ความหมายและความสาคัญของวฒั นธรรมในองค์กร
วฒั นธรรมองคกรเป็นวิถีชวี ติ ท่ีคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งยึดถอื ปฏบิ ัติสบื ต่อกันมา ซึ่งจะกลายเป็นนิสัยและ ความเคยชิน์และกลายเป็นขนบธรรมเนียม
ประเพณ์ี วถิ ีประพฤตปิ ฏบิ ัติ์ความเชอ่ื ์คา่ นยิ ม์รวมท้ังภาษาวัตถุ สงิ่ ของตา่ งๆ วัฒนธรรมทาให้คนรวมตัวกันเป็นสังคม มีการอยรู่ ว่ มกันอย่างมีระเบยี บ ผลของ
วฒั นธรรมจะ ออกมาในรปู จรยิ ธรรม ตลอดจนคา่ นยิ มทใ่ี ช้ในการตัดสินใจหรือวินจิ ฉัยส่ังการจริยธรรมองคการถือเปน็ ส่วน สาคัญที่จะทาให้การดาเนนิ งานของ
องคการก้าวหน้าและส่งผลให้องคการได้รับความเช่อื ถอื จากสงั คม ดังน้นั องคการทุกประเภทจึงจาเปน็ อย่างยิ่งท่ีจะต้องนาจริยธรรมมาใช้ในการบรหิ ารและ
แก้ไขปัญหาองคการอย่างถกู วิธีเพื่อให้ไดร้ บั ความเชอ่ื ถือ ภาพพจนท่ีดี อนั นามาซง่ึ ช่ือเสยี ง เกยี รตยิ ศและความก้าวหนา้ ในระยะยาวของ องคกร
ในองคกรทง้ั หลายซ่ึงเกดิ จากการรวมกลุ่มของคนอย่างมรี ะเบยี บน้นั ถ้าเรามองทป่ี ัจเจกบคุ คลจะเหน็ ว่า์บุคคลจะกระทาการไปสู่เปา้ หมายใด์
ๆ ได้นั้น์เขาอาศัยศนู ยรวมของใจหรอื จิตใจเป็นตัวนาดงั ท่ีมักกล่าวกัน วา่ “สาเร็จดว้ ยใจ” เม่อื ปจั เจกบคุ คลมารวมกันในองคกรมีจิตใจมากมายแตกต่างกันไป
ส่ิงทจ่ี ะผกู ความ แตกตา่ งของจิตใจเหล่านใ้ี ห้อยู่ดว้ ยกันไดแ้ ละทางานไปในทิศทางเดียวกันได้ หรือมีคา่ นิยมในเร่อื งต่าง ๆ โดยเฉพาะค่านิยมท่ีเกี่ยวกบั งานในหน่วยงาน
ทตี่ นเองมวี ิถชี ีวิตอยู่สอดคล้องกนั ได้์ส่งิ ์ๆ์นัน้ ก็คือ์“วฒั นธรรม” ในองคกร์การศึกษาวฒั นธรรมในองคกรได้รบั ความสนใจมากขึ้นในปัจจุบัน์เมือ่ การ
เปล่ยี นแปลงของสงั คมมี ผลกระทบต่อองคกร โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยี เทคโนโลยีสามารถทาให้งานง่ายขนึ้ และทาให้การทางานใน ยคุ ข้อมูลข่าวสารหรอื ยุค
โลกาภิวฒั น์สามารถจัดขนาดองคกรใหเ้ ล็กลง มกี ารกระจายอานาจออกไปให้บรกิ าร อยา่ งกวา้ งขวางเฉพาะพ้นื์ ที่ เฉพาะราย เฉพาะด้าน จนกลุ่มคนเหล์่าน้ีมี
เปา้ หมายเฉพาะของกลมุ่
โรงเรียนเป็นองคการหน่ึงในสังคม ทุกโรงเรียนมีวัฒนธรรมทีเ่ ป็นลกั ษณะเฉพาะของตนเอง และ วฒั นธรรมโรงเรียนยังเป็นพ้ืนฐานสาหรับการปรับปรงุ
พัฒนาโรงเรยี นให้เกิดผลสาเร็จ วัฒนธรรมโรงเรียนใน ทางบวกจึงมีอ์ิทธพิ ลต่อผลส์มั ฤทธ์ิทางสงั คมและทางวิชาการของนั์กเรียน
วฒั นธรรมองคกรโรงเรยี นบ้านเมก็ ดา
โรงเรียนบ้านเม็กดา์ได้กาหนดวฒั นธรรมองคกร์คอื ์สุภาพอ่อนน้อม์ยมิ้ ไหว้ทักทายกันบนพ้นื ฐาน ว์ถิ ีไทย คา่ นิยมองคกร คอื RS.B. ( R :
Responsibility = ความรับผ์ิดชอบต่อสังคม S : Success =ความสาเร็จ์และ์B : Believe =ความเชื่อมั่นในการบรหิ ารจดั การ์) นอกจากนี้์ยังจัดกิจกรรม
สมั มนาเพ่อื เปดิ กว้างในการ รับความคดิ เห็นของบคุ ลากรเพอื่ นนามาปรบั ปรุงและ พฒั นาองคกร มีการนิเทศจากหัวหนา้ ฝา่ ยงาน ให้ขวญั และกาลังใจแก่
บุคลากรอย่างสม่าเสมอ ส่งเสริมการทางานเป็นทมี และเรยี นรู้วฒั นธรรมองคกร สง่ เสรมิ พฒั นา ครูให้มคี วามรคู้ วามสามารถ และปฏบิ ตั ิตามจรรยาบรรณ
วิชาชีพครูตลอดจนเชิญบคุ คลท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องกบั โรงเรียน เช่น์ ผปู้ กครอง ศษิ ยเก่า และชุมชนในท้องถิน่ ให้มีส่วนร่วมในการดาเนินงาน โดยมกี ารทบทวน
ความ์เหมาะสม และความต้องการตามที่โรงเรยี นได้กาหนดไว้ในวสิ ัยทศั นและพันธกิจของโรงเรียน
รปู แบบของวฒั นธรรมองค์กร
โรงเรียนได้มีการเสริมสร้างวัฒนธรรมองคกรเพื่อเป็นการค่านิยมท่ีดีงาม และกาหนดสู่คนรุ่นใหม่อย่างยั่งยืนสอดคล้องกับวิสัยทัศน พันธกิจ
เปา้ ประสงคของโรงเรียน โดยมีการสง่ เสริมสรา้ งวัฒนธรรมองคกรด้วย การสอ่ื สารในวงกว้างส่งผลใหเ้ กิดการดาเนนิ งานที่ดีตอ่ เนื่องบุคลากรมคี วามผูกพันกับ
โรงเรียนและทาใหเ้ กิด การรว่ มม์อื ในการปฏบิ์ ัติ์อย่างมีประสิทธิภ์ าพ วั์ฒนธรรมองคกรของโรงเรยี นถ่ายทอดและถื์อปฏบิ์ ัติกันมา์ได้แก่
1) การบรหิ ารแบบมีสว่ นรว่ มโดยกาหนดการประชุมฝา่ ยบรหิ ารคณะกรรมการบรหิ ารกลุ่มตา่ ง ๆ
เพ่อื รับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะในการดาเนินงานต่าง ๆ เพ่ือนามาสูก่ ารพฒั นาโรงเรยี น
2) การส่ือสารทเี่ ป็นรูปแบบเป็์นทางการและไม่เป็นทางการ เช์่น การสรา้ ง Line Group ของโรงเรยี น
เผอ ส่งขา่ ว เปิดโอกาสในการสื่อสาร แสดงความคิด์ เหน็ ของบุคลากรในโรงเรียนให้์มปี ระสิทธ์ิภาพ รวดเร็ว
3) ผูบ้ ังคบั บญั ชารับฟังความคิดเห็นของผู้ใต้บงั คับบญั ชาด้วยกัลยาณมิตร
4) ทางานแบบพสี่ อนนอ้ ง
5) อัตลกั ษณของครโู รงเรียนบา้ นเม็กดา มีความรบั ผดิ ชอบ มีความตงั้ ใจท่ีจะทางานและติดตาม
ผลงานท่ีได้กระทา สุภาพอ่์อนน้อม การยิ้์มไหวท์้ ัก์ ทายกันระหว์า่ งบุคลากรทั้งครู และนั์กเรียน
6) ธรรมเนียมปฏบิ ตั์ ขิ องบุคลากรโรงเรียนวดั์ บางกอบัว
- แตง่ กายชดุ เครื่องแบบข้าราชการทุกวันจนั ทร
- แตง่ กายชุดผ้าไทยทุกวันอังคารและวันศุกร
- แตง่ กายชุดลูกเสอื ทุกวนั พุธ และรว่ มกนั ทากิจกรรมสวดมนต ไหว้พระในตอนเชา้
- แต่งกายสุ์ภาพเรียบร้์อยเหมาะสมกับความเป็นครูและกาลเทศะ
- การทาบญุ ตกั บาตรทกุ ๆ กจิ กรรมวันสาคัญทางพระพุทธศาสนา
การเสรมิ สรา้ งวฒั นธรรมองคกร
กจิ กรรมวนั สาคญั ตา่ ง ๆ
โรงเรยี นบา้ นเมก็ ดา
สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษามหาสารคาม์เขต 2
การเสรมิ สรา้ งวฒั นธรรมองคกร
กจิ กรรมวนั สาคญั ตา่ ง ๆ
โรงเรยี นบา้ นเมก็ ดา
สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษามหาสารคาม์เขต 2
การเสรมิ สรา้ งวฒั นธรรมองคกร
กจิ กรรมวนั สาคญั ตา่ ง ๆ
โรงเรยี นบา้ นเมก็ ดา
สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษามหาสารคาม์เขต 2
การเสรมิ สรา้ งวฒั นธรรมองคกร
กจิ กรรมหนา้ เสาธง
โรงเรยี นบา้ นเมก็ ดา
สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษามหาสารคาม์เขต 2
การเสรมิ สรา้ งวฒั นธรรมองคกร
กจิ กรรมจติ อาสา
โรงเรยี นบา้ นเมก็ ดา
สานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษามหาสารคาม์เขต 2
การเสรมิ สรา้ งวฒั นธรรมองคกร
กจิ กรรมจติ อาสา
โรงเรยี นบา้ นเมก็ ดา
สานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษามหาสารคาม์เขต 2
การเสรมิ สรา้ งวฒั นธรรมองคกร
กจิ กรรมลกู เสอื -เนตรนารี
โรงเรยี นบา้ นเมก็ ดา
สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษามหาสารคาม์เขต 2
การเสรมิ สรา้ งวฒั นธรรมองคกร
กจิ กรรมลกู เสอื -เนตรนารี
โรงเรยี นบา้ นเมก็ ดา
สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษามหาสารคาม์เขต 2
การเสรมิ สรา้ งวฒั นธรรมองคกร
กจิ กรรมลกู เสอื -เนตรนารี
โรงเรยี นบา้ นเมก็ ดา
สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษามหาสารคาม์เขต 2