตัวเราเองถึงบรรยากาศ และบริษัท ว่าเป็น

อย่างไร เช่น รู้สึกดี ประทับใจทำให้เรารู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไร
-เราต้องอดทนและใจเย็น อาจโดนปฏิเสธ แต่อย่าท้อถอย ให้พยายามต่อไป

การเตรียมตัวสัมภาษณ์ ?

-การเตรียมตัวสัมภาษณ์ ต้องทำความรู้จักองค์การบริษัท มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ใน

ระหว่างการสัมภาษณ์ อาจถูกถามว่าบริษัททำเกี่ยวกับอะไร ถ้าตอบได้จะแสดงว่าเราสนใจ

ในงานจริงๆ สร้างภาพที่ดีในการสัมภาษณ์
-การตรงต่อเวลาในการไปสัมภาษณ์มีผลค่อนข้างมากในทางจิตวิทยา ตอบคำถามให้

ตรง มั่นใจ ซื่อสัตย์
-หลังสัมภาษณ์เสร็จเราต้องสำรวจความรู้สึกตัวเราเองถึงบรรยากาศ และบริษัท ว่าเป็น

อย่างไร เช่น รู้สึกดี ประทับใจทำให้เรารู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไร
-เราต้องอดทนและใจเย็น อาจโดนปฏิเสธ แต่อย่าท้อถอย ให้พยายามต่อไป

ขั้นตอนที่ 3
การเตรียมตัวเพื่อการทำงาน




การมีคุณสมบัติที่ตรงกับหน่วยงาน/บริษัทต้องการมี ???

-เปิดใจพร้อมเรียนรู้อะไรใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆ องค์การ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม เราต้อง

เรียนรู้ปรับตัวให้ดีขึ้น และพัฒนาตัวเองให้เกิดประโยชน์กับตัวเองในการทำงานได้ดี ด้วยใจ

ที่เปิดกว้าง

ขั้นตอนที่ 3
การเตรียมตัวเพื่อการทำงาน




การมีคุณสมบัติที่ตรงกับหน่วยงาน/บริษัทต้องการมี ???

-กล้าสอบถาม กับผู้มีประสบการณ์ ถามหัวหน้า การถามไม่ได้แสดงถึงความด้อยปัญญา

แต่แสดงถึงความกระตือรือร้น เป็นเรื่องสำคัญ ในการทำงาน

ขั้นตอนที่ 3
การเตรียมตัวเพื่อการทำงาน
การมีคุณสมบัติที่ตรงกับหน่ว
ยงาน/บริษัทต้องการมี ???

-การเรียนรู้สิ่งอื่นๆ นอกจากงาน เรื่องราวภายนอก การพัฒนาตนเอง ให้รอบรู้ด้าน
ต่าง ๆ เราต้องรู้รอบด้าน เพราะมันอาจเกี่ยวข้องกับงาน หรือตนเองได้เช่นเดียวกัน
รู้หลายๆ อย่าง จะนำไปสู่คุณสมบัติ คือ ความยืดหยุ่นต่อสิ่งต่างๆรับมือแก้โจทย์ที่เกิดขึ้น

ในงาน ได้ ทำให้เรามีทางออกของปัญหา

ขั้นตอนที่ 3
การเตรียมตัวเพื่อการทำงาน
การมีคุณสมบัติที่ตรงกับหน่ว
ยงาน/บริษัทต้องการมี ???

-หมั่นพัฒนาทักษะความรู้ที่เกี่ยวข้องกับงานเพิ่มเติม และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขั้นตอนที่ 3
การเตรียมตัวเพื่อการทำงาน
การมีคุณสมบัติที่ตรงกับหน่ว
ยงาน/บริษัทต้องการมี ???

-เรื่องความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นผลที่สืบเนื่อง การเรียนรู้ ในงานและสิ่งแวดล้อม

การหัดเป็นคนที่มีความยืดหยุ่นจะเสริมเป็นอาวุธ ในการเจอปัญหาใหม่ๆ หาทางแก้ไข
ปัญหาได้ดีขึ้นเพราะมีทางเลือกดีขึ้น เป็นส่วนสำคัญอีกประการร่วมกัน

ขั้นตอนที่ 3
การเตรียมตัวเพื่อการทำงาน
การมีคุณสมบัติที่ตรงกับหน่ว
ยงาน/บริษัทต้องการมี ???

-ความสามารถในการทำงานเป็นทีม จะทำให้เราประสบความสำเร็จ เป็นทีมได้อย่างดี

อย่างแรกต้องพูดคุยสื่อสารให้เป็นมีประสิทธิภาพ พูดง่าย ชัดเจน ถูกต้อง ถูกหู
-เราต้องเป็นคนที่มีความรับผิดชอบงานของเราดี ทำให้ผลกระทบต่อคนอื่นดี มีความไว้

วางใจศรัทธาร่วมกัน

THANK YOU


Click to View FlipBook Version