The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด.

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Jaa Onnitcha, 2023-03-22 10:08:11

บริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด.

บริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด.

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง การจัดการเอกสารส่งออกและการขนส่งสินค้า กรณีศึกษา บริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด โดย ณัฐชยาพร รอดผึ้ง อรณิชชา มะโดด เสนอ อาจารย์วัลลภา วิชะยะวงศ์ สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ปีการศึกษา 2565


ก ชื่อเรื่อง : การจัดการเอกสารส่งออกและการขนส่งสินค้า กรณีศึกษา บริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด ผู้วิจัย : ณัฐชยาพร รอดผึ้ง อรณิชชา มะโดด คณะ : วิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ปีการศึกษา : 2565 บทคัดย่อ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาขั้นตอนการจัดการเอกสารส่งออกและการขนส่งสินค้า ของบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด 2) ศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดการเอกสาร ส่งออกและขนส่งสินค้าของบริษัทพีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด ซึ่งงานวิจัยครั้งนี้ เป็นงานวิจัยเชิง คุณภาพได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ขั้นตอนการขนส่งสินค้าของบริษัทพีเอ็มเค ได มอนด์กลาส จำกัด ก่อนทำงานและหลังทำงานกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นพนักงานของบริษัทแผนกการ ขายและขนส่ง จำนวน 10 คน จากการวิเคราะห์ปัญหาโดยใช้แผนผังก้างปลา พบว่า ปัญหาที่เกิดจาก พนักงานทำงานล่าช้า ไม่มีการประสานงานอย่างต่อเนื่อง ระบบประมวลข้อมูลของเอกสารการส่ง สินค้ามีปัญหา และเครื่องยนต์หรือเครื่องจักรมีจำนวนไม่มีเพียงพอ จึงทำให้การขนส่งสินค้าล่าช้าและ ลูกค้าได้รับสินค้าไม่ตรงตามกำหนด โดยผู้วิจัยได้นำทฤษฎีการลดความสูญเปล่าด้วยหลัก ECRS มาใช้ เพื่อขจัดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น เพื่อทำให้ขั้นตอนและกระบวนการขนส่งสินค้ามีขั้นตอนที่ลดลงซึ่งส่งผล ต่อการขนส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทันตามที่กำหนดไว้ ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการศึกษาขั้นตอนในการดำเนินการส่งสินค้าของบริษัท พีเอ็มเค ได มอนด์กลาส จำกัด พบว่า จากการปรับปรุงขั้นตอนการทำงานโดยใช้หลัก ECRS ทำให้กระบวนการส่ง สินค้ามีการทำงานจากกระบวนการทำงานที่มีขั้นตอนในการปฏิบัติงาน 10 ขั้นตอน เหลือ 9 ขั้นตอน เวลาเดิมใช้เวลารวม 11:10:00 นาที และทำการปรับปรุงขั้นตอนใหม่ปรับเวลาเป็น 09:20:00 นาที


ข ทำให้มีการลดขั้นตอนในการขนส่งสินค้าลดเวลาเหลือเป็น 02:10:00 นาที 2) การเพิ่มประสิทธิภาพ การขนส่งสินค้าของบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด จากปัญหาการขนส่งสินค้าล่าช้าส่งผลถึง การรับสินค้าของลูกค้าช้าตามไปด้วย จากกระบวนการทำงานพบว่า การส่งสินค้าระยะเวลา 1 เดือน เกิดความล่าช้าทั้งหมด 5 ครั้ง และมีการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแผนกงานการ ขนส่งสินค้าระยะเวลา 1 เดือน สามารถลดปัญหาเรื่องการส่งมอบสินค้าล่าช้าเหลือเพียง 2 ครั้ง ซึ่งทำ ให้หลังจากการปรับปรุงการทำงานพบปัญหาเรื่องความล่าช้าในการขนส่งสินค้าน้อยลงตาม วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ภายใน 4 เดือน คำสำคัญ : การขนส่งสินค้า, แผนผังก้างปลา, การลดความสูญเปล่าด้วยหลัก ECRS


ค Title : Export Documentation and Freight Transport Case Study PMK Diamond Glass Co., Ltd. Researcher : Natchayaporn Rodpueng Onnitcha Madod Faculty of : Management Science at Nakhon Pathom Rajabhat University. Academic : 2025. Abstract This research aims to 1) to study the process of export document management and cargo of PMK Diamond Glass Co., Ltd. 2) to study the efficiency of PMK's export document management and cargo transportation. K Diamond Glass Co., Ltd., which this research This is qualitative research. Data was collected by interviewing the transportation process of PMK Diamond Glass Co., Ltd. before work and after working with a sample of 10 employees of the company's sales and transportation department from problem analysis using fishbone diagrams a result, the delivery of goods is delayed and the customer does not receive the product on time. The researcher has applied the ECRS waste reduction theory to eliminate unnecessary activities. To make the process and process of transporting goods to be reduced, which affects the delivery of goods to customers on time as scheduled The results of the research were as follows: 1) The results of the study of the delivery process of PMK Diamond Glass Co., Ltd. showed that from the improvement of the work process using the ECRS principle, the delivery process was carried out from the process. Work with 10 steps in operation, leaving 9 steps. The original time took a total of 11:10:00 minutes and the new steps were adjusted to 09:20:00 minutes. Shipping time reduced to 02:10:00 minutes


ง 2) Optimizing the transport of goods of PMK Diamond Glass Co., Ltd. from the problem of delayed product delivery, resulting in delays in receiving products from customers as well. From the work process, it was found that There were 5 delays in product delivery within 1 month, and there were improvements and improvements in the efficiency of the freight department within 1 month, reducing the problem of product delivery delays to only 2 times, which made after the improvement. The work found fewer delays in transporting goods according to the objective set within 4 months. Keywords: Freight Transport, Fishbone Diagram, ECRS


จ กิตติกรรมประกาศ วิจัยฉบับนี้สำเร็จไปได้ด้วยดี เนื่องจากได้รับความอนุเคราะห์จากอาจารย์วัลลภา วิชะยะวงศ์ เป็นผู้ควบคุมวิจัย ซึ่งได้กรุณาให้คำแนะนำ แก้ไข และตรวจสอบสิ่งที่บกพร่องต่างๆ ตลอดจนการให้ ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการทำวิจัย ด้วยการเอาใจใส่อย่างดียิ่งและรวดเร็วเสมอมา ผู้วิจัย ขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยความเคารพยิ่ง ขอขอบพระคุณผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบเครื่องมือในการวิจัย และเสียเวลาในการให้ ข้อเสนอแนะ ตลอดจนคำปรึกษาที่เป็นประโยชน์สำหรับการทำวิจัยให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ขอขอบพระคุณผู้ที่ให้ความร่วมมือในการสอบถามและสัมภาษณ์ เพื่ออำนวยความสะดวกใน การเก็บรวบรวมข้อมูล ขอขอบพระคุณผู้บริหารและพนักงานของบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด ที่ให้ความ ร่วมมือในการสัมภาษณ์งานวิจัยและช่วยอำนวยความสะดวกในการเก็บข้อมูลจากลูกค้าเป็นอย่างดี ขอขอบพระคุณคณาจารย์ทุกท่านที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชา บ่มเพาะจนผู้วิจัยสามารถนำ หลักการมาประยุกต์ใช้และอ้างอิงในงานวิจัยครั้งนี้ และขอขอบพระคุณมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ที่ให้การสนับสนุนและเอื้ออำนวยกระบวนการวิจัยต่างๆ แก่ผู้วิจัย หากคุณูปการจากวิจัยฉบับนี้ยังมี อยู่บ้าง ผู้วิจัยขอมอบให้เป็นกุศลผลบุญแด่ทุกท่านที่ได้ให้ความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลผู้วิจัยในการวิจัยจน สำเร็จ ณัฐชยาพร รอดผึ้ง อรณิชชา มะโดด


ฉ สารบัญ เรื่อง หน้า บทคัดย่อภาษาไทย ก บทคัดย่อภาษาอังกฤษ ข กิตติกรรมประกาศ ค สารบัญ ง สารบัญตาราง จ สารบัญภาพ ช บทที่ 1 บทนำ ที่มาและความสำคัญของปัญหา 1 วัตถุประสงค์การวิจัย 1 สมมติฐานการวิจัย 2 ขอบเขตการวิจัย 2 ประโยชน์ที่ได้รับ 2 นิยามศัพท์เฉพาะ 3 บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การจัดการเอกสาร 4 การขนส่ง 4 การเตรียมความพร้อมเป็นผู้ส่งออก 5-10 แผนภาพก้างปลา 10-11 การลดความสูญเปล่าด้วยหลัก ECRS 12-13 ข้อมูลบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด 13 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 14-17


ช สารบัญ(ต่อ) เรื่อง หน้า บทที่ 3 วิธีการดำเนินการวิจัย แบบแผนของการวิจัย 18-19 ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย 19 ขั้นตอนการดำเนินงานวิจัย 20-22 เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการวิจัย 22 การเก็บรวบรวมข้อมูล 22 การวิเคราะห์ข้อมูล 23 ระยะเวลาในการดำเนินงาน 24 บทที่ 4 ผลการดำเนินงานและผลการวิจัย ศึกษาระบบการทำงาน 25-26 การวิเคราะห์หาเหตุและการดำเนินงานในปัจจุบัน 26-29 การกำหนดแนวทางขั้นตอนการขนส่งสินค้า 31-32 การเปรียบเทียบผลที่ได้จากแผนการดำเนินงาน 33 บทที่ 5 สรุปผลการวิจัย อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ สรุปผลการวิจัย 34-36 การอภิปรายผลการศึกษา 35-36 ข้อเสนอแนะ 36-37 บรรณานุกรม 38 ภาคผนวก


ซ สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า 3.1 ขั้นตอนการดำเนินการวิจัย 20-22 4.1 การวิเคราะห์ปัญหาด้วยแผนภูมิก้างปลา 27


ฌ สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 3.1 ระยะเวลาในการดำเนินงาน 24 4.1 ตารางขั้นตอนก่อนปรับปรุงการดำเนินงาน 30 4.2 ตารางหลัก ECRS 31 4.3 ตารางขั้นตอนก่อนปรับปรุงการดำเนินงาน 32 4.4 ตารางปรียบเทียบผลการปรับปรุงการดำเนินงาน 33


1 บทที่ 1 บทนำ ที่มาและความสำคัญของปัญหา ปัจจุบันการส่งออกสินค้าในช่วงที่ผ่านมามีอัตราการขยายตัวที่สุงขึ้นและรวดเร็วมาก ซึ่งเป็น กลไกสำคัญอย่างหนึ่งที่ผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศมีอัตราการขยายตัวอยู่ในระดับสูง นับว่าเป็น ธุรกิจอีกแขนงหนึ่งที่มีความสำคัญต่อผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นธุรกิจที่สามารถนำเงินตราต่างประเทศเข้า มาสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ซึ่งกระบวนการส่งออกสินค้านั้นเป็นส่วนหนึ่งเพราะระดับ ราคาของสินค้าที่ส่งออกอยู่ในระดับต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น จึงทำให้การค้านั้นเข้าไป แข่งขันในตลาดโลกได้เป็นอย่างมาก (ทัตพร ชุ่มเสนา, 2562) บริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด เป็นบริษัทผลิตกระจกนิรภัย กระจกประหยัดพลังงาน กระจกที่ใช้ในงานตกแต่ง และกระจกที่ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งในประเทศและ ต่างประเทศมาเป็นเวลากว่า 50 ปี ปัจจุบัน PMK มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัด สมุทรสาคร และมีโรงงานอยู่ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จึงมีทั้งลูกค้ารายใหญ่และลูกค้ารายย่อย จำนวนมาก ทำให้พบปัญหาที่เกิดขึ้นกับบริษัท คือ การส่งสินค้าได้ไม่ตรงตามกำหนดอันเกิดจาก กระบวนการจัดการเอกสารส่งออกที่ซับซ้อนและกระบวนการขนส่งที่ล่าช้า ดังนั้น เพื่อการส่งมอบ สินค้าได้ตามเวลาที่ลูกค้ากำหนดจึงควรมีระบบการทำงานที่ดี มีการทำงานภายในบริษัทที่สัมพันธ์กัน รวมไปถึงองค์กรที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ผู้วิจัยสนใจที่จะศึกษาการจัดการเอกสารการส่งออกและการขนส่งสินค้า เนื่องด้วยทาง บริษัทมีปัญหาในการจัดทำเอกสารและการจัดส่งสินค้าที่ล่าช้า โดยมีขั้นตอนที่ซับซ้อนในการ ดำเนินการ มีการทำงานที่ไม่ตรงระยะเวลาที่กำหนด ทำให้ผู้วิจัยศึกษาขั้นตอนการจัดการเอกสารการ ส่งออกและการขนส่งสินค้า เพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบริษัท อันจะนำมาซึ่ง ประโยชน์การนำมาปรับปรุง แก้ไข และพัฒนาระบบการทำงานของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพใน อนาคต วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาขั้นตอนการทำเอกสารของบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด 2. เพื่อศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดทำเอกสารของบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด


2 สมมติฐานการวิจัย 1. กระบวนการในการจัดทำเอกสารมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น 2. ลดเวลาในการจัดทำเอกสารเพื่อส่งสินค้าให้ทันเวลาได้ ขอบเขตของการวิจัย 1. ขอบเขตด้านเนื้อหา ได้ทำการศึกษาการปฏิบัติงานในขั้นตอนการซื้อ-ขาย และส่งออกสินค้าของ บริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด ซึ่งครอบคลุมหัวข้อ ดังนี้ - แผนผังก้างปลา - การลดความสูญเปล่าด้วยหลัก ECRS 2. ขอบเขตด้านประชากรกลุ่มตัวอย่าง ประชากรในครั้งนี้คือ พนักงานบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด จำนวน 733 คน กลุ่มตัวอย่างในครั้งนี้คือ พนักงานของบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด แผนกการขาย และขนส่ง จำนวน 10 คน 3. ขอบเขตด้านสถานที่ บริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด 4. ขอบเขตด้านระยะเวลา ระยะเวลาเก็บข้อมูล 4 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565 – 31 มีนาคม 2566 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัย 1. สามารถนำเเนวทางของกระบวนการจัดการเอกสารมาปรับใช้เพื่อลดระยะเวลาในการ ขนส่งสินค้าให้กับบริษัทได้ 2. สามารถส่งมอบสินค้าได้ทันเวลา 3. สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าเเละรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4. ทำให้ทราบถึงจุดผิดพลาดในการจัดทำเอกสารและนำมาปรับปรุงแก้ไข


3 นิยามเชิงปฏิบัติการ การขนส่ง หมายถึง การจัดให้มีการเคลื่อนย้าย บุคคล สัตว์ สิ่งของ ด้วยเครื่องมือต่างๆ และ อุปกรณ์ในการขนส่งจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ตามความประสงค์และเกิดอรรถประโยชน์ตามต้องการ แผนผังก้างปลา (fishbone diagram) หมายถึง ผังที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างปัญหากับ สาเหตุของปัญหา ทั้งหมด ชื่อเรียกผังก้างปลานี้เนื่องจากเป็นผังที่มีลักษณะคล้ายปลาที่ประกอบด้วย หัวปลา โครงร่างกระดูก แกนกลาง และก้างปลา โดยระบุปัญหาที่หัวปลา ระบุสาเหตุหลักของปัญหา เป็นลูกศรเข้าสู่กระดูกแกนกลาง และระบุสาเหตุย่อยที่เป็นไปได้ที่ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหานั้นเป็น ลูกศรเข้าสู่สาเหตุหลัก นอกจากนี้ผังก้างปลามีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า แผนผังอิชิกาว่า (Ishikawa Diagram) การลดความสูญเปล่าด้วยหลัก ECRS หมายถึง แนวคิด ECRS คือทฤษฎีที่ช่วยลดความสูญเสีย จากการที่ต้นทุนเกิดความเสียหาย หรือต้นทุนที่ไม่ได้สร้างผลตอบแทนใด ๆ ให้กับองค์กร นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มผลผลิตและกำไรให้มากขึ้น โดยชื่อของแนวคิดนี้มาจากการใช้ตัวอักษรย่อ 4 ตัวที่มาจากคำ ว่า Eliminate (การกำจัด) Combine (การรวมกัน) Rearrange (การจัดใหม่) และ Simplify (การทำ ให้ง่ายขึ้น) บริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด หมายถึง เป็นบริษัทผลิตกระจกนิรภัย กระจกประหยัด พลังงาน กระจกที่ใช้ในงานตกแต่ง และกระจกที่ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งในประเทศ และต่างประเทศมาเป็นเวลากว่า 50 ปี ปัจจุบัน PMK มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร และมีโรงงานอยู่ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี


4 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การศึกษาเรื่อง การจัดการเอกสารการส่งออกและการขนส่งสินค้า กรณีศึกษา บริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ทำการสำรวจและทบทวนแนวคิด ทฤษฎี และ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาเป็นแนวทางสำหรับการศึกษา ดังต่อไปนี้ 2.1 การจัดการเอกสาร 2.2 การขนส่ง 2.3 การเตรียมความพร้อมเป็นผู้ส่งออก 2.4 แผนภาพก้างปลา 2.5 การลดความสูญเปล่าด้วยหลัก ECRS 2.6 ข้อมูลบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด 2.7 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.1 การจัดการเอกสาร การจัดการเอกสาร เป็นการดำเนินการเอกสารที่ใช้ในสำนักงานให้เป็นระบบนับตั้งแต่การ ผลิต การใช้การจัดเก็บ การค้นคืน และการกำจัด ไม่ว่าจะเป็นเอกสารจากภายใน หรือภายนอก โดย มีกระบวนการในการจัดการเอกสาร พร้อมทั้งการนำเทคโนโลยีต่างๆมาใช้ เพื่อให้บริการในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเอกสารภายในสำนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2.2 การขนส่ง การขนส่ง (Transportation) คือ การเคลื่อนย้ายคน (People), สินค้า (Goods) หรือ บริการ (Services) จากตำแหน่งสถานที่หนึ่งไปยังอีกตำแหน่งสถานที่หนึ่ง โดยใช้โครงสร้างพื้นฐาน , ยานพาหนะ และ วิธีดำเนินการที่แตกต่างกันออกไป


5 2.3 การเตรียมความพร้อมเป็นผู้ส่งออก การเตรียมพร้อมในการประกอบธุรกิจการส่งออก ที่สำคัญที่ผู้ประกอบการจะต้องคำนึงถึง เบื้องต้น 6 ประการได้แก่ ความพร้อมของผู้ส่งออก สินค้า ตลาด การทำสัญญา การชำระเงิน และพิธี การส่งออก โดยผู้ประกอบที่จะเข้าสู่ธุรกิจส่งออกควรพิจารณาที่ตลาดหรือสินค้าก่อน ส่วนผู้ส่งออกที่ เป็นผู้ผลิตและมีสินค้าพร้อมอยู่แล้วก็จะพิจารณาในส่วนของการมุ่งหาตลาดที่เหมาะสมกับสินค้าที่ ผลิตโดยไม่ต้องพิจารณาเลือกสินค้าอีก แล้วจึงมาพิจารณาเกี่ยวกับการทำสัญญา การชำระเงิน และ พิธีการทางศุลกากร 1. การจัดการ ผู้ส่งออกจะต้องมีความพร้อมที่จะดำเนินธุรกิจส่งออกในด้านต่างๆ ดังนี้ 1.1 ด้านเงินทุน โดยพิจารณาว่าต้นทุนของเงินทุนที่ธุรกิจใช้อยู่สูงมากน้อยเพียงไร สามารถ แบกภาระได้มากน้อยแค่ไหน โดยเมื่อเปรียบเทียบแล้วคุ้มกับการลงทุนหรือไม่ 1.2 ด้านสถานที่ดำเนินการ เป็นการพิจารณาเกี่ยวกับสำนักงานเครื่องมือ อุปกรณ์ตลอดจน การกำหนดแนวทางว่าจะดำเนินธุรกิจประเภทใด คือเป็นการกำหนดประเภทและเป้าหมายของ กิจการให้ชัดเจน 1.3 ด้านบุคลากร กิจการต้องมีพนักงานที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่ง และมีจำนวนที่ เพียงพอกับปริมาณของงาน 1.4 การสร้างความเชื่อถือ และทำความรู้จักลูกค้า นับว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากประเด็น หนึ่ง เพราะการดำเนินธุรกิจมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างความรู้จัก และความเชื่อถือแก่ผู้ซื้อในตลาด ต่างประเทศเพราะการที่ผู้ซื้อเชื่อถือในกิจการแล้ว ความร่วมมือกันในการทำธุรกิจก็จะดีขึ้นด้วย 1.5 ประเมินกำลังผลิต และความสามารถในการส่งออก ควรจะพิจารณาสินค้าก่อน ประเมิน ว่าสินค้าใดเป็นสินค้าที่กิจการสามารถส่งออกได้ โดยประเมินกำลังการผลิตโดยรวมของกิจการ หาก เกิดการสั่งซื้อที่มากกว่ากำลังผลิตแล้วไม่สามารถผลิตได้ หรืออาจผลิตได้แต่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ก็ จะทำให้เกิดปัญหากับลูกค้า ซึ่งจะนำไปสู่การปฎิเสธการยอมรับของลูกค้าได้


6 2. การเลือกสินค้าและการผลิต 2.1 ผู้ส่งออกมีความสนใจสินค้าชนิดใดเป็นพิเศษหรือไม่ในการเลือกสินค้าของผู้ส่งออกราย ใหม่ควรทดลองกับสินค้าที่ไม่มากชนิดก่อน โดยพยายามเน้นและศึกษาถึงเรื่องต่างๆของสินค้า ทั้งใน ด้านกฏระเบียบข้อจำกัด การกำหนดโควตา หรือการคุ้มครองในประเทศผู้นำเข้าให้ละเอียดก่อน 2.2 สินค้านั้นสามารถผลิตเองได้ หรือต้องซื้อจากผู้ผลิตรายอื่น หรือเป็นการจ้างผลิต ถ้าเป็น การจ้างผลิต ผู้ส่งออกต้องรู้แหล่งผลิต และอาจจะกระจายการผลิตไปยังผู้ผลิตหลายรายเพื่อว่าถ้ามี คำสั่งซื้อเข้ามามากผู้ผลิตรายเดียวอาจไม่สามารถผลิตได้ทัน ขณะเดียวกันจะเป็นการเพิ่มอำนาจ ต่อรองกับผู้ผลิตได้อีกทางหนึ่งด้วย 2.3 ผู้ส่งออกต้องรู้สภาพปัญหาการผลิต การจัดจำหน่าย และการส่งออก ผู้ส่งออกจะต้องมี ความรู้เกี่ยวกับช่องทางการจัดจำหน่าย พิธีการและเอกสารที่ใช้ในการส่งออก เพราะสินค้าแต่ละชนิด จะมีข้อกำหนดและการควบคุมที่แตกต่างกัน 2.4 ผู้ส่งออกควรเข้าใจในหลักเกณฑ์ในการตั้งราคาเพื่อการส่งออกในการส่งออกต้องคำนึงถึง ค่าใช้จ่าย และภาวะการแข่งขันในตลาดด้วยแต่โดยปกติแล้วราคาเพื่อส่งออกจะต่ำกว่าราคาที่ขายใน ประเทศ เพราะเป็นการขายในปริมาณมากกำไรโดยรวมก็จะมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะได้สิทธิพิเศษ จากรัฐด้วย เช่น การยกเว้นภาษีการค้า ซึ่งสามารถนำมาหักจากต้นทุนสินค้าได้ และการเสนอราคาใน การส่งออกส่วนใหญ่จะคิดเป็นเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ และต้องระบุเงื่อนไขหรือ Term ของการเสนอ ราคา (Quotation Term หรือ Inco Term) ด้วยทุกครั้ง วิธีที่นิยมใช้ ได้แก่ • F.O.B (Free on Board)เป็นราคาที่รวมค่าใช้จ่ายทุกชนิดจนถึงสินค้าขึ้นเรือ หรือเครื่องบินแต่ ไม่รวมค่าระวาง และค่าประกันสินค้า โดยค่าใช้จ่าย 2 ประเภทหลัง ผู้ซื้อจะต้องเป็นผู้ออกเอง • CFR หรือ CNF (Cost and Freight)คือราคา F.O.B. บวกด้วยค่าระวางถึงเมืองปลายทาง • CIF (Cost , Insurance and Freight)คือราคา CFR รวมค่าพรีเมียมการประกันสินค้า 2.5 ผู้ส่งออกควรมีมาตรการในการควบคุมคุณภาพสินค้า ผู้ส่งออกจะต้องควบคุมสินค้าให้มี ความสม่ำเสมอในด้านคุณภาพ เพื่อสร้างความเชื่อถือแก่ผู้ซื้อ และเป็นที่ยอมรับของตลาด


7 2.6 ผู้ส่งออกต้องมีความพร้อมในการออกแบบสินค้า หรือปรับปรุงสินค้าให้เหมาะสมกับผู้ซื้อ เนื่องจากผู้บริโภคในแต่ละตลาดย่อมมีรสนิยมและความต้องการที่แตกต่างกัน การพัฒนาการ ออกแบบสินค้า จะช่วยให้สามารถปรับให้สินค้ามีความเหมาะสมกับตลาดได้ ซึ่งจะทำให้สามารถขาย สินค้าได้เพิ่มขึ้น 3. การเลือกตลาด การเลือกตลาดสามารถทำได้ 2 วิธีคือ 3.1 การวิจัยจากข้อมูลทุติยภูมิ (Desk Research) เป็นการวิจัยที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ แต่ข้อมูลที่ได้จะไม่ลึก เพราะเป็นการใช้ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) จากแหล่งต่างๆ เช่น สำนักงานที่ปรึกษาการพาณิชย์กรมส่งเสริมการส่งออก สภา หอการค้า สำนักงาน ESCAP ฯลฯ โดยวิธีการทำ Desk Research พิจารณาได้จาก ข้อมูลทางสถิติ ของการนำเข้าส่งออกย้อนหลัง 3-5 ปีเพื่อให้การวิเคราะห์ตัวเลขเกิดความเชื่อมั่นได้ ข้อมูลที่ใช้ ได้แก่ื จำนวนประชากร (Population Size) เพื่อใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการเลือกตลาดสินค้า โดยใช้ในการ ประเมินความต้องการของตลาด แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาร่วมกับอำนาจซื้อ (Purchasing Power) ของ ประชากรในประเทศนั้น ๆ ด้วยภาวะการแข่งขันในตลาดเป้าหมายพิจารณาว่าประเทศใดมีสัดส่วน ทางการตลาดในประเทศนั้นมากน้อยเพียงไรเพื่อใช้ในการวางกลยุทธ์ทางการแข่งขันในตลาดนั้นๆ เพราะข้อมูลที่ได้สามารถนำมาเปรียบเทียบหาข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบของประเทศนั้นๆ แล้วนำมา ปรับในกลยุทธ์ในการแข่งขันของเราได้กฏระเบียบการนำเข้าของตลาดเป้าหมายพิจารณาว่ามีข้อจำกัด หรือกฎระเบียบใดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่จะส่งออก เพื่อจะได้เตรียมเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วน จะได้ไม่เกิดปัญหาในการนำสินค้าเข้าประเทศนั้นๆ 3.2 การวิจัยโดยใช้ข้อมูลปฐมภูมิ (Field Research) เป็นการทำวิจัยในภาคสนามต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง เป็นการใช้ข้อมูลในลักษณะปฐมภูมิ (Primary Data) การทำวิจัยวิธีนี้ผู้ทำจะต้องมีประสบการณ์และความรู้ทางการตลาดเป็นอย่างดี เช่น การ เดินทางไปศึกษาตลาดด้วยตนเองวิธีนี้จะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่โอกาสที่จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องจะมีอยู่ มาก เพราะจะได้เห็นถึงสภาพตลาดที่แท้จริง ความต้องการและรสนิยมของผู้บริโภคในตลาดตลอดจน จะมีโอกาสได้ติดต่อโดยตรงกับผู้นำเข้าอีกด้วย


8 4. การทำสัญญาซื้อขาย (Sale Contract) เมื่อมีการเสนอราคาและตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ก็จะถึงขั้นตอนการนำสัญญาซื้อขาย โดยผู้ซื้อ และ ผู้ขาย หรือโดยตัวแทนของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งโดยปกติจะมีขั้นตอนดังนี้ Proforma Invoice เป็นเอกสารที่ผู้ขายส่งให้ผู้ซื้อเพื่อเป็นการเสนอ หรือยืนยันการเสนอราคา และเงื่อนไขต่างๆ ในการขายสินค้านั้นๆ Purchase Order เมื่อผู้ซื้อตกลงตามราคา และเงื่อนไขใน Proforma Invoice แล้วจะส่ง หนังสือการสั่งซื้อ (Purchase Order) มาให้ผู้ขายเพื่อเป็นการตอบรับและสั่งซื้อสินค้าตามราคา และ เงื่อนไขดังกล่าว Sale Confirmationเป็นสัญญาการซื้อขาย ซึ่งผู้ขายส่งให้แก่ผู้ซื้อเพื่อเป็นการยืนยัน หรือตอบ รับการสั่งซื้อนั้นอีก (ซึ่งในทางปฏิบัติบางครั้งอาจจะไม่จำเป็นก็ได้) 5. การชำระเงิน (Term of Payment) การชำระเงินมีความสำคัญมากในการส่งออก เนื่องจากไม่ใช่เป็นการขายภายในประเทศ ที่ ลูกค้าจะสามารถเลือกดูสินค้า และส่งสินค้าได้ทันที ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายอยู่ห่างไกลกันมาก หากเกิด ปัญหาสินค้าไม่ตรงตามคุณภาพที่ต้องการหรือมีปัญหาเรื่องการชำระเงินแล้ว จะมีความยุ่งยากมากใน การติดตาม สำหรับการชำระเงินที่ปฏิบัติกันในปัจจุบัน มีดังนี้ 5.1 การจ่ายเงินล่วงหน้า (Cash or Advance Payment) วิธีนี้ผู้ซื้อจะส่งเงิน (Bank Draft หรือการโอนเข้าบัญชีผู้ขาย) ให้แก่ผู้ขายไปก่อน เมื่อผู้ขายได้รับเงินแล้วจึงจะส่งสินค้ามาให้ผู้ซื้อวิธีนี้ผู้ ซื้อค่อนข้างจะเสียเปรียบมากหากไม่คุ้นเคยหรือรู้จักผู้ขายเป็นอย่างดี 5.2 การจ่ายเงินเชื่อ (Open Account)วิธีนี้จะตรงกันข้ามกับวิธีแรก คือผู้ขายจะส่งสินค้ามา ให้ผู้ซื้อก่อนและได้รับชำระเงินจากผู้ซื้อภายหลัง ซึ่งอาจจะมีการตกลงกันว่าภายในกี่วัน เช่น 30 หรือ 60 วัน ซึ่งผู้ขายจะเป็นผู้เสียเปรียบ 5.3 Consignment เป็นการจ่ายเงินเมื่อผู้ซื้อสามารถขายสินค้านั้นได้แล้วหรือเรียกว่าการขาย ฝาก ซึ่งถ้าผู้ซื้อเอาสินค้าไปแล้วและยังขายต่อไม่ได้ ก็ยังไม่ต้องจ่ายเงินให้แก่ผู้ขาย


9 5.4 Documents Against Payment (D/P) เป็นการจ่ายเงินก่อนนำเอกสารไปออกสินค้า วิธี นี้ผู้ขายจะส่งเอกสารที่ใช้ในการออกสินค้าไปให้แก่ธนาคารในประเทศของผู้ซื้อเมื่อผู้ซื้อมาจ่ายเงินค่า สินค้าที่ธนาคารแล้วจึงสามารถเอาเอกสารนั้นไปออกสินค้าได้ ซึ่งมีทั้งการจ่ายเงินทันที ( At Sight) หรือจ่ายภายหลัง (Term 30, 60 หรือ 90 วัน) 5.5 Documents Against Acceptance (D/A) เป็นการจ่ายเงินโดยผู้ซื้อรับรองตั๋วแลกเงิน แล้วนำเอกสารไปออกสินค้า วิธีนี้คล้ายกับวิธี D/P คือเอกสารทั้งหมดจะส่งให้แก่ธนาคารในประเทศ ของผู้ซื้อแต่ผู้ซื้อรับรองตั๋วแกเงินแล้วนำเอกสารไปออกสินค้าได้เลย โดยยังไม่ต้องจ่ายเงินและก็อาจจะ สามารถไม่จ่ายเงิน ภายหลังก็ได้ 5.6 Letter of Credit (L/C) วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีและเหมาะสมมาก ไม่มีการเสี่ยงทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย โดยเมื่อมีการตกลงซื้อขายกันแล้ว ผู้ซื้อจะเปิด L/C นี้ โดยธนาคารของผู้ซื้อมายังผู้ขายโดยผ่าน ธนาคารของผู้ขาย โดยจะระบุเงื่อนไขต่างๆ ใน L/C นั้นและเมื่อผู้ขายได้จัดส่งสินค้าถูกต้องตามเงื่อน ไขใน L/C ให้แก่ผู้ซื้อแล้วก็สามารถนำเอกสารในการส่งออกไปขึ้นเงินกับธนาคารของผู้ขายได้ การตกลงใช้วิธีการชำระเงินต่างๆ เหล่านี้ ขึ้นกับความเชื่อถือรู้จักกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย หรือในบางกรณีขึ้นกับว่าความต้องการจะขายหรือซื้อสินค้ามากน้อยแค่ใหน เช่น ถ้าผู้ซื้อต้องการ สินค้าชนิดนี้มากหรือหาซื้อไม่ได้ง่ายนัก ก็อาจจะยอมจ่ายเงินล่วงหน้ามาให้แก่ผู้ขายก่อนก็ได้ซึ่งแต่ละ วิธีก็มีความได้เปรียบเสียเปรียบหรือความเสี่ยงมากน้อยไม่เท่ากัน แต่วิธีที่นิยมใช้กันมากในการค้า ระหว่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ซื้อและผู้ขายเพิ่งจะรู้จักกันก็คือ การเปิด L/C 6. พิธีการส่งออก พิธีการส่งออกเป็นขั้นตอนสุดท้ายสำหรับการส่งออกสินค้า แต่ก็เป็นขั้นตอนที่มีความซับซ้อน มากขั้นตอนหนึ่ง แต่ถ้าได้มีการศึกษาและเตรียมพร้อมล่วงหน้าแล้วก็จะไม่มีความยุ่งยาก เพราะ รัฐบาลเองก็ส่งเสริมให้มีการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศอยู่แล้วจึงได้พยายามลดขั้นตอนหรือ อุปสรรคต่างๆ ลงเพื่อช่วยให้ผู้ส่งออกเกิดความสะดวกรวดเร็วในการจะส่งออกสินค้า โดยปกติแล้ว การส่งออกสินค้าแต่ละชนิดโดยเฉพาะสินค้าที่มีการควบคุม ก็จะมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการควบคุม สินค้านั้นโดยตรง ซึ่งอาจจะเป็นหน่วยงานเดียวหรือหลายหน่วยงานก็ได้


10 เอกสารที่ใช้ในการส่งออกโดยทั่วไปประกอบด้วย 1. ใบขนสินค้าขาออก 2. บัญชีราคาสินค้า (Invoice) 3. ใบอนุญาต หรือหนังสือรับรอง 4. คำร้องต่าง ๆ (ถ้ามี) 5. ใบแนบใบขนสินค้าขาออก (กรณีเป็นสินค้าที่จะขอคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ) 6. ใบขนสินค้ามุมน้ำเงิน (กรณีเป็นสินค้าที่ขอชดเชยอากรสินค้าส่งออก) 2.4 แผนภาพก้างปลา แผนภูมิก้างปลา หรือ Fish Bone Diagram เป็นแผนภูมิที่ใช้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง ผลกระทบ และสาเหตุ โดยแบ่งเป็น สาเหตุหลัก สาเหตุรอง และสาเหตุย่อย ด้วยโครงสร้างที่ชัดเจน ในการวิเคราะห์ระบุปัจจัยพื้นฐานของสาเหตุของปัญหาต่างที่เกิดขึ้น ช่วยให้เราสามารถหาสาเหตุของ ข้อบกพร่องและความล้มเหลวในกระบวนการต่าง ๆ ในไทยนิยมเรียกสองแบบคือ แผนภูมิก้างปลา และ ผังก้างปลา หรือเรียกอีกชื่อว่า แผนภูมิอิชิกาวะ (Ishikawa Diagram/Fishikawa) ตามชื่อผู้ คิดค้น คือ คุณคาโอรุ อิชิกาวะ (Kaoru Ishikawa) ที่นำผังก้างปลามาใช้ในการจัดการปัญหาและเพิ่ม คุณภาพการผลิตสำหรับอู่ต่อเรือคาวาซากิในช่วงปี พ.ศ.2503 – พ.ศ.2511 แผนภูมิก้างปลาเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงของปัญหา เป็น กระบวนการที่มีโครงสร้างช่วยในการช่วยระบุปัจจัยพื้นฐานหรือสาเหตุของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ การทำความเข้าใจถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่เอื้อต่อการทำงานที่เป็นสาเหตุของความล้มเหลวของระบบ สามารถช่วยพัฒนาการดำเนินการที่สนับสนุนการแก้ไขได้ ผังก้างปลา ตามชื่อเป็นแผนภาพที่เลียนแบบโครงกระดูกปลา ปัญหาพื้นฐานถูกวางไว้ในหัว ของปลา (หันหน้าไปทางขวา) และสาเหตุจะขยายไปทางซ้ายเช่นเดียวกับโครงกระดูก ก้างปลาแต่ละ ก้างแสดงถึงสาเหตุสำคัญ ในขณะที่ก้างย่อยแสดงถึงสาเหตุของแต่ละสาเหตุสำคัญ โครงสร้างของผัง ก้างปลาสามารถแตกแขนงออกไปได้หลายระดับตามความจำเป็นเพื่อหาสาเหตุของปัญหา


11 ข้อดีของ Fishbone Diagram Fishbone Diagram หรือ แผนภูมิก้างปลา นั้นค่อนข้างใช้งานง่าย เช่นเดียวกับ 5Whys และ Brainstorming เทคนิคนี้สามารถเรียนรู้และนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากการใช้ ภาพ เป็น องค์ประกอบทำให้คนในทีมเห็นสิ่งที่เป็นปัญหาหลัก (ส่วนหัวปลา) และสาเหตุหลักที่มีผลต่อระสิทธิ ภาพการทำงาน (ส่วนกระดูดสันหลังและก้าง) แผนภาพเหล่านี้ช่วยให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของเหตุและ ผลที่ผู้วิจัยปัญหาต้องการจะสื่อประวัติที่ยาวนานกว่า 50 ปีช่วยให้มั่นใจได้ว่าแผนภูมิก้างปลา เป็น เทคนิคดั่งเดิมที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้แก้ปัญหาเข้าใจถึงสาเหตุของปัญหา ข้อจำกัดของ Fishbone Diagram กระบวนการระดมความคิดสามารถก่อให้เกิดสาเหตุที่เป็นไปได้ที่ไม่เกี่ยวข้องพร้อมกับสาเหตุที่ เกี่ยวข้องจำนวนมาก อาจทำให้เกิดความสับสนและเสียเวลาการสร้างผังก้างปลา การวิเคราะห์สาเหตุ ที่แท้จริงของเหตุและผลต้องใช้มุมมองจากคนที่มีประสบการณ์ถึงจะสามารถสรุปได้อย่างแม่นยำหลาย ครั้งการระดมความเห็นจากทีมงานหลายคน มักจบด้วยการใช้การ “โหวต” โดยทีมงานเพื่อระบุ ปัญหาที่แท้จริง แต่ในความเป็นจริงแล้วการระดมความคิดของทีมงานเป็นเพียงความคิดเห็น ไม่ได้ พิสูจน์ว่าสาเหตุต่างๆที่เลือกทำให้เกิดปัญหาจริงๆผังก้างปลา โดยตัวมันเองไม่ได้มีหน้าที่ในการ แก้ปัญหา จึงจำเป็นต้องใช่คู่กับเครื่องมืออื่นประกอบ


12 2.5 การลดความสูญเปล่าด้วยหลัก ECRS ECRS เป็นเครื่องมือลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ โดยมีหลักคิดง่าย ๆ แต่ใช้งานได้จริง สามารถนำไปปรับใช้ได้ในทุกๆ ส่วนงานทั้งภาครัฐบาลหรือเอกชน และในทุกๆ อาชีพ ไม่ว่าจะเป็นนัก ออกแบบ วิศวกร ครูอาจารย์ แพทย์ พยาบาล ฯลฯ สามารถนำหลักการ ECRS ไปประยุกต์ใช้ได้ โดยเครื่องมือดังกล่าวจะช่วยปรับปรุงกระบวนการ เพิ่มผลผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ สร้าง ความสามารถในการแข่งขัน ลดความสูญเสีย (7 Wastes : 7การสูญเสีย ได้แก่ ย้ายบ่อย คอยนาน สต๊ อกบาน งานผิด ผลิตเกิน เดิน เอื้อม หัน ขั้นตอนไร้ค่า) และสิ่งสำคัญคือ สามารถตอบสนองความ ต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าและผู้รับบริการได้ E : Eliminate (การกำจัด) คือ การจัดการตัดกระบวนการหรือสิ่งที่ไม่มีความจำเป็นในการ ทำงาน สิ่งที่ทำแล้วไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ทำแล้วเกิดการเสียเวลา หรือเกิดการสูญเสียทิ้งไป แต่ใน การกำจัดนั้นจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของสินค้า หรือเมื่อกำจัดแล้วจะต้องไม่เกิดผลทางด้าน ลบกับองค์กรหรือตัวสินค้า C : Combine (การรวมกัน) คือ การรวมขั้นตอนบางอย่างที่อาจมีการทำซ้ำๆ มารวมกัน โดย หากเรานำขั้นตอนในการทำงานบางขั้นมารวมให้เป็นขั้นตอนเดียวก็จะช่วยให้ประหยัดเวลาในการ ทำงานและอาจช่วยลดจำนวนแรงงานได้ด้วย R : Rearrange (การจัดใหม่) คือ การจัดลำดับความสำคัญในแต่ละขั้นตอนการทำงานขึ้นมา ใหม่ ทำให้การทำงานง่ายขึ้น ประหยัดเวลาและทรัพยากรอื่น ๆ ได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลด โอกาสการเกิดความผิดพลาดในการทำงานขึ้นด้วย ในบางครั้งเมื่อเรานำขั้นตอนการทำงานมากางดูทั้ง ระบบแล้วอาจพบว่าการเรียงขั้นตอนสลับกันเพียงหนึ่งขั้นและอาจทำให้การทำงานล่าช้าไปได้มาก ดังนั้นหากเรามองภาพรวมและจัดระบบใหม่ก็จะช่วยแก้ปัญหาความสูญเปล่าของทรัพยากรได้ดียิ่งขึ้น


13 S : Simplify (การทำให้ง่ายขึ้น) หากวิธีหรือขั้นตอนในการทำงานมีความซับซ้อนเกินความ จำเป็นอาจทำให้องค์กรสูญเสียทรัพยากรที่มากเกินไปโดยใช่เหตุ การปรับปรุงวิธีการทำงานให้ง่ายขึ้น จะช่วยลดระยะเวลาการทำงานที่ยืดเยื้อและลดโอกาสการเกิดความผิดพลาดจากการทำงาน เช่น การ เปลี่ยนที่จัดวางอุปกรณ์ในการทำงานใหม่ให้หยิบใช้สะดวกกว่าเดิม หรือจัดสถานที่ทำงานใหม่เพื่อ ลดทอนเวลาที่จะต้องเสียไป การทำ ECRS ไม่จำเป็นต้องทำทั้งสี่องค์ประกอบ เราสามารถเลือกใช้ องค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งตามสมควรที่เห็นว่าเหมาะกับตัวเนื้องานหรือองค์กรได้() 2.7 ข้อมูลบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด บริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด ดำเนินธุรกิจผลิตกระจกนิรภัย กระจกประหยัดพลังงาน กระจกที่ใช้ในงานตกแต่ง และกระจกที่ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งในประเทศและ ต่างประเทศมาเป็นเวลากว่า 50 ปี ปัจจุบัน PMK มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัด สมุทรสาคร และมีโรงงานอยู่ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี บนพื้นที่กว่า 101,000 ตารางเมตร และมีบุคลากรกว่า 1,100 คน PMK เริ่มต้นธุรกิจจากการผลิตกระจกรถยนต์ และรถบัสจนได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามา ยาวนาน ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล PMK ได้ขยายการผลิตนอกเหนือไปจากการผลิตกระจกนิรภัย สำหรับรถยนต์แล้ว ยังผลิตกระจกที่มีคุณภาพสูงสำหรับงานทางสถาปัตยกรรม งานตกแต่งภายใน และอุตสาหกรรมอื่นๆ อาทิ เฟอร์นิเจอร์ ตู้แช่เย็น เป็นต้น


14 2.8 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง พิมพร เทศแก้ว และ สิทธิชัย แก้วเกื้อกูล. (2563) ได้ทำการวิจัยเรื่อง “การปรับสมดุล สายการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ด้วยวิธีการ ECRS” การปรับสมดุลสายการผลิตเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญ ต่อต้นทุน และยังส่งผลต่อศักยภาพในการแข่งขันขององค์กรที่ประกอบธุรกิจประเภทเดียวกัน งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและหาแนวทางการลดเวลาในการผลิตตามความต้องการของ ลูกค้า ลดปัญหาคอขวด และลดความสูญเปล่าที่เกิดขึ้นกระบวนการผลิตชุดสายไฟในรถยนต์ โดยใช้ หลักการศึกษาการทำงานและหลักการจัดสมดุลสายการผลิต เริ่มจากการศึกษากระบวนการผลิต เก็บ รวบรวมข้อมูลกระบวนการผลิต จากนั้นนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางในการลดเวลาในการ ทำงานให้ต่ำกว่าหรือเท่ากับเวลาความต้องการของลูกค้า ใช้หลักการ ECRS ในการปรับปรุง กระบวนการผลิตให้เหมาะสมกับแต่ละกระบวนการทำงาน และจัดสมดุลสายการผลิต จากการ ดำเนินการปรับปรุง พบว่า เวลารวมการผลิตลดลง 13.97% เวลาการผลิตต่อรอบลดลง 14.64% และ อัตราการผลิตต่อวันเพิ่มขึ้น 17.00% อติกานต์ ม่วงเงิน. (2562) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การประยุกต์ใช้เทคนิคแบบลีน (ECRS+IT) เพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพของ กระบวนการทำงานระบบตู้รับคืนหนังสืออัตโนมัติการวิจัยในครั้งนี้มี วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการประยุกต์ใช้เทคนิคแบบลีน (ECRS+IT) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ กระบวนการทำงานระบบตู้รับคืนหนังสืออัตโนมัติ ซึ่งงานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปฎิบัติการ (Action Research) กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยในครั้งนี้ คือ งานการรับคืนหนังสือของระบบตู้รับคืนหนังสือ อัตโนมัติ จำนวนทั้งสิ้น30 ตัวอย่าง โดยใช้แบบเก็บข้อมูล (Book Return Check Sheet) ในการเก็บ รวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้สถิติพรรณา (Descriptive Statistics) เช่น ความถี่ ร้อยละวิเคราะห์เปรียบเทียบผลก่อนการปรับปรุง (Pre Lean) และหลังการปรับปรุง (Post Lean) โดยใช้การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระหว่างกลุ่มตัวอย่างสองกลุ่มที่เป็นอิสระจากกัน ผลการวิจัยพบว่า การประยุกต์ใช้เทคนิคแบบลีน (ECRS+IT) สามารถลดจำนวนขั้นตอนของ กระบวนการทำงานลงคิดเป็นร้อยละ 58.824 ลดรอบเวลาทั้งหมดของกระบวนการทำงานได้คิดเป็น ร้อยละ 88.634 ลดรอบเวลาการรอคอยทั้งหมดของกระบวนการท างานได้คิดเป็นร้อยละ 89.501 เพิ่มเวลาของขั้นตอนที่มีคุณค่าทั้งหมดของกระบวนการท างานได้คิดเป็นร้อยละ 96.109 และลดเวลา ของขั้นตอนที่ไม่มีคุณค่าทั้งหมดของกระบวนการท างานได้คิดเป็นร้อยละ 100.00 จากการทดสอบ


15 ความแตกต่างก่อนและหลังการปรับปรุง พบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญของสถิติที่ระดับ 0.05กล่าวคือ เวลาของการรอคอยและรอบเวลาการทำงานก่อนและหลังการปรับปรุงกระบวนการ ทำงานลดลงทำให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้ผู้ใช้บริการระบบ ตู้รับคืนหนังสืออัตโนมัติสามารถตรวจสอบข้อมูลการรับคืนหนังสือผ่านเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของ ห้องสมุด รวมถึงได้รับข้อมูลแจ้งเตือนการรับคืนหนังสือที่รวดเร็วขึ้น และควรมีปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อการให้บริการที่ดี และขยายขอบเขตไปใช้กับกระบวนการอื่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ของห้องสมุด จิตราภา รักษา. (2560) ได้ทำการศึกษาเรื่อง การปรับปรุงและลดเวลากระบวนการทำงาน กรณีศึกษา : เฟอร์นิเจอร์นำเข้าจากต่างประเทศ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาแนวทางการ ปรับปรุงลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นรวมถึงลดเวลาสูญเปล่าที่เกิดขึ้นในกระบวนการทำงาน โดยเลือกใช้ กระบวนการมาตรฐาน DMAIC ของ Six Sigma เพื่อเป็นระเบียบวิธีการในการวิจัย และเครื่องมือ A B C Analysis เพื่อเลือกวิเคราะห์แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และเครื่องมือคุณภาพ 7 อย่าง (7 QC Tools) ร่วมกับแผนภาพกระบวนการไหล (Flow Process Chart) และการวิเคราะห์ความสูญเปล่าทั้ง 7 ประการ (7Wastes) เป็นเครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์หาปัจจัยสาเหตุหลักท่ีเป็นบ่อเกิดของความสูญ เปล่า ดังกล่าว หลังจากนั้นจึงทำการปรับปรุงขั้นตอนที่เป็นสาเหตุหลัก ตามกฎ 80/20 ด้วยหลักการ ECRS ได้แก่ การกำจัด (Eliminate) การรวมกัน (Combine) การจัดใหม่ (Rearrange) และการทำให้ ง่าย (Simplify) ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงและเวลาที่สูญเปล่าในกระบวนการ ทำงาน จากผลการศึกษา พบว่า ก่อนดำเนินการปรับปรุงใช้เวลาการทำงานโดยเฉล่ียท่ี120 ชั่วโมง หลังดำเนินการปรับปรุงกระบวนการทั้งหมด พบว่า เวลาเฉลี่ยที่ใช้ในกระบวนการลดลงเหลือเพียง 67.53 ชั่วโมง ลดเวลาไปทั้งสิ้น 52.47 ชั่วโมงหรือคิดเป็น 56.28% ของเวลาก่อนปรับปรุงและพบว่า ความล่าช้าของการกระจายสินค้าเข้าสาขาก่อนการปรับปรุงอยู่ท่ี26 เปอร์เซ็นต์หลังดำเนินการ ปรับปรุงกระบวนการทั้งหมด พบว่า ความล่าช้าที่เกิดขึ้นลดลงเหลือเพียง 9 เปอร์เซ็นต์ส่งผลให้ความ ล่าช้าลดลงและทำให้เพิ่มประสิทธิภาพหลังการปรับปรุงกระบวนการ


16 สรณ์ศิริเรืองโลก. (2560) ได้ทำการศึกษา เรื่อง การปรับปรุงประสิทธิภาพของสายการผลิต สมอลล์เอิร์ทลีคเบรกเกอร์ โดยงานวิจัยนี้มุ่งเน้นในเรื่องของการปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการ ผลิต โดยศึกษา เกี่ยวกับการจัดสมดุลในแต่ละสถานีการและการลดของเสียในกระบวนการผลิตให้กับ บริษัท กรณีศึกษาที่ผลิตสมอลล์เอิร์ทลีคเบรกเกอร์โดยเริ่มจากการหาเวลามาตรฐานของแต่ละสถานี การทํางาน แล้วทําการวิเคราะห์การทํางานของคนร่วมกับเครื่องจักรโดยใช้แผนภูมิคน – เครื่องจักร ก่อนการปรับปรุงพบว่าเกิดความไม่สมดุลที่สายการผลิตทําให้ประสิทธิภาพของสายการผลิตมีค่าต่ำ จากนั้นได้ทําการปรับปรุงสายการผลิตโดยใช้หลักการ ECRS แล้วทําการจัดสมดุลการผลิตใหม่ ภายหลังการปรับปรุงพบว่าสามารถลดจํานวนพนักงานจาก 13 คน เหลือ 12 คน และประสิทธิภาพ ของสายการผลิตเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 64.14 เป็นร้อยละ 87.80 ในการลดของเสียในกระบวนการผลิต ก่อนการปรับปรุงพบว่ามูลค่าของของเสียในกระบวนการผลิตเกินเป้าหมายที่บริษัทกําหนดไว้ที่ต่ำกว่า 500 บาทต่อเดือน จากนั้นจึงทําการวิเคราะห์หาสาเหตุที่ทําให้เกิดของเสียด้วยแผนภูมิก้างปลา หลังจากนั้นได้ทําการปรับปรุงเพื่อลดของเสีย ภายหลังการปรับปรุงพบว่าสามารถลดมูลค่าของเสีย จาก 1,387 บาทต่อเดือน เหลือ 487 บาทต่อเดือนได้ อารีรัตน์มีเย็น. (2563) ได้ทำการศึกษา เรื่อง การพัฒนาระบบการจัดการเอกสาร คณะ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความ พึงพอใจของผู้ใช้จากการใช้งานระบบและความมีประสิทธิภาพของระบบจัดการเอกสาร ผู้วิจัย ออกแบบสํารวจการใช้งานระบบจัดการเอกสาร การเก็บข้อมูลแบบสํารวจ การสัมภาษณ์ผู้ใช้และการ วิเคราะห์ข้อมูล พบว่าผู้ใช้ระบบมีความพึงพอใจต่อระบบการจัดการเอกสารอยู่ในระดับมาก (คะแนน เฉลี่ย 4.31 จาก 5) เนื่องจากระบบมีประสิทธิภาพสามารถทํางานได้ตามวัตถุประสงค์การจัดเก็บ สืบค้น และติดตามข้อมูลเอกสารได้สะดวก รวดเร็วผู้ใช้ระบบมีการนําข้อมูลที่สืบค้นได้ไปใช้ประโยชน์ ในงานด้านประกันคุณภาพ และงานต่างๆ ของคณะ เกินร้อยละ 63 แต่อย่างไรก็ตามระบบจัดการ เอกสารยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ทั้งหมด ผู้วิจัยนําข้อเสนอแนะจากผู้ใช้ในการ ออกแบบความต้องการของระบบ และพัฒนาระบบการจัดการเอกสารให้ตอบสนองต่อความต้องการ ของผู้ใช้งานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อการดําเนินงานของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่อไป


17 ธารชุดา พันธ์นิกุล. ( 2560) ได้ทำการศึกษา เรื่อง การปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการ ผลิตด้วยเครื่องมือทาง วิศวกรรมอุตสาหการ กรณีศึกษา: โรงงานประกอบรถจักรยาน งานวิจัยนี้มี วัตถุประสงค์เพื่อน าความรู้ทางด้านวิศวกรรมอุตสาหการมาประยุกต์ใช้จริง เพื่อช่วยในการลดต้นทุน ด้าน เวลาและแรงงานให้กับผู้ประกอบการ โดยโรงงานกรณีศึกษาในงานวิจัยนี้ เป็นโรงงานขนาดย่อม ในจังหวัดอุบลราชธานีซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลักคือจักรยาน และใช้แรงงานคนในการประกอบเป็นหลัก หลังจากศึกษาขั้นตอนการทำงานในปัจจุบันแล้วพบว่า การประกอบยังเป็นไปด้วยความล่าช้าและมี การรอคอยของพนักงานซึ่งเป็นการเสียเวลาไปโดยเปล่า ประโยชน์ ในงานวิจัยนี้จึงได้นำเครื่องมือทาง วิศวกรรมอุตสาหการต่าง ๆ เช่น การศึกษางาน การจับเวลา การใช้แผนภูมิกระบวนการผลิต (Operation Process Chart; OPC) แผนผังก้างปลา และเทคนิคการปรับปรุงงาน (ECRS) เป็นต้น มา ช่วยในการแก้ปญหาให้กับโรงงาน โดยพบว่าหลังจากปรับปรุงการทำงานแล้ว สามารถลดเวลาสูญ เปล่าใน การทำงานลงได้จากเดิม 509 วินาที เหลือเพียง 43 วินาที และในภาพรวมใช้เวลาประกอบ จักรยานลดลงจาก 837 วินาทีต่อคัน เหลือเพียง 595 วินาที หรือ ใช้เวลาประกอบจักรยานได้เร็วขึ้น 28.91% วิทยา อรุณไพศาล. (2565) ได้ทำการศึกษา เรื่อง การปรับปรุงระบบการบริหารองค์กร บริษัท ไทรแองเกิล ออโต้ จำกัด การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน ปัญหา และสาเหตุของปัญหา สำหรับวางแผนปรับปรุงระบบบริหารจัดการองค์กร ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันทั้งภายนอก และภายในด้วย SWOT analysis ศึกษาถึง สาเหตุหลักของปัญหาโดยอาศัยแผนผัง ความใกล้ชิด แผนภูมิพาเรโต้แผนผังความสัมพันธ์แผนผัง ก้างปลา และเสนอ แนวทางการแก้ไขปัญหาและปรับปรุงองค์กรด้วยการระดมสมอง ผลการศึกษา พบว่าสาเหตุหลักของปัญหาการบริหารองค์กรที่ด้อยประสิทธิภาพ ได้แก่พนักงาน ไม่รู้หน้าที่ ทำงาน ไม่เป็นทีม แนวทางแก้ไขและปรับปรุงประกอบด้วยการจัดทำนโยบายบริหาร นโยบายคุณภาพ นโยบายการบริหารคลังสินค้า การตลาด การซื้อ การขาย การเงินและบัญชีและนโยบายการบริหาร บุคคล รวมถึงการจัดทำแผนภูมิโครงสร้างองค์กรใหม่ การบรรยายงาน และการออกแบบ กระบวนการทำงานตลอดจนการสร้างมาตรฐานของงานตามแนวของ PDCA


18 บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย จากการศึกษาเรื่อง การจัดการเอกสารส่งออกและการขนส่งสินค้า บริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์ กลาส จำกัด โดยใช้เครื่องมือแผนผังก้างปลา (Fish Bone Diagram) และทฤษฎีการลดความสูญเปล่า ด้วยหลัก ECRS เข้ามาใช้ในการวางแผนกระบวนการทำงานและวิเคราะห์ความน่าจะเป็นที่เกิดขึ้น และทำการประเมินผลก่อนและหลังกระบวนการทำงาน โดยจะเป็นกระบวนวางแผนการทำงานและ ปรับปรุงปฏิบัติการดำเนินงานตามกระบวนการที่กำหนดไว้ ผู้วิจัยได้ศึกษาประเด็นวิธีการดำเนินงาน การวิจัย ดังนี้ 3.1 แบบแผนของการวิจัย 3.2 ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย 3.3. ขั้นตอนการดำเนินงานวิจัย 3.4 เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการวิจัย 3.5 การเก็บรวบรวมข้อมูล 3.6 การวิเคราะห์ข้อมูล 3.7 ระยะเวลาในการดำเนินงาน 3.1 แบบแผนของการวิจัย การวิจัยครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยเเบ่งระยะของการ วิจัยออกเป็น 3 ระยะ ได้เเก่ 1. การวิเคราะห์หาสาเหตุเเละการดำเนินงานในปัจจุบัน 2. การกำหนด เเนวทางขั้นตอนในการจัดทำเอกสารส่งออก 3. การเปรียบเทียบผลที่ได้จากเเผนการดำเนินงาน ประกอบด้วย ดังนี้ 3.1.1 การวิเคราะห์หาสาเหตุเเละการดำเนินงานในปัจจุบัน ซึ่งจากการศึกษาข้อมูลเบื้องต้น พบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ ลูกค้าได้รับสินค้าที่ล่าช้า ผู้วิจัยจึงทำการศึกษาโดยใช้แผนภาพก้างปลา (Fish Diagram) ในการค้นหาสาเหตุและพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาจากขั้นตอนการทำงานว่ามี ขั้นตอนได้ที่ซับซ้อนไม่เกิดประโยชน์


19 3.1.2 การกำหนดเเนวทางขั้นตอนในการจัดทำเอกสารส่งออกเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการ จัดการเอกสาร ซึ่งการศึกษาขั้นตอนการจัดการเอกสารและการขนส่งสินค้าของบริษัท พีเอ็มเค ได มอนด์กลาส จำกัด โดยใช้หลัก ECRS เพื่อเริ่มต้นกระบวนการปรับปรุงขั้นตอนการทำงาน การ จัดลำดับงานให้เหมาะสม และการปรับปรุงวิธีการทำงาน ให้สอดคล้อดกับปัญหาของลูกค้าได้รับ สินค้าล่าช้า 3.1.3 การเปรียบเทียบผลที่ได้จากเเผนการดำเนินงานซึ่งการศึกษาขั้นตอนการจัดการเอกสาร และการขนส่งในการใช้เปรียบเทียบผลลัพธ์ข้อมูลก่อน – หลังการศึกษาในแต่ละขั้นตอนที่ได้ปฏิบัติ ตามแผนการทำงานและปรับปรุง ให้เป็นไปตามตัวชี้วัดการทำงานในด้านของเวลา และความถูกต้อง ของขั้นตอนในการจัดการเอกสารส่งออกและขนส่งสินค้า 3.2 ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย 3.2.1 ประชากรในการศึกษาครั้งนี้คือ พนักงานบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด จำนวน 733 คน 3.2.2 กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้คือ พนักงานของบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด แผนกการขายและขนส่ง จำนวน 10 คน


20 3.3 ขั้นตอนการดำเนินการวิจัย ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาการดำเนินงาน ขั้นตอนที่ 2 รวบรวมข้อมูล ศึกษาขั้นตอนและ เอกสารการขนส่งสินค้า ศึกษางานวิจัยและทฤษฎี ที่เกี่ยวข้อง ศึกษาแนวคิดของ เครื่องมือที่ใช้ในการ วิจัย สัมภาษณ์พนักงานกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 10 คน เก็บรวบรวมข้อมูลและจดบันทึก เพื่อนำมาวิเคราะห์งานวิจัย กำหนดแนวทางการแก้ไขและ ปรับปรุง


21 ขั้นตอนที่ 3 การนำเครื่องมือมาใช้ในการวิเคราะห์ปัญหา ขั้นตอนที่ 4 ดำเนินการปรับปรุงตามแผนงาน วิเคราะห์ปัญหาโดยใช้เครื่องมือ แผนผังก้างปลา กำหนดหัวข้อปัญหาหลักและปัญหา รองเพื่อใช้ในการปรับปรุง ทฤษฎีการลดความสูญเปล่าด้วย หลักการ ECRS เพื่อการปรับปรุงการดำเนินงานก่อน และหลัง ทำการลงพื้นที่จริง ดำเนินการปรับปรุงแก้ไข เปรียบเทียบข้อมูลก่อนและหลังการทำงาน


22 ภาพที่ 3.1 ขั้นตอนการดำเนินงานวิจัย (ที่มา : ผู้วิจัย, 2566) 3.4 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 3.4.1 วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาโดยใช้การวิเคราะห์แบบแผนภูมิก้างปลา (Fish Bone Diagram) ใช้ในการวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาจากขั้นตอนการขนส่งสินค้าของ บริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด 3.4.2 วิเคราะห์การลดความสูญเปล่าด้วยหลัด ECRS เป็นกระบวนการดำเนินงาน ได้แก่ การ กำจัด การรวมกัน การจัดใหม่ และการทำให้ง่าย ซึ่งเป็นหลักที่สามารถใช้ในการเริ่มต้นลดความสูญ เปล่าได้ง่าย จากสิ่งที่อยู่รอบตัวของขั้นตอนการขนส่งสินค้าของบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด 3.5 การเก็บรวบรวมข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูลผู้วิจัยได้ทำการเข้าไปเก็บข้อมูลโดยการศึกษาขั้นตอนการจัดทำเอกสาร ส่งออกและการขนส่งสินค้าของบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด เปรียบเทียบผลลัพธ์ของข้อมูล ก่อน – หลังการศึกษาในแต่ละขั้นตอนที่ได้ปฏิบัติตามแผนการทำงาน ให้เป็นไปตามตัวชี้วัดการทำงาน ในด้านของเวลา และความถูกต้องของขั้นตอนในการจัดการเอกสารส่งออกและขนส่งสินค้า 3.4.1 การศึกษาข้อมูลจากเอกสาร (Documentary Research) ผู้วิจัยได้ศึกษาแนวคิด ทฤษฎีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาบทความวิชาการ วารสารวิชาการ ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงงานวิจัยที่เกี่ยวข้องต่างๆ 3.4.2 การรวบรวมข้อมูลจากพื้นที่จริงของบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด การเก็บข้อมูล การวิจัย โดยผู้วิจัยได้ทำการสอบถามจากการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างจำนวน 10 คน ขั้นตอนที่ 5 สรุปผลการวิจัย


23 3.6 การวิเคราะห์ข้อมูล หลังจากการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นจนแล้วเสร็จได้ดำเนินการดังต่อไปนี้ 3.6.1 ผู้วิจัยได้นำข้อมูลและรายละเอียดที่ได้มาตรวจสอบความสมบูรณ์ก่อนการวิเคราะห์ ข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์พนักงานเป็น เพศหญิง จำนวน 7 คน และเพศชาย จำนวน 3 คน โดยมี สัญชาติไทย ที่มีความเชี่ยวชาญชำนานจากการทำงานมามากกว่า 10 ปี 3.6.2 การวิเคราะห์ข้อมูลเนื้อหาที่ได้จากการเก็บข้อมูล โดยการแบ่งวิเคราะห์ออกเป็นแต่ละ ประเด็น ดังนี้ 3.6.2.1 วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาโดยใช้การวิเคราะห์แบบแผนภูมิก้างปลา (Fish Bone Diagram) เพื่อให้รู้ต้นตอของสาเหตุอย่างตรงจุด โดยเน้นการวิเคราะห์ไปที่การขนส่งสินค้าของบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด เนื่องจากเป็นปัญหาที่บริษัทสามารถจัดการปัญหาได้ทันที และใช้เวลา ในการแก้ไขปัญหาไม่นาน ซึ่งสาเหตุของการส่งสินค้าล่าช้าไม่ตรงตามเวลาที่กำหนดเกิดจาก กระบวนการทำงานที่ล่าช้า ไม่มีประสิทธิภาพ และขั้นตอนของการทำงานไม่ชัดเจน 3.6.2.2 ศึกษาข้อมูลสาเหตุของปัญหาเพื่อใช้เป็นข้อมูลหรือแนวทางในการวิเคราะห์การลด ความสูญเปล่าด้วยหลักการ ECRS ในการลดขั้นตอนการปฏิบัติและลดระยะเวลาการทำงานของ พนักงานในการจัดการเอกสารการส่งออกให้กับลูกค้าอันเกิดจากความล่าช้าในการส่งมอบสินค้า 3.6.3 เสนอแนวทางการแก้ไขและนำมาดำเนินการเพื่อหาประสิทธิภาพในการทำงานของ บริษัทตัวอย่างให้สามารถส่งมอบสินค้าได้ทันเวลา หรือใช้เวลาน้อยลง 3.6.4 สรุปผลการดำเนินงานเพื่อเป็นการวัดผลการดำเนินงานว่าการดำเนินการนั้นประสบ ความสำเร็จหรือไม่ อย่างไร พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงกระบวนการให้ดียิ่งขึ้น หรือเพิ่ม ประสิทธิภาพการทำงานในกระบวนการอื่นๆ ของบริษัทต่อไป


24 3.7 ระยะเวลาในการดำเนินงาน ตารางที่ 3.1 ระยะเวลาในการดำเนินงาน ขั้นตอนการดำเนินงาน เดือนธันวาคม – เดือนมีนาคม ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1. กำหนดหัวข้อการวิจัย 2. ศึกษาปัญหาการวิจัย 3. เก็บข้อมูลการวิจัย 4. เสนอเค้าโครงงานวิจัย 5. ดำเนินการใช้เครื่องมือ แก้ปัญหา 6. วิเคราะห์ผลที่ได้จาก การใช้เครื่องมือแก้ปัญหา 7. วิเคราะห์ข้อมูล 8. สรุปผลการศึกษาและ นำเสนอ งบประมาณค่าใช้จ่ายในการวิจัย 1. ค่าเดินทาง 100 บาท 2. ค่าอุปกรณ์ 50 บาท 3. ค่าใช้สอย 100 บาท รวม 250 บาท


25 บทที่ 4 ผลการดำเนินงานและผลการวิจัย 4.1 ศึกษาระบบการทำงาน 4.1.1 ข้อมูลพื้นฐานของบริษัท บริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด เป็นบริษัทผลิตกระจกนิรภัย กระจกประหยัดพลังงาน กระจกที่ใช้ในงานตกแต่ง และกระจกที่ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งในประเทศและ ต่างประเทศมาเป็นเวลากว่า 50 ปี ปัจจุบัน PMK มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัด สมุทรสาคร และมีโรงงานอยู่ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรีปัจจุบันมีพนักงานระดับปฏิบัติการ ประมาณ 733 คน โดยทำงานวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลาทำงานปกติ คือ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. พักระหว่าง 12.00 – 13.00 น. (ทำงาน 8 ชั่วโมง/วัน) 4.1.2 ขั้นตอนในการดำเนินงาน ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาการดำเนินงาน 1) ศึกษาขั้นตอนการจัดการเอกสารและการขนส่งสินค้า 2) ศึกษางานวิจัยและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง 3) ศึกษาแนวคิดของเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ขั้นตอนที่ 2 การเก็บรวบรวมข้อมูล 4) สัมภาษณ์พนักงานแผนกการขายและขนส่ง โดยใช้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 10 คน 5) เก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้แล้วนำมาจดบันทึกเพื่อนำมาวิเคราะห์ 6) กำหนดแนวทางการแก้ไขและปรับปรุง


26 ขั้นตอนที่ 3 การนำเครื่องมือมาใช้ในการวิเคราะห์ปัญหา 7) วิเคราะห์ปัญหาโดยใช้เครื่องมือ แผนผังก้างปลา โดยกำหนดหัวข้อปัญหาหลักและปัญหา รองเพื่อใช้ในการปรับปรุงที่เกิดขึ้นนารทำงาน เพื่อวางแผนและปรับปรุงต่อไป 8) วิเคราะห์ทฤษฎีการลดความสูญเปล่าด้วยหลักการ ECRS เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานก่อน และหลังการทำงาน ขั้นตอนที่ 4 การดำเนินการปรับปรุงตามแผนงาน 9) ทำการลงพื้นที่และมีการดำเนินการปรับปรุงแก้ไข เปรียบเทียบข้อมูลก่อน - หลังการ ดำเนินงาน ขั้นตอนที่ 5 สรุปผลการวิจัย 10) สรุปผลการศึกษาและบันทึกผล 4.2 การวิเคราะห์หาสาเหตุและการดำเนินงานในปัจจุบัน 4.2.1 วิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาโดยใช้แผนภาพก้างปลา (Fish Bone Diagram) จากการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาการจัดการเอกสารส่งออกและการขนส่งสินค้า โดยใช้ แผนภาพก้างปลา (Fish Bone Diagram) ทำให้ผู้วิจัยทราบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการประสานงาน ระหว่างพนักงานกับลูกค้าไม่ต่อเนื่อง ระบบประมวลข้อมูลของเอกสารการส่งสินค้ามีปัญหา และ เครื่องยนต์หรือเครื่องจักรมีจำนวนไม่มีเพียงพอ ซึ่งสาเหตุที่กล่าวมาข้างต้นนั้นส่งผลให้ลูกค้าได้รับ สินค้าที่ล่าช้ากว่าปกติ ซึ่งวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยใช้แผนผังแสดงเหตุและผลดังภาพที่ 4.1


27 ภาพที่ 4.1 การวิเคราะห์ปัญหาด้วยแผนภูมิก้างปลา (ที่มา : ผู้วิจัย,2566) จากการวิเคราะห์ปัญหาด้วยแผน๓มิก้างปลาในข้างต้น พบว่า ลูกค้าได้รับสินค้าล่าช้าไม่ ทันเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งแสดงดังหัวข้อต่อไปนี้ 1. Man: จากกระบวนการทำงานของพนักงานที่เกิดจากความล่าช้าจากพนักงานขาดประสบ การ์ณในการทำงาน และมีจำนวนพนักงานไม่เพียงพอทำให้ระบบการทำงานไม่มีประสิทธิภาพ เท่าที่ควร 2. Method: เนื่องจากการทำงานของพนักงานที่มีหน้าที่ในการประสานงานกับลูกค้าไม่ ต่อเนื่องและไม่มีประสิทธิภาพ ระบบการทำงานที่ซับซ้อนมากเกินไป อาจทำให้สินค้าตกหล่นได้


28 3. Environment: จากพื้นที่สิ่งแวดล้อมรอบข้างของบริษัทมีพื้นที่น้อยจึงทำให้การทำงานของ พนักงานไม่สะดวกสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงพอ อีกทั้งยังมีเครื่องเสียงของรถยนต์และ เครื่องจักรรบกวนการปฏิบัติงานอยู่บ่อยครั้ง ทำให้พนักงานไม่มีสมาธิในการทำงานซึ่งอาจเกิด ข้อผิดพลาดตามมาได้ 4. Material: จากกระบวนการทำงานที่ไม่เป็นระบบทำให้เกิดระบบการประมวลผลของ เอกสารการส่งออกสินค้ามีปัญหา หรือล่าช้าได้ ส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เกิดการส่ง สินค้าที่ล่าช้า หรือเสียหายชำรุดได้ อีกทั้งอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานไม่เพียงพอและไม่มีการป้องกันที่ ปลอดภัย ทำให้การส่งออกสินค้าไม่ทันเวลาในการส่งกับลูกค้า 5. Machine: จากกระบวนการขนส่งสินค้าทำงานล่าช้า เนื่องจากเครื่องยนต์หรือเครื่องจักรมี จำนวนไม่เพียงพอ ระบบการขนส่งที่ล้าสมัยที่ยังไม่มีการพัฒนา จึงทำให้การขนส่งสินค้าล่าช้าไม่ทัน กำหนด จากปัญหาข้างต้นนี้ ทางผู้วิจัยได้ทำการศึกษาเพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาได้ดังนี้ โดยสรุป คือ เลือกการแก้ปัญหาจาก การขนส่งสินค้าไปถึงจุดหมายไม่ทันเวลาที่กำหนด พบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น นั้นมาจากกระบวนการทำงานของพนักงานที่เกิดจากความล่าช้า ขาดประสบการ์ณในการทำงาน และ มีจำนวนพนักงานไม่เพียงพอทำให้ระบบการทำงานไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร รวมถึงพนักงานที่มี หน้าที่ในการประสานงานกับลูกค้าไม่ต่อเนื่องและไม่มีประสิทธิภาพ ระบบการทำงานที่ซับซ้อนมาก เกินไป ซึ่งสิ่งแวดล้อมรอบข้างของบริษัทมีพื้นที่น้อย จึงทำให้การทำงานของพนักงานไม่สะดวกสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงพอ อีกทั้งยังมีเครื่องเสียงของรถยนต์และเครื่องจักรรบกวนการ ปฏิบัติงานอยู่บ่อยครั้ง ทำให้พนักงานไม่มีสมาธิในการทำงานซึ่งอาจเกิดข้อผิดพลาดตามมาได้จาก ระบบการประมวลผลของเอกสารการส่งออกสินค้ามีปัญหา หรือล่าช้าได้ ส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดอยู่ บ่อยครั้ง ทำให้เกิดการส่งสินค้าที่ล่าช้า หรือเสียหายชำรุดได้ อีกทั้งอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานไม่ เพียงพอและไม่มีการป้องกันที่ปลอดภัย ทำให้การส่งออกสินค้าไม่ทันเวลาในการส่งกับลูกค้า อีกทั้ง ระบบเครื่องยนต์หรือเครื่องจักรมีจำนวนไม่เพียงพอ ระบบการขนส่งที่ล้าสมัยที่ยังไม่มีการพัฒนา จึง ทำให้การขนส่งสินค้าล่าช้าไม่ทันกำหนด ซึ่งสอดคล้องกับการขนส่งสินค้าไปถึงจุดหมายไม่ทันเวลาที่


29 กำหนด เพราะเป็นสาเหตุที่ผู้วิจัยสามารถดำเนินการได้จริง เนื่องจากสาเหตุในเรื่องของกระบวนการ และ พนักงานเป็นสิ่งที่สามารถควบคุมได้ 4.2.2 วิเคราะห์ขั้นตอนกระบวนการทำงานของการจัดการเอกสารส่งออกและขนส่งสินค้า ขั้นตอนในการดำเนินการจัดการเอกสารและขนส่งสินค้าของบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ 1. รับออเดอร์สินค้าจากลูกค้า 2. เช็ควัตถุดิบสินค้าจากฝ่ายคลังวัตถุดิบ 3. เปิดใบเสนอราคา (Quotation) ส่งให้ลูกค้า 4. รอ PO จากลูกค้า 5. พนักงานนำ PO ที่ได้มาเปิดใบสั่งผลิตเพื่อนำข้อมูลเข้าโรงงาน 6. พนักงานตรวจสอบจุดผิดพลาดเอกสารและส่งให้ลูกค้าตรวจสอบอีกครั้ง 7. ส่งเอกสารที่ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วเข้าโรงงานให้ฝ่ายผลิต 8. พนักงาน QC ตรวจสอบสินค้าอีกครั้งก่อนนำจัดส่ง 9. พนักงานออกเอกสารรายการส่งสินค้า 10. ฝ่ายขนส่งจัดเตรียมสินค้าขนรถเพื่อนำไปส่งมอบให้กับลูกค้า


30 4.3 การกำหนดแนวทางขั้นตอนการจัดการเอกสารส่งออกและการขนส่ง 4.3.1 การกำหนดขั้นตอนการขนส่งสินค้าขาออกก่อนการปรับปรุงแก้ไข ตารางที่ 4.1 การกำหนดขั้นตอนการขนส่งสินค้าก่อนการปรับปรุงแก้ไข ขั้นตอนการดำเนินงาน เวลา (นาที) 1. รับออเดอร์สินค้าจากลูกค้า 00:30:00 2. เช็ควัตถุดิบสินค้าจากฝ่ายคลังวัตถุดิบ 01:00:00 3. เปิดใบเสนอราคา (Quotation) ส่งให้ลูกค้า 00:30:00 4. รอ PO จากลูกค้า 00:30:00 5. พนักงานนำ PO ที่ได้มาเปิดใบสั่งผลิตเพื่อนำ ข้อมูลเข้าโรงงาน 01:00:00 6. พนักงานตรวจสอบจุดผิดพลาดเอกสารและ ส่งให้ลูกค้าตรวจสอบอีกครั้ง 01:30:00 7. ส่งเอกสารที่ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วเข้า โรงงานให้ฝ่ายผลิต 00:20:00 8. พนักงาน QC ตรวจสอบสินค้าอีกครั้งก่อนนำ จัดส่ง 03:30:00 9. พนักงานออกเอกสารรายการส่งสินค้า 00:30:00 10. ฝ่ายขนส่งจัดเตรียมสินค้าขนรถเพื่อนำไปส่ง มอบให้กับลูกค้า 01:50:00 เวลารวม 11:10:00 ตารางที่ 4.1 ขั้นตอนการขนส่งสินค้าก่อนการปรับปรุงแก้ไข (ที่มา : ผู้วิจัย,2566)


31 4.3.2 แนวคิดทฤษฎีการลดความสูญเปล่าด้วยหลัก ECRS หลัก ECRS ประกอบไปด้วย Eliminate (การกำจัด) Combine (การรวมกัน) Rearrange (การจัดใหม่) และ Simplify (การทำให้ง่ายขึ้น) ตารางที่ 4.2 การปรับปรุงรูปแบบโดยการใช้หลัก ECRS ECRS ขั้นตอน การกำจัด 2 การรวมกัน 2,3 การจัดใหม่ 9 การทำให้ง่าย 6 ตารางที่ 4.2 การปรับปรุงรูปแบบโดยการใช้หลัก ECRS (ที่มา : ผู้วิจัย,2566) จากขั้นตอนในการปฏิบัติงาน 10 ขั้นตอน เวลารวม 11:10:00 นาที ผู้วิจัยมีการปรับปรุง รูปแบบโดยการใช้หลัก ECRS พบว่า การกำจัด กำจัดขั้นตอนไป 1 ขั้นตอน ได้แก่ 2 การรวมกัน 2 ขั้นตอน ได้แก่ 2,3 การจัดใหม่ 1 ขั้นตอน ได้แก่ 9 การทำให้ง่าย 1 ขั้นตอน ได้แก่ 6


32 ตารางที่ 4.3 การกำหนดขั้นตอนการขนส่งสินค้าหลังการปรับปรุงแก้ไข ขั้นตอนการดำเนินงาน เวลา (นาที) 1. รับออเดอร์สินค้าจากลูกค้า 00:30:00 2. เช็ควัตถุดิบสินค้าจากฝ่ายคลังวัตถุดิบแล้ว นำมาเปิดใบเสนอราคา (Quotation) ส่งให้ ลูกค้า 00:40:00 3. รอ PO จากลูกค้า 00:30:00 4. พนักงานนำ PO ที่ได้มาเปิดใบสั่งผลิตเพื่อนำ ข้อมูลเข้าโรงงาน 01:00:00 5. พนักงานตรวจสอบจุดผิดพลาดเอกสาร 00:30:00 6. ส่งเอกสารที่ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วเข้า โรงงานให้ฝ่ายผลิต 00:20:00 7. พนักงาน QC ตรวจสอบสินค้าอีกครั้งก่อนนำ จัดส่ง 03:30:00 8. พนักงานออกเอกสารรายการส่งสินค้า รวมถึง รายละเอียดที่อยู่ที่ต้องจัดส่งของลูกค้า 00:30:00 9. ฝ่ายขนส่งจัดเตรียมสินค้าขนรถเพื่อนำไปส่ง มอบให้กับลูกค้า 01:50:00 เวลารวม 09:20:00 ตารางที่ 4.3 การกำหนดขั้นตอนการขนส่งสินค้าหลังการปรับปรุงแก้ไข (ที่มา : ผู้วิจัย,2566)


33 4.4 การเปรียบเทียบผลที่ได้จากแผนการดำเนินงาน หลังจากการปรับปรุงวิธีการดำเนินงานเป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือน ตั้งแต่เดือนธันวาคม - เดือนมีนาคม 2565 พบว่า การปรับปรุงขั้นตอนการทำงานโดยใช้หลัก ECRS ทำให้ECRS ทำให้ กระบวนการส่งสินค้ามีการทำงานจากกระบวนการทำงานที่มีขั้นตอนในการปฏิบัติงาน 10 ขั้นตอน เหลือ 9 ขั้นตอน เวลาเดิมใช้เวลารวม 11:10:10 นาที และทำการปรับปรุงขั้นตอนใหม่ปรับเวลาเป็น 09:20:00 นาที ทำให้มีการลดขั้นตอนในการขนส่งสินค้าลดเวลาเหลือเป็น 02:10:00 นาที 4.5 ผลการปรับปรุงวิธีการดำเนินงาน ตารางที่ 4.4 ตารางเปรียบเทียบก่อน-หลังปรับปรุงวิธีการทำงาน ก่อนการปรับปรุง หลังการปรับปรุง เวลาทำงานตั้งแต่รับข้อมูลลูกค้าจนถึงการส่ง สินค้าใช้เวลารวม 11:10:00 นาที เวลาทำงานตั้งแต่รับข้อมูลลูกค้าจนถึงการส่ง สินค้าใช้เวลารวมเหลือเพียง 09:20:00 นาที การส่งสินค้าล่าช้าตลอดระยะเวลา 4 เดือน เกิดขึ้น 5 ครั้ง การส่งสินค้าล่าช้าตลอดระยะเวลา 4 เดือน เกิดขึ้นแค่ 2 ครั้ง ตารางที่ 4.4 ตารางเปรียบเทียบก่อน-หลังปรับปรุงวิธีการทำงาน (ที่มา : ผู้วิจัย,2566)


34 บทที่ 5 สรุปผลการวิจัย อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลการวิจัย จากการศึกษา เรื่อง การจัดการเอกสารส่งออกและการขนส่งสินค้า ของบริษัท พีเอ็มเค ได มอนด์กลาส จำกัด ผู้วิจัยได้สรุปผลการศึกษาที่สอดคล้องกับการดำเนินการของบริษัทได้ ดังนี้ 1.การวิเคราะห์ถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น พบว่า จากปัญหาลูกค้าได้รับสินค้าล่าช้าไม่ ทันเวลาที่กำหนดไว้รวมไปถึงอาจส่งผลให้ลูกค้ายกเลิกสินค้ากับทางบริษัท โดยในการศึกษาก่อน ปรับปรุง (1 ธันวาคม 2566 – 2 กุมภาพันธ์ 2566) และหลังจากการปรับปรุง (15 กุมภาพันธ์2566 – 28 มีนาคม 2566) ซึ่งพบว่า สาเหตุของปัญหาโดยใช้วิธีการวิเคราะห์แบบแผนภูมิก้างปลา (Fish Bone Diagram) ที่ทำให้เกิดความล่าช้าในกระบวนการทำงานมีอยู่ 5 ปัญหา คือ 1. กระบวนการ ทำงานของพนักงานที่เกิดจากความล่าช้า ขาดประสบการ์ณในการทำงาน และมีจำนวนพนักงานไม่ เพียงพอทำให้ระบบการทำงานไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร 2. พนักงานที่มีหน้าที่ในการประสานงาน กับลูกค้าไม่ต่อเนื่องและไม่มีประสิทธิภาพ ระบบการทำงานที่ซับซ้อนมากเกินไป 3. สิ่งแวดล้อมรอบ ข้างของบริษัทมีพื้นที่น้อย จึงทำให้การทำงานของพนักงานไม่สะดวกสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกไม่ เพียงพอ อีกทั้งยังมีเครื่องเสียงของรถยนต์และเครื่องจักรรบกวนการปฏิบัติงานอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ พนักงานไม่มีสมาธิในการทำงานซึ่งอาจเกิดข้อผิดพลาดตามมาได้4. ระบบการประมวลผลของ เอกสารการส่งออกสินค้ามีปัญหา หรือล่าช้าได้ ส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เกิดการส่ง สินค้าที่ล่าช้า หรือเสียหายชำรุดได้ อีกทั้งอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานไม่เพียงพอและไม่มีการป้องกันที่ ปลอดภัย 5. กระบวนการขนส่งสินค้าทำงานล่าช้า เนื่องจากเครื่องยนต์หรือเครื่องจักรมีจำนวนไม่ เพียงพอ ระบบการขนส่งที่ล้าสมัยที่ยังไม่มีการพัฒนาระบบให้ทันสมัย


35 2. ผลการศึกษาขั้นตอนในการดำเนินการส่งสินค้าของบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด พบว่า จากการปรับปรุงขั้นตอนการทำงานโดยใช้หลัก ECRS ทำให้กระบวนการส่งสินค้ามีการทำงาน จากกระบวนการทำงานที่มีขั้นตอนในการปฏิบัติงาน 10 ขั้นตอน เหลือ 9 ขั้นตอน เวลาเดิมใช้เวลา รวม 11:10:00 นาที และทำการปรับปรุงขั้นตอนใหม่ปรับเวลาเป็น 09:20:00 นาที ทำให้มีการลด ขั้นตอนในการขนส่งสินค้าลดเวลาเหลือเป็น 02:10:00 นาที 3. ผลการศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าของบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด จากปัญหาการขนส่งสินค้าล่าช้าส่งผลถึงการรับสินค้าของลูกค้าช้าตามไปด้วย จากกระบวนการ ทำงานพบว่า การส่งสินค้าระยะเวลา 1 เดือน เกิดความล่าช้าทั้งหมด 5 ครั้ง และมีการปรับปรุงและ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแผนกงานการขนส่งสินค้าระยะเวลา 1 เดือน สามารถลดปัญหาเรื่อง การส่งมอบสินค้าล่าช้าเหลือเพียง 2 ครั้ง ซึ่งทำให้หลังจากการปรับปรุงการทำงานพบปัญหาเรื่อง ความล่าช้าในการขนส่งสินค้าน้อยลงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ภายใน 4 เดือน 5.2 การอภิปรายผลการศึกษา 5.2.1 จากการศึกษาขั้นตอนในการดำเนินการส่งสินค้าของบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด ซึ่งจากที่ได้มีการวางแผนปรับปรุงขั้นการทำงานใหม่ตามแนวคิดการปรับรุงการทำงานอย่าง ต่อเนื่อง โดยได้หาสาเหตุของการขนส่งสินค้าโดยใช้แผนผังก้างปลา ( Fish Bone Diagram) ทำให้ ทราบถึงสาเหตุของปัญหาในการขนส่งสินค้าล่าช้าให้กับลูกค้าและเกิดปัญหาลูกค้าได้รับสินค้าไม่ทัน ตามกำหนด พบว่า การใช้วิธีการปรับปรุงการทำงานใหม่มาทดลองใช้นั้นสามารถลดเวลาจากการ ปฏิบัติงาน 10 ขั้นตอน เหลือ 8 ขั้นตอน เวลาเดิมใช้เวลารวม 12:02:40 นาที และทำการปรับปรุง ขั้นตอนใหม่ปรับเวลาเป็น 10:01:30 นาที ทำให้มีการลดขั้นตอนในการขนส่งสินค้าลดเวลาเหลือเป็น 09:02:20 นาที ทำให้ทราบว่า ระบบการปฏิบัติงานมีความล่าช้าส่งผลให้ออกเอกสารให้ลูกค้าได้ช้า จึงทำให้ลูกค้าได้รับสินค้าช้าลงตามไปด้วย ซึ่งจากการลดขั้นตอนการทำงานการทำงานมี ประสิทธิภาพพิ่มมากขึ้นจากการดำเนินงานของพนักงานให้มีระบบมากยิ่งขึ้นซึ่งสามารถลดระยะเวลา ในการปฏิบัติงานได้น้อยลงจากก่อนการปรับปรุง


36 5.2.2 จากการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าของบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด จาก ปัญหาการขนส่งสินค้าล่าช้าส่งผลถึงการรับสินค้าของลูกค้าช้าตามไปด้วย จากกระบวนการทำงาน พบว่า การส่งสินค้าระยะเวลา 1 เดือน เกิดความล่าช้าทั้งหมด 5 ครั้ง และมีการปรับปรุงและเพิ่ม ประสิทธิภาพการทำงานของแผนกงานการขนส่งสินค้าระยะเวลา 1 เดือน สามารถลดปัญหาเรื่องการ ส่งมอบสินค้าล่าช้าเหลือเพียง 2 ครั้ง ซึ่งทำให้หลังจากการปรับปรุงการทำงานพบปัญหาเรื่องความ ล่าช้าในการขนส่งสินค้าน้อยลงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ภายใน 4 เดือน ( เดือนธันวาคม - เดือน มีนาคม) 5.3 ข้อเสนอแนะ จากการวิจัย เรื่อง การจัดการเอกสารการส่งออกและการขนส่งสินค้า ของ บริษัท พี เอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด มีข้อเสนอแนะ ดังนี้ 5.3.1 ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้ 5.3.1.1 บริษัทควรให้การอบรมและพัฒนาความรู้พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่เสมอ รวมถึงข้อควรระวัง และคำแนะนำที่ถูกต้องในการปฏิบัติงานเพื่อลดปัญหาความผิดพลาด 5.3.1.2 บริษัทควรมีโปรแกรมที่ทันสมัยในการทำงาน เพื่อช่วยให้การทำงานมี ประสิทธิภาพมากขึ้น และมีการปรับปรุงตรวจสอบฐานข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ 5.3.1.3 บริษัทควรมีการประเมินผลการปฏิบัติงานที่ชัดเจน โปร่งใสในการประเมิน การเลื่อนเงินเดือน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับพนังงานในการปฏิบัติหน้าที่


37 5.3.2 ข้อเสนอแนะในครั้งต่อไป 5.3.2.1 ในการศึกษาวิจัยในครั้งต่อไปควรมีการศึกษาถึงความต้องการ และความพึง พอใจรวมไปถึงข้อเสนอแนะของลูกค้าที่ใช้บริการขนส่งสินค้าของบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์ กลาส จำกัด ซึ่งผลของการศึกษาวิจัยสามารถนำไปใช้ในการพัฒนารูปแบบการดำเนินงาน ของบริษัทได้ 5.3.2.2 ในการศึกษาวิจัยในครั้งต่อไปควรศึกษากับกลุ่มลูกค้าที่เป็นลูกค้าปัจจุบัน และเป็นลูกค้าที่เลิกใช้บริการขนส่งสินค้าของบริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด เพื่อให้ ทราบถึงเหตุผลของการตัดสินใจเลือกใช้บริการ และเหตุผลในการตัดสินใจเลิกใช้บริการของ บริษัท พีเอ็มเค ไดมอนด์กลาส จำกัด เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนากระบวนการในการ ให้บริการของบริษัทที่มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บริการครั้ง ต่อไป


38 บรรณานุกรม พิมพร เทศแก้ว และ สิทธิชัย แก้วเกื้อกูล. (2563) “การปรับสมดุลสายการผลิตชิ้นส่วนยาน ยนต์ด้วยวิธีการ ECRS” วารสารอิเล็กทรอนิกส์ สำนักวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. อติกานต์ ม่วงเงิน. (2562). การประยุกต์ใช้เทคนิคแบบลีน (ECRS+IT) เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพของ กระบวนการทำงานระบบตู้รับคืนหนังสืออัตโนมัติ.สำนักบรรณสารการพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. จิตราภา รักษา. (2560). การปรับปรุงและลดเวลากระบวนการทำงาน กรณีศึกษา : เฟอร์นิเจอร์นำเข้าจากต่างประเทศ. หลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการจัดการทาง วิศวกรรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. สรณ์ศิริเรืองโลก. (2560). การปรับปรุงประสิทธิภาพของสายการผลิตสมอลล์เอิร์ทลีคเบรก เกอร์. สาขาวิชาการพัฒนางานอุตสาหกรรม ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. อารีรัตน์มีเย็น. (2563). การพัฒนาระบบการจัดการเอกสาร. คณะวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย. ธารชุดา พันธ์นิกุล. ( 2560). การปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตด้วยเครื่องมือ ทาง วิศวกรรมอุตสาหการ กรณีศึกษา: โรงงานประกอบรถจักรยาน. ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. วิทยา อรุณไพศาล. (2565). การปรับปรุงระบบการบริหารองค์กร บริษัท ไทรแองเกิล ออโต้ จำกัด. คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น.


39 ภาคผนวก


40


Click to View FlipBook Version