ประเทศบรูไนในอาเซียน
บรูไน (Brunei) หรือชื่อทางการคอื รัฐบรูไนดารุสซาลาม (State of Brunei Darussalam) หรือ เนการาบรูไน
ดารุสซาลาม (Negara Brunei Darussalam แปลว่า ดินแดนแห่งความสงบสุข) รูปแบบการปกครอง สมบูรณาญา
สิทธิราช โดยมี สมเดจ็ พระราชาธิบดีฮจั ญี ฮสั ซานลั โบลเกียห์ มูอิซซดั ดิน วดั เดาละห์ (His Majesty Paduka Seri
Baginda Sultan Haji Hassanal Bolkiah Mu’izzaddin Waddaulah) ทรงเป็นองคพ์ ระประมขุ ของประเทศต้งั แต่ 5
ตุลาคม 2510 หวั หนา้ รัฐบาล สมเดจ็ พระราชาธิบดีทรงดารงตาแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลงั รัฐมนตรีต่างประเทศ เจา้ ชายโมฮาเหมด็ โบลเกียห์
(H.R.H. Prince Mohamed Bolkiah) พระอนุชาในสมเดจ็ พระราชาธิบดี
ทต่ี ้งั
ต้งั อยบู่ นเกาะบอร์เนียว พ้ืนที่ 5,765 ตารางกิโลเมตร โดยพ้นื ท่รี ้อยละ 70 เป็นป่ าไมเ้ ขต
ร้อน ภมู ิอากาศ อากาศโดยทว่ั ไปคอ่ นขา้ งรอ้ นช้ืน มีปริมาณฝนตกคอ่ นขา้ งมาก และมีอุณหภูมอิ บอนุ่ โดยมี
อุณหภูมิเฉลย่ี 28 องศาเซลเซีย เวลา 8 ชม.ก่อน GMT (เร็วเวลาประเทศไทย 1 ชวั่ โมง)
ธงชาติ
พ้นื สีเหลือง มีแถบขาวและดาพาดขวางจากมมุ บนดา้ นซา้ ย ตลอดถงึ มุมลา่ งดา้ นขวา มีเคร่ืองหมายประจาชาติ
สีแดงอยตู่ รงกลาง มีธงประจาชาติอยบู่ นยอดเสาท่มี ีปี ก 2 ขา้ ง ซ่ึงต้งั อยเู่ หนือพระจนั ทร์เส้ียวท่ีหงายข้ึน และอยู่
บนป้ายท่ีเขียนวา่ Brunei Darussalam ซ่ึงหมายความวา่ ดินแดนแห่งความสงบสุข วนั ชาติ 23 กุมภาพนั ธ์
เมืองหลวง บนั ดาร์เสรีเบกาวนั (Bandar Seri Begawan) ภาษา ภาษามาเลย์ (Malay หรือ Bahasa Melayu)
เป็นภาษาราชการ รองลงมาเป็นภาษาองั กฤษ และภาษาจีน
ศาสนา
ศาสนาประจาชาติคือ ศาสนาอิสลาม (67%) แต่กม็ ีการนบั ถือศาสนาอื่นไดแ้ ก่ ศาสนาพทุ ธ (13%)
เขตการปกครอง
แบ่งเป็นสี่เขตคือ เขต Brunei-Muara เขต Belait เขต Temburong และเขต Tutong
ประชากร 358,098 คน (2546) ประกอบดว้ ย มาเลย์ (67%) จีน (15%) และอื่น ๆ (18%) มีอตั ราการเพม่ิ ของ
ประชากรปี ละ 2 สมาชิกอาเซียน ปี 2527 (ลาดบั ที่ 6)
ประวตั ศิ าสตร์
- บรูไนรุ่งเรืองและเป็นท่ีรู้จกั มากข้ึนในคริสตศตวรรษท่ี 15 และ 16 เม่ือไดค้ รอบครองส่วนใหญข่ องเกาะ
บอร์เนียวและส่วนหน่ึงของหมเู่ กาะซูลู (Sulu) มีชื่อเสียงทางการคา้ สินคา้ ส่งออกท่ีสาคญั ในสมยั น้นั ไดแ้ ก่
การบูร พริกไทย และทองคา บรูไนเร่ิมเส่ือมอานาจหลงั จากคริสตศตวรรษท่ี 15 โดยสเปนและดชั ทไ์ ดแ้ ผ่
อานาจเขา้ มาจนทาใหบ้ รูไนเสียดนิ แดนและเสื่อมลงมากจน ถึงสมยั คริสตศตวรรษที่ 19
- ในปี 2431 (ค.ศ.1888) ดว้ ยความวิตกว่าจะตอ้ งเสียดินแดนตอ่ ไปอีก บรูไนไดย้ นิ ยอมเขา้ อยภู่ ายใตอ้ ารักขาของ
องั กฤษ ตอ่ มาในปี 2449 (ค.ศ.1906) บรูไนไดล้ งนามในสนธิสญั ญากบั องั กฤษ ยินยอมอยภู่ ายใตอ้ ารักขาของ
องั กฤษอยา่ งเตม็ รูปแบบ
- ในปี 2472 (ค.ศ.1929) บรูไนสารวจพบน้ามนั ท่ีเมือง Seria และก๊าซธรรมชาติ ทาใหบ้ รูไนมีฐานะมงั่ คงั่ ใน
เวลาตอ่ มา
- ในปี 2505 (ค.ศ.1962) ไดม้ ีการเลือกต้งั ซ่ึงพรรคประชาชนบอร์เนียว (Borneo People’s Party) ไดร้ ับชยั ชนะ
อยา่ งทว่ มทน้ แต่ถกู กีดกนั ไม่ใหจ้ ดั ต้งั รัฐบาล ตอ่ มาจึงไดย้ ึดอานาจจากสุลตา่ น แต่สุลต่านทรงไดร้ ับความ
ช่วยเหลอื จากกองทหารกรู ขา่ ขององั กฤษท่ีส่งตรงมาจาก สิงคโปร์ หลงั จากน้นั ไดม้ ีการประกาศภาวะฉุกเฉิน
และตอ่ อายทุ กุ ๆ 2 ปี เรื่อยมาจนถึงปัจจุบนั
- หลงั จากท่ีอยภู่ ายใตอ้ ารักขาขององั กฤษมาถึง 95 ปี บรูไนไดร้ ับเอกราช เม่ือวนั ที่ 1 มกราคม 2527 (ค.ศ.1984)
การเมืองการปกครอง
- รัฐธรรมนูญปัจจุบนั ซ่ึงแกไ้ ขล่าสุดเม่ือ 1 มกราคม 2527 กาหนดใหส้ ุลต่านทรงเป็นอธิปัตย์ คอื เป็นท้งั ประมุข
นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกรัฐมนตรีจะตอ้ งเป็นชาวบรูไนเช้ือสายมาเลยโ์ ดย
กาเนิด และจะตอ้ งเป็นมสุ ลิมนิกายสุหนี่
- นโยบายหลกั ของบรูไนไดแ้ ก่การสร้างความเป็นปึ กแผ่นภายในชาติและดารงความเป็น อิสระของประเทศ
ท้งั น้ี บรูไนมีที่ต้งั ที่ถกู โอบลอ้ มโดยมาเลเซียและมีอินโดนีเซีย ซ่ึงเป็นประเทศมุสลิมขนาดใหญ่อยทู่ างใต้
บรูไนมคี วามสมั พนั ธ์ใกลช้ ิดกบั สิงคโปร์ เน่ืองจากมีเง่ือนไขคลา้ ยคลึงกนั หลายประการ อาทิ เป็นประเทศเลก็
และมีอาณาเขตติดกบั ประเทศมสุ ลิมขนาดใหญ่
- บรูไนแบง่ เขตการปกครองออกเป็นส่ีเขต คือ เขต Brunei-Muara เขต Belait เขตTemburong และเขต Tutong
นบั จากการพยายามยึดอานาจเมื่อปี 2505 รัฐบาลไดป้ ระกาศกฎอยั การศึกยงั ผลใหไ้ มม่ ีการเลือกต้งั รวมท้งั
บทบาทพรรคการ เมอื งไดถ้ กู จากดั อยา่ งมาก จนปัจจุบนั พรรคการเมืองไดแ้ ก่ Parti Perpaduan Kebangsaan
Brunei (PPKB) และ Parti Kesedaran Rakyat (PAKAR) ไมม่ ีบทบาทมากนกั เนื่องจากรัฐบาลควบคมุ ดว้ ย
มาตรการต่าง ๆ อาทิ กฎหมาย Internal Security Act (ISA) หา้ มการชุมนุมทางการเมือง และสามารถถอด
ถอนการจดทะเบียนเป็นพรรคการเมืองได้ ตลอดจนหา้ มขา้ ราชการ (ซ่ึงมีเป็นจานวนกวา่ คร่ึงของประชากร
บรูไนท้งั หมด) เป็นสมาชิกพรรคการเมือง นอกจากน้ี รัฐบาลเห็นว่าพรรคการเมืองไมม่ ีความจาเป็นเน่ืองจาก
ประชาชนสามารถแสดงความ คิดเห็นหรือขอความช่วยเหลือจากขา้ ราชการของสุลต่านไดอ้ ยแู่ ลว้ การทหาร
- กองทพั ของบรูไน (Royal Brunei Armed Forces หรือ RBAF) มีกาลงั พลเพยี ง 7,000 นาย และกาลงั สารอง
700 นาย โดยแบ่งเป็นกองทพั บก 4,900 นาย กองทพั เรือ 1,000 นาย และ กองทพั อากาศ 1,100 นาย อยา่ งไรก็
ดี สุลตา่ นยงั มีกองทหารกรู ขา่ ของพระองคเ์ องเรียกว่า Gurkha Reserve Unit (GRU) จานวน 2,500 นายและ
กองทหารกูรขา่ ขององั กฤษ (British Gurkha) รวมกาลงั พล 1,000 คน ประจาอยทู่ ่ีเมือง Seria เพือ่ ดแู ลรักษา
ความปลอดภยั ใหแ้ ก่บอ่ น้ามนั และกิจการผลิตน้ามนั ของ Brunei Shell Petroleum โดยรัฐบาลบรูไนเป็นผอู้ อก
ค่าใชจ้ ่าย
เศรษฐกจิ การค้า
ระบบเศรษฐกิจ แบบตลาดเสรีภายใตค้ วามดแู ลของรัฐเงินตรา ดอลลาร์บรูไน (Brunei Dollar) ประมาณ 22.98
บาท/1 ดอลลาร์บรูไน (เงินดอลลาร์บรูไนมมี ูลค่าเท่ากบั เงินดอลลาร์สิงคโปร์และสามารถใชแ้ ทนกนั ได)้
รายไดเ้ ฉลี่ยต่อหวั ตอ่ ปี 12,335 ดอลลาร์สหรัฐ (2546)
GDP 4.4 พนั ลา้ นดอลลาร์สหรัฐ (2546)
GDP Growth ร้อยละ 5.1 (2546)
อตั ราเงินเฟ้อ ร้อยละ 1 (2546)
สินคา้ ส่งออกสาคญั น้ามนั ดิบ ก๊าซธรรมชาติ เคร่ืองนุ่งห่ม
สินคา้ นาเขา้ สาคญั เครื่องจกั รกลและสินคา้ อตุ สาหกรรม อาหารและเคมีภณั ฑ์
ตลาดส่งออกที่สาคญั ญี่ป่ นุ (38.94%) อาเซียน (29.19 %) ออสเตรเลีย (10.3%) เกาหลีใต้ (6.9%)
ตลาดนาเขา้ ที่สาคญั อาเซียน (34%) สหรัฐ (31%) สหภาพยโุ รป (9%)
เศรษฐกิจ
- ระบบเศรษฐกิจของบรูไนเป็นแบบตลาดเสรี ภายใตค้ วามดูแลของรัฐ รายไดห้ ลกั ของบรูไนมาจากน้ามนั
(ประมาณรอ้ ยละ 48) และก๊าซธรรมชาติ (ประมาณร้อยละ 43) บรูไนนบั เป็นผผู้ ลิตน้ามนั รายใหญ่อนั ดบั ที่ 4 ใน
เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย เวยี ดนาม และมาเลเซีย คือประมาณ 2 แสนบาร์เรลตอ่ วนั และผลิต
ก๊าซธรรมชาติไดเ้ ป็นอนั ดบั 4 ของโลกประมาณ 1.2 ลา้ นลูกบาศกฟ์ ุตตอ่ วนั โดยมบี ริษทั ปิ โตรเลียมแห่งชาติ
(Brunei National Petroleum Company Sedirian Berhad หรือ Petroleum Brunei) จดั ต้งั เม่ือพฤศจิกายน 2544
เป็นหน่วยงานกาหนดนโยบายน้ามนั และก๊าซ ดว้ ยเหตนุ ้ี มลู คา่ การคา้ ของบรูไนจึงเกินดุลอยตู่ ลอดเวลา บรูไน
ส่งออกสินคา้ ไปยงั ญ่ีป่ นุ องั กฤษ ไทย สิงคโปร์ ไตห้ วนั สหรัฐฯ ฟิ ลิปปิ นส์ และเกาหลีใต้ (ตามลาดบั ) ในส่วน
ของสินคา้ นาเขา้ บรูไนนาเขา้ สินคา้ ส่วนใหญจ่ ากสิงคโปร์ องั กฤษ สหรัฐฯ และมาเลเซีย โดยเป็นสินคา้ ประเภท
เครื่องจกั รอตุ สาหกรรม รถยนต์ เครื่องมือ เครื่องใชไ้ ฟฟ้าต่าง ๆ และสินคา้ เกษตร อาทิ ขา้ วและผลไม้
- บรูไนม่งุ เนน้ สร้างความมงั่ คง่ั โดยอาศยั รายไดจ้ ากน้ามนั ไปลงทุนในตา่ งประเทศหรือร่วมทนุ กบั ต่างประเทศ
โดยดาเนินการผา่ นสานกั งานการลงทุนของบรูไน (Brunei Investment Agency – BIA) ในรูปของการถือหุน้
หรือซ้ือพนั ธบตั รในยโุ รป สหรัฐฯ ญี่ป่ นุ ออสเตรเลีย และเวียดนาม ท้งั น้ี การลงทุนของ BIA มกั อาศยั
ผเู้ ชี่ยวชาญจากสิงคโปร์เป็นผใู้ หค้ าปรึกษา
อุตสาหกรรม
- บรูไนมีอุตสาหกรรมอ่ืนนอกเหนือจากอุตสาหกรรมน้ามนั อยบู่ า้ ง อาทิ การผลิตอาหาร และเคร่ืองมือ การผลิต
เส้ือผา้ เพ่ือส่งออกไปยงั กลมุ่ ประเทศในยโุ รปและอเมริกา ท้งั น้ี รัฐบาลบรูไนมงุ่ ที่จะพฒั นาอุตสาหกรรมดา้ น
การแปรรูปอาหารและผลิตเครื่องด่ืม เส้ือผา้ และส่ิงทอ เครื่องเรือนจากไม้ วสั ดุกอ่ สร้างท่ีไมใ่ ช่โลหะ การผลิต
แกว้ เพ่ือใชท้ ากระจกรถยนต์ อยา่ งไรกด็ ี บรูไนยงั คงประสบกบั อุปสรรคตา่ ง ๆ ในการพฒั นาอุตสาหกรรม อาทิ
การขาดแคลนช่างฝี มอื และตลาดภายในประเทศท่มี ีขนาดเลก็ ประกอบกบั บรูไนไมม่ ีแรงงานในประเทศ
เพยี งพอและตอ้ งอาศยั แรงงานจากต่างประเทศเป็นหลกั
แนวโนม้ การพฒั นาทางเศรษฐกิจ
- ปัจจุบนั บรูไนกาลงั พยายามเปลี่ยนแปลงจากเศรษฐกิจที่พ่ึงพาน้ามนั เป็นหลกั ไปสู่โครงสร้างเศรษฐกิจท่ีมี
ความหลากหลายมากข้ึน เน่ืองจากมีการคาดการณว์ ่าปริมาณน้ามนั สารองทย่ี ืนยนั แลว้ (proven reserve) ของ
บรูไน จะหมดลงในราวปี 2558 ประกอบกบั ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเอเชียต้งั แตป่ ี 2543 ทาใหบ้ รูไนเร่งปฏริ ูป
โครงสร้างทางเศรษฐกิจ และใชม้ าตรการต่าง ๆ เพอื่ สร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจ ไดแ้ ก่
(1) จดั ต้งั สภาท่ีปรึกษาดา้ นเศรษฐกิจ นาโดยเจา้ ชายโมฮาเหมด็ โบลเกียห์ (รัฐมนตรีต่างประเทศบรูไน) ซ่ึงมี
แนวทางส่งเสริมภาคเอกชนใหม้ ีบทบาทมากข้นึ ในการส่งเสริมการพฒั นาทาง เศรษฐกิจ
(2) ปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ จากเดิมที่เนน้ นโยบายใหส้ วสั ดิการ มาเป็นการส่งเสริมการลงทนุ จาก
ตา่ งประเทศ และแปรรูปรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ โดยใหเ้ อกชนเขา้ มามีส่วนร่วมมากข้นึ ขยายฐานการจดั เกบ็ ภาษี
(3) ปรับเปลี่ยนกลยทุ ธก์ ารลงทนุ ในตา่ งประเทศของ BIA โดยหนั มาลงทุนในธุรกิจดา้ นใหม่ ๆ ซ่ึงมคี วามเส่ียง
ต่า เช่น การซ้ือหุน้ ในกลมุ่ เทคโนโลยสี ารสนเทศและโทคมนาคม หรือธุรกิจสายการบินต่าง ๆ
(4) แผนพฒั นาประเทศฉบบั ที่ 8 (The Eighth National Development Plan: 8th NDP) ท่ีดาเนินการระหวา่ งปี
2544 – 2548 มีสาระสาคญั ไดแ้ ก่ ต้งั เป้าอตั ราการเติบโตของผลิตภณั ฑม์ วลรวมภายใน-ประเทศ (GDP) ที่ร้อยละ
5 – 6 โดยต้งั วงเงินงบประมาณสาหรับการดาเนินตามแผนฯ ไว้ 7.3 พนั ลา้ นดอลลาร์บรูไน ซ่ึงคาดวา่ กลยทุ ธ์
ทางการพฒั นาใหมน่ ้ีจะช่วยใหร้ ัฐบาลสร้างสมดลุ ของงบประมาณ ไดด้ ีข้ึน สามารถกาหนดมาตรการในการ
พฒั นาและฟ้ื นฟูเศรษฐกิจอยา่ งยงั่ ยนื สร้างความแขง็ แกร่งและการขยายตวั ใหก้ บั อุตสาหกรรมน้ามนั และก๊าซ
รวมท้งั การพฒั นาอุตสาหกรรมตอ่ เน่ืองตา่ ง ๆ พฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมและทรัพยากรมนุษย์ รวมท้งั
อตุ สาหกรรมขนาดเลก็ และยอ่ ม การขยายความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน แปรรูปรัฐวิสาหกิจบางกิจการ
และสร้างความแขง็ แกร่งในระบบการเงินและการคลงั นอกจากน้ีรัฐบาลบรูไนยงั ยึดแนวคิดของระบบการ
ปกครองท่ีดี (Good Governance) รวมท้งั เนน้ การเสริมสร้างความแขง็ แกร่งใหก้ บั ภาคเอกชน
(5) ส่งเสริมการลงทนุ กบั ต่างประเทศและมีมาตรการเปิ ดเสรีดา้ นการคา้ และสร้าง บรรยากาศที่เอ้ืออานวยตอ่ การ
ลงทนุ ไมเ่ ฉพาะแต่บริษทั ในประเทศแต่รวมถงึ ประเทศตา่ ง ๆ จากกลมุ่ อาเซียนและนานาประเทศ
(6) พฒั นาประเทศใหเ้ ป็น ศนู ยก์ ลางทางการคา้ และทอ่ งเทยี่ ว (Service Hub for Trade and Tourism -SHuTT
2003 Vision) และเป็นตลาดการขนถา่ ยสินคา้ ท่ีสาคญั ของภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตซ้ ่ึง เป็นเป้าหมาย
ประการหน่ึงของโครงการความร่วมมือของกล่มุ Brunei Indonesia Malaysia Philippines-East ASEAN Growth
Area (BIMP-EAGA)
(7) สร้างความแขง็ แกร่งทางการเงินเพื่อฟ้ื นฟูเศรษฐกิจและเอ้ืออานวยตอ่ โครงการ พฒั นาเศรษฐกิจและ
สาธารณูปโภคพ้ืนฐาน นอกจากน้ี จากการที่บรูไนไดก้ าหนดแผนพฒั นาประเทศใหเ้ ป็นศนู ยก์ ลางดา้ นการเงิน
นานาชาติ (Brunei International Financial Center : BIFC) โดยมีจุดมุ่งหมายท่ีจะยกระดบั ประเทศในดา้ นการ
บริการการเงินในระดบั นานาชาติ กระจายความหลากหลายทางเศรษฐกิจ และสร้างงานใหก้ บั ประชาชน
สงั คม
- บรูไนมีระบบรัฐสวสั ดิการท่ีมีประสิทธิภาพ โดยรัฐใหห้ ลกั ประกนั ดา้ นการศึกษา การเคหะและการ
รักษาพยาบาล และไมม่ ีการเกบ็ ภาษีเงินได้ ทาใหบ้ รูไนไม่คอ่ ยประสบปัญหาทางการเมือง อยา่ งไรก็ดี ปัญหา
สงั คมทีร่ ัฐบาลใหค้ วามสาคญั ไดแ้ ก่ การแกไ้ ขปัญหาแรงงานตา่ งดา้ วผิดกฎหมาย และปัญหาการว่างงาน
นโยบายตา่ งประเทศ
- วตั ถปุ ระสงคห์ ลกั ของนโยบายต่างประเทศบรูไนคือการส่งเสริมผลประโยชน์แห่งชาติ อนั ไดแ้ ก่ การคงไวซ้ ่ึง
อธิปไตย อิสรภาพและบูรณภาพทางดินแดน การสร้างความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและสงั คม และการรักษาไวซ้ ่ึง
เอกลกั ษณ์ทางการเมือง วฒั นธรรมและศาสนา รวมท้งั ส่งเสริมสนั ติภาพ ความมน่ั คง ความมีเสถียรภาพและ
ความรุ่งเรืองในระดบั ภูมิภาคและระดบั โลก ท้งั น้ี บรูไนใชก้ ลไกพหุภาคีท้งั ในระดบั ภูมิภาคและระดบั ระหวา่ ง
ประเทศเป็นเครื่องมือ หลกั ในการดาเนินนโยบายตา่ งประเทศเพอ่ื เพมิ่ อานาจการตอ่ รอง เสริมสร้างความมน่ั คง
และผลประโยชน์ทางการเมืองและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ อาเซียน (ซ่ึงถือเป็นเสาหลกั ของนโยบาย
ต่างประเทศบรูไน) Brunei Indonesia Malaysia Philippines-East ASEAN Growth Area (BIMP-EAGA) ความ
ร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย – แปซิฟิ ก การประชุมเอเชีย – ยโุ รป กลมุ่ ประเทศเครือจกั รภพ องคก์ ารการ
ประชุมอิสลาม และองคก์ ารสหประชาชาติ ในระดบั ทวิภาคี บรูไนพยายามเป็นมิตรกบั นานาประเทศท้งั ในดา้ น
การคา้ การลงทนุ เพื่อผลประโยชนท์ างเศรษฐกิจและยงั ไดร้ ่วมเป็นพนั ธมิตรทางทหารกบั ประเทศต่าง ๆ เพื่อ
สร้างความเขม้ แขง็ ในการปอ้ งกนั ประเทศ
- หลกั การดาเนินนโยบายต่างประเทศของบรูไนทส่ี าคญั ไดแ้ ก่ การเคารพในอธิปไตย อิสรภาพและบรู ณภาพทาง
ดินแดนของประเทศตา่ ง ๆ การยอมรับในฐานะที่เทา่ เทียมกนั ของประเทศตา่ ง ๆ การไมย่ งุ่ เกี่ยวกบั กิจการภายใน
ซ่ึงกนั และกนั การแกป้ ัญหาความขดั แยง้ ดว้ ยวิธีสนั ติและความร่วมมือระหวา่ งประเทศเพื่อผล ประโยชนร์ ่วมกนั
ความสัมพนั ธ์ระหว่างไทยกับบรูไนดารุสซาลาม
ความสมั พนั ธ์ทวั่ ๆไป
- ไทยและบรูไนสถาปนาความสมั พนั ธท์ างการทตู ระหวา่ งกนั เม่ือ 1 มกราคม 2526 ท้งั สองฝ่ ายมีความสมั พนั ธ์
ใกลช้ ิดและดาเนินดว้ ยดมี าโดยตลอด มีการแลกเปล่ียนการเยอื นระดบั ราชวงศแ์ ละผูน้ าระดบั สูงอยเู่ สมอ ท้งั สอง
ฝ่ ายมีทศั นคติท่ีดีต่อกนั ไมเ่ คยมีความบาดหมางทางประวตั ิศาสตร์ และมกั เป็นพนั ธมิตรในเรื่องต่าง ๆ ท้งั ใน
กรอบอาเซียนและกรอบสหประชาชาติ
- คณะกรรมาธิการร่วมวา่ ดว้ ยความร่วมมือทวิภาคีระหวา่ งประเทศไทยกบั บรูไนดารุสซาลาม (the Joint
Commission for Bilateral Cooperation Between Thailand and Brunei Darussalam) เป็นกลไกในการเสริมสร้าง
และขยายความสมั พนั ธ์ทวิภาคีดา้ นต่าง ๆ โดยจะเป็นเวทีสาหรับการหารือถึงลทู่ างความเป็นไปไดใ้ นการขยาย
ความร่วมมือ รวมถงึ การแกไ้ ขปัญหาอุปสรรค ขอ้ ขดั แยง้ ซ่ึงอาจเกิดข้ึน มกี ารจดั ประชุมการประชมุ
คณะกรรมาธิการร่วมว่าดว้ ยความร่วมมือทวิภาครี ะหวา่ ง ประเทศไทยกบั บรูไนดารุสซาลาม คร้ังที่ 1 ระหวา่ ง
30-31 มีนาคม 2546 โดยมี ดร.สุรเกียรต์ิ เสถียรไทย รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการตา่ งประเทศ เป็นหวั หนา้ คณะ
ผแู้ ทนไทย และเจา้ ชาย Mohamed Bolkiah รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการตา่ งประเทศบรูไน ทรงเป็นหวั หนา้ คณะ
ผแู้ ทนบรูไนดารุสซาลาม ท่ีประชุมไดห้ ารือความร่วมมอื ดา้ นทหาร การส่งเสริมการคา้ การลงทุน ดา้ นแรงงาน
ความร่วมมือดา้ นวิชาการ ดา้ นการทอ่ งเท่ยี ว รวมท้งั ความร่วมมือทางดา้ นวฒั นธรรมและขอ้ มลู ขา่ วสาร ในดา้ น
การส่งเสริมการคา้ ทวิภาคีไทย-บรูไน ภาคเอกชนของท้งั สองประเทศจะหารือในรายละเอียดเกี่ยวกบั การจดั ต้งั
สภานกั ธุรกิจไทย-บรูไน และสภานกั ธุรกิจบรูไน-ไทย เพื่อเป็นชอ่ งทางในการประสานงานตา่ งๆ ดา้ นการคา้
การลงทนุ นอกจากน้ี ท้งั สองฝ่ ายยงั ไดห้ ารือเกี่ยวกบั สินคา้ อาหารฮาลาล อุตสาหกรรม เหลก็ การประมง และ
การจดั ต้งั ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โดยบรูไนจะจดั ส่งคณะทางานมายงั ประเทศไทยเพือ่ สารวจความ
เป็นไปไดใ้ นการลงทนุ ร่วมในอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล และหารือในรายละเอียดกบั เจา้ หนา้ ท่ฝี ่ ายไทยท่ี
เกี่ยวขอ้ งเพอ่ื แลกเปลี่ยน ประสบการณ์และความเช่ียวชาญของบรูไนท่ีเป็นประโยชน์ต่อการจดั ต้งั ธนาคารอิส
ลามในประเทศไทย
ความสมั พนั ธด์ า้ นการเมือง
- ไทยและบรูไนสถาปนามคี วามสมั พนั ธ์ดาเนินไปดว้ ยดีตลอดมา มีการแลกเปล่ียนการเยือนในระดบั พระ
ราชวงศ์ และผนู้ าระดบั สูงอยเู่ สมอ อาทิ
- สมเดจ็ พระราชาธิบดีเสดจ็ ฯ เยอื นไทยอยา่ งเป็นทางการในฐานะพระราชอาคนั ตกุ ะของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้
อยู่ หวั ระหวา่ ง 1 – 4 พฤศจิกายน 2531
- สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกฎุ ราชกมุ าร เสดจ็ ฯ แทนพระองคเ์ พอื่ ทรงร่วมในพระราชพธิ ีรัชดาภิเษก
ของสมเดจ็ พระราชาธิบดีเมอ่ื ปี 2535
- สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็ ฯ เยอื นบรูไนระหว่าง7 – 14 กนั ยายน 2534
- นายกรัฐมนตรี (พล.อ.ชวลิต ยงใจยทุ ธ) เยอื นบรูไนเมื่อ 19-20 มีนาคม 2540
- สมเดจ็ พระราชาธิบดีเสดจ็ ฯ เยือนไทยอยา่ งเป็นทางการในลกั ษณะ Working Visit เมื่อปี 2541
- รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการต่างประเทศ (ดร.สุรินทร์ พศิ สุวรรณ) เยือนบรูไน เมอื่ 4-6 พฤษภาคม 2541
- สมเดจ็ พระราชาธิบดีเสดจ็ ฯ เยอื นไทยอยา่ งเป็นทางการ ระหวา่ ง 11-12 กมุ ภาพนั ธ์ 2543 เพื่อร่วมประชุม
ASEAN-UN Summit ซ่ึงจดั ข้ึนระหวา่ งการประชมุ UNCTAD X
- มกุฎราชกมุ ารบรูไนเสดจ็ ฯ เยอื นไทยอยา่ งเป็นทางการในฐานะพระอาคนั ตกุ ะของรัฐบาลไทย ระหวา่ ง 21-25
พฤษภาคม 2543
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศบรูไนเสดจ็ ฯ เยอื นไทยระหวา่ ง 23-26กรกฎาคม 2543 เพอ่ื ร่วม
ประชุม AMM/PMC คร้ังที่ 33
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการตา่ งประเทศเดินทางเยอื นบรูไนระหวา่ ง 14-15 กรกฎาคม 2544 เพอ่ื เป็นผแู้ ทน
รัฐบาลไทยเขา้ ร่วมพระราชพธิ ีฉลองวนั คลา้ ยวนั พระราชสมภพของ สมเดจ็ พระราชาธิบดีแห่งบรูไน
- นายกรัฐมนตรีเดนิ ทางเยือนบรูไนอยา่ งเป็นทางการระหว่าง 16-17 สิงหาคม 2544
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศบรูไนเสดจ็ ฯ เยอื นไทยเพอ่ื เขา้ ร่วมการประชมุ รัฐมนตรีวา่ การ
กระทรวงการตา่ งประเทศอาเซียน อยา่ งไมเ่ ป็นทางการ (ASEAN Foreign Minister Retreat) ระหว่าง 20 – 21
กมุ ภาพนั ธ์ 2545 ท่ีจงั หวดั ภูเก็ต
- สมเดจ็ พระราชาธิบดี สมเดจ็ พระราชินี และพระมเหสี แห่งบรูไนเสดจ็ ฯ เยอื นไทยในฐานะพระราชอาคนั ตกุ ะ
ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และสมเดจ็ พระ นางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ ระหวา่ ง 26 – 28 สิงหาคม 2545
- รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการตา่ งประเทศบรูไนเยือนไทยระหวา่ ง 30-31 มีนาคม 2546 เพื่อเขา้ ร่วมการประชุม
คณะกรรมาธิการร่วมว่าดว้ ยความร่วมมือทวิภาคีระหว่าง ไทยกบั บรูไนดารุสซาลาม คร้ังที่ 1 ซ่ึงไทยเป็นเจา้ ภาพ
ที่กรุงเทพฯ
- สมเดจ็ พระราชาธิบดีเสดจ็ ฯ เยอื นไทยเมื่อ 29 เมษายน 2546 เพอ่ื เขา้ ร่วมการประชุมผนู้ าอาเซียน และผนู้ า
อาเซียน-จีน สมยั พเิ ศษ วา่ ดว้ ยโรคทางเดนิ หายใจเฉียบพลนั รุนแรง (SARS) ซ่ึงไทยเป็นเจา้ ภาพที่กรุงเทพฯ
- รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการต่างประเทศ (ดร.สุรเกียรต์ิ เสถียรไทย) เดินทางเยือน
บรูไนระหวา่ ง 14-16 กรกฎาคม 2546 เพ่ือเขา้ ร่วมพระราชพิธีฉลองวนั คลา้ ยวนั พระราชสมภพของสมเดจ็
พระราชาธิบดีแห่งบรูไน
- การเยอื นบรูไนดารุสซาลามของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีเพอื่ เป็น Keynote Speaker ของการประชุม General
Meeting คร้ังท่ี 15 ของสภาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในแปซิฟิ ก (Pacific Economic Cooperation Council :
PECC) ในวนั ท่ี 3 กนั ยายน 2546
- สมเดจ็ พระราชาธิบดีแห่งเสดจ็ ฯ เยือนไทยระหวา่ ง 20 – 21 ตลุ าคม 2546 เพือ่ เขา้ ร่วมการประชุมผนู้ าเศรษฐกิจ
เอเปคคร้ังที่ 11
การทหาร
-ไทย และบรูไนมีทศั นะทางดา้ นการทหารและความมนั่ คงท่ีสอดคลอ้ งกนั และมกี ารแลกเปล่ียนการเยือน
ระหว่างผนู้ าระดบั สูงของกองทพั ของท้งั สองประเทศ อยา่ งสม่าเสมอ โดยโดยพลเรือเอก ทวีศกั ด์ิ โสมาภา ผู้
บญั ชาการทหารเรือและคณะนายทหารระดบั สูงไดเ้ ดินทางเยอื นบรูไนอยา่ งเป็นทาง การระหวา่ ง 24 – 25
เมษายน 2546 พล.อ.สมทตั อตั ตะนนั ทน์ ผูบ้ ญั ชาการทหารบกเยือนบรูไนอยา่ งเป็นทางการระหวา่ ง 3 – 4
มิถนุ ายน 2546 พลเอกสุรยทุ ธ์ จุลานนท์ ผบู้ ญั ชาการทหารสูงสุดและ พลโทอรพฒั น์ สุกไสวเจา้ กรมขา่ วทหาร
เยอื นบรูไนระหวา่ ง 22 – 25 สิงหาคม 2546 เพื่อเขา้ ร่วมการประชุม ASEAN Chiefs of Defence Forces and
Military Intelligence Informal Meeting พลเรือเอกชุมพล ปัจจุสานนท์ ผบู้ ญั ชาการทหารเรือ เยอื นบรูไนระหวา่ ง
28 – 30 มกราคม 2547 นอกจากน้ี ผูบ้ ญั ชาการทหารเรือยงั มีกาหนดเยอื นไทยระหวา่ ง 24 – 27 กมุ ภาพนั ธ์ 2547
- บรูไนส่งนายทหารจานวน 5 นายร่วมสงั เกตการณ์การฝึ กซอ้ มรบ Cobra Gold 02 ท่ีประเทศไทยระหวา่ ง 17-24
พฤษภาคม 2545
การคา้
- การคา้ ระหวา่ งไทยกบั บรูไนในแต่ละปี ขยายตวั ไมม่ ากนกั ในระยะ 5 ปี ท่ีผา่ นมา (2542 – 2546) การคา้ ระหวา่ ง
ไทย-บรูไนมีมูลค่าเฉลย่ี ปี ละ 424.95 ลา้ นดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยเป็นฝ่ ายเสียเปรียบดลุ การคา้ มาตลอด เนื่องจาก
สินคา้ ที่ไทยนาเขา้ จากบรูไนส่วนใหญ่ คือ น้ามนั และผลิตภณั ฑป์ ิ โตรเลยี ม ซ่ึงมมี ูลค่ากวา่ สินคา้ ออกของไทยที่
เป็นสินคา้ เกษตร
- การขาดดุลการคา้ ของไทยตอ่ บรูไนจะมากหรือนอ้ ยข้ึนกบั ความตอ้ งการนาเขา้ น้ามนั ดบิ จากบรูไนของไทย
อาทิ
- ในปี 2545 ไทยกบั บรูไนมีมลู ค่าการคา้ รวม 490.06 ลา้ นดอลลาร์สหรัฐโดยไทยนาเขา้ จากบรูไนเป็นมลู ค่า
450.08 ลา้ นดอลลาร์สหรัฐ และส่งออกไปบรูไนเป็นมลู คา่ 39.97 ลา้ นดอลลาร์สหรัฐ ไทยขาดดลุ การคา้ 410.1
ลา้ นดอลลาร์สหรัฐ
- ปี 2546 ไทยกบั บรูไนมีมลู คา่ การคา้ รวม 361.96 ลา้ นดอลลาร์สหรัฐ (ลดลงร้อยละ 26.13) โดยไทยนาเขา้ จาก
บรูไนมูลค่า 319.86 ลา้ นดอลลาร์สหรัฐ (ลดลงร้อยละ28.93 โดยร้อยละ 99.65 ไดแ้ ก่น้ามนั ดิบ (ลดลงร้อยละ
29.12 จากปี 2545) และส่งออกไปบรูไนมลู คา่ 42.11 ลา้ นดอลลาร์สหรัฐ (เพมิ่ ข้ึนรอ้ ยละ 5.54 จากปี 2545) ไทย
ขาดดลุ การคา้ รวม 277.75 ลา้ นดอลลาร์สหรัฐ (ขาดดุลลดลงรอ้ ยละ 32.29)
- สินคา้ ท่ีบรูไนส่งมาไทย ไดแ้ ก่ น้ามนั ดิบ สินแร่และโลหะ หนงั ดิบและหนงั ฟอก เคร่ืองใชด้ า้ นวิทยาศาสตร์
การแพทย์ และรถยนต์
- สินคา้ ออกท่ีไทยส่งออกไปบรูไนประกอบดว้ ย ขา้ ว รถยนต์ อปุ กรณ์และส่วนประกอบ ปนู ซีเมนต์ ผลิตภณั ฑ์
เซรามิก และผลิตภณั ฑพ์ ลาสติก
การลงทุน
- ไทยและบรูไนไดม้ กี ารลงนามในบนั ทึกความเขา้ ใจ 3 ฉบบั ในวนั ที่ 27 สิงหาคม 2545 ระหวา่ งการเสดจ็ ฯ
เยือนไทยอยา่ งเป็นทางการในฐานะพระราชอาคนั ตกุ ะของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่ หวั และสมเดจ็ พระนางเจา้
ฯ พระบรมราชินีนาถระหวา่ ง 26 – 28 สิงหาคม 2545 ไดแ้ ก่
1.Memorandum of Understanding between the Brunei Investment Agency and the Government Pension Fund
of Thailand
2.Memorandum of Understanding between the Government of His Majesty the Sultan and Yang di-Pertuan of
Brunei Darussalam and Chia Meng Group
3.Memorandum of Understanding between the Brunei Investment Agency and the Biz Dimesion Co. Ltd.
- เมื่อ 16 มกราคม 2546 Brunei Investment Agency (BIA) และกองทนุ บาเหน็จบานาญขา้ ราชการ (กบข) ไดร้ ่วม
ลงนามในสญั ญาจดั ต้งั กองทนุ ร่วมลงทุน (Matching Fund) ในชื่อกองทุนไทยทวีทุน (Thailand Prosperity Fund
– TPF) โดยมีวงเงิน 200 ลา้ นดอลลาร์สหรัฐ และสามารถเพ่ิมวงเงินไดไ้ มเ่ กิน 500 ลา้ นดอลลาร์สหรฐั ท้งั น้ี
กบข. ลงทนุ ประมาณ 66 ลา้ นดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 33 ของวงเงินท้งั หมด และ BIA ลงทนุ ประมาณ 134
ดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 67 ของวงเงินท้งั หมด
- กองทุนไทยทวีทนุ มรี ะยะเวลาลงทนุ 8 ปี และต่ออายไุ ดอ้ กี 2 ปี มีวตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ ดาเนินการลงทนุ ท้งั ในและ
นอกตลาดหลกั ทรัพย์ โดยเฉพาะหลกั ทรัพยท์ ี่จดทะเบียนในตลาดหลกั ทรัพย์ และเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจง
(Private Placement) รวมท้งั หลกั ทรัพยท์ ี่มีแผนจะเขา้ จดทะเบียนในตลาดหลกั ทรัพย์ ท้งั บริษทั เอกชนและ
รัฐวิสาหกิจที่กาลงั จะแปรรูป ท้งั น้ี กองทุนไทยทวีทนุ ไดแ้ ต่งต้งั บริษทั หลกั ทรัพยจ์ ดั การกองทุนรวม ING
(ประเทศไทย) จากดั เป็นผจู้ ดั การกองทุน
- นอกจากน้นั BIA และ กบข. ยงั ไดร้ ่วมลงทุน (joint venture) จดั ต้งั บริษทั Thai Prosperity Advisory Company
Limited (TPA) เพอื่ เป็นบริษทั ที่ปรึกษาทางเทคนิคใหก้ บั กองทุนไทยทวีทุน โดย กบข. และBIA มีสดั ส่วนการ
ลงทนุ ร้อยละ 59 และ 41 ตามลาดบั กองทนุ ไทยทวีทุนไดเ้ ปิ ดดาเนินการอยา่ งเป็นทางการเม่ือ 18 มีนาคม 2546
และไดเ้ ขา้ ร่วมทนุ กบั ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยโดยถือหุน้ ร้อยละ 15 คิดเป็นจานวนเงินประมาณ 2.5 ลา้ น
ดอลลาร์สหรัฐ (104.53 ลา้ นบาท) รวมท้งั ร่วมทนุ กบั บริษทั ควอลิต้ีเฮา้ ส์ จากดั (มหาชน) คิดเป็นจานวนเงิน
ประมาณ 19 ลา้ นดอลลาร์สหรัฐ (780 ลา้ นบาท) รวมมลู ค่าการลงทนุ ของกองทนุ ท้งั ส้ินประมาณ 21.5 ลา้ น
ดอลลาร์สหรัฐ (885 ลา้ นบาท) ท้งั น้ี กองทนุ ยงั คงอยรู่ ะหวา่ งการจดั หาบริษทั อ่ืน ๆ เพอื่ เขา้ ร่วมลงทนุ เพ่ิมเติม
สืบเนื่องจากการหารือทวิภาคีระหวา่ งสมเดจ็ พระราชาธิบดีและนายกรัฐมนตรีระหว่างการเสดจ็ ฯ เยอื นของ
สมเดจ็ พระราชาธิบดีระหว่าง 26 – 28 สิงหาคม 2545 ธนาคารอิสลามแห่งบรูไน (Islamic Bank of Brunei
Berhad : IBB) ไดต้ กลงร่วมลงทนุ ในธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยตามขอ้ เสนอของไทย โดยถือหุน้ เป็น
สดั ส่วนรอ้ ยละ 15 ของจานวนหุน้ ท้งั หมด คิดเป็นเงินท้งั สิ้น 104.53 ลา้ นบาท นอกจากน้ี กองทุนไทยทวีทุนถอื
หุน้ อีกรอ้ ยละ 15 เช่นกนั ขณะน้ี ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยไดเ้ ปิ ดดาเนินการแลว้ เม่ือ 12 มิถุนายน 2546
และมีพิธีเปิ ดอยา่ งเป็นทางการโดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเม่ือ 18 สิงหาคม 2546
การทอ่ งเที่ยว
- ระหวา่ ง 2540 – 2545 จานวนนกั ทอ่ งเที่ยวบรูไนมีอตั ราการขยายตวั เฉลี่ยเพม่ิ ข้ึน ร้อยละ 18.35 ระหว่าง
มกราคม – พฤศจิกายนของปี 2546 มีนกั ทอ่ งเทีย่ วจากบรูไนเดินทางมายงั ไทยจานวน 15,392 คน เพม่ิ ข้ึนจาก
ช่วงเดียวกนั ของปี 2545 ร้อยละ 24.48 โดยในจานวนน้ี มีนกั ทอ่ งเท่ียวชาวบรูไนเดินทางมาไทยจานวน 7,123
คน ลดลงจากชว่ งเดยี วกนั ของปี 2545 ร้อยละ 20.13 ท้งั น้ี แมว้ ่านกั ทอ่ งเทย่ี วบรูไนจะเดินทางมาทอ่ งเที่ยวในไทย
จานวนไมม่ ากนกั แตก่ ็เป็นตลาดท่ีสร้างมูลคา่ การใชจ้ ่ายสูงและยงั มีศกั ยภาพท่ีสามารถผลกั ดนั ตอ่ ไปได้ ในส่วน
ของนกั ท่องเท่ียวชาวไทยท่ีเดินทางไปบรูไนน้นั ระหว่างมกราคม – พฤศจิกายนของปี 2546 มีจานวนท้งั ส้ิน
10,205 คน ลดลงจากช่วงเดียวกนั ของปี 2546 ร้อยละ 2.62 โดยมีส่วนแบง่ การตลาดคิดเป็นร้อยละ 0.56
แรงงาน
- ปัจจุบนั มีแรงงานไทยในบรูไนประมาณ 16,080 คน(ขอ้ มลู ณ มีนาคม 2546) ส่วนใหญ่เป็นแรงงานไร้ฝี มือ
ทางานในกิจการกอ่ สร้าง อุตสาหกรรมตดั เยบ็ เส้ือผา้ สาเร็จรูปเพ่อื การส่งออก นอกน้นั ทางานในภาคธุรกิจบริการ
เช่น หา้ งสรรพสินคา้ ร้านอาหาร การตกแตง่ ดแู ลดอกไมป้ ระดบั ในวงั และสถานท่ีสาคญั ช่างซ่อม และงานใน
ภาคเกษตรกรรม แรงงานไทยส่วนใหญไ่ ดร้ ับการตอ้ นรับอยา่ งดีจากนกั ธุรกิจในบรูไนเพราะมคี วาม ซ่ือสตั ย์
อดทน ขยนั หมน่ั เพียร และมีความรับผิดชอบแมจ้ ะดอ้ ยในเรื่องภาษา อยา่ งไรก็ดี ก็ยงั มีปัญหาอยบู่ า้ ง โดยส่วน
ใหญ่เป็นเร่ือง ความขดั แยง้ ระหว่างนายจา้ งกบั ลกู จา้ ง เช่น อตั ราค่าจา้ งที่ไม่สอดคลอ้ งกบั ความสามารถในการ
ทางานและการขาดความรู้และความ เขา้ ใจตอ่ กฎระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของสญั ญาจา้ ง
สงั คมและวฒั นธรรม
ดา้ นวฒั นธรรม
- ที่ประชุมคณะกรรมาธิการร่วมวา่ ดว้ ยความร่วมมือทวิภาคีระหวา่ งประเทศไทยกบั บรูไนดารุสซาลาม คร้งั ที่ 1
ท่ีกรุงเทพฯ ระหว่าง 30-31 มีนาคม 2546 ซ่ึงมีรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการต่างประเทศท้งั สองฝ่ ายเป็นหวั หนา้
คณะผแู้ ทน เห็นพอ้ งในการขยายความร่วมมือทางดา้ นวฒั นธรรม นอกจากน้ีในโอกาสฉลองความสมั พนั ธ์
ครบรอบ 20 ปี ของการสถาปนาความสมั พนั ธท์ างการทูตไทย – บรูไน สถานเอกอคั รราชทูต ณ บนั ดาร์เสรีเบกา
วนั ไดร้ ่วมมอื กบั กระทรวงการตา่ งประเทศ กระทรวงวฒั นธรรมและการกีฬาบรูไน จดั กิจกรรม Thailand
Festival 2003 โดยมีการแลกเปลี่ยนศิลปวฒั นธรรม นาคณะนาฏศิลป์ และนกั ดนตรี ไปแสดงวฒั นธรรมท่ีบรูไน
ระหวา่ ง 23 – 26 พฤษภาคม 2546
ด้านวชิ าการ
- ระหวา่ งปี 2537-2542 ไทยเคยใหท้ นุ ฝึ กอบรมระยะส้นั ในรูปของทนุ ฝึ กอบรมนานาชาติ (Annual International
Training Course Programme – AITC) แก่ฝ่ ายบรูไน ในสาขาวชิ าการต่างๆ อาทิ การเกษตร สาธารณสุข การ
สื่อสารและการขนส่ง โดยระหว่างปี 2537-2541 ฝ่ ายบรูไนรับทนุ ดงั กล่าวจานวน 16 ทนุ และในปี 2542 ฝ่ าย
บรูไนไมส่ ่งผสู้ มคั ร ฝ่ ายไทยจึงมิไดเ้ วียนทนุ ดงั กลา่ วใหฝ้ ่ ายบรูไนพจิ ารณาต้งั แต่ปี 2543-ปัจจุบนั ในทางกลบั กนั
ฝ่ ายบรูไนใหท้ นุ การศึกษาแก่ฝ่ ายไทยเพอ่ื ศึกษาดา้ นการจดั การ พยาบาล และการศาสนา ทม่ี หาวิทยาลยั บรูไน
ปัจจุบนั มีนกั ศึกษาไทยภายใตท้ ุนดงั กล่าวจานวน 25 คน
ดา้ นขอ้ มลู ขา่ วสาร
- ระหว่างการเดินทางเยอื นบรูไนอยา่ งเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี เมื่อ 16 สิงหาคม 2544 รัฐมนตรีวา่ การ
กระทรวงการตา่ งประเทศไทยและบรูไนไดร้ ่วมลงนามในบนั ทึกความ เขา้ ใจวา่ ดว้ ยความร่วมมอื ทวิภาคีดา้ น
สารสนเทศ และการกระจายเสียงและภาพระหวา่ งไทย – บรูไน (Memorandum of Understanding between the
Government of His Majesty the Sultan and Yang Di-Pertuan of Brunei Darussalam and the Government of the
Kingdom of Thailand on Cooperation in the Field of Information and Broadcasting) เพื่อเป็นการส่งเสริมให้
เกิดความร่วมมือดา้ นขอ้ มูลข่าวสารและประชาสมั พนั ธ์ การแลกเปล่ียนรายการวิทยุ โทรทศั น์และสื่อสิ่งพิมพท์ ่ีมี
สาระ ตลอดจนการแลกเปล่ียนขอ้ มลู ขา่ วสารอนั จะส่งผลใหเ้ กิดความเขา้ ใจอนั ดีระหวา่ ง ประชาชนของท้งั สอง
ประเทศ ปัจจุบนั น้ี ไดม้ ีการดาเนินโครงการภายใตบ้ นั ทึกความเขา้ ใจดงั กล่าวแลว้ โดยมกี ารจดั ประชุม
คณะกรรมการร่วมดา้ นเทคนิคไทย-บรูไน คร้ังที่ 1 (Joint Technical Committee on Information and
Broadcasting ) ระหวา่ งวนั ที่ 13 – 15 พฤษภาคม 2545 ณ กรุงเทพฯ และ คร้ังที่ 2 ระหวา่ ง 7 – 9สิงหาคม 2546 ณ
บนั ดาร์เสรีเบกาวนั นอกจากน้ี เม่ือ 8 สิงหาคม 2546 ไดม้ ีการจดั โครงการจดั แสดงดนตรีทางวิทยแุ ละโทรทศั น์
โดยกรมประชาสมั พนั ธน์ าคณะศิลปิ นซ่ึงประกอบดว้ ยวงดนตรีไทยและวงดนตรีสากล นกั ร้องและนกั แสดงจาก
กรมศิลปากร ไปแสดงดนตรีร่วมกบั ศิลปิ นบรูไน ณ Jerudong Amphitheatre บนั ดาร์เสรีเบกาวนั โดยเปิ ดโอกาส
ใหป้ ระชาชนทวั่ ไปเขา้ ชมและถา่ ยทอดสดทางสถานีวิทยแุ ละโทรทศั น์ บรูไน พร้อมท้งั บนั ทึกเทปโทรทศั น์เพือ่
ออกอากาศทางสทท. 11