The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คุณสมบัติทางไฟฟ้าของไดโอด

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2021-11-19 15:23:17

คุณสมบัติทางไฟฟ้าของไดโอด

คุณสมบัติทางไฟฟ้าของไดโอด

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

คุณสมบัติทางไฟฟ้าของไดโอด

วิชาวิเคราะห์วงจรอิเล็กทรอนิกส์

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

1.1 คุณสมบัติของไดโอด

ไดโอด(DIODE) ถือได้ว่าเป็นอุ ปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำพวกสารกึ่ง
ตัวนำตัวแรกที่ถูกผลิตขึ้นมาใช้งานจัดเป็นอุปกรณ์พื้ นฐานที่มีบทบาทสำคัญ
แ ล ะ ร ะ บ บ อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ทำ ใ ห้เ กิ ด ก า ร พัฒ น า ใ น ก า ร ส ร้า ง อุ ป ก ร ณ์ ส า ร กึ่ ง ตั ว นำ
อื่ นๆต่อมาอีกมากมายโดยมีพื้ นฐานจากไดโอดซึ่งไดโอดได้ถูกนำไปใช้งานใน
ว ง จ ร อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ต่ า ง ๆ ตั้ง แ ต่ ว ง จ ร ง่ า ย ๆ มีอุ ป ก ร ณ์ เ พีย ง ไ ม่กี่ ตั ว ไ ป ถึ ง ว ง จ ร
ที่ มีอุ ป ก ร ณ์ ม า ก ม า ย เ ป็ น ว ง จ ร ที่ มีข น า ด ใ ห ญ่ มีก า ร ทำ ง า น ส ลั บ ซับ ซ้อ น

ก า ร ทำ ง า น ข อ ง ไ ด โ อ ด ขึ้ น อ ยู่ กั บ ส ภ า ว ะ ก า ร จ่ า ย แ ร ง ดั น ไ บ อั ส ใ ห้ตั ว ไ ด โ อ ด
สภาวะการจ่ายแรงดันไบอัสให้ตัวไดโอดแบ่งได้เป็นสองสภาวะคือ สภาวะไบอัส
ตรงเป็นสภาวะจ่ายแรงดันไบอัสถูกขั้วให้ตัวไดโอดทำให้ไดโอดทำงานนำกระแส
และสภาวะไบอัสกลับ เป็นสภาวะจ่ายแรงดันไบอัสกลับขั้วทำให้ไดโอดไม่ทำงาน
หยุดนำกระแส ลักษณะไบอัสเบื้ องต้นแสดงดังรูปที่ 1.1

รูปที่ 1.1 การจ่ายไบอัสเบื้ องต้นให้ไดโอด

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

1.2 ไดโอดทางอุ ดมคติ

ไดโอดทางอุ ดมคติ (IDEAL DIODE)มีอยู่เฉพาะในทางทฤษฎีเท่านั้น
ในทางปฏิบัติเราไม่สามารถสร้างไดโอดที่ใช้งานจริงให้มีคุณสมบัติการทำงาน
ไ ด้ เ ห มือ น กั บ ไ ด โ อ ด ท า ง อุ ด ม ค ติ โ ด ย ใ น ท า ง อุ ด ม ค ติ เ ร า เ ป รีย บ เ ที ย บ ไ ด โ อ ด กั บ
สวิตช์ไฟฟ้า ซึ่งการทำงานของสวิตซ์ไฟฟ้านี้จะเป็นไปตามการจ่ายไบอัสให้ตัว
ไดโอดขณะจ่ายไบอัสตรงไดโอดนำกระแสเปรียบเสมือนกับสวิตซ์อยู่ใสภาวะ
ต่อวงจร (ON) มีกระแสไหลผ่านไดโอดเท่ากับ ID และแรงดันตกคร่อมได
โอดมีค่าเท่ากับศูนย์

ส่วนขณะจ่ายไบอัสกลับไดโอดไม่นำกระแสเปรียบเสมือนกับสวิตซ์อยู่ใน
สภาวะตัดวงจร (OFF) ไม่มีกระแสไหลผ่านไดโอดในทางอุ ดมคติจะมีค่าIS
เท่ากับศูนย์ ไดโอดทางอุดมคติเราจะไม่คำนึงถึงค่าความต้านทานภายในตัว

∞ไดโอด (RD) นั่นคือ ในขณะที่ได้รับไบอัสตรงมีกระแสไหล ค่า (RD) = 0 Ω

และในขณะได้รับไบอัสกลับไม่มีกระแสไหล (RD) = Ω ไดโอดทางอุ ดมคติ
และกราฟแสดงคุณสมบัติของไดโอดทางอุดมคติแสดงดังรูปที่ 1.2 และรูปที่

1.3

รูปที่ 1.2 สภาวะการทำงานของไดโอดทางดุดมคติ

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

1.2 ไดโอดทางอุ ดมคติ

รูปที่ 1.3 กราฟคุณสมบัติของไดโอดทางอุ ดมคติ

จากรูปที่ 1.3 ในตำแหน่งไบอัสตรง ไดโอดเปรียบเสมือนเป็นสวิตช์ต่อ
วงจร (ON) เกิดกระแสไดโอด (ID) ไหลเท่ากับกระแสไบอัสตรง (IF) คือ ID = IF
ไม่มีแรงดันตกคร่อมตัวไดโอดคือ VD = 0 V และตัวไดโอดไม่มีความต้านทาน
คือ RD = 0 Ω

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

1.3 ไดโอดทำงานจริง

ไดโอดในการใช้งานจริง (REAL DIODE) เป็นไดโอดที่มีคุณสมบัติ
แตกต่างไปจากไดโอดทางอุดมคติเนื่ องจากในการนำเอาไดโอดไปใช้งาน
จริงคุณสมบัติของตัวไดโอดในขณะจ่ายไบอัสตรงเราต้องพิจารณาถึงค่า
ค ว า ม ต้ า น ท า น ภ า ย ใ น ตั ว ไ ด โ อ ด กั บ แ ร ง ดั น ที่ เ กิ ด ขึ้ น ต ร ง บ ริเ ว ณ ร อ ย ต่ อ พี -
เอ็นในขณะที่จ่ายไบอัสกลับเราก็ต้องมาพิจารณาถึงค่าความต้านทาน
ภายในตัวไดโอดกับกระแสรั่วไหล (LEAKAGE CURRENT) คุณสมบัติ
แสดงดังรูป ที่ 1.4

ค ว า ม ต้ า น ท า น ข อ ง ไ ด โ อ ด จ ะ ขึ้ น อ ยู่ กั บ ทิ ศ ท า ง ก า ร ไ ห ล ข อ ง ก ร ะ แ ส ไ ฟ ฟ้า
ดังนั้น จึงถือได้ว่า ไดโอดเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณสมบัติที่ไม่
เป็นเชิงเส้น ซึ่งสามารถดูได้จากกราฟแสดงคุณสมบัติของไดโอด ดัง
แสดงในรูปที่ 1.4 โดยลักษณะคุณสมบัติระหว่างแรงดันและกระแสจะเป็น
ตัวที่แสดงให้ เห็นถึงความสัมพันธ์ทั้งในขณะจ่ายไบอัสตรงและไบอัส
กลับ การจ่ายไบอัสตรงด้วยแรงดันตกคร่อม

ไดโอดน้อยกว่า 0.5 V ไดโอดจะมีกระแสไหลน้อยมากระดับไมโคร

แอมป์เมื่ อแรงดันตกคร่อมไดโอด มากกว่า 0.5 V แต่น้อยกว่า 0.7 V ได

โอดเริ่มมีกระแสไหลเพิ่มขึ้นจนกระทั้งแรงดันตกคร่อม ไดโอด เท่ากับ

0.7 V ไดโอดจะมีกระแสไหลคงที่ การจ่ายไบอัสกลับ ไดโอดจะมีกระแส

ไหลน้อยมากประมาณไม โครแอมป์ Μ( A) หรือไม่มีกระแสไหลจนกระทั้ง

แรงดันตกคร่อมไดโอดมีค่าเท่ากับแรงดันพัง (BREAKDOWN

VOLTAGE) ใช้ตัวย่อว่า VBR ไดโอดจะมีกระแสไหลจ านวนมากเพิ่มขึ้น

อย่างรวดเร็ว ขณะที่ แรงดันไบอัสกลับมีค่าคงที่

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

1.3 ไดโอดทำงานจริง

รูปที่ 1.4 กราฟแสดงคุณสมบัติของซิลิกอนไดโอด

จากกราฟคุณสมบัติของซิลิกอนไดโอด แกนแนวตั้งแสดงค่าของกระแส
จากการวัดมีหน่วยเป็น มิลลิแอมแปร์(MA) แกนแนวนอนแสดงค่าแรงดัน
ไฟฟ้าซึ่งมีค่าสูงสุด 1 V ด้วยเหตุนี้แสดงว่า แรงดันที่ตกคร่อมไดโอดจะมีค่า
น้อยกว่า 1 V และช่วงโค้งของเส้นกราฟกระแสไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

1.3 ไดโอดทำงานจริง

สามารถอธิบายความสัมพันธ์ของกระแสที่ไหลผ่านไดโอด (ID) และ ค่าแรงดัน
ไฟฟ้าที่ตกคร่อม ไดโอด (VD) ด้วยสมการของ SHOCKLEY ดังนี้
เมื่ อ

IS คือกระแสย้อนกลับอิ่มตัว มีค่าโดยประมาณ ×1 10-15A มีหน่วย เป็นแอมแปร์(A)
VD คือแรงดันตกคร่อมไดโอด มีหน่วย เป็นโวลท์ (V)
N คือค่าของสารที่น ามาสร้างไดโอด โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 1 ถึง 2
VT คือค่าแรงดันที่เกิดจากอุ ณหภูมิ (THERMAL VOLTAGE) มีหน่วย เป็นโวลท์

(V)

เมื่ อ
K คือค่าคงที่ของ BOLTZMANN’S CONSTANT มีค่าเท่ากับ 1.38 X 10-

23JOULES/KELVIN ; J/K

TK คือค่าอุ ณหภูมิสมบูรณ์ (=273+C) มีหน่วยเป็นเคลวิน (KELVIN OK)
Q คือค่าประจุไฟฟ้าของอิเล็กตรอน มีค่าเท่ากับ 1.6 X 10-19 COULOMB

ตัวอย่างที่ 1.1 จงหาค่าแรงดันที่เกิดจากอุ ณหภูมิ(THERMAL VOLTAGE) ; VT ถ้า
กำหนดอุ ณหภูมิที่ 30 C

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

1.3 ไดโอดทำงานจริง

รูปที่ 1.5 กราฟอุ ณหภูมิของไดโอด

จากกราฟรูปที่ 1.5 ในช่วงไบอัสตรงเมื่ ออุณหภูมิสูงขึ้น แรงดันตกคร่อมได
โอดจะเปลี่ยนแปลง 25 MV ต่อองศาเซนติเกรด เส้นกราฟด้านไบอัสตรงที่อุณหภูมิ
ห้องเพิ่มขึ้นจาก 25 C ไปเป็น 125 C ทำให้แรงดันตกคร่อม ไดโอดขณะนั้นลดลง

0.25 MV 100 C (- 2.5 MV/ C) = - 0.25 MV

ด้านไบอัสกลับที่อุ ณหภูมิห้องเพิ่มขึ้นจาก 25 C ไปเป็น 125 C เกิดการ

≅เปลี่ยนแปลงของกระแส IS ที่อุ ณหภูมิห้อง 25 C (IS 1 PA) และที่อุ ณหภูมิ125 C
≅(IS 1 ΜA) ซึ่งมีค่าต่างกันมาก

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

1.4 ค่าความต้านทานทางด้านไฟฟ้ากระแสตรงของไดโอด

ค่าความต้านทานทางด้านไฟฟ้ากระแสตรงของไดโอดสามารถหาได้จากจุดการ
ทำงานของ ไดโอด เมื่ อได้รับแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง สามารถเขียนเป็นสมการได้ดังนี้

รูปที่ 1.6 กราฟแสดงการหาค่าความต้านทานทางด้านไฟฟ้ากระแสตรง

ช่วงกระแสไหลผ่านไดโอดมากค่าความต้านทาน RD มีค่าต่ำ ปกติจะอยู่ในช่วง
10 Ω ถึง 80 Ω

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

1.4 ค่าความต้านทานทางด้านไฟฟ้ากระแสตรงของไดโอด

รูปที่ 1.7 กราฟการทำงานของไดโอด

ตัวอย่างที่ 1.2 จากรูปที่ 1.7 กราฟการทำงานของไดโอด จงคำนวณค่าความต้านทาน
ทางด้านไฟฟ้า กระแสตรงที่ตำแหน่ง ID = 2 MA , ID = 20 MA และ VD = -10 V

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

1.4 ค่าความต้านทานทางด้านไฟฟ้ากระแสตรงของไดโอด

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

1.5 ค่าความต้านทานทางด้านไฟฟ้ากระแสสลับของไดโอด




ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ไ ฟ ฟ้า ก ร ะ แ ส ส ลั บ เ กิ ด ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ขึ้ น ล ง ต ล อ ด เ ว ล า อ ย่ า ง
ต่อเนื่ อง การหาค่า ความต้านทานทางไฟฟ้ากระแสสลับของไดโอดจะต้องนำค่าที่
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงมาพิจารณาด้วย โดยให้ Δ VD แทนค่าแรงดันตกคร่อม
ไดโอดที่เปลี่ยนแปลง และ Δ ID แทนค่ากระแสไหลผ่านไดโอดที่ เปลี่ยนแปลง
สามารถเขียนเป็นสมการได้ดังนี้

ΔRD = VD

รูปที่ 1.8 การหาค่าความต้านทานทางไฟฟ้ากระแสสลับของไดโอด

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

1.5 ค่าความต้านทานทางด้านไฟฟ้ากระแสสลับของไดโอด




รูปที่ 1.9 กราฟการทำงานของไดโอดเพื่ อหาความต้านทาน

ตัวอย่างที่ 1.3 จากรูปที่ 2.9 กราฟการทำงานของไดโอด จงคำนวณหาค่าความ
ต้านทานทางไฟฟ้า กระแสสลับของไดโอดที่ ID = 2 MA และ ที่ ID = 25 MA

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

1.5 ค่าความต้านทานทางด้านไฟฟ้ากระแสสลับของไดโอด

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

1.6 การใช้คู่มือไดโอด

การออกแบบ หรือ การนำไดโอดไปใช้งาน หรือ การนำไดโอดไปใช้แทนกัน
เราต้องศึกษา รายละเอียดคุณสมบัติของไดโอดแต่ละเบอร์จากข้อมูลทางโรงงาน
ผู้ผลิต ซึ่งในยุคปัจจุบันสามารถค้นหา ข้อมูลได้จากทางอินเตอร์เน็ต เช่น ไดโอด
เร็กติฟายเออร์ เบอร์1N4001 ถึง เบอร์1N4007 มีค่าสูงสุด แต่ละส่วนเท่าไร เมื่ อนำ
เอาไปใช้งานแล้วไดโอดดังกล่าวจะไม่เสียหาย และ เพื่ อให้อายุการใช้งานของ ได
โอดยาวนานขึ้น โดยทั่วไปค่าสูงสุดของไดโอดมาจากอุณหภูมิการทำงานที่ 25
องศาเซลเซียส (C) ความทนทานของไดโอดจะลดลงหากอุณหภูมิในการทำงาน
เ พิ่ ม ม า ก ขึ้ น

อักษรย่อต่าง ๆ มีความหมายดังต่อไปนี้
VRRM หมายถึง ค่าแรงดันไบอัสกลับสูงสุดที่เกิดขึ้นทุกไซเคิลของไฟสลับ
ซึ่งมีความหมาย เดียวกับค่า PIV ที่ไดโอดทำงานได้โดยไม่พัง เช่น สำหรับ
1N4001 เท่ากับ 50 V และ 1N4007 เท่ากับ 1000 V
VR หมายถึง ค่าแรงดันไฟตรงไบอัสกลับสูงสุดที่ไดโอดทนได้โดยไม่พัง
VRSM หมายถึง ค่าแรงดันไบอัสกลับสูงสุดที่ไม่ได้เกิดขึ้นทุกไซเคิลไฟสลับ
โดยที่ไดโอดรับได้และ ทำงานได้โดยไม่พัง
IO หมายถึง ค่ากระแสเฉลี่ยสูงสุดที่ผ่านไดโอดเมื่ อได้รับไบอัสตรง
IFSM หมายถึง ค่ากระแสสูงสุด (กระแสกระโชก) ทางด้านไบอัสตรงที่ไม่เกิด
ทุกไซเคิลซึ่งไดโอด สามารถทำงานได้โดยไม่พัง แสดงดังรูปที่ 1.10 ตาม
อุ ณหภูมิที่แตกต่างกันตั้งแต่ 25 C - 175 C

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

1.6 การใช้คู่มือไดโอด

ตารางที่ 1.1 แสดงค่าสูงสุดที่ไดโอดทนได้

รูปที่ 1.10 รูปแสดงกระแส IFSM ที่อุ ณหภูมิที่แตกต่างกัน

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

1.6 การใช้คู่มือไดโอด

ตารางที่ 1.2 คุณสมบัติทางไฟฟ้าของไดโอด

รูปที่ 1.11 แสดงความสัมพันธ์ของ VF และ IF

คุณสมบัติทางไฟฟ้าของไดโอดที่สำคัญซึ่งควรพิจารณาในการเลือกไดโอดไป
ใช้งานมีดังนี้ VF หมายถึง ค่าแรงดันตกคร่อมไดโอดขณะได้รับไบอัสตรงที่กระแส
IF = 1 A ที่อุ ณหภูมิ25oC ความสัมพันธ์ของกระแสไบอัสตรง IF ที่ไหลผ่านไดโอด
และแรงดัน VF ที่ตกคร่อมไดโอดแสดงในรูปที่ 1.11

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

1.6 การใช้คู่มือไดโอด

รูปที่ 1.12 แสดงข้อมูลทางกลของไดโอด

VF(AVG) หมายถึง ค่าแรงดันเฉลี่ยตกคร่อมไดโอดสูงสุดที่ไดโอดได้รับไบอัสตรง
IR หมายถึง ค่ากระแสสูงสุดที่ไหลผ่านไดโอดเมื่ อไดโอดได้รับแรงดันไบอัสกลับด้วย
แรงดันไฟตรง โดยไดโอดไม่พัง
IR(AVG) หมายถึง ค่ากระแสเฉลี่ยสูงสุดที่ไหลผ่านไดโอดเมื่ อไดโอดได้รับไบอัส
กลับด้วยแรง แรงดันไฟสลับ โดยไดโอดทำงานได้ไม่พัง
ข้อมูลไดโอดอีกอย่างหนึ่งคือ ข้อมูลทางกลเป็นการบอกถึงรูปร่างลักษณะภายนอก
ของไดโอด และ พิกัดขนาดต่าง ๆ ของไดโอดแสดงดังในรูปที่ 1.12

ทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นายพันธ์ศักดิ์ พุ ฒิมานิตพงศ์
จัดทำโดย นางสาวนิชาดา ฝ่ายวงศ์

บทสรุป

ไดโอด(DIODE) ถือได้ว่าเป็นอุ ปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำพวกสารกึ่ง
ตัวนำตัวแรกที่ถูกผลิตขึ้นมาใช้งานจัดเป็นอุปกรณ์พื้ นฐานที่มีบทบาทสำคัญ
แ ล ะ ร ะ บ บ อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ทำ ใ ห้เ กิ ด ก า ร พัฒ น า ใ น ก า ร ส ร้า ง อุ ป ก ร ณ์ ส า ร กึ่ ง ตั ว นำ
อื่ นๆต่อมาอีกมากมายโดยมีพื้ นฐานจากไดโอดซึ่งไดโอดได้ถูกนำไปใช้งานใน
ว ง จ ร อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ต่ า ง ๆ ตั้ง แ ต่ ว ง จ ร ง่ า ย ๆ มีอุ ป ก ร ณ์ เ พีย ง ไ ม่กี่ ตั ว ไ ป ถึ ง ว ง จ ร
ที่ มีอุ ป ก ร ณ์ ม า ก ม า ย เ ป็ น ว ง จ ร ที่ มีข น า ด ใ ห ญ่ มีก า ร ทำ ง า น ส ลั บ ซับ ซ้อ น

ก า ร ทำ ง า น ข อ ง ไ ด โ อ ด ขึ้ น อ ยู่ กั บ ส ภ า ว ะ ก า ร จ่ า ย แ ร ง ดั น ไ บ อั ส ใ ห้ตั ว ไ ด โ อ ด
สภาวะการจ่ายแรงดันไบอัสให้ตัวไดโอดแบ่งได้เป็นสองสภาวะคือ สภาวะไบอัส
ตรงเป็นสภาวะจ่ายแรงดันไบอัสถูกขั้วให้ตัวไดโอดทำให้ไดโอดทำงานนำกระแส
และสภาวะไบอัสกลับ เป็นสภาวะจ่ายแรงดันไบอัสกลับขั้วทำให้ไดโอดไม่ทำงาน
หยุดนำกระแส

การออกแบบ หรือ การนำไดโอดไปใช้งาน หรือ การนำไดโอดไปใช้แทนกัน
เราต้องศึกษา รายละเอียดคุณสมบัติของไดโอดแต่ละเบอร์จากข้อมูลทาง
โรงงานผู้ผลิต ซึ่งในยุคปัจจุบันสามารถค้นหา ข้อมูลได้จากทางอินเตอร์เน็ต เช่น
ไดโอดเร็กติฟายเออร์ เบอร์1N4001 ถึง เบอร์1N4007 มีค่าสูงสุด แต่ละส่วน
เท่าไร เมื่ อนำเอาไปใช้งานแล้วไดโอดดังกล่าวจะไม่เสียหาย และ เพื่ อให้อายุการใช้
งานของ ไดโอดยาวนานขึ้น โดยทั่วไปค่าสูงสุดของไดโอดมาจากอุณหภูมิการ
ทำงานที่ 25 องศาเซลเซียส (C) ความทนทานของไดโอดจะลดลงหากอุ ณหภูมิใน
ก า ร ทำ ง า น เ พิ่ ม ม า ก ขึ้ น


Click to View FlipBook Version